Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore นักธรรมโท

Description: นักธรรมโท

Search

Read the Text Version

www.kalyanamitra.org ทั่วถึง^งเป็นเครื่องทำลายอวิชชาเสีย? พ่รรพุทธเจ้าทพส์ชนกว่า เราเรียถธรร่มเค่รื่องละความพอใจ ในกาม และโทมนัส บรรเทาความง่วง ห้ามความรำคาญ มีอุเบกขา กับสติเป็นธรรมบวิสุทธิ้ มีความตรึกในธรรมเป็นเบื้องหนัาว่า เป็น ธรรมเครื่องฟันจากกิเลส ทั่งเป็นเครื่องทำลายอวิชชา ๒.โลกมีอะไรผูกพนไวิ อะไรเป็นเครื่องสัญจรของโลกนัน ทำ น กลาวว่า นิพพาน ๆ ดงนี้เพร่าะละอะไรได้? พระพฑธเจ้าทรงวิสัชนาว่า โลกมีความเพลิดเพลินผูกพันไว้ ความดรึกเป็นเครื่องสัญจรของโลกนั้น ทำ นกล่าวว่านิพพาน ๆ ดังนี้ เพราะละดัณหาเสียได้ ๓^ บุคคลมีสติระลึกอยู่อย่างไร วิญญาณจึงจะดับ ขอให้พวก ข้าพระองค์ได้พังพระวาจาของพระองคเกิด ? พระพุทธเจ้าทรงวิสัชนาว่า เมื่อบุคคลไม่เพลิดเพลินในเวทนา ทั้งหลายใ!๓ายนอกมีสติระลึกอยู่อย่างนี้ วิญญาณจึงจะดับ . ๔๔. พระโปสาลเถระ โปสาลมาณพได้กราบทูลถามป๋ญหาเป็นคนที่ ๑๔ ว่า ๑. \"ข้าพํระองค์ขอทูลลามกิงญาณข้อง่บุคคลผูมีความกำหนด่ หมายในรูปแจ้งชัด(คือได้บรรลุรูปฌานแล้ว) ละรูปารมฟ้ทั้งหมดได้ แล้ว (คือบรรลุฌานสูงกล่ารูปฌานขึ้นฺไปแล้ว), เห็นทั้งภายในและ ภายนอกว่าไม่มีอะไรเลย (คือบรรลุอรูปฌาน) บุคคลเชนนั้นจะค่วร แนะนำ สั่งสอนให้ทำอย่างไรตอไป ? พระพุทธเจ้าทรงวิสัชนาว่า ตถาคตทราบภูมีเป็นที่ตั้งแฟง ๑๐๐

www.kalyanamitra.org วิญญาณทั้งหมด จงทราบบุคคลเช่นนั้น แม้ยังอยู่ในโลกนี้ว่า มี ยัธยาศัย่น้อมไปในอากิฌจัฌญายตนภพ มีความเพลิดเพลินยันดี เป็นเควิองประกอบ ต่อจากนั้นย่อมพิจารณาเห็นสหชาตธรรมในอา- กิญจัญญายตนฌานแจ้งซัด โดยลักษณะ firt อย่าง (คือไมเที่ยง เป็น ทุกช ไมใช่ตน) ข้อนี้เป็นฌานยันลองแห็ของบุคคลเช่นนั้น ผู้มี พรหมจรรย์ได้ประพฤติจบแล้ว \". ๔๔. พระโมฆราชเถระ พระโมฆราชิเถระชึ่อเติม โมฆราช ประสูติในวรรณะกษตริย์ เป็นชาวโกศล บด'ไและมารดาไมปรากฎร่อ เพราะมีโรคประจำตวที่ รักษาไมหาย ได้รับความทุกฃทรมานมาก แม้จะเป็นคนใหญ่โต่และ มีทรัพย์สมบติมากมายก็ช่วยไม่ได้จึ^ได้ร่อว่า โมฆราช แปลว่า ราชาผู้หาความสุขไม่ได้ พระโมฆราชเถระ เพราะท่านมีร่างกายฺเป็นแผลที่รักษาไม่ หาย จึงดูกก็ดยันไม่ให็เข้าอยู่ในเสนาสนะของสงฆ์ ท่านจึงอยู่ตาม โค่นไม้และที่แจ้งไปเก็บผ้าตามกองขยะมาทำไตรจึวรนุ่งห่ม ทำ ให้ เป็นที่ศรัทธาเลื่อมใสของบุคคลประเภท่ลูซัปปมาณิกา- คอผู้ศรทธา เลื่อมใสหนักไปทาง่ใข้ชีวิตปอน ๆ นับว่าท่านได้เป็นกำลังสำยัฌรป นนึ่งในการประกาศพระศาสนาด้วยปฏิปท่าปอน ๆ ของท่านทั้งใน ขณะที่ท่านยังมีชีวิตอยู่ และเป็นทิฏฐานุคติแกํคนที่เก็ดม'ไภายหลัง เมื่อท่านนิพพานไปแล้ว โมฆราชมาณพได้กราบทูลถามป๋ญ่หาเป็นคนที่ ๑๔ ว่า '๑0๑

www.kalyanamitra.org ๑. ข้าพระองค์จะพิจารณาเห็นโลกอม่างิไร มจจุรฺาชจึงจะไม่ แลเห็น คือจะตามไม่ทน? พระพุทธเจ้าทรงวิสัชนาว่า ท่านจงเป็นคนมีสสิพิจารณฺาเห็น โลกโดยความเป็นของว่างเปลา ถอนความเห็นว่าตัว,ของเราทุกเมื่อ ท่านจะข้ามพ้นมัจจุราชเสิยได้ดวยอุบายอย่างนี้ เมื่อท่านพิจารณา เห็นโลกอย่างนี้แล มัจจุราชจึงจะไม่แลเห็น คือตามไม่ทัน ๔๖. พระป็งฺคยเถระ , ปีงคืยมาณพได้กราบทุลถามป๋ฌทาเป็นคนที่ ๑๖ ว่า ๑. ข้าพระองค์แก่แล้ว ขออย่าให็ข้าพระองค์หลงพบความ เร่อมเสียในระหว่างเลย ขอพระองค์ตรัสบอกธรรมเครื่องละชาติชรา ในอตฦาพนี้แก่ข้าพระองค์เถิต? พระพุทธเจ้าทรงวิสัชนาว่า ท่านเห็นว่าชนทั้งหลายผู้ประมาท แล้วย่อมเดือดร้อน เพราะรูปเป็นเหตุ เพราะฉฺะนั้น ท่านจงเป็นคน ไม่ประมาท ละความพอใจในรูปเสียจะได้ไม่เกิดอีก่ ๒. ทฺศใหญ่ร่ ทิศน้อยร่ ทิศเบื้องบน และทิศเบื้องล่างที่ พระองค์ไม่ได้เห็น ไม่ได้พิง ไม่ทราบ ไม่รู้แม้หน่อยหนึ่งมิได้มีในโลก ขอพระองค์ตรัสบอกธรรมเครื่องละชาติชราในชาตินี้? พระพุทธเจ้าทรงวิสัชนาว่า เมื่อท่านเห็นว่า มนุษยฺถกตัณหา ครอบงำแล้ว มีความเดือดร้อนเกิดขึ้นอันชราถึงรอบด้านแล้ว เหตุนี้ ท่านจงอย่าประมาท ละตัณหาเสีย จะได้ไม่เกิดอีก ๑๐๒

www.kalyanamitra.org บรรลุธรรมเป็นพิระอรหันต์ หล้'งจากได้ฟังคำวิสัชนาป็'ญหาที่ตนกราบทูลถามจาก พระพุทธเจ้าแล้ว มาณพ ๑๙ คนคือ อชิต่มาณพถึง่โมฆราชมาณพ ได้รู้แจ้งเห็นธรรม สำ เร็จเป็นพระอรหันต์หังหมด ส่วนปีงคิยมาณพที่งได้ทูลถามป๋ญหาเป็นคนสุดท้าย ในขณะที่ กำ สังฟังคำวิสัชนาป็ญหาอ่ปูมจิดกระสับกระส่ายฟ้งจ}านฺเพราะคืดถึง พราหมณ์พาวรีผูเป็นลุงของดน อยากไท้ลุงได้ฟังพระธรรมเทศนาที่ ไพเราะด้วยจึงไม่บรรลุธรรมเป็นพระอรหันต์ สำ เร็จเพีฮงพ่ระโสดาบัน เท่านั้น ภายหลงได้ฟังธรรมเทศนาและบรรลุธรรม่เป็นพระอรหันต์ บวชในพระพุทธศาสนา หลงจากนั้นมาณ์พทั้ง ๑๖ คนฺ ได้ทูลขออุปสมบทใน่พระ ธรรมวินัย พระพุทธเจ้าประทานอฺนุญาดใท้อุปสมบทเป็นพระภิกษุ ในพระพุทธุศาสนา ในบรรดาพระภิกษุทั้งหมดนั้น พระโมฆราชฟ้นผู้ ยินดในการครองจึวรเศร้าหมอง ฉะนั้นพระพุทธองค์ทรงยกย่องไว1น ตำ แหน่งเอดทคดะว่า (ป็นผูเลิศกว่าภิกษุทั้งหลายผู้ทรงจึวรเศร้าหมอง พระมหาเถระทั้ง ๑๖ รูป^ได้เป็นกำสังสำคัญในการประกาศ เผฺยแผ่พระพุทธศาสนา เป็นเหตุใท้พระพุทธศาสนาประดิษฐานมั่น คงมาดราบจนทุกวันนี้ และท่านเหลานั้นดารง่อายุสังขารพอสมคว่ร แก่อดภาพแล้วก็นิพพาน ๑๐๓

www.kalyanamitra.org ป๋ญหาและเฉลยอนุพุทธปร^ติ บทท ๔ ๑, WTlหมณ์พาวรีตั้งอาศรผฺอยู่ทใ!หฉ? ตอบ พราหมณ์พาวรีตั้งอาศรมอย่ที่ฝังแมนํ้าโคธาวารี ที่พรมแดน แห่งเมืองอัส.สกะและอาฬฺกะต่อกัน ๒,สิษย์ ๑๖ คนที่พราหมณ์พาว่รี ผูกป๋ญหาให้ไปพูลถามพระพทธเจา ใครเป็'แห้วหน้าและไปเข้าเฝืาพระพุทธเจ้าที่ไหน? • ตอบ ศิษย ๑๖ มือชิตะเป็นหัวหน้า ไปเข้าเแาพระพุทธเจ้าที่ ปาสาณเจดีย์ ผ.พราหมณ์พาวรียูกฺหัญvnให้ศิษย์ไปทลถามพระพุทธเจ้าเพื่อประสงค์ อะไร? ตอบ พราหมณ์พาวรี ผูกป๋ญหาให้ศิษย์ไปทูลถามพระพุทธเจ้า เพื่อจะสอบสวนให้แนํนอนว่า พระโอรสของศากยรารJเสด็จออก บรรพชา ปฏิญาณพระอ่งค์ว่าเป็นพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า ตามข่าวลอนั้น เป็นจรีงหรีอไม่ ๔. ''โลกคือหมูสัตว์อนอะไรปีด่บังไว้จึงหลงดุจอยู่ในความมืด\" บัญหา ^ครทูลถามพระพุทธเจ้า ทรงพยากรณ์ว่าอย่างไร? ตอบ \"โลกคือหมู่สัตว์ อันอะไรปีดบังไว้จึงหลงดุจอยู่ในที่มืด\" อชิตมาณพเป็นผู้ทูลถามพระพุทธเจ้าทรงพยากรณ์ว่า โลกคือ หมู่สัตว์อันอวิชชา คือความไม่รู้แจ้งปีดบงไว้แลวจึงหลงดุจอยูในที่มืต ๕.บัญหาว่า\"หมู่มนุษย์[ลกนั้ อาศัยอะไรจึงบูชายญ บวงสรวงเทวดา\" ใครเป็นผู้ทูลถาม และใครเป็นผู้ตอบ คำ เฉลยว่าอย่างไร? ตอบ ปุณณกมาณพ เป็นผู้ทูลถาม พระศาสดาเป็นผู้ตอบ เฉลยว่า หมู่มนุษ่ย์เหล่านั้นอยากไดีของที่ตนปรารถนา ที่มืชรา ๑๐(ร:

www.kalyanamitra.org ทำ ให้แปรฟสียนจึงบูชๆยัญบรฺงสรวงเทวดา ๖.••โลกมีอะไรผูกพนไว้ อะไรเป็นเครื่องสัญจรของโลก\" ป้ญทานี้ ใครเป็น่คน'ถูล กบ:Jพระศาสดาทรงพยากรณ์ว่าออ่างไร? ตกบ;อุทยม^กเพเป็นค่น'ถูลถามพระศาสดาทรงพ่ยากรณ์ว่า ดงนี้ โลกมีความเพลิดฒลินผูก'พันไว้ ความตรึกเป็นเครื่องสัญจรของโลก ๗. พระโมฆราชได้ร้บการยกอ่องว่าเลิศในทางไหน? ตอบ พระโมฆราช ได้รับยกย่องว่าเป็นผู้ทรงจีวรเศร้าหมอง ๘. ศิษย์ของพราหมณ์พาวรึ ใครบ้างได้ร้บยกอ่องว่าเป็นเอตทํคคะ ในทางไหน? ตอบ ศิษย์พราหมณ์พาวรึ พระโมฆราชรูปเดียวได้รับยกย่องเป็น เอตทัคคะในทางเป็นผู้ทรงจีวรเศร้าหมอง ๙.พระ1มฆราชทูลถามบ้ญหาพระพุทธองค์!ป็นคน'ที่เท่าไรเพราะเหตุไร? ตอบ เป็นคนที่ ๑๕ เพราะครั้งแรกเห็นว่าท่านอรุตมาณพเป็น ผู้!หญกว่าจึงยอมให้ถามก่อน แต่เมื่อปราร่ภจะทูลฺถามเป็นคนที่ ๒ และคนที่ ๙ ถูกพระพุทธองค์ทรงห้ามไว้ให้รอก่อน จึงได้โอกาส ทูลถามเป็นคนที่ ๑๔ ๑©. ค์าถามว่า ••ข้าพเจ้าจกพจารณาเห็นโลกอย่างไร มจจุราชจึงจก ไม่แลเห็น\" ใครเป็นผู้ถาม พระศาสดาทรงพยากรถ?1ว้อย่างไร? ตอุบ พระโมฆราชเป็นผู้ทูลถาม พระศาสดาทรงพยากรณ์ว่า ท่าน จงเป็นคนมีสติ'พิจารณาเห็นโลกโดยความเป็นของว่างเปล่า ถอน ความตามเห็นว่าตัวของเราเสีย'ทุกเมื่อเถิด ท่านจักข้ามล่วงมัจจุราช เสียได้ด้วยอุบายอย่างนี้ ท่านพิจารณาเห็นโลกอย่างนี้แล มัจจุราช จึงไม่แลเห็น ๑๐๕

www.kalyanamitra.org ๑๑. อาจารย์กลบฟืนศิษย์ ศิษย์กลับฟืนอาจารย์มีอยูในศาสนานี้ คอใครกบใคร? ตอบ คือพราหมณ์พาวรีเคยฟืนอาจารย์ของป็งศิยมาณพ แต่ภ่าย หลังที่ปีงคืยะได้อุปสมบทแล้ว กลับไปแก้ป๋ญหาให้ฟัง จนทำให้ พราหมณ์พาวรีบรรลุธรรมเป็นพระโสดาบน ท่านปีงคืยะกลับเรน อาจารย์ของอาจารย์ของตนในพระธรรฺมวินัย. ๑๒i ศิษย์ ๑๖ คนใครรักอาจารย์มากที่สุด? ตอบ ปีงคืยมาณพเป็นคนรักอาจารย์มากที่สุด ๑๐๖

www.kalyanamitra.org อนุพฑธประวสิ บทที่ ๔ องค์ที่ ๔๗- ๔๐ ๔๗. ประพระโสณโก?^สเถระ สถานะเดิม ฟระโสณ่โก?^สะ ชื่อเดิมวา โสณะ เพราะ(ปีนผ้มีดิวฟร่รณ ผุดผ่องเหมือนทองคำ ส่วนโก?^สะ(ปีนชื่อแห่งโคตร บิดาชื่อิว่า อุสภ- เศร!ส์ อยูที่เมืองจาปา แคว้นอังคะ มารดาไม่ปรากฏชื่อ เกิดในวรรณะ แพศย ท่านมีลักษณะพิเศษ คือต่อนที่ท่านเกิดมีขนปรากฏที่ฝ่าเท้า ทั้งสอฺงข้าง เป็นผู้ชำนาญในการดีดพิณ ๓ สาย เป็นคนละเอียด อ่อน บิดาได้สร้างปราสาท ๓ หลังให้พกใน ๓ ฤดู มูลเหดุ่ของการออกบวช พระเจ้าพิมพิสารพระเจ้าแผ่นดินแคว้นมคธมีพระประสงคจะ ทอดพระเนดรขนที่ฝ่าเท้าทั้งสุองข้างของนายโสณะจึงรบสงให้เข้า เมืา เมื่อได้ทอดพระเนดรแล้ว ทรงร้บสั่งให้โสณะพร้อมประชาชน ๘๐,0๐0 คน เข้าเฝืาพระพทธองค์ ชื่งประทับอยู่ที่ภูเขาคชฌกูฏ ๑๐6/

www.kalyanamitra.org ใกล้กรุงราชคฤห์ ได้ฟังอนุปุพพิกถาและอริยสัจ ๔ เกิดความเลื่อมใส ทูลขอบวชในพระวินัย เพ่ราะเห็นว่าการ่ครองเรือนฺนฺน จะประพฤติ พรหมจรรย์ให้บริสุทธบริบูรณกระทำได้ยากทรงประทานการบวชให็ ตามประสงค บรร่ลุธรรมเป็นพระอรฟันด ครั้นบวชแล้วไปบำเพ็ญเพียรอยู่ที่ป้ๅสีตวัน เขตเมืองราชคฤห้ ฟานเตินจงกรมจนเท้าแตกเลือดไหล เมื่อเตินไม่ได้จึงคลานด้วยเข่า และฝ่ามือทั้งสองข้าง จนกระทุง,เข่าและฝ่ามือทั้งสอุงฺแตกอีก . แม้ กระนั้นก็ยังไม่ได้บรรลุมรรคผลอะไร เกิดความเบื่อหน่ายอยากจะ ลืกไปครองเรือน พรฺะพุทธองค์ได้เสด็จไปสอนให้ทานทำความเพียร พอปานกลาง โดยยกพีณ 0). สายเข้ามาเปรียบเทียบ ฟานตั้งใจ ปฏิบตตามพระโอวาท เร่งนำเพีฌเพียรด้วยความไม่ประนาท ในุ ที่สุดก็ได้บรรลุธรรมเป็นพระอรฟันค์ งานประกาศพระศาสนา พระโสณโกฟัวิสะ เป็นตัวอย่างที่ด็สำหรับบุคคลผ้ด้องการ บรรลุธรรม โดยการทำตัวเองให้ลำบากจนเกินไปก็ไม่สามารถบรรลุ ธรรมได้ ผู้ที่จะบรรลุธรรมได้นั้นด้องนำเพญเพียรในทุางสายกลาง ไม่ตึงหรือย่อหย่อนจนเกินไปนัก ทุสังจากการบรรลุธรรมเป็นพระ อรหนค์ ฟานแสดฺงลุณสมนํดของพระอรหนค์นั้นน้อมจิตไปในลุณ ๖ ประการ คือ .

www.kalyanamitra.org ๑. น้อมเข้าไปในบรรพชา ๒. น้อมเข้าไปในความสืงด ๓. น้อมเข้าไฟ้นครามสำรวมไม่เบียดเบียน ๔. น้อมเข้าไปในความไม่ถือมั่น ๔พ น้อมเข้าไปในความไม่มีความอยาก พน้อมเข้าไปในความไม่หลง '' ; • V' s ! s \" - s ' ®,- , . 's \" ต1ฒน้^เอตฟิคคะ พระโสณโก?^สะ ครั้ง บรร่ลุรร่รมเป็นพระอรห'นิส์ ไเ! บำ เพ็ญเพียรอย่างแรงกล้า พ่ระพุทธองคทรงยกย่องท่านว่า \"เป็น เสิศกว่าภิกษุทั้งหลาย ผู้ปรารภความเพย^'=ท่านได้ช่วยพระพุทธองค์ ประกาศพระศาสนา ดำ รงอายุสงขารพอสมควรแก่อัตภาพแล้ว ก็ นิพพานในที่สด ๔๘. ประวัติพระโสณกุฏิกัณณเถระ สถก่นะเติม . ' พระโสํณคุฏกณณะ ที่อเติมว่า โสณะแตเพราะเขาใส์ดุ้มหู่มี ร่าคาถืงหนื่งโกฎ (๑๐ล้านิ) เง่มีค์าตอทาย กุฏิอัณณะ ฃดำไม่ ปร่ากฏินาม มารด่าเป็นอุบาสิกาที่อว่าทาพี' เป็นพระโสดาบัน และ เป็นอุบัฎฐากของพระมหาอัจจายนะ เกิดในตระกูลเศรษฐี ในเมือง กรูรฆระแคว้นอวันตี เป็นคนวร่รณุะแพ็ศย ๑๐๙

www.kalyanamitra.org มูลผดุของก่ารออกบวช มารดาของท่านเป็นอุปัฏฐากพระมหาภัจจายนะ เวลาที่พระ เถระมาพกที่ภูเขาปวัตตะ เมืองกุรุรฆระ ในอวันตีชนบท โสณะได้ ฟังธรรมจากพระเถระบ่อย ๆ จนเกิตความเลื่อมใส และปวารณาเป็น อุปัฏฐากพระเถระ ต่อมาท่านฟ็จารณาเหนว่า การครองเรือนจะ ประพฤติพรหมจรรย์ให้บริสุทธิบรืบูรณเหมือนสังขที่ขัดตีแล้วนั้น ยาก จึงขอบวชภับพระเถระ ท่านให้บวชเป็นสามเณรอยู่ ๓ ปี เพราะเป็นอวันตีชนบทหาพระครบ ๑๐ องค์ได้ยาก เมื่อได้พระครบ ๑๐ องค์ แล้วท่านจึงบวชเป็นพระภิกษุ บรรลุธรรมเป็นพระอรหนส์ พระโสณกุฏิภัณณะครั้นบวชแล้วตั้งใจศึกษาเล่าเรียนธรรมะ บ่ฏิปัตีในสำนักของพระอุปัชฌาย์ ไมนานก็ได้บรรลุธรรมเป็นพระอรหันต์ งานประกาศพระศาสนา ท่านไม่เคยเห็นพระพุทธองค์ มืความประสงค์จะเข้าแ]าจึง กราบลาพระอุปัชฌาย์ ๆ ได้ฝ่ากความไปกราบทูลพระพุทธองค์ เพื่อ ขอแก้ไขพระวิฟ้^ ๔ ปฐะการ (ดูในประวิตพระมหาภัจจายน่ะ) สำ หรืบ พระภิกษุอยู่ในปัจจันตชนบฺท ท่านได้ท่าหน้าที่อย่างตียิ่ง พระพุทธองค์ ทรงอนุญาตทุกประการ เมื่อท่านไปถึงวัตเชตวันได้รับการด้อนรับอย่างตี โดยพระพุทธ- องค์ทรงอนุญาตให้ท่านฟักในพระคันธกุฎีเตียวภับพระองค์ และโปรด ๑๑0

www.kalyanamitra.org ให้ท่านแสดงธรรม'ทำนองสรภัญญะให้สดับ เมื่อจบการแสดงธรรม ทรงอ'นํโมทนาและชมเชยท่าน ค่รั้นกลับไปถึงอวนตี'ชฺนบุท โยมมารดาทราบว่าท่านแสดง ธรรมให้พระ'พุทธองคสดับ จึงนิมนต์ท่านให้แสดงธรรมให้ฟังบ้าง ท่านได้แสดงธรรมให้ฟัง ขณะทฟังธรรมอยู่'นั้น พวกโจรเ'ขุ้าปล้น บ้าน คนใช้มารายงานข่าวให้ทราบก็ไม่เสิยดาย บอกว่าโจรด้องการ อะไรก็เอาไปเถึด เราจะฟังธรรมของพระลูกชาย พวกโจรทราบ ความนั้นจากคนใช้ก็สลัดใจที่ทํๆร้ายผู้มีคุณธรรม จึงเป็นโจรกลับใจ พาภันไปวด กราบขอขมาโปมมารดาท่าน และขอบวชใ'นํสำ'แกขอ่ง พระเถระ ท่านบวชให้ตามประสงต์ ตำ แหน่งเอดฟัคคะ พระโสณคุฏิภัณณะ มีความสามารถแสดงธรรมทำน่อง สรภัญญะด้วยเสียงลันไพเราะ พระพุทธองต์ทรงยกป่องท่านว่า \"เป็น เลิศกว่าภิกษุทั้งหลาย ผู้แสดงธรรมด้วยถ้อยคำลันไพเราะ\" ท่าน ได้ข่วยพระพุทธองค์ประกาศพระพุทธศาสนา ดำ รงอายุสังขารพอ สมควรแก่ลัดภาพแล้วจึงนิพพาน ๔๙. ประวดพระมหาฟ้นถกเถระ สลา'แะเดม พระมหาบ้นถกะ ^อเดิมว่า บ้นถกะ.เพราะเก็ดในระหว่างทาง •ทึ่มีคำว่ามหานิาห'นา เพราะเกดก่อน และมีน้องชายคนหนึ่ง ชึ่อว่า (ร)

www.kalyanamitra.org จูฬป็นถคะ บดาไฝป^กฏนกม .ฟืนคนวรรณะศูทร มารดาไม่ปรากฏ นาม เป็นลูกสาวของเศรษฐีเมืองราชคฤห แคว้นม่คธ เป็นคน ,วรรณะแพศย บิดาและมารดาเป็นคนต่างว่รรณะทานจึงอยูโนฐานะ จึณฑาล พอรู้เดียงสารบเร้ามารดาให้พาไปเยี่ยมดาและยาย มฺารดา จึงพาไปส่งโห้อย่ก้บตาและยาย - มูลเห่ดุของการอกกบวช คุณตาพาเด็กชายบินถ่กะไปวัดเวฬุวันเป็นประจำ วันหMด้ฟ้ง ธรรม่ห้พระฬุทธองค์ทรงแสดงจึงเกิดศร้ทธาเลื่อมใส มีความประสงค์จะ บวชได็เรียนให้คุณตาทราบ คุณตาพาไปเข้าเฝืาพระพุทธองค์กราบทูล ให้ทรงทราบ จึงตรัสสงให้พระกิก1๗หนึ่งผ้เที่ยวบิณฑบาตเป็นวัตร จขิ ข่ . บวชให้แก่เด็กชายบินถกะ บรรลุธรรมเป็นพระอรหนต สามเณรบินถกะ เมื่อ่อายุครบ ■๒๐ ปี ได็บวชเป็นพระภิกษุ ชื่อว่าพระมหาบินถกะ ทานตงใจบาเพญเฟึยรพิจารณานามรูปอปาง แยบคายจนได้อรูปฌาน ๔ ออกจากอรูปฌานเจรีญวิบิ'สส่นาได้ บรรลุธรรมเป็นพระอรหันค์ งานประกาศพระศาสนา พระมหาบิ'นถกะช่วยพระพุทธองค์เผยแฝ่พระพุทธศาสนา เหมือนกับพระอรหันตองค์อื่น ๆ ท่านคิดจะแปงเบาภาระของคณะ ๑๑๒

www.kalyanamitra.org สงฆจึงเข้'นราพระพุทธองค กราบทลอาสารับ่หน้าทีเป็นผู้จัดแจง ภัตตาหาร พระพุทธองค์ทรงอนุญาตตามฺที่ขอุ. ท่านทำงานสำเร็จ เรียบร้อ่ยด้วยดี ตำ แหน่งเอตทัคคะ พระมหาปันถกะ เป็นผู้มความซานาญในการเจริญวิปัสสนา จึงได้รับการยกย่องจากพระพุทธองค์ว่า \"เป็นเลิศกว่.าภิกษทังหลาย ผู้เจริญวิปัสสนา\"ท่านได้ข้วยพระพุทธองค์ประกาศพระพุทธศาสนา ดำ รงอายุ่สงขารพอสมควรแก่อัตภาพแล้วก็นิพพาน ๔๐. ประวิ®พระจูฬฝ็นถทเถระ สถานะเดิม พระจูฬปันถกะ ซื่อเดีมว่า ปันถกะ เพราะเกิดในระหว่าง หนทาง ขณะที๋มารดาเดินทางกอับไปอังปัานเศร!ดูผู้เป็นมืดจ แส« เพราะเป็นน้องชายของมหาปันถกะ จึงมีซื่อว่า จูฬปันถถะ บิดาไม่ ปรากฏนาม เป็นคนวรรTOศูทร มารตาไม่ปรากฏนาม เป็นลูกสาว เศรษฐี เมีอฺงรำชคฤห แคว้นมคธ เป็นุคนวรรณะแพศย์ บิดาและ มารดาเป็นคนต่างวรรณะกัน ท่านจึงอยู่ในฐานะจัณฑาล ต่อมามารดา พาไปอยู่กับเศรษฐีผู้เป็นตายาย มลเหดชองการออกบวช หอังจากที่พระมหาปันถกะ ออกบวชแล้วได้บรรลุธรรมเป็น OQcn

www.kalyanamitra.org พ่ระอรหันต ท่ฯนได้รับค่วามสุขที่เกิดจากการบรรลุธร่รม อยากให้ น้องชายได้รับความสุขนั้นบ้างไปขออนุญาตกับเศรษฐีผู้เป็นตาให้ น้องชายบวช ท่านเศรษฐียินดีอนุญาต จูฬบ้นถกะจึงได้บวชใน พระพุทธศาสนา บรรลุธรรมเป็นพระอรหันต์ พระจูฬป๋'นถกะบวชแล้ว พระมหาป๋นถกะผู้เป็นพระพชายได้ พุยายามอบรมสั่งสอน แต่ท่านมีบ้'ญญาทึบจำอะไรไม่ค่อยได้ - พระ พี่ชายให้ท่องคาถา ๔ บ่ท ใบ้เวลา ๔ เดีอนยังท่องจำไม่ได้ ถูกขฺบ ไล่ออกจากวัต ท่านน้อยใจอยากจะลาสิกขาไปยืนร้องไห้อยู่ที่บ้มประตู พระพุทธองศ์ทรงทราบเหตุการณจึงฺเสุด็จไปปลอบได้ประทานผ้าขาว ให้ผืนหนึง และตรัสสอนให้ท่องว่า ระโขหะระณัง ระโชหะระณัง (ผ้า เบ้ตรุลี) พร้อมกับเอามือลูบผ้านั้นไปมา ไม่นานผ้าขาวกิกลายเป็นลี ดำ จึงคิตว่า เดิมผ้านี้เป็นลีขาวบริสุทธิ้ อาศัยร่างกายของมนุษย์ยัง กลายเป็นสีดำ ถึงจึตของมนุษย์กิเดิมทึเป็นของบริสุทสั อาศัยกิเลส^ จรมากิย่อมเกิตความเศร้าหมอง เหมือนกับผ้าผืนนี้ ทุกสิ่งทุกอย่าง ล้วนแต่เป็นของไม่เทึยงแห้ ท่านท่องไปอย่างนั้น จนจิตสงบบรรลุฌุาน แต่นันจึงเจริญวิปัสสนาต่อกิได้บรรลุธรรมเป็นพระอรหันตพร้อมด้วย อกิญญา งานประกาศพระศาสนา พฺระจูฬปันถกะ ได้ช่วยพระพุทธองศ์เผยแผ่พระพุทธศาสนา ๑๑

www.kalyanamitra.org เหมือนกับพระอรฟ้นตองคอื่น ๆ ท่านมืเรื่องที่น่าศึกษาคือ ถึงจะมื ป๋ญญาทึบ แต่อาศัยพระพุทธองค์ผู้ฉฺลาดในวิธีการสอน แสะอาศัย ท่านมืความเพียรพยายาม ไม่ท้อแท้ท้อถอย จนกลายเป็นผู้ฉลาด สามารถบรรลุธรรมเป็นพระอรหันต์ได้ในที่สุด เพราะฉะนั้นอยาต่วน สรุปว่าใครเป็นคนโง่ แต่ให้ลูว่าเราเป็นผู้ฉลาดในวิธีการสอนหรือไม่ หรือสอนดรงกับนิสัยของเขาหรือไม่ ตำ แหน่งเอตหัคคะ พีร่ะจูฬ่!นถกะ เป็นผู้ชำนาญในฤทธิ้ทางใจ เนรมิดร่างกาย ให้เป็นิพระภิกษุได้ตั้ง ๑,๐๐๐ รูป ดงนั้นพระพุทธองค์ทรงยกย่อง ท่านว่า- \"เป็นเลิศ่กว่าภิทษุตั้ง่หลาย ผู้ชำ นาญในมโนมยท่ธี (ฤฑธ ทางใจ)\" ท่านได้ช่วยพระพุทธองค์ประกาศพระศาสนา ดำ รงอายุ สังขารพอสมควรแก่อัดภาพแล้วนิพพาน ป็ผหาและเฉลยอนุพุทธประวิด บทที่ ๙ ๑. พระบรมพุทโรวาทที่ยกสายพีผขึ้นเม่รืยุบกับความเพียรทรงแสด่ง แกใคร ทรงปรารภอะไร จงทรงแสดงเช่นนั้น? ดอบ โอวาทที่ทรงยกสายพิณขึ้นเปรืยมกับความเพียรทรง่แสดงแก่ พระโสณโกพีวิสะ เพราะปรารภเหตุที่ท่านทำความเพียรกล้าเกินไป เดินจงกรมจนเท้าแดกโลหิดไหล่เดนไม่ได้แล้วคืดท้อถอยว่า ทำ ความเพียรจนถึงเพียงนี้แล้ว ยังไม่บร่รลธรรมพีเศษใคร่จะเลกเสีย r,ไ!โนiจงทรงแสดงเชํนนน ๑๑

www.kalyanamitra.org ๒.พระสฯวิกที๋ขนต้นด้วยสำว่า \"โส\"มีกึ่องค์ ใครบ้างแด่ละองค์ เลิศในทางไหน? ตอบ พระสาวกที่ขึ้นต้นด้วยสำว่า โส มี ๓ องค์ คือ พระโสณโก?^วิสะ พระโสณกฐกัณณะ พระโสสืตะ พระโสณโกรวิสะ เลิศในทางปร่ารภความเพียร พระโสณกุฏิกณณะ เลิศในทางแสดงธรรมด้วยถ้วยสำอันไพเราะ พระโสภิตะ เลิศในทางระลึกถึงปพเพนิวาส ผ. ใครเป็นอุบ้ชผาย์ซองพระโสณกุฏิอัณณะ? ^ ตอบ พระมหากัจจายนะเป็นพระอุป๋ชณายของพระโสณกุฏิกัณณะ ๔.พรฺะศาสดาทรงทราบความขดข้องจากพระสฺาวกเปใด จึงใต้ทรง อนุญาตใหสฺงฟ้ บ้ญจวรรคทำการอปสมบทฺในบ้จจึนตชนบทไต้ ท่านไต้รบยกยองว่าเลิศุทางไหน? ตอบ พระโสณกุฏิอัณณะ เป็นผู้เลิศในทางด้าน เป็นผู้มีวาจาไพเราะ ๕.พระมหาบ้นถฺกนละ พระจูฬบ้นถก ท่านเป็นเลิศในต้านใด? ตอบ พระมฬจฺ ถก เลิศในทางเป็นผู้เจริญภาวนา พระจูฬป๋นถก เลิศในทางเป็นผู้ชานาญในมโนมรทธิ ๖.ในอสิตมหาสาวก มีองค์ไหนบ้างมีความอัมพ้นธ์เป็นคืษยและ อาจารย์กน จงบอกมาอัก ๒ ลู่ ตอบ (ตอบเพียง ๒ ลู)่ พระอัญญาโกณฑัญญะกบพระปุณณมันตานีบุตร พระอัสสธิทบ่พระสารีบุตร พระสารีบุตรอับพระราธุะ พระสารีบตรอับพระราหล

www.kalyanamitra.org พระมหาภัจจาย!เะกับพระโสณกุฏิกัณณะ ๗.คุณสมบดของพระอรกันต์นั้นน้อมจิตไปในคุณ ๖ ประการ ที่ พระโสณโก?สะแสดงไว้มีอะไรบ้าง? ดอบ ท่านแสดงคุณสมบดของพระอรหันต์นั้นน้อมจิตไปในคุณ ๖ ประการ คือ .๑. น้อม ปในบ้รรพชา ๒. น้อมเข้าไปในความสงัด ๓. น้อมเข้าไปในความสำรวมไม่เบียดเบียน ๔. น้อมเข้าไปในคุวามไม่ถือมั่น ๔. น้อมเข้าไปในความไมมีความอยาก . ๖. น้อมเข้าไปในความไม่หลง ๑๑๙

www.kalyanamitra.org อนุพทธประว้ต๊ บทที่ ๖ องค์ที ๕๑ - ๖0 ๕๑. ประว้ตพรรรณโฑลภาร่ทวาชเถร่ะ สถานะเสิม พระฮณโฑลภารทวาชะ ชื่อเดิมว่า ภารทวาชะ บิดาไม่ ปรากฏนาม เป็นปุโรหิตของพระเจ้าอุเทน มารดาไม่ปรากฏนาม เกิดในแคว้นวังสะ วรรณะพราหมณ เรียนจบไดรเพท เป็นอาจารย. ตั้งสำนักสอนมนต์แก่ลูกศิษย ๔๐๐ คน ต่อมาถูกศิษยทอดทิ้ง เพราะ กินจุ ได้ไปยังเมืองราชคฤห์สอนมนต์อยู่ที่นั่น ไม่ค่อยมืคนนับถือ เพราะเป็นคนต่างถิ่น จึงประสบกับชีวิดที่?เดเคืองยิ่งขึ้น มูลเหดุของการออกบวช ปีณโฑลภารทวาชฺะ ไปอยู่เมืองราชคฤห์เหินพระพุทธองต์ กับพระสาวกมีลาภสักการะมาก มีความปรารถนาจะได้ลาภเช่นนั้น บ้าง จึงเข้าเฝ็าทูลขอบวชทรงปรฺะทานการบวชให้ด้วยวิธีเอหิกิกข- อปสัมปทา Q(S)C«

www.kalyanamitra.org บรรลุธรรมฟ้นพระอรหันต์ หลังจากบวชแล้วได้เที่ยวบิณฑบาตโดยไม่รู้จักประมาณ เนื่องจากฉันอาหารจุจึงได้ชื่อเพิ่มว่า ป็ณโฑลภารหวาชะ ป็ณโฑละ แปลว่า ผู้แสวงหาก้อนข้าว พระพุทธองคทรงทราบทรงใช้อุบาย สอนให้รู้จักประมาถฉันการฉันอาหาร ท่านตั้งใจ?เกตนจนเป็นผู้รู้จัก ประมาณในการฉันอาหาร ไม่ประมาทในการบำเพ็ญเพียรก้ได้บรรลุ ธรรมเป็นพระอรหันต์ งานประกาศพระศาสนา พระปิณโฑลภารทวาชะ เป็นกำลังสำคัญรูปหนื่งในการเผยแผ่ พุระพุทธศาสนา ท่านได้ประสองฤทธกับพวกเดียรถีย์ ที่บ้านเศรษฐี คนฺหนื่งในเมืองราชคฤห้ ได้เหาะชื้นไปฺเอาบาตรไม้จันทนที่เศรษฐี เอาแขวนไว้บนที่สูง เพื่อบอกให้รู้ว่าพระอรหันต์มือยูในโลกจริง เศรษฐี เลื่อมใสขอถีงุพระรัตนตรัยตลอดชีวิต และท่านสนทนาธรรมกับพระเจ้า อุเทนถีงเรื่องที่พระห'พุ่ม ๆ บวชอยูในพระพุทธศาสนาได้อย่างไร ท่าน ทูลว่า พระเหล่านั้นปฏิบิตตามคำสอนของพระพุทธองต์ คือ สำ รวม อินทรีย์ไม่ให้ยินดี ยินร้าย ไม่ยึดถืออะไรที่ฝ็ดไปจากความเป็นจริง พระเจ้าอุเทนทรงเข้าพระหัยเลื่อมใสในพระพุทธศาสนาขอถึงพระ- รัตนดรัยตลอดชีวิต ดาแหน่งเอดหัคคะ ท่านเป็นผู้สมบูรณด้วยอินทรีย์ ๓ คือสดีนทรีย์ สมาธินทรีย์ ๑๑๙

www.kalyanamitra.org และป๋ญญินทรีย เมื่อได้บรรลุธรรมเป็นพุร้ะอ.รหฺนต์มีควาผนันใจใน ตวเองมาก อยู่ไนท่ามกลางหม่พระภิก^รีอวาต่อหน้าพระพักตร์ของ พระพุทธองค ท่านเปล่งวาจาบ'นลือสีหนาทว่า ผู้ใดมีความสงสัยใน้ มรรคและผล ผู้นั้นจงถามข้าพเจ้าเพราะนะนั้นพระพุทธองคทรง ยกยองท่านว่า \"เป็นเสิศกว่าภิกษุทั้งหลายผู้บ'นลือสีหนาท\" ท่าน ได้ช่วยพระพุทธองคประกาศพระศาสนา ดำ รงอายุสังขารพอสมควร แก่อัตภาพก็นิพพานในที่สุด ๔๒. ประวัติพระลคุณฑกภัททิยเถระ สถารเะเติม พระลกุณฑกภิ'ททยะ ชึ่อเติมว่า ภฑทยะ แต่เพราะร่างกาย ของ่ท่านเตี้ยและเลก จึงเรียกว่า ลกุณฑกภิ'ททิยะ(ลกุผฑกะ นปล่ ว่า เตี้ยและเลก) บิดาและมารดาไม่ปรากฏร่อ มีทรพย์สมบิตมาก เป็นชาวเมีอ่งสาวัตถี แคว้นโกศล เก็ดในวรรณะแพศย์ มูลเหตุของการออกบวช เมื่อพระพุทธองคประทบ่อยู่ที่วัดเซตวัน ท่านไปวัดพังฺธรรม เกิดความเลื่อมใสในธรรม จึงทูลขอบวชกบพระพุทธองค ทรงบวช ให้ตามความประสงค์ ครั้นบวชแล้วตั้งใจปฏิบิติธรรมด้วยความไม่ ประมาท ก็ได้บรรลธรรมเป็นพระโสดาบัน ๑๒๐

www.kalyanamitra.org บรรลุธรรมเป็นพระอรหันต์ ต่อมาท่านได้สนทนาธรรมกับพระสารีบุตรเรื่องฺกายคตาสฺต์ ในขณะท่ฟัง[ธรรมนนพิจาร่ณ่าธฺรรมไปด้าย จิตก็หลุดพนจากกิเลส ทั้งหลาย. บรรลุธรรมเปีนพระอรหันฺต์ งานประกาศพระศาสนา แม้ร่างกายของพระลกุณุ่ฏกภัททิยะจะเตี้ยและเล็กหรีอ เหมือนกับคน่แคระก็ตามที แต่ท่านเป็นพระอรหันต์ พฺวกพระฏิถษ ทื่มาเข้าเ^าพระทุทธองค์ไม่รู้จิก ค์ด.ว่าเป็นสามเกเรจึงจบศีรษะบ้าง หบ้าง- จมูกบ้าง แล้วพูดล้อเล่นว่า ฟ่อเณรไม่อยากสิกบ้างหรือ ท่านก็ไม่พูดอะไร พอเข้ๆไปแ]าพระพทธองค์ทรงตรัสถามวา กอน เข้ามาพบพระเถระไหม กราบทลว่า ไม่พบพระเจ้าข้า .พบแต่ สามเณรฟ้อย ทรงตฺรัสว่า นั๋นฺเป็นพระเถระไม่ไชสามเณร จึงทูลว่า ท่านตัวเล็กเหลือเกินพระเจ้าข้า ทรงตรัสวา \"เราไม่เรียกภกษุว่า เป็นเถระเพราะความเป็นคนเ๓ นั่งบนอาสนะของพระเถระ ส่ว่น^ด บรรลุสัจจะทั้งหลาย ดั้งอยู่ในความไม่เบียดเบียนมหาชน จึงจะข้อ ว่าเป็นพระเถระ\" ต์าแหนงเอตทัคคะ พระล่กุณฏกภททียะ เป็นผู้พูดได้ไพเราะเสนาะโสตผู้ทังอย่าง ยิ่ง เพราะ4:«1นั่นพระพุท่ธองค์ทรงยกย่องท่านว่า \"เป็นเลิศกว่าภกษุ ทั้งหลายผู้มืเลืยงไพเราะ\" ท่านได้ช่วยพระพุทธองค์ประกาศพระศ่าสนา ดำ รงอายสังขารพอสมควรแก่อัตภาพแล้ว จึงนิพพาน ๑๒๑

www.kalyanamitra.org ๔๓. ประว้ตพระสุภูติเถระ สถานะเติม พระสุภูติ ร่อเติมว่า สุภูติ เพราะมีร่างกายสดใสรุงแอง ผุดฝองอย่างยิ่ง บิดาร่อว่า สุมนเศรฬี มารดาไฝม่รากฏร่อ เปีน่ ชาวเมืองสาวัตถ' แคว้นโกศล เกิดในวรรณะแพศย์ ฟานเป็นน้อง ชายของอนาถบิณฑิกเศรษฐี มูลเหสุของการฮ่อกบวช อนาถบิณฑกเศรษฐี ชาวเมืองสาวัตถี ได้ไปเยี่ยมราช์คห- เศรษฐีผู้เป็นสหายที่เมืองราชคฤห์ ได้ทราบขาวการบังเกิดขึ้นของ พระพุทธเจ้า จึงเข้าไปเฝืาที่ฟ้าสิตวัน ดำ รงอยู่ในโสดาบันพร้อมกับ การเข้าเฝืาครั้งแรก จึงกราบทูลอาราธนาพระพุทธองคเสด็จไปเมือง สาวัดถี สร้างวัดเชดวันถวายเป็นที่ประทบ ในวันฉลองวิหาร สุภูติ ไปกับอนาถบณฑิกเศรษฐี ฟังธรรมของพระพุทธองค เกิดเลึ่อมใส จึงทูลขอบวชทรงบวชให้ดามประสงค์ บรรลธรรมเป็นพระอรหนด พระธุภูติเมื่อบวชแล้วตั้งใจสืกษาพระวินัยปิฎกและพระอภิ- ธรรมปิฎกจนเร่ยว.ชาญ จากนั้นได้เรียนกรรมฐานจากพระพุทธองค์ แล้วหสิกอ่อทไปบำเพ็ญเพียรอยู่ในฟ้า ไม่นานนักก็บรรลุธรรมเป็น พระอรหันค์ ๑๒๒

www.kalyanamitra.org งานประกาศพระศาสนา พระสุภูติ ทานมีข้อปฏิบตที่พิเศษฺกว่าผู้อื่น คือ เมื่อแสดง ธรรมไม่พูด่ถึงคุณหิรือโทษของคนอื่น เวลาเที่ยวไปบิณฑบาต ก่อน จะรับบิณฑบาต ทานจะเจริญฌานประกอบด้วยเมตตา ออกจาก ฌานแลวจึงรับบิณฑบาต ทำ อปางนี้ทุก•ๆ เรือน ด้วยหวังว่าผู้ถวาย อาหารบิณฑบาตจะได้บุญมาก และร่างกายของท่านสง่างาม ผิว พรรณผ่องใสเป็นที่เลื่อมใสแก่บุคคลเปีนจำนวนมาก ตาแหน่งเอตทคคะ พระสุภูติ อยู่อย่างผู้ไม่มีกิเลส เจริญฌานประกอบด้วยเมตตา อยู่เนืองนิตย์ และเป็นผู้ควรรับของทำบุญจากผู้ต้องการบุญ เพราะ ฉะนั้นพระพุทธองค์ทรง่ยกย่องฟานว่า \"เป็นเลิศกว่าภกษุท'งหลายผู้ อยู่อย่างไม่มีกิเลส และเป็นฑกข้ไณยบุคคล\" ท่านได้ช่วยพระพุทธ องค์ประกาศพระศาสนา ดำ รงอายุสังขารพอสมควรแก่อัตภาพแล้ว จึงนิพพาน ๔๔- ประวดพระกังขาเรวตเถระ สถานะเดิม พระกงขาเรวตะ ชื่อเติมว่า เรวตะ เพราะท่านมีความสงสัย ไนพระวินัยว่า อะไรควรหรืออะไรไม่ควรแก่พระภกษุ่ จึงได้ชื่อว่า กงฃาเรวตะ (เรวตะผู้มีความสงสัย) บิตาเ.เละมารตาไม่ปรากฏชื่อ เป็นชาวเมีองสาวัตถึ แคว้นโกศล เกิตในวรรณะแพศย์ ๑๒รุ่ก

www.kalyanamitra.org มูลเหตุของการออกบวช วนหนึ่งเรวตะไปยังวัดฺเซตวันพร้อมกับประชาชน ท่านยืนอยู่ ข้างหลังประชาซนใ?โงธฺรรมกถาของพระทุทธองค์ เกิดเลื่อมใสฺปรารถนา จะบวช เมื่อประชาชนกลับไปหมดแลัวจึงเข้าไปแ!าพระ'ตุฑธองค์ ทูลขอบวช ทรงบวชใ'พ้ตามความปรารถนา บรรลุธรรมเป็นพระอรหนต์ ครั้นบวชฺแล้วพระเรวตะทูลขอใ'ค้พระ'ตุทธองค์ตวัสสอนกรรม- ฐาน ท่านบำเ'พ็ญเ'สืยรจนได้ฌาน ทำ ฌาน'นั้นให้เป็นบาทเจริญ ^วบvสสนา >ไ1ม!่น_านกใด้บรรลุธร_รมเ'บ''นi พระอร'กัa/นค์ff* เมอได้รบสงของ<ท=• ประชาชนถวายมาแล้วมีความสงลัยว่า ของลื่งนี้สมควรแก่การไข้สอย ของพระภก!ชุหรือว่าไม่สมควร เมื่อ'พิจารณาโดยถี่ถ้วนแล้วจึงไข้สอยสิ่ง นั้น ตงแต่นั้นมาท่านจึงได้ชึ่อว่า กังขาเรุวตะ งานประกาศพระศาสนา พระกังขาเรวตะ ท่านเข้าฌาน'ทฺงกลางวันและกลางคืน จึง เป็นที่เลื่อมไสของประชาชนผู้แสวงหาพระผู้ได้ฌานได้อภิญญา ต่าง มาลักการะ เคารพ 'นับถือบูชาท่านกันเป็นจึานวนมาก ตำ แหน่งเอตใวัคคะ ท่านเป็นผู้ชำนาญไนกุารเข้าฌานสมาบ! พระ'พ'ngpงค์'บ่รง ยกย่องท่านว่า \"เป็นเลศทว่าภิทใ^งหลายผู้ยืนสิไนการเข้าฌาน\" ๑๒(ร:

www.kalyanamitra.org ท่านได้ช่วยพระพุทธองคุปรฺะกาศพร^ศาสนา ดำ รงอายุสังขารพอ สมคุวรนก่อัคุภาพแล้ว จึงนิพพาน ๔๔/ปร พระวักกสิเถระ สถา!เะเดิม พระวักกสิ ชื่อเดิมว่า วักกสิ บิดาแล่ะมารดาไฝปรากฏชื่อ เป็นชาวเมืองสาวัดถี แคว้นโกศล เกึดในวรรณะพราหมณ์ ศึกษาจบ ไดรเพท มูลเหตุของ่การออกบวช วันหนึ่งพระพุทธองคแวดล้อมด้วอหมู่สงฟ้ เสดิจไปยงเมือง สาวัตถี วักกสิครั้นได้เห็นพระพุทธองศกหลงใหลในพระรูป ไมอิมใน การดู จึงดิดตามพระพุทธองค์ไปทุกหนทุกแห่ง ในทีสุดตัดสินใจ ออก บวชเพราะด้องการเห็นพระพุทธองค์ทุกวัน เขาจึง่รเอบํวช ทรง ประทานการบวชให้ดามความประสงค์ บรรลุธรรมเป็นพระอรห^ หสังจากบวชแล้วก็เฝืาดิดดามพระพุทธองค์เพือดูพระรูป โฉมอยูเสมอ ทรงรอความแกกล้าแห่งญาณของท่านจึงไม่ตรัสอะไร ครั้นทรงทราบว่าญาณแก่ก่ล้าจึงตรัสว่า 'วักก่สิ จึะมืปรณ์ยชน์อะไร กับการดูร่างกายที่เน่าเฟ้อย ผู้ใดเห็นธรรม ผู้นันย่อมเห็นเรา ผู้ใด เห็นเรา ผู้นั้นย่อมเห็นธรรม\" แต่ท่านก็ไม่เช่อยังเฝืาดูพระพุทธองค์

www.kalyanamitra.org เช่นเดิม ตอมาใกล้วันเข้าพรรษา ทรงเสด็จไปยังเมืองราชคฤห ไน วันเข้าพรรษาทรงขับไล่พระวักกสิออกไปจากสำนัก ด้วยพระดำรัส ว่า 'วักกสิ เธอจงหลีกออกไป\" ฟานเลียใจมาก ขึ้นไปบนภูเขาดิชฌกฎ เพื่อฆ่าตัวตาย พระพุทธองค์ทรงทราบ จึงปรากฏพระองค์1ห้เห็น ตรัส เรียกว่า วักกสิ และทรงแสดงธรรมให้ฟ้ง ฟานเกิดปีดิปราโมทฟ้.จมาก รีบเหาะมาเข้าเฝืาพิจารณาถึงคำสอนของพ่ระพุทธองค์ ในทํ่สุดกิได้ บรรลุธรรมเป็นพระอรหันค์บนอากาศนั่นเอง งานประกาศพ่ระศาสนา ฟานได้ช่วยพระพุทธองค์เผยแผ่พระพุทธศาสนา เหมือนกับ พระอรหันตองค์อื่น ๆ เป็นแบบอย่างที่ด็ให้แก'พระภิกษุ และสามเณร ตลอดจนถึงประชาชนทุกชั้นวรรณะ ตำ แหน่งเอตหัคคะ พระวักกสิเป็นผู้มืความศรัทธาในการออกบวช จนได้บรรลุ ธรรมเป็นพระอรหันค์ พระพุทธองค์ทรงยกย่องฟานว่า \"เป็นเลีศ กว่าภิกษุทั้งหลาย ผู้ศรีฑธาวิทุตติ\" (พ้นจากกิเลสเพราะศรัทธา) ฟานนับว่าเป็นพระมหาเถระอีกรูปหนึ่งที่ได้ช่วยกิจการพระศาสนา แปงเบาภาระของพระพุทธองค์ ฟานดำรงอายุสังขารโดยสมควรแก่ กาลเวลาแล้วกินิพพาน ๑๒๖

www.kalyanamitra.org ๕๖. ประว้ตพระกุณฑธานเถระ สถานะเดิม พระกุณฑธานะ ชื่อเดิมวา ธานะ เฟราะมีภาพลวงตาเป็น สดรีดิดดามทานอยู่ข้างหลง พระภิกษุนละสามเณรทั้งหลาย จึงเพิ่ม ชื่อให้ท่านว่า กุณฑธานะ บิดาแลรํะมารดาไม่ปรากฏชื่อ เป็นชาว เมืองสาว้ตถี แคว้นโกศล เกิดในวรรณะพราหมณ์ ศึกษาจบไตรเพท มล่เหดของการออกบวช ครั้นพออายุ่ย่างเข้าบิ'จฉิม่วัย ท่านไปฟังธรรมเป็นประจาจึง เกิดเลื่อมใสปรารถนาจะบวช ทูลขอบวชตอหน้าพระพุทธองค ทรง ประทานการบวชให้ดามปรารถนา พอบวชแล้วเพราะกรรมในชาดิ ก่อน เวลาท่านบิณฑ่บาดก็ดี อยู่วัดก็ดีจะมืคนเห็น้สตรคนหนึ่งเดิน ดามอยู่ข้างหลัง แต่ท่านเองไม่ทราบและไม่เห็นุ พอคนใส่บาตรฺก็จะ บอกว่า ส่วนนี้ของท่าน ส่วนนี้ส์าหรับหญิงสหายของท่าน ภิกษุและ สามเณรเห็นภาพนั้นเป็นประจำ จึงพากนล้อมกุฏิและพูดเยาะเย้ย ท่านอดทนไม่ไหวจึงได้พูดฅอบโต้ พวกภิกษุไปฟ้องพระพุทธอิงค ทรงตรัสเตือนว่า \"เธออย่ากล่าวคำหยาบต่อใคร ๆ เพรฺาะผู้ทีถูกเธอฺต่า ย่อมต่าตอบเธอ จะกลายเป็นแข้งตืลัน สุดทายกิจะมืการทำร้ายกัน\" บรรลุธรรมเป็นพระอรหันต์ พระกุณฑธา^เะมืความลำบากใจต่อลื่งที่เกิดขึ้น และลำบาก เรื่องอาหารบิณฑบาตมาก พระเจ้าปเสนทโกศลได้ทราบข้าวทรง ๑๒๙

www.kalyanamitra.org พิสูจนความจริง ทรงเห็นว่าเป็นเรื่อง่ไฝฺจริงแสะเปีนกรรมเกาขฺอง ท่าน พระราชาจึงนิมนต์ท่านไปรับบิณฑบาตในพระราชวังทุกวัน เมื่อท่านมีอาหารเป็นที่สบายก็มีจึตสบาย ตั้งใจบำเพ็ญเพียร ไม่ นานได้บรรลุธรรมเป็นพระอรหนต์. พอ,บรรลุธรรมเป็นพระอรหนุต์ ภาพลวงตาที่เป็นสตรีก็หายไป งานประกาศพระศาสนา ท่านบวชเมื่ออายุมาก งานประกาศพระศาสนาจึงไม่ชัดเจน. แต่กรรมเก่าในอดีตชาติชองท่านเป็นคฺติสอนใจได้อย่างดียิ่ง ใครทำ กรรมอะไรไว้หนีกรรมนั้นไม่พ้น ในอดีตชาติท่านเกิดเป็นเทวดา เห็นพระภิกษุ' ๒ รูปรักใครี สนิกสนมก็นดีมาก ในระหว่างทางที่พระ ๒ รู่ปเตินไปลงฺอุโบสถอีก วัดหนึ่ง องต์หนึ่งปวดท้องและเข้าป่าไปทำธระ เทวดาเห็นเป็นโอกาสดี จึงแกล้งแปลงร่างเป็นหญิงสาวสวยเดินอย่ข้างหลัง ทำ ให้เพอน่อีกุ รูปหนึ่งรังเกียจ ไม่ลงอุโบสถร่วมกัน ต่อมาภฺายหลงเทวดาเกดสลด ใจสำนีกผิด จึงมาบอกด่วามจริงให้ทั้งสองรูปทราบ ท่านมีความรักุ สามคดีกันเหมีอนเติม ด้วยผลกรรมนั้นในชาติสุดฺท้าย ทำ ใหมีภาพ สตรีเดินอยู่ข้างหลังท่านิ ตำ แหน่งเอตทัคคะ พระกุณฑธานะเป็นผู้มีบุญพีเศษในเรื่องการจับฉลาก ท่าน มักได้จับฉลากก่อนเสมอ พระพุทธองต์ทร่งยกย่องท่านว่า \"เป็นเลิศ กว่าภิกษุทั้งหลายผูจับฉลากเป็นปฐม (จับฉลากคนแรก)\" ท่านิได้ ๑๒0?

www.kalyanamitra.org ช่วยพระพุทธองคประกาศพระศาสนา ดำ รงอายุสังขารพอสมควร แก่อัตภาพแล้วจึงนิพพาน ๕๗.ประวดพระวังคึสเถระ สถานะเดิม พระวังคีสะ ชื่อเดิมว่า วังดิสะ เพราะเกิดในวังคชนบท และ เพราะเป็นใหญในถ้อยคาบิดา เป็นฟราหมณแด่ไฝปรากฏชื่อ มารดา เป็นปริพาชก ไม่ปรากฏชื่อ เ,กิดที่วังคชนบท เมืองสาวัตถี แคว้นโกศล เกิดในวรรณะพราหมณ เรียนจบไตรเพทฟืนที่รักใคร่ของอาจารยจึงได้ เรียนมนตพิเศษ* ชื่อว่า \"สีสมนต\" ใช้เล็บดีดกะโหลกศีรษะของผู้ที่ตาย ภาย่ใน ๓ ปี ก็รู้ได้ว่าไปเกิดที่ไหน พวกพราหมณ์จึงอาศัยฟานเป็น เครื่องมือในการเลี้ยงขีพมืลาภสักการะเกิดขึ้นเป็นอันมาก มูลเหตุของการออกบวช วันหนึ่งฟานได้สศับ่คุณของพระพุทธองค เกิดครามเลื่อมใส ปร่ารถนาจะไปเช้าเฝืา แด่ถูกพวกพราหมณ์ศัดด้าน เพราะกลัวจะ ไปนิ'บถีอพระพุทธองค์ สุดทายได้ไปเฝืาที่วัดพระเซตวัน ทรงทำ ปฏลัแถารเป็นอ่ยางดี ทรงทดํสอบความสามารถของเขาโด่ณ์ด้นำ กะโหลกคนตายมา ๔ กะโหลก ให้วังคีสะดีด ดีดกะโหลกที่ ๑ บอก ว่าไปเกิดในนรก ดีดกะโหลกที่ ๒ ไปเกิดเป็นมนุษย์ ดีดกะโหลกที่ ๓ บอกว่าไปเกิดเป็นเทวดา ทรงประทานสาธุการ พอดีดกะโหลกที่ ๔ ชื่งเป็นของพระอรหันค์ เข่าไม่ทราบว่าไปเกิดที่ไหน นั่งเหงื่อ ๑๒๙^

www.kalyanamitra.org ไหล เขาขอเรียนมนต์กับพระพุทธองค์ ทรงปฏิเสธว่าสอนให้ไม่ได้ จะสอนให้เฉพาะคนที่บวชเหมือนเราเท่านั้น เขาจึงทลขอบวช ครฺสให้ พระนิโครธกัปปเถระเป็นพ่ระอุป๋ชฌาย์บวชให้ บรรลุธรรมเป็นพระอรหันต์ s พอท่านบวชแล้วก็เรียนกรรมฐานคือ อาการ ๓๒ และเจริญ วิป๋สฺสนา ไม่นานก็ได้บรรลุธรร^เป็นพระอรหันต์ งานประกาศพระศาสนา ^ งานเผยแผ่พระพุทธศาสนาของท่านไม่มืปรากฏขัคเจน แต่ ท่านก็ยังความุเลื่อมใสในพระพุทธศาสนาให้เกิดขึ้นแก่ประชาชน เหมือนกับพระอรหันต์องค์อื่น ๆ ตาแหน่งเอตหัคคะ ท่านมืปฏิภาณฺในการกล่าวคืาประพันธ สรรเสริญคุณของ พระพุทธองฺค์ในเวลาที่ท่านไปเข้าเฝืาทุกครั้ง ทรงยกย่องท่านว่า\"ฟ้น เลิศกว่าภิกษุทั้งหลายผู้มืปฏิภาณ\" ท่านได้ช่วยพระพุทธองค์ประกาศ พระศาสนาดำรงอายุสังขารพอสมควรแก่อัตภาพแล้วจึงนิพพาน ๔๘. ประวัติพระป็สินฑวจฉเถระ สลา%เะเติม พระปิลินทวัจฉ่ะ ขึ้อเดมว่า ปีลินทะ เพราะวจฺฉะเป็นร่อฺฃอง 6)๓0

www.kalyanamitra.org โคตร ต่อมาจึงได้ร่อว่า ปีลินทว่จฉะ โดยนํ่าเอาร่อและโคตรไปรวม ด้วยกัน บิดาและมารดาเป็นพราหมณ!ฝปรากฏร่อ เกิดที่เมือง สาวัตถี แคว้นโกศล เกิดในวรรณะพราหมณ์ เรียนจบไดรเพท ปกติ ฟานเป็นผู้มากไปด้วยความสังเวช จึงบวชเป็นปริพาชก สำ เร็จวิชา ๓ ร่อว่า จูฬคนธาร่ะ เหาะเหินเตินอ่ากาศได้และรู้ใจของผู้อื่น มื ลาภและยศมาก ท่องเที่ยวแสดง่ฤทธไปยัง'เมืองต่าง ๆ จนถีงเมือง่ ราชคฤห์ ม่ล่เหดุของการออกบวช เมื่อพระพุทธองค์ได้ดวัสรู้แล้วป่ระทับอยู่ในเมืองราชคิฤห์ อานุภาพแท่งวิชาจูฬคันธาระขฺองท่านก็เสื่อม ลาภยศ่ก็หมดไปด้วย และอาจารยเคยบอกไว้ว่าหากวิชามหาคันธาระมือยู่ในที่ใด วิชาจูฬ- คันธาระก็จะเสื่อมในที่นั้น ท่านทราบข่าวการเกิดขึ้นของพระพุทธเจ้า จึงติดว่า พระพุทธเจ้าด้องรู้วิชามหาคันธาระอย่างแน่นอน จึงไปยัง สานุกของพระพุทธองค์ขอเรียนวิ!ชา ทรงตรัสว่าจะสฺอนให้เฉพาะคน ที่บวชในพระพุทธศาสนา ท่านจึงทูลขอบวช ^- •- • t \"- 1 i • 1' บรรลุธรรมเป็นพระอรทันต์ หสังจากบวชแล้วท่านพากเพียรปฏิบิตธรรมเรียนกรรมฐาน กับพระพุทธองค์ ไม่นานก็ได้บรรลุธรรมเป็นอรหันต์ เพราะบุญ บารมืที่สั่งสมมาเติมเปียมแล้ว - OCfKS)

www.kalyanamitra.org การประกาศพระสาสนา พระปิสินฑวัจฉะหลังจากบรรลุธรรมเป็นพระอรหนต์ ได้ช่วย พระพุทธองคเผยแผ่พระศาสนาเป็นที่เคารพรักของเทวดาและ มนุษย์ทั้งหลาย มีเรื่องเล่าว่า ในสมัยที่ท่านเป็นพระเจ้าจักรพรรดิ ประชาชนเป็นจำนวนมากตั้งอยู่ในโอวาท ไปเกิดเป็นเทวดาจำนวน มาก เหล่าเทวดามีความกตัญฌเคารพนับถือมาก จึงพากินมาฟ้'ง ธรรมทั้งเช้าแ-ละเย็น ต่อมาท่านมีมัญหากิบพระภิกษุและประชาชน เพราะชอบ ใช้คำพูด่ที่ไฝไพเราะว่า คนถ่อ่ย ด้วยความคุ้นเคยกับคำนี้มาในุชาดิ ปางก่อน เพื่อนพระภิกษุไปฟ้องพระพุทธองค ทรงตรัสเล่าเรื่องใน ชาดิปางก่อนให้ฟัง พระภิกษุทั้งหลายเช้าใจ และหมดความสงลัย ตำ แหน่งเอตทคคะ มนุษย์ทังหลายตั้งอยู่ในโอวาทของท่านในชาดิก่อน แล้วเกิด เป็นเทวดาเป็นอันฺมาก เทวดาเหล่านั้นมีความกดญฌูมีความเคารพ นับถือบชามาฟังธรรมทั้งเช้าและเย็น เพราะฉะนั้นพระพุทธองค์ทรง ยกย่องท่านว่า \"ฟ้นเลิศกว่าภิกษุทั้งหลาย ยู้ฟ้นที่รกใคร่ของเทวดา\" ท่านได้ช่วยพระพุทธองค์ประกาศพระพุทธคาสนร ดำ รงอายุลังขาร พอสมควรแก่อัดภาพแล้วจึงนิพพาน ๔๙. ประฬพระกุมารกัสสปเถระ สถานะเดิม พระกุมารกัสสปะ เกิดในวรรณะแพศย์ ร่อเดิมว่า กัสสปร ๑๓๒

www.kalyanamitra.org ซึ่งเป็นร่อที่พระเจ้าปเสนทึโกศลตั้ง่ให้ เพราะทานบวชศั้งแต่ยงเป็น เด็ก:^ยไแร่อว่า ารกัสสปะ บิดาและมารดาไม่ปรากฏร่อ เป็น ชาวเมืองสาวัตถี ..แคว้นโกศล 'มาร่ดาเป็นลูกสาวของเศรษฐี ซึ่ง แต่งงานไม่นานก็ขออนุญาตสามีออกบวช โตยไม่เว่าตัวเองตั้งครรภ ข่ณะที่เป็นนางภิกษุณี มูลเพดุของการออกบวช นางภิกษุณีคลอตบุตรหน้าตาน่ารักผิวพรรณดุจทองคา พระเจ้าปเสนทิโกศลทรงรับไว้เลี้ยงดูเป็นพระราชโอรสบุญธรรม และตั้งร่อให้ว่า กัสสปะ วันหนึ่งกสสปะออกไปเล่นกับเด็กรุ่นเดียวกัน ไต้ทุบตีเด็กเหล่านั้น จึงถูกล้อเลียนว่า พวกเราถูกเด็กไม่มืพ่อแม่ ทุบตี ท่านไดยินคำพูตเต่นนั้นเภิตความสงสัย เข้าไปกราบทูลถาม พระเจ้าปเสนทิโกศล จนได้ทราบความจริงทั้งหมด. เกิดความสลด สังเวชใจในชะตาชีวิตของตนเอ่งจึงขออนุญาตออกบวช ได้บวชเป็น สามเณรครั้นอายุครบ ๒๐ ปี บวชเป็นพระภิกษุในพระทุทธศาสนา. บรรลธรรมเป็นพระอรหันต ท่านบวชแล้วพากเพียรปฏิบัติธรรมไม่ได้บรรลุมรรคผล อะไรเลย ครั้งนั้นเพื่อนของท่านเกิดเป็นพรหมในชั้นสุทธาวาส เห็น ท่านลำบากในการฺปฏิบิตธรรมจึงผูกบัญหา ๑๔ ข้อ 'ให้ไปทูลถาม พระทุทธองค รุ่งขึ้นไปเข้าเผิาทูลถามบัญหาเหล่านั้น เมื่อตรัสฺแก้ บัญหาทั้ง ๑๔ ขอนั้นจบลง ก็ได้บรรลุธรรมเป็นพระอรหันต์ ๑๓๓

www.kalyanamitra.org งานประกาศพระศาสนา พระเถระพ่านแสดงธรรมได้วิจิตรพิสดาร สมบูรณ์ด้วรตุปมา อุปมัยมีเหตุมีผล โปรดพระเจิาปายาสิรูไมเชื่อว่าโลกอื่นมีจริง นรก สวรรค์มีจริงเป็นด้น ให้เลื่อมใสไนพระพทธศาสนา ขอถึงพระรัดนตรัย เLป,็นทAีAพึงตลอดส1ิว1ิต 1จึงน1ับวโ่า1เป็น0กำ1ล้1งท0ีสZำคัญรูป1หน/งในการเผยแผ่ พระพุทธศาสนา ตำ แหน่งเอตทัคคะ พระกุมารคัสสปะ แสดงธรรมได้อย่างวิจิดรสมบูรณ์ด้วยอุปมำ อุปมัยและเหตุผล พระพุทธองค์ทรงยกย่องพ่านว่า \"เป็นเลศกว่าภิกษุ ทั้งหลายฺผู้แสดงธรรมได้อย่างวิจิตร\" พ่านได้ช่วยพระพุทธองค์เผยแผ่ พระพุทธศาสนาเป็นอย่างมาก ดำ รงอายุสังขารพอสมควรแก่อัดภาพ แล้วจึงนิพพาน >• ๖๐. ประ^พระมหาโก^ตเถระ สถานะเดิม พระมหาโกฏเตเถระ ชื่อเดิมว่า โกฎเตะ หมายถึงทำให้คน หนีหน้า เพราะพ่านเก่งไนศาสตร์ตาง ๆ จึงเที่ยวทิ่มแทงคนอื่นด้วย หอกค์อปากของตน บตาชื่อว่า อัสสลายนพราหมณ์ มารล่าชื่อว่า จันทวสิพราหมณี ทั้งคู่เป็นชาวเมีองสาวตถึ แคว้นโกศล เกดใน วรรณะพราหมณ์ ศึกษาจบฺไตรเพทและศาสตร์ตาง ๆ ชอบพูดทักล้าง คนอื่นด้วยเหตุผล ใครพบจึงพาอันหลบหน้าไมอยากจะสนทนาด้ว่ย่ OflnGET

www.kalyanamitra.org มูลเหตุของการออกบวช โกฏเตะ แม้เป็นผู้มีความรู้ม่ากแต่ก็ไฝหยุดอยู่แค่นั้นพยายาม ศึกษาศวามรู้ใหม่ ๆ อยู่เป็นประจำ ได้ยินกิตติศึพท์ของพระพุทธองค ว่าเป็นพระอฺรหันตตรัสรู้ชอบด้วยพระองคเอง ทรงแสตงธ่รรมไพเราะ ชื้1ห้เห็นประโยชนั้Iนโลกนี้และโลกหน้าอย่างชัดเจน เขาจึงเขาไป เฝืาแลุะฟ้งธฺรรมเกิดศรัทธาปรารถนาจะออ่กบวชจึง'ถูลขอบวชกับ พระองคทรงให้บวชตามความประสงค บรรลุธรรมเป็นพระอรหันต์ พระโกฏเตะ.หลังจากบวชแล้วตั้งใจศึกษาพระธรรมวินัย และบำเพ็ญเ'พียรด้วยความไม่ประมาท พิจารณาลังขารโดยความ เป็นของไม่เที่ยงเป็นทุก'ข์และเป็นอ'นัดดา ในไม่'ช้าก็ได้บรรลุธรรม เป็นพระอรหันต์ พร้อมปฏิลัมภิทา ๔ มีความกล้าหาญแม้จะเ'ช้าไป หาพระมหาเถระ หรือว่าเ'ช้าแ?าพระพุทธอ่งต์ ก็จํะถามป๋ญหาใน ปฏิลัมภิทา ๔ จึงมีที่อเพิ่มอีกว่า มหาโกฏเตะ งานประกาสพระศาสนา 'พระมหาโกฏเดะ. เป็นพระเถระรูปหนึ่งที่แสดงหลักธรรุมใน พระพุทธศาสนาไว้มาก เ'ช่นใ•แมหาเวหัลลสูตร ได้ชักถามพระสารืบุตร เพิ่อเป็นการวางหลกธรรมไว้เป็'Hแบบอย่าง เ'ช่น ผู้มีป๋ญญาทรามศึอผู้ ไม่รู้อรุยลัจ ๔.ตามความเป็นจรืง ผู้มีป๋ญญา คือผู้รู้อรืยสัจ ๔ ตาม ความเป็นจริง วิญญาณ คือธรรมชาติที่รู้แจ้ง ได้แก่รู้แจ้งสุข ทุก'ข และไม่สุขไม่ทก'ข์ เป็นด้น ๑๓ร:

www.kalyanamitra.org ดำ นหน่ฬง1Iออดดททัดดดดระ พระมหาโกฏเตะ เป็นผู้ใคร่ตอการศกษา ชอบสอบถาม ป้ญหาในปฏิสัมภิทา ๔ กับพระพุฑ่ธองคบาง กับพ่ร่ะมห่าเถระทง หลายบางเป็นประจำ เพราะเห่ตุนี้ พระพุทธองคทรงยกย่องท่านว่า \"เป็นเสิศกว่าภิกษทั้งหลาย ผู้แตกฉานในปฏิสัมภิทา\" ท่านได้ซวย พระพุทธองคเผยแผ่พระพุทฐศาสนาเป็นอย่างมาก ดำ รงอายุสังขาร พอสมควรแก่อัตภาพแล้วจึงนิพพาน ป็ญหาและเฉลยอนุพุทธประว้ดิ บทที่ ๖ ๑.ใครออกบวชเพราะอยากเห็นพระรูปโฉมชองพระศาสดาอุย่าง ตอบ พระวักกสิ ออกบวชเพราะตองการเห็นพระรูปโฉม ของ พระศาสดาอย่างใกล้ชด ๒.ใครออกบวชเพราะอยากเรียนพระพุทธมนต์? ตอบ พระวังคีสะ ออกบวชเพราะอยากเรียนพระพุทธมนต์ ๓.พระเถระรูปใตที่ท่านคลุอตในขณะที่มารตาอังบวชเป็นภิกษุรน? ตอบ พระกมารกัสสปะ ท่านคลอดในขณะที่มารดาอังบว่ชเป็นภิกษุณ ๔.พระมหาโกเ^เถระ มีบิตามารตาที่อว่าอะไร เป็นซาวเมือ่งไหน? ตอบ พระมหาโกฏเตเถระ บิดาชื่อว่า อัสสลายนพราหมณ์ มารดา ชื่อว่า จันทวดีพราหมณี เป็นชาวเมืองสาวัตถี แคว้นโกศล ๔.พระกุมารกัสสปะและพระมหาโกฏ่เตเถระเป็นเสิศในทางด้านไต? ตอบ พระกุมารกัสสปะเป็นเสิศกว่าภิกษุทั้งหลายผู้แสดงธรรมได้ อย่างวิจิตร ๑๓๖

www.kalyanamitra.org ษ้ญญ้ดอันเป็นชอฟ็ควรนก่บรรฬ$ดพึงบรโภคใช้สอชอยู่เนอง ๆ นละทฺานมืคํวามชานชวนาญในคุณธรรมฺอะไรเป็นพึเศษ'พระบรม .ศาสดาทรงยกย่องท่านด้านใดบ้าง? ตอบ พระกังขาเรวตะ ท่านมีความชำนิชำนาญในฌาน่สมาบ้ติอน เป็นโลกิยะและโลกุตตระเป็นพึเศษ สามารถเข้าสู่ฌานสมาบ้ติอัน เป็นพุทธวิสัยได้เกือบทั้งหมต ได้รับยกย่องจากพระบรมศาสตาว่า เป็นผู้เลิศกว่าภิกษุทั้งหลายผู้ยินดีในฌานสมาบต ๗- พระดำรัสว่า \"ผู้ใดแลเห็นธรรม ผู้นั้นร่อว่าเห็นเรา\" ดังนี้ พระพุฑ์ธเจ้าดรัสแก่ใคร ทำ ไมจึงตรัสเชํนนั้น? ตอบ ตรัสแก่พระรักกลิเถระ สาเหตุที่ตรัสสอนเซ่นนั้นเนื่องจาก พระรักกลิเป็นผู้หลงใหลในพระรูปโฉมของพร«องค เที่ยวตามดู พระรูปของพระองคจนไม่เป็นอันท่องปนสาธยายธรรมและบำเพึญ เพียรในกรรมฐาน พระบรมศาสดาจึงตรัสเดีอนสดีให้ท่านสมใจ ในการบำเพ็ญส่มณธรรม ๘.พระคุณฑธานะเวลาท่านบิณฑบาตค็ดี อย่รัตกิดี จะมีคนเห็นสตรี คนหนื่งเดีนตามอยู่ข้างหลงเพราะท่านทำกรรมอะไรไว้ และท่าน เป็นเลิศในทางด้านไต ? ตอบ ในอดีตชฺาดีท่านเกิดเป็นเทวตา เห็นพระภิกษุ ๒ รูปรักใคร่ สนิทสนมกันดีมาก ในระหว่างทางที่พระ ๒ รูปเดีนไปลงอุโบสถอีก รัตหนื่ง องคหนื่งปวดท้องและเข้าป่าโปทำธุระ เทวดาเห็นเป็น โอกาสดี จึงแก่ล้งํแปลงร่างเป็นหญิงสาวสวยเดีนอยู่ข้างหสัง ๑๓6/

www.kalyanamitra.org ทำ ให้เพื่อนอีกรูปหนึ่งรังเกียจ ไม่ลงอุโบสถร่วมกัน ต่อมาภายหลัง เทวดาเกีดสลดใจสำนึกผิด จึงมาบอกความจริงให้ทั้งส่องรูปทราบ มีความรักสามัคคีกันเหมือนเดิม ด้วยผลกร่รมนั้นในชาดิสุดท้าย ทำ ให้มีภ่าพสตรีเดินอยู่ข้างฺหลังทำน เป็นเลิศกว่าภิกษุทั้งหลาย ผู้จบฉลากเป็นปฐม(จับฉลากคนแรก) ๑๓c«

www.kalyanamitra.org อ1|พุทรปรรว้ต บทที่ ๗ องคที ๖๑ - ๗๐ ๖๑, ปรุะว้ดพระโสภิตเถระ สถานะเดิม พระโสภิตะ ชื่อเดิมวๅ โสภิตะ บิดาและมารดาไฝปรากฏชื่อ เป็นชาวเมืองสารัตถี แคว้นโกศล เกิดในวรรณะพราหมณ์. ยูลเหตุของการออกบวช รันหนึ่งโสภุตะ ได้เข้าไปเมืาพระพุทธองค์และได้ฟ็งธรรม บงเกิดความเลื่อมใสอย่างแรงกล้าจึงปรารถนาจะบวช ทลขอบวช กับพระพุทธองค์ ทรงประทๆนการบวชให้ตามความประสงค์ บรรลุธรรมเป็นพระอรหันต พระโสภิตะ ครั้นบวชแล้วตั้งใจศึกษาพระธรรมวินัย ปฏิบิต ธรรมบำเพ็ญเพียรด้วยความไม่ประมาท ไม่นานกิได้บรรลุธรรมเป็น พระอรหันค์เป็นผู้ชำนาญในการระลึกชาดิ ๑๓๙

www.kalyanamitra.org งานประกาศพระศาสนา แมในตานานจะไฝได้กล่าวถึงบทบาทของท่านในการช่วย เผยแผ่พระพุทธศาสนา แต่ข้อปฏิบตของท่านก็ทำให้ผู้ที่เกดมาภาย หลังได้ศึกษาเรียนรู้ แล้วเก็ดความเห็นถูกว่า โลกนี้และโลกหนามี จริง นรกและสวรรคมีจริง ผลของกรรมดีและกรรมชั่วมีจริง อันเกิด จากการระลึกชาดีในอดีดชองท่าน ตำ แหน่งเอตทัคคะ พระโสกิดะ เป็นผู้มีความชำนาญืเป็นพิเศษในบุพเพนิวาสา- นุสสดีญาณ คือญาณระลึกชาดีในอดีด เพราะฉะนั้นพระพุทธองค ทรงยกย่องท่านว่า \"เป็นเลิศกว่ากิกษทั้งหลายผู้ระลึกซาดีได้'' ท่าน่ได้ ช่วยพระพุทธองคเผยแผ่พระพุ่ทธ่ศาสนาเป็นอย่างมาก ดำ รงอายุ ลังขารพอสมควรแก่อัดภาพแล้ว จึงนิพพานในที่สุด ๖๒. ประวัติพระนันทกเถระ สถานะเดม พระนันทกะ ชอเดีมว่า ทันฑกะ ป็ดาและมารดาไมปรากฏ ชื่อ เป็นชาวเมีองสาวัดถึ แคว้นโกศล เกิด่ในวรรณะพราหมณ ยูลเหตุของการออกบวช่ วันหนึ่งทันทกะ ได้mฟ้าพระพุทธองคและได้ทังธรรมบังเกิด ความเลื่อมใสอย่างแรงกล้าจึงปรารถนาจะบวช ทูลชอบว่ช่กบพระพุทธ- องค์ ทรงประทานการบวชให้ดามความประสฬ ๑ร:๐

www.kalyanamitra.org บรรลุธรรมเป็นพระอรหันด พระนันทกะ ค^บวชแล้วจึงตั้งใจศึกษาพระธรรมวิ'&ปฏิบฅิ ธรรม่บาเ'พ็ฌเ'พียรดวยความไม่ประมาท ไม่นานกไล้บรรลุธรรมเป็น พระอรหันต งานประกาศพระพุ่ฑธศาสนา พระนนทกะ เป็นผู้ซๆนาญในการระลึกชาติของตนเองและ ของคนอื่น และเป็นผู้มีคํวามสามารถในการแส่ดงธรรมไล้ใกล้เศึย่ง กับ่พระ'พุทธองค์ มีเรื่องเล่าว่า นางมหาปชาบดีโคดมีภิกษุณี พา ภิกษุณี ๔0๐ รป มาฟังธรรม ภิกษุรปอื่นแส่ดงธรรมนางภิกษุณี'ทั้ง หลายไม่ไล้บรรลุธรรม เมื่อถึงวาระของพระนนทกะ ทานแสดง ธรรมภิกษุณีทั้งหลายไล้บรรลุธรรมเป็นพระอรหันต ตฺาแ'ทนงเอตฑคคะ พระ'แนทกะ อาศัยเหตุที่ทานเป็นผู้ฉลาดในการแสดงธรรม ไล้โกล้เคียงกับพระพุทธองค์ พวกภิกษุณี1ล้บรรลุธรรมเป็นพระอรหันค์ พระพุทธองค์ทรงยกย่องท่า'แว่า \"เป็นเลิศกว่าภิกษุทั้ง'ทลายผู้ให้โอวาท นางภิกษุณี\" ท่านไล้'ช่วยพระพุทธองค์เผยแผ่พระพุทธศาสนาเป็น อย่างมากเหมีอนกับพระอรหันตองค์อื่น ๆ ดำ รงอายุสังขารพอสมควร แก่อัตภาพแล้วจึงนิพพาน (ร)(รโ๐

www.kalyanamitra.org ๖๓. ประวดพระมหากัปปีนเถร: สถานะเดม พระมหากัปป็น่ะ พระนาม!,สิมว่า กัปป็น่ะ ตอมาได้ครอง ราชสมบต จึงมีพระนามว่า มหากัปปีนะ พระบิดาและพระมารดา ไม่ปรากฏพระนาม เป็นเจ้าเมีองกุกกุฎวดี ในบิ'จจันดชนบท ทรง อภิเษกสมรสกับเจ้าหญิงอโนชาเทวี พระราชรดาของพระเจ้าสาคละ แห่งแคว้นมัททะ ทั้งสองพระองค์ทรงสนพระทัยในเรื่องศาสนา คอย สดับข่าวการบังเกิดขึ้นของพระพุทธเจ้าดลอดเวลา ยูลเหลูฃองกๆรออกบวช วันหนึ่งทรงทราบข่าวจากพ่อค้าชาวเมีองสาวัดลีว่าพระพุทธเจ้า พระธรรมและพระสงฆ์เกิดขึ้นในโลกแล้วฺ ทรงดีพระทัยอย่างยิ่ง พร้อม กับทหาร ๑,๐๐๐ คน เสด็จไปบังเมีองสาวัดลี พระพุทธองค์เสด็จไป ค้อนรบพระมหากัปปีนะและบริวารที่ริมฝังแมนาจันทภาคา ประทับนั่ง อยู่ที่โคนค้นพหุปุดดนิโครธ พระราชาพร้อมทั้งบริวารไค้เสด็จไปเข้าเฝืา ณที่นั้น ทรงแสดงอนุปุพพิกถาและอริยสัจ ๔ พอจบพระธรรมเ^!ศนา พระราชาพร้อมด้วยบริวารบรรลุธรรมเป็นพระโสดาบันและทูลขอบวช ทรงประทานการบวชให่ค้วยวีธืเอหิภิกขอปสัมปทา บรรลุธรรมเป็นพระอรทันต์ ส่วนพระนางอโนชาเทวี ทราบ่ข่าว่การออกบวชของพระราชา จากพวกพ่อค้ากิเกิดความเลื่อมใส ชักชวนภรรยาของทหาร ๑,๐๐๐ คน ดีดดามไปเข้าเฝืาพระพุทธองค์ ทรงแสดงธรรมให้พระเทวีและ ๑(£๒

www.kalyanamitra.org บริวารฟัง เมื่อจบพระธรรมเทศนา พระนางอโนชาเทวีและบริวาร ๑,๐0๐ คน ได้บร่รลุธรรมเป็นพระโสดาบัน ส่วนพระมหากัป่ปีนะ และภิกษุบริวาร นั่งฟังธร่รมอยู่ในที่นั้นด้วย ได้บรรลุธรรมเป็น พระอรหันต์ และท่าใฒักเปล่งอุทานว่า สุขหนอ สุขหน่อ งานประกาศพระศาสนา เมื่อท่านบรรลุธรรมเป็นพ.ระอรหันต์แล้ว บังไม่ได้กล่าวสอน ธรรมแกใคร ๆ เพราะบังไม่ได้รับพระบรมพุทธานุญาต ครั้น่ได้รับ, อนญ่าตแล้ว จึงแสดงธรรมแก่ภิกษุ ๑i๐๐๐•รูป จนบรรลุธรรมเป็น พระอรหันต์ทั้งหมด > ตำ แหน่งเอตหัคคะ พระพุทธองต์ทรงอาศัยเหตุที่ท่านแสดงธรรมแก่พรร่!ภิกษุ ๕๐๐ รูป ได้บรรลุธรรมเป็นพระอรหันต์ทั้งหมด ทรงยกย่องท่านว่า \"เป็นเลิศกว่าภิกษุทั้งหลายผู้ให้โอวาทแก่ภิกษุ'' ท่านเป็นผู้มีบทบาท สำ ศัญในการเผยแผ่พระพุทธศาสนาองต์หนึ่ง ดำ รงอายุสังขารพอ สมควรแก่อัตภาพแล้วจึงนิพพาน ๖๔. ประวตุพระสาคดเถระ สถานะเดิม พระสาคตะ ชื่อเดิมว่า สาคตะ บิดาและมารดาไม่ปรากฏร่อ เป็นชาวเมืองสาวัตถี แคว้นโกศล เภิดในวรรณะพราหมณ์ ๑(C6ก

www.kalyanamitra.org มูลเหตุของการออกบวช พํระสาคตะ ได้ฟ้งธรรมจากพระพุทธองค์แล้วมี?ตเลื่อมใส ทลขอบวชในพระพุทธศาสนา ทรงอนุญาตการบวชใหตามความ ปรารถนา หลังจากบวช่แล้วตั้งใจบำเพ็ญเพียรจนได้บรรลุสมาบฅ ๘ มีความชำนาญในฌานสมาป๋ตนั้น ตุ้นบัฌญตห้ามพระภิกษดื่มสุรา ครั้งทนึ่งพระสาดตะ ตามเสด็จพระพุทธองค์ถึงท่าเรือลัมพะ ที่หฝูบ้านภัททวติกะ ใกล้เมืองโกสมพี แคว้นเจติ ที่ใกล้ ๆ ท่าเรือนั้น มีพญำนาคดื่งมีฤทธึ๋ดุร้ายฺ ท่านได้ช่วยชาวบ้านปราบพญานาคนั้น ด้วยเตโชสมาบ้ติจนสิ้นฤทธ ชาวบ้านดีใจมากต้อนรับเยี่ยงวีรบุรุษ ถามว่า พระคุณเจ้าชอบฉันอะไร โยมจะหามาถวาย ขณะนั้นพระ- ฉัพพีคคีย์พุดแทรกขึ้นว่า ชอบสุราออน ๆ วันรุ่งขึ้นเข้าไปบิณฑบาต ชาวบ้านจึงจัดสุราสีแดฺงถวายทุกครัวเรือน ท่านฉันสุราบ้าน่ละนิดบ้าน ละหน่อยจนเมาหมดสติล้มลงที่ประตเมือง ด้วยเหดุนั้น พระพุทธองค์ ทรงบิญ^พระวินัยห้ามภิกษดื่มสุรา ท่านเป็นด้นบัฌ^ของพระวินัย ข้อนี้ บรรลุธรรมเป็นพระอรหันต วันรุ่งขึ้นพอท่านสร่างเมาได้สติแลื่ว รู้ถึกสลดใจตอการกระท่า ของตนเองจึงเข้าแ)าพระพุทธองค์กราบทูลขอให้ทรงยกโทษให้แล้ว บังเกิดความสลดลังเวชใจในการกระทำของตนหลีกไปบำเพ็ญเพียร. ด้วยความไม่ประมาทได้บรรลุธรรมเป็นพระอรหันค์

www.kalyanamitra.org งานประกาศพระศาสนา เพราะทานเป็นผู้ชำนาญในเตโชสมาบต จึงแสดงปาฏิหาริย์ ตาง ๆ ให้ชาาบ้านแคร้นอังคะอฺศจรรย์ใจเลื่อมใสในพระพุทธศาสนา เป็นจำนวนมาก พระพทธศาสนาจึงบ้กหอักมั่นคงในแคร้นอังคะ ตำ แหน่งเอตทคคะ พระสาคตะเป็นผู้มีความชำนาญในการเข้าเตโชสมาบ้ตเป็น อย่างมาก เพราะฉะนั้นพระพุทธอง่คทรงยกย่องท่านว่า \"เป็นเลิศ กว่าภิกษุทั้งหลาย ผู้ฉลาดในการเข้าเตโชสมาบ้ด\" ท่านเป็นกำอัง สำ คัญองค์หนึ่งในการช่วยพระพุทธอ่งคเผยแผ่พระพุทธศาสนา คำ รงอายุอังขาริพอสมควรแก่อัตภาพแล้วจึงนิพพาน ๖๔. ประวตพระมหาจุนทเถระ สถานะเตํม พระมหาจุนทะ เดิมข้อว่า จุนทะ บิดาข้อ่ว่า วงคันตพราหมณ์ มารดาชื่อว่า สารีพราหมณ์ ในบ้านตำบลนาอันทา แคร้นมคธ เภิด ในวรรณะพราหมณ์ เป็นน้องชายของพระสารีบุตร ตระกลนี้มีพี่น้อง ร่วมห้องกน ๗ คน ชาย ๔ คน คือ อุปดิสสะ จุนทะ อุปเสนะ เรวตะ หญิง ๓ คน คือ นางจาลา นางอุปจาลา นางสีสุปจาลา มูลเหดุของการออกบวช พระมหาจุนทะหอังจากที่อุปดิสสะหรือว่าพระสารีบุตรบวช แล้ว ท่านก็มีความปรารถนาจะบวชเหมือนคัน วันหนึ่งไปเข้าเฝืา ๑(ร:<2:

www.kalyanamitra.org พระพุทธองค์ได้ฟังธรรมเกิดความเลื่อมใส จึงพูลฃอบวชทบพ่ระพุทธ- องค์ ทรงอนุญาตฺให้ทานได้บวชตามความประสงค์ เมื่อบวชใน พระพุทธศาสนาแล้วภิกษุทั้ง.หลายมักเรียกทานว่า■ พระมหาจุนทะ . บรรลุธรรมเป็นพระอรหนต์ ฟานฟังธรรมอะไรจากใครและได้บรรลุธรรมเป็นพระอรห้นค์ เมื่อไร ที่ไหน ไม่ปรากฏชัด ปรากฏว่าท่านเป็นพุทธอุมัฏรูากองค์หนึ่ง ในคราวที่พระบรมศาสดาเสด็จไปปรินิพพานที่เมืองกุสินารา ท่านก็ เป็นผู้อุ่มัฎฐากติดดามไปด้วย ใน่คราวที่พระสารีบุต่รไปนิพพานที่บ้านเด็มเพื่อโปรดมารดา ท่านก็ได้ติดตามไปด้วย ได้ท่าฌาปนกิจและรวบรวม^าตุพร้อมทั้ง บาตรจึวรของท่านพระสารีบุตรนำมาถวายพระบรมศาสดาที่พระเชตวัน เมื่อท่านดำรงอายสงขารอยูโดยสมควรแก่กาลแส้วก็นิพพาน ๖๖. ประวัติพระอุปเสนเถระ ส่ถา'นะเดิม พระอุปเสนะ เติมลื่อว่า อุปเสน.ะ หรืออุปเสนวังคันดบุตร บิดาลื่อว่า วังคันตพราหมณ มารดาลื่อว่า สารีพราหมณี ท่านมืพื่ ชาย ๒ คน ด็อ อุปติสสะ และจุนทะ น้องชาย ๑ คน คือ เรวตะ มื น้องสาว ๓ คน คือ นางจาลา นางอุปจาลา และนางสีสุปจารา เกิด ที่หมู่บ้านนุาลันทา แคว้นมคธ เกิดในวรรณะพราหมณี คืกษาจบ ไตรเพท ๑(£๖

www.kalyanamitra.org มูลเหตุของการออกบวช อุปเสนะ หลังจากที่อุปติสสะหรือวาพระสารีบุตรบวชแล้ว ท่าน ก็มีความปรารถนาจะบวชเห่มือนกัน่ วันหนึ่งไปเข้าแ1าพระพุทธองค์ได้ ฟังธรรมเกิดความเสื่อม่ใสจึงทูลขอบวชกับพระพุทธองค์ ทรงุอนุ^ต ให้ท่านได้บวชตามความประสงค์ f. บรรลุธรรมเป็นพระอรฟันต หลังจากที่บวชแล้วยังไฝทนได้พรรษา ตุงตัวเป็นพระอุป้ชฒฺาย์ บวชให้กุลบุตรคนหนึ่ง แล้วพาไปเข้าเฝืาพระพุทธองค์ ถูกพระพุทธ- องค์ติเตียนว่าไม่เหมาะสม จึงติดว่าเราอาศัยบริษ้ฑถูกพระพุทธองค์ ติเตียน แต่เราจะอาศัยบรืษทนี้แหละท่าให้พระพุทธองค์เสื่อมใส จึง ตั้งใจบำเพ็ญเพียร ในไม่นานกิได้บรรลุธรรมเป็นพระอรฟันค์ มืลูก ติษย์มากํมาย จนได้รับการสรรเสริญจากพระพุทธองค์ งานประกาศพระศาธ่เนา พระอุปเสนะ ครั้นบรรลุธรร่มเป็นพระอ่รฟันตแล้วได้ถือธุดงค์ ๑๓ ข้อ และสอนให้ผู้อื่นถือธุดงค์นั้นด้วย จึงเป็นที่เสื่อมใสของปร่ะชาซน ทุกชั้นวรรณฺะปรระชาชนพากันบ่วชฺเป็นลูกติษยของท่านมิากมาย ตำ แหนึ่งเอตฟัคคะ พระพุทธองค์อาศัยความที่ท่านเป็นที่เสื่อมใสของประชาชน ทุกชั้นวรรณะ เพราะฉะนั้นทรงยกย่องท่านว่า \"เป็นเลิศกว่าภิกษุฟัง ๑ore/

www.kalyanamitra.org หลายผู้นำมาซึ่งความIรื่อมใสขอฺงหมู่ชนทุก^\" ท่านเป็นกำลังสำคัญ องคหนึ่งในการุซวยพระพุทธองคเผยแผ่พระพุทธศฺาสนา ดำ รงอายุ ลังขารุพอสมควรแท่อัตภาพแล้วจึงนิพพาน ๖๗. ประวัติพระขทิรวนิยเรวดเถระ สถานะเติม พระขทิรวนิยเรวตะ ชื่อเดิมว่า เรวตะ แต่เมื่อบวชแล้วอาศย อยู่ในป๋าไม้ตะเคียน จึงมีชื่อว่า ฃทิรวนิยเรวตะ รดาชื่อว่า วังคันต- พราหมณ์ มารดาชื่อว่า นางสารีพราหมณี ท่านเป็นน้องชายคนสุด ท้องในบรรดาพี่น้องทั้ง ๗ คน โดยมีพระสารีบุตรเป็นที่ชายคนโต เกิดที่บ้านนาลันทา แคว้นมคธ เกิดในวรรณะพราหมณ์ มูลเหตุชองการออกบวช เรวตะเป็นลูกชายคนเล็ก พี่ชายและพี่สาว ๖ คน ออกบวช ในพระพุทธศาสนาทั้งหมด พ่อแม่กลัวว่าท่านจะออกบวชเหมือนพี่ ชายและพี่สาวจึงจับแต่งงานกับสาวน้อยคนหนึ่งตอนอายุ ๗ ขวบ ในวันแต่งงานขณะทำพิธีรดนํ้าลังฃ์ มีญาดิผู้ใหญ่คนหนึ่งอายุ ๑๒๐ ปี มาอวยฺพรด้วย ญาดิ ๆ ทั้งหลายจึงอวยพรว่า ขอให้ทั้งสองมีอายุ ยืนเหมือนยายคนนี้ เรว่ตะมองดูยายผมหงอก พินหัก หนังเหี่ยว หลังโก่ง แล้วมองดูหน้าเจ้าสาวของตน คิดว่า ต่อไปเจ้าสาวของเรา ก็จะเหมือนกับยายคนนี้ คิดแล้วสลดลังเวชใจเป็นอย่างยิ่ง ใน ระหว่างทางที่กลับบ้าน จึงหนีออกบวชในสำนักของพระป่ารูปหนึ่ง พระภกษฺรุปนั้นก็บวชให้ตามดำสั่งของพระสารีบตร

www.kalyanamitra.org บรรลุธรรมเป็นพระอรพนต์ สามเณรเรวตะ ครั้นอายุครบ ๒๐ ปีแล้ว ก็ได้บวชเป็นพระ ภิกษุเรียนกรรมฐานในสำนักของพระอุป๋ชฌายอาจารย์ ไปอาศัยอยู่ ไนป้าไม้ตะเคียน บำ เพ็ญเพียรในไฝช้าบรรลุธรรมเป็นพระอรหันต งานประกาศพระศาสนา พระเรวตะมีช้อปฏิบตที่น่าเลื่อมใส คือชอบอยู่ป้า นำ มาร่ง คํวามเลื่อมใสของประชาชนในสมัยนั้น ครั้งหนึ่งพระพุทธองคและ พระอ'!หันด้ ๔๐๐ องค์ไปเยี่ยมท่าน ช้ฬาพรรษาอยู่ที่ป้าไม้ตะเคียน ท่านเนรมิตที่พักกลางวัน ที่พักกลางคืน และที่จงกรมอย่างละ ๔๐๐ ที่ .พระพุทธองค์ประหับอยู่ที่นั่น ๑ เดือน จึงเสด็จกลับ ตาแห่น่งเอตทคคะ พระเรวตะท่านชอบอาศัยอยู่ในป้า พระพุทธองค์ทรงยกย่อง ท่านว่า \"เป็นเลิศกว่าภิกษุฬั้งหลายผู้อยู่ป้า\" ท่านได้ช่วยพระพุทธองค์ เผยแผ่พระพุทธศาสนาเพื่อประโยชนและความสุขของชาวโลฺก ดำ รงอฺายูลังขารพอสมิควรแก่อัตภาพแล้วจึงนิพพาน ๖๘. ประวัติพระสืวลึเถระ สถานะเติม พระสิวลี ชื่อเดิมว่า สิวลี พระบิดาไม่ปรากฏพระนาม พระมารดาพระนามว่า สปปวาสา ชื่งเป็นพระธิดาของเมืองโก่ลิยะ ๑or๙