แผนตัวอย่างวิชาภาษาไทย

แผนการจดั การเรยี นรู้ วชิ าภาษาไทย ประถมศกึ ษาปีท่ี 4 5.การวดั และประเมินผล วธิ ีวดั เครื่องมอื วัด 1. (A) สงั เกตพฤติกรรมการแสดงความ แบบสงั เกต แสดงความคิด คดิ เห็นเรอื่ ง ความสาํ คญั ของการอา่ น พฤตกิ รรมการแสดง เพ่อื เกบ็ ประเด็นสาํ คญั ของบทอ่าน ความคดิ เห็น 2. (K) ตรวจผลงานการสรุปวธิ ีการอ่าน เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ดี – ระบขุ อ้ ควา ออกเสียงท่ีทาํ ใหเ้ ขา้ ใจรายละเอียดของ ขนั้ ท่ี 1 ขีด บทอา่ นของตนเอง ขนั้ ท่ี 2 หา ขนั้ ท่ี 3 แบ ขนั้ ท่ี 4 ฝึก (หมายเหตขุ อ้ ค พอใช้ – นาํ เสน ปรบปรุง – นาํ เ 3. (S) ประเมินความสามารถอ่านออก เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ดี – อ่านคาํ ปร เสียงบทอ่านท่ที าํ ใหเ้ ขา้ ใจรายละเอียด พอใช้ – ปรากฏ ของบทอา่ น ปรบั ปรุง – ปรา 364

เกณฑก์ ารประเมิน ดเห็นอยา่ งนอ้ ย 1 ขอ้ ามท่เี ป็นวิธีการอ่านออกเสียงท่ีทาํ ใหเ้ ขา้ ใจรายละเอยี ดของบทอ่าน เชน่ ดเสน้ ใตค้ าํ ยาก าคาํ อา่ นและความหมายของคาํ ยากจากพจนานกุ รม บ่งวรรคตอนในบทอ่าน กอา่ นบทอา่ น ความท่ีนาํ เสนอเป็นไปตามวิธีการของกลมุ่ ) นอจาํ นวน 2-3 ขอ้ เสนอ 1 รายการ หรอื ไม่ไดน้ าํ เสนอ ระโยค ไดถ้ กู ตอ้ ง และเวน้ วรรคตอนตามความหมายของบทอ่าน ฏขอ้ ผิดพลาด 1-2 รายการ ากฏขอ้ ผิดพลาดมากกว่า 2 รายการ

แผนการจดั การเรยี นรู้ วชิ าภาษาไทย ประถมศกึ ษาปีท่ี 4 ภาคผนวก 2.บทอา่ นเรือ่ งไวรัสวายร้าย 1.บทอ่านเรือ่ งไวรัสวายร้าย ตอนที่ 1 4.บทอ่านเรือ่ งไวรัสวายร้าย ตอนที่ 4 5.บทอา่ นเรื่องไวรัสวายร้าย 365

ย ตอนที่ 2 3. บทอา่ นเรื่องไวรัสวายร้าย ตอนที่ 3 ย ตอนที่ 5 6. บทอ่านเรื่องไวรัสวายร้าย ตอนที่ 6

แผนการจดั การเรยี นรู้ วชิ าภาษาไทย ประถมศกึ ษาปีท่ี 4 สมรรถนะยอ่ ยที่ 1 ฟังเสียง อ่านเรื่อง และดภู าพทเี่ กีย่ วขอ้ ง กับสถานก แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ 2 เรื่อง การอ่านเพือ่ จบั ประเดน็ สาํ คัญ 1. มาตรฐานการเรยี นรู้/ตัวชีว้ ัด มาตรฐาน ท 1.1 ใชก้ ระบวนการอา่ นสรา้ งความรูแ้ ละความคดิ เพ่ือนาํ ไปใช ท 1.1 ป.4/3 อา่ นเรอ่ื งสนั้ ๆ ตามเวลาท่กี าํ หนดและตอบคาํ ถามจากเร 2. จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ (A K S) 2.1 เห็นความสาํ คญั และประโยชนข์ องการอ่านในใจเพ่อื นาํ เสนอเรื่องท่อี า่ น (A) 2.2 สรุปหลกั การอ่านในใจเพ่ือจบั ประเด็นสาํ คญั ได้ (K) 2.3 จบั ใจความสาํ คญั จากบทอา่ นท่ีกาํ หนดใหแ้ ละนาํ เสนอเรื่องท่ีอ่านได้ (S 3. กจิ กรรมการเรยี นรู้ 3.1 ขน้ั เตรียมความพร้อมและต้ังข้อสังเกตในการเรียนรู้ 1) นกั เรียนอา่ นบทอา่ นสน้ั ๆท่คี รูกาํ หนด โดยต่างคนต่างอ่านออกเสียง 2) เม่ือนกั เรียนอา่ นจบ รว่ มกนั แสดงความคิดเห็นประเดน็ ต่อไปนี้ - นกั เรียนอ่านแลว้ เขา้ ใจเนือ้ เรื่องหรือไม่ เพราะเหตใุ ด - การท่นี กั เรียนต่างคนต่างอ่านออกเสียงทาํ ใหเ้ กิดปัญหาอะไรบา้ ง ( สาํ คญั จากเร่อื งท่ีอา่ นได)้ 3) นกั เรยี นร่วมกนั ระบพุ ฤติกรรมการอ่านเม่ืออย่ใู นท่สี าธารณะ 3.2 ข้นั จัดกระบวนการเรยี นรู้ 1) นกั เรยี นแบง่ กลมุ่ 4 กลมุ่ ตวั แทนกลมุ่ รบั บทอา่ น เรอื่ ง ทาํ ความเขา้ ใ ในใจ ภายในเวลา 5 นาที 366

การณท์ ใ่ี กล้ตวั แลว้ สามารถ จับประเด็นสาํ คัญได้ เวลา 3 ช่ัวโมง เวลา 1 ช่ัวโมง ชต้ ดั สินใจ แกป้ ัญหาในการดาํ เนินชวี ิตและมีนิสยั รกั การอ่าน ร่ืองท่ีอา่ น S) (แนวคาํ ตอบ : เสียงดงั มาก ทาํ ใหน้ กั เรยี นไม่มีสมาธิ ไม่สามารถจบั ใจความ ใจกบั โรคเอดส์ โดยกาํ หนดให้ 2 กลมุ่ แรก อา่ นออกเสียง และ 2 กลมุ่ หลงั อ่าน

แผนการจดั การเรยี นรู้ วชิ าภาษาไทย ประถมศกึ ษาปีท่ี 4 2) ตวั แทนกลมุ่ รบั ใบงานซง่ึ เป็นคาํ ถามเก่ียวกบั บทอา่ น โดยกาํ หนดเวล เปรยี บเทียบคะแนนท่ีมาจากการอ่านออกเสียงและอ่านในใจ 3) เม่ือไดย้ ินสญั ญาณหมดเวลา นกั เรยี นตรวจคาํ ตอบของกลมุ่ ตนเองกบ 4) ครูและนกั เรียนรว่ มกนั พิจารณาในประเด็นต่อไปนี้ - คะแนนในกลมุ่ ท่ีอา่ นออกเสยี งและอ่านในใจแตกตา่ งกนั หรอื ไม่ - กลมุ่ ท่ีอา่ นในใจรูส้ กึ อยา่ งไรขณะท่กี ลมุ่ อา่ นออกเสียงเปลง่ เสยี ง (แนวคาํ ตอบ : กลมุ่ ท่ีอ่านในใจ รูส้ กึ ว่า กลมุ่ ท่อี ่านออกเสียง มีเสียง ท่ีอ่านได้ สาํ หรบั กลมุ่ ท่ีอ่านออกเสียง ไมม่ คี วามรูส้ กึ ใดต่อกลมุ่ ท 5) นกั เรียนชมคลิปวิดีโอ หลกั การอ่านในใจ (https://www.youtube.co ดงั นี้ - สรุปหลกั การอ่านในใจลงในกระดาษชารท์ โดยออกแบบใหน้ า่ ส - นาํ หลกั การอา่ นในใจมานาํ เสนอเป็นพฤติกรรมท่ีแสดงถงึ พฤติกร  ไมช่ ีต้ ามตวั อกั ษร  กวาดสายตาอย่างรวดเร็ว มองตวั อกั ษรใหไ้ ดช้ ่วงประมา  ไม่ออกเสียงหรอื ทาํ ปากขมบุ ขมบิ ในขณะอ่าน  อ่านจากซา้ ยไปขวาโดยตลอด ไม่ยอ้ นหนา้ ยอ้ นหลงั  ทดสอบความเขา้ ใจหลงั จากอ่านจบ โดยใชว้ ิธีตงั้ คาํ ถาม 367

ลาในการปฏิบตั ิ 3 นาที นกั เรยี นรว่ มกนั หาคาํ ตอบจากบทอา่ น พรอ้ มทงั้ บั เฉลย พรอ้ มทงั้ รายงานคะแนนต่อหอ้ งเรียน (แนวคาํ ตอบ : แตกต่างกนั ) ดงั และในทางตรงกนั ขา้ มกลมุ่ ท่ีอ่านออกเสียงรูส้ กึ อย่างไรกบั กลมุ่ ท่ีอ่านในใจ งดงั มาก ทาํ ใหร้ บกวนสมาธิในการอ่าน และไม่สามารถจบั ใจความสาํ คญั จากเรื่อง ท่ีอา่ นในใจ เน่ืองจากไมม่ ีเสียงดงั รบกวนสมาธิในการอ่าน) om/watch?v=3BymOcsK7Zs) โดยใชเ้ วลา 2.50 นาที จากนนั้ ปฏิบตั ิกิจกรรม สนใจ รรมการอ่านในใจท่ีดี เชน่ าณ 5 - 6 คาํ เป็นอย่างนอ้ ย มสรุปเร่ืองราวท่อี ่าน

แผนการจดั การเรยี นรู้ วชิ าภาษาไทย ประถมศกึ ษาปีท่ี 4 6) เม่ือไดย้ ินสญั ญาณหมดเวลา ใหน้ กั เรยี นตดิ ผลงานไวใ้ นบรเิ วณกลมุ่ ข กบั กลมุ่ อ่นื 7) นกั เรียนรว่ มกนั นาํ เสนอพฤติกรรมการอ่านในใจท่ีดีในภาพรวมของห 8) นกั เรียนแต่ละกลมุ่ รบั บทอ่าน เร่ือง ครอบครวั ดี ชีวีมสี ขุ พรอ้ มทงั้ นาํ เ 9) ตวั แทนกลมุ่ นาํ เสนอผลงานการอ่านในใจ โดยผลดั กนั นาํ เสนอทีละก ความเหมือนหรือความแตกตา่ งในการนาํ เสนอของแต่ละกลมุ่ กลมุ่ ใดท่ีนาํ เสนอได 3.3.ขั้นสรุปองคค์ วามรู้ นกั เรียนรว่ มกนั สรุปเกี่ยวกบั หลกั การอ่านในใจและแนวทางในการปฏบิ ตั ิต 3.4 ข้ันประยุกตใ์ ช้ นกั เรยี นรว่ มกนั นาํ เสนอสถานการณท์ ่จี าํ เป็นตอ้ งใชก้ ารอ่านในใจในชีวติ ป สาธารณะ เป็นตน้ ) 4. ส่อื และแหลง่ เรยี นรู้ 4.1 แผนภมู ิเพลง “อา่ นในใจ” 4.2 บทอา่ น เร่ือง รกั ท่ีคมุ้ ภยั 4.3 คลิปวิดีโอ หลกั การอ่านในใจ (https://www.youtube.com/watch?v=3 4.4 กระดาษชารท์ 368

ของตนเอง และเม่อื ไดย้ ินสญั ญาณเพลงใหเ้ ดนิ ไปแลกเปล่ยี นเรยี นรูผ้ ลงาน หอ้ งเรยี น เสนอในรูปของแผนภาพโครงเรื่อง กลมุ่ ในขณะท่ีกลมุ่ หนึ่งนาํ เสนอ กลมุ่ อ่นื รว่ มกนั อภิปรายแสดงความคิดเห็น ดแ้ ตกต่างจากกลมุ่ อ่นื ใหน้ าํ เสนอพรอ้ มทงั้ อธิบายโดยใหเ้ หตผุ ลประกอบ ตนในการอ่านในใจ โดยใหบ้ นั ทกึ ลงในสมดุ งาน ประจาํ วนั (แนวคาํ ตอบ : การอ่านหนงั สือในหอ้ งสมดุ หรอื การอา่ นหนงั สือในท่ี 3BymOcsK7Zs)

แผนการจดั การเรยี นรู้ วชิ าภาษาไทย ประถมศกึ ษาปีท่ี 4 5.การวัดและประเมินผล เครอ่ื งมอื วัด แสดงความค วิธีวดั แบบสงั เกตพฤติกรรม ดี – ระบขุ อ้ คว การแสดงความ ถกู ตอ้ งครบ 5 1. (A) สงั เกตพฤติกรรมการแสดงความ คิดเห็น คดิ เห็นเก่ียวกบั ประโยชนข์ องการอ่าน เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน  ไมช่ ีต้ า ในใจและการอา่ นออกเสียง เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน  กวาดส 2. (K) ตรวจผลงานการสรุปหลกั การ  ไมอ่ อก อา่ นในใจและแนวทางในการปฏบิ ตั ิตน  อ่านจา ในการอา่ นในใจเพ่อื จบั ประเดน็ สาํ คญั  ทดสอบ 3. (S) ประเมินความสามารถในการ พอใช้ – ปราก อา่ นในใจและสรุปใจความสาํ คญั จาก ปรบั ปรุง – ปร เรอื่ งท่ีอา่ น ดี – ระบขุ อ้ คว ถกู ตอ้ งครบ 5  ไม่ชตี้ าม  กวาดสา  ไม่ออกเ  อ่านจาก  ทดสอบ พอใช้ – ปราก ปรบั ปรุง – ปร 369

เกณฑก์ ารประเมิน คิดเห็นอยา่ งนอ้ ย 1 ขอ้ วามท่เี ป็นหลกั การอา่ นในใจและแนวทางในการปฏิบตั ิตนในการอา่ นในใจได้ 5 ขอ้ ดงั นี้ ามตวั อกั ษร สายตาอย่างรวดเรว็ มองตวั อกั ษรใหไ้ ดช้ ว่ งประมาณ 5 - 6 คาํ เป็นอย่างนอ้ ย กเสียงหรือทาํ ปากขมบุ ขมบิ ในขณะอ่าน ากซา้ ยไปขวาโดยตลอด ไมย่ อ้ นหนา้ ยอ้ นหลงั บความเขา้ ใจหลงั จากอา่ นจบ โดยใชว้ ิธีตงั้ คาํ ถามสรุปเรื่องราวท่ีอ่าน กฏขอ้ ผิดพลาด 1 - 2 รายการ รากฏขอ้ ผิดพลาดมากกว่า 3 รายการขึน้ ไป วามท่ีเป็นหลกั การอา่ นในใจและแนวทางในการปฏิบตั ิตนในการอ่านในใจได้ 5 ขอ้ ดงั นี้ มตวั อกั ษร ายตาอยา่ งรวดเรว็ มองตวั อกั ษรใหไ้ ดช้ ว่ งประมาณ 5 - 6 คาํ เป็นอย่างนอ้ ย เสียงหรอื ทาํ ปากขมบุ ขมิบในขณะอา่ น กซา้ ยไปขวาโดยตลอด ไมย่ อ้ นหนา้ ยอ้ นหลงั บความเขา้ ใจหลงั จากอ่านจบ โดยใชว้ ิธีตงั้ คาํ ถามสรุปเรื่องราวท่ีอา่ น กฏขอ้ ผิดพลาด 1 - 2 รายการ รากฏขอ้ ผิดพลาดมากกวา่ 3 รายการขึน้ ไป

แผนการจดั การเรยี นรู้ วชิ าภาษาไทย ประถมศกึ ษาปีท่ี 4 สมรรถนะยอ่ ยที่ 1 ฟังเสียง อา่ นเรื่อง และดูภาพทเี่ กีย่ วข้อง กับสถานก แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ 3 เรอ่ื ง ข้อเทจ็ จริงและข้อคดิ เหน็ 1. มาตรฐานการเรยี นรู้/ตัวชีว้ ัด มาตรฐาน ท 3.1 สามารถเลือกฟังและดอู ย่างมีวจิ ารณญาณ และพดู แสดง สรา้ งสรรค์ ท 3.1 ป.4/1 จาํ แนกขอ้ เท็จจรงิ และขอ้ คดิ เห็นจากเร่ืองท่ีฟังและ 2. จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ (A K S ) 1.1 เห็นประโยชนข์ องการใชข้ อ้ เท็จจรงิ และขอ้ คิดเห็นในชีวิตประจาํ วนั (A 1.2 บอกความแตกตา่ งของขอ้ เท็จจรงิ และขอ้ คิดเหน็ ได้ (K) 1.3 นาํ เสนอขอ้ เทจ็ จรงิ และขอ้ คิดเห็นจากบทอา่ นท่ีกาํ หนดใหไ้ ด้ (S 3. กิจกรรมการเรียนรู้ 3.1 ขน้ั เตรียมความพร้อมและต้ังข้อสังเกตในการเรยี นรู้ 1) ครูใหน้ กั เรยี นดคู ลิปโฆษณา ยาสฟี ันคอลเกต https://www.youtube 2) ครูนาํ แถบขอ้ ความจากคลิป ซ่งึ มีทงั้ ขอ้ ความท่เี ป็นขอ้ เทจ็ จรงิ และขอ้ ค ขอ้ ความใดเป็นขอ้ เท็จจรงิ ขอ้ ความใดเป็นขอ้ คิดเห็น รวมทงั้ พิจารณาลกั ษณะของ ยาสฟี นคอลเกตซอลตม ีสวนผสมของเกลือ สมุนไพร และฟลูออไรด ถาเราใชย าสฟี นคอลเกตซอลต สขุ ภาพปากและฟนของเราจะดีข้นึ 370

การณท์ ใ่ี กลต้ วั แล้วสามารถ จบั ประเด็นสาํ คัญได้ เวลา 3 ช่ัวโมง เวลา 1 ช่ัวโมง งความรู้ ความคิด และความรูส้ ึกในโอกาสต่างๆ อย่างมวี จิ ารณญาณและ ะดู A) e.com/watch?v=TWVmQkKLpXc (เวลา 0.40 น.) คดิ เห็น ติดบนกระดานใหน้ กั เรยี นดู โดยใหน้ กั เรยี นพิจารณาขอ้ ความดงั กลา่ ววา่ งขอ้ ความท่ีเช่ือถือได้ (แนวคาํ ตอบ ขอ้ เท็จจรงิ ) ใชย าสีฟนสูตรเกลอื อยางเดียวไมพ อตอ งมสี มุนไพรดว ย จากผลสำรวจทนั ตแพทย จำนวน 400 คน แนะนำใหใชยาสีฟนคอลเกต 206 คน

แผนการจดั การเรยี นรู้ วชิ าภาษาไทย ประถมศกึ ษาปีท่ี 4 3.2 ขนั้ จดั กระบวนการเรียนรู้ 1) แบง่ นกั เรียนเป็นกลมุ่ ครูแจกแถบขอ้ ความ ลกั ษณะขอ้ เทจ็ จรงิ และขอ้ คิด ลักษณะขอ้ เทจ็ จรงิ มคี วามสมเหตสุ มผล เช่อื ถือได้ มีหลกั ฐานอา้ งองิ พิสจู นไ์ ด้ เป็นจรงิ ตามธรรมชาติ 2) ครูและนกั เรยี นช่วยกนั ตรวจสอบความถกู ตอ้ ง 3) นกั เรยี น เลน่ เกม แยกได.้ .ใหไ้ ลก์ โดยแต่ละกลมุ่ จะไดร้ บั แถบขอ้ ความจา 4) ใหแ้ ตล่ ะกลมุ่ ชว่ ยกนั วิเคราะหแ์ ละจาํ แนกขอ้ ความท่เี ป็นขอ้ เทจ็ จรงิ และขอ้ ข้อเทจ็ จริง โลมาเป็นสตั วเ์ ลีย้ งลกู ดว้ ยนม ประเทศไทยมภี าษาไทยเป็นภาษาประจาํ ชาติ จงั หวดั ปทมุ ธานอี ย่ทู างภาคกลาง ดวงอาทติ ยข์ นึ้ ทางทิศตะวนั ตก สนุ ทรภ่แู ต่งเรื่องพระอภยั มณี 5) ครูเปิดเพลงใหส้ ญั ญาณ จบ 1 เพลง หมดเวลา จากนนั้ ใหต้ วั แทนออกมา 6) ครูและนกั เรียนช่วยกนั ตรวจสอบความถกู ตอ้ งกลมุ่ ไหนแยกขอ้ เทจ็ จรงิ แล 371

ดเห็น ใหแ้ ต่ละกลมุ่ ช่วยกนั นาํ มาติดบนกระดาน ลกั ษณะข้อคดิ เหน็ เป็นการเปรียบเทยี บ ความรูส้ กึ ส่วนตวั เป็นการคาดคะเน แสดงความคิดเหน็ ากครู และกระดาษชารท์ กลมุ่ ละ 1 แผน่ อคิดเห็น แลว้ ติดลงในกระดาษชารท์ ขอ้ คดิ เหน็ อากาศรอ้ นอบอา้ วเด๋ียวฝนคงจะตกหนกั ของถกู และดไี มม่ ใี นโลก สดุ าเป็นคนโปรดของครูเลยไดค้ ะแนนเยอะกว่าใคร ดชู า้ งใหด้ หู างดนู างใหด้ แู ม่ วนั นีค้ ณุ ครูแตง่ ตวั สวยเหมือนดาราเลย านาํ เสนอหนา้ ชนั้ เรียน ละขอ้ คิดเห็นไดถ้ กู ตอ้ ง ไดร้ บั สติ๊กเกอรไ์ ลก์ ขอ้ ละ 1 ไลก์

แผนการจดั การเรยี นรู้ วชิ าภาษาไทย ประถมศกึ ษาปีท่ี 4 3.3.ขัน้ สรุปองคค์ วามรู้ ครูและนกั เรียนรว่ มกนั สรุปลกั ษณะของขอ้ เท็จจรงิ และขอ้ คดิ เห็น ( แนวคาํ ตอบ : ขอ้ เท็จจรงิ มีลกั ษณะท่เี ป็นขอ้ มลู ท่สี ามารถเช่ือถือได้ มหี ขอ้ คิดเหน็ มลี กั ษณะท่เี ป็น ความเห็น ความรูส้ กึ นกึ คดิ ของผสู้ ง่ สาร ท่ีส 3.4.ขั้นประยุกตใ์ ช้ 1) ครูและนกั เรยี นรว่ มกนั แสดงความคิดเหน็ เก่ียวกบั ประเดน็ การกดไล สาธารณะ รวมถึงการแสดงความคิดเห็น ต่างๆ นกั เรียนควรปฏบิ ตั ิอย่างไ (แนวคาํ ตอบ : ตรวจสอบขอ้ มลู กอ่ นแชร์ ไม่แสดงความคิดเห็นดว้ ยภา 2) ใหน้ กั เรยี นนาํ เสนอขา่ ว คนละ 1 ข่าว วเิ คราะหเ์ นอื้ หาขา่ วและแยก 4. สื่อ/แหล่งเรียนรู้ - คลิปโฆษณา ยาสีฟันคอลเกต https://www.youtube.com/watch?v=TW - แถบขอ้ ความจากคลปิ โฆษณา - แถบขอ้ ความลกั ษณะขอ้ เท็จจรงิ และขอ้ คิดเห็น - แถบขอ้ ความขอ้ เทจ็ จรงิ และขอ้ คิดเห็น - เพลงท่ีใชเ้ ป็นสญั ญาณบอกเวลาในการทาํ กจิ กรรม - กระดาษชารท์ 372

หลกั ฐาน พิสจู นไ์ ด้ บนพนื้ ฐานของความจรงิ สอดแทรกอย่ใู นเนือ้ หา ) ลก์ กดแชร์ ขอ้ มลู ข่าวสาร ในเฟซบคุ๊ ไลน์ หรือ แอพพลเิ คช่นั อ่นื ๆท่ีอย่บู นพนื้ ท่ี ไร าษาท่ีหยาบคาย เป็นตน้ ) กขอ้ เท็จจรงิ กบั ขอ้ คิดเห็นจากเนือ้ หาในขา่ ว WVmQkKLpXc (เวลา 0.40 น.)

แผนการจดั การเรยี นรู้ วชิ าภาษาไทย ประถมศกึ ษาปีท่ี 4 5.การวดั และประเมินผล วธิ ีวดั เครื่องมือวัด 1. (A) สงั เกตพฤติกรรมในการแสดง แบบสงั เกตพฤติกรรม แสดงความคิดเห ความคดิ เห็นเก่ียวกบั ประโยชนข์ อง การแสดงความ การใชข้ อ้ เทจ็ จรงิ และขอ้ คดิ เหน็ ใน คิดเห็น ชีวติ ประจาํ วนั 2. (K) บอกขอ้ แตกตา่ งของ ตรวจผลงานการบอก นาํ เสนอขอ้ แตกต ขอ้ เท็จจรงิ และขอ้ คดิ เหน็ ได้ ขอ้ แตกต่างของ ขอ้ เทจ็ จรงิ และ ขอ้ คิดเหน็ 3. (S) ประเมินความสามารถในการ ประเมนิ ความสามารถ ดี –นาํ เสนอขอ้ เท นาํ เสนอขอ้ เท็จจรงิ และขอ้ คิดเหน็ ในการนาํ เสนอ พอใช้ – นาํ เสนอ จากบทอ่านท่ีกาํ หนดให้ ขอ้ เท็จจรงิ และ ปรบั ปรุง – นาํ เส ขอ้ คิดเห็นจากบทอา่ น ... 373

เกณฑก์ ารประเมิน ห็นอยา่ งนอ้ ย 1 ขอ้ ต่างไดอ้ ย่างนอ้ ย 1 ขอ้ ท็จจรงิ และขอ้ คิดเห็นจากบทอ่าน ไดอ้ ย่างนอ้ ย 6 ขอ้ อขอ้ เท็จจรงิ และขอ้ คิดเห็นจากบทอา่ น ไดอ้ ยา่ งนอ้ ย 4 ขอ้ สนอขอ้ เท็จจรงิ และขอ้ คิดเห็นจากบทอา่ น ไดอ้ ย่างนอ้ ย 2 ขอ้

แผนการจดั การเรยี นรู้ วชิ าภาษาไทย ประถมศกึ ษาปีท่ี 4 สมรรถนะย่อยท่ี 2 จบั ประเด็นสาํ คัญ พดู เลา่ เร่อื ง นําเสนอรายละเอียด งา่ ย ๆได้ แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ 4 เรอ่ื ง การเขยี นแผนภาพโครงเรือ่ ง 1. มาตรฐาน ท 2.1ใชก้ ระบวนการเขยี นเขยี นส่อื สาร เขียนเรยี งความ ย่อความ การศึกษาคน้ ควา้ อย่างมีประสิทธิภาพ ป.4/2 เขยี นแผนภาพโครงเรื่องและแผนภาพความคิดเพ่ือใชพ้ ฒั นางานเข 2.จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ (A K S) 1. เหน็ ประโยชนใ์ นการลาํ ดบั เหตกุ ารณเ์ พ่ือนาํ ไปใชใ้ นการพดู เลา่ เรือ่ งได 2. บอกหลกั การเขียนแผนภาพโครงเร่ืองท่ีใชป้ ระกอบในการเลา่ เรื่องได้ ( 3. เขียนแผนภาพโครงเร่ืองจากเร่อื งท่ใี ชป้ ระกอบในการเขียนเร่ืองได้ (S) 3. กิจกรรมการเรียนรู้ 3.1 ข้นั เตรียมความพร้อมและตั้งข้อสังเกตในการเรียนรู้ 1) แบ่งนกั เรียนเป็น 2 กลมุ่ และปฏบิ ตั ดิ งั นี้ กลมุ่ 1 รบั หวั ขอ้ จากครู “ โรงเรียนน่าอยู่ คณุ ครูใจด”ี จากนนั้ ใหแ้ ต่ละค กลมุ่ 2 รบั หวั ขอ้ เดยี วกนั กบั กลมุ่ 1 แตม่ ีรายละเอยี ดแผนภาพโครงเร่ือง 1. ตวั ละครในเรือ่ งมีใครบา้ ง 2. สถานท่ขี องเหตกุ ารณใ์ นเรื่องคอื ท่ีใด 3. มเี หตกุ ารณอ์ ะไรเกดิ ขึน้ บา้ ง 4. ผลของเหตกุ ารณน์ นั้ เป็นอยา่ งไร 2) ทงั้ 2 กลมุ่ เขียนเรอ่ื งโดยใชห้ วั ขอ้ เดียวกนั ใชเ้ วลา 7 นาที จากนนั้ ชว่ ย 374

ดสาํ คญั และขอ้ คิด หรอื วัตถปุ ระสงค์ ของผ้สู ่งสารแบบ เวลา 3 ช่ัวโมง เวลา 1 ช่ัวโมง ม และเขียนเรือ่ งราวในรูปแบบต่างๆ เขยี นรายงานขอ้ มลู สารสนเทศและรายงาน ขยี น ด้ (A) (K) ) คนไปเขยี นเรื่องตามจินตนาการของตนเองตามหวั ขอ้ ท่ีกาํ หนด งให้ ดงั นี้ ยกนั แสดงความคิดเห็นวา่ กลมุ่ ไหนจะสามารถเขียนเร่อื งไดด้ กี วา่ กนั เพราะเหตใุ ด

แผนการจดั การเรยี นรู้ วชิ าภาษาไทย ประถมศกึ ษาปีท่ี 4 3.2 ข้นั จัดกระบวนการเรียนรู้ 1) ใหน้ กั เรยี นดแู ผนภมู ิ การเขยี นแผนภาพโครงเร่อื ง แผนภาพโครงเร่อื ง ใคร : ตวั ละครมีใครบา้ ง ท่ีไหน : เหตกุ ารณเ์ กดิ ขึน้ ท่ไี หน เหตกุ ารณ์ : มีเหตกุ ารณอ์ ะไรบา้ ง เหตการณท์ ่ี 1 เหตกุ ารณท์ ่ี 2 เหตกุ ารณท์ ่ี 3 ผลของเหตกุ ารณเ์ ป็นอย่างไร ขอ้ คิดของเร่ืองสอนอะไร 2) ครูและนกั เรยี นรว่ มกนั แสดงความคิดเห็นจากแผนภมู ิ ถึงความสาํ คญั 3) แบง่ กลมุ่ จากนนั้ ใหน้ กั เรยี นรบั บทอ่าน เร่ือง ไวรสั วายรา้ ย แลว้ นาํ ไป 4) นกั เรียนแต่ละกลมุ่ ออกมานาํ เสนอ โดยออกมาเลา่ เรื่องและตงั้ คาํ ถา 3.3.ขั้นสรุปองคค์ วามรู้ นกั เรยี นช่วยกนั บอกหลกั การเขียนแผนภาพโครงเร่ือง เพ่ือใชป้ ระกอบใ 3.4.ขัน้ ประยกุ ตใ์ ช้ นกั เรียนช่วยกนั บอกสถานการณว์ ่าจะตอ้ งใชป้ ระโยชนใ์ นการเขียนแผนภา 375

ญและประโยชนข์ องแผนภาพโครงเร่ือง ปเขียนแผนภาพโครงเร่ือง าม เพ่ือถามกลมุ่ อ่ืน ในการพดู เลา่ เรอ่ื ง าพโครงเร่ืองกบั สถานการณใ์ ดไดบ้ า้ ง (แนวคาํ ตอบ : การเล่านิทาน การเลา่ เรื่อง)

แผนการจดั การเรยี นรู้ วชิ าภาษาไทย ประถมศกึ ษาปีท่ี 4 4. ส่อื /แหลง่ เรียนรู้ - หวั ขอ้ ในการเขียนเรื่อง - แผนภมู ิ การเขียนแผนภาพโครงเรอ่ื ง - บทอา่ น เร่ืองคนดศี รีโรงเรียน 3.การวัดและประเมินผล เครอ่ื งมอื วัด แบบสงั เกตพฤติกรรม การแสดง วิธวี ดั ความคดิ เห็น 1. (A) สงั เกตพฤติกรรมในการแสดง เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ความคดิ เห็นเก่ียวกบั ประโยชนใ์ นการ ลาํ ดบั เหตกุ ารณเ์ พ่ือนาํ ไปใชเ้ ขียน แผนภาพโครงเรอ่ื ง 2. (K) ตรวจผลงานสรุปหลกั การเขียน แผนภาพโครงเรือ่ ง 3. (S) ประเมนิ ความสามารถในการเขียน ทดสอบความสามารถ ในการ แผนภาพโครงเรอื่ งจากเรื่องท่อี า่ น เขยี นแผนภาพโครงเรือ่ ง 376

เกณฑก์ ารประเมิน แสดงความคิดเหน็ อยา่ งนอ้ ย 1 ขอ้ ดี –นาํ เสนอหลกั การเขยี นแผนภาพความคิดได้ 3 รายการ พอใช้ – นาํ เสนอ 2 รายการ ปรบั ปรุง – นาํ เสนอ 1 รายการ ดี – ไดค้ ะแนนรอ้ ยละ 80 ขึน้ ไป พอใช้ – ไดค้ ะแนนรอ้ ยละ 60-79 ปรบั ปรุง – ไดค้ ะแนนต่าํ กว่ารอ้ ยละ 60

แผนการจดั การเรยี นรู้ วชิ าภาษาไทย ประถมศกึ ษาปีท่ี 4 สมรรถนะย่อยท่ี 2 จับประเด็นสาํ คัญ พดู เล่าเร่อื ง นําเสนอรายละเอยี ด งา่ ย ๆ ได้ แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 5 เรือ่ ง ขอ้ คดิ จากเรื่องสั้น 1. มาตรฐาน ท 1.1 ใชก้ ระบวนการอ่านสรา้ งความรูแ้ ละความคิด เพ่ือนาํ ไปใช ท 1.1 ป.4/3 อ่านเรื่องสน้ั ๆ ตามเวลาท่กี าํ หนดและตอบคาํ ถามจากเรื่องท ท 1.1 ป.4/7 อ่านหนงั สือท่ีมีคณุ ค่าตามความสนใจ อยา่ งสม่าํ เสมอและแ 2.จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ (A K S ) 1. เห็นประโยชน์ ระบุขอ้ คดิ จากการอ่านเพ่อื นาํ ไปใชใ้ นชีวิตประจาํ วนั ( 2. ตอบคาํ ถามและขอ้ คิดจากเร่ืองท่อี า่ นได้ (K) 3. อา่ นเรื่องสน้ั แลว้ เลา่ เรื่องได้ (S) 3. กจิ กรรมการเรียนรู้ 3.1 ข้นั เตรียมความพร้อมและต้ังขอ้ สังเกตในการเรยี นรู้ 1) นกั เรียนรบั เร่ืองสน้ั ๆจากครู จากนนั้ อา่ นเร่ืองสน้ั ภายในเวลาท่คี รูกาํ 2) ครูแจก กระดาษเปลา่ คนละ 1 แผน่ ใหน้ กั เรียนเขียนขอ้ คิดท่ีสามารถน 3) นกั เรียนท่ีนาํ เสนอขอ้ คิดคนแรกและถูกตอ้ ง ไดร้ บั สติก๊ เกอรห์ วั ใจจาก 4) ครูและนกั เรียนรว่ มกนั แสดงความคิดเห็นว่า การท่นี กั เรียนรูข้ อ้ คิดจาก ( แนวคาํ ตอบ : นาํ ขอ้ คิดหรอื คาํ สอนนนั้ ไปใชใ้ นชีวติ ประจาํ วนั ได)้ 3.2 ขั้นจัดกระบวนการเรียนรู้ 1) แบ่งนกั เรียนเป็นกลมุ่ แต่ละกลมุ่ รบั เร่ืองสนั้ จากครูกลมุ่ ละ 1 เรื่อง 377

ดสาํ คัญและขอ้ คิด หรอื วัตถปุ ระสงคข์ องผ้สู ง่ สารแบบ เวลา 3 ช่ัวโมง เวลา 1 ช่ัวโมง ชต้ ดั สินใจ แกป้ ัญหาในการดาํ เนนิ ชวี ติ และมีนิสยั รกั การอ่าน ท่อี ่าน แสดงความคดิ เหน็ เก่ียวกบั เรื่องท่ีอา่ น (A) าหนด นาํ ไปใชใ้ นชวี ติ ประจาํ วนั ได้ กครู กเร่ืองท่ีอา่ นมีประโยชนอ์ ย่างไร

แผนการจดั การเรยี นรู้ วชิ าภาษาไทย ประถมศกึ ษาปีท่ี 4 2) นกั เรียนแตล่ ะกล่มุ อา่ นเรื่องสนั้ แลว้ ช่วยกนั ตงั้ คาํ ถามและคาํ ตอบเกี่ย ดงั ต่อไปนี้ คาํ ถามท่ี 1 ถามเกี่ยวกบั เหตกุ ารณส์ าํ คญั ของเรื่อง หรือ ลกั ษณะ คาํ ถามท่ี 2 ถามเกี่ยวกบั ขอ้ คิดของเร่ือง คาํ ถามท่ี 3 ถามใหค้ าดการณเ์ หตกุ ารณท์ ่นี ่าจะเกิดจากขอ้ มลู ขอ คาํ ถามท่ี 4 ถามเก่ียวกบั ขอ้ มลู สนบั สนนุ ขอ้ คิดหรือเหตกุ ารณส์ าํ ค คาํ ถามท่ี 5 ถามเกี่ยวกบั ความรูท้ ่ไี ดร้ บั จากเรื่อง โดยครูเป็นผอู้ าํ นวยความสะดวกในการใหค้ าํ แนะนาํ เก่ียวกบั การ คาํ ถามท่ตี งั้ ไว้ โดยกลมุ่ ท่ผี า่ นการประเมินคณุ ภาพของการตงั้ คาํ ถามจะไดร้ บั “สต เม่อื ไดย้ นิ สญั ญาณหมดเวลา สมาชกิ แตก่ ลมุ่ เตรยี มรว่ มกจิ กรรม “ถ “สติก๊ เกอรเ์ ครื่องหมายคาํ ถามทองคาํ ” เทา่ นนั้ ท่ีใชใ้ นกจิ กรรมของกลมุ่ 3) จบั ฉลากกลมุ่ ท่ีจะออกไปนาํ เสนอ โดยตวั แทนกลมุ่ แจกเรื่องสนั้ ใหส้ มา กจิ กรรม “ถาม-ตอบไวไดแ้ ตม้ 3.1 กลมุ่ ท่นี าํ เสนอผลงาน ถามคาํ ถามเก่ียวกบั เร่ืองสนั้ โดยใหส้ มาช 3.2 เม่ือไดย้ ินสญั ญาณใหช้ คู าํ ตอบของกล่มุ ในขณะท่ีสมาชิกของก 3.3 นาํ เสนอจนครบทกุ ลมุ่ ตรวจสอบสติก๊ เกอร์ กลมุ่ ไหนมีมากท่ีสดุ 4) ครูช่ืนชมกลมุ่ ผชู้ นะและใหก้ าํ ลงั ใจกลมุ่ ท่ีตอบคาํ ถามไม่ไดใ้ หพ้ ยายาม 5) ครูตงั้ คาํ ถามสะทอ้ นคิด - เหตใุ ดนกั เรียนบางกลมุ่ จึงไม่สามารถตงั้ คาํ ถาม-ตอบคาํ ถามตา 6) นกั เรียนกลมุ่ ท่ีไดร้ บั สติ๊กเกอรร์ ูปเครอื่ งหมายคาํ ถามทองคาํ นาํ เสนอ รวมทงั้ นกั เรียนกลมุ่ ท่ีสามารถตอบคาํ ถามได้ ใหน้ าํ เสนอแนวทางท่ีทาํ ใ 378

ยวกบั เร่ืองสนั้ กลมุ่ ละ 3-5 ขอ้ โดยคาํ ถามเก่ียวกบั เร่ืองสนั้ ใหเ้ ป็นประเด็น ะเดน่ ของตวั ละคร องเรื่อง คญั ของเรือ่ ง รตงั้ คาํ ถามของนกั เรียนแต่ละกลมุ่ พรอ้ มทงั้ เป็นผูร้ ว่ มประเมนิ ลกั ษณะของ ตกิ๊ เกอรเ์ ครอ่ื งหมายคาํ ถามทองคาํ ” ถาม-ตอบไวไดแ้ ตม้ ” โดยบางกลมุ่ อาจมีคาํ ถามไมถ่ ึง 5 คาํ ถาม (ใชค้ าํ ถามท่ีได้ าชกิ ในหอ้ งอ่าน พรอ้ มทงั้ เลา่ เรือ่ งสน้ั ใหส้ มาชกิ ในหอ้ งทกุ คนฟัง แลว้ ดาํ เนนิ ชิกแต่ละกลมุ่ เขยี นคาํ ตอบลงในกระดาษคาํ ตอบ กลมุ่ ท่นี าํ เสนอรว่ มกนั ตรวจสอบความถกู ตอ้ ง พรอ้ มมอบสติก๊ เกอรห์ วั ใจ 1 ดวง ดเป็นผชู้ นะ มอีก ามลกั ษณะคาํ ถามท่ีกาํ หนดได้ อแนวทางท่ที าํ ใหส้ ามารถตงั้ คาํ ถามได้ ใหส้ ามารถตอบคาํ ถามได้

แผนการจดั การเรยี นรู้ วชิ าภาษาไทย ประถมศกึ ษาปีท่ี 4 3.3.ขั้นสรุปองคค์ วามรู้ นกั เรยี นชว่ ยกนั บอกวิธีท่ีจะไดข้ อ้ คิดจากเรื่องท่ีอ่าน (แนวคาํ ตอบ : อา่ น ขอ้ เทจ็ จรงิ เขยี นแผนภาพโครงเร่อื ง) 3.4.ขั้นประยกุ ตใ์ ช้ นกั เรียนชว่ ยกนั นาํ เสนอสถานการณใ์ นการระบขุ อ้ คิดท่ไี ดจ้ ากเรอ่ื งท่ีอา่ นว่านา (แนวคาํ ตอบ : นาํ ขอ้ คดิ ท่ไี ดจ้ ากการอ่านนิทาน เรื่องสน้ั บทความ ข่าว หรอื โฆ 4. สือ่ /แหล่งเรียนรู้ - เร่อื งสน้ั - กระดาษเปลา่ - สติก๊ เกอรร์ ูปหวั ใจ 5.การวัดและประเมินผล เครอ่ื งมือวดั แสดงความคิดเห แบบสงั เกตพฤติกรรม วิธีวดั การแสดงความ ดี – ผลงานการต คิดเห็น พอใช้ -ผลงานก 1. (A) สงั เกตพฤติกรรมในการแสดง ปรบั ปรุง -ผลงาน ความคิดเห็นเกี่ยวกบั ประโยชนใ์ น เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน การอ่านเพ่อื นาํ ไปใชใ้ น ชีวติ ประจาํ วนั 2. (K) ตรวจผลงานการตงั้ คาํ ถาม และขอ้ คิดจากเรื่องท่อี ่านได้ 379

นพิจารณา ทาํ ความเขา้ ใจความหมายของคาํ และประโยค วิเคราะหเ์ หตกุ ารณ์ าํ ไปใชป้ ระโยชนอ์ ย่างไรไดบ้ า้ ง ฆษณาต่างๆ ไปใชใ้ นชีวิตประจาํ วนั ) เกณฑก์ ารประเมิน ห็นอยา่ งนอ้ ย 1 ขอ้ ตงั้ คาํ ถาม ไดร้ บั “สติก๊ เกอรร์ ูปเคร่ืองหมายทองคาํ ” จาํ นวน 3 ขอ้ ขนึ้ ไป การตงั้ คาํ ถาม ไดร้ บั “สติก๊ เกอรร์ ูปเคร่ืองหมายทองคาํ ” จาํ นวน 2-3 ขอ้ นการตงั้ คาํ ถาม ไดร้ บั “สติ๊กเกอรร์ ูปเครอื่ งหมายทองคาํ ” จาํ นวน 0-1 ขอ้

แผนการจดั การเรยี นรู้ วชิ าภาษาไทย ประถมศกึ ษาปีท่ี 4 วิธวี ัด เคร่ืองมอื วดั ดี –ตอบคาํ ถามจ ถามคาํ ถาม 3. (S) ประเมินความสามารถในการ เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน พอใช้ – ไม่สามา อ่านเรื่องสนั้ แลว้ เลา่ เรื่องได้ ปรบั ปรุง – ไมส่ า 380

เกณฑก์ ารประเมิน จากกจิ กรรม ถาม-ตอบไวไดแ้ ตม้ โดยไดค้ ะแนนจากทกุ กลมุ่ ท่เี ป็นผนู้ าํ ในการ ารถตอบคาํ ถามของกลมุ่ ท่ีนาํ เสนอ จาํ นวน 1 กลมุ่ ามารถตอบคาํ ถามของกลมุ่ ท่ีนาํ เสนอ มากกวา่ 1 กลมุ่

แผนการจดั การเรยี นรู้ วชิ าภาษาไทย ประถมศกึ ษาปีท่ี 4 สมรรถนะยอ่ ยท่ี 2 จับประเด็นสาํ คัญ พดู เลา่ เรอ่ื ง นาํ เสนอรายละเอียด ง่าย ๆ ได้ แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ 6 เรือ่ ง การเลา่ เรอ่ื งที่น่าสนใจ 1. มาตรฐาน ท 3.1สามารถเลือกฟังและดอู ยา่ งมีวจิ ารณญาณ และพดู แสดงค ท 3.1 ป.4/2 พดู สรุปความจากการดแู ละการฟัง ท 3.1 ป.4/3 พดู แสดงความรู้ ความคิดเห็นและความรูส้ กึ เก่ียวกบั เรือ่ งท่ีฟ 2.จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ (A K S ) 1. เห็นประโยชนข์ องการสรา้ งความสนใจใหก้ บั ผูฟ้ ังในขณะเลา่ เรอ่ื ง (A) 2. บอกวธิ ีการสรา้ งความนา่ สนใจใหก้ บั ตนเองในการพดู เลา่ เร่ือง (K) 3. พดู เลา่ เรอื่ งโดยใชท้ า่ ทางประกอบใหเมคี วามน่าสนใจ (S) 3. กิจกรรมการเรยี นรู้ 3.1 ข้นั เตรียมความพร้อมและตัง้ ขอ้ สังเกตในการเรยี นรู้ 1) ใหน้ กั เรียน ทาํ กิจกรรม “เรื่องเลา่ 1 บรรทดั ” โดยใหน้ กั เรียนเลา่ นทิ าน ครูเป็นผเู้ รม่ิ เร่ืองให้ เชน่ “เชา้ วนั หนึ่งอากาศสดช่นื แจม่ ใสหนูดกี าํ ลงั เด ตอ่ ไปเรื่อย ๆ จนถงึ คนสดุ ทา้ ย 2) เม่ือเลา่ จบทกุ คน แลว้ รว่ มกนั แสดงความคิดเห็น ประเดน็ ดงั นี้ - นิทานท่เี ลา่ กนั มานนั้ เป็นนิทานท่ีดีหรือไม่ อยา่ งไร - จะแกไ้ ขอย่างไรใหเ้ นือ้ เร่ืองรอ้ ยเรียงกนั และมีเนือ้ หาท่ีน่าสนใจชวนติด - การเลา่ ของแต่ละคนเป็นอย่างไร จะมวี ธิ ีการเลา่ อย่างไรใหน้ ิทานเรื่อง 381

ดสาํ คัญและขอ้ คิด หรอื วัตถปุ ระสงคข์ องผู้สง่ สารแบบ เวลา 3 ช่ัวโมง เวลา 1 ช่ัวโมง ความรู้ ความคิด และความรูส้ กึ ในโอกาสตา่ งๆ อย่างมวี จิ ารณญาณและสรา้ งสรรค์ ฟังและดู นแบบฉบั ไวตามจินตนาการมาคนละ 1 เหตกุ ารณ์ ดนิ เล่นอย่ทู ่ีสนามหญา้ หนา้ บา้ น..... นกั เรยี นคนต่อไป เลา่ ต่อจากของครู เลา่ ดตาม งนีน้ า่ สนใจมากย่ิงขึน้

แผนการจดั การเรยี นรู้ วชิ าภาษาไทย ประถมศกึ ษาปีท่ี 4 3.2 ขัน้ จัดกระบวนการเรียนรู้ 1) ใหน้ กั เรียนดคู ลิปตวั อย่างการเลา่ นิทาน ดงั นี้ https://www.youtube 2) ครูและนกั เรียนช่วยกนั ถอดรหสั จากคลิปบอกหลกั การเลา่ เรือ่ งท่ีดีวา่ ค (แนวคาํ ตอบ : - มีขอ้ มลู ความรู้ และความเขา้ ใจในเรือ่ งท่ีจะเลา่ เป็นอย - ใชน้ า้ํ เสียงชดั เจน ไมเ่ บาหรอื ดงั เกนิ ไป - ใชค้ าํ ท่สี ภุ าพ ถกู กาลเทศะ - เวน้ วรรคตอนในการพดู ใหถ้ กู ตอ้ ง) 2) ใหน้ กั เรียนฝึกพดู แนะนาํ ตวั ทลี ะคน จากนนั้ ลองประเมินตนเองจากหล 3) แบง่ นกั เรียนเป็นกลมุ่ จดั กิจกรรม ประกวดเล่านิทาน โดยใหน้ กั เรยี นเล 4) แต่ละกลมุ่ สง่ ตวั แทน เร่มิ ออดชิ ่นั ประกวดเลา่ นิทาน จนครบทกุ กลมุ่ 5) ครูแจกสติก๊ เกอรไ์ ลก์ ใหน้ กั เรียนนาํ สตกิ๊ เกอรไ์ ปติดผเู้ ลา่ ท่ีคดิ ว่าเลา่ ไดน้ 2.3.ขัน้ สรุปองคค์ วามรู้ นกั เรยี นสรุปความรูเ้ ร่อื ง วธิ ีการพดู เลา่ เรอ่ื ง ใหม้ ีความนา่ สนใจ ควรมีวธิ ีอ 2.4.ขัน้ ประยุกตใ์ ช้ ใหน้ กั เรียนช่วยกนั ยกตวั อยา่ งสถานการณใ์ นการนาํ การพดู เลา่ เรอ่ื งไปใช้ (แนว 3.การวัดและประเมินผล วิธีวัด เครอ่ื งมือวดั 1. (A) สงั เกตพฤติกรรมในการสรา้ ง แบบสงั เกตพฤติกรรม แสดงความคิดเห ความสนใจใหก้ บั ผฟู้ ัง 382

e.com/watch?v=8Fh2ib2Ad8w (เวลา 4.38 นาที) ควรปฏบิ ตั ิอยา่ งไร ย่างดี ลกั การเลา่ เร่ืองว่าสามารถทาํ ไดใ้ นระดบั ใด ลือกนิทานตามความสนใจ ใหเ้ วลานกั เรยี นฝึกเลา่ นิทาน น่าสนใจท่สี ดุ ผเู้ ลา่ คนใดไดส้ ติก๊ เกอรม์ ากท่ีสดุ ไดร้ บั รางวลั สดุ ยอดนกั เลา่ อยา่ งไรบา้ ง วคาํ ตอบ : การพดู หนา้ เสาธง การพดู แนะนาํ ตนเอง การพดู นาํ เสนอหนา้ ชนั้ เรยี น) เกณฑก์ ารประเมิน หน็ อย่างนอ้ ย 1 ขอ้

แผนการจดั การเรยี นรู้ วชิ าภาษาไทย ประถมศกึ ษาปีท่ี 4 วิธีวดั เคร่อื งมอื วัด ดี – ผลงานนาํ เส เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน : - มขี อ้ มลู ความ 2. (K) ตรวจผลงานการบอกวธิ ีการ - ใชน้ าํ้ เสียงชดั เ สรา้ งความน่าสนใจใหก้ บั ตนเองใน - ใชค้ าํ ท่สี ภุ าพ ถ การพดู เลา่ เร่ือง - เวน้ วรรคตอนใ พอใช้ – ผลงานแ 3. (S) ประเมินความสามารถในการ เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ปรบั ปรุง – ผลงา พดู เลา่ เร่ืองโดยใชท้ ่าทางประกอบ ใหม้ ีความน่าสนใจ ดี – ผลงานการพ : - มีขอ้ มลู ความ - ใชน้ า้ํ เสยี งชดั เ - ใชค้ าํ ท่สี ภุ าพ ถ - เวน้ วรรคตอนใ พอใช้ – ผลงานแ ปรบั ปรุง – ผลงา 383

เกณฑก์ ารประเมิน สนอประเด็นสาํ คญั ของการพดู ดงั นี้ มรู้ และความเขา้ ใจในเรือ่ งท่ีจะเลา่ เป็นอย่างดี เจน ไม่เบาหรือดงั เกนิ ไป ถกู กาลเทศะ ในการพดู ใหถ้ กู ตอ้ ง) แสดงคณุ ภาพ 2-3 รายการ านแสดงคณุ ภาพ 1 รายการ พดู แสดงคณุ ภาพต่อไปนี้ มรู้ และความเขา้ ใจในเร่ืองท่จี ะเลา่ เป็นอยา่ งดี เจน ไม่เบาหรอื ดงั เกินไป ถกู กาลเทศะ ในการพดู ใหถ้ กู ตอ้ ง) แสดงคณุ ภาพ 2-3 รายการ านแสดงคณุ ภาพ 1 รายการ

แผนการจดั การเรยี นรู้ วชิ าภาษาไทย ประถมศกึ ษาปีท่ี 4 สมรรถนะย่อยที่ 3 แสดงความคดิ เหน็ อยา่ งสร้างสรรค์ อธิบายความร ซบั ซอ้ นมากขึน้ หรือมีอารมณห์ ลากหลายขนึ้ แสดงความอดทนในการรับแ แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 7 เรือ่ ง การพูดแสดงความคดิ เหน็ 1. มาตรฐาน ท 3.1สามารถเลอื กฟังและดอู ย่างมวี ิจารณญาณ และพดู แสดงคว ท 3.1 ป.4/3 พดู แสดงความรู้ ความคดิ เห็นและความรูส้ กึ เกี่ยวกบั เรือ่ งท่ีฟ 2.จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ (A K S ) 1. เห็นประโยชนข์ องการแสดงความคิดเห็น (A) 2. บอกหลกั การใชภ้ าษาในการพดู แสดงความคิดเหน็ ในท่สี าธารณะ (K) 3. พดู แสดงความคิดเห็นในท่ีสาธารณะอย่างมีมารยาท (S) 3. กิจกรรมการเรยี นรู้ 3.1 ข้นั เตรียมความพร้อมและตั้งข้อสังเกตในการเรยี นรู้ 1) ครูใหน้ กั เรียนดคู ลิป “เจด้ าตลาดแตก” https://www.youtube.com/w 0.01-3.38 ใหน้ กั เรียนดกู อ่ น 2) ใหน้ กั เรยี นรว่ มกนั แสดงความคิดเห็น ประเด็นต่อไปนี้ - นกั เรยี นรูส้ กึ อย่างไรกบั การกระทาํ ของตวั ละครท่ี ช่ือ เจด้ า ชอบ หรือ - การท่มี ีผถู้ ่ายคลิปของเจด้ า แลว้ ไปลงโซเชยี ล ทาํ ใหม้ ีคนเขา้ มาตาํ หน ถกู ตอ้ งหรือไม่อย่างไร - ครูใหน้ กั เรียนดคู ลิปจนจบ แลว้ ใหน้ กั เรียนแสดงความคิดเห็นว่าควา 384

รู้สึกทไ่ี ดร้ ับจากการรับสาร ประเภทตา่ ง ๆ ทมี่ ีความ เวลา 2 ช่ัวโมง และสง่ สารได้ เวลา 1 ช่ัวโมง วามรู้ ความคิด และความรูส้ กึ ในโอกาสต่างๆ อย่างมวี ิจารณญาณและสรา้ งสรรค์ ฟังและดู watch?v=ZtY0aU8JKB0 เวลา 4.50 น.) โดยครูเปิดคลิปแค่ช่วงแรกนาทที ่ี อไม่ชอบอยา่ งไร ใหเ้ หตผุ ล นิการกระทาํ ของเจด้ าในโลกโซเชียลมากมายนกั เรียนคิดว่าการกระทาํ ดงั กลา่ ว ามรูส้ กึ ของนกั เรียนเปลี่ยนไปจากเดิมหรือไม่

แผนการจดั การเรยี นรู้ วชิ าภาษาไทย ประถมศกึ ษาปีท่ี 4 3.2 ขัน้ จัดกระบวนการเรียนรู้ 1. แบ่งนกั เรยี นเป็นกลมุ่ ช่วยกนั ระดมสมองว่า ขอ้ ควรคาํ นงึ ในการแสด (แนวคาํ ตอบ : - มคี วามรูค้ วามเขา้ ใจเรื่องนนั้ เป็นอย่างดี - หาเหตผุ ลมาประกอบการแสดงความคิดเห็น โดยไม่ลาํ เอ - คิดใหด้ กี ่อนพดู - ใชถ้ อ้ ยคาํ ในเชงิ สรา้ งสรรค์ ไมใ่ ชค้ าํ หยาบคาย 2) แตล่ ะกลมุ่ นาํ เสนอ คาํ ตอบของกลมุ่ และครูช่วยเตมิ เต็ม 3) ครูติดแถบขอ้ ความ การใชโ้ ซเชียลออนไลนแ์ ฝงภยั รา้ ย มากกว่าใหป 4) แบง่ นกั เรียนเป็น 2 กลมุ่ กลมุ่ 1 แสดงความคดิ เหน็ เชงิ สนบั สนนุ เหน้ กลมุ่ 2 แสดงความคิดเหน็ เชงิ โตแ้ ยง้ ไม่เหน็ ดว้ ย 5) แต่ละกลมุ่ เขยี นแสดงความคิดเห็นลงในแผ่นกระชารท์ แลว้ ออกมาพดู 6) นกั เรยี นร่วมกนั เป็นผตู้ ดั สนิ ว่ากลมุ่ ใด สามารถถพดู แสดงความคิดเห็น มาประกอบการแสดงความคิดเหน็ ดงั นี้ - ความรูค้ วามเขา้ ใจเรอื่ งนนั้ เป็นอยา่ งดี - หาเหตผุ ลมาประกอบการแสดงความคดิ เห็น โดยไมล่ าํ เอ - คิดใหด้ ีก่อนพดู - ใชถ้ อ้ ยคาํ ในเชงิ สรา้ งสรรค์ ไม่ใชค้ าํ หยาบคาย - ความน่าสนใจของการพดู (รวมบคุ ลิกภาพของผพู้ ดู ) 7) นกั เรยี นท่ไี ดร้ บั ผลการประเมินสงู สดุ บอกเทคนิคท่ีดขี องการปฏบิ ตั 385

ดงความคิดเหน็ ควรมีวิธีปฏบิ ตั ิอย่างไรบา้ ง เขียนคาํ ตอบลงในกระดาษชารท์ อียง ป้ ระโยชน์ บนกระดาน นดว้ ย ดนาํ เสนอความคิดกลมุ่ นไดด้ ีกวา่ กนั โดยพจิ ารณาคณุ ภาพตามเกณฑ์ พรอ้ มนาํ เสนอขอ้ ความในบทพดู อียง ติตนท่ีทาํ ใหส้ ามารถพดู เลา่ เร่ืองไดด้ ี

แผนการจดั การเรยี นรู้ วชิ าภาษาไทย ประถมศกึ ษาปีท่ี 4 3.3.ขั้นสรุปองคค์ วามรู้ 1) รว่ มกนั สรุปความรูป้ ระเด็นตอ่ ไปนี้ - การพดู แสดงความคิดเหน็ อยา่ งมมี ารยาทควรปฏิบตั ิอย่างไรบา้ ง ( แนวคาํ ตอบ : มีความรูเ้ รื่องจะพดู มีหลกั การเหตผุ ลประกอบการข 3.4.ขัน้ ประยกุ ตใ์ ช้ นกั เรียนสามารถนาํ ความรูท้ ่ีเรยี นเรื่องการพดู แสดงความคดิ เห็นไปใชป้ ประโ (แนวคาํ ตอบ : แสดงความคิดเห็นในพืน้ ท่สี าธารณะ เชน่ เฟซ ไลน์ ทงั้ การพ 4. สือ่ /แหล่งเรียนรู้ - คลปิ “เจด้ าตลาดแตก” https://www.youtube.com/watch?v=ZtY0aU - แถบขอ้ ความ - กระดาษชารท์ 5.การวดั และประเมินผล เครอ่ื งมอื วัด แบบสงั เกตพฤติกรรม แสดงความคิดเห วิธีวดั 1. (A) สงั เกตพฤติกรรมในการ แสดงออกถึงการเหน็ ประโยชนข์ อง การแสดงความคิดเห็น 386

ขดั แยง้ ใชภ้ าษาสภุ าพ เหมาะสม สรา้ งสรรค์ ) โยชนอ์ ย่างไรไดบ้ า้ ง พดู และการเขียน) U8JKB0 เวลา 4.50 น.) เกณฑก์ ารประเมิน หน็ อย่างนอ้ ย 1 ขอ้

แผนการจดั การเรยี นรู้ วชิ าภาษาไทย ประถมศกึ ษาปีท่ี 4 วิธีวัด เครือ่ งมือวดั ดี – ผลงานนาํ เส 2. (K) ประเมนิ ความสามารถในการ เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน บอกหลกั การใชภ้ าษาในการพดู แสดงความคิดเห็นในท่สี าธารณะ 3. (S) ประเมนิ ความสามารถในการ เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน พอใช้ – แสดงคณุ พดู แสดงความคิดเหน็ ในท่ี ปรบั ปรุง – แสดง สาธารณะอย่างมีมารยาท ดี – พดู แสดงคว พอใช้ – แสดงคณุ ปรบั ปรุง – แสดง พอใช้ – ไดค้ ะแน ปรบั ปรุง – ไดค้ ะ 387

เกณฑก์ ารประเมิน สนอประเด็นท่เี ป็นใจความสาํ คญั ดงั นี้ - ความรูค้ วามเขา้ ใจเรื่องนนั้ เป็นอยา่ งดี - หาเหตผุ ลมาประกอบการแสดงความคิดเห็น โดยไม่ลาํ เอียง - คดิ ใหด้ ีกอ่ นพดู - ใชถ้ อ้ ยคาํ ในเชงิ สรา้ งสรรค์ ไม่ใชค้ าํ หยาบคาย - ความน่าสนใจของการพดู (รวมบคุ ลิกภาพของผพู้ ดู ) ณภาพ 3-4 รายการ งคณุ ภาพ 1-2 รายการ วามคิดเหน็ โดยแสดงคณุ ภาพดงั นี้ - ความรูค้ วามเขา้ ใจเรื่องนนั้ เป็นอยา่ งดี - หาเหตผุ ลมาประกอบการแสดงความคิดเห็น โดยไมล่ าํ เอียง - คดิ ใหด้ ีก่อนพดู - ใชถ้ อ้ ยคาํ ในเชงิ สรา้ งสรรค์ ไม่ใชค้ าํ หยาบคาย - ความน่าสนใจของการพดู (รวมบคุ ลิกภาพของผพู้ ดู ) ณภาพ 3-4 รายการ งคณุ ภาพ 1-2 รายการ นนรอ้ ยละ 60-79 ะแนนต่าํ กว่ารอ้ ยละ 60

แผนการจดั การเรยี นรู้ วชิ าภาษาไทย ประถมศกึ ษาปีท่ี 4 สมรรถนะยอ่ ยท่ี 3 แสดงความคิดเหน็ อย่างสร้างสรรค์ อธิบายความร ซบั ซอ้ นมากขึน้ หรือมอี ารมณห์ ลากหลายขนึ้ แสดงความอดทนในการรับแ แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ 8 เรือ่ ง การพูดปฏิเสธหรอื โต้แย้ง 1. มาตรฐาน ท 3.1สามารถเลอื กฟังและดอู ยา่ งมวี จิ ารณญาณ และพดู แสดงความ ท 3.1 ป.4/3 พดู แสดงความรู้ ความคิดเหน็ และความรูส้ กึ เก่ียวกบั เร่ืองท่ฟี 2.จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ (A K S) 1. เห็นความสาํ คญั ของการพดู ปฏเิ สธ/โตแ้ ยง้ ในสถานการณไ์ ด้ (A) 2. บอกหลกั การพดู ปฏิเสธหรอื โตแ้ ยง้ ในสถานการณไ์ ด้ (K) 3. สามารถพดู ปฏเิ สธหรือโตแ้ ยง้ ในสถานการณท์ ่กี าํ หนดใหไ้ ด(้ S) 3. กิจกรรมการเรยี นรู้ 3.1 ข้นั เตรียมความพร้อมและตั้งข้อสงั เกตในการเรยี นรู้ 1) ครูยกตวั อย่างสถานการณ์ ดงั นี้ ถา้ เพ่อื นชวนไปเท่ยี วแตน่ กั เรยี นไม 2) ครูติดแถบขอ้ ความคาํ พดู ท่ใี ชป้ ฏิเสธจากสถานการณท์ ่ีกาํ หนด ไมไ่ ป ขเี้ กียจไป ไม่ไปหรอก ไม่มตี งั ค์ ไม่ไปหรอก อย่บู า้ นดกี วา่ เราไปไม่ได้ วนั นีเ้ ราไมว่ า่ งจ 3) รว่ มกนั แสดงความคิดเห็น จากขอ้ ความ นกั เรียนจะเลือกใชค้ าํ พดู แบ 388

รู้สกึ ทไ่ี ดร้ ับจากการรับสาร ประเภทตา่ ง ๆ ทม่ี ีความ เวลา 2 ช่ัวโมง และสง่ สารได้ เวลา 1 ช่ัวโมง ามรู้ ความคดิ และความรูส้ กึ ในโอกาสตา่ งๆ อยา่ งมวี จิ ารณญาณและสรา้ งสรรค์ ฟังและดู มว่ า่ ง นกั เรยี นจะมวี ิธีพดู ปฏิเสธอยา่ งไร ขอโทษดว้ ยนะ เราไปไม่ได้ ตอ้ งชว่ ยแมท่ าํ งานจา้ จรงิ ๆ ไวโ้ อกาสหนา้ นะ บบใด เพราะอะไร และการพดู ในแต่ละรูปแบบส่งผลกระทบอย่างไรหลงั การพดู