การประเมิน ปรบั ปรุง ระดบั คณุ ภาพ แสดงคณุ ภาพตาม ดี พอใช้ รายการท่ี กาํ หนด 1-3 พดู นาํ เสนอบท รายการ ณภาพต่อไปนี้ วนาํ ทกั ทาย และ สงคข์ องการพดู นตามลาํ ดบั รียมไวใ้ หต้ ่อเน่อื ง ความสาํ คญั ขอ้ คิดจากบท ามสาระสาํ คญั ท่ี ารนาํ เสนอ ยงชดั เจน มี การพดู ในการพดู และกลา่ วลาเม่อื
โครงสร้างการออกแบบแผนการจัดการเรยี นรู้เพอ่ื พัฒนาสมรรถนะ โดยใชม้ าตรฐานการเรยี นรู้และตวั ชีว้ ดั จากหลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษาขัน้ พืน้ ฐาน พทุ ธศักราช 2551 รายวิชา ภาษาไทย รหสั วิชา ท 14101 ช่อื หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 ผักสมุนไพรใบหญา้ มคี ณุ คา่ ทงั้ นั้น เวลาเรียน 10 ช่ัวโมง ระดบั ชัน้ ประถมศึกษาปี ท่ี 4 สาระการเรียนรู้ ภาษาไทย 1. มาตรฐานการเรยี นรู้/ตัวชีว้ ดั มาตรฐาน ท 1.1 ใชก้ ระบวนการอ่านสรา้ งความรูแ้ ละความคิดเพ่อื นาํ ไปใชต้ ดั สินใจ แกป้ ัญหาในการ ดาํ เนิน ชีวิตและมนี ิสยั รกั การอ่าน ท 1.1 ป.4/1 อา่ นออกเสียงบทรอ้ ยแกว้ และบทรอ้ ยกรองไดถ้ กู ตอ้ ง ท 1.1 ป.4/3 อ่านเร่ืองสนั้ ๆตามเวลาท่ีกาํ หนดและตอบคาํ ถามจากเร่ือง ท 1.1 ป.4/6 สรุปความรูแ้ ละขอ้ คิดจากเร่ืองท่อี ่านเพ่ือนาํ ไปใชใ้ นชีวิตประจาํ วนั มาตรฐาน ท 2.1 ใชก้ ระบวนการเขียนเขียนสือ่ สาร เขียนเรยี งความ ยอ่ ความ และเขยี นเรอ่ื งราวในรูปแบบ ต่าง ๆ เขียนรายงานขอ้ มลู สารสนเทศและรายงานการศกึ ษาคน้ ควา้ อย่างมปี ระสิทธิภาพ ท 2.1 ป.4/6 เขียนบนั ทกึ และเขียนรายงานจากการศกึ ษาคน้ ควา้ มาตรฐาน ท 3.1 สามารถเลือกฟังและดอู ย่างมีวิจารณญาณ และพดู แสดงความรู้ ความคดิ และความรูส้ ึกใน โอกาส ตา่ ง ๆ อย่างมวี จิ ารณญาณและสรา้ งสรรค์ ท 3.1 ป.4/3 พดู แสดงความรู้ ความคิดเห็นและความรูส้ ึกเก่ียวกบั เรื่องท่ีฟังและดู ท 3.1 ป.4/5 รายงานเรื่องหรอื ประเด็นท่ีศกึ ษาคน้ ควา้ จากการฟัง การดู และการสนทนา ท 3.1 ป.4/6 มีมารยาทในการฟัง การดู และการพดู มาตรฐาน ท 4.1 เขา้ ใจธรรมชาติของภาษาและหลกั ภาษาไทย การเปลี่ยนแปลงของภาษาและพลงั ของ ภาษา ภมู ปิ ัญญาทางภาษา และรกั ษาภาษาไทยไวเ้ ป็นสมบตั ิของชาติ ท 4.1 ป.4/1 สะกดคาํ และบอกความหมายของคาํ ในบรบิ ทต่างๆ 2. สมรรถนะหลกั สมรรถนะท่ี 2 สมรรถนะการคดิ ขนั้ สงู องคป์ ระกอบท่ี 1 การคิดอย่างมีวิจารณญาณ Critical Thinking แผนการจดั การเรยี นรู้ วชิ าภาษาไทย ประถมศกึ ษาปีท่ี 4 132
พฤติกรรมตวั บ่งชี้ (ระดบั 4) : สรุปความเขา้ ใจของตนและแสดงความคิดเห็นอย่างมีเหตผุ ล เกี่ยวกบั เรื่องนัน้ จากการตัง้ คาํ ถาม การฟัง/อ่านขอ้ มูล เร่ืองราว วิเคราะหเ์ พ่ือประเมินความ เหมาะสมของ ขอ้ มลู ในการลงขอ้ สรุปไดอ้ ย่างถูกตอ้ ง และ/หรือตัดสินใจเลือกทางใดทางหน่ึง โดย ระบหุ ลกั ฐาน สนบั สนุน ความคิดไดอ้ ย่างนอ้ ยหน่ึง แหล่งขอ้ มลู อธิบายเหตผุ ลของการตดั สินใจในเร่ืองต่างๆ ในชีวิตประจาํ วนั ของตน และบอกไดว้ ่าการตดั สินใจของตนมีความเหมาะสม โดยระบหุ ลกั ฐานสนบั สนนุ ความคิดได้ 3. สมรรถนะประจาํ หน่วย อ่านบทอ่านตามความสนใจจากสื่อต่าง ๆ สรุปความเขา้ ใจของตนและแสดงความคิดเห็นอย่างมี เหตุผลเกี่ยวกับเรื่องนั้นจากการตั้งคาํ ถาม การฟัง/อ่านข้อมูล เร่ืองราว วิเคราะห์เพ่ือประเมินความ เหมาะสมของข้อมูลในการลงขอ้ สรุปได้อย่างถูกตอ้ งและ/หรือ ตัดสินใจเลือกทางใดทางหนึ่งโดยระบุ หลกั ฐานสนบั สนนุ ความคดิ ไดอ้ ย่างนอ้ ยหน่งึ แหลง่ ขอ้ มลู และนาํ เสนอเร่อื งท่อี า่ นไดอ้ ยา่ งสรา้ งสรรค์ สมรรถนะเฉพาะ : สมรรถนะหลกั : การคิดขั้นสูง องคป์ ระกอบที่ 1 การคดิ อย่างมวี ิจารณญาณ Critical 1. การฟัง การดู และการพดู เพ่อื Thinking พฒั นาการคิด 1.2 ฟังและ/หรอื ดสู ื่อตา่ ง ๆ อยา่ ง ระดบั 4 (ระดบั ความสามารถ ป.4-6 : เริม่ ตน้ ) ตงั้ ใจแลว้ พดู เลา่ เร่ือง พดู นาํ เสนอ พฤติกรรมบง่ ชี้ (ระดับ 4) : สรุปความเขา้ ใจของตนและ รายละเอยี ด สาระสาํ คญั และ ขอ้ คิด รวมทงั้ แสดงความคิดเหน็ แสดงความคิดเห็นอย่างมีเหตุผลเกี่ยวกับเรื่องนั้นจากการตั้ง และความรูส้ กึ อย่างสรา้ งสรรค์ คาํ ถาม การฟัง/อ่านขอ้ มูล เร่ืองราว วิเคราะหเ์ พ่ือประเมินความ เหมาะสมของข้อมูลในการลงขอ้ สรุปได้อย่างถูกต้องและ/หรือ ตดั สินใจเลือกทางใดทางหน่ึง โดยระบหุ ลกั ฐานสนบั สนนุ ความคิด ไดอ้ ย่างน้อยหนึ่งแหล่งขอ้ มูล อธิบายเหตุผลของการตัดสินใจใน เรื่องต่างๆในชีวิตประจาํ วนั ของตน และบอกไดว้ ่าการตดั สินใจของ ตนมคี วามเหมาะสมโดยระบหุ ลกั ฐานสนบั สนนุ ความคิดได้ 4. เนือ้ หาสาระ - มาตรา ก กา - มาตราตวั สะกดตรงมาตรา - มาตราตวั สะกดไม่ตรงมาตรา - คาํ ท่ีประวิสรรชนยี แ์ ละคาํ ท่ีไม่ประวิสรรชนยี ์ - คาํ ท่ีใชไ้ มย้ มก แผนการจดั การเรียนรู้ วชิ าภาษาไทย ประถมศกึ ษาปีท่ี 4 133
- การอ่านจบั ใจความ - การเขียนบนั ทกึ จากการอา่ น - หลกั การพดู รายงาน - การพดู นาํ เสนอสาระและขอ้ คิด 5. สมรรถนะย่อย/งาน 1. อา่ นบทอ่านตามความสนใจจากสือ่ ต่าง ๆ แลว้ ตงั้ คาํ ถามจากการฟัง/อา่ นขอ้ มลู เรื่องราว 2. สรุปความเขา้ ใจของตนและแสดงความคิดเห็นอยา่ งมีเหตผุ ลเกี่ยวกบั เร่ืองนนั้ เพ่อื ประเมินความ เหมาะสมของขอ้ มลู โดยระบหุ ลกั ฐานสนับสนนุ ความคิดไดอ้ ย่างนอ้ ยหนึ่งแหลง่ ขอ้ มลู เพ่ือนาํ เสนอเร่ืองท่ี อา่ นอย่างสรา้ งสรรค์ แผนการจดั การเรยี นรู้ วิชาภาษาไทย ประถมศกึ ษาปีท่ี 4 134
แผนการจดั การเรยี นรู้ วชิ าภาษาไทย ประถมศกึ ษาปีท่ี 4 6. โครงสร้างหน่วยการเรียนรู้ สมรรถนะยอ่ ยที่ 1 อ่านบทอา่ นตามความสนใจจากสือ่ ตา่ ง ๆ แล้วตง้ั คาํ ถา แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 1 เร่อื ง มาตราตัวสะกด...ตัวกาํ หนดการออกเสยี 1. มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชีว้ ัด มาตรฐาน ท 1.1 ใชก้ ระบวนการอ่านสรา้ งความรูแ้ ละความคิดเพ่ือนาํ ไปใชต้ ดั ส ท 1.1 ป.4/1 อา่ นออกเสยี งบทรอ้ ยแกว้ บทรอ้ ยกรองไดถ้ กู ตอ้ ง มาตรฐาน ท 4.1 เขา้ ใจธรรมชาติของภาษาและหลกั ภาษาไทย การเปล่ียนแปลงข ไวเ้ ป็นสมบตั ขิ องชาติ ท 4.1 ป.4/1 สะกดคาํ และบอกความหมายของคาํ ในบริบทต่าง 2. จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ 2.1 เห็นประโยชนข์ องการอ่านออกเสยี งท่ถี ูกตอ้ งตามหลกั การอ่าน (A 2.2 อธิบายลกั ษณะและระบคุ าํ ในมาตราต่างๆท่ีเป็นพืน้ ฐานของการอา่ 2.3 อา่ นบทอา่ นท่ีมีคาํ ในมาตราตา่ งๆไดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ ง คลอ่ งแคลว่ (S) 3.กจิ กรรมการเรียนรู้ 3.1 ข้นั เตรียมความพร้อมและต้ังข้อสังเกตในการเรียนรู้ 1) นกั เรียนแบง่ นกั เรยี นออกเป็น 2 ทมี รว่ มกจิ กรรม “ถอดรหสั ...ประ กิจกรรม ถอดรหสั ...ประโยคปรศิ นา 135
ามจากการฟัง/อา่ นขอ้ มลู เรื่องราว เวลา 3ช่ัวโมง ยง 1 เวลา 1 ช่วั โมง สนิ ใจ แกป้ ัญหาในการดาํ เนนิ ชีวติ และมีนสิ ยั รกั การอ่าน ของภาษาและพลงั ของภาษา ภมู ิปัญญาทางภาษา และรกั ษาภาษาไทย งๆ A) านไดถ้ กู ตอ้ ง (K) ะโยคปรศิ นา”
แผนการจดั การเรยี นรู้ วชิ าภาษาไทย ประถมศกึ ษาปีท่ี 4 จดุ ประสงค์ เพ่อื ฝึกทกั ษะการคาดเคนาํ คาํ จากขอ้ มลู ท่ีให้ อปุ กรณ์ แถบประโยค จาํ นวน 10 แผ่น วธิ ีการ - ตวั แทนนกั เรียนกลมุ่ ท่ี 1 เลอื กแถบประโยค 1 แผ่น พรอ้ มทงั้ แ - นกั เรียนรว่ มกนั ทาํ นายขอ้ ความในประโยควา่ คืออะไร ถา้ ถอ (ซ่งึ แตล่ ะแผน่ ปา้ ยจะมที งั้ คะแนนบวกและคะแนนลบ) ถา้ ตอบผ แถบประโยคท่ี 1 บานเมองนาอย แถบประโยคท่ี 2 ไปอานหนงสอในหองสมดกนดกวา แถบประโยคท่ี 3 พรงนเปนวนเกดของฉน แถบประโยคท่ี 4 นกเรยนในหองนมทงหมดสามสบสคน แถบประโยคท่ี 5 ฉนไปเทยวนาตกกบพอแม แถบประโยคท่ี 6 ผเสอหลายตวบนตอมดอกไมสสวย แถบประโยคท่ี 7 วนทสบสองสงหาคมของทกปเปนวนแมแหงชาต แถบประโยคท่ี 8 ฉนจะสอบเขาเรยนตอในโรงเรยนทมชอเสยง แถบประโยคท่ี 9 โตะเกาอในหองเรยนดเปนระเบยบเรยบรอย แถบประโยคท่ี 10 มเดกนงตากลมอยรมชายหาด 136
แสดงใหเ้ พ่อื นดู อดรหสั ประโยคถกู ตอ้ ง จะไดเ้ ป็นฝ่ายเลือกแผน่ ปา้ ยคะแนนโบนสั ผิดอีกฝ่ายจะมีสทิ ธิ์เลน่ ขอ้ ต่อไปทนั ที สะสมคะแนนในแต่ละขอ้ จนกว่าจะไดผ้ ชู้ นะ (บา้ นเมอื งนา่ อยู่ ) (ไปอา่ นหนงั สอื ในหอ้ งสมดุ กนั ดกี วา่ ) (พรุ่งนเี้ ป็นวนั เกดิ ของฉนั ) (นกั เรยี นในหอ้ งนมี้ ที งั้ หมดสามสบิ สคี่ น) (ฉนั ไปเทยี่ วนา้ํ ตกกบั พอ่ แม่) (ผเี สอื้ หลายตวั บนิ ตอมดอกไมส้ สี วย) (วนั ทสี่ บิ สองสงิ หาคมของทกุ ปีเป็นวนั แม่แหง่ ชาต)ิ (ฉนั จะสอบเขา้ เรยี นต่อในโรงเรยี นทมี่ ชี อื่ เสยี ง) (โตะ๊ เกา้ อใี้ นหอ้ งเรียนดเู ป็นระเบียบเรียบรอ้ ย) (มีเดก็ ตากลมนง่ั ตากลงอย่รู มิ ชายหาด)
แผนการจดั การเรยี นรู้ วชิ าภาษาไทย ประถมศกึ ษาปีท่ี 4 2) ครูและนกั เรยี นสนทนากนั ในประเด็นเก่ียวกบั การคาดเดาความหมายข 3.2 ขน้ั จดั กระบวนการเรียนรู้ 1) นกั เรยี นรบั ชม Clip ตวั อยา่ งการอ่านออกเสียงท่ีดี https://www.youtub และรว่ มกนั แสดงความคดิ เห็นรว่ มกนั ระหว่างนกั เรียนและครูถงึ การอ่านออกเส • นกั เรียนมีความคิดเห็นอย่างไรกบั Clip ท่ีไดร้ บั ชม • นกั เรียนคิดว่า Clip ท่ีไดร้ บั ชมเป็นการอา่ นท่ีถกู ตอ้ งแลว้ หรือยงั เพ • นกั เรยี นชว่ ยกนั วเิ คราะหจ์ ดุ เด่นท่ีนกั เรียนพบเห็นใน Clip ตวั อยา่ ง 2) นกั เรียนแบ่งกลมุ่ ออกเป็น 4 กลมุ่ แต่ละกลมุ่ รบั บทอ่านท่ีคณุ ครูแจกให้ แ 3) เม่ือนกั เรยี นคน้ หาคาํ ยากแลว้ ใหเ้ ขยี นใสบ่ ตั รคาํ เปลา่ ท่คี รูแจกให้ ออกม นกั เรียนอ่านไม่ไดค้ รูสามารถใหค้ วามช่วยเหลอื ได)้ 4) หลงั จากท่ีเสนอคาํ ยากครบทกุ กลมุ่ แลว้ ใหภ้ ายในกลมุ่ ชว่ ยกนั นาํ คาํ ยา เสยี งใหถ้ กู ตอ้ ง 5) ภายในกลมุ่ อ่านออกเสียงขอ้ ความท่กี าํ หนดใหใ้ หถ้ กู ตอ้ งตามหลกั การอ - ประเด็นท่ี 1 การใชน้ าํ้ เสียงในการอ่าน - ประเดน็ ท่ี 2 การอ่านออกเสยี งคาํ การออกเสียง คาํ ควบกลาํ้ คาํ ท่มี ี ร - ประเด็นท่ี 3 การแบง่ วรรคตอนในการอ่าน - ประเดน็ ท่ี 4 ความคลอ่ งแคลว่ ในการอ่านบทอ่าน 6) นกั เรยี นแตล่ ะกลมุ่ อา่ นบทอา่ นหนา้ ชนั้ เรียน โดยกลมุ่ ท่ไี มไ่ ดอ้ อกมานนั้ หลงั จากแตล่ ะกลมุ่ อา่ นจบ ตวั แทนแต่ละกลมุ่ จะยกแผน่ ป้ายคะแนนเพ่อื ใหค้ ะแนนก 137
ของคาํ จากมาตราตวั สะกดชว่ ยใหน้ กั เรยี นสามารถอ่านคาํ ไดค้ ลอ่ งแคลว่ ขึน้ หรอื ไม่ be.com/watch?v=zq0SINm71yA&ab_channel=WItchakornSaengpet-on สยี งใน Clip ท่ีไดร้ บั ฟังไป ในประเด็นต่อไปนี้ พราะเหตใุ ด ง และใหภ้ ายในกลมุ่ ช่วยกนั หาคาํ ยากจากบทอ่านท่ีกาํ หนด และขีดเสน้ ใตค้ าํ ยากนนั้ มานาํ เสนอคาํ ยากหนา้ ชนั้ เรยี นและใหเ้ พ่ือนๆอ่านออกเสยี งคาํ ยากตาม (ถา้ คาํ ไหน ากมาช่วยกนั วเิ คราะหว์ ่าแตล่ ะคาํ อยใู่ นมาตราตวั สะกดใดบา้ ง และฝึกอา่ นออก อ่านท่ถี กู วิธี ร เป็นพยญั ชนะตน้ นมีหนา้ ท่ีประเมนิ ความสามารถดา้ นการอา่ นของเพ่อื นกลมุ่ อ่นื ๆร่วมกบั ครู กบั กลมุ่ ท่อี า่ น พรอ้ มนาํ เสนอจุดเด่นและขอ้ เสนอแนะท่ีควรพฒั นาของแตล่ ะกลมุ่
แผนการจดั การเรยี นรู้ วชิ าภาษาไทย ประถมศกึ ษาปีท่ี 4 3.3 ขน้ั สรุปองคค์ วามรู้ นกั เรียนสรุปวิธีการอ่านออกเสียงท่ีถูกตอ้ ง จดุ เด่นและขอ้ เสนอแนะในภาพรวมข 3.4 ข้ันประยุกตใ์ ช้ นกั เรยี นนาํ เสนอแนวทางการนาํ วธิ ีการอ่านออกเสียงท่ถี กู ตอ้ งไปใชพ้ ฒั นาตนเอง 4. สอ่ื และแหลง่ เรียนรู้ 1. กจิ กรรมถอดรหสั ...ประโยคปรศิ นา 2. แผ่นป้ายคะแนน 3. Clip ตวั อยา่ งการอา่ นออกเสียงท่ีดี https://www.youtube.com/watch?v=zq 4. บทอ่าน 5. Mind Mapping : Coggle 5. การวัดและประเมนิ ผล 1. เหน็ ประโยชนข์ องการอ่านออกเสียงท่ถี ูกตอ้ งตามหลกั การอา่ น (A) 2. อธิบายลกั ษณะและระบคุ าํ ในมาตราตา่ งๆท่ีเป็นพืน้ ฐานของการอ่านไดถ้ 3. อ่านบทอ่านท่ีมีคาํ ในมาตราต่างๆไดอ้ ย่างถกู ตอ้ ง คลอ่ งแคลว่ (S) วิธวี ัด เครื่องมือวดั 1. สังเกตพฤติกรรมการมีส่วนร่วมในการ แบบสงั เกตพฤติกรรม มีสว่ น แสดงความคดิ เหน็ เกี่ยวกบั ประโยชนข์ องการ การแสดงความ อ่านออกเสียงท่ถี กู ตอ้ งตามหลกั การอา่ น (A) คดิ เห็น 138
ของหอ้ งเรยี นอกี ครง้ั ลงใน Mind Mapping : Coggle งในชีวิตประจาํ วนั คนละ 1 รายการ q0SINm71yA&ab_channel=WItchakornSaengpet-on ถูกตอ้ ง (K) เกณฑก์ ารประเมิน นรว่ มในการแสดงความคิดเห็นอย่างนอ้ ย 1 ขอ้
แผนการจดั การเรยี นรู้ วชิ าภาษาไทย ประถมศกึ ษาปีท่ี 4 วธิ วี ดั เครอ่ื งมือวัด ดี หม เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน 2.ตรวจผลงานการระบลุ กั ษณะและคาํ ใน พอใช มาตราต่าง ๆ ท่ีเป็นพืน้ ฐานของการอ่าน ปรับป 3.ประเมนิ ความสามารถในการอ่านท่มี ีคาํ ใน เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน มาตราต่าง ๆ ไดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ ง คลอ่ งแคลว่ ดี หม - ประ - ประ พยญั ช - ประ - ประ พอใช ปรับป 139
เกณฑก์ ารประเมิน มายถึง สามารถระบมุ าตราตวั สะกดของคาํ ยากไดถ้ ูกตอ้ ง คาํ 10-8 ช้ หมายถงึ สามารถระบมุ าตราตวั สะกดของคาํ ยากไดถ้ กู ตอ้ ง คาํ 7-5 ปรุง หมายถึง สามารถระบมุ าตราตวั สะกดของคาํ ยากไดถ้ กู ตอ้ ง ต่าํ กวา่ คาํ 4 มายถงึ ผลงานการนาํ เสนอผ่านทงั้ 4 เกณฑ์ เด็นท่ี 1 การใชน้ าํ้ เสยี งในการอ่าน เด็นท่ี การอ่านออกเสยี งคาํ 2การออกเสียง คาํ ควบกลาํ้ คาํ ท่ีมี ร เป็น ชนะตน้ ะเด็นท่ี 3 การแบง่ วรรคตอนในการอ่าน ะเด็นท่ี 4 ความคลอ่ งแคลว่ ในการอ่านบทอ่าน ช้ หมายถงึ ผลงานนาํ เสนอมขี อ้ บกพรอ่ ง 1 เกณฑ์ ปรุง หมายถึง ผลงานการนาํ เสนอมีขอ้ บกพร่องมากกวา่ 1 เกณฑ์
แผนการจดั การเรยี นรู้ วชิ าภาษาไทย ประถมศกึ ษาปีท่ี 4 สมรรถนะยอ่ ยท่ี 1 อ่านบทอา่ นตามความสนใจจากสื่อตา่ ง ๆ แล้วต้งั คาํ ถา แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 2 เรือ่ ง คาํ ทป่ี ระวสิ รรชนียแ์ ละคาํ ทไี่ ม่ประวสิ รรช 1. มาตรฐานการเรียนรู้/ตวั ชีว้ ดั มาตรฐาน ท 1.1 ใชก้ ระบวนการอ่านสรา้ งความรูแ้ ละความคิดเพ่ือนาํ ไปใชต้ ดั ส ท 1.1 ป.4/1 อ่านออกเสียงบทรอ้ ยแกว้ บทรอ้ ยกรองไดถ้ กู ตอ้ ง มาตรฐาน ท 4.1 เขา้ ใจธรรมชาติของภาษาและหลกั ภาษาไทย การเปล่ียนแปล สมบตั ขิ องชาติ ท 4.1 ป.4/1 สะกดคาํ และบอกความหมายของคาํ ในบรบิ ทตา่ ง ๆ 2. จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ 2.1 เหน็ ประโยชนข์ องการอ่านคาํ ท่ปี ระวสิ รรชนยี แ์ ละคาํ ท่ไี ม่ประวิสรรชนยี 2.2 อธิบายความแตกต่างของการอ่านคาํ ท่ีประวิสรรชนียแ์ ละคาํ ท่ีไมป่ ระวิส 2.3 อ่านบทอ่านท่ีมคี าํ ท่ปี ระวิสรรชนียแ์ ละคาํ ท่ีไม่ประวสิ รรชนยี ไ์ ดถ้ กู ตอ้ ง ค 3.กิจกรรมการเรียนรู้ 3.1 ขน้ั เตรียมความพร้อมและต้ังข้อสังเกตในการเรยี นรู้ 1) นกั เรยี นอ่านขอ้ ความจากปา้ ยต่าง ๆท่ีครูกาํ หนด และใหน้ กั เรยี นล 140
ามจากการฟัง/อ่านข้อมลู เรอ่ื งราว เวลา 3ช่ัวโมง ชนีย์ 2 เวลา 1 ช่ัวโมง สินใจ แกป้ ัญหาในการดาํ เนินชีวิต และมนี สิ ยั รกั การอ่าน ลงของภาษาและพลงั ของภาษา ภูมิปัญญาทางภาษา และรกั ษาภาษาไทยไวเ้ ป็น ย์ (A) สรรชนียเ์ พ่อื การสอ่ื สารท่ีคลอ่ งแคลว่ และถกู ตอ้ ง (K) คลอ่ งแคลว่ (S) ลองบอกสงิ่ ท่ีผดิ ปกตใิ นปา้ ยต่างๆ รวมถึงการแกไ้ ขใหถ้ กู ตอ้ ง
แผนการจดั การเรยี นรู้ วชิ าภาษาไทย ประถมศกึ ษาปีท่ี 4 กระเพราตดิ กะหรี่ป๊ับ ไส้เผ กรุณาถอดรองเท หอ้ งนีใ้ ช ลานเอนกปร ขอใหผ้ ู้วาย ภาระกิจของ 141
ดดนิ อร่อยเหาะ ผอื ก ไส้ถ่ัว ไสส้ ัปรด ทา้ กอ่ นเข้าหอ้ งนะคะ่ ช้จัดงานสมั นา ระสงคน์ ีก้ ว้างจงั เลย ยชนมไ์ ปสู่สุขคติ งทหารคือรับใช้ชาติ
แผนการจดั การเรยี นรู้ วชิ าภาษาไทย ประถมศกึ ษาปีท่ี 4 2) นักเรียนและครูร่วมกันสนทนาเก่ียวกับป้ายต่างๆท่ีเกิดความผิดพ แกป้ ัญหานีอ้ ยา่ งไร 3.2 ข้นั จดั กระบวนการเรียนรู้ 1) นกั เรยี นรอ้ งเพลง คาํ ประวสิ รรชนยี ์ ผา่ นทาง https://www.youtube 2) นกั เรยี นรว่ มกนั สรุปลกั ษณะของคาํ ประวสิ รรชนยี ์ 3) นกั เรยี นแบ่งกลมุ่ กลมุ่ ละ 4-5 คน พรอ้ มทงั้ รบั บทอ่าน เร่ือง สมนุ ไพ 142
พลาดในการสะกดคาํ ว่าส่งผลเสียอย่างไรบา้ ง และถา้ เป็นนักเรียนนักเรียนจะ e.com/watch?v=seJsvyVPLUI พรใบหญา้ มีคณุ คา่ ทงั้ นนั้ พรอ้ มทงั้ ปฏบิ ตั กิ จิ กรรม ดงั นี้
แผนการจดั การเรยี นรู้ วชิ าภาษาไทย ประถมศกึ ษาปีท่ี 4 - ขีดเสน้ ใตค้ าํ ท่ีประวสิ รรชนียใ์ หไ้ ดม้ ากท่สี ดุ ภายในเวลา 3 นาที - เม่ือไดย้ ินเสียงนกหวีด ใหน้ กั เรียนนบั คาํ ประวิสรรชนียท์ ่ีหาพบ กลมุ่ อ่นื ตรวจสอบความถกู ตอ้ งของคาํ - นกั เรียนประเมนิ ความยากง่ายในการอา่ นประวิสรรชนีย์ โดยรว่ ม (แนวคาํ ตอบ คาํ ประวสิ รรชนยี ท์ ่เี ป็นคาํ ควบกลาํ้ อ่าน ตอ้ งออกเสยี 4) นกั เรียนแตล่ ะกลมุ่ พิจารณาคาํ ท่ีกาํ หนดใหต้ ่อไปนี้ ประเดน็ ท่ี 1 คาํ ทงั้ 4 คาํ มีสง่ิ ใดท่เี หมอื นกนั (แนวคาํ ตอบ คาํ ท่ีออก ประเดน็ ท่ี 2 ถา้ ระบวุ า่ คาํ เหลา่ นีเ้ ป็น “คาํ ท่ไี ม่ประวิสรรชนยี ”์ จะอธ ประเดน็ ท่ี 3 คาํ “ประวสิ รรชนีย”์ กบั “คาํ ท่ไี มป่ ระวิสรรชนีย”์ เหมอื 5) นกั เรยี นแตล่ ะกลมุ่ พจิ ารณาคาํ ตอบตามประเดน็ ท่ีกาํ หนด พรอ้ มทงั้ ส 6) เม่ือไดย้ ินสัญญาณนกหวีด นกั เรียนติดผลการปฏิบตั ิงานท่ีกระดา ประกอบ 7) นกั เรียนแต่ละกลมุ่ รว่ มกนั สรุปลกั ษณะของคาํ ประวสิ รรชนีย์ 8) .นกั เรียนพิจารณาบทอ่าน เร่อื ง สมนุ ไพรใบหญา้ มคี ณุ คา่ ทงั้ นนั้ อกี - ขดี เสน้ ใตค้ าํ ท่ไี ม่ประวิสรรชนียใ์ หไ้ ดม้ ากท่สี ดุ ภายในเวลา 3 นาที 143
โดยกล่มุ ท่ีระบคุ าํ ประวิสรรชนยี ไ์ ดม้ ากท่ีสดุ ไดส้ ทิ ธิ์ในการนาํ เสนอคาํ โดยสมาชิก มกนั อ่านและแสดงความคิดเหน็ เกี่ยวกบั ความยากง่ายในการอ่านออกเสียง ยงคาํ ควบกลาํ้ ใหช้ ดั เจน จงึ เป็นประเดน็ ท่ผี อู้ ่านตอ้ งคอยระวงั เร่ืองการออกเสียง) กเสยี ง อะ เหมือนกนั ) ธิบายคาํ ท่ไี มป่ ระวิสรรชนียว์ า่ อยา่ งไร อนหรือแตกต่างกนั อย่างไร สรุปคาํ ตอบลงในกระดาษชารท์ ประกอบการนาํ เสนอ านดาํ พรอ้ มทงั้ ร่วมกนั สรุปคาํ ตอบท่ีเหมือน/แตกต่างกัน โดยแสดงความคิดเห็น กครง้ั พรอ้ มทงั้ ปฏบิ ตั ิกจิ กรรม ดงั นี้
แผนการจดั การเรยี นรู้ วชิ าภาษาไทย ประถมศกึ ษาปีท่ี 4 - เม่อื ไดย้ นิ เสียงนกหวีด ใหน้ กั เรียนนบั คาํ ท่ีไม่ประวิสรรชนียท์ ่หี าพบ โดย กลมุ่ อ่นื ตรวจสอบความถกู ตอ้ งของคาํ - นกั เรียนนาํ ความรูเ้ กี่ยวกบั การหลกั การอ่านคาํ ท่ไี ม่ประวสิ รรชนยี เ์ ป็นเ 9) นกั เรยี นปฏิบตั กิ จิ กรรม “รา้ นสะดวกซือ้ ” ช่อื กิจกรรม “รา้ นสะดวกซอื้ ” จดุ ประสงค์ เพ่อื ใหน้ กั เรียนรวบรวมคาํ ท่ีประวสิ รรชนยี ์ และ คาํ ท่ีไมป่ ระ อปุ กรณ์ / แหลง่ สบื คน้ หอ้ งคอมพวิ เตอร์ วธิ ีการ (1) ใหน้ กั เรียนแต่ละกลมุ่ ออกแบบรา้ นคา้ ของตนเองเป็น “รา้ นสะดว ประวิสรรชนยี ์ โดยใหอ้ อกแบบเป็นชนั้ วางสินคา้ ตามแนวคิดของนกั เรียน (2) เม่ือไดย้ นิ เสียงนกหวีด ใหส้ มาชกิ แต่ละกลมุ่ นาํ เสนอรา้ นสะดวกซ (3) นกั เรียนทุกคนไดร้ บั แต่งตงั้ ใหเ้ ป็นกรรมการหม่บู า้ น มีหนา้ ท่ีในก 1) มีจาํ นวนรายการสินคา้ มากกว่า 15 รายการ 2) มีการจดั วางสินคา้ จาํ แนกตามค สนิ คา้ หลากหลาย (4) รา้ นคา้ ท่ีไดร้ บั เลือก ไดร้ บั เสียงปรบมือ ทงั้ นีเ้ ปิดโอกาสใหน้ กั เรียน ประวิสรรชนียเ์ ป็นเกณฑใ์ นการเลอื กสนิ คา้ นนั้ มีขอ้ ดแี ละขอ้ เสยี อย่างไร 3.3 ข้นั สรุปองคค์ วามรู้ นกั เรยี นจบั ค่กู นั และเลือกขอ้ ความในบทอา่ น เรอื่ ง ผกั สมนุ ไพรใบหญา้ มีคณุ ความสามารถในการอ่าน โดยระบคุ าํ เปา้ หมาย แลว้ อ่านออกเสียงภายในเวลาท่กี าํ ห 144
ยกลมุ่ ท่ีระบคุ าํ ท่ีไม่ประวิสรรชนียไ์ ดม้ ากท่สี ดุ ไดส้ ิทธิ์ในการนาํ เสนอคาํ โดยสมาชิก เกณฑใ์ นการรว่ มกนั อ่านออกเสียง ะวสิ รรชนยี ์ ท่พี บในชีวิตจรงิ วกซือ้ ” ท่ีมจี ดุ ประสงคใ์ นการจาํ หน่วยสินคา้ ประเภทท่ีเป็นคาํ ประวสิ รรชนีย์ และ ไม่ ซือ้ ของกลมุ่ ตน้ โดยระบรุ ายการสนิ คา้ ท่ีจาํ หนา่ ย การคดั เลือกรา้ นสะดวกซือ้ ประจาํ หม่บู า้ น โดยใชเ้ กณฑใ์ นการพจิ ารณา 3 ขอ้ ไดแ้ ก่ คาํ ท่ีประวิสรรชนีย์ และ ไม่ประวิสรรชนียท์ ่ีถกู ตอ้ งทกุ รายการ และ 3) ประเภทของ นแสดงความคิดเหน็ เก่ียวกบั การนาํ รายการสินคา้ ท่ีมีคาํ ประวิสรรชนีย์ และคาํ ท่ีไม่ ณค่าทงั้ นนั้ ท่ีมคี าํ ประวสิ รรชนยี ์ และ คาํ ท่ีไม่ประวิสรรชนีย์ มานาํ เสนอ หนด
แผนการจดั การเรยี นรู้ วชิ าภาษาไทย ประถมศกึ ษาปีท่ี 4 3.4 ข้นั ประยกุ ตใ์ ช้ นกั เรียนนาํ เสนอคาํ ในชวี ิตประจาํ วนั ท่เี กี่ยวขอ้ งกบั คาํ ประวิสรรชนีย์ และ ค 4. สื่อและแหลง่ เรยี นรู้ 1. ปา้ ยขอ้ ความ 2. เพลง “คาํ ประวสิ รรชนยี ์ 3. บทอ่าน เรื่อง สมนุ ไพรใบหญา้ มีคณุ ค่าทงั้ นนั้ 4.กจิ กรรม “รา้ นสะดวกซอื้ ” 5. การวดั และประเมนิ ผล วธิ วี ัด เคร่ืองมอื วัด 1. สงั เกตพฤติกรรมการแสดงความคิดเห็น แบบสงั เกตพฤติกรรม มสี ว่ นรว่ มใ เกี่ยวกับ ประโยชนข์ องการอ่านคาํ ท่ีประ วสิ รรชนียแ์ ละคาํ ท่ีไม่ประวิสรรชนีย์ (A) 2. ตรวจผลงานการอธิบายความแตกต่าง เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ดี - นาํ เสนอ ของการอ่านคาํ ท่ีประวิสรรชนียแ์ ละคาํ ท่ี ท่ีไม่ปรากฎ ไมป่ ระวิสรรชนยี เ์ พ่ือการส่ือสารท่ี ประวสิ รรชน คลอ่ งแคลว่ และถกู ตอ้ ง (K) พอใช้ - อธิบ เพยี งรายกา ปรบั ปรุง - ไ 145
คาํ ท่ีไมป่ ระวิสรรชนยี ์ พรอ้ มทงั้ นาํ เสนอแก่สมาชิกในหอ้ ง ประเภทละ 1 คาํ เกณฑก์ ารประเมิน ในการทาํ กจิ กรรม อย่างนอ้ ย ขอ้ 1 อความแตกตา่ งในประเดน็ ของคาํ ท่ไี มป่ ระวิสรรชนยี ์ การออกเสยี ง สระ อะในคาํ ฎสระอะ แต่ เม่ืออ่านออกเสยี งจะออกเสยี งสระอะ โดยไมม่ ีตวั สะกด สาํ หรบั คาํ ท่ี นยี เ์ ป็นคาํ ท่ีประสมดว้ ยสระอะและไม่มีตวั สะกด พรอ้ มยกตวั อย่างประกอบ บายโดยแสดงลกั ษณะการอา่ นคาํ ท่ีประวสิ รรชนีย์ หรือ คาํ ท่ไี ม่ประวิสรรชนยี ์ ารเดยี ว ไมน่ าํ เสนอความแตกต่างของคาํ
แผนการจดั การเรยี นรู้ วชิ าภาษาไทย ประถมศกึ ษาปีท่ี 4 วธิ ีวัด เคร่ืองมือวัด 3. ประเมนิ ความสามารถในการอ่านท่มี ี เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ดี - นาํ เสนอ คาํ ท่ีประวิสรรชนียแ์ ละคาํ ท่ไี มป่ ระ ไดค้ ลอ่ งแค วิสรรชนยี ไ์ ดถ้ กู ตอ้ ง คลอ่ งแคลว่ (S) พอใช้ - อ่าน ปรบั ปรุง - อ 146
เกณฑก์ ารประเมิน อผลงานการอา่ นคาํ ท่ีประวิสรรชนีย์ และ คาํ ท่ีไมป่ ระวิสรรชนยี ใ์ นบทอา่ นท่ีเลอื ก คลว่ และ ถกู ตอ้ งทกุ คาํ นคาํ ประวิสรรชนียห์ รือ คาํ ท่ีไม่ประวิสรรชนียผ์ ิด 1 คาํ อา่ นคาํ ประวิสรรชนยี ห์ รอื คาํ ท่ไี มป่ ระวสิ รรชนียผ์ ิดมากกวา่ 1 คาํ
แผนการจดั การเรยี นรู้ วชิ าภาษาไทย ประถมศกึ ษาปีท่ี 4 สมรรถนะยอ่ ยท่ี 1 อ่านบทอ่านตามความสนใจจากสื่อตา่ ง ๆ แลว้ ต้งั คาํ ถา แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ 3 เร่อื ง คาํ ทใ่ี ช้ไมย้ มก 1. มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชีว้ ัด มาตรฐาน ท 1.1 ใชก้ ระบวนการอา่ นสรา้ งความรูแ้ ละความคิดเพ่อื นาํ ไปใชต้ ดั ส ท 1.1 ป.4/1 อ่านออกเสยี งบทรอ้ ยแกว้ บทรอ้ ยกรองไดถ้ ูกตอ้ ง มาตรฐาน ท 4.1 เขา้ ใจธรรมชาติของภาษาและหลกั ภาษาไทย การเปล่ียนแปลงข สมบตั ขิ องชาติ ท 4.1 ป.4/1 สะกดคาํ และบอกความหมายของคาํ ในบรบิ ทต่าง 2. จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ 2.1 เห็นประโยชนข์ องการอา่ นคาํ ท่ีมีไมย้ มกไดถ้ กู ตอ้ ง (A) 2.2 บอกหลกั การอ่านคาํ ท่ีใชไ้ มย้ มกในชีวติ ประจาํ วนั ได้ (K) 2.3 อา่ นบทอ่านท่ีมีคาํ ท่ีใชไ้ มย้ มกไดอ้ ย่างคลอ่ งแคลว่ (S) 3. กิจกรรมการเรียนรู้ 3.1 ขน้ั เตรยี มความพร้อมและต้ังขอ้ สงั เกตในการเรยี นรู้ 1) นกั เรียนอ่านขอ้ ความในแถบขอ้ ความท่ีกาํ หนด และใหน้ กั เ อย่างไร 147
ามจากการฟัง/อ่านข้อมลู เรอ่ื งราว เวลา 3ช่วั โมง เวลา 1 ช่ัวโมง สนิ ใจ แกป้ ัญหาในการดาํ เนินชีวติ และมีนสิ ยั รกั การอ่าน ของภาษาและพลงั ของภาษา ภมู ปิ ัญญาทางภาษา และรกั ษาภาษาไทยไวเ้ ป็น งๆ เรียนช่วยกนั สงั เกตการอ่านออกเสียงว่ามีความผิดปกติตรงส่วนใด และควรแกไ้ ข
แผนการจดั การเรยี นรู้ วชิ าภาษาไทย ประถมศกึ ษาปีท่ี 4 การบ้านขอ้ นีก้ ลว้ ย ไป มา เราก็เป็ นเพอื่ นกนั ได้ เดนิ เร็วเดยี๋ วไปไมท่ นั 2) นกั เรียนรว่ มกนั แสดงความคดิ เหน็ ถึงความสาํ คญั ในการใชไ้ ม 3.2 ขน้ั จดั กระบวนการเรียนรู้ 1) นกั เรยี นชมคลปิ วิดโี อเร่อื ง ไมย้ มก ผ่านทาง https://www.you 2) นกั เรยี นรว่ มกนั สรุปความรูเ้ กี่ยวกบั ไมย้ มก โดยใชก้ จิ กรรม “ ช่อื กิจกรรม “เพิ่มเติมเสรมิ ความรู”้ จดุ ประสงค์ เพ่อื ใหน้ กั เรยี นสรุปความรูเ้ กี่ยวกบั ไมย้ มก วธิ ีการ 1) ขออาสาสมคั รนกั เรยี นจาํ นวน 5 คน เขา้ แถวเป็นวงกลม 2) เร่มิ กิจกรรม โดยใหน้ กั เรียนคนท่ี 1 พดู ความรูเ้ ก่ียวกบั แลว้ พดู ขอ้ ความของตนเองต่อไป คนถดั ไปปฏิบตั ิกิจกรรมเช่นเดีย 3) เกมยตุ เิ ม่อื สมาชิกคนใดคนหนงึ่ พดู ทวนคาํ ไม่ถกู ตอ้ ง 148
มย้ มก และใชอ้ ย่างไรใหถ้ กู ตอ้ ง เพราะเหตใุ ดเราตอ้ งมีการใชไ้ มย้ มก utube.com/watch?v=1jKcNrIYrOA ในนาทที ่ี 0.01-3.38 “เพ่ิมเติมเสรมิ ความรู”้ ม บ ไมย้ มก จาํ นวน 1 ประเด็น ต่อจากนนั้ ใหน้ กั เรียนคนถดั ไปทวนคาํ พดู ของคนท่ี 1 ยวกนั
แผนการจดั การเรยี นรู้ วชิ าภาษาไทย ประถมศกึ ษาปีท่ี 4 4) ขออาสาสมคั รนกั เรียนกลมุ่ ใหม่ ปฏิบตั เิ ช่นเดียวกบั ขอ้ กนั ไดร้ บั ยกย่องเป็นกลมุ่ ผเู้ ช่ียวชาญเก่ียวกบั ไมย้ มก 3) นกั เรียนรบั บทอ่านเรื่อง ผกั สมนุ ไพรใบหญา้ มีคณุ คา่ ทงั้ นนั้ แล 4) เม่ือไดย้ ินสญั ญาณนกหวีด นักเรียนท่ีสามารถขีดเสน้ ใตป้ ระ ความถกู ตอ้ ง พรอ้ มทงั้ เปิดโอกาสใหเ้ พ่อื นคนอ่นื นาํ เสนอประโ 5) นกั เรียนแบ่งกลมุ่ 3 กลมุ่ ทาํ กิจกรรมตามหวั ขอ้ ดงั นี้ โดยเขียน กลมุ่ ท่ี 1 คน้ หาคาํ ท่ใี ชไ้ มย้ มก (ๆ) อ่านซาํ้ คาํ เชน่ ค่อย ๆ กลมุ่ ท่ี 2 คน้ หาคาํ ท่ีใชไ้ มย้ มก (ๆ) อ่านซา้ํ กลมุ่ คาํ เช่น ย่อ กลมุ่ ท่ี 3 คน้ หาคาํ ท่ใี ชไ้ มย้ มก (ๆ) อา่ นซาํ้ ประโยค เช่น รถ แตล่ ะกลมุ่ นาํ เสนอตามหวั ขอ้ ท่ไี ดร้ บั มอบหมาย นาํ อ่านคาํ ใหเ้ พ่อื นอา่ นตาม 6) นกั เรียนแบ่งกล่มุ เป็น 4 กล่มุ รบั บทอ่านจากครูกล่มุ ละ 1 เรื่อง เพ่อื นๆฟังหนา้ ชนั้ เรียน เพ่ือนคอยสงั เกตและใหค้ ะแนนการอ่าน ถา้ ตรงไหนท่ีเพ่ือนอ่านคาํ ท่ีใชไ้ มย้ สรุปคะแนนความสามารถในการอ่านพรอ้ มกนั โดยถา้ กลมุ่ ใดไดธ้ งขาวจะถกู ตดั ตาํ 3.3 ขน้ั สรุปองคค์ วามรู้ นกั เรยี นจบั ค่กู นั และเลอื กขอ้ ความในบทอา่ น เรื่อง ผกั สมนุ ไพรใบหญา้ มีคณุ แลว้ อ่านออกเสยี งภายในเวลาท่ีกาํ หนด 3.4 ขน้ั ประยุกตใ์ ช้ นกั เรียนนาํ เสนอคาํ ในชีวิตประจาํ วนั ท่เี กี่ยวขอ้ งกบั ไมย้ มก พรอ้ มทงั้ นาํ เสนอ 149
อ 2)-3) ถา้ นกั เรยี นสามารถพดู ทวนคาํ สมาชิกไดท้ ุกคน และ ความรูท้ ่ีนาํ เสนอไม่ซา้ํ ลว้ ขีดเสน้ ใตป้ ระโยคท่ีมไี มย้ มกในบทอา่ น ภายในเวลา 3 นาที ะโยคท่ีมีไมย้ มกไดม้ ากท่ีสุด ไดส้ ิทธิ์ในการนาํ เสนอ โดยสมาชิกคนอ่ืนตรวจสอบ โยคท่แี ตกต่างจากผนู้ าํ เสนอ นลงในกระดาษชารท์ ต่าง ๆ อหนา้ หนงึ่ ๆ ถมาแลว้ ๆ ครูสงั เกตการณอ์ ่านออกเสยี งและใหข้ อ้ เสนอเพิ่มเตมิ ง ฝึกอ่านกนั ภายในกลมุ่ กล่มุ ละ 10 นาที หลงั จากนนั้ ใหแ้ ต่ละกล่มุ ออกมาอ่านให้ ยมกผิด ใหย้ กธงขาวขึน้ เพ่ือเป็นการแสดงว่า คณุ อ่านผิด และเม่ืออ่านจบแลว้ มา าแหน่งละ 1 คะแนน ณค่าทงั้ นนั้ ท่มี ีไมย้ มก มานาํ เสนอความสามารถในการอ่าน โดยระบคุ าํ เปา้ หมาย อแกส่ มาชิกในหอ้ ง ประเภทละ 1 คาํ
แผนการจดั การเรยี นรู้ วชิ าภาษาไทย ประถมศกึ ษาปีท่ี 4 4. สอ่ื และแหล่งเรียนรู้ 1. แถมขอ้ ความ 2. คลปิ วดิ ีโอเร่ือง ไมย้ มก ผ่านทาง https://www.youtube.com/watch?v= 3. กจิ กรรม “เพ่มิ เตมิ เสรมิ ความรู”้ 4. บทอ่านเรื่อง ผกั สมนุ ไพรใบหญา้ มีคณุ คา่ ทงั้ นนั้ 5. การวดั และประเมินผล 1. เหน็ ไดถ้ กู ตอ้ ง (A) 2. ได้ (K) 3. อา่ นบทอ่านท่ีมคี าํ ท่ีใชไ้ มย้ มกไดอ้ ย่างคลอ่ งแคลว่ (S) วิธวี ัด เคร่อื งมือวดั 1.สงั เกตพฤตกิ รรมการแสดงความคดิ เห็น แบบสงั เกต มสี ว่ นรว่ เกี่ยวกบั ประโยชนข์ องการอา่ นคาํ ท่ีมไี มย้ มก (A) พฤติกรรม 2.ตรวจผลงานการบอกหลักการอ่านคาํ ท่ีใช้ไม้ เกณฑก์ ารให้ ดี - ผลงา ยมกในชีวิตประจาํ วนั (K) คะแนน 1) ค 2) ค 3) ค พอใช้ - ผ ปรบั ปรุง 3.ประเมินความสามารถในการอ่านบทอ่านท่ีมี เกณฑก์ ารให้ ดี - นาํ เส คาํ ท่ใี ชไ้ มย้ มก (S) คะแนน พอใช้ - อ (ใชก้ จิ กรรมในขนั้ สรุปบทเรียน) ปรบั ปรุง 150
=1jKcNrIYrOA ในน เกณฑก์ ารประเมิน วมในการแสดงความคดิ เห็น อยา่ งนอ้ ย ขอ้ 1 านท่นี าํ เสนอแสดงประเด็นสาํ คญั ต่อไปนี้ ทกุ รายการ คน้ หาคาํ ท่ีใชไ้ มย้ มก (ๆ) อ่านซา้ํ คาํ เชน่ ค่อย ๆ ตา่ ง ๆ คน้ หาคาํ ท่ีใชไ้ มย้ มก (ๆ) อ่านซาํ้ กลมุ่ คาํ เช่น ยอ่ หนา้ หนง่ึ ๆ คน้ หาคาํ ท่ใี ชไ้ มย้ มก (ๆ) อา่ นซาํ้ ประโยค เชน่ รถมาแลว้ ๆ ผลงานแสดงคณุ ภาพตามรายการท่ีกาํ หนด 2 รายการ ง - ผลงานแสดงคณุ ภาพตามรายการท่ีกาํ หนด 1 รายการ สนอผลงานการอา่ นคาํ ไมย้ มกในบทอ่านท่เี ลือกไดค้ ลอ่ งแคลว่ และ ถูกตอ้ งทุกคาํ อา่ นคาํ ไมย้ มกผิด 1 คาํ ง - อา่ นคาํ ไมย้ มกผิดมากกว่า 1 คาํ
แผนการจดั การเรยี นรู้ วชิ าภาษาไทย ประถมศกึ ษาปีท่ี 4 สมรรถนะย่อยท่ี 2 สรุปความเข้าใจของตนและแสดงความคิดเห็นอย่าง ขอ้ มูลโดยระบุหลกั ฐานสนับสนุนความคิดได้อยา่ งน้อยหน่ึงแหล่งขอ้ มลู เพ แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 4 เรอื่ ง การอา่ นจับใจความ 1. มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชีว้ ดั มาตรฐาน ท 1.1 ใชก้ ระบวนการอา่ นสรา้ งความรูแ้ ละความคิดเพ่อื นาํ ไปใชต้ ดั ส ท 1.1 ป.4/3 อา่ นเร่อื งสน้ั ๆตามเวลาท่ีกาํ หนดและตอบคาํ ถามจา ท 1.1 ป.4/6 สรุปความรูแ้ ละขอ้ คดิ จากเรือ่ งท่ีอ่านเพ่อื นาํ ไปใชใ้ น 2. จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ (A K S ) 2.1 เหน็ ความสาํ คญั ในการสรุปความรูแ้ ละขอ้ คิดจากเร่ืองท่อี ่านได้ (A) 2.2 บอกหลกั การอา่ นเพ่ือสรุปความรูแ้ ละขอ้ คิดจากเรื่องท่ีอ่านได้ (K) 2.3 อา่ นเร่ืองแลว้ สามารถสรุปความรูแ้ ละขอ้ คิดจากเร่ืองท่ีอ่านได้ (S) 3. กิจกรรมการเรียนรู้ 3.1 ขน้ั เตรยี มความพร้อมและต้ังข้อสังเกตในการเรียนรู้ 1. นกั เรียนรว่ มกิจกรรม “อ่านใหไ้ ว บอกใจความใหไ้ ด”้ กจิ กรรม “อ่านใหไ้ ว บอกใจความใหไ้ ด”้ จดุ ประสงค์ เพ่ือฝึกความคลอ่ งในการเพ่อื จบั ใจความ อปุ กรณ์ แถบประโยค จาํ นวน 10 แผ่น 151
งมีเหตุผลเก่ียวกับเร่ืองนั้น เพื่อประเมินความเหมาะสมของ เวลา 5 ช่ัวโมง พื่อนําเสนอเรื่องทอี่ ่านอย่างสร้างสรรค์ เวลา 1 ช่วั โมง สนิ ใจ แกป้ ัญหาในการดาํ เนนิ ชีวิต และมีนิสยั รกั การอ่าน ากเรอ่ื ง นชีวิตประจาํ วนั
แผนการจดั การเรยี นรู้ วชิ าภาษาไทย ประถมศกึ ษาปีท่ี 4 แถบประโยค 1 สมนุ ไพรมสี รรพคณุ ในการรกั ษาโรคต่าง ๆ แถบประโยค 2 เราควรรบั ประทานอาหารใหถ้ กู หลกั โภชนาการ แถบประโยค 3 ปัจจบุ นั ผสู้ งู อายมุ กั นิยมรบั ประทานอาหารมงั สวริ ตั ิ แถบประโยค 4 พลเมืองสว่ นใหญ่ของประเทศไทยมีอาชีพเกษตรกรรม แถบประโยค 5 หวานเป็นลมขมเป็นยา เป็นคาํ กลา่ วท่ีใหข้ อ้ คิดว่า คาํ ชมม แถบประโยค 6 หมอ้ หอ้ ม เป็นคาํ เรียกเสือ้ คอกลม แขนสนั้ ผา่ อกตลอด มก แถบประโยค 7 หญา้ หนวดแมว เป็นช่ือพมุ่ ไมข้ นาดเลก็ ดอกสขี าวอมม่วง แถบประโยค 8 ลกู ประคบ เป็นเครอ่ื งยาหอ่ ผา้ ผกู เป็นลกู กลมใชอ้ งั ไฟ นา วธิ ีการ - แบ่งนกั เรียนออกเป็นกลมุ่ 2 กลมุ่ - ขออาสาสมคั รนกั เรียน 1 คนมาเลอื กแถบประโยค พรอ้ มทงั้ แ - นกั เรียนในกลมุ่ รว่ มกนั เขยี นใจความสาํ คญั ของประโยค ภายใ - เม่อื ไดย้ ินสญั ญาณนกหวดี ใหก้ ลมุ่ เสนอใจความสาํ คญั ของปร - นกั เรยี นปฏบิ ตั ิกิจกรรมขอ้ 2) – 4) ไปเรื่อย ๆ จนแถบประโยคห 2. นกั เรยี นรว่ มกนั แสดงความคิดเห็นจากการปฏบิ ตั กิ ิจกรรมท่แี สด ต่อไปนี้ - นกั เรียนจะทาํ อย่างไรใหส้ ามารถอา่ นแลว้ ระบคุ วามรูห้ รือขอ้ คิดจาก 152
มกั ทาํ ใหล้ ืมตวั ขาดสติ แตค่ าํ ติมกั เป็นประโยชนท์ าํ ใหไ้ ดค้ ิด กั ยอ้ มสีนา้ํ เงนิ เขม้ หรอื ดาํ เขียนเป็น มอ่ หอ้ ม มอ่ ฮอ่ ม ก็มี งออ่ น เป็นช่อยาว เกสรตวั ผยู้ าว ใบใชท้ าํ ยาได้ เรียกอกี ช่อื หนึ่งว่า พยบั เมฆ าบหรอื กดคลงึ ตามรา่ งกาย แสดงแถบประโยคใหส้ มาชิกในหอ้ งดู ภายในเวลา 10 วนิ าที ในเวลา 15 วินาที ระโยค โดยกลมุ่ ท่ีสามารถระบคุ วามรูท้ ่ีไดร้ บั ท่ีชดั เจนกว่าได้ คะแนน 1 คะแนน หมด ใหน้ กั เรียนรวมคะแนนพรอ้ มทงั้ ช่นื ชมกลมุ่ ท่ไี ดค้ ะแนนสงู สดุ ดงถงึ ความสาํ คญั ในการอ่านเพ่ือลงสรุปความรูห้ รอื ขอ้ คิดจากบทอ่าน ในประเด็น กบทอ่านได้
แผนการจดั การเรยี นรู้ วชิ าภาษาไทย ประถมศกึ ษาปีท่ี 4 3.2 ข้นั จดั กระบวนการเรียนรู้ 1) นกั เรียนศกึ ษาขอ้ ความเก่ียวกบั หลกั การจบั ใจความสาํ คญั ของบทอ่า หลักการจบั ใจความสาํ คัญ .1ตงั้ จดุ มงุ่ หมายในการอา่ นใหช้ ดั เจน .2อ่านเร่ืองราวอยา่ งครา่ วๆ พอเขา้ ใจ และเก .3เม่ืออ่านจบใหต้ งั้ คาํ ถามตนเองวา่ เร่ืองทอี่ .4นาํ ส่ิงทส่ี รุปไดม้ าเรียบเรียงใจความสาํ คญั โดยกาํ หนดใหน้ กั เรียนแต่ละกลมุ่ นาํ หลกั การอ่านจบั ใจความสาํ คญั ดงั ก 2) นกั เรยี นแบง่ กลมุ่ พรอ้ มทงั้ สง่ ตวั แทนกลมุ่ มารบั บทอา่ น เรื่อง ชีวกโกม 153
าน ดงั นี้ ก็บใจความสาํ คญั ของแต่ละย่อหนา้ อ่าน มีใคร ทาํ อะไร ท่ีไหน เม่ือไหร่ อย่างไร ญใหม่ดว้ ยสาํ นวนของตนเองเพ่อื ใหเ้ กดิ ความสละสลวย กลา่ วกาํ หนดเป็นรายการปฏิบตั ิ มารภจั จ์
แผนการจดั การเรยี นรู้ วชิ าภาษาไทย ประถมศกึ ษาปีท่ี 4 3) นกั เรยี นแต่ละกลมุ่ ปฏิบตั ิการอ่านบทอ่านตาม “หลกั การอา่ นจบั ใจค 4) เม่ือไดย้ นิ สญั ญาณนกหวีด ใหน้ กั เรยี นรว่ มกนั นาํ เสนอความรูแ้ ละข จบั ใจความขา้ งตน ทาํ ใหน้ กั เรียนสามารถระบุความรูแ้ ละขอ้ คิดจากบทอา่ นไดจ้ รงิ ห ทงั้ นเี้ ปิดโอกาสใหน้ กั เรยี นเพ่ิมประเดน็ ท่ีทาํ ใหเ้ ขา้ ใจรายละเอยี ดในบทอ (แนวคาํ ตอบ การหาคาํ ยาก การอ่านคาํ ยาก และ ความหมายของคาํ ยา 5) นกั เรียนแตล่ ะกล่มุ อ่านบทอ่านอกี ครง้ั โดยเพิ่มกิจกรรมท่กี ลมุ่ นาํ เสนอ 6) .นกั เรียนรว่ มกนั พิจารณาสรุปเป็นหลกั การอ่านจบั ใจความ (แนวคาํ ตอบ 1.ตงั้ จดุ ม่งุ หมายในการอ่านใหช้ ดั เจน 2.อ่านเร่ืองราว เขา้ ใจบทอ่าน 3)จบั ใจความสาํ คญั ของแตล่ ะย่อหนา้ 4.เม่ืออา่ นจบใหต้ งั้ คาํ ถามตน เรียบเรียงใจความสาํ คญั ใหมด่ ว้ ยสาํ นวนของตนเองเพ่อื ใหเ้ กิดความสละสลวย) 7) นกั เรยี นแต่ละคนสบื คน้ บทอ่านท่ีสนใจ พรอ้ มทงั้ อา่ นบทอา่ นแลว้ สรุปค นเิ ทศ เพ่อื การแลกเปลี่ยนรูก้ บั เพ่อื น โดยนาํ เสนอช่อื หนงั สอื /บทอา่ น แหลง่ สบื คน้ ป ช่อื หนงั สอื /บทอ่าน ผแู้ ต่ง คาํ ยากท่เี ป็นคาํ สาํ คญั ใจความสาํ คญั ย่อหนา้ ท่ี 1 ใจความสาํ คญั ย่อหนา้ ท่ี 2 ใจความสาํ คญั ย่อหนา้ ท่ี 3 ใจความสาํ คญั ย่อหนา้ ท่ี 4 ใจความสาํ คญั ของเรือ่ ง 154
ความสาํ คญั ท่กี าํ หนดเป็นรายการปฏบิ ตั ิ” ขอ้ คิดท่ีไดจ้ ากบทอ่าน พรอ้ มทงั้ พิจารณาว่า การดาํ เนนิ กิจกรรมตามหลกั การอ่าน หรอื ไม่อย่างไร อา่ นมากขึน้ ากในบทอ่าน) อ พรอ้ มทงั้ เปรียบเทียบความสามารถในการระบคุ วามรูแ้ ละขอ้ คิดท่ไี ดจ้ ากบทอ่าน วอยา่ งคร่าวๆ พอเขา้ ใจ พรอ้ มทงั้ หาคาํ ยากท่ีทาํ ใหเ้ ป็นอปุ สรรคต่อการทาํ ความ นเองว่า เร่ืองท่ีอ่าน มใี คร ทาํ อะไร ท่ไี หน เม่ือไหร่ อย่างไร และ 5.นาํ สงิ่ ท่ีสรุปไดม้ า ความรู้ และ ขอ้ คิดท่ีได้ โดยเขยี นนาํ เสนอในรูปแบบท่ีน่าสนใจ แลว้ นาํ ไปติดไวท้ ่ีปา้ ย ประกอบดว้ ย ในรูปแบบดงั นี้
แผนการจดั การเรยี นรู้ วชิ าภาษาไทย ประถมศกึ ษาปีท่ี 4 ความรู้ / ขอ้ คิดท่ีไดร้ บั หลกั การท่ีใชใ้ นการจบั ใจความจากบทอ่าน 3.3 ขน้ั สรุปองคค์ วามรู้ นกั เรยี นสรุปหลกั การท่ีใชใ้ นการอา่ นจบั ใจความจากบทอ่านของตน 3.4 ข้นั ประยกุ ตใ์ ช้ นกั เรียนนาํ เสนอเหตกุ ารณท์ ่ีเหมาะสมสาํ หรบั การนาํ หลกั การท่ีใชใ้ นการอ่า 4. สื่อและแหล่งเรยี นรู้ 1. กจิ กรรม “อา่ นใหไ้ ว บอกใจความใหไ้ ด”้ 2. หลกั การจบั ใจความสาํ คญั 3. บทอ่าน เรื่อง ชวี กโกมารภจั จ์ 4. บทอ่านท่ีสนใจ 5. การวัดและประเมินผล เคร่อื งมอื วดั แสดงความ วธิ ีวดั แบบสงั เกต พฤติกรรม 1 . สั ง เ ก ต พ ฤ ติ ก ร ร ม ก า ร แ ส ด ง ค ว า ม คิดเห็นเกี่ยวกบั ความสาํ คัญในการสรุป ความรูแ้ ละขอ้ คดิ จากเรอ่ื งท่ีอา่ น (A) 155
นเอง านจบั ใจความไปใช้ จาํ นวน 1 เหตกุ ารณ์ เกณฑก์ ารประเมิน มคิดเห็นอยา่ งนอ้ ย ขอ้ 1
แผนการจดั การเรยี นรู้ วชิ าภาษาไทย ประถมศกึ ษาปีท่ี 4 วิธีวดั เครอ่ื งมือวัด ดี – ผลงาน 2.ตรวจผลงานการบอกหลกั การอา่ นเพ่ือ เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน 1) ตงั้ จดุ สรุปความรูแ้ ละขอ้ คิดจากเรอ่ื งท่อี ่าน 2) อา่ นเ เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน 3.ประเมนิ สามารถการอ่านเรื่องแลว้ ทาํ ความเขา สามารถสรุปความรูแ้ ละขอ้ คิดจากเร่ืองท่ี จบั (3ใจ อ่าน (S) 4) เม่ืออ 5) นาํ ส่งิ ความสละส พอใช้ ผล ปรบั ปรุง ผล ดี – ผลงาน พอใช้ – ผล ปรบั ปรุง – 156
เกณฑก์ ารประเมิน นแสดงถงึ หลกั การอ่านเพ่ือสรุปความรูแ้ ละขอ้ คิด ในประเด็นต่อไปนที้ กุ รายการ ดม่งุ หมายในการอ่านใหช้ ดั เจน เรื่องราวอย่างครา่ วๆ พอเขา้ ใจ พรอ้ มทงั้ หาคาํ ยากท่ีทาํ ใหเ้ ป็นอปุ สรรคต่อการ า้ ใจบทอา่ น จความสาํ คญั ของแตล่ ะยอ่ หนา้ อา่ นจบใหต้ งั้ คาํ ถามตนเองวา่ เร่ืองท่ีอ่าน มีใคร ทาํ อะไร ท่ไี หน เม่อื ไหร่ อย่างไร งท่ีสรุปไดม้ าเรียบเรียงใจความสาํ คญั ใหมด่ ว้ ยสาํ นวนของตนเองเพ่อื ใหเ้ กิด สลวย ลงานแสดงคณุ ภาพตามรายการท่ีกาํ หนด 3-4 รายการ ลงานแสดงคณุ ภาพตามรายการท่ีกาํ หนด 1-2 รายการ นท่นี าํ เสนอเป็นความรูแ้ ละขอ้ คิดของเร่ืองท่ีอ่าน ลงานนาํ เสนอเฉพาะความรู้ หรือ ขอ้ คิด ของเรื่องท่ีอา่ น ผลงานท่ีนาํ เสนอไม่เกี่ยวขอ้ งกบั ความรู้ หรือ ขอ้ คิด ท่ีระบุ
แผนการจดั การเรยี นรู้ วชิ าภาษาไทย ประถมศกึ ษาปีท่ี 4 สมรรถนะย่อยท่ี 2 สรุปความเข้าใจของตนและแสดงความคิดเห็นอย่าง ของขอ้ มูลโดยระบหุ ลักฐานสนับสนุนความคดิ ได้อยา่ งน้อยหน่ึงแหลง่ ขอ้ มูล แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ 5 เร่อื ง การเขียนบนั ทกึ จากการอ่าน 1. มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชีว้ ดั มาตรฐาน ท 2.1 ใชก้ รกะบวนการเขียน เขียนสื่อสาร เขยี นเรียงความ ย่อความ การศกึ ษาคน้ ควา้ อย่างมีประสิทธิภาพ ท 2.1 ป.4/6 เขียนบนั ทึกและเขยี นรายงานจากการศกึ ษาคน้ ควา้ 2. จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ 2.1 เหน็ คณุ คา่ และประโยชนข์ องการเขียนบนั ทกึ จากการอา่ น (A) 2.2 บอกหลกั การเขียนบนั ทกึ จากการอา่ นได้ (K) 2.3 เขยี นบนั ทกึ จากการอ่านได้ (S) 3. กจิ กรรมการเรียนรู้ 3.1 ขั้นเตรยี มความพร้อมและตัง้ ข้อสงั เกตในการเรยี นรู้ 1) นกั เรียนและครูรว่ มกนั สนทนาแลกเปลี่ยน เรียนรูเ้ ก่ียวกบั การเขียนบ - นกั เรยี นเคยเขยี นบนั ทกึ หรือไม่ - บนั ทกึ ท่ีนกั เรยี นเคยเขียนเป็นบนั ทึกประเภทใด 2) นกั เรียนรบั บทอา่ นเร่ืองผดั วนั ประกนั พรุง่ ไปอ่าน 1 เท่ยี ว ครูใหเ้ วลาอ เรื่องไม่ไดท้ งั้ หมด 157
งมีเหตุผลเกี่ยวกับเร่ืองนั้น เพื่อประเมินความเหมาะสม เวลา 5 ช่วั โมง ล เพื่อนาํ เสนอเรื่องทอี่ า่ นอยา่ งสร้างสรรค์ เวลา 1 ช่วั โมง และเขยี นเรอ่ื งราวในรูปแบบต่าง ๆ เขยี นรายงานขอ้ มลู สารสนเทศ และรายงาน บนั ทกึ เช่น อา่ น 5 นาที จากนนั้ รว่ มกนั อภปิ รายถึงเนือ้ หาโดยสรุป อาจพบว่านกั เรียนจาํ เนือ้
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273
- 274
- 275
- 276
- 277
- 278
- 279
- 280
- 281
- 282
- 283
- 284
- 285
- 286
- 287
- 288
- 289
- 290
- 291
- 292
- 293
- 294
- 295
- 296
- 297
- 298
- 299
- 300
- 301
- 302
- 303
- 304
- 305
- 306
- 307
- 308
- 309
- 310
- 311
- 312
- 313
- 314
- 315
- 316
- 317
- 318
- 319
- 320
- 321
- 322
- 323
- 324
- 325
- 326
- 327
- 328
- 329
- 330
- 331
- 332
- 333
- 334
- 335
- 336
- 337
- 338
- 339
- 340
- 341
- 342
- 343
- 344
- 345
- 346
- 347
- 348
- 349
- 350
- 351
- 352
- 353
- 354
- 355
- 356
- 357
- 358
- 359
- 360
- 361
- 362
- 363
- 364
- 365
- 366
- 367
- 368
- 369
- 370
- 371
- 372
- 373
- 374
- 375
- 376
- 377
- 378
- 379
- 380
- 381
- 382
- 383
- 384
- 385
- 386
- 387
- 388
- 389
- 390
- 391
- 392
- 393
- 394
- 395
- 396
- 397
- 398
- 399
- 400
- 401
- 402
- 403
- 404
- 405
- 406
- 407
- 408
- 409
- 410
- 411
- 412
- 413
- 414
- 415
- 416
- 417
- 418
- 419
- 420
- 421
- 422
- 423
- 424
- 425
- 426
- 427
- 428
- 429
- 430
- 431
- 432
- 433
- 434
- 435
- 436
- 437
- 438
- 439
- 440
- 441
- 442
- 443
- 444
- 445
- 446
- 447
- 448
- 449
- 450
- 451
- 452
- 453
- 454
- 455
- 456
- 457
- 458
- 459
- 460
- 461
- 462
- 463
- 464
- 465
- 466
- 467
- 468
- 469
- 470
- 471
- 472
- 473
- 474
- 475
- 476
- 477
- 478
- 479
- 480
- 481
- 482
- 483
- 484
- 485
- 486
- 487
- 488
- 489
- 490
- 491
- 492
- 493
- 494
- 495
- 496
- 497
- 498
- 499
- 500
- 501
- 502
- 503
- 504
- 505
- 506
- 507
- 508
- 509
- 510
- 511
- 512
- 513
- 514
- 515
- 516
- 517
- 518
- 519
- 520
- 521
- 522
- 523
- 524
- 525
- 526
- 527
- 528
- 529
- 530
- 531
- 532
- 533
- 534
- 535
- 536
- 537
- 538
- 539
- 540
- 541
- 542
- 543
- 544
- 545
- 546
- 547
- 548
- 549
- 550
- 551
- 552
- 553
- 554
- 555
- 556
- 557
- 558
- 559
- 560
- 561
- 562
- 563
- 564
- 565
- 566
- 567
- 568
- 569
- 570
- 571
- 572
- 573
- 574
- 575
- 576
- 577
- 578
- 579
- 580
- 581
- 582
- 583
- 584
- 585
- 586
- 587
- 588
- 589
- 590
- 591
- 592
- 593
- 594
- 595
- 596
- 597
- 598
- 599
- 600
- 601
- 602
- 603
- 604
- 605
- 606
- 607
- 608
- 609
- 610
- 611
- 612
- 613
- 614
- 615
- 616
- 617
- 618
- 619
- 620
- 621
- 622
- 623
- 624
- 625
- 626
- 627
- 628
- 629
- 630
- 631
- 632
- 633
- 634
- 635
- 636
- 637
- 638
- 639
- 640
- 641
- 642
- 643
- 644
- 645
- 646
- 647
- 648
- 649
- 650
- 651
- 652
- 653
- 654
- 655
- 656
- 657
- 658
- 659
- 660
- 661
- 662
- 663
- 664
- 665
- 666
- 667
- 668
- 669
- 670
- 671
- 672
- 673
- 674
- 675
- 676
- 677
- 678
- 679
- 680
- 681
- 682
- 683
- 684
- 685
- 686
- 687
- 688
- 689
- 690
- 691
- 692
- 693
- 694
- 695
- 696
- 697
- 698
- 699
- 700
- 701
- 702
- 703
- 704
- 705
- 706
- 707
- 708
- 709
- 710
- 711
- 712
- 713
- 714
- 715
- 716
- 717
- 718
- 719
- 720
- 721
- 722
- 723
- 724
- 725
- 726
- 727
- 728
- 729
- 730
- 731
- 732
- 733
- 734
- 735
- 736
- 737
- 738
- 739
- 740
- 741
- 742
- 743
- 744
- 745
- 746
- 747
- 748
- 749
- 750
- 751
- 752
- 753
- 754
- 755
- 756
- 757
- 758
- 759
- 760
- 761
- 762
- 763
- 764
- 1 - 50
- 51 - 100
- 101 - 150
- 151 - 200
- 201 - 250
- 251 - 300
- 301 - 350
- 351 - 400
- 401 - 450
- 451 - 500
- 501 - 550
- 551 - 600
- 601 - 650
- 651 - 700
- 701 - 750
- 751 - 764
Pages: