Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore 64-08-11-คู่มือครู ภาษาไทย ป.6-2

64-08-11-คู่มือครู ภาษาไทย ป.6-2

Published by elibraryraja33, 2021-08-11 02:43:37

Description: 64-08-11-คู่มือครู ภาษาไทย ป.6-2

Search

Read the Text Version

๘๖๔ คู่ม การจดั กิจกรรมการเรียนร แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ 2 เรอ่ื ง การเ รายวชิ า ภาษาไทย หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ ๘ เรื่อง ลาดบั ขอบเขตเนื้อหา/ ขนั้ ตอนการจัด เวลา แ ที่ จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ การเรยี นรู้ ทีใ่ ช้ กิจกรรมคร 1. ขอบเขตเน้ือหา ขนั้ นา ๕ ๑. ครูและนกั เรียนรว่ ม 1. หลักการเลอื ก นาที เพลง “คนอา่ นหนงั สอื ร่วมกนั อภิปรายตามป หนงั สอื ตามความสนใจ ต่อไปน้ี 2. เขยี นบนั ทึก การอ่านจากหนงั สือ ครู : การอ่านหนงั สอื ประโยชนอ์ ย่างไร ตามความสนใจ ครู : หลักในการอ่าน คอื อะไร ครู : นกั เรียนคดิ ว่า ก หนงั สือการต์ ูนมปี ระ ผอู้ ่านหรอื ไม่ เพราะเ ๒. ครกู ล่าวเข้าสบู่ ทเ หนังสือเปน็ สงิ่ ทม่ี ีคณุ เราควรเลอื กใหต้ รงจุด และความต้องการขอ ชว่ั โมงนจ้ี ะเรยี นเกี่ยว หนังสือทีน่ ักเรยี นเลอื

มอื ครูและแผนการจัดการเรยี นรู้ ระดับประถมศึกษา ภาคเรียนที่ ๑ (ภาษาไทย ป.6) รู้ ชนั้ ประถมศกึ ษาปีท่ี ๖ เลอื กอา่ นหนงั สือตามความสนใจ (๒) ง อา่ นอย่างมีวจิ ารณญาณ จานวน ๑ ชว่ั โมง แนวการจัดการเรียนรู้ ส่อื การเรียนรู้ การประเมิน รู กจิ กรรมนกั เรียน 1. สอ่ื ppt เรอ่ื ง การเรยี นรู้ มกนั รอ้ ง นักเรยี น : ร้องเพลงคนอ่าน การเลือกอา่ น อ” แลว้ หนงั สือ หนงั สือตาม ประเดน็ ความสนใจ อมี นกั เรียน : ฉลาดทันคน/มี ปัญญามาก นหนงั สอื นกั เรยี น : ต้งั ใจอา่ น/จบั ใจความ /ต้งั คาถาม/บันทกึ การอา่ น การอา่ น ะโยชนต์ ่อ นกั เรยี น : มปี ระโยชนเ์ พราะ เหตใุ ด ช่วยฝึกการอา่ นและนาขอ้ คิด จากการ์ตนู ไปปรับใช้ใหเ้ กดิ เรียนวา่ ประโยชนแ์ ละสรา้ งสรรค์ ณค่ามาก ดประสงค์ องเรา วกับ อก

หน่วยการเรียนรู้ท่ี 8 เรอื่ ง อา่ นอย่างมวี จิ ารณญาณ ลาดบั ขอบเขตเน้ือหา/ ขน้ั ตอนการจัด เวลา แ ที่ จุดประสงค์การเรียนรู้ การเรยี นรู้ ที่ใช้ กิจกรรมคร 2. จุดประสงค์การเรียนรู้ ขัน้ สอน ๒๐ ๑. ครูรวบรวมหนงั ส 1. บอกหลักการเลือก นาที นกั เรียนทกุ คนนามา หนงั สอื ตาม วางไว้ทีห่ น้าชนั้ เรยี น ความสนใจได้ ๒. ครใู ห้นกั เรียนชว่ ย ประเภทของหนงั สอื ท นกั เรียนนามา และต ว่านักเรยี นชอบอา่ นห ประเภทใดมากทส่ี ดุ ๓. ครสู ุ่มตัวแทนนกั เ ออกมาหน้าช้นั เรียนแ เลือกหนงั สอื เลม่ ทน่ี กั สนใจ แล้วใหน้ กั เรียน เจา้ ของหนงั สอื ออกม แนะนาหนังสอื ของต บอกเหตผุ ลวา่ ทาไมถ อา่ นหนงั สอื เลม่ น้ี อ่า นักเรียนได้ความรู้แล คณุ คา่ อะไรบ้าง ๔. ครูใหน้ กั เรียนศึกษ ความรู้เร่อื งการเขียน การอา่ น

๘๖๕ แนวการจัดการเรยี นรู้ สื่อการเรียนรู้ การประเมิน การเรียนรู้ รู กิจกรรมนักเรยี น สอื ท่ี นกั เรยี น : นาหนงั สอื ทีท่ ุกคน 2. หนังสอื ที่ า แลว้ จดั นามามาวางหน้าช้นั เรียน นกั เรียนนามา น ยกันจัด นกั เรยี น : จดั ประเภทของ ที่ หนังสอื ตรวจสอบ หนังสือ เรยี น นักเรียน : เลือกหนงั สอื ตาม 3. ใบความร้เู รื่อง แล้ว ความสนใจ การเขยี นบนั ทึก - การตอบคาถาม กเรยี น นักเรียน : ออกมาแนะนา การอา่ น นท่ีเป็น หนงั สอื ของ มา นกั เรียน : ศึกษาใบความรู้ ตนพรอ้ ม เรอ่ื งการเขียนบนั ทกึ การอ่าน ถึงชอบ านแลว้ ละเห็น ษาใบ นบนั ทกึ

๘๖๖ คู่ม ลาดับ ขอบเขตเน้ือหา/ ขน้ั ตอนการจัด เวลา แ ที่ จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ การเรียนรู้ ทใ่ี ช้ กจิ กรรมคร ครู : นักเรียนมหี ลกั ใ เขียนบันทึกการอ่าน ๕. ครูใหค้ วามรเู้ พมิ่ เ การเขยี นบนั ทึกความ จากการอ่านหนงั สอื ต หวั ข้อต่อไปนี้ - ชอ่ื เรือ่ ง - ผู้แต่ง - เหตุผลทอ่ี า่ น - เน้ือหาโดยยอ่ - คุณค่าที่ไดร้ ับ ๖. ครูใหน้ ักเรยี นรว่ ม ข้อปฏิบตั ขิ องการอา่ น อย่างมมี ารยาท จากน เสนอแนะการแสดงมา เหมาะสมในการอา่ น ๗. ครูมอบหมายภาร นกั เรยี นทาใบงานเรอ่ื บนั ทกึ การอา่ นตามคว 3. 2. เขียนบันทกึ ขัน้ ปฏบิ ตั ิ ๒๐ ๑. เนน้ ย้ามารยาทที่ การอ่านจากหนงั สือ นาที เหมาะสมในการอ่าน ตามความสนใจได้ ครู : ใหค้ าแนะนาเพ

มือครูและแผนการจดั การเรยี นรู้ ระดับประถมศกึ ษา ภาคเรยี นที่ ๑ (ภาษาไทย ป.6) แนวการจัดการเรยี นรู้ ส่ือการเรียนรู้ การประเมิน รู กิจกรรมนกั เรียน การเรียนรู้ ในการ นักเรียน : บอกแหลง่ ทม่ี าของ 4. สือ่ ppt เร่อื ง นอย่างไร ขอ้ มลู /จดบันทกึ เฉพาะ การเลือกอา่ น เตมิ เรือ่ ง สาระสาคัญ/บนั ทึกเฉพาะ หนงั สอื ตาม การตอบคาถาม มรทู้ ่ีได้ ข้อเท็จจรงิ ความสนใจ ตาม มกนั บอก - ประเมิน นหนงั สอื การเขยี นบนั ทึก น้นั ครู การอ่าน ารยาทที่ ระงานให้ องเขยี น วามสนใจ นกั เรียน : เลอื กอ่านหนังสือ น ตามความสนใจ พ่ิมเตมิ นักเรียน : เขียนบันทกึ การ

หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 8 เร่ือง อ่านอยา่ งมีวจิ ารณญาณ ลาดบั ขอบเขตเน้ือหา/ ข้นั ตอนการจัด เวลา แ ท่ี จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ การเรยี นรู้ ท่ใี ช้ กิจกรรมคร เรื่องการเขยี นบนั ทกึ ๔. ครูคดั เลอื กผลงาน การเขียนบนั ทึกการอ นักเรียน แลว้ ให้นกั เร ออกมานาเสนอผลงา ช้นั เรยี น และนาผลง นักเรียนติดทป่ี า้ ยนิเท ชน้ั เรียน 4. 3. บอกประโยชนข์ อง ขัน้ สรุป ๕ ครูให้นกั เรยี นรว่ มกนั การเลือกหนังสือตาม นาที บทเรยี น โดยให้นักเร ความสนใจ ร่วมกันอภิปรายความ ประเดน็ ต่อไปนี้ ครู : การเลือกอ่านห ตามความสนใจมปี ระ อยา่ งไร ครู : นกั เรยี นคดิ วา่ การปลกู ฝงั และสรา้ ง การอ่านทด่ี ี ควรเรมิ่ ต การปฏบิ ตั อิ ย่างไร

๘๖๗ แนวการจัดการเรยี นรู้ สอื่ การเรยี นรู้ การประเมิน รู กจิ กรรมนกั เรยี น การเรยี นรู้ กการอา่ น อา่ น น อ่านของ นักเรียน : นาเสนอผลงาน รียน านหน้า งานของ ทศหนา้ นสรุป รียน มรตู้ าม หนงั สอื นักเรียน : ช่วยใหเ้ กดิ ผล - ประเมนิ ะโยชน์ การเรียนรู้ และการนาความรู้ การตอบคาถาม งนสิ ัยรกั ที่ไดจ้ ากการอ่านไปใช้ ตน้ ด้วย ประโยชนไ์ ดอ้ ยา่ งสูงสดุ ครู : เริม่ อา่ นจากเร่ืองง่าย ๆ ที่ตนเองสนใจ/ฝึกอ่านทกุ วนั ให้ติดเป็นนสิ ัย

868 คมู่ ือครแู ละแผนการจัดการเรียนรู้ ระดบั ประถมศกึ ษา ภาคเรียนท่ี ๑ (ภาษาไทย ป.6) ๘. สอ่ื การเรียนรู้/แหล่งเรยี นรู้ 1. สื่อโปรแกรมนาเสนอเร่อื งการเลือกอา่ นหนงั สือตามความสนใจ 2. เพลงคนอ่านหนงั สือ 3. ใบความรู้ท่ี 2 เร่ือง การบนั ทึกการอา่ น 4. หนงั สอื ท่ีนกั เรยี นสนใจ 5. ใบงานที่ 2 เรอ่ื ง บนั ทึกการอา่ นหนงั สอื ตามความสนใจ สง่ิ ที่ตอ้ งการวัด/ประเมิน วิธกี าร เครือ่ งมือที่ใช้ เกณฑ์ ดา้ นความรู้ ความเขา้ ใจ - ตอบคาถาม - คาถาม ผา่ นเกณฑ์ - บอกหลกั การเลอื กหนงั สอื - ประเมินการเขียน - แบบประเมนิ การเขยี น การประเมนิ ตามความสนใจ บนั ทึกการอา่ น บันทึกการอา่ น ร้อยละ ๖๐ ขน้ึ ไป ผ่านเกณฑ์ ดา้ นทักษะ/กระบวนการ - ตอบคาถาม - คาถาม การประเมนิ - เลอื กอ่านหนงั สอื ตาม - สงั เกตพฤตกิ รรม - แบบประเมนิ รอ้ ยละ ๖๐ ข้นึ ไป ความสนใจ 1. การสงั เกตพฤติกรรม 1. การสงั เกต - เขียนบนั ทกึ การอา่ นจาก 2. การตอบคาถาม 2. คาถาม ผา่ นเกณฑ์ หนงั สอื ตามความสนใจ การประเมิน ด้านคุณลกั ษณะ เจตคติ ร้อยละ ๖๐ ข้นึ ไป คา่ นิยม ผ่านเกณฑ์ - บอกประโยชน์ของการเลอื ก การประเมนิ ระดับ หนังสือตามความสนใจ ผา่ น ผา่ นเกณฑ์ ดา้ นคณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ การประเมินระดับ ๑. ใฝเ่ รียนรู้ ผา่ น ๒. มวี นิ ัย สมรรถนะสาคัญของผเู้ รียน ๑. ความสามารถในการสื่อสาร ๒. ความสามารถในการคดิ 3. ความสามารถในการใช้ ทกั ษะชวี ติ

หน่วยการเรยี นร้ทู ่ี 8 เร่อื ง อ่านอยา่ งมีวจิ ารณญาณ 869 ชนิ้ งานหรอื ภาระงาน เกณฑก์ ารประเมนิ การเขยี นบนั ทึกการอ่านจากหนงั สือตามความสนใจ ประเดน็ การ ระดบั คุณภาพ ประเมิน ๔ (ดีมาก) ๓ (ด)ี ๒ (พอใช้) ๑ (ปรับปรุง) 1. องคป์ ระกอบ บันทกึ การอ่าน มีองค์ประกอบบันทึก ขาดองค์ประกอบ ขาดองคป์ ระกอบ ขาดองคป์ ระกอบ 2. คณุ คา่ ทไี่ ดร้ ับ การอา่ นครบถ้วน ไป 1 องค์ประกอบ ไป 2 องคป์ ระกอบ ไป 3 องค์ประกอบ จากการอ่าน - อธิบายคณุ คา่ ด้าน ขาดองค์ประกอบ ขาดองค์ประกอบ ขาดองคป์ ระกอบ หนงั สอื ภาษาวรรณศิลป์ ไป 1 องค์ประกอบ ไป 2 องคป์ ระกอบ ไป 3 องค์ประกอบ - อธิบายคุณคา่ ดา้ น เน้อื หาสาระ - อธบิ ายคณุ คา่ ดา้ น สังคม - อธิบายการนาไปใช้ ประยกุ ต์ใช้ใน ชีวติ ประจาวัน หมายเหตุ : ค่านา้ หนกั ๕ คะแนน ชว่ งคะแนน ระดับคุณภาพ เกณฑก์ ารประเมนิ คุณภาพ ๑๘-๒๐ ดมี าก ๑๕-๑๗ ดี ๑๒-๑๔ ตา่ กว่า ๑๒ พอใช้ ปรับปรงุ เกณฑ์การตัดสนิ : ผ่านเกณฑก์ ารประเมนิ ร้อยละ ๖๐ ขึน้ ไป

870 คูม่ ือครแู ละแผนการจัดการเรียนรู้ ระดับประถมศกึ ษา ภาคเรียนที่ ๑ (ภาษาไทย ป.6) 10. บนั ทึกผลหลังสอน ผลการจดั การเรียนการสอน .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................... ............... .............................................................................................................................................................................. ความสาเร็จ .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................... ............... .............................................................................................................................................................................. ปัญหาและอปุ สรรค .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................... ............... .............................................................................................................................................................................. ข้อจากดั การใชแ้ ผนการจัดการเรยี นรู้ และขอ้ เสนอแนะ/แนวทางการปรบั ปรุงแกไ้ ข .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................... ............... .............................................................................................................................................................................. ลงชือ่ ......................................................ผสู้ อน (..........................................................) วันที่ ............. เดือน ..........พ.ศ. .................. 11. ความคิดเหน็ /ข้อเสนอแนะของผ้บู รหิ ารหรือผทู้ ไ่ี ด้รับมอบหมาย .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................... ............... .............................................................................................................................................................................. ลงชื่อ......................................................ผู้ตรวจ (..........................................................) วนั ที่ ............. เดือน ..........พ.ศ. ......

หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 8 เรือ่ ง อา่ นอย่างมีวจิ ารณญาณ 871 สื่อสาหรบั ครู เพลงคนอา่ นหนังสอื หน่วยการเรียนรู้ที่ ๘ เรอ่ื ง อ่านอย่างมวี จิ ารณญาณ แผนการเรียนรู้ท่ี ๒ เรื่อง บนั ทกึ จากการอา่ นหนังสือตามความสนใจ รายวชิ า ภาษาไทย รหสั วิชา ท๑๖๑๐๑ ภาคเรียนท่ี ๑ ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๖ คนอา่ นหนงั สือคือผ้ฉู ลาดทันคน เหมือนมีทรพั ยม์ ากเหลือล้น ใครจะปลน้ หรือจี้ไมไ่ ด้ อยา่ มัวลังเลทาตวั เสเพลทาไม รบี อ่านหนังสอื เร็วไว จะทาใหพ้ บส่ิงดงี าม เม่อื อา่ นทุกครั้ง ตั้งใจเพ่ือจับใจความ จากนนั้ ควรตั้งคาถามว่าไดค้ วามเร่อื งใดไปบ้าง และควรบนั ทึกตรึกตรองเพื่อให้กระจา่ ง เรอ่ื งราวความรู้ต่าง ๆ ใชเ้ อย่ อา้ งเมื่อยามจาเป็น จากหนังสือหมอภาษา

872 คมู่ ือครูและแผนการจดั การเรยี นรู้ ระดับประถมศกึ ษา ภาคเรยี นที่ ๑ (ภาษาไทย ป.6) ใบความรทู้ ่ี ๒ เรือ่ ง การบันทกึ การอา่ น หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ ๘ เรือ่ ง อา่ นอยา่ งมวี ิจารณญาณ แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ ๒ เรอ่ื ง บนั ทกึ จากการอ่านหนังสอื ตามความสนใจ รายวชิ า ภาษาไทย รหสั วิชา ท๑๖๑๐๑ ภาคเรียนท่ี ๑ ช้ันประถมศกึ ษาปที ่ี ๖ บันทกึ หมายถึง การจดข้อความ เพอ่ื ช่วยความทรงจาํ หรอื เพอื่ เป็นหลกั ฐานจดหรอื ถา่ ย ทาํ ไวเ้ พอื่ ช่วยความจํา บันทึกเป็นการจดย่อ ๆ ไว้เพ่ือให้รู้เรอ่ื งเดมิ (ราชบณั ฑิตยสถาน, 2546 : 617) บนั ทึก คือ การจดเร่อื งราวทีไ่ ด้ผ่านพบลงในสมดุ อาจเปน็ บนั ทกึ รายวัน หรอื บนั ทึกเฉพาะ เรือ่ ง การบันทึกหากเขยี นดี ๆ น่าอา่ นจัดเป็นวรรณกรรมทีน่ า่ สนใจประเภทหนง่ึ การเขยี นบันทึกแบ่งเปน็ ๒ รปู แบบ ๑. การเขยี นบนั ทกึ แบบไมเ่ ป็นทางการหรอื บนั ทึกสว่ นตัว มหี ลกั การเขยี น ดงั น้ี ๑.๑ บอก วนั เวลา สถานท่ี ตามชว่ งเวลาของการจดบันทึก ๑.๒ ใช้สํานวนภาษาเป็นกันเองของตนเอง เขียนเหมือนเล่าเรื่อง/บันทึกเร่ืองราว สว่ นตัวหรอื ๑.๓ เขียนบันทึกประสบการณ์ให้น่าอ่าน และรู้สึกเหมือนผู้อ่านอยู่ในเหตุการณ์บันทึก นั้น ๆ อาจสอดแทรกความรูส้ กึ ความคดิ เหน็ ความทรงจาํ ของผู้เขยี น ๒. การเขยี นบนั ทกึ แบบเปน็ ทางการ มีรูปแบบการบันทกึ ทีเ่ ป็นทางการ ตามหวั ข้อ ดงั นี้ ๒.๑ บอก วนั เวลา สถานที่ ช่อื เรอ่ื ง แหล่งท่มี าของการบันทกึ ๒.๒ ใชภ้ าษาราชการ เปน็ ทางการ บนั ทึกตามข้อเทจ็ จรงิ และมีความถูกตอ้ งชัดเจน ๒.๓ ย่อหนา้ สุดท้าย หรอื ตอนท้ายของการบนั ทกึ ควรเสนอขอ้ คดิ สาํ คัญ 2.4 ลงนามผู้เขียนบันทึก หลกั การเขยี นบนั ทกึ จากการอา่ นหนงั สอื หรอื การฟังสื่อตา่ ง ๆ 1. บอกแหล่งทม่ี าของข้อมูล วนั เดอื น ปี ทจี่ ดบนั ทึก 2. จดบันทึกเฉพาะสาระสําคัญ โดยผู้บันทึกจะต้องมีความเข้าใจ และจับประเด็นสําคัญ ของเรื่องได้ ควรจดหวั ขอ้ ใหญแ่ ละเรอ่ื งราวท่ีสาํ คัญเท่านั้น ไม่ต้องจดรายละเอียด สาระสําคัญท่ีจด บนั ทึกไดแ้ ก่ - ความรู้ (เนื้อเรอื่ ง/สาระสาํ คัญ) - ขอ้ คิดทไี่ ด้ - คุณคา่ จากการอ่าน - เหตผุ ลทีเ่ ลอื กหนงั สือ

หนว่ ยการเรยี นรูท้ ี่ 8 เรื่อง อ่านอยา่ งมีวิจารณญาณ 873 ๓. เขียนบนั ทึกตามข้อเทจ็ จริง และมคี วามถกู ต้องชัดเจน เรียงลําดับเน้อื หาอยา่ งเป็น ระบบ ๔. ใช้เครือ่ งหมายหรือสญั ลกั ษณ์ตา่ ง ๆ แทนขอ้ ความบางอยา่ งเพื่อให้สามารถจดบันทึกได้ อย่างรวดเร็วขึ้น (วิภา ตัณฑลุ พงษ์. ๒๕๕๖. เอกสารนเิ ทศการศึกษา แนวทางการพัฒนาการเรียนการสอน เขยี นภาษาไทยในระดับประถมศึกษา. กรุงเทพฯ : สาํ นักพิมพ์คณะรฐั มนตรี และราชกิจจานุเบกษา)

874 คมู่ อื ครูและแผนการจดั การเรยี นรู้ ระดับประถมศึกษา ภาคเรียนท่ี ๑ (ภาษาไทย ป.6) ใบงานที่ ๒ เรื่อง บนั ทกึ การอา่ นหนังสือตามความสนใจ หนว่ ยการเรียนรูท้ ่ี ๘ เรือ่ ง อ่านอย่างมวี ิจารณญาณ แผนการจัดการเรียนร้ทู ี่ ๒ เร่อื ง บนั ทึกจากการอา่ นหนังสือตามความสนใจ รายวิชา ภาษาไทย รหสั วิชา ท๑๖๑๐๑ ภาคเรยี นที่ ๑ ชนั้ ประถมศึกษาปีท่ี ๖ คาชแี้ จง นักเรียนเลอื กอ่านหนังสอื ตามความสนใจ แลว้ เขียนบันทกึ ความร้ทู ี่ไดจ้ ากการอา่ น บันทึกการอ่านเรอื่ ง.............................................................................. จากหนังสือ................................................................ ผ้เู ขยี น ............................................. สานักพมิ พ์ ..........................................................ปที ี่พมิ พ์ ........................หน้า................... ความรู้ทไ่ี ด้จากการอ่าน ................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................... ขอ้ คดิ ท่ไี ด้จากการอา่ น ................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................... คณุ คา่ ท่ีได้จากการอ่าน ................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................. เหตผุ ลทเ่ี ลือกอา่ นหนงั สือเลม่ น้ี ................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................ ....................... ลงชอ่ื ผู้บนั ทึกการอา่ น ....................................................................................... วนั ที่...................เดือน.............................................พ.ศ......................... ช่อื ..................................................................................ช้ัน......................เลขที่..................

หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 8 เรอื่ ง อ่านอย่างมีวจิ ารณญาณ 875 แนวคาตอบ ใบงานท่ี ๒ เรือ่ ง บนั ทึกการอ่านหนังสอื ตามความสนใจ หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี ๘ เรือ่ ง อ่านอยา่ งมีวจิ ารณญาณ แผนการจัดการเรียนรทู้ ่ี ๒ เรอ่ื ง บนั ทึกจากการอา่ นหนงั สือตามความสนใจ รายวิชา ภาษาไทย รหัสวชิ า ท๑๖๑๐๑ ภาคเรยี นท่ี ๑ ชั้นประถมศึกษาปีท่ี ๖ คาช้ีแจง นักเรียนเลือกอา่ นหนังสือตามความสนใจ แลว้ เขียนบันทกึ ความรทู้ ่ไี ด้จากการอา่ น บนั ทึกการอ่านเรอ่ื ง.............................................................................. จากหนงั สอื ................................................................ ผ้เู ขยี น ............................................. สานกั พิมพ์ ..........................................................ปที ่ีพิมพ์ ........................หน้า................... ความรู้ทไ่ี ด้จากการอ่าน ................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................ ....................... ข้อคดิ ทีไ่ ดจ้ ากการอ่าน ........................................................................................................... ........................................................ ......................................................................................................อ......ย....ู่ใ....น......ด......ลุ ....ย......พ......นิ......ิจ....ข......อ......ง....ค......ร....ูผ....ู้ส......อ......น.................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................... คณุ ค่าท่ีได้จากการอา่ น ................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................. เหตผุ ลทเ่ี ลอื กอา่ นหนงั สือเลม่ น้ี ................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................... ลงชอื่ ผู้บันทกึ การอา่ น ....................................................................................... วันท่ี...................เดือน.............................................พ.ศ.......................... ช่ือ..................................................................................ช้ัน......................เลขที่..................

๘๗๖ ค่มู ือครูและแผนการจัดการเรยี นรู้ ระดบั ประถมศกึ ษา ภาคเรยี นท่ี ๑ (ภาษาไทย ป.6) แผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๓ เรือ่ ง การอา่ นงานเขยี นเชงิ อธิบาย เวลา ๑ ชัว่ โมง หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ ๘ เรอ่ื ง อา่ นอย่างมีวจิ ารณญาณ กล่มุ สาระการเรียนรู้ภาษาไทย รายวชิ าภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปที ่ี ๖ สาระท่ี ๑ การอ่าน มาตรฐาน ท ๑.๑ ใช้กระบวนการอ่านสร้างความร้แู ละความคดิ เพื่อนาไปใช้ตดั สนิ ใจ แกป้ ญั หาในการดาเนิน ชวี ิตและมีนิสัยรกั การอ่าน ตัวชวี้ ดั ป.๖/๖ อา่ นงานเขียนเชิงอธบิ าย คาส่งั ข้อแนะนาและการปฏบิ ตั ิตาม ป.๖/๙ มมี ารยาทในการอา่ น ๒. สาระสาคัญ/ความคิดรวบยอด การอ่านงานเขียนเชิงอธิบาย ออกคาส่ัง หรือแนะนาให้ปฏิบัติตาม ทาให้ผู้อ่านปฏิบัติตามได้อย่าง ถกู ตอ้ ง เหมาะสม และปฏบิ ัตงิ านได้อยา่ งมีประสิทธิภาพ ๓. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ 1. ดา้ นความรู้ ความเขา้ ใจ (K) บอกหลกั การอา่ นงานเขยี นเชิงอธิบายคาส่ัง ข้อแนะนา และปฏิบัตติ ามได้ 2. ดา้ นทกั ษะ/กระบวนการ (P) รวบรวมงานเขยี นเชิงอธิบาย คาส่งั และขอ้ เสนอแนะได้ ปฏิบัตติ ามคาอธิบาย คาสัง่ และข้อเสนอแนะได้ถูกตอ้ ง 3. ด้านคุณลกั ษณะ เจตคติ คา่ นิยม (A) อภปิ รายความสาคัญของการอ่านงานเขียนเชงิ อธิบาย คาสงั่ ข้อแนะนา และการปฏิบตั ติ ามได้ ๔. สาระการเรียนรู้ 4.1 หลักการอ่านงานเขียนเชงิ อธิบายคาสง่ั ข้อแนะนา และปฏิบัติตาม 4.2 การปฏิบัติตามคาอธบิ าย คาส่งั และข้อเสนอแนะ ๕. สมรรถนะสาคัญของผู้เรยี น 5.1 ความสามารถในการสอื่ สาร 5.2 ความสามารถในการคิด 5.3 ความสามารถในการใช้ทกั ษะชีวิต ๖. คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 6.1 มีวินยั 6.2 ใฝ่เรียนรู้ 6.3 มงุ่ ม่นั ในการทางาน 6.4 รักความเปน็ ไทย ๗. กิจกรรมการเรยี นรู้

หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี 8 เรอื่ ง อา่ นอยา่ งมวี จิ ารณญาณ การจัดกิจกรรมการเรียนร แผนการจัดการเรยี นรูท้ ่ี ๓ เรอื่ ง รายวิชา ภาษาไทย หน่วยการเรยี นรู้ท่ี ๘ เร่อื ลาดับ ขอบเขตเน้ือหา/ ขัน้ ตอนการจัด เวลา แ ที่ จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ การเรยี นรู้ ทีใ่ ช้ กจิ กรรมคร 1. ขอบเขตเนอ้ื หา ๕ ๑. ครสู นทนากบั นกั เร 1. หลกั การเขยี นเรอ่ื ง ขัน้ นา นาที ข้อตกลงในห้องเรียน จากภาพ 2. การปฏบิ ัติตาม นกั เรยี นรว่ มกนั อภปิ ร คาอธิบาย ประเดน็ ตอ่ ไปน้ี ครู : ในห้องเรียนของ มีขอ้ ตกลงหรือไม่ ครู : ใครเปน็ ผกู้ าหนด ในห้องเรียน ครู: นกั เรียนปฏบิ ตั ติ า ขอ้ ตกลงหรอื ไม่ เพรา ครู : ถ้านักเรียนไมป่ ฏ ข้อตกลงจะเกดิ ผลเสยี ๒. ครอู ธิบายเพม่ิ เติม ขอ้ ตกลงในการอยรู่ ว่ ม หอ้ งเรยี น เป็นการเขีย อธบิ าย ทมี่ งุ่ ใหผ้ ูอ้ ่านป ตามเพือ่ ความเปน็ ระเ ห้องเรียน

รู้ ชน้ั ประถมศกึ ษาปีท่ี ๖ ๘๗๗ ง การอ่านงานเขยี นเชงิ อธบิ าย ง อา่ นอย่างมวี ิจารณญาณ จานวน ๑ ช่ัวโมง การประเมิน การเรยี นรู้ แนวการจดั การเรยี นรู้ สื่อการเรียนรู้ รู กิจกรรมนกั เรียน 1. สอ่ื ppt เร่ือง รยี นเรอ่ื ง การอา่ นงาน และให้ เขยี นเชงิ อธิบาย รายใน งนักเรยี น นกั เรยี น : มี /ไม่มี ดขอ้ ตกลง นักเรียน : นักเรียนทกุ คน าม นักเรียน : ปฏบิ ัตติ ามเพราะ าะเหตใุ ด เปน็ ขอ้ ตกลงของทกุ คนในหอ้ ง ฏบิ ัติตาม นกั เรียน : หอ้ งเรยี นไมเ่ ป็น ยอย่างไร ระเบยี บ/เกดิ ความว่นุ วาย มว่า มกนั ใน ยนเชิง ปฏบิ ัติ เบียบใน

๘๗๘ คูม่ ลาดับ ขอบเขตเนื้อหา/ ขั้นตอนการจัด เวลา แ ที่ จุดประสงค์การเรยี นรู้ การเรยี นรู้ ท่ใี ช้ กิจกรรมคร 2. จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ ขนั้ สอน ๒๐ ๑. ครสู นทนากบั นักเร 1. บอกหลักการอา่ น นาที ประสบการณใ์ นการอ งานเขยี นเชิงอธบิ าย เขยี นทมี่ ุ่งให้ผอู้ า่ นปฏ คาส่งั ข้อแนะนา และ จากประเด็นคาถามต่อ ปฏบิ ตั ติ ามได้ ครู : นักเรียนเคยอา่ น เขียนใดบา้ งทมี่ ่งุ เน้นให ปฏบิ ัตติ าม ครู : เมื่อนกั เรียนอา่ น เขยี นประเภทดังกลา่ ว สามารถปฏบิ ตั ติ ามไดห เพราะเหตุใด ๒. นักเรยี นแตล่ ะคนศ ใบความรู้ เรื่องหลักก งานเขียนเชิงอธบิ ายป ตา่ ง ๆ ๓. ครูสมุ่ นกั เรียน ๒-๓ ออกมาช่วยเขียนเป็นแ ความคดิ เร่ืองหลกั การ เขียนเชิงอธิบายบนกร หนา้ ชน้ั เรยี น

มอื ครูและแผนการจัดการเรยี นรู้ ระดับประถมศึกษา ภาคเรยี นท่ี ๑ (ภาษาไทย ป.6) แนวการจดั การเรยี นรู้ สือ่ การเรยี นรู้ การประเมิน รู กจิ กรรมนกั เรยี น การเรียนรู้ รียนถงึ อ่านงาน ฏบิ ตั ติ าม อไปน้ี นงาน นักเรียน : ฉลากยา/มารยาท ห้ผู้อ่าน ในการเขา้ หอ้ งสมุด/การ ทาอาหาร/การพบั กระดาษ นงาน นักเรยี น : ได/้ ไม่ได้/ เพราะ วแลว้ เข้าใจ/ไมไ่ ด้เพราะไม่เขา้ ใจ ดห้ รอื ไม่ ศึกษา นักเรียน : ศกึ ษาใบความรู้ 2. ใบความรู้ - ประเมิน การอา่ น เรอ่ื งหลกั การอา่ นและการ เร่อื ง หลกั การ การเขยี นผงั ประเภท เขียนเชงิ อธบิ ายประเภทตา่ ง ๆ อา่ นและ ความคดิ การเขยี นเชงิ นกั เรียน : เขยี นผงั ความคิด อธบิ ายประเภท คน หลกั การอา่ นงานเขียนเชงิ ตา่ ง ๆ แผนผัง อธิบายบนกระดานหนา้ ชน้ั รอา่ นงาน เรยี น ระดาน

หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 8 เร่ือง อ่านอยา่ งมวี จิ ารณญาณ ลาดับ ขอบเขตเนื้อหา/ ขัน้ ตอนการจัด เวลา แ ที่ จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ การเรยี นรู้ ที่ใช้ กจิ กรรมคร ๔. ครูอธิบายความรูเ้ พ และยกตัวอย่างการอ่า เขยี นเชิงอธิบายประเภ ๕. ครมู อบหมายภาร นักเรยี นศึกษาใบความ การพับนกแลว้ ปฏิบัต คาอธบิ าย 3. 2. ปฏบิ ัติตามงาน ขนั้ ปฏิบัติ ๒๐ ครู : แจกใบความรเู้ รอื่ เขยี นเชงิ อธบิ าย คาส่งั นาที การพบั ก้งุ กระดาษแล และขอ้ แนะนาได้ อุปกรณ์ในการพบั กุง้ ก ครู : ใหค้ าแนะนาเพม่ิ 4. 3. อภปิ รายความสาคญั ข้นั สรุป ครู : ประเมินผลงานน ของการอา่ นงานเขยี น และให้ข้อเสนอแนะเพ เชงิ อธิบาย คาส่งั ครู : สนทนาซกั ถามถ ข้อแนะนา และ อปุ สรรคและปญั หาใน การปฏิบัตติ ามได้ นกกระดาษ ครใู หน้ ักเรยี นร่วมกนั แ ความคิดเห็นในประเด ครู : นกั เรียนมหี ลกั ใน งานเขยี นเชงิ อธบิ ายอ ครู : การอา่ นงานเขีย

๘๗๙ แนวการจดั การเรยี นรู้ สือ่ การเรยี นรู้ การประเมิน รู กิจกรรมนักเรยี น การเรียนรู้ พม่ิ เตมิ านงาน ภทต่าง ๆ ระงานให้ มรเู้ รือ่ ง ตติ าม อง นักเรยี น : ศกึ ษาใบความรู้ 3. ใบความร้เู รอื่ ง - ประเมินผลงาน ละ เรอื่ งการพบั กงุ้ กระดาษ การพับกงุ้ การพบั ก้งุ กระดาษ กระดาษ กระดาษ มเตมิ นกั เรียน : พบั กงุ้ กระดาษแล้ว 4. สื่อ ppt เร่อื ง - ประเมิน ติดลงในกระดาษแผน่ ใหญ่ การอา่ นงาน การตอบคาถาม นกั เรยี น นักเรียน : นาเสนอผลงาน เขยี นเชิงอธบิ าย พิ่มเติม การพบั นกกระดาษ ถงึ นกั เรียน : อภปิ รายปัญหา นการพบั อปุ สรรคในการพบั ก้งุ พรอ้ ม แนวทางในการแก้ปญั หา แสดง ด็นต่อไปนี้ นการอ่าน นกั เรียน : ต้องอ่านและทา อย่างไร ความเข้าใจให้ชดั เจน ยนเชงิ นกั เรียน : ทาใหเ้ ขา้ ใจและ

๘๘๐ คู่ม ลาดบั ขอบเขตเนื้อหา/ ขน้ั ตอนการจัด เวลา แ ที่ จุดประสงค์การเรยี นรู้ การเรียนรู้ ที่ใช้ กิจกรรมคร อธบิ ายมีประโยชน์อย ครู : นักเรียนสามารถ ความร้จู ากการอ่านงา เชงิ อธบิ ายไปใช้ประโย ชวี ติ ประจาวันได้อยา่ ง

มอื ครูและแผนการจดั การเรยี นรู้ ระดับประถมศกึ ษา ภาคเรยี นท่ี ๑ (ภาษาไทย ป.6) แนวการจดั การเรียนรู้ สือ่ การเรียนรู้ การประเมิน รู กิจกรรมนกั เรยี น การเรยี นรู้ ยา่ งไร ปฏิบัติตามไดถ้ กู ตอ้ ง ถนา นกั เรียน : เปน็ แนวทางใน านเขยี น การปฏิบตั หิ รอื ไม่ปฏิบตั ิตาม ยชน์ใน งไร

หน่วยการเรียนรทู้ ่ี 8 เรือ่ ง อ่านอย่างมีวจิ ารณญาณ 881 ๘. สือ่ การเรยี นรู้/แหล่งเรียนรู้ ๑. สื่อโปรแกรมนาเสนอเร่ืองการอ่านงานเขียนเชงิ อธบิ าย ๒. ใบความรู้ที่ 3 เรือ่ ง หลกั การอ่านและการเขียนเชงิ อธบิ ายประเภทตา่ ง ๆ ๓. ใบงานที่ 3 เรือ่ ง การอ่านงานเขียนเชงิ อธบิ าย ๔. อปุ กรณก์ ารพบั นกกระดาษ ๙. การประเมินผลรวบยอด ส่ิงทต่ี ้องการวดั /และ วธิ กี าร เครือ่ งมอื ที่ใช้ เกณฑ์ ประเมิน - ตอบคาถาม - คาถาม ผ่านเกณฑ์ ด้านความรู้ ความเขา้ ใจ - ประเมินการปฏบิ ตั ิตาม การประเมิน - บอกหลกั การอ่านงานเขยี น งานเขยี นเขงิ อธบิ าย รอ้ ยละ ๖๐ ขึ้นไป เชงิ อธิบายคาสง่ั ข้อแนะนา และปฏบิ ตั ิตาม - แบบประเมนิ ผ่านเกณฑ์ ดา้ นทักษะและกระบวนการ การปฏิบตั ิตามงานเขยี น การประเมนิ - ปฏบิ ตั ิตามงานเขียนเชิง เชิงอธิบาย ร้อยละ ๖๐ ขนึ้ ไป อธิบาย คาสั่ง และขอ้ แนะนา ดา้ นคุณลกั ษณะ เจตคติ คา่ นยิ ม - อภิปรายความสาคัญของ - ตอบคาถาม - คาถาม ผ่านเกณฑ์ การอา่ นงานเขียนเชิงอธิบาย การประเมิน คาส่ัง ขอ้ แนะนา และ ร้อยละ ๖๐ ขนึ้ ไป การปฏบิ ตั ติ าม ด้านคุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ ผา่ นเกณฑ์ ๑. ใฝเ่ รียนรู้ สงั เกตพฤตกิ รรม แบบประเมนิ การประเมนิ ระดับ ๒. มวี ินยั 1. การสงั เกต ผา่ น 2. คาถาม ผา่ นเกณฑ์ สมรรถนะสาคัญของผู้เรยี น 1. การสงั เกตพฤติกรรม การประเมนิ ระดบั ๑. ความสามารถใน 2. การตอบคาถาม ผ่าน การสอ่ื สาร ๒. ความสามารถในการคิด ๓. ความสามารถในการใช้ ทักษะชีวติ

882 คู่มือครูและแผนการจดั การเรียนรู้ ระดบั ประถมศกึ ษา ภาคเรยี นที่ ๑ (ภาษาไทย ป.6) ชิน้ งานหรอื ภาระงาน เกณฑก์ ารประเมนิ การอ่านงานเขยี นเชิงอธบิ าย การพบั กุ้ง ประเดน็ การ ๔ (ดีมาก) ระดบั คุณภาพ ๑ (ปรับปรุง) ประเมนิ ๓ (ดี) ๒ (พอใช้) ขาด ๓ การอา่ นงานเขยี น - ปฏบิ ตั ไิ ด้ถกู ตอ้ ง ขาด ๑ ขาด ๒ องค์ประกอบ เชงิ อธบิ ายและ ตามคาอธบิ าย องค์ประกอบ องคป์ ระกอบ การปฏบิ ัตติ าม - มกี ารวางแผนใน การทางาน - มคี วามประณีต สวยงาม - เสร็จทันเวลาที่ กาหนด - เกบ็ วัสดอุ ปุ กรณ์ เรยี บรอ้ ย หมายเหตุ : คา่ น้าหนกั ๕ คะแนน ชว่ งคะแนน ระดับคุณภาพ เกณฑก์ ารประเมนิ คุณภาพ ๑๘-๒๐ ดีมาก ๑๕-๑๗ ดี ๑๒-๑๔ พอใช้ ต่ากว่า ๑๒ ปรับปรงุ เกณฑ์การตัดสิน : ผ่านเกณฑก์ ารประเมินรอ้ ยละ ๖๐ ข้นึ ไป

หนว่ ยการเรยี นรูท้ ี่ 8 เรือ่ ง อา่ นอย่างมีวจิ ารณญาณ 883 10. บนั ทกึ ผลหลงั สอน ผลการจดั การเรียนการสอน .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................... ............... .............................................................................................................................................................................. ความสาเร็จ .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................... ............... .............................................................................................................................................................................. ปญั หาและอปุ สรรค .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................... ............... .............................................................................................................................................................................. ขอ้ จากัดการใช้แผนการจดั การเรยี นรู้ และขอ้ เสนอแนะ/แนวทางการปรับปรุงแกไ้ ข .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................... ............... .............................................................................................................................................................................. ลงชือ่ ......................................................ผสู้ อน (..........................................................) วนั ที่ ............. เดือน ..........พ.ศ. .................. 11. ความคดิ เห็น/ขอ้ เสนอแนะของผ้บู รหิ ารหรอื ผทู้ ่ไี ดร้ ับมอบหมาย .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................... ............... .............................................................................................................................................................................. ลงช่อื ......................................................ผ้ตู รวจ (..........................................................) วนั ท่ี ............. เดอื น ..........พ.ศ. ......

884 คู่มอื ครแู ละแผนการจดั การเรียนรู้ ระดบั ประถมศึกษา ภาคเรียนที่ ๑ (ภาษาไทย ป.6) ใบความรู้ท่ี ๓ เรอ่ื ง หลกั การอา่ นงานเขียนเชิงอธบิ าย ประเภทต่าง ๆ หนว่ ยการเรียนรู้ที่ ๘ เรือ่ ง อ่านอยา่ งมีวิจารณญาณ แผนการจดั การเรยี นร้ทู ่ี ๔ เร่ือง การอ่านงานเขียนเชิงอธบิ าย)๒( รายวิชา ภาษาไทย รหัสวิชา ท๑๖๑๐๑ ภาคเรยี นที่ ๑ ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๖ หลกั การอ่านงานเขยี นเชงิ อธบิ าย คาสง่ั ขอ้ เสนอแนะ และขอ้ ปฏบิ ตั ิ มีดงั นี้ ๑. อา่ นอย่างละเอยี ด อา่ นทกุ สว่ นของเอกสาร ขอ้ ปฏบิ ัติ หรอื คูม่ ือ ๒. ตง้ั ใจอ่าน อย่างมสี มาธิเพือ่ เก็บรายละเอยี ดของขอ้ ปฏิบตั ิ และขั้นตอนการใชง้ าน ๓. ควรจดบนั ทกึ ขนั้ ตอนการใช้งาน ทาเป็นบทสรุปการปฏิบตั ิ หรอื ย่อแนวการปฏิบัติงาน หลักการเขยี นอธิบายเชิงอธบิ าย คาส่ัง ขอ้ เสนอแนะ และข้อปฏิบตั ิ เป็นการเขียนเพ่ือให้ผู้อ่านได้รับความรู้และความเข้าใจเรื่องราวต่าง ๆ อย่างละเอียดและ ถกู ตอ้ ง ด้วยกลวธิ ีที่หลากหลายและเหมาะสมกบั เน้อื หา มีแนวการเขียนดังนี้ ๑.การเขียนอธิบายข้ันตอนการปฏิบัติ หรือวิธีการ จะต้องเขียนตามลาดับขั้นตอนตั้งแต่ เริม่ ต้นจนจบ แลว้ ได้ผลงานหรือทาได้ตามขน้ั ตอนน้นั ๆ ๒. การเขยี นแนะนาสถานท่ี เป็นการประชาสมั พันธส์ ถานท่ี เผยแพรข่ ้อมูล ชกั ชวนให้ร้จู ัก และคล้อยตาม โดยเขียนเนื้อเร่ืองสั้น ๆ แต่ข้อความชัดเจน ภาษากะทัดรัด ย้าข้อความสาคัญ บอ่ ยครงั้ ๓. การเขียนขอ้ ปฏบิ ตั ิ เปน็ การชักจใู ห้ปฏบิ ตั ติ าม ควรเขยี นเปน็ ขอ้ ๆ ชดั เจนปฏบิ ตั ไิ ด้ ตวั อยา่ งงานเขียนเชิงอธิบาย คาสั่ง ข้อเสนอแนะ และข้อปฏิบตั ิ ตวั อยา่ งที่ ๑ วธิ กี ารทาไข่ต๋นุ ไข่ตุ๋นวุน้ เส้นต้นทนุ ตา่ ทากินแกจ้ น สูตรในการทา “ไข่ตนุ๋ ” ท่ีเจ็กจุ่นขายในราคาโถละ 30 บาท จะใช้ไข่ไก่ 2 ฟอง หมูสับ 50 กรัม วุ้นเส้น เห็ดทอดหั่น กระเทียมเจียว ผักชี พริกชี้ฟ้าสุก (แดง) เขามเี ทคนิคในการทาหรือปรุง โดยเอาไขไ่ กต่ ีเข้ากบั นา้ ซุป (นา้ ต้มกระดูกหมูหรือกระดกู ไก่ก็ ได้) โดยใช้สูตรน้าซุปครึ่งแก้วต่อไข่ไก่ 2 ฟอง (มากไปไข่ตุ๋นเหลว น้อยไปไข่ตุ๋นแข็งกระด้างไม่ดี) ตจี นเข้ากนั จากน้ันก็ใส่ซอส ซีอ๊วิ ขาว พริกไทย (ไม่ใส่นา้ ปลาจะทาใหเ้ กิดกลนิ่ คาว) เมอ่ื เครื่องปรุง ไข่ตุ๋นเสร็จแล้วเอาวนุ้ เส้นใส่เข้าไปคนให้เข้ากัน แล้วเอาเห็ดหอม พริกช้ีฟ้า ใส่เข้าไปคล้าย ๆ กับ โรยหนา้ แลว้ นาไปนง่ึ ในซ้ึงนานประมาณ 20 นาที ไข่ต๋นุ กจ็ ะสุกพอดรี บั ประทานพอยกออกมาจาก ซึ้งแล้วโรยดว้ ยผักชี ตักกนิ รอ้ นๆ อรอ่ ย…เปน็ อาหารเสรมิ สขุ ภาพ ตามคาขวญั ท่ีว่า … บริโภคไขไ่ ก่ พลานามัยสมบรู ณ์ (ข้อสาคัญอยา่ ใส่ผงชูรส) ที่มา : ปัญญา เจรญิ วงศ.์ “ทาไดไ้ ม่จน.” ไทยรัฐ, 21 กุมภาพันธ์ 2546, หนา้ 7

หน่วยการเรยี นร้ทู ี่ 8 เรือ่ ง อา่ นอยา่ งมวี จิ ารณญาณ 885 ตัวอยา่ งท่ี 2 ข้อควรปฏบิ ัติในการใช้ห้องสมดุ 1. แต่งกายสุภาพ 2. ใหน้ ากระเปา๋ ใส่หนงั สือ แฟ้มเอกสาร ถุงใส่ของ วางไวใ้ นทีท่ จ่ี ดั ไว้โดยเฉพาะ 3. ห้องสมุดไม่รับฝากสิ่งของมีค่า และไม่รับผิดชอบต่อส่ิงของมีค่าที่สูญหายหรือเสียหาย เพราะผมู้ าใช้บริการวางท้ิงไว้ในหอ้ งสมดุ 4. ห้ามนาอาหาร ขนม และเครอ่ื งดื่มเข้าหอ้ งสมุด 5. ห้ามสบู บหุ รีใ่ นบริเวณหอ้ งสมดุ 6. ใช้ห้องสมุดด้วยความสารวม ไม่ส่งเสียงดังหรือกระทาการใด ๆ อันเป็นท่ีราคาญของ ผอู้ น่ื 7. การอ่านหนงั สอื ภายในหอ้ งสมุด ผอู้ า่ นจะตอ้ งอ่าน ณ ท่ซี ง่ึ จัดไวโ้ ดยเฉพาะ 8. ผู้ใช้สามารถหยิบหนังสือเล่มท่ีต้องการจากชั้นได้เอง เมื่ออ่านเสร็จให้วางไว้ที่ช้ันพัก หนังสือทใ่ี กล้ชนั้ วางหนงั สอื มากที่สุด 9. หนังสอื พิมพ์ นิตยสาร และวารสารเมื่ออ่านเสรจ็ แลว้ ให้เก็บคนื ตามป้ายช่ือของสิ่งพมิ พ์ ที่ตดิ อย่บู นชั้นวาง 10. ห้ามขีด เขียน ตัด ฉีก ทรพั ยากรสารนเิ ทศของห้องสมุด 11. หา้ มนาทรัพยากรสารนิเทศใด ๆ ของหอ้ งสมุดออกจากหอ้ งสมดุ โดยไมไ่ ดร้ ับอนุญาต ตวั อยา่ งที่ ๓ มารยาทในการชมการแสดง 1. ไม่ควรส่งเสียงรบกวนผู้อื่นขณะกาลังชมการแสดง ทาให้ผอู้ ่ืนเกิดความราคาญ และอาจ ทาใหผ้ ู้แสดงไมม่ สี มาธใิ นการแสดง 2. แต่งกายสุภาพเรียบรอ้ ย เหมาะสมกบั สถานที่ ไมค่ วรสวมหมวกขณะชมการแสดง 3. ไปถึงสถานท่กี ่อนเวลาแสดง เพือ่ จะได้ศกึ ษารายละเอียดของงานก่อนชมการแสดง เช่น การอา่ นเอกสารประกอบการแสดง เพ่ือใหเ้ ขา้ ใจการแสดงได้งา่ ยขนึ้ เปน็ ตน้ 4. ปฏิบัติตนตามระเบยี บของสถานที่ เช่น นั่งประจาที่กอ่ นการแสดงจะเริ่ม และให้เกยี รติ ผแู้ สดงโดยการปรบมือกอ่ นการแสดงและหลงั จบการแสดง เปน็ ต้น 5. ใหค้ วามสนใจ และมีอารมณ์รว่ มกับผแู้ สดง เช่น สนุกสนาน หัวเราะ ปรบมือ เพราะจะ ทาให้ผูแ้ สดงแสดงไดอ้ ย่างเต็มท่ี และมีกาลังใจในการแสดง 6. ไมล่ ุกเดนิ ไปมาบ่อย ๆ เพราะจะทาให้เกิดความวนุ่ วาย และเป็นการทาลายสมาธใิ นการ ชมการแสดงของผอู้ ่ืนด้วย

886 คมู่ ือครูและแผนการจดั การเรียนรู้ ระดบั ประถมศึกษา ภาคเรยี นที่ ๑ (ภาษาไทย ป.6) ตวั อยา่ งที่ ๔ การอ่านฉลากยา การอ่านฉลากยา ฉลากยา เป็นสิ่งสาคัญที่ให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์และทาให้เกดิ ความปลอดภัยในการใช้ยา เรา ต้องอ่านฉลากยาก่อนท่ีจะใช้ยาทุกครั้ง ฉลากยาประกอบด้วยส่วนต่าง ๆ ท่ีสาคัญดังต่อไปน้ี 1. ชอื่ ยาบนฉลาก มที ัง้ ช่อื การคา้ และชือ่ สามัญทางยา ยาชนดิ เดียวกันอาจมชี ือ่ การค้าหลายช่ือ หรอื หลายยี่ห้อ ผู้ใชย้ าควรอ่านสตู รส่วนประกอบหรอื ชื่อสามัญของยา เพือ่ ทีห่ ลีกเลยี่ งตัวยาทแ่ี พ้ อันทา ให้เกดิ การใช้ยาเกนิ ขนาดจนเปน็ อันตรายได้ 2. ขนาดยา ยาบางชนิดมีหลายขนาด เพ่ือป้องกันการทานยาเกินขนาดหรือขนาดน้อย จนเกินไป จนเกิดผลข้างเคียงหรือไม่เหน็ ผลในการรกั ษา 3. วันผลิตและวันหมดอายุ เพือ่ หลีกเล่ียงอนั ตรายทเี่ กดิ จากการทานยาหมดอายแุ ล้ว 4. ขอ้ หา้ มใช้และคาเตอื น ยาบางชนดิ มีขอ้ หา้ มและขอ้ ควรระวงั ในการใชใ้ นผ้ปู ่วยบางราย เช่น ผูป้ ว่ ยโรคไต โรคตบั เดก็ หรอื สตรมี ีครรภ์ 5. เลขทะเบียนตารับยา บอกว่ายาผ่านการตรวจสอบควบคุมจากสานักงานคณะกรรมการ อาหารและยาแลว้ วา่ มีผลการรักษาจริง 6. ยาอนั ตราย หรือยาควบคมุ พิเศษ หรอื ยาเสพติด หรือวัตถุออกฤทธ์ติ ่อจิตและประสาท ท่ี ต้องระมดั ระวงั ในการใช้ หากเป็นยาสามัญประจาบ้าน สามารถซือ้ ทานได้โดยปลอดภัย 7. วิธีการรับประทาน เช่น เป็นยารับประทาน หรือยาใช้ภายนอก เพื่อใช้ยาได้อย่าง ถูกตอ้ ง ได้ผลในการรักษาและเกดิ ความปลอดภยั ในการใช้ยา 8. ชื่อและท่ีตั้งของผู้ผลิต กรณีเกิดความบกพร่องของยานั้น สามารถที่จะร้องเรียน โดยดู เลขที่ หรอื ครัง้ ท่ีผลติ ของยานนั้ ด้วย เพ่อื ตรวจสอบไดถ้ กู ต้องรวดเรว็ ยิ่งข้นึ 9. ฉลากยาบนซองยาที่จดั เฉพาะผู้ปว่ ยแตล่ ะราย ตรวจวา่ เปน็ ซองยาของผู้ป่วยรายนนั้ จริง ๆ แหลง่ ข้อมูลอ้างองิ สมาคมเภสัชกรรมโรงพยาบาล.(ประเทศไทย) หยกู ยานา่ รู้. พมิ พ์คร้งั ที่ 2. กรกฎาคม 2544.

หน่วยการเรยี นรู้ที่ 8 เรอ่ื ง อา่ นอย่างมวี จิ ารณญาณ 887 ใบงานที่ ๓ เรอื่ ง การอา่ นงานเขยี นเชงิ อธบิ าย หน่วยการเรยี นรู้ที่ ๘ เรือ่ ง อา่ นอยา่ งมีวจิ ารณญาณ แผนการจัดการเรียนร้ทู ี่ ๔ เร่ือง การอ่านงานเขียนเชิงอธิบาย รายวชิ า ภาษาไทย รหัสวิชา ท๑๖๑๐๑ ภาคเรียนที่ ๑ ชั้นประถมศึกษาปีท่ี ๖ คาช้แี จง ครแู จกกระดาษวารสารหรือกระดาษหนังสอื พมิ พ์ ใหน้ กั เรยี นคนละ ๑ แผ่น นักเรยี นอา่ นวธิ กี ารพับกุ้งและปฏิบตั ติ ามตามขน้ั ตอน โดยใช้เวลาพบั ๕ นาที ชื่อ..................................................................................ช้นั ......................เลขท่ี..................

๘๘๘ คมู่ ือครแู ละแผนการจัดการเรียนรู้ ระดบั ประถมศึกษา ภาคเรียนที่ ๑ (ภาษาไทย ป.6) แผนการจัดการเรียนร้ทู ่ี ๔ เรื่อง การเขยี นย่อความ (๑) เวลา ๑ ช่วั โมง หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี ๘ เรื่อง อา่ นอยา่ งมวี ิจารณญาณ กลมุ่ สาระการเรยี นรภู้ าษาไทย รายวิชาภาษาไทย ชนั้ ประถมศกึ ษาปีที่ ๖ สาระที่ ๒ การเขียน มาตรฐาน ท ๒.๑ ใช้กระบวนการเขียนเขียนสอื่ สาร เขียนเรยี งความ ย่อความ และเขียนเรอื่ งราวในรูปแบบ ตา่ ง ๆ เขียนรายงานขอ้ มูลสารสนเทศและรายงานการศึกษาคน้ คว้าอย่างมีประสิทธิภาพ ตัวช้ีวดั ป.๖/๕ เขียนย่อความจากเรอ่ื งท่ีอ่าน ป.๖/๙ มมี ารยาทในการเขยี น ๒. สาระสาคญั /ความคดิ รวบยอด การเขยี นยอ่ ความเปน็ การสรุปใจความสาคัญของเรื่องที่อ่าน และควรย่อความให้ถูกต้องตามรปู แบบ ของย่อความแต่ละประเภท ๓. จดุ ประสงค์การเรียนรู้ 1. ดา้ นความรู้ ความเข้าใจ (K) บอกหลักการเขียนยอ่ ความได้ 2. ดา้ นทักษะ/กระบวนการ (P) เขียนย่อความจากเรอื่ งทก่ี าหนดใหไ้ ด้ 3. ด้านคณุ ลกั ษณะ เจตคติ คา่ นยิ ม (A) เห็นประโยชนข์ องการเขยี นย่อความ ๔. สาระการเรยี นรู้ 4.1 หลักการเขยี นย่อความ 4.2 การเขียนยอ่ ความจากเร่ืองทกี่ าหนด ๕. สมรรถนะสาคญั ของผ้เู รียน 5.1 ความสามารถในการสอื่ สาร 5.2 ความสามารถในการคดิ 5.3 ความสามารถในการใชท้ กั ษะชีวิต ๖. คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ 6.1 มวี นิ ยั 6.2 ใฝเ่ รียนรู้ 6.3 มุ่งมน่ั ในการทางาน 6.4 รักความเปน็ ไทย ๗. กิจกรรมการเรียนรู้

หน่วยการเรียนรทู้ ่ี 8 เร่ือง อา่ นอย่างมีวจิ ารณญาณ การจัดกิจกรรมการเรียนร แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ 4 เ รายวชิ า ภาษาไทย หน่วยการเรียนรู้ท่ี ๘ เรอื่ ลาดับ ขอบเขตเนอื้ หา/ ขั้นตอนการจดั เวลา แ ที่ จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ การเรยี นรู้ ทีใ่ ช้ กิจกรรมคร 1. ขอบเขตเน้อื หา ขน้ั นา ๕ ๑ . ครใู ห้นกั เรยี นทากจิ 1. หลักการเขียน นาที “ยน่ ๆ ย่อ ๆ พอเขา้ ใจ ข้อความท่กี าหนดให้ ย่อความ สรปุ ใหเ้ ป็นขอ้ ความทสี่ 2. การเขยี นยอ่ ความ จากเร่ืองที่กาหนด ครู : ตารวจรวั ปืนยงิ ค ตายคาทีห่ มดทกุ คนด้ว ปืนของตารวจไมม่ ีใครร เลย ครู : น้องใช้มือจบั ชอ้ น ก็อ้าปากกนิ ขา้ วทอ่ี ยู่ใน ครู : รถของนายสวสั ด มาดว้ ยความเร็วสูง แห ระหวา่ งเลี้ยวจึงเสยี หล ควา่ เทกระจาดลงขา้ ง ๒. ครูช้ีแนะใหน้ กั เรีย วา่ การการใช้ภาษาสือ่ ควรใช้คาฟุ่มเฟอื ยควร ส้ันกะทัดรัด

๘๘๙ รู้ ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ี่ ๖ เรอ่ื ง การเขียนยอ่ ความ (๑) ง อา่ นอย่างมีวิจารณญาณ จานวน ๑ ช่ัวโมง แนวการจัดการเรยี นรู้ ส่อื การเรียนรู้ การประเมนิ รู กิจกรรมนกั เรยี น 1. สื่อ ppt การเรยี นรู้ จกรรม เรอ่ื งการ จ” โดยอ่าน เขียน แล้วเขยี น 2. ย่อความ สนั้ กะทดั รัด คนรา้ ย นกั เรียน : ตารวจรวั ปืนยิง วยกระสุน คนรา้ ยตายหมด รอดชวี ติ นักเรียน : นอ้ งใช้ชอ้ นตักข้าว นจากนนั้ กิน นชอ้ นน้นั นกั เรียน : รถของนายสวสั ด์ิ ด์ิ ซง่ึ แล่น พลิกคว่าลงขา้ งทาง หกโค้ง ลกั พลกิ งทาง ยนเข้าใจ อสารไม่ รใช้คาที่

๘๙๐ คมู่ ลาดับ ขอบเขตเนอ้ื หา/ ขั้นตอนการจัด เวลา แ ที่ จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ การเรยี นรู้ ที่ใช้ กิจกรรมคร 2. จดุ ประสงค์การเรียนรู้ ขั้นสอน ๒๕ ๑. ครใู ชค้ าถามเพ่ือให 1. บอกหลกั การเขยี น นาที ร่วมกันแสดงความคดิ ยอ่ ความได้ ครู : นกั เรียนเคยเขยี ความหรือไม่ ครู : นักเรียนมีปญั ห อะไรบ้างในการเขยี นย ครู : นักเรยี นรสู้ ึกอย ผลงานการยอ่ ความท ของตนเอง ครเู ขยี นคาตอบของ บนกระดานดา และให ความคดิ เห็นท้งั หมด ๒ ครใู หน้ ักเรียนแตล่ เรอ่ื ง “ครอบครวั ตวั อ แล้วทาใบงานเรื่องยอ่ ค ประสบการณ์เดมิ ของแ ๓. ครสู ุ่มตัวแทนนักเร คน ออกมาอา่ นผลงาน เพอ่ื น ๆ ฟัง ๔. ครแู นะนาความรเู้ พ เรอื่ งการยอ่ ความโดย กระตนุ้ ความคิดของนกั

มอื ครแู ละแผนการจัดการเรยี นรู้ ระดับประถมศึกษา ภาคเรียนที่ ๑ (ภาษาไทย ป.6) แนวการจัดการเรียนรู้ ส่อื การเรียนรู้ การประเมนิ รู กิจกรรมนกั เรียน การเรียนรู้ ห้นกั เรียน ดเห็น ดังน้ี ยนยอ่ นักเรียน : เคย /ไมเ่ คย หา นกั เรียน : จบั ใจความสาคญั ได้ ยอ่ ความ ไมห่ มด ย่างไรต่อ นักเรยี น : พอใจ /ไมพ่ อใจ ท่ผี า่ นมา เพราะ งนักเรียน หข้ อ้ สงั เกต ละคนอา่ น นกั เรยี น : อ่านเรือ่ งครอบครัว 2. ใบงาน เรอื่ ง - ประเมนิ ใบงาน อย่าง” ตัวอย่างและเขยี นย่อความ ยอ่ ความตาม ความตาม ตามประสบการณเ์ ดิม ประสบการณเ์ ดมิ แตล่ ะคน รยี น ๒-๓ นักเรียน : นาเสนอผลการยอ่ นให้ ความหน้าช้นั เรยี น พมิ่ เตมิ ยใช้คาถาม กเรียน ดังน้ี

หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 8 เรือ่ ง อา่ นอย่างมีวจิ ารณญาณ ลาดับ ขอบเขตเน้อื หา/ ข้นั ตอนการจัด เวลา แ ท่ี จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ การเรยี นรู้ ทใี่ ช้ กิจกรรมคร ครู : นักเรยี นรู้อะไรจ กิจกรรมนี้ ๔. ครูให้นักเรยี นแบง่ ก ใบความรู้ เรอื่ งการเขยี น และตวั อย่างการเขยี น จากนั้นรว่ มกันอภปิ รา สรปุ ความรเู้ รอื่ งหลกั กา ครู : ฟังการอภิรายของ และใหค้ าแนะนาเพม่ิ เต ๕. ครูขอตัวแทนนกั เร ละ ๑ คนออกมาอภิป ชัน้ เรยี น โดยครตู รวจ ความถูกตอ้ ง หากพบข ใหเ้ สนอแนะความรเู้ พ ๖. ครอู ธิบายเก่ียวกบั ยอ่ ความ หลกั เกณฑก์ และรปู แบบการเขียน ประเภทตา่ ง ๆ ใหน้ ัก เพิ่มเตมิ ๗. ครมู อบหมายภาระ นักเรยี นทาใบงานเร่ืองฝ

๘๙๑ แนวการจดั การเรยี นรู้ สื่อการเรียนรู้ การประเมิน รู กิจกรรมนกั เรยี น การเรียนรู้ จากการทา นกั เรียน : ไดร้ ้วู า่ การยอ่ ความ 3. ใบความรู้ - ประเมิน ตอ้ งเปลี่ยนสรรพนาม เรื่อง การเขียน การอภิปรายกลมุ่ กลุ่มศกึ ษา นกั เรียน : แบ่งกลมุ่ ศกึ ษาใบ ยอ่ ความและ นย่อความ ความรู้เรื่องการเขียนยอ่ ความ ตัวอยา่ งการเขยี น นยอ่ ความ และตวั อย่างการเขยี นย่อความ ยอ่ ความ ายกลมุ่ ารย่อความ งนักเรียน ตมิ นกั เรยี น : อภิปรายกลมุ่ เรอ่ื ง รยี นกลมุ่ หลกั การยอ่ ความ ปรายหนา้ นักเรียน : อภปิ รายกลมุ่ หนา้ จสอบ ช้นั เรยี น ขอ้ บกพรอ่ ง พ่มิ เติม บการเขียน การเขยี น นยอ่ ความ กเรียนฟงั ะงานให้ ฝึกยอ่ ความ

๘๙๒ คมู่ ลาดบั ขอบเขตเนือ้ หา/ ขั้นตอนการจัด เวลา แ ที่ จุดประสงค์การเรียนรู้ การเรียนรู้ ท่ใี ช้ กิจกรรมคร 3. 2. เขียนย่อความจาก ขัน้ ปฏิบตั ิ ๑๕ ๑. ครแู นะนาวธิ ีการท เรอ่ื งทีก่ าหนดให้ได้ นาที เรอ่ื งฝึกยอ่ ความ โดยใ นักเรียนอา่ นเรอ่ื งว่ิงเป เขียนยอ่ ความตามรูป ๒. ครูให้คาแนะนาขณ นกั เรียนปฏิบัติกจิ กรร ๓. ครูคัดเลือกตวั แทน ออกมานาเสนอผลงาน ครู : ประเมินผลการย ของนักเรียนและให้ ข้อเสนอแนะเพิ่มเตมิ 4. 3. เห็นประโยชน์ของ ขั้นสรุป ๕ ครใู หน้ กั เรยี นร่วมกันแ การเขียนยอ่ ความ นาที ความคดิ เหน็ เพอื่ สรปุ ดงั น้ี ครู : นักเรียนมหี ลักใน ความอย่างไร ครู : การเขยี นย่อควา ประโยชน์อยา่ งไร

มอื ครแู ละแผนการจัดการเรียนรู้ ระดบั ประถมศึกษา ภาคเรียนที่ ๑ (ภาษาไทย ป.6) แนวการจัดการเรยี นรู้ สือ่ การเรยี นรู้ การประเมนิ รู กิจกรรมนักเรียน 4. ใบงานเรื่อง การเรียนรู้ ทาใบงาน นกั เรยี น : ทาใบงานเรือ่ งฝึก ฝึกยอ่ ความ - ประเมินใบงาน ให้ ย่อความ ปย้ี วแล้ว ปแบบ ณะ รม นนกั เรยี น นกั เรียน : นาเสนอผลงาน น ย่อความ แสดง นกั เรยี น : อ่านเร่อื ง / - ประเมนิ ปความรู้ จับประเด็นสาคญั ทเี่ ป็น การตอบคาถาม นการยอ่ ขอ้ เท็จจรงิ /เปล่ียนสรรพนาม บรุ ุษท่ี ๑ เปน็ สรรพนามบรุ ษุ ที่ ามมี ๓ /ใช้สานวนภาษาของตนเอง/ เขียนยอ่ ความตามรปู แบบ นกั เรยี น : การเขยี นยอ่ ความ ชว่ ยในการทบทวนความรู้

หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 8 เรอ่ื ง อา่ นอยา่ งมีวจิ ารณญาณ 893 ๘. ส่อื การเรยี นร/ู้ แหลง่ เรยี นรู้ ๑. สือ่ โปรแกรมนาเสนอเร่อื งการเขียนย่อความ ๒. ใบงานท่ี 4 เร่ือง ยอ่ ความตามประสบการณเ์ ดิม ๓. ใบความรู้ที่ 4 เร่ือง การเขียนย่อความและตวั อย่างการเขยี นย่อความ ๔. ใบงานเร่อื ง ฝึกย่อความ ๙. การประเมินผลรวบยอด สงิ่ ที่ต้องการวัด/ประเมิน วธิ กี าร เครื่องมือที่ใช้ เกณฑ์ ดา้ นความรู้ ความเขา้ ใจ - คาถาม ผา่ นเกณฑ์ - บอกหลกั การเขยี นยอ่ ความ - ตอบคาถาม การประเมนิ ร้อยละ ๖๐ ข้ึนไป ดา้ นทักษะและกระบวนการ - แบบประเมินการเขียน ผา่ นเกณฑ์ - เขียนยอ่ ความจากเร่ืองท่ี - ประเมนิ การเขียนย่อ กาหนดให้ ความ ย่อความ การประเมิน รอ้ ยละ ๖๐ ขึ้นไป ดา้ นคุณลักษณะ เจตคติ - คาถาม ผ่านเกณฑ์ ค่านิยม - แบบประเมนิ การประเมนิ - เห็นประโยชน์ของการเขยี น - ตอบคาถาม 1. การสงั เกต รอ้ ยละ ๖๐ ขึน้ ไป ย่อความ 2. คาถาม ผ่านเกณฑ์ การประเมนิ ระดบั ดา้ นคณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ - สังเกตพฤติกรรม ผ่าน ๑. ใฝเ่ รียนรู้ ผ่านเกณฑ์ ๒. มีวนิ ยั การประเมินระดบั ผา่ น สมรรถนะสาคัญของผ้เู รยี น 1. การสงั เกตพฤติกรรม ๑. ความสามารถใน 2. การตอบคาถาม การสอ่ื สาร ๒. ความสามารถในการคิด 3. ความสามารถในการใช้ ทกั ษะชีวติ

894 คู่มือครูและแผนการจัดการเรยี นรู้ ระดบั ประถมศกึ ษา ภาคเรียนท่ี ๑ (ภาษาไทย ป.6) ชน้ิ งานหรือภาระงาน เกณฑก์ ารประเมินการเขยี นยอ่ ความ ประเด็นการ ระดบั คุณภาพ ประเมิน ๔ (ดีมาก) ๓ (ด)ี ๒ (พอใช้) ๑ (ปรับปรงุ ) เขยี นยอ่ ความ การเขยี นยอ่ ความ เขยี นรูปแบบ เขยี นรูปแบบ เขียนรปู แบบ ถกู ต้องตาม การเขยี นยอ่ ความ การเขยี นยอ่ ความได้ การเขยี นยอ่ ความ รูปแบบ แต่เปน็ ได้ถกู ต้อง สรปุ ถกู ตอ้ ง สรปุ ไดถ้ กู ตอ้ ง สรปุ การคดั ลอก ใจความสาคัญ ใจความสาคญั จาก ใจความสาคัญ ขอ้ ความมา จากเรื่องได้ เรอ่ื งไดค้ รบถว้ น จากเร่ืองได้ ทงั้ หมด ครบถ้วนชดั เจน โดยใชภ้ าษาของผยู้ ่อ ครบถว้ นแต่ โดยใช้ภาษาของ ความเองเปน็ ขอ้ ความทนี่ ามา ผู้ย่อความเอง ส่วนใหญ่ ยอ่ ความเปน็ ลายมอื สวยงาม ข้อความจาก เป็นระเบยี บ การนาเร่ืองท่ยี ่อมา ตัดตอ่ กันโดยใช้ คาเชอ่ื ม หมายเหตุ : ค่านา้ หนัก ๕ คะแนน ชว่ งคะแนน ระดับคุณภาพ เกณฑ์การประเมนิ คุณภาพ ๑๘-๒๐ ดมี าก ๑๕-๑๗ ดี ๑๒-๑๔ ต่ากว่า ๑๒ พอใช้ ปรับปรงุ เกณฑ์การตัดสิน : ผา่ นเกณฑก์ ารประเมนิ รอ้ ยละ ๖๐ ขนึ้ ไป

หน่วยการเรียนร้ทู ่ี 8 เรอ่ื ง อา่ นอย่างมีวจิ ารณญาณ 895 10. บนั ทกึ ผลหลังสอน ผลการจดั การเรียนการสอน .............................................................................................................................................................................. ................................................................................................................... ........................................................... ............................................................................................................................................. ................................. .............................................................................................................................................................................. ความสาเรจ็ .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................... ............... .............................................................................................................................................................................. ปัญหาและอุปสรรค .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................... ............... .............................................................................................................................................................................. ข้อจากดั การใช้แผนการจัดการเรียนรู้ และข้อเสนอแนะ/แนวทางการปรบั ปรงุ แกไ้ ข .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................... ............... .............................................................................................................................................................................. ลงช่ือ......................................................ผสู้ อน (..........................................................) วนั ที่ ............. เดอื น ..........พ.ศ. .................. 11. ความคดิ เหน็ /ข้อเสนอแนะของผูบ้ ริหารหรือผทู้ ไ่ี ดร้ ับมอบหมาย .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................... ............... .............................................................................................................................................................................. ลงชอื่ ......................................................ผู้ตรวจ (..........................................................) วนั ที่ ............. เดือน ..........พ.ศ. ......

896 คมู่ อื ครแู ละแผนการจัดการเรียนรู้ ระดบั ประถมศึกษา ภาคเรยี นที่ ๑ (ภาษาไทย ป.6) ใบความรู้ท่ี ๔ เรอื่ ง การเขยี นย่อความ หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ ๘ เรือ่ ง อา่ นอยา่ งมวี จิ ารณญาณ แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ ๕ เร่ือง การเขียนย่อความ รายวิชา ภาษาไทย รหสั วิชา ท๑๖๑๐๑ ภาคเรียนท่ี ๑ ช้นั ประถมศึกษาปีท่ี ๖ ยอ่ ความ หมายถึง การเก็บสาระสาคัญของเน้ือเรอ่ื งให้ครบถ้วน แล้วนาข้อความท่ียังไม่ จดั ระเบยี บมาเรียบเรียงใหมใ่ หก้ ะทัดรดั ด้วยสานวนภาษาของตนเอง มใี จความสาคัญครบ เพอ่ื ให้ ผ้อู ่านเขา้ ใจเนื้อหาได้สะดวกรวดเร็ว หลกั การเขียนยอ่ ความ มีดังนี้ ๑. อ่านหรอื ฟังเร่ืองท่ีจะย่อต้ังแต่ต้นจนจบอย่างน้อย ๒ ครั้ง ครงั้ แรกเป็นการอ่านสารวจ คร่าว ๆ แล้วใหอ้ า่ นรอบที่สอง เพอื่ ให้ร้วู า่ - เร่อื งนี้กลา่ วถึงอะไร - ใครทาอะไร ทากับใคร ทไ่ี หน เม่ือไร ผลเป็นอยา่ งไร - เจตนาของผ้เู ขียนตอ้ งการถา่ ยทอดเร่ืองอะไรแก่ผู้อา่ น ๒. ย่อความเฉพาะข้อความท่ีเป็นจริง ความรู้ ข้อเท็จจริง ไม่นาข้อคิดเห็น ความรู้สึกมา เขียนในยอ่ ความ ๓. พจิ ารณาเรื่องท่จี ะยอ่ ความว่าเปน็ งานเขยี นประเภทใด เช่น นทิ าน บทความ เรยี งความ ฯลฯ ถ้าเร่ืองที่จะย่อเป็นบทร้อยกรองต้องถอดความเป็นร้อยแก้วก่อน แล้วจึงจับใจความสาคัญ ตอ่ ไป ๔. นาใจความสาคัญมาเขียนเรียบเรยี งใหม่ด้วยภาษาของตนเองท่ีกะทดั รัด สละสลวยโดย ไม่ใหใ้ จความสาคัญเปลยี่ นไป ๕. ตรวจสอบการใช้สรรพนาม เปล่ียนการใช้คาสรรพนามบุรษุ ที่ ๑ หรือบรุ ุษท่ี ๒ เชน่ ฉัน คณุ ทา่ น เปน็ สรรพนามบรุ ษุ ที่ ๓ เชน่ เขา เธอ และไม่ใช้อกั ษรยอ่ ๖. การย่อคาพูด/คาสนทนาของบุคคล ใหย้ ่อโดยไม่ตอ้ งใส่เคร่ืองหมาย (“__”) ๗. ถา้ เรอ่ื งเดิมมีการใชค้ าราชาศพั ท์ เมอื่ ยอ่ แล้วก็ต้องใชค้ าราชาศพั ท์ให้ถูกต้องเหมอื นเดมิ ๘. ถ้าเรอ่ื งเดมิ มหี ลายยอ่ หน้า ใจความทีย่ ่อแลว้ ให้เขยี นรวมเปน็ ย่อหน้าเดยี ว ๙. การยอ่ ความไม่ควรมีความยาวมากกวา่ คร่งึ หนง่ึ ของเน้อื ความเดิม ๑๐. ให้เขียนขน้ึ ต้นตามรูปแบบของย่อความก่อน เพื่อให้รู้ที่มาของเรือ่ งทน่ี ามาย่อ แล้วจึง เขยี นยอ่ ความให้สมบูรณ์

หน่วยการเรยี นรู้ที่ 8 เรอ่ื ง อ่านอยา่ งมวี จิ ารณญาณ 897 ตัวอย่างรปู แบบการเขยี นย่อความ ๑. การยอ่ นทิ าน นิยาย พงศาวดาร ใหบ้ อกประเภท ช่ือเรอ่ื ง ผแู้ ตง่ ทมี่ าของเร่อื ง ยอ่ นทิ านเร่ือง…...........................................ผู้แต่งจาก.................................................................. หนังสือ..........................................................ความวา่ (เนอื้ เรอื่ งย่อ).......................................................... ………………………………………………………………………………………................................................................. ................................................................................................................................................................... ๒. ยอ่ บทความทางวิชาการ ให้บอกประเภท ชอื่ เร่อื ง เจ้าของเร่อื ง ท่ีมาของเรือ่ ง ย่อบทความเรือ่ ง…...........................................ผู้แต่งจาก............................................................... หนงั สือ..........................................................ความว่า (เนือ้ เรอื่ งย่อ).......................................................... ………………………………………………………………………………………................................................................. ................................................................................................................................................................... ๓. ยอ่ คาสอน ให้บอกประเภท ช่ือเรือ่ ง เจา้ ของเรื่อง ทีม่ าของเร่อื ง เช่น ยอ่ คาสอนเรือ่ ง…...........................................ผู้แตง่ จาก................................................................. หนังสือหนา้ ..................................................ความวา่ (เนื้อเรอื่ งย่อ).......................................................... ………………………………………………………………………………………................................................................. ................................................................................................................................................................... (สานักงานคณะกรรมการการศกึ ษาขั้นพื้นฐาน .๒๕๕๑. คูม่ ือการเรียนการสอนภาษาไทย คิดและเขียนเชงิ สร้างสรรค์ : เรียงความ ยอ่ ความ และสรปุ ความ. กรุงเทพฯ : โรงพิมพ์องค์การค้าของสานกั งาน คณะกรรมการ สกสค.)

898 คู่มอื ครแู ละแผนการจดั การเรียนรู้ ระดบั ประถมศกึ ษา ภาคเรียนท่ี ๑ (ภาษาไทย ป.6) ตัวอยา่ ง การเขยี นย่อความประเภทคาสอน เรอ่ื ง คดิ ก่อนพดู ลูกรัก... ปากคนน้ันนาสุขมาให้กไ็ ด้ นาทุกข์มาให้ก็ได้ มีคาเตอื นมากมายเกยี่ วกับปาก เช่น “พูดไปสองไพเบี้ย นิ่งเสียตาลึงทอง” เมื่อลูกคบหากับใคร ทางานท่ีไหนก็ตาม สิ่งท่ีต้องระวังให้ มากคือปาก ท่านกล่าวว่า “จงเก็บปากไว้ทใี่ จ อย่าเก็บใจไว้ท่ีปาก” คืออยากพดู อะไรกเ็ ก็บไว้ในใจ อย่าพดู ทุกอย่างตามท่ีใจคิด พูดมากโอกาสพลาดก็มีมาก พูดนอ้ ยก็พลาดน้อย เมื่อจาเปน็ ต้องพดู ก็ ควรพูดอย่างมีสติ พูดพอประมาณ พูดอย่างสร้างสรรค์ ถูกต้องและมีประโยชน์ ท่านบอกไว้ว่า “คาพดู ทด่ี งั เกนิ ไป คาพูดที่แรงเกนิ ไป คาพดู ท่ีเกินความจรงิ ลว้ นฆา่ คนพดู ผโู้ งเ่ ขลาได้ทั้งสน้ิ ” คนสมัยน้ีพูดเก่งและพูดได้มาก แต่มีสักกี่คนที่พูดแบบสร้างสรรค์ ทาให้เกิดความสามัคคี ทาใหท้ ุกฝ่ายเกิดความสบายใจ แต่เราจะไปหา้ มเขาไม่ใหพ้ ูดก็ไมไ่ ด้ เขาจะพูดดี ไม่ดีอย่างไร พูด ก้าวร้าวเสียดสีใครเป็นสิทธิส่วนตัวของเขา เขาพูดเขาก็ต้องรับผิดชอบเอง สาคัญลูกอย่าไปพูด อย่างเขาก็แลว้ กัน คิดให้ดีก่อนพูดเสมอ ย่ิงพูดถึงบุคคลอื่นด้วยแล้วยิ่งต้องระวัง เพราะเราไม่รู้จัก เขาดีพอ ไม่รู้ถึงความรู้สึกนึกคิดของเขาดีเท่ากับตัวเขาหรอก เราจะไปคาดเอาเองว่าเขาเป็นอย่าง นั้นเป็นอย่างนี้แล้วไปพูดทาให้เขาเสียหาย ดูจะไม่ยุติธรรมนัก ดีท่ีสุดคือไม่พูดถึงคนอื่นโดยไม่รู้ ข้อเท็จจริงดีพอ แม้จะรู้จริงก็ไม่ควรพูด ถ้าจาเป็นต้องพูดก็ควรพูดอย่างมีสติ พูดด้วยความ ระมัดระวัง เพราะการพูดถึงคนอ่ืนนั้นเสี่ยงต่อการเป็นศัตรูกัน และจะเป็นบาปกรรมด้วย ระวังไว้ เป็นดีทีส่ ดุ (จากหนังสือคาพอ่ คาแม่ : พระธรรมกิตติวงศ์ ราชบัณฑิต หน้า ๙๔-๙๕) ยอ่ คาสอนเรื่อง คิดก่อนพดู ผู้แต่ง พระธรรมกิตติวงศ์ ราชบณั ฑิต จากหนงั สอื คาพ่อ คาแม่หนา้ ๙๔-๙๕ ความว่า คาเตือนเกี่ยวกับการพูด เพ่ือให้เราอยู่ร่วมกับผูอ้ ่ืนและทางานได้น้ัน ควรพูดให้เหมาะ กบั กาลเทศะ อย่างมีสตดิ ้วยความระมัดระวัง และพูดในสิง่ ท่ีมปี ระโยชน์ โดยเฉพาะการพูด แบบสร้างสรรคเ์ พื่อสรา้ งความสามัคคี เราควรคิดก่อนพูด ไม่พูดถึงผู้อ่ืนโดยไม่รู้ข้อเท็จจริง เพราะจะเป็นการสรา้ งศตั รูและเป็นบาปกรรม

หน่วยการเรียนรู้ที่ 8 เรือ่ ง อ่านอยา่ งมวี จิ ารณญาณ 899 ใบงานท่ี ๔ เร่ือง ยอ่ ความตามประสบการณ์เดมิ หน่วยการเรียนร้ทู ่ี ๘ เร่อื ง อา่ นอย่างมวี ิจารณญาณ แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ ๕ เรอื่ ง การเขียนยอ่ ความ รายวชิ า ภาษาไทย รหสั วชิ า ท๑๖๑๐๑ ภาคเรยี นที่ ๑ ชัน้ ประถมศึกษาปีท่ี ๖ คาช้แี จง อ่านเร่ือง “ครอบครวั ตัวอยา่ ง” แล้วเขียนยอ่ ความ ครอบครวั ตวั อย่าง ผลการคัดเลือกรับรางวัลครอบครัวตัวอย่างประจาอาเภอชะอาปีนี้ ได้แก่ ครอบครวั ของพลโทเด่น คลีบ่ าน ภรรยาชอ่ื ซ่อนกลน่ิ คล่บี าน ซ่งึ มีลกู ๓ คนเปน็ ชาย ๒ คน หญิง ๑ คน ภรรยาของพลโทเด่น คล่ีบาน เป็นพยาบาลแผนกฉุกเฉิน ท่ีมีความ ขยันใส่ใจดแู ลผ้ปู ่วยทกุ คนอย่างเต็มใจ หลังเลกิ งานคุณซอ่ นกลิ่นจะเป็นแม่บ้านแม่เรอื น ทีด่ ี ครอบครัวนี้มีความหวังอยากให้ลูกชายท้ังสองเป็นทหาร สว่ นลูกสาวคนเล็กอยาก ให้เป็นพยาบาลเหมือนแม่ พลโทเด่น คล่ีบาน ภมู ิใจในภรรยาและลูก ๆ มาก ใคร ๆ ก็ ชมวา่ เปน็ ครอบครัวตัวอย่าง จากหนงั สอื รายชอ่ื ผรู้ บั รางวลั ครอบครวั ตวั อยา่ ง ของจงั หวดั เพชรบรุ ี หนา้ ๒๘ .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................. ................................ .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ........................................................................................................................................................ ...................... .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ...................................................................................................................................................................... ........ .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ชือ่ .......................................................................................................ชน้ั .......................เลขที่...................

900 คูม่ อื ครแู ละแผนการจัดการเรยี นรู้ ระดับประถมศึกษา ภาคเรยี นที่ ๑ (ภาษาไทย ป.6) ใบงานท่ี ๔ เรื่อง ฝกึ ยอ่ ความ หน่วยการเรยี นรู้ท่ี ๘ เร่อื ง อ่านอยา่ งมีวิจารณญาณ แผนการจัดการเรยี นร้ทู ี่ ๕ เรอ่ื ง การเขียนย่อความ รายวชิ า ภาษาไทย รหัสวชิ า ท๑๖๑๐๑ ภาคเรียนท่ี ๑ ช้นั ประถมศึกษาปีที่ ๖ คาช้แี จง อา่ นขอ้ ความต่อไปน้แี ล้วเขยี นย่อความตามรปู แบบ วิง่ เปยี้ ว ว่ิงเป้ียวเป็นการละเล่นพื้นบ้านของเด็กไทยอย่างหน่ึงท่ีเด็ก ๆ นิยมเล่นกันมา ยาวนาน เป็นการละเล่นท่ีต้องใช้กาลังความแข็งแรงของร่างกายในการวิ่งให้เร็วที่สุด วิธีเล่นง่ายและไม่ต้องมีอุปกรณ์อะไรมีเพียงผ้าผืนเล็ก ๆ ๒ ผืนเท่าน้ัน มีวิธีการเล่น ดงั น้ี จานวนผู้เลน่ ไม่จากัด โดยแบ่งผ้เู ล่นออกเป็น ๒ ฝ่าย ฝ่ายละเทา่ ๆ กันอาจมผี เู้ ล่น ประมาณ ๕-๑๐ คน ไมค่ วรมากหรือน้อยไปกว่าน้ี เพราะจะทาใหไ้ ม่สนกุ เท่าท่คี วร โดย เตรยี มกรวยหรือปักหลัก ๒ ข้างหรือใช้คนนั่งเป็นหลัก ข้างละหลักระยะหา่ งประมาณ ๘-๑๐ เมตร มีกรรมการตดั สิน ๑ คน เร่ิมต้นพร้อมกันทัง้ สองข้างยืนตอ่ แถวกันที่กรวย หรอื หลกั ของฝา่ ยตนเอง ตอ้ งวิง่ อ้อมหลักใหท้ นั กนั ใหค้ นแรกมือถอื ผ้าคนละผนื เมอื่ ถึง ฝา่ ยของตนก็ส่งผ้าให้คนต่อไป เป็นเช่นน้ีจนว่ิงทันกัน ฝา่ ยไล่ทันต้องใชผ้ ้าท่ีถืออยู่ตีอีก ฝา่ ยหนงึ่ ถอื ว่าฝา่ ยน้ันชนะ ข้อหา้ มในระหวา่ งเลน่ คือ ห้ามทาผา้ ตกพนื้ หากทาตกต้อง วิ่งกลับไปเก็บผ้าแล้วจึงวง่ิ ต่อไป ห้าว่ิงขวางฝ่ายตรงข้าม ห้ามจงใจเตะกรวยหรือหลัก ของฝ่ายตรงข้าม ทีม่ า ศิลปะชาวบ้าน ของ วบิ ลู ย์ ลสี้ ุวรรณ : ....................................................................................................................................................ห...น..า้....๔...๓.............. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ................................................................................................................ .............................................................. ชอ่ื .......................................................................................................ชั้น.......................เลขท่ี...................

หนว่ ยการเรยี นร้ทู ี่ 8 เรอื่ ง อา่ นอยา่ งมีวจิ ารณญาณ 901 แนวคาตอบ ใบงานที่ ๔ เรอ่ื ง ฝกึ ย่อความ หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี ๘ เร่ือง อ่านอยา่ งมีวจิ ารณญาณ แผนการจัดการเรียนร้ทู ่ี ๕ เรอื่ ง การเขียนยอ่ ความ รายวชิ า ภาษาไทย รหัสวิชา ท๑๖๑๐๑ ภาคเรียนที่ ๑ ช้ันประถมศึกษาปีที่ ๖ คาชแี้ จง อา่ นข้อความตอ่ ไปนแ้ี ล้วเขียนยอ่ ความตามรูปแบบ ย่อบทความเรื่อง ว่ิงเป้ียว ผู้แต่ง วิบูลย์ ลี้สุวรรณ จากหนังสอื ศิลปะชาวบ้าน หน้า ๙๔- ๙๕ ความวา่ ว่ิงเปี้ยวการละเล่นพื้นบ้านของเด็กไทย ผู้เล่นใช้กาลังความแข็งแรงในการวิ่งให้เร็วที่สุด วิธเี ล่นงา่ ย มีอุปกรณ์ผ้าผืนเล็ก ๆ ๒ ผนื ไมจ่ ากัดจานวนผู้เล่น แบ่งผู้เล่นเป็น ๒ ฝา่ ยเท่ากัน และมี กรรมการตัดสิน ๑ คน คนแรกของแต่ละฝ่ายถือผา้ คนละผืน วิ่งส่งผ้าให้คนต่อไป เป็นเช่นน้ีจนว่ิง ทนั กนั ฝ่ายไล่ทันใช้ผา้ ท่ีถอื อยู่ตอี ีกฝา่ ยหน่งึ ถือว่าฝา่ ยนน้ั ชนะ


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook