Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore 64-08-11-คู่มือครู ภาษาไทย ป.6-2

64-08-11-คู่มือครู ภาษาไทย ป.6-2

Published by elibraryraja33, 2021-08-11 02:43:37

Description: 64-08-11-คู่มือครู ภาษาไทย ป.6-2

Search

Read the Text Version

596 คมู่ อื ครแู ละแผนการจดั การเรียนรู้ ระดบั ประถมศึกษา ภาคเรียนที่ ๑ (ภาษาไทย ป.6) ใบงานที่ ๖ เรื่อง แผนภาพความคดิ ประโยค หนว่ ยการเรยี นรูท้ ี่ ๕ เรือ่ ง สุภาษติ สอนหญิง แผนการจดั การเรียนรู้ที่ ๘ เรอ่ื ง ประโยคซอ้ น รายวิชา ภาษาไทย รหัสวชิ า ท๑๖๑๐๑ ภาคเรยี นที่ ๑ ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๖ คาชี้แจง ให้นักเรยี นสรุปความรู้เรอ่ื งประโยค ในรปู แบบแผนผังความคิด ประโยคสามญั ประโยครวม ลกั ษณะของ ประโยค ประโยคซ้อน ชื่อ............................................... สกุล.....................................ชน้ั ...................เลขที่................

หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 5 เรื่อง สุภาษติ สอนหญิง ๕๙๗ แผนการจดั การเรยี นร้ทู ่ี ๙ เรื่อง ประโยคเพือ่ การสือ่ สาร เวลา ๑ ช่วั โมง หนว่ ยการเรียนร้ทู ี่ ๕ เร่ือง สุภาษติ สอนหญงิ กลมุ่ สาระการเรียนรู้ภาษาไทย รายวชิ าภาษาไทย ช้นั ประถมศกึ ษาปที ี่ ๖ ๑. มาตรฐานการเรยี นรู/้ ตัวชีว้ ัด มาตรฐาน ท ๔.๑ เข้าใจธรรมชาติของภาษาและหลกั ภาษาไทย การเปลีย่ นแปลงของภาษาและพลงั ของภาษา ภูมิปญั ญาทางภาษา และรักษาภาษาไทยไว้เปน็ สมบัติของชาติ ตัวชีว้ ัด ป.๖/๔ ระบลุ กั ษณะของประโยค ๒. สาระสาคญั /ความคิดรวบยอด การสื่อสารเพื่อให้ผู้พูดและผู้ฟังมีความเข้าใจตรงกัน ต้องเลือกใช้ประโยคให้ตรงตามวัตถุประสงค์ ประโยคที่ใช้ในการส่ือสาร ได้แก่ ประโยคบอกเล่า ประโยคปฏิเสธ ประโยคคาถาม ประโยคคาส่ัง ประโยค ขอรอ้ ง ประโยคแสดงความต้องการ 3. จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. ดา้ นความรู้ ความเขา้ ใจ (K) บอกความหมายและชนิดของประโยคเพ่อื การส่ือสารได้ ๒. ด้านทกั ษะกระบวนการ (P) แต่งประโยคเพื่อการส่อื สารได้ ๓. ด้านคณุ ลักษณะ เจตคติ คา่ นิยม (A) ใช้ประโยคเพอ่ื การสอื่ สารไดถ้ ูกตามหลกั ภาษาไทย 4. สาระการเรียนรู้ ประโยคเพื่อการส่อื สาร 5. สมรรถนะสาคัญของผู้เรียน 5.1 ความสามารถในการส่อื สาร 5.2 ความสามารถในการคดิ 5.3 ความสามารถในการแก้ปญั หา 5.4 ความสามารถในการใช้ทักษะชีวติ 6. คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ 6.1 มีวนิ ยั 6.2 ใฝเ่ รียนรู้ 6.3 มงุ่ มน่ั ในการทางาน 6.4 อยูอ่ ย่างพอเพียง 7. กจิ กรรมการเรียนรู้

๕๙๘ คู่ม ลําดบั การจดั กจิ กรรมการเรยี นร ที่ แผนการจดั การเรียนรู้ที่ ๙ 1. รายวชิ า ภาษาไทย หน่วยการเรียนรทู้ ี่ ๕ ขอบเขตเนอื้ หา/ ขัน้ ตอนการ เวลาที่ กิจกรรมค จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ จดั การเรียนรู้ ใช้ ๑. ครูและนกั เรยี นรว่ ๕ กันเกี่ยวกบั การใช้ภา ขอบเขตเนอื้ หา ขนั้ นาํ นาที การสอ่ื สาร ประโยคเพื่อ ครู : ในแต่ละวนั นกั การสอื่ สาร การสอื่ สารกนั เร่อื งอ ๒. ครใู หน้ กั เรยี นดู “ แล้วร่วมกันสนทนา เชอ่ื มโยงเขา้ สู่เรือ่ ง ป การสือ่ สาร ครู : นกั เรียนลองแต บอกเลา่ เก่ียวกับกลอ ครู : นกั เรยี นลองแต คําถามเกี่ยวกบั กลอง ครู : นกั เรยี นลองแต คาํ ส่งั เกย่ี วกบั กลองย ครู : นักเรยี นลองแต ขอรอ้ งเกี่ยวกับกลอง ครู : นกั เรียนลองแตง่

มอื ครูและแผนการจัดการเรียนรู้ ระดับประถมศึกษา ภาคเรยี นท่ี ๑ (ภาษาไทย ป.6) รู้ ชนั้ ประถมศึกษาปีท่ี ๖ ๙ ประโยคเพือ่ การส่ือสาร เร่อื ง สุภาษิตสอนหญงิ จาํ นวน ๑ ชว่ั โมง แนวการจดั การเรียนรู้ ส่อื การเรยี นรู้ การประเมนิ การเรียนรู้ ครู กจิ กรรมนกั เรยี น วมสนทนา าษาใน กเรยี นมี นักเรียน : ตอบตาม ๑. กลองยาว อะไรบ้าง ความเป็นจริง “กลองยาว” จากนน้ั ประโยคเพ่ือ ต่งประโยค นักเรียน : ฉนั ชอบตกี ลอง องยาว ยาว ต่งประโยค นกั เรียน : กลองยาวทํามา งยาว จากไมอ้ ะไร ต่งประโยค นักเรียน : หา้ มตีกลองยาว ยาว ในเวลาเรียน ตง่ ประโยค นักเรียน : กรณุ าอยา่ ตีกลอง งยาว งประโยค

หนว่ ยการเรยี นรูท้ ่ี 5 เร่อื ง สภุ าษิตสอนหญงิ ลําดบั ขอบเขตเน้ือหา/ ขัน้ ตอนการ เวลาที่ ท่ี จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ จัดการเรียนรู้ ใช้ ๓๐ กิจกรรมค 2. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ ขนั้ สอน นาที แสดงความต้องการเก 1. บอกความหมาย กลองยาว และชนิดของประโยค ครู : นักเรียนลองแต เพ่อื การสื่อสารได้ ปฏเิ สธเกยี่ วกับกลอง ๒. แตง่ ประโยคเพอ่ื ๑. ครูให้นกั เรยี นร่วม การสื่อสารได้ คน้ ควา้ ตามใบความร ประโยคเพื่อการสอ่ื ส ประกอบการอธิบาย การนําเสนอ เรือ่ ง ป การสอ่ื สาร เปน็ กระ Gang of four ครู : ตามทแ่ี ตล่ ะกลุ่ม ใบความรู้ สามารถส ความร้เู ปน็ ของตนเอ ประกอบดว้ ยอะไรบ ๒. ครใู หน้ กั เรยี นแตง่ เพอ่ื การสือ่ สาร ครู : นกั เรียนแต่ละก หวั เร่ืองทจี่ ะแต่งประ แต่งเป็นประโยคตาม ดงั นี้

๕๙๙ แนวการจดั การเรียนรู้ สื่อการเรยี นรู้ การประเมนิ ๒. ใบความรทู้ ี่ ๘ การเรยี นรู้ ครู กจิ กรรมนกั เรยี น เร่อื ง ประโยค เพอ่ื การสือ่ สาร - สงั เกต ก่ียวกับ ยาวเวลาฉันกาํ ลงั พักผ่อน ๓. สื่อการนาํ เสนอ พฤตกิ รรม เรื่อง ประโยคเพ่อื ตง่ ประโยค นักเรยี น : ฉันขอตีกลองยาว การส่อื สาร งยาว บ้างไดไ้ หม มกนั ศึกษา นกั เรียน : ฉันไม่ใหเ้ ธอตี ร้ทู ่ี ๘ เรอื่ ง กลองยาว สาร ยผา่ นส่อื ประโยคเพื่อ ะบวนการ มไดศ้ ึกษา นักเรยี น : ทําเปน็ แผนผัง สรา้ งองค์ ความคิด ฯลฯ ประกอบดว้ ย องได้อย่างไร ประโยค (บอกเล่า, คําถาม, บา้ ง คาํ สง่ั , ขอรอ้ ง, แสดง ความตอ้ งการ, ปฏิเสธ) งประโยค กลมุ่ กําหนด นักเรยี น : แต่งประโยคเพื่อ ะโยค แล้ว การสอ่ื สารตามหวั เรอื่ งท่ี มหัวข้อ กลุ่มของตนกําหนด

๖๐๐ คูม่ ลําดบั ขอบเขตเน้อื หา/ ขน้ั ตอนการ เวลาท่ี กจิ กรรมค ที่ จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ จัดการเรียนรู้ ใช้ ๑. ประโยคบอกเล 3. ๑๐ ๒. ประโยคคําถาม ข้ันปฏบิ ตั ิ นาที ๓. ประโยคคําส่งั ๔. ประโยคขอรอ้ ง ๕. ประโยคแสดงควา ๖. ประโยคปฏเิ สธ ๓. ครใู หน้ กั เรยี นนาํ เ ผลงาน ครู : นาํ เสนอประโย ของตนเองแต่งขนึ้ มา เรียน ๓. ครูให้นกั เรยี นทาํ ใ เร่อื ง ประโยคเพอื่ กา 4. 3. ใช้ประโยคเพอื่ ขน้ั สรปุ ครใู ห้นกั เรียนสรุปคว การสื่อสารไดถ้ กู ตาม ประโยคเพื่อการสอื่ ส หลักภาษาไทย ครู : นกั เรียนชว่ ยกัน ความรเู้ รื่องประโยคเ การส่ือสาร

มอื ครูและแผนการจดั การเรยี นรู้ ระดับประถมศึกษา ภาคเรียนท่ี ๑ (ภาษาไทย ป.6) แนวการจดั การเรียนรู้ สอื่ การเรยี นรู้ การประเมนิ การเรยี นรู้ ครู กจิ กรรมนกั เรยี น ล่า ม ง นกั เรียน : นาํ เสนอผลงาน ามตอ้ งการ ธ เสนอ ยคทก่ี ลมุ่ า หน้าชั้น ใบงานที่ 7 นักเรียน : ทําใบงานที่ 7 ๔. ใบงานที่ 7 - ประเมนิ ใบงาน ารสอ่ื สาร เรือ่ ง ประโยคเพือ่ เรอ่ื ง ประโยค วามรู้เรื่อง การสือ่ สาร เพื่อการส่ือสาร สาร นักเรยี น : ประโยคสื่อสารที่ นสรุป ได้ศึกษาไปมี ๖ ชนดิ เพ่อื ดว้ ยกนั ดังนี้ ๑. ประโยคบอกเล่า ๒. ประโยคคาํ ถาม ๓. ประโยคคําสง่ั ๔. ประโยคขอร้อง

หนว่ ยการเรียนร้ทู ี่ 5 เร่อื ง สภุ าษิตสอนหญิง ลําดบั ขอบเขตเน้ือหา/ ขนั้ ตอนการ เวลาท่ี ที่ จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ จัดการเรียนรู้ ใช้ กจิ กรรมค ครู : นักเรียนใช้ประ ประโยคเพื่อการสอ่ื ส ชีวติ ประจาํ วันได้อยา่

แนวการจดั การเรียนรู้ ส่อื การเรยี นรู้ ๖๐๑ ครู กจิ กรรมนกั เรยี น การประเมนิ การเรียนรู้ ๕. ประโยคแสดง ความต้องการ ๖. ประโยคปฏิเสธ โดยการใชต้ อ้ งดูตาม ความเหมาะสม ะโยชนจ์ าก นักเรียน : ตอบโดยยึดตาม สารใน ชนดิ และหลกั ความเปน็ จรงิ - ประเมิน างไร การตอบคําถาม

602 คู่มือครแู ละแผนการจดั การเรียนรู้ ระดบั ประถมศกึ ษา ภาคเรยี นท่ี ๑ (ภาษาไทย ป.6) ๘. สื่อการเรียนรู้/แหลง่ การเรียนรู้ ๑. กลองยาว ๒. ใบความรู้ท่ี ๘ เร่ือง ประโยคเพอื่ การส่ือสาร ๓. สื่อการนาเสนอ เรื่อง ประโยคเพอ่ื การสอ่ื สาร ๔. ใบงานท่ี 7 เรอ่ื ง ประโยคเพ่ือการสื่อสาร ๙. การประเมินผลรวบยอด ส่ิงทต่ี อ้ งการวดั /ประเมิน วธิ ีการ เครอื่ งมือทใ่ี ช้ เกณฑ์ ดา้ นความรู้ - บอกความหมายและชนดิ ของ - ตอบคาถาม - คาถาม ผ่านเกณฑ์ ประโยคเพ่อื การสอ่ื สาร การประเมินรอ้ ยละ ๖๐ ข้ึนไป ดา้ นทักษะและกระบวนการ - แตง่ ประโยคเพ่ือการสือ่ สาร - ประเมินใบงาน - แบบประเมนิ ใบงาน ผ่านเกณฑ์ การประเมินรอ้ ยละ ดา้ นคณุ ลักษณะ เจตคติ คา่ นยิ ม ๖๐ ข้นึ ไป - ใชป้ ระโยคเพื่อการส่ือสารตามหลกั ภาษาไทย - ตอบคาถาม - คาถาม ผ่านเกณฑ์ การประเมินระดบั ด้านคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ผ่าน 1. มีวนิ ยั 2. ใฝเ่ รยี นรู้ 1. การสังเกต 1. แบบประเมิน ผ่านเกณฑ์ 3. ม่งุ ม่ันในการทางาน พฤติกรรม คาถาม การประเมนิ ระดับ 4. อยูอ่ ยา่ งพอเพยี ง 2. การตอบคาถาม 2. แบบประเมิน ผ่าน สมรรถนะสาคญั ของผเู้ รยี น การทางานกลมุ่ 1. ความสามารถในการส่ือสาร 2. ความสามารถในการคดิ การสังเกตพฤตกิ รรม 1. แบบประเมิน ผา่ นเกณฑ์ 3. ความสามารถในการแก้ปญั หา การตอบคาถาม คาถาม การประเมนิ ระดับ ๔. ความสามารถในการใชท้ กั ษะชีวติ ผ่าน 2. แบบประเมนิ การทางานกลมุ่

หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ 5 เร่ือง สุภาษติ สอนหญงิ 603 ชิน้ งานหรอื ภาระงาน ใบงานที่ 7 เรอื่ ง ประโยคเพอ่ื การสอ่ื สาร เกณฑก์ ารประเมนิ ผลชนิ้ งานหรอื ภาระงาน ใบงานที่ 7 เรอื่ ง ประโยคเพอื่ การสอื่ สาร ประเด็นการประเมิน ระดับคุณภาพ ๑. อธิบายความหมาย ของประโยคบอกเล่า ๔ (ดีมาก) ๓ (ดี) ๒ (พอใช้) ๑ (ปรับปรุง) อธบิ ายความหมาย ๒. แตง่ ประโยคบอกเล่า ของประโยคบอก อธบิ ายความ อธิบายความ อธบิ ายความ เล่าไดถ้ ูกตอ้ ง หมายของ หมายของ หมายของ ๓. มารยาทในการเขียน ประโยคบอกเลา่ ประโยคบอกเลา่ ประโยคบอกเลา่ แตง่ ประโยคบอก ได้ถกู ต้องเป็น ไดถ้ ูกตอ้ งเปน็ สว่ น ไม่ได้ เล่าไดถ้ ูกต้อง ส่วนมาก นอ้ ย 9-10 ประโยค เขยี นถูกต้อง แต่งประโยคบอก แต่งประโยคบอก แต่งประโยคบอก เรียบรอ้ ย สวยงาม เล่าได้ถูกต้อง เลา่ ได้ถกู ต้อง เลา่ ไดถ้ กู ต้อง 7-8 ประโยค 5-6 ประโยค น้อยกวา่ 4 ประโยค เขียนอา่ นงา่ ย เขยี นอา่ นงา่ ย เขียนอ่านยาก เรยี บรอ้ ย สะอาด มีรอยลบคาผิด เกณฑก์ ารประเมินคุณภาพ ชว่ งคะแนน ระดับคุณภาพ ๑๗-๒๐ ดีมาก ๑๓-๑๖ ดี ๑๐-๑๒ พอใช้ ต่ากว่า ๑๐ ปรับปรงุ เกณฑ์การตัดสิน : ผ่านเกณฑ์การประเมนิ ระดบั พอใช้ขึน้ ไป

604 คมู่ อื ครูและแผนการจดั การเรียนรู้ ระดับประถมศกึ ษา ภาคเรยี นท่ี ๑ (ภาษาไทย ป.6) ๑๐. บันทึกผลหลงั สอน ผลการจัดการเรียนการสอน .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ความสาเรจ็ .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ปญั หาอปุ สรรค .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ข้อจากัดการใชแ้ ผนการจดั การเรียนรู้ และข้อเสนอแนะ/แนวทางการปรบั ปรุงแกไ้ ข .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ลงชอ่ื ......................................................ผสู้ อน (..........................................................) วันท่ี ............. เดอื น ..........พ.ศ. .................. ๑๑. ความคดิ เหน็ /ขอ้ เสนอแนะของผู้บรหิ ารหรอื ผ้ทู ไี่ ดร้ ับมอบหมาย .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ลงช่ือ......................................................ผู้ตรวจ (..........................................................) วันท่ี ............. เดือน ..........พ.ศ. ..................

หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 5 เร่ือง สภุ าษิตสอนหญิง 605 ใบความรทู้ ี่ ๘ เรอ่ื ง ประโยคเพือ่ การสอื่ สาร หน่วยการเรยี นรู้ที่ ๕ เร่อื ง สุภาษติ สอนหญิง แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ ๙ เร่อื ง ประโยคเพ่อื การสื่อสาร รายวิชา ภาษาไทย รหัสวิชา ท๑๖๑๐๑ ภาคเรยี นท่ี ๑ ช้ันประถมศึกษาปีที่ ๖ ประโยคท่ใี ชใ้ นการสอ่ื สาร มหี ลายชนดิ ต้องพิจารณาเลือกใช้ใหต้ รงตามจดุ ประสงค์ เช่น ๑. ประโยคบอกเลา่ ใชบ้ อกเล่าเร่อื งราวตา่ ง ๆ ใหผ้ ู้อน่ื รเู้ รอื่ ง เชน่ วนั น้ีคณุ ยายจะพาผมไปดลู ะคร จดุ รวมความสนใจอย่ทู เี่ วทีการแสดง ผมจะฝกึ ตีกลองมโนราห์ ๒. ประโยคปฏิเสธ ใชบ้ อกวา่ เรือ่ งราวนั้น ๆ ไม่ใช่ ไมต่ ้องการ หรือไมจ่ รงิ มกั มคี าวา่ ไม่ ไม่ใช่ ไม่ได้ อย่ดู ้วย เช่น ฉันไม่ชอบชมการแสดง นไ่ี มใ่ ช่นสิ ยั ของโอม ผมไมไ่ ดไ้ ปเทีย่ วกบั เพ่ือนเพราะพาคณุ ยายไปชมละคร ๓. ประโยคคาถาม ใช้ถามผู้อน่ื เมื่อต้องการคาตอบ มกั มีคาแสดงคาถาม ใคร อะไร ทีไ่ หน เม่อื ไร ทาไม ไหม ฯลฯ เชน่ ใครแสดงเป็นนางมโนราห์ โอมประทบั ใจอะไรจากการชมการแสดง หิวไหม เข้าหอ้ งน้าไหม ๔. ประโยคขอรอ้ ง ใช้ขอร้องให้ผูอ้ ่ืนทาอย่างหนึ่งอยา่ งใด มักมีคาว่า กรุณา โปรด ชว่ ย ฯลฯ อยูด่ ว้ ย เช่น กรณุ าปิดโทรศพั ท์มอื ถอื ระหวา่ งชมการแสดง โปรดร่วมมือกบั โรงละครแหง่ ชาติในการรกั ษาความสะอาด ชว่ ยรกั ษาสมบตั ิของชาติดา้ นนาฏศิลป์ดว้ ย

606 คมู่ ือครแู ละแผนการจดั การเรยี นรู้ ระดบั ประถมศึกษา ภาคเรียนท่ี ๑ (ภาษาไทย ป.6) 5. ประโยคแสดงความตอ้ งการ ใชบ้ อกความต้องการของตนเองใหผ้ อู้ น่ื รับรู้ มกั มคี าว่า อยาก ตอ้ งการ ประสงค์ อยูด่ ว้ ย เช่น ฉนั อยากไปขจ่ี กั รยานร่วมรณรงค์ประหยัดพลงั งาน ผมตอ้ งการไปโรงละครแหง่ ชาติเพ่อื เป็นเพอ่ื นคุณยาย เราทกุ คนประสงค์จะมคี อนเสริ ์ตทานองกลองไทยที่มชี ือ่ เสียง 6. ประโยคคาสั่ง ใช้สง่ั ให้ผอู้ น่ื ทาอยา่ งใดอย่างหนึ่ง อาจใหท้ าหรอื ห้ามมิใหท้ ากไ็ ด้ เช่น หา้ มถ่ายภาพ ห้ามนาอาหารเขา้ มารับประทาน จงปฏบิ ัตติ ามระเบยี บการเขา้ ชมโรงละครแหง่ ชาติ อย่าลมื ไปเป็นเพอื่ นคุณยายนะลูก ภาษาพาที ช้ันประถมศึกษาปที ี่ ๖ กระทรวงศกึ ษาธิการ : ๒๕๕๖. หน้า ๗๘-๗๙

หน่วยการเรยี นรูท้ ่ี 5 เร่ือง สุภาษติ สอนหญิง 607 ใบงานท่ี ๗ เร่ือง ประโยคเพอ่ื การสอื่ สาร หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ ๕ เรอ่ื ง สุภาษิตสอนหญิง แผนการจดั การเรียนรูท้ ่ี ๙ เรือ่ ง ประโยคเพ่อื การสื่อสาร รายวชิ า ภาษาไทย รหสั วชิ า ท๑๖๑๐๑ ภาคเรยี นที่ ๑ ช้ันประถมศึกษาปีที่ ๖ คาชี้แจง อ่านป้ายท่กี าหนดให้ แล้วนาสาระสาคัญจากปา้ ยมาแตง่ ประโยคเพอื่ การส่อื สาร ท่กี าหนดให้ สาเหตไุ ข้เลอื ดออก ระบาดหนักในฤดูฝน ควรปอ้ งกันและเฝา้ ระวังอยา่ งใกล้ชิด ปดิ เปล่ยี น ปลอ่ ย ปรบั ปรุง ปฏิบตั ิ ขัด ฝาภาชนะ นา้ ใน ปลากนิ ลูกนา้ สภาพ จนเปน็ ภาชนะ ใส่น้า ภาชนะ ในอ่างไม้น้า แวดล้อม นิสัย กาจัดไข่ยงุ ทกุ 7 วัน ประโยคบอกเลา่ ........................................................................................................... ประโยคปฏเิ สธ ......................................................................................................... ประโยคคาถาม ......................................................................................................... ประโยคคาสั่ง ......................................................................................................... ประโยคขอรอ้ ง ......................................................................................................... ชื่อ....................................................................................ชัน้ .......................เลขที่..............

๖๐๘ คมู่ ือครูและแผนการจัดการเรียนรู้ ระดบั ประถมศึกษา ภาคเรยี นท่ี ๑ (ภาษาไทย ป.6) แผนการจดั การเรียนรูท้ ี่ ๑๐ เร่อื ง การอ่านประกาศ หน่วยการเรยี นรู้ที่ ๕ เรอ่ื ง สุภาษิตสอนหญิง เวลา ๑ ชว่ั โมง กลุม่ สาระการเรยี นร้ภู าษาไทย รายวชิ าภาษาไทย ชนั้ ประถมศึกษาปที ่ี ๖ ๑. มาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตัวช้วี ดั มาตรฐาน ท ๑.๑ ใชก้ ระบวนการอา่ นสร้างความรู้และความคดิ เพื่อนาไปใช้ตดั สนิ ใจ แก้ปัญหาในการดาเนิน ชวี ิตและมีนิสัยรักการอ่าน ตัวช้วี ัด ป.๖/๓ อ่านเร่ืองสน้ั ๆ อย่างหลากหลายโดยจบั เวลาแล้วถามเกีย่ วกบั เร่ืองทอ่ี ่าน ๒. สาระสาคัญ/ความคดิ รวบยอด ประกาศ เปน็ ข้อความการบอกความต้องการ หรือขอ้ เท็จจรงิ ของหนว่ ยงานหรอื บุคคลเพื่อให้ทราบทว่ั กันอยา่ งกวา้ งขวาง มี ๒ ประเภท คือ ที่ไม่เป็นทางการ และเปน็ ทางการ 3. จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ 1. ด้านความรู้ ความเขา้ ใจ (K) บอกหลกั ในการอา่ นประกาศได้ ๒. ด้านทักษะกระบวนการ (P) ๑. อ่านประกาศท่เี ป็นทางการและประกาศไมเ่ ป็นทางการได้ ๒. ตอบคาถามจากประกาศได้ ๓. ด้านคณุ ลกั ษณะ เจตคติ คา่ นิยม (A) เหน็ ถึงประโยชน์ของการอ่านประกาศ 4. สาระการเรยี นรู้ อา่ นประกาศทเี่ ปน็ ทางการ 5. สมรรถนะสาคัญของผูเ้ รียน 5.1 ความสามารถในการสอ่ื สาร 5.2 ความสามารถในการคิด 5.3 ความสามารถในการแกป้ ญั หา 5.4 ความสามารถในการใช้ทกั ษะชวี ติ 6. คุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ 6.1 มวี ินยั 6.2 ใฝเ่ รยี นรู้ 6.3 มงุ่ มัน่ ในการทางาน 6.4 อยอู่ ยา่ งพอเพียง 7. กิจกรรมการเรยี นรู้

หน่วยการเรยี นร้ทู ่ี 5 เรอ่ื ง สภุ าษติ สอนหญงิ การจัดกิจกรรมการเรยี นร แผนการจัดการเรยี นรู้ท รายวชิ า ภาษาไทย หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี ๕ ลําดบั ขอบเขตเนอ้ื หา/ ข้ันตอนการจดั เวลา แ ที่ จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ การเรียนรู้ ทใ่ี ช้ 1. ขอบเขตเน้ือหา กจิ กรรมคร การอ่านประกาศอย่าง ข้นั นาํ ๕ ๑. ครสู นทนากบั นักเร เปน็ ทางการ นาที ประกาศต่าง ๆ ในชีวิต ครู : นักเรยี นเคยเหน็ ป อะไรบ้างในชวี ิตประจ ครู : ประกาศนัน้ นกั เร เห็นที่ไหน ครู : นกั เรียนเคยอา่ น ของโรงเรียนบ้างหรือไ ครู : โรงเรียนประกาศ อะไรบ้าง ครู : นักเรียนได้ประโย จากการอา่ นประกาศเ ๒. ครูเชอ่ื มโยงคาํ ตอบ นกั เรียนและนาํ เขา้ สู่บ เรื่อง การอา่ นประกาศ

รู้ ชัน้ ประถมศกึ ษาปีที่ ๖ ๖๐๙ ที่ ๑๐ การอา่ นประกาศ การประเมนิ เร่ือง สภุ าษิตสอนหญิง จาํ นวน ๑ ชว่ั โมง การเรียนรู้ แนวการจดั การเรียนรู้ สือ่ การเรยี นรู้ ๑. สอ่ื ppt เรือ่ ง รู กิจกรรมนกั เรยี น การอา่ นประกาศ รียน เรอ่ื ง นักเรียน : ประกาศรับสมคั ร ตประจาํ วัน งาน ประกาศขายบา้ น ประกาศ ของหาย ประกาศเชิญชวน ประกาศ จาํ วัน รียนเคย นักเรยี น : ตามปา้ ยโฆษณา หนงั สอื พิมพ์ วารสาร สอื่ นประกาศ ออนไลน์ ไม่ นักเรียน : เคย ศเรือ่ ง นักเรียน : การเปดิ ปดิ ยชน์อะไร เรยี น/ การรับสมัครนกั เรยี น เหลา่ นนน้ั นักเรยี น : ได้รขู้ า่ วสารตา่ ง ๆ บของ บทเรียน ศ

๖๑๐ ค่มู ลําดบั ขอบเขตเนือ้ หา/ ขน้ั ตอนการจดั เวลา แ ท่ี จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ การเรียนรู้ ท่ใี ช้ กิจกรรมคร 2. จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ ๒๐ ๑. ครแู จกตัวอยา่ งประ 1. อา่ นประกาศท่เี ป็น ข้ันสอน นาที ประเภทตา่ ง ๆ ให้นักเร ทางการและประกาศ ครู : นักเรยี นแต่ละกล ไมเ่ ป็นทางการได้ ประกาศตา่ ง ๆ และช พิจารณาความแตกต่า ประกาศแต่ละประเภท ๒. ครสู นทนากับนกั เร ประกาศ ครู : นกั เรียนคิดว่าปร เป็นทางการและไม่เป มคี วามเหมือนหรือตา่ งก ๓. ครใู หน้ กั เรยี นศึกษา ท่ี ๙ เรื่อง การอา่ นประ ครู : นกั เรยี นในกลุ่มช ระดมความคดิ สรปุ ลัก ประกาศท่เี ป็นทางการ เป็นทางการ ๔. ครูอธิบายความรเู้ พ เรอ่ื งการอ่านประกาศ

มอื ครูและแผนการจดั การเรียนรู้ ระดบั ประถมศึกษา ภาคเรยี นท่ี ๑ (ภาษาไทย ป.6) แนวการจดั การเรยี นรู้ สื่อการเรยี นรู้ การประเมิน ๒. ตัวอยา่ ง การเรียนรู้ รู กจิ กรรมนกั เรยี น ประกาศตา่ ง ๆ - การตอบคําถาม ะกาศ ๓. ใบความรูท้ ี่ ๙ โดยกระบวนการ รียนศกึ ษา เรื่อง การอา่ น กลมุ่ ลุม่ อ่าน นกั เรียน : ศึกษาตัวอย่าง ประกาศ - สังเกต ช่วยกัน ประกาศ พฤตกิ รรม างของ ท รยี นเรือ่ ง ระกาศท่ี นกั เรียน : ต่างกัน ปน็ ทางการ งกันอยา่ งไร าใบความรู้ นักเรยี น : ศกึ ษาใบความรู้ท่ี ะกาศ ๙ เรอ่ื ง การอา่ นประกาศ ช่วยกนั นักเรียน : อ่านประกาศต่าง ๆ กษณะของ และชว่ ยกันพิจารณาความ รและไม่ แตกต่างของประกาศแตล่ ะ ประเภท พิ่มเติม ศ

หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี 5 เรื่อง สภุ าษติ สอนหญงิ ลําดบั ขอบเขตเนอ้ื หา/ ขนั้ ตอนการจดั เวลา แ ที่ จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ การเรยี นรู้ ทใี่ ช้ กิจกรรมคร 3. ๑. อ่านประกาศท่เี ป็น ขั้นปฏบิ ตั ิ ๒๐ ๑. ครูใหน้ กั เรยี นอา่ นป ทางการและประกาศ นาที ของกรมอุตนุ ยิ มวิทยา ไม่เปน็ ทางการได้ ขั้นสรปุ คําถาม ๒. ตอบคําถามจาก ๕ ประกาศได้ นาที ๒. นกั เรยี นทําใบงานท การอา่ นประกาศ 3. เหน็ ถึงประโยชน์ ของการอา่ นประกาศ ครู : ประเมนิ ใบงานขอ ๓. ครชู ักถามนกั เรียน และอปุ สรรคในการอ่า ประกาศของนักเรยี น ครู : นกั เรียนมีปญั หา การอ่านประกาศ ๓. ครแู ละนักเรยี นรว่ ม อภปิ ราย ความรเู้ รื่อง ประกาศตามประเด็นต คร:ู การอ่านประกาศม ประโยชนอ์ ยา่ งไร ครู : นกั เรยี นสามารถน เรอื่ งการอ่านประกาศป ต่าง ๆ ไปใชใ้ นชีวติ ปร อย่างไร

แนวการจดั การเรียนรู้ สื่อการเรียนรู้ ๖๑๑ ๔. ใบงานท่ี 8 การประเมนิ รู กิจกรรมนกั เรยี น เร่ือง การอา่ น การเรียนรู้ ประกาศ ประกาศ าแล้วตอบ - ประเมนิ ใบงาน ที่ 8 เรอื่ ง นักเรยี น : อ่านประกาศ - ประเมิน การตอบคาํ ถาม องนกั เรียน นักเรยี น : ตอบคําถามจาก นถงึ ปญั หา การอ่านประกาศ - ประเมิน นกั เรียน : นําเสนอใบงาน การตอบคาํ ถาม าน นกั เรียน : (ตอบคําถามตาม าอะไรใน ความเปน็ จรงิ ) มกัน นกั เรียน : ตอบตามทไ่ี ด้ ศึกษามา การอา่ น นักเรียน : ทาํ ใหร้ เู้ ร่อื งราว ตอ่ ไปน้ี ตา่ ง ๆ มี นกั เรยี น :อา่ นประกาศเพื่อ นําความรู้ รับร้ขู า่ วสารและปฏบิ ตั ติ าม ประเภท ระจาํ วันได้

612 ค่มู อื ครูและแผนการจดั การเรียนรู้ ระดับประถมศกึ ษา ภาคเรียนท่ี ๑ (ภาษาไทย ป.6) ๘. สอ่ื การเรยี นร/ู้ แหลง่ การเรยี นรู้ ๑. ส่อื การนาเสนอ เรอ่ื ง การอา่ นประกาศ ๒. ตัวอย่างประกาศตา่ ง ๆ ๓. ใบความร้ทู ่ี ๙ เรอ่ื ง การอา่ นประกาศ ๔. ใบงานที่ 8 เร่อื ง การอา่ นประกาศ ๙. การประเมินผลรวบยอด สง่ิ ทีต่ อ้ งการวดั /ประเมิน วิธีการ เครอื่ งมอื ทใี่ ช้ เกณฑ์ ด้านความรู้ - ตอบคาถาม - บอกหลักในการอา่ นประกาศ - คาถาม ผ่านเกณฑ์ การประเมิน ร้อยละ ๖๐ ข้นึ ไป ด้านทกั ษะและกระบวนการ - แบบประเมินใบงาน ผา่ นเกณฑ์ - อ่านประกาศท่ีเป็นทางการและ - ประเมินใบงาน การประเมนิ ประกาศไมเ่ ป็นทางการ ร้อยละ ๖๐ ข้นึ ไป ตอบคาถามจากประกาศ ด้านคุณลกั ษณะ เจตคติ ค่านยิ ม - ตอบคาถาม ผา่ นเกณฑ์ เห็นถึงประโยชนข์ องการอา่ นประกาศ - ตอบคาถาม การประเมินระดับ ผ่าน ดา้ นคุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ 1. การสงั เกต 1. แบบประเมิน ผ่านเกณฑ์ 1. มีวนิ ยั พฤตกิ รรม คาถาม การประเมนิ ระดับ 2. ใฝ่เรยี นรู้ 2. การตอบคาถาม 2. แบบประเมิน ผ่าน 3. มุ่งม่ันในการทางาน 1. การสังเกต ทางานกลมุ่ 4. อยอู่ ยา่ งพอเพียง พฤติกรรม สมรรถนะสาคัญของผู้เรยี น 2. การตอบคาถาม 1. แบบประเมิน ผา่ นเกณฑ์ 1. ความสามารถในการสอื่ สาร คาถาม การประเมินระดับ 2. ความสามารถในการคิด 2. แบบประเมิน ผา่ น 3. ความสามารถในการแก้ปัญหา ทางานกลมุ่ ๔. ความสามารถในการใชท้ กั ษะชีวติ

หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ 5 เร่อื ง สภุ าษติ สอนหญงิ 613 ๑๐. บนั ทกึ ผลหลงั สอน ผลการจดั การเรียนการสอน .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ......................................................................................................... ..................................................................... ความสาเรจ็ .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ปัญหาอปุ สรรค .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................... ขอ้ จากดั การใชแ้ ผนการจดั การเรียนรู้ และขอ้ เสนอแนะ/แนวทางการปรบั ปรงุ แก้ไข .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ลงชอ่ื ......................................................ผสู้ อน (..........................................................) วนั ท่ี ............. เดอื น ..........พ.ศ. .................. ๑๑. ความคิดเห็น/ขอ้ เสนอแนะของผู้บริหารหรอื ผ้ทู ไ่ี ด้รับมอบหมาย .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ลงชอ่ื ......................................................ผู้ตรวจ (..........................................................) วนั ท่ี ............. เดอื น ..........พ.ศ. ..................

614 คมู่ อื ครูและแผนการจดั การเรยี นรู้ ระดับประถมศึกษา ภาคเรยี นที่ ๑ (ภาษาไทย ป.6) ใบความรู้ท่ี ๙ เรอ่ื ง การอา่ นประกาศ หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี ๕ เรอ่ื ง สภุ าษติ สอนหญงิ แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ ๑๐ เรอ่ื ง การอา่ นประกาศ รายวชิ า ภาษาไทย รหสั วชิ า ท๑๖๑๐๑ ภาคเรียนท่ี ๑ ชั้นประถมศกึ ษาปที ี่ ๖ การอ่านขา่ วสารของทางราชการ การอ่านข่าวสารของทางราชการ เป็นการส่ือสารข้อความจากหน่วยงานราชการถึง ประชาชนบคุ คลท่ัวไป อาจจดั ทําในรูปแบบต่าง ๆ จุดมุ่งหมายของการอา่ นขา่ วสารของทางราชการ มีดังน้ี 1. อ่านเพือ่ รบั ทราบ 2. อา่ นเพ่อื นาํ ไปปฏิบตั ิ ประกาศ เป็นข้อความที่แจ้งเร่ืองราวให้ผู้อื่นทราบ เช่น ประกาศทางราชการ ประกาศ บริษัท ห้างรา้ น การเขียนประกาศ เป็นการบอกความต้องการ หรือข้อเท็จจริงของหน่วยงานหรือบุคคล เพ่อื ใหท้ ราบ ทั่วกันอย่างกว้างขวาง มี ๒ ประเภท คือ ประกาศท่ีไม่เป็นทางการ และประกาศท่ี เปน็ ทางการ ๑. ประกาศทไี่ ม่เปน็ ทางการ เป็นการเขียนแจ้งเรื่องให้ผู้อ่ืนทราบและให้ปฏิบัติตามความต้องการของผู้ประกาศ โดยจะ บอกความต้องการและหรือจุดประสงค์ และให้รายละเอียดประกอบตามความจําเป็น ภาพ หรือ คุณลักษณะทเี่ ด่นชัด ตัวอย่าง การประกาศสตั วเ์ ลยี้ งหาย แมวตวั นห้ี ายทสี่ นามบนิ ณ วนั ที่ 13 ในเวลา 17:20 ถา้ มใี ครหาเจอรบกวนโทรแจง้ เบอร์ 095-377057 ขอขอบคณุ ลว่ งหนา้ คนใจดี ทกุ ทา่ นครบั เราจะจา่ ย 5000 บาทเป็ น คา่ ตอบแทนใหน้ ะครบั https://www.naewna.com/likesara/426795

หน่วยการเรยี นรู้ที่ 5 เรือ่ ง สุภาษติ สอนหญิง 615 ๒. ประกาศทีเ่ ป็นทางการ สว่ นใหญ่เปน็ ประกาศทางราชการ มหี ลกั การเขยี นทส่ี าคัญคอื ๑. บอกใจความสาคัญให้ครบว่า ใคร ทาอะไร ที่ไหน เม่ือไร อย่างไร ทาไม ตาม จดุ ประสงค์ ๒. ลาดับความจากบอกเหตุไปหาผล หรือบอกความต้องการ แล้วให้ผู้เก่ยี วข้องปฏิบัติ ตาม ๓. ใชถ้ ้อยคาทกี่ ระชบั ชัดเจน ภาษาทเ่ี ปน็ แบบแผนหรอื กึง่ แบบแผน ไมใ่ ชภ้ าษาพูด ๔. การเขยี นตามรปู แบบของประกาศ ตัวอยา่ ง ประกาศ...(ชือ่ หนว่ ยงานราชการท่ีออกประกาศ) เรอื่ ง...(ชอ่ื เรอื่ งทปี่ ระกาศ) (ยอ่ หนา้ )...........อ้างเรอ่ื งทีป่ ระกาศ.................................................................................. ...................................................................................................................................................... (ยอ่ หน้า)............จุดประสงคส์ าคัญ รายละเอยี ด เงอื่ นไขตา่ ง ๆ และขั้นตอนการปฏบิ ตั ิ ..................................................................................................................................................... จงึ ประกาศมาให้ทราบโดยทั่วกัน ประกาศ ณ วันท่ี...........เดือน...................พ.ศ...... ลายมือช่อื ผู้ประกาศ (ชือ่ เตม็ ของเจา้ ของลายมือ) ตาแหน่งของผ้อู อกประกาศ

616 คูม่ ือครูและแผนการจดั การเรียนรู้ ระดับประถมศึกษา ภาคเรียนที่ ๑ (ภาษาไทย ป.6) ประกาศสานักงานคณะกรรมการการศกึ ษาข้นั พืน้ ฐาน เรอ่ื ง อนุญาตให้ใช้สือ่ การเรียนรู้ในสถานศึกษา ____________________ ดว้ ยสานักงานคณะกรรมการการศกึ ษาข้ันพ้นื ฐาน ได้จัดทาหนังสอื เรยี น รายวชิ าพน้ื ฐานภาษาไทย ชดุ ภาษาเพ่ือชีวติ ภาษาพาที ชั้นประถมศึกษาปีท่ี ๕ กลมุ่ สาระ การเรยี นรู้ภาษาไทย ตามหลักสตู รแกนกลางการศึกษาขน้ั พื้นฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑ สานักงานคณะกรรมการการศึกษา ขน้ั พนื้ ฐานพิจารณาแล้ว อนุญาตให้ใช้ในสถานศกึ ษาได้ ประกาศ ณ วันท่ี ๒๐ ธนั วาคม พ.ศ.๒๕๕๓ ชินภัทร ภมู ิรัตน์ (นายชินภัทร ภูมิรัตน์) เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขัน้ พืน้ ฐาน

หน่วยการเรยี นร้ทู ่ี 5 เรอื่ ง สภุ าษติ สอนหญงิ 617 ใบงานที่ ๘ เรอื่ ง การอา่ นประกาศ หนว่ ยการเรียนรูท้ ี่ ๕ เร่ือง สุภาษติ สอนหญิง แผนการจัดการเรยี นรทู้ ี่ ๑๐ เรอื่ ง การอา่ นประกาศ รายวชิ า ภาษาไทย รหสั วิชา ท๑๖๑๐๑ ภาคเรยี นที่ ๑ ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๖ คาชแ้ี จง อ่านประกาศกรมอตุ ุนิยมวทิ ยา เรอ่ื ง พายุมังคุด แล้วตอบคาถาม (๑๐ คะแนน) ประกาศกรมอุตุนิยมวทิ ยา พายุ “มังคุด” ฉบบั ท่ี 1 ลงวนั ที่ 07 สงิ หาคม 2556 เมื่อเวลา 04.00 น. วันน้ี (7 ส.ค. 56) พายุโซนร้อน “มังคุด” (MANGKHUT) ได้ทวีกาลัง แรงขึ้นจากพายุดีเปรสชันบริเวณทะเลจีนใต้ตอนกลาง มีศูนย์กลางอยู่ห่างประมาณ 550 กม. ทางทศิ ตะวันออกเฉียงใตข้ องกรุงฮานอย ประเทศเวียดนาม หรอื ที่ละติจูด 17.0 องศาเหนือ ลองจิจดู 109.5 องศาตะวันออก มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนยก์ ลางประมาณ 65 กม./ชม. พายุน้ีกาลังเคล่ือนตัวทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ ด้วยความเร็วประมาณ 25 กม./ชม. มี แนวโน้มเคล่ือนข้ึนฝ่ังบริเวณประเทศเวียดนามตอนบน ในวันที่ 8 สิงหาคม 2556 นี้ ลัก ษ ณ ะเช่ นน้ี ท าให้ ในช่ วงวัน ที่ 7-9 สิ งห าคม 2556 จ ะมี ฝ น ต ก ห นั ก ในภ าค ตะวันออกเฉียงเหนือ บริเวณจังหวัดเลย หนองคาย บึงกาฬ อุดรธานี หนองบัวลาภู สกลนคร นครพนม และมุกดาหาร ส่วนภาคเหนือ บริเวณจังหวัดเชียงราย พะเยา น่าน แพร่ อุตรดิตถ์ และเพชรบรู ณ์ ขอให้ประชาชนระวังอันตรายจากสภาวะอากาศดังกลา่ วไว้ด้วย อน่ึง มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ท่ีพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย มีกาลังแรง ขึน้ ทาให้บริเวณด้านตะวันตกของภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก ยังคงมี ฝนตกหนกั ได้ บางแห่ง ขอใหป้ ระชาชนบริเวณจงั หวัดจนั ทบรุ ี ตราด ระนอง พังงา ภูเก็ต กระบ่ี ตรัง และสตูล ระวงั อันตรายจากฝนตกหนัก สว่ นคล่ืนลมในทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบน สงู ประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเพมิ่ ความระมดั ระวงั ในการเดนิ เรอื ในระยะนีไ้ วด้ ้วย ประกาศ ณ วันที่ 7 สิงหาคม พ.ศ. 2556 เวลา 05.00 น. (ลงชือ่ ) วรพฒั น์ ทิวถนอม (นายวรพัฒน์ ทิวถนอม) อธบิ ดีกรมอตุ ุนยิ มวทิ ย

618 คูม่ อื ครแู ละแผนการจัดการเรียนรู้ ระดบั ประถมศึกษา ภาคเรยี นท่ี ๑ (ภาษาไทย ป.6) ตอบคาถามจากการอ่านประกาศ ๑. หน่วยงานที่ออกประกาศคือหน่วยงาน ใด ..................................................................................................................................................... .......................................................... ๒. เรอ่ื งทอี่ อกประก.าศคอื เรอ่ื งใด ............................................... ........................................................................................................................................................................................................................ ๓……. …ท…า…ไม…ต.…้องออกป. ระกาศ ........ ....................................................................................................................................................... ............................................................ ……๔…. …ผ…ู้ได…้ร.…บั ผลกระทบตามขอ้ ความในประกาศ .. คือ …...…....…...…....…...…....…........................................................................................................................................ ..................................................... ๕. เง่ือนไขและขน้ั ตอน.การปฏบิ ตั ิคืออย่างไร .............................................................................................. .......................................................... ....................................................... ……………….… ๖. ประกาศนนี้ ่าเชอ่ื .ถือหรอื ไม่ เพราะเหตุใด ........ .............................................................................................................................................................. ชื่อ.....................…......…......….....….......….....…..........….................................................................................ชน้ั .......................เลขท.ี่ ............ ........................................................................................................................................ .. ……………….…

หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 5 เร่ือง สุภาษติ สอนหญิง 619 แบบประเมินตนเอง ชอื่ : ___________________ สกุล : _________________วัน____ เดือน___________พ.ศ. _____ หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี________๕_______เรอื่ ง_______________สภุ าษติ สอนหญิง________________ ๑. ประเมนิ การเรียนรขู้ องตนเอง กาเครื่องหมาย  ในช่องระดับความสามารถของแต่ละกิจกรรมที่นักเรียนคิดว่าทาได้ตามระดับ การประเมนิ เหลา่ นี้ ระดบั ความสามารถ : ดีมาก ค่อนขา้ งดี ดี พอใช้ ปรบั ปรงุ ที่ รายการ ระดบั ความสามารถ ดีมาก ค่อน ดี พอใช้ ปรับปรงุ ขา้ งดี ๑ การบอกความหมายของคาศพั ท์ในเรือ่ ง ๒ การอ่านจบั ใจความและบทรอ้ ยกรอง ๓ การวเิ คราะห์คุณคา่ ของเรือ่ ง ๔ บอกลักษณะประโยครวม ประโยคซอ้ น และประโยค เพ่ือการสื่อสาร ๕ อ่านประกาศทเี่ ปน็ ทางการและประกาศไมเ่ ปน็ ทางการ 2. ส่ิงทฉ่ี นั ยงั ไม่เขา้ ใจ / ยังทาได้ไมด่ ี คอื …… (สามารถเขียนไดม้ ากกวา่ 1 อยา่ ง) ……………………………………………................................................................................................ .................................................................................................................................................. .............................……………………………………………................................................................... .................................................................................................................................................. 3. สิ่งที่ฉนั ต้ังใจจะทาใหด้ ขี ้นึ ในการเรียนหน่วยตอ่ ไป (สามารถเขียนได้มากกว่า 1 อยา่ ง) ……………………………………………................................................................................................ ........……………………………………………........................................................................................ .................................................................................................................................................. ..................................................................................................................................................

๖๒๐ คู่มอื ครแู ละแผนการจัดการเรยี นรู้ ระดับประถมศกึ ษา ภาคเรยี นที่ ๑ (ภาษาไทย ป.6) หน่วยการเรียนร้ทู ี่ ๖ สรา้ งสรรค์งานเขยี น

หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 6 เรอ่ื ง สรา้ งสรรคง์ านเขียน ๖๒๑ ชอ่ื หน่วยการเรยี นรู้ หนว่ ยการเรียนร้ทู ่ี ๖ สรา้ งสรรค์งานเขยี น รหสั วชิ า ท ๑๖๑๐๑ รายวิชาภาษาไทย กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ภาษาไทย ชน้ั ประถมศึกษาปีท่ี ๖ ภาคเรียนท่ี ๑ ปีการศึกษา ๒๕๖๓ เวลา ๘ ชั่วโมง ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… สาระที่ ๒ การเขยี น มาตรฐาน ท ๒.๑ ใช้กระบวนการเขียนเขียนสื่อสาร เขยี นเรยี งความ ย่อความ และเขียนเร่ืองราวในรูปแบบตา่ ง ๆ เขยี นรายงานข้อมูลสารสนเทศและรายงานการศกึ ษาคน้ ควา้ อยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพ ตวั ชวี้ ัด ป.๖/๒ เขียนส่อื สารโดยใช้คาไดถ้ ูกตอ้ งชัดเจน และเหมาะสม ป.๖/๔ เขยี นเรียงความ ป.๖/๘ เขยี นเร่อื งตามจินตนาการและสร้างสรรค์ สาระที่ ๓ การฟงั การดู และการพูด มาตรฐาน ท ๓.๑ สามารถเลือกฟังและดูอย่างมีวิจารณญาณ และพูดแสดงความรู้ ความคิด และ ความรสู้ ึกในโอกาสต่าง ๆ อย่างมวี จิ ารณญาณและสรา้ งสรรค์ ตวั ชวี้ ัด ป.๖/๕ พูดโน้มนา้ วอย่างมีเหตผุ ล และน่าเชอ่ื ถือ ๒. สาระสาคัญ/ความคิดรวบยอด การเขียนมีวัตถุประสงค์ในการเขียนแตกต่างกัน การเขียนเรียงความ เป็นการเขียนท่ีมุ่งถ่ายทอด เรื่องราว ความรู้ ความคิด และทัศนคติดว้ ยภาษาถ้อยคาที่สละสลวย โดยคานึงถึงองค์ประกอบในการเขียน เรียงความ และมีมารยาทในการเขียน การเขียนจดหมายกิจธุระ เป็นการเขียนสือ่ สาร ซ่ึงมีเนื้อหาเป็นเร่ือง เฉพาะบุคคล เพือ่ ส่อื สารบอกเล่าเร่อื งราว แจง้ ความต้องการ หรือแสดงความคดิ เหน็ ตา่ ง ๆ โดยใช้ถ้อยคาและ สานวนภาษาท่ีเหมาะสมตามกาลเทศะ ผเู้ ขียนต้องมีมารยาทในการเขียน การพูดโน้มนา้ ว เป็นการพดู ใหผ้ ้อู ื่นเชอื่ ถือและคล้อยตามผู้พดู อย่างมีเหตุผล การพูดในโอกาสต่าง ๆ ผู้พดู ต้องร้หู ลกั การการเตรยี มตวั ใน การพูด ควรพูดด้วยสานวนภาษาท่ีเหมาะสม สุภาพ มีบุคลิกภาพทด่ี ีและ แสดงออกด้วยความจริงใจ และมีมารยาทในการพูด ผู้ฟังท่ีดีควรมีมารยาทที่ดใี นการฟัง รู้จักต้ังคาถามและ ตอบคาถามเชิงเหตุผลจากเรื่องที่ฟังและดู ทาให้สามารถจับใจความสาคัญของเรื่อง รแู้ ละเข้าใจจดุ ประสงค์ ของเรื่องทฟ่ี ังและดู สามารถวิเคราะหค์ วามนา่ เชื่อถือ เพื่อนาความรู้หรือข้อคิดท่ไี ด้มาปฏิบัติให้เปน็ ประโยชน์ ตอ่ ตนเองและผู้อ่ืนได้ ๓. สาระการเรยี นรู้ ความรู้ ๑. หลักการพูดโนม้ นา้ วใจ ๒. การเขียนเรื่องจากภาพ ๓. การเขยี นนิทาน ๔. การเขียนเรียงความ

๖๒๒ คู่มือครแู ละแผนการจัดการเรียนรู้ ระดบั ประถมศกึ ษา ภาคเรียนท่ี ๑ (ภาษาไทย ป.6) ทักษะ/กระบวนการ ๑. พูดโน้มน้าวใจ ๒. เขียนเรอื่ งจากภาพ ๓. การเขียนนทิ าน ๔. เขียนเรียงความจากเหตุการณใ์ กล้ตวั เจตคติ 1. มีมารยาทในการเขยี น 2. มมี ารยาทในการฟงั การดู และการพูด 3. ใช้ภาษาในการส่ือสารได้ตรงวตั ถุประสงค์ 4. มีความคิดสร้างสรรค์และจินตนาการ ๔. สมรรถนะของผ้เู รียน ๔.๑ ความสามารถในการสื่อสาร ๔.๒ ความสามารถในการคดิ ๔.๓ ความสามารถในการใช้ทกั ษะชีวติ ๕. คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ 5.๑ มีวนิ ยั 5.๒ ใฝ่เรียนรู้ 5.๓ มงุ่ มนั่ ในการทางาน 5.๔ รักความเป็นไทย ๖. การประเมินผลรวบยอด ชน้ิ งานหรอื ภาระงาน ๑. ใบงานที่ ๑ เรอ่ื ง การพดู โนม้ นา้ ว ๒. ใบงานที่ ๒ เร่ือง ร่างการพดู โนม้ น้าว ๓. ใบงานที่ ๓ เรอ่ื ง การเขยี นเรอื่ งจากภาพ ๔. ใบงานที่ ๔ เรอ่ื ง การเขยี นเรอ่ื งจากภาพ ๕. ใบงานท่ี ๕ เรื่อง การหาขอ้ คดิ จากนิทาน ๖. ใบงานที่ ๖ เร่ือง เขียนนิทานตามจินตนาการ ๗. ใบงานที่ ๗ เรอื่ ง ตอบคาถามเตรยี มการเขยี นเรยี งความ ๘. ใบงานที่ ๘ เรอ่ื ง เขยี นเรียงความสรา้ งสรรค์ ๙. ใบงานที่ ๙ เร่ือง เขยี นเรียงความสร้างสรรค์

หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 6 เรอ่ื ง สรา้ งสรรคง์ านเขียน ๖๒๓ เกณฑก์ ารประเมนิ ผลช้นิ งานหรอื ภาระงาน ประเดน็ ระดบั คุณภาพ การประเมนิ 4 (ดีมาก) 3 (ดี) 2 (พอใช้) 1 (ปรับปรุง) ขาด 3 ๑. การพดู โนม้ น้าว - มีเหตผุ ลสนบั สนุนทกุ ขาด 1 ขาด 2 องคป์ ระกอบ ประเด็นได้อย่างน่าเชื่อถือ องค์ประกอบ องคป์ ระกอบ ตั้งและตอบ - ใชน้ ้าเสยี งเหมาะสม คาถามเชงิ - แสดงบคุ ลกิ เหมาะสม เหตผุ ลจากเร่อื ง - เนอื้ หามคี วามน่าเช่ือถอื ที่ฟังและดไู ด้ 1 คาถาม ๒. การต้ังและตอบ ต้งั และตอบคาถามเชงิ ตง้ั และตอบ ตง้ั และตอบ ขาด ๓ คาถามเชิงเหตุผล เหตผุ ลจากเร่อื งทฟี่ ังและ คาถามเชงิ เหตุผล คาถามเชิง องค์ประกอบ จากเร่อื งท่ฟี ังและดู ดูไดถ้ กู ตอ้ งทุกข้อทง้ั จากเรอ่ื งที่ฟงั เหตผุ ลจากเรือ่ ง และดูได้ 3 ท่ฟี งั และดไู ด้ 2 ขาด ๓ คาถาม คาถาม องค์ประกอบ ๓. จดหมายกจิ ธรุ ะ - องค์ประกอบของ ขาด ๑ ขาด ๒ ขาด ๓ จดหมายครบถว้ น องค์ประกอบ องคป์ ระกอบ องค์ประกอบ - เนอื้ ความในจดหมาย ตรงจุดประสงคแ์ ละมี รายละเอยี ด - เขยี นสะกดคาถูกตอ้ งทกุ คา ใช้คากระชับ ถูกต้อง - ผลงานสะอาด เป็น ระเบียบ ๔. การเขียน - เนอ้ื หามรี ายละเอยี ดตรง ขาด ๑ ขาด ๒ เรียงความ กบั หวั ข้อทกี่ าหนดมาก องคป์ ระกอบ องค์ประกอบ ทีส่ ดุ - ใชค้ าศัพท์ สานวนภาษา ถกู ต้อง เหมาะสม - งานเขยี นมีความคิดริเรมิ่ สรา้ งสรรคส์ ัมพนั ธ์ ต่อเนื่อง - ลายมือสวยงาม อ่านงา่ ย สะอาด ไม่มรี อยลบขดี ฆา่ ๕. การเขียนนทิ าน - เขยี นถกู ต้องครอบคลมุ ขาด ๑ ขาด ๒ เน้ือหาอย่างสมบรู ณ์ องค์ประกอบ องค์ประกอบ - ใช้คาศพั ท์ สานวนภาษา ถูกต้อง เหมาะสม หลากหลาย - งานเขียนแสดงมี

๖๒๔ คู่มอื ครูและแผนการจัดการเรียนรู้ ระดับประถมศึกษา ภาคเรยี นที่ ๑ (ภาษาไทย ป.6) ประเด็น 4 (ดีมาก) ระดบั คุณภาพ การประเมิน ความคดิ ริเรมิ่ สร้างสรรค์ 3 (ด)ี 2 (พอใช้) 1 (ปรับปรงุ ) สัมพันธ์ต่อเนอื่ งน่าสนใจ มาก - ลายมือสวยงาม อา่ นงา่ ย สะอาด ไม่มรี อยลบขดี ฆา่ เกณฑ์การตัดสนิ ๑๘-๒๐ หมายถึง ดีมาก คะแนน ๑๕-๑๗ หมายถงึ ดี คะแนน ๑๒-๑๔ หมายถงึ พอใช้ คะแนน ตา่ กวา่ ๑๒ หมายถงึ ปรับปรงุ คะแนน เกณฑ์การตัดสนิ : ผา่ นเกณฑ์การประเมินรอ้ ยละ ๖๐ ขน้ึ ไป

หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 6 เร่ือง สร้างสรรค์งานเขียน ๖๒๕ การประเมนิ สมรรถนะสาคัญของผู้เรยี น ลาดบั ช่อื - นามสกลุ ความสามารถ ความสามารถ ความสามารถ ความสามารถ ความสามารถ ที่ ในการสื่อสาร ในการคดิ ในการ ในการใช้ ในการใช้ แก้ปญั หา ทักษะชีวติ เทคโนโลยี เกณฑก์ ารประเมนิ สมรรถนะสาคญั ของผเู้ รียน 0 = ไม่ผ่าน 1 = ผ่าน 2 = ดี 3 = ดเี ยีย่ ม

๖๒๖ ค่มู ือครแู ละแผนการจดั การเรียนรู้ ระดบั ประถมศึกษา ภาคเรยี นท่ี ๑ (ภาษาไทย ป.6) การประเมินคณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ ลาดับ ช่ือ - นามสกลุ รกั ชาติ ซื่อสัตย์ มวี นิ ยั ใฝ่ อย่อู ย่าง มุ่งมนั่ รกั มจี ิต ที่ ศาสน์ สุจริต เรยี นรู้ พอเพียง ในการ ความ สาธารณะ กษตั ริย์ ทางาน เปน็ ไทย เกณฑ์การประเมินคณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์ 0 = ไมผ่ า่ น 1 = ผ่าน 2 = ดี 3 = ดีเยย่ี ม

หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 6 เร่อื ง สร้างสรรคง์ านเขียน ๖๒๗ หน่วยการเรียนรูท้ ่ี ๖ แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ ๑ เรื่อง การพดู โนม้ น้าว (๑) เรื่อง สรา้ งสรรค์งานเขียน เวลา ๑ ชว่ั โมง กลมุ่ สาระการเรยี นร้ภู าษาไทย รายวิชาภาษาไทย ช้นั ประถมศกึ ษาปีท่ี ๖ สาระที่ ๓ การฟงั การดู และการพูด มาตรฐาน ท ๓.๑ สามารถเลอื กฟังและดอู ยา่ งมีวจิ ารณญาณ และพูดแสดงความรู้ ความคดิ และความรู้สกึ ใน โอกาสตา่ ง ๆ อยา่ งมวี ิจารณญาณและสรา้ งสรรค์ ตวั ชี้วดั ป.๖/๕ พูดโนม้ น้าวอย่างมีเหตผุ ล และน่าเชือ่ ถือ ป.๖/๖ มมี ารยาทในการฟงั การดู และการพูด ๒. สาระสาคัญ/ความคิดรวบยอด การพดู โนม้ นา้ ว เปน็ การพูดให้ผู้อนื่ เช่อื ถือและคลอ้ ยตาม อยา่ งมีเหตผุ ล จงึ เตรยี มตวั พูดด้วยสานวน ภาษาที่เหมาะสม บุคลิกภาพทีด่ ี และแสดงความจริงใจตอ่ ผู้ฟงั เพ่อื ผู้ฟังปฏบิ ตั ิตนในสิง่ ท่ผี ูพ้ ดู ตอ้ งการ ๓. จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. ด้านความรู้ ความเขา้ ใจ (K) อธิบายหลักการพูดโนม้ น้าวได้ 2. ดา้ นทักษะ/กระบวนการ (P) พูดโน้มน้าวได้ 3. ดา้ นคุณลักษณะ เจตคติ ค่านิยม (A) บอกประโยชน์ของการพดู โน้มนา้ วในชวี ิตประจาวนั ได้ ๔. สาระการเรยี นรู้ 4.1 หลักการพดู โน้มนา้ ว 4.2 การพูดโน้มนา้ ว ๕. สมรรถนะสาคัญของผูเ้ รยี น 5.1 ความสามารถในการสือ่ สาร 5.2 ความสามารถในการคดิ 5.3 ความสามารถในการใช้ทกั ษะชวี ิต ๖. คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ 6.1 มวี นิ ัย 6.2 ใฝ่เรียนรู้ 6.3 มุ่งมน่ั ในการทางาน 6.4 รักความเปน็ ไทย ๗. กิจกรรมการเรยี นรู้

๖๒๘ คู่ม การจัดกิจกรรมการเรียนร แผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี ๑ รายวิชา ภาษาไทย หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี ๖ เร ลาดบั ขอบเขตเนอื้ หา/ ขนั้ ตอนการจดั เวลา แ ที่ จดุ ประสงค์การเรียนรู้ การเรยี นรู้ 1. ขอบเขตเนือ้ หา ทใ่ี ช้ กิจกรรมคร 1. หลกั การพูด ข้ันนา โนม้ นา้ ว ๕ ๑. ครูสนทนากบั นกั เร 2. การพูดโนม้ น้าว นาที การพูดโดยครใู ชค้ าถา ความคิดของนกั เรยี น ครู : อาชพี ใดบา้ งท่ีต การพูดโนม้ นา้ วใจใหผ้ คล้อยตามและปฏิบัต ครู : นกั เรียนลองยก อาชีพทตี่ อ้ งอาศัยประส ในการพูดท่ีนักเรียนเค เหน็ ในชีวิตประจาวนั ๒. ครูชแ้ี จงใหน้ ักเรยี น การพดู โน้มนา้ วเปน็ ก หรอื เชญิ ชวนใหผ้ ู้ฟงั เก ความร้สู กึ คล้อยตามห กาลงั ใจในการทาสง่ิ ใด ซง่ึ การพดู โนม้ นา้ วนี้ผ อาศัยการฝกึ ฝนจนเก

มอื ครแู ละแผนการจดั การเรียนรู้ ระดับประถมศกึ ษา ภาคเรยี นที่ ๑ (ภาษาไทย ป.6) รู้ ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี ๖ เรอ่ื ง การพูดโนม้ น้าว (๑) รื่อง สรา้ งสรรคง์ านเขยี น จานวน ๑ ช่ัวโมง แนวการจัดการเรยี นรู้ สอ่ื การเรยี นรู้ การประเมนิ การเรยี นรู้ รู กิจกรรมนกั เรยี น รียนเรื่อง 1. สอ่ื ppt เรื่อง ามกระตนุ้ การพดู โน้มน้าว นดงั น้ี ตอ้ งอาศยั นักเรียน : (แนวคาตอบ อาชีพ ผอู้ นื่ คา้ ขาย / ประชาสัมพันธ)์ ติตาม กตัวอย่าง นักเรียน : ตอบคาถามตาม สบการณ์ ประสบการณ์ คยพบ นเขา้ ใจว่า การพดู กิด หรือเกิด ดส่งิ หนึ่ง ผพู้ ดู ตอ้ ง กิด

หน่วยการเรียนรทู้ ี่ 6 เร่ือง สร้างสรรคง์ านเขยี น ลาดบั ขอบเขตเนอ้ื หา/ ข้ันตอนการจัด เวลา แ ท่ี จุดประสงค์การเรยี นรู้ การเรยี นรู้ ที่ใช้ กิจกรรมคร ความชานาญ จากนัน้ ค บทเรยี นเรื่องการพูดโ 2. ขัน้ สอน ๒๐ ๑. ครนู าบทโฆษณา พ นาที หารสอง มาให้นักเรยี ดงั น้ี ป. ปลานั้นหายาก ต้องลาบากออกเรอื ไป ขนส่งจากแดนไกล ใช้นา้ แข็งเปลอื งนา้ มัน แชเ่ ยน็ กเ็ สยี ไฟ หงุ ตม้ ใชแ้ กส๊ ทั้งน้ัน พลังงานตอ้ งหมดก โอล้ กู หลานจาจงดี ๒. ครตู ้งั ประเดน็ คาถ นกั เรยี นร่วมกนั อภิปร ความคดิ เห็นตามประ ต่อไปน้ี ครู : นักเรยี นเคยไดย้ ิน โฆษณานหี้ รอื ไม่ ถา้ เค ได้ยนิ จากทใี่ ด ครู : โฆษณาน้ีโน้มน้า

แนวการจดั การเรยี นรู้ สื่อการเรยี นรู้ ๖๒๙ รู กิจกรรมนักเรยี น ครนู าเขา้ สู่ การประเมนิ โนม้ น้าว การเรยี นรู้ พลังงาน ยนอ่าน 2. สอ่ื ppt เรือ่ ง การพูดโนม้ นา้ ว ก ป น กนั - ประเมนิ ถามเพือ่ ให้ การตอบคาถาม รายแสดง ะเดน็ นบท นักเรยี น : เคย /ไมเ่ คย คย เคย าวให้ นักเรียน : ใหช้ ่วยกนั ประหยัด

๖๓๐ คมู่ ลาดับ ขอบเขตเนือ้ หา/ ขัน้ ตอนการจดั เวลา แ ที่ จุดประสงค์การเรียนรู้ การเรยี นรู้ ที่ใช้ กจิ กรรมคร นักเรยี นทาอะไร ครู : นกั เรียนจะปฏบิ โฆษณาน้หี รือไม่ เพรา จุดประสงค์การเรยี นรู้ ๒. ครใู ห้นักเรยี นแบง่ 1. อธิบายหลกั การพูด ความสามารถ เพ่ือศกึ โนม้ น้าวได้ ความรู้ เรื่อง หลักกา โน้มนา้ ว และตวั อย่างก โน้มน้าว ๓. นักเรยี นแตล่ ะกลมุ่ สรุปความรู้หลกั การพ รว่ มกัน ๔. ครใู หน้ ักเรียนดูตัวอ การพูดโน้มน้าว ๕. ครแู ละนักเรียนรว่ อภปิ รายเรอื่ งการพูดโ จากประเด็นคาถามต่อ ครู : บคุ ลกิ ภาพทด่ี ใี น โนม้ นา้ วคืออะไร ครู : ผพู้ ดู ท่ที าใหผ้ ฟู้ งั ประทบั ใจต้องมลี ักษณ ครู : นกั เรียนมหี ลกั ใน

มอื ครแู ละแผนการจัดการเรยี นรู้ ระดับประถมศึกษา ภาคเรียนที่ ๑ (ภาษาไทย ป.6) แนวการจัดการเรียนรู้ สือ่ การเรยี นรู้ การประเมิน การเรยี นรู้ รู กิจกรรมนกั เรียน พลงั งาน บตั ิตาม นกั เรยี น : ปฏิบัตติ าม เพราะ าะเหตใุ ด เป็นหนา้ ทีข่ องทุกคนที่ตอ้ ง ชว่ ยกนั ประหยดั พลงั งาน งกลมุ่ ตาม นักเรียน : นกั เรียนศึกษาใบ 3. ใบความรู้ กษาใบ ความรูเ้ รอ่ื งหลกั การพูดโนม้ นา้ ว เรื่อง หลกั การพดู ารพดู โน้มนา้ ว การพูด มรว่ มกนั นักเรียน : รว่ มกันสรปุ ความรู้ 4. วีดิทัศน์ พูดโนม้ น้าว หลักการพดู โนม้ น้าว ตัวอย่างการพดู โน้มนา้ ว อย่าง นักเรยี น : ชมวีดทิ ศั นต์ วั อยา่ ง การพดู โนม้ น้าว วมกัน โนม้ นา้ ว อไปนี้ นการพูด นักเรยี น : พดู จาฉะฉาน/ หนา้ ตาย้ิมแย้มแจม่ ใส ง นักเรียน : พูดได้สนกุ สนาน ณะอยา่ งไร น่าสนใจ และสอดแทรกขอ้ คดิ นการพดู นักเรยี น : ผพู้ ดู มคี วามจรงิ ใจ

หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 6 เร่ือง สร้างสรรคง์ านเขียน ลาดบั ขอบเขตเนื้อหา/ ขั้นตอนการจัด เวลา แ ท่ี จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ การเรยี นรู้ ท่ใี ช้ กิจกรรมคร 3. 2. พูดโน้มน้าวได้ ขนั้ ปฏบิ ตั ิ โน้มนา้ วอย่างไร ๖. ครมู อบหมายภาระ นกั เรยี นเขียนร่างคาพ โนม้ นา้ ว ตามสถานกา กาหนดให้ จากใบงาน การพดู โน้มนา้ ว ๒๐ นาที

๖๓๑ แนวการจัดการเรียนรู้ สอ่ื การเรยี นรู้ การประเมนิ รู กิจกรรมนกั เรียน การเรยี นรู้ ใชภ้ าษากระตนุ้ ความสนใจ ใช้ ะงานให้ ทา่ ทางนา้ เสยี งท่ีน่าเชือ่ ถือ พดู การพูด ารณ์ที่ นเร่ือง นกั เรียน : ทาใบงานเร่อื ง 5. ทาใบงานเร่อื ง การพดู โน้มน้าว โดยเขยี นรา่ ง การพดู โน้มน้าว คาพูดตามสถานการณ์ต่อไปน้ี ๑. ถา้ นักเรียนเปน็ ครู ต้องการ ให้นกั เรยี นในห้องช่วยดแู ล เพอ่ื นท่ขี าเจบ็ ควรพดู ว่า... ๒. นกั เรียนต้องการรณรงคใ์ ห้ เพือ่ นเหน็ ความสาคัญของ การออกกาลงั กาย ควรพดู วา่ … 3. นกั เรียนและเพอื่ นมาทา รายงานทบี่ า้ น และอยากชวน รับประทานอาหารเย็นทบ่ี า้ น ควรพูดว่า………. นกั เรยี น : ฝกึ พดู โน้มนา้ ว

๖๓๒ ค่มู ลาดบั ขอบเขตเน้ือหา/ ขน้ั ตอนการจัด เวลา แ ท่ี จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ การเรยี นรู้ ทใ่ี ช้ กจิ กรรมคร ครู : ขออาสมคั รนักเร ออกมาพูดโนม้ นา้ วหน ชน้ั เรยี น 4. 3. บอกประโยชน์ของ ข้ันสรุป ครู : ประเมินการพูดโ การพูดโน้มน้าวใน ของนักเรียนและให้ ชวี ติ ประจาวนั ได้ ขอ้ เสนอแนะเพ่มิ เตมิ ๕ ครูและนักเรยี นร่วมกนั นาที ความรเู้ รอ่ื งการพูดโน โดยการอภิปรายแสด ความคดิ เหน็ จากประ ตอ่ ไปน้ี ครู : บคุ ลิกภาพและ ความมั่นใจมีผลตอ่ กา โน้มน้าวอย่างไร ครู : การพูดโนม้ นา้ ว ประโยชนอ์ ย่างไร

มือครแู ละแผนการจัดการเรียนรู้ ระดับประถมศกึ ษา ภาคเรยี นที่ ๑ (ภาษาไทย ป.6) แนวการจดั การเรยี นรู้ สือ่ การเรยี นรู้ การประเมิน รู กจิ กรรมนักเรียน การเรยี นรู้ รยี น นักเรยี น : พูดโนม้ นา้ วหน้า - ประเมินการพูด นา้ ชนั้ เรยี น โนม้ นา้ ว โน้มน้าว นสรปุ - ประเมนิ น้มนา้ ว การตอบคาถาม ดง ะเดน็ นกั เรยี น : ทาใหก้ ารพูดเกดิ ารพดู ความน่าเชื่อถอื วมี นกั เรยี น : ทาใหผ้ อู้ ่นื เขา้ ใจ เจตนาและความต้องการของ ผู้พูด

หน่วยการเรียนรู้ที่ 6 เร่ือง สรา้ งสรรคง์ านเขียน 633 ๘. สอื่ การเรียนร้/ู แหลง่ เรียนรู้ เกณฑ์ ๑. ส่ือโปรแกรมนาเสนอเร่ืองการพูดโนม้ น้าว ๒. บทโฆษณาพลังงานหารสอง ผ่านเกณฑ์ ๓. ใบความรู้ที่ 1 เร่ือง การพูดโน้มนา้ ว การประเมนิ รอ้ ยละ ๔. ใบงานที่ 1 เรื่อง การพูดโนม้ น้าว ๖๐ ข้ึนไป ๙. การประเมินผลรวบยอด ผ่านเกณฑ์ การประเมนิ รอ้ ยละ สิง่ ทีต่ อ้ งการวัด/ประเมนิ วธิ ีการ เครื่องมอื ทใ่ี ช้ ๖๐ ขึ้นไป - คาถาม ด้านความรู้ ความเข้าใจ ผา่ นเกณฑ์ การประเมนิ รอ้ ยละ - อธิบายหลกั การพูดโน้มน้าว - ตอบคาถาม ๖๐ ขน้ึ ไป ด้านทกั ษะ/กระบวนการ - ประเมนิ การพดู โนม้ น้าว - แบบประเมนิ พดู ผ่านเกณฑ์ - พดู โนม้ นา้ ว โน้มนา้ ว การประเมนิ ระดับ ผ่าน ด้านคุณลักษณะ เจตคติ - ตอบคาถาม - คาถาม คา่ นยิ ม ผา่ นเกณฑ์ การประเมินระดับ - บอกประโยชน์ของการพูด ผ่าน โนม้ นา้ วในชีวิตประจาวัน ดา้ นคณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ ๑. ใฝ่เรยี นรู้ - สังเกตพฤตกิ รรม - แบบประเมนิ ๒. มีวินยั สมรรถนะสาคญั ของผู้เรยี น 1. การสงั เกตพฤติกรรม 1. การสงั เกต 2. การตอบคาถาม 2. คาถาม ๑. ความสามารถใน การสอื่ สาร ๒. ความสามารถในการคดิ 3. ความสามารถในการใช้ ทักษะชีวติ


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook