หน่วยการเรียนรทู้ ่ี 6 เร่ือง สร้างสรรค์งานเขยี น การจัดกิจกรรมการเรียนร แผนการจัดการเรยี นรทู้ ี่ ๕ รายวชิ า ภาษาไทย หน่วยการเรียนรู้ที่ ๖ เร ลาดับ ขอบเขตเน้ือหา/ ข้นั ตอนการจัด เวลา แ ท่ี จุดประสงค์การเรยี นรู้ การเรยี นรู้ ทใ่ี ช้ กิจกรรมคร 1. ขอบเขตเนอื้ หา ๕ ๑. ครูหาอาสาสมคั รน 1. หลักการหาขอ้ คิด ข้นั นา นาที ออกมาเลา่ นิทานสน้ั ๆ จากการอ่าน 2. การเขียนสรปุ เรียน แล้วใชค้ าถามเพ ข้อคิดจากการอ่าน นกั เรียนร่วมกนั แสดง นทิ าน คดิ เหน็ ดังนี้ ครู : นกั เรียนเคยอา่ น นิทานเรอื่ งนห้ี รอื ไม่ (เค ครู : เม่ืออา่ นหรอื ฟงั น น้ีแลว้ รสู้ กึ อย่างไร ครู : นกั เรียนไดข้ อ้ คดิ นิทานทเี่ พอื่ นเลา่ ครู : นกั เรียนจะนาข ไปประยกุ ต์ใช้อย่างไร ๒. ครูช้แี นะใหน้ กั เรยี การอา่ นนทิ านเราตอ้ ง จากเร่ืองและนาข้อคิด
๖๗๓ รู้ ชน้ั ประถมศกึ ษาปีที่ ๖ ๕ เรอ่ื ง ขอ้ คดิ จากนทิ าน รื่อง สรา้ งสรรคง์ านเขยี น จานวน ๑ ช่วั โมง แนวการจัดการเรียนรู้ ส่ือการเรียนรู้ การประเมิน 1. สอ่ื ppt เรอ่ื ง การเรยี นรู้ รู กิจกรรมนกั เรียน การหาขอ้ คดิ จาก นักเรียน นิทาน ๆ หน้าช้นั พอ่ื ให้ งความ นหรอื ฟัง นกั เรียน : (เคย/ไมเ่ คย) คย/ไมเ่ คย) นิทานเรือ่ ง นกั เรียน : สนกุ /ไดค้ วามรู้ ดอะไรจาก นักเรยี น : (ตอบคาถามตาม ความเข้าใจของนกั เรียน) ขอ้ คิดทีไ่ ด้ นกั เรียน : (ตอบคาถามตาม ร ความเข้าใจของนกั เรียน) ยนเขา้ ใจวา่ งหาขอ้ คิด ดน้นั ไปใช้
๖๗๔ คมู่ ลาดับ ขอบเขตเน้ือหา/ ขนั้ ตอนการจัด เวลา แ ที่ จุดประสงค์การเรียนรู้ การเรยี นรู้ ท่ใี ช้ กจิ กรรมคร ประโยชนใ์ นชวี ติ ประจ จากนน้ั ครูนาเข้าสบู่ ท การหาข้อคิดจากนทิ า 2. ข้นั สอน ๒๐ ๑. ครตู ั้งคาถามเพื่อให นาที รว่ มกันอภิปรายวธิ กี า จากเรื่องท่อี ่าน ดังนี้ ครู : นกั เรยี นมแี นวท สรปุ ขอ้ คิดจากเร่ืองทอ่ี อยา่ งไร 2. ครใู หน้ กั เรยี นแบง่ ก ความสามารถ แล้วให วีดทิ ศั น์เรอ่ื ง การหาข การอา่ น ๓. ครใู ห้นักเรียนแต่ล ชว่ ยกันสรปุ ความรเู้ รือ่ ข้อคดิ จากการอา่ น เป ความคิดในกระดาษแ ครูแจกให้ จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ ๔. ครใู หค้ วามรู้เพิ่มเต 1. บอกหลกั การหา การหาขอ้ คิดจากการอ ข้อคดิ จากการอา่ นได้ ยกตวั อยา่ ง เพื่อเปน็ แ
มือครแู ละแผนการจัดการเรียนรู้ ระดับประถมศกึ ษา ภาคเรียนท่ี ๑ (ภาษาไทย ป.6) แนวการจัดการเรียนรู้ สื่อการเรยี นรู้ การประเมิน การเรียนรู้ รู กจิ กรรมนกั เรยี น จาวนั ได้ ทเรยี นเรอื่ ง าน หน้ ักเรยี น ารหาข้อคิด ทางการ นกั เรียน : อ่านเรื่อง / อา่ นได้ จับประเด็นสาคัญของเร่ือง กลุม่ คละ นักเรียน : ชมวดิ ิทศั น์เรอื่ ง 2. วีดิทศั น์เรอ่ื ง ้นกั เรียนชม การหาข้อคดิ จากการอ่าน การหาข้อคดิ จาก ข้อคดิ จาก การอ่าน ละกลมุ่ นกั เรียน : เขยี นผังความคิด 3. กระดาษแผน่ - ตรวจผลงาน องการหา เร่อื งการหาขอ้ คิดจาก ใหญ่ การเขยี นผงั ปน็ ผัง การอา่ น แผ่นใหญท่ ี่ ความคดิ ตมิ เรอ่ื ง นกั เรยี น : นาเสนอผลงาน 4. สือ่ ppt เร่ือง อ่านและ การหาข้อคดิ จาก แนวทาง การอ่าน
หน่วยการเรียนรู้ที่ 6 เร่ือง สรา้ งสรรคง์ านเขียน ลาดับ ขอบเขตเนื้อหา/ ข้ันตอนการจัด เวลา แ ท่ี จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ การเรียนรู้ ท่ใี ช้ กิจกรรมคร 3. 2. เขียนสรปุ ขอ้ คดิ จากนทิ านได้ ข้นั ปฏบิ ัติ ให้กบั นกั เรยี น ๕. ครูมอบหมายภาระ นักเรยี นแตล่ ะกลมุ่ อา่ เร่ือง เจา้ ชายกบั ตะเก แลว้ ระดมความคิดใน ใบงานเรือ่ งการหาขอ้ นทิ าน ๒๐ ๕. ครูมอบหมายภาระ นาที นกั เรียนแตล่ ะกลุ่มอ่า เรอื่ ง เจา้ ชายกบั ตะเก แล้วระดมความคดิ ใน ใบงานเรอื่ งการหาขอ้ นทิ าน 4. 3. บอกความสาคญั ข้นั สรุป ๖. ครปู รบั ปรงุ การเขยี ของการหาข้อคดิ จาก จากนิทาน โดยครเู ขยี การอ่านนทิ านได้ กระดานพรอ้ มปรบั ปร การเขียนนกั เรยี นทกุ คน การเขยี นข้อคิดในใบง 5 ครใู ห้นกั เรียนสรปุ บท นาที การหาข้อคดิ จากการอ รว่ มกันอภปิ รายในปร
๖๗๕ แนวการจดั การเรียนรู้ สื่อการเรยี นรู้ การประเมิน รู กจิ กรรมนักเรยี น การเรยี นรู้ ะงานให้ านนทิ าน กียบจนี นกลมุ่ ทา อคิดจาก ะงานให้ นกั เรยี น : แบ่งกลมุ่ อา่ น 5. นทิ านเรอ่ื ง านนทิ าน นิทานเรอ่ื ง เจา้ ชายกบั เจ้าชายกับ กียบจีน ตะเกียบจนี ตะเกยี บจนี นกลมุ่ ทา นักเรียน : ทาใบงานเรอ่ื ง 6. ใบงานเร่อื ง - ตรวจใบงาน อคดิ จาก การหาข้อคิดจากนทิ าน การหาขอ้ คดิ จาก นิทาน ยนข้อคิด นักเรียน : นาเสนอผลงาน ยนสรุปบน หน้าชั้นเรยี น รงุ สานวน นักเรียน : ปรบั ปรงุ การเขียน นปรบั ปรงุ ข้อคดิ ในใบงาน งาน ทเรยี นเรอ่ื ง อ่านโดย ระเด็น
๖๗๖ ค่มู ลาดับ ขอบเขตเนื้อหา/ ข้นั ตอนการจัด เวลา แ ที่ จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ การเรยี นรู้ ที่ใช้ กจิ กรรมคร ต่อไปนี้ ครู : นักเรยี นมหี ลักใน ข้อคดิ จากการอ่านไป ประจาวันอย่างไร ครู : นักเรยี นคดิ วา่ กา จากการอ่านมีประโยช
มือครูและแผนการจัดการเรียนรู้ ระดบั ประถมศกึ ษา ภาคเรียนท่ี ๑ (ภาษาไทย ป.6) แนวการจดั การเรยี นรู้ สือ่ การเรยี นรู้ การประเมิน รู กจิ กรรมนักเรยี น การเรยี นรู้ นการนา นักเรยี น : อ่านเรอื่ ง/ทา - ประเมิน ปใชใ้ นชวี ติ ความเขา้ ใจเรอ่ื ง/จับใจความ การตอบคาถาม สาคัญ ารหาข้อคดิ นกั เรียน : ได้ความรแู้ ละมี ชนอ์ ย่างไร แนวทางในการดาเนนิ ชวี ิต
หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 6 เรอื่ ง สรา้ งสรรค์งานเขียน 677 ๘. ส่ือการเรียนร/ู้ แหลง่ เรยี นรู้ เกณฑ์ ๑. ส่ือโปรแกรมนาเสนอเรอ่ื ง การหาขอ้ คดิ จากนทิ าน ผ่านเกณฑ์ ๒. วีดทิ ศั น์เรอ่ื ง การหาข้อคิดจากการอ่าน การประเมิน ๓. นิทานเรื่อง เจา้ ชายกบั ตะเกยี บจีน รอ้ ยละ ๖๐ ข้ึนไป ๔. ใบงานท่ี 5 เร่ือง การหาข้อคิดจากนิทาน ผา่ นเกณฑ์ การประเมิน ๙. การประเมนิ ผลรวบยอด รอ้ ยละ ๖๐ ข้ึนไป ผา่ นเกณฑ์ สง่ิ ท่ีตอ้ งการวดั /และ วธิ ีการ เครื่องมอื ท่ีใช้ การประเมนิ ประเมิน - ตอบคาถาม - คาถาม ร้อยละ ๖๐ ขน้ึ ไป ผ่านเกณฑ์ ด้านความรู้ ความเข้าใจ การประเมินระดับ - บอกหลกั การหาข้อคิดจาก ผา่ น การอา่ น ผ่านเกณฑ์ การประเมินระดับ ดา้ นทกั ษะและกระบวนการ ผ่าน - เขยี นสรปุ ขอ้ คดิ จากนิทาน - ประเมนิ การพูดรายงาน - แบบประเมินพูด รายงาน ดา้ นคุณลกั ษณะ เจตคติ - คาถาม ค่านยิ ม - บอกความสาคญั ของการหา - ตอบคาถาม ข้อคดิ จากการอา่ นนทิ าน ดา้ นคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ๑. ใฝเ่ รยี นรู้ - สงั เกตพฤตกิ รรม - แบบประเมนิ ๒. มีวนิ ัย สมรรถนะสาคญั ของผู้เรยี น 1. การสงั เกตพฤติกรรม 1. การสงั เกต ๑. ความสามารถใน 2. การตอบคาถาม 2. คาถาม การสอ่ื สาร ๒. ความสามารถในการคิด ๓. ความสามารถในการใช้ ทกั ษะชวี ติ
678 คู่มอื ครูและแผนการจัดการเรียนรู้ ระดับประถมศกึ ษา ภาคเรียนท่ี ๑ (ภาษาไทย ป.6) เกณฑก์ ารประเมินผลชน้ิ งานหรอื ภาระงาน เกณฑก์ ารประเมินการหาข้อคิดจากการอา่ นนิทาน ประเด็นการ ระดบั คุณภาพ ประเมิน ๔ (ดีมาก) ๓ (ด)ี ๒ (พอใช้) ๑ (ปรับปรุง) ๑. การสรปุ สรปุ ความรไู้ มต่ รง ความรู้ สรปุ ความรตู้ รง สรปุ ความรตู้ รง สรปุ ความร้ตู รง ประเด็นถกู ตอ้ ง ประเด็นถกู ต้อง ประเดน็ ถกู ต้อง ประเดน็ ถกู ตอ้ ง รอ้ ยละ ๔๐ ของ ๒. การเขยี น ครบถว้ นตามเน้อื หา รอ้ ยละ ๘๐ ของ รอ้ ยละ ๖๐ ของ เน้อื หาของเร่ือง อธิบายขอ้ คดิ ของเรอ่ื ง เนื้อหาของเรื่อง เน้ือหาของเรือ่ ง เขยี นข้อคิดได้ นอ้ ยมากและไม่ ๓. การนาข้อคดิ เขยี นขอ้ คดิ ตรง เขยี นขอ้ คดิ ตรง เขียนขอ้ คดิ ได้ ตรงประเดน็ ไปใช้ในชีวิต ประเด็น แสดง ประเดน็ สอดคลอ้ ง บางสว่ น สอดคลอ้ ง ประจาวนั เหตผุ ลสอดคลอ้ ง กับเรอ่ื ง กบั เร่ืองบางสว่ น เขียนขอ้ คิดไปใชใ้ น ๔. การอธิบาย กับเรื่อง ชีวติ ประจาวันได้ คณุ คา่ นอ้ ย เขียนขอ้ คิดไปใช้ใน เขยี นขอ้ คิดไปใชใ้ น เขยี นขอ้ คดิ ไปใชใ้ น ๕. การคดิ ชวี ติ ประจาวนั ได้ ชวี ติ ประจาวันได้ ชวี ติ ประจาวันได้ เขยี นบอก วเิ คราะห์ อยา่ งถกู ต้องและ และใช้ไดจ้ ริง บางส่วน ความสาคัญของ ใช้ไดจ้ ริง เน้อื หาไม่ตรง ประเดน็ และเขยี น เขียนบอก เขยี นบอก เขยี นบอก วกวน ความสาคญั ของ ความสาคญั ของ ความสาคญั ของ สามารถคดิ เนอื้ หาตรงประเด็น เนอ้ื หาตรงประเด็น เน้ือหาตรงประเดน็ วิเคราะห์ได้อย่าง และยกตัวอยา่ ง บางส่วนและเขยี น สร้างสรรค์นอ้ ย ประกอบ วกวน มาก สามารถคดิ สามารถคดิ สามารถคดิ วเิ คราะหไ์ ด้อย่าง วิเคราะหไ์ ด้อย่าง วิเคราะหไ์ ด้อย่าง สรา้ งสรรคใ์ น สรา้ งสรรคไ์ ด้ สร้างสรรค์ได้ ด้านบวกไดท้ ั้งหมด เป็นสว่ นใหญ่ เพยี งบางส่วน หมายเหตุ : ค่าน้าหนัก ๕ คะแนน ช่วงคะแนน ระดบั คุณภาพ เกณฑก์ ารประเมนิ คุณภาพ ๑๘-๒๐ ดีมาก ๑๕-๑๗ ดี ๑๒-๑๔ พอใช้ ตา่ กวา่ ๑๒ ปรับปรงุ เกณฑก์ ารตัดสนิ : ผ่านเกณฑ์การประเมินร้อยละ ๖๐ ขน้ึ ไป
หนว่ ยการเรียนรูท้ ่ี 6 เรื่อง สรา้ งสรรค์งานเขียน 679 10. บันทึกผลหลงั สอน ผลการจัดการเรยี นการสอน .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ความสาเรจ็ .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ปัญหาและอปุ สรรค .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ขอ้ จากัดการใชแ้ ผนการจดั การเรยี นรู้ และข้อเสนอแนะ/แนวทางการปรับปรงุ แกไ้ ข .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ลงช่ือ......................................................ผสู้ อน (..........................................................) วันที่ ............. เดือน ..........พ.ศ. .................. 11. ความคิดเหน็ /ขอ้ เสนอแนะของผูบ้ ริหารหรอื ผู้ทไี่ ด้รับมอบหมาย .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................... ............... .............................................................................................................................................................................. ลงช่ือ......................................................ผตู้ รวจ (..........................................................) วันท่ี ............. เดอื น ..........พ.ศ. ......
680 คมู่ ือครูและแผนการจัดการเรียนรู้ ระดบั ประถมศึกษา ภาคเรียนท่ี ๑ (ภาษาไทย ป.6) ใบงานท่ี ๕ เรื่อง ขอ้ คดิ จากนิทาน หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ ๖ เรอ่ื ง สรา้ งสรรค์งานเขยี น แผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๕ เร่ือง ขอ้ คดิ จากนทิ าน รายวชิ า ภาษาไทย รหสั วชิ า ท๑๖๑๐๑ ภาคเรียนที่ ๑ ชัน้ ประถมศึกษาปีที่ ๖ คาช้ีแจง อ่านนทิ าน เรอ่ื งเจา้ ชายกบั ตะเกียบจนี แล้วนาข้อคดิ ท่ไี ด้ไปเขียน แผนภาพความคดิ จากนิทาน คร้งั หน่ึงนานมาแล้ว พระเจ้าแผ่นดินจีนองค์หน่ึง ให้โอรสเดินทางไปเรียนกับอาจารย์ที่มี ชื่อเสยี งในป่า เพ่ือศึกษาวิชาการเตรียมตวั เป็นพระเจ้าแผ่นดินตอ่ จากตน โดยใหเ้ ด็กรับใช้ตดิ ตาม ไปด้วยหน่ึงคนชื่อนายหย่วน เม่ือไปอยู่ท่ีสานักของอาจารย์พระโอรสมีความต้ังใจ และทรงสน พระทัยเป็นพิเศษในวิชายงิ ธนู สามารถยิงได้รวดเร็วและแมน่ ยา นายหยว่ นติดตามรับใช้พระโอรส ด้วยความซอื่ สตั ย์จงรกั ภักดี เขาเป็นคนท่มี ีความกระตอื รอื ร้นอยากเรียนวิชาแต่อาจารย์ไม่สอนให้ เขาจึงมีหน้าท่ีหุงอาหารและทาความสะอาดที่พกั ให้อาจารย์และพระโอรส เขาไม่รจู้ ะทาอะไรจึง หาไม้มาทาเป็นตะเกยี บหยิบข้าวทลี ะเม็ด ใส่หมอ้ หุงข้าวตอนแรกก็คีบได้ช้าเพราะไม่ชานาญ เขา พยายามใช้ตะเกียบหยิบข้าวใส่หม้อไปเร่ือย ๆ จนมีความชานาญทาได้รวดเร็วขึ้น นายหย่วนมี ความสุขกับการใชต้ ะเกยี บคีบสงิ่ ของอ่ืน ๆ เร่อื ยไป แม้กระทง่ั ใบไม้ทป่ี ลิวหลุดจากต้นก็สามารถใช้ ตะเกียบคีบไดท้ นั เม่ือพระโอรสเรียนวิชาต่าง ๆ จบ ก็ลาอาจารย์กลับมาหาพระราชบิดา พระองค์ทรงถาม พระโอรสว่าเรียนอะไรมาบา้ ง พระโอรสก็ทลู วา่ ได้เล่าเรียนวิชามากมายและมีความสนใจพิเศษใน การยิงธนู พระราชาดีพระทยั ชืน่ ชมในโอรส แล้วก็หนั มาถามนายหยว่ นว่า เจ้าได้เลา่ เรียนอะไรมา บ้าง นายหย่วนก็ทูลวา่ ไม่ได้เรียนอะไรมาเลย พระราชากริ้วมากตรัสวา่ “เจ้านี่ใชไ้ ม่ไดม้ ีโอกาสอยู่ กบั อาจารยเ์ กง่ ๆ แล้วไม่ศกึ ษาเล่าเรียนวชิ าตดิ ตัวมา จงึ ส่ังใหท้ หารเอาตวั ไปประหาร นายหยว่ นก็ ทูลว่าขอตายดว้ ยฝมี ือเจ้าชาย เพราะไดม้ ซี อ่ื สตั ย์และอยรู่ บั ใชม้ านาน และเจา้ ชายก็จะได้มีโอกาส แสดงฝีมือยงิ ธนูให้พระราชาทอดพระเนตรดว้ ย พระราชาอนุญาตให้นายหย่วนเลือกตายด้วยฝีมือ ของพระโอรส ท้ังสองก็ลงมาท่ีสนามหน้าพระที่นั่งเจ้าชายเดินเข้ามาขออโหสิกรรม นายหย่วนขอ ตะเกยี บกับเจ้าชาย เจ้าชายก็ประทานตะเกียบให้ นายหย่วนมายนื ที่เสาสาหรบั ประหารเจ้าชายก็ อยู่อีกด้านหนึง่ เมื่อเจา้ ชายยิงธนูมาท่นี ายหย่วน เขาใช้เอาตะเกียบจบั ลกู ธนไู ด้ ทาให้พระราชาโมโหยงิ สง่ั ใหย้ ิงธนไู ปท่นี ายหย่วนทลี ะ ๓ ดอก เขากใ็ ช้ตะเกียบจบั ธนทู ้งั ๓ ดอกไดท้ นั ที พระราชาส่ังให้ยงิ อีก ทเี ดียว ๗ ดอก เขาใชต้ ะเกียบจบั ธนูท้งั ๗ ดอกได้ทัน พระเจา้ แผ่นดินเห็นเชน่ น้นั กท็ รงพอพระทัยส่ัง ให้พระโอรสเลิกยิง และชมเชยว่าทั้งสองคนมีความชานาญเป็นพิเศษ จึงต้ังให้นายหย่วนเป็น นายอาเภอ ประชาชนก็โห่ร้องด้วยความยินดี การพยายามทาอะไรก็ตามถึงจะไม่มีผู้สอน แต่เรา พยายามฝึกและเอาชนะตนเองเร่อื ย ๆ ผลดกี ็จะอยู่กับตัวเราเองโดยไม่ต้องพึง่ ความช่วยเหลือจาก ใคร
หน่วยการเรียนร้ทู ่ี 6 เรือ่ ง สรา้ งสรรค์งานเขียน 681 ตวั ละคร ฉาก .................................... เรือ่ ง ............................... .................................... เจา้ ชายกบั ตะเกยี บจีน ............................... .................................... ............................... .................................... ............................. .................................... .. ข้อคดิ เหตกุ ารณ์ ปัญหา ............................................ ................................. .................................... ............................................ .................................... ............................................ .................................... ............................................ .................................... ............................................ .................................... ............................................ .................................... ............................................ .................................... ....... ................................. ................................. ................................. . สรปุ ขอ้ คิดท่ีไดจ้ ากนทิ าน............................................................................................... ........................................................................................................................................... ........................................................................................................................................... ........................................................................................................................................... ........................................................................................................................................... ........................................................................................................................................... ........................................................................................................................................... ชอ่ื ....................................................................................ชั้น.......................เลขที่..............
682 คู่มอื ครแู ละแผนการจัดการเรียนรู้ ระดบั ประถมศกึ ษา ภาคเรยี นที่ ๑ (ภาษาไทย ป.6) แนวคาตอบ ใบงานที่ ๕ เรื่อง ขอ้ คดิ จากนทิ าน หน่วยการเรียนรทู้ ี่ ๖ เรอื่ ง สรา้ งสรรคง์ านเขียน แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ ๕ เร่ือง ขอ้ คิดจากนทิ าน รายวิชา ภาษาไทย รหัสวิชา ท๑๖๑๐๑ ภาคเรยี นที่ ๑ ชน้ั ประถมศึกษาปีที่ ๖ ตวั ละคร เร่ือง ฉาก พระราชา เจ้าชาย เจา้ ชายกับตะเกยี บจีน 1. สานกั ปา่ 2. ลานประหาร อาจารย์ เด็กรับใช้ ข้อคดิ ปัญหา 1. ความพยายามฝึกฝน หรือ ๑. พระราชาตอ้ งการ การต้ังใจทาด้วยตนเอง ใหโ้ อรสเตรยี มเป็น ๒. ความขยนั อดทน พระเจ้าแผน่ ดิน มคี วามเพยี รในการทาด้วย ๒. อาจารยไ์ ม่สอนวิชา ตนเองโดยไมห่ วงั พึ่งพาผ้อู ่ืน ใหเ้ ด็กรับใช้ เหตกุ ารณ์ ๑. เจา้ ชายและเดก็ รบั ใชไ้ ปเรียนวิชาที่สานกั ในปา่ ๒. เด็กรบั ใช้ฝึกใชต้ ะเกียบ ๓. พระราชาสั่งประหารชวี ติ เดก็ รบั ใช้ ๔. เดก็ รบั ใช้รอดชีวิตจากการใชต้ ะเกยี บ ๕. เด็กรบั ใช้ไดร้ ับแต่งต้ังเปน็ นายอาเภอ สรุป ข้อคิดทไี่ ดจ้ ากนิทาน การเป็นผู้มีความขยัน อดทน มีความพยายามในการฝึกตนเองโดยไม่หวังพ่ึงพา ผอู้ ื่น จะเกิดผลดตี ่อตนเองในการทางาน (อาจอยู่ในดลุ ยพนิ ิจของครู)
หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 6 เร่อื ง สรา้ งสรรค์งานเขยี น ๖๘๓ หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ ๖ แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี ๖ เรื่อง สรา้ งสรรค์งานเขียน เรื่อง สรา้ งสรรค์งานเขียน เวลา ๑ ชัว่ โมง กลมุ่ สาระการเรียนรู้ภาษาไทย รายวิชาภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปที ี่ ๖ สาระที่ ๒ การเขียน มาตรฐาน ท ๒.๑ ใช้กระบวนการเขยี นเขยี นส่อื สาร เขียนเรยี งความ ย่อความ และเขียนเรื่องราวในรูปแบบ ต่าง ๆ เขยี นรายงานขอ้ มูลสารสนเทศและรายงานการศึกษาค้นควา้ อย่างมปี ระสทิ ธิภาพ ตวั ชี้วัด ป.๖/๘ เขียนเรอ่ื งตามจินตนาการและสร้างสรรค์ ป.๖/๙ มีมารยาทในการเขียน ๒. สาระสาคัญ/ความคิดรวบยอด การเขียนนิทานเป็นการเขียนเร่ืองตามจินตนาการ โดยใช้ประสบการณ์เดิมผนวกกับความคิด สรา้ งสรรค์ ถ่ายทอดเร่ืองราวดว้ ยสานวนภาษาท่ีสนกุ สนานน่าสนใจ เป็นการฝกึ ให้ผูเ้ ขียนและผู้อ่านมคี วามคิด สรา้ งสรรคท์ ีด่ ี และไดข้ ้อคดิ จากนทิ านมาประยกุ ตใ์ ชก้ ับการดาเนนิ ชีวติ ของตนให้มีความสขุ ๓. จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ 1. ดา้ นความรู้ ความเขา้ ใจ (K) บอกหลกั การเขียนนทิ านได้ 2. ดา้ นทักษะ/กระบวนการ (P) เขยี นนิทานจากจนิ ตนาการได้ 3. ด้านคณุ ลกั ษณะ เจตคติ คา่ นิยม (A) บอกประโยชน์ของการเขียนนทิ านจากจินตนาการได้ ๔. สาระการเรยี นรู้ 4.1 หลักการเขยี นนทิ าน 4.2 การเขยี นนทิ านจากจนิ ตนาการ ๕. สมรรถนะสาคญั ของผ้เู รียน 5.1 ความสามารถในการสือ่ สาร 5.2 ความสามารถในการคิด 5.3 ความสามารถในการใช้ทกั ษะชีวติ ๖. คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ 6.1 มีวนิ ัย 6.2 ใฝ่เรียนรู้ 6.3 มงุ่ มนั่ ในการทางาน 6.4 รกั ความเปน็ ไทย ๗. กิจกรรมการเรยี นรู้
๖๘๔ คมู่ การจดั กจิ กรรมการเรียนร แผนการจัดการเรยี นร้ทู ี่ ๖ รายวชิ า ภาษาไทย หน่วยการเรียนรู้ท่ี ๖ เร ลาดบั ขอบเขตเนือ้ หา/ ขน้ั ตอนการจดั เวลา แ ที่ จดุ ประสงค์การเรียนรู้ การเรียนรู้ ทใี่ ช้ กิจกรรมคร 1. ขอบเขตเนือ้ หา ขั้นนา ๕ ๑. ครูสนทนากบั นกั เ 1. หลักการเขยี น นาที เก่ียวกบั ประสบการณ นิทาน นทิ านของนกั เรียน แล 2. การเขียนนทิ าน ประเด็นคาถามกระต้นุ จากจนิ ตนาการ ของนกั เรยี นดงั น้ี ครู : นกั เรียนชอบอ่าน หรอื ไมเ่ พราะเหตใุ ด ครู : นักเรียนชอบอ่า เรื่องใดมากทส่ี ุด เพรา ครู : นกั เรยี นรจู้ ักผเู้ ข คนใดบ้าง ครู : นักเรยี นชอบอา่ อสี ปหรอื ไม่ เพราะเห ครู : นกั เรียนเคยลอง นิทานหรอื ไม่ ถ้าเคย เกย่ี วกบั อะไร ครู : ถ้านักเรยี นจะเข นักเรยี นจะเร่ิมตน้ เขีย
มอื ครแู ละแผนการจัดการเรียนรู้ ระดับประถมศึกษา ภาคเรยี นท่ี ๑ (ภาษาไทย ป.6) รู้ ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี ๖ ๖ เรอื่ ง สรา้ งสรรค์นทิ าน ร่ือง สรา้ งสรรคง์ านเขียน จานวน ๑ ช่ัวโมง แนวการจดั การเรียนรู้ สอ่ื การเรยี นรู้ การประเมิน 1. ส่ือ ppt เรือ่ ง การเรยี นรู้ รู กิจกรรมนกั เรยี น สร้างสรรคน์ ิทาน เรียน ณ์ในการฟัง ลว้ ตัง้ นความคดิ นนิทาน นักเรยี น : ชอบ เพราะได้รบั านนิทาน ความสนุกสนาน าะเหตใุ ด นักเรยี น : (ตอบคาถามตาม ขยี นนทิ าน ความรสู้ กึ ) นักเรยี น : อสี ป านนิทาน นกั เรียน : ชอบเพราะสนกุ หตุใด และให้ขอ้ คิด งเขยี น นกั เรยี น : เคย /ไม่เคย เขยี นเรือ่ ง นกั เรยี น : ศึกษาตวั อยา่ ง นิทาน/แนวทางการเขียน ขยี นนทิ าน นทิ าน ยนนทิ าน
หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี 6 เร่อื ง สรา้ งสรรค์งานเขียน ลาดบั ขอบเขตเนือ้ หา/ ขั้นตอนการจัด เวลา แ ท่ี จดุ ประสงค์การเรียนรู้ การเรียนรู้ ทีใ่ ช้ กจิ กรรมคร อย่างไร ๒. ครเู ช่อื มโยงคาตอบ นักเรยี นและนาเขา้ สู่บ เรื่องการเขยี นนทิ าน 2. จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ ขน้ั สอน ๒๐ 1. นกั เรยี นและครรู ว่ ม 1. บอกหลกั การเขียน นาที อภิปรายเรอื่ งหลกั การเ นิทานได้ เพือ่ ศกึ ษาองค์ประกอบ จากส่อื งานนาเสนอ “ส \"นิทาน และใบความรู้เ การเขียนนทิ าน ในปร ๑. ตัวละคร ๒. ฉาก ๓. ปญั หาของเร ๔. เหตกุ ารณ์ ( อะไร ผลเป็นอย่างไร) ๕. ผลสดุ ทา้ ยขอ ๖. ขอ้ คิดที่ได้จา ๒. ครูให้นักเรยี นแบง่ ตามความสามารถ ระด เพอื่ เขียนนิทาน ๑ เรือ่ องค์ประกอบของโครงส
๖๘๕ แนวการจัดการเรียนรู้ สอ่ื การเรียนรู้ การประเมนิ รู กิจกรรมนกั เรียน การเรยี นรู้ บของ บทเรียน มกัน 2. สื่อ ppt เรอ่ื ง - ประเมนิ จาก เขียนนทิ าน สร้างสรรคน์ ทิ าน การตอบคาถาม บของนิทาน “สรา้ งสรรค์ 3. ใบความรู้ เรอื่ ง เรอ่ื ง การเขียน ระเดน็ นักเรียน : ตัวละคร /ฉาก/ นิทาน เหตกุ ารณ/์ ขอ้ คิด รือ่ ง (ใคร ทา องเร่ือง ากเรื่อง งกลมุ่ คละ ดมความคิด อง ตาม สร้างนทิ าน
๖๘๖ คูม่ ลาดับ ขอบเขตเน้ือหา/ ขั้นตอนการจดั เวลา แ ที่ จุดประสงค์การเรียนรู้ การเรียนรู้ ท่ีใช้ กจิ กรรมคร 3. ครูมอบหมายใหน้ ัก แต่ละกล่มุ ยกร่างนทิ าน แผนภาพโครงเร่อื งนทิ ช่วยกนั เขียนนิทานในใ เรอ่ื งการเขยี นนิทานตา จินตนาการ 3. 2. เขยี นนทิ านจาก ขั้นปฏบิ ตั ิ ครู : ครูเข้าไปร่วมวิเคร จนิ ตนาการได้ วิธีการเขียนนทิ านของ แตล่ ะกล่มุ ในประเด็น ๑) วธิ เี ขยี น : เปน็ เร ลาดบั เหตุการณ์ ๒) การใช้แผนภาพ นิทาน ในการกาหนด - ตัวละคร และฉาก - แนวคดิ ของเรอ่ื ง - เหตกุ ารณ์ ควรมกี - ผลสดุ ทา้ ยของเร ตวั ละครสาคญั เปน็ อย - ข้อคดิ หรือคติชีว ครู : ให้ข้อเสนอแนะคว เกีย่ วกบั นิทานของแตล่
มือครแู ละแผนการจัดการเรยี นรู้ ระดบั ประถมศกึ ษา ภาคเรยี นท่ี ๑ (ภาษาไทย ป.6) แนวการจัดการเรยี นรู้ ส่ือการเรยี นรู้ การประเมนิ การเรยี นรู้ รู กจิ กรรมนักเรยี น กเรียน นจาก ทาน และ ใบงานท่ี ๘ ตาม ราะห์ นักเรียน : ยกรา่ งนทิ านจาก - ตรวจผลงาน งนกั เรียน แผนภาพโครงเรอ่ื งนทิ าน การเขยี นนทิ าน นกั เรียน : เขยี นนิทานใน เร่ืองทมี่ ี 4. ใบความรู้ ใบงาน เรอื่ งการเขยี นนทิ าน พโครงเร่ือง ตามจนิ ตนาการ เร่ืองการเขียน นทิ าน ก ง กเ่ี หตุการณ์ ร่อื ง ยา่ งไร วิตของเรอ่ื ง วามคดิ เห็น ละกลุม่
หน่วยการเรียนร้ทู ี่ 6 เร่อื ง สรา้ งสรรคง์ านเขียน ลาดบั ขอบเขตเนื้อหา/ ขนั้ ตอนการจัด เวลา แ ที่ จุดประสงค์การเรยี นรู้ การเรียนรู้ ทีใ่ ช้ กิจกรรมคร และเพิ่มเตมิ เร่ืองให้สม 4. 3. บอกประโยชนข์ อง ขัน้ สรปุ ๕ ครแู ละนกั เรยี นร่วมกนั การเขยี นนิทานจาก นาที บทเรียนโดยร่วมกนั โด จินตนาการ อภิปรายในประเดน็ ตอ่ ครู : เขยี นนิทานอย่าง สร้างสรรค์ ครู : นักเรียนจะนานทิ ไปใชป้ ระโยชนอ์ ย่างไร ครู : การเขียนนทิ านม ประโยชน์อยา่ งไร
๖๘๗ แนวการจัดการเรยี นรู้ สือ่ การเรยี นรู้ การประเมิน การเรียนรู้ รู กจิ กรรมนกั เรียน มบูรณ์ นกั เรียน : ตรวจทานเร่ืองที่ เขยี น ปรบั แก้ไขคาผิด และ สานวนให้ถูกต้อง นกั เรยี น : ตวั แทนนักเรยี นแต่ ละกลมุ่ นานิทานทเี่ ขียน อา่ น ใหเ้ พ่ือน ๆ ฟงั นสรปุ ดยร่วมกนั อไปนี้ งไรให้ นักเรียน : ความคดิ แปลกใหม่ ไม่ลอกเลยี นแบบใคร/ดาเนนิ เร่อื งน่าสนใจ/มแี นวคิดชัดเจน ทานท่เี ขียน นกั เรียน : นานิทานไปอา่ นให้ ร น้องฟัง มี นักเรยี น : เปน็ การฝึกความคดิ - ประเมิน สร้างสรรค์และเสรมิ สรา้ ง การตอบคาถาม จนิ ตนาการ
688 ค่มู อื ครแู ละแผนการจดั การเรียนรู้ ระดบั ประถมศกึ ษา ภาคเรียนที่ ๑ (ภาษาไทย ป.6) ๘. สอ่ื การเรยี นรู/้ แหล่งเรียนรู้ ๑. สื่อโปรแกรมนาเสนอเร่ือง “สร้างสรรค์นิทาน” ๒. ใบความรู้ที่ 3 เรอื่ ง การเขียนนทิ าน ๓. ตัวอย่างนทิ าน ๔. ใบงานที่ 6 เรื่อง เขยี นนทิ านตามจินตนาการ ๙. การประเมนิ ผลรวบยอด ส่งิ ทีต่ อ้ งการวัด/และ วิธกี าร เครอ่ื งมือท่ีใช้ เกณฑ์ ประเมิน - ตอบคาถาม - คาถาม ผ่านเกณฑ์ ด้านความรู้ ความเขา้ ใจ การประเมนิ - บอกหลกั การเขียนนทิ าน ร้อยละ ๖๐ ข้ึนไป ผา่ นเกณฑ์ ดา้ นทกั ษะ/กระบวนการ - แบบประเมนิ พดู การประเมนิ - เขยี นนทิ านจากจินตนาการ - ประเมินการเขยี น การเขยี นนิทาน ร้อยละ ๖๐ ข้นึ ไป ด้านคุณลักษณะ เจตคติ ผา่ นเกณฑ์ คา่ นิยม การประเมิน - บอกประโยชนข์ อง - ตอบคาถาม - คาถาม รอ้ ยละ ๖๐ ขึ้นไป การเขยี นนทิ านจาก - แบบประเมิน ผา่ นเกณฑ์ จินตนาการ การประเมินระดบั ผ่าน ดา้ นคุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ - สงั เกตพฤติกรรม ผ่านเกณฑ์ ๑. ใฝ่เรียนรู้ การประเมนิ ระดับ ๒. มีวินัย ผ่าน สมรรถนะสาคญั ของผเู้ รียน 1. การสงั เกตพฤติกรรม 1. การสงั เกต ๑. ความสามารถใน 2. การตอบคาถาม 2. คาถาม การสอื่ สาร ๒. ความสามารถในการคดิ ๓. ความสามารถในการใช้ ทกั ษะชีวิต
หนว่ ยการเรียนร้ทู ่ี 6 เรือ่ ง สรา้ งสรรคง์ านเขียน 689 เกณฑ์การประเมินผลช้นิ งานหรอื ภาระงาน เกณฑก์ ารประเมนิ การเขียนนิทานตามจนิ ตนาการ ประเด็นการ ระดับคุณภาพ ประเมิน ๔ (ดีมาก) ๓ (ดี) ๒ (พอใช้) ๑ (ปรับปรุง) การเขียนนทิ าน เขียนนทิ านตาม ตามจินตนาการ เขยี นนทิ านตาม เขยี นนทิ านตาม เขียนนิทานตาม จินตนาการได้ จินตนาการได้ จินตนาการได้ จนิ ตนาการได้ แตก่ ารใช้คาบาง เน้อื เร่ืองมี เนอ้ื เรือ่ งมี เนอื้ เรื่องเปน็ ไป คาไม่สอดคลอ้ ง ความตอ่ เนือ่ ง ความตอ่ เนือ่ ง ในแนวเดยี วกนั กับเนื้อเรอื่ งและ สมั พันธ์กนั ตง้ั แตต่ ้น สอดคล้องกบั หัวข้อ ประโยคทีน่ ามา เนอื้ เรื่องไมต่ อ่ เน่ือง จนจบ สอดคลอ้ งกับ สามารถเรยี บเรยี ง เรยี บเรยี งเปน็ การเรยี บเรยี ง หวั ข้อ นาประโยคท่ี ประโยคสั้น ๆ มา ขอ้ ความ อาจไม่ ข้อความไม่ สมบรู ณ์มาเรยี บเรียง เช่ือมตอ่ เป็นขอ้ ความ สมบรู ณ์นกั แตก่ ็ สละสลวยเปน็ เป็นข้อความที่ เลือกใช้คาได้ ไดใ้ จความและ ประโยคที่ไม่ ชัดเจน เลอื กใชค้ า ถูกต้องเหมาะสม เลือกใชค้ าได้ สมบรู ณ์ แต่ยัง อย่างประณตี ถูกต้อง ถูกตอ้ งเหมาะสม สามารถเข้าใจ ตามความหมาย เนอ้ื ความโดย เหมาะสมกบั รวมได้ สถานการณแ์ ละ บคุ คล เกณฑก์ ารประเมินคุณภาพ ชว่ งคะแนน ระดับคุณภาพ ๑๗-๒๐ ดมี าก ๑๓-๑๖ ดี ๑๐-๑๒ พอใช้ ต่ากว่า ๑๐ ปรบั ปรงุ เกณฑก์ ารตัดสิน : ผา่ นเกณฑ์การประเมนิ ร้อยละ ๖๐ ข้นึ ไป
690 คู่มอื ครแู ละแผนการจดั การเรียนรู้ ระดบั ประถมศึกษา ภาคเรียนท่ี ๑ (ภาษาไทย ป.6) 10. บนั ทึกผลหลงั สอน ผลการจัดการเรยี นการสอน .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................... ............... .............................................................................................................................................................................. ความสาเรจ็ .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................... ............... .............................................................................................................................................................................. ปญั หาและอุปสรรค .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................... ............... .............................................................................................................................................................................. ขอ้ จากดั การใช้แผนการจัดการเรียนรู้ และข้อเสนอแนะ/แนวทางการปรบั ปรุงแก้ไข .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................... ............... .............................................................................................................................................................................. ลงชือ่ ......................................................ผสู้ อน (..........................................................) วนั ท่ี ............. เดือน ..........พ.ศ. .................. 11. ความคดิ เห็น/ขอ้ เสนอแนะของผบู้ ริหารหรือผู้ทีไ่ ด้รับมอบหมาย .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ลงชื่อ......................................................ผตู้ รวจ (..........................................................) วนั ที่ ............. เดือน ..........พ.ศ. ......
หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 6 เรือ่ ง สรา้ งสรรคง์ านเขียน 691 ใบความรทู้ ี่ 3 เรอ่ื ง การเขียนนทิ าน หนว่ ยการเรียนร้ทู ่ี ๖ เร่ือง สร้างสรรค์งานเขียน แผนการจัดการเรียนรทู้ ่ี ๖ เรื่อง สรา้ งสรรคง์ านเขียน รายวชิ า ภาษาไทย รหัสวิชา ท๑๖๑๐๑ ภาคเรียนที่ ๑ ชน้ั ประถมศึกษาปีที่ ๖ นิทานเป็นวรรณกรรมที่เก่าแก่ท่ีใคร ๆ ไม่ว่าเด็กหรือผู้ใหญ่ก็ชอบฟังนิทานท้ังนั้น แต่ละ ชนชาติตา่ งมีนิทานเปน็ สมบตั ิประจาชาติของตน นิทานมหี ลายประเภท เชน่ นิทานพ้ืนบา้ น นิทาน อสี ป นิทานชาดก การเขียนนทิ านต้องมศี ิลปะในการเขียนให้สนุก นิทานนอกจากให้ความบันเทิง แลว้ ยงั ใหค้ ณุ ค่าแก่ผูฟ้ ังและผู้อา่ น ไดแ้ ก่ คตธิ รรม ข้อคดิ เก่ียวกับชีวติ สงั คม วฒั นธรรมในท้องถ่ิน องคป์ ระกอบของนทิ าน ได้แก่ ๑. แนวคิดหรือแก่นของเรือ่ ง เช่น เรื่องปลาบู่ทอง และ เรอ่ื งซินเดอเรลลา มีแนวคิด หรือ แก่นของเรือ่ งวา่ แม่เลย้ี งข่มเหงลูกเลี้ยง ๒. โครงเร่ือง ซ่ึงเปน็ การกลา่ วถึงเหตกุ ารณทีด่ าเนนิ ไปตามลาดับ ๓. ตวั ละครสาคญั และตัวละครประกอบ ๔. ฉาก ซึ่งกล่าวถงึ สถานท่ี และบรรยากาศประกอบเร่อื ง ๕. ถอ้ ยคาหรอื บทสนทนา ที่ตัวละครในเร่อื งพดู กนั ๖. คติชวี ติ หรอื ขอ้ คิด ที่ไดจ้ ากเร่อื ง วธิ ีการเขยี นนทิ าน การเขียนนิทานเป็นการเขียนเร่ืองสมมตใิ ห้ผู้อื่นอ่าน ต้องเขียนให้สนุกและเขียนบรรยาย ให้นา่ สนใจ ใหเ้ หมอื นกบั ผู้เขยี นไดม้ าเล่าใหผ้ ู้อา่ นฟงั มหี ลักการเขยี นดงั น้ี ๑. สร้างโครงเรื่อง ๒. กาหนดตัวละครและสถานท่ที ี่เกิดเหตุการณ์ ๓. ลาดบั เหตกุ ารณ์ ๔. ดาเนินเรือ่ งใหน้ ่าสนใจ มีความขดั แย้งในการกระทาของตัวละคร ๕. ใช้ภาษาในการดาเนินเรื่องให้สมจริงสมจัง และสละสลวย โดยใช้การบรรยาย หรือ การใชบ้ ทสนทนาดาเนนิ เรือ่ ง ๖. เขียนเรื่องใหม้ แี นวคดิ และให้เห็นผลของการกระทาของตัวละคร ๗. การเขียนนิทานโดยการนาเรื่องเก่ามาเล่าใหม่ โดยมีวิธีการเขียนท่ีแปลกออกไป คือ เพ่ิมเติมขยายข้อความของเก่าให้กว้างขวางออกไปจากเดิม และท่ีสาคัญท่ีสุดคือ มี การสอดแทรกข้อคิด ลักษณะนีเ้ รียกวา่ “นทิ านประยกุ ต์” (วิภา ตณั ฑลุ พงษ์. 2555. แนวทางการพฒั นาการเรียนการสอนเขียนภาษาไทยในระดับ ประถมศึกษา.กรงุ เทพฯ : สานักพมิ พ์คณะรัฐมนตรแี ละราชกิจจานเุ บกษา)
692 คมู่ อื ครูและแผนการจดั การเรยี นรู้ ระดับประถมศกึ ษา ภาคเรยี นที่ ๑ (ภาษาไทย ป.6) แผนภาพโครงเรอื่ ง นทิ านเรอ่ื ง............................................ ตวั ละคร ฉาก ปญั หาของเร่อื ง ๑.................................. ๑................................. ๑................................ ๒.................................. ๒................................. .................................. ๓................................... ๓ ................................ ๒................................ 4.................................. 4................................. .................................. 5.................................. 5................................. .................................. .................................. เหตกุ ารณท์ ี่ ๒ เหตกุ ารณท์ ่ี ๑ เหตกุ ารณท์ ี่ ๓ เหตกุ ารณท์ ่ี ๔ ข้อคดิ ที่ไดจ้ ากเร่ือง ผลสดุ ทา้ ยของเรื่อง นิทานเร่อื ง
หน่วยการเรยี นร้ทู ่ี 6 เร่อื ง สรา้ งสรรค์งานเขยี น 693 ใบงานที่ ๖ เรื่อง เขยี นนิทานตามจินตนาการ หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี ๖ เรือ่ ง สรา้ งสรรคง์ านเขียน แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ ๖ เรือ่ ง สรา้ งสรรคง์ านเขียน รายวิชา ภาษาไทย รหสั วิชา ท๑๖๑๐๑ ภาคเรยี นท่ี ๑ ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ี่ ๖ คําชแี้ จง ให้นกั เรียนวางแผนเขยี นนิทานตามจินตนาการ ตัวละคร ข้อคดิ ผลของเหตุการณ์ โครงเร่อื งนิทานเร่ือง ฉาก .................................................. เหตุการณ์ นิทานเรื่อง...................................................................... ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
694 ค่มู ือครูและแผนการจดั การเรียนรู้ ระดับประถมศึกษา ภาคเรยี นที่ ๑ (ภาษาไทย ป.6) แนวคาํ ตอบ ใบงานท่ี ๖ เร่ือง เขียนนิทานตามจนิ ตนาการ หน่วยการเรียนรทู้ ี่ ๖ เรื่อง สรา้ งสรรคง์ านเขียน แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี ๖ เร่ือง สรา้ งสรรคง์ านเขยี น รายวิชา ภาษาไทย รหสั วิชา ท๑๖๑๐๑ ภาคเรยี นที่ ๑ ชัน้ ประถมศกึ ษาปที ่ี ๖ คาํ ชแ้ี จง ให้นกั เรียนวางแผนเขยี นนทิ านตามจนิ ตนาการ ตวั ละคร อกี า สุนขั จง้ิ จอก ข้อคิด คนโง่ย่อมเป็น เหยอื่ ของคนฉลาด ผลของเหตกุ ารณ์ โครงเร่อื งนิทานเรือ่ ง ฉาก ชิน้ เน้อื ท่กี าคาบมาหลน่ จาก กากบั สนุ ขั จ้งิ จอกเจ้าเล่ห์ ต้นไมต้ น้ หนงึ่ ปาก สนุ ขั จง้ิ จอกจงึ มาคาบเน้อื ไปกนิ แทน เหตุการณ์ กาซง่ึ กําลงั คาบเนอื้ อย่ใู นปาก หลงเช่อื คาํ พูดของสุนขั จิง้ จอกทีช่ มว่ากามีเสยี ง ไพเราะ จงึ อา้ ปากจะร้องเพลงใหส้ นุ ขั จิง้ จอกฟงั นทิ านเร่อื ง......กากบั สุนขั จิง้ จอกเจา้ เลห่ ์ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………ส…ุน…ขั จ…้งิ…จ…อ…กต…วั …ห…น…ง่ึ …เด…นิ …ผ…า่ น…ม…า…เห…น็ …อ…ีก…าค…า…บ…เน…อื้ …อ…ย…ู่ใน…ป…า…ก…ม…นั …อ…ยา…ก…ก…ิน…เน…้ือ…ช…นิ้ …น้ัน……ม…นั …จงึ………… ………เอย่ ปากทกั อกี าวา่ “สวสั ดคี รบั คณุ กา คณุ ชา่ งสงา่ งามอะไรอย่างน้ี ขนของคณุ กด็ สู วยงามมาก” …………อกี…า…ร…สู้ กึ…ช…อ…บ…ใจ…ม…า…ก…ม…ัน…ด…ขู …นข…อ…ง…ต…วั เ…อ…งอ…ย…า่ …งภ…มู …ใิ …จ…ส…นุ …ขั …จง้ิ…จ…อ…ก…จึง…พ…ดู …ต…่อ…ไป…อ…กี …ว่า……“ค…ณุ …ก…ม็ …เี …สีย…ง……… …………ไพ…เ…รา…ะ…มา…ก……ค…ณุ …ค…ง…รอ้ …ง…เพ…ล…ง…เพ…ร…าะ…ด…ว้ …ย…ใช…่ไ…หม…”……อ…ีก…าร…บี …ผ…ง…กห…ัว…ร…บั …“…ถ…า้ อ…ย…่า…งน…น้ั…ค…ณุ …ช…ว่ …ย…ร้อ…ง………… …………เพ…ล…ง…ให…ผ้ …ม…ฟ…งั ห…น…อ่ …ย…เถ…ดิ …ค…รบั…”……อกี…า…จ…ึงอ…า้…ป…า…กเ…พ…่ือ…จ…ะร…้อ…งเ…พ…ล…ง…พ…อ…ม…นั อ…า้ …ป…า…ก…เน…ื้อ…ก…ห็ …ล…ดุ จ…า…ก…ป…าก……… …………ตก…ล…ง…ท…พ่ี …น้ื …ส…นุ …ัข…จง้ิ…จ…อ…ก…จึง…ร…บี …คา…บ…เ…นือ้…ช…น้ิ …น…ัน้ …แ…ล…้วว…่ิง…ห…น…ไี ป……………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี 6 เร่ือง สรา้ งสรรคง์ านเขยี น ๖๙๕ เวลา ๑ ช่วั โมง หนว่ ยการเรียนร้ทู ี่ ๖ แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ ๗ เรื่อง เรียงความ ๑ ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี ๖ เรอื่ ง สรา้ งสรรค์งานเขียน กลุ่มสาระการเรียนรภู้ าษาไทย รายวชิ าภาษาไทย สาระท่ี ๒ การเขยี น มาตรฐาน ท ๒.๑ ใชก้ ระบวนการเขียนเขียนสื่อสาร เขียนเรียงความ ย่อความ และเขียนเร่อื งราวในรปู แบบต่าง ๆ เขยี นรายงานขอ้ มลู สารสนเทศและรายงานการศกึ ษาคน้ คว้าอยา่ งมีประสิทธภิ าพ ตัวชี้วัด ป.๖/๔ เขียนเรยี งความ ป.๖/๙ มีมารยาทในการเขยี น ๒. สาระสาคญั /ความคดิ รวบยอด การเขียนเรียงความ เป็นการเขียนท่ีมุ่งถ่ายทอดเรื่องราว ความรู้ ความคิด และทัศนคติ ด้วยภาษา ถ้อยคาท่ีสละสลวย องค์ประกอบของเรียงความมี ๓ ส่วน ในการเขียนเรียงความต้องคานึงถึงมารยาทใน การเขยี นดว้ ย ๓. จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ 1. ด้านความรู้ ความเขา้ ใจ (K) บอกหลักการเขียนเรยี งความได้ 2. ด้านทกั ษะ/กระบวนการ (P) ๑. วางแผนการเขียนเรียงความได้ ๒. เขียนเรยี งความได้ 3. ดา้ นคุณลกั ษณะ เจตคติ คา่ นิยม (A) บอกประโยชนข์ องการเขียนเรยี งความได้ ๔. สาระการเรยี นรู้ 4.1 หลักการเขียนเรียงความ 4.2 การวางแผนการเขยี นเรียงความ 4.3 การเขียนเรยี งความ ๕. สมรรถนะสาคญั ของผู้เรยี น 5.1 ความสามารถในการส่ือสาร 5.2 ความสามารถในการคดิ 5.3 ความสามารถในการใชท้ กั ษะชวี ิต ๖. คณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ 6.1 มีวินยั 6.2 ใฝเ่ รยี นรู้ 6.3 ม่งุ ม่ันในการทางาน 6.4 รกั ความเป็นไทย ๗. กจิ กรรมการเรยี นรู้
๖๙๖ คมู่ ลาํ ดบั การจัดกจิ กรรมการเรยี นร ที่ แผนการจัดการเรยี นร้ทู ี่ ๗ 1. รายวชิ า ภาษาไทย หน่วยการเรียนรทู้ ี่ ๖ เร ขอบเขตเนื้อหา/ ขนั้ ตอนการจดั เวลา แ จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ การเรียนรู้ ท่ีใช้ ขอบเขตเน้อื หา กิจกรรมคร 1. หลักการเขยี น ขนั้ นาํ ๕ ๑. ครนู ําตัวอย่างเรียง เรียงความ นาที อา่ นให้นกั เรียนฟงั แล 2. การวเิ คราะห์ คําถามกระตนุ้ ความค ลักษณะของเรยี งความ นักเรยี นดงั นี้ จากตัวอย่าง ครู : นักเรียนเคยเขีย 3. การเขยี น เรียงความหรอื ไม่ อย่า เรียงความ ครู : เรยี งความทน่ี ักเร ขึน้ ให้ขอ้ คดิ อะไร ครู : เรยี งความทีน่ กั เร ขน้ึ มีความยาวประมา ครู : นกั เรยี นคิดว่า องคป์ ระกอบใดของเร ทด่ี งึ ดูดความสนใจได้ม ครู : นกั เรียนคิดว่าสว่ เรียงความที่เขียนยาก ครู : นักเรยี นต้องการ การเขียนเรยี งความขอ ใหด้ ีขนึ้ หรือไม่ เพราะ
มือครูและแผนการจดั การเรยี นรู้ ระดับประถมศึกษา ภาคเรียนท่ี ๑ (ภาษาไทย ป.6) รู้ ชั้นประถมศึกษาปที ่ี ๖ เรือ่ ง เขยี นเรียงความ (๑) รอ่ื ง สร้างสรรคง์ านเขยี น จาํ นวน ๑ ช่วั โมง แนวการจดั การเรียนรู้ สอ่ื การเรยี นรู้ การประเมนิ 1. สอ่ื ppt เรื่อง การเรียนรู้ รู กิจกรรมนกั เรยี น เรอื่ งการเขียน เรียงความ งความมา นกั เรยี น : ตวั แทนนักเรยี น ลว้ ใช้ ออกมาอา่ นเรียงความ คดิ ของ ยน นักเรยี น : เคย โดยเขียน างไร เรอื่ งวนั แม่ รยี นเขยี น นักเรยี น : ความกตญั ญู รยี นเขยี น นักเรียน : ๑ หน้ากระดาษ าณเท่าไร นักเรียน : สว่ นนํา รยี งความ มากท่สี ดุ นักเรียน : สว่ นนาํ วนใดของ นกั เรยี น : ตอ้ งการเพราะ กทส่ี ดุ อยากให้เรียงความทเ่ี ขยี นน้ัน รพฒั นา น่าสนใจ องตนเอง ะเหตุใด
หน่วยการเรียนรู้ที่ 6 เรอ่ื ง สรา้ งสรรคง์ านเขยี น ลาํ ดบั ขอบเขตเนอื้ หา/ ขน้ั ตอนการจดั เวลา แ ที่ จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ การเรยี นรู้ ที่ใช้ กจิ กรรมคร 2. ขัน้ สอน ๒๐ ๑. ครนู าํ ตวั อย่างเรยี ง นาที ชนะการประกวดในวนั ต่าง ๆ มาแจกใหน้ ักเร จากน้ันครูขออาสาสม นกั เรียน 1 คน ออกม เรยี งความท่คี รเู ตรียม เพื่อนฟังทหี่ นา้ ช้นั เรยี ๒. ครูใหน้ ักเรยี นตัง้ ข วา่ เรียงความท่ีเพือ่ นอ ฟงั นั้นส่วนใดเปน็ คาํ น เนอื้ เรอื่ ง และสรุป ๓. ครูให้นกั เรยี นศกึ ษ เพิ่มเติมเรื่องการเขยี น เรียงความจากใบความ ๔. ครใู ห้นกั เรยี นกลมุ่ รว่ มกันตรวจสอบว่า จ เรียงความตวั อยา่ งที่เพ ใหฟ้ ังน้ัน ส่วนใดเปน็ ค เนื้อเรือ่ ง และสรุป จา อธบิ ายสว่ นประกอบข เรียงความใหน้ ักเรยี นฟ เป็นการตรวจสอบควา
แนวการจดั การเรียนรู้ สือ่ การเรยี นรู้ ๖๙๗ รู กิจกรรมนกั เรยี น การประเมนิ งความท่ี นักเรยี น : ตัวแทนนักเรียน การเรียนรู้ นสาํ คัญ ออกมาอ่านเรียงความ รยี นดู มคั ร มาอา่ น มไวใ้ ห้ ยน ข้อสงั เกต อ่านให้ นํา ษาความรู้ นักเรยี น : ใบความรเู้ รอ่ื ง น การเขียนเรยี งความ มรู้ มเดมิ นกั เรยี น : ระดมความคิด จาก ภายในกลุ่มพจิ ารณา พอื่ นอา่ น ส่วนประกอบของเรียงความ คํานาํ ากน้นั ครู ของ ฟงั เพอื่ ามรู้
๖๙๘ ขอบเขตเน้อื หา/ ข้นั ตอนการจดั เวลา คมู่ จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ การเรยี นรู้ ทีใ่ ช้ ลาํ ดบั จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ แ ที่ 1. บอกหลกั การเขียน กิจกรรมคร เรียงความได้ ๕. ครตู ้งั ประเดน็ คาํ ถ ตรวจสอบความรูข้ อง ดงั น้ี ครู : การเขยี นเรียงคว หลกั ในการเขียนอยา่ ง ๖. ครแู ละนักเรยี นร่วม ความรู้เรอื่ งการเขยี นเร ลงในแผนผงั ความคิดบ กระดานดาํ ๗. ครูอธบิ ายเพิ่มเตมิ เ การเขยี นเรียงความ ไ ๑) เรมิ่ ต้นจากการ เรื่อง ๒) การวางแผนกา โดยการเขยี นแผนภาพ (สว่ นประกอบ ๓ สว่ น คํานํา เนอ้ื เรอื่ ง และ ส ๓) การจัดลาํ ดบั เห ๔) การเขยี นยกร่า เรยี งความ ๕) การอ่านตรวจส ๖) การปรบั ปรงุ ผล
มอื ครูและแผนการจดั การเรยี นรู้ ระดับประถมศกึ ษา ภาคเรยี นท่ี ๑ (ภาษาไทย ป.6) แนวการจดั การเรียนรู้ สอ่ื การเรียนรู้ การประเมนิ การเรียนรู้ รู กิจกรรมนกั เรยี น ถามเพื่อ งนกั เรียน วามทด่ี มี ี นกั เรียน : เขยี นเรยี งความให้ งไร นา่ สนใจ / เขียนเนอื้ หาได้ มกนั สรปุ ชดั เจน/สรุปเรื่องได้ประทับใจ รียงความ ผู้อา่ น บน นักเรยี น : นักเรยี นเขยี นผงั ความคดิ บนกระดาน เรือ่ ง ได้แก่ รกาํ หนด ารเขยี น พความคดิ น คอื สรุป) หตกุ ารณ์ าง สอบ ลงาน
หน่วยการเรยี นรู้ที่ 6 เรอื่ ง สร้างสรรคง์ านเขียน ลําดบั ขอบเขตเนื้อหา/ ขัน้ ตอนการจดั เวลา แ ท่ี จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ การเรยี นรู้ ทใี่ ช้ กิจกรรมคร 2. วางแผนการเขยี น ๗) การนําเสนอผล 3. เรียงความได้ ขั้นปฏบิ ตั ิ ๒๐ และประเมินผลงาน 3. เขยี นเรียงความได้ นาที ๘. ครูมอบหมายภาระ นกั เรียนแต่ละคนทําใบ เรื่อง การตอบคาํ ถาม เตรยี มการเขียนเรยี งค ครู : สุ่มผลงานของนกั ๒-๓ คน ให้ออกมาอา่ น จากใบงาน หนา้ ช้นั เรยี ครูใหน้ ักเรียนแตล่ ะคน ปรบั ปรงุ คําตอบจากใ แล้วนาํ คาํ ตอบไปเขยี น เรียงความในใบงานเร เรียงความสร้างสรรค์ แนวการเขียนดงั นี้ คําตอบขอ้ ๑ เปน็ แนว การเขยี น “คาํ นํา” คาํ ตอบขอ้ ๒-๕ เปน็ การเขยี น “เน้อื เร่อื ง”
แนวการจดั การเรยี นรู้ ส่ือการเรียนรู้ ๖๙๙ รู กจิ กรรมนกั เรยี น การประเมิน ลงาน การเรยี นรู้ ะงานให้ นักเรยี น : ทาํ ใบงานเรอ่ื ง 2. ใบงาน เรื่อง - ประเมนิ บงาน การตอบคําถามเตรียม การตอบคาํ ถาม การเขียน ม การเขียนเรยี งความ เตรยี มการเขยี น เรยี งความ ความ นักเรียน : ทาํ ใบงาน เร่ือง เรยี งความ กเรียน เขยี นเรยี งความสร้างสรรค์ 3. ใบงานเรอ่ื ง นคําตอบ นักเรียน : เขยี นเรยี งความ เขยี นเรียงความ ยน นักเรียน : ออกมาอ่าน สร้างสรรค์ น เรียงความหนา้ ชัน้ เรยี น เรียงความ ใบงาน น รื่องเขยี น โดยมี ว นแนว ”
๗๐๐ ขอบเขตเนือ้ หา/ ขน้ั ตอนการจดั เวลา คมู่ ลําดบั จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ การเรียนรู้ ที่ใช้ 4. บอกประโยชน์ของ แ ที่ การเขยี นเรยี งความได้ ขน้ั สรปุ กิจกรรมคร คาํ ตอบข้อ ๖ เป็นแน 4. การเขียน “สรปุ ” ครู : ใหค้ วามชว่ ยเหล นกั เรยี นที่มปี ญั หาในก ครู : สุ่มนกั เรียน มา ๒ เรยี งความใหเ้ พอื่ นฟัง ค คําแนะนําการเขยี นแล ผลงาน ครูและนกั เรียนรว่ มกัน หลักการเขยี นเรียงคว ตอบคําถามในประเด็น ครู : การวางแผนกอ่ นก เรยี งความมีประโยชน์อ ครู : การปฏิบัตติ ามห เขียนเรยี งความมปี ระ อยา่ งไร
มือครูและแผนการจดั การเรียนรู้ ระดับประถมศกึ ษา ภาคเรียนที่ ๑ (ภาษาไทย ป.6) แนวการจดั การเรยี นรู้ ส่อื การเรยี นรู้ การประเมนิ การเรียนรู้ รู กจิ กรรมนกั เรยี น นว ลือ การเขยี น ๒ คู่ อา่ น ครใู ห้ ละชมเชยใน นสรุป นักเรยี น : ชว่ ยให้เขยี น - ประเมิน วามโดย เรยี งความได้ง่ายข้ึน การตอบคาํ ถาม นต่อไปนี้ การเขยี น อยา่ งไร หลักการ นกั เรียน : จะช่วยให้สามารถ ะโยชน์ เขียนเรยี งความได้ดี มคี วามนา่ สนใจมากขน้ึ
หน่วยการเรียนรู้ท่ี 6 เรื่อง สร้างสรรค์งานเขยี น 701 ๘. สื่อการเรียนร/ู้ แหลง่ เรียนรู้ ๑. ส่อื โปรแกรมนาํ เสนอเรอื่ งการเขียนเรยี งความ ๒. ใบความรทู้ ่ี 4 เรื่อง หลกั การเขียนเรยี งความ ๓. ใบงานที่ 7 เร่อื ง ตอบคําถามเตรียมการเขยี นเรียงความ ๙. การประเมินผลรวบยอด วธิ กี าร เคร่ืองมือทใ่ี ช้ เกณฑ์ - ตอบคาํ ถาม สิง่ ทต่ี อ้ งการวดั /และ - คาํ ถาม ผา่ นเกณฑ์ ประเมนิ การประเมนิ รอ้ ย ละ ๖๐ ข้ึนไป ด้านความรู้ - บอกหลักการเขียน เรยี งความ ด้านทกั ษะและกระบวนการ - แบบประเมนิ การเขยี น ผ่านเกณฑ์ 1. วางแผนการเขียน - ประเมินการเขยี น 2. เขียนเรยี งความ เรียงความ เรยี งความ การประเมิน ร้อยละ ๖๐ ขนึ้ ไป ด้านคณุ ลกั ษณะ เจตคติ - ตอบคําถาม - คาํ ถาม ผา่ นเกณฑ์ ค่านยิ ม - แบบประเมิน การประเมิน - บอกประโยชน์ของ 1 การสงั เกต ร้อยละ ๖๐ ขน้ึ ไป การเขียนเรียงความ 2 คาํ ถาม ผ่านเกณฑ์ การประเมินระดบั ดา้ นคณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ - สงั เกตพฤตกิ รรม ผ่าน ๑. ใฝ่เรยี นรู้ ผ่านเกณฑ์ ๒. มีวินัย การประเมินระดบั ผ่าน สมรรถนะสําคญั ของผู้เรยี น 1. การสงั เกตพฤติกรรม ๑. ความสามารถใน 2. การตอบคาํ ถาม การสอื่ สาร ๒. ความสามารถในการคิด ๓. ความสามารถในการใช้ ทักษะชวี ิต
702 คู่มอื ครูและแผนการจัดการเรยี นรู้ ระดบั ประถมศึกษา ภาคเรยี นที่ ๑ (ภาษาไทย ป.6) เกณฑก์ ารประเมนิ ผลชิ้นงานหรือภาระงาน เกณฑก์ ารประเมนิ การเขียนเรยี งความ รายการ ดีมาก (4) ระดับคุณภาพ/ระดบั คะแนน ปรับปรุง (1) ประเมิน ดี (3) พอใช้ (2) 1. การเขียน ใช้ภาษาในการเขยี นคา ใชภ้ าษาค่อนขา้ งดี เขยี นคานานาเข้าสู่ เขียนคานาไมต่ รง คานา นาไดโ้ ดดเดน่ จูงใจ เขียนคานาได้ดี เรอ่ื งตามหัวขอ้ ประเดน็ วกวนไปมา ผู้อา่ นใหส้ นใจติดตาม นาเขา้ สู่เรอื่ งได้ เรยี งความไดพ้ อใช้ ไมเ่ ข้าสูเ่ ปา้ หมาย อา่ นเนือ้ เรือ่ ง เขยี น ถูกต้องตรงประเด็น การใช้ภาษาไม่ หรอื ประเด็นเรื่อง คานานาเขา้ สูเ่ รอ่ื งได้ โดดเดน่ ไมน่ ่าสนใจ ถกู ต้องตรงประเดน็ 2. สาระใน เนื้อเรือ่ งมีสาระ เนอ้ื เรอื่ งมีสาระ เนือ้ เรอื่ งมีสาระน้อย เนื้อเรือ่ งขาดสาระ เนอ้ื เรอื่ ง ครบถ้วนทง้ั ความรู้ ความรู้ แตข่ าดความ ทั้งความร้แู ละความ ทงั้ ความรแู้ ละความ และความงามใน งามในภาษา มีคณุ คา่ งามในภาษา ไม่ค่อย งามในภาษา ไมม่ กี าร 3. การใช้ ภาษา มคี ุณค่า ขอ้ คดิ ข้อคดิ แทรกในงาน สอดแทรกคุณค่า สอดแทรกคณุ ค่า โวหาร คาคม แทรกในงานเขียนได้ เขยี นเปน็ สว่ นใหญ่ และข้อคดิ ในงาน ข้อคิดในงานเขียน 4. การสรุป ดีและถกู ตอ้ งชัดเจน โวหาร คาคมได้ เขียน การใชโ้ วหาร ถกู ตอ้ งเป็นสว่ นใหญ่ การใช้โวหาร คาคม คาคมใด ๆ เลย มกี ารใช้โวหาร คาคม เขยี นสรปุ ไดต้ รง ได้เพียงบางสว่ น เขียนสรปุ ไมต่ รง ได้ถูกตอ้ งเหมาะสม ประเดน็ มลี ักษณะ ประเด็น ไมม่ ี สอดคลอ้ งกบั งาน ทิ้งท้ายให้คดิ เขียนสรปุ ได้ การทงิ้ ท้ายใหค้ ิด เขียนสรปุ ไดต้ รง ให้ดาเนินการต่อ คอ่ นขา้ งตรง งานเขียนไมม่ คี ุณคา่ ประเด็น มีลกั ษณะ และใหค้ ุณค่า ประเดน็ และให้ ทงิ้ ทา้ ยใหค้ ิด แก่ผ้อู ่านคอ่ นข้างดี คณุ คา่ แกผ่ อู้ า่ น ใหด้ าเนนิ การตอ่ เลก็ นอ้ ย และให้คณุ คา่ แก่ผอู้ า่ นอยา่ งมาก หมายเหตุ : ค่าน้าหนัก ๕ คะแนน ชว่ งคะแนน ระดบั คุณภาพ เกณฑ์การประเมินคุณภาพ ๑๘-๒๐ ดมี าก ๑๕-๑๗ ดี ๑๒-๑๔ พอใช้ ต่ากว่า ๑๒ ปรบั ปรงุ เกณฑก์ ารตดั สนิ : ผา่ นเกณฑ์การประเมนิ รอ้ ยละ ๖๐ ข้ึนไป
หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 6 เรอ่ื ง สรา้ งสรรคง์ านเขียน 703 10. บันทึกผลหลังสอน ผลการจัดการเรยี นการสอน .............................................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. ............................ .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ความสาเร็จ .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ....................................................................................................................................................... ....................... .............................................................................................................................................................................. ปัญหาและอุปสรรค .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................. ................................................................ .................................................................................................................................................. ............................ .............................................................................................................................................................................. ข้อจากดั การใช้แผนการจดั การเรียนรู้ และขอ้ เสนอแนะ/แนวทางการปรบั ปรงุ แกไ้ ข .............................................................................................................................................................................. ..................................................................................................................................................................... ......... .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ลงช่ือ......................................................ผสู้ อน (..........................................................) วันที่ ............. เดือน ..........พ.ศ. .................. 11. ความคิดเหน็ /ขอ้ เสนอแนะของผบู้ ริหารหรอื ผทู้ ่ีไดร้ ับมอบหมาย .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ลงชื่อ......................................................ผู้ตรวจ (..........................................................) วันท่ี ............. เดือน ..........พ.ศ. ......
704 คมู่ อื ครแู ละแผนการจัดการเรียนรู้ ระดบั ประถมศกึ ษา ภาคเรียนท่ี ๑ (ภาษาไทย ป.6) ใบความรทู้ ี่ 4 เร่ือง การเขียนเรียงความ หน่วยการเรยี นรู้ที่ ๖ เร่ือง สร้างสรรคง์ านเขยี น แผนการจดั การเรียนรูท้ ี่ ๗ เรื่อง การเขียนเรียงความ รายวชิ า ภาษาไทย รหสั วชิ า ท๑๖๑๐๑ ภาคเรียนที่ ๑ ช้นั ประถมศึกษาปีที่ ๖ การเขียนเรยี งความ เรียงความเป็นเร่ืองราวท่ีแต่งและเรียบเรียงขึ้นตามความนึกคิด ความรู้สกึ ความรู้และข้อเสนอแนะ ต่าง ๆ ของผูแ้ ต่งท่ีถา่ ยทอดสผู่ ้อู ่าน โดยมกี ารคิดโครงเร่อื งให้สอดคล้องกับชือ่ เรือ่ ง แล้วนาถ้อยคามาประกอบ เปน็ ประโยค และเรยี บเรยี งเป็นเนอื้ ความให้ตอ่ เนอ่ื งกนั ตามโครงเรอ่ื งทีค่ ดิ ไว้ กล่าวได้ว่า การเขียนเรียงความมีความจาเป็นและสาคัญอย่างยิง่ ในการเรียนภาษาไทย เพราะผเู้ ขียน เรียงความนอกจากจะต้องค้นคว้าความรู้ความเข้าใจในเน้ือหาท่ีจะเขียนแล้ว ผู้เขียนต้องแสดงความรู้ ความคิดเห็น ความรสู้ กึ ของตนเองลงในข้อเขียนน้นั ๆ รวมถึงการใชภ้ าษาใหถ้ ูกตอ้ ง สละสลวย ได้สาระชดั เจน องคป์ ระกอบของเรียงความ เรียงความ ประกอบดว้ ยสว่ นตา่ ง ๆ ๓ สว่ น คือ คานา เน้ือเร่ือง และสรปุ 1. สว่ นทเี่ ป็นคานา เปน็ การเปิดเรอื่ ง อาจเป็นการอธิบายความหมายชื่อเรื่อง หรือขอบเขตของเรื่อง 2. สว่ นที่เป็นเนื้อเร่ือง ส่วนเนื้อเร่ืองอาจประกอบด้วยหลายย่อหน้า แต่ละย่อหน้าจะขยายความของเร่อื งตามแนวคิด ที่ตง้ั ไว้ อาจมีทงั้ ความรู้ การแสดงความคดิ เหน็ สานวนโวหาร ที่มคี วามตอ่ เนือ่ งสอดคล้องกัน 3. สว่ นที่เป็นการสรุปเรอ่ื ง เป็นการปิดเรอื่ ง หรือ สรุปเนื้อหาสาคัญของเร่ือง ควรมีเพียง ๑ ย่อหน้า ซ่ึงอาจเป็นคติสอนใจ ข้อคดิ หรอื ความประทับใจให้แก่ผอู้ ่าน สว่ น คานา (คานา ความนา เปดิ เร่อื ง) สว่ น เน้อื เร่ือง ย่อหน้าที่ ๑ ย่อหน้าที่ ๒ ย่อหน้าท่ี ๓ ฯลฯ ส่วน สรุป (ปิดเรอื่ ง, ความสรปุ , สรปุ )
หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 6 เรอ่ื ง สร้างสรรคง์ านเขยี น 705 ข้นั ตอนในการเขียนเรียงความ ๑. การกาหนดหัวเร่ือง มี ๒ ลกั ษณะ การกาหนดหวั เร่ืองไวเ้ รียบรอ้ ยแลว้ และเลือกเขียนตามความ สนใจ/พอใจ/มคี วามรเู้ รื่องนั้นมากที่สดุ ๒. การกาหนดขอบเขตของหัวข้อเร่ือง ไม่ควรกว้างมากเกินไปจนเขียนไม่จบ ควรมีจุดมุ่งหมายที่ เฉพาะเจาะจง ตัวอยา่ งหวั ขอ้ เรือ่ งทก่ี ว้าง “สมนุ ไพร” ถ้านามาทาใหเ้ ฉพาะเจาะจง เปน็ “สมนุ ไพรรกั ษาโรค” ๓. การรวบรวมข้อมูลใช้วางโครงเร่ือง ต้องเป็นข้อมูลที่มีหลักฐานอ้างอิง มีเหตุผลน่าเช่ือถือ โดย พิจารณาว่าหวั ขอ้ ใดควรมากอ่ น หรอื มาหลัง แลว้ จดั เรียงลาดบั ๔. การจดั กลมุ่ ความคดิ ในการวางโครงเรอ่ื ง อาจจัดเปน็ พวก หมวดหมู่เดียวกัน เปน็ หัวขอ้ ใหญ่ หวั ข้อ ย่อย โดยจัดใหต้ อ่ เนอื่ งสอดคล้องกัน ๕. วางโครงเรื่องดว้ ยวิธีต่าง ๆ ไดแ้ ก่ ๕.๑ วางโครงเร่ืองดว้ ยการใช้หัวข้อหลกั หวั ขอ้ รอง และหวั ขอ้ ย่อย เช่น ตวั อย่าง โครงเรือ่ ง นกแกว้ สตั วป์ ีกสวยงาม สว่ นคานา : เปดิ เร่ืองดว้ ยความหมายของสตั วป์ ีก ส่วนเนอื้ เร่ือง : ๑. รปู รา่ งลกั ษณะนกแก้ว ๒. ที่อยอู่ าศยั ๓. อาหารของนก ๔. การสืบพนั ธ์ุ ๕. ประโยชน์และโทษของนกแก้ว ส่วนสรุป : การอนุรักษส์ ตั วป์ ีก และการดูแลเล้ยี งสตั ว์ปีก ๕.๒ วางโครงเรอื่ งดว้ ยการใช้แผนภาพโครงเรอ่ื ง ตัวอยา่ ง โครงเรือ่ ง นกแก้วสตั ว์ปกี สวยงาม อาหารของนก รปู รา่ ง ท่อี ยู่อาศยั ลักษณะ นกแก้วสัตว์ปกี สวยงาม การสืบพันธ์ุ ประโยชนแ์ ละ โทษของนกแกว้
706 ค่มู ือครูและแผนการจัดการเรยี นรู้ ระดบั ประถมศึกษา ภาคเรียนท่ี ๑ (ภาษาไทย ป.6) ๖. ข้ันตอนการเขยี น ๖.๑ การเขียนสว่ น เป็นการแนะหรอื บอกความมุ่งหมายหรอื แนวของเร่อื ง ไมเ่ ขียนนอกเรอ่ื งไกล เกินไปหรือออ้ มค้อม และมีแนวนาเข้าสู่เร่ือง ไม่ยาวเกินไป อาจเปิดเรื่องโดย บทประพันธ์ สุภาษิต ข่าว การ ตง้ั คาถาม ๖.๒ การเขียนส่วนเนื้อเรื่อง เป็นส่วนที่ยาวที่สุดในการเขียน เป็นสว่ นหลักของเรียงความ อาจมี หลายยอ่ หนา้ ปกติเน้อื เรือ่ งควรประกอบดว้ ย - ความรใู้ นเร่ืองตา่ ง ๆ มีหลักฐานยืนยนั - ความคิดเห็นท่ไี มเ่ ลือ่ นลอย มีเหตผุ ล - ขอ้ มลู ชดั เจนเหมาะสมสอดคลอ้ งกัน - เหตกุ ารณ์ สถานการณท์ ่นี ่าสนใจซึ่งเรียงตามลาดับเวลา ตามเหตุผล หรือ ตาม ความสาคัญ แต่ละยอ่ หน้า ท่สี ่อื ความคดิ อย่างมปี ระสิทธิผล เหมาะสม มคี วามสัมพนั ธ์ระหวา่ งแตล่ ะประโยค แต่ละยอ่ หน้า เขียนตรงประเดน็ ๖.๓ การเขยี นส่วนสรุป มักใช้ ๒ วธิ ี คอื ๑) จบด้วยการยอ่ คือ นาเอาใจความสาคญั ท่ีเปน็ สาระอยา่ งแท้จรงิ มากล่าวในตอนท้าย ให้ ผอู้ ่านประทบั ใจเปน็ การทบทวนอกี คร้ัง ๒) จบด้วยการสรุปใหต้ รงความมุ่งหมายสาคัญของเรื่องใชว้ ิธสี รุปความเป็นประโยค บอกเล่า หรอื ประโยคคาถาม เปน็ ภาษติ หรือเป็นคาประพนั ธท์ ส่ี อดคลอ้ งกบั เนือ้ เรื่องก็ไดภ้ าคจบน้ีควรแยกเปน็ ยอ่ หน้า หนึ่ง และตอ้ งสรุปความหมายสาคัญเอาไวใ้ นหนา้ นี้ ขอ้ พึงระวังในการเขยี นเรยี งความมีดงั น้ี ๑. เขียนหนังสือให้อา่ นงา่ ย รกั ษาความสะอาด และเขียนตัวสะกดใหถ้ ูกตอ้ ง ๒. ทุกคร้งั ท่ีจะเร่ิมเขียนยอ่ หน้าใหม่ โดยจะต้องเขียนให้เชอื่ มโยงสอดคลอ้ งกัน ๓. ไม่ใช้สานวนพูดหรือเขยี นแบบบทสนทนา เช่น ครบั จะ๊ คะ่ คุณอา่ นหนงั สือเลม่ นไี้ หม ๔. ไม่ควรเขียนภาษาอังกฤษปนภาษาไทยโดยไมจ่ าเปน็ ไม่ใช้สานวนต่างประเทศ เช่น ฉันจับรถไฟไป เชยี งใหม่ “โดยสาร” มาจากภาษาอังกฤษควรเปลย่ี นเป็น “จบั ” ๕. ไม่เขยี นขอ้ ความลอย ๆ ต้องมีตัวอยา่ งอ้างองิ ให้เป็นหลกั ฐาน ๖. ควรจดจาบทร้อยกรอง เช่น กาพย์ กลอน โคลง ฉันท์ต่าง ๆ ท่ีไพเราะ หรือมีคติสอนใจเพ่ือใส่ ประกอบในการเขยี นเรยี งความ ๗. ควรเขียนเรียงความให้ขนาดความยาวมากพอสมควร ๘. การเขียนแสดงความคดิ เห็นสว่ นตัวของผู้เขียนในเรียงความ ต้องเป็นความคิดเห็นท่ีเป็นกลาง ไม่ เอยี งซ้ายหรือเอียงขวา ความคิดเหน็ ควรสร้างสรรค์
หนว่ ยการเรยี นรูท้ ่ี 6 เรอื่ ง สรา้ งสรรคง์ านเขยี น 707 ตวั อย่างเรียงความเรอ่ื งเพอื่ นของฉนั เรื่อง โปง่ เพ่อื นรกั โป่งเปน็ เพอื่ นรักเพียงคนเดยี วของฉัน บ้านโปง่ อยู่ใกล้ ๆ กับสถานีอนามัย ซ่งึ ตั้งอยูใ่ นหม่บู ้าน โปง่ เปน็ คนพูดจาโผงผาง แต่จรงิ ใจ โป่งตัวสูงใหญ่ โปง่ ชอบชว่ ยเหลอื ฉนั อยู่เสมอ เพราะร่างกายของฉันไมแ่ ขง็ แรงนัก ฉนั เคยประสบอุบัตเิ หตุทางรถยนต์ เมอื่ หลายปีก่อน ทาให้ขาหกั การเดินไมป่ กติ บางครั้งถ้าดินไปไหนมาไหนนาน ๆ จะปวดขาอย่างมาก โป่งจะ คอยชว่ ยเหลอื เปน็ ไม้เท้าให้ฉนั ทกุ ครั้ง โปง่ เองกม็ เี พอ่ื นไม่มากนกั เพราะครอบครัวของโปง่ ยากจน หลาย ๆ คน ไม่อยากเป็นเพ่ือนดว้ ย สาหรับฉัน โป่งเป็นเพ่ือนที่แสนดี มีน้าใจ ทาให้ฉันรู้สึกได้ว่า เพ่ือนท่ีดีไม่จาเป็นต้องร่ารวย ความ จรงิ ใจสาคญั กว่า กระทรวงศึกษาธกิ าร. (2551). คูม่ ือการเรยี นการสอนภาษาไทย คดิ และเขยี ยนเชงิ สร้างสรรค์. เรียงความ ย่อความ และสรปุ ความ ชว่ งช้ันท่ี ๒-ชว่ งชั้นท่ี ๔. กรงุ เทพฯ : โรงพมิ พอ์ งค์การค้าของ สานกั งานคณะกรรมการ สกสค.
708 คมู่ ือครูและแผนการจัดการเรียนรู้ ระดับประถมศึกษา ภาคเรยี นท่ี ๑ (ภาษาไทย ป.6) ใบงานท่ี ๗ เรอ่ื ง ตอบคาถามเตรียมการเขียนเรยี งความ หน่วยการเรยี นร้ทู ่ี ๖ เร่ือง สรา้ งสรรค์งานเขยี น แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ ๗ เรือ่ ง เขียนเรียงความ รายวิชา ภาษาไทย รหัสวิชา ท๑๖๑๐๑ ภาคเรยี นที่ ๑ ช้ันประถมศึกษาปีท่ี ๖ คาชแ้ี จง นกั เรยี นตอบคาถามต่อไปนี้ ๑. เพื่อนท่ีนกั เรยี นสนทิ ชื่ออะไร .......................................................................................................................................................... ๒. เพ่อื นสนทิ คนนี้อยทู่ ี่ไหน มีนิสัยอย่างไร .......................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................... ........................................................................................................................................................ ๓. เขียนบรรยายลกั ษณะท่าทาง รูปร่าง ของเพอื่ นสนทิ เป็นอยา่ งไร .......................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................... ๔. ความสัมพันธร์ ะหว่างนกั เรยี นกบั เพ่ือนเปน็ อย่างไร ......................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................... 5. มีความประทบั ใจเกีย่ วกบั เพื่อนในเร่อื งอะไรบ้าง เพราะอะไร ......................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................... ..........................................................................................................................................................
หน่วยการเรยี นรู้ที่ 6 เรอ่ื ง สรา้ งสรรคง์ านเขยี น 709 ๖. เขียนอธิบายแนวคิดของการมีเพื่อนดเี ป็นอย่างไร และการจะเปน็ เพ่อื นทด่ี ีควรทาอย่างไร พร้อมยกตวั อยา่ ง ๓ ตัวอย่าง .......................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................... ชื่อ....................................................................................ช้นั .......................เลขท.่ี .................
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273
- 274
- 275
- 276
- 277
- 278
- 279
- 280
- 281
- 282
- 283
- 284
- 285
- 286
- 287
- 288
- 289
- 290
- 291
- 292
- 293
- 294
- 295
- 296
- 297
- 298
- 299
- 300
- 301
- 302
- 303
- 304
- 305
- 306
- 307
- 308
- 309
- 310
- 311
- 312
- 313
- 314
- 315
- 316
- 317
- 318
- 319
- 320
- 321
- 322
- 323
- 324
- 325
- 326
- 327
- 328
- 329
- 330
- 331
- 332
- 333
- 334
- 335
- 336
- 337
- 338
- 339
- 340
- 341
- 342
- 343
- 344
- 345
- 346
- 347
- 348
- 349
- 350
- 351
- 352
- 353
- 354
- 355
- 356
- 357
- 358
- 359
- 360
- 361
- 362
- 363
- 364
- 365
- 366
- 367
- 368
- 369
- 370
- 371
- 372
- 373
- 374
- 375
- 376
- 377
- 378
- 379
- 380
- 381
- 382
- 383
- 384
- 385
- 386
- 387
- 388
- 389
- 390
- 391
- 392
- 393
- 394
- 395
- 396
- 397
- 398
- 399
- 400
- 401
- 402
- 403
- 404
- 405
- 406
- 407
- 408
- 409
- 410
- 411
- 412
- 413
- 414
- 415
- 416
- 417
- 418
- 419
- 420
- 421
- 422
- 423
- 424
- 425
- 426
- 427
- 428
- 429
- 430
- 431
- 432
- 433
- 434
- 435
- 436
- 437
- 438
- 439
- 440
- 441
- 442
- 443
- 444
- 445
- 446
- 447
- 448
- 449
- 450
- 451
- 452
- 453
- 454
- 455
- 456
- 457
- 458
- 459
- 460
- 461
- 462
- 463
- 464
- 465
- 466
- 467
- 468
- 469
- 470
- 471
- 472
- 473
- 474
- 475
- 476
- 477
- 478
- 479
- 480
- 481
- 482
- 483
- 484
- 485
- 486
- 487
- 488
- 489
- 490
- 491
- 492
- 493
- 494
- 495
- 496
- 497
- 498
- 499
- 500
- 501
- 502
- 503
- 504
- 505
- 506
- 507
- 508
- 509
- 510
- 511
- 512
- 513
- 514
- 515
- 516
- 517
- 518
- 519
- 520
- 521
- 522
- 523
- 524
- 525
- 526
- 527
- 528
- 529
- 530
- 531
- 532
- 533
- 534
- 535
- 536
- 537
- 538
- 539
- 540
- 541
- 542
- 543
- 544
- 545
- 546
- 547
- 548
- 549
- 550
- 551
- 552
- 553
- 554
- 555
- 556
- 557
- 558
- 559
- 560
- 561
- 562
- 563
- 564
- 565
- 566
- 567
- 568
- 569
- 570
- 571
- 572
- 573
- 574
- 575
- 576
- 577
- 578
- 579
- 580
- 581
- 582
- 583
- 584
- 585
- 586
- 587
- 588
- 589
- 590
- 591
- 592
- 593
- 594
- 595
- 596
- 597
- 598
- 599
- 600
- 601
- 602
- 603
- 604
- 605
- 606
- 607
- 608
- 609
- 610
- 611
- 612
- 613
- 614
- 615
- 616
- 617
- 618
- 619
- 620
- 621
- 622
- 623
- 624
- 625
- 626
- 627
- 628
- 629
- 630
- 631
- 632
- 633
- 634
- 635
- 636
- 637
- 638
- 639
- 640
- 641
- 642
- 643
- 644
- 645
- 646
- 647
- 648
- 649
- 650
- 651
- 652
- 653
- 654
- 655
- 656
- 657
- 658
- 659
- 660
- 661
- 662
- 663
- 664
- 665
- 666
- 667
- 668
- 669
- 670
- 671
- 672
- 673
- 674
- 675
- 676
- 677
- 678
- 1 - 50
- 51 - 100
- 101 - 150
- 151 - 200
- 201 - 250
- 251 - 300
- 301 - 350
- 351 - 400
- 401 - 450
- 451 - 500
- 501 - 550
- 551 - 600
- 601 - 650
- 651 - 678
Pages: