วกิ ฤตการณ์โลก นายพลตรี หลวงพบิ ูลสงครามเขียนและสนบั สนุน การพมิ พ์หนังสือ และบทความที่ช่นื ชมผนู้ �ำ เผด็จการ เชน่ มุสโสลนิ ี และฮติ เลอรอ์ ยบู่ อ่ ยๆ เชน่ เดยี วกบั งานเขยี นของหลวงวจิ ติ รวาทการ (วิจิตร วาทการ) ท่ีได้รับความนิยมและเป็นที่รู้จักภายใต้ระบอบ ประชาธปิ ไตย นายพลตรี หลวงพบิ ลู สงคราม ตระหนกั ถงึ ประโยชน์ และอ�ำ นาจของสอ่ื มวลชนมากกวา่ คนอนื่ ๆ ในรนุ่ เดยี วกนั เขาจดั การ กบั สอ่ื ทไ่ี ดร้ บั ความนยิ มดว้ ยการควบคมุ ขา่ วสารทป่ี อ้ นใหก้ บั สอ่ื และ การเซ็นเซอร์ เขาเป็นผู้นำ�ของไทยคนแรกท่ีควบคุมงานด้านวิทยุ กระจายเสียงและหนังสือพิมพ์ได้อย่างกว้างขวาง เพ่ือสร้างการ สนับสนนุ จากประชาชนต่อระบอบและนโยบายของเขา นายพลตรี หลวงพบิ ูลสงครามข้นึ เปน็ นายกรฐั มนตรีในวนั ที่ 26 (*ทถี่ กู ตอ้ งคอื วนั ท่ี 16) ธนั วาคม พ.ศ. 2481 (1938) เปน็ ประธาน คณะรฐั มนตรีซงึ่ มจี �ำ นวนรวม 25 คน ในจำ�นวนนี้ 15 คนเปน็ ทหาร เขาควบต�ำ แหนง่ รฐั มนตรอี กี 2 ต�ำ แหนง่ คอื รฐั มนตรวี า่ การกระทรวง กลาโหมและกระทรวงมหาดไทย เพอ่ื มน่ั ใจวา่ สามารถควบคมุ ทหาร และผวู้ า่ ราชการจงั หวดั ไดอ้ ยา่ งใกลช้ ดิ ภายในเวลา 1 เดอื น นายพล ตรี หลวงพบิ ลู สงคราม ปราบฝา่ ยตรงขา้ มทงั้ หมดเทา่ ทจ่ี ะทำ�ได้ ดว้ ย การจบั กมุ พระบรมวงศานวุ งศ์ ขนุ นางราชการชนั้ ผใู้ หญ่ สมาชกิ สภา ผแู้ ทนราษฎรผไู้ ดร้ บั เลอื กตงั้ และคอู่ รฝิ า่ ยทหารจ�ำ นวน 40 คน รวม ทง้ั นายพันเอก พระยาทรงสุรเดช ในข้อหาวางแผนต่อตา้ นรัฐบาล หลงั จาก (*ศาลพเิ ศษ) พพิ ากษาอยา่ งมเี งอื่ นง�ำ นกั โทษถกู ประหาร ทั้ง 18 คน นับเป็นการประหารชีวิตนกั โทษการเมอื งคร้ังแรก ทเ่ี ปดิ เผยทสี่ ดุ ในสยามมากวา่ หนง่ึ ศตวรรษ2 นายพลตรี หลวงพบิ ลู สงคราม เคล่ือนไหวเพื่อต่อต้านราชวงศ์ ห้ามติดพระบรมรูปของพระบาท สมเดจ็ พระปกเกลา้ เจา้ อยหู่ วั และยงั ฟอ้ งรอ้ งวา่ ทรงใชเ้ งนิ ในทรพั ยส์ นิ สว่ นพระมหากษตั รยิ ใ์ นทางทผี่ ดิ (*โอนทรพั ยส์ นิ สว่ นพระมหากษตั รยิ ์ 9 | อ�ำ นาจทหาร 457
ไปเปน็ ทรพั ยส์ นิ สว่ นพระองคไ์ วใ้ นตา่ งประเทศระหวา่ ง พ.ศ. 2475- 76 (1932-33)) นายพลตรี หลวงพบิ ลู สงครามแกไ้ ขรฐั ธรรมนญู เพอื่ ยืดระยะเวลาจาก 10 ปี จนมากสดุ ถึง 12 ปี เป็นระยะเวลาของการ อนุบาลทางการเมือง ขณะท่ีจำ�นวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรครึ่ง หน่งึ ของรฐั สภามาจากการแตง่ ต้ัง การกระทำ�เหลา่ นเี้ ป็นการยนื ยัน อำ�นาจและทำ�ใหอ้ �ำ นาจของเขาแขง็ แกร่งส�ำ หรบั เวลาอันตรายที่เขา มองเห็นลว่ งหนา้ ในไมช่ ้า นายพลตรี หลวงพบิ ูลสงคราม กใ็ ชอ้ ำ�นาจนี้ ไมใ่ ช่ เพื่อสร้างประเทศใหม่ แต่เพื่อสร้างชาติใหม่ (การสร้างชาติ) ส่ิงท่ี เหน็ ไดช้ ดั อยา่ งรวดเรว็ จากความพยายามหลายครง้ั คอื การเปลยี่ น ชอ่ื ประเทศสยาม เปน็ ประเทศไทย ใน พ.ศ. 2482 (1939) เขาอา้ ง เหตผุ ลว่า จะสอื่ ความหมายวา่ ประเทศเปน็ ของชาวไทย เพอ่ื ตา้ น ชาวจีนที่มีบทบาททางเศรษฐกิจ แต่การเปลี่ยนชื่อประเทศมีความ หมายกว้างกว่านั้น เป็นการบอกถึงความเกี่ยวดองทางภาษากับ ประชาชนทพี่ ดู ภาษาไทย (หรอื ไท-ไต) ทอี่ ยนู่ อกดนิ แดนสยามเกา่ และลดบทบาทความส�ำ คญั ในชาติ (สยาม) ของผทู้ พี่ ดู ภาษาไทยใน ส่วนกลาง (ชาวสยาม) มีการชี้ให้เห็นว่า คำ�ว่า สยาม เกิดขึ้นใน ประวัติศาสตรเ์ ปน็ ครัง้ แรก เป็นค�ำ ท่ีประเทศอน่ื ๆ (เช่น จามปา จีน และกมั พชู า) ใชเ้ รยี กชาวไท-ไตบรเิ วณลมุ่ น�ำ้ เจา้ พระยา เมอื่ พจิ ารณา ถึงนโยบายของรัฐบาลนายพลตรี หลวงพิบูลสงครามในเวลาต่อมา ความหมายแรกเป็นความหมายถูกเชอ่ื กนั มากที่สุด ถึงแมว้ ่าความ หมายทง้ั ปวงเหลา่ นน้ั เมอ่ื มองจากมมุ ใดมมุ หนงึ่ ตา่ งกส็ ะทอ้ นความ หมายในประวัตศิ าสตร์ของชว่ งเวลาดงั กลา่ วก็ตาม แรงผลกั ดนั อยา่ งหนง่ึ ทเ่ี ปน็ จดุ แขง็ ส�ำ หรบั นโยบายของรฐั บาล นายพลตรี หลวงพบิ ูลสงคราม คือ นโยบายเศรษฐกจิ แบบชาตินยิ ม นน่ั คอื “ประเทศไทยส�ำ หรบั ชาวไทย” เปน็ ประเดน็ ทส่ี �ำ คญั ตอ่ สมาชกิ 458 ประวัตศิ าสตร์ไทยฉบับสังเขป
สภาผแู้ ทนราษฎรจากการเลอื กตง้ั ในชว่ งเวลาหลายปกี อ่ นหนา้ น้ี สง่ิ น้ีเกิดจากการพัฒนาเศรษฐกิจท่ีช้าและสิ้นหวัง และมีแนวโน้มท่ีจะ ต�ำ หนชิ าวจนี ผมู้ ง่ั คงั่ ร�ำ่ รวยอยา่ งเหน็ ไดช้ ดั เชน่ มายาคตเิ รอื่ งพอ่ คา้ คนกลาง และผอู้ อกเงนิ กชู้ าวจีนท่ีขดู รดี อย่างไรกต็ าม มอี ยา่ งน้อย สองเรื่องในสถานการณ์นี้ที่เติมเชื้อให้กับความรู้สึกต่อต้านชาวจีน เร่ืองท่ีหน่ึง ความตระหนักเรื่องจำ�นวนเงินมหาศาลที่ชาวจีนใน ประเทศไทยส่งกลับไปให้ญาติในประเทศจีนแต่ละปีที่เพ่ิมขึ้น ซึ่ง ทำ�ใหเ้ กดิ กระแสเงินไหลออกจากวงธรุ กิจไทยอยา่ งน่าตกใจ เรื่องท่ี สอง การเติบโตของลัทธิชาตินิยมจีนในประเทศไทย สิ่งนี้โชติช่วง ขนึ้ เมอ่ื สงครามจีน-ญป่ี ่นุ เรมิ่ ข้ึนใน พ.ศ. 2480 (1937) ชาวจนี คว�่ำ บาตรญี่ปนุ่ ท�ำ ให้ทัง้ เปน็ อนั ตรายแกธ่ รุ กิจไทยที่มีชาวญป่ี ุน่ เปน็ หุ้น สว่ นทางการคา้ หลกั และความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งประเทศของไทย ทงั้ นี้ ความสัมพันธ์ระหว่างไทยและจีนเลวร้ายลง ส่งสัญญาณใน พ.ศ. 2481 (1938) เมือ่ หลวงวิจติ รวาทการบรรยายให้กบั สาธารณชนฟงั โดยเปรียบเทียบชาวจีนในสยามกับชาวยิวในเยอรมนีว่า นโยบาย ของฮิตเลอร์เก่ียวกับชาวยวิ เป็นสงิ่ ทีค่ วรต้องพจิ ารณา ในชว่ งเกา้ เดอื นแรกของรฐั บาล นายพลตรี หลวงพบิ ลู สงคราม ไดป้ ระกาศกฎหมายหลายฉบับ เปน็ มาตรการตอ่ ตา้ นชาวจนี (หรอื รฐั บาลใชว้ า่ นโยบายนยิ มไทย) รฐั บาลกอ่ ตงั้ รฐั วสิ าหกจิ เพอื่ แขง่ ขนั กับชาวจีนในการค้าข้าว และเข้าควบคุมธุรกิจเกลือ ยาสูบ น้ำ�มัน เช้ือเพลิง และสกุ ร บุคคลที่ไมใ่ ช่พลเมอื งไทยถกู หา้ มไม่ให้ประกอบ อาชพี หลายอาชีพ พระราชบัญญัตภิ าษีรายไดฉ้ บับใหม่ ได้เพ่มิ การ เกบ็ ภาษีแกช่ นชน้ั พอ่ คา้ (เช่น ชาวจนี ) และบคุ คลทไี่ มใ่ ชพ่ ลเมอื ง ไทยจะต้องจ่ายค่าธรรมเนียมการจดทะเบียนคนต่างด้าว โรงเรียน จนี ถูกควบคมุ อย่างใกลช้ ดิ จำ�กัดการสอนภาษาจนี เหลอื สองช่วั โมง ต่อสัปดาห์ และหนังสือพิมพ์จีนท้ังหมดถูกปิดให้เหลือเพียงฉบับ 9 | อ�ำ นาจทหาร 459
เดียว ตลอดเวลารัฐบาลอธิบายอย่างระมัดระวังว่า นโยบายกีดกัน ชาวจนี นน้ั ตงั้ อยบู่ นพน้ื ฐานเรอ่ื งการเปน็ พลเมอื ง ไมใ่ ชเ่ ชอ้ื ชาติ และ กฎหมายหลายฉบับของนโยบายเศรษฐกิจแบบชาตินิยมกระทบ บรษิ ทั ขา้ มชาตติ ะวนั ตกพอๆ กบั กจิ การของชาวจนี (เชน่ ยาสบู และ น้ำ�มนั ) แต่ไม่มใี ครไมร่ ูว้ า่ จากมุมมองของนายพลตรี พิบูลสงคราม และคนไทยหลายๆ คน มาตรการต่อต้านชาวจีนน้ันมีความจำ�เป็น เพ่ือจะใหช้ าวไทยสามารถควบคุมธรุ กจิ และสงั คมของตัวเอง มาตรการตอ่ ตา้ นชาวตา่ งชาตทิ อี่ อกมาเปน็ กฎหมายบางฉบบั ดจู ะขดั แยง้ กนั สงั เกตไดจ้ ากมาตรการบางอยา่ งทเ่ี กดิ ขนึ้ ในปเี ดยี วกนั และปีต่อมา ที่ให้ความหมายอัตลักษณ์ไทยใหม่ ซ่ึงมีท้ังความเป็น ตะวนั ตกและความเปน็ ไทย รฐั บาลออกประกาศรฐั นยิ ม 12 ประการ ระหวา่ ง พ.ศ. 2482-85 (1939-42) “ตอ้ งการจะยกจติ วิญญาณและ ศลี ธรรมของชาติ และแทรกความกา้ วหนา้ และความใหม่ใหก้ ับชีวติ ไทย”3 นอกจากจะปรบั ตามปฏทิ ินตะวันตก ให้วันปใี หมเ่ ปน็ วนั ท่ี 1 มกราคมแทนวนั ที่ 1 เมษายน รฐั นยิ มยังต้องการใหช้ าวไทยเคารพ ธงชาติ และมเี พลงชาติ รูถ้ ึงเหตกุ ารณบ์ ้านเมือง และใช้ภาษาแหง่ ชาติ (ตอ่ ตา้ นการใชภ้ าษาถนิ่ หรอื ภาษาตา่ งประเทศ) ชาวไทยไดร้ บั การสนบั สนนุ ใหใ้ ชช้ ีวิตบนแนวทางสมยั ใหม่ กินและนอนใหเ้ หมาะ สม เขา้ รว่ มการทำ�งานท่ีกา้ วหนา้ ใน 1 วัน เพือ่ ความเจริญของชาติ สาบานวา่ จะเลกิ ใชข้ องน�ำ เขา้ และซอ้ื แตส่ นิ คา้ ไทย พวกเขาตอ้ งแตง่ กายด้วยแฟชั่นสมัยใหม่ ผู้ชายสวมเสื้อสูท นุ่งกางเกงขายาว เสื้อ เชิ้ต และผกู เนค็ ไท ผ้หู ญงิ นุ่งกระโปรง สวมเสื้อแขนยาว สวมหมวก และถงุ มอื ทกุ คนตอ้ งใสร่ องเทา้ ประชาชนถกู หา้ มไมใ่ หข้ น้ึ รถโดยสาร ประจำ�ทาง หรอื เขา้ ไปในสถานที่ราชการเพื่อจ่ายภาษี หากไม่สวม หมวก นายพลตรี หลวงพบิ ลู สงครามอา้ งเหตผุ ลวา่ ทง้ั หมดนมี้ คี วาม จำ�เป็นเพอื่ ประโยชน์ของความกา้ วหน้าและอารยธรรม เพ่อื ให้โลก 460 ประวัตศิ าสตร์ไทยฉบับสังเขป
เหน็ ว่าประเทศไทยเปน็ ชาติสมยั ใหม่ ตลอด พ.ศ. 2482 (1939) และหลงั จากนัน้ นายพลตรี หลวง พิบูลสงคราม และหลวงวิจิตรวาทการ ได้ร่วมกันสร้างลัทธิผู้นำ� ปรากฏภาพถา่ ยของนายพลตรี หลวงพบิ ูลสงครามประดบั อยู่ทกุ ท่ี และค�ำ ขวญั ของเขาปรากฏอยใู่ นหนงั สอื พมิ พ์ ค�ำ โฆษณาจะถกู ออก อากาศซ�ำ้ ทางวทิ ยุ ไมว่ า่ ความเปน็ ผนู้ �ำ ของเขาจะเปน็ อยา่ งไรกต็ าม นายพลตรี หลวงพบิ ลู สงครามไมไ่ ดล้ ะเลยหรอื หลกี เลยี่ งทจ่ี ะเขา้ รว่ ม กับประชาชนในการทำ�เพื่อชาติ แม้กระท่ังในวิถีประจำ�วันเล็กๆ น้อยๆ ไม่ว่าพวกเขาจะเต็มใจหรือไม่เต็มใจก็ตาม การเข้าร่วมน้ีก็ เป็นประสบการณ์ร่วมกัน และเป็นพ้ืนฐานท่ีนายพลตรี หลวงพิบูล สงครามใชป้ ลกุ ระดมประชาชน ในการเผชญิ หนา้ กบั สงครามทกี่ �ำ ลงั มาถึงอย่างแน่นอน ในขณะนั้น เขาชักจูงประชาชนไปทางอื่นด้วย เชน่ การเกณฑแ์ ละการฝกึ ทหารทเี่ พมิ่ ขน้ึ ผา่ นทางขบวนการยวุ ชน ทหารสำ�หรบั เด็กชาย และทางยวุ กาชาดส�ำ หรบั เด็กหญิง และผ่าน ขบวนการลกู เสอื การปลกุ ระดมชาวไทยเปน็ ทนี่ า่ พอใจในหลายๆ ดา้ น ประสบ ผลคร้ังแรก ในสงครามไทยกบั อนิ โดจีนของฝร่งั เศส พ.ศ. 2483-84 (1940–41) ไทยอาจจะยังไม่ลมื ฝร่ังเศสจากวิกฤตการณ์ พ.ศ. 2436 (1893 (*หรอื ร.ศ. 112) ทท่ี �ำ ใหส้ ยามตอ้ งสญู เสยี อ�ำ นาจรฐั และอ�ำ นาจ การควบคมุ ดนิ แดนลาวและกมั พชู าของสยาม โอกาสในการลา้ งแคน้ ความพ่ายแพ้น้ี และการแก้ความผิดทางประวัติศาสตร์ เกิดข้ึนใน เดือนมิถุนายน พ.ศ. 2483 (1940) เมื่อฝรั่งเศสตกอยู่ภายใต้กอง ทหารของฮิตเลอร์ ประเทศประชาธปิ ไตยตะวันตกก�ำ ลังถูกคุกคาม อย่างหนัก บางทีอาจจะถงึ คราวเคราะห์ ขณะเดียวกัน ญป่ี ่นุ เริ่มเข้า บกุ สอู่ นิ โดจนี ของฝรงั่ เศสทร่ี ฐั บาลวชิ ี (Vichy) ซงึ่ เปน็ ฝา่ ยเดยี วกบั เยอรมนคี วบคมุ อยใู่ นขณะนน้ั และในเดอื นกนั ยายน ดว้ ยการท�ำ ขอ้ 9 | อำ�นาจทหาร 461
ตกลงกับรัฐบาลวิชีฝร่ังเศส ญี่ปุ่นเข้าต้ังฐานทัพ และใช้สิทธิในการ เดนิ ทพั ผ่านทางเวียดนามตอนเหนือ ตลอดระยะเวลา 4 ปี รัฐบาล ไทยพยายามจะให้ได้คืนดินแดนบางส่วนของลาวฝั่งตะวันตกของ แม่น้ำ�โขง แต่การเจรจานี้ล้มเหลว เพราะการพ่ายแพ้ของฝรั่งเศส ขณะท่ีรัฐบาลนายพลตรี หลวงพิบูลสงครามกลัวว่า ญ่ีปุ่นจะขยาย ก�ำ ลงั เขา้ ไปในลาว และกมั พชู าในไมช่ า้ และขดั ขวางความพยายาม ของไทยที่จะได้คืนดินแดนท่ีสูญเสียไป ท่ามกลางกระแสการ โฆษณาชวนเชื่อแบบชาตินิยม ในเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2483 (1940) ไทยรกุ เขา้ ไปทงั้ ในดนิ แดนลาวและกมั พชู าตะวนั ตกทพี่ พิ าท กนั อยู่ (*ศกึ อินโดจนี 28 พฤศจิกายน 2483- 28 มกราคม 2484)) ถึงแม้ว่าไทยจะประสบความพ่ายแพ้ทางเรือในอ่าวสยาม (*ยุทธ นาวเี กาะชา้ ง) แตก่ องก�ำ ลงั ทางบกสามารถเขา้ ยดึ ครองพนื้ ทซี่ ง่ึ แยง่ กันอยู่ได้ ญ่ีปุ่นก้าวเข้ามาเป็นผู้ไกล่เกลี่ยระหว่างประเทศไทยและ อินโดจีน และมีข้อตกลง (*ตามอนุสัญญาสันติภาพท่ีกรุงโตเกียว เมื่อ 9 พฤษภาคม 2484) ให้ประเทศไทยได้ดินแดนในลาว คือ ไซยะบรุ ี และจำ�ปาสักด้านตะวันตก และจงั หวัดของกมั พูชา ไดแ้ ก่ เสียมราฐและพระตะบอง (*ซ่ึงในสมัยนี้ได้เปล่ียนช่ือเป็นจังหวัดใน การปกครองของไทย ตามลำ�ดบั วา่ ลานชา้ ง นครจ�ำ ปาศักดิ์ พิบลู สงคราม และพระตะบอง) ระหวา่ งชว่ งวกิ ฤตการณน์ ้ี ความสมั พนั ธข์ องไทยกบั มหาอ�ำ นาจ ตะวนั ตกทสี่ �ำ คญั ๆ ไดเ้ ลวรา้ ยลงอยา่ งรวดเรว็ ชว่ งปลาย พ.ศ. 2483 (1940) รัฐบาลสหรัฐอเมริการะงับการขายเครื่องบิน 16 ลำ�ให้แก่ ประเทศไทย เดอื นมนี าคมและเมษายน พ.ศ. 2484 (1941) สหรฐั อเมรกิ า ระงับการส่งน้ำ�มันปิโตรเลียม แต่ผ่อนปรนลงในเดือนพฤษภาคม หลงั จากไดร้ บั การประกนั วา่ จะไดซ้ อ้ื ดบี กุ และยางพาราของไทยตอ่ ไป สงครามในแปซฟิ กิ ก�ำ ลงั จะเกดิ ขน้ึ และมหาอ�ำ นาจใหค้ วามส�ำ คญั 462 ประวตั ิศาสตร์ไทยฉบบั สังเขป
กบั เรอ่ื งความมนั่ คงของประเทศไทยในระดบั ต�่ำ สหรฐั อเมรกิ าตดั สนิ ใจวา่ จะใชก้ องทพั อากาศของตนปกปอ้ งฟลิ ปิ ปนิ ส์ และองั กฤษสามารถ จัดหาให้ได้เพียงปืน ดินระเบิด และเช้ือเพลิงการบิน ชาวไทยถูก ท�ำ ใหเ้ ชอ่ื กนั ว่า ญี่ปุน่ จะบกุ ประเทศไทยเป็นรายตอ่ ไป และในวนั ท่ี 28 สิงหาคม รัฐสภาผ่านพระราชบัญญัติกำ�หนดหน้าท่ีคนไทยใน เวลารบ ช่วงดึกวันที่ 7 ธันวาคม พ.ศ. 2484 (1941) (เวลาท้องถ่ิน) เอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำ�ประเทศไทยได้เข้าพบนายกรัฐมนตรีที่ ทำ�เนยี บรัฐบาล เพอ่ื แจง้ ว่า ญีป่ ุน่ ประกาศสงครามกบั สหรัฐอเมรกิ า และองั กฤษ และขออนญุ าตใหก้ องทพั ญป่ี นุ่ เดนิ ทพั ผา่ นประเทศไทย ขณะน้นั จอมพล ป. พิบลู สงคราม (*เล่ือนยศจาก นายพลตรี วนั ที่ 28 กรกฎาคม 2484 เปน็ จอมพลของ 3 เหลา่ ทพั ขา้ มยศพลโท และ พลเอก) ไม่อยู่ในกรุงเทพฯ ไปราชการท่ีจังหวัดใหม่ในกัมพูชา (*จังหวัดพิบูลสงคราม) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ นายดิเรก ชัยนาม ปฏิเสธคำ�รอ้ งขอ และตามตัวนายกรัฐมนตรกี ลบั กรงุ เทพฯ โดยด่วน ภายในไม่กช่ี ่ัวโมงต่อมา กอ่ นย่�ำ รงุ่ ของวันท่ี 8 ธนั วาคม (เวลาทอ้ งถ่นิ ) กองทัพญ่ปี ุน่ กเ็ ริม่ บุกไทย นอกเหนือจาก นน้ั ญี่ปนุ่ เขา้ จ่โู จม (*ฐานทพั เรือ) ทเ่ี ปน็ ทร่ี จู้ กั กันดที ่เี พริ ล์ ฮารเ์ บอร์ (Pearl Habour) เกาะอลเู ชยี นส์ (Aleutians) มดิ เวย์ กวม ฟลิ ปิ ปนิ ส์ และฮอ่ งกง ญี่ปนุ่ ยังบกุ ไทย 9 จุด โดยขา้ มตรงชายแดนพระตะบอง มีการต่อสู้ทางอากาศกับกองกำ�ลังท่ีสนามบินดอนเมือง ชานเมือง กรงุ เทพฯ และการยกพลขนึ้ บก 7 จดุ ชายฝง่ั อา่ วไทย การจโู่ จมหลกั ของญี่ปุ่น อยู่ท่ีต้องการยึดสนามบินที่สงขลา เพ่ือใช้สนับสนุนทาง อากาศ สำ�หรับการบกุ มลายูและสงิ คโปรข์ องอังกฤษ ทงั้ น้ี องั กฤษ ในมลายมู แี ผนการฉกุ เฉนิ ทจ่ี ะทดสอบความแขง็ แกรง่ ของญปี่ นุ่ ดว้ ย การส่งกองทหารไปยังไทย ซึ่งขณะน้ันยังรักษาความเป็นกลางอยู่ 9 | อำ�นาจทหาร 463
จอมพล ป. พบิ ลู สงคราม ผนู้ �ำ ในชว่ งสงครามโลกครงั้ ที่ 2 ก�ำ ลงั ประดบั ยศให้นายทหาร 464 ประวัตศิ าสตรไ์ ทยฉบับสงั เขป
เพ่ือหยุดการโจมตีสงขลาของญ่ีปุ่น แต่เม่ือกองทหารอังกฤษเร่ิม ปฏิบัติการ กลุ่มของตำ�รวจตระเวนชายแดนของไทยร้ังพวกเขาไว้ ตลอดวนั ของการสรู้ บ4 ซงึ่ ในทอ่ี นื่ ๆ การตอ่ ตา้ นญป่ี นุ่ ยดื เยอ้ื อยเู่ พยี ง เวลาไมก่ ช่ี วั่ โมง เมอ่ื จอมพล ป. พบิ ลู สงครามกลบั ถงึ กรงุ เทพฯ เวลา 7.30 นาฬิกา เขาส่งั การใหห้ ยุดยงิ รฐั บาลเหน็ ว่าการตอ่ สกู้ บั ญป่ี ุ่น จะเป็นการฆ่าตัวตาย ไทยไม่มีทางเลือก แต่ต้องตกลงยินยอมให้ กองทพั ญป่ี นุ่ ผา่ นประเทศไทย โดยแลกเปลยี่ นกบั การทญี่ ปี่ นุ่ รบั รอง วา่ จะเคารพตอ่ เอกราชและอธปิ ไตยของประเทศไทย สายลมแห่งความสำ�เร็จทางทหารของญ่ีปุ่นพัดมา ทำ�ให้ ทหารไทยเชอ่ื มน่ั วา่ ญป่ี นุ่ จะชนะสงครามในทส่ี ดุ และนบั จากวนั ที่ 21 ธันวาคม รฐั บาลไทยจึงได้ลงนามในกตกิ าสญั ญาพนั ธมติ รกับญี่ปนุ่ 1 เดือนต่อมาในวันท่ี 25 มกราคม พ.ศ. 2485 (1942) ไทยจึงได้ ประกาศสงครามกบั สหรฐั อเมรกิ าและองั กฤษ นเ่ี ปน็ การพฒั นาทข่ี ดั แย้งกนั ท�ำ ไมไทยต้องไปไกลกว่าข้อเสนอแรก จนรับเปน็ พนั ธมิตร กบั ญีป่ นุ่ (ตามขอ้ เสนอที่สองของญ่ีป่นุ ) จอมพล ป. พบิ ูลสงคราม และทหารภายใตก้ ารนำ�ของเขาตัดสินอยา่ งไมม่ ัน่ ใจนักว่า ญ่ีปุ่นจะ ชนะสงคราม และผลประโยชน์ที่ดีท่ีสุดของประเทศไทยก็คือ การ ไหลไปตามกระแสนำ้� หรือไม่ก็ตัดสินแบบเส่ียงว่า ไทยจะรักษา เอกราชไดม้ ากกว่า และปกป้องพลเรอื นของตนไดม้ ากกว่า หากมี ความสมั พนั ธ์ทเ่ี ป็นมิตรกบั ญ่ปี นุ่ มากกว่าเป็นปรปกั ษ์ เปน็ ไปได้วา่ การพิจารณาทั้งสองแบบมีอิทธิพลต่อการตัดสินใจของจอมพล ป. พิบลู สงคราม คนท่ตี ่อตา้ นจะถูกบีบจากรฐั บาล หนึง่ ในน้นั คือ นาย ปรีดี พนมยงค์ (ตอ้ งออกจากตำ�แหนง่ รฐั มนตรีว่าการกระทรวงการ คลัง) ไปรับแต่งตัง้ เปน็ ผสู้ �ำ เร็จราชการแทนพระองค์ และนายดิเรก ชัยนาม ต้องพ้นจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ไป เป็นเอกอัครราชทูตประจำ�ประเทศญ่ีปุ่น ส่วนนายเสนีย์ ปราโมช 9 | อำ�นาจทหาร 465
เอกอัครราชทูตไทยประจำ�กรงุ วอชงิ ตัน เลอื กที่จะพิจารณาวา่ การ ประกาศสงครามของรัฐบาลไทยกับสหรัฐอเมริกานั้นไม่ชอบด้วย กฎหมาย และไม่ใชเ่ ป็นความปรารถนาของประชาชนชาวไทย เขา ปฏเิ สธทจี่ ะสง่ ผา่ นค�ำ ประกาศสงครามไปยงั รฐั บาลสหรฐั อเมรกิ า และ ไดก้ อ่ ตงั้ ขบวนการเสรไี ทยรว่ มกบั หนว่ ยบรกิ ารยทุ ธศาสตร์ (American Office of Strategic Services) (หรอื ท่ีเรียกย่อวา่ O.S.S)* ปแี รกของสงคราม เตม็ ไปดว้ ยดว้ ยความตนื่ เตน้ และกระตอื รอื รน้ ความหลงใหลของไทยที่มีมายาวนาน และความยำ�เกรงที่เกินจริง ตอ่ ความทนั สมยั และเหนอื กวา่ ทางเทคโนโลยขี องตะวนั ตกลดความ สำ�คัญลง เน่ืองจากเห็นกองทัพยุโรปหลบหนีออกจากประเทศ อาณานิคมที่ยโุ รปครอบครองอย่หู ลายรอ้ ยปอี ย่างนา่ อบั อาย ญีป่ ุ่น ซ่ึงเป็นชาวเอเชียก็มีความสามารถเหมือนชาวตะวันตก ไทยคิดว่า ญปี่ นุ่ ก�ำ ลงั ชนะตะวนั ตกดว้ ยการใชค้ วามสามารถของชาวเอเชยี เอง และดูเหมือนจะเป็นเพยี งเรือ่ งของเวลาเท่าน้นั ทีค่ วามคดิ เรอื่ งความ สามารถของคนผิวขาวชาวตะวันตกจะหมดส้ินไป ชาวไทยมองไม่ เห็นว่าตนเองเป็นเหย่ือของชาวญ่ีปุ่น แต่จะเป็นผู้เข้าร่วมในการ สถาปนาระเบยี บใหม่ของโลกมากกวา่ ชาวไทยสามารถเขา้ รว่ มกบั ญ่ีปุ่นอย่างเท่าเทียม มากกว่าเป็น “น้องชายผิวคล้ำ�ตัวเล็กๆ ” นอกจากน้ัน ในเอเชียตะวันออกตอนนี้ จากคาบสมุทรคัมชัตกา (Kamchatka) ถงึ เขตแดนของอนิ เดยี และออสเตรเลยี ประเทศไทย เป็นรฐั เดียวท่เี ป็นเอกราชอยา่ งสมบูรณ์ เป็นหุ้นส่วนที่เท่าเทยี มกนั ของญปี่ นุ่ ขณะทเ่ี พอ่ื นบา้ นทง้ั หมดของประเทศไทย ยกเวน้ อนิ โดจนี ของฝรง่ั เศส ตกอยใู่ ตก้ ารถกู ครอบครอง ภายใตค้ วามฮกึ เหมิ ของจติ วญิ ญาณของลัทธทิ หาร ในช่วงสงคราม ไทยก็มแี ผนการทางทหาร ของตนเอง และไดเ้ ขา้ ยดึ ครองรฐั ฉาน บรเิ วณเชยี งตงุ ทางตะวนั ออก เฉียงเหนือของพม่าในเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2485 (1942) ทำ�ให้ 466 ประวัตศิ าสตรไ์ ทยฉบบั สงั เขป
แผนการสง่ ทพั ไปโจมตบี รเิ วณนท้ี เี่ คยท�ำ ไมส่ �ำ เรจ็ มาตง้ั แตป่ ลายสมยั รชั กาลที่ 3 และต้นรชั กาลท่ี 4 สำ�เรจ็ เสร็จส้ินอยา่ งสมบรู ณ์ (การ โจมตคี รง้ั น้ี อาจจะเปน็ การจงู ใจของฝา่ ยไทยทต่ี อ้ งการพฒั นาแหลง่ ปลกู ฝน่ิ แหลง่ ใหมเ่ พอื่ ทดแทนฝนิ่ ทไ่ี ดร้ บั จากอนิ เดยี ขององั กฤษกอ่ น หน้าน)้ี การได้ “สหพันธรฐั ฉาน” หรือ “สหรฐั ไทยเดมิ ” ไดร้ บั การ รบั รองจากสนธสิ ญั ญาระหวา่ งประเทศไทยกบั ประเทศญป่ี นุ่ ใน (*วนั ที่ 20) เดือนสิงหาคม พ.ศ. 2486 (1943) ว่าด้วยอาณาเขตของ ประเทศไทยในมลายูและฉาน ซ่ึงในเวลาเดียวกันน้ัน ญี่ปุ่นมอบ กลันตัน ตรงั กานู ปะลิส และไทรบุรี รฐั มลายูทพี่ ระบาทสมเดจ็ พระ จลุ จอมเกลา้ เจา้ อยหู่ วั ทรงยกใหแ้ กอ่ งั กฤษใน พ.ศ. 2452 (1909) คนื แก่รฐั บาลไทยด้วย สงครามเรมิ่ เปลย่ี น (*เมอ่ื กองทพั ฝา่ ยสมั พนั ธมติ ร) สามารถ ต้านกองทัพญ่ีปุ่นท่ีพยายามจะบุก (*ท่ีต้ังของอังกฤษในรัฐอัสสัม) อินเดียได้สำ�เร็จในต้น พ.ศ. 2477 (1944) อังกฤษสามารถรุกข้าม พรมแดนพมา่ เขา้ มาครองแถบนไ้ี ด้ และการตอบโตข้ องสหรฐั อเมรกิ า ในมหาสมทุ รแปซฟิ กิ ดา้ นตะวนั ตกเฉยี งใต้ จนสามารถเขา้ ยดึ ฟลิ ปิ ปนิ ส์ กลับคนื ไดใ้ นตน้ พ.ศ. 2488 (1945) เงอื่ นไขต่างๆ ในช่วงเวลาแหง่ สงครามทไ่ี ดเ้ รม่ิ ตน้ ไวใ้ นประเทศไทย และความรสู้ กึ ทยี่ กยอ่ งชน่ื ชม ญปี่ นุ่ ทมี่ มี าตง้ั แตช่ ว่ ง พ.ศ. 2485 (1942) ไดเ้ รม่ิ จางคลายลงไป รฐั บาล ไทยยงั คงมอี �ำ นาจเตม็ ในการควบคมุ ทหารบกและประชาชนของตน และกองทหารญี่ปุ่น ในทางเทคนิคแลว้ ก็คอื กองทหารรับเชิญ ทใ่ี ห้ ไทยหยิบยืมเคร่ืองอำ�นวยความสะดวกต่างๆ ได้ ไทยสามารถขัด ขวางมิให้ญ่ีปุ่นเรียกร้องเร่ืองสินค้า และการให้บริการด้านแรงงาน โดยตรงจากประชากรไทย แตก่ ารตดิ ตอ่ อยา่ งไมเ่ ปน็ ทางการระหวา่ ง สองฝา่ ยไมค่ อ่ ยราบรนื่ ไทยประสบกบั การขาดแคลนสนิ คา้ ทจี่ �ำ เปน็ การเพม่ิ ภาษี และภาวะเงนิ เฟอ้ ทค่ี วบคมุ ไมอ่ ยู่ และในชว่ งกลางของ 9 | อำ�นาจทหาร 467
สงครามยงั เผชญิ กบั การจโู่ จมทางอากาศของฝา่ ยสมั พนั ธมติ ร ญป่ี นุ่ ก็ไม่สามารถจัดหาสินค้านำ�เข้าท่ีจำ�เป็นตามความต้องการของไทย และแมจ้ ะสามารถจดั หาได้ แตใ่ นไมช่ า้ กพ็ บวา่ ไมม่ กี ารขนสง่ ทางเรอื เพอื่ ขนสนิ คา้ ขาเขา้ มาไทย หรอื ขนสนิ ขาสง่ ออกของไทยไปยงั ตลาด บางแห่งทีย่ งั เข้าถงึ ได้ ด้วยภาวะเงนิ เฟอ้ การแบง่ ส่วนอาหาร และ ความขาดแคลนดา้ นตา่ งๆ ท�ำ ใหเ้ กดิ ตลาดมดื การลกั ลอบขนสนิ คา้ การฉ้อราษฎรบ์ งั หลวง และการค้าก�ำ ไรเกนิ ควร ขวญั กำ�ลงั ใจและ จรยิ ธรรมหยอ่ นลง เพราะสงครามยดื เวลาออกไป กลาง พ.ศ. 2487 (1944) ลมได้เปลี่ยนทศิ ไม่เฉพาะต่อต้าน ญี่ปุ่น แต่ต่อต้านจอมพล ป. พิบูลสงครามอีกด้วย มีเสียงบ่นจาก ประชาชนเพ่มิ ข้ึนเก่ยี วกบั ภาวะเงนิ เฟ้อ รฐั นยิ ม การสะกดค�ำ ภาษา ไทยที่ท�ำ ใหง้ ่ายข้นึ (ระหวา่ ง พ.ศ. 2485-87 (1942–44)) ทจ่ี อมพล ป. พิบูลสงครามเป็นผู้คิดขึ้นมา และโดยเฉพาะญี่ปุ่นซ่ึงขณะน้ีมี สมั พันธภาพกบั จอมพล ป. พบิ ลู สงครามมากขึ้น ท้ังๆ ทเี่ ปน็ ที่ร้กู นั วา่ วถิ ขี องสงครามเปลยี่ นไป สมั พนั ธมติ รบกุ ฝรงั่ เศส (เดอื นมถิ นุ ายน พ.ศ. 2487 (1944)) อิตาลถี อนตัวจากสงคราม และชัยชนะของสมั พันธมิครต่อญี่ปุ่นกำ�ลังเกิดขึ้นใกล้กับหมู่เกาะของประเทศญ่ีปุ่น (*เกาะอโิ วจิมะและเกาะโอกินาวา) แตใ่ นวันที่ 18 กรกฎาคม พ.ศ. 2487 (1944) รฐั บาลของนายพล ฮิเดกิ โตโจ (Hideki Tojo) ได้ลา ออก และเพียง 6 วันหลังจากน้ัน สภาผู้แทนราษฎรของไทย ลง คะแนนเสยี งไมร่ บั รองพระราชบัญญัติ 2 ฉบบั ของจอมพล ป.พบิ ลู สงคราม (*พระราชบญั ญัตกิ ำ�หนดระเบยี บราชการบรหิ ารนครบาล เพชรบูรณ์ และพระราชกำ�หนดจัดสร้างพุทธบุรีมณฑล) มีผลให้ จอมพล ป. พิบูลสงคราม ต้องลาออกจากการเป็นนายกรัฐมนตรี คำ�ถามคือ เกดิ อะไรขึน้ ? เมื่อญ่ีปุ่นถูกวางตำ�แหน่งให้ต้ังรับในสงคราม ญี่ปุ่นต้องพ่ึง 468 ประวตั ิศาสตร์ไทยฉบบั สงั เขป
ความสัมพันธ์อันดีกับรัฐบาลไทย และสิ่งเหล่านี้ดูเหมือนว่าจะเลว รา้ ยลงอย่างชดั เจนใน พ.ศ. 2487 (1944) ขบวนการลับเสรีไทยตอ่ ตา้ นญปี่ นุ่ ซงึ่ ในตอนนป้ี ฏบิ ตั กิ ารภายใตก้ ารอปุ ถมั ภข์ องสหรฐั อเมรกิ า จากจงุ กงิ (*ฉงชง่ิ ) (Chungking) ทางตะวนั ตกเฉยี งใตข้ องจนี และ จากสำ�นักงานใหญ่ของอังกฤษในเกาะลังกา และอินเดีย ประสบ ความส�ำ เรจ็ ในการแทรกซมึ รฐั บาลในประเทศไทย ผลคอื มสี ำ�นกั งาน ใหญอ่ ยทู่ ส่ี �ำ นกั งานผสู้ �ำ เรจ็ ราชการแทนพระองคข์ องนายปรดี ี นกั เรยี น ไทยและชาวอเมริกันและชาวบริทเทิน (Briton) (*ชาวอังกฤษ) จำ�นวนหน่ึง กระโดดร่มลงในประเทศไทย (และหลบซ่อนตัวอยู่ใน กรงุ เทพฯ) เพอ่ื เตรยี มทางขน้ึ ลงเครอื่ งบนิ เตรยี มหนว่ ยจโู่ จมทางรถไฟ และส่งหน่วยสืบราชการลับกลับไปท่ีกองกำ�ลังสัมพันธมิตร ส่วน จอมพล ป. พิบูลสงครามอา้ งวา่ กำ�ลงั หาหนทางเพ่อื เตรยี มตอ่ ตา้ น ญปี่ นุ่ สว่ นหนง่ึ ของการเตรยี มการนค้ี อื ขอ้ เสนอทจี่ ะ (*สรา้ งนครบาล เพชรบรู ณ)์ ยา้ ยเมอื งหลวงไปยงั จงั หวดั เพชรบรู ณ์ ทอี่ ยไู่ กลไปทาง ตอนเหนอื ของกรงุ เทพฯ และสรา้ งพทุ ธบรุ มี ณฑล ใกลส้ ระบรุ ี (*โดย ให้พระพุทธบาทสระบุรีเป็นแกนหลักเมืองพุทธศาสนา) ทำ�นองว่า ให้เป็นศูนย์กลางของพระพุทธศาสนาโลก โครงการท้ังสองยิ่งใหญ่ และหรหู ราตามแบบฉบับของจอมพล ป. พิบลู สงคราม ในเวลาตอ่ มา จอมพล ป. อ้างว่า การย้ายไปเพชรบูรณ์ที่โอบล้อมด้วยภูเขา และแยกไปอยู่ห่างไกลนั้นจะช่วยอำ�นวยความสะดวกให้กับการต่อ ตา้ นญป่ี ุ่นของไทย ช่วงปลายสงคราม มหี ลักฐานน�ำ เสนอวา่ ญีป่ นุ่ กำ�ลงั วางแผน ท่ีจะยึดครองไทย เหมือนกับที่ทำ�กับอินโดจีนของฝร่ังเศสในเดือน มนี าคม พ.ศ. 2487 (1944) สมาชกิ สภาผแู้ ทนราษฎรทไ่ี ดร้ บั การแตง่ ตงั้ และเลอื กตงั้ ใน พ.ศ. 2481 (1938) (วาระการด�ำ รงต�ำ แหนง่ ขยาย เวลาต่อไปอีก) ได้ลงคะแนนเสียงคัดค้านไม่อนุมัติโครงการเหล่านี้ 9 | อ�ำ นาจทหาร 469
(*จอมพล ป. จึงลาออกจากนายกรัฐมนตรีในวันท่ี 24 กรกฎาคม 2487) แม้ว่าสมาชิกสภาฯได้รับการบอกอย่างเปิดเผยเก่ียวกับ โครงการของจอมพล ป. พบิ ูลสงครามวา่ เพอื่ กอ่ การปฏวิ ตั ิตอ่ ต้าน ญปี่ นุ่ แตส่ ง่ิ ทกี่ ระตนุ้ พวกเขาคอื การพา่ ยแพข้ องนายพลโตโจ ผใู้ กล้ ชดิ กบั จอมพล ป. พบิ ลู สงคราม ตามความคดิ ของสมาชกิ สภาผแู้ ทน ราษฎร และบางส่วนจากความรสู้ ึกของพวกเขา คอื วา่ จอมพล ป. มีความโยงใยกับอดีตท่ีเป็นเผด็จการ ซึ่งอดีตต้องควรถูกฝังเอาไว้ เพอ่ื ผลประโยชนด์ า้ นความสมั พนั ธท์ ด่ี ขี น้ึ กบั สมั พนั ธมติ ร แมก้ ระทงั่ เร่ืองท่ีด่วนกว่านั้น คือ ความจำ�เป็นท่ีจะต้องเลือกนายกรัฐมนตรี จากผู้ทีอ่ าจพัฒนาความสัมพนั ธ์อยา่ งเปน็ ทางการกับญ่ปี นุ่ และใน เวลาเดียวกันก็เป็นเกราะป้องกันการเติบโตของขบวนการเสรีไทย ได้ ดังท่ีเบนจามิน เอ. บัทสัน (*Benjamin A. Batson นัก ประวตั ศิ าสตร)์ กล่าวไวว้ า่ พนั ตรี ควง อภยั วงศ์ ถูกเลอื ก “อย่าง ทว่ มทน้ เพราะความสามารถของเขาในการกลบเกลอื่ นเรอ่ื งราวตา่ งๆ กับญี่ปุ่น”5 หนึ่งในผู้สำ�เร็จราชการแทนพระองค์ (*พระเจ้าวรวงศ์ เธอ พระองคเ์ จ้าอาทิตยท์ ิพอาภา) ขอลาออก แทนทจ่ี ะลงช่ืออนมุ ัติ ค�ำ สงั่ แตง่ ตงั้ พันตรี ควง รัฐบาลชดุ ใหม่เริม่ วันที่ 31 กรกฎาคม มพี นั ตรี ควง อภัยวงศ์ เปน็ นายกรฐั มนตรี และนายปรดี ี พนมยงค์ เปน็ ผู้สำ�เร็จราชการแทนพระองค์เพียงคนเดียว พันตรีควงจัดการกับ ญี่ปุ่น ส่วนนายปรีดีจัดการกับสัมพันธมิตรผ่านทางขบวนการเสรี ไทย เรอ่ื งราวนย้ี ตุ ปิ ระวตั ศิ าสตรไ์ ทยชว่ งเวลา 6 ปลี งอยา่ งฉบั พลนั และน่าประหลาดใจ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรก็ไม่ได้ตระหนักว่า ผลลัพธ์จะเป็นอย่างไร จนกระท่ังเมื่อมีสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่ ได้รับการเลือกต้ัง สภาฯ ก็ยังลงคะแนนเสียงให้ผู้บัญชาการสูงสุด ของลทั ธชิ าตนิ ยิ ม-ลทั ธิทหาร (*คือ จอมพล ป.พบิ ูลสงคราม) ออก 470 ประวตั ศิ าสตร์ไทยฉบบั สังเขป
จากต�ำ แหนง่ นายกรฐั มนตรี และแทนท่ีด้วยพลเรอื น (*คือ นายควง อภัยวงศ์) อายุ 44 ปี ท่มี ารยาทสภุ าพ ค่อนขา้ งเชอ่ื งชา้ แตฉ่ ลาด เฉลียว ในผลสำ�เร็จของสิง่ น้ี ก็เพราะพันธมติ รทางการเมืองรุน่ เก่า เกือบท้งั หมดทย่ี อ้ นไปถงึ พ.ศ. 2475 (1932) แตกคอกัน ทหารบก และทหารเรอื แยกทางออกจากกนั ทหารเรอื หนั ไปอยขู่ า้ งพนั ตรคี วง และการแตกหกั ระหวา่ งจอมพล ป. พบิ ลู สงครามและนายปรดี ี พนม ยงคท์ เี่ พม่ิ มากขน้ึ กเ็ กดิ เปน็ ชอ่ งวา่ ง ในเวลานน้ั บางคนคาดวา่ จอมพล ป. พิบูลสงครามท่ไี ปหลบอยู่ทีห่ นว่ ยบญั ชาการทหารลพบุรี อาจจะ รวบรวบกองทหารและกอ่ การกบฏ ซง่ึ จอมพล ป.สามารถทำ�ให้เกิด ขน้ึ ไดอ้ ย่างง่ายดาย แตเ่ ขากเ็ ลอื กอยา่ งชาญฉลาดท่จี ะรอคอยเวลา มากกว่า ระหว่างสงครามร้อนและเย็น ระยะเวลาหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 เป็นช่วงวุ่นวาย และ อนั ตรายชว่ งหนงึ่ ของประเทศไทย ประเทศไทยตอ้ งการการปรบั ตวั ใหม่ เพอื่ รบั กบั โลกทเี่ ปลย่ี นแปลงอยา่ งรวดเรว็ ขณะทผี่ ลกระทบอนั หลากหลายจากสงครามขดั ขวางความสามารถของไทย ในการด�ำ เนนิ การเร่ืองผลประโยชน์ของตนเองอยา่ งมปี ระสิทธิภาพ ระหว่าง พ.ศ. 2487-2491 (1944-1948) เปน็ ชว่ งทอ่ี ทิ ธพิ ลของมหาอำ�นาจยงั กระทบ ชีวติ และการเมืองของไทยอยา่ งมาก แรงกดดนั จากภายนอก ทำ�ให้ เกดิ ความไม่สมดุลทางการเมอื งไทยหลายด้าน โดยเฉพาะนโยบาย ของสหรฐั อเมรกิ าที่ผลักอย่บู นบ่าของนักการเมอื งไทยสายพลเรอื น กลายเปน็ ภาระทพี่ วกเขาไมไ่ ดเ้ ตรยี มตวั ตงั้ รบั ไว้ อยา่ งไรกต็ าม พวก เขากต็ อ้ งพยายามรบั มอื ไว้ เพอ่ื เผชญิ กบั แรงผลกั ดนั ใหมท่ น่ี า่ อนั ตราย จากนโยบายขององั กฤษและฝรง่ั เศส พรอ้ มกบั การรบั ความชว่ ยเหลอื 9 | อำ�นาจทหาร 471
จากสหรฐั อเมรกิ า ดว้ ยความพา่ ยแพข้ องฟลิ ปิ ปนิ สต์ อ่ กองทพั สหรฐั อเมรกิ าทร่ี กุ ใกลเ้ ขา้ มา และการรกุ อยา่ งรวดเรว็ ของกองทพั องั กฤษในพมา่ ในตน้ พ.ศ. 2488 (1945) เริ่มเห็นได้ชัดเจนข้ึนเรื่อยๆ ว่า ไทยจะอยู่แถว หน้าของสงครามในไมช่ า้ ไม่นาน โดยธรรมชาตแิ ลว้ ชาวไทยกงั วล กับการท่ีสัมพันธมิตรจะได้ชัยชนะเหนือประเทศไทยอีกคร้ัง (ซ่ึง จรงิ ๆ แลว้ เปน็ การไดช้ ยั ชนะครงั้ แรกของสมั พนั ธมติ ร) ไทยตระหนกั รอู้ ย่างดีทเี ดียวเก่ยี วกบั ความคิดเรอื่ งสงครามของสมั พนั ธมิตร โดย เฉพาะอังกฤษวา่ คือความตอ้ งการการตอบแทนหลงั สงคราม และ การเข้าควบคุมไทยให้เป็นดินแดนในอารักขา ความพยายามของ ไทยในการจดั ตัง้ รฐั บาลเสรีไทยพลดั ถ่นิ ล้มเหลว ดว้ ยเหตนุ ้ี ไทยจึง ตอ้ งปฏบิ ตั ติ ามนโยบายเสรมิ 2 เรอื่ ง คอื ขบวนการเสรไี ทย ซงึ่ ตอน นี้มีฐานมั่นคงมาตลอดสมัยของรัฐบาลภายใต้การควบคุมโดยตรง ของนายปรดี ี พนมยงค์ นอกเหนอื จากกองก�ำ ลงั ทหารไทยปกตแิ ลว้ ไทยอ้างว่าสามารถมีหน่วยจู่โจมมากเกิน 50,000 นาย ส่ิงน้ีท�ำ ให้ ไทยเสนอทจี่ ะต่อต้านญป่ี ุ่น เม่ือไรก็ตามทสี่ ัมพันธมิตรส่ังการ ส�ำ หรบั อังกฤษ แสดงชัดเจนว่าจะรอ้ื ฟืน้ การควบคุมดินแดน มลายู และรฐั ฉานทไ่ี ทยไดเ้ ขา้ ครอบครองใน พ.ศ. 2485-86 (1942– 43) แตอ่ งั กฤษกส็ ามารถยบั ยงั้ ภารกจิ แบบเดยี วกนั นใ้ี นดนิ แดนลาว และกัมพูชาของฝรั่งเศส นับตั้งแต่บทบาทของฝร่ังเศสในสงคราม ดา้ นเอเชยี ลดนอ้ ยลง ไทยกงั วลเกย่ี วกบั โครงการตา่ งๆ ขององั กฤษ ในประเทศไทย ท้ังหมดน้ีเพราะว่ากองบัญชาการเอเชียตะวันออก เฉยี งใตข้ องอังกฤษ (British South-East Asia Command) ท่ี เหนอื กวา่ ภายใตก้ ารบญั ชาการของพลเรอื เอกลอรด์ หลยุ ส์ เมาตแ์ บต เตน (Admiral Lord Louis Mountbatten) ถกู คาดหวังว่าจะรบั ผดิ ชอบทางทหารเป็นเบ้อื งตน้ ในการพิชติ ประเทศไทย ดังนัน้ ไทย 472 ประวตั ศิ าสตรไ์ ทยฉบับสงั เขป
จงึ พงึ่ ความสมั พนั ธก์ บั รฐั บาลอเมรกิ นั เปน็ อยา่ งมาก โดยผา่ นขบวนการ เสรีไทย และผู้น�ำ แตใ่ นนาม คอื นายเสนีย์ ปราโมช เอกอคั รราชทตู ไทยประจ�ำ กรุงวอชงิ ตนั สหรฐั อเมรกิ าไมไ่ ดใ้ หค้ วามส�ำ คญั กบั การทไ่ี ทยเปน็ พนั ธมติ ร กบั ญป่ี นุ่ และประกาศสงครามกบั สหรฐั อเมรกิ าและองั กฤษ การกระ ท�ำ เหลา่ นมี้ ลี กั ษณะหลายอยา่ งทไี่ มถ่ กู กฎหมาย (คณะผสู้ �ำ เรจ็ ราชการ แทนพระองคท์ ุกคนไมไ่ ด้ลงนามในค�ำ ประกาศสงคราม เพราะนาย ปรีดี พนมยงค์ไม่อยู่ปฏิบัติราชการ) หรือเพราะถูกบังคับจากแรง กดดนั ทางทหารของญปี่ นุ่ หรอื เกดิ จากความไมใ่ สใ่ จของบรรดานาย ทหารไทยทมี่ กั ใหญใ่ ฝส่ งู เกนิ จรงิ และไมใ่ ชต่ วั แทนทแ่ี ทจ้ รงิ ของกอง ทัพไทย นายทหารไทยก็ไดช้ ีใ้ ห้เหน็ ว่า กองทหารไทยไม่ไดเ้ ข้าร่วม ในสงครามตอ่ ตา้ นสมั พนั ธมติ ร และพวกเขาก�ำ ลงั เรมิ่ ตน้ อยา่ งมคี วาม หวังที่จะฟ้ืนฟูรัฐบาลประชาธิปไตย สำ�หรับรัฐบาลอเมริกันแล้วไม่ ได้คำ�นึงถึงเร่ืองผลประโยชน์หรือความสัมพันธ์ที่เป็นรูปธรรมกับ ประเทศไทยก่อนหน้าน้ี ข้อโต้เถียงนี้ไม่อาจปฏิเสธได้ และจาก เหตุการณ์ พ.ศ. 2487 (1945) กระทรวงการต่างประเทศของ สหรฐั อเมรกิ า (U.S. State Department) กเ็ ปน็ ผสู้ นบั สนนุ ประเทศ ไทยใหต้ ่อตา้ นอังกฤษอย่างเหนยี วแนน่ สถานการณ์เปลี่ยนไปทันที เม่ือญ่ีปุ่นยอมแพ้สงครามอย่าง คาดไม่ถึงในวันที่ 15 สิงหาคม พ.ศ. 2497 (1945) ไทยแสดงออก อยา่ งรวดเรว็ ท่ีจะฟืน้ ฟสู ถานะทเี่ ปน็ อยกู่ ่อนสงคราม นายปรีดี พนม ยงค์ ในฐานะทเ่ี ปน็ ผสู้ �ำ เรจ็ ราชการแทนพระองค์ ใหค้ วามหมายการ ประกาศสงครามกับสหรัฐอเมริกาและอังกฤษว่าผิดกฎหมาย เป็น ศนู ย์ และโมฆะ และปฏเิ สธขอ้ ตกลงทงั้ หมดทจี่ อมพล ป. พบิ ลู สงคราม ท�ำ ไว้กับญี่ปุ่น นายพนั ตรี ควง อภัยวงศ์ นายกรฐั มนตรี ย่ืนหนงั สอื ลาออกเนื่องจากเหตุผลวา่ เขาเก่ียวข้องญีป่ นุ่ ในปีกอ่ นหน้าน้ี สภาผู้ 9 | อำ�นาจทหาร 473
แทนราษฎรแสดงความสนใจทจี่ ะเชญิ หมอ่ มราชวงศ์ เสนยี ์ ปราโมช มาเปน็ นายกรฐั มนตรี ขณะเดินทางกลับมายงั ประเทศไทย และใน ขณะเดียวกันได้จัดต้ังรัฐบาลรักษาการภายใต้นักการเมืองพลเรือน ผู้โดดเดน่ คือ นายทวี บุณยเกตุ รัฐบาลอังกฤษกดดันไทยทันทีให้ยอมตามรายการข้อเรียก รอ้ งอนั ยดื ยาว รวมถงึ การชดใชค้ า่ เสยี หายส�ำ หรบั การสญู เสยี ทรพั ยส์ นิ ขององั กฤษทง้ั หมด การไดร้ บั ผลประโยชนเ์ ชงิ ไดเ้ ปรยี บทางเศรษฐกจิ สทิ ธพิ เิ ศษในการตงั้ ฐานปฏบิ ตั กิ ารของกองก�ำ ลงั องั กฤษในประเทศไทย อย่างไม่มีกำ�หนด และได้ข้าวฟรีจำ�นวน 1.5 ล้านตัน อังกฤษรู้สึก เหมือนถูกแทงข้างหลังจากการท่ีญี่ปุ่นใช้ดินแดนของไทยบุกมลายู และพมา่ และต้องการจะควบคุมทหารไทยใหร้ ับผดิ ชอบ องั กฤษยงั ต้องการทจ่ี ะลงโทษไทยอย่างไม่มเี หตผุ ล เรอื่ งการระงับการสง่ ออก ขา้ วของไทยในระหวา่ งสงคราม และไมต่ อ้ งการทจี่ ะเหน็ ไทยไดก้ �ำ ไร มากมายจากการขายข้าวท่ีไม่ได้ขนส่งในช่วงสงคราม (อังกฤษ ประเมินคลังสินคา้ ข้าว ใน พ.ศ. 2488 (1945) มากเกินไปถึงร้อยละ 100) อังกฤษเป็นฝ่ายเดียวท่ีกำ�หนดเงื่อนไขเหล่านี้กับไทยในต้น เดือนกันยายน แต่แรงกดดันจากสหรัฐอเมริกาอย่างหนักบังคับให้ ตอ้ งเล่ือนเวลาทำ�ตามข้อเรียกร้องออกไป และเงื่อนไขตามข้อเรยี ก ร้องลดลงอย่างมาก เม่ือมีการลงนามในข้อตกลงกับอังกฤษในสิ้น เดอื นธนั วาคม (มเี พยี งแคก่ ารขายขา้ วของไทยใหอ้ งั กฤษ ไมใ่ ชก่ าร ใหฟ้ รีเปน็ ของขวัญ) การสน้ิ สดุ ภาวะสงครามกบั ฝรงั่ เศสยากลำ�บากไมน่ อ้ ยเชน่ กนั เนื่องจากความรู้สึกของไทยที่มีความผูกพันกับจังหวัดในกัมพูชา และลาวยงั มอี ยมู่ าก (ประชากรของจงั หวดั นย้ี งั คงไปลงคะแนนเลอื ก ต้ังระดับชาติของไทย ในเดือนมกราคม และสิงหาคม พ.ศ. 2489 (1946)) เพยี งแคใ่ นเดือนมกราคม พ.ศ. 2490 (1947) ประเทศไทย 474 ประวตั ศิ าสตรไ์ ทยฉบับสังเขป
ตกลงท่ีจะคืนจังหวดั เหลา่ น้ีให้กบั อนิ โดจีนของฝรัง่ เศส เพื่อแลกกบั คำ�สัญญาของฝรง่ั เศสที่จะไม่ลงคะแนนยั้บย้ังการขอเขา้ เป็นสมาชกิ องคก์ ารสหประชาชาติของไทย ซ่งึ มคี วามสำ�คญั ต่อความน่านบั ถือ ของประเทศไทยในระดับนานาชาติ ตลอดวิกฤตการณ์นโยบายด้านต่างประเทศใน พ.ศ. 2489 (1946) นายปรดี ี พนมยงคเ์ ปน็ ผมู้ อี �ำ นาจอยเู่ บอ้ื งหลงั รฐั บาลนายทวี บญุ ยเกตุ และรฐั บาลหมอ่ มราชวงศ์ เสนยี ์ ปราโมช นายปรดี ลี าออก จากการเป็นผู้สำ�เร็จราชการแทนพระองค์ เม่ือพระบาทสมเด็จ พระเจา้ อยหู่ วั อานนั ทมหดิ ลเสดจ็ นวิ ตั พิ ระนครในเดอื นธนั วาคม พ.ศ. 2488 (1945) และไดร้ บั การแตง่ ตง้ั เปน็ รฐั บรุ ษุ อาวโุ ส ทปี่ รกึ ษารฐั บาล ขณะทบ่ี รรดานายทหารทส่ี ญู เสยี ความนา่ เชอื่ ถอื ไดถ้ อนตวั ออกจาก การเมือง เพ่ือผลประโยชน์ของความสัมพันธ์กับมหาอำ�นาจตะวัน ตก มีการจัดตั้งพรรคการเมืองข้ึนเป็นคร้ังแรกและพรรคการเมือง สามารถจัดการเลือกตั้งได้ในเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2488 (1945) มีการรายงานจากกรงุ เทพฯ วา่ “องั กฤษพยายามทีจ่ ะจัดต้งั พรรค ทอี่ งั กฤษจะมอี ทิ ธพิ ลทางการเมอื งผา่ นทางคนไทยทช่ี น่ื ชอบองั กฤษ แตไ่ มม่ ผี นู้ ำ�ทโ่ี ดดเดน่ ”6 ทัง้ นีพ้ รรคส�ำ คญั อย่างนอ้ ย 4 พรรคถูกจดั ต้ังขึ้นเมื่อต้น พ.ศ. 2489 (1946)โดยไม่เก่ียวข้องกับการสนับสนุน จากต่างชาติ แต่ก็เป็นไปไม่ได้ที่จะตัดสินเช่นน้ัน คือ พรรคของผู้ แทนราษฎรจากภาคตะวนั ออกเฉยี งเหนอื ทตี่ อ่ ตา้ นรฐั บาลเปน็ ประจ�ำ และสนบั สนนุ นายปรดี ี พนมยงค์ (*พรรคสหชีพ) พรรคทเี่ ปน็ การ รวมตวั ของกลมุ่ เกา่ ของนายปรดี ี พนมยงค์ ภายในคณะราษฎร เพอ่ื สนบั สนนุ นายปรดี ี (*พรรคแนวรฐั ธรรมนญู ) สองพรรคนถี้ กู ตอ่ ตา้ น จากพรรคประชาธิปตั ย์ ซึ่งน�ำ โดยพนั ตรี ควง อภยั วงศ์ และพรรค ก้าวหน้า ซ่ึงเป็นพรรคค่อนข้างอนุรักษนิยมของหม่อมราชวงศ์ คึก ฤทธิ์ ปราโมช นอ้ งชายของหมอ่ มราชวงศ์ เสนยี ์ ทกุ พรรคไดร้ บั การ 9 | อำ�นาจทหาร 475
สนบั สนนุ จากประชาชนจ�ำ นวนนอ้ ย หรอื แทบจะไมไ่ ดร้ บั เลย ยกเวน้ พรรคสหชพี จากภาคตะวนั ออกเฉียงเหนอื พรรคการเมอื งต่างๆ ท่ี ต้ังขึ้นมาเป็นกลุ่มการเมืองของนักการเมืองท่ีมีการศึกษา และเป็น คนในเมือง และรวมตัวกนั อยา่ งหลวมๆ ต�ำ แหน่งและความสมั พนั ธ์ ระหวา่ งพวกเขาตงั้ อยบู่ นความเปน็ ปรปกั ษก์ นั และความอจิ ฉารษิ ยา ซึ่งกันและกัน พรรคการเมอื งสองพรรคทสี่ นบั สนนุ นายปรดี ี พนมยงคไ์ ดร้ บั เสยี งส่วนใหญ่ในการเลอื กตงั้ เดือนมกราคม พ.ศ. 2489 (1946) แต่ สภาผู้แทนราษฎรข้องใจนายปรีดีเรื่องนโยบาย อย่างไรก็ตาม สถานการณท์ �ำ ใหพ้ นั ตรี ควง อภยั วงศท์ นไมไ่ หว ขอลาออกจากการ เปน็ นายกรฐั มนตรใี นเดอื นมนี าคม เวลานน้ี ายปรดี ตี อ้ งรบั เปน็ นายก รัฐมนตรีด้วยตนเอง เพ่ือทำ�ให้สถานการณ์ดีขึ้น และสร้างสถาบัน ทางการเมอื งทม่ี นั่ คง นายปรดี ไี ดจ้ ดั ท�ำ รา่ งรฐั ธรรมนญู ฉบบั ใหม่ ซง่ึ มีผลบังคับใช้ในเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2489 (1946) รัฐธรรมนูญ ประกอบดว้ ยบทบญั ญตั แิ หง่ รฐั ธรรมนญู มสี ภาผแู้ ทนราษฎรมาจาก การเลือกตั้ง และพฤฒิสภาที่เลือกโดยสำ�นักงานเลขาธิการสภาผู้ แทนราษฎร สมาชกิ พฤฒสิ ภาถูกจ�ำ กดั ใหเ้ ป็นบุคคลอายุไม่ต�ำ่ กวา่ 40 ปี คุณวุฒิการศึกษาขั้นสูง หรือมีประสบการณ์ทางนิติบัญญัติ หรือตุลาการ ภาพลกั ษณป์ ระชาธิปไตยของรัฐบาลพลเรือนดูดี และ ผคู้ นสว่ นใหญค่ าดหวงั วา่ ผนู้ �ำ ทางการเมอื งทม่ี น่ั คงอาจท�ำ ใหผ้ ลกระทบ หลงั จากสงคราม เช่น เงนิ เฟอ้ ภาวะความขาดแคลนตา่ งๆ การฉอ้ ราษฎร์บังหลวงที่แพร่ขยาย และความสัมพันธ์ที่ไม่แน่นอนกับ มหาอ�ำ นาจผ่อนคลายลง เหตกุ ารณต์ า่ งๆ ใน พ.ศ. 2489 (1946) ท�ำ ลายความคาดหวงั เหล่าน้ี กลา่ วคอื ในเดือนเมษายน ศาลฎกี าของไทยยุตกิ ารดำ�เนิน คดีจอมพล ป. พิบลู สงคราม และพรรคพวก ทีเ่ กยี่ วขอ้ งกับสงคราม 476 ประวัติศาสตรไ์ ทยฉบบั สงั เขป
โดยมกี ารตคี วามวา่ บทบญั ญตั แิ หง่ พระราชบญั ญตั อิ าชญากรสงคราม ท่ีพวกเขาถูกสอบสวนมาจากแรงกดดันของสัมพันธมิตร และมีผล ยอ้ นหลงั ดงั นนั้ จงึ ขดั ตอ่ รฐั ธรรมนญู การปฏบิ ตั ติ ามกฎหมายไมง่ า่ ย เชน่ นน้ั และมกี ารยอมรบั กนั ทวั่ ๆ ไปวา่ การปกครองของจอมพล ป. เกิดข้ึน อย่างน้อยส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากแรงกดดันของประชาชน ความคิดเห็นของผู้คนโดยทั่วไปเข้าข้างจอมพล ป. พิบูลสงคราม และคดิ วา่ จอมพล ป. ท�ำ ดที สี่ ดุ เทา่ ทจ่ี ะท�ำ ได้ เพอ่ื รกั ษาผลประโยชน์ ของไทย ในการเผชญิ กับแรงกดดันอยา่ งมากจากญ่ีปนุ่ จอมพล ป. และทหารจงึ พน้ ผดิ แตย่ งั ลงั เลทจ่ี ะมบี ทบาททางการเมอื งอยา่ งจรงิ จงั ดว้ ยเกรงการเผชญิ หนา้ กบั ปฏกิ ริ ยิ าทางลบทเี่ ปน็ ไปไดจ้ ากมหาอ�ำ นาจ ตะวันตกซึ่งประเทศไทยพงึ่ พาอยู่ในจดุ น้ี สองเดือนต่อมา ในวันท่ี 9 มิถุนายน พ.ศ. 2489 (1946) พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดล ยุวกษัตริย์ ซึ่งเสด็จ นิวัติพระนครมาต้ังแต่เดือนธันวาคม ได้บรรทมอยู่บนพระที่ พระ เศยี รถกู ยงิ ทะลดุ ว้ ยพระแสงปนื 7 เรอื่ งราวตา่ งๆ เกยี่ วกบั การสวรรคต เปน็ ที่สงสัย และถกู ย้ำ�เนน้ วา่ เปน็ เพราะรัฐบาลไร้ความสามารถ ใน การดแู ลวกิ ฤตการณส์ �ำ คญั ครง้ั นี้ รฐั บาลประกาศวา่ การสวรรคตเปน็ อุบัติเหตุ ต่อมาคณะกรรมการของรัฐบาล รวมถึงนายแพทย์ชาว อเมริกัน และอังกฤษที่ได้รับการแต่งต้ังเพ่ือสืบสวนเหตุการณ์น้ี รายงานวา่ ทรงอาจจะถกู ฆาตกรรม พยานส�ำ คัญ 3 คนถูกสอบสวน และประหารชีวิตอย่างรีบเร่ง ความเห็นของผู้คนท่ัวไป นำ�เร่ืองน้ี เชื่อมโยงกับนายปรีดี พนมยงค์อย่างรวดเร็ว เพราะความรู้สึกต่อ ต้านราชวงศ์ของเขา และยังจำ�กันได้ถึงความขัดแย้งอย่างรุนแรงท่ี นายปรีดีมีต่อพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว เรื่องเค้าโครง เศรษฐกจิ ใน พ.ศ. 2476 (1933) แตก่ ลบั ลมื ชว่ งเวลาทน่ี ายปรดี ดี �ำ รง ตำ�แหน่งผู้สำ�เร็จราชการแทนพระองค์ ประชาชนส่วนใหญ่เห็นว่า 9 | อำ�นาจทหาร 477
นายปรีดีต้องรับผิดชอบต่อการสวรรคตของพระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดล หรือในทางอ้อม ในฐานะในตำ�แหน่ง หวั หนา้ รฐั บาลขณะนนั้ หรอื ในแบบทนี่ า่ กลวั กวา่ นน้ั ในเดอื นสงิ หาคม นายปรดี ไี ดล้ าออกจากตำ�แหนง่ นายกรฐั มนตรี และเดนิ ทางไปต่าง ประเทศ เมื่อรัฐบาลพลเรือนภายใต้หลวงธำ�รงนาวาสวัสด์ิข้ึนมา บริหารประเทศ ก็ไม่สามารถหนีรอดจากเมฆหมอกเรื่องการลอบ ปลงพระชนมท์ อี่ มึ ครมึ ไปดว้ ยหลกั ฐานทข่ี าดน�ำ้ หนกั และประเดน็ ที่ หาคำ�ตอบไม่ได้ สภาผูแ้ ทนราษฎรและรัฐบาลกไ็ มม่ คี วามเปน็ ผู้น�ำ ทแี่ ขง็ แกรง่ จนเกอื บเอาตวั ไมร่ อดในการเผชญิ กบั ความยากล�ำ บาก อยา่ งรนุ แรง โดยเฉพาะความตกต�่ำ ทางเศรษฐกจิ และการฉอ้ ราษฎร์ บังหลวงกันอย่างมโหฬาร ถึงระดับรัฐมนตรีบางนาย รวมถึงการ ลกั ลอบนำ�เขา้ ขา้ วและการค้ากำ�ไรเกนิ ควร รัฐบาลพลเรอื ตรี หลวงธ�ำ รงนาวาสวสั ดิ์อ่อนแอลง เนอื่ งจาก การเลือกตั้งในเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2489 (1946) เพื่อเพ่ิมจำ�นวน สมาชกิ ในสภาผแู้ ทนราษฎรใหม้ มี ากขนึ้ (ตามบทบญั ญตั ใิ นรฐั ธรรมนญู ฉบับใหม่) จำ�นวนสมาชิกในสภาทีเ่ พิม่ ขึน้ นไ้ี ด้บ่ันทอนการควบคุม เสยี งขา้ งมากในสภาของกลมุ่ นายปรดี ี พนมยงค์ เพราะไดเ้ สยี งเกนิ ครง่ึ เลก็ น้อยเท่านน้ั และในต้น พ.ศ. 2490 (1947) กต็ ้องสญู เสียการ เปน็ พรรคใหญใ่ นสภาไป เพราะจ�ำ นวนสมาชกิ สภาฯพา่ ยแพต้ อ่ พรรค คู่แขง่ สภานิติบญั ญัตกิ ำ�ลังอย่ใู นภาวะยงุ่ เหยงิ ยากต่อการควบคมุ และได้เกดิ ลางร้ายขึน้ มา เมอื่ นกั การเมืองจ�ำ นวนหนง่ึ ถูกฆาตกรรม ขณะเดยี วกนั นายปรีดกี ็เดนิ ทางกลบั มาจากตา่ งประเทศ หลังจาก ได้ไปแสดงความกระตือรือร้นท่ีจะสนับสนุนการสร้างความสมัคร สมานในหมู่นักชาตินิยมเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เพื่อการต่อต้าน อาณานิคม ด้วยเหตุนี้ เขาจึงก่อตงั้ สันนิบาตเอเชียตะวันออกเฉียง ใต้ (Southeast Asia League) ในเดอื นกนั ยายน พ.ศ. 2490 (1947) 478 ประวตั ศิ าสตร์ไทยฉบบั สงั เขป
ท้ังน้ี ช่วงปีสุดท้ายของสงคราม ขบวนการเสรีไทยมีความสัมพันธ์ ในการท�ำ งานใกลช้ ดิ กบั กลมุ่ ตอ่ ตา้ นฝรง่ั เศสและญป่ี นุ่ ในกมั พชู า ลาว และเวยี ดนาม และความสมั พนั ธเ์ หลา่ นข้ี ยายวงกวา้ งขนึ้ ดว้ ยการขนึ้ สอู่ �ำ นาจของนายปรดี ใี นชว่ งหลงั สงคราม และใน พ.ศ. 2490 (1947) ขบวนการชาตนิ ยิ มอนิ โดนเี ซยี ลาว และเวยี ดนาม มขี อ้ มลู และหนว่ ย จัดหาอาวุธในกรุงเทพฯ และมีกระท่ังองค์กรแบ่งแยกดินแดนของ มอญ หลายคนโดยเฉพาะนายทหารไทยเชอื่ วา่ นายปรดี ีมเี ครือขา่ ย ความสมั พันธ์กบั คอมมิวนสิ ต์ ข่าวลอื แพร่กระจายว่า นายปรดี ีจะกอ่ ต้ังสาธารณรัฐสยาม ใหเ้ ปน็ เสา หลกั สำ�หรบั สหภาพเอเชยี ตะวนั ออกเฉยี งใต้ (South East Asia Union) คำ�สง่ั ทางวทิ ยทุ ถ่ี กู ดกั จบั คลนื่ ได้ และพบเอกสารท่ียืนยันความขัดแย้งเหล่านี้ สายลับ ก�ำ ลงั เดนิ ทางไปสวติ เซอรแ์ ลนด์ เพอ่ื ลอบปลงพระชนม์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช และ พบสถานท่ีเก็บซ่อนอาวุธ รวมถึงอาวุธจากรัสเซีย จำ�นวนมาก ท่ีบ้านของทองอินทร์ ภูริพัฒน์ หนึ่งใน รฐั มนตรสี มยั รฐั บาลพลเรอื ตรี ถวลั ย์ ธ�ำ รงนาวาสวสั ดิ์ อาวุธจะถูกใช้สำ�หรับการปฏิวัติคอมมิวนิสต์อย่างไม่ ตอ้ งสงสัย 8 สงครามเยน็ ทไ่ี มว่ า่ จะโคน่ ลม้ ระบบอน่ื จรงิ หรอื เปน็ เพยี งความ กลัวท่ีเกินจริงได้มาถึงกรุงเทพฯแล้ว และยากท่ีจะบอกว่า การกระทำ�ของทหารเกิดจากความกลัวสงครามเย็น หรือเพ่ือที่จะ ฟ้ืนฟูระเบียบและทิศทางของรัฐบาลประชาธิปไตยแบบพลเรือนท่ี กำ�ลังจะล้ม กระน้ันก็ยังดูได้จากการกระทำ�ของทหาร วันที่ 8 9 | อำ�นาจทหาร 479
พฤศจิกายน พ.ศ. 2490 (1947) กองกำ�ลังทหารบกเข้ายึดอำ�นาจ รฐั บาล แต่ไม่ขนานนามตนเองว่าเป็นคณะราษฎรอกี ตอ่ ไป แตเ่ ป็น คณะรัฐประหาร นายปรดี ี พนมยงค์ ซอ่ นตวั อย่รู ะยะหนึ่ง กอ่ นที่ผู้ ชว่ ยทตู ทหารเรอื ขององั กฤษ และอเมรกิ นั และเรอื บรรทกุ น�ำ้ มนั เชลล์ พาเขาออกนอกประเทศ หลงั จากสามสปั ดาหแ์ หง่ ความลงั เลผา่ นไป จอมพล ป. พิบูลสงคราม และผู้สนับสนุนรัฐประหารอย่างแข็งขัน ไดแ้ ก่ พนั เอกกาจ กาจสงคราม พลโท ผิน ชณุ หะวณั พันเอก เผา่ ศรียานนท์ และพันเอก สฤษดิ์ ธนะรัชต์ ตระหนักว่าประเทศไทย เสยี่ งตอ่ การไมไ่ ดร้ บั การยอมรบั ในระดบั นานาชาติ หรอื เลวรา้ ยกวา่ น้ันถ้านายทหารและโดยเฉพาะจอมพล ป. พิบูลสงครามข้ึนมา บรหิ ารรฐั บาลในขณะนั้น คณะทหารจึงแต่งต้งั พนั ตรี ควง อภัยวงศ์ เป็นนายกรฐั มนตรี และใช้รัฐธรรมนญู พ.ศ. 2489 (1946) รฐั บาลพนั ตรี ควง อภยั วงศเ์ รม่ิ ตน้ ดว้ ยดี โดยแตง่ ตงั้ รฐั มนตรี ท่มี คี ณุ สมบตั ิและประสบการณ์ที่ดีมาก ขณะทเ่ี ตรยี มพรอ้ มสำ�หรับ การเลอื กตงั้ ระดบั ชาตคิ รงั้ ใหม่ อยา่ งไรกต็ าม ทหารและต�ำ รวจด�ำ เนนิ แผนการถอนรากถอนโคนฝา่ ยซ้าย มุง่ ไปที่ผู้สนับสนุนเกา่ ของนาย ปรดี ี พนมยงค์ นกั กจิ กรรมฝา่ ยเสรไี ทย และทา้ ยทสี่ ดุ รวมถงึ นกั การ เมอื งฝา่ ยตรงข้าม โดยเฉพาะจากทางภาคตะวนั ออกเฉียงเหนือ ใน การเลือกต้ังเดือนมกราคม พ.ศ. 2491 (1948) พรรคประชาธิปัตย์ ของพนั ตรี ควงไดร้ บั ทน่ี งั่ สว่ นใหญใ่ นสภาผแู้ ทนราษฎร แตก่ จ็ �ำ นวน ไมม่ ากนกั ขณะทพ่ี รรคทจี่ ดั การโดยจอมพล ป. พบิ ลู สงครามกด็ �ำ เนนิ การไดไ้ มด่ นี กั จอมพล ป. และคณะรฐั ประหารประวงิ เวลาอยู่ 3 เดอื น และเฝา้ ดพู รรคประชาธปิ ตั ยแ์ ละพนั ตรคี วงขยายอ�ำ นาจ และเตรยี ม ร่างรัฐธรรมนูญใหม่ท่ีจะลดความสำ�คัญของทหาร ในที่สุด รัฐบาล ถกู ข่มขูว่ ่าจะใชก้ �ำ ลังทหารอกี คร้งั คณะทหารจใ้ี หพ้ ันตรคี วงลาออก และจอมพล ป. พิบูลสงครามกลบั มาเป็นนายกรฐั มนตรี ในวันท่ี 8 480 ประวัติศาสตร์ไทยฉบับสังเขป
นายกรัฐมนตรี ควง อภยั วงศ์ กล่าวคำ�ปราศรัยต่อสาธารณชน 9 | อ�ำ นาจทหาร 481
เมษายน พ.ศ. 2491 (1948) รวมเปน็ เวลาสป่ี ีทพี่ นั ตรี ควงได้อำ�นาจ มานับตั้งแต่ช่วงปลายสงครามโลกครง้ั ท่ี 2 ตามประวัติศาสตร์ไทย ช่วงน้ีเป็นช่วงท่ีไม่สงบสุข และคน สว่ นใหญจ่ ะตอ้ งลมื หลายสงิ่ สงิ่ ทไ่ี มไ่ ดเ้ กดิ ขนึ้ กลายเปน็ สง่ิ ทเี่ กอื บจะ ถกู ลมื ท่ามกลางการรฐั ประหารหลายครั้ง การเปลย่ี นคณะรฐั มนตรี และรัฐมนตรี สนธิสัญญา และวิกฤตเศรษฐกิจ จอมพล ป. พิบูล สงครามและนายปรดี อี ยู่ได้อย่างปลอดภยั เพราะไม่มผี ู้นำ�คนใดท่ีมี พรรคพวกอยา่ งแทจ้ รงิ เกดิ ขนึ้ มา และทง้ั สองคนไดร้ บั การสนบั สนนุ จากกล่มุ ต่างๆ เป็นอย่างดี จอมพล ป. ได้รับการสนบั สนุนจากกลมุ่ พรรคพวกชว่ งสงครามและเผดจ็ การ สว่ นนายปรดี ไี ดร้ บั การสนบั สนนุ จากฝา่ ยซา้ ย และอาจจะเปน็ กลมุ่ ทเ่ี กยี่ วขอ้ งกบั การลอบปลงพระชนม์ ในความคดิ ของสาธารณชน จอมพล ป. ดงึ ดดู ความสนใจจากทหาร และชนชน้ั น�ำ หวั เกา่ นายปรดี ดี งึ ดดู จากชนชน้ั น�ำ ขา้ ราชการพลเรอื น ชนชน้ั สายวิชาชีพ และนกั ศกึ ษามหาวิทยาลัย ไม่มีกรณใี ดท่ไี ดร้ บั การสนบั สนนุ จากมวลชนอยา่ งลน้ หลาม และยงั ไมม่ กี ารประทว้ งของ มวลชนสาธารณะในช่วงเวลานี้ เราถกู ปลอ่ ยใหอ้ ยกู่ บั ความประทับ ใจในระบบทางการเมืองที่ไม่ลึกซ้ึง และเร่ืองที่เก่ียวกับชนชั้นนำ�ท่ี แตกแยกและชอบทะเลาะวิวาท แตกแยกกันโดยความเชื่อทาง อดุ มการณท์ ไ่ี มช่ ดั เจน ทศั นคตเิ กย่ี วกบั อ�ำ นาจของราชวงศ์ ระเบยี บ แบบแผนทางเศรษฐกจิ ความทะเยอทะยาน อกี ทง้ั ผลประโยชนแ์ ละ คปู่ ฏิปักษส์ ่วนตัว ระยะเวลาระหว่าง พ.ศ. 2487-91 (1944–48) การเมืองไทย ถกู บดิ เบอื น ไมเ่ ปน็ ไปตามธรรมชาติ เพอ่ื เขา้ ขา้ งนกั การเมอื งพลเรอื น เพราะความจ�ำ เปน็ เรง่ ดว่ นจากสงคราม และสถานการณฉ์ กุ เฉนิ หลงั สงคราม มีความจำ�เป็นสำ�หรับประเทศไทยท่ีต้องแสดงตนเองว่า เป็นประชาธิปไตย เพ่ือท่ีจะได้มิตรไมตรีจากรัฐบาลอเมริกัน (และ 482 ประวัติศาสตรไ์ ทยฉบบั สงั เขป
ประชาชน) และจะไดร้ บั ความชว่ ยเหลอื จากสหรฐั อเมรกิ าในการตอ่ ตา้ นญปี่ นุ่ เปน็ ประเทศแรก และองั กฤษประเทศตอ่ มา ความไมส่ มดลุ ของฝา่ ยพลเมอื งใน พ.ศ. 2491 (1948) ไมไ่ ดเ้ อนเอยี งไปทางขวา แต่ ไปทางฝา่ ยตรงขา้ มที่สดุ เพราะบรบิ ทสงครามเยน็ ใหม่ ท่ีดเู หมอื น จะคุกคามการด�ำ รงอย่ขู องประเทศไทยท่ีเป็นเอกราช รัฐบาลจอมพล ป. พบิ ลู สงคราม สมยั ที่ 2 พ.ศ. 2491-2500 (1948–1957) รัฐบาลจอมพล ป. พบิ ลู สงคราม สมยั ท่ี 2 ชว่ งระหวา่ ง พ.ศ. 2491-2500 (1948-1957) เงินเดิมพันของเกมทางการเมืองใน ประเทศไทยสูงกว่าท่ีเคยเป็นมา หน่ึงทศวรรษก่อนหน้านี้ ราช อาณาจักรมีประชากรหนาแน่นและเจริญรุ่งเรืองข้ึนมากกว่าเดิม ชนช้ันนำ�ทางการเมืองที่กระตือรือร้นและมักใหญ่ใฝ่สูงเติบโตขึ้น อยา่ งมาก อ�ำ นาจทด่ี เู หมอื นวา่ จะเขา้ ถงึ ไดแ้ ละมตี วั ตนแนน่ อนไดร้ บั การเสาะแสวงหาและปกปอ้ ง รปู แบบทเี่ กิดขึน้ นสี้ อดคลอ้ งกบั การท่ี ผู้ควบคุมรัฐบาลตั้งกฎของพวกเขาเอง เพื่ออำ�นาจท่ีมีอยู่และกันผู้ อน่ื ใหอ้ อกไป สงิ่ เหลา่ นถ้ี อื เปน็ ระบอบรฐั ธรรมนญู เหมอื นกบั ทรี่ ฐั บาล กอ่ นหนา้ พวกเขาท�ำ ไว้ แตเ่ นอ่ื งดว้ ยคณุ สมบตั ทิ ส่ี �ำ คญั ทว่ี า่ รฐั ธรรมนญู อยู่ภายใต้รฐั บาล ไมใ่ ช่อยูภ่ ายใตฝ้ า่ ยตรงกันข้าม เหตกุ ารณท์ างการเมอื งในชว่ งนเ้ี ปน็ ทร่ี จู้ กั โดยทวั่ ไปแตเ่ พยี ง เค้าโครง ไม่ได้ถูกศึกษารายละเอียดอย่างรอบคอบและเป็นระบบ เหตกุ ารณเ์ หลา่ นน้ั รอการศกึ ษาจากนกั ประวตั ศิ าสตรอ์ กี รนุ่ ทไ่ี มค่ อ่ ย ใกล้ชิดกับเหตุการณ์และบุคคลท้ังหลาย ส่ิงท่ีเราสามารถทำ�ได้คือ สืบหาร่องรอยของเค้าโครงน้ี และแสดงความเห็นถึงสิ่งที่จะเป็น ลกั ษณะเด่นของช่วงเวลานี้ 9 | อ�ำ นาจทหาร 483
สงิ่ ทสี่ �ำ คญั ทจี่ ะชว่ ยใหเ้ ขา้ ใจชว่ งเวลานคี้ อื บรบิ ทระดบั นานาชาติ โดยเฉพาะต้น พ.ศ. 2491 (1948) สงครามเย็นก�ำ ลังเรมิ่ ข้นึ ในยุโรป อย่างจรงิ จัง โดยเฉพาะจากสมมตุ ิฐานทีว่ ่า คอมมิวนสิ ต์ได้เขา้ ควบ คมุ ในเชโกสโลวะเกยี อยา่ งสมบรู ณแ์ ลว้ ในเดอื นกมุ ภาพนั ธ์ ตามดว้ ย การจลาจลตอ่ ตา้ นอาณานคิ มทม่ี เี พมิ่ มากขนึ้ และมกี ารตอ่ ตา้ นรฐั บาล ในพมา่ มลายู อินโดนีเซีย ฟิลปิ ปินส์ และอนิ โดจีนของฝรง่ั เศส ใน เวลาเดียวกัน สงครามกลางเมืองในจีนมีแนวโน้มว่าจะจบลงด้วย ชัยชนะของคอมมิวนสิ ต์ ดงั น้นั จากการเร่มิ ตน้ ขึน้ ของสงครามเยน็ จงึ ท�ำ ใหส้ หรฐั อเมรกิ าและสหราชอาณาจกั รเตม็ ใจทจี่ ะยอมรบั รฐั บาล จอมพล ป. พิบูลสงครามในเดอื นเมษายน ภายใตบ้ รบิ ทของการตอ่ สกู้ นั อยา่ งยาวนานกบั นายปรดี ี พนม ยงค์ และฝา่ ยพลเรอื นหวั รนุ แรง จอมพล ป. เกดิ ความตระหนก (อยา่ ง เกินจรงิ ) จากเหตุการณ์ท่เี กดิ ขึ้นในระดับโลก ขณะเดียวกัน อย่าง นอ้ ยจอมพล ป. กย็ งั ไดร้ บั การสนบั สนนุ จากประชาชน และเพอ่ื เผชญิ กับคแู่ ขง่ ภายในกองทพั และในระบบการเมืองไทย จอมพล ป. พิบลู สงครามเริม่ นโยบายตอ่ ต้านชาวจนี ครงั้ ใหม่ เหมอื นกบั ทเี่ คยท�ำ มาใน พ.ศ. 2481 (1938) แตข่ ณะนไี้ ดแ้ รงกระตนุ้ จากความโดดเด่นของสมาชิกชาวจีนในพรรคคอมมิวนิสต์แห่ง ประเทศไทยกลุ่มเล็กๆ และภาพของชาวจีนโพ้นทะเล ท่ีเติบโตขึ้น ในฐานะแนวที่ 5 ของการโค่นล้มในนามของจนี คอมมิวนิสต์ ความ สมดุลที่สัมพันธ์กันระหว่างฝ่ายสนับสนุนคอมมิวนิสต์ กับฝ่ายก๊ก มินตั๋งในสังคมจีนในประเทศไทยกำ�ลังเปล่ียนไปอย่างรวดเร็ว โดย เขา้ ขา้ งฝ่ายแรก ซ่งึ ดไู ด้จากในสหภาพแรงงาน โรงเรียนจีน และสอ่ื ส่ิงพิมพ์จีน และองค์กรชุมชน นอกจากรัฐบาลระงับการอพยพเข้า ประเทศของคนจนี แลว้ ยงั ด�ำ เนนิ มาตรการเพอ่ื จ�ำ กดั การครอบครอง ทางเศรษฐกจิ ของคนจนี และสนบั สนนุ ธรุ กจิ ไทย รฐั บาลเขา้ ควบคมุ 484 ประวัตศิ าสตร์ไทยฉบบั สังเขป
องค์กรและโรงเรียนจนี และเข้าควบคมุ สื่อส่งิ พิมพใ์ นรปู แบบใหม่ ในชว่ งเวลาเดยี วกนั จอมพล ป. พบิ ลู สงคราม เคลอื่ นไหวตอ่ ต้านคู่แข่งขันฝ่ายพลเรือน ผู้ที่ถูกระบุว่าอยู่ตรงข้ามกับรัฐบาลและ อยฝู่ ่ายเดยี วกับนายปรดี ี พนมยงค์ ตกเป็นเป้าของการถกู ก่อกวน และถูกจับกุม นักการเมืองจากภาคตะวันออกเฉียงเหนือเป็นกลุ่ม เปา้ หมายของต�ำ รวจโดยเฉพาะ หลายคนในกลมุ่ นร้ี วมถงึ นายเตยี ง ศิรขิ ันธ์ นายทองอินทร์ ภรู พิ ัฒน์ ท่ถี ูกจบั กมุ เม่ือ พ.ศ. 2491 (1948) ในข้อหาวางแผนแบ่งแยกดินแดนอีสานไปรวมกับอินโดจีนท่ี คอมมวิ นสิ ตค์ รอบครองอยู่ ในเดอื นมนี าคม พ.ศ. 2492 (1949) นาย ทองอินทร์ ภูรพิ ฒั น์ และอกี สองคนถูกยงิ เสียชวี ติ “ขณะพยายาม หลบหนี” ตำ�รวจ9 และเหตุการณ์เดียวกันน้ี เกิดกับนายเตียง ใน ปลาย พ.ศ. 2495 (1952) การข่มขเู่ ช่นนีเ้ พียงพอทจี่ ะทำ�ให้นักการ เมอื งสว่ นใหญ่เงยี บเสยี งลงได้ ขณะทคี่ วามคดิ เรอื่ งขบวนการแบง่ แยกดนิ แดนในภาคตะวนั ออกเฉียงเหนอื ของลาว อาจจะเกย่ี วขอ้ งเพยี งเล็กน้อยกับความฝนั ของนักการเมือง และนักกิจกรรมเสรีไทย แต่การพัฒนาความคิด เรอ่ื งการแบง่ แยกดนิ แดนจรงิ จงั มากขน้ึ ในสจ่ี งั หวดั มลายทู างชายแดน ภาคใต้ ความพยายามของรัฐบาลจอมพล ป. พิบูลสงครามในช่วง สุดทา้ ยของสงครามโลกครงั้ ที่ 2 ท่จี ะบังคับใชร้ ัฐนิยมและกฎหมาย อิสลาม ทำ�ให้เกิดการต่อต้านอย่างรุนแรงจากประชาชนในพื้นท่ีน้ี จากการได้เสียงสนับสนุนจากประชาชน ทำ�ให้รัฐบาลพันตรี ควง อภัยวงศแ์ ละหลวงธำ�รงนาวาสวัสดจิ์ ึงลดแรงกดดนั ในเรือ่ งน้ีลง แต่ ก็ยังเกิดประเด็นใหม่ข้ึนอีก เน่ืองจากการใช้นโยบายการศึกษาใน ภาคใตท้ ม่ี งุ่ ตอ่ ตา้ นชาวจนี เปน็ หลกั การหา้ มมใิ หม้ กี ารเรยี นการสอน ตามหลกั สตู รของชาวมลายู ท�ำ ใหช้ าวมลายใู นจงั หวดั ชายแดนภาค ใต้รู้สึกเสมือนว่าพวกตนเป็นคนของระบอบอาณานิคมต่างด้าว ใน 9 | อำ�นาจทหาร 485
เดือนสิงหาคม พ.ศ. 2490 (1947) พวกเขายื่นข้อเสนอต่อรัฐบาล เรียกร้องการปกครองตนเองด้านการบริหาร การศึกษา การเงิน ศาสนา ภาษา และการศาลระดับภูมิภาค รัฐบาลหลวงธำ�รงนาวา สวสั ด์ิ ให้สัญญากบั ผู้เรียกรอ้ งวา่ จะพจิ ารณาขอ้ คับข้องใจของพวก เขาอย่างเป็นธรรม แต่การตอบสนองของจอมพล ป. พิบลู สงคราม ขณะขนึ้ สอู่ ำ�นาจ คือ การจับกมุ และคุมขังผูน้ ำ�ชาวมลายูคนส�ำ คัญ ในสจี่ งั หวดั ภาคใต้ (*คอื ฮจั จีสหุ ลง อับดุลกาเดร์) และท�ำ ใหอ้ งคก์ ร มลายแู ละมสุ ลมิ เปน็ องคก์ รผดิ กฎหมาย (*วนั ท่ี 25-28) เดอื นเมษายน พ.ศ. 2491 (1948) เกิดการจลาจลครั้งใหญ่ทางภาคใต้ (*ทางการ เข้าใจวา่ ชาวบา้ นในหมบู่ า้ นดซุ ุงญอ จังหวัดนราธวิ าส รวมตัวกัน กอ่ การกบฏ) กองกำ�ลังทหารของรัฐบาลใช้ก�ำ ลังรนุ แรง รวมถงึ การ ท้ิงระเบิดทางอากาศ สามารถปราบการจลาจลลงได้10 สหพันธรัฐ มลายาเกดิ ความรสู้ กึ เหน็ อกเหน็ ใจในชะตากรรมของชาวมลายทู ไี่ ม่ เห็นด้วยกับรัฐบาลไทยอย่างมาก แต่เนื่องจากการจลาจลของจีน คอมมิวนิสต์ บริเวณชายแดนของภูมิภาคนี้ ช่วงกลาง พ.ศ. 2491 (1948) เพื่อต่อต้านรัฐบาลอังกฤษ–มลายา จึงทำ�ให้เกิดความร่วม มอื กันระหวา่ งรัฐบาลสหพันธรฐั มลายา และไทย รวมท้ังการเนน้ ถงึ การมีกองกำ�ลงั และความสนใจในการจัดกิจกรรมรว่ มกนั ทางทหาร ในภูมิภาค โดยได้รับการสนับสนุนจากมหาอำ�นาจตะวันตก สิ่งนี้ ทำ�ให้เร่ืองความขัดแย้งระหว่างรัฐบาลไทยกับส่ีจังหวัดชาวมลายู ชายแดนภาคใตถ้ กู ทง้ิ ใหโ้ ดดเดี่ยวและเงียบเชยี บลงในระยะยาว จอมพล ป. พิบูลสงครามเผชิญกบั การทา้ ทายอำ�นาจ 2 ครงั้ ภายในระยะเวลาหน่ึงปี ครั้งแรก (*กบฏเสนาธกิ าร วันที่ 1) เดือน ตุลาคม พ.ศ. 2491 (1948) พลตรี เนตร เขมะโยธนิ และนายทหาร บกยศสูงจำ�นวนหน่ึง วางแผนก่อรัฐประหาร เมื่อมีข่าวร่ัวออกไป นายทหาร 60 คนถูกจับกมุ ต้นปตี อ่ มา วนั ท่ี 26 กมุ ภาพันธ์ พ.ศ. 486 ประวตั ิศาสตรไ์ ทยฉบบั สงั เขป
2492 (1949) เกดิ กรณี (*กบฏวงั หลวง) ที่รุนแรงกวา่ เดิม เมอ่ื ทหาร เรอื และนาวกิ โยธนิ พยายามจะใหน้ ายปรดี กี ลบั คนื สอู่ �ำ นาจ การตอ่ สู้ ลามไปทว่ั กรงุ เทพฯ เปน็ เวลา 3 วนั กอ่ นทก่ี ลมุ่ รฐั ประหารและจอมพล ป. พิบูลสงครามยึดอำ�นาจกลับคืน นายปรีดีสูญเสียอย่างมากจาก การใช้ความรุนแรง และทหารเรือก็ไม่ได้รับความไว้วางใจมากข้ึน เรอ่ื ยๆ ขณะเดยี วกนั จอมพล ป. ดูเหมือนได้รบั ความชอบธรรมมาก ขน้ึ ในการใชม้ าตรการเขม้ งวดปราบกบฏและคู่แข่ง ตำ�รวจ (*ภาย ใต้การนำ�ของเผ่า ศรียานนท์) ใช้อำ�นาจในทางท่ีผิด มีการจับกุม ตามอำ�เภอใจ กระทั่งทรมานและสังหารพลเมืองมากมาย พวก อนั ธพาลไดท้ บุ ตที �ำ รา้ ยบรรณาธกิ ารหนงั สอื พมิ พห์ วั รนุ แรงหลายคน ลกั ษณะภายนอกของประชาธปิ ไตยแบบรฐั ธรรมนญู ยงั คงอยู่ ประเทศไทยในตอนนี้ได้รับความช่วยเหลือทางเศรษฐกิจและทหาร จากสหรัฐอเมริกา และการสนับสนุนจากองค์กรระหว่างประเทศ จอมพล ป. พบิ ลู สงครามไมส่ ามารถน�ำ สงิ่ เหลา่ นม้ี าเสย่ี ง โดยละเวน้ การแตง่ เรอื่ งเกยี่ วกบั ประชาธปิ ไตย ทด่ี เู หมอื นจะสรา้ งความประทบั ใจให้กับนานาประเทศ พรรคประชาธิปัตย์ยังคงครองเสียงท้ังสอง สภา ไดร้ า่ งและประกาศใชร้ ฐั ธรรมนญู ฉบบั ใหมใ่ นเดอื นมนี าคม พ.ศ. 2492 (1949) เครอื่ งมอื นเี้ ออื้ ใหพ้ ระมหากษตั รยิ ท์ รงมพี ระราชอ�ำ นาจ ในการแตง่ ตง้ั วฒุ สิ มาชกิ อยา่ งสมบรู ณ์ เพม่ิ อ�ำ นาจแกส่ ถาบนั กษตั รยิ ์ อย่างมาก และให้อำ�นาจวุฒิสมาชิกท่ีจะยับย้ังการออกกฎหมาย ทหารถกู ลดบทบาทไม่ใหม้ อี ำ�นาจในทางนติ บิ ญั ญตั ิ จอมพล ป. พิบลู สงครามตอ้ งอาศยั วิธีการอื่นๆ ท่จี ะคมุ้ ครอง อำ�นาจบญั ชาการของเขาเอง ในเดือนมถิ ุนายน พ.ศ. 2492 (1949) มกี ารเลอื กตงั้ สมาชกิ สภาผแู้ ทนราษฎร รัฐบาลของเขาถูกกลา่ วหา วา่ โกงการเลอื กตงั้ และสนบั สนนุ ทางการเงนิ แกพ่ รรคทเี่ ขา้ ขา้ งรฐั บาล ทช่ี นะการเลอื กตง้ั ท�ำ ใหจ้ อมพล ป. ไดร้ บั เสยี งขา้ งมากในสภาผแู้ ทน 9 | อ�ำ นาจทหาร 487
ราษฎรเพิ่มข้นึ จาก 75 เสยี งเปน็ 121 เสยี ง โดยใช้การอปุ ถัมภ์ ซ่งึ รวมถงึ การใหข้ องขวญั และการสนบั สนนุ รปู แบบตา่ งๆ อยา่ งไรกต็ าม จอมพล ป. ยงั ไมส่ ามารถท�ำ อะไรกบั วฒุ สิ ภาไดม้ ากนกั และต�ำ แหนง่ ของเขาภายในกองทัพกอ็ ยู่ในสภาพทไ่ี ม่มั่นคงนกั วนั ที่ 29 มถิ นุ ายน พ.ศ. 2494 (1951) จอมพล ป. พบิ ลู สงคราม เข้าร่วมในพิธีรับมอบเรือขุดสันดอน แมนฮัตตัน ท่ีรัฐบาลอเมริกัน มอบให้แกป่ ระเทศไทย ซึง่ เป็นสว่ นหนง่ึ ของการให้ความชว่ ยเหลือ ทางเศรษฐกจิ และทหารทเี่ พ่ิมข้นึ มีนายทหารเรอื (*น.ต มนสั จารุ ภา) บกุ เขา้ ขดั ขวางพธิ นี แ้ี ละไดเ้ ขา้ จบั ตวั จอมพล ป. โดยน�ำ ไปกกั ขงั ไวใ้ นเรอื รบหลวงศรอี ยธุ ยา ภายในเวลาไมก่ ช่ี วั่ โมง กลมุ่ กบฏ (*ทหาร เรือเรียกตัวเองว่า คณะกู้ชาติ) บังคับให้จอมพลป.ประกาศจากใน เรือแตง่ ตัง้ นายกรฐั มนตรคี นใหม่ (*พระยาสารสาสน์ประพนั ธ์) แต่ ฝา่ ยรฐั บาลไดก้ ระจายเสยี งตอบโต้ ในวนั ถดั มาเกดิ การตอ่ สขู้ นั้ รนุ แรง ขน้ึ ในกรุงเทพฯ ระหว่างรฐั บาลและกลมุ่ ทหารเรือ ฝ่ายรฐั บาลได้รับ การสนับสนุนจากทหารบก ตำ�รวจ และทหารอากาศ เมื่อกองทัพ อากาศทิ้งระเบิดใส่เรอื หลวงศรีอยุธยา จอมพล ป. สามารถวา่ ยน�ำ้ หนอี อกมาได้ กอ่ นทเี่ รอื จะจม เขาวา่ ยน�้ำ ไปขน้ึ ฝงั่ (*ทท่ี า่ พระราชวงั เดมิ ) และพดู ออกอากาศทางวทิ ยุ เรยี กรอ้ งใหท้ หารเรอื ยอมแพ้ กบฏ แมนฮตั ตนั จบสนิ้ ลงในไมช่ า้ มผี ไู้ ดร้ บั บาดเจบ็ 3,000 คน ผเู้ สยี ชวี ติ 1,200 คน สว่ นใหญ่เป็นพลเรอื น ผลของการกบฏทำ�ให้ทหารเรือถกู ลดอ�ำ นาจลง เหลือก�ำ ลงั พลหนึ่งในสี่ของก�ำ ลงั พลกอ่ นหนา้ นี้ และมี การจบั กมุ ผคู้ นมากมายในเวลาตอ่ มา รวมถงึ นกั ศกึ ษามหาวทิ ยาลยั ธรรมศาสตรจ์ �ำ นวน 50 คนทีม่ สี ่วนขอ้ งเก่ียวกับคอมมิวนสิ ต์ พ.ศ. 2494 (1951) เปน็ จุดเปลย่ี นในหลายๆ ด้าน การปราบ กบฏแมนฮตั ตนั แสดงถงึ การขนึ้ สอู่ �ำ นาจ และยนื ยนั อ�ำ นาจของคแู่ ขง่ คนส�ำ คญั ของจอมพล ป. พบิ ลู สงคราม จากการท�ำ รัฐประหาร พ.ศ. 488 ประวตั ิศาสตรไ์ ทยฉบบั สังเขป
กบฏแมนฮัตตัน พ.ศ. 2494 (1951) เรือหลวงศรีอยุธยา ถูกกองทัพ อากาศโจมตี 9 | อำ�นาจทหาร 489
2490 (1947)ถงึ 2 คน คือ พลตรี เผ่า ศรยี านนท์ ผไู้ ดร้ ับต�ำ แหน่ง อธิบดีกรมตำ�รวจ ซึ่งกรมตำ�รวจเป็นเสมือนท้ังทหารและกองกำ�ลัง ฝ่ายตำ�รวจ พลตรี สฤษด์ิ ธนะรัชต์ ผู้คุมกองบญั ชาการ กองพลที่ 1 รักษาพระองค์ในกรุงเทพฯ และกลายมาเป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการ กระทรวงกลาโหม จอมพล ป. จะปกครองในฐานะประธานของระบอบ การปกครองโดยคน 3 คนไดไ้ มง่ ่ายนัก และจอมพล ป. กค็ อ่ ยๆ สูญ เสยี อ�ำ นาจให้แกค่ ่แู ข่งทง้ั สองน้ี เนื่องจากรูปแบบของรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2492 (1949) และ อำ�นาจที่ให้กับสถาบันพระมหากษัตริย์ กลุ่มรัฐประหารเป็นกังวล เน่ืองจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชทรงเตรียม เสด็จนิวัติพระนคร และปฏิบัติพระราชกรณียกิจในช่วงปลาย พ.ศ. 2494 (1951) ขณะที่พระองค์เสด็จพระราชดำ�เนินทางทะเล จาก สิงคโปร์มายงั กรงุ เทพฯ ฝา่ ยทหารประกาศทางวทิ ยขุ องรัฐว่า เพราะสถานการณ์โลกในปัจจุบัน ลัทธิ คอมมวิ นสิ ตแ์ พรห่ ลายมากขน้ึ และการระบาดของการ ทุจริต สมาชิกในกลุ่มทหาร ตำ�รวจ และผู้นำ�ในการ ปฏวิ ตั ิ พ.ศ. 2475 (1932) และการท�ำ รฐั ประหาร พ.ศ. 2490 (1947) จึงตัดสินใจใช้รัฐธรรมนูญถาวร ฉบับ พ.ศ. 2475 (1932)11 สภานิติบัญญัติประกอบด้วยสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรท่ีได้ รบั การแตง่ ต้งั จ�ำ นวน 123 คน (เป็นทหารและตำ�รวจจำ�นวน 106 นาย) และสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรท่ีมาจากการเลือกต้ังในเดือน กมุ ภาพนั ธ ์ พ.ศ. 2495 (1952) อกี 123 คน ความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งยวุ กษตั รยิ ์ และรัฐบาลจอมพล ป. พบิ ลู สงครามเรมิ่ ไมด่ ีนกั ตั้งแตแ่ รก 490 ประวัตศิ าสตรไ์ ทยฉบับสังเขป
ระหว่างช่วง 15 ปีแรกของระบอบรัฐธรรมนูญ ผู้ที่เป็นนัก วิจารณ์สังคมและนักกิจกรรมการเมืองเป็นผู้ร่วมกันสร้างระบอบ ปญั ญาชนรนุ่ ตอ่ มา ถกู ปดิ กนั้ จากรฐั บาลจอมพล ป. พบิ ลู สงคราม มี ผลท�ำ ใหเ้ กิดการต่นื ตวั ขึ้นมาอกี ครงั้ จากการบม่ เพาะทางการเมอื ง ในประเทศไทยชว่ งปลายทศวรรษ 1940 (2483-2492) และตน้ 1950 (2493-2502) ชีวิตปัญญาชนท่ีฟื้นตัวข้ึนมานี้มีศูนย์กลางอยู่ที่ มหาวิทยาลัยสองแหง่ ในกรงุ เทพฯ คือ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยท่ี มชี อ่ื เสยี ง เปน็ สถานทฝ่ี กึ หดั ขา้ ราชการเขา้ ท�ำ งานในต�ำ แหนง่ ตา่ งๆ ของรัฐบาล และมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ที่ตั้งขึ้นมาใหม่เม่ือ พ.ศ. 2477 (1934) ซึ่งตลอดช่วงเวลาน้ีเป็นมหาวิทยาลัยเปิด ไม่จำ�กัด จำ�นวนการรับนักศึกษาเข้าศึกษา เน้นการศึกษากฎหมาย และ นักศึกษามาจากกลุ่มชนชั้นล่างของสังคมมากกว่าจุฬาลงกรณ์ มหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับ นายปรีดี พนมยงค์ ซ่ึงเป็นผู้ก่อตั้ง และเป็นผู้ประศาสน์การของ มหาวิทยาลัย ไม่ควรจะแปลกใจว่า ในช่วงเวลาเดียวกันนี้เกิดการ ต่อสู้เพื่อต่อต้านระบบอาณานิคมขึน้ ทัว่ เอเชยี และลทั ธคิ อมมวิ นิสต์ ที่เล่ืองลือ ด้วยความคิดมาร์กซิสได้รับความสนใจจากคนหนุ่มสาว พวกเขายกย่องนายปรดี ีให้เปน็ วีรบรุ ุษทางการเมือง และผชู้ ีน้ ำ�ทาง เศรษฐกจิ ของพวกเขา และยงั มคี วามสนใจทางด้านวรรณกรรมเกิด ขึ้น ซึ่งถูกกระตุ้นจากนักเขียน เช่น นายกุหลาบ สายประดิษฐ์ ผู้ พัฒนาตนเองจากนกั วจิ ารณ์สังคมในทศวรรษ 1920 (2463–2472) มาเป็นฝ่ายซ้ายทางการเมืองในต้นทศวรรษ 1950 (2493–2502) ในบรรดาบคุ คลส�ำ คญั หลายคนทข่ี น้ึ มาจากบรรยากาศเชน่ นี้ ที่เราจะกล่าวถึงมี 2 คน ซึ่งเป็นเพ่ือนรุ่นเดียวกันที่จุฬาลงกรณ์ มหาวทิ ยาลัยในชว่ ง พ.ศ. 2493 (1950) คือ นายจติ ร ภมู ศิ ักด์ิ ผเู้ ริ่ม ต้นด้วยการเป็นนักวิจารณ์วรรณกรรม และนักเขียนบทความที่ 9 | อำ�นาจทหาร 491
แหลมคมในต้นทศวรรษ 1950 (2493-2502) และกลายเป็นที่รู้จกั จากงานวิจารณ์ไร้เดียงสาแนวมาร์กซิสเร่ือง โฉมหน้าศักดินาไทย (พ.ศ. 2500 (1957)) เขาถกู คุมขงั ในขอ้ หามสี ว่ นร่วมในการโค่นลม้ รัฐบาลในสมยั จอมพล สฤษดิ์ ธนะรัชต ์ พ.ศ. 2501-07 (1958 – 64) และเสยี ชวี ติ ใน พ.ศ. 2508 (1965) ขณะตอ่ สใู้ นฐานะผปู้ ฏวิ ตั ใิ นภาค ตะวันออกเฉียงเหนือ ส่วนนายคำ�สิงห์ ศรีนอก มาจากครอบครัว ชาวนาทางภาคตะวันออกเฉียงเหนอื เลยี้ งชพี เป็นนกั หนังสอื พิมพ์ ขณะที่ศึกษาอยู่ท่ีจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และเขียนเร่ืองส้ันแนว เสยี ดสไี ดอ้ ยา่ งแหลมคมหลายเรอื่ ง หนง่ึ ในนนั้ คอื เรอื่ ง นกั การเมอื ง เสนอความรู้สึกของคนหนุ่มสาวที่มีต่อระบอบการเมืองในทศวรรษ 1950 (2493-2502)12 ท่ีสำ�คัญคือ ขณะที่เขียนผลงานในระยะแรก ทง้ั นายจติ รและนายค�ำ สงิ หไ์ มส่ ามารถสรา้ งผลกระทบตอ่ คนรว่ มสมยั กบั พวกเขาได้ แรงกดดนั ใหโ้ อนออ่ นผอ่ นตามทางการเมอื งยงั คงเปน็ เร่ืองใหญ่มาก การกระทำ�การทางการเมืองที่โจ่งแจ้งอาจเป็นส่ิงท่ี เปน็ อนั ตรายอย่างรุนแรง เศรษฐกิจของประเทศไทยดขี น้ึ อย่างมาก ในสมยั จอมพล ป. พิบูลสงครามครั้งท่ี 2 สว่ นใหญ่เปน็ หนกี้ ารพฒั นาท่ีนอกเหนอื จาก การควบคุมของรัฐบาล และสงครามเกาหลีในกลางทศวรรษ 1950 (2493-2502) กระตุ้นให้การส่งสินค้าออกของไทยเฟื่องฟูขึ้น เช่น ข้าว ยางพารา และดีบุก และจากการประมวลข้อมูลอย่างดีท่ีสุด ผลิตภัณฑม์ วลรวมประชาชาตเิ พ่มิ ข้ึนเปน็ ร้อยละ 4.7 ตอ่ ปี ตั้งแต ่ พ.ศ. 2494-2501 (1951-1958) ในขณะเดียวกัน การนำ�เข้าสินค้า อตุ สาหกรรมก็เพิ่มขึ้นอยา่ งรวดเร็ว และเมอื่ รวมกบั การเพ่ิมข้ึนของ ภาคการผลิตภายในประเทศ ซ่ึงมีจำ�นวนไม่มากนัก และส่วนหนึ่ง อยใู่ นรปู รฐั วสิ าหกจิ ท�ำ ใหเ้ กดิ การจดั หาสนิ คา้ อปุ โภคบรโิ ภคทดี่ ขี น้ึ การจดั การงบประมาณแผน่ ดนิ ยงั เปน็ แบบอนรุ กั ษนยิ ม ทด่ี �ำ เนนิ มา 492 ประวตั ศิ าสตรไ์ ทยฉบบั สงั เขป
ต้ังแต่สมัยรัชกาลท่ี 5 และเงินบาทยังม่ันคงอย่างไม่น่าเช่ือ คือ ประมาณ 20 บาทตอ่ 1 ดอลลาร์ องค์ประกอบใหม่ที่สำ�คัญต่อสถานการณ์เศรษฐกิจ และ การเมอื งของไทยระดับนานาชาตคิ อื บทบาทของสหรฐั อเมรกิ า ซึง่ เข้ามาแทนตำ�แหน่งที่อังกฤษเคยอยู่ นโยบายของอเมริกันมอง ประเทศไทยในฐานะเปน็ รฐั อสิ ระทตี่ อ้ งไดร้ บั การปกปอ้ งเพอื่ ปอ้ งกนั ลทั ธคิ อมมวิ นสิ ต์ และมองไทยในฐานะประเทศทม่ี อี �ำ นาจในภมู ภิ าค นี้ ทจี่ ะอาจถกู ชกั น�ำ ไปสกู่ ารรบั ลทั ธคิ อมมวิ นสิ ตท์ แ่ี พรห่ ลายอยแู่ ลว้ ในภมู ภิ าคนี้ แตป่ ระเทศไทยเปน็ รฐั ในเอเชยี รฐั แรกทส่ี ง่ กองทหารไป รว่ มกบั องคก์ ารสหประชาชาตใิ นสงครามเกาหลใี น พ.ศ. 2497 (1954) จึงกลายเป็นเสาหลักของภูมิภาคน้ีในองค์กรสนธิสัญญาป้องกัน ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (*หรือซีโต้) (South East Asia Treaty Organization) เม่ือเปรียบเทยี บกับประเทศเพื่อนบา้ นใน ช่วงเวลาเดียวกัน ประเทศไทยมีอำ�นาจและมั่นคง โดยเฉพาะหลัง จากท่ีจอมพล ป. พิบูลสงครามกลับคืนสู่อำ�นาจ การท้าทายของ คอมมิวนิสต์ท่ีประสบผลสำ�เร็จ ไม่ว่าจะเป็นการก่อตั้งระบอบ คอมมวิ นสิ ตใ์ นประเทศจนี (พ.ศ. 2492 (1949)) สงครามเกาหลี (พ.ศ. 2492-96 (1950–53)) และความพ่ายของฝร่งั เศสต่อเวยี ดมนิ ห์ ท่ี เน้นอุดมการณ์คอมมิวนสิ ต์ในอินโดจีน (พ.ศ. 2497 (1954)) ทำ�ให้ สหรฐั อเมรกิ าเพม่ิ ความไวว้ างใจ และใหค้ วามชว่ ยเหลอื แกป่ ระเทศไทย ท้ังน้ี ระหว่าง พ.ศ. 2494-2500 (1951-1957) ประเทศไทยได้รับ ความช่วยเหลือทางเศรษฐกิจ เป็นจำ�นวน 149 ล้านเหรียญสหรัฐ และทางทหารเป็นจ�ำ นวน 222 ล้านเหรยี ญสหรัฐ13 ความช่วยเหลือ ทางเศรษฐกจิ รวมถงึ การขยายทา่ เรอื ในกรงุ เทพฯ และการปรบั ปรงุ การคมนาคมทางรถไฟ และเส้นทางถนนหลวง รวมท้ังความช่วย เหลอื ทางเทคนคิ ด้านเกษตรกรรม การศกึ ษา การชลประทาน การ 9 | อำ�นาจทหาร 493
วางแผนเศรษฐกจิ ฯลฯ ในดา้ นความชว่ ยเหลอื ทางการทหาร ไดแ้ ก่ การจัดหาเครื่องมือและการฝึกแบบสมัยใหม่ให้แก่กองทัพอากาศ และตำ�รวจที่มจี �ำ นวน 43,000 นายใน พ.ศ. 2497 (1954) เพ่อื เสรมิ ความแข็งแกร่งใหก้ บั กองทพั ซง่ึ เป็นเงินทอี่ ยูน่ อกงบประมาณของ ไทย เม่อื ต้นทศวรรษ 1950 (2493-2502) อยูท่ ่ีประมาณ 200 ล้าน เหรยี ญสหรฐั การไดป้ ระโยชนอ์ ยา่ งมหาศาลทสี่ �ำ คญั ตอ่ กลมุ่ รฐั ประหาร คอื เงนิ ก้อนนีอ้ ยู่นอกเหนอื การควบคุมของสภาผแู้ ทนราษฎร ในชว่ งเวลานนั้ และหลงั จากนนั้ เรม่ิ มกี ารวจิ ารณเ์ กย่ี วกบั ความ สมั พันธ์ที่ใกล้ชดิ กันระหวา่ งไทยและสหรฐั อเมริกา กระท่ังผู้ที่ได้รับ ความชว่ ยเหลอื เหน็ ดว้ ยวา่ ความชว่ ยเหลอื ท�ำ ใหเ้ กดิ ความไมส่ มดลุ ทางการเมอื งในประเทศไทย ทโี่ นม้ เอยี งไปทางทหาร นอกจากท�ำ ให้ เกดิ การพง่ึ พาขบวนการทางการเมอื งของทหารมากขน้ึ ยงั เพมิ่ ความ สามารถในการบังคับประชาชนพลเรือน สิ่งนี้เป็นความจริง ในกรม ต�ำ รวจสมยั พลตำ�รวจเอก เผ่า ศรียานนท์ เหมือนกับทเี่ ราเห็น แต่ ยังเป็นกรณีเร่ืองการยึดอำ�นาจทางทหารและรัฐประหารที่ล้มเหลว และการปราบปรามขบวนการแบง่ แยกดนิ แดนและการตอ่ ตา้ นรฐั บาล นอกจากน้ัน การควบคุมบัญชีการใช้จ่ายเงินกองทุนจากอเมริกาก็ ไม่เคยมีประสิทธิภาพที่จะป้องกันเงินจำ�นวนมากมิให้เข้าไปอยู่ใน กระเป๋า และอยู่ในบัญชีธนาคารในสวิตเซอร์แลนด์ของบุคคลทาง ฝา่ ยทหารของไทยหลายคนได้ อาจจะงา่ ยเกนิ ไป ถา้ เพยี งแตต่ �ำ หนนิ โยบายอเมรกิ นั ส�ำ หรบั การฉอ้ ราษฎรบ์ งั หลวงในวงการเมอื งไทยระหวา่ งชว่ งเวลาน้ี ถา้ ใคร ต้องการจะแย้งว่า รัฐบาลอเมริกันใช้การทหารไทยเพ่ือบรรลุ วตั ถปุ ระสงคใ์ นการตอ่ ตา้ นคอมมวิ นสิ ต์ หรอื กระทงั่ เพอื่ วตั ถปุ ระสงค์ ในการขยายเศรษฐกจิ อเมรกิ นั คนคนนน้ั กต็ อ้ งพรอ้ มทจ่ี ะยอมรบั วา่ คนไทยทขี่ ้องเกยี่ วกับเรอ่ื งนี้รอู้ ย่วู า่ พวกเขาท�ำ อะไร พวกเขาอาจจะ 494 ประวัตศิ าสตรไ์ ทยฉบับสังเขป
ล�ำ บากในการอธบิ ายตนเอง มแี รงจงู ใจทผ่ี สมผสานกนั หลายคนเชอื่ อย่างสนิทใจว่า ทหารคือความอยู่รอดของชาติ คอมมิวนิสต์บ่อน ทำ�ลายฝ่ายตรงข้าม ประเทศไทยดำ�เนินบทบาทสำ�คัญในการสกัด การแพรข่ ยายของอ�ำ นาจคอมมิวนสิ ต์ (หรอื จนี หรอื เวยี ดนาม) ใน เอเชยี ตะวนั ออกเฉยี งใต้ ฉะนน้ั ความคดิ ทัง้ หมดนจี้ ึงเปน็ สว่ นหนึ่ง ของการอบรมและปลูกฝงั ทหารในประเทศไทยมากวา่ หนง่ึ รนุ่ ยังมีมุมมองอีกมุมมองหนง่ึ ต่อค�ำ ถามเก่ยี วกบั ทหารไทย ใน ฐานะสถาบนั ทางสงั คม ในสงั คมไทยมสี ถาบนั แหง่ ความกา้ วหนา้ อยู่ 4 สถาบัน คือ สถาบนั การศกึ ษาข้นั สูง สถาบันทหาร สถาบันสงฆ์ และสถาบนั ธรุ กจิ แรงดงึ ดดู ใจของสถาบนั สงฆม์ จี �ำ กดั ผนู้ นั้ ตอ้ งครอง ความเปน็ โสด ไมส่ ามารถหวงั เกนิ กวา่ เงนิ เพยี งเลก็ นอ้ ย และไมค่ าด หวงั อ�ำ นาจ สถาบันธุรกจิ ใกล้ชิดกบั หนุม่ สาวชาวไทย แตช่ าวจนี ก็ ครอบครองไว้ ซึ่งเต็มไปด้วยคุณค่าและลักษณะพ้ืนฐานทางสังคม รว่ มกนั ทคี่ นไทยสว่ นใหญไ่ มค่ ุ้นเคย ในทางประวัติศาสตรน์ ้ัน การ ศึกษาข้ันสูงเป็นเครือ่ งมือสำ�หรับหนุ่มสาวชนชน้ั กลางและชนช้ันสูง ใช้เข้ารบั ราชการ การเขา้ เรียนมหาวิทยาลยั ถูกจำ�กัด จนกระท่ังไม่ นานมาน้ี และไม่ไดเ้ ป็นส่ิงที่ยอมรับกันอย่างกว้างขวาง จนกระท่ัง ทศวรรษ 1960 (2503-2512) ในทางกลบั กนั กองทพั รบั สมคั รทหาร อยา่ งเปน็ ธรรม และแพรห่ ลายในสงั คม และไมม่ ใี ครมกี ารศกึ ษาระดบั มหาวิทยาลัย พวกเขาเข้ารบั การฝึกอบรม และมีความรู้สึกไมพ่ อใจ คนที่ม่ังค่ังร่ำ�รวยกว่าร่วมกัน เม่ือเข้าสู่การเมือง ทหารจึงสามารถ รว่ มแบง่ สรรผลประโยชนแ์ ละความมง่ั คง่ั ทไ่ี มส่ ามารถท�ำ ไดใ้ นระบบ อืน่ เมอื่ มองจากทางสงั คมกย็ อ่ มเปน็ ทเ่ี ขา้ ใจได้ ถา้ พฤตกิ รรมของ ทหารในทางการเมอื งไมน่ า่ เปน็ ทสี่ รรเสรญิ อกี ตอ่ ไป นายทหารทอี่ ยู่ ภายใต้จอมพล ป. พิบูลสงคราม ได้พัฒนาเทคนิคการแบ่งสรรผล 9 | อำ�นาจทหาร 495
ประโยชน์จากความม่ังค่ังของชาติอย่างมาก นายทหารสามารถได้ รับแต่งตั้งเป็นรัฐมนตรี รองนายกรัฐมนตรี หัวหน้าฝ่าย และอ่ืนๆ สามารถเป็นผู้ว่าราชการจังหวัด และอาจจะได้รับแต่งตั้งเป็นคณะ กรรมาธิการของรฐั บาล หรอื เปน็ ทีป่ รกึ ษา นายทหารสามารถไดร้ ับ เงนิ เดอื นเพ่ิมอยา่ งมากมาย และมโี อกาสในการฉ้อราษฎรบ์ งั หลวง นายทหารสามารถเขา้ ร่วมในคณะกรรมการของกิจการการค้า ท่ีมา จากเงินทุนของนักธุรกิจชาวจีนและชาวต่างชาติ พวกเขาสามารถ อนมุ ตั สิ ญั ญา ใบอนญุ าต หรอื การผกู ขาดการคา้ ของรฐั บาลทมี่ กี �ำ ไร มาก ความเปน็ ไปได้ดูเหมอื นไม่มที ่สี ้ินสดุ แต่ชนช้นั ทหารไทยทีม่ ี หวั สรา้ งสรรคแ์ ละหวั การคา้ จะเป็นผใู้ ชป้ ระโยชน์เกอื บทงั้ หมด คแู่ ขง่ คนส�ำ คญั ของจอมพล ป. พบิ ลู สงครามทงั้ สองคน มรี าย ไดส้ ว่ นตวั มากมาย ถงึ แมว้ า่ ทงั้ สองคนมาจากภมู หิ ลงั ทธี่ รรมดา พล ต�ำ รวจเอก เผา่ ศรยี านนทม์ บี ทบาทส�ำ คญั ในการคา้ ฝน่ิ ผดิ กฎหมาย นอกเหนือจากบทบาทอื่นๆ (ขณะดำ�รงตำ�แหน่งอธิบดีกรมตำ�รวจ) พลต�ำ รวจเอก เผ่าอาจจะไดร้ บั การสนบั สนนุ เรอื่ งนี้ จากการเขา้ ไป ขอ้ งเกี่ยวกบั กลมุ่ ชาวจีนทม่ี อี ิทธิพลในการคา้ ฝนิ่ ในรฐั ฉาน ระหว่าง สงครามโลกคร้ังท่ี 2 สว่ นจอมพล สฤษดิ์ ธนะรชั ตไ์ ด้เงนิ รำ�่ รวยจาก กองสลากกินแบ่งรฐั บาล ทง้ั สองใช้เงินในการสร้างพรรคพวก และ สนบั สนุนกิจกรรมทางการเมือง และท้งั สองคนกลายเปน็ คแู่ ข่งขนั ที่ นา่ กลวั ของจอมพล ป. ผ้ทู ่อี ำ�นาจและช่อื เสยี งของเขาค่อยๆ ลดลง ช่วงกลางทศวรรษ 1950 (2493-2502) ใน พ.ศ. 2498 (1955) จอมพล ป. พบิ ูลสงครามดูเหมอื นจะ รสู้ กึ ไดว้ า่ ตนจะสญู เสยี อ�ำ นาจ และอาจจะกลวั วา่ พลต�ำ รวจเอก เผา่ ศรยี านนทท์ เ่ี หย้ี มโหด และไมม่ หี ลกั การมากกวา่ จอมพล สฤษดิ์ ธนะ รชั ต์ จะบงั คบั ใหต้ นลาออกเรว็ กวา่ เดมิ ในปนี นั้ จอมพล ป. เดนิ ทาง ไปราชการยังประเทศสหรัฐอเมริกาและสหราชอาณาจักร และเดิน 496 ประวตั ิศาสตร์ไทยฉบับสงั เขป
ทางกลับมาด้วยความกระตือรือร้นเรื่องประชาธิปไตย อาจจะเป็น เพราะวา่ จอมพล ป. ตอ้ งการใหผ้ คู้ นรกั ไมใ่ ชแ่ คก่ ลวั หรอื เคารพ หรอื อาจจะตอ้ งการการสนบั สนนุ จากประชาชน เพอื่ ตอบโตก้ บั การควบคมุ ทางทหารของจอมพล สฤษดิ์ และทางต�ำ รวจของพลต�ำ รวจเอก เผา่ ไมว่ า่ จะดว้ ยเหตผุ ลใดกต็ าม จอมพล ป. เรมิ่ การปกครองแบบเบด็ เสรจ็ แต่ค่อนข้างผ่อนปรน ได้อนุญาตให้จดทะเบียนพรรคการเมืองได้ และท�ำ ใหก้ ารปกครองทอ้ งถน่ิ เปน็ ประชาธปิ ไตย ยกเลกิ การควบคมุ ข่าว และการพูดปราศรยั และเรม่ิ จัดการเลือกตง้ั สมาชิกสภาผู้แทน ราษฎรในตน้ พ.ศ. 2500 (1957) จอมพล ป. มุ่งมนั่ ที่จะลดอำ�นาจ พลตำ�รวจเอก เผ่า โดยเข้าดำ�รงตำ�แหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวง มหาดไทย ซงึ่ ดแู ลกรมต�ำ รวจ และลดอ�ำ นาจของกลมุ่ พลต�ำ รวจเอก เผา่ ทีค่ วบคมุ กระทรวงการคลงั และกลาโหม เมอื่ ในท่ีสดุ การเลือก ตง้ั เกดิ ขนึ้ ในเดอื นกมุ ภาพนั ธ ์ พ.ศ. 2500 (1957) พรรคเสรมี นงั คศลิ า ของจอมพล ป. ชนะเพยี งเกนิ ครง่ึ หนึง่ ของท่นี ัง่ ทั้งหมด (ได้ 85 ที่ นง่ั จากทงั้ หมด 162 ทน่ี ง่ั ) ซงึ่ เปน็ ทรี่ กู้ นั วา่ ไดม้ าจากการโกงการเลอื ก ต้งั ในการลงคะแนน มกี ารให้สนิ บนและการขม่ ขู่ การประท้วงของประชาชนเพอื่ ต่อตา้ น “การเลอื กต้งั สกปรก ทสี่ ดุ ในประวตั ศิ าสตรไ์ ทย” บบี ใหจ้ อมพล ป. พบิ ลู สงครามประกาศ สถานการณ์ฉุกเฉินช่วงเวลาส้ันๆ และให้จอมพล สฤษดิ์ ธนะรัชต์ รับผดิ ชอบควบคุมความสงบในบา้ นเมอื ง การใหม้ ีการเลือกต้งั ใหม่ นับเป็นความผิดคร้ังย่ิงใหญ่ข้อที่หน่ึงของจอมพล ป. และการแต่ง ตงั้ จอมพล สฤษดเิ์ ปน็ ผบู้ ญั ชาการทหาร นบั เปน็ ความผดิ ครงั้ ยงิ่ ใหญ่ ข้อที่สอง แทนที่จอมพล สฤษด์ิจะปฏิบัติตนในฐานะตัวแทนของ รฐั บาล ในการปราบปรามฝา่ ยคา้ น เขากลบั แสดงความเหน็ อกเหน็ ใจ ต่อผู้ประท้วงที่เป็นนักศึกษา เมื่อถูกถามจากกลุ่มผู้ประท้วงที่ จฬุ าลงกรณม์ หาวทิ ยาลยั เกย่ี วกบั การเลอื กตง้ั จอมพล สฤษดติ์ อบ 9 | อำ�นาจทหาร 497
วา่ “ผมจะพดู วา่ พวกเขาสกปรก สกปรกทส่ี ดุ ทกุ คนโกง”14 จอมพล สฤษดิ์ค่อยๆ ถอยออกจากการใช้อำ�นาจทางทหารมาปราบปราม พลเรือน และได้รับช่ือเสียงอย่างรวดเร็วว่าเป็นผู้นำ�ที่ซ่ือสัตย์ และ ตรงไปตรงมา เรื่องทั้งหลายมาถึงจุดวิกฤตในเดือนสิงหาคมและกันยายน พ.ศ. 2500 (1957) เมอื่ รฐั บาลจอมพล ป. พบิ ลู สงคราม ทอี่ ยใู่ นสภาพ ย่ำ�แย่จากเหตุการณ์สะเทือนขวัญกระหนำ่�ครั้งแล้วครั้งเล่า รัฐบาล ยังแสดงความไม่เหน็ ใจ และความไม่เหมาะสมในการรบั มอื กับเรอื่ ง ภัยแล้งในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และการทุจริตเร่ืองไม้ซุงท่ีอื้อ ฉาว ซ่ึงเก่ียวพนั กบั กลุ่มของพลตำ�รวจเอก เผ่า ศรยี านนท์ สภาผู้ แทนราษฎรเปิดอภิปรายท่ัวไป เรื่องนโยบายและการทำ�งานของ รฐั บาล มกี ารวจิ ารณพ์ ลเอก เผ่า และจอมพล ป. อยา่ งรุนแรง รวม ถงึ การกลา่ วหาวา่ พลเอก เผ่า หมนิ่ พระบรมเดชานภุ าพ ทา่ มกลาง สงิ่ เหล่านี้ จอมพล สฤษด์ิและผชู้ ่วยคนส�ำ คัญๆ เช่น พลโท ถนอม กติ ตขิ จร และพลตรี ประภาส จารุเสถียร ลาออกจากคณะรัฐมนตรี เหมอื นกบั ทีน่ กั หนงั สอื พมิ พ์ทม่ี ีชอ่ื เสยี งคนหน่ึงอธิบายว่า รัฐบาลกระทำ�ส่ิงท่ีตรงข้ามกับความต้องการ ของประชาชน จอมพล สฤษด์ิสัญญากับประชาชน ก่อนทีเ่ ขาจะรว่ มกับคณะรัฐบาลจอมพล ป. ว่ารัฐบาล จะปฏริ ปู หลายสง่ิ ทป่ี ระชาชนตอ้ งการ และจอมพล ป. ใหค้ �ำ มน่ั สญั ญา แตเ่ ดยี๋ วน้ี หา้ เดอื นผา่ นไป และรฐั บาล ไม่ได้ทำ�การปฏิรูปตามท่ีสาธารณชนต้องการ ดังนั้น จอมพลสฤษดจ์ิ ึงลาออก15 498 ประวตั ศิ าสตร์ไทยฉบบั สงั เขป
กลุ่มสมาชิกสภานิติบัญญัติท่ีมาจากการแต่งต้ังลาออกจาก พรรคการเมอื งฝา่ ยรฐั บาล จอมพล สฤษด์ิ ธนะรชั ตไ์ ดร้ บั การสนบั สนนุ จากส่ือสิง่ พิมพแ์ ละประชาชนอย่างทว่ มท้น ในทสี่ ดุ วนั ที่ 13 กนั ยายน พ.ศ. 2500 (1957) จอมพล สฤษดิ์ ธนะรตั ช์ และหวั หนา้ นายทหารจ�ำ นวน 57 นาย ยน่ื ค�ำ ขาดใหร้ ฐั บาล ลาออกอย่างเปน็ ทางการ และพลตำ�รวจเอก เผา่ ศรยี านนท์ ถกู ให้ ออกจากตำ�แหน่ง การประท้วงของประชาชนคร้ังใหญ่เกิดขึ้นวันที่ 15 กนั ยายนเพอ่ื สนบั สนนุ ขอ้ เรยี กรอ้ งเหลา่ นน้ั และฝงู ชนเดนิ ขบวน ไปยงั บา้ นของจอมพล สฤษดิ์ เพ่อื สนับสนนุ เขา ชว่ งเยน็ ของวนั ที่ 16 กันยายน จอมพล ป. และพลต�ำ รวจเอก เผ่าพยายามทจ่ี ะเรยี ก ประชมุ คณะรัฐมนตรี เพอื่ ขออนมุ ัตจิ บั กมุ จอมพล สฤษดิ์ แตไ่ ด้รบั การปฏิเสธ เนื่องจากจอมพล สฤษด์ิได้รับการแจ้งเตือนล่วงหน้า เวลาสี่นาฬิกาของวันรุ่งข้ึน ทหารท่ีเตรียมการมาเป็นอย่างดี ได้ ก่อการรัฐประหารโดยไม่เสียเลือด จอมพล ป. และพลตำ�รวจเอก เผ่าหนีออกนอกประเทศ และเป็นอีกครั้งที่ทหารยึดอำ�นาจ ตลอด ระยะเวลา 25 ปีที่ผ่านมา ก่อให้เกิดการพัฒนาอย่างมากมายทาง สงั คมและเศรษฐกิจ แตใ่ นทางการเมืองนั้น ราชอาณาจกั รดเู หมือน จะติดตรงึ อยูใ่ น พ.ศ. 2475 (1932) 9 | อ�ำ นาจทหาร 499
เชิงอรรถ 1. Batson, Siam’s Political Future, p. 9. 2. ผเู้ ขยี นเปน็ หนเี้ บนจามนิ เอ. แบตสนั (Benjamin A. Batson) ส�ำ หรบั ข้อมูลน้ี 3. Thamsook Numnonda, Thailand and the Japanese Presence, 1941–45 (Singapore, 1977), p. 23. 4. S. Woodburn Kirby, The War against Japan, vol. 1 (London, 1957), p. 186. 5. Benjamin A. Batson, “The Fall of the Phibun Government, 1944,” JSS 62, pt. 2 (July 1974): 110. 6. Foreign Relations of the United States, Diplomatic Papers, 1945, vol. 6 (Washington, 1969), p. 1375. 7. บันทึกความทรงจำ�ที่น่าสนใจของเหตุการณ์ในช่วงเวลาน้ีท่ีเขียนเป็น ภาษาอังกฤษ อยู่ในหนังสือ Nung sattawat Supsawat 23 Singhakhom 2543 (2000) [One Century of Supawat, 25 Aug. 2000] (Bangkok, 2000), pp. 555–56. 8. John Coast, Some Aspects of Siamese Politics (New York, 1953), p. 42. 9. Charles F. Keyes, Isan: Regionalism in Northeastern Thailand (Ithaca, 1967), pp. 33–34. 10. Ibrahim Syukri, History of the Malay Kingdom of Patani (Athens, Ohio: Ohio University Monographs in International Studies, Southeast Asia Series, no. 68, 1985, trans. John N. Miksic and Conner Bailey), pp. 69–71. 11. Bangkok Post, 30 Nov. 1951; อา้ งใน Frank C. Darling, Thailand and the United States (Washington, 1965), p. 92. 12. งานชุดเรื่องสั้นของคำ�สิงห์ ศรีนอก มีฉบับแปลเป็นภาษาอังกฤษชื่อ The Politician and Other Stories (Kuala Lumpur, 1973). 500 ประวัติศาสตร์ไทยฉบบั สงั เขป
13. David A. Wilson, The United States and the Future of Thailand (New York, 1970), p. 144. 14. Sayam Nikon (Bangkok), 3 March 1957; แปลอยู่ใน Thak Chaloemtiarana, Thailand: The Politics of Despotic Paternalism (Bangkok, 1979), pp. 108–9. 15. Thai Noi and Kanom Chantarason, Watoelu khong Chomphon Plaek [The Waterloo of Field Marshal Plaek (i.e., Phibun)] (Bangkok, 1957), p. 3; translated in Thak, Thailand, p. 118. 9 | อำ�นาจทหาร 501
บทท่ี 10 พกา.ศรพ. 2ฒั 5น0า0แ-ล2ะ5ก2า5รป(1ฏ9ิว5ตั 7ิ -1982) เมื่อพิจารณาครั้งแรก ประเทศไทยในทศวรรษ 1980 (2523- 2532) แตกตา่ งจากสมยั จอมพล ป. พบิ ลู สงคราม หรอื แตกตา่ งแมแ้ ต่ กบั สยามในรชั สมยั พระบาทสมเดจ็ พระจลุ จอมเกลา้ ฯ เพยี งเลก็ นอ้ ย เทา่ นัน้ สถาบนั ส่วนกลางทกุ สถาบันยังคงมีความเข้มแขง็ กลา่ วคือ เป็นราชอาณาจักรที่ปกครองด้วยระบอบรัฐธรรมนูญอันมีพระมหา กษตั รยิ เ์ ปน็ ประมขุ ระบบราชการเขา้ ถงึ เกอื บทกุ มติ ชิ วี ติ ของประชาชน ในชาติ กองทพั ครอบงำ�การเมือง ระบบเศรษฐกิจยงั คงโดดเด่นใน เรอื่ งเกษตรกรรม พรอ้ มกบั มภี าคธรุ กจิ ในเมอื งทคี่ อ่ นขา้ งแปลกแยก สมณเพศในพทุ ธศาสนาไดร้ บั การเคารพเลอื่ มใสเปน็ พเิ ศษ สว่ นกลมุ่ คนทดี่ อ้ ยโอกาสทางเศรษฐกจิ รวมทง้ั ชนกลมุ่ นอ้ ยทอ่ี าศยั ในจงั หวดั ห่างไกล กลับมีสถานะลักลั่นในโครงสร้างเศรษฐกิจและสังคมแห่ง ชาติ ประเทศไทยดำ�รงความมีเอกราชท่ีมีลักษณะขัดแย้งกันในตัว เอง ประเทศไทยมีส่วนรว่ มทส่ี �ำ คัญในการเมอื งระหว่างประเทศ แต่
กลับมีความผูกพันทางเศรษฐกิจแนบแน่น (ในลักษณะท่ีเป็นรอง) กบั ญปี่ นุ่ และมหาอ�ำ นาจอตุ สาหกรรมตะวนั ตก ทงั้ นร้ี วมไปถงึ ความ ผูกพันทางการเมืองท่ีมีกับเพื่อนบ้านในประชาคมแห่งชาติเอเชีย ตะวนั ออกเฉยี งใต้ และสหรฐั อเมรกิ า และนบั รวมไปถงึ ความใกลช้ ดิ ทางวฒั นธรรมกบั ตะวนั ตกอกี ดว้ ย ผปู้ กครองของไทยน�ำ เสนอภาพ ลักษณ์ของประเทศต่อโลกภายนอกให้เป็นสวรรค์แห่งเอเชีย ที่มี ความม่นั คงทางการเมือง และการเตบิ โตทางเศรษฐกิจทไ่ี ม่หยุดย้ัง เปน็ ชาตทิ สี่ ามารถรกั ษาอตั ลกั ษณท์ างวฒั นธรรมอนั โดดเดน่ รกั ษา ล�ำ ดบั ชน้ั และระเบยี บทางสงั คม รวมทงั้ คา่ นยิ มไทยและพทุ ธศาสนา ไว้ได้อย่างน่าอัศจรรย์ใจ ในขณะที่ประเทศเพ่ือนบ้านต่างตกอยู่ใน ภาวะเสื่อมทรามด้วยระบบสังคมนิยมที่ไม่น่าพิสมัย หรือไม่ก็ถูก พฒั นาใหท้ ันสมยั จนเอกลักษณ์มลายหายไปกบั ปา่ คอนกรีต และมี แตต่ กึ รามจ�ำ หนา่ ยอาหารจานดว่ น รวมทงั้ วฒั นธรรมปอ๊ ปทรานซสิ เตอร์ ทว่า ในประเทศไทยแห่งเดียวกันน้ีเองกลับมีความรุนแรง ทางการเมอื งตามทอ้ งถนนในกรงุ เทพฯ รวมทงั้ สถานการณค์ วามไม่ สงบด้านแรงงาน มีท้ังการนัดหยุดงานและประท้วงอย่างไม่หยุด หยอ่ น ทงั้ หมดนไ้ี มเ่ พยี งแตเ่ กดิ จากจ�ำ นวนโรงงานอตุ สาหกรรม และ กรรมกรโรงงานที่เพ่ิมข้ึน ทว่า ยังรวมถึงชาวนานับพันๆ คนที่ไม่ พอใจการปฏิรูปที่ดินจนลุกขึ้นต่อต้านความไม่ใส่ใจของทางการ สำ�หรับประเทศท่ีข้ึนชื่อว่าไม่นิยมชมชอบเรื่องอุดมการณ์ และยึด ทัศนคติแบบ “ไม่เป็นไร” ในการใช้ชีวติ ทางสงั คม แตใ่ นทศวรรษ 1970 (2513-2522) ไทยกลับเผชญิ การไหลบ่าเขา้ มาของความคิด ทางการเมืองท้ังขวาและซ้ายอย่างมหาศาล นอกเหนือไปจากกลุ่ม ชนช้ันกลางเช้ือสายจีนและปัญญาชนแล้ว พรรคคอมมิวนิสต์แห่ง ประเทศไทยหวนมาได้รับความนิยมในหมู่คนหนุ่มสาว และพรรค สงั คมนิยมดูเหมือนมีความสำ�คัญมากขึ้น เป็นคู่แข่งสำ�คัญในการลง 10 | การพัฒนาและการปฏิวัติ 503
สมคั รรบั เลอื กตง้ั สมาชกิ สภาผแู้ ทนราษฎรอยเู่ นอื งๆ เอาเขา้ จรงิ แลว้ การเข้ามามีบทบาททางการเมืองท่ีชัดเจนของฝ่ายซ้าย รวมไปถึง การดงึ ดูดความสนใจต่อคนหน่มุ สาว มีพลังไปลบความเชื่อเดิมๆ ที่ ว่า การต่อต้านอุดมการณ์หลักของประเทศ และความคิดทางการ เมืองจากตะวันตกไม่เคยอยู่ในความสนใจของคนไทยลงไปได้ ใน เมอ่ื แมแ้ ตพ่ ระสงฆร์ ปู ส�ำ คญั ๆ ยงั ออกมาแสดงจดุ ยนื ชดั เจนตอ่ ประเดน็ ทางการเมอื ง ไมเ่ พียงสะท้อนใหเ้ หน็ ถึงการปราศจากขันตธิ รรมต่อ ฝา่ ยซา้ ย แตย่ งั รวมไปถงึ การแสดงทา่ ทยี อมรบั การฆา่ ฟนั กนั อกี ดว้ ย ทั้งหมดน้ีบ่งบอกถึงการเมืองแบบสองขั้วอย่างเต็มรูปแบบ ซึ่งสิ่งท่ี หายไปคอื ภาพลกั ษณเ์ กา่ ๆ ของชาตไิ ทย ทเี่ ปน็ ชมุ ชนแบบครอบครวั ใหญ่ที่มีความผาสุกและสามัคคี มีความจงรักภักดีต่อสถาบันชาติ ศาสนาและพระมหากษัตรยิ อ์ ยา่ งสงบเสงยี่ ม ความโกรธระเบิดออก มาในรูปความรุนแรง ความไม่ไวว้ างใจ และความระแวงแคลงใจกนั ทงั้ ในรปู แบบการประทว้ ง และการลอบสงั หาร โดยเฉพาะในชว่ งสาม ปแี ห่งความวุน่ วายระหว่าง พ.ศ. 2516-2519 (1973-1976) ซึ่งเป็น ช่วงเวลาท่ีมีความสำ�คัญอย่างย่ิงยวด เนื่องจากผลกระทบของส่ิงท่ี เกิดข้ึนไม่เพียงแต่ส่งผลต่อทิศทางของประเทศไทยในปัจจุบัน แต่ รวมไปถึงวนั พรงุ่ นี้และในอนาคตอกี ด้วย ปัญหาหลักๆ ในประวัติศาสตร์การเมืองไทยท่ีเพ่ิงผ่านมาน้ี ไมเ่ พยี งทา้ ทายใหห้ าค�ำ อธบิ ายวา่ ท�ำ ไมประเทศซงึ่ คอ่ นขา้ งสงบสขุ และมีระเบียบในช่วงปลายทศวรรษ 1950 (2493-2502) และต้น ทศวรรษ 1960 (2503-2512) จงึ ไดก้ ลายเปน็ ประเทศทม่ี คี วามสบั สน วนุ่ วายในทศวรรษ 1980 (2523-2532) เทา่ นน้ั แตย่ งั ตอ้ งรวมไปถงึ การท�ำ ความเขา้ ใจวา่ เหตใุ ดสถาบนั หลกั ๆ ทางการเมอื งของไทยจงึ ออ่ นแอถงึ ขนาดไมส่ ามารถรกั ษาความศรทั ธาของผอู้ ยใู่ ตก้ ารปกครอง ไวไ้ ด้ ความท้าทายอกี ประการหนึง่ คอื การหาคำ�ตอบให้กบั ค�ำ ถาม 504 ประวตั ิศาสตร์ไทยฉบับสังเขป
ที่ว่า ความเป็นชาติไทยนั้นคงตัวอยู่ได้อย่างไร และส่ิงท่ีผูกสร้าง ความเป็นชาติไว้นั้นมีจุดแข็งและจุดอ่อนอย่างไรในการสร้างความ เป็นสงั คม ในทีน่ ี้ เราเล่ยี งไมไ่ ด้ที่ตอ้ งเสนอประเดน็ ความสำ�เร็จของ ประเทศไทย โดยเฉพาะสง่ิ ทเี่ รยี กรวมๆ กนั ภายใตช้ อ่ื วา่ การพฒั นา เจา้ ส่งิ น้ีไดล้ ดปญั หาทางเศรษฐกิจและสงั คมทีส่ ่งั สมกนั มาก็จรงิ แต่ ตัวของมันเองกลับสร้างปัญหาใหม่ๆ โดยเฉพาะในทางการเมือง จนถงึ ขนาดทม่ี กี ารปฏวิ ตั เิ กดิ ขนึ้ และยงั คงจะเกดิ ขน้ึ ตอ่ ไปอกี เรอ่ื ยๆ ในประเทศไทย ท้ังท่ีการปฏิวัติเหล่านี้ล้วนแต่มีนัยบ่งถึงความไม่ แน่นอนและความสบั สน ความขัดแย้งในลกั ษณะทวลิ ักษณ์ของระบอบสฤษดิ์ จอมพลสฤษด์ิ ธนะรัชต์กา้ วขึ้นมามีอำ�นาจในชว่ งวิกฤตของ การเปลี่ยนผ่านทางวัฒนธรรม เพ่ือนร่วมชาติชาวไทยกำ�ลังตกอยู่ ในช่วงเวลาของความปนเปกัน ทั้งระเบียบแบบเก่าและใหม่ การ พฒั นาในชว่ งรฐั บาลจอมพล ป. พบิ ลู สงครามทค่ี อ่ ยเปน็ คอ่ ยไป ท�ำ ให้ ประเพณีเดมิ ท่ผี ูกสรา้ งความเปน็ สงั คมนนั้ คลายความสำ�คัญลง แต่ การทดลองทางการเมือง หรือสถาบันใหม่ๆ ในยุคของจอมพล ป. พิบูลสงคราม ก็ไม่สามารถก่อให้เกิดประเพณีใหม่ๆ มาทดแทนส่ิง เดมิ ได้ จอมพลสฤษด์พิ ยายามให้เพอ่ื นร่วมชาติมคี วามร้สู กึ วา่ พวก เขามาจากไหน ในด้านคุณค่าทางประเพณีและอัตลักษณ์แห่งชาติ ไปพร้อมๆ กับให้ภาพที่ชัดเจนว่า พวกเขากำ�ลังมุ่งหน้าไปทิศทาง ใด การขนึ้ มามอี ำ�นาจของจอมพลสฤษดเ์ิ หมอื นกับผ้นู �ำ ในช่วงสมยั ใหม่คนอืน่ ๆ ตรงท่ีสะท้อนใหเ้ หน็ ถึงการเกิดรนุ่ ของผ้นู �ำ ที่มีลกั ษณะ เฉพาะ ผนู้ ำ�ไทยสมยั ใหมใ่ นรนุ่ ของจอมพลสฤษดิ์ จะผา่ นการศกึ ษา 10 | การพัฒนาและการปฏิวตั ิ 505
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273
- 274
- 275
- 276
- 277
- 278
- 279
- 280
- 281
- 282
- 283
- 284
- 285
- 286
- 287
- 288
- 289
- 290
- 291
- 292
- 293
- 294
- 295
- 296
- 297
- 298
- 299
- 300
- 301
- 302
- 303
- 304
- 305
- 306
- 307
- 308
- 309
- 310
- 311
- 312
- 313
- 314
- 315
- 316
- 317
- 318
- 319
- 320
- 321
- 322
- 323
- 324
- 325
- 326
- 327
- 328
- 329
- 330
- 331
- 332
- 333
- 334
- 335
- 336
- 337
- 338
- 339
- 340
- 341
- 342
- 343
- 344
- 345
- 346
- 347
- 348
- 349
- 350
- 351
- 352
- 353
- 354
- 355
- 356
- 357
- 358
- 359
- 360
- 361
- 362
- 363
- 364
- 365
- 366
- 367
- 368
- 369
- 370
- 371
- 372
- 373
- 374
- 375
- 376
- 377
- 378
- 379
- 380
- 381
- 382
- 383
- 384
- 385
- 386
- 387
- 388
- 389
- 390
- 391
- 392
- 393
- 394
- 395
- 396
- 397
- 398
- 399
- 400
- 401
- 402
- 403
- 404
- 405
- 406
- 407
- 408
- 409
- 410
- 411
- 412
- 413
- 414
- 415
- 416
- 417
- 418
- 419
- 420
- 421
- 422
- 423
- 424
- 425
- 426
- 427
- 428
- 429
- 430
- 431
- 432
- 433
- 434
- 435
- 436
- 437
- 438
- 439
- 440
- 441
- 442
- 443
- 444
- 445
- 446
- 447
- 448
- 449
- 450
- 451
- 452
- 453
- 454
- 455
- 456
- 457
- 458
- 459
- 460
- 461
- 462
- 463
- 464
- 465
- 466
- 467
- 468
- 469
- 470
- 471
- 472
- 473
- 474
- 475
- 476
- 477
- 478
- 479
- 480
- 481
- 482
- 483
- 484
- 485
- 486
- 487
- 488
- 489
- 490
- 491
- 492
- 493
- 494
- 495
- 496
- 497
- 498
- 499
- 500
- 501
- 502
- 503
- 504
- 505
- 506
- 507
- 508
- 509
- 510
- 511
- 512
- 513
- 514
- 515
- 516
- 517
- 518
- 519
- 520
- 521
- 522
- 523
- 524
- 525
- 526
- 527
- 528
- 529
- 530
- 531
- 532
- 533
- 534
- 535
- 536
- 537
- 538
- 539
- 540
- 541
- 542
- 543
- 544
- 545
- 546
- 547
- 548
- 549
- 550
- 551
- 552
- 553
- 554
- 555
- 556
- 557
- 558
- 559
- 560
- 561
- 562
- 563
- 564
- 565
- 566
- 567
- 568
- 569
- 570
- 571
- 572
- 573
- 574
- 575
- 576
- 577
- 578
- 579
- 580
- 581
- 582
- 583
- 584
- 585
- 586
- 587
- 588
- 589
- 590
- 591
- 592
- 593
- 594
- 595
- 596
- 597
- 598
- 599
- 600
- 601
- 602
- 603
- 604
- 605
- 606
- 607
- 608
- 609
- 610
- 611
- 612
- 613
- 614
- 615
- 616
- 617
- 618
- 619
- 620
- 621
- 622
- 623
- 624
- 625
- 626
- 627
- 628
- 629
- 630
- 631
- 632
- 633
- 634
- 635
- 636
- 637
- 638
- 639
- 640
- 641
- 642
- 643
- 644
- 645
- 646
- 647
- 648
- 649
- 650
- 651
- 652
- 653
- 654
- 655
- 656
- 657
- 658
- 659
- 660
- 661
- 662
- 663
- 664
- 665
- 666
- 667
- 668
- 669
- 670
- 671
- 672
- 673
- 674
- 675
- 676
- 677
- 678
- 679
- 680
- 681
- 682
- 683
- 684
- 685
- 686
- 687
- 1 - 50
- 51 - 100
- 101 - 150
- 151 - 200
- 201 - 250
- 251 - 300
- 301 - 350
- 351 - 400
- 401 - 450
- 451 - 500
- 501 - 550
- 551 - 600
- 601 - 650
- 651 - 687
Pages: