Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore tripitaka_02

tripitaka_02

Published by sadudees, 2017-01-10 01:15:33

Description: tripitaka_02

Search

Read the Text Version

พระวินัยปฎ ก มหาวิภังค เลม ๑ ภาค ๒ - หนา ที่ 1 พระวนิ ัยปฎก เลม ๑ ภาค ๒ มหาวภิ ังค ปฐมภาคขอนอบนอ มแดพระผมู ีพระภาคอรหนั ตสมั มาสัมพุทธเจาพระองคนั้น ทุตยิ ปาราชิกกัณฑ* เร่อื งพระธนิยะ กมุ ภการบตุ ร [ ๗๙ ] โดยสมัยนัน้ พระผมู ีพระภาคพุทธเจา ประทบั อยู ณ ภเู ขาคิชฌกูฏ เขตพระนครราชคฤห คร้งั น้ัน ภกิ ษุหลายรปู ซ่ึงเคยเหน็ กันเคยคบหากันมา ทํากุฎมี งุ บังดว ยหญา ณ เชงิ ภเู ขาอิสิคิลิแลวอยจู าํ พรรษา แมทา นพระธนยิ ะ กุมภการบุตร ก็ไดทํากฎุ ีมงุ บังดวยหญา แลวอยูจาํ พรรษา ครน้ัภิกษุเหลา นน้ั จาํ พรรษาโดยลวงไตรมาสแลว ไดร ื้อกฎุ ีมุงดว ยหญา เก็บหญาและตวั ไมไ ว แลวหลีกไปสจู าริกในชนบท สว นทานพระธนยิ ะ กุมภการบุตรอยู ณ ท่ีนนั้ เอง ตลอดฤดูฝน ฤดหู นาว และฤดรู อน ขณะเม่ือทา นพระธนิยะ กมุ ภการบุตร เขาไปบานเพอ่ื บณิ ฑบาต คนหาบหญา คนหาฟนไดรอ้ื กฎุ ีบงั ดวยหญาเสีย แลว ขนหญา และตวั ไมไ ป. แมครัง้ ท่ีสอง ทา นพระธนยิ ะ กุมภการบุตร ไดเทยี่ วหาหญา และไมมาทํากฎุ ีมงุ บงั ดว ยหญา อกี เมือ่ ทานพระธนิยะ กุมภการบุตร เขาไปบา น* พระวนิ ัยปฎก มหาวิภังค ปฐมภาค หนา ๗๖.

พระวนิ ัยปฎก มหาวิภังค เลม ๑ ภาค ๒ - หนาท่ี 2เพอ่ื บิณฑบาต แมค ร้งั ทสี่ อง คนหาบหญา คนหาฟน กไ็ ดร้ือกฎุ มี งุ บังดวยหญา เสยี แลวขนหญา และตวั ไมไป. แมค ร้งั ทส่ี าม ทา นพระธนยิ ะ กุมภการบตุ ร ก็ไดเที่ยวหาหญาและไมม าทํากุฎีมุงบงั ดว ยหญา อกี เมือ่ ทานพระธนยิ ะ กุมภการบตุ ร เขาไปบานเพือ่ บิณฑบาต แมคร้ังทีส่ าม คนหาบหญา คนหาฟน ก็ไดรือ้ กฎุ มี งุ บังดว ยหญา เสีย แลว ขนหญาและตัวไมไ ปอกี . หลังจากน้นั ทานพระธนยิ ะ กมุ ภการบตุ ร ไดม ีความคิดวา เมือ่เราเขา ไปบานเพื่อบณิ ฑบาต คนหาบหญา คนหาฟน ไดรอื้ กฎุ ีมงุ บังดว ยหญาเสยี แลว ขนหญา และตวั ไมไ ปถงึ สามคร้ังแลว กเ็ ราน่แี หละ เปน ผูไดศ กึ ษามาดีแลวไมบกพรอ งเปนผูสําเรจ็ ศิลปะในการชางหมอ เสมอดวยอาจารยของตนผฉิ ะน้ัน เราพึงขยําโคลนทํากฎุ ีสําเรจ็ ดวยดนิ ลวนเสียเอง จึงทา นพระธนิยะกมุ ภการบุตร ขยําโคลนทํากุฎีสาํ เร็จดวยดนิ ลวน ดว ยตนเอง แลว รวบรวมหญา ไมและโคมัยมาเผากุฎีนั้น กฎุ ีนน้ั งดงาม นาดู นา ชม มสี ีแดงเหมอื นแมลงคอ มทอง มเี สยี งเหมือนเสยี งกระดึง. ครัง้ นน้ั พระผูมีพระภาคเจา เสด็จลงจากภูเขาคชิ ฌกูฏพรอมดวยภกิ ษุเปน อันมาก ทอดพระเนตรเหน็ กฎุ นี ั้นงดงามนาดูนาชมมสี ีแดง ครงั้ แลวจึงตรสั ถามภกิ ษทุ ั้งหลายวา ดูกอ นภกิ ษุท้ังหลาย น่นั อะไร งดงาม นา ดูนาชม มสี แี ดงเหมอื นแมลงคอมทอง คร้นั ภิกษเุ หลานน้ั กราบทลู ใหทรงทราบแลว พระพทุ ธองคทรงติเตียนวา ดูกอนภกิ ษทุ งั้ หลาย การกระทําของโมฆบุรุษน้ัน ไมเ หมาะ ไมสม ไมค วร มิใชก จิ ของสมณะ ใชไมได ไมควรทาํไฉนโมฆบุรุษนัน้ จึงไดขยําโคลนทาํ กุฎสี าํ เรจ็ ดว ยดนิ ลวน ดวยตนเองเลาดูกอ นภกิ ษทุ ้งั หลาย ความเอน็ ดู ความอนุเคราะหความไมเบยี ดเบียนหมสู ตั ว

พระวินยั ปฎก มหาวภิ งั ค เลม ๑ ภาค ๒ - หนา ท่ี 3มไิ ดมแี กโ มฆบรุ ษุ น้ันเลย พวกเธอจงไปทาํ ลายกฎุ นี ัน้ พวกเพ่ือนพรหมจารีช้นั หลัง อยา ถึงความเบียดเบียนหมูสัตวเ ลย อนั ภกิ ษไุ มค วรทํากุฎีที่สาํ เร็จดวยดนิ ลว น ภิกษใุ ดทาํ ตอ งอาบตั ทิ ุกกฎ. ภกิ ษเุ หลาน้นั รับพระพทุ ธาณตั ิแลว พากันไปทกี่ ฎุ นี ัน้ คร้ันถงึ แลวไดทําลายกุฎนี น้ั เสีย ทา นพระธนยิ ะ กมุ ภการบุตร จึงถามภกิ ษเุ หลา น้ันวาอาวโุ ส พวกทา นทําลายกฎุ ขี องผม เพอ่ื อะไร. ภ.ิ พระผมู ีพระภาคเจารบั ส่งั ใหท ําลาย ขอรับ. ธ. ทาํ ลายเถดิ ขอรับ ถาพระผูมีพระภาคเจาผูธรรมสามีรบั ส่งั ใหทาํ ลาย. [๘๐] กาลตอมา ความดําริน้ีไดม แี กทา นพระธนยิ ะ กมุ ภการบุตรวาเมือ่ เราเขา ไปบา นเพอื่ บิณฑบาต คนหาบหญา คนหาฟน ไดรอ้ื กุฎีมงุ บงัดวยหญา เสีย แลว ขนหญาและตวั ไมไปถงึ สามครง้ั แลว แมก ุฎีดินลวนทเ่ี ราทาํ ไวน ้ัน พระผมู ีพระภาคเจากร็ ับสัง่ ใหทาํ ลายเสีย กเ็ จาพนกั งานรักษาไมที่ชอบพอกบั เรามอี ยู ไฉนหนอเราพงึ ขอไมต อเจา พนกั งานรกั ษาไมมาทาํ กุฎีไมจึงทานพระธนยิ ะ กุมภการบตุ ร เขา ไปหาเจา พนักงานรักษาไม ครัน้ แลวไดบอกเรอ่ื งนี้ตอเจา พนกั งานรกั ษาไมว า ขอเจรญิ พร เมอ่ื อาตมาเขา ไปบานเพอ่ืบณิ ฑบาต คนหาบหญา คนหาฟน ไดร ือ้ กฎุ มี งุ บงั ดว ยหญา เสยี แลวขนหญาและตัวไมไ ปถงึ สามคร้ัง แมกฎุ ีดินลวนทอี่ าตมาทาํ ไวนน้ั พระผมู พี ระภาคเจาก็รบั ส่งั ใหทาํ ลายเสียแลว ขอทานจงใหไมแ กอาตมา ๆ ประสงคจ ะทํากฎุ ไี ม จ. ไมท ี่กระผมจะพึงถวายแกพ ระผูเปนเจาไดน้นั ไมม ี ขอรบั มแี ตไมข องหลวงทีส่ งวนไวส าํ หรับซอ มแปลงพระนคร ซ่ึงเกบ็ ไวเ พ่อื ใชในคราวมีอันตราย ถาพระเจาแผนดนิ รบั ส่ังใหพ ระราชทานไมเ หลานน้ั ขอทา นจงใหคนขนไปเถดิ ขอรับ.

พระวนิ ัยปฎ ก มหาวภิ ังค เลม ๑ ภาค ๒ - หนา ที่ 4 ธ. ขอเจริญพร ไมเ หลานั้น พระเจาแผน ดนิ พระราชทานแลว . ลําดบั นนั้ เจา พนักงานรักษาไมค ดิ วา พระสมณะเช้อื สายพระศากย-บตุ รเหลา น้ีแล เปนผูประพฤตธิ รรม ประพฤตสิ งบ ประพฤตพิ รหมจรรยกลา วคําสตั ย มศี ีล มกี ัลยาณธรรม แมพระเจา แผน ดนิ กท็ รงเลือ่ มใสในพระสมณะเหลา นี้ยิง่ นักทา นพระธนยิ ะนย้ี อมไมบ งั อาจเพ่ือจะกลาวถึงสง่ิ ของที่พระเจาแผน ดินยังไมไดพระราชทาน วา พระราชแลว จึงไดเรยี นตอทา นพระธนยิ ะ กมุ ภการบตุ รวา นิมนตใหคนขนไปเถดิ ขอรบั จงึ ทานพระธนิยะกมุ ภการบตุ ร ส่ังใหตัดไมเ หลาน้นั เปนทอนนอยทอ นใหญบรรทุกเกวยี นไปทํากฎุ ีแลว . วสั สการพราหมณตรวจราชการ [๘๑] ตอ จากนัน้ วัสสการพราหมณ มหาอาํ มาตยใ นมคธรฐั ไปตรวจราชการในกรุงราชคฤห ไดเ ขาไปหาเจา พนกั งานรกั ษาไม คร้นั แลว ไดพูดถงึเร่อื งน้ี ตอเจาพนกั งานรกั ษาไมวา พนาย ไมข องหลวงทสี่ งวนไวสําหรับซอมพระนคร ซึ่งเกบ็ ไวเพอื่ ใชในคราวมีอันตรายเหลา นั้น อยู ณ ที่ไหน. เจา พนักงานรักษาไมเรยี นวา ใตเ ทาขอรับ ไมเหลา นัน้ พระเจา-แผนดนิ ไดพ ระราชทานแกท านพระธนิยะ กมุ ภการบตุ ร ไปแลว . ทันใดน้ัน วัสสการพราหมณมหาอาํ มาตยใ นมคธรฐั เกดิ ความไมพอใจวา ไฉนพระเจา แผนดนิ จึงไดพ ระราชทานไมของหลวงที่สงวนไวสําหรบัซอ มแปลงพระนคร ซง่ึ เก็บไวเพือ่ ใชใ นคราวมีอนั ตราย แกพระธนยิ ะกมุ ภการบตุ รไปเลา จึงเขา เฝาพระเจาพมิ พิสารจอมเสนามาคธราช กราบทูลวาไดทราบเกลาวา ไมของหลวงทีส่ งวนไวสาํ หรับซอ มแปลงพระนคร ซงึ่ เก็บไว

พระวนิ ัยปฎก มหาวิภังค เลม ๑ ภาค ๒ - หนา ท่ี 5เพื่อใชใ นคราวมีอนั ตราย พระองคพ ระราชทานแกธ นิยะ กุมภาการบตุ รไปแลว จรงิ หรอื พระพุทธเจา ขา. พระเจา พมิ พสิ ารตรสั ถามวา ใครพูดอยา งนัน้ . ว. เจา พนกั งานรักษาไมพ ูด พระพทุ ธเจา ขา พ. พราหมณ ถา เชน นั้น ทา นจงใหค นไปนําเจาพนกั งานรักษาไมมา. จึงวสั สการพราหมณ มหาอํามาตยในมคธรฐั สงั่ ใหเจาหนาท่ีจองจําเจาพนกั งานรักษาไมน าํ มา. [๘๒] ทานพระธนิยะ กุมภการบุตรไดเห็นเจาพนกั งานรกั ษาไมถกูเจาหนาท่จี องจาํ นําไป จงึ ไตถ ามเจาพนกั งานรกั ษาไมว า เจรญิ พร ทา นถูกเจา หนา ทจ่ี องจํานําไป ดวยเรอ่ื งอะไร. เจาพนักงานรกั ษาไมต อบวา เร่อื งไมเหลานน้ั ขอรบั . ธ. ไปเถดิ ทาน แมอ าตมากจ็ ะไป. จ. ใตเทา ควรไป ขอรับ กอ นทก่ี ระผมจะถูกประหาร. จงึ ทานพระธนิยะ กุมภการบตุ ร ไดเ ขา ไปสูพระราชนิเวศนของพระเจา พิมพิสารจอมเสนามาคธราช ครัน้ ถงึ แลว นัง่ เหนืออาสนะทเ่ี ขาจัดถวายขณะนนั้ พระเจา พิมพิสารจอมเสนามาคธราช เสดจ็ เขาไปหาทานพระธนิยะกุมภการบตุ รทรงอภวิ าทแลว ประทบั นง่ั ณ ท่สี มควรสว นขา งหน่งึ ตรสั ถามทานพระธนิยะ กมุ ภการบุตรถึงเรอ่ื งไมน้ันวา ขาแตพระคณุ เจา ทราบวาไมของหลวงทีส่ งวนไวสาํ หรบั ซอมแปลงพระนคร ซงึ่ เขาเก็บไวเพอื่ ใชในคราวมีอันตราย โยมไดถ วายแกพ ระคณุ เจา จริงหรือ. ธ. จรงิ อยา งนน้ั ขอถวายพระพร.

พระวนิ ยั ปฎก มหาวภิ งั ค เลม ๑ ภาค ๒ - หนา ท่ี 6 พ. ขา แตพ ระคณุ เจา โยมเปนพระเจาแผนดิน มีกิจมาก มกี รณียะมาก แมถวายแลว กร็ ะลกึ ไมไ ด ขอพระคุณเจา โปรดเตอื นใหโยมระลกึ ได. ธ. ขอถวายพระพร พระองคท รงระลกึ ไดไหม ครง้ั พระองคเ สด็จเถลิงถวัลยราชยใ หม ๆ ไดทรงเปลง พระวาจาเชน นวี้ า หญา ไม และนาํ้ขา พเจาถวายแลว แกส มณะและพราหมณท งั้ หลาย ขอสมณะและพราหมณทั้งหลายโปรดใชสอยเถิด พ. ขาแตพระคุณเจา โยมระลึกได สมณะและพราหมณทั้งหลายท่ีเปน ผมู ีความละอาย มคี วามรังเกียจ ใครต อสิกขา มอี ยู ความรงั เกียจแมในเหตุเล็กนอยจะเกดิ แกสมณะและพราหมณเหลานั้น คําทก่ี ลาวนนั้ โยมหมายถึงการนําหญาไมแ ละน้ําของสมณะและพราหมณเ หลานัน้ แตว าหญา ไมแ ละนาํ้ น้ันแลอยูในปา ไมมใี ครหวงแหน พระคณุ เจานั้น ยอมสาํ คญั เพอื่ จะนําไมที่เขาไมไดใ หไ ปดวยเลศนั้น พระเจาแผนดนิ เชนโยม จะพึงฆา จองจาํ หรือเนรเทศซงึ่ สมณะหรอื พราหมณอยางไรได นิมนตก ลบั ไปเถดิ พระคณุ เจา ๆ รอดตัวเพราะบรรพชาเพศแลว แตอยา ไดท ําอยางนนั้ อกี ประชาชนเพงโทษติเตียนโพนทะนา [๘๓] คนทงั้ หลาย พากันเพงโทษวา พระสมณะเชอ้ื สายพระ-ศากยบตุ รเหลาน้ี ไมล ะอาย ทุศลี พดู เท็จ พระสมณะเหลา นยี้ งั ปฏิญาณวาเปนผปู ระพฤตธิ รรม ประพฤติสงบ ประพฤติพรหมจรรย กลา วคําสัตย มีศีลมีกัลยาณธรรมตเิ ตยี นวา ความเปนสมณะยอมไมมแี กพ ระสมณะเหลานี้ ความเปน พราหมณย อมไมม แี กพระสมณะเหลา น้ี ความเปนสมณะของพระสมณะเหลานี้ เสอ่ื มแลว ความเปนพราหมณของพระสมณะเหลาน้ี เสอ่ื มแลว ความเปน สมณะของพระสมณะเหลานี้ จะมีแตไหน ความเปนพราหมณข องพระ-

พระวนิ ยั ปฎ ก มหาวภิ งั ค เลม ๑ ภาค ๒ - หนา ที่ 7สมณะเหลา นี้ จะมแี ตไ หน พระสมณะเหลา น้ปี ราศจากความเปน สมณะแลวพระสมณะเหลา น้ีปราศจากความเปนพราหมณแ ลว แมพระเจาแผน ดนิ พระ-สมณะเหลาน้ียังหลอกลวงได ไฉนจกั ไมห ลอกลวงคนอื่นเลา. ภิกษุทั้งหลายไดฟงคนเหลา นนั้ เพงโทษ ตเิ ตยี น โพนทะนาอยู บรรดาทเ่ี ปน ผูมักนอ ย สันโดษมีความละอาย มีความรงั เกยี จ ใครตอ สกิ ขาตา งกเ็ พง โทษ ตเิ ตยี น โพนทะนาวา ไฉนทานพระธนยิ ะ กุมภการบตุ ร จงึ ไดถ ือเอาไมของหลวงท่ีเขาไมไดใ หไ ปแลวกราบทลู เรื่องน้นั แดพ ระผมู ีพระภาคเจา. ประชุมสงฆทรงบญั ญตั สิ กิ ขาบท ลาํ ดับนนั้ พระผูมพี ระภาคเจารับสั่งใหป ระชมุ ภิกษุสงฆ ในเพราะเหตุเปนมลู เคา น้นั ในเพราะเหตุแรกเกดิ นน้ั แลว ทรงสอบถามทานพระธนิยะ กุมภ-การบตุ รวา ดกู อ นธนิยะ ขาววา เธอไดถ ือเอาไมข องหลวงทเี่ ขาไมไ ดใ หไปจรงิ หรือ ทา นพระธนยิ ะทลู รับวา จริง พระพุทธเจา พระผมู ีพระภาคพุทธเจาทรงตเิ ตียนวา ดกู อนโมฆบุรษุ การกระทําของเธอน่นั ไมเ หมาะ ไมส ม ไมค วร มใิ ชกิจของสมณะ ใชไมไ ด ไมควรทําไฉนเธอจึงไดถ ือเอาไมข องหลวงที่เขาไมไดใหไ ปเลา การกระทําของเธอนัน่ไมเปนไปเพอ่ื ความเลื่อมใสของชุมชนทีย่ ังไมเล่ือมใสหรือเพอื่ ความเลอื่ มใสย่งิของผูเ ล่ือมใสแลว โดยทแ่ี ทการกระทําของเธอนน่ั เปนไปเพอ่ื ความไมเลอ่ื มใสของผูทยี่ ังไมเ ลอื่ มใส และเพ่ือความเปนอยา งอ่นื ของคนบางพวกท่เี ลอื่ มใสแลว

พระวินัยปฎ ก มหาวิภังค เลม ๑ ภาค ๒ - หนาท่ี 8 กส็ มัยน้ันแล มหาอํามาตยผพู ิพากษาเกา คนหนึ่งบวชในหมูภิกษุ นง่ัอยไู มห า งพระผูม พี ระภาคเจา จึงพระองคไ ดต รัสพระวาจาน้ีตอภกิ ษรุ ูปนั้นวาดกู อ นภกิ ษุ พระเจา พมิ พสิ ารจอมเสนามาคธราชจับโจรไดแลว ประหารชวี ติเสยี บา ง จองจําไวบ าง เนรเทศเสียบาง เพราะทรัพยป ระมาณเทา ไรหนอ ภิกษุรูปน้ันกราบทูลวา เพราะทรพั ยบ าทหนงึ่ บาง เพราะของควรคาบาทหน่งึ บา ง เกนิ บาทหน่งึ บา ง พระพทุ ธเจา ขา แทจรงิ สมยั น้นั ทรัพย ๕ มาสกในกรุงราชคฤห เปนหน่งึ บาท ครน้ั พระผมู พี ระภาคเจาทรงติเตียนทา นพระธนิยะ กุมภการบุตร โดยอเนกปรยิ ายแลวจงึ ตรัสโทษแหง ความเปนคนเลีย้ งยาก ความเปน คนบาํ รุงยากความเปนคนมกั มาก ความเปนคนไมสนั โดษ ความคลกุ คลี ความเกยี จครานตรสั คุณแหงความเปนคนเล้ยี งงา ย ความเปน คนบาํ รุงงา ย ความมกั นอ ย ความสันโดด ความขดั เกลา ความกําจดั อาการทน่ี า เลอื่ มใส การไมสะสมการปรารภความเพียร โดยอเนกปรยิ าย แลวทรงกระทาํ ธรรมีกถา ทสี่ มควรแกเรือ่ งนั้น ท่เี หมาะสมแกเรื่องน้ัน แกภ ิกษุท้งั หลาย แลว รบั สง่ั กะภกิ ษุท้ังหลายวา ดกู อ นภกิ ษุท้ังหลาย เพราะเหตุนัน้ แล เราจกั บญั ญตั สิ ิกขาบทแกภ กิ ษุทง้ั หลาย อาศัยอาํ นาจประโยชน ๑๐ ประการ คอื เพ่อื ความรบั วา ดีแหงสงฆ ๑เพ่ือความสําราญแหง สงฆ ๑ เพ่อื ขมบคุ คลผูเกอ ยาก ๑ เพอ่ื อยสู ําราญแหง ภกิ ษุผมู ีศีลเปนท่ีรกั ๑ เพอ่ื ปองกนั อาสวะอนั จะบังเกดิ ในปจ จุบนั ๑ เพอื่ กาํ จดัอาสวะอันจักบังเกิดในอนาคต ๑ เพ่ือความเลอื่ มใสของชุมชนทย่ี ังไมเ ล่อื มใส ๑เพอื่ ความเลือ่ มใสย่งิ ของชุมชนทีเ่ ลื่อมใสแลว ๑ เพ่ือความตัง้ ม่ันแหง พระสัท-ธรรม ๑ เพ่ือถอื ตามพระวนิ ยั ๑

พระวนิ ยั ปฎ ก มหาวิภงั ค เลม ๑ ภาค ๒ - หนาที่ 9 ดูกอ นภิกษทุ ง้ั หลาย กแ็ ลพวกเธอพงึ ยกสกิ ขาบทนีข้ น้ึ แสดงอยา งน้ีวา ดงั น้ี พระปฐมบัญญตั ิ ๒. อนง่ึ ภิกษุใด ถือเอาทรพั ยอนั เจาของไมไดใ ห ดวยสว นแหงความเปนขโมย พระราชาทั้งหลาย จบั โจรไดแลวพึงประ -หารเสียบาง จองจําไวบาง เนรเทศเสียบา ง ดว ยบริภาษวา เจาเปนโจร เจา เปน คนพาล เจาเปนคนหลง เจาเปนขโมย ในเพราะถือเอาทรพั ยอนั เจา ของไมไ ดใ หเ หน็ ปานใด ภิกษุถอื เอาทรัพยอันเจาของไมไดใ หเ ห็นปานนนั้ แมภิกษุน้ี กเ็ ปน ปาราชิก หาสังวาสมไิ ด. ก็สิกขาบทนี้ ยอ มเปน อนั พระผมู ีพระภาคเจาทรงบญั ญตั ิแลว แกภิกษุทง้ั หลาย ดว ยประการฉะน.ี้ เร่ืองพระธนิยะ กุมภการบตุ ร จบ เรอ่ื งพระฉัพพคั คีย [๘๔] กโ็ ดยสมัยนนั้ แล พระฉพั พัคคียช วนกันไปสูล านตากผา ของชางยอม ไดล ักหอ ผาของชางยอม นาํ มาสอู ารามแลว แบงปนกัน ภกิ ษทุ ง้ั หลายพูดขึน้ อยางนวี้ า ทา นทง้ั หลาย พวกทานเปนผูมีบญุ มาก เพราะผา เกิดแกพวกทานมาก. ฉ. ทานท้ังหลาย บุญของพวกผมจักมีแตไหน พวกผมไปสลู านตากผาของชางยอม แลว ไดลกั หอ ผา ของชางยอมมาเด๋ียวน้.ี

พระวินัยปฎ ก มหาวภิ ังค เลม ๑ ภาค ๒ - หนา ท่ี 10 ภิ. พระผมู พี ระภาคเจาทรงบัญญัตสิ กิ ขาบทไวแลวมใิ ชหรอื เหตุไรพวกทานจึงไดลักหอผาของชางยอ มมา. ฉ. จรงิ ขอรบั พระผูมพี ระภาคเจา ทรงบญั ญัติสกิ ขาบทไวแ ลว แตสกิ ขาบทน้ันแล พระองคทรงบัญญตั เิ ฉพาะในเขตบา น มิไดทรงบญั ญตั ไิ ปถงึในปา . ภิ. ทานทง้ั หลาย พระบญั ญัตนิ ้นั ยอ มเปนไดเ หมือนกนั ทั้งน้ันมใิ ชหรอื การกระทําของพวกทานนั้นไมเ หมาะ ไมสม ไมค วร มิใชก ิจของสมณะใชไ มได ไมค วรทํา ไฉนพวกทา นจงึ ไดล กั หอ ผาของชางยอ มมาเลา การกระทาํ ของพวกทานน้นั ไมเปนไปเพ่ือความเลอ่ื มใสของชุมชนทีย่ งั ไมเลอื่ มใสหรอื เพอ่ื ความเลอื่ มใสย่ิงของผทู ีเ่ ล่ือมใสแลว โดยทีแ่ ท การกระทาํ ของพวกทานนน่ั เปน ไปเพอ่ื ความไมเล่อื ม ใสของชมุ ชนทีย่ งั ไมเลอ่ื มใส และเพ่ือความเปนอยางอน่ื ของชนบางพวกทเี่ ลอ่ื มใสแลว คร้นั ภิกษุเหลา น้ัน ติเตยี นพระ -ฉัพพัคคยี โดยอเนกปริยายแลวไดกราบทลู เนื้อความนั้นแดพ ระผมู พี ระภาคเจา ประชมุ สงฆท างบญั ญตั ิอนบุ ญั ญตั ิ ลาํ ดับนน้ั พระผูมพี ระภาคเจารับสัง่ ใหประชมุ ภกิ ษุสงฆ ในเพราะเหตเุ ปน มลู เคา นัน้ ในเพราะเหตุแรกเกิดนน้ั แลวทรงสอบถามพระฉพั พัคคียวา ดูกอนภกิ ษทุ ั้งหลาย ขา ววา พวกเธอไปสลู านตากผา ชางยอม แลวลกั หอผา ของชางยอ มมา จรงิ หรอื . พระฉพั พัคคยี ท ูลรบั วา จริง พระพุทธเจา ขา . พระผูม พี ระภาคพุทธเจา ทรงตเิ ตยี นวา ดูกอ นโมฆบุรุษทงั้ หลาย การกระทาํ ของพวกเธอนั่น ไมเหมาะ ไมส ม ไมค วร มิใชกจิ ของสมณะ ใชไมไ ด

พระวนิ ัยปฎ ก มหาวิภังค เลม ๑ ภาค ๒ - หนา ท่ี 11ไมค วรทํา ไฉนพวกเธอจึงไดล ักหอผาของชางยอ มมาเลา การกระทําของพวกเธอนนั่ ไมเ ปนไปเพอื่ ความเล่อื มใสของชุมชนทยี่ ังไมเลือ่ มใส หรอื เพอ่ื ความเลอื่ มใสย่ิงของชุมชนทเี่ ล่ือมใสแลว โดยทีแ่ ท การกระทาํ ของพวกเธอนั่นเปน ไปเพื่อความไมเ ลือ่ มใสของชุมชนทีย่ งั ไมเ ลื่อมใสและเพอื่ ความเปนอยา งอนื่ของคนบางพวกทเี่ ล่ือมใสแลว ครน้ั ทรงติเตียนพระฉัพพัคคยี โ ดยอเนกปริยายแลว จงึ ตรสั โทษแหง ความเปน คนเลยี้ งยาก ความเปนคนบาํ รงุ ยาก ความเปน คนมกั มาก ความเปน คนไมสันโดษ ความคลุกคลี ความเกยี จครานตรัสคณุ แหงความเปน คนเลีย้ งงา ย ความเปน คนบํารุงงา ย ความมักนอ ย ความสนั โดษ ความขดั เกลา ความกําจดั อาการที่นา เล่อื มใส การไมส ะสม การปรารภความเพียรโดยอเนกปริยาย ทรงกระทาํ ธรรมกี ถาท่ีสมควรแกเ ร่อื งนน้ัทเี่ หมาะสมแกเ รอื่ งนนั้ แกภ ิกษทุ งั้ หลาย แลวรบั ส่งั กะภกิ ษุท้ังหลายวา ดูกอ นภกิ ษทุ ัง้ หลาย เพราะเหตนุ นั้ แล เราจกั บัญญตั สิ ิกขาบทแกภกิ ษุท้งั หลาย อาศัยอํานาจประโยชน ๑๐ ประการ คอื เพื่อความรบั วา ดแี หงสงฆ ๑เพอ่ื ความสาํ ราญแหงสงฆ ๑ เพือ่ ขม บุคคลผูเกอยาก ๑ เพ่อื อยูส ําราญแหงภกิ ษุผูมีศลี เปน ทีร่ กั ๑ เพอื่ ปอ งกนั อาสวะอนั จะบงั เกิดในปจ จุบนั ๑ เพอ่ื กาํ จดัอาสวะอนั จักบังเกิดในอนาคต ๑ เพือ่ ความเลือ่ มใสของชุมชนทยี่ ังไมเลื่อมใส ๑เพ่ือความเลอ่ื มใสย่ิงของชุมชนท่ีเล่ือมใสแลว ๑ เพื่อความต้ังมน่ั แหง พระสทั -ธรรม ๑ เพ่ือถือตามพระวนิ ัย ๑. ดูกอนภิกษุทั้งหลาย ก็แลพวกเธอพึงยกสิกขาบทนข้ี ึ้นแสดงอยางนี้วาดังนี้ :-

พระวินัยปฎก มหาวภิ งั ค เลม ๑ ภาค ๒ - หนา ท่ี 12 พระอนุบัญญตั ิ ๒. ก. อนง่ึ ภิกษใุ ด ถือเอาทรัพยอ ันเจาของไมไดใ หด วยสว นแหง ความเปน ขโมย จากบา นกด็ ี จากปาก็ดี พระราชาท้ังหลายจับโจรไดแลว ประหารเสียบา ง จองจาํ ไวบ าง เนรเทศเสียบางดวยบรภิ าษวา เจา เปน โจร เจา เปนคนพาล เจา เปน คนหลง เจาเปนขโมย ดงั นี้ ในเพราะถือเอาทรพั ยอนั เจา ของไมไ ดใ หเ ห็นปานใดภกิ ษุถือเอาทรัพยอ ันเจา ของไมไดใ หเ ห็นปานนั้น แมภ กิ ษุน้ี กเ็ ปนปาราชกิ หาสงั วาสมิได. เร่ืองพระฉัพพคั คีย จบ สิกขาบทวิภังค [๘๕] บทวา อนึง่ ... ใด ความวา ผใู ด คือ ผูเชนใด มีการงานอยางใด มชี าติอยา งใด มีช่ืออยางใด มีโคตรอยางใด มปี กตอิ ยางใด มีธรรมเคร่ืองอยูอยางใด มีอารมณอยางใด เปนเถระกต็ าม เปน นวกะก็ตาม เปนมชั ฌมิ ะกต็ าม นพ้ี ระผูมีพระภาคเจาตรัสวา อนึ่ง ... ใด. บทวา ภกิ ษุ ความวา ทช่ี อื่ วา ภกิ ษุ เพราะอรรถวา เปน ผขู อชอื่ วา ภกิ ษุ เพราะอรรถวาประพฤติภิกขาจรยวตั ร ช่ือวา ภิกษุ เพราะอรรถวา ทรงผืนผาทีถ่ ูกทาํ ลายแลว ชื่อวา ภิกษุ โดยสมญา ชื่อวา ภิกษุโดยปฏญิ ญา ชอ่ื วา ภิกษุ เพราะอรรถวาเปนเอหิภิกษุ ชือ่ วา ภกิ ษุ เพราะอรรถวา เปนผูเจรญิ ชือ่ วา ภิกษุ เพราะอรรถวามีสารธรรม ชอ่ื วา ภกิ ษุเพราะอรรถวา เปนพระเสขะ ชือ่ วา ภกิ ษุ เพราะอรรถวา เปนพระอเสขะ

พระวินยั ปฎก มหาวิภังค เลม ๑ ภาค ๒ - หนาที่ 13ชือ่ วา ภกิ ษุ เพราะอรรถวา เปน ผูอ ันสงฆพ รอ มเพรยี งกันใหอปุ สมบทแลวดว ยญตั ติจตตุ ถกรรม อันไมก ําเริบ ควรแกฐานะ บรรดาผทู ่ีชอ่ื วา ภิกษุเหลา นั้น ภกิ ษุน้ใี ด ทีส่ งฆพรอ มเพรียงกันใหอปุ สมบทแลว ดวยญัตตจิ ตุตถ-กรรม อันไมกําเริบ ควรแกฐานะ ภกิ ษนุ ี้ พระผูมีพระภาคเจาทรงประสงควา ภกิ ษุ ในอรรถน้ี ประเทศทีช่ อ่ื วา บา น มอี ธิบายวา บานมีกระทอมหลงั เดยี วก็ดี มีกระทอ ม ๒ หลงั กด็ ี มีกระทอม ๓ หลงั ก็ดี มีกระทอม ๔ หลงั กด็ ี มคี นอยูกด็ ี ไมม คี นอยูดี แมท ีเ่ ขาลอมไวก็ดี แมท ่ีเขาไมไ ดล อมไวกด็ ี แมท่เี ขาสรางดจุ เปนที่โคจอ มเปน ตนก็ดี แมห มเู กวียนหรือตางท่อี าศยั อยเู กิน ๔ เดือนกด็ ี พระผูมีพระภาคเจาตรสั วา บา น. ที่ชอ่ื วา อุปจารบาน กําหนดเอาท่ี ซงึ่ บุรุษขนาดกลาง ผยู นื อยูณ เสาเข่อื นแหงบานท่ลี อม โยนกอนดินไปตก หรอื กาํ หนดเอาทซ่ี ่งึ บุรุษขนาดกลาง ผยู ืนอยู ณ อุปจารเรอื นแหง บา นทไี่ มไดล อ ม โยนกอ นดินไปตก. ทีช่ อ่ื วา ปา มีอธบิ ายวาสถานทท่ี เี่ วน บา นและอปุ จารบาน นอกนั้นชอ่ื วา ปา . ทช่ี ื่อวา ทรพั ยอนั เจาของไมไดให มอี ธิบายวา ทรัพยใ ดอนั เจาของไมไ ดให ไมไ ดล ะวาง ยังรักษาปกครองอยู ยังถอื กรรมสทิ ธ์อิ ยวู า เปนของเรา ยงั มผี อู ื่นหวงแหน ทรัพยน ้นั ชื่อวา ทรพั ยอ ันเจา ของไมไ ดใ ห. บทวา ดวยสวนแหง ความเปนขโมย ไดแก มีจิตคิดขโมย คอืมีจติ คดิ ลกั . [๘๖] บทวา ถือเอา คอื ยดึ เอา เอาไป เอาลง ยงั อริยาบทใหกําเรบิ ใหเคลื่อนจากฐาน ใหล วงเลยเขตหมาย.

พระวนิ ยั ปฎก มหาวภิ ังค เลม ๑ ภาค ๒ - หนาท่ี 14 [๘๗] ท่ชี อื่ วา เหน็ ปานใด คือ หนึง่ บาทก็ดี ควรแกห นง่ึ บาทกด็ ีเกนิ กวาหนึ่งบาทก็ดี. ที่ชื่อวา พระราชาทัง้ หลาย ไดแ กพระเจาแผนดนิ เจาผูปกครองประเทศ ทานผปู กครองมณฑล นายอําเภอ ผูพิพากษา มหาอาํ มาตย หรือทา นผูสั่งประหารและจองจาํ ได ทา นเหลา น้ี ชอื่ วา พระราชาท้งั หลาย. ท่ชี อ่ื วา โจร มอี ธบิ ายวา ผใู ดถือเอาสงิ่ ของอนั เขาไมไดใ ห ไดราคา ๕ มาสกกด็ ี เกนิ กวา ๕ มาสกก็ดี ดว ยสว นแหง ความเปนขโมย ผูนั้นชือ่ วา โจร. บทวา ประหารเสยี บา ง คือ ประหารดวยมือหรอื เทา ดวยแสห รือดว ยหวาย ดว ยไมคอ นสน้ั หรือดว ยดาบ. บทวา จองจําไวบ าง คือ ผูกลามไวดว ยเครือ่ งมดั คอื เชอื ก ดวยเคร่อื งจองจาํ คือข่ือคา โซตรวน หรือดว ยเขตจาํ กัดคือเรือน จังหวดั หมบู า นตําบลบาน หรือใหบ ุรษุ ควบคุม. บทวา เนรเทศเสียบา ง คือ ขบั ไลเสยี จากหมบู าน ตาํ บลบา นจงั หวัด มณฑล หรือประเทศ. บทวา เจา เปน โจร เจาเปนคนพาล เจา เปนคนหลง เจาเปนขโมย นี้เปน คาํ บริภาษ. [๘๘] ท่ีชื่อวา เหน็ ปานน้ัน คอื หนงึ่ บาทกด็ ี ควรแกห นึ่งบาทก็ดีเกินกวา หนง่ึ บาทกด็ .ี บทวา ถือเอา คอื ตู วงิ่ ราว ฉอ ยงั อิรยิ าบทใหกาํ เรบิ ใหเ คลอ่ื นจากฐาน ใหล ว งเลยเขตหมาย. [๘๙] คําวา แมภ กิ ษนุ ี้ พระผูมีพระภาคเจา ตรสั เทยี บเคียงภิกษุรปูกอน.

พระวนิ ัยปฎ ก มหาวิภงั ค เลม ๑ ภาค ๒ - หนา ที่ 15 คําวา เปน ปาราชิก มอี ธิบายวา ใบไมเหลืองหลน จากขว้ั แลวไมอาจจะเปน ของเขียวสดข้นึ ได แมฉันใด ภกิ ษุกฉ็ นั นน้ั แหละ ถือเอาทรพั ยอันเขาไมไ ดใ ห ดวยสวนแหงความเปนขโมย หนึง่ บาทก็ดี ควรแกห นึ่งบาทกด็ ี เกินกวา หน่ึงบาทกด็ ี แลวไมเ ปน สมณะ ไมเปน เช้ือสายพระศากยบุตรเพราะเหตนุ น้ั จึงตรสั วา เปนปาราชิก. บทวา หาสังวาสมไิ ด ความวา ทชี่ ือ่ วา สงั วาส ไดแกกรรมท่ีพงึ ทาํ รวมกัน อเุ ทศท่พี งึ สวดรว มกนั ความเปน ผูมีสกิ ขาเสมอกนั นน่ั ชอื่ วาสงั วาส สงั วาสน้ันไมมีรวมกับภกิ ษนุ น้ั เพราะเหตนุ นั้ จงั ตรสั วา หาสังวาสมไิ ด. บทภาชนีย มาติกา[๙๐] ทรพั ยอ ยใู นดนิ ทรัพยต ้ังอยูบ นดินทรัพยล อยอยูในอากาศ ทรัพยต ง้ั อยใู นทแ่ี จงทรพั ยต งั้ อยูในนาํ้ เรอื และทรพั ยอยูในเรือยาน และทรพั ยอ ยใู นยาน ทรพั ยท ีต่ นนําไปสวน และทรพั ยอยใู นสวน ทรพั ยอยใู นวัดนา และทรัพยอยูในนา พ้ืนท่ีและทรัพยอ ยใู นพนื้ ท่ีทรพั ยอยูในบาน ปา และทรัพยอ ยูในปาน้าํ ไมชาํ ระฟน ตนไมเ จา ปา ทรพั ยทม่ี ีผนู ําไปทรพั ยท่ีเขาฝากไว ดา นภาษี สัตวมชี วี ิตสัตวไ มมเี ทา สตั วส องเทา สัตวส ่เี ทา สัตวมเี ทา มาก

พระวนิ ยั ปฎก มหาวิภังค เลม ๑ ภาค ๒ - หนาท่ี 16ภิกษผุ สู งั่ ภิกษุผูร ับของฝาก การชกั ชวนกนั ไปลกัการนัดหมาย การทํานมิ ติ . ภมุ มัฏฐวิภาค [๙๑] ที่ชื่อวา ทรัพยอยูในแผนดนิ ไดแกท รัพยท ่ีฝงกลบไวใ นแผนดนิ . ภกิ ษุมไี ถยจติ คดิ จะลกั ทรพั ยอ ยใู นแผนดนิ เทย่ี วแสวงหาเพอื่ นกต็ ามแสวงหาจอบหรือตะกรากต็ าม เดินไปก็ตาม ตองอาบัติทกุ กฏ ตัดไมหรอืเถาวลั ย ซึ่งเกิดอยใู นทน่ี น้ั ตอ งอาบตั ทิ กุ กฏ ขุดกต็ าม คุย กต็ าม โกยขึ้นกต็ ามซง่ึ ดินรว นตอ งอาบัติทุกกฏ จับตอ งหมอ ตองอาบตั ิทกุ กฏ ทําหมอ ใหไหวตองอาบัตถิ ลุ ลจั จัย ทําหมอใหเคลอ่ื นจากฐาน ตอ งอาบัติปาราชิก. ภิกษมุ ีไถยจิต หยอนภาชนะของตนลงไป ถูกตอ งทรัพยควรแกคา๕ มาสก หรือเกินกวา ๕ มาสก ตองอาบตั ทิ กุ กฏ ทําใหไ หว ตอ งอาบตั ิถลุ ลจั จยั กระทําใหท รพั ยอ ยใู นภาชนะของตนก็ตาม ตดั ขาดดวยกาํ มือก็ตามตอ งอาบัติปาราชกิ . ภิกษมุ ีไถยจติ จับตองทรพั ยท ี่เขารอ ยดายก็ดี สังวาลกด็ ี สรอยคอกด็ ีเขมขัดก็ดี ผา สาฎกกด็ ี ผาโพกก็ดี ตองอาบตั ทิ กุ กฏ ทาํ ใหไ หวตอ งอาบัติถลุ ลัจจัย จับท่สี ุดยกขึน้ ตองอาบตั ิถลุ ลจั จัย ดึงครูดออกไป ตองอาบตั ิถลุ ลัจจัยใหพ น ปากหมอ โดยทีส่ ดุ แมช ั่วเสนผม ตอ งอาบตั ปิ าราชิก. ภกิ ษมุ ีไถยจิต ดม่ื เนยใสกด็ ี นํา้ มนั กด็ ี น้าํ ผง้ึ กด็ ี นา้ํ ออยก็ดี ควรแกคา ๕ มาสก หรอื เกินกวา ๕ มาสก ดว ยประโยคอันเดียว ตองอาบัติปาราชกิ ทําลายเสยี ก็ดี ทําใหห กลนก็ดี เผาเสียก็ดี ทาํ ใหบ รโิ ภคไมไ ดกด็ ีในท่นี ้นั เอง ตอ งอาบัตทิ ุกกฏ.

พระวินัยปฎ ก มหาวิภงั ค เลม ๑ ภาค ๒ - หนา ที่ 17 ถลฏั ฐวภิ าค [๙๒] ทีช่ อื่ วา ทรัพยต งั้ อยบู นพ้ืน ไดแกทรัพยทเ่ี ขาวางไวบนพน้ื ภิกษมุ ีไถยจิตคดิ จะลกั ทรัพยท่ีตง้ั อยบู นพื้น เท่ยี วแสวงหาเพ่อื นก็ดีเดนิ ไปกด็ ี ตองอาบตั ิทกุ กฏ ลูบคลํา ตองอาบัติทุกกฏ ทําใหไ หว ตอ งอาบัติถลุ ลัจจัย ใหเ คลือ่ นจากฐาน ตองอาบตั ปิ าราชิก. อากาสัฏฐวิภาค [๙๓] ท่ชี ือ่ วา ทรัพยลอยอยใู นอากาศ ไดแ กท รัพยท ่ีไปในอากาศคอื นกยูง นกคับแค นกกระทา นกกระจาบ ผาสาฎก ผาโพกหัว หรอื เงินทองท่ขี าดหลุดตกลง. ภิกษมุ ีไถยจิตคดิ จะลักทรัพยทลี่ อยอยใู นอากาศ เท่ยี วแสวงหาเพอ่ื นกด็ ี เดินไปกด็ ี ตอ งอาบตั ทิ กุ กฎ หยดุ อยู ตอ งอาบัตทิ กุ กฎ ลูบคลาํ ตองอาบตั ทิ กุ กฎ ทาํ ใหไหว ตองอาบตั ิถุลลจั จัย ใหเคลอื่ นจากฐาน ตองอาบตั ิปาราชิก. เวหาสัฏฐวิภาค [๙๔] ทชี่ ่อื วา ทรพั ยต ้งั อยใู นที่แจง ไดแกทรพั ยท่ีแขวนไวใ นท่แี จง เชน ทรพั ยที่คลอ งไวบ นเตียงหรือตั่ง ทหี่ อยไวบนราวจวี ร สายระเดียงเดือยท่ีฝา บันไดแกว หรอื ตน ไม โดยท่สี ุดแมบ นเชงิ รองบาตร. ภิกษุมไี ถยจติ คดิ จะลกั ทรพั ยทตี่ ้ังอยูใ นทแ่ี จง เท่ยี วแสวงหาเพือ่ นก็ดีเดนิ ไปก็ดี ตองอาบัตทิ กุ กฏ ลบู คลํา ตอ งอาบตั ทิ ุกกฏ ทาํ ใหไหวตองอาบัติถลุ ลัจจัย ใหเคลือ่ นจากฐาน ตอ งอาบัติปาราชิก

พระวินัยปฎก มหาวภิ ังค เลม ๑ ภาค ๒ - หนา ท่ี 18 อทุ กัฏฐวภิ าค [๙๕] ทช่ี ่อื วา ทรัพยต ั้งอยูในนาํ้ ไดแกท รพั ยท ่ีเขาเก็บไวใ นน้าํ ภิกษุมีไถยจติ คิดจะลกั ทรัพยที่ตัง้ อยูในน้ํา เท่ยี วแสวงเพือ่ นกด็ ีเดนิไปกด็ ี ตองอาบัติทุกกฏ ดาํ ลงกด็ ี โผลข ้ึนก็ดี ตองอาบัติทุกกฏ ลูบคลําตองอาบัตทิ ุกกฏ ทําใหไ หว ตอ งอาบัตถิ ลุ ลัจจัย ใหเคลอื่ นจากฐาน ตองอาบตั ิปาราชิก. ภกิ ษุมีไถยจิต จับดอกอุบล ดอกปทมุ ดอกบณุ ฑริก เหงา บัว ปลาหรอื เตา ทีเ่ กดิ ในนาํ้ นั้น มีราคา ๕ มาสกกด็ ี เกนิ กวา ๕ มาสกกด็ ี ตอ งอาบตั ิทุกกฏ ทาํ ใหไ หว ตอ งอาบัติถุลลัจจยั ใหเคลื่อนจากฐาน ตอ งอาบัติปาราชิก. นาวัฏฐวิภาค [๙๖] ที่ชอ่ื วา เรือ ไดแ กพ าหนะสาํ หรับขามนาํ้ ท่ีช่อื วา ทรพั ยอยใู นเรอื ไดแ ก ทรพั ยท่เี ขาเกบ็ ไวใ นเรือ. ภิกษมุ ีไถยจิตคดิ จะลกั ทรพั ยท ่อี ยใู นเรือ เที่ยวแสวงหาเพือ่ นกด็ ี เดินไปก็ดี ตอ งอาบัตทิ ุกกฏ ลบู คลาํ ตอ งอาบตั ทิ กุ กฏ ทาํ ใหไหว ตอ งอาบตั ิถุล-ลจั จยั ใหเคล่อื นจากฐาน ตองอาบตั ปิ าราชกิ . ภิกษมุ ีไถยจิตคดิ จะลกั เรอื เทย่ี วแสวงหาเพือ่ นก็ดี เดนิ ไปกด็ ี ตอ งอาบตั ิทกุ กฏ ลูบคลํา ตองอาบตั ิทุกกฏ ทาํ ใหไ หว ตองอาบัติถลุ ลัจจัยแกเ ครื่องผูก ตอ งอาบัตทิ ุกกฏ แกเครือ่ งผกู แลว ลูบคลํา ตอ งอาบตั ทิ ุกกฏทําใหไ หว ตอ งอาบัตถิ ลุ ลัจจยั ใหลอยขึ้นนาํ้ ไปก็ดี ลองนา้ํ ไปกด็ ี ขวางนํา้ไปก็ดี โดยทส่ี ุดแมช ั่วเสนผม ตองอาบัตปิ าราชกิ .

พระวนิ ยั ปฎก มหาวภิ งั ค เลม ๑ ภาค ๒ - หนาที่ 19 ยานัฏฐวิภาค [๙๗] ทีช่ ื่อวา ยาน ไดแกคานหาม รถ เกวยี น เตยี งหาม ท่ีชอ่ื วา ทรพั ยอยูในยาน ไดแกท รัพยท ี่เขาเก็บไวใ นยาน. ภิกษมุ ไี ถยจิตคดิ จะลกั ทรัพยอ ยูใ นยาน เท่ียวแสวงหาเพ่อื นกด็ ี เดินไปก็ดี ตองอาบัตทิ กุ กฏ ลูบคลาํ ตองอาบัติทกุ กฏ ทําใหไ หว ตองอาบัติถุลลัจจยั ใหเ คล่ือนจากฐาน ตอ งอาบัตปิ าราชิก. ภิกษุมไี ถยจิตคิดจะลกั ยาน เทีย่ วแสวงหาเพอื่ นกด็ ี เดนิ ไปก็ดี ตอ งอาบัตทิ กุ กฏ ลบู คลาํ ตองอาบัติทุกกฏ ทาํ ใหไ หว ตอ งอาบตั ิถุลลจั จยั ใหเคลอื่ นจากฐานตอ งอาบตั ิปาราชกิ . ภารฏั ฐวิภาค [๙๘] ท่ีชื่อวา ทรัพยท ี่ตนนําไป ไดแกภ าระบนศีรษะ ภาระทค่ี อภาระทส่ี ะเอว ภาระท่หี ้ิวไป. ภิกษุมีไถยจติ จับตอ งภาระบนศรี ษะ ตอ งอาบัติทกุ กฏ ทาํ ใหไหวตอ งอาบัตถิ ลุ ลจั จัย ลดลงสคู อ ตองอาบัตปิ าราชิก. ภิกษุมีไถยจิตจับตอ งภาระบนคอ ตองอาบัตทิ ุกกฏ ทาํ ใหไหว ตอ งอาบตั ิถุลลัจจัย ลดลงสสู ะเอว ตองอาบัติปาราชกิ . ภิกษมุ ไี ถยจิตจบั ตอ งภาระที่สะเอว ตอ งอาบัตทิ ุกกฏ ทําใหไหว ตอ งอาบตั ิถุลลจั จยั ถอื ไปดว ยมือ ตอ งอาบตั ิปาราชิก. ภกิ ษมุ ีไถยจติ วางภาระท่มี อื ลงบนพ้ืน ตองอาบตั ปิ าราชิก มีไถยจิตถอื เอาจากพนื้ ตอ งอาบตั ปิ าราชิก.

พระวนิ ยั ปฎก มหาวิภังค เลม ๑ ภาค ๒ - หนาท่ี 20 อารามัฏฐวิภาค [๙๙] ทชี่ ่อื วา สวน ไดแกสวนไมดอก สวนไมผล ทีช่ ่อื วาทรพั ยอ ยูในสวน ไดแ กท รพั ยทเี่ ขาเกบ็ ไวในสวน โดยฐาน ๔ คอื ฝง อยูในดิน ๑ ตง้ั อยบู นพ้ืนดนิ ๑ ลอยอยใู นอากาศ ๑ แขวนอยใู นทแ่ี จง ๑. ภิกษมุ ีไถยจติ คิดจะลกั ทรัพยท อี่ ยใู นสวน เทย่ี วแสวงหาเพอ่ื นก็ดี เดินไปกด็ ี ตอ งอาบตั ิทุกกฏ ลูบคลาํ ตองอาบตั ทิ ุกกฏ ทาํ ใหไ หว ตอ งอาบตั ิถุลลจั จัย ใหเ คล่ือนจากฐาน ตอ งอาบัตปิ าราชิก. ภกิ ษมุ ไี ถยจิตจับตองรากไม เปลอื กไม ใบไม ดอกไม หรอื ผลไมซึ่งเกดิ ในสวนนัน้ ไดร าคา ๕ มาสก หรอื เกนิ กวา ๕ มาสก ตองอาบตั ิทุกกฏทาํ ใหไ หว ตอ งอาบัตถิ ุลลัจจัย ใหเคลือ่ นจากฐาน ตอ งอาบตั ปิ าราชกิ . ภกิ ษตุ เู อาทีส่ วน ตอ งอาบัติทกุ กฏ ยังความสงสยั ใหเ กิดแกเจา ของตอ งอาบตั ถิ ุลลจั จยั เจาของทอดธุระวาจักไมเปนของเรา ตอ งอาบัติปาราชกิ . ภกิ ษฟุ อ งรอ งยังโรงศาล ยงั เจา ของใหแพ ตองอาบัตปิ าราชิก ภิกษุผูฟองรองยังโรงศาล แพเ จาของ ตอ งอาบัติถุลลัจจยั . วหิ ารฏั ฐวภิ าค [๑๐๐] ทชี่ อื่ วา ทรัพยอยูในวดั ไดแกท รพั ยท เ่ี ขาเก็บไวในวดัโดยฐาน ๔ คอื ฝงอยใู นดิน ๑ ต้งั อยูบ นพื้นดิน ๑ ลอยอยูในอากาศ ๑แขวนอยใู นท่แี จง ๑. ภกิ ษุมไี ถยจติ คิดจะลกั ทรพั ยท ีต่ ั้งอยูในวดั เทีย่ วแสวงหาเพอื่ นก็ดีเดนิ ไปก็ดี ตอ งอาบตั ทิ กุ กฏ ลบู คลํา ตอ งอาบตั ิทกุ กฏ ทาํ ใหไหว ตองอาบัตถิ ุลลัจจยั ใหเ คลือ่ นจากฐาน ตองอาบตั ิปาราชกิ .

พระวนิ ัยปฎก มหาวิภังค เลม ๑ ภาค ๒ - หนาท่ี 21 ภิกษตุ ูเอาทีว่ ัด ตอ งอาบัติทกุ กฎ ยงั ความสงสยั ใหเ กิดแกเ จาของตองอาบตั ิถุลลัจจัย เจาของทอดธรุ ะวา จกั ไมเ ปน ของเรา ตองอาบตั ิปาราชิก. ภิกษฟุ องรอ งยงั โรงศาล ยังเจา ของใหแ พ ตอ งอาบัติปาราชิก ภิกษุผูฟอ งรองยังโรงศาล แพเจา ของ ตองอาบัตถิ ุลลัจจัย. เขตตฏั ฐวภิ าค [๑๐๑] บพุ พัณชาติ หรืออปรัณชาติ เกดิ ในที่ใด ทนี่ ้ันชอื่ วานา ทีช่ ือ่ วา ทรพั ยอยใู นนา ไดแกทรัพยท ่ีเขาเก็บไวใ นนา โดยฐาน ๔คือ ฝงอยใู นดิน ๑ ตงั้ อยบู นพ้นื ดิน ๑ ลอยอยใู นอากาศ ๑ แขวนอยูในทแี่ จง ๑. ภกิ ษุมไี ถยจิตคิดจะลักทรพั ยที่อยใู นนา เท่ียวแสวงหาเพอ่ื นกด็ ี เดนิ ไปกด็ ี ตอ งอาบัติทกุ กฏ ลูบคลาํ ตอ งอาบัตทิ ุกกฏ ทําใหไหว ตอ งอาบัติถุลลัจจัย ใหเคลือ่ นจากฐาน ตอ งอาบัตปิ าราชกิ . ภกิ ษมุ ีไถยจติ จบั ตองบุพพัณชาติ หรืออปรัณชาติ ซ่งึ เกดิ ในนาน้นั ไดร าคา ๕ มาสก หรอื เกนิ กวา ๕ มาสก ตอ งอาบัติทกุ กฏ ทาํ ใหไ หวตอ งอาบัติถุลลัจจยั ใหเ คลอื่ นจากฐาน ตอ งอาบตั ปิ าราชิก. ภกิ ษตุ เู อาท่ีนา ตอ งอาบัตทิ ุกกฏ ยังความสงสยั ใหเกิดแกเจาของตองอาบัตถิ ลุ ลจั จยั เจาของทอดธรุ ะวา จักไมเ ปน ของเรา ตองอาบตั ิปาราชกิ . ภิกษฟุ อ งรองยังโรงศาล ยังเจา ของใหแพ ตอ งอาบตั ปิ าราชิก ภกิ ษุผูฟองรองยังโรงศาล แพเจา ของ ตองอาบัตถิ ุลลจั จยั . ภกิ ษปุ ก หลัก ขงึ เชอื ก ลอ มรว้ั หรอื ถมคันนาใหรุกล้ํา ตอ งอาบตั ิทกุ กฏ เมื่ออกี ประโยคหนงึ่ จะสําเร็จ ตองอาบัติถุลลจั จยั เม่อื ประโยคน้นั สาํ เร็จตอ งอาบัติปาราชิก.

พระวินัยปฎก มหาวิภงั ค เลม ๑ ภาค ๒ - หนาที่ 22 วตั ถฏุ ฐวภิ าค [๑๐๒] ท่ชี อื่ วา พนื้ ท่ี ไดแ กพ ้นื ทสี่ วน พื้นทวี่ ดั ทชี่ ่อื วา ทรัพยอยูในพนื้ ที่ ไดแ กท รัพยท ต่ี ัง้ อยูในพ้ืนที่ โดยฐาน ๔ คือ ฝง อยใู นดนิ ๑ต้ังอยูบนพ้ืนดนิ ๑ ลอยอยใู นอากาศ ๑ แขวนอยูในท่ีแจง ๑. ภิกษุมีไถยจิตคดิ จะลกั ทรัพยท ี่อยูในพ้ืนที่ เท่ยี วแสวงหาเพื่อนก็ดีเดินไปกด็ ี ตองอาบัติทกุ กฏ ลูบคลํา ตองอาบัติทกุ กฏ ทาํ ใหไหว ตองอาบัติถุลลัจจยั ใหเคล่อื นจากฐาน ตอ งอาบัตปิ าราชิก. ภกิ ษตุ เู อาพืน้ ที่ ตองอาบัตทิ กุ กฏ ยงั ความสงสยั ใหเกดิ แกเจา ของตอ งอาบัตถิ ุลลัจจัย เจาของทอดธรุ ะวา จักไมเปน ของเรา ตองอาบตั ปิ าราชกิ . ภิกษุฟองรองยังโรงศาล ยงั เจาของใหแพ ตอ งอาบัติปาราชกิ ภกิ ษุผูฟองรอ งยงั โรงศาล แพเจาของ ตอ งอาบตั ิถุลลจั จยั . ภกิ ษปุ ก หลัก ขึงเชือก ลอ มร้วั หรอื ทํากําแพง ใหร กุ ลํา้ ตองอาบตั ิทกุ กฏ เมื่ออีกประโยคหนึ่งจะสาํ เรจ็ ตองอาบัติถลุ ลัจจยั เมอื่ ประโยคนั้นสําเรจ็ตองอาบตั ิปาราชิก. คามัฏฐวิภาค [๑๐๓] ทชี่ ่อื วา ทรัพยอ ยูในบา น ไดแ กทรัพยท่ตี ้ังอยูใ นบานโดยฐาน ๔ คอื ฝง อยใู นดนิ ๑ ต้ังอยบู นดนิ ๑ ลอยอยูในอากาศ ๑แขวนอยใู นที่แจง ๑. ภกิ ษุมไี ถยจิตคิดจะลกั ทรพั ยท ่ีอยูในบาน เที่ยวแสวงหาเพือ่ นกด็ ีเดนิ ไปกด็ ี ตอ งอาบตั ิทกุ กฏ ลบู คลาํ ตองอาบตั ิทกุ กฏ ทําใหไ หว ตอ งอาบัตถิ ลุ ลจั จัย ใหเคล่อื นจากฐาน ตอ งอาบัติปาราชกิ .

พระวนิ ยั ปฎ ก มหาวิภงั ค เลม ๑ ภาค ๒ - หนา ท่ี 23 อรัญญฏั ฐวภิ าค [๑๐๔] ทชี่ อ่ื วา ปา ไดแ กปาที่มนุษยหวงหา ม ทีช่ อ่ื วา ทรัพยอยใู นปา ไดแกท รพั ยท่ตี งั้ อยูในปา โดยฐาน ๔ คือ ฝง อยูในดิน ๑ ต้งัอยบู นพื้นดิน ๑ ลอยอยใู นอากาศ ๑ แขวนอยใู นทแี่ จง ๑. ภิกษุมีไถยจิตคดิ จะลกั ทรัพยทีอ่ ยใู นปา เท่ยี วแสวงหาเพอื่ นกด็ ี เดินไปก็ดี ตองอาบตั ทิ กุ กฎ ลูบคลาํ ตองอาบัติทกุ กฏ ทําใหไ หว ตอ งอาบตั ิถุลลัจจัย ใหเ คล่ือนจากฐาน ตอ งอาบตั ิปาราชิก. ภกิ ษุมีไถยจิตจบั ตองไมก็ดี เถาวลั ยก ด็ ี หญา กด็ ี ซงึ่ เกดิ ในปานัน้ไดราคา ๕ มาสก หรอื เกินกวา ๕ มาสก ตองอาบตั ิทกุ กฏ ทําใหไ หว ตอ งอาบตั ถิ ุลลัจจัย ใหเ คล่ือนจากฐาน ตองอาบตั ปิ าราชกิ . อุทกวภิ าค [๑๐๕] ทชี่ ือ่ วา นาํ้ ไดแ กน าํ้ ที่อยูใ นภาชนะ หรอื นํ้าท่ีขังอยใู นสระโบกขรณี หรอื ในบอ . ภกิ ษมุ ีไถยจิตจบั ตอ ง ตอ งอาบัติทุกกฏ ทาํ ใหไหว ตอ งอาบัติถุลลัจจยั ใหเ คล่อื นจากฐาน ตองอาบตั ปิ าราชกิ . ภิกษมุ ีไถยจิตหยอนภาชนะของตนลงไปถูกตองนํา้ ไดร าคา ๕ มาสกหรอื เกนิ กวา ๕ มาสก ตอ งอาบตั ทิ กุ กฏ ทาํ ใหไหว ตอ งอาบัตถิ ุลลจั จยัทําใหไ หลเขา ไปในภาชนะของตน ตองอาบัตปิ าราชกิ . ภิกษทุ าํ ลายคันนา ตองอาบตั ิทุกกฏ ครัน้ ทาํ ลายคนั นาแลว ทําใหไหลออกไป ไดร าคา ๕ มาสก หรือเกนิ กวา ๕ มาสก ตองอาบัติปาราชิกทําใหน าํ้ ไหลออกไป ไดร าคาเกนิ กวา ๑ มาสก หรอื หยอนกวา ๕ มาสก

พระวินยั ปฎ ก มหาวิภงั ค เลม ๑ ภาค ๒ - หนาที่ 24ตอ งอาบตั ิถุลลัจจยั ทาํ ใหน้าํ ไหลออกไป ไดร าคา ๑ มาสก หรอื หยอ นกวา๑ มาสก ตอ งอาบตั ิทกุ กฏ. ทนั ตโปณวิภาค [๑๐๖] ชอ่ื วา ไมช าํ ระฟน ไดแ กไ มช าํ ระฟนท่ีตดั แลว หรอื ท่ียงั มไิ ดต ดั . ภกิ ษุมีไถยจติ จบั ตองไมช ําระฟน อนั มีราคา ๕ มาสก หรอื เกินกวา๕ มาสก ตองอาบตั ทิ ุกกฏ ทาํ ใหไหว ตองอาบัตถิ ุลลจั จัย ใหเ คลื่อนจากฐานตองอาบตั ิปาราชกิ . วนปั ปติวภิ าค [๑๐๗] ท่ชี ่อื วา ตนไมเจา ปา ไดแ กตนไมท่ีคนท้ังหลายหวงหา มเปน ไมท ใี่ ชสอยได. ภกิ ษุมีไถยจิตตัด ตองอาบัตทิ กุ กฏ ทุก ๆ ครง้ั ทฟ่ี น เม่ือการฟน อีกคร้งั หนง่ึ จะสาํ เร็จ ตองอาบตั ถิ ุลลัจจัย เมอ่ื การฟน น้ันสาํ เรจ็ ตอ งอาบตั ิปาราชิก. หรณกวิภาค [๑๐๘] ท่ีช่อื วา ทรัพยม ีผูนําไป ไดแกทรัพยท่ีผูอ นื่ นาํ ไป. ภกิ ษุมีไถยจิตลูบคลํา ตองอาบตั ทิ ุกกฏ ทําใหไ หว ตองอาบัติถลุ ลัจจัยใหเ คลอื่ นจากฐาน ตองอาบัติปาราชกิ . ภิกษคุ ิดวา จกั นําทรัพยพรอ มกับคนผูนาํ ทรัพยไ ป แลวใหยางเทากาวที่ ๑ ไป ตอ งอาบัตถิ ลุ ลัจจัย ใหยางเทา กา วท่ี ๒ ไป ตองอาบัตปิ าราชิก.

พระวินยั ปฎก มหาวิภงั ค เลม ๑ ภาค ๒ - หนา ท่ี 25 ภกิ ษคุ ดิ วา จักเก็บทรัพยทต่ี ก แลวทาํ ทรัพยนัน้ ใหต ก ตอ งอาบัติทกุ กฏ มีไถยจติ จบั ตอ งทรพั ยท ตี่ ก อันไดราคา ๕ มาสก หรือเกินกวา ๕ มาสกตอ งอาบตั ิทุกกฏ ทาํ ใหไ หว ตอ งอาบตั ิถุลลัจจัย ใหเคล่อื นจากฐาน ตองอาบัตปิ าราชิก. อปุ นธิ วิ ภิ าค [๑๐๙] ทช่ี อ่ื วา ทรัพยท ่เี ขาฝากไว ไดแกท รพั ยทผี่ ูอ ื่นใหเ ก็บไว. ภกิ ษรุ บั ของฝาก เมอื่ เจาของกลาวขอคนื วา จงคืนทรพั ยใ หขา พเจากลาวปฏเิ สธวา ฉันไมไ ดรบั ไว ตอ งอาบตั ิทุกกฏ ยังความสงสัยใหเ กิดแกเจาของ ตอ งอาบตั ถิ ลุ ลจั จัย เจา ของทอดธรุ ะวา จะไมใ หแ กเ รา ตองอาบตั ิปาราชกิ . ภิกษฟุ องรอ งยังโรงศาล ยังเจา ของใหแพ ตองอาบัติปาราชิก ภิกษุผูฟองรอ งยังโรงศาล แพเจา ของ ตองอาบตั ถิ ลุ ลัจจยั . สุงกฆาตวิภาค [๑๑๐] ที่ช่ือวา ดา นภาษี ไดแกส ถานท่ซี ง่ึ พระเจา แผนดนิ ทรงต้ังไวท ่ีภเู ขาขาดบา ง ทีท่ านํา้ บาง ท่ปี ระตบู า ง ดวยทรงกาํ หนดวา จงเกบ็ภาษีแกบ ุคคลผผู านเขา ไปในสถานทน่ี น้ั . ภิกษผุ า นเขา ไปในดา นภาษีนัน้ แลว มีไถยจิตจบั ตอ งทรพั ยท ี่ควรเสียภาษี ซึ่งมรี าคา ๕ มาสกก็ดี เกินกวา ๕ มาสกก็ดี ตองอาบตั ทิ ุกกฏ ทําใหไ หวตองอาบตั ถิ ลุ ลัจจัย ยา งเทากา วท่ี ๑ ลวงดา นภาษีไป ตอ งอาบัตถิ ุลลจั จยัยางเทา ที่ ๒ ลว งดา นภาษีไป ตองอาบัตปิ าราชิก.

พระวนิ ยั ปฎก มหาวิภงั ค เลม ๑ ภาค ๒ - หนาที่ 26 ภิกษุยืนอยูภ ายในดา นภาษี โยนทรพั ยใ หตกนอกดา นภาษี ตองอาบตั ิปาราชิก หลบเลี่ยงภาษี ตอ งอาบัตทิ ุกกฏ. ปาณวิภาค [๑๑๑] ที่ช่ือวา สตั วมีชีวิต พระผมู ีพระภาคเจา ตรสั หมายเอามนษุ ยที่ยงั มลี มหายใจ. ภกิ ษุมไี ถยจิตลบู คลํา ตอ งอาบตั ทิ ุกกฏ ทําใหไ หว ตอ งอาบตั ิถลุ ลัจจัยใหเ คล่ือนจากฐาน ตอ งอาบัติปาราชกิ . ภกิ ษคุ ิดวา จักพาใหเ ดินไป แลวใหกา วเทา ที่ ๑ ตองอาบัตถิ ุลลจั จยัใหกาวเทา ที่ ๒ ตองอาบตั ิปาราชิก. อปทวภิ าค [๑๑๒] ทช่ี อื่ วา สัตวไมมีเทา ไดแก งู ปลา. ภกิ ษุมไี ถยจิตจับตองสตั วไมม ีเทา ซงึ่ มีราคา ๕ มาสก หรือเกินกวา๕ มาสก ตองอาบตั ิทุกกฏ ทําใหไหว ตอ งอาบตั ิถลุ ลจั จยั ใหเคลือ่ นจากฐานตอ งอาบตั ปิ าราชกิ . ทวปิ ทวิภาค [๑๑๓] ทชี่ ่อื วา สัตว ๒ เทา ไดแ ก คน นก. ภกิ ษุมไี ถยจิตลูบคลาํ ตอ งอาบตั ิทุกกฏ ทําใหไหว ตองอาบัติถุลลัจจยัใหเ คล่ือนจากฐาน ตองอาบัตปิ าราชิก. ภิกษุคิดวา จกั พาใหเ ดินไป แลว ใหกาวเทา ที่ ๑ ตอ งอาบตั ิถลุ ลจั จัยใหกา วเทาท่ี ๒ ตอ งอาบัติปาราชิก.

พระวนิ ยั ปฎ ก มหาวภิ ังค เลม ๑ ภาค ๒ - หนาที่ 27 จตุปทวภิ าค [๑๑๔] ทีช่ ่ือวา สตั ว ๔ เทา ไดแก ชา ง มา อฐู โค ลาปศุสัตว. ภกิ ษุมไี ถยจิตลบู คลาํ ตอ งอาบตั ทิ ุกกฏ ทาํ ใหไหว ตองอาบตั ถิ ุลลัจจัยใหเคลื่อนจากฐาน ตองอาบัตปิ าราชกิ . ภกิ ษุคิดวา จักพาใหเ ดินไป แลวใหกาวเทา ท่ี ๑ ตอ งอาบตั ถิ ลุ ลจั จยัใหกาวเทาท่ี ๒ ตอ งอาบตั ถิ ุลลัจจยั ใหก า วเทา ท่ี ๓ ตอ งอาบัตถิ ุลลจั จยัใหกาวเทา ท่ี ๔ ตอ งอาบัตปิ าราชกิ . พหปุ ทวภาค [๑๑๕] ที่ชอื่ วา สัตวมีเทา มาก ไดแกส ตั วจําพวกแมลงปอง ตะขาบบงุ ขน ภกิ ษมุ ไี ถยจิตจบั ตองสัตวม เี ทามากนน้ั ซึ่งมีราคา ๕ มาสก หรอื เกินกวา ๕ มาสก ตองอาบัติทุกกฏ ทําใหไหว ตอ งอาบตั ิถลุ ลจั จัย ใหเ คล่อื นจากฐาน ตองอาบัติปาราชกิ . ภิกษุคดิ วา จักเดนิ นาํ ไป แลวยางเทา กา วไป ตองอาบตั ถิ ุลลจั จัยทกุ ๆ กา ว ยางเทากา วหลังท่สี ดุ ตอ งอาบัติปาราชิก. โอจรกวิภาค [๑๑๖] ท่ีช่อื วา ภกิ ษุผูสง่ั มอี ธิบายวา ภิกษสุ ่ังกาํ หนดทรพั ยวาทา นจงลักทรัพยช่ือนี้ ตองอาบตั ิทุกกฏ ภกิ ษุผรู บั คาํ สัง่ น้ัน ลกั ทรพั ยน ้ันมาไดตอ งอาบตั ปิ าราชกิ ท้งั ๒ รปู .

พระวินัยปฎก มหาวิภังค เลม ๑ ภาค ๒ - หนา ท่ี 28 โอณิรกั ขวิภาค [๑๑๗] ที่ช่อื วา ภิกษผุ รู ับของฝาก ไดแ กภ ิกษุผรู ักษาทรพั ยที่เขานํามาฝากไว. ภกิ ษุมไี ถยจติ จับตอ งทรัพยน ั้น มีราคา ๕ มาสก หรอื เกนิ กวา ๕มาสก ตองอาบตั ทิ ุกกฏ ทําใหไ หว ตองอาบัตถิ ุลลัจจยั ใหเ คลอื่ นจากฐานตองอาบตั ิปาราชิก. สังวธิ าวหารวภิ าค [๑๑๘] ทช่ี อ่ื วา การชักชวนกนั ไปลกั ไดแกภ กิ ษุหลายรูปชักชวนกันแลว รูปหนึ่งลกั ทรพั ยม าได ตองอาบัติปาราชิกทกุ รูป. สังเกตกัมมวิภาค [๑๑๙] ที่ชอ่ื วา การนัดหมาย มีอธิบายวา ภกิ ษุทําการนดั หมายวาทา นจงลักทรพั ยน ้นั ตามคํานดั หมายน้ัน ในเวลาเชา หรอื เวลาเย็น ในเวลากลางคนื หรอื กลางวนั ตอ งอาบัตทิ กุ กฏ ภิกษผุ ลู ัก ๆ ทรัพยน ัน้ ได ตามคํานดั หมายนนั้ ตองอาบัติปาราชกิ ทงั้ ๒ รปู ภิกษุผูลัก ๆ ทรพั ยน ้ันไดกอนหรือหลงั คํานัดหมายนนั้ ภิกษผุ ูนดั หมายไมตอ งอาบัติ ภิกษผุ ูล ักตอ งอาบัติปาราชกิ . นมิ ิตตกัมมวิภาค [๑๒๐] ท่ชี ่ือวา การทํานิมติ มอี ธบิ ายวา ภกิ ษุทํานมิ ิตวา เราจักขยิบตา จกั ยกั ควิ้ หรือจักผงกศีรษะ ทานจงลกั ทรัพยน ั้น ตามนมิ ติ นน้ัดังนี้ ตอ งอาบตั ทิ ุกกฏ ภิกษุผลู ัก ๆ ทรัพยน นั้ ได ตามนิมิตน้ัน ตอ งอาบตั ิปาราชิกท้งั ๒ รูป ภกิ ษุลัก ๆ ทรัพยน ัน้ ไดกอนหรือหลงั นิมติ นั้น ภิกษผุ ูทาํนิมิตไมต อ งอาบตั ิ ภิกษผุ ูล ักตองอาบตั ิปาราชิก.

พระวนิ ัยปฎก มหาวภิ ังค เลม ๑ ภาค ๒ - หนา ท่ี 29 อาณตั ติกประโยค [๑๒๑] ภิกษุส่ังภกิ ษวุ า ทา นจงลักทรพั ยชอื่ น้ี ตองอาบัตทิ ุกกฏภิกษุผูลกั เขาใจทรัพยน ้ันแน จงึ ลกั ทรัพยน ้นั มา ตองอาบัตปิ าราชิกท้ัง ๒ รูป. ภกิ ษุส่งั ภกิ ษวุ า ทานจงลกั ทรัพยช่อื นี้ ตองอาบตั ทิ กุ กฎ ภิกษุผูล ักเขา ใจทรพั ยนัน้ แน แตล กั ทรพั ยอ ยางอน่ื มา ภิกษผุ ูส ัง่ ไมต อ งอาบตั ิ ภิกษผุ ูล กัตอ งอาบตั ิปาราชกิ . ภกิ ษุสงั่ ภิกษวุ า ทา นจงลกั ทรพั ยช ื่อนี้ ตอ งอาบัติทุกกฎ ภกิ ษผุ ูลกัเขา ใจทรัพยอ ยา งอนื่ แตลกั ทรัพยน ้ันมา ตองอาบตั ิปาราชกิ ทง้ั ๒ รปู . ภิกษุสงั่ ภิกษวุ า ทานจงลกั ทรพั ยชอ่ื นี้ ตอ งอาบตั ิทุกกฎ ภิกษผุ ูลกัเขา ใจทรพั ยอยางอ่ืน จงึ ลักทรพั ยอยา งอื่นมา ภกิ ษุผสู งั่ ไมตอ งอาบัติ ภิกษุผลู ักตองอาบตั ิปาราชิก. ภิกษสุ ง่ั ภิกษุวา ทา นจงบอกแกภ ิกษุชอ่ื นว้ี า ภิกษชุ ่อื น้ีจงไปบอกแกภิกษผุ ูมีชื่ออยางน้ีวา ภกิ ษุผมู ชี ่ืออยา งนี้จงไปลักทรัพยช ่ือน้มี า ดงั น้ี ตองอาบัติทกุ กฏ ภกิ ษผุ รู บั ส่ังบอกแกภิกษุนอกนี้ ตอ งอาบตั ทิ กุ กฏ ภิกษผุ ูลักรับคําภิกษุผูส ั่งเดมิ ตอ งอาบัตถิ ลุ ลจั จัย ภกิ ษผุ ลู ัก ๆ ทรัพยน้ันมาได ตอ งอาบตั ปิ าราชกิทุกรูป. ภิกษสุ ่ังภกิ ษวุ า ทานจงบอกแกภ กิ ษุช่อื นีว้ า ภิกษชุ ่อื น้จี งไปบอกแกภกิ ษผุ ูมีชื่ออยางน้ีวา ภกิ ษผุ มู ชี อื่ อยางนีจ้ งไปลักทรัพยชอ่ื สิ่งนี้มา ดังน้ี ตอ งอาบัติทุกกฏ ภกิ ษุผรู บั สัง่ ๆ ภกิ ษุอ่นื ตองอาบตั ิทุกกฏ ภกิ ษุผลู ัก รบั คํา ตอ งอาบตั ิทกุ ฏ ภิกษุผูลกั ๆ ทรพั ยนั้นมาได ภกิ ษผุ สู งั่ เดมิ ไมตอ งอาบัติ ภิกษุผูสั่งตอและภกิ ษผุ ลู ัก ตอ งอาบตั ิปาราชกิ .

พระวินัยปฎก มหาวิภังค เลม ๑ ภาค ๒ - หนา ท่ี 30 ภิกษุส่งั ภกิ ษุวา ทานจงลกั ทรพั ยช ่อื น้ี ตองอาบัตทิ กุ กฏ ภกิ ษผุ รู บั สงั่น้ันไปแลว กลับมาบอกอกี วา ผมไมอาจลกั ทรัพยนน้ั ได ภิกษผุ สู ง่ั นนั้ สงั่ ใหมว าทานสามารถเมอื่ ใด จงลักทรพั ยน น้ั เมอื่ น้นั ดงั นี้ ตอ งอาบตั ทิ ุกกฏ ภิกษุผลู กั ๆทรัพยนั้นมาได ตอ งอาบตั ิปาราชกิ ท้งั ๒ รปู . ภกิ ษสุ ัง่ ภกิ ษวุ า ทา นจงลกั ทรัพยช ื่อน้ี ตองอาบัตทิ กุ กฎ ภิกษผุ ูส ง่ั น้ันครนั้ สง่ั ภกิ ษุนนั้ แลว เกิดความรอ นใจ แตไมพ ูดใหไ ดย นิ วา อยาลักเลย ภิกษุผูลกั ๆ ทรพั ยน น้ั มาได ตอ งอาบตั ิท้ัง ๒ รูป. ภิกษุสัง่ ภิกษวุ า ทา นจงลักทรพั ยชอ่ื นี้ ตอ งอาบัตทิ กุ กฎ ภิกษผุ สู ่ังนั้นคร้ันสั่งภกิ ษุน้ันแลว เกิดความรอนใจ จึงพูดใหไ ดยินวา อยา ลักเลย ภกิ ษุผูลักนนั้ ตอบวา ทานส่งั ผมแลว ๆ ลกั ทรัพยนั้นมาได ภิกษผุ ูส่งั ไมต องอาบัติภกิ ษุผลู กั ตอ งอาบัตปิ าราชิก. ภกิ ษสุ ั่งภกิ ษุวา ทา นจงลักทรพั ยชอื่ นี้ ตองอาบตั ทิ ุกกฏ ภิกษผุ สู ั่งนั้นคร้ันสั่งภกิ ษนุ น้ั แลว เกิดความรอ นใจ จงึ พดู ใหไดยินวา อยาลักเลย ภกิ ษผุ ูรับส่งั น้ัน รบั คําวา ดีละ แลว งดเสีย ไมตอ งอาบัตทิ งั้ ๒ รปู . อาการแหง อวหาร อาการ ๕ อยาง [๑๒๒] ปาราชิกอาบตั ิ พึงมแี กภิกษุผถู ือเอาทรพั ยท เ่ี จา ของไมไดใหดว ยอาการ ๕ อยางคอื ทรัพยอนั ผอู นื่ หวงแหน ๑ มคี วามสาํ คญั วา ทรัพยอนัผูอื่นหวงแหน ๑ ทรพั ยมคี า มากไดร าคา ๕ มาสก หรือเกนิ กวา ๕ มาสก ๑ไถยจติ ปรากฏข้ึน ๑ ภิกษุลูบคลาํ ตองอาบัติทุกกฏ ทาํ ใหไ หว ตองอาบตั ิถลุ ลัจจัย ใหเ คลื่อนจากฐาน ตอ งอาบัตปิ าราชกิ ๑.

พระวนิ ัยปฎก มหาวภิ ังค เลม ๑ ภาค ๒ - หนาท่ี 31 ถุลลจั จยาบตั ิ พงึ มีแกภ ิกษุผูถ ือเอาทรัพยท เี่ จา ของไมไดใ ห ดวยอาการ ๕ อยา ง คือทรพั ยอ ันผูอน่ื หวงแหน ๑ มคี วามสําคัญวาทรัพยอ ันผูอ น่ืหวงแหน ๑ ทรัพยมคี า นอ ยไดราคาเกินกวา ๑ มาสก หรอื หยอนกวา ๕ มาสก๑ ไถยจิตปรากฏขนึ้ ๑ ภกิ ษลุ บู คลํา ตอ งอาบตั ทิ กุ กฎ ทาํ ใหไ หว ตองอาบตั ิทกุ กฏ ใหเคล่อื นจากฐาน ตองอาบัตถิ ลุ ลัจจยั ๑. ทกุ กฏาบตั ิ พึงมแี กภิกษุผูถือเอาทรพั ยท ่ีเจาของไมไดใ ห ดว ยอาการ๕ อยา ง คือ ทรัพยอ นั ผอู นื่ หวงแหน ๑ มคี วามสาํ คัญวา ทรัพยอนั ผอู ่ืนหวงแหน ๑ ทรพั ยมีคา นอย ไดราคา ๑ มาสก หรอื หยอนกวา ๑ มาสก ๑ไถยจิตปรากฏขน้ึ ๑ ภิกษลุ บู คลํา ตอ งอาบตั ิทกุ กฏ ทาํ ใหไ หว ตองอาบตั ิทกุ กฏ ใหเ คลื่อนจากฐาน ตอ งอาบตั ทิ กุ กฏ ๑. อาการ ๖ อยา ง [๑๒๓] ปาราชิกาบัติ พงึ มแี กภ ิกษผุ ถู ือเอาทรพั ยท เ่ี จาของไมไดใหดว ยอาการ ๖ อยาง คือ มิใชม ีความสาํ คัญวาเปน ของตน ๑ มิใชถอื เอาดว ยวสิ าสะ ๑ มิใชข อยมื ๑ ทรัพยมคี ามากไดราคา ๕ มาสก หรอื เกินกวา ๕มาสก ๑ ไถยจติ ปรากฏขึ้น ๑ ภกิ ษุลบู คลาํ ตองอาบัตทิ กุ กฏ ทาํ ใหไ หวตองอาบัติถลุ ลัจจัย ใหเ คลื่อนจากฐาน ตอ งอาบัตปิ าราชิก ๑. ถลุ ลจั จยาบัติ พงึ มแี กภิกษุผถู ือเอาทรพั ยท ่เี จาของไมไ ดให ดว ยอาการ๖ อยา ง คอื มใิ ชม ีความสําคญั วา เปน ของตน ๑ มใิ ชถ อื เอาดวยวิสาสะ ๑มใิ ชข อยืม ๑ ทรพั ยมคี านอยไดราคาเกนิ กวา ๑ มาสก หรอื หยอนกวา ๕มาสก ๑ ไถยจติ ปรากฏขนึ้ ๑ ภกิ ษุลบู คลาํ ตองอาบัตทิ ุกกฏ ทาํ ใหไหวตอ งอาบตั ิทุกกฏ ใหเคลือ่ นจากฐาน ตองอาบัตถิ ุลลัจจยั ๑.

พระวินัยปฎ ก มหาวิภงั ค เลม ๑ ภาค ๒ - หนา ท่ี 32 ทกุ กฏาบตั ิ พงึ มแี กภกิ ษุผูถ ือเอาทรัพยทเ่ี จาของไมไ ดใ ห ดวยอาการ๖ อยา ง คือ มใิ ชมคี วามสําคญั วา เปนของตน ๑ มิใชถอื เอาดว ยวิสาสะ ๑มใิ ชขอยืม ๑ ทรัพยมคี านอ ยไดร าคา ๑ มาสก หรือหยอนกวา ๑ มาสก ๑ไถยจิตปรากฏข้ึน ๑ ภิกษุลบู คลาํ ตอ งอาบตั ิทกุ กฏ ทําใหไ หว ตองอาบัติทุกกฏ ใหเคลอื่ นจากฐาน ตอ งอาบัตทิ กุ กฏ ๑. อาการ ๕ อยาง [๑๒๔] ทกุ กฏาบตั ิ พึงมแี กภ กิ ษุผถู อื เอาทรพั ยทเ่ี จาของไมไดใ หดว ยอาการ ๕ อยาง คอื ทรัพยมใิ ชของอันผอู น่ื หวงแหน ๑ มคี วามสาํ คัญวาทรัพยอนั ผอู ่นื หวงแหน ๑ ทรัพยม คี า มาก ไดร าคา ๕ มาสก หรือเกินกวา ๕มาสก ๑ ไถยจิตปรากฏขึน้ ๑ ภกิ ษุลบู คลาํ ตองอาบัติทกุ กฏ ทาํ ใหไ หวตองอาบัตทิ กุ กฏ ใหเ คลือ่ นจากฐาน ตองอาบตั ิทุกกฏ ๑. ทกุ กฏาบัติ พงึ มีแกภ กิ ษผุ ถู อื เอาทรพั ยทเ่ี จาของไมไดให ดว ยอาการ๕ อยาง คอื ทรพั ยมใิ ชของอันผูอื่นหวงแหน ๑ มีความสาํ คญั วาทรัพยอันผอู ื่นหวงแหน ๑ ทรัพยมีคา นอยไดราคาเกนิ ๑ มาสก หรอื หยอ น ๕ มาสก๑ ไถยจติ ปรากฏขนึ้ ๑ ภกิ ษุลูบคลาํ ตองอาบตั ทิ ุกกฏ ทําใหไหว ตอ งอาบตั ิทกุ กฏ ใหเคล่ือนจากฐาน ตองอาบัตทิ ุกกฏ ๑. ทกุ กฏาบตั ิ พงึ มีแกภ ิกษผุ ูถ ือเอาทรพั ยท ีเ่ จา ของไมไดให ดว ยอาการ๕ อยาง คอื ทรพั ยมิใชข องอันผูอ นื่ หวงแหน ๑ มีความสําคญั วาทรัพยอันผอู ่นื หวงแหน ๑ ทรัพยมคี า นอยไดราคา ๑ มาสก หรอื หยอนกวา ๑ มาสก ๑ไถยจิตปรากฏขน้ึ ๑ ภกิ ษลุ บู คลาํ ตอ งอาบัตทิ กุ กฏ ทาํ ใหไหว ตองอาบัติทกุ กฏ ใหเคลือ่ นจากฐาน ตองอาบตั ิทกุ กฏ ๑.

พระวินัยปฎก มหาวภิ ังค เลม ๑ ภาค ๒ - หนาท่ี 33 อนาปตติวาร [๑๒๕] ภิกษมุ ีความสําคญั วาเปน ของตน ๑ ถอื เอาดวยวสิ าสะ ๑ขอยืม ๑ ทรัพยอนั เปรตหวงแหน ๑ ทรัพยอนั สตั วดริ จั ฉานหวงแหน ๑ภิกษมุ ีความสําคญั วา เปน ของบงั สุกุล ๑ ภกิ ษวุ ิกลจริต ๑ ภิกษอุ าทกิ ัมมกิ ะ ๑เหลา นีไ้ มตอ งอาบัติ. ปฐมภาณวาร ในอทินนาทานสิกขาบท จบ วนิ ีตวตั ถุ ในทตุ ยิ ปาราชิกกณั ฑ อุทานคาถา [ ๑๒๖ ] พระอุบาลีเถระชแ้ี จง เร่ือง ชา งยอ ม ๕ เรื่อง เรอื่ งผา หม ท่ีตาก ๔ เรื่อง เรอ่ื งกลางคืน ๕ เร่ือง เรอ่ื งทรพั ยทภี่ ิกษุนาํ ไปเอง ๕ เร่ือง เร่อื งตอบตามคําถามนํา ๕ เรอื่ ง เร่ืองลม ๒ เรอ่ื ง เร่อื งศพทย่ี ังสด ๑ เรอื่ ง เรอ่ื งสับเปลย่ี นสลาก ๑ เรือ่ ง เรอ่ื ง เรือนไฟ ๑ เรอ่ื ง เรอ่ื งเน้อื เดนสัตว ๕ เรอ่ื ง เร่ืองสวนไมม มี ลู ๕ เร่อื ง เรอ่ื งขา วสุกใน สมยั ขา วแพง ๑ เรอ่ื ง เรอื่ งเน้อื ในสมัยขาว แพง ๑ เร่อื ง เรอื่ งขนมในสมยั ขาวแพง ๑ เร่ือง เรอ่ื งนาํ้ ตาลกรวด ๑ เรอ่ื ง เร่อื งขนม ตม ๑ เร่ือง เร่อื งบรขิ าร ๕ เรื่อง เร่ืองถงุ ๑ เรอื่ ง เรอื่ งฟูก ๑ เรื่อง เร่ืองราวจีวร ๑.

พระวนิ ัยปฎ ก มหาวภิ งั ค เลม ๑ ภาค ๒ - หนาท่ี 34เรื่อง เร่อื งไมออกไป ๑ เร่อื ง เรื่องถือวสิ าสะฉนั ของเคี้ยว ๑ เรื่อง เรอื่ งสําคัญวาของตน๒ เร่อื ง เรื่องไมลกั ๗ เรื่อง เรือ่ งลัก ๗เร่ือง เรอ่ื งลกั ของสงฆ ๗ เรอื่ ง เร่อื งลกัดอกไม ๒ เรือ่ ง เรอ่ื งพดู ตามคําบอก ๓ เรอ่ื งเรอ่ื งนํามณลี วงดา นภาษี ๓ เรือ่ ง เรอ่ื งปลอ ยหมู ๒ เรอื่ ง เรื่องปลอ ยเนื้อ ๒ เร่ือง เรอื่ งปลอ ยปลา ๒ เร่อื ง เร่ืองกลิ้งทรัพยในยาน๑ เรอ่ื ง เร่ืองชน้ิ เน้ือ ๒ เรอื่ ง เรอื่ งไม ๒เรื่อง เร่ืองผา บังสกุ ุล ๑ เรอ่ื ง เรือ่ งขา มน้ํา๒ เรอ่ื ง เรอ่ื งฉันทลี ะนอ ย ๑ เร่อื ง เรอ่ื งชวนกนั ลัก ๒ เร่ือง เรอื่ งกาํ มือท่เี มืองสาวัตถี๔ เรื่อง เร่อื งเนื้อเดน ๒ เรื่อง เร่อื งหญา๒ เรือ่ ง เรื่องใหแบงของสงฆ ๗ เรอื่ ง เร่ืองไมใ ชเจาของ ๗ เร่ือง เร่ืองยืมไมส งฆ๑ เร่ือง เร่อื งลกั นํา้ ของสงฆ ๑ เรอ่ื ง เรื่องลักดนิ ของสงฆ ๑ เรือ่ ง เรอ่ื งลกั หญา ของสงฆ ๒ เรอื่ ง เรอื่ งลักเสนาสนะของสงฆ๗ เรอื่ ง เรอื่ งของมเี จาของไมค วรนําไปใช๑ เร่อื ง เร่อื งของมีเจา ของควรขอยืม ๑ เรอื่ งเรื่องนางภิกษณุ ชี าวเมอื งจัมปา ๑ เร่อื ง เรอ่ื งนางภกิ ษุณชี าวเมอื งราชคฤห ๑ เรื่อง เรื่อง

พระวนิ ยั ปฎก มหาวิภังค เลม ๑ ภาค ๒ - หนา ท่ี 35 พระอัชชกุ ะเมอื งเวสาลี ๑ เรือ่ ง เรือ่ งทารก ชาวเมืองพาราณสี ๑ เรื่อง เรอ่ื งเมอื งโกสัมพี ๑ เรอื่ ง เรอื่ งสัทธิวิหาริกพระทฬั หิกะเมือง สาคละ ๑ เรื่อง. วินตี วัตถุ เรอ่ื งชา งยอม ๕ เร่ือง [๑๒๗] ๑. กโ็ ดยสมัยน้นั แล พระฉัพพคั คยี  ไปสูลานตากผา ของชา งยอ ม ลักหอผา ของชางยอมไปแลวไดม คี วามรงั เกียจวา พระผูมพี ระภาคเจาทรงบญั ญตั สิ กิ ขาบทไวแลว พวกเราตอ งอาบัติปาราชกิ แลวกระมังหนอ จงึกราบทูลเรอ่ื งนัน้ แดพ ระผมู พี ระภาคเจา ๆ ตรสั วา ดูกอ นภกิ ษุท้งั หลาย พวกเธอตองอาบตั ปิ าราชกิ แลว . [๑๒๘] ๒. ก็โดยสมัยน้ันแล ภิกษรุ ูปหน่ึง ไปสลู านตากผาของชา งยอ ม เหน็ ผา มีราคามาก ยงั ไถยจิตใหเ กิดแลว ไดมีความรงั เกยี จวา เราตอ งอาบัตปิ าราชกิ แลว กระมงั หนอ จึงกราบทูลเรือ่ งนั้นแดพ ระผูมพี ระภาค-เจา ๆ ตรัสวา ดูกอนภิกษุ เธอไมต อ งอาบตั ิ เพราะเพียงแตคิด. ๓. ก็โดยสมัยน้ันแล ภกิ ษรุ ูปหนงึ่ ไปสูลานตากผาของชางยอ มเหน็ ผามรี าคามาก มไี ถยจิตจบั ตองผาน้นั แลว ไดมีความรังเกยี จวา เราตอ งอาบัติปาราชกิ แลว กระมังหนอ จังกราบทูลเรอ่ื งนนั้ แดพระผมู พี ระภาคเจา ๆตรสั วา ดกู อ นภกิ ษุ เธอไมตองอาบัตปิ าราชิก แตต องอาบตั ิทกุ กฏ. ๔. กโ็ ดยสมยั นน้ั แล ภิกษรุ ูปหนงึ่ ไปสูล านตากผา ของชา งยอม เห็นผาราคามาก มไี ถยจติ ทาํ ผา น้ันใหไ หวแลว ไดม ีความรังเกียจวา เราตอ ง

พระวินยั ปฎก มหาวภิ ังค เลม ๑ ภาค ๒ - หนา ที่ 36อาบัติปาราชกิ แลว กระมงั หนอ จึงกราบทลู เรอ่ื งน้นั แดพระผูมีพระภาคเจา ๆตรสั วา ดกู อนภกิ ษุ เธอไมต องอาบตั ปิ าราชกิ แตต อ งอาบัติถุลลัจจยั . ๕. กโ็ ดยสมยั น้ันแล ภิกษุรปู หนง่ึ ไปสลู านตากผาของชา งยอม เหน็ผา มีราคามาก มไี ถยจติ ทําผานั้นใหเคลือ่ นจากฐานแลว ไดม คี วามรงั เกียจวาเราตองอาบตั ปิ าราชิกแลว กระมงั หนอ จึงกราบทลู เร่อื งนนั้ แดพ ระผูมีพระ-ภาคเจา ๆ ตรัสวา ดกู อ นภกิ ษุ เธอตอ งอาบัตปิ าราชิกแลว. เร่อื งผาหม ที่ตาก ๔ เรือ่ ง [๑๒๙] ๑. กโ็ ดยสมยั น้นั แล ภิกษผุ ูถ อื เทยี่ วบณิ ฑบาตเปน วตั รรปูหนง่ึ พบผาหม ท่เี ขาตากไว มรี าคามาก ยังไถยจิตใหเ กดิ ขึ้นแลว ไดมีความรังเกียจวา เราตอ งอาบัติปาราชิกแลว กระมังหนอ จงึ กราบทลู เรื่องนั้นแดพระผมู พี ระภาคเจา ๆ ตรัสวา ดูกอนภิกษุ เธอไมต องอาบัติ เพราะเพยี งแตค ดิ . ๒. กโ็ ดยสมยั นน้ั แล ภกิ ษุผูถือเท่ยี วบิณฑบาตเปนวัตรรูปหนง่ึ พบผาหมท่ีเขาตากไวม ีราคามาก มีไถยจิตจบั ตองแลว ไดมคี วามรงั เกียจวา เราตอ งอาบัตปิ าราชกิ แลว กระมงั หนอ จึงกราบทลู เรือ่ งนั้นแดพ ระผมู ีพระภาคเจา ๆ ตรสั วา ดกู อนภกิ ษุ เธอไมต องอาบตั ิปาราชิก แตตอ งอาบตั ิทุกกฏ. ๓. ก็โดยสมยั นน้ั แล ภิกษผุ ูถอื เท่ียวบณิ ฑบาตเปน วัตรรปู หน่ึง พบผาหมท่เี ขาตากไว มรี าคามาก มีไถยจิตยงั ผา นน้ั ใหไหวแลว ไดมีความรังเกยี จวาเราตองอาบตั ปิ าราชกิ แลว กระมังหนอ จงึ กราบทูลเรอื่ งนน้ั แดพ ระผูมีพระภาค-เจา ๆ ตรัสวา ดูกอ นภิกษุ เธอไมตอ งอาบตั ปิ าราชกิ แตต อ งอาบัตถิ ลุ ลจั จยั . ๔. กโ็ ดยสมัยนนั้ แล ภิกษผุ ถู อื เทย่ี วบิณฑบาตเปนวัตรรูปหนง่ึ พบผาหมท่เี ขาตากไวม ีราคามาก มไี ถยจติ ทาํ ผา นน้ั ใหเคลอ่ื นจากฐานแลว ไดมี

พระวนิ ยั ปฎ ก มหาวิภังค เลม ๑ ภาค ๒ - หนา ที่ 37ความรงั เกียจวา เราตอ งอาบตั ิปาราชิกแลว กระมังหนอ จึงกราบทลู เรอ่ื งนัน้แดพระผูมพี ระภาคเจา ๆ ตรัสวา ดกู อ นภกิ ษุ เธอตองอาบตั ปิ าราชกิ แลว . กลางคนื ๕ เรอ่ื ง [๑๓๐] ๑. ก็โดยสมยั นนั้ แล ภกิ ษรุ ูปหนงึ่ เห็นทรัพยในกลางวนัแลวไดทาํ นมิ ติ ไวด ว ยหมายใจวา จักลักในกลางคืน เธอเขาใจทรัพยน ้นั แนจงึ ลกั ทรัพยน้นั มาแลว ไดมคี วามรังเกยี จวา เราตองอาบัตปิ าราชกิ แลวกระมังหนอ จึงกราบทลู เร่อื งนัน้ แดพระผูมพี ระภาคเจา ๆ ตรสั วา ดกู อ นภกิ ษุ เธอตองอาบัตปิ าราชิกแลว. ๒. ก็โดยสมัยนั้นแล ภกิ ษรุ ูปหน่ึงเหน็ ทรพั ยในกลางวนั แลว ไดทํานมิ ติ ไวดว ยหมายใจวา จักลกั ในกลางคืน เธอเขาใจทรพั ยน้นั แน แตลักทรัพยนน้ั มาแลว ไดม ีความรังเกยี จวา เราตองอาบตั ิปาราชิกแลว กระมังหนอจึงกราบทลู เรอื่ งนั้นแดพ ระผูมพี ระภาคเจา ๆ ตรัสวา ดกู อนภิกษุ เธอตอ งอาบตั ิปาราชกิ แลว. ๓. ก็โดยสมัยนั้นแล ภิกษรุ ูปหน่งึ เหน็ ทรัพยใ นกลางวนั แลว ไดทํานิมิตไวดวยหมายใจวา จักลกั ในกลางคืน เธอเขาใจทรพั ยอ่นื แตลกั ทรพั ยนัน้ มาแลว ไดม คี วามรังเกยี จวา เราตอ งอาบัตปิ าราชกิ แลว กระมงั หนอ จึงกราบทูลเร่ืองนั้นแดพ ระผมู ีพระภาคเจา พระพทุ ธเจาตรัสวา ดูกอ นภิกษุ เธอตองอาบตั ิปาราชิกแลว . ๔. ก็โดยสมยั นัน้ แล ภิกษรุ ูปหนึง่ เห็นทรพั ยใ นกลางวัน แลว ไดท าํนิมิตไวดวยหมายใจวา จักลักในกลางคืน เธอเขาใจทรัพยอ ่ืน จงึ ลกั ทรัพยอ่นื มาแลว ไดมคี วามรงั เกยี จวา เราตองอาบัติปาราชกิ แลว กระมังหนอ จึง

พระวนิ ัยปฎ ก มหาวิภงั ค เลม ๑ ภาค ๒ - หนา ที่ 38กราบทูลเรื่องนั้นแดพ ระผูมพี ระภาคเจา ๆ ตรัสวา ดกู อนภิกษุ เธอตองอาบตั ิปาราชกิ แลว . ๕. กโ็ ดยสมัยนน้ั แล ภกิ ษรุ ูปหนง่ึ เห็นทรัพยใ นกลางวัน แลวไดทํานิมติ ไวด วยหมายใจวา จกั ลักในกลางคนื เธอเขาใจทรพั ยน ้ันแน แตล ักทรพั ยของตนมาแลว ไดม ีความรังเกยี จวา เราตอ งอาบตั ิปาราชิกแลว กระมังหนอจงึ กราบทูลเรือ่ งนน้ั แดพ ระผูมพี ระภาคเจา ๆ ตรสั วา ดกู อนภกิ ษุ เธอไมตอ งอาบตั ปิ าราชิก แตต องอาบตั ิทกุ กฏ. เรอ่ื งทรัพยท ภ่ี กิ ษุนาํ ไปเอง ๕ เรื่อง [๑๓๑] ๑. กโ็ ดยสมัยนั้นแล ภกิ ษุรปู หนงึ่ นําทรพั ยของผอู ื่นไปมีไถยจติ จบั ตอ งภาระบนศีรษะแลว ไดม คี วามรงั เกยี จวา เราตอ งอาบตั ปิ าราชกิแลว กระมังหนอ จึงกราบทูลเร่อื งน้นั แดพ ระผูมีพระภาคเจา ๆ ตรสั วา ดูกอ นภิกษุ เธอไมต องอาบัติปาราชกิ แตตองอาบตั ทิ ุกกฏ. . . . มไี ถยจิตยงั ภาระบนศีรษะใหไ หว . . . พระผูม ีพระภาคเจา ตรสั วาดูกอ นภิกษุ เธอไมตอ งอาบัตปิ าราชิก แตต อ งอาบัติถลุ ลจั จัย. . . . มีไถยจติ ลดภาระบนศรี ษะลงสูค อ . . . พระผูมีพระภาคเจาตรสั วาดูกอนภกิ ษุ เธอตอ งอาบตั ปิ าราชิกแลว. ๒. ก็โดยสมัยนัน้ แล ภกิ ษรุ ูปหนึ่งนาํ ทรพั ยของผูอน่ื ไป มไี ถยจติจบั ตอ งภาระที่คอแลว ไดมคี วามรังเกยี จวา เราตองอาบตั ิปาราชกิ แลว กระมัง-หนอ จงึ กราบทลู เร่ืองนน้ั แดพระผมู ีพระภาคเจา ๆ ตรัสวา ดูกอนภกิ ษุ เธอไมต อ งอาบัติปาราชิก แตต องอาบตั ิทุกกฏ. . . . มีไถยจติ ยงั ภาระทค่ี อใหไหว . . . พระผมู ีพระภาคเจาตรสั วาดกู อ นภิกษุ เธอไมต องอาบตั ิปาราชกิ แตต องอาบตั ถิ ลุ ลัจจัย.

พระวินยั ปฎก มหาวิภังค เลม ๑ ภาค ๒ - หนา ที่ 39 . . . มไี ถยจติ ลดภาระทีค่ อลงสูสะเอว . . . พระผมู พี ระภาคเจาตรสั วาดูกอนภกิ ษุ เธอตอ งอาบตั ปิ าราชิกแลว. ๓. กโ็ ดยสมัยน้นั แล ภกิ ษุรปู หนึ่ง นําทรัพยข องผอู ื่นไป มีไถยจติจับตอ งภาระท่ีสะเอวแลว ไดม ีความรงั เกยี จวา เราตองอาบัติปาราชกิ แลวกระมงั หนอ จึงกราบทูลเร่ืองนน้ั แดพระผมู ีพระภาคเจา ๆ ตรัสวา ดูกอ นภกิ ษุเธอไมต อ งอาบตั ปิ าราชกิ แตต องอาบตั ิทุกกฏ. . . . มีไถยจติ ยังภาระทส่ี ะเอวใหไหว . . . พระผูม ีพระภาคเจา ตรสั วาดกู อ นภกิ ษุ เธอไมต อ งอาบตั ปิ าราชกิ แตต องอาบตั ถิ ุลลัจจัย. . . .มีไถยจิตลดภาระที่สะเอวลงถอื ดว ยมือ. . . พระผมู พี ระภาคเจา ตรัสวาดูกอ นภิกษุ เธอตอ งอาบตั ปิ าราชิกแลว. ๔. กโ็ ดยสมยั นัน้ แล ภิกษุรปู หน่งึ นาํ ทรพั ยของผูอืน่ ไป มีไถยจิตวางภาระในมอื ลงบนพน้ื แลว ไดมีความรงั เกยี จวา เราตองอาบัติปาราชกิ แลวกระมงั หนอ จึงกราบทูลเรื่องนั้นแดพ ระผมู พี ระภาคเจา ๆ ตรัสวา ดูกอนภิกษุเธอตอ งอาบัติปาราชิกแลว . ๕. ก็โดยสมยั นัน้ แล ภกิ ษุรปู หน่งึ นําทรพั ยข องผูอืน่ ไป มไี ถยจติหยิบทรพั ยน ั้นขึ้นจากพน้ื ดนิ แลว ไดม ีความรงั เกยี จวา เราตอ งอาบัติปาราชิกแลว กระมังหนอ จึงกราบทูลเรือ่ งน้ันแดพระผูม พี ระภาคเจา ๆ ตรัสวาดกู อ นภกิ ษุ เธอตอ งอาบัติปาราชิกแลว. เรอื่ งตอบตามคาํ ถามนํา ๕ เร่อื ง [๑๓๒] ๑. กโ็ ดยสมยั นั้นแล ภิกษรุ ูปหนึ่งผ่งึ จีวรไวกลางแจง แลวเขาไปสูวหิ าร ภกิ ษอุ ีกรปู หนงึ่ ไดเกบ็ ไวด ว ยคดิ วา จีวรน้ี อยา หายเสียเลยภกิ ษเุ จา ของออกมา ถามภกิ ษุรูปนน้ั วา อาวุโส จวี รของผม ใครลักไป ภกิ ษุ

พระวนิ ยั ปฎก มหาวิภงั ค เลม ๑ ภาค ๒ - หนาท่ี 40นัน้ ตอบอยางนี้วา ผมลักไป ภิกษุเจาของยดึ ถือภิกษุนนั้ วาไมเปน สมณะ เธอไดม คี วามรงั เกียจวา เราตองอาบัตปิ าราชิกแลว กระมังหนอ จงึ กราบทูลเรอ่ื งน้นั แดพ ระผูม พี ระภาคเจา ๆ ตรสั ถามวา ดูกอ นภกิ ษุ เธอคดิ อยา งไร. ภ.ิ ขาพระพุทธเจา ตอบตามคาํ ถามนํา พระพทุ ธเจาขา. ภ. ดูกอนภิกษุ ไมเ ปนอาบัติ เพราะตอบตามคาํ ถามนํา. ๒. กโ็ ดยสมัยนั้นแล ภกิ ษรุ ปู หน่งึ พาดจีวรไวบนตง่ั แลว เขาไปสูวหิ าร ภิกษอุ กี รูปหนึง่ ไดเ ก็บไวดวยคิดวา จีวรน้ี อยา หายเสียเลย ภิกษุเจาของออกมา ถามภิกษุนั้นวา อาวุโส จีวรของผม ใครลักไป ภกิ ษนุ ้นั ตอบอยา งนี้วา ผมลักไป ภกิ ษุเจาของยดึ ถือภิกษนุ ้ันวา ไมเปนสมณะ เธอไดมีความรังเกียจวา เราตองอาบตั ิปาราชิกแลว กระมงั หนอ จึงกราบทูลเรื่องนนั้ แดพระผูมพี ระภาคเจา ๆ ตรัสถามวา ดกู อนภิกษุ เธอคิดอยา งไร. ภ.ิ ขา พระพทุ ธเจา ตอบตามคาํ ถามนํา พระพทุ ธเจา ขา . ภ. ดูกอ นภิกษุ ไมเ ปนอาบตั ิ เพราะตอบตามคําถามนํา. ๓. กโ็ ดยสมยั นั้นแล ภกิ ษรุ ูปหนง่ึ พาดผา นสิ ที นะไวบ นตั่ง แลว เขาไปสวู หิ าร ภกิ ษอุ กี รปู หนงึ่ ไดเกบ็ ไวด ว ยคิดวา ผานิสีทนะน้ี อยาหายเสยี เลยภกิ ษเุ จา ของออกมา ถามภิกษุนนั้ วา อาวุโส ผานสิ ีทนะของผม ใครลักไปภกิ ษุนั้นตอบอยางนี้วา ผมลักไป ภกิ ษเุ จาของยึดถือภกิ ษุนนั้ วา ไมเปน สมณะเธอไดม คี วามรังเกียจวา เราตองอาบัตปิ าราชกิ แลว กระมงั หนอ จึงกราบทูลเร่อื งนัน้ แดพระผูมีพระภาคเจา ๆ ตรสั ถามวา ดูกอ นภิกษุ เธอคิดอยางไร. ภ.ิ ขา พระพุทธเจา ตอบตามคาํ ถามนาํ พระพุทธเจาขา . ภ. ดกู อนภกิ ษุ ไมเปนอาบตั ิ เพราะตอบตามคําถามนํา.

พระวินัยปฎก มหาวิภังค เลม ๑ ภาค ๒ - หนาท่ี 41 ๔. ก็โดยสมัยน้นั แล ภกิ ษุรูปหนึง่ วางบาตรไวใ ตต ง่ั แลว เขาไปสูวหิ าร ภิกษอุ กี รูปหนงึ่ ไดเก็บไวดวยคิดวาบาตรน้ี อยา หายเสยี เลยภกิ ษุเจา ของออกมา ถามภกิ ษุนัน้ วา อาวุโส บาตรของผมใครลักไป ภกิ ษนุ ้ันตอบอยา งน้ีวาผมลักไป ภกิ ษเุ จา ของยึดถือภิกษนุ น้ั วาไมเ ปนสมณะ เธอไดมีความรงั เกยี จวาเราตองอาบตั ปิ าราชกิ แลว กระมงั หนอ จงึ กราบทลู เร่ืองน้ันแดพระผมู ีพระ-ภาคเจา ๆ ตรสั ถามวา ดูกอนภิกษุ เธอคิดอยางไร. ภ.ิ ขาพระพทุ ธเจา ตอบตามคําถามนาํ พระพทุ ธเจา ขา. ภ. ดกู อ นภิกษุ ไมเ ปน อาบัติ เพราะตอบตามคําถามนํา. ๕. ก็โดยสมัยน้นั แล ภกิ ษุณีรูปหนงึ่ ผึ่งจีวรไวทีร่ วั้ แลว เขา ไปสวู หิ ารภกิ ษุณอี กี รปู หนึง่ เกบ็ ไวดว ยวา จวี รน้ี อยาหายเสยี เลย ภกิ ษณุ ีผูเปนเจา ของออกมา ถามภิกษณุ นี ้ันวา แมเ จา จีวรของดิฉันใครลักไป ภิกษุณีน้นั ตอบอยางนี้วา ดฉิ นั ลกั ไป ภกิ ษุณเี จาของยึดถอื ภกิ ษณุ นี นั้ วา ไมเ ปนสมณะ เธอไดมีความรงั เกยี จ จึงแจงเรื่องนน้ั แกภ กิ ษุณีทงั้ หลาย ๆ แจงแกภ กิ ษุทงั้ หลาย ๆกราบทูลเรอ่ื งนน้ั แดพ ระผูมพี ระภาคเจา ๆ ตรัสวา ดกู อนภิกษุทงั้ หลาย ไมเปน อาบตั ิ เพราะตอบตามคาํ ถามนาํ . เร่อื งลม ๒ เร่ือง [๑๓๓] ๑. กโ็ ดยสมยั นัน้ แล ภิกษุรปู หน่ึงเหน็ ผาสาฎกถูกลมบาหมูพัดหอบไป จึงเกบ็ ไวดวยตงั้ ใจวา จกั ใหแ กเ จา ของ เจา ของโจทภกิ ษุนนั้ วาไมเปน สมณะ เธอไดมคี วามรังเกียจวา เราตอ งอาบตั ิปาราชกิ แลว กระมงั หนอจงึ กราบทูลเร่ืองนน้ั แดพ ระผมู ีพระภาคเจา ๆ ตรสั ถามวา ดูกอ นภกิ ษุ เธอคิดอยางไร.

พระวนิ ยั ปฎก มหาวภิ งั ค เลม ๑ ภาค ๒ - หนา ท่ี 42 ภ.ิ ขาพระพทุ ธเจา ไมม ไี ถยจติ พระพทุ ธเจา ขา . ภ. ดูกอ นภิกษุ ภิกษุผูไมมไี ถยจติ ไมเปนอาบตั .ิ ๒. กโ็ ดยสมัยนนั้ แล ภกิ ษุรปู หนึ่งมีไถยจิตถือเอาผา โพกซงึ่ ถกู ลมบาหมูพัดหอบไป ดว ยเกรงวา เจา ของจะเหน็ เสยี กอ น เจาของโจทภิกษนุ ้ันวาไมเปน สมณะ เธอไดมีความรงั เกยี จวา เราตอ งอาบตั ิปาราชิกแลว กระมังหนอจงึ กราบทูลเรือ่ งนัน้ แดพระผูมีพระภาคเจา ๆ ตรสั ถามวา ดกู อนภกิ ษุ เธอคิดอยา งไร. ภิ. ขาพระพทุ ธเจา คดิ ลกั พระพทุ ธเจา ขา. ภ. ดูกอ นภิกษุ เธอตองอาบตั ปิ าราชกิ แลว . เรอ่ื งศพที่ยังสด [๑๓๔] กโ็ ดยสมยั นนั้ แล ภิกษุรปู หนง่ึ ไปปาชา แลว ถอื เอาผาบงั สกุ ลุทีศ่ พสด และในรา งศพนนั้ มีเปรตสิงอยู จึงเปรตน้ัน ไดกลา วกะภกิ ษุนั้นวาทานผูเ จรญิ ทานอยาไดถือเอาผา สาฎกของขาพเจา ไป ภกิ ษุนน้ั ไมเ อื้อเฟอจึงไดถอื ไป ทนั ใดศพนั้นลุกขึ้นเดินตามหลงั ภกิ ษุนน้ั ไป ภิกษนุ ้ันเขาไปสูวหิ ารปดประตู รางศพนนั้ ไดลม ลง ณ ทีน่ น้ั ทนั ที เธอไดม ีความรังเกียจวาเราตอ งอาบตั ปิ าราชกิ แลว กระมงั หนอ จงึ กราบทูลเรื่องนัน้ แดพระผูมพี ระ-ภาคเจา ๆ ตรัสวา ดูกอนภกิ ษุ เธอไมต องอาบัติปาราชิก ดกู อนภกิ ษุทง้ั หลายอันผา บังสุกลุ ท่ีศพสด ภิกษทุ ัง้ หลายไมพ งึ ถือเอา ภิกษใุ ดถอื เอา ตอ งอาบตั ิทกุ กฏ. เรอ่ื งสับเปลย่ี นสลาก [๑๓๕] ก็โดยสมยั นนั้ แล เมือ่ จีวรของสงฆ อันภกิ ษุจีวรภาชกะแจกอยู ภิกษรุ ูปหนงึ่ มไี ถยจติ สับเปลย่ี นสลาก แลวรบั จีวรไป เธอไดม คี วาม

พระวินยั ปฎ ก มหาวภิ ังค เลม ๑ ภาค ๒ - หนา ท่ี 43รังเกยี จวา เราตองอาบตั ิปาราชิกแลว กระมังหนอ จึงกราบทลู เรอ่ื งนน้ั แดพระผูม พี ระภาคเจา ๆ ตรสั วา ดูกอนภิกษุ เธอตอ งอาบัตปิ าราชกิ แลว. เรอ่ื งเรอื นไฟ [๑๓๖] ก็โดยสมัยนน้ั แล ทา นพระอานนทสาํ คัญผาอันตรวาสกของภิกษรุ ปู หนึง่ ในเรือนไฟวาของตน จงึ นุง แลว ภกิ ษุนนั้ ไดถามทานพระอานนทวา อาวโุ สอานนท ไฉนทา นจึงนุงผาอันตรวาสกของกระผมเลา . ทา นพระอานนทตอบวา อาวุโส ผมเขา ใจวา ของผม. ภิกษทุ ้งั หลายจึงกราบทูลเรอ่ื งน้ันแดพ ระผูมพี ระภาคเจา ๆ ตรัสวา ดกู อ นภิกษทุ ั้งหลาย ภกิ ษผุ มู ีความเขา ใจวา ของตน ไมตอ งอาบัต.ิ เรื่องเน้อื เดนสัตว ๕ เรอ่ื ง [๑๓๗] ๑. กโ็ ดยสมัยน้ันแล ภกิ ษุหลายรปู ลงจากภเู ขาคชิ ฌกูฏ พบเนื้อเดนราชสีห จงึ ใชอ นปุ สัมบนั ใหต ม แกงฉนั แลวมคี วามรังเกยี จ จึงกราบทลู เรอ่ื งน้นั แดพ ระผูมีพระภาคเจา ๆ ตรสั วา ดูกอ นภกิ ษทุ ้ังหลาย ไมเปนอาบตั ิเพราะเน้ือเดนราชสีห. ๒. ก็โดยสมัยนั้นแล ภิกษหุ ลายรปู ลงจากภเู ขาคชิ ฌกฏู พบเนือ้ เดนเสือโครงจึงใชอ นปุ สัมบนั ใหตม แกงฉนั แลวมีความรังเกียจ จึงกราบทลู เรื่องนั้นแดพ ระผูม พี ระภาคเจา ๆ ตรสั วา ดกู อ นภิกษุทั้งหลาย ไมเ ปนอาบตั ิ เพราะเนือ้ เดนเสือโครง . ๓. ก็โดยสมัยน้นั แล ภิกษหุ ลายรปู ลงจากภเู ขาคชิ ฌกูฏ พบเน้ือเดนเสือเหลือง จงึ ใชอ นปุ สมั บันใหตม แกงฉนั แลว มคี วามรังเกยี จ จึงกราบทูล

พระวินยั ปฎ ก มหาวภิ งั ค เลม ๑ ภาค ๒ - หนา ที่ 44เร่อื งน้นั แดพระผมู ีพระภาคเจา ๆ ตรัสวา ดูกอนภิกษทุ ้ังหลาย ไมเปนอาบตั ิเพราะเนื้อเดนเสอื เหลือง. ๔. กโ็ ดยสมยั นน้ั แล ภกิ ษุหลายรูปลงจากภูเขาคิชฌกฏู พบเน้ือเดนเสอื ดาว จงึ ใชอ นุปสัมบันใหต มแกงฉนั แลว มีความรงั เกียจ จึงกราบทลูเร่อื งน้นั แดพระผูม พี ระภาคเจา ๆ ตรัสวา ดกู อนภกิ ษุท้งั หลาย ไมเปน อาบตั ิเพราะเนอื้ เดนเสอื ดาว. ๕. ก็โดยสมัยนั้นแล ภิกษหุ ลายรปู ลงจากภูเขาคิชฌกูฏ พบเนือ้ เดนสนุ ัขปา จงึ ใชอ นปุ สมั บันใหตม แกงฉนั แลวมคี วามรงั เกียจ จงึ กราบทลู เรอื่ งน้ันแดพระผมู พี ระภาคเจา ๆ ตรสั วา ดูกอนภิกษทุ ้งั หลาย ไมเปนอาบตั ิ เพราะเนอ้ื อันสตั วด ิรัจฉานหวงแหน. เรื่องสวนไมม ีมูล ๕ เร่อื ง [๑๓๘] ๑. ก็โดยสมัยน้ันแล เม่ือขา วสุกของสงฆอนั ภิกษุภตั ตุทเทสกแจงอยู ภิกษุรูปหน่งึ พูดวา ขอทา นจงใหส วนของภิกษุอนื่ อีก แลวรับสวนท่ีไมมีมลู ไป เธอไดมีความรังเกียจวา เราตองอาบตั ิปาราชกิ แลว กระมงั หนอจงึ กราบทูลเรือ่ งนัน้ แดพระผมู พี ระภาคเจา ๆ ตรสั วา ดูกอนภิกษุ เธอไมต องอาบตั ิปาราชิก แตต อ งอาบัติปาจิตตยี  เพราะสมั ปชานมุสาวาท. ๒. กโ็ ดยสมัยนนั้ แล เมอ่ื ของเคีย้ วของสงฆอ นั ภกิ ษุขัชชภาชกะแจกอยูภิกษุรูปหนึง่ พดู วา ขอทานจงใหส วนของภิกษุอน่ื อีก แลว รบั สวนทไี่ มมมี ลู ไปเธอไดมีความรังเกยี จวา เราตองอาบตั ปิ าราชกิ แลว กระมังหนอ จงึ กราบทลูเรอื่ งนั้นแดพ ระผูมพี ระภาคเจา ๆ ตรัสวา ดกู อนภกิ ษุ เธอไมตอ งอาบตั ิปาราชกิแตต องอาบตั ปิ าจิตตยี  เพราะสัมปชานมุสาวาท.

พระวินยั ปฎก มหาวภิ งั ค เลม ๑ ภาค ๒ - หนา ที่ 45 ๓. กโ็ ดยสมยั น้นั แล เม่ือขนมของสงฆอันภิกษปุ วู ภาชกะแจกอยูภิกษรุ ูปหน่งึ พูดวา ขอทา นจงใหสว นของภิกษุอ่ืนอกี แลวรับสว นท่ไี มมีมูลไปเธอไดม ีความรังเกยี จวา เราตอ งอาบตั ปิ าราชิกแลว กระมงั หนอ จึงกราบทลูเร่ืองน้นั แดพระผูมพี ระภาคเจา ๆ ตรสั วา ดูกอ นภกิ ษุ เธอไมต องอาบตั ปิ าราชกิแตต อ งอาบัตปิ าจติ ตยี  เพราะสัมปชานมุสาวาท. ๔. ก็โดยสมยั น้ันแล เม่อื ออ ยของสงฆอนั ภกิ ษอุ จุ ฉภุ าชกะแจกอยูภิกษุรูปหนึ่งพดู วา ขอทา นจงใหสวนของภกิ ษอุ ่ืนอีก แลว รับสว นท่ไี มม มี ลู ไปเธอไดม คี วามรงั เกียจวา เราตอ งอาบัติปาราชกิ แลว กระมังหนอ จึงกราบทูลเรอ่ื งน้นั แดพ ระผูมีพระภาคเจา ๆ ตรัสวา ดูกอ นภกิ ษุ เธอไมต อ งอาบตั ปิ าราชกิแตตอ งอาบัตปิ าจิตตีย เพราะสัมปชานมุสาวาท. ๕. ก็โดยสมยั นัน้ แล เม่อื ผลมะพลับของสงฆอ นั ภิกษุผลภาชกะแจกอยู ภิกษุรปู หน่ึงพดู วา ขอทา นจงใหสว นของภกิ ษุอ่ืนอีก แลวรับสว นที่ไมมีมลู ไป เธอไดม คี วามรงั เกียจวา เราตอ งอาบตั ิปาราชิกแลว กระมงั หนอ จงึกราบทลู เรื่องน้นั แดพระผูม ีพระภาคเจา ๆ ตรสั วา ดูกอ นภิกษุ เธอไมต องอาบตั ิปาราชกิ แตตองอาบตั ิปาจิตตีย เพราะสัมปชานมสุ าวาท. เร่อื งขาวสกุ [๑๓๙] กโ็ ดยสมยั นน้ั แล ขาวแพง ภิกษรุ ูปหนง่ึ เขา ไปสรู านขายขา วสกุ มไี ถยจิตลักขาวสกุ ไปเต็มบาตร แลวมคี วามรงั เกียจวา เราตอ งอาบัติปาราชิกแลว กระมงั หนอ จงึ กราบทลู เรือ่ งนัน้ แดพ ระผูมีพระภาคเจา ๆ ตรัสวาดูกอ นภกิ ษุ เธอตองอาบัติปาราชกิ แลว.

พระวินัยปฎก มหาวิภงั ค เลม ๑ ภาค ๒ - หนาที่ 46 เรอ่ื งเนื้อ ก็โดยสมัยนน้ั แล ขา วแพง ภิกษรุ ปู หนึง่ เขา ไปสรู า นขายแกงเนื้อ มีไถยจติ ลกั เนือ้ ไปเตม็ บาตร แลวมีความรงั เกียจวา เราตองอาบตั ิปาราชกิ แลวกระมงั หนอ จึงกราบทลู เร่อื งนัน้ แดพ ระผมู พี ระภาคเจา ๆ ตรัสวา ดูกอ นภกิ ษุเธอตอ งอาบัตปิ าราชิกแลว. เร่อื งขนม ก็โดยสมยั นนั้ แล ขาวแพง ภิกษรุ ปู หนึง่ เขา ไปสรู า นขายขนม มีไถยจิตลักขนมไปเตม็ บาตร แลว มีความรงั เกียจวา เราตองอาบัตปิ าราชกิ แลวกระมังหนอ จงึ กราบทูลเรอ่ื งนัน้ แดพ ระผูม พี ระภาคเจา ๆ ตรสั วา ดกู อนภกิ ษุเธอตองอาบตั ิปาราชิกแลว . เรือ่ งนํ้าตาลกรวด กโ็ ดยสมยั น้นั แล ขาวแพง ภกิ ษรุ ปู หนึ่งเขาไปสูรา นขายนาํ้ ตาลกรวดมีไถยจติ ลกั นาํ้ ตาลกรวดไปเต็มบาตร แลว มคี วามรงั เกียจวา เราตองอาบัติปาราชิกแลว กระมังหนอ จงึ กราบทลู เร่ืองน้นั แดพ ระผมู พี ระภาคเจา ๆ ตรสั วาดูกอนภิกษุ เธอตองอาบตั ปิ าราชกิ แลว . เรอื่ งขนมตม กโ็ ดยสมัยนั้นแล ขาวแพง ภกิ ษรุ ปู หนงึ่ เขาไปสูรา นขายขนมตม มีไถยจิตลกั ขนมตม ไปเต็มบาตร แลวมีความรังเกยี จวา เราตองอาบตั ปิ าราชกิแลว กระมงั หนอ จึงกราบทูลเรือ่ งนน้ั แดพระผูมีพระภาคเจา ๆ ตรัสวาดูกอนภิกษุ เธอตองอาบตั ปิ าราชิกแลว.

พระวนิ ยั ปฎก มหาวภิ งั ค เลม ๑ ภาค ๒ - หนาที่ 47 เรื่องบริขาร ๕ เรอ่ื ง [๑๔๐] ๑. กโ็ ดยสมยั นั้นแล ภกิ ษุรูปหนงึ่ เหน็ บรขิ ารในกลางวนัแลว ไดท ํานมิ ติ ไววา จกั ลักในกลางคนื ภิกษนุ ั้นสาํ คญั บรขิ ารนน้ั แน จงึ ลักบริขารนนั้ แลวมีความรงั เกียจวา เราตอ งอาบตั ิปาราชกิ แลว กระมังหนอจึงกราบทลู เร่อื งนั้นแดพระผูมีพระภาคเจา ๆ ตรสั วา ดูกอ นภกิ ษุ เธอตองอาบัตปิ าราชกิ แลว. ๒. ก็โดยสมยั นนั้ แล ภิกษรุ ปู หนึ่งเห็นบรขิ ารในกลางวัน แลว ไดทํานมิ ิตไวว า จักลกั ในกลางคืน ภิกษุน้ันสําคัญบรขิ ารนน้ั แน แตลกั บรขิ ารอืน่แลวมคี วามรังเกียจวา เราตอ งอาบตั ปิ าราชิกแลว กระมังหนอ จงึ กราบทลู เรื่องนน้ั แดพระผูม พี ระภาคเจา ๆ ตรสั วา ดูกอนภิกษุ เธอตอ งอาบตั ปิ าราชกิ แลว. ๓. ก็โดยสมัยนน้ั แล ภิกษรุ ปู หนงึ่ เห็นบริขารในกลางวัน แลวไดทาํนิมติ ไวว า จกั ลกั ในกลางคนื ภิกษนุ ัน้ สําคัญวาบรขิ ารอ่ืน แตลกั บรขิ ารนน้ัแลว มีความรงั เกียจวา เราตอ งอาบัตปิ าราชิกแลว กระมงั หนอ จึงกราบทูลเรอื่ งนน้ั แดพ ระผมู ีพระภาคเจา ๆ ตรสั วา ดูกอนภิกษุ เธอตอ งอาบตั ิปาราชกิ แลว. ๔. กโ็ ดยสมัยนนั้ แล ภิกษรุ ปู หนงึ่ เหน็ บริขารในกลางวัน แลวไดทํานิมติ ไวว า จกั ลกั ในกลางคืน ภกิ ษุนั้นสําคญั วาบริขารอ่ืน จึงลักบรขิ ารอนื่แลว มคี วามรงั เกียจวา เราตอ งอาบตั ปิ าราชิกแลว กระมงั หนอ จงึ กราบทูลเรอ่ื งน้นั แดพระผูมพี ระภาคเจา ๆ ตรัสวา ดกู อนภกิ ษุ เธอตอ งอาบตั ปิ าราชิกแลว . ๕. ก็โดยสมัยน้นั แล ภิกษุรูปหนงึ่ เหน็ บรขิ ารในกลางวนั แลว ไดทํานมิ ิตไววา จกั ลกั ในกลางคนื ภกิ ษนุ ้ันสาํ คัญบริขารนัน้ แน แตลกั บรขิ ารของตน แลว มีความรงั เกยี จวา เราตองอาบัติปาราชิกแลว กระมงั หนอ จึง

พระวนิ ัยปฎก มหาวภิ ังค เลม ๑ ภาค ๒ - หนาที่ 48กราบทลู เรอื่ งนั้นแดพ ระผูมีพระภาคเจา ๆ ตรัสวา ดูกอ นภกิ ษุ เธอไมตอ งอาบัตปิ าราชกิ แตต อ งอาบัติทุกกฎ. เร่ืองถุง [๑๔๑] กโ็ ดยสมยั น้ันแล ภิกษรุ ูปหน่งึ เห็นถุงวางอยูบนต่ังแลวคิดวาเราถอื เอาไปจากตง่ั น้ี จกั เปน ปาราชิก จึงไดยกถอื เอาพรอ มทัง้ ต่ัง แลว มีความรังเกียจวา เราตองอาบตั ปิ าราชิกแลว กระมงั หนอ จึงกราบทลู เร่อื งนั้นแดพระผมู พี ระภาคเจา ๆ ตรสั วา ดูกอ นภกิ ษุ เธอตอ งอาบตั ปิ าราชกิ แลว. เร่อื งฟูก [๑๔๒] กโ็ ดยสมัยนัน้ แล ภิกษุรูปหนึง่ มไี ถยจิตลักฟกู ของสงฆ แลวมคี วามรังเกียจวา เราตองอาบตั ปิ าราชกิ แลว กระมังหนอ จงึ กราบทลู เรอื่ งน้ันแดพระผูม ีพระภาคเจา ๆ ตรัสวา ดกู อ นภิกษุ เธอตอ งอาบตั ปิ าราชกิ แลว . เรอื่ งราวจีวร [๑๔๓] ก็โดยสมยั นน้ั แล ภิกษรุ ูปหนง่ึ มไี ถยจติ ลักจวี รท่รี าวจีวรไปแลวมคี วามรังเกียจวา เราตองอาบตั ปิ าราชิกแลว กระมงั หนอ จงึ กราบทูลเรอื่ งน้นั แดพ ระผูมพี ระภาคเจา ๆ ตรัสวา ดูกอ นภิกษุ เธอตองอาบตั ิปาราชกิ แลว. เรอื่ งไมออกไป [๑๔๔] ก็โดยสมยั นนั้ แล ภกิ ษุรปู หน่ึง ลักจวี รในวิหารแลวคิดวาเราออกจากวหิ ารนี้ไปจักเปน ปาราชิก จึงไมออกจากวหิ าร ภิกษุท้งั หลายกราบทูลเรอ่ื งนน้ั แดพระผูมีพระภาคเจา ๆ ตรัสวา ดกู อ นภกิ ษุทง้ั หลาย โมฆ-บรุ ษุ นน้ั จะพึงออกไปกต็ าม ไมออกไปกต็ าม กต็ อ งอาบัตปิ าราชกิ แลว .

พระวนิ ัยปฎ ก มหาวิภังค เลม ๑ ภาค ๒ - หนา ที่ 49 เรือ่ งถอื วิสาสะฉันของเคยี้ ว [๑๔๕] ก็โดยสมัยน้ันแล ภิกษสุ องรปู เปน เพอ่ื นกัน รูปหนงึ่ เขา ไปบณิ ฑบาตในบาน รูปท่สี อง เมื่อของเคี้ยวของสงฆ อนั ภกิ ษุภตั ตทุ เทสกแจกอยูไดรบั เอาสว นของเพอื่ นแลว ถือวิสาสะฉนั สวนของเพอื่ นน้ัน ภิกษุรปู ทห่ี นงึ่น้นั ทราบแลว โจทภกิ ษุรูปทส่ี องวา ทานไมเ ปนสมณะ ภกิ ษุรปู ท่ีสองมีความรงั เกยี จวา เราตองอาบัติปาราชกิ แลว กระมงั หนอ จงึ กราบทูลเรื่องนน้ั แดพระผูม ีพระภาคเจา ๆ ตรสั ถามวา ดกู อ นภกิ ษุ เธอคดิ อยางไร. ภิ. ขา พระพทุ ธเจา ถือวิสาสะ พระพุทธเจา ขา. ภ. ดกู อ นภิกษุ ไมเ ปน อาบัติ เพราะถอื วิสาสะ. เรอ่ื งฉนั ของเค้ียวดวยสําคัญวา ของตน ๒ เรอ่ื ง [๑๔๖] ๑. กโ็ ดยสมัยนนั้ แล ภกิ ษหุ ลายรปู กาํ ลงั ทาํ จวี รกนั อยู เมอื่ของเคยี้ วของสงฆ อนั ภิกษุขัชชภาชกะแจกอยู ภกิ ษุทุกรูปตา งนาํ สวนของตนไปเกบ็ ไว ภกิ ษรุ ูปหน่งึ สาํ คัญสวนของภกิ ษอุ กี รูปหนึง่ วาของตน จงึ ฉนั ภิกษุผูเปนเจา ของทราบแลว โจทภกิ ษนุ ั้นวา ทา นไมเ ปนสมณะ ภิกษรุ ูปนัน้ มีความรงั เกียจวา เราตองอาบัติปาราชิกแลว กระมังหนอ จงึ กราบทลู เร่ืองน้ันแดพระผมู ีพระภาคเจา ๆ ตรสั วา ดูกอ นภกิ ษุ ไมเ ปนอาบัติแกภกิ ษุผูมคี วามสําคัญวา ของตน. ๒. ก็โดยสมัยน้นั แล ภิกษุหลายรูปกาํ ลงั ทาํ จีวรกันอยู เมือ่ ของเคย้ี วของสงฆ อนั ภิกษขุ ัชชภาชกะแจกอยู ภิกษรุ ูปหนง่ึ ไดเ อาบาตรของภิกษอุ กีรูปหน่ึงไปนําสวนของตนมาเกบ็ ไว ภิกษุเจาของบาตรสาํ คญั วาของตน จึงฉนัภกิ ษุน้ันทราบแลว โจทภิกษเุ จาของบาตรวา ทานไมเ ปน สมณะ ภิกษุเจาของ

พระวินยั ปฎก มหาวิภังค เลม ๑ ภาค ๒ - หนาที่ 50บาตรมีความรงั เกียจวา เราตองอาบัติปาราชกิ แลว กระมงั หนอ จึงกราบทูลเรอ่ื งนน้ั แดพระผมู ีพระภาคเจา ๆ ตรัสวา ดูกอนภกิ ษุ ไมเปนอาบัตแิ กภิกษุผมู คี วามสาํ คญั วา ของตน. เร่อื งไมล กั ๗ เรอ่ื ง [๑๔๗] ๑. กโ็ ดยสมัยน้นั แล พวกขโมยลกั มะมวง ทํามะมว งใหหลน แลวหอ ถอื ไป พวกเจาของติดตามพวกขโมยเหลา น้นั ไป พวกขโมยเหน็พวกเจา ของ แลวทงิ้ หอมะมวงหนไี ป ภิกษุทัง้ หลายมีความสาํ คญั วา เปน ของบงั สกุ ุล จึงพากันเก็บมะมวงหอ น้ันไปฉนั พวกเจาของโจทภิกษุเหลานัน้ วาพวกทานไมเ ปนสมณะ ภิกษเุ หลานัน้ มคี วามรงั เกยี จ จงึ กราบทูลเรื่องนัน้ แดพระผูมีพระภาคเจา ๆ ตรัสถามวา ดกู อ นภกิ ษุท้ังหลาย พวกเธอคิดอยา งไร. ภ.ิ พวกขาพระพุทธเจา สาํ คัญวา เปน ของบังสกุ ุล พระพทุ ธเจาขา. ภ. ดกู อ นภิกษุท้งั หลาย ไมเปนอาบัตแิ กภิกษผุ มู คี วามสาํ คญั วา เปนของบงั สุกุล. ๒. กโ็ ดยสมัยน้นั แล พวกขโมยลักชมพู ทาํ ชมพใู หห ลน แลวหอถือไป พวกเจา ของติดตามพวกขโมยเหลา นนั้ พวกขโมยเหน็ พวกเจา ของแลวท้ิงหอ ชมพูห นไี ป ภกิ ษุท้งั หลายมคี วามสําคัญวาเปนของบงั สกุ ุลจงึ พากันเก็บชมพหู อ นั้นไปฉนั พวกเจา ของโจทภกิ ษุเหลาน้นั วา พวกทา นไมเ ปนสมณะภกิ ษเุ หลา นั้นมคี วามรงั เกยี จ จงึ กราบทลู เร่อื งนัน้ แดพระผมู ีพระภาคเจา ๆตรัสถามวา ดกู อ นภกิ ษทุ ั้งหลาย พวกเธอคดิ อยา งไร. ภิ. พวกขาพระพทุ ธเจา มีความสาํ คัญวาเปน ของบังสุกลุ พระพุทธ-เจาขา .


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook