(4) เรื่องที่คณะกรรมาธิการพิจารณาเสร็จแล้ว 4.3 ผนวก ก ถึง ข(1)

๓๘๖ ประเดน็ ข้อคิดเหน็ และเสนอแนะ ท่ีมาของความเห็น ความคาดหวงั ศูนย์ปฏบิ ตั ิการคดีพิเศษเขต ให้การเมืองเป็นเรื่องของผลประโยชน์ส่วนรวมของชาติ มากกว่าส่วนตน พ้นื ที่ ๕ กรมสอบสวนคดพี ิเศษ ส่วนพรรค หรอื จังหวดั ทต่ี นเป็นผู้แทนหรอื เป็นนายกฯ (แบบสอบถามความคิดเหน็ ) สภาพปัญหา การเมืองในระบบปัจจุบัน เป็นระบบนายทุนรูปแบบบริษัทจากัด มหาชน เป็นยุคกอบโกยมากกว่าให้กบั ประชาชนอย่างเท่าเทียม ท่วั ถึง และเปน็ ธรรม ขอ้ เสนอแนะ ควรแก้ไขกฎหมายเลือกตัง้ และพรรคการเมอื ง เช่น - หากตรวจพบวา่ นกั การเมอื ง ซอ้ื สทิ ธขิ ายเสยี งตอ้ งประหารชีวติ สถานเดียว - พรรคการเมืองเมื่อถูกยุบ ต้องรับผิดชอบร่วมกันต้องเลือกต้ังใหม่สถานเดียว ไมส่ ามารถยา้ ยพรรคได้ - ควรมีการเลือกนายกฯ โดยตรงหรือเปลี่ยนรูปแบบการปกครองมาเป็นระบบ ประธานาธบิ ดอี ันมีพระมหากษตั ริย์ทรงเป็นประมุข ความคาดหวัง กองปฏิบัติการคดีพเิ ศษภาค นักการเมืองที่เข้าไปบริหารจัดการบ้านเมือง มีการทางานอย่างมืออาชีพ ยึดถือ กรมสอบสวนคดีพเิ ศษ ระเบยี บ กฎหมาย ไมค่ วรมีการแบ่งเป็นพรรคเปน็ พวก มีความเป็นกลางอยา่ งแทจ้ ริง (แบบสอบถามความคิดเหน็ ) มีการตรวจสอบการทางานของฝา่ ยรฐั บาลอยา่ งจรงิ จงั สภาพปญั หา นักการเมืองมีการโอ้อวดและสร้างอิทธิพลเพ่ือตนเองไม่ใช่เพ่ือประเทศชาติอย่าง แท้จริง เพื่อการหวังประโยชน์เพื่อส่วนตนไม่ใช่เพ่ือประชาชน ไม่นึกถึงประเทศชาติ และสภาพบา้ นเมือง

๓๘๗ ประเดน็ ขอ้ คดิ เห็นและเสนอแนะ ท่มี าของความเห็น ขอ้ เสนอแนะ เม่ือพบการกระทาความผิดต้องมีการบังคับใช้กฎหมายอย่างเท่าเทียมและเสมอ ภาค เพื่อให้เกิดความสงบร่มเย็นของบ้านเมือง และ เม่ือมีการเลือกตั้งทุกพ้ืนที่ ควรมกี ารดาเนินทางกฎหมายกบั การซื้อขายเสียงอย่างจริงจังและมขี ัน้ ตอนท่ีถูกต้อง ความคาดหวงั กองคดีภาษีอากร กรมสอบสวน ควรเป็นระบบการเมือง และสถาบันการเมือง ที่เป็นที่พึงของประชาชน คดีพเิ ศษ (แบบสอบถามความ เป็นกระบอกเสียงของประชาชน เรียกร้องความเป็นธรรม แก้ไขปัญหาให้ประชาชน คดิ เหน็ ) ท่ไี ด้รบั ความเดือดรอ้ น สภาพปญั หา การทาเพื่อประโยชน์ของพรรคการเมืองของตนเอง รักษาอานาจของตนเอง ตอ่ ยอดทางผลประโยชนข์ องพรรคพวกไมส่ นใจแกไ้ ขปัญหาของประชาชน ขอ้ เสนอแนะ สร้างความรคู้ วามเข้าใจ อานาจการตรวจสอบ ให้กับประชาชนเพื่อใหม้ ีส่วนร่วม ในการแกไ้ ขปญั หาระบบการเมือง และสถาบันการเมอื ง สภาพปญั หา กรมสอบสวนคดีพเิ ศษ (1) - ส.ส. มาจากคะแนนเสยี งจานวนน้อย ไม่ใช่ตัวแทนของประชาชนทแ่ี ท้จริง (แบบสอบถามความคดิ เห็น) - องค์กรตามรัฐธรรมนูญ ทาให้เป็นภาระทางการเมอื ง และสังคม ข้อเสนอแนะ - แบ่งเขตการเลือกตั้งใหม่และกาหนดจานวนคะแนนเสียงต้องไม่น้อยกว่าร้อย ละ ๗๐ ของประชาชน ท้งั หมดในเขต จงึ มสี ิทธเิ ป็น ส.ส. - ยุบเลิกองค์กรตามรัฐธรรมนูญบางองค์กร ที่ไม่ใช่องค์กรตามรัฐธรรมนูญ ตามหลักการทแี่ ทจ้ รงิ

๓๘๘ ประเดน็ ขอ้ คิดเหน็ และเสนอแนะ ทีม่ าของความเห็น ความคาดหวัง กรมสอบสวนคดีพเิ ศษ (2) การมีพรรคการเมืองมาก ย่อมเป็นอุปสรรคในการเป็นรัฐบาล รัฐบาลผสม (แบบสอบถามความคิดเหน็ ) ไม่สามารถนานโยบายของแต่ละพรรคท่ีหาเสียงไว้กับประชาชนไปปฏิบัติให้เกิดเป็น รูปธรรม ซึ่งตามกฎหมายรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน กาหนดให้ ส.ส. ต้องสังกัดพรรค การเมอื ง ซึง่ เป็นสถาบนั การเมอื ง แต่ใหเ้ อกสทิ ธิ์ ส.ส. ในการใชส้ ทิ ธิออกเสยี งในสภา เช่นน้ีทาให้สถาบันการเมืองอ่อนแอ ควรมีพรรคการเมืองน้อยพรรค เพื่อความ เข้มแข็งของสถาบนั การเมือง สภาพปญั หา ระบบการเลือกต้ัง แบบจัดสรรปันส่วน เม่ือผลการเลือกต้ังออกมาจึงกระทบต่อ คะแนน ส.ส.พึงมี กล่าวคือคะแนนของ ส.ส.เขต กับ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ ทาให้มี รัฐบาลหลากหลายพรรคการเมือง ไม่สามารถนานโยบายท่ีเป็นรูปธรรม นาไปทา ประโยชน์ให้กับประชาชนได้อย่างแท้จริง ส.ส.ในปัจจุบันมีเอกสิทธิ์ในการโหวตใน สภาผู้แทนราษฎร โดยไม่จาเป็นต้องทาตามมติพรรค ทาให้สถาบันการเมืองไม่เข็ม แขง็ ข้อเสนอแนะ ประเทศไทยควรมีพรรคการเมืองน้อยพรรค ท้ังนี้เพ่ือนานโยบายที่ได้หาเสียงไว้ กับประชาชนมากาหนดเป็นนโยบายของรัฐบาลเพื่อเป็นรูปธรรมในการพัฒนา ประเทศ ความคาดหวัง กรมสอบสวนคดีพิเศษ (3) ระบบการเมืองและสถาบันการเมืองท่ีเข้มแข็ง มีพัฒนาการอย่างต่อเน่ืองเป็น (แบบสอบถามความคิดเหน็ ) ท่ีพึ่งของประชาชนได้มีจริยธรรมทางการเมืองท่ีดี ไม่มุ่งแสวงหาประโยชน์ในทาง ทจุ รติ

๓๘๙ ประเดน็ ขอ้ คิดเหน็ และเสนอแนะ ทม่ี าของความเห็น สภาพปัญหา ระบบการเมืองและสถาบันการเมืองไม่มีความต่อเน่ือง เพราะมีการปฏิวัติเป็น ระยะ ๆ ไม่เคารพกติกา ยึดมนั่ ในตัวบคุ คลโดยไมพ่ ูดถงึ หลกั การที่ควรจะเป็น ความคาดหวัง กรมสอบสวนคดีพเิ ศษ (4) ควรมีการพัฒนาให้มีความเข้มแข็ง เป็นสากล เป็นการเมืองเพื่อประสิทธิภาพ (แบบสอบถามความคดิ เห็น) อย่างแท้จริง คนดี คนเก่ง มีส่วนร่วมในการพัฒนาการเมือง สถาบันการเมือง เพื่อวางรากฐานให้มั่นคง มีเสถียรภาพทั้งด้านการเมือง การปกครอง สังคม และ เศรษฐกิจ เพ่อื มุง่ สู่ประโยชน์สุขของประชาชนสว่ นรวมเป็นสาคัญ ซง่ึ จะเป็นรากฐาน ท่ีม่ันคงในการพฒั นาประเทศชาตอิ ยา่ งยั่งยืนต่อไป สภาพปญั หา ขาดสถาบันการเมืองท่ีเป็นเอกภาพ จึงไม่สามารถกาหนดความเป็นไปทางการ เมืองทุกวันนี้ขึ้นอยู่กับชนช้ันนาฝ่ายใดยึดอานาจได้ ฝ่ายนั้นถึงจะมีอานาจในการ กาหนดความเป็นไปทางการเมืองโดยลาดัง อานาจทางการเมืองผูกขาดท่ีชนช้ันนา ของสังคม ระบบรัฐสภาของสถาบันการเมือง เป็นระบบท่ีขาดประสิทธิภาพ ไม่สามารถทาหน้าท่ีในการตรวจสอบได้ เพราะระบบสภาการเมืองถูกควบคุมโดย ฝา่ ยที่กุมอานาจ มีระบบอุปถมั ภ์ ต่อรองกนั เพ่ือผลประโยชน์ ข้อเสนอแนะ การสร้างสถาบันการเมืองให้เป็นรวมกลุ่มของคนทั้งปวงท่ีเป็นผู้แทนของ ประชาชน ต้องทาลายการผูกขาดอานาจทางการเมืองของชนช้ันของสังคม พรรค การเมืองต้องเป็นตัวแทนผลประโยชน์ของประชาชนไม่ใช่เป็นตัวแทนขยายกลุ่ม ผลประโยชน์ของกลุ่มทุนเป็นหลกั รวมถึงจาเป็นต้องสร้างระบบรัฐสภาของไทยให้มี ระบบท่ีมีประสิทธิภาพ มีเสถียรภาพ เพ่ือผลประโยชน์โดยส่วนรวมของประชาชน และประเทศ

๓๙๐ ประเดน็ ขอ้ คิดเหน็ และเสนอแนะ ท่ีมาของความเหน็ ความคาดหวงั กองบนิ ตารวจ สานกั งานตารวจ - ควรมีระบบเลือกตั้งแบบ Real time แสดงผลได้ชดั เจนและตรวจสอบได้ แห่งชาติ - สถาบนั การเมืองควรแสดงตนเปน็ กลางสามารถให้ประชาชนตรวจสอบได้ (แบบสอบถามความคดิ เห็น) สภาพปัญหา - จากข่าวในโทรทัศน์มีการนับคะแนนเลือกต้ังหรือมีการเลือกตั้งท่ีไม่โปร่งใส ทาให้ต้องเลือกตง้ั ใหม่เสียงบประมาณ - สถาบันการเมอื ง มหี ลายพรรคเกินไปทาใหไ้ ม่เป็นเอกภาพ ขอ้ เสนอแนะ - ควรมีระบบเลือกต้ังให้ทันสมัย สามารถตรวจสอบได้และต้องประหยัด งบประมาณ - สถาบันการเมืองควรดารงตนให้อยู่ในธรรมาภิบาล ควรเป็นเอกภาพไม่ควร แตกแยก เมื่อเข้าประชุมควรพิจารณาวาระท่ีประชาชนเดือดร้อนจริง ๆ ไม่ควรนา เรอ่ื งเล็ก ๆ นอ้ ย ๆ มาอภิปราย ความคาดหวัง กองบัญชี สานกั งานตารวจ ระบบการเมืองและสถาบันการเมืองปราศจากการแทรกแซงจากผู้มีอานาจมี แหง่ ชาติ (แบบสอบถามความ อสิ ระในการทางาน คดิ เหน็ ) สภาพปญั หา ๑. ขาดสถาบันการเมืองอันเป็นท่ีรวมของกลุ่มผลประโยชน์ฝ่ายต่าง ๆ ในการ กาหนดความเป็นไปทางการเมือง ดงั น้ัน จงึ ควรสร้างสถาบนั การเมืองเปน็ ที่รวมของ กลมุ่ ผลประโยชน์ ๒. อานาจทางการเมืองผูกขาดที่ชนช้ันนาของสังคม ดังนั้น จึงควรทาลายการ ผกู ขาดอานาจทางการเมอื ง ๓. ระบบรฐั สภาของไทยเปน็ ระบบขาดประสิทธิภาพ ควรสร้างระบบรัฐสภาของ ไทยให้เปน็ ระบบท่มี ีประสทิ ธภิ าพ

๓๙๑ ประเดน็ ขอ้ คดิ เหน็ และเสนอแนะ ทีม่ าของความเห็น ความคาดหวัง ตารวจภูธรจังหวัดราชบรุ ี ระบบการเมืองควรจัดให้มีการเลือกตั้งโดยให้รัฐบาลเน้นเสียงมาจากประชาชน สานักงานตารวจแหง่ ชาติ โดยแทจ้ รงิ ท้งั ส่วนของ ส.ส. และ ส.ว. (แบบสอบถามความคิดเหน็ ) ขอ้ เสนอแนะ ควรใช่การเลือกต้ัง ส.ว. ระบบเดิม กล่าวคือให้ประชาชนมีสิทธิเลือกตั้งทั้ง ส.ส. และ ส.ว. และไมม่ เี พดานจากัด จานวน ส.ส. ในแต่ละพรรคไม่เปน็ เช่น รัฐธรรมนูญ ปี ๔๐ ความคาดหวัง สถาบนั สง่ เสริมงานสอบสวน ไมค่ วรนาสถาบนั มาผูกโยงหรือใชเ้ ป็นเครอ่ื งมอื ของนกั การเมือง (1) (แบบสอบถามความ สภาพปัญหา คดิ เห็น) รัฐมักใช้อานาจทางการเมือง และนาสถาบันมาเป็นเคร่ืองมือ กีดกันการเมือง ความคิดเหน็ ในฐานะทป่ี ระชาชนเป็นเจา้ ของอานาจอธปิ ไตย ความคาดหวัง สถาบนั ส่งเสริมงานสอบสวน รฐั ควรทาหน้าท่ีด้วยความโปรง่ ใส บรสิ ุทธิ์ ยตุ ิธรรม ปราศจากการแทรกแซงไม่มี (2) (แบบสอบถามความ อคติใด ๆ คิดเห็น) ความคาดหวัง สถาบนั ส่งเสรมิ งานสอบสวน ระบบการเมืองและสถาบันการเมือง ไม่ยึดหลักประชาธิปไตย มีการพิจารณา (3) (แบบสอบถามความ และตีความกฎหมายท่ีไม่ถูกต้อง และเป็นธรรม ใช้กฎหมายเป็นเครื่องมือรักษา คดิ เหน็ ) ผลประโยชน์ฝา่ ยตน และทาลายฝา่ ยตรงขา้ ม สภาพปญั หา ระบบการเมืองและสถาบันการเมือง ในปัจจุบันถูกตั้งข้ึนมาเพื่อรักษา ผลประโยชนผ์ ู้มอี านาจ และถูกใช้เปน็ เคร่ืองมอื ทาลายฝ่ายตรงขา้ ม

๓๙๒ ประเดน็ ข้อคิดเหน็ และเสนอแนะ ทีม่ าของความเห็น ขอ้ เสนอแนะ ระบบการเมืองให้มาจากประชาชนอย่างจริงจัง ยุบหรือยกเลิกสถาบันการเมือง ที่ไม่มคี วามจาเป็น และเป็นปฏปิ กั ษต์ ่อระบบประชาธิปไตย ความคาดหวัง โรงเรียนนายรอ้ ยตารวจ - ควรมีความโปร่งใส ยุติธรรม และอยู่ภายใต้กรอบของกฎหมายอย่างเท่าเทียม (แบบสอบถามความคดิ เห็น) กนั - อยากให้มีความโปร่งใส ตรวจสอบได้ สภาพปัญหา - ยงั มีความขัดแย้งในทางความคิดท่แี ตกตา่ งกัน - ปัญหาการทุจริต คอรัปชัน่ ความคาดหวงั คณะนิตศิ าสตร์ โรงเรยี นนาย การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แบบแบ่งเขตเลือกตั้ง และระบบสัดส่วน รอ้ ยตารวจ (แบบสอบถามความ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายช่ือ โดยยึดหลักว่า “คะแนนเสียงของ คิดเห็น) ประชาชนทุกคะแนน มีความหมายต่อการเลือกต้ัง ให้ความสาคัญต่อผู้สมัคร รับเลือกตั้งและพรรคการเมืองที่ส่งผู้สมัครรับเลือกตั้ง โดยมีระบบการเลือกตั้งแบบ เขตเดียว เบอรเ์ ดยี ว เพื่อให้ประชาชนใช้สทิ ธไิ ด้ง่าย พรรคการเมืองเป็นของประชาชน โดยให้ประชาชนมีสว่ นร่วมในการจัดต้งั พรรค การเมืองต้ังแต่เริ่มแรก โดยกาหนดให้การบริหารและผู้สมัคร และการดาเนิน กิจกรรมอื่น ๆ ของพรรค ต้องให้สมาชิกของพรรคมีส่วนร่วมด้วย เป็นการป้องกันมิ ให้พรรคการเมืองมีลักษณะเป็นธุรกิจการเมือง หรือกลุ่มบุคคลใดอาศัยความ ได้เปรียบทางการเงินมาบงการพรรคแต่เพียงผู้เดียว อีกทั้งป้องกันไม่ให้ บุคคลภายนอกที่มิใช่สมาชิกพรรคกรเมืองมาครอบงา หรือช้ีนากิจการของพรรคได้ มีกฎหมายเลอื กตงั้ ออกมารองรับ

๓๙๓ ประเดน็ ขอ้ คดิ เห็นและเสนอแนะ ท่ีมาของความเห็น การปกครองทอ้ งถ่ิน ต้องเป็นไปตามหลักแห่งการปกครองตนเอง มีความโปรง่ ใส เป็นไปตามเจตนารมณ์ของประชาชน มีการเลือกต้ังสมาชิกสภาท้องถิ่น และ ผู้บริหารท้องถ่ิน มีการบริหารการปกครองทอ้ งถนิ่ ตามระบบคุณธรรม สภาพปญั หา ระบบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นพระประมุข ประชาชนทุกคน ต้องมีส่วนร่วมในทางการเมือง ตรวจสอบการใช้อานาจของรัฐ ใช้สิทธิเลือกต้ัง ออกเสียงแสดงประชามติ โดยอิสระ มีการดาเนินกิจกรรมของพรรคการเมือง ท่ีเปิดเผย ตรวจสอบได้ พรรคการเมืองพัฒนาเป็นสถาบันทางการเมืองของ ประชาชน มีกลไกความรับผิดชอบทางการเมือง กาหนดความรับผิดชอบในการ ดาเนนิ กิจกรรมทางการเมือง คดั เลือกผู้สมัครเขา้ มาเป็นผดู้ ารงตาแหน่งทางการเมอื ง ทชี่ ัดเจน มคี ณุ ธรรม มีกลไกที่กาหนดให้ผู้ดารงตาแหน่งทางการเมืองต้องปฏิบัติหน้าที่ด้วยความ ซ่ือสัตย์สุจริต รับผิดชอบต่อประชาชนมีการแก้ไขปัญหาทางการเมืองโดยสันติตาม ระบอบประชาธปิ ไตยอนั มพี ระมหากษัตริยท์ รงเปน็ ประมขุ ความคาดหวัง ฝ่ายกิจการนักเรียน กองบงั คับ ๑) ระบบเลือกตั้ง โปรง่ ใส สามารถตรวจสอบไดท้ กุ ภาคสว่ น การปกครอง โรงเรยี นนายรอ้ ย ๒) พรรคการเมืองไม่เข้ามาแทรกแซง กระบวกการยุติธรรม ไม่มาเก่ียวข้องกับ ตารวจ (แบบสอบถามความ ฝา่ ยนิติบัญญตั ิ ฝ่ายบรหิ าร ศาล และองค์กรต่าง ๆ ตามรฐั ธรรมนูญ คิดเห็น) ๓) การปกครองท้องถ่ินควรมีความเป็นอิสระในการบริหารไม่ถูกครอบงาจาก ภาคการเมือง สภาพปญั หา ถูกแทรกแซงจากภาคการเมือง กลุ่มการเมือง และนักการเมือง ทาให้รัฐต้อง ปฏิบตั ิตามความต้องการของระบบการเมืองเสียงข้างมาก ไม่สามารถทางานได้อย่าง

๓๙๔ ประเดน็ ข้อคิดเห็นและเสนอแนะ ท่ีมาของความเห็น อิสระ นักการเมืองบางรายสร้างความป่ันป่วนให้รัฐเสียความเป็นเสถียรภาพในการ ตรวจสอบการทางานของภาครัฐถูกกดดนั ทางการเมอื ง ขอ้ เสนอแนะ กาหนดโทษให้หนักสาหรับนักการเมืองที่กระทาผิดวินัย ผิดพฤติกรรม กระทา การให้รัฐเสยี เวลาเสียหาย เชน่ กาหนดโทษไม่ใหย้ ุ่งเก่ียวกับการเมืองเป็นระยะเวลา หน่ึง ไมว่ ่าทางตรงทางอ้อม หน่วยงานอสิระสามารถเข้ามาตรวจสอบเอาผิดได้ ท้ังน้ี เพอื่ ไม่ให้เปน็ เย่ยี งอยา่ งกบั ผสู้ มคั ร นักการเมืองรายอ่นื ๆ ความคาดหวงั กองบังคบั การปกครอง ระบบการเมืองและสถาบันการเมือง ควรมีเป้าประสงค์และการดาเนินการต่าง โรงเรยี นนายร้อยตารวจ ๆ เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อชีวิตและความเป็นอยู่ของประชาชน ในภาพรวม (แบบสอบถามความคิดเหน็ ) ไมใ่ ชแ่ ต่กลุ่มบคุ คลใดบุคคลหนึง่ สภาพปญั หา ความขัดแย้งทางการเมืองในปัจจุบัน ส่งผลกระทบต่อความเช่ือม่ันของระบบ การเมืองและสถาบนั การเมอื ง ข้อเสนอแนะ ปรับปรงุ โครงสร้างระบบการเมืองและสถาบนั ทางการเมืองให้เปน็ ไปตามบรรทัด ฐานสากล และสังคมยอมรบั ความคาดหวัง โรงเรียนนายร้อยตารวจ หาความโปร่งใส ความยุติธรรมไม่ได้เลย ในระบบการเมืองและสถาบนั การเมือง (แบบสอบถามความคดิ เห็น) สภาพปญั หา ความแตกต่างทาใหม้ คี วามแตกแยง้ กันมาก

๓๙๕ ประเดน็ ขอ้ คิดเห็นและเสนอแนะ ทมี่ าของความเห็น ความคาดหวงั ฝ่ายปกครอง ๒ กองบังคบั การ ต้องมาจากความต้องการของประชาชนที่มีแนวคิดและอุดมการณ์ทางการเมือง ปกครอง โรงเรียนนายรอ้ ย ในทศิ ทางเดยี วกัน และพรอ้ มท่จี ะเข้าบริหารประเทศ ตารวจ (แบบสอบถามความ สภาพปัญหา คิดเหน็ ) ๑) ระบบการเมืองกลายเปน็ ส่งิ ที่ประชาชนไมเ่ ขา้ ใจ ไม่เข้าถึง ๒) การบรหิ ารประเทศไมต่ อบสนองความต้องการของประชาชนส่วนใหญ่ ๓) นโยบายประชานยิ มไมค่ วรนามาใช้ ความคาดหวัง คณะนิตวิ ิทยาศาสตร์ โรงเรียน ระบบการเมืองและสถาบันทางการเมืองควรปราศจากการแบ่งฝ่าย มีการ นายร้อยตารวจ (แบบสอบถาม ดาเนินงานโดยยึดถือประโยชน์ของสาธารณะเปน็ ท่ีตั้ง บทบาทของหน่วยงานต่าง ๆ ความคิดเห็น) ดาเนินงานอย่างเปิดเผย มีการตรวจสอบและถ่วงดุลอานาจระหว่างกัน และเปิด โอกาสให้ประชาชนได้เข้าถึงข้อมูลการดาเนินงาน และร่วมแสดงความคิดเห็นได้ อยา่ งสร้างสรรค์ สภาพปญั หา การดาเนินงานท่ีขาดการประสานความร่วมมือระหว่างกันแบบบูรณาการ ทาให้ เกิดการแบ่งฝ่ายและมีการทางานในลักษณะที่ข้ึนอยู่กับนโยบายของหน่วยงาน การ เปิดเผยข้อมูลต่อสาธารณะยังขาดความชัดเจนและการเข้าถึงได้อย่างทั่วถึง รวมถึง ปญั หาทจุ ริตคอรปั ชัน่ และผลประโยชนท์ บั ซ้อนที่ยังไมส่ ามารถแก้ไขใหห้ มดไป ข้อเสนอแนะ ๑) ควรเปิดโอกาสให้มีการก่อตั้งพรรคการเมืองได้มากข้ึนและเงื่อนไขในการยุบ พรรคหรือตรวจสอบ การดาเนนิ การของพรรคการเมืองให้มคี วามเคร่งครัดมากขน้ึ ๒) ควรมีหน่วยงานอิสระอื่น หรือมีคณะกรรมการชุดพิเศษ ทาหน้าท่ีตรวจสอบ คุณภาพของกระบวนการตรวจสอบอีกหน่ึงชั้น โดยอาจมีบทบาทในประเด็น

๓๙๖ ประเดน็ ข้อคดิ เห็นและเสนอแนะ ทมี่ าของความเหน็ ตรวจสอบท่ีสังคมให้ความสนใจเป็นพิเศษหรือเป็นประเด็นที่เกิดผลกระทบในวง กวา้ ง เป็นต้น ความคาดหวัง สปศ. โรงเรียนนายร้อยตารวจ - อยากใหย้ ดึ ความถกู ตอ้ งและรับฟังเสียงประชาชนอยา่ งแทจ้ รงิ (แบบสอบถามความคดิ เหน็ ) - ไมม่ ี ๒ มาตรฐาน ความคาดหวงั โรงเรียนนายรอ้ ยตารวจ ขาดวกิ ฤตศรทั ธา (แบบสอบถามความคดิ เหน็ ) สภาพปญั หา ขาดความเชอ่ื มัน่ ข้อเสนอแนะ กลบั ไปใชร้ ฐั ธรรมนญู ปี ๔๐ ท่ีมาจากประชาชนชาวไทย ความคาดหวงั กองตรวจสอบเลขทะเบยี น ควรเป็นสถาบันทส่ี ะท้อนปญั หาของประชาชนไปยังรัฐบาล ประวัติ สานักงาน สภาพปญั หา คณะกรรมการข้าราชการ ยังมีปัญหาการจัดการเลือกตง้ั ทไ่ี ม่เป็นธรรม ตารวจ (แบบสอบถามความ ขอ้ เสนอแนะ คดิ เห็น) ควรสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนผู้เป็นเจ้าของอานาจอธิปไตย โดยการทา หน้าทีข่ อง ก.ก.ต. ดว้ ยความเป็นธรรม

๓๙๗ ประเดน็ ข้อคิดเห็นและเสนอแนะ ทม่ี าของความเห็น ความคาดหวงั กองบังคบั การตารวจทางหลวง ๑) ไม่ควรมีกฎหมายที่กาหนดให้ยบุ พรรคการเมือง (แบบสอบถามความคิดเหน็ ) ๒) ปรับปรุงระบบการเลือกต้ังท่ีเอื้อประโยชน์ต่อกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง และไม่เป็น การสะทอ้ นเจตนารมณ์ของผูเ้ ลือกตั้งโดยแท้จรงิ ๓) ให้องค์กรปกครองส่วนท้องถ่ิน มีอานาจตัดสินใจ มิใหส้ ่วนกลางมาแทรกแซง ให้อานาจและหนา้ ทโ่ี ดยเด็ดขาด ๔) ให้อิสระต่อตุลาการโดยปราศจากการแทรกแซงของฝ่ายบริหารและนิติ บัญญัติ สภาพปัญหา ๑) ระบบการเมือง และสถาบันการเมืองอ่อนแอ เพราะรัฐมีอานาจมากแต่ ประชาชนถกู ลิดรอน สิทธิและเสรีภาพ ๒) พรรคการเมืองขาดอสิ รภาพ ถกู ครอบงาและตัดสินใจโดยองค์กรของรฐั ทีเ่ ป็น อสิ ระ ๓) ประชาชนถูกปกครองมาโดยตลอด เพราะมิใช่การพลเมืองโดยพลเมืองโดย แท้จริง ข้อเสนอแนะ ๑) ให้สร้างระบบการเมืองของพลเมือง มิใช่การเมืองของข้าราชการและ นักการเมอื ง ๒) ยกเลิกกฎหมายท่ีกาหนดใหย้ บุ พรรคการเมอื ง ๓) ฝ่ายการเมืองมักมาจากลุ่มทุน ผู้มีอิทธิพล ผู้มีฐานะมั่งค่ังในสังคม ซึ่งเข้ามา ทางานการเมือง แล้วปกป้องผลประโยชน์ของคนกลุ่มนี้ มิได้สะท้อนปัญหาของ พลเมืองโดยแทจ้ รงิ ๔) ให้บัญญัติว่า ห้ามมิให้มีกฎหมายยุบพรรคการเมือง โดยหากบุคคลซึ่งเป็น สมาชิกพรรคการเมืองกระทาผิด ก็ให้ดาเนินคดีกับผู้น้ัน เท่าน้ัน เพราะพรรค การเมืองเป็นศูนย์รวมอุดมการณ์ของบุคคลท่ีคล้ายคลึงกัน และเป็นองค์กรสะท้อน

๓๙๘ ประเดน็ ขอ้ คิดเหน็ และเสนอแนะ ที่มาของความเห็น ความคิดเห็นของคนกลุ่มน้ี และสมาชิกตลอดจนผู้เลือกต้ังที่ได้เลือกพรรคการเมือง เขา้ มาเป็นผแู้ ทนของตนเอง และบรหิ ารประเทศชาตบิ า้ นเมอื ง องค์กรอิสระอันได้แก่ คณะกรรมการการเลือกตั้ง ผู้ตรวจการแผ่นดิน สานักนโยบายและแผนพลงั งาน คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ คณะกรรมการตรวจเงิน (สนพ.) กระทรวงพลงั งาน แผ่นดิน คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแหง่ ชาติ มบี ทบาทสาคัญต่อรัฐบาล เจ้าหน้าท่ี (แบบสอบถามความคดิ เห็น) ของรัฐ ประชาชน หรือบคุ คลอ่ืนท่ีเกี่ยวข้องท้งั สิ้น โดยองคก์ รอิสระท่กี ล่าวมาได้ผา่ น การคัดเลือกจากสมาชิกวุฒิสภา ก่อนที่จะเสนอให้พระมหากษัตริย์ทรงลงพระ ปรมาภไิ ธยแตง่ ตั้ง ซง่ึ สมาชิกวุฒิสภาก็ล้วนเปน็ ผู้ท่ีไดร้ บั คดั เลอื กโดยคณะรักษาความ สงบแห่งชาติทั้งสิ้น จึงทาให้องค์กรอิสระที่กล่าวมาน้ัน อาจอยู่ในความผูกมัดแห่ง อาณัติมอบหมาย หรือความครองงา ซ่ึงองค์กรอิสระต้องปฏิบัติหน้าที่ด้วยความ ซ่ือสัตย์ สุจริต เพ่ือประโยชน์ส่วนรวมของประเทศชาติและความผาสุกของ ประชาชนโดยรวม ดังนั้น จึงขอเสนอแนะให้มีสมาชิกวุฒิสภาท่ีมีความเช่ือมโยงกับ ประชาชน โดยการดาเนินการตามหมวด ๗ รัฐสภา ส่วนที่ ๓ วุฒิสภา แห่ง รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๖๐ และให้สมาชิกวุฒิสภาตาม บทเฉพาะกาลแห่งรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๖๐ มาตรา ๒๖๙ มีอายุแค่ ๒ ปี นับแต่วันท่ีมีพระบรมราชโองการแต่งต้ัง เพื่อให้ได้สมาชิก วุฒิสภาทม่ี ีความเชื่อมโยงกบั ประชาชนโดยเรว็ ระบบการเมืองในปัจจุบันมีสภาผู้แทนราษฎรและสมาชิกวุฒิสภาตามหมวด ๗ ตารวจชายแดน ว่าด้วยรัฐสภา โดยในส่วนของสภาผู้แทนราษฎรน้ัน ปัญหาท่ีเกิดขึ้นคือการ (แบบสอบถามความคดิ เหน็ ) คานวณหาสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อตามมาตรา ๙๑ เป็นการ คานวณท่ีไม่มีความเป็นธรรม ควรใช้การคานวณตามแบบรัฐธรรมนูญแห่ง ราชอาณาจักรไทย พ.ศ. ๒๕๔๐ ซ่ึงมีความเป็นธรรมและถูกต้องมากกว่า เนื่องจาก ถ้าพรรคการเมืองใดได้คะแนนเสียงจากประชาชนเท่าใดก็ควรได้สมาชิกสภาผู้แทน

๓๙๙ ประเดน็ ข้อคดิ เห็นและเสนอแนะ ทีม่ าของความเหน็ ราษฎรตามสัดส่วน อันเป็นไปตามวัตถุประสงค์ของประชาชนผู้ลงคะแนนเลือกต้ัง ดังน้ันจึงไม่ควรมีการกาหนดจานวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่พรรคการเมืองนั้น พึงมีตามมาตรา ๙๑ (๒) โดยจะเห็นปัญหาในการคานวณสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แบบบญั ชรี ายช่อื จากการเลือกต้งั ท่ีผา่ นมาในปี ๒๕๖๒ มีพรรคการเมอื งทไี่ ดค้ ะแนน ไม่ถึงจานวนคะแนนของ ส.ส. ที่พรรคการเมืองจะได้รับการจัดสรรให้ได้เป็น ส.ส. ด้วย อกี ท้ังในมาตรา ๙๘ ลักษณะต้องห้ามมิให้รับเลือกตั้งตาม (๖) ให้เขยี นไว้ชัดเจน ดว้ ยวา่ รวมถึงถูกจาคุกและคุมขังในตา่ งประเทศด้วย ประเด็นต่อมาจะเห็นได้ว่า มาตรา ๘๒ กาหนดให้ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร สมาชิกวุฒิสภา และคณะกรรมการการเลือกต้ังเท่าน้ัน ท่ีสามารถย่ืนคาร้องต่อศาล รัฐธรรมนูญ เพ่ือวินิจฉัยคุณสมบัติของนักการเมือง โดยกระบวนการควบคุมและ ตรวจสอบ รวมถึงการถอดถอนนักการเมืองออกจากตาแหน่งรัฐธรรมนูญฉบับ พ.ศ. ๒๕๖๐ มิได้กาหนดให้ประชาชนเขา้ ชื่อ ถอดถอนนกั การเมือง ส.ส., ส.ว. ได้ จึง เห็นควรแก้ไขเพ่ิมเติมโดยให้สิทธิแก่ประชาชนควบคุมและตรวจสอบนักการเมือง ท่ตี นใชส้ ิทธเิ ลอื กมาดว้ ย ในส่วนของสมาชิกวุฒิสภาควรกาหนดให้มาจากการเลือกตั้งท้ังหมด โดยหาก มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญสมควรให้มีการกาหนดอายุของสมาชิกวุฒิสภาชุดปัจจุบัน สิ้นสุดลงโดยไม่ต้องรอครบกาหนด ๕ ปี และให้มีการเลือกต้ังใหม่ภายใน ๑ ปี นับแตว่ นั ประกาศใช้รัฐธรรมนญู ฉบับใหม่ ปัญหาท่ีเกิดในปัจจุบันคือการใช้บทเฉพาะกาลในหลายมาตรา เช่นการแต่งตั้ง นายกรัฐมนตรีตามมาตรา ๒๗๒ ผู้ดารงตาแหน่งในองค์กรอิสระตามมาตรา ๒๗๓ ซ่งึ ควรยกเลกิ ท้ังหมด ส่วนกรณีผู้ที่จะเข้ามาเป็นตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งกาหนดไว้ในมาตรา ๒๐๐ น้ัน ควรมีการกาหนดสดั สว่ นใหม่ โดยเพิ่มสัดสว่ นของผู้ทรงคุณวุฒใิ ห้มากกว่า ๑ คน

๔๐๐ ประเดน็ ข้อคดิ เห็นและเสนอแนะ ทมี่ าของความเหน็ เป็น ๒ คน ในแต่ละสาขาและควรลดผู้พิพากษาตามมาตรา ๒๐๐ (๑) (๒) ให้เหลือ เพยี ง ๒ คนและ ๑ คนตามลาดับ ความคาดหวัง ตารวจภธู ร ภาค ๙ ๑. ฝา่ ยนติ บิ ญั ญัตคิ วรมีความเป็นอสิ ระในการทางาน และไม่มีการแทรกแซงจาก (แบบสอบถามความคดิ เห็น) ภายนอก ๒. ทุกฝ่ายควรปฏิบัติหน้าที่ด้วยความสุจริต โปร่งใส สามารถตรวจสอบได้ และ เห็นประโยชน์ของชาติโดยส่วนรวมเป็นหลัก โดยมีหลักการและเป้าหมายเดียวกัน คือ การสรา้ งความผาสุกให้กับประชาชน สภาพปญั หา ยังมีปัญหาการทุจริตคอรัปช่ันเกดิ ข้ึนบ่อยคร้ัง ขอ้ เสนอแนะ ควรสง่ เสรมิ ทุกฝา่ ยใหม้ ีความสจุ ริตในการปฏบิ ัตหิ น้าท่ี ความคาดหวงั สานกั เลขาธกิ ารนายกรฐั มนตรี ระบบการเมืองและสถาบันการเมืองในภาพรวมควรมีเสถียรภาพ มีความมั่นคง (แบบสอบถามความคดิ เหน็ ) ประชาชนเขา้ ถึงและมสี ่วนร่วม มกี ารถว่ งดลุ ทเี่ หมาะสม สภาพปัญหา บทบาทและความสัมพันธ์ระหว่างฝ่ายนิติบัญญัติกับฝ่ายบริหารในการควบคุม การบริหารราชการแผ่นดินผา่ นกระบวนการของฝ่ายนิติบัญญัติ โดยวิธีการตั้งกระทู้ ถามและการเชิญบคุ คลจากฝ่ายบรหิ ารมาชี้แจงตอ่ ฝ่ายนติ บิ ัญญัติ ซึง่ เหน็ วา่ ๑) กรณีกระทู้ถาม เป็นหลักการที่ดีท่ีให้ ส.ส. และ ส.ว. มีสิทธิต้ังกระทู้ถาม ในเร่ืองใดต่อรัฐมนตรีที่เก่ียวกับงานในหน้าที่ซ่ึงสามารถถามเป็นหนังสือหรือด้วย วาจาก็ได้ ตามขอ้ บังคบั การประชุมแห่งสภาน้ัน ๆ แต่อย่างนอ้ ยต้องกาหนดให้มีการ ต้ังกระทู้ถามด้วยวาจาโดยไม่ต้องแจ้งล่วงหน้าไว้ด้วย การท่ีรัฐธรรมนูญกาหนดให้มี กระทู้ถามด้วยวาจาโดยบัญญัติลึกไปถึงการปฏิบัติว่า “...โดยไม่ต้องแจ้งล่วงหน้าไว้

๔๐๑ ประเดน็ ข้อคิดเหน็ และเสนอแนะ ท่มี าของความเห็น ดว้ ย” เมื่อไปสู่การปฏบิ ัติจริงการดาเนินงานของทั้งสองสภา (ส.ส. และ ส.ว.) มีการ กาหนดข้อบงั คับของสภาแห่งตนคล้าย ๆ กัน แต่แนวปฏิบัติจริงยังคงมีความตา่ งกัน โดยเฉพาะประเด็นท่ีเก่ียวกับการแจ้งล่วงหน้า โดย ส.ว. จะแจ้งช่ือเรื่อง ช่ือผู้ต้ัง กระทู้ถาม และชื่อผู้ถูกต้ังถาม ให้ผู้ถูกต้ังถามทราบ ส่วน ส.ส. จะแจ้งให้ทราบเพียง ชือ่ ผูต้ งั้ กระทูถ้ าม และชือ่ พรรคของผ้ตู ้งั กระทู้ถามเทา่ นั้น การกาหนดให้ไม่ต้องแจ้งล่วงหน้าจึงส่งผลถึงประสิทธิภาพในการตอบ เน่ืองจาก ความไม่กระจ่างชัดในประเด็นข้อคาถาม คาตอบ จึงมีลักษณะเป็นคาตอบทาง นโยบาย และถึงแม้จะตอบในทางนโยบายได้แต่หลายกรณีผู้ตอบกจ็ าเป็นต้องทราบ ข้อเท็จจริงในระดับพ้ืนที่ก่อน จึงจะชี้แจงได้ ดังนั้น เมื่อไม่ทราบคาถามล่วงหน้า การถาม-ตอบกระทู้บางครง้ั จงึ เปน็ เสมอื นการทดสอบทกั ษะทางการสื่อสาร การถาม การตอบ การพดู ของผถู้ ามและผู้ตอบมากกว่า ในบางกระทู้เป็นการตั้งกระทู้ ตั้งถาม นายกรัฐมนตรี ในฐานะท่ีเป็นหัวหน้า รัฐบาล ซ่ึงในการบริหารราชการแผ่นดิน นายกรัฐมนตรี ได้มีคาส่ังมอบหมายและ มอบอานาจให้รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีประจาสานักนายรัฐมนตรีกากับการ บริหารราชการแผ่นดินแทน นายกรัฐมนตรี ดังน้ัน หากไม่มีการแจ้งประเด็นคาถาม ล่วงหน้าจึงเป็นเรื่องยากที่ นายกรัฐมนตรี จะมอบหมายผู้มาตอบกระทู้ถามได้อย่าง ตรงประเด็น ๒) กรณีคณะกรรมาธิการเชิญบุคคลไปชี้แจงแสดงความเห็น เป็นหลักการที่ดี ท่ีบัญญัติให้อานาจแก่คระกรรมาธิการต่าง ๆ ที่แต่ละสภา (สภาผู้แทนราษฎรและ วุฒิสภาพ) ตั้งข้ึนเพื่อไปกระทากิจการต่าง ๆ ที่อยู่ในหน้าท่ีและอานาจของสภาหรือ ของคณะกรรมาธิการและรายงานสภาทราบ ซ่ึงเห็นได้ว่าการทาหน้ าที่ ของคณะกรรมาธิการดังกลา่ ว จงึ อยู่ภายใต้สภานน้ั ๆ กรณีการเชิญ “บุคคล” ไปชี้แจงในชั้นคณะกรรมาธิการจึงเป็นการดาเนินการ ของคณะกรรมาธิการเพื่อให้ได้ข้อมูลข้อเท็จจริง รายงานให้สภาทราบผลการ พิจารณา ดังนั้น ข้ันตอนนี้ควรเป็นการหาข้อเท็จจริงในระดับผู้ปฏิบัติไม่ใช่ระดับ นโยบาย เช่น ข้าราชการของสว่ นราชการตา่ ง ๆ หรือบคุ คลทเี่ กย่ี วข้อง

๔๐๒ ประเดน็ ข้อคิดเห็นและเสนอแนะ ที่มาของความเหน็ ในส่วนของ นายกรัฐมนตรี หรือ คณะรัฐมนตรี ซึ่งเป็นฝ่ายบริหาร มีฐานะ เทียบเคียงกับฝ่ายนิติบัญญัติ คือ สภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภา ท่ีเป็นผู้ต้ัง คณะกรรมาธิการ ซึ่งรัฐธรรมนูญ ได้กาหนดความสัมพนั ธ์ระหว่างฝ่ายนิตบิ ัญญัตแิ ละ ฝ่ายบริหารผ่านกลไกตา่ ง ๆ ไว้แลว้ ท้งั การแถลงนโยบาย (มาตรา ๑๖๒) การควบคมุ การบริหาราชกามรแผน่ ดนิ โดยการตัง้ กระทถู้ าม (มาตรา ๑๕๐) การขอเปิดอภปิ ราย ท่ัวไปเพื่อซักถามข้อเท็จจริงหรือเสนอแนะปัญหา (มาตรา ๑๕๒-๑๕๓) การขอเปิด อภิปรายทวั่ ไป เพ่ือลงมติไมไ่ ว้วางใจ (มาตรา ๑๕๑) เป็นตน้ ข้อเสนอแนะ ๑. มาตรา ๑๕๐ ท่ีว่าด้วยการต้ังกระทู้ถามรัฐมนตรี และกาหนดให้มีกระทู้ถาม ด้วยวาจา โดยไม่ต้องแจ้งล่วงหน้านั้น ควรตัดถ้อยคา “โดยไม่ต้องแจ้งล่วงหน้า” ออก ๒. มาตรา ๑๒๙ ท่ีว่าด้วยการให้คณะกรรมาธิการมีอานาจเรียกบุคคลมาช้ีแจง ควรกาหนดให้ชัดเจนว่า การเรียกเช่นว่านั้นไม่ให้ใช้บังคับแก่นายกรัฐมนตรี หรอื รฐั มนตรี ความคาดหวัง สานักเลขาธกิ ารนายกรฐั มนตรี สถาบันท่ีเป็นตัวแทนประสานประโยชน์สร้างความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน (แบบสอบถามความคดิ เห็น) ภายในประเทศและสะท้อนความคิดเห็นของประชาชนใหห้ น่วยของรัฐได้ทราบ และ สรรหาตัวแทนของประชาชนท่ีมีความรู้ความสามารถเข้าไปมีส่วนร่วมทางการเมือง อย่างมีประสิทธิภาพเพ่ือกาหนดนโยบายต่าง ๆ เพ่ือมุ่งหมายประโยชน์สูงสุดให้เกิด กับประชาชน และให้ประชาชนได้มองเห็นความสาคัญของตนเองในฐานะท่ีเป็น เจ้าของประเทศและเป็นเจ้าของอานาจอธิปไตยและมีส่วนร่วมในทางการเมืองอย่าง เตม็ ท่ี

๔๐๓ ประเดน็ ขอ้ คดิ เหน็ และเสนอแนะ ทมี่ าของความเหน็ สภาพปัญหา ประชาชนเร่มิ ขาดความเชอื่ มั่นในระบบการเมอื งและสถาบันทางการเมืองในการ เป็นตัวแทนของประชาชน เห็นว่าระบบการเมืองและสถาบันการเมืองไม่สามารถ เป็นกระบอกเสียงของประชาชนและไม่สามารถตอบโจทย์ส่ิงที่ประชาชนต้องการ ได้อยา่ งแทจ้ ริง ขอ้ เสนอแนะ ระบบการเมืองและสถาบันการเมืองต้องสร้างความเช่ือม่ันให้ประชาชนเห็นว่า เป็นองค์กรท่ีเป็นตัวแทนของประชาชนและทาหน้าที่เพื่อประชาชนที่แท้จริงและมุ่ง หมายประโยชน์สงู สุดเพื่อประชาชน ความคาดหวงั กรมพฒั นาสังคมและสวสั ดิการ กรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการในฐานะที่เป็นหน่วยงานของรัฐ มองภาพหรือ (แบบสอบถามความคดิ เห็น) คาดหวังตอ่ “ระบบการเมืองและสถาบันการเมือง” ทม่ี ีต่อข้าราชการและเจ้าหน้าที่ ในสังกัดว่าจะต้องได้รับสิทธิและเสรีภาพตามที่รัฐธรรมนูญให้ไว้ กล่าวคือ ได้รับ เสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น สิทธิเสรีภาพในการมีส่วนร่วมทางการเมือง เสรีภาพในการชุมนุมโดยสงบและปราศจากอาวุธ เป็นต้น เพียงแต่พฤติกรรมหรือ การกระทาบางอย่างโดยเฉพาะกรณีท่ีเป็นการปฏิบัติหน้าท่ีราชการหรือในการ ปฏิบัติหน้าที่อื่นที่เก่ียวข้องกับประชาชนจะต้องใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษ ด้วยฐานะข้าราชการจึงต้องถูกจากัดบทบาทหน้าที่ไว้บางประการ เพ่ือให้เหมาะสม กบั ฐานะความเปน็ ขา้ ราชการ สภาพปญั หา สภาพการณ์ท่ีเกิดข้ึนเกี่ยวกบั “ระบบการเมืองและสถาบันการเมือง” ท่ีมีผลต่อ ข้าราชการและเจ้าหน้าทใี่ นสงั กัดกรมพัฒนาสงั คมและสวัสดกิ ารในปัจจบุ นั ไดแ้ ก่ พระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. ๒๕๕๑ ซึ่งมีบทบัญญัติให้สิทธิ เสรีภาพและกาหนดขอบเขตแนวทางการปฏิบัติตัวแก่ข้าราชการพลเรือนในเรื่อง การเมอื งไว้ ดังน้ี

๔๐๔ ประเดน็ ขอ้ คดิ เห็นและเสนอแนะ ทีม่ าของความเหน็ มาตรา ๔๓ “ข้าราชการพลเรือนสามัญมีเสรีภาพในการรวมกลุ่ม แต่ทั้งน้ตี ้องไม่ กระทบประสิทธิภาพในการบริหารราชการแผ่นดินและความต่อเน่ืองในการจัดทา บรกิ ารสาธารณะ และตอ้ งไมม่ วี ัตถุประสงคท์ างการเมอื ง” มาตรา ๘๑ “ข้าราชการพลเรือนสามัญต้องสนับสนุนการปกครองระบอบ ประชาธิปไตยอันมพี ระมหากษัตริยเ์ ป็นประมุขด้วยความบรสิ ทุ ธใ์ิ จ” บทบั ญญัติ ข้างต้ น มีแนว คิด มาจ ากการ ที่ปร ะเ ทศไทย มีกา ร ป กคร องร ะบ อบ ประชาธิปไตยตามรัฐธรรมนูญ ข้าราชการพลเรือนซึ่งเป็นผู้ปฏิบัติงานของประเทศ จึงจาเป็นทจี่ ะต้องเปน็ ผู้เล่ือมใสและสนับสนนุ การปกครองในระบอบดังกลา่ ว เพือ่ ให้ การปฏิบัติงานเป็นไปอย่างเรียบร้อย ซึ่งการสนับสนุนในความหมายนี้ คือการ ส่งเสริม เสรมิ สร้าง หรือไม่คัดค้านการกระทาท่ีจะเป็นความผิดฐานไม่สนับสนุนการ ปกครองระบอบดงั กลา่ ว ไดแ้ ก่ การกระทาในทางคัดคา้ น ต่อต้านหรอื ปรปักษ์ มาตรา ๘๒ (๙) “ข้าราชการพลเรือนสามัญตอ้ งวางตวั เป็นกลางทางการเมือง” มาตรานี้เป็นข้อกาหนดทางวินัยที่มีเจตนารมณ์ให้ข้าราชการประจามีความเป็น กลางทางการเมือง โดยเฉพาะในการปฏิบัติหนา้ ท่รี าชการและในการปฏิบัติการอ่นื ๆ ทีเ่ กีย่ วขอ้ งกับประชาชน ความคาดหวงั สานกั งานการวจิ ยั แหง่ ชาติ ระบบการเมืองและสถาบันการเมืองควรใช้ระบบการเข้าสู่องค์กรนั้นๆท่ีเป็น (แบบสอบถามความคิดเหน็ ) ธรรม เพราะองคก์ รผูใ้ ชอ้ านาจทงั้ นิติบัญญัติ อานาจบริหาร และอานาจตุลาการเป็น องคก์ รทม่ี คี ณุ ค่า เป็นธรรมและเป็นทีพ่ ่งึ ของประชาชนอยา่ งแทจ้ ริง สภาพปญั หา แม้จะมีรัฐธรรมนูญกาหนดระบบการเมืองและสถาบันการเมืองไว้อย่างดีแล้ว แต่ในปัจจุบันก็ยังเกิดปัญญาที่ประชาชนขาดการยอมรับ ซึ่งถือว่าความเชื่อมั่นของ ประชาชนตอ่ องคก์ รต่างๆ ของประเทศเปน็ ส่ิงทต่ี ้องได้รบั การแก้ไข

๔๐๕ ประเดน็ ข้อคิดเห็นและเสนอแนะ ทม่ี าของความเห็น ขอ้ เสนอแนะ องคก์ รผู้ใชอ้ านาจนิตบิ ญั ญตั ิ อานาจบริหาร หรืออานาจตลุ าการ ต้องเคารพและ ใหค้ วามคมุ้ ครองประชาชนอยา่ งเสมอภาค ความคาดหวัง กระทรวงสาธารณสขุ ระบบการเมืองและสถาบันการเมืองต้องมีความรับผิดชอบต่อสังคม มีความ (แบบสอบถามความคดิ เหน็ ) โปร่งใส และมีธรรมาภิบาลในการทางานการเมืองเพื่อประชาชนและประเทศชาติ เปน็ มืออาชพี ทางสถาบนั การเมอื งไทย สภาพปญั หา ระบบการเมืองและสถาบันการเมืองยังไม่มีคุณภาพ หวังประโยชน์ตน พวกพ้อง มากว่าประโยชน์ประเทศชาติ ไม่มีความรบั ผิดชอบตอ่ การประพฤติ การกระทาน้อย จากการบรหิ ารงานทางการเมือง ไมเ่ ป็นแบบอยา่ งต่อเด็กและเยาวชนท่ดี ี ข้อเสนอแนะ ระบบการเมืองและสถาบันการเมืองมีธรรมาภิบาล ระดับมืออาชีพ ประชาชน เช่อื มั่น ความคาดหวงั กรมพัฒนาชุมชน ภายใต้การปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็น (แบบสอบถามความคดิ เห็น) ประมุขน้ัน หลักการที่สาคัญ คือ หลักการแบ่งแยกอานาจ” (Separation of Powers) โดยเป็นการวางหลักการใช้อานาจรัฐให้เกิดการตรวจสอบและถ่วงดุล อานาจซ่ึงกันและกัน (Check and Balance) เพ่ือมิให้เกิดการใช้อานาจโดยมิชอบ ทัง้ ฝ่ายนิตบิ ญั ญตั ิ ฝ่ายบริหาร และฝ่ายตุลาการ นอกจากน้ันแลว้ ระบบเลอื กตัง้ ต้อง มีความโปร่งใส เปิดโอกาสให้ทุกคนอย่างเสมอภาคกัน และมีความบริสุทธิ์ยุติธรรม ระบบรัฐสภาท้ังสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาสามารถทางานสอดประสานและ มีการตรวจสอบระหว่างกัน พรรคการเมืองเป็นตัวแทนของแต่ละกลุ่มผลประโยชน์

๔๐๖ ประเดน็ ขอ้ คิดเห็นและเสนอแนะ ทีม่ าของความเห็น และประชาชนอย่างแท้จรงิ ไม่ไดผ้ ูกขาดแค่กลุ่มทนุ เท่าน้ัน และองค์กรปกครองส่วน ท้องถ่ินต้องทาหน้าท่ีสะท้อนความเป็นตัวแทนของประชาชนในท้องถิ่น มีความเป็น อิสระในการจัดทาบริการสาธารณะและมีรายได้และงบประมาณเ ป็นของตนเอง การเป็นนิติบุคคลทาให้สิทธิและหน้าที่ของตนเอง มีทรัพย์สินบุคลากร และ งบประมาณของตนเอง เพอ่ื ประกนั ความเป็นอสิ ระ สภาพปญั หา เน่ืองจากประเทศไทยมีการเปลี่ยนแปลงรัฐธรรมนูญจนถึงปัจจุบันเป็นฉบับท่ี ๒๐ ทาให้ประชาชนยังขาดความเข้าใจในระบบการเมืองและสถาบันการเมืองที่มี การปรับเปล่ียนโครงสร้าง และอานาจหน้าท่ีของแต่ละองค์กรในรัฐธรรมนูญ เช่น ระบบการเลือกตั้งก็ยังมีความสับสนด้วยความไม่ชัดเจนของตัวบทกฎหมาย ซึ่งต้อง ให้องค์กรที่มีหน้าที่ความรับผิดชอบพิจารณาวินิจฉัยให้เกิดความชัดเจน เป็นต้น ทาให้เกิดข้อพิพาทและความขัดแย้งจากการไม่เข้าใจและความคิดเหน็ ในการตีความ ท่ีแตกต่างกนั ไป อนั จะนาไปสู่การขาดความสามัคคีของคนภายในชาติ ขอ้ เสนอแนะ รัฐต้องเสริมสร้างและเผยแพร่ให้ประชาชนเข้าใจถึงบทบาทและอานาจหน้าท่ี ของแต่ละองค์กรและทาให้ประชาชนตระหนักถึงการมีส่วนร่วมทางการเมืองใน ระบบรัฐสภา และรัฐกาหนดมาตรการให้ประชาชนมีส่วนร่วม สามารถนาไปปฏิบัติ ได้จรงิ และรฐั ตอ้ งยอมรับการมสี ่วนร่วมของประชาชนโดยไม่แทรกแซง คุกคาม เห็นควรมีระบบตรวจสอบ ถ่วงดุลการใช้อานาจ ท่ีมีความเป็นกลางและการมี สานักปลดั กระทรวงการพฒั นา ส่วนรว่ มของสังคม สังคมและความมนั่ คงของ มนษุ ย์ (แบบสอบถามความ คดิ เห็น)

๔๐๗ ประเดน็ ขอ้ คดิ เห็นและเสนอแนะ ทมี่ าของความเหน็ ความคาดหวงั กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ - ความสัมพันธร์ ะหว่างฝา่ ยนิตบิ ัญญัติ ฝ่ายบรหิ าร และศาลควรใช้อานาจถ่วงดุล (แบบสอบถามความคดิ เห็น) กนั ให้เปน็ ไปตามหลกั นิติธรรม - สภาพปัญหา หรือ สภาพการณ์ท่ีเกิดข้นึ เก่ียวกับ “ระบบการเมืองและสถาบัน การเมอื ง” ในปัจจบุ ัน ความคาดหวัง สานกั งานปลัดกระทรวง - ความคาดหวังต่อระบบการเมืองและสถาบันการเมืองนั้น พึงตั้งอยู่ในระบอบ ศึกษาธิการ (แบบสอบถาม ประชาธิปไตยเกิดโปร่งใส และประชาชนสามารถตรวจสอบได้ ความคดิ เหน็ ) สภาพปัญหา - ประชาชนยังขาดความรู้ความเข้าใจ และไม่กล้าแสดงออกซ่งึ สิ่งท่ีตนเกิดความ สงสัยในระบบการเมืองและสถาบันการเมือง เนื่องจากยังขาดความรู้เก่ียวกับเร่ือง การเมือง โดยเฉพาะประชาชนท่ีอยใู่ นท้องถิน่ ทหี่ ่างไกลความเจรญิ ขอ้ เสนอแนะ ๑. หน่วยงานรัฐท้ังด้านการศึกษาและองค์กรท่ีเกี่ยวข้องกับการเมืองการ ปกครองควรกาหนดแนวนโยบายท่ีให้ความรู้และสร้างความเข้าใจเก่ียวกบั การเมือง การปกครองต่อประชาชนอย่างเป็นรูปธรรมมากข้ึนท้ังในสถานศึกษาในระบบ และ สถานศึกษานอกระบบ ตลอดจนองค์กรทางปกครอง และองค์กรต่างๆ ร่วมกันให้ ความรู้ตอ่ ประชาชนให้ประชาชนได้มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับระบบการเมืองและ สถาบันการเมืองมากขึ้น รวมถึงปลูกฝังให้ประชาชนกล้าแสดงออกเก่ียวกับเรื่อง การเมืองและสถาบันการเมืองได้อย่างถูกต้องเหมาะสม เพื่อป้องกันการเกิดความ เข้าใจทผ่ี ิดเกี่ยวกบั การแสดงออกในเชิงการเมือง ๒. สถานศึกษาต้องส่งเสริมและสร้างความรู้ความเข้าใจเก่ียวกับการปกครอง ระบอบประชาธิปไตยสิทธิเสรีภาพในการแสดงออก และแสดงความคิดเห็น โดยไม่ ต้องเป็นการละเมิดสิทธิของผ้อู ่นื

๔๐๘ ประเดน็ ขอ้ คิดเหน็ และเสนอแนะ ท่ีมาของความเห็น ความคาดหวัง สานักงานเลขาธกิ ารสภา ความมเี สถียรภาพของการเมอื ง การศกึ ษา (แบบสอบถามความ สภาพปัญหา หรือ สภาพการณ์ที่เกิดขึ้นเกี่ยวกับ “ระบบการเมืองและสถาบัน คิดเหน็ ) การเมอื ง” ในปจั จุบัน ความมเี สถียรภาพของการเมอื ง ความม่ันคงของรัฐบาลและคณะรัฐมนตรีเป็นสิ่งสาคัญต่อการดาเนินนโยบาย ให้ประสบความสาเร็จ กระทรวงศึกษาธิการเป็นอีกกระทรวงหนึ่งท่ีมีการเปล่ียน รัฐมนตรีแทบทุกครั้งเหมือนกับกระทรวงอ่ืนๆ ดังเช่นในระยะเวลา ๑๕ ปี ตั้งแต่ปี ๒๕๔๒ ถงึ ๒๕๕๖ มีการเปลยี่ นรฐั มนตรกี ระทรวงศกึ ษาธิการถงึ ๑๖ คน ดว้ ยสาเหตุ ดังกล่าวจึงทาให้การดาเนินนโยบายด้านการศึกษาจึงไม่มีความต่อเน่ือง เพราะ ความสาเร็จของนโยบายจานวนมากดา้ นการศึกษานั้นไม่อาจเกิดข้ึนได้ในระยะเวลา สนั้ ๆ หากแต่ตอ้ งใช้ระยะเวลาดาเนนิ การติดตอ่ กลับเป็นเวลานานพอสมควร ข้อเสนอแนะ ทุกรัฐบาลท่ีเข้ามาบริหารกระทรวงศึกษาธิการต้องใช้แผนการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๖๐ – ๒๕๗๙ เป็นกรอบในการกาหนดนโยบายด้านการศึกษา เพื่อให้ นโยบายการศึกษามคี วามตอ่ เนอ่ื งเปน็ ไปแนวทางเดียวกันในทุกรัฐบาล ความคาดหวงั มูลนิธสิ ถาบนั พัฒนานติ ิจิตเวช ระบบการเมือง และสถาบันการเมืองถูกสร้างขึ้นตามโครงสร้างแห่งอานาจ เดก็ เยาวชน และครอบครวั ที่ครอบงาประชาชนในฐานะผู้ด้อยกว่าตลอดมา ต้องสถาปนาโดยอาศัยฐานของ (แบบสอบถามความคดิ เหน็ ) พลเมืองที่เป็นเจ้าของอานาจอธิปไตยโดยถือหลักทางเศรษฐกิจและปากท้องของ ประชาชนเป็นโครงสร้างทางการเมืองและสถาบันการเมืองให้เป็นระบบสังคม ธรรมาธิปไตยมิใช่ใชอ้ านาจตามอาเภอใจ

๔๐๙ ประเดน็ ข้อคดิ เห็นและเสนอแนะ ท่ีมาของความเห็น สภาพปญั หา ประชาชนแม้เป็นเจ้าของอานาจอธิปไตย ก็ไม่สามารถใช้อานาจในการปกครอง ที่แทจ้ ริงได้ต้องผ่านทางผู้มอี านาจโดยขาดการมสี ว่ นรว่ มในการปกครอง ขอ้ เสนอแนะ ต้องวางหลักเกณฑ์ที่ให้ประชาชนมีส่วนร่วมในโครงสร้างทางการเมือง โดยเฉพาะการตรวจสอบการใช้อานาจรัฐ และการมีส่วนร่วมในกลไกทางการเมือง ทกุ ข้ันตอน ความคาดหวัง มหาวทิ ยาลัยเชียงใหม่ ๑. การจัดกลไกและสถาบันทางการเมืองควรเน้นองค์กรท่ีตอบโจทย์การ (แบบสอบถามความคิดเหน็ ) เปลยี่ นแปลงในอนาคต ๒. ความสมั พันธภ์ ายใตแ้ นวคิด separation of powers ทผ่ี ่านมาเป็นการสลาย พลังมากกว่าสานพลัง เพ่ือรองรับการเปล่ียนแปลงจึงทาให้ระบบกลไกและสถาบัน ของรัฐสภา ศาล รฐั บาล ไมส่ ามารถแก้ปญั หาสาคญั ๆ ของประชาชนได้ สภาพปญั หา - ระบบการเมืองและระบบราชการที่รวมศูนย์อานาจทาให้กลไกการแก้ปัญหา ต่างๆ รวมศูนย์ ทาให้ปัญหาทุกๆ ปัญหาตั้งแต่ปัญหาเล็กๆ ระดับพื้นท่ี ไปจนถึง ปัญหาสาคัญของท้องถ่ินและของประเทศไม่มีระบบการแก้ปัญหาท่ีมีสิทธิภาพ ประชาชนผลกั ภาระให้ภาครัฐแกป้ ัญหา แทนทจ่ี ะช่วยกนั แกไ้ ขปญั หา ข้อเสนอแนะ - จัดระบบกลไกและสถาบันทางการเมือง กฎหมาย เพ่ือทาให้เกิดการกระจาย อานาจไปยังกลไกในระดบั จังหวัดและระดบั ท้องถ่นิ ตามหมวด 14

๔๑๐ ประเดน็ ขอ้ คิดเหน็ และเสนอแนะ ทีม่ าของความเหน็ ความคาดหวัง ภาครฐั ศาสตรแ์ ละรัฐประศาสน์ - ความชอบธรรมจากประชาชน ศาสตร์ คณะสังคมศาสตร์ - การตรวจสอบถว่ งดลุ มหาวทิ ยาลัยนเรศวร - ประสิทธิภาพและประสิทธิผลในการตอบสนองความตอ้ งการของประชาชน (แบบสอบถามความคิดเหน็ ) สภาพปญั หา ๑. กลไกที่ได้รับอานาจจากการเลือกต้ัง (elected officers) มีบทบาทและ อานาจ “นอ้ ยกว่า” กลไกที่ไม่ไดม้ าจากการเลือกตั้ง (Non-Elected officers) ๒. ความชอบธรรมจากประชาชนจึงถูกตั้งคาถาม ส่งผลให้การตรวจสอบถ่วงดุล มปี ญั หา และกระทบตอ่ ประสทิ ธภิ าพในการทางาน ความคาดหวงั มหาวทิ ยาลัยมหามกุฎราช ระบบการเมอื ง ควรมกี ารตรวจสอบ ถ่วงดุลอยา่ งจริงจัง วิทยาลัย สภาพปญั หา (แบบสอบถามความคดิ เหน็ ) ท่ีมาของนายกรัฐมาตรีที่ใช้เสียงของ ส.ว. ร่วมโหมวตนั้นเป็นอุปสรรคต่อการ สร้างระบบถ่วงดุล เนอื่ งจากส.ว. ทง้ั ๓ กลุ่ม ผ่านการพิจารณาจาก คสช. และ ส.ว. ก็ลงมติเลือกอดีตหัวหน้า คสช. เป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นลักษณะงูกินหางไม่ สามารถตรวจสอบถ่วงดุลได้ รัฐบาลได้อย่างจริงจัง เพราะมีความสัมพันธ์กันในเชิง ระบบทม่ี า ข้อเสนอแนะ ควรแก้ไข/รับรฐั ธรรมนญู ในเรอ่ื ง ส.ว. เช่น ผู้สมัครส.ส. ควรมาจากตัวแทนกลุ่ม อาชีพจริงๆ และไม่ควรมีอานาจเลือกนายกรัฐมนตรีหรือหากมีอานาจเลือก นายกรัฐมนตรี ส.ว.ควรมีการยืดโยงกับประชาชนผ่านการเลือกตั้งจากกลุ่มอาชีพ แบบ (Register vote)

๔๑๑ ประเด็น ข้อคดิ เหน็ และเสนอแนะ ที่มาของความเหน็ ความคาดหวงั กรมสรรพากร ระบบการเมืองและสถาบันการเมือง หากมีความม่ันคงและมีเสถียรสภาพ กระทรวงการคลัง จะสง่ ผลต่อระบบเศรษฐกิจ สังคม ความเป็นอยู่ของประชาชน และอนื่ ๆ ตามมา (แบบสอบถามความคดิ เห็น) สภาพปญั หา ยังขาดเสถยี รภาพและความมัน่ คง ขอ้ เสนอแนะ หาแนวทางให้ระบบการเมือง และสถาบันการเมืองมีมาตรฐาน และความเป็น กลางอย่างแท้จริง และให้ประชาชนมีส่วนร่วมทุกภาคส่วน อันจะทาให้เกิดความ น่าเชอ่ื ถอื ความคาดหวัง ประชาชนคนไทย ๘๙ ม.๑๐ ต. ในการเลอื กต้งั ท่ีผ่านมา การปฏิวัติเขียนรัฐธรรมนูญเอารดั เอาเปรียบมีการทจุ ริต ทา่ ตูม อ.ศรีมหาโพธิ์ จ. โกงพรรคการเมืองด้วยกัน รัฐธรรมนูญไม่เป็นประชาธิปไตยทาให้ฝ่ายตรงข้ามกบั ผู้มี ปราจีนบุรี 25410 อานาจเผด็จการ เอารัดเอาเปรียบพรรคการเมืองนนั้ (แบบสอบถามความคิดเห็น) สภาพปัญหา ไม่เป็นประชาธิปไตย ไม่ควรเอาวุฒิมายุ่งกับการบริหาร ควรจะเป็นฝ่ายนิติ บัญญัติ คอยกลน่ั กรองและควบคมุ กฎหมายให้เปน็ ธรรมกบั ประชาชน ข้อเสนอแนะ ไม่ควรมายุ่งกับฝ่ายบริหารและเลอื กนายกรฐั มนตรี ความคาดหวงั นางสาววชิราภรณ์ กาญจนะ - บทบาทของ กกต.ในการกากับดูแลและอานวยการยังอ่อนแอขาดการควบคุม พรรคประชาธปิ ัตย์ เขต ๓ กากับโดยใกล้ชิด ยังเกิดปัญหาการซื้อสิทธิขายเสียปรากฎให้เห็นอย่างชัดเจน (แบบสอบถามความคิดเห็น) อานาจหน้าท่ีของ กกต.ต้ังรบั มากการเชิงรุกไม่มีเจ้าหน้าที่รับผิดชอบระดับพ้ืนที่คอย

๔๑๒ ประเดน็ ขอ้ คิดเห็นและเสนอแนะ ทม่ี าของความเหน็ รับการร้องเรียนมากกว่าการมอบหมาย ให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติมาโดยตรงของแต่ละ หนว่ ยงานของพื้นที่ สภาพปัญหา - สภาพปัญหามีกฎระเบียบเคร่งครัดเกินไป ทาให้พรรคการเมืองควรยุบ เจ้าหน้าท่ีต้องคดีอาญามีโทษถึงจาคุกและเสียสิทธิในการเลือกต้ังเป็นการมุ่งทาลาย มากกวา่ การสรา้ งสรรค์เงื่อนไขต่างๆ เสมอื นกับตักเป็นการทาลายพรรคการเมอื ง ขอ้ เสนอแนะ - ปรับปรุงกฎระเบียบหลักเกณฑ์ให้เป็นประชาธิปไตยมากขึ้นเป็นการลดการ ทาลายพรรคการเมืองและสอนสิทธินักการเมืองในการออกระเบียบและหลักเกณฑ์ ประกอบการเลือกตง้ั ควรมบี คุ คลากรของสถาบนั การเมอื งมสี ่วนรว่ มด้วย ความคาดหวัง ทนายความและลา่ มภาษามือ “หัวใจของประชาธิปไตย คอื การเลือกตั้ง อิสระ (แบบสอบถามความ หวั ใจของการเลือกตง้ั คอื พรรคการเมือง คดิ เห็น) พรรคการเมอื ง คือ ยานพาหนะของผ้แู ทนในการเข้าสูอ่ านาจรัฐ” สภาพปัญหา พรรคการเมืองไม่เข้มแข็ง ถูกยุบง่าย สส. ไม่ฟังความเห็นของพรรคก่อให้เกิด ความไม่เข้มแข็งของพรรคการเมือง การยุบพรรค การเมืองง่ายเป็นการไม่ส่งเสริม ระบบพรรคการเมอื ง ข้อเสนอแนะ ควรสนับสนุน ให้พรรคการเมืองมีความเข้มแข็ง และไม่ถูกยุบง่าย เพราะเป็น หัวใจของประชาธิปไตย

๔๑๓ ประเดน็ ข้อคิดเหน็ และเสนอแนะ ทีม่ าของความเหน็ ความคาดหวัง ตัวแทนจากผปู้ กครองและ คาดหวังว่า อยากให้มีการเปล่ียนแปลงไปในเชิงบวก และพัฒนาคุณภาพชีวิต ผดู้ ูแลคนพิการ/ปชสพ. ชมรมผ. ของทกุ คนให้ดขี ึน้ ปด. คนพกิ ารทางสตปิ ัญญา สภาพปัญหา (บงึ ก่มุ ) มีการลิดรอนสิทธิของคนพิการ ไม่สามารถใช้สิทธิได้ตามหลักรัฐธรรมนูญ (แบบสอบถามความคิดเหน็ ) การเข้าถงึ ไมม่ ี ขอ้ เสนอแนะ เปิดพ้ืนท่ีทา Research ให้แก่คนพิการตามชุมชน (ติดเตียง) มีการเข้าถึงการใช้ สิทธิตามหลักข้ันพ้ืนฐาน ความคาดหวัง กองบังคบั การตารวจมหาดเล็ก ๑. การปกครองส่วนท้องถ่ินควรมีอิสระอย่างแท้จริง เพ่ือเป็นตัวแทนของ ราชวลั ลภรกั ษาพระองค์ 904 ประชาชนในการบริหารจัดการท้องถิน่ โดยเฉพาะการทางานควรสะท้อนปัญหาของ (แบบสอบถามความคิดเห็น) ประชาชน (Button Up) มากาหนดเปน็ นโยบายการบรหิ ารงานมากวา่ การสงั่ การลง มา (Topdown) ๒. สถาบันการเมืองควรมีจุดยืนในการพัฒนาสังคม พัฒนาประเทศร่วมกัน ไมเ่ อือ้ ประโยชนใ์ ห้ฝา่ ยใดฝา่ ยหนึง่ สภาพปัญหา ๑. ความไม่ม่ันคงทางการเมือง อาจส่งผลต่อการบริการและการพัฒนาประเทศ โดยเฉพาะการกาหนดนโยบายสาธารณะ ๒. พรรคการเมืองถูกครอบงาโดยกลุ่มบุคคลทาให้ขาดอิสระในการดาเนินงานที่ อาจเปน็ ประโยชนต์ อ่ การพฒั นาประเทศ ข้อเสนอแนะ คณุ ธรรมนกั การเมอื ง

๔๑๔ ประเดน็ ข้อคิดเห็นและเสนอแนะ ที่มาของความเห็น ความคาดหวงั สานักงานคณะกรรมการ ระบบการเมืองและสถาบันการเมืองควรมีเสถียรภาพ และควรแยกออกจาก ขา้ ราชการตารวจ กองรอ้ งทกุ ข์ หน่วยงานอนื่ ท่ไี มเ่ กย่ี วข้องใหช้ ัดแจง้ (แบบสอบถามความคิดเห็น) สภาพปญั หา เกิดปัญหาขึ้นมากมายเกี่ยวกับระบบการเมืองและสถาบันการเมือง โดยเฉพาะ ท่มี าการเข้าสอู่ านาจ ท้งั การเลอื กตง้ั ข้อเสนอแนะ ควรแกไ้ ขให้เกิดความเป็นธรรมแก่ทกุ ฝา่ ย เพ่ือลดปญั หาทางการเมือง ความคาดหวงั สมาคมพิทกั ษ์ประโยชน์ มีการเลือกตั้ง พรรคการเมือง การปกครองท้องถิ่น บทบาทและความสัมพันธ์ ผู้บรโิ ภค (แบบสอบถามความ ระหว่างฝ่ายนิติบัญญัติ ฝ่ายบริหารศาล และองค์กรตามรัฐธรรมนูญ มีการ คิดเหน็ ) ดาเนินการที่สอดคล้องเป็นไปในทิศทางเดียวกัน โดยเน้นความเป็นประชาธิปไตย ความถูกตอ้ ง และการตอบสนองความตอ้ งการของประชาชนและประเทศชาติ สภาพปญั หา ๑. ยงั ไมเ่ หน็ ความเป็นประชาธปิ ไตย ทถ่ี กู ตอ้ ง และการดาเนนิ การเพือ่ ประชาชน และประเทศชาตอิ ย่างแท้จรงิ ๒. ยังไม่แนใ่ จเรือ่ งคณุ ธรรม จริยธรรม และจรรยาบรรณของหนว่ ยงานรัฐ พรรค การเมอื ง ๓. ยังไม่แน่ใจเร่ืองการทางานของพรรคการเมือง สส. เป็นไปตามแนวทางการ หาเสียงที่ใหค้ ามน่ั สัญญาไวก้ ับประชาชน ขอ้ เสนอแนะ ๑. จัดระบบการเมืองและสถาบันการเมือง ท่ีเป็นประชาธิปไตย ทางานเพื่อ สังคม ประเทศชาติ อยา่ งมคี ุณธรรม จรยิ ธรรม และมีจรรยาบรรณทโ่ี ปร่งใสสามารถ ตรวจสอบได้ในทกุ ขัน้ ตอน

๔๑๕ ประเดน็ ขอ้ คดิ เหน็ และเสนอแนะ ทม่ี าของความเห็น ๒. ควรมีการประเมินผลการทางานทั้งพรรคการเมืองฝ่ังรัฐบาลและพรรคฝ่าย ค้าน โดยการเปิดเผยข้อมูลให้ประชาชนได้ตรวจสอบและเห็นผลการทางานอย่าง เปน็ รูปธรรม ความคาดหวงั มหาวทิ ยาลัยเทคโนโลยรี าช สถาบันการเมืองเป็นตัวแทนประชาชน จึงมุ่งทาประโยชน์แก่ประชาชนโดย มงคลลา้ นนา (แบบสอบถาม สุจริตและสามารถตรวจสอบได้ ความคิดเหน็ ) ขอ้ เสนอแนะ - ให้ประชาชนสามารถวิพากษ์และตรวจสอบการทางาน ตลอดจนให้ข้อมูล ท่ีเหมาะสม เพอ่ื ประชาชนสามารถใชเ้ ปน็ เครือ่ งมือในการตัดสนิ ใจ - รัฐธรรมนูญควรรองรับเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นและตรวจสอบการ ดาเนินการของหน่วยงานรัฐโดยไม่กระทบต่อการทางานของฝ่ายนิติบัญญัติบริหาร ศาลและองคก์ รตามรัฐธรรมนญู เกนิ ควร ความคาดหวัง กองอทุ ธรณ์ สานกั งาน ระบบการปกครองในระบอบประชาธิปไตย เป็นระบบการปกครองที่ให้โอกาส คณะกรรมการข้าราชการ ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมในการกาหนดอนาคตของประเทศ จึงเป็นระบบการ ตารวจ สานักงานตารวจ ปกครองที่เป็นที่นิยมของชาติรัฐเป็นจานวนมาก แต่เนื่องจากเดิมประเทศไทย แห่งชาติ (แบบสอบถามความ ปกครองในระบอบสมบูรณาญาสทิ ธริ าชย์ มพี ระมหากษัตริย์ทรงเป็นผนู้ าในการกอบ คิดเห็น) กู้เอกราชของชาติ ดังน้ัน เมื่อประเทศไทยเปลี่ยนแปลงการปกครองเป็นระบอบ ประชาธิปไตย โดยสภาพของสังคมไทยจึงควรเป็นระบบการปกครองแบบ ประชาธิปไตยในระบบรัฐสภา มีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขมีนายกรัฐมนตรี เป็นผูน้ าในการบรหิ ารประเทศ

๔๑๖ ประเดน็ ขอ้ คดิ เห็นและเสนอแนะ ทม่ี าของความเหน็ สภาพปญั หา เน่ืองจากระบบการเลือกตง้ั ของไทยในปัจจุบัน เป็นแบบ “จัดสรรปันส่วนผสม” ส่วนพรรคการเมืองส่วนใหญ่มิได้จัดต้ังข้ึนอันเนื่องมาจากการรวมกลุ่มของบุคคลผู้มี อุดมการณเ์ ดียวกัน หากแต่เปน็ พรรคการเมืองที่ได้รบั การสนับสนุนจากกลุ่มนายทุน ดังน้ัน การขับเคล่ือนอุดมการณ์ของพรรคการเมืองจึงเป็นไปตามวัตถุประสงค์ของ กลุ่มทุนท่ีสนับสนุน มิได้เกิดจากอุดมการณ์ทางการเมือง ประกอบกับรัฐธรรมนูญ แห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2560 บัญญัติให้สมาชิกวุฒิสภา (สว.) มีอานาจ ลงคะแนนเลือกนายกรัฐมนตรี ดังน้ัน กลุ่มทุนดังกล่าวย่อมทราบตั้งแต่ยังไม่มีการ เลือกต้ังแล้วว่าใครจะได้เป็นนายกรัฐมนตรี ซ่ึงขับกับหลักการด้านการปกครอง ในระบอบประชาธปิ ไตยอนั มพี ระมหากษัตริยท์ รงเป็นประมุข ขอ้ เสนอแนะ ๑. เห็นควรแก้ไขรัฐธรรมนูญเกี่ยวกับที่มาของ สว. หลักเกณฑ์การเลือกต้ัง สมาชิกสภาผ้แู ทนราษฎร ๒. เห็นควรปรับปรุงกฎหมาย ในการกระจายอานาจการปกครองส่วนภูมิภาค โดยให้มกี ารเลือกผวู้ ่าราชการจังหวดั ในจังหวดั ของตนเอง เพื่อการพัฒนาได้ตรงตาม ประสงค์ และเป็นระบบประชาธิปไตยท่ีแท้จริง บริหารงบจากภาษีท่ีได้มาจาก จงั หวัดของตน มาตรา...สภาผู้แทนราษฎรประกอบด้วยสมาชิกสองประเภทจานวนไม่เกินสีร่ ้อย เครอื ข่ายพสกนิกรไทย รวมใจ คน โดยประเภทท่ีหนึ่งเปน็ สมาชิกที่มาจากการเลอื กตั้งแบบแบ่งเขตเลือกตงั้ จานวน สามัคคี (แบบสอบถามความ สามร้อยยี่สิบสามคน ประเภทที่สองเป็นสมาชิกที่เลือกตั้งมาจากบุคคลท่ีไม่ได้เป็น คิดเหน็ ) สมาชกิ พรรคการเมืองจังหวดั ละหนง่ึ คนในคราวใดท่ีมกี ารเลือกต้ังที่มกี ารเพ่ิมลดของ จานวนจังหวัด ก็ให้คานวณสัดส่วนที่เหลือเป็นจานวนสมาชิกแบบแบ่งเขตตาม จานวนที่เหลือ ท้ังน้ีตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและการได้มาซง่ึ สมาชกิ วฒุ ิสภา

๔๑๗ ประเดน็ ขอ้ คดิ เห็นและเสนอแนะ ท่มี าของความเหน็ มาตรา..วฒุ ิสภาประกอบดว้ ยวฒุ ิสมาชิกจานวนสามร้อยย่ีสบิ คน โดยเป็นสมาชิก ที่มาจากการแต่งตั้งของพระมหากษัตริย์ตามพระราชอัธยาศัย จานวนสองร้อยคน และสมาชิกที่มาจากผู้แทนสาขาและกลุ่มอาชีพไม่เกินหน่ึงร้อยย่ีสิบคน ซ่ึงมาจาก การเลือกต้ังกันเอง ทั้งนี้ ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการ เลือกตั้งสมาชิกสภาผแู้ ทนราษฎรและการได้มาซ่ึงสมาชิกวุฒสิ ภา ภายใต้บังคับมาตรา... ในกรณีมีเหตุการณ์ใด ๆ ทาให้สมาชิกวุฒิสภามีจานวน น้อยกว่าร้อยละแปดสิบห้าของสมาชิกวุฒิสภา จะมีการประชุมวุฒิสภาไม่ได้ และ ต้องดาเนินการให้ได้มาซ่ึงสมาชิกวุฒิสภาตามที่กาหนดไว้ในวรรคหน่ึงภายในเก้าสิบ วันนับแต่วันที่มีเหตุการณ์ดังกล่าว และให้สมาชิกวุฒิสภาที่เข้ามาภายหลังอยู่ใน ตาแหนง่ เพียงเทา่ วาระที่เหลอื อยูข่ องสมาชิกวุฒสิ ภาทเี่ ข้ามาแทน มาตรา...ในกรณีทต่ี าแหน่งสมาชิกวฒุ สิ ภาว่างลงไม่ว่าด้วยเหตใุ ด ๆ และยังมไิ ด้มี การดาเนนิ การให้ได้มาซง่ึ สมาชิกวุฒิสภาแทนตาแหน่งท่ีวา่ ง ให้วฒุ สิ ภาประกอบดว้ ย สมาชกิ วุฒิสภาเท่าท่ีมอี ยู่ มาตรา..สมาชกิ วุฒิสภาตอ้ งมคี ุณสมบัติ ดังต่อไปน้ี ๑. มีสัญชาตไิ ทยโดยการเกิด ๒. มอี ายไุ มต่ ่ากว่าสามาสบิ ห้าปีบริบูรณใ์ นวันทม่ี พี ระบรมราชโองการแต่งตั้ง ๓. คุณสมบัติอื่นตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง สมาชกิ สภาผแู้ ทนราษฎรและการได้มาซง่ึ สมาชกิ วุฒิสภา มาตรา..ผูเ้ ปน็ สมาชิกวุฒสิ ภาต้องไมม่ ีลักษณะต้องห้าม ดงั ตอ่ ไปน้ี ๑. เป็นบุพาการี คู่สมรส หรือบุตรของผู้ดารงตาแหน่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร หรอื ผู้ดารงตาแหน่งทางการเมือง ๒. ดารงตาแหนง่ หรอื เคยดารงตาแหนง่ ในพรรคการเมอื งหรอื กล่มุ การเมือง หรือ ตาแหน่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ท้ังนี้ภายในระยะเวลาห้าปีก่อนวันที่เข้าดารง ตาแหนง่ สมาชิกวฒุ สิ ภา

๔๑๘ ประเดน็ ขอ้ คิดเห็นและเสนอแนะ ที่มาของความเห็น ๓. ดารงตาแหน่งหรือเคยดารงตาแหน่งในองค์กรตามรัฐธรรมนูญซึ่งมีหน้าที่ ตรวจสอบการใช้อานาจรัฐภายในระยะเวลาสองปีก่อนวันที่เข้าดารงตาแหน่งเป็น สมาชกิ วฒุ สิ ภา ๔. เป็นบุคคลต้องห้ามตามมาตรา... เป็นรัฐมนตรีหรือผู้ดารงตาแหน่งทาง การเมืองอ่ืนซ่ึงมิใช่สมาชิกสภาท้องถ่ินหรือผู้บริหารท้องถ่ินหรือเคยเป็นแต่พ้นจาก ตาแหน่งดังกล่าวมาแล้วยงั ไม่เกนิ ห้าปี มาตรา.. สมาชิกภาพของสมาชิกวุฒิสภาเร่ิมต้ังแต่วันที่มีพระบรมราชโองการ แตง่ ต้งั มกี าหนดคราวละหกปี ให้สมาชิกวุฒิสภาซึ่งสมาชิกภาพสิ้นสุดลงตามวาระ อยู่ในตาแหน่งเพ่ือปฏิบัติ หนา้ ท่ตี ่อไปจนกว่าจะมสี มาชกิ วุฒสิ ภาข้ึนใหม่ ในกรณีนี้ให้ประธานหรือรองประธาน วุฒิสภาซึง่ พ้นจากตาแหนง่ ตามวาระ ปฏิบัติหน้าที่ประธานหรือรองประธานวุฒสิ ภา ต่อไป จนถงึ วันที่มีพระบรมราชโองการแตง่ ต้ังสมาชิกวุฒิสภาชุดใหม่ และให้สมาชิก วุฒิสภาซ่งึ มอี ายุสงู สุดตามลาดบั ปฏบิ ัติหนา้ ทป่ี ระธานหรอื รองประธานวุฒสิ ภาแทน จนกว่าจะมกี ารเลอื กประธานหรอื รองประธานวฒุ ิสภาขน้ึ ใหม่ มาตรา...เมื่อวาระของสมาชิกวุฒิสภาสิ้นสุดลง พระมหากษัตริย์จะได้ทรงมีพระ บรมราชโองการตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง สมาชิกสภาผแู้ ทนราษฎรและการไดม้ าซงึ่ สมาชกิ วุฒสิ ภา ภายในหน่ึงรอ้ ยแปดสิบวัน นบั แตว่ นั ที่วาระของสมาชิกวุฒสิ ภาส้ินสดุ ลง การตราพระราชบญั ญตั แิ ละพระราชบัญญัตปิ ระกอบรัฐธรรมนญู มาตรา..ร่างพระราชบัญญัติใด พระมหากษัตริย์ไม่ทรงเห็นชอบด้วยและ พระราชทานคืนยังรัฐสภาหรือพ้นเก้าสิบวันแล้วมิได้พระราชทานคืนมา รัฐสภา จะต้องปรึกษาร่างพระราชบัญญัติน้ันใหม่ ถ้ารัฐสภามีมติยืนยันตามเดิมดว้ ยคะแนน เสียงไมน่ ้อยกว่าสองในสามของจานวนสมาชิกทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ของทั้งสองสภาแล้ว ให้นายกรัฐมนตรีนาร่างพระราชบัญญัตินั้นข้ึนทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายอีกครั้ง

๔๑๙ ประเดน็ ข้อคิดเหน็ และเสนอแนะ ที่มาของความเห็น หน่ึง เมื่อพระมหากษัตริย์มิได้ทรงลงพระปรมาภิไธยหรือมิได้พระราชทานคืนมา ภายในสามสิบวัน ร่างพระราชบัญญัติน้ันเป็นอันตกไป และไม่สามารถยกข้ึนมา พิจารณาในคณะรัฐมนตรี รัฐสภา ของชุดนนั้ ไดอ้ ีก ๑. หลักการคานวณจานวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรดูเหมือนจะไม่เป็นไปตาม พรรคประชาธปิ ตั ย์ เจตนารมณ์จากคะแนนเสียงของพี่น้องประชาชนอย่างแท้จริง มาตรา ๙๑ ของ (แบบสอบถามความคดิ เหน็ ) รัฐธรรมนูญปี ๒๕๖๐ ก็เป็นอีกมาตราหนึ่งท่ีจะต้องมีการแก้ไขเพ่ือให้มีถ้อยความที่ ชดั เจนมากขึ้น รวมถึงมาตรา ๙๘ (๓) ที่ได้กาหนดบุคคลผู้มีลักษณะต้องห้ามมิให้ใช้ สิทธิสมคั รรับเลือกตง้ั เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร คาว่าเปน็ เจ้าของหรือผู้ถอื หนุ้ ใน กจิ การหนงั สือพิมพ์ หรือสื่อมวลชนใด ๆ โดยหลักท่ีจริงแล้วควรประกอบกิจการนั้น อย่างแทจ้ ริงหรอื ไม่ อันนก้ี เ็ ปน็ ประเด็นสาคัญอกี เช่นกนั ๒. ระบบเลือกต้ังเป็นสาระสาคัญยิ่งยวด การกาหนดให้มีบัตรเลือกต้ังใบเดียว ก็ควรมีการแก้ไขให้ประชาชนได้มีสิทธิเลือกกาได้อีกหน่ึงบัตรท่ีสามารถเลือกพรรค การเมอื งได้ กจ็ ะตรงตามเจตนารมณ์ของพี่น้องประชาชนอยา่ งแทจ้ ริง ๓. ท่ีมาของวุฒิสภาไม่ว่าจะเป็นท่ีมาจากบทเฉพาะกาลจานวน ๒๕๐ คน ไม่ว่า จะเป็นท่ีมาจากบทท่ัวไปในมาตรา ๑๐๗ จานวน ๒๐๐ คน กระบวนการเข้าสู่ ตาแหน่งก็ต้องยอมรับว่าเป็นประเด็นที่หลายฝ่ายเกิดข้อถกเถียงอยู่มากเช่ นกัน ในส่วนของบทเฉพาะกาลสมาชิกวุฒิสภาจานวน ๒๕๐ คน แต่งต้ังของบุคคลเพียง คณะหนึง่ หรอื ที่มาจากบทท่วั ไปท่ีใหม้ ีการเลือกกันเองจากบุคคลในกลุม่ ผทู้ ่ีมีความรู้ อาชีพเฉพาะด้านกระบวนการในการแบง่ กล่มุ คดั กรองมีกระบวนการท่ีมิได้ยึดโยงกับ พี่น้องประชาชนอย่างแท้จริง ก็เป็นประเด็นปัญหาท่ีจะต้องนามาพิจารณาถกเถียง กันให้ตกผลึกว่า สมาชิกวุฒิสภาจะมีอานาจมาน้อยแค่ไหน ซึ่งขณะนี้ก็ต้องยอมรับ ความจริงว่าสมาชิกวุฒิสภาท่ีมาจากการแต่งต้ัง แต่มีสิทธิท่ีสาคัญในการเลือก

๔๒๐ ประเด็น ขอ้ คิดเหน็ และเสนอแนะ ที่มาของความเหน็ นายกรัฐมนตรี เป็นประเด็นท่ีท้าทายว่าจะให้ความสาคัญกับเสียงของพ่ีน้อง ประชาชนมากนอ้ ยขนาดไหน ๔. บคุ คลท่ีจะมาเป็นนายกรัฐมนตรีที่ให้สามารถเสนอช่ือบุคคลภายนอก ซงึ่ มิได้ ผา่ นกระบวนการเลือกต้ังของพ่นี ้องประชาชนข้นึ มาดารงตาแหนง่ นายกรัฐมนตรี