Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore 64-08-11-คู่มือครู ภาษาไทย ป.6-2

64-08-11-คู่มือครู ภาษาไทย ป.6-2

Published by elibraryraja33, 2021-08-11 02:43:37

Description: 64-08-11-คู่มือครู ภาษาไทย ป.6-2

Search

Read the Text Version

786 คูม่ อื ครูและแผนการจัดการเรียนรู้ ระดับประถมศกึ ษา ภาคเรยี นท่ี ๑ (ภาษาไทย ป.6) ชิ้นงานหรือภาระงาน ๑. ผงั ความคดิ องคป์ ระกอบของการโตว้ าที ๒. การพดู โตว้ าทแี ละการจัดเตรียมการโต้วาที เกณฑก์ ารประเมินผลช้ินงานหรอื ภาระงาน ๑. ผังความคิดองค์ประกอบของการโต้วาที ๒. การพูดโต้วาทีและการจัดเตรียมการโต้วาที ประเด็นการประเมิน ระดบั คุณภาพ การโต้วาที ๔ (ดีมาก) ๓ (ด)ี ๒ (พอใช้) ๑ (ปรับปรุง) โต้วาทตี ามญัตติ โต้วาทไี ด้แตย่ ัง ท่กี าหนดได้ตรง โตว้ าทตี ามญตั ติ โตว้ าทีตามญัตติ ไมต่ รงประเด็น ประเดน็ แสดง ที่กาหนดไดต้ รง ที่กาหนดได้ตรง ตามญตั ติท่ี ความคิดเห็น ประเดน็ แสดง ประเด็น แสดง กาหนด มี ชดั เจน โตแ้ ยง้ ความคดิ เห็นไดด้ ี ความคิดเห็น การแสดง อย่างมเี หตผุ ล มเี หตผุ ลใน และโต้แยง้ ได้ แต่ ความคิดเห็น และมขี ้อมลู ที่ การโต้แย้ง และมี ยังไม่มีเหตุผลท่ดี ี และโตแ้ ยง้ แต่ นา่ เชื่อถอื มา ข้อมลู สนบั สนุน พอและมีขอ้ มูล ไมม่ เี หตผุ ล และ สนบั สนนุ สนบั สนนุ เพียง ข้อมูลสนบั สนุน เลก็ นอ้ ย หมายเหตุ : ค่าน้าหนกั ๕ คะแนน ช่วงคะแนน ระดบั คุณภาพ เกณฑ์การประเมินคุณภาพ ๑๘-๒๐ ดมี าก ๑๕-๑๗ ดี ๑๒-๑๔ พอใช้ ตา่ กว่า ๑๒ ปรับปรงุ เกณฑ์การตดั สนิ : ผา่ นเกณฑก์ ารประเมนิ รอ้ ยละ ๖๐ ข้นึ ไป

หนว่ ยการเรียนรูท้ ี่ 7 เรอื่ ง พูดอย่างสร้างสรรค์ 787 ๑๐. บนั ทกึ ผลหลงั สอน ผลการจดั การเรียนการสอน .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ความสาเรจ็ .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ปญั หาอุปสรรค .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ขอ้ จากดั การใช้แผนการจดั การเรยี นรู้ และขอ้ เสนอแนะ/แนวทางการปรบั ปรุงแก้ไข .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................................. ลงชื่อ......................................................ผสู้ อน (..........................................................) วนั ท่ี ............. เดอื น ..........พ.ศ. .................. ๑๑. ความคดิ เหน็ /ข้อเสนอแนะของผู้บริหารหรอื ผทู้ ไี่ ดร้ ับมอบหมาย .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ลงช่ือ......................................................ผตู้ รวจ (..........................................................) วันที่ ............. เดือน ..........พ.ศ. ..................

788 คู่มอื ครแู ละแผนการจัดการเรยี นรู้ ระดบั ประถมศกึ ษา ภาคเรียนที่ ๑ (ภาษาไทย ป.6) ใบความรทู้ ี่ ๔ เรอ่ื ง เทคนคิ การโต้วาที หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ ๗ เร่ือง พดู อย่างสรา้ งสรรค์ แผนการจัดการเรียนรทู้ ี่ ๕ เรื่อง การโต้วาที (๒) รายวิชา ภาษาไทย รหัสวชิ า ท๑๖๑๐๑ ภาคเรียนที่ ๑ ชน้ั ประถมศึกษาปีที่ ๖ เทคนิคการโตว้ าที กลวิธีการเสนอและการค้าน กลวธิ ีการเสนอ ๑. เสนอข้อมูลหลกั ๆ ทหี่ นักแน่นน่าเชอื่ ถอื และเสรมิ ประเด็นหลักใหห้ นกั แนน่ ขนึ้ ๒. เสนอขอ้ มูลทเ่ี ป็นผลลบกบั ฝ่ายตรงข้าม ๓. เสนอประเดน็ ทีไ่ มส่ าคญั หรือไม่เกย่ี วข้องเพื่อหลอกลอ่ กลวิธกี ารคา้ น ๑. หวั ใจของการค้านคอื ถา้ คา้ นเขาตกเหมือนยกเราขึน้ ๒. ต้องค้านดว้ ยเหตผุ ล ข้อมูลและหลกั ฐานทีน่ า่ เชื่อถือกวา่ ๓. ตอ้ งรจู้ ักค้านล่วงหนา้ หรอื ดกั ทางฝา่ ยตรงขา้ ม ๔. อะไรที่ค้านไม่ได้ให้ปล่อยไป ยกเว้นประเด็นที่เข้าตากรรมการหรือได้รับเสียงปรบมือ จากผูช้ มตอ้ งคา้ นแบบขา้ ง ๆ คู ๆ เคลด็ วชิ าในการโตว้ าที ๑. เมื่อเรมิ่ พูด ต้องทกั ทายผดู้ าเนนิ รายการ คณะกรรมการ ฝา่ ยข้าม และผู้ชม ๒. ต้องขึน้ ตน้ ใหน้ า่ สนใจและลงทา้ ยให้จบั ใจโดยใชเ้ พลง กลอน หรอื คาคม ๓. ตอ้ งมสี ไตลห์ รือจดุ เดน่ เป็นของตนเอง ๔. ตอ้ งทาให้ผ้ชู มและคณะกรรมการเช่ือเราและกลายมาเป็นพวกเราให้มากท่สี ดุ ๕. ห้ามนาเรื่องเกี่ยวกับสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ มาพูดถึงหรืออ้างอิงเพราะ เป็นการไมส่ มควร และไม่พดู ในส่งิ ที่ผดิ ศลี ธรรม ๖. พูดใหน้ ่าเชอื่ ถือท่สี ุด มหี ลักฐานอ้างองิ ที่เหนือกวา่ ฝ่ายตรงขา้ ม ๗. ใช้เวลาใหพ้ อดแี ละคุ้มค่าใหม้ ากทสี่ ุด ๘. ข้อน้ีสาคัญที่สุด คือต้องมีน้าใจนักกีฬา รู้แพ้รู้ชนะ เพราะผลแพ้ชนะไม่ได้สาคัญเท่า การที่เราได้ทาหน้าท่ีของตัวเองอย่างดี และสามารถสร้างความเพลิดเพลินและให้สาระท่ีเป็น ประโยชน์แกผ่ ู้ชม

หน่วยการเรียนรู้ท่ี 7 เร่อื ง พดู อย่างสรา้ งสรรค์ 789 กตกิ า มารยาทในการพดู โตว้ าที ๑. แต่ละทีมจะมสี มาชิก ๓ หรือ ๔ เท่า ๆ กนั ๒. แต่ละทมี จะมีหัวหนา้ ทีม ๑ คน ท่เี หลอื จะเปน็ ผูส้ นับสนุน ๓. เวลาในการโต้วาที หัวหน้าทีมมีเวลา ๔ นาที ส่วนผู้สนับสนุนแต่ละคนมีเวลา ๓ นาที และหวั หนา้ ทีมสรปุ อีกคนละ ๓ นาที ๔. กอ่ นหมดเวลา ๓๐ วนิ าที จะมีเสียงสญั ญาณเตือน ๑ ครั้ง เมื่อหมดเวลาจะมีสัญญาณ เตอื น ๒ คร้งั และเมอื่ เวลาเกินไปทุก ๆ ๓๐ วินาทจี ะมสี ัญญาณเตอื น ๑ ครง้ั ๕. ถ้าพูดส้ันกว่าเวลาที่กาหนด ๓๐ วินาที หรอื พูดเกินเวลาท่ีกาหนดทุก ๓๐ วินาทีจะถูก หักคะแนน ๖. การโต้วาทีจะเร่ิมจากหัวหน้าฝ่ายเสนอ หัวหน้าฝ่ายค้าน ตามมาด้วยผู้สนับสนุนฝ่าย เสนอและฝา่ ยค้านสลบั กันไปจนหมด สาหรับในรอบสรุป หัวหนา้ ฝ่ายค้านจะสรุปกอ่ นหัวหน้าฝา่ ย เสนอ

๗๙๐ คู่มอื ครูและแผนการจดั การเรยี นรู้ ระดับประถมศกึ ษา ภาคเรยี นที่ ๑ (ภาษาไทย ป.6) หน่วยการเรียนรู้ที่ ๗ แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี ๖ เรอ่ื ง โต้วาที ๓ เรอ่ื ง พดู อย่างสรา้ งสรรค์ เวลา ๑ ชัว่ โมง กลุ่มสาระการเรียนรูภ้ าษาไทย รายวชิ าภาษาไทย ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ่ี ๖ ๑. มาตรฐานการเรียนร้/ู ตัวชี้วดั มาตรฐาน ท ๓.๑ สามารถเลอื กฟังและดอู ยา่ งมวี ิจารณญาณ และพูดแสดงความรู้ ความคิด และความร้สู ึก ในโอกาสต่าง ๆ อย่างมวี ิจารณญาณและสร้างสรรค์ ตัวช้วี ัด ป.๖/๕ พูดโน้มนา้ วอย่างมีเหตุผล และนา่ เชอ่ื ถือ ๒. สาระสาคัญ/ความคิดรวบยอด การโต้วาที เปน็ การพูดโต้ตอบของบุคคล 2 ฝา่ ย ที่ตอ้ งใช้เหตุผลประกอบ และหักล้างกนั ด้วยเหตุผล โดยการโนม้ น้าวใจผฟู้ งั ใหเ้ หน็ ดว้ ย หรอื คลอ้ ยตาม ด้วยการพดู อย่างมีมารยาท 3. จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ 1. ดา้ นความรู้ ความเขา้ ใจ (K) บอกหลกั การพดู โตว้ าทีได้ ๒. ดา้ นทักษะกระบวนการ (P) ๑. พูดโต้วาทไี ด้อย่างมเี หตผุ ลและนา่ เชื่อถอื ได้ ๒. สรุปประเด็นสาคญั จากการฟงั การพดู โต้วาทีได้ ๓. ดา้ นคณุ ลกั ษณะ เจตคติ ค่านยิ ม (A) เหน็ ความสาคัญของการโตว้ าที 4. สาระการเรียนรู้ 4.1 วเิ คราะห์หลักการโต้วาที 4.2 การเลือกใช้ข้อมูลการโตว้ าทีได้อย่างเหมาะสม 4.3 หลักการโตว้ าที 5. สมรรถนะสาคัญของผ้เู รียน 5.1 ความสามารถในการสื่อสาร 5.2 ความสามารถในการคดิ 5.3 ความสามารถในการแกป้ ัญหา 5.4 ความสามารถในการใช้ทกั ษะชีวติ 6. คณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ 6.1 มวี นิ ยั 6.1 ใฝ่เรยี นรู้ 6.3 มงุ่ มน่ั ในการทางาน 6.4 อย่อู ยา่ งพอเพียง 7. กิจกรรมการเรยี นรู้

หน่วยการเรยี นรู้ที่ 7 เร่อื ง พูดอยา่ งสร้างสรรค์ การจดั กิจกรรมการเรยี นร แผนการจัดการเรีย รายวชิ า ภาษาไทย หนว่ ยการเรียนรู้ที่ ๗ เร ลาดับ ขอบเขตเน้อื หา/ ขัน้ ตอนการจัด เวลา แ ที่ จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ การเรียนรู้ ทีใ่ ช้ กจิ กรรมคร 1. ขอบเขตเน้อื หา ขัน้ นา ๕ ๑. ครสู นทนากบั นกั เร ๑. หลักการโต้วาที นาที เกยี่ วกบั การเตรียมคว ในการโต้วาทีของนกั เ ๒. การโตว้ าที ครู : วันน้ีนกั เรยี นจะต โต้วาที แตล่ ะกลมุ่ เตร ความพรอ้ มกันอยา่ งไ 2. จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ ขน้ั สอน ๒. ครูทบทวนความรเู้ 1. บอกหลักการพดู ขน้ั ตอนในการพดู โตว้ โตว้ าทีได้ ๒๐ ๑. ครขู ออาสาสมคั รต นาที นักเรยี น ครู : นักเรยี นสง่ ตัวแท ละ ๑ คน ออกมาเป็น กรรมการในการตัดสิน การแข่งขันการโตว้ าท

รู้ ชนั้ ประถมศกึ ษาปีท่ี ๖ ๗๙๑ ยนรู้ท่ี ๖ โตว้ าที ๓ ร่อื ง พดู อยา่ งสร้างสรรค์ จานวน ๑ ชั่วโมง การประเมนิ การเรียนรู้ แนวการจัดการเรยี นรู้ ส่ือการเรียนรู้ รู กิจกรรมนักเรียน รียน วามพรอ้ ม เรียน ต้อง นักเรยี น : รียม ๑. เตรียมขอ้ มลู ไรบา้ ง ๒. หาเหตผุ ลประกอบการพดู ๑. ปา้ ยญตั ตใิ น ๓. เตรียมอุปกรณ์ การโตว้ าที ประกอบการพดู ๒. แท่นเสยี บ ๔. ฝึกพูด ปา้ ยชื่อ เรอ่ื ง นกั เรียน : เตรยี มตัวเพือ่ วาที โตว้ าทีตามญตั ติทีเ่ ตรียมไว้ ตัวแทน นักเรยี น : สง่ ตวั แทนเปน็ กรรมการตดั สนิ ทน กลุ่ม นคณะ น ที และให้

๗๙๒ คมู่ ลาดับ ขอบเขตเนอื้ หา/ ข้ันตอนการจดั เวลา แ ที่ จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ การเรยี นรู้ ทีใ่ ช้ กจิ กรรมคร ศกึ ษาหนา้ ทแ่ี ละเกณฑ คะแนน ๒. ครแู ละนักเรียนร่ว ทบทวนหลกั การโตว้ า ครู : การโต้วาทตี ้องม และข้ันตอนในการพูด 3. 2. พดู โต้วาทไี ด้อยา่ งมี ข้ันปฏิบัติ ๓. ครใู หต้ วั แทนกลมุ่ อ เหตผุ ลและน่าเชอื่ ถือ จับฉลากเพอื่ จบั ค่แู ขง่ ได้ การเป็นฝา่ ยเสนอ หรอื 3. สรุปประเด็นสาคัญ ครู : ในระหว่างทเ่ี พ่อื จากการฟงั การพูด พูดโตว้ าที เราควรปฏ โตว้ าทีได้ อย่างไร ครู : ใหเ้ วลา ๕ นาที ใ การเตรียมตวั พดู โต้วา ๒๐ ๑. ครใู ห้นกั เรยี นแต่ล นาที ออกมาพดู โต้วาทหี นา้ ครู : นกั เรียนที่เปน็ คณะกรรมการตัดสินใ คะแนนและรวบรวมค ครู : นักเรยี นทเี่ ป็นผฟู้ บันทึกประเด็นสาคัญจ

มือครูและแผนการจดั การเรียนรู้ ระดบั ประถมศึกษา ภาคเรียนที่ ๑ (ภาษาไทย ป.6) แนวการจัดการเรยี นรู้ สอื่ การเรยี นรู้ การประเมิน การเรยี นรู้ รู กิจกรรมนกั เรยี น ฑก์ ารให้ วมกัน าที มีหลกั การ นักเรียน : ตอบตามความรทู้ ี่ ๓. ส่อื การนาเสนอ - ตอบคาถาม ดอย่างไร สรปุ ได้ จากที่เคยศึกษามา เร่ือง การโตว้ าที ๓ ออกมา งขัน และ อฝา่ ยคา้ น อนออกมา นักเรียน : มีมารยาทในการฟงั ฏบิ ตั ิตน ดู และพูด ใน นกั เรียน : เตรยี มตวั ในการพดู ๔. ใบงานที่ ๕ - ประเมินการพูด าที โต้วาที เร่ือง การโตว้ าที โตว้ าที ละกลมุ่ นกั เรียน : ตัดสินการโตว้ าที าช้นั เรยี น นักเรียน : จดบนั ทกึ ประเดน็ สาคญั ท่ีได้จากการโต้วาที ให้ คะแนน ฟงั ใหจ้ ด จาก

หน่วยการเรยี นรู้ที่ 7 เร่ือง พูดอยา่ งสร้างสรรค์ ลาดบั ขอบเขตเนอ้ื หา/ ข้ันตอนการจัด เวลา แ ที่ จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ การเรยี นรู้ ที่ใช้ กิจกรรมคร การฟังการพดู โต้วาทีใ ที่ ๕ เรื่อง การโต้วาท ๒. หลังจบการพูดโต้ว คณะกรรมการสรปุ คะ และประกาศผลการแ ชมเชยนักเรยี นกลมุ่ ท กาลงั ใจและเสนอแนะ ขอ้ บกพรอ่ งกบั กลุ่มท คะแนนนอ้ ยกว่า เพื่อ ปรบั ปรงุ แก้ไขในโอกา ๓. ครสู มุ่ ให้นักเรียน ๒ อา่ นบนั ทึกจากการฟัง จากใบงานที่ ๕ เรื่อง การโตว้ าที 4. 4. เห็นความสาคญั ขั้นสรุป ๕ ครูและนักเรยี นสะทอ้ นาที ประสบการณ์ในการพ ของการโต้วาที และการฟงั โต้วาที ครู : นักเรยี นได้อะไรจ การโต้วาทคี รง้ั นี้ และ ประยุกตใ์ ชก้ บั ตัวเองอ

แนวการจดั การเรียนรู้ สื่อการเรยี นรู้ ๗๙๓ รู กิจกรรมนักเรียน การประเมนิ ในใบงาน การเรยี นรู้ ที วาที ะแนน แขง่ ขนั ครู ทช่ี นะ ให้ ะ ทไี่ ด้ อนาไป าสต่อไป ๒-๓ คน งโตว้ าที อนคิด นักเรียน : ไดร้ หู้ ลกั การโต้วาที - การตอบคาถาม พดู โต้วาที /นาไปจัดกจิ กรรมโตว้ าทีใน จาก โอกาสต่าง ๆ เชน่ วนั ภาษาไทย ะจะนาไป อย่างไร

794 คู่มือครูและแผนการจดั การเรยี นรู้ ระดบั ประถมศึกษา ภาคเรียนที่ ๑ (ภาษาไทย ป.6) ๘. สอื่ การเรียนร้/ู แหลง่ การเรียนรู้ ๑. ปา้ ยญตั ตใิ นการโต้วาที ๒. แทน่ เสียบป้ายช่ือ ๓. สอื่ การนาเสนอ เรอ่ื ง การโตว้ าที ๓ ๔. ใบงานที่ ๕ เรอ่ื ง การโตว้ าที ๙. การประเมนิ ผลรวบยอด สง่ิ ท่ตี อ้ งการวดั /ประเมนิ วธิ กี าร เคร่อื งมือท่ีใช้ เกณฑ์ ด้านความรู้ - ตอบคาถาม - คาถาม ผ่านเกณฑ์ - บอกหลกั การพดู โต้วาที การประเมนิ ระดับ ผ่าน ด้านทักษะและกระบวนการ 1. ประเมินใบงาน 1. แบบประเมนิ ใบ ผา่ นเกณฑ์ ๑. พูดโต้วาทีได้อย่างมีเหตุผลและ 2. การสังเกต งาน การประเมนิ ระดบั น่าเชื่อถอื พฤติกรรม 2. แบบการสังเกต ผา่ น ๒. สรุปประเดน็ สาคัญจากการฟัง พฤติกรรม การพดู โต้วาที ผา่ นเกณฑ์ ดา้ นคุณลักษณะ เจตคติ ค่านิยม - การตอบคาถาม - คาถาม การประเมินระดับ - เห็นความสาคญั ของการโตว้ าที ผ่าน ผ่านเกณฑ์ ดา้ นคุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ 1. การสงั เกต 1. แบบการสงั เกต การประเมินระดบั 1. มวี ินยั พฤติกรรม พฤตกิ รรม ผา่ น 2. ใฝเ่ รยี นรู้ 2. การตอบคาถาม 2. คาถาม 3. มุ่งมนั่ ในการทางาน 1. การสงั เกต 1. แบบการสงั เกต ผ่านเกณฑ์ 4. อยู่อย่างพอเพียง พฤติกรรม พฤตกิ รรม การประเมินระดบั สมรรถนะสาคัญของผู้เรยี น 2. การตอบคาถาม 2. คาถาม ผา่ น 1. ความสามารถในการส่อื สาร 2. ความสามารถในการคดิ 3. ความสามารถในการแกป้ ัญหา ๔. ความสามารถในการใชท้ กั ษะชวี ิต

หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ 7 เรื่อง พดู อย่างสร้างสรรค์ 795 ชิ้นงานหรอื ภาระงาน ๑. ใบงานท่ี ๕ เรื่อง การโต้วาที เกณฑก์ ารประเมินผลช้นิ งานหรอื ภาระงาน ๑. ใบงานท่ี ๕ เรอื่ ง การโต้วาที ประเด็นการประเมิน ๔ (ดมี าก) ระดบั คุณภาพ ๑ (ปรับปรุง) การโตว้ าที โตว้ าทตี ามญัตติ ๓ (ด)ี ๒ (พอใช้) โตว้ าทีได้ แตย่ งั ทก่ี าหนดไดต้ รง โตว้ าทตี ามญัตติ โต้วาทีตามญัตติ ไมต่ รงประเด็น ประเดน็ แสดง ท่กี าหนดได้ตรง ที่กาหนดไดต้ รง ตามญัตติที่ ความคิดเห็น ประเดน็ แสดง ประเด็น แสดง กาหนด มี ชัดเจน โตแ้ ยง้ ความคดิ เห็นไดด้ ี ความคดิ เห็น การแสดง อย่างมีเหตผุ ล มีเหตผุ ลใน และโตแ้ ย้งได้ แต่ ความคดิ เห็น และมีขอ้ มลู ท่ี การโต้แย้ง และมี ยังไม่มีเหตผุ ลท่ีดี และโต้แย้ง แต่ นา่ เชือ่ ถอื มา ข้อมูลสนบั สนนุ พอ และมีขอ้ มลู ไม่มเี หตผุ ลและ สนับสนนุ ข้อมลู สนับสนนุ สนบั สนนุ เพียง เล็กนอ้ ย หมายเหตุ : ค่านา้ หนกั ๕ คะแนน ชว่ งคะแนน ระดบั คุณภาพ เกณฑ์การประเมินคุณภาพ ๑๘-๒๐ ดีมาก ๑๕-๑๗ ดี ๑๒-๑๔ ต่ากวา่ ๑๒ พอใช้ ปรบั ปรงุ เกณฑ์การตดั สิน : ผ่านเกณฑก์ ารประเมนิ รอ้ ยละ ๖๐ ข้ึนไป

796 คมู่ ือครแู ละแผนการจัดการเรียนรู้ ระดับประถมศึกษา ภาคเรยี นที่ ๑ (ภาษาไทย ป.6) ๑๐. บนั ทึกผลหลังสอน ผลการจดั การเรยี นการสอน .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ความสาเรจ็ .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ปญั หาอุปสรรค .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ขอ้ จากัดการใช้แผนการจัดการเรยี นรู้ และขอ้ เสนอแนะ/แนวทางการปรบั ปรงุ แก้ไข .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ลงชอ่ื ......................................................ผสู้ อน (..........................................................) วนั ที่ ............. เดอื น ..........พ.ศ. .................. ๑๑. ความคิดเห็น/ข้อเสนอแนะของผู้บรหิ ารหรือผ้ทู ีไ่ ดร้ ับมอบหมาย .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ลงชอื่ ......................................................ผูต้ รวจ (..........................................................) วันท่ี ............. เดอื น ..........พ.ศ. ..................

หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 7 เร่อื ง พูดอย่างสร้างสรรค์ 797 ใบงานท่ี ๕ เร่ือง การโต้วาที หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ ๗ เร่ือง พูดอย่างสร้างสรรค์ แผนการจัดการเรียนรูท้ ่ี ๖ เร่ือง การโตว้ าที รายวชิ า ภาษาไทย รหสั วชิ า ท๑๖๑๐๑ ภาคเรียนที่ ๑ ชัน้ ประถมศึกษาปีท่ี ๖ คาชแ้ี จง นักเรียนฟงั การโตว้ าทขี องเพ่อื นในชั้นเรียน แลว้ จดบนั ทึกประเด็นสาคญั จากการฟัง ข้อมลู ของฝ่ายเสนอและฝา่ ยค้าน การโต้วาทีในญตั ติ…………………………………………………………………………… ข้อมลู ฝ่ายเสนอ ..................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................... ขอ้ มลู ฝ่ายคา้ น .................................................................................................................................................................. ..................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................... ชื่อ....................................................................................ชน้ั .......................เลขท.ี่ .............

798 คมู่ ือครูและแผนการจดั การเรยี นรู้ ระดับประถมศกึ ษา ภาคเรียนท่ี ๑ (ภาษาไทย ป.6) เกณฑก์ ารใหค้ ะแนนการพดู โตว้ าที คะแนนฝ่ายเสนอ ที่ รายการประเมิน คะแนนที่ได้ คะแนนทไ่ี ด้ ๑. มศี ลิ ปะในการพดู โน้มน้าวจิตใจผฟู้ งั (25 คะแนน) ๒. พูดไดต้ รงประเด็นหรอื ญัตติทีก่ าหนด (25 คะแนน) ๓. การแก้ปญั หา พดู ที่หกั ลา้ งประเดน็ ฝา่ ยตรงข้ามไดด้ ี (20 คะแนน) ๔. ภาษาที่ใช้ การใช้ถ้อยคาสาเนียง อักขระควบกล้าชดั เจน (10 คะแนน) ๕. บคุ ลกิ ลกั ษณะลีลาท่าทาง การใชอ้ ุปกรณ์และหลกั ฐานสนับสนนุ ญัตติ (10 คะแนน) ๖. มารยาทในการโตแ้ ละการตรงเวลา (10 คะแนน) รวมคะแนน คะแนนฝ่ายคา้ น ท่ี รายการประเมนิ ๑. มีศิลปะในการพูดโนม้ น้าวจิตใจผฟู้ ัง (25 คะแนน) ๒. พูดไดต้ รงประเด็นหรือญตั ตทิ ่กี าหนด (25 คะแนน) ๓. การแก้ปัญหา พดู ท่หี ักลา้ งประเดน็ ฝ่ายตรงขา้ มไดด้ ี (20 คะแนน) ๔. ภาษาทีใ่ ช้ การใชถ้ ้อยคาสาเนยี ง อกั ขระควบกลา้ ชดั เจน (10 คะแนน) ๕. บคุ ลกิ ลักษณะลีลาท่าทาง การใช้อุปกรณแ์ ละหลกั ฐานสนบั สนนุ ญัตติ (10 คะแนน) ๖. มารยาทในการโต้และการตรงเวลา (10 คะแนน) รวมคะแนน

หน่วยการเรียนรู้ท่ี 7 เรอื่ ง พูดอย่างสร้างสรรค์ ๗๙๙ หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ ๗ แผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๗ เรอื่ ง แตง่ กลอนสภุ าพ ๑ เรื่อง พูดอย่างสรา้ งสรรค์ เวลา ๑ ชัว่ โมง กล่มุ สาระการเรียนร้ภู าษาไทย รายวิชาภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปที ี่ ๖ ๑. มาตรฐานการเรียนรู้/ตวั ชวี้ ัด มาตรฐาน ท ๔.๑ เข้าใจธรรมชาติของภาษาและหลักภาษาไทย การเปลี่ยนแปลงของภาษาและพลังของ ภาษา ภูมปิ ัญญาทางภาษา และรกั ษาภาษาไทยไว้เปน็ สมบตั ขิ องชาติ ตวั ชว้ี ดั ป.๖/๕ แต่งบทร้อยกรอง ๒. สาระสาคญั /ความคิดรวบยอด การแต่งบทรอ้ ยกรอง ต้องคานึงถึงลักษณะและข้อกาหนดของบทร้อยกรองแต่ละประเภท ผู้แต่งควร รู้จกั เลอื กสรรถ้อยคาท่มี ีความหมายและเสียงคลอ้ งจองเหมาะสมมาใช้ จงึ จะทาให้บทร้อยกรองน้ันมีความไพเราะ สละสลวย 3. จุดประสงค์การเรยี นรู้ 1. ด้านความรู้ ความเขา้ ใจ (K) บอกหลกั การแต่งบทร้อยกรองประเภทกลอนสภุ าพได้ ๒. ดา้ นทักษะกระบวนการ (P) โยงคาสัมผัสในการแต่งกลอนสุภาพได้ ๓. ด้านคุณลักษณะ เจตคติ ค่านยิ ม (A) อธิบายคุณค่าของการแตง่ กลอนสภุ าพ 4. สาระการเรยี นรู้ 4.1 วเิ คราะห์หลักการแตง่ กลอนสุภาพ 4.2 หลกั การแต่งกลอนสุภาพ 5. สมรรถนะสาคัญของผเู้ รยี น 5.1 ความสามารถในการสือ่ สาร 5.2 ความสามารถในการคดิ 5.3 ความสามารถในการแกป้ ญั หา 5.4 ความสามารถในการใชท้ ักษะชีวิต 6. คณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์ 6.1 มีวนิ ยั 6.2 ใฝเ่ รียนรู้ 6.3 มงุ่ มน่ั ในการทางาน 6.4 อย่อู ย่างพอเพียง 7. กิจกรรมการเรียนรู้

๘๐๐ คมู่ การจดั กจิ กรรมการเรยี นร แผนการจัดการเรียนรูท้ รายวชิ า ภาษาไทย หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ ๗ เร ลาดบั ขอบเขตเนื้อหา/ ข้นั ตอนการจัด เวลา แ ท่ี จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ การเรียนรู้ ทใี่ ช้ กิจกรรมคร 1. ขอบเขตเนือ้ หา ขนั้ นา ๕ ๑. ครูสนทนากบั นกั เรยี ๑. หลักการแตง่ กลอน นาที ให้นกั เรยี นต่อคาคลอ้ สภุ าพ ครู : จากบัตรคาบนกร ๒. การแตง่ กลอน นักเรียนจะทาอยา่ งไร สภุ าพ เหล่านเี้ รยี งตอ่ กันอย่า ๒. ครูสนทนากบั นกั เร ครู : คาคลอ้ งจองทส่ี มั มีทง้ั สัมผัสสระและสมั ซงึ่ จะเปน็ พื้นฐานในก คาประพันธ์ 2. ข้ันสอน ๒๐ ๑. ครูยกตวั อย่างคากลอ นาที ถึงมว้ ยดนิ สน้ิ ฟา้ ม ไมส่ ิน้ สดุ ความรักสมคั แมน้ เกดิ ในใตห้ ล้าสธุ า ขอพบพานพศิ วาสไมค่ ครู : ใหน้ ักเรียนอ่านท เสนาะพรอ้ มกัน และส การสมั ผสั ของคากลอ

มือครแู ละแผนการจัดการเรียนรู้ ระดบั ประถมศึกษา ภาคเรียนที่ ๑ (ภาษาไทย ป.6) รู้ ชนั้ ประถมศกึ ษาปีท่ี ๖ ที่ ๗ แตง่ กลอนสภุ าพ ๑ รอื่ ง พดู อยา่ งสร้างสรรค์ จานวน ๑ ช่วั โมง แนวการจดั การเรียนรู้ สอ่ื การเรยี นรู้ การประเมิน ๑. บัตรคา การเรียนรู้ รู กิจกรรมนักเรยี น คลอ้ งจอง ยน จากน้ัน องจอง ระดาน นกั เรยี น : ต่อคาให้มสี มั ผสั รใหค้ า คลอ้ งจองกนั างสละสลวย รยี น มผสั กนั นี้ นักเรยี น : ร่วมสนทนาและ มผสั อกั ษร ฟังครอู ธบิ าย การแตง่ ลอนมา ๑ บท ๒. ส่อื การนาเสนอ มหาสมทุ ร ครสมาน เรือ่ ง การแต่ง กลอนสุภาพ ๑ าธาร คลาดคลา ทานอง นักเรยี น : อ่านกลอนเปน็ - สงั เกต สังเกต ทานองเสนาะ และสงั เกตการณ์ พฤตกิ รรม อน สัมผัสของคาในกลอน

หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 7 เร่อื ง พูดอย่างสรา้ งสรรค์ ลาดับ ขอบเขตเน้ือหา/ ขั้นตอนการจัด เวลา แ ที่ จดุ ประสงค์การเรียนรู้ การเรียนรู้ ทใี่ ช้ กจิ กรรมคร ๒. ครูสนทนากบั นกั เร คาสัมผสั ครู : นักเรยี นรจู้ กั คาวา่ หรือไม่ มีความหมายว ครู : ในบทกลอนมกี า อย่างไรบ้าง ครู : นกั เรียนลองคน้ ห อกั ษรและสัมผสั สระจ บทกลอนข้างตน้ เพอื่ ความร้เู ดิม จุดประสงค์การเรียนรู้ 3. ครูแบ่งกลุ่มนักเรยี 1. บอกหลกั การแตง่ กระบวนการ Gang o บทรอ้ ยกรองประเภท ครู : ให้ชว่ ยกนั คัดเลอื กลอนสภุ าพได้ สภุ าพท่ีมคี วามไพเราะ ๒ บท แลว้ สังเกตคาก ละบทว่ามที ้งั หมดประ ส่วนใดท่มี ีสมั ผสั ตรงก 4. ครูนกั เรยี นศกึ ษาใ ๕ เร่อื ง แผนผังกลอน

แนวการจดั การเรียนรู้ สือ่ การเรยี นรู้ ๘๐๑ รู กจิ กรรมนกั เรยี น การประเมิน รยี น เรือ่ ง นกั เรยี น : ตอบตาม การเรยี นรู้ ประสบการณ์ทเ่ี คยศกึ ษามา า “สมั ผัส” (รจู้ กั หมายความว่า ต้องกัน, ว่าอย่างไร คลอ้ งจองกัน เปน็ ตน้ ) ารสมั ผสั นักเรยี น : สมั ผสั อักษรและ สัมผัสสระ หาสมั ผสั นักเรยี น : สมั ผสั อักษร ไดแ้ ก่ จาก สนิ้ สดุ สมคั รสมาน สุธาธาร อทดสอบ พบพานพศิ วาส คลาดคลา สัมผัสสระ ได้แก่ สมทุ ร-สุด รัก-สมคั ร ใน-ใต้ หลา้ -สธุ า ธาร-พาน พศิ วาส-คลาด ยนตาม นกั เรียน : คัดเลือกกลอน of four เพื่อสงั เกตจานวนคาใน อกกลอน บทกลอน และการสมั ผสั ใน ะ กลมุ่ ละ บทกลอน กลอนแต่ นักเรียน : ศกึ ษาใบความรทู้ ี่ ะมาณกี่คา ๕ เร่ือง แผนผังกลอนสุภาพ กนั บ้าง ใบความรู้ท่ี นกั เรียน : นักเรยี นตอบ นสุภาพ คาถามเป็นรายบุคคล

๘๐๒ ค่มู ลาดับ ขอบเขตเน้ือหา/ ขั้นตอนการจัด เวลา แ ที่ จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ การเรียนรู้ ท่ใี ช้ กิจกรรมคร และรว่ มกนั อภิปรายห แต่งกลอนสภุ าพ 3. 2. โยงคาสมั ผสั ใน ขน้ั ปฏิบัติ 5. ครูตั้งประเด็นคาถาม การแตง่ กลอนสภุ าพ ขนั้ สรุป นกั เรยี นตอบคาถามเป ได้ รายบุคคล ๒๐ ๑. ครูให้นกั เรียนทาใบ 4. 3. อธบิ ายคณุ คา่ ของ นาที เร่อื ง กลอนท่ใี ช่ ใจเร การแตง่ กลอนสภุ าพ ครู : ช่วยกันเลอื กคาม ในช่องว่างให้ถกู ตอ้ งแ สละสลวย และโยงคา และสมั ผสั นอก ๒. นกั เรยี นเขียนแผน สุภาพในสมดุ บันทกึ ข 5 ครสู นทนากบั นกั เรยี น นาที เรื่อง กลอนสุภาพ ครู : การแต่งกลอนสุภ สัมผัสคล้องจองไพเรา อยา่ งไร ครู : ถา้ เนอื้ หาในบทกล เชอ่ื มโยงกนั จะเกิดผลเส

มือครแู ละแผนการจัดการเรียนรู้ ระดบั ประถมศึกษา ภาคเรียนท่ี ๑ (ภาษาไทย ป.6) แนวการจัดการเรียนรู้ สื่อการเรียนรู้ การประเมนิ รู กจิ กรรมนกั เรยี น การเรียนรู้ หลกั การ ๓. ใบความรู้ที่ ๕ - การตอบคาถาม มให้ เรอ่ื ง แผนผงั ็น กลอนสภุ าพ บงานที่ ๖ นกั เรยี น : ทาใบงาน ๔. ใบงานที่ ๖ - ประเมินใบงาน ราชอบ เร่ือง กลอนท่ีใช่ มามาเติม ใจเราชอบ และ าสมั ผสั ใน นผังกลอน - การตอบคาถาม ข้ันสรปุ นเกีย่ วกับ ภาพท่ีมี นักเรียน : ตอบตามหลักการ าะ ตอ้ งทา ท่ีได้ศกึ ษามา ลอนไม่ นักเรียน : ตอบตาม สยี อยา่ งไร ความรู้สกึ โดยยึดหลักการ แตง่ กลอนสภุ าพ

หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 7 เร่ือง พดู อย่างสรา้ งสรรค์ 803 ๘. ส่อื การเรยี นรู้/แหลง่ การเรยี นรู้ ๑. บัตรคาคลอ้ งจอง ๒. สอ่ื การนาเสนอ เรอ่ื ง การแตง่ กลอนสภุ าพ ๑ ๓. ใบความรทู้ ี่ ๕ เร่ือง แผนผงั กลอนสุภาพ ๔. ใบงานที่ ๖ เรื่อง กลอนที่ใช่ ใจเราชอบ ๙. การประเมนิ ผลรวบยอด สิง่ ทต่ี ้องการวัด/ประเมิน วิธีการ เครือ่ งมอื ทใ่ี ช้ เกณฑ์ ด้านความรู้ - ตอบคาถาม - คาถาม ผ่านเกณฑ์ - บอกหลกั การแตง่ บทร้อยกรอง การประเมนิ ระดบั ประเภทกลอนสุภาพ - แบบประเมินใบงาน ผา่ น ผ่านเกณฑ์ ดา้ นทักษะและกระบวนการ - คาถาม การประเมินระดบั - โยงคาสมั ผสั ในการแตง่ กลอนสภุ าพ - ประเมินใบงาน ผ่าน 1. แบบการสังเกต ผา่ นเกณฑ์ ดา้ นคุณลักษณะ เจตคติ ค่านิยม - การตอบคาถาม พฤตกิ รรม การประเมินระดบั - อธิบายคณุ คา่ ของการแต่งกลอน 2. คาถาม ผา่ น สภุ าพ 1. แบบการสังเกต ผ่านเกณฑ์ พฤตกิ รรม การประเมนิ ระดบั ด้านคุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ 1. การสังเกต 2. คาถาม ผา่ น 1. มวี ินยั พฤตกิ รรม 2. ใฝ่เรียนรู้ 2. การตอบคาถาม ผา่ นเกณฑ์ 3. มุ่งมน่ั ในการทางาน 1. การสังเกต การประเมินระดับ 4. อย่อู ยา่ งพอเพียง พฤตกิ รรม ผา่ น สมรรถนะสาคัญของผเู้ รยี น 2. การตอบคาถาม 1. ความสามารถในการสอื่ สาร 2. ความสามารถในการคิด 3. ความสามารถในการแกป้ ัญหา ๔. ความสามารถในการใช้ทกั ษะชีวติ

804 ค่มู ือครแู ละแผนการจัดการเรียนรู้ ระดับประถมศกึ ษา ภาคเรยี นท่ี ๑ (ภาษาไทย ป.6) ชิ้นงานหรอื ภาระงาน ๑. ใบงานท่ี ๖ เรอ่ื ง กลอนทีใ่ ช่ ใจเราชอบ เกณฑ์การประเมินผลชิน้ งานหรอื ภาระงาน ๑. ใบงานท่ี ๖ เรื่อง กลอนที่ใช่ ใจเราชอบ ประเด็นการประเมนิ ๔ (ดีมาก) ระดับคุณภาพ ๑ (ปรับปรงุ ) โยงคาสมั ผสั ในกลอน โยงคาสัมผสั ใน ๓ (ด)ี ๒ (พอใช้) โยงคาสมั ผสั ใน สภุ าพ กลอนสภุ าพได้ โยงคาสัมผสั ใน โยงคาสมั ผสั ใน กลอนสุภาพไม่ ถูกต้องทุกคา กลอนสุภาพได้ กลอนสุภาพได้ ถูกตอ้ ง ถูกตอ้ งเป็นส่วน ถูกตอ้ งบางสว่ น ใหญ่ หมายเหตุ : คา่ น้าหนกั ๕ คะแนน ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ เกณฑก์ ารประเมินคุณภาพ ๑๘-๒๐ ดมี าก ๑๕-๑๗ ดี ๑๒-๑๔ พอใช้ ต่ากวา่ ๑๒ ปรบั ปรงุ เกณฑก์ ารตดั สิน : ผา่ นเกณฑ์การประเมินร้อยละ ๖๐ ขน้ึ ไป

หนว่ ยการเรียนรูท้ ี่ 7 เร่อื ง พูดอย่างสรา้ งสรรค์ 805 ๑๐. บนั ทึกผลหลังสอน ผลการจัดการเรียนการสอน .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................................. ความสาเรจ็ .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ปญั หาอปุ สรรค .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ......................................................................................................... ..................................................................... ขอ้ จากดั การใช้แผนการจัดการเรยี นรู้ และขอ้ เสนอแนะ/แนวทางการปรบั ปรุงแกไ้ ข .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ลงชื่อ......................................................ผสู้ อน (..........................................................) วนั ท่ี ............. เดอื น ..........พ.ศ. .................. ๑๑. ความคดิ เห็น/ข้อเสนอแนะของผู้บรหิ ารหรือผ้ทู ไ่ี ดร้ ับมอบหมาย .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ลงชื่อ......................................................ผ้ตู รวจ (..........................................................) วันท่ี ............. เดอื น ..........พ.ศ. ..................

806 คู่มอื ครูและแผนการจดั การเรียนรู้ ระดับประถมศึกษา ภาคเรยี นที่ ๑ (ภาษาไทย ป.6) ส่ือสาหรบั ครู บตั รคา เรยี งคาคลอ้ งจอง หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี ๗ เรื่อง พูดอย่างสรา้ งสรรค์ แผนการจัดการเรียนรทู้ ี่ ๖ เรอื่ ง การโตว้ าที รายวชิ า ภาษาไทย รหัสวิชา ท๑๖๑๐๑ ภาคเรยี นที่ ๑ ชัน้ ประถมศึกษาปีท่ี ๖ ครอู าจารย์ ลอยนา้ มา มีรางวลั ปลกุ พตี่ ื่น จาไดด้ ี ปลาในน้า ต้งั โต๊ะคอย ช่ืนใจจัง สานความสุข

หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 7 เรื่อง พดู อย่างสร้างสรรค์ 807 ใบความรูท้ ี่ 5 เรอื่ ง แผนผังกลอนสภุ าพ หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ ๗ เรื่อง พดู อย่างสร้างสรรค์ แผนการจดั การเรียนรูท้ ่ี ๗ เร่อื ง แต่งกลอนสุภาพ รายวชิ า ภาษาไทย รหัสวชิ า ท๑๖๑๐๑ ภาคเรยี นท่ี ๑ ชั้นประถมศึกษาปีท่ี ๖

808 คู่มอื ครแู ละแผนการจัดการเรยี นรู้ ระดบั ประถมศึกษา ภาคเรียนท่ี ๑ (ภาษาไทย ป.6)

หน่วยการเรยี นร้ทู ี่ 7 เร่อื ง พดู อยา่ งสร้างสรรค์ 809 ใบงานท่ี ๖ เรื่อง กลอนทใ่ี ช่ ใจเราชอบ หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ ๗ เร่ือง พูดอยา่ งสรา้ งสรรค์ แผนการจัดการเรียนรทู้ ี่ ๗ เร่ือง แตง่ กลอนสุภาพ รายวิชา ภาษาไทย รหสั วชิ า ท๑๖๑๐๑ ภาคเรียนที่ ๑ ชั้นประถมศึกษาปีท่ี ๖ คาชแ้ี จง ให้นักเรียนคัดเลอื กกลอนสภุ าพทีช่ ่นื ชอบจากแหลง่ ข้อมลู ใดกไ็ ด้ จานวน ๒ บท นามา เขียนลงในบรรทดั ท่คี รกู าหนดให้ แลว้ โยงสมั ผสั ในกลอนให้ถูกต้อง เหมาะสม ....................................................................... ....................................................................... ....................................................................... ....................................................................... ....................................................................... ....................................................................... ....................................................................... ..................................................................... กลอนแต่ละบทมีจานวนคา ประมาณ .......... คา ชื่อ....................................................................................ชั้น.......................เลขที่..............

๘๑๐ ค่มู ือครแู ละแผนการจัดการเรียนรู้ ระดับประถมศึกษา ภาคเรียนท่ี ๑ (ภาษาไทย ป.6) หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี ๗ แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี ๘ เรอื่ ง แตง่ กลอนสภุ าพ ๒ เวลา ๑ ชวั่ โมง เรื่อง พดู อยา่ งสร้างสรรค์ กลมุ่ สาระการเรยี นรภู้ าษาไทย รายวิชาภาษาไทย ช้ันประถมศกึ ษาปีที่ ๖ ๑. มาตรฐานการเรยี นร้/ู ตัวชี้วดั มาตรฐาน ท ๔.๑ เข้าใจธรรมชาติของภาษาและหลักภาษาไทย การเปลี่ยนแปลงของภาษาและพลังของ ภาษา ภมู ปิ ญั ญาทางภาษา และรักษาภาษาไทยไวเ้ ป็นสมบัติของชาติ ตวั ชวี้ ดั ป.๖/๕ แต่งบทรอ้ ยกรอง ๒. สาระสาคญั /ความคดิ รวบยอด การแตง่ บทร้อยกรอง ตอ้ งคานึงถึงลักษณะและขอ้ กาหนดของบทร้อยกรองแต่ละประเภท ผู้แต่งควร รู้จกั เลือกสรรถ้อยคาที่มีความหมายและเสียงคลอ้ งจองเหมาะสมมาใช้ จงึ จะทาใหบ้ ทร้อยกรองน้นั มีความไพเราะ สละสลวย 3. จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ 1. ดา้ นความรู้ ความเข้าใจ (K) บอกหลักการแตง่ บทรอ้ ยกรองประเภทกลอนสุภาพได้ ๒. ดา้ นทักษะกระบวนการ (P) แตง่ กลอนสภุ าพได้ ๓. ดา้ นคุณลกั ษณะ เจตคติ ค่านิยม (A) อธบิ ายคณุ คา่ ของการแต่งกลอนสุภาพ 4. สาระการเรียนรู้ 4.1 การแตง่ กลอนสภุ าพตามหวั ขอ้ ทีก่ าหนด 4.2 หลักการแตง่ กลอนสุภาพ 5. สมรรถนะสาคญั ของผ้เู รียน 5.1 ความสามารถในการส่ือสาร 5.2 ความสามารถในการคิด 5.3 ความสามารถในการแกป้ ัญหา 5.4 ความสามารถในการใชท้ กั ษะชวี ติ 6. คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ 6.1 มวี ินัย 6.2 ใฝเ่ รยี นรู้ 6.3 มุ่งมน่ั ในการทางาน 6.4 อยู่อย่างพอเพียง 7. กจิ กรรมการเรยี นรู้

หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 7 เรอ่ื ง พูดอยา่ งสร้างสรรค์ การจัดกิจกรรมการเรยี นร แผนการจดั การเรียนรู้ท รายวชิ า ภาษาไทย หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี ๗ เร ลําดบั ขอบเขตเนอื้ หา/ ข้นั ตอนการจดั เวลา แ ที่ จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ การเรยี นรู้ ท่ใี ช้ ขอบเขตเนอ้ื หา ๕ กิจกรรมคร ๑. หลกั การแตง่ กลอน ขั้นนาํ นาที ๑. ครูให้นกั เรยี นรว่ มก สภุ าพ อภปิ รายแสดงความเห ๒. การแตง่ กลอน ครู : คนไทยเป็นคนเจ สภุ าพ กลอนจรงิ หรือไม่ เพร ครู : นักเรยี นชว่ ยกัน ยกตัวอย่าง ความเป็น บทเจ้ากลอนของคนไท ๒. ครูกล่าวนาํ เขา้ ส่กู า กลอนสภุ าพ 2. จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ ขั้นสอน ๒๐ ๑. ครใู ห้นกั เรยี นเขยี น 1. บอกหลกั การแต่ง นาที กลอนสภุ าพ บทรอ้ ยกรองประเภท ครู : ขออาสาสมัครนกั กลอนสภุ าพได้ คนออกมาชว่ ยกันเขีย กลอนสภุ าพบนกระด ครู : นักเรยี นช่วยกนั ต ความถูกต้อง พรอ้ มแก

รู้ ชัน้ ประถมศกึ ษาปีท่ี ๖ ๘๑๑ ท่ี ๘ แตง่ กลอนสภุ าพ ๒ การประเมิน ร่ือง พดู อยา่ งสรา้ งสรรค์ จํานวน ๑ ชว่ั โมง การเรียนรู้ แนวการจดั การเรียนรู้ ส่ือการเรยี นรู้ - การตอบคําถาม ๑. แผนผังกลอน รู กจิ กรรมนกั เรยี น สุภาพ กนั ห็น จ้าบทเจา้ นักเรียน : ตอบตามประสบการณ์ ราะเหตุใด ทตี่ นเคยผ่านมา (จริง/ไมจ่ รงิ เพราะ...) นคนเจา้ นักเรียน : ตอบตามประสบการณ์ ไทย ทตี่ นเคยผา่ นมา (การพดู จา ารแต่ง ปราศรัย, อุปนิสัยชอบแตง่ บท ร้อยกรอง, การรักในเสยี งเพลง, ภาษาไทยเป็นภาษาแหง่ ดนตรี ฯลฯ) นแผนผงั กเรียน ๒ นักเรยี น : สง่ ตัวแทนเขยี น ยนแผนผงั แผนผงั กลอนสภุ าพ ดานดาํ นกั เรยี น : ตรวจสอบพรอ้ ม ตรวจสอบ แก้ไข (ถกู ต้อง, ผดิ เพราะ...) กไ้ ขสว่ น

๘๑๒ คมู่ ลําดบั ขอบเขตเน้อื หา/ ขนั้ ตอนการจดั เวลา แ ท่ี จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ การเรียนรู้ ทใ่ี ช้ กิจกรรมคร ที่ไมถ่ กู ตอ้ ง ๒. ครูให้นกั เรยี นรอ้ งเ แตง่ กลอนวอนจํา เพอ่ื แนวทางในการแตง่ กลอ ๓. ครใู หน้ กั เรยี นทาํ ใบ เรือ่ ง เติมคําสรา้ งสรรค กลอน ครู : ให้นักเรียนจบั ค่ตู หาคาํ มาเติมในชอ่ งว่า ถกู ต้องตามฉันทลักษณ กลอนสุภาพ ครู : นักเรียนช่วยกันต ความถูกตอ้ ง ๔. ครูให้นกั เรยี นแบง่ ก กระบวนการ Gang o เพ่ือเขยี นโครงเร่อื งกล สภุ าพ ครู : สง่ ตัวแทนมารบั ด จากครกู ลมุ่ ละ ๑ ดอก ร่วมกนั สงั เกตดอกไม้ กําหนดโครงเร่ืองท่จี ะ กลอนสุภาพ

มือครูและแผนการจดั การเรียนรู้ ระดับประถมศึกษา ภาคเรียนที่ ๑ (ภาษาไทย ป.6) แนวการจดั การเรยี นรู้ สือ่ การเรยี นรู้ การประเมนิ รู กิจกรรมนกั เรยี น การเรียนรู้ เพลง ๒. เพลงแตง่ - ประเมนิ ใบงาน อเป็น กลอนวอนจํา อนสภุ าพ นกั เรยี น : ทาํ ใบงาน ๓. ใบงานท่ี ๗ บงานที่ ๗ เรื่อง เตมิ คาํ ค์บท สรา้ งสรรค์ บทกลอน ตรวจสอบ นกั เรียน : ตรวจสอบพรอ้ ม างให้ แกไ้ ข (ถกู ต้อง, ผิด เพราะ...) ณข์ อง ตรวจสอบ ๔. ดอกไมห้ ลาก ชนิด กลมุ่ ตาม of four ลอน ดอกไม้ นักเรียน : ส่งตัวแทนเพ่ือรับ ก แลว้ ดอกไม้มากําหนดโครงเร่อื ง เพือ่ กลอนสภุ าพ ะแต่ง

หน่วยการเรียนรูท้ ี่ 7 เร่อื ง พดู อยา่ งสรา้ งสรรค์ ลําดบั ขอบเขตเนื้อหา/ ข้ันตอนการจดั เวลา แ ท่ี จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ การเรยี นรู้ ทใี่ ช้ 3. 2. แต่งกลอนสภุ าพได้ ข้นั ปฏบิ ตั ิ ๒๐ กจิ กรรมคร นาที ครู : เม่อื นกั เรยี นเหน็ ภ ดอกไม้ นักเรียนจะนกึ ถ ครู : ให้แตล่ ะกลุ่มช่วย เขียนเปน็ บทรอ้ ยแกว้ จากดอกไม้ทไี่ ด้รบั คว ประมาณ ๕-๘ บรรทดั ครู : รูห้ รือไมว่ ่า ทําไม เขียนบทร้อยแกว้ ก่อน ๑. ครูใหน้ กั เรยี นแต่ล จบั ค่ฝู กึ แตง่ กลอนสภุ า แนวบทร้อยแกว้ ที่เขีย น้อย คลู่ ะ ๒ บท ๒. ครใู หน้ กั เรยี นนําเส ผลงาน โดยมคี รแู ละเพ ช่วยกันประเมนิ ผลงาน ควรปรับปรุงแก้ไข ๓. ครใู หน้ ักเรยี นคดั เลอื สุภาพเพ่ืออ่านทาํ นองเ ครู : ชว่ ยกันคดั เลอื กผ การแตง่ กลอนสภุ าพท แล้วอา่ นเปน็ ทาํ นองเส เพ่อื นฟัง

แนวการจดั การเรยี นรู้ ส่ือการเรยี นรู้ ๘๑๓ รู กจิ กรรมนกั เรยี น การประเมนิ การเรียนรู้ ภาพ นักเรยี น : ตอบตามความร้สู กึ ถงึ ส่งิ ใดบา้ ง (ความสวย ความหอม ยกนั ฝึก ความสดช่ืน ความบริสทุ ธิ์ ) วสน้ั ๆ นกั เรยี น : ฝกึ เขยี นบท วามยาว รอ้ ยแก้ว ด มจงึ ตอ้ ง นกั เรยี น : เปน็ แนวทางไปสู่ น การแตง่ บทร้อยกรอง ละกลุ่ม าพตาม - ประเมินกลอน ยนไว้ อยา่ ง สุภาพ สนอ พ่ือน น ขอ้ ดี ข้อ อกกลอน นักเรียน : คดั เลือกกลอน เสนาะ สภุ าพ แล้วอ่านเปน็ ทาํ นอง ผลงาน เสนาะ ท่ดี ีทีส่ ดุ สนาะให้

๘๑๔ คู่ม ลําดบั ขอบเขตเน้อื หา/ ขน้ั ตอนการจดั เวลา แ ท่ี จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ การเรยี นรู้ ท่ใี ช้ 4. 3. อธบิ ายคณุ ค่าของ ขั้นสรปุ กจิ กรรมคร การแต่งกลอนสุภาพ ๕ ครูสนทนากบั นกั เรยี น นาที ครู : จากท่เี ราไดศ้ กึ ษ การแตง่ กลอนสภุ าพไ นักเรยี นไดร้ ับความรู้เ ใดบา้ ง อย่างไร ครู : กลอนสภุ าพมคี ณุ เราอยา่ งไร

มอื ครแู ละแผนการจัดการเรยี นรู้ ระดับประถมศกึ ษา ภาคเรยี นท่ี ๑ (ภาษาไทย ป.6) แนวการจดั การเรียนรู้ สื่อการเรยี นรู้ การประเมิน การเรยี นรู้ รู กจิ กรรมนกั เรยี น - การตอบคําถาม น นกั เรยี น : ตอบตามความเป็น ษาเรื่อง จริง โดยยึดตามหลกั การท่ไี ด้ ไป ศึกษาไป เรอื่ ง นกั เรยี น : ตอบตามความรสู้ ึก ณคา่ กับ (ทําให้สามารถแต่งกลอนได,้ ฝึกความจํา, เป็นการใชเ้ วลา วา่ งให้เป็นประโยชน์, อนุรกั ษ์ วฒั นธรรมทางภาษาท่ี สวยงาม)

หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 7 เรอื่ ง พดู อยา่ งสรา้ งสรรค์ 815 ๘. สอ่ื การเรยี นรู้/แหลง่ การเรยี นรู้ ๑. แผนผงั กลอนสุภาพ ๒. เพลงแตง่ กลอนวอนจา ๓. ใบงานท่ี ๗ เร่ือง เตมิ คาสร้างสรรค์บทกลอน ๔. ดอกไม้หลากชนดิ ๙. การประเมินผลรวบยอด สิง่ ทีต่ อ้ งการวดั /ประเมนิ วิธีการ เครอื่ งมือทีใ่ ช้ เกณฑ์ ดา้ นความรู้ - ตอบคาถาม - คาถาม ผ่านเกณฑ์ - บอกหลกั การแตง่ บทรอ้ ยกรอง ประเมนิ ใบงาน แบบประเมินใบงาน การประเมินระดบั ประเภทกลอนสภุ าพ ผา่ น ผ่านเกณฑ์ ด้านทักษะและกระบวนการ - ประเมนิ การแตง่ - แบบประเมนิ การประเมินระดบั - แต่งกลอนสุภาพ กลอนสภุ าพ การแตง่ กลอนสภุ าพ ผา่ น ผา่ นเกณฑ์ ด้านคุณลักษณะ เจตคติ ค่านิยม - การตอบคาถาม - คาถาม การประเมนิ ระดบั - อธบิ ายคุณคา่ ของการแตง่ กลอน ผ่าน สภุ าพ ผ่านเกณฑ์ การประเมนิ ระดบั ด้านคุณลักษณะอันพึงประสงค์ 1. การสังเกต 1. แบบการสงั เกต ผ่าน 1. มวี นิ ัย พฤติกรรม พฤตกิ รรม 2. ใฝ่เรยี นรู้ 2. การตอบคาถาม 2. คาถาม ผ่านเกณฑ์ 3. ม่งุ มน่ั ในการทางาน 1. การสงั เกต 1. แบบการสงั เกต การประเมนิ ระดับ 4. อย่อู ย่างพอเพยี ง พฤติกรรม พฤตกิ รรม ผ่าน สมรรถนะสาคัญของผูเ้ รียน 2. การตอบคาถาม 2. คาถาม 1. ความสามารถในการสื่อสาร 2. ความสามารถในการคิด 3. ความสามารถในการแก้ปญั หา ๔. ความสามารถในการใชท้ กั ษะชวี ติ

816 คู่มอื ครแู ละแผนการจัดการเรยี นรู้ ระดบั ประถมศกึ ษา ภาคเรียนท่ี ๑ (ภาษาไทย ป.6) ชน้ิ งานหรือภาระงาน ๑. ใบงานท่ี ๗ เรอื่ ง เตมิ คาสรา้ งสรรคบ์ ทกลอน ๒. การแตง่ กลอนสภุ าพ เกณฑก์ ารประเมินผลชิ้นงานหรอื ภาระงาน ๑. ใบงานท่ี ๗ เรอื่ ง เตมิ คาสร้างสรรค์บทกลอน ๒. การแตง่ กลอนสภุ าพ ประเดน็ การประเมิน ระดับคุณภาพ การแต่งกลอนสภุ าพ ๔ (ดมี าก) ๓ (ด)ี ๒ (พอใช้) ๑ (ปรับปรุง) แต่งกลอนสภุ าพได้ แตง่ กลอนสภุ าพ แตง่ กลอนสภุ าพ แต่งกลอนสภุ าพ ถูกตอ้ งตาม ไดถ้ กู ตอ้ งตาม ไดถ้ ูกตอ้ งตาม ไดถ้ ูกต้องตาม ฉนั ทลกั ษณ์ ฉันทลักษณ์ ฉนั ทลกั ษณ์ ฉนั ทลักษณ์ เน้ือความมี เน้อื ความมี เนือ้ ความมี สมั พันธ์กบั หวั ขอ้ เอกภาพ เอกภาพ เอกภาพ แตเ่ น้ือความ แสดงความคิดใน แสดงความคดิ ใน สมั พนั ธก์ บั หัวข้อ สบั สน เชิงสรา้ งสรรค์ใช้ เชงิ สร้างสรรค์ ถ้อยคาไพเราะ หมายเหตุ : คา่ น้าหนกั ๕ คะแนน ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ เกณฑก์ ารประเมนิ คุณภาพ ๑๘-๒๐ ดมี าก ๑๕-๑๗ ดี ๑๒-๑๔ พอใช้ ต่ากวา่ ๑๒ ปรับปรงุ เกณฑก์ ารตัดสนิ : ผา่ นเกณฑก์ ารประเมินร้อยละ ๖๐ ขน้ึ ไป

หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 7 เรอ่ื ง พูดอยา่ งสรา้ งสรรค์ 817 ๑๐. บนั ทึกผลหลังสอน ผลการจัดการเรยี นการสอน .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ความสาเรจ็ .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ปญั หาอุปสรรค .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ขอ้ จากัดการใช้แผนการจัดการเรยี นรู้ และข้อเสนอแนะ/แนวทางการปรบั ปรงุ แก้ไข .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ลงชือ่ ......................................................ผสู้ อน (..........................................................) วนั ที่ ............. เดอื น ..........พ.ศ. .................. ๑๑. ความคดิ เหน็ /ข้อเสนอแนะของผู้บริหารหรือผทู้ ไี่ ดร้ ับมอบหมาย .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ลงช่ือ......................................................ผ้ตู รวจ (..........................................................) วนั ที่ ............. เดอื น ..........พ.ศ. ..................

818 คู่มอื ครูและแผนการจดั การเรยี นรู้ ระดับประถมศึกษา ภาคเรียนที่ ๑ (ภาษาไทย ป.6) เพลง แต่งกลอนวอนจา ๏ เร่ืองแตง่ กลอนวอนจาข้นึ ใจ เสยี งท้ายไงตอ้ งดูให้แน่ วรรคหนง่ึ นั้น เลี่ยงสามญั อย่าผันแปร ไม่เชอื นแช หาเสยี งคาทง่ี ดงาม วรรคต่อมาหาเสียงดดี ี สามญั ตรนี ้นั เป็นข้อห้าม วรรคสองน้จี ัตวาดูงาม เอก โท ตาม เลอื กสรรคาดีคาเดียว แลว้ ตอ่ มาคือวรรคสามส่ี สามัญ ตรี ลงไดแ้ ลเหลยี ว เสียงไพเราะเสนาะจริงเชียว คาท่ไี มข่ ้องเก่ยี ว อย่าไปไขวค่ ว้า เรอ่ื งแตง่ กลอนวอนกนั สักที กลอนจะดไี ม่มีขายหนา้ ฝกึ กนั ไวท้ ุกวนั เวลา เชอื่ เถดิ หนาไมน่ ้อยหน้าใครไหนเลย...๚๛ นายวบิ ูลย์ ศรีโสภณ ศึกษานิเทศก์ สพป. ลพบรุ ี เขต ๑

หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ 7 เร่ือง พูดอยา่ งสร้างสรรค์ 819 ใบงานท่ี ๗ เรือ่ ง เติมคาสร้างสรรคบ์ ทกลอน หน่วยการเรยี นรู้ที่ ๗ เร่ือง พูดอย่างสร้างสรรค์ แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ ๘ เร่อื ง แต่งกลอนสุภาพ รายวชิ า ภาษาไทย รหสั วชิ า ท๑๖๑๐๑ ภาคเรยี นที่ ๑ ช้ันประถมศึกษาปีที่ ๖ คาชแ้ี จง เติมสมั ผัสในกลอนแปดใหถ้ กู ตอ้ ง ๑. ฉนั อยากเป็นนกนอ้ ยลอยล่องฟา้ บนิ ................ลอยลมชมเมฆขาว รอ้ งเพลงเลน่ เย็นใจใกล้ดวง................. ทพี่ รา่ ง...................ผืนฟ้ายามราตรี ๒. น้าจากฟ้าตกลงมาเรยี กวา่ ฝน จากหยาด............ระเหยไปในเวหา เป็นเมฆหมอกสขี าวพร่างพราว............. แลว้ ตก...........เป็นฝนใหมใ่ ห้ดม่ื กิน ๓. ทา้ วสามนต์ให้ธิดาหาคู่ครอง รจนาคนสดุ ..............น้ันผิดพี่ เลอื กเจ้าเงาะใบบ้ า้ เปน็ .................. เพราะตา..ดี..เหน็ รปู ทองผอ่ งโสภา ๔. ลักบุษบาพานางหนี แต่โฉม..........ถกู ลมกลา้ พัดพาหาย พบอีกทีนางแสร้งปลอมแปลง........ เป็นผ.ู้ .............ชอ่ื วา่ อณุ ากรรณ ๕. ...................โอชา คณุ ค่ามาก หาไมย่ ากอรอ่ ยจับ..........หนอ มะม่วงเงาะล้นิ จ่ี ................ รสชมุ่ คอ ................. ผลโตจรงิ ช่อื ....................................................................................ช้ัน.......................เลขท.ี่ .............

820 คูม่ ือครแู ละแผนการจัดการเรยี นรู้ ระดับประถมศกึ ษา ภาคเรียนท่ี ๑ (ภาษาไทย ป.6) เฉลย ใบงานที่ ๗ เรอื่ ง เติมคาสรา้ งสรรคบ์ ทกลอน หนว่ ยการเรียนร้ทู ี่ ๗ เรื่อง พูดอยา่ งสรา้ งสรรค์ แผนการจัดการเรียนรทู้ ี่ ๘ เรื่อง แต่งกลอนสภุ าพ รายวชิ า ภาษาไทย รหสั วิชา ท๑๖๑๐๑ ภาคเรยี นท่ี ๑ ชน้ั ประถมศึกษาปีท่ี ๖ คาชี้แจง เติมสมั ผสั ในกลอนแปดให้ถกู ตอ้ ง ๑. ฉันอยากเปน็ นกน้อยลอยล่องฟ้า บนิ .......ถลา.....ลอยลมชมเมฆขาว รอ้ งเพลงเลน่ เยน็ ใจใกล้ดวง...ดาว..... ทพี่ ร่าง....พราว.....ผืนฟ้ายามราตรี ๒. น้าจากฟา้ ตกลงมาเรยี กวา่ ฝน จากหยาด..ชล..ระเหยไปในเวหา เปน็ เมฆหมอกสีขาวพร่างพราว...ตา.... แล้วตก....มา...เป็นฝนใหม่ใหด้ ื่มกิน ๓. ท้าวสามนต์ใหธ้ ิดาหาคคู่ รอง รจนาคนสดุ ..ทอ้ ง...นั้นผิดพ่ี เลอื กเจ้าเงาะใบ้บา้ เป็น....สามี..... เพราะตา..ดี..เหน็ รปู ทองผอ่ งโสภา ๔. ลักบุษบาพานางหนี แต่โฉม..ศร.ี ..ถกู ลมกล้าพัดพาหาย พบอกี ทีนางแสรง้ ปลอมแปลง..กาย... เป็นผู.้ .ชาย....ชอื่ ว่าอุณากรรณ ๕. .....ผลไม้...โอชา คณุ ค่ามาก หาไมย่ ากอรอ่ ยจบั ...ใจ..หนอ มะมว่ งเงาะลน้ิ จ่ี ...มะละกอ.... รสชุ่มคอ ...แตงโม.... ผลโตจรงิ ช่ือ....................................................................................ช้ัน...........................เลขท.ี่ ................................

หน่วยการเรยี นรู้ที่ 7 เรอ่ื ง พูดอย่างสรา้ งสรรค์ ๘๒๑ แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี ๙ เรอื่ ง ทอ่ งจาบทอาขยาน ๑ เวลา ๑ ชัว่ โมง หน่วยการเรยี นรู้ท่ี ๗ เร่ือง พูดอย่างสรา้ งสรรค์ กล่มุ สาระการเรียนรภู้ าษาไทย รายวิชาภาษาไทย ชั้นประถมศกึ ษาปที ่ี ๖ ๑. มาตรฐานการเรียนร/ู้ ตวั ช้ีวัด มาตรฐาน ท ๕.๑ เข้าใจและแสดงความคดิ เหน็ วิจารณ์วรรณคดีและวรรณกรรมไทยอย่างเห็นคุณค่าและ นามาประยกุ ตใ์ ชใ้ นชีวติ จริง ตัวช้วี ัด ป.๖/๙ ทอ่ งจาบทอาขยานตามทีก่ าหนด และบทรอ้ ยกรองทมี่ ีคุณคา่ ตามความสนใจ ๒. สาระสาคญั /ความคิดรวบยอด บทอาขยานเปน็ บทท่องจารอ้ ยกรองทม่ี คี วามไพเราะ ให้ขอ้ คดิ ทเ่ี ป็นประโยชน์ การท่องจาบทอาขยาน เป็นการพัฒนาการอ่าน ความจา และการเห็นคุณค่าของบทร้อยกรอง ตลอดจนการนาข้อคิดที่ได้มา ประยกุ ตใ์ ชใ้ นชีวิตประจาวัน 3. จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ 1. ดา้ นความรู้ ความเขา้ ใจ (K) อธิบายหลักการทอ่ งจาบทอาขยานได้ ๒. ด้านทักษะกระบวนการ (P) ๑. ท่องจาบทอาขยานได้ ๓. ดา้ นคุณลักษณะ เจตคติ คา่ นยิ ม (A) - บอกประโยชน์การท่องจาบทอาขยานได้ 4. สาระการเรียนรู้ 4.1 การท่องบทอาขยานตามทกี่ าหนด 4.2 หลกั การท่องบทอาขยาน 5. สมรรถนะสาคญั ของผู้เรยี น 5.1 ความสามารถในการสอื่ สาร 5.2 ความสามารถในการคดิ 5.3 ความสามารถในการแกป้ ัญหา 5.4 ความสามารถในการใชท้ ักษะชีวติ 6. คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ 6.1. มีวินัย 6.2 ใฝ่เรียนรู้ 6.3 มงุ่ มัน่ ในการทางาน 6.4 อยอู่ ย่างพอเพียง 7. กิจกรรมการเรียนรู้

๘๒๒ คูม่ ลําดบั การจัดกิจกรรมการเรยี นร ท่ี แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 1. รายวชิ า ภาษาไทย หน่วยการเรียนรทู้ ี่ ๗ เร ขอบเขตเน้ือหา/ ขนั้ ตอนการจดั เวลา แ จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ การเรยี นรู้ ทใ่ี ช้ ขอบเขตเน้ือหา ขนั้ นาํ กจิ กรรมคร ๑. หลกั การทอ่ งจําบท ๕ ๑. ครใู ห้นกั เรยี นทบท อาขยาน นาที รอ้ ยกรองท่ีนกั เรียนช่นื ๒. การทอ่ งบท และจาํ ได้ อาขยาน ครู : นกั เรียนชอบการ บทร้อยกรองหรอื ไม่ ครู : นักเรียนลองทอ่ ง อาขยานทเ่ี คยเรียนกนั พรอ้ ม ๆ กัน ครู : บอกประโยชน์ท การท่องจําบทรอ้ ยกร ๒. ครกู ล่าวนาํ เข้าสกู่ า บทอาขยาน

มือครูและแผนการจัดการเรยี นรู้ ระดบั ประถมศึกษา ภาคเรียนท่ี ๑ (ภาษาไทย ป.6) รู้ ช้ันประถมศกึ ษาปีที่ ๖ ๙ ท่องจาํ บทอาขยาน ๑ รอื่ ง พดู อย่างสรา้ งสรรค์ จํานวน ๑ ชวั่ โมง แนวการจดั การเรยี นรู้ สอื่ การเรียนรู้ การประเมนิ การเรยี นรู้ รู กิจกรรมนกั เรยี น ทวนบท นชอบ รท่องจํา นักเรียน : ตอบตามความรู้สกึ งบท (ชอบ/ไมช่ อบ เพราะ...) นมา นกั เรยี น : ทอ่ งบทอาขยานที่ ทีไ่ ด้จาก จาํ กนั ได้พร้อมกัน รองน้นั นกั เรยี น : ตอบตามความรู้สกึ ารทอ่ งจํา (เป็นตวั อยา่ งการใชภ้ าษาที่ ไพเราะ ไดร้ ับความเพลิดเพลนิ สนกุ สนาน ชว่ ยใหเ้ กิด ความซาบซ้งึ ในเร่อื งทีอ่ ่าน ฝกึ การคดิ วิเคราะห์ ประเมินค่า เรอ่ื งท่ีอ่าน สามารถนําไปใช้ อา้ งองิ ในงานต่าง ๆ ได้ ช่วย กลอ่ มเกลาและจรรโลงใจให้ ประณตี มากข้ึน ฯลฯ)

หน่วยการเรียนรูท้ ่ี 7 เรือ่ ง พดู อย่างสร้างสรรค์ ลําดบั ขอบเขตเนอ้ื หา/ ข้นั ตอนการจดั เวลา แ ท่ี จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ การเรยี นรู้ ท่ีใช้ 2. จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ ขน้ั สอน ๒๐ กิจกรรมคร 1. อธบิ ายหลกั การ นาที ๑. ครูนําบตั รคาํ บทอา ทอ่ งจําบทอาขยานได้ มาตดิ ไว้บนกระดาน ครู : นักเรียนร่วมกนั อ เสียงได้วา่ อยา่ งไร ครู : นักเรียนลองคาด ความหมายของคาํ ว่า “อาขยาน” มคี วามหม อย่างไร ครู : บทอาขยาน คือ บ ร้อยแกว้ หรือรอ้ ยกรอ วรรณคดเี ร่ืองตา่ ง ๆ ห คําประพันธท์ ่ีมีความไ และงดงามทางภาษา ความหมายดี และใหข้ คณุ คา่ สามารถนําไปใ จรงิ ได้ ๒. นกั เรยี นศกึ ษาใบค ๖ เรือ่ ง การท่องจาํ บท ครู : นักเรยี นรว่ มกนั อ หลกั การทอ่ งจําบทร้อ แลว้ เขยี นสรุปเปน็ ผงั ค

๘๒๓ แนวการจดั การเรียนรู้ สื่อการเรยี นรู้ การประเมนิ ๑. บตั รคาํ บท การเรียนรู้ รู กจิ กรรมนกั เรยี น อาขยาน าขยาน - ตอบคําถาม ๒. ใบความรทู้ ี่ ๖ อา่ นออก นักเรยี น : บด - อา - ขะ - เร่อื ง การทอ่ งจาํ ดเดา หยาน หรือ อา - ขะ – ยาน บทอาขยาน นกั เรยี น : ตอบตาม ๓. สือ่ การนาํ เสนอ มายวา่ ประสบการณ์ (บททอ่ งจาํ , เรอ่ื ง ท่องจาํ บท บททอ่ งจาํ บทร้อยกรอง, กลอนทม่ี ี อาขยาน อง จาก ความไพเราะ ฯลฯ) หรอื เปน็ นกั เรยี น : ฟงั และสรุปประเด็น ไพเราะ สาํ คัญ มี ข้อคิดทมี่ ี ใชใ้ นชีวิต ความรู้ท่ี นักเรยี น : สรปุ แผนผงั ทอาขยาน ความคดิ หลักการท่องจําบท อภปิ ราย ร้อยกรอง อยกรอง ความคดิ


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook