แผนตัวอย่างวิชาภาษาไทย

แผนการจดั การเรยี นรู้ วชิ าภาษาไทย ประถมศกึ ษาปีท่ี 4 ข่าว เร่ือง “โอมิครอน” กลายพันธุ์ ระบาดห หลงั การคลายล็อกมาตรการ COVID-19 ดว้ ยการอนุญาตให้ถอดหน GISAID ว่า ประเทศแถบยุโรปและแอฟริกาใตพ้ บ โอมิครอนสายพนั ธุย์ อ่ ย BA อ่ฮู ่นั มากท่ีสดุ ประมาณเกือบ 90 ตาํ แหนง่ สว่ น BA.4 พบการกลายพนั ธตุ์ ่างไปจาก ในโปรตุเกสเข้ารักษาในโรงพยาบาลเพิ่มขึน้ อย่างมีนัยสาํ คัญมากกว่า 80% ร เนเธอรแ์ ลนด์ ฝร่งั เศส เยอรมนี เบลเยียม สเปน อิตาลี เดนมารก์ ส่วนใหญ่เป็นป โรงพยาบาลเพ่ิมขึน้ ลา่ สดุ ศ.เกียรติคณุ ดร.วสนั ต์ จนั ทราทิตย์ หวั หนา้ ศนู ยจ์ ีโนมทางการแพท ในประเทศไทย ฐานขอ้ มลู GISAID ท่ีสถาบนั การแพทยต์ ่างๆ รว่ มถอดรหสั พนั ธุกร คน BA.4 จาํ นวน 23 คน และ BA.2.12.1 จาํ นวน 18 คน ตงั้ แตเ่ ดอื นเมษายน 2565 เป็นชาวตา่ งชาติท่เี ดนิ ทางเขา้ มาในประเทศไทย เน่ืองจากท่ศี นู ยจ์ โี นมฯ ทาํ การถอด ท่พี บและรายงานใน GISAID เป็นการสมุ่ ตรวจโดยกระทรวงสาธารณสขุ ศ.เกียรติคณุ ดร.วสนั ตบ์ อกว่า ส่ิงท่ีเกิดขึน้ ไม่ใช่เรื่องเหนือการคาดหมาย สดุ ทา้ ยท่ีจะระบาด อาจจะมสี ายพนั ธุใ์ หมเ่ กิดขึน้ แต่จะรุนแรงมากนอ้ ยแค่ไหน ไม่ม ต่อไป https://www.thairath.co.th/news/loca 30

หนักยุโรป...พบเพิม่ จาํ นวนเร็วในเซลลป์ อด น้ากากได้ในท่ีโล่งของ ศบค.เพียง 2 วัน มีขอ้ มูลจากฐานข้อมูลโควิดโลก หรือ A.5 และ BA.4 เพม่ิ มากขึน้ โดย BA.5 พบการกลายพนั ธุต์ ่างไปจากสายพนั ธุด์ งั้ เดิม กสายพนั ธดุ์ งั้ เดมิ ประมาณ 80 ตาํ แหน่ง นอกจากนีย้ งั มรี ายงานพบผตู้ ิดเชอื้ รายใหม่ รองลงมาคือแอฟริกาใต้เพิ่มขึน้ ประมาณ 50% ตามมาด้วยอังกฤษ ออสเตรีย ประเทศแถบยุโรปเกือบทัง้ หมดท่ีเร่ิมเห็นสญั ญาณผูต้ ิดเชือ้ รายใหม่เขา้ รกั ษาตัวท่ี ทย์ คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลยั มหดิ ล ออกมายืนยนั วา่ รรมและบนั ทึกขอ้ มลู เขา้ ไปพบมีผตู้ ิดเชือ้ โอมิครอนสายพนั ธุย์ ่อย BA.5 จาํ นวน 26 5 เป็นตน้ มาจนถงึ ปัจจบุ นั จาํ นวนดงั กลา่ วเป็นการสมุ่ ตรวจ โดยรายท่พี บส่วนใหญ่ ดรหสั ในพนื้ ท่ี กทม.และปรมิ ณฑลยงั ไม่พบสายพนั ธุ์ BA.5 และ BA.4 ขอ้ มลู ในราย เน่ืองจากก่อนหนา้ นี้ องคก์ ารอนามยั โลก (WHO) ระบุว่าโอมิครอนไม่ใช่สายพันธุ์ มีใครบอกได้ ส่ิงสาํ คญั ท่ีสดุ คือตอ้ งไม่ประมาทและระมดั ระวงั ตนเองอย่างเคร่งครดั al/2428281

แผนการจดั การเรยี นรู้ วชิ าภาษาไทย ประถมศกึ ษาปีท่ี 4 คาํ ถาม 1. โอมิครอนสายพนั ธยุ์ ่อยมีช่อื เรยี กว่าอะไร ........................................................................................................................ 2. โอมิครอนสายพนั ธยุ์ ่อยมีความแตกตา่ งจากสายพนั ธุอ์ ่ฮู ่นั อย่างไร ........................................................................................................................ 3. ประเทศใดบา้ งท่ีพบการระบาดของโอมคิ รอนสายพนั ธยุ์ อ่ ย ........................................................................................................................ 4. ปัจจบุ นั โอมิครอนสายพนั ธยุ์ ่อยระบาดหนกั ในประเทศใดมากท่ีสดุ ........................................................................................................................ 5. ขอ้ มลู การระบาดของโอมิครอนสายพนั ธยุ์ ่อยมาจากหน่วยงานใด ........................................................................................................................ 6. การติดเชือ้ โอมิครอนสายพนั ธุย์ ่อยในประเทศไทยมาจากท่ีใด ........................................................................................................................ 7. จากข่าวนีค้ นไทยควรทาํ อยา่ งไร เพราะอะไร ........................................................................................................................ 31

....................................................... ....................................................... ....................................................... ....................................................... ....................................................... ....................................................... .......................................................

แผนการจดั การเรยี นรู้ วชิ าภาษาไทย ประถมศกึ ษาปีท่ี 4 เรื่อง สุนัขจงิ้ จอ สนุ ขั จิง้ จอกตวั หน่ึงหนีการตามล่าของนายพรานมาเจอกับคนตดั ไม้ มนั จึง หลบในกระท่อมก่อนแลว้ กนั \" สนุ ขั จิง้ จอกรีบว่ิงเขา้ ไปในกระท่อม สกั ครูน่ ายพรานต ตัดไมป้ ฏิเสธ แต่มือของคนตัดไมพ้ ยายามชีบ้ อกว่าสนุ ขั อยู่ในกระท่อม นายพราน นายพรานไปแลว้ จงึ ออกมาจากกระท่อมและกาํ ลงั จะเดินหนีไป คนตดั ไมจ้ งึ พดู ขนึ้ ว จงึ ตอบวา่ \"ขา้ ก็อยากจะขอบใจท่านนะ ถา้ ท่านมเี จตนาชว่ ยชีวิตขา้ จากใจจรงิ \" พดู จ http://www.kalyanamitra.org/th/mngkhlchiwit38_deta แนวทางการตั้งคาํ ถามและตอบคาํ ถาม 1. จากเรอ่ื งสนุ ขั จิง้ จอกกบั คนตดั ไมม้ ตี วั ละครสาํ คญั ทงั้ หมดกี่ตวั และใครบา้ ง ตอบ มีตวั ละครสาํ คญั ทงั้ หมด 3 ตวั ไดแ้ ก่ สนุ ขั จิง้ จอก คนตดั ไม้ และนายพรา 2. นายพรานตามหาสนุ ขั จงิ้ จอกพบหรือไม่ เพราะเหตใุ ด (เป็นคาํ ถามทถี่ ามถงึ เหตกุ ตอบ ไม่พบ เพราะเขาไมเ่ ขา้ ใจในสง่ิ ท่คี นตดั ไมพ้ ยายามบอกจึงเดินจากไป 3. เร่ืองนเี้ กิดขนึ้ ท่ไี หน (เป็นคาํ ถามทถี่ ามถงึ สถานท)ี่ ตอบ กระทอ่ ม/ป่า 4. จากเนือ้ เรื่องท่ไี ดอ้ า่ นนกั เรียนคิดว่าเหตกุ ารณท์ ่ีเกิดขนึ้ นีเ้ ป็นเวลาใด (เป็นคาํ ถาม ตอบ กลางวนั 5. เหตใุ ดสนุ ขั จงิ้ จอกจึงมาขอซ่อนตวั ท่ีกระท่อมของคนตดั ไม้ (เป็นคาํ ถามท่ถี ามถงึ ล ตอบ เพราะตอ้ งการหนีการตามลา่ ของนายพราน 32

อกกับคนตัดไม้ งขอหลบตวั ซ่อน \"ขา้ ขอซ่อนตวั ท่ีน่ีหน่อยไดไ้ หม\" คนตดั ไมต้ อบว่า \"ไดส้ ิ เจา้ เขา้ ไป ตามมาทนั เจอคนตดั ไมจ้ ึงถามว่า \"เจา้ เห็นสนุ ขั จิง้ จอกผ่านมาทางนีบ้ า้ งไหม\" คน นไม่เขา้ ใจในสิ่งท่ีคนตดั ไมพ้ ยายามบอกจึงเดินจากไป ฝ่ ายสนุ ัขจิง้ จอกเม่ือเห็นว่า ว่า \"เด๋ยี วกอ่ น ขา้ ช่วยชีวิตเจา้ ไว้ เจา้ ไม่คดิ จะขอบคณุ ขา้ บา้ งเลยเหรอ\" สนุ ขั จงิ้ จอก จบมนั กเ็ ดนิ จากไป ail.php?page=2209 าน การณ์ในเรอื่ ง) มทถี่ ามถงึ เวลาทเี่ กิดเหตกุ ารณ)์ ลกั ษณะของเหตกุ ารณ์ )

แผนการจดั การเรยี นรู้ วชิ าภาษาไทย ประถมศกึ ษาปีท่ี 4 6. คนตดั ไมท้ าํ อยา่ งไรท่ที าํ ใหส้ นุ ขั จงิ้ จอกไม่พอใจอย่างมาก (คาํ ถามทถี่ ามถงึ สาเหต ตอบ คนตดั ไมต้ อบคาํ ถามนายพรานว่าไม่เหน็ สนุ ขั จิง้ จอก แตม่ ือกลบั ชีไ้ ปทางกระ 7. คนตดั ไมไ้ ดร้ บั ผลจากการกระทาํ ของตนเองอย่างไร (คาํ ถามทถี่ ามถงึ ผลทเี่ กิดขึน้ ตอบ สนุ ขั จิง้ จอกต่อว่าคนตดั ไมท้ ่กี ลา้ มาทวงบญุ คณุ ท่ีใหก้ ารชว่ ยเหลือตนเอง 8. เรอ่ื งนใี้ หข้ อ้ คิดกบั ผอู้ า่ นอยา่ งไร (คาํ ถามทถี่ ามถงึ ขอ้ คิด ) ตอบ การกระทาํ /คาํ พดู ท่ีดีบางครงั้ อาจแฝงดว้ ยเจตนารา้ ย 9. นกั เรยี นสามารถนาํ ขอ้ คิดท่ไี ดร้ บั ไปปรบั ใชใ้ นชีวิตประจาํ วนั ไดอ้ ย่างไร (คาํ ถามทถี่ ตอบ เราไมค่ วรเช่ือใจหรือไวว้ างใจคนง่ายๆ ควรคิดใหร้ อคอบก่อนเสมอ เรือ่ ง กบ ครงั้ หน่งึ มีกบสองตวั เป็นเพ่ือนกนั กบตวั หน่ึงอาศยั อย่ใู นบงึ ซง่ึ มีนา้ํ เต็มปร่ีตลอด ถงึ ฤดแู ลง้ นา้ํ กแ็ หง้ ขอด ชาวไรม่ กั ใชเ้ ป็นเสน้ ทางลากเกวียน เจา้ กบจึงมเี พยี งนาํ้ ท่ขี กบในบงึ จึงเอ่ยชวนว่า \" เพ่ือนรกั เจา้ มาอย่ใู นบงึ กบั ขา้ เถอะ นาํ้ ใสเย็นและป หรอก ขเี้ กียจยา้ ยท่ีอย่บู ่อย ๆ เด๋ยี วพอถึงหนา้ ฝนกม็ นี า้ํ เต็มหว้ ยเองน่นั แหละ \" ตอ่ มาวนั หนึง่ ขณะท่เี จา้ กบในลาํ หว้ ยกาํ ลงั เลน่ นา้ํ อยใู่ นรอยเกวียนนนั้ ไดม้ ชี า บดทบั จนทอ้ งแตกตายในท่สี ดุ http://www.kalyanamitra.org/th/mngkhlchiwit38_deta 33

ตขุ องการกระทาํ ) ะท่อมท่ีสนุ ขั จิง้ จอกหลบอยู่ นจากเหตกุ ารณ)์ ถามถงึ การนาํ ไปใช)้ บสองตวั ดปีและมเี พ่ือนพอ้ งกบอีกหลายตวั สว่ นกบอีกตวั หนึ่งอาศยั อยใู่ นลาํ หว้ ยเลก็ ๆ เม่อื ขงั ในรอยเกวียนเป็นแอง่ นาํ้ เลก็ ๆ ใหอ้ ยอู่ าศยั เทา่ นนั้ ปลอดภยั กว่าแอ่งนาํ้ ท่ีเจา้ อยู่ตงั้ มากมาย \" แต่กบในลาํ หว้ ยกลบั ปฏิเสธ \" ขา้ ไม่ไป าวไรข่ บั เกวยี นลงรอ่ งทางเดิมกบั ท่ีเจา้ กบโชครา้ ยกาํ ลงั เลน่ นา้ํ อยู่ มนั จึงถกู ลอ้ เกวยี น ail.php?page=2209

แผนการจดั การเรยี นรู้ วชิ าภาษาไทย ประถมศกึ ษาปีท่ี 4 แนวทางการตั้งคาํ ถามและตอบคาํ ถาม 1. จากเรื่องกบสองตวั มตี วั ละครสาํ คญั ทงั้ หมดก่ีตวั และใครบา้ ง (เป็นคาํ ถามทถี่ ามถ ตอบ มีตวั ละครสาํ คญั ทงั้ หมด 3 ตวั ไดแ้ ก่ กบในบงึ กบในลาํ หว้ ย และชาวไร 2. เหตใุ ดกบในบงึ จึงชวนกบในลาํ หว้ ยมาอยู่ดว้ ยกนั (เป็นคาํ ถามทถี่ ามถงึ เหตกุ ารณ ตอบ เพราะนาํ้ ในลาํ หว้ ยท่ีกบในลาํ หว้ ยอาศยั อย่แู หง้ ขอด 3. เรื่องนีน้ ่าจะเกิดขนึ้ ท่ีใด (เป็นคาํ ถามทถี่ ามถงึ สถานท)ี่ ตอบ หนองนาํ้ /บงึ /ลาํ หว้ ย/ถนน 4. จากเนอื้ เร่ืองท่ไี ดอ้ า่ นนกั เรียนคิดวา่ เหตกุ ารณท์ ่เี กิดขึน้ นเี้ ป็นชว่ งฤดใู ด (เป็นคาํ ถา ตอบ ฤดรู อ้ น 5. กบในบงึ มาหากบในลาํ หว้ ยเพราะเหตใุ ด (เป็นคาํ ถามทถี่ ามถงึ ลกั ษณะของเหตกุ ตอบ กบในบงึ มาชวนกบในลาํ หว้ ยไปอาศยั อย่ใู นบงึ ดว้ ยกนั 6. เหตใุ ดกบในลาํ หว้ ยจงึ ไม่ยา้ ยไปอยใู่ นบงึ ตามท่ีเพ่อื นชกั ชวน (คาํ ถามทถี่ ามถงึ สา ตอบ เพราะขีเ้ กียจยา้ ยท่ีอย่บู อ่ ย ๆ และเขาเช่ือว่าเม่ือหนา้ ฝนมาถึงกจ็ ะมนี า้ํ เตม็ ห 7. กบในลาํ หว้ ยไดร้ บั ผลจากการกระทาํ ของตนเองอย่างไร (คาํ ถามทถี่ ามถงึ ผลทเี่ ก ตอบ กบในลาํ หว้ ยถกู ชาวไรข่ บั เกวียนบดทบั จนทอ้ งแตกตาย 8. เร่อื งนีใ้ หข้ อ้ คิดกบั ผอู้ ่านอยา่ งไร (คาํ ถามทถี่ ามถงึ ขอ้ คิด ) ตอบ ควรใหค้ วามสาํ คญั และรบั ฟังคาํ แนะนาํ ท่ดี ีกว่า 9. นกั เรียนสามารถนาํ ขอ้ คิดท่ีไดร้ บั ไปปรบั ใชใ้ นชีวติ ประจาํ วนั ไดอ้ ย่างไร (คาํ ถามทถี่ ตอบ เราควรเช่ือและปฏิบตั ติ ามคาํ แนะนาํ ท่ีดีและเกิดประโยชนม์ ากกว่า 34

ถงึ ตวั ละครสาํ คญั ของเรือ่ ง) ร่ ณ์ในเรอื่ ง) ถามทถี่ ามถงึ เวลาทเี่ กิดเหตกุ ารณ)์ การณ์ ) าเหตขุ องการกระทาํ ) หว้ ยขึน้ มา กิดขึน้ จากเหตกุ ารณ)์ ถามถงึ การนาํ ไปใช)้

แผนการจดั การเรยี นรู้ วชิ าภาษาไทย ประถมศกึ ษาปีท่ี 4 สมรรถนะย่อยท่ี 1 อ่านเรื่องจากส่อื ตา่ งๆ แลว้ ตงั้ คาํ ถาม ตอบคาํ ถาม จบั ใจคว เหตผุ ลเพ่ือประเมินความเหมาะสมของขอ้ มลู ในการลงขอ้ สรุปไดอ้ ย่างถกู ตอ้ งและ แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 3 เรอ่ื ง เรื่องนีม้ ขี ้อคดิ 1. มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชีว้ ดั มาตรฐาน ท 1.1 ใชก้ ระบวนการอา่ นสรา้ งความรูแ้ ละความคิดเพ่ือนาํ ไปใช ท 1.1 ป. 4/6 สรุปความรูแ้ ละขอ้ คิดจากเร่ืองท่อี ่านเพ่ือนาํ ไปใชใ้ น 2. จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ 2.1 เห็นประโยชนข์ องขอ้ คิดในการนาํ ไปพฒั นาตนเอง (A) 2.2 บอกวธิ ีการนาํ เสนอขอ้ คิดจากเร่ืองท่อี า่ น/ฟัง และดไู ด้ (K) 2.3 ระบขุ อ้ คดิ จากเร่ืองท่อี ่าน/ฟัง และดไู ด้ (S) 3. กจิ กรรมการเรียนรู้ 3.1 ข้นั เตรียมความพร้อมและตัง้ ขอ้ สงั เกตในการเรียนรู้ 1) นกั เรยี นเลน่ เกม “จบั ค่”ู ดงั นี้ ชอ่ื เกม จบั คู่ อปุ กรณ์ 1) แผน่ ปา้ ย “ขอ้ คิด” จาํ นวน 5 แผน่ ปา้ ย 2) แผ่นปา้ ย “ สถานการณท์ ่ีสอดคลอ้ งกบั ขอ้ คิด” จาํ นวน วิธกี ารเลน่ 1) ครูนาํ แผ่นปา้ ย “ขอ้ คดิ ” และแผ่นปา้ ย “สถานการ 35

วามสาํ คญั สรุปความรู้ ขอ้ คิด และแสดงความคิดเห็นอย่างมี เวลา 4 ช่ัวโมง ะ/หรือ ตดั สนิ ใจเลือกทางใดทางหนึง่ เวลา 1 ช่ัวโมง ชต้ ดั สนิ ใจ แกป้ ัญหาในการดาํ เนนิ ชีวติ และมีนสิ ยั รกั การอา่ น นชวี ติ ประจาํ วนั น 5 แผ่นปา้ ย รณท์ ่สี อดคลอ้ งกบั ขอ้ คดิ ”

แผนการจดั การเรยี นรู้ วชิ าภาษาไทย ประถมศกึ ษาปีท่ี 4 เสยี บไวท้ ่กี ระเป๋ าผนงั โดยคว่าํ หนา้ กระดาษ ทงั้ นเี้ สนอแนะใหต้ ิดแผ่นปา้ ยทงั้ สองแ แผน่ ปา้ ย “ขอ้ คิด” แผ่นท่ี 1 แผน่ ท่ี 2 แผ่นท่ี 3 แผน่ ท่ี 4 แผ่นท่ี 5 2) แบ่งนกั เรียนเป็น 2 กลมุ่ กลมุ่ ท่ี 1 เลือกเปิดแผน่ ปา้ ย “ขอ้ คิด” จ เปิดแผน่ ปา้ ย “สถานการณท์ ่ีสอดคลอ้ งกบั ขอ้ คิด” จาํ นวน 1 แผ่น พรอ้ มอ่านออกเสีย ปา้ ยมีความสอดคลอ้ งกนั หรือไม่ กรณีสอดคลอ้ งกนั กลมุ่ ท่เี ปิดแผ่นปา้ ยไดร้ บั คะแน ทงั้ 2 แผน่ ลงดงั เดมิ 3) กลมุ่ ท่ี 2 ดาํ เนินกจิ กรรมตามขอ้ 2) และสลบั กนั ปฏิบตั ิกิจก 2) นกั เรียนรว่ มกนั พิจารณา ขอ้ คิด กบั สถานการณท์ ่สี อดคลอ้ งกบั (แนวคาํ ตอบ : การปฏิบตั ติ นตามขอ้ คิด ช่วยใหเ้ ราอยใู่ นสงั คมสว่ นรวมไดอ้ ย่างปกต 36

แบบไม่ใหต้ รงกนั ดงั ตวั อย่าง แผ่นปา้ ย “สถานการณท์ ่ีสอดคลอ้ งกบั ขอ้ คิด” แผ่นท่ี 1 แผ่นท่ี 2 แผ่นท่ี 3 แผน่ ท่ี 4 แผ่นท่ี 5 จาํ นวน 1 แผ่น และ ยงขอ้ ความทงั้ 2 แผน่ ปา้ ย โดยใหส้ มาชิกกลมุ่ อ่ืนพิจารณาว่าขอ้ ความทงั้ 2 แผน่ นน 1 คะแนน พรอ้ มทงั้ หงายแผ่นปา้ ยคา้ งไว้ กรณีไมส่ อดคลอ้ งกนั ใหค้ ว่าํ แผน่ ป้าย กรรมไปเร่ือย ๆ จนเปิดแผน่ ปา้ ยไดค้ รบทงั้ หมด บขอ้ คิด ว่ามีประโยชนอ์ ย่างไร พรอ้ มทงั้ รว่ มกนั นาํ เสนอประโยชนข์ องขอ้ คิด ตสิ ขุ และเกิดการยอมรบั มีความเชอื่ ใจและไวว้ างใจซ่งึ กนั และกนั )

แผนการจดั การเรยี นรู้ วชิ าภาษาไทย ประถมศกึ ษาปีท่ี 4 3) นกั เรยี นจะมวี ธิ ีการอย่างไรในการหาขอ้ คดิ จากบทอ่านท่ีจะทาํ ใ (แนวคาํ ตอบ : 1) อ่านเนือ้ เรอื่ งตงั้ แต่ตน้ จนจบเรอื่ ง 2) ทาํ ความเขา้ ใจเนอื้ เรอื่ งทอี่ ลงสรุปเป็นขอ้ คดิ ทไี่ ดร้ บั ) 3.3 ข้นั จัดกระบวนการเรยี นรู้ 1) แบง่ นกั เรียนออกเป็น 4 กลมุ่ โดยคละความสามารถผเู้ รียน 2) นกั เรยี นแตล่ ะกลมุ่ รบั บทอ่านท่ีเป็นนทิ าน เร่ืองเต่ากบั นกอินทรี 3). นกั เรียนรบั ใบงาน เร่ือง ถอดรหสั หาขอ้ คิด โดยมีปฏบิ ตั ิกิจกรรม - กาํ หนดใหน้ กั เรยี นอ่านบทอา่ น แลว้ พิจารณาว่า ขอ้ คิดด ตอนใดของบทอา่ น - ขอ้ คิดท่ไี ดจ้ ากบทอา่ น สามารถระบเุ ป็นพฤติกรรมในการ 4) นกั เรียนนาํ เสนอผลการปฏบิ ตั ใิ บงาน เรอื่ ง ถอดรหสั หาขอ้ คดิ เ และแสดงความคิดเหน็ เกี่ยวกบั ผลงานในประเด็นท่สี อดคลอ้ ง/ไม่สอดคลอ้ งกนั 5) นกั เรียนปฏิบตั ิกิจกรรมขอ้ 3-4 อีกครง้ั แต่รบั บทอ่านท่ีเป็นข่าว ใ โรคและตาย 6) นกั เรยี นร่วมกนั สรุปแนวทางการนาํ เสนอขอ้ คิดจากบทอา่ น ดว้ ย อา่ น แลว้ ระบวุ ่า เป็นสถานการณท์ ่ีทาํ ใหเ้ กดิ ขอ้ คดิ หรือไม่ โดยดาํ เนินการดงั นี้ เม่ือไดย้ ินสัญญาณใหแ้ สดงความคิด ใหย้ ืนขึน้ เม่ือคิดว่าสถานการณ สถานการณด์ งั กลา่ วไม่ใชส่ ถานการณท์ ่ีทาํ ใหไ้ ดข้ อ้ คิด โดยครูนาํ เสนอขอ้ ความท่ลี ะ 37

ใหเ้ ราไดร้ บั รูแ้ ละนาํ ไปใชป้ ระโยชน์ อา่ น 3) จบั ใจความสาํ คญั หรือประเดน็ สาํ คญั ทผี่ ูเ้ ขียนตอ้ งการใหข้ อ้ คิดกบั ผูอ้ ่าน 4) ซง่ึ ในบทอา่ นจะระบขุ อ้ คิดของนิทานประกอบไวด้ ว้ ย มดงั นี้ ดงั กลา่ วมาจากเนือ้ หาสว่ นใด/สถานการณ์ รปฏบิ ตั ิตนอย่างไรไดบ้ า้ ง (นาํ เสนออยา่ งนอ้ ย 2 พฤติกรรม) เม่อื นาํ เสนอผลงานครบทุกกลมุ่ แลว้ กาํ หนดใหส้ มาชิกแต่ละกลมุ่ รว่ มกนั ตรวจสอบ ในหวั ขอ้ ขา่ ว ประมงเตอื นระวัง ‘เหบ็ ปลา’ กระชัง ชว่ งน้าํ เปล่ียนสี ทาํ ให้เกดิ ยกิจกรรม “เลอื กใหไ้ ดแ้ ตม้ ” ซ่งึ เป็นกิจกรรมท่ใี หน้ กั เรียนพิจารณาสถานการณก์ าร ณ์ดังกล่าวเป็นสถานการณ์ท่ีทาํ ใหเ้ กิดข้อคิดให้น่ังท่ีเก้าอีเ้ หมือนเดิม เม่ือคิดว่า ะ 1 สถานการณ์ ดงั นี้

แผนการจดั การเรยี นรู้ วชิ าภาษาไทย ประถมศกึ ษาปีท่ี 4 สถานการณก์ ารอา่ น 1. อ่านเรื่องแลว้ ตอบคาํ ถามต่างๆ ได้ 2. อ่านเรื่องแลว้ หาใจความสาํ คญั 3. อ่านออกเสียงคาํ ไดถ้ กู ตอ้ ง 4. อา่ นหนงั สือกบั เพ่ือนคนละหนง่ึ บรรทดั 5. อา่ นเร่ืองแลว้ ขดี เสน้ ใตค้ าํ ยาก 6. อา่ นในใจแลว้ ลาํ ดบั เหตกุ ารณท์ ่ีเกิดขึน้ 7. อา่ นเนือ้ เรอ่ื งในบทเรียนแลว้ นาํ ไปเลน่ บทบาทสมมตุ ิ 7) ชมเชยนกั เรียนท่สี ามารถระบไุ ดว้ ่าขอ้ คิดสามารถเกิดขนึ้ จากสถ 8) นกั เรียนทาํ กิจกรรม “ถกู ตอ้ งแลว้ ครบั ” ช่อื กจิ กรรม ถกู ตอ้ งแลว้ ครบั จดุ ประสงค์ บอกขอ้ คิดจากรูปภาพท่ีไดด้ ไู ดถ้ กู ตอ้ ง อุปกรณ์ : รูปภาพ จาํ นวน 5 ภาพ กระดาษ ปากกา วิธกี ารเลน่ : 1) นกั เรียนแต่ละกลมุ่ ดภู าพ และชว่ ยกนั พจิ ารณาว่าขอ้ คิดท่ีไ ละกลมุ่ ยกกระดาษท่ีเขียนขึน้ 2) นกั เรียนรว่ มกนั พิจารณาขอ้ คิดจากทุกกล่มุ โดยมีครูคอยแนะ 3) นกั เรียนแต่ละกลมุ่ รว่ มกนั ทาํ กจิ กรรมตามขนั้ ตอนในขอ้ ท่ี 1- 4) แต่ละกลมุ่ รวบรวมคะแนน ใครมีคะแนนเตม็ 100 ไดร้ บั คาํ ช 38

เฉลย ทาํ ใหเ้ กิดขอ้ คิด ทาํ ใหเ้ กิดขอ้ คิด ไม่ทาํ ใหเ้ กดิ ขอ้ คิด ไม่ทาํ ใหเ้ กดิ ขอ้ คิด ไม่ทาํ ใหเ้ กดิ ขอ้ คิด ทาํ ใหเ้ กิดขอ้ คิด ทาํ ใหเ้ กิดขอ้ คิด ถานการณใ์ ดไดจ้ าํ นวนมากท่ีสดุ ไดจ้ ากรูปภาพคอื อะไร แลว้ เขียนลงในกระดาษ เม่ือครูใหส้ ญั ญาณหมดเวลาใหแ้ ต่ ะนาํ พรอ้ มลงสรุปกลมุ่ ท่ี “ถกู ตอ้ งแลว้ ครบั ” จะไดค้ ะแนน 20 คะแนน -2 จนครบทงั้ 4 ภาพท่ีเหลอื ชมเชย

แผนการจดั การเรยี นรู้ วชิ าภาษาไทย ประถมศกึ ษาปีท่ี 4 3.3 ข้นั สรุปองคค์ วามรู้ นกั เรยี นนาํ เสนอแนวทางการระบขุ อ้ คิดจากบทอ่าน ตามความเขา้ ใจของตน (แนวคาํ ตอบ : 1) อ่านเนือ้ เรือ่ งตงั้ แต่ตน้ จนจบเรอื่ ง 2) ทาํ ความเขา้ ใจเนอื้ เ ผูอ้ ่าน 4) ลงสรุปเป็นขอ้ คดิ ทไี่ ดร้ บั ) 3.4 ข้นั ประยกุ ตใ์ ช้ นกั เรียนเลือกขอ้ คิดท่ีสนใจจาํ นวน 1 ขอ้ แลว้ นาํ เสนอสถานการณท์ ่สี อดคล แลกเปลีย่ นเรียนรู้ 4. สื่อและแหล่งเรียนรู้ 1. รูปภาพ 2. กระเป๋ าผนงั 3. กระดาษ/กระดาษชารจ์ 4. ปากกาสาํ หรบั เขียนงานในกระดาษชารจ์ 5. เพลงและเคร่อื งเลน่ 5. การวดั และประเมินผล เคร่ืองม การแสดงความค วธิ วี ัด เกณฑก์ ารใหค้ ะแ 1. บอกประโยชนข์ องขอ้ คิดในการนาํ ไปพฒั นาตนเอง (A) 2. อธิบายเก่ียวกบั ขอ้ คดิ จากเร่อื งท่ีอา่ น/ฟัง และดไู ด้ (K) 39

นเอง เรือ่ งทอี่ ่าน 3) จบั ใจความสาํ คญั หรือประเดน็ สาํ คญั ทผี่ ูเ้ ขียนตอ้ งการใหข้ อ้ คดิ กบั ลอ้ งกบั ขอ้ คิด โดยเขียนลงในกระดาษท่ี แลว้ นาํ ผลงานไปตดิ ไวท้ ่ีปา้ ยนิเทศ เพ่ือการ มอื วัด เกณฑก์ ารประเมิน คดิ เหน็ แนน แสดงความคิดเห็นอยา่ งนอ้ ย 1 ขอ้ ดี-แสดงความคดิ เหน็ อยา่ งนอ้ ย 3 ขอ้ พอใช-้ แสดงความคิดเห็น อยา่ งนอ้ ย 2 ขอ้ ปรบั ปรุง –แสดงความคิดเห็น อย่างนอ้ ย 1 ขอ้

แผนการจดั การเรยี นรู้ วชิ าภาษาไทย ประถมศกึ ษาปีท่ี 4 วิธีวัด เครือ่ งม 3. ตรวจผลงานระบขุ อ้ คิดจากเร่ืองท่ีอ่าน/ฟัง และดไู ด้ (S) เกณฑก์ ารใหค้ ะแ 40

มอื วัด เกณฑก์ ารประเมิน แนน ดี- ผลงานการระบขุ อ้ คดิ เห็นมีคณุ ภาพดงั นี้ 1) ขอ้ คิดสอดคลอ้ งกบั บทอา่ น 2) มีการใชภ้ าษาท่ีชดั เจน ครอบคลมุ กระชบั 3) สามารถนาํ ไปปรบั ประยกุ ตใ์ ชไ้ ดจ้ รงิ พอใช้ – ระบขุ อ้ คิดเห็นมีคณุ ภาพตามเกณฑ์ 1 รายการ ปรบั ปรุง – ระบขุ อ้ คิดเห็นไม่สอดคลอ้ งกบั เกณฑท์ ่ีกาํ หนด

แผนการจดั การเรยี นรู้ วชิ าภาษาไทย ประถมศกึ ษาปีท่ี 4 อุปกรณส์ าํ หรับเกมจับคู่ ภาคผ แผ่นป้าย “ขอ้ คิด”จาํ นวน 5 แผน่ ป้าย “ สถ แผ่น แผน่ ที่ 1 การละทงิ้ สิง่ ทดี่ ีงามเหมาะสม ปทู ะเลตวั หนง่ึ ไดเ้ ดนิ ขนึ้ มาหากนิ บนช กบั ตนเอง อาจนาํ ภัยมาถงึ ตัว เห็นปทู ะเลตวั ใหญ่ก็ดใี จตรงเขา้ ตะปบจบั ไวท้ นั อยเู่ ลยเรา \" แผน่ ที่ 2 ผู้หลงกบั ความสุขช่วั ครู่อาจ แมลงวนั ฝงู หนงึ่ พบโถนา้ํ ผงึ้ หกตะแคง พบความทุกขใ์ นภายหลัง ในนาํ้ ผงึ้ ขน้ เหนยี ว ไมม่ แี รงขยบั เขยอื้ น แมลงว อยา่ งนีห้ รอก \" แผน่ ที่ 3 คนเหน็ แก่ตัวยอ่ มไมร่ ู้จกั เม่นตวั หนึง่ เดินเรร่ อ่ นหาท่ีอยอู่ าศยั จน บญุ คุณและไมค่ าํ นึงถึงความ เดอื ดร้อนของผู้อ่นื ขนแหลมทเ่ี มน่ สลดั ทิง้ ทมิ่ ตาํ พวกงจู งึ ขอรอ้ งให ไดร้ บั ความเดอื ดรอ้ นก็ไปหาท่ีอยใู่ หม่เสียสิ \" แผ่นที่ 4 ผู้คดิ ร้ายยอ่ มไดร้ ับผลกรรม แมลงวนั ตวั หน่ึงบนิ ตอมหวั ของชายหวั ตามสนอง หลายทแี ตก่ ไ็ ม่สามารถตบเจา้ แมลงวนั นอ้ ยไดเ้ แผน่ ที่ 5 คนพาลมกั ชอบหาเรอ่ื งโทษคน อ่นื เสมอ 41

ผนวก ถานการณท์ ส่ี อดคล้องกบั ขอ้ คดิ ”จาํ นวน 5 แผน่ แผน่ ที่ 1 ชายหาด หมาจงิ้ จอกหวิ โซตวั หน่ึงเดินเลาะเลียบชายหาดเพ่อื หาเหย่อื มาหลายวนั เม่อื นที ปทู ะเลโชครา้ ยจึงราํ พงึ อยา่ งเศรา้ ใจว่า \" โธ่เอย๊ ไมน่ ่ารนหาท่ขี ึน้ มาอยใู่ นท่ีท่ไี มค่ วร แผน่ ที่ 2 งอยู่ จึงพากนั ตอมกินนาํ้ ผงึ้ อย่างเพลิดเพลนิ จนกระท่งั ปีกและขาของมนั ตดิ หนบึ อยู่ วนั ตวั หน่งึ จึงพดู ขนึ้ ว่า \" ถา้ พวกเราไม่มวั ตะกละตะกลามกินนา้ํ ผงึ้ ก็คงไมพ่ บจดุ จบ แผ่นที่ 3 นมาพบงใู จดีใหอ้ ย่รู ว่ มดว้ ยในรงั ตอ่ มาไมน่ านพวกงตู า่ งมีบาดแผลเต็มตวั เพราะถกู หเ้ มน่ ไปหาท่ีอยใู่ หม่ แต่เมน่ กท็ าํ ทนี ่ิงเฉยพดู ขนึ้ วา่ \" ขา้ อย่ทู ่นี ่กี ็สขุ สบายดีอย่แู ลว้ ใคร แผ่นที่ 4 วลา้ นคนหนง่ึ ชายหวั ลา้ นโมโหพยายามตบแมลงวนั ทเ่ี กาะหวั เขา เขาพยายามอยู่ เลย หนาํ ซา้ํ เคา้ ยงั พลาดตบหวั ลา้ นตวั เอง แผน่ ที่ 5

แผนการจดั การเรยี นรู้ วชิ าภาษาไทย ประถมศกึ ษาปีท่ี 4 ชาวนาคนหนง่ึ กาํ ลงั เดนิ ไปทาํ งานท่ีทอ้ งนา ขณ โทษวา่ \"ก่ิงไมน้ มี้ นั ช่างเกะกะเสยี จรงิ \" วนั ตอ่ มา นนั้ ทนั ที \"ทนี เี้ ราก็ไม่ตอ้ งเจ็บตวั อีกต่อไป\" เขาพ เรอ่ื งเต่ากบั เต่าตวั หนงึ่ รูส้ กึ เบื่อหน่ายท่ไี ดแ้ ตค่ ลานตว้ มเตยี้ มใชช้ ีวิตกบั พืน้ ดิน เจา้ เตา่ แหงน วนั หน่งึ เต่าขอรอ้ งใหน้ กอินทรชี ่วยสอนบินนกอนิ ทรีจงึ ทกั ทว้ งว่า \" เจา้ จะบนิ ไดย้ งั นกอินทรีทนรบเรา้ ไมไ่ หวจงึ ใชก้ รงเล็บอนั แข็งแรงจบั เจา้ เต่าพาเหินขึน้ ฟ้า เจา้ เต่าต นกอินทรีจึงตดั ใจทาํ ตาม เจา้ เต่าพยายามกะกายขาทาํ ท่าบินอย่กู ลางอากาศแตก่ ็บ :: นิทานเรื่องน ความทะเยอทะยาน ใฝ่สงู เกินต ข่าว เรอ่ื ง ประมงเตือนระวงั ‘เหบ็ ปลา’ กระ เม่ือวนั ท่ี 28 มิถุนายน 2565 นายอายุวฒั น์ อนุตรอรยิ กลุ ประมงอาํ เภอคร โคกกระชาย อ.ครบรุ ี จ.นครราชสีมา เพ่ือแนะนาํ ใหค้ วามรูเ้ กี่ยวกับการดแู ลปลาก ชนดิ ประมงอาํ เภอครบรุ ี กลา่ วว่า ในชว่ งนที้ างสาํ นกั งานประมงมีความห่วงใยในป กบั นาํ้ และปรสิตในชว่ งนีจ้ ะมีความแข็งแรงมากเป็นพเิ ศษ อาจจะเขา้ มาเกาะติดปล ไดค้ ่อนขา้ งยากมากทาํ ไดเ้ พียงตอ้ งหม่นั ดแู ลกระชงั ปลาของตนเองใหม้ ีการถ่ายเท หรือเหงอื กใหพ้ ยายามแยกปลาออก และประสานทางสาํ นกั งานประมงใกลบ้ า้ นเพ่อื ท่ีมา : https://www.dailynews. 42

ณะท่ีเดินไปชนเขา้ กบั ก่ิงไมอ้ ยา่ งจงั จนหวั บวมแดง เขารอ้ งดว้ ยความเจ็บปวดพรอ้ มทงั้ าเขากเ็ ดินผ่านทางเดมิ อีกครงั้ และชนกบั ก่งิ ไมก้ ่งิ เดมิ อกี ชาวนาโมโหมากจึงตดั ก่งิ ไม้ พดู กอ่ นจะเดินจากไป บนกอนิ ทรี นมองฟ้า เหน็ ฝงู นกโบยบนิ กอ็ ยากบินไดบ้ า้ ง งไงในเม่ือเจา้ ไมม่ ีปีก \" แต่เจา้ เต่าก็ไมฟ่ ัง ยืนยนั วา่ จะตอ้ งหดั บนิ ใหไ้ ด้ ตื่นเตน้ ดีใจสดุ ชีวิต รีบบอกนกอินทรีว่า \" เอาละ่ ปลอ่ ยขา้ ไดเ้ ลย ขา้ จะไดห้ ดั บินสกั ที \" บินไม่ได้ อนจิ จา ร่างของเจา้ เต่าลอยละล่ิวลงมากระแทกพืน้ และขาดใจตายในท่สี ดุ นีส้ อนให้รู้ว่า :: ตวั มกั นาํ ความเดือดรอ้ นมาให้ ะชงั ชว่ งนา้ํ เปล่ยี นสี ทาํ ให้เกดิ โรคและตาย รบรุ ี ออกตรวจเย่ียมประชงั ปลาของเกษตรกรผูเ้ ลีย้ งปลากระชงั ในเข่ือนลาํ แชะ ต. กระชงั ในช่วงฤดนู าํ้ เปล่ียน ซ่งึ อาจจะนาํ ไปส่กู ารเกิดปัญหาโรคในปลาหลากหลาย ปัญหาของเร่ืองฤดนู า้ํ เปลี่ยนสีในกรณีเกิดฝนตกหนกั ทาํ ใหอ้ าจจะเกิดมีปรสิตติดมา ลาหรือท่เี รียกกนั ว่าเหบ็ ปลาทาํ ใหป้ ลาเกิดโรคและตายได้ ขณะท่ีการปอ้ งกนั นนั้ ทาํ ทของนาํ้ และอากาศอย่ตู ลอดเวลา หากพบปลามีเห็บหรือปรสิตติดอย่บู รเิ วณลาํ ตวั อเขา้ ไปดแู ลและใหค้ าํ แนะนาํ ในการกาํ จดั โดยทนั ที .co.th/news/1192773/

ุอปกรณ์สําห ัรบกิจกรร ภาพที่ 5 ภาพที่ 1 ภาพที่ 3 แผนการจดั การเรยี นรู้ วชิ าภาษาไทย ประถมศกึ ษาปีท่ี 4 43

รม “ถกู ต้องแลว้ ครับ” ภาพที่ 2 ภาพที่ 4

แผนการจดั การเรยี นรู้ วชิ าภาษาไทย ประถมศกึ ษาปีท่ี 4 สมรรถนะย่อยท่ี 1 อา่ นเรอื่ งจากสื่อต่างๆ แลว้ ตงั้ คาํ ถาม ตอบคาํ ถาม จบั ใจความ เหตผุ ลเพ่ือประเมินความเหมาะสมของขอ้ มลู ในการลงขอ้ สรุปไดอ้ ย่างถกู ตอ้ งและ แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 4 เรอื่ ง แสดงความคิดเหน็ อยา่ งมเี หตุผล 1. มาตรฐานการเรยี นรู้/ตัวชีว้ ดั มาตรฐาน ท 3.1 สามารถเลือกฟังและดอู ยา่ งมวี ิจารณญาณ และพดู แสดงความร ท 3.1 ป.4/3 พดู แสดงความรู้ ความคิดเห็นและความรูส้ กึ เกี่ยวกบั เรื่องท่ฟี 2. จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ 2.1. บอกประโยชนข์ องการแสดงความคิดเหน็ อยา่ งมีเหตผุ ลได้ (A) 2.2 บอกวธิ ีการแสดงความคดิ เห็นอย่างมีเหตผุ ลได้ (K) 2.3 แสดงความคิดเหน็ อยา่ งมเี หตผุ ลจากบทอ่านท่ีกาํ หนดใหไ้ ด้ (S) 3. กิจกรรมการเรยี นรู้ 3.1 ข้นั เตรียมความพร้อมและตัง้ ข้อสังเกตในการเรยี นรู้ 1) นกั เรียนดคู ลิปวีดโี อ เรอื่ ง รถนรี้ าคา 7 ลา้ น! พยาบาลอย่างเธอจะใชไ้ ห https://www.youtube.com/watch?v=HgU2ajsoE2E ใชเ้ วลา 8.10 นาที โดยป 2) นกั เรยี นร่วมกนั แสดงความคิดเห็นพฤติกรรมของตวั ละครจากการชมค (แนวคาํ ตอบ –ผูห้ ญิงทมี่ ากบั ผูช้ ายเป็นคนใจรา้ ยเอาแต่ใจ –ผูช้ ายเอาใจผูห้ ทขี่ บั รถมาชนไม่มีเงนิ จ่ายใหเ้ พราะเขาเป็นคนจน ฯลฯ) 3) นกั เรยี นดคู ลิปวิดีโอเรอื่ งเดมิ อกี ครงั้ โดยครงั้ นีเ้ ปิดเสยี งการบรรยาย 4) นกั เรยี นรว่ มกนั แสดงความคิดเหน็ จากภาพคลิปวีดีโออีกครง้ั แลว้ พจิ ารณ 44

มสาํ คญั สรุปความรู้ ขอ้ คิด และแสดงความคิดเหน็ อย่างมี เวลา 4 ช่วั โมง ะ/หรือ ตดั สนิ ใจเลือกทางใดทางหน่งึ เวลา 1 ช่ัวโมง รู้ ความคดิ และความรูส้ กึ ในโอกาสต่างๆ อยา่ งมวี จิ ารณญาณและสรา้ งสรรค์ ฟังและดู หวเหรอ ปิดเสยี งการบรรยาย คลปิ วีดีโอ หญิงโดยซอื้ ทองให-้ ผูห้ ญิงขบั รถเก๋งสขี าวกาํ ลงั ไม่สบาย จึงขบั รถมาชนเขา –ผูห้ ญงิ ณาว่าความรูส้ กึ ท่ีมีต่อคลิปวิดีโอเหมอื นหรือแตกต่างไปจากการปิดเสียงและเปิดเสียง

แผนการจดั การเรยี นรู้ วชิ าภาษาไทย ประถมศกึ ษาปีท่ี 4 (แนวคาํ ตอบ -ไมเ่ หมือนกนั เพราะ เมือ่ ไดฟ้ งั เสยี งจะเขา้ ใจเหตผุ ลของการกระท 5) นกั เรียนรว่ มกนั แสดงความคิดเห็นดงั นี้ - การชมคลิปแบบปิดเสยี งกบั การกระทาํ ท่ผี ดิ ไปจากเดิมแต่ไม่บ (แนวคาํ ตอบ มีความเหมือนกนั คอื จะทาํ ใหผ้ ูอ้ ืน่ ตคี วามตามประสบ - การชมคลิปแบบเปิดเสียงกบั การกระทาํ ท่ผี ดิ ไปจากเดิมแต่บอ (แนวคาํ ตอบ การแสดงความคดิ เหน็ อย่างมีเหตผุ ลทีด่ ี เราตอ้ งไดร้ 3.2 ข้นั จัดกระบวนการเรยี นรู้ 1) แบง่ นกั เรยี นออกเป็น 4 กลมุ่ โดยคละความสามารถผเู้ รยี น 2) นกั เรียนแตล่ ะกลมุ่ รบั ภาพ และ ใบงาน เรื่องการเดินทางดว้ ยรถ คาํ ถาม 1 : เหตกุ ารณใ์ นภาพมีอะไรบา้ ง (แนวคาํ ตอบ : 1)คนจาํ นวนมากแย่งกนั โดยสารรถไฟ 2)ผโู้ ดยสารต่าง เม่อื ไดย้ ินสญั ญาณหมดเวลา ปฏบิ ตั ดิ งั นี้ (1) ตวั แทนกล่มุ ท่ี 1 นาํ เสนอเหตกุ ารณจ์ ากผลงานข หรือไม่ (2) ตวั แทนกลมุ่ อ่ืนนาํ เสนอเหตกุ ารณเ์ พ่ิมเติมและรว่ ม นีไ้ ปจนไมม่ ีกลมุ่ ใดนาํ เสนอเหตกุ ารณจ์ ากภาพอีก คาํ ถามท่ี 2 : อะไรเป็นเหตกุ ารณผ์ ิดปกตจิ ากวิถีชีวิต (แนวคาํ ตอบ : การทผี่ ูโ้ ดยสารจาํ นวนมากออกมาหอ้ 45

ทาํ พฤตกิ รรมในคลิป ทใี่ นตอนแรกไม่เขา้ ใจเหตผุ ลของการกระทาํ ทผี่ ดิ ไปจากวถิ ชี ีวติ ) บอกเหตผุ ลของการกระทาํ มีความเหมอื นหรือแตกต่างกนั อย่างไร บการณเ์ พยี งดา้ นเดยี ว) อกเหตผุ ลของการกระทาํ มีความเหมือนหรือแตกต่างกนั อย่างไร รบั ขอ้ มูลครบทกุ ดา้ น) ถไฟในอนิ เดยี โดยใบงาน กาํ หนดใหน้ กั เรียนตอบคาํ ถาม 3 คาํ ถามจากภาพ ดงั นี้ งหอ้ ยโหนออกมาดา้ นนอกของโบกีร้ ถไฟ 3)ผูโ้ ดยสารดา้ นนอกสว่ นใหญ่จะเป็นผูช้ าย) ของกล่มุ ตนจาํ นวน 1 เหตุการณ์ กลุ่มอ่ืนร่วมพิจารณาว่าเหตกุ ารณใ์ นภาพมีจริง มกนั ตรวจสอบว่าเป็นเหตกุ ารณท์ ่ีปรากฏในภาพจรงิ หรือไม่ ทงั้ นีใ้ หป้ ฏบิ ตั ิกจิ กรรม ก อยโหนกนั อยนู่ อกโบกีร้ ถไฟ)

แผนการจดั การเรยี นรู้ วชิ าภาษาไทย ประถมศกึ ษาปีท่ี 4 เม่อื ไดย้ นิ สญั ญาณหมดเวลา ปฏบิ ตั ิดงั นี้ (1) ตวั แทนกลมุ่ แต่ละกลมุ่ นาํ เสนอเหตกุ ารณผ์ ิดปกต (2) นกั เรียนรว่ มกนั พิจารณาวา่ ทกุ กลมุ่ ระบเุ หตกุ ารณ (3) นกั เรียนรว่ มกนั ลงสรุปเหตกุ ารณท์ ่ผี ิดปกติจากภา คาํ ถามท่ี 3 : อะไรเป็นเหตกุ ารณป์ กติ/เหตกุ ารณป์ กตคิ วรเป็นอยา่ งไ (แนวคาํ ตอบ : ผูโ้ ดยสารควรนง่ั อย่ใู นขบวนรถไฟ) เม่ือไดย้ ินสญั ญาณหมดเวลา ปฏบิ ตั ิดงั นี้ (1) ตวั แทนกลมุ่ แต่ละกลมุ่ นาํ เสนอเหตกุ ารณป์ กตใิ (2) นกั เรยี นรว่ มกนั พิจารณาว่า ทกุ กลมุ่ ระบเุ หตกุ าร (3) นกั เรยี นรว่ มกนั ลงสรุปเหตกุ ารณป์ กติท่พี งึ จะเก 3) จากกิจกรรมการตอบคาํ ถาม 3 คาํ ถาม ครูนาํ เสนอคาํ ถามว่า “ถา้ แ ผลได”้ นกั เรยี นจะสามารถนาํ เสนอเป็นเกณฑใ์ นการนาํ ไปสกู่ ารพจิ ารณาความเหม (แนวคาํ ตอบ 1. เป็นการแสดงความคิดเหน็ ทเี่ กี่ยวกบั ขอ้ มูลในภา 2. เป็นการแสดงความคดิ เหน็ ทเี่ ปรยี บเทยี บกบั วถิ ีช 4) จากกิจกรรมขอ้ 3 ครูและนกั เรยี นร่วมกนั กาํ หนดผลการปฏบิ ตั ิเป็น 5) นกั เรียนแตล่ ะกลมุ่ รว่ มกนั พิจารณาคาํ ตอบจากคาํ ถามทงั้ 3 คาํ ถ ความคิดเชงิ เหตผุ ล” ลงในกระดาษ 6) เม่ือไดย้ ินสญั ญาณหมดเวลา ใหแ้ ตล่ ะกลมุ่ ติดผลงานบนกระดาน ประเมิน 7) กลมุ่ ท่ีแสดงความคิดเหน็ เชงิ เหตผุ ลไดค้ ณุ ภาพตามเกณฑ์ ไดร้ บั กา 46

ตจิ ากวิถีชีวิต ณผ์ ดิ ปกติเหมอื นหรือแตกตา่ งกนั โดยใหเ้ หตผุ ลประกอบ าพ ไร ) ในวิถีชวี ติ รณป์ กตเิ หมอื นหรือแตกต่างกนั โดยใหเ้ หตผุ ลประกอบ กิดจากภาพ แนวทางดงั กลา่ วเป็นขอ้ มลู เบือ้ งตน้ ใหน้ กั เรียนสามารถแสดงความคิดเห็นเชิงเหตุ มาะสมของการแสดงความคิดเห็นเชงิ เหตผุ ล าพ ชีวติ ปกต/ิ คณุ ธรรมทพี่ งึ จะเป็น นเกณฑใ์ นการตรวจสอบการแสดงความคดิ เหน็ เชิงเหตผุ ล ถาม และรว่ มกนั แสดงความคิดเชงิ เหตผุ ลจากภาพ โดยเขียน “ขอ้ ความท่ีเป็น นดาํ และรว่ มกนั พจิ ารณา “การแสดงความคิดเห็นเชิงเหตผุ ล” ตามเกณฑก์ าร ารช่นื ชม

แผนการจดั การเรยี นรู้ วชิ าภาษาไทย ประถมศกึ ษาปีท่ี 4 3.3 ขน้ั สรุปองคค์ วามรู้ นกั เรียนรว่ มกนั สรุปวิธีการแสดงความคดิ เห็นเชิงเหตผุ ลท่ีดี (แนวคาํ ตอบ : ขนั้ ที่ 1 การพจิ ารณาเหตกุ ารณป์ รากฏในภาพ ขนั้ ท แสดงความคดิ เชงิ เหตผุ ล) 3.4 ข้นั ประยุกตใ์ ช้ นกั เรยี นนาํ เสนอเหตกุ ารณท์ ่จี าํ เป็นตอ้ งแสดงความคิดเห็นเชงิ เหตผุ ลในชวี ิต 4. สอ่ื และแหล่งเรียนรู้ 1. รูปภาพ 2. ใบงาน 3. กระดาษ/กระดาษชารจ์ 4. ปากกาสาํ หรบั เขยี นงานในกระดาษชารจ์ 5. คลปิ วีดีโอ 5. การวัดและประเมินผล วธิ วี ดั เคร่อื งมอื วดั 1. บอกประโยชนข์ องการแสดงความคิดเห็นอยา่ งมี การแสดงความคดิ เหน็ เหตผุ ลได้ (A) 2. บอกวิธีการแสดงความคิดเหน็ อยา่ งมเี หตผุ ลได้ (K) เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน 47

ที่ 2 ระบเุ หตกุ ารณ์ทผี่ ิดปกติ ขนั้ ที่ 3 ระบเุ หตกุ ารณ์ทพี่ งึ จะเป็น และขนั้ ที่ 4 ตจริง เกณฑก์ ารประเมิน แสดงความคิดเห็นอยา่ งนอ้ ย 1 ขอ้ ดี-บอกวิธีการแสดงความคิดเห็นอย่างมเี หตผุ ลไดอ้ ย่างนอ้ ย 3 ขอ้ 1) พิจารณาเหตกุ ารณท์ ่ีปรากฏในภาพ 2) ระบเุ หตกุ ารณท์ ่ีผิดปกติ

แผนการจดั การเรยี นรู้ วชิ าภาษาไทย ประถมศกึ ษาปีท่ี 4 วธิ ีวัด เครื่องมอื วัด 3. ตรวจผลงานการแสดงความคดิ เห็นจากเร่ืองท่อี ่าน/ เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ฟัง และดไู ด้ (S) 48

เกณฑก์ ารประเมิน 3) ระบเุ หตกุ ารณท์ ่พี งึ จะเป็น 4) แสดงความคิดเชิงเหตผุ ล พอใช-้ แสดงความคดิ เห็น อยา่ งนอ้ ย 2 ขอ้ ปรบั ปรุง –แสดงความคิดเห็น อย่างนอ้ ย 1 ขอ้ ดี- ผลงานการแสดงความคิดเหน็ มีคณุ ภาพดงั นี้ 1) มีการแสดงความคดิ เห็นท่สี อดคลอ้ งกบั เรื่องราวท่ีอ่าน/ฟัง/ดู 2) มีการแสดงความคดิ เห็นท่ีเปรียบเทียบกบั วิถีชีวิตปกติ/คณุ ธรรมท่ีพงึ จะเป็น พอใช้ –มคี ณุ ภาพตามเกณฑ์ 1 รายการ ปรบั ปรุง –ไมส่ อดคลอ้ งกบั เกณฑท์ ่ีกาํ หนด

แผนการจดั การเรยี นรู้ วชิ าภาษาไทย ประถมศกึ ษาปีท่ี 4 ภาคผ การเดนิ ทางด้วย ท่มี า : http://ruamruengplaekjissy.blogspot.com/2014 49

ผนวก ยรถไฟในอินเดีย 4/11/blog-post_2.html

แผนการจดั การเรยี นรู้ วชิ าภาษาไทย ประถมศกึ ษาปีท่ี 4 สมรรถนะยอ่ ยท่ี 2 อธิบายเหตผุ ลของการตดั สนิ ใจในเรื่องตา่ งๆในชวี ติ ประ เหมาะสมโดยระบหุ ลกั ฐานสนบั สนนุ ความคดิ ได้ แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 5 เร่อื ง เหตุผลการตดั สินใจ 1. มาตรฐานการเรยี นรู้/ตัวชีว้ ัด มาตรฐาน ท 3.1 สามารถเลือกฟังและดอู ย่างมีวิจารณญาณ และพดู แสดง ท 3.1 ป.4/2 พดู สรุปความจากการดแู ละการฟัง 2. จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ 1. เหน็ ประโยชนข์ องการนาํ ขอ้ คิดสกู่ ารปฏบิ ตั ติ นในชวี ิตประจาํ วนั ได้ (A) 2. บอกเหตผุ ลในการตดั สินใจเลอื กขอ้ คิดสกู่ ารพฒั นาตนได้ (K) 3. ตดั สินใจพฒั นาตนเองโดยระบเุ หตผุ ลประกอบ (S) 3. กจิ กรรมการเรียนรู้ 3.1 ข้นั เตรยี มความพร้อมและตั้งข้อสงั เกตในการเรยี นรู้ 1) นกั เรียนดคู ลิปวีดีโอการสมั ภาษณบ์ คุ คล เก่ียวกบั หลกั ในการปฏิบตั ิตน อาชพี นกั ธรุ กจิ ดคู ลิปวดี โี อเรื่อง Jack Ma วิธีประสบความสาํ เรจ็ ในชีวติ สดุ จาก https://www.youtube.com/watch?v=83E-Ok3hGwU ใชเ้ วลา 5.25 อาชีพนกั ธรุ กจิ ดคู ลิปวดี โี อเร่ือง แนวคดิ ท่ที าํ ใหป้ ระสบความสาํ เรจ็ ตงั้ แต่อา จาก https://www.youtube.com/watch?v=CskQekaTlns ใชเ้ วลา 7.38 อาชีพนกั แสดง ดคู ลปิ วดี ีโอเรอื่ ง เด็กเกเรเปลี่ยนคนดงั \"ไบรท์ นรภทั ร\" จาก https://www.youtube.com/watch?v=UOCg7xtWXrE ใชเ้ วลา 5.39 50

ะจาํ วนั ของตน และบอกไดว้ า่ การตดั สนิ ใจของตนมคี วาม เวลา 4 ช่วั โมง เวลา 2 ช่วั โมง งความรู้ ความคิด และความรูส้ ึกในโอกาสต่างๆ อยา่ งมีวิจารณญาณและสรา้ งสรรค์ นในชีวิตจรงิ ของแตล่ ะอาชพี ดยอด แรงบนั ดาลใจ 5 นาที ายยุ งั นอ้ ย นาที 9 นาที

แผนการจดั การเรยี นรู้ วชิ าภาษาไทย ประถมศกึ ษาปีท่ี 4 2) นกั เรยี นรว่ มกนั พิจารณาหลกั การปฏิบตั ิตนของคนในแต่ละอาชพี ว่า “บุค (แนวคาํ ตอบ : ความมงุ่ ม่นั ความขยนั การฝึกฝน และความมีระเบยี บวนิ ยั 3.2 ขน้ั จดั กระบวนการเรยี นรู้ 1) แบ่งนกั เรียนออกเป็น 4 กลมุ่ เพ่อื ปฏิบตั กิ ิจกรรม “ถอดประสบก 2) นกั เรียนแต่ละกลมุ่ รบั ชวี ประวตั ิคนดงั กลมุ่ ละ 1 คน แลว้ ตอบค ช่อื กิจกรรม ถอดประสบการณค์ นดงั จุดประสงค์ เพ่อื ศกึ ษาขอ้ คิดในการปฏบิ ตั ติ นแลว้ ระบพุ ฤตกิ รรมในการปฏบิ ตั ิตน อปุ กรณ์ ชีวประวตั ขิ องคนดงั จาํ นวน 4 คน วิธดี าํ เนินการ 1. นกั เรียนแตล่ ะกลมุ่ รบั ชวี ประวตั คิ นดงั กลมุ่ ละ 1 คน แลว้ รว่ มกนั ตอบคาํ ถา คาํ ถามท่ี 1 เหตกุ ารณใ์ ดท่ีเป็นสถานการณก์ ระตนุ้ ใหเ้ กิดความเปลี่ยนแปล คาํ ถามท่ี 2 ขอ้ คิดหรือแนวคิดท่ีใชเ้ ป็นหลกั ในการปฏิบตั ิตนคืออะไร คาํ ถามท่ี 3 พฤติกรรมท่ีแสดงออกมีอะไรบา้ ง คาํ ถามท่ี 4 ผลสาํ เรจ็ ท่ีปรากฏ 2. นกั เรยี นแต่ละกลมุ่ เขยี นสรุปการปฏิบตั ิงานจากขอ้ ท่ี 1 ลงในกระดาษชารจ์ 3. ตวั แทนกลมุ่ พดู นาํ เสนอผลของการปฏิบตั งิ าน 3) นกั เรียนรว่ มกนั สรุปถงึ เหตผุ ลของการตดั สนิ ใจพฒั นาตน โด - ครูมีขอ้ ความท่ีเป็นเหตผุ ลของการตดั สนิ ใจพฒั นาตนเอง ขอ้ ความ โดยขอ้ ความทงั้ หมดจะถกู เขยี นลงในชอ่ งตารางช่องละ 1 ขอ้ ความ รวม 9 51

คคลในแต่ละอาชพี ท่ไี ดด้ จู ากคลปิ วีดีโอ เขาประสบผลสาํ เรจ็ ในชวี ิตไดอ้ ย่างไร” ย เป็นตน้ ) การณค์ นดงั ” คาํ ถามดงั นี้ นของบคุ คลตน้ แบบ ามดงั นี้ ลงในชีวิต จ โดยออกแบบแนวทางการนาํ เสนอใหน้ ่าสนใจ ดยกิจกรรม โอเอกซ์ ดงั นี้ งและขอ้ ความท่ีไมใ่ ชเ่ หตผุ ลของการตดั สินใจพฒั นาตนเองใหน้ กั เรียนเลือก 9 ชอ่ งตาราง

แผนการจดั การเรยี นรู้ วชิ าภาษาไทย ประถมศกึ ษาปีท่ี 4 - เร่มิ เลน่ โดยผเู้ ลน่ กลมุ่ ท่ี 1 จบั สลากขอ้ ความท่ีอยใู่ นช่องต ขอ้ ความท่ไี ดร้ บั แสดงถงึ เหตผุ ลของการตดั สินใจพฒั นาตนเองหรอื ไม่ กรณีตอบถูก ใหท้ าํ เครื่องหมาย X ขอ้ ความในชอ่ งนนั้ หากตอบไม่ถกู พบเครื่องหมาย X ของกลมุ่ ใดมกี ารเรียงลาํ ดบั ต่อกนั เป็นเสน้ ตรงแนวตงั้ หรือ เสน้ ต เกิดปัญหาท่ีตอ้ งการปรบั เปล่ยี น ทาํ อะไรกไ็ ดต้ ามแนวโนม้ ของสงั คม เทียบเคียงปัญหากบั หลกั คิดท่ดี ี ตอ้ งการปรบั เปล่ยี นตนเองเพ่ือความกา้ ว คดิ เพอ้ ฝันกบั ผลท่ตี อ้ งการใหเ้ กดิ มคี นนบั หนา้ ถือตา สรรเสรญิ เยนิ ยอ 4) นกั เรยี นแตล่ ะกลมุ่ รว่ มกนั สบื คน้ ขอ้ คดิ จากแหลง่ สบื คน้ เอกสารท่ีครูจดั เตรียมไวใ้ ห้ โดยมคี รูเป็นผอู้ าํ นวยความสะดวกในการเขา้ ถึงแหลง่ ส 5) นกั เรยี นแต่ละกลมุ่ นาํ เสนอขอ้ คิด และความหมายโดย 6) นกั เรยี นแต่ละคนพิจารณาขอ้ คิดและเลือกขอ้ คิดท่ีตนเอ พจิ ารณาตนเองท่ีแสดงถึง 1) ปัญหา/แรงบนั ดาลใจท่ีทาํ ใหเ้ กดิ การพฒั นาตนเอง 2) 7) เม่อื ไดย้ นิ สญั ญาณใหต้ ิดผลงานท่ปี า้ ยนเิ ทศ เพ่ือแลกเป 52

ตารางตามท่กี าํ หนด 1 ขอ้ ความ แลว้ ใหส้ มาชกิ ในกลมุ่ ร่วมกนั พจิ ารณาว่า กตอ้ งใหท้ าํ เคร่ืองหมาย O นกั เรยี นแต่ละกลมุ่ สลบั กนั ปฏิบตั ิกิจกรรมไปเร่ือยๆ จน ตรงแนวนอน หรือเสน้ ตรงแนวทแยง กจ็ ะเป็นผชู้ นะในกจิ กรรมดงั กลา่ ว ม เลยี นแบบพฤติกรรมท่ดี ีของผอู้ ่ืน วหนา้ ตอ้ งการเป็นศนู ยร์ วมของญาตมิ ิตร พ่นี อ้ ง และเพ่ือนฝงู อ มีความเป็นอย่ทู ่ีดีขนึ้ สามารถดแู ลตนเองและครอบครวั ได้ นต่างๆ อาทิ หนงั สอื คอมพวิ เตอร์ รวมทงั้ สบื คน้ ยตรง โดยนยั ของขอ้ คิด องสนใจ โดยใหเ้ หตผุ ลประกอบ พรอ้ มทงั้ ออกแบบรูปแบบการนาํ เสนอขอ้ คิดมา ) หลกั คิดในการปฏิบตั ติ นท่ีดี 3) วธิ ีการปฏบิ ตั ิตน 4) ผลท่คี าดว่าจะเกิดขึน้ ปลี่ยนเรียนรูใ้ นแต่ละกลมุ่

แผนการจดั การเรยี นรู้ วชิ าภาษาไทย ประถมศกึ ษาปีท่ี 4 3.3 ขน้ั สรุปองคค์ วามรู้ นกั เรียนรว่ มกนั สรุปวธิ ีการเลือกขอ้ คิดมาพฒั นาตนอยา่ งมปี ระสิทธิภา (แนวคาํ ตอบ : 1) ปญั หา/แรงบนั ดาลใจทที่ าํ ใหเ้ กิดการพฒั นาตนเอง 2) ห 3.4 ข้นั ประยุกตใ์ ช้ - ครูนาํ เสนอเหตกุ ารณ์ “การพดู หนา้ ชนั้ เรียนของนกั เรยี น ” - นกั เรยี นชว่ ยกนั สรุปขอ้ ท่ีควรพฒั นาตนเอง เพ่ือใหก้ ารพดู มคี วามสมบรู (แนวคาํ ตอบ : การพูดทดี่ ี ผูพ้ ูดควรเตรยี มเนือ้ หาใหพ้ รอ้ มกอ่ นการพดู ควรมกี ารเส มารยาททดี่ ี ในการพูด ไดแ้ ก่ การใชน้ ้าํ เสยี ง ความชดั เจนในการออกเสียง เพอื่ ช่วย 4. สือ่ และแหล่งเรียนรู้ 1. คลิปวดี ีโอ 2. ชวี ประวตั ิคนดงั 3. กระดาษ/กระดาษชารจ์ 4. ปากกาสาํ หรบั เขียนงานในกระดาษชารจ์ 5. หนงั สือ/เอกสารอ่นื ๆ สาํ หรบั การสืบคน้ ขอ้ มลู 6. คอมพิวเตอร์ 53

าพ หลกั คดิ ในการปฏบิ ตั ติ นทดี่ ี 3) วธิ กี ารปฏบิ ตั ิตน 4) ผลทคี่ าดว่าจะเกดิ ขึน้ ) รณ์ สริมสรา้ งบคุ ลกิ ภาพทดี่ ี ไดแ้ ก่ การยนื การใชส้ ายตา ท่าทาง เป็นตน้ รวมทงั้ การมี ยใหก้ ารพดู ดนู า่ สนใจมากย่งิ ขนึ้ )

แผนการจดั การเรยี นรู้ วชิ าภาษาไทย ประถมศกึ ษาปีท่ี 4 5. การวดั และประเมินผล วิธีวดั เครอ่ื งมอื วดั 1. เห็นประโยชนข์ องการนาํ ขอ้ คิดสกู่ ารปฏบิ ตั ติ นใน การแสดงความคิดเหน็ ชวี ติ ประจาํ วนั ได้ (A) 2. บอกเหตผุ ลในการตดั สินใจเลอื กขอ้ คิดสกู่ าร เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน พฒั นาตนได้ (K) 3. ตดั สินใจพฒั นาตนเองโดยระบเุ หตผุ ลประกอบ เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน (S) 54

เกณฑก์ ารประเมิน แสดงความคิดเห็นอย่างนอ้ ย 1 ขอ้ ดี-บอกการตดั สนิ ใจเลอื กขอ้ คิด สกู่ ารพฒั นาตนได้ อยา่ งนอ้ ย 3 ขอ้ 1) ปัญหา/แรงบนั ดาลใจท่ที าํ ใหเ้ กดิ การพฒั นาตนเอง 2) หลกั คิดในการปฏิบตั ิตนท่ีดี 3) วธิ ีการปฏิบตั ิตน 4) ผลท่ีคาดวา่ จะเกิดขนึ้ พอใช-้ แสดงความคิดเห็น อย่างนอ้ ย 2 ขอ้ ปรบั ปรุง –แสดงความคิดเห็น อย่างนอ้ ย 1 ขอ้ - ผลงานการตดั สินใจพฒั นาตนเองมีคณุ ภาพดงั นี้ 1) ระบขุ อ้ คดิ ท่สี อดคลอ้ งกบั เรื่องราวท่ีอ่าน/ฟัง/ดู 2) ตดั สนิ ใจพฒั นาตนเองโดยระบเุ หตผุ ลท่ีมีความเป็นไปได้ พอใช้ –มีคณุ ภาพตามเกณฑ์ 1 รายการ ปรบั ปรุง –ไม่สอดคลอ้ งกบั เกณฑท์ ่ีกาํ หนด