แผนตัวอย่างวิชาภาษาไทย

แผนการจดั การเรยี นรู้ วชิ าภาษาไทย ประถมศกึ ษาปีท่ี 4 สถานการณเ์ พือ่ การสอบ ช่วั โมงท่ี 1 1. นกั เรยี นเตรยี มความพรอ้ มในการพดู รายงานเร่ืองท่สี ืบคน้ 2. ครูและนกั เรียนทาํ ความเขา้ ใจกติกาในการพดู รายงาน ในประเด็นต่อไปนี 2.1 สญั ญาณการเรม่ิ พดู และสิน้ สดุ การพดู รายงาน 2.2 มารยาทในการฟังและการพดู รายงาน 2.3 เกณฑก์ ารใหค้ ะแนนการพดู รายงาน กาํ หนดใหน้ กั เรียนพจิ ารณาผลงานการพดู รายงานเรื่องท่สี ืบคน้ ของเพ่อื น 3. นกั เรียนนาํ เสนอผลงานโดยครูประเมนิ คณุ ภาพผเู้ รียนตามเกณฑ์ และเพ่อื 7. สื่อและแหล่งการเรยี นรู้ประจาํ หน่วยการเรยี นรู้ 1. กจิ กรรมถอดรหสั ...ประโยคปรศิ นา 2. แผ่นปา้ ยคะแนน 3. Clip ตวั อย่างการอ่านออกเสียงท่ีดี https://www.youtube.com/watch?v=z 4. บทอา่ น “ผกั สมนุ ไพรใบหญา้ มีคณุ คา่ ทงั้ นนั้ ” 5. Mind Mapping : Coggle 6. ปา้ ยขอ้ ความ 7. กจิ กรรมคาํ ปรศิ นา 8. เพลง “คาํ ประวสิ รรชนีย์ 9. กิจกรรม“ตามลา่ หาคาํ 10. กิจกรรม “เกบ็ ไขใ่ สต่ ะกรา้ ” 183

เวลา ช่วั โมง 1 ้ น พรอ้ มทงั้ บนั ทึก “เรื่องท่เี พ่ือนนาํ เสนอ” และ “สาระสาํ คญั ของเรื่องท่ีนาํ เสนอ” อนพจิ ารณาผลงานการพดู รายงานของเพ่ือนตามขอ้ ตกลง zq0SINm71yA&ab_channel=WItchakornSaengpet-on

แผนการจดั การเรยี นรู้ วชิ าภาษาไทย ประถมศกึ ษาปีท่ี 4 11. เกม Wordwall 12. แถบขอ้ ความ 13. หนงั สอื เรียนภาษาพาทีชนั้ ป.4 หนา้ 51 14. กระดาษชารท์ 15. กจิ กรรม “อ่านไวไดแ้ ตม้ ” 16. Clip ตวั อย่างการอ่านท่ดี ี https://www.youtube.com/watch?v=Axghzs 17. Clip วิดโี อ https://www.youtube.com/watch?v=0uaGTi9pv6g&ab_cha 18. หอ้ งสมดุ 19. หอ้ งคอมพวิ เตอร์ 20. คลิป ผปู้ ระกาศข่าวรุน่ เยาว์ https://www.youtube.com/watch?v=y7yXP 21. บทอ่าน เรื่อง “การปลกู พชื ไรด้ นิ ” การรวดั และประเมินผล สมรรถนะ ประเดน็ การประเมิน ประจาํ หน่วย : อ่านบทอ่านตามความ 1. การอ่านและสรุปใจความ ผลงานการสรุปอง สนใจจากสื่อต่าง ๆ สรุป สาํ คญั จากเรื่องท่ีอา่ น แสดงคณุ ภาพดงั ต ความเขา้ ใจของตนและแสดง (ท 1.1 ป.4/1 1) เป็นขอ้ มลู ท่ีมา ความคิดเห็นอย่างมเี หตผุ ล ท 1.1 ป.4/3) 184

sXYRQM annel=CreativeMarketing PmCTuJY&ab_channel=ThaiPBSKids การประเมิน ระดบั คุณภาพ ดี พอใช้ ปรับปรุง ผลงานไมส่ ะทอ้ น งคค์ วามรูจ้ ากการสืบคน้ เอกสาร แสดงคณุ ภาพ 1 คณุ ภาพท่ีกาํ หนด ตอ่ ไปนี้ รายการ าจากแหลง่ สืบคน้ อยา่ งนอ้ ย 3 แหง่

แผนการจดั การเรยี นรู้ วชิ าภาษาไทย ประถมศกึ ษาปีท่ี 4 สมรรถนะ ประเด็นการประเมิน ประจาํ หน่วย เก่ียวกบั เร่อื งนนั้ จากการตงั้ (ท 2.1 ป.4/6) 2) ขอ้ มลู ท่นี าํ เสน คาํ ถาม การฟัง/อ่านขอ้ มลู (ท 4.1 ป.4/1) “แนะนาํ พชื สวนค เรอื่ งราว วิเคราะหเ์ พ่ือ (สมรรถนะย่อยท่ี 1) การตลาด” ประเมนิ ความเหมาะสมของ (สมรรถนะย่อยท่ี 2) 3)เขยี นบนั ทกึ ดว้ ย ขอ้ มลู ในการลงขอ้ สรุปได้ ไดถ้ กู ตอ้ ง อยา่ งถูกตอ้ งและ/หรือ 2. การพดู นาํ เสนอ ตดั สนิ ใจเลือกทางใดทาง (ท3.1 ป.4/2 ผลงานการนาํ เสน หนึ่งโดยระบหุ ลกั ฐาน ท3.1 ป.4/3 ท3.1 ป.4/5) 1.มกี ารทกั ทายผฟู้ สนบั สนนุ ความคิดไดอ้ ย่าง (สมรรถนะย่อยท่ี 3) 2.บุคลิกทา่ ทางใน นอ้ ยหนึง่ แหลง่ ขอ้ มลู และ ผฟู้ ัง นาํ เสนอเรื่องท่อี า่ นไดอ้ ย่าง 3.พดู นาํ เสนอไดต้ สรา้ งสรรค์ สวนครวั ท่ีสามารถ 4.มีมารยาทในกา 185

การประเมิน พอใช้ ปรับปรุง ระดบั คณุ ภาพ ดี นอสอดคลอ้ งกบั ประเดน็ สาํ คญั คือ ครวั ท่สี ามารถเพ่ิมมลู ค่าทาง ยภาษาท่ีอ่านงา่ ย เขยี นสะกดคาํ นอแสดงคณุ ภาพต่อไปนี้ แสดงคณุ ภาพ 2-3 แสดงคณุ ภาพ 1 รายการ ฟัง และแจง้ จดุ ประสงคข์ องการพดู รายการ นการพดู สรา้ งความน่าสนใจแก่ ตรงประเดน็ ในหวั ขอ้ “แนะนาํ พชื ถเพิ่มมลู ค่าทางการตลาด” ารพดู ดว้ ยการพดู สภุ าพ

โครงสร้างการออกแบบแผนการจดั การเรยี นรู้เพอ่ื พัฒนาสมรรถนะ โดยใช้มาตรฐานการเรียนรู้และตวั ชีว้ ัดจากหลกั สตู รแกนกลางการศึกษาขั้นพืน้ ฐาน พทุ ธศักราช 2551 รายวิชา ภาษาไทย รหสั วชิ า ท 14101 ชอ่ื หน่วยการเรียนรู้ที่ 4 ภมู ใิ จมรดกโลก เวลาเรยี น 10 ช่วั โมง สาระการเรียนรู้ ภาษาไทย ระดบั ชัน้ ประถมศกึ ษาปี ท่ี 4 _______________________________________________________________________________ 1. มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชวี้ ัด มาตรฐาน ท 1.1 ใชก้ ระบวนการอ่านสรา้ งความรูแ้ ละความคิดเพ่อื นาํ ไปใชต้ ดั สนิ ใจ แกป้ ัญหาในการ ดาํ เนินชีวิต และมนี ิสยั รกั การอา่ น ท 1.1 ป. 4/1 อ่านออกเสยี งบทรอ้ ยแกว้ และบทรอ้ ยกรองไดถ้ กู ตอ้ ง ท 1.1 ป. 4/2 อธิบายความหมายของคาํ ประโยค และสาํ นวนจากเรอ่ื งท่ีอ่าน ท 1.1 ป. 4/3 อ่านเร่ืองสน้ั ๆ ตามเวลาท่ีกาํ หนดและตอบคาํ ถามจากเร่อื งท่ีอ่าน ท 1.1 ป. 4/6 สรุปความรูแ้ ละขอ้ คิดจากเรื่องท่อี ่านเพ่อื นาํ ไปใชใ้ นชวี ิตประจาํ วนั มาตรฐาน ท 3.1 สามารถเลอื กฟังและดอู ยา่ งมวี จิ ารณญาณ และพดู แสดงความรู้ ความคิด และ ความรูส้ กึ ในโอกาสต่าง ๆ อย่างมวี ิจารณญาณและสรา้ งสรรค์ ท 3.1 ป. 4/2 พดู สรุปความจากการฟังและดู ท 3.1 ป. 4/5 รายงานเร่ืองหรือประเด็นท่ีศกึ ษาคน้ ควา้ จากการฟัง การดู และการสนทนา 2. สมรรถนะหลัก สมรรถนะท่ี 3 สมรรถนะการส่ือสาร องคป์ ระกอบท่ี 3 การเลือกใชก้ ลวิธีการสื่อสารอย่างเหมาะสมโดยคาํ นงึ ถงึ ความรบั ผิดชอบตอ่ สงั คม เพ่ือบรรลุ วตั ถุประสงคใ์ นการสอ่ื สาร พฤติกรรมบ่งชี้ (ระดบั 4) : รบั และสง่ สารท่เี ก่ียวขอ้ งกบั สถานการณ์ ท่ีใกลต้ วั จบั ประเด็นสาํ คญั หรือ วตั ถปุ ระสงค์ ของผสู้ ง่ สารได้ อธิบายความรูส้ กึ ท่เี กิดขึน้ จากการรบั สารประเภทตา่ ง ๆ ท่มี ีความซบั ซอ้ น มาก ขึน้ มคี วามอดทนในการรบั และสง่ สาร ใชส้ ือ่ ท่ีมีความหลากหลายขึน้ เขา้ ใจผลกระทบ ของส่อื ท่มี ีตอ่ ตนเอง มี จดุ ม่งุ หมาย และกลวิธี ในการสือ่ สารและการผลติ ส่ือ เพ่อื ส่ือสาระ ท่เี ป็นประโยชนต์ ่อตนเองไดอ้ ย่างเหมาะสม แผนการจดั การเรียนรู้ วชิ าภาษาไทย ประถมศกึ ษาปีท่ี 4 186

3. สมรรถนะประจาํ หน่วย ฟังและ/หรือดูส่ือต่าง ๆ ท่ีเกี่ยวกับสถานการณ์ในชีวิตประจําวัน ชุมชนและสังคม เพ่ือกาํ หนด จุดม่งุ หมายในการส่ือสารแบบง่าย ๆ จากการตงั้ คาํ ถาม วิเคราะห์ แลว้ พดู สรุป รวมทงั้ แสดงความรู้ ความรูส้ กึ และความคิดเห็นอย่างมีเหตผุ ล ใชก้ ลวธิ ีในการสอ่ื สารใหเ้ หมาะสม และเกิดประโยชนต์ อ่ ตนเองได้ สมรรถนะเฉพาะ : สมรรถนะหลกั : การสอื่ สาร 1. การฟงั การดู และการ องคป์ ระกอบที่ 3 การเลือกใชก้ ลวธิ กี ารสอื่ สารอย่างเหมาะสมโดยคาํ นงึ ถงึ ความรบั ผดิ ชอบ พูดเพอื่ พฒั นาการคดิ ตอ่ สงั คมเพอื่ บรรลุ วตั ถปุ ระสงคใ์ นการสอื่ สาร 1.1 ฟงั และ/หรือดูสอื่ ต่าง ๆ ระดบั 4 (ระดบั ความสามารถ ป.4-6 : เร่ิมตน้ ) ทเี่ กยี่ วกบั สถานการณใ์ น ชีวติ ประจาํ วนั ชมุ ชนและ พฤตกิ รรมบง่ ชี้ (ระดบั 4) : กาํ หนดจุดม่งุ หมายในการสอื่ สาร แบบงา่ ย ๆ สามารถ สงั คม แลว้ พดู สรุป ตงั้ เลอื กใชแ้ ละผลิตสอื่ ใชก้ ลวธิ ใี นการสอื่ สารใหเ้ หมาะสม และเกดิ ประโยชนต์ ่อตนเองได้ คาํ ถาม วเิ คราะห์ รวมทงั้ แสดงความรู้ ความรูส้ กึ และความคดิ เหน็ อยา่ งมี เหตผุ ล 4. เนือ้ หาสาระ (เดิมใชส้ าระการเรียนรู)้ - อ่าน/เขียน จาํ แนก สะกดคาํ และบอกความหมาย - อ่านออกเสียง อา่ นในใจและตอบคาํ ถามจากเรื่องท่ีอ่าน - คาํ ควบกลาํ้ แท/้ ควบกลา้ํ ไม่แท้ - คาํ อกั ษรนาํ - คาํ ท่มี ีไมฑ้ นั ทฆาต - คาํ เป็น/คาํ ตาย - การผนั วรรณยกุ ต์ 5. สมรรถนะยอ่ ย/งาน (ไดจ้ ากการวิเคราะหส์ มรรถนะประจาํ หนว่ ย เพ่อื พิจารณาความสามารถย่อย ๆ ท่ีทาํ ให้ สมรรถนะประจาํ หนว่ ยมีประสิทธิภาพ โดยนาํ เอามาทงั้ หมดท่ใี ชใ้ นหน่วยนนั้ ) 1. ฟังและ/หรือดูสื่อต่าง ๆ ท่ีเก่ียวกับสถานการณ์ในชีวิตประจาํ วัน ชุมชนและสังคม เพ่ือกาํ หนด จดุ มงุ่ หมายในการสื่อสารแบบง่าย ๆ จากการตงั้ คาํ ถาม วิเคราะห์ 2. พูดสรุป รวมทัง้ แสดงความรู้ ความรูส้ ึก และความคิดเห็นอย่างมีเหตุผล ใชก้ ลวิธีในการส่ือสารให้ เหมาะสม และเกิดประโยชนต์ อ่ ตนเองได้ แผนการจดั การเรยี นรู้ วิชาภาษาไทย ประถมศกึ ษาปีท่ี 4 187

แผนการจดั การเรยี นรู้ วชิ าภาษาไทย ประถมศกึ ษาปีท่ี 4 6. โครงสร้างหน่วยการเรียนรู้ สมรรถนะย่อยท่ี 1 ฟังและ/หรือดูส่ือตา่ ง ๆ ทเี่ กี่ยวกบั สถานการณใ์ นช จุดมุง่ หมายในการสือ่ สารแบบงา่ ย ๆ จากการตง้ั คาํ ถาม วเิ คราะห์ แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 1 เร่อื งคาํ ทมี่ ีอกั ษรควบไม่แท้ 1. มาตรฐานการเรยี นรู้และตัวชวี้ ดั ท 1.1 ใชก้ ระบวนการอ่านสรา้ งความรูแ้ ละความคิดเพ่ือนาํ ไปใชต้ ดั ส ท 1.1 ป. 4/1 อา่ นออกเสียงบทรอ้ ยแกว้ และบทรอ้ ยกรองได 2. จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ 2.1 เห็นคณุ คา่ ของการอา่ นออกเสยี งของคาํ ควบไมแ่ ทข้ องการสอ่ื 2.2 บอกวธิ ีการออกเสียงคาํ ควบไม่แทใ้ นชวี ติ ประจาํ วนั ได้ K 2.3 ออกเสียงคาํ ควบไมแ่ ทท้ ่ีใชใ้ นการสื่อสารได้ S 3. กิจกรรมการเรยี นรู้ 3.1 ขน้ั เตรยี มความพร้อมและตั้งข้อสงั เกตในการเรยี นรู้ 1) นกั เรียนทาํ กิจกรรมเกมหลมุ หลอกหู โดยใหน้ กั เรียน เลอื กคาํ จาก ช่อื เกม : หลมุ หลอกหู อปุ กรณ์ : บตั รคาํ ศพั ทค์ าํ ควบกลาํ้ ไม่แท้ และ ปา้ ยประโยค วิธีการเลน่ (1) แบ่งนกั เรยี นเป็นกลมุ่ กลมุ่ ละ 4 คน (2) นกั เรียนแต่ละกลมุ่ รบั บตั รคาํ ควบกลา้ํ ไมแ่ ท้ กลมุ่ ละ 12 เท-รา เซา เทรา ไทร ทราย ท-ราย ซาย พทุ รา 188

ชวี ิตประจาํ วนั ชุมชนและสังคม เพ่ือกาํ หนด เวลา 6 ช่วั โมง เวลา 1 ช่วั โมง สินใจ แกป้ ัญหาในการดาํ เนินชวี ิต และมนี ิสยั รกั การอา่ น ดถ้ กู ตอ้ ง อสารในชีวติ ประจาํ วนั A กบตั รคาํ เตมิ ลงในประโยคท่กี าํ หนด แผน่ ดงั นี้ ไซ ไท-ร พดุ -ซา พทุ -รา

แผนการจดั การเรยี นรู้ วชิ าภาษาไทย ประถมศกึ ษาปีท่ี 4 (3) เม่ือเรม่ิ กจิ กรรม ครูอา่ นขอ้ ความในประโยคท่ี 1 แลว้ ใหน้ (4) ครูเสนอแผน่ แถบประโยค พรอ้ มใหน้ กั เรียนรว่ มกนั พิจาร (5) นกั เรียนปฏิบตั ิกจิ กรรมขอ้ 1) - 4) โดยเปลี่ยนแถบประโย ประโยคท่ี 2 วา่ วติดบนตน้ .......................( ไทร ประโยคท่ี 3 ฉนั ไปทะเล เพ่อื เลน่ ..................... ประโยคท่ี 4 แมช่ อบกิน............................... ( 2) นกั เรียนรว่ มกนั แสดงความคดิ เหน็ เกี่ยวกบั ออกเสยี งคาํ ควบไมแ่ (แนวคาํ ตอบ : การเขียนคาํ ท่ไี ดย้ นิ ไม่ถกู ตอ้ งกบั คาํ ท่ีตอ้ งการสื่อ 3.2 ขน้ั จัดกระบวนการเรียนรู้ 1) นกั เรยี นจบั ค่กู นั แลว้ สงั เกตคาํ ชดุ ท่ี 1 ดงั นี้ กรง่ิ – จรงิ , ก 1.1 นกั เรียนพิจารณาคาํ ท่ีออกเสียงพยญั ชนะตน้ ว่า 1.2 นกั เรยี นแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกบั การออกเสียงคาํ พร การออกเสียงคาํ ชดุ ท่ี 1 ( แนวคาํ ตอบ คาํ ควบกลาํ้ แทจ้ ะอา่ นออกเสียงพยญั ช สว่ นคาํ ควบกลา้ํ ไม่แทจ้ ะออกเสียงพยญั ชนะตน้ เพียงตวั แรกเท่านนั้ ไม่สามาร โดยนกั เรียนท่ีสามารถระบคุ วามแตกต่างของการอ่านออกเส 2) นกั เรียนสงั เกตคาํ ชดุ ท่ี 2 ดงั นี้ พราย – ทราย, กราบ - ท 2.1 นกั เรียนพจิ ารณาคาํ ท่ีออกเสยี งพยญั ชนะตน้ ว่า 2.2 นกั เรียนแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกบั การออกเสยี งคาํ พรอ้ ออกเสียงคาํ ชุดท่ี 2 ( แนวคาํ ตอบ คาํ ควบกลาํ้ แทจ้ ะอ่านออกเสียงพยญั ชนะ 189

นกั เรียนชบู ตั รคาํ ตามเสียงท่ีไดย้ นิ รณาความถกู ตอ้ งของการเลอื กบตั รคาํ มานาํ เสนอเสียงในพยางคท์ ่ีหายไป ยคดงั นี้ ร) . ( ทราย ) พทุ รา ) แทใ้ นการส่ือสารในชีวติ ประจาํ วนั ในประเด็นต่อไปนี้ อสาร / การเขยี นคาํ ผดิ ) กรรไกร - ไซร,้ ปรอย - สรอ้ ย แลว้ ปฏบิ ตั กิ จิ กรรมดงั นี้ าแตกตา่ งกนั อยา่ งไร โดยครูจดั เตรยี มแหลง่ สาํ หรบั การสืบคน้ ใหแ้ ก่นกั เรียน รอ้ มทงั้ ทดลองปฏบิ ตั ิตามส่ิงท่ีนกั เรียนนาํ เสนอเพ่อื ลงสรุปคาํ ตอบเก่ียวกบั ชนะตน้ ทงั้ สองตวั กลาํ้ กนั สนิท หรือออกเสยี งพยญั ชนะตน้ ทงั้ สองพรอ้ มกนั ได้ รถออกเสยี งพยญั ชนะตน้ ทงั้ สองใหก้ ลาํ้ กนั สนทิ หรือออกเสียงใหพ้ รอ้ มกนั ได)้ สียงคาํ ท่ีกาํ หนดใหไ้ ดถ้ กู ตอ้ งไดร้ บั เหรยี ญ “ผรู้ อบรู”้ ทราบ, ครุฑ - ทรุด าแตกต่างกนั อย่างไร อมทงั้ ทดลองปฏิบตั ิตามสิ่งท่นี กั เรียนนาํ เสนอเพ่อื ลงสรุปคาํ ตอบเก่ียวกบั การ ะตน้ ทงั้ สองตวั กลาํ้ กนั สนิท หรือออกเสยี งพยญั ชนะตน้ ทงั้ สองพรอ้ มกนั ได้

แผนการจดั การเรยี นรู้ วชิ าภาษาไทย ประถมศกึ ษาปีท่ี 4 สว่ นคาํ ควบกลา้ํ ไม่แทจ้ ะออกเสียง ทร เป็นเสยี ง ซ ) โดยนกั เรยี นท่สี ามารถระบ “ผรู้ อบรู”้ 3). นกั เรยี นสงั เกตคาํ ชุดท่ี 3 ดงั นี้ นทิ รา - พทุ รา, อนิ ทรา – 3.1 นกั เรียนพิจารณาคาํ ท่ีออกเสยี งพยญั ชนะตน้ ว่า 3.2 นกั เรียนแสดงความคิดเห็นเก่ียวกบั การออกเสยี งคาํ พรอ้ ออกเสียงคาํ ชดุ ท่ี 3 ( แนวคาํ ตอบ กลมุ่ คาํ ท่ี 1 อ่านออกเสียง ทร เป็นคาํ ควบ ) 4) นกั เรียนรว่ มกนั สรุปลกั ษณะของการออกเสียงคาํ 5) ใหน้ กั เรียนเลน่ เกม “แยกแยะควบกลาํ้ ” ช่อื เกม : แยกแยะควบกลา้ํ อปุ กรณ์ : บตั รคาํ ศพั ทค์ าํ ควบกลาํ้ แทแ้ ละคาํ ควบกลาํ้ ไม่แท วิธีการเลน่ 1) นกั เรยี นแบง่ กลมุ่ ออกเป็นสองกลมุ่ กลมุ่ ละเท่าๆ 2) ตวั แทนนกั เรียนแตล่ ะกลมุ่ ออกมาจบั สลาก วา่ กล 3) กลมุ่ ท่ีไดเ้ ลน่ ก่อนใหเ้ รียงแถวตอน โดยใหค้ นท่หี น คาํ ควบกลา้ํ แท้ กราบ ไกล กวาด ข คาํ ควบกลา้ํ ไมแ่ ท้ เศรา้ เสรมิ 190

บคุ วามแตกต่างของการอ่านออกเสียงคาํ ท่ีกาํ หนดใหไ้ ดถ้ กู ตอ้ งไดร้ บั เหรียญ – อนิ ทร,ี จนั ทรา – มทั รี าแตกตา่ งกนั อยา่ งไร อมทงั้ ทดลองปฏบิ ตั ิตามสิ่งท่ีนกั เรยี นนาํ เสนอเพ่ือลงสรุปคาํ ตอบเก่ียวกบั การ บกลา้ํ แท้ สว่ นกลมุ่ คาํ ท่ี 2 อ่านออกเสียง ทร เป็นเสยี ง ซ เป็นคาํ ควบกลา้ํ ไมแ่ ท้ ท้ และ กลอ่ งคาํ ควบกลาํ้ แทแ้ ละคาํ ควบกลาํ้ ไม่แท้ กนั ลมุ่ ไหนจะไดเ้ ลน่ ก่อน น่ึงวิ่งไปหยบิ บตั รคาํ ศพั ทค์ าํ ควบกลา้ํ แทแ้ ละไมแ่ ท้ ดงั นี้ ขวญั พรอ้ ม ปลวก ทรพั ย์ ทราย ทรง จรงิ

แผนการจดั การเรยี นรู้ วชิ าภาษาไทย ประถมศกึ ษาปีท่ี 4 จากนนั้ พิจารณาดวู ่าบตั รคาํ ท่ีหยบิ ไดเ้ ป็นคาํ ควบกลาํ้ แทห้ ไมแ่ ท้ หลงั จากท่ีหย่อนเสรจ็ แลว้ ใหค้ นท่ีหน่ึงวิ่งไปแตะมอื คนท่สี องแลว้ ไปต่อท กลมุ่ ละ 5 นาที 6) นกั เรียนรว่ มกนั นาํ เสนอคาํ ควบกลา้ํ แท้ และ คาํ ควบกลาํ้ ไ โดยไมใ่ ห้ คาํ ซาํ้ กนั 3.3 ขั้นสรุปองคค์ วามรู้ นกั เรยี นทดสอบความสามารถในการออกเสยี งคาํ ควบไมแ่ ท้ ดงั นี้ แหลง่ ท่ีมา https://www.youtube.com 3.4 ข้นั นาํ ไปประยกุ ตใ์ ช้ นกั เรยี นยกตวั อย่างคาํ ท่ีพบในชมุ ชน คาํ ท่เี จอในชวี ิตประจาํ วนั เชน่ ท ประโยค 191

หรือไม่แท้ แลว้ ใหน้ าํ บตั รคาํ หย่อนลงในกลอ่ งคาํ ควบกลา้ํ แทห้ รือคาํ ควบกลาํ้ ทา้ ยแถวทาํ แบบนไี้ ปเรื่อย ๆ จนกว่าจะหมดเวลา กาํ หนดเวลาในการเลน่ เกม ไม่แทท้ ่ีพบในชวี ิตประจาํ วนั โดยเขยี นลงในบตั รคาํ แลว้ นาํ ไปติดท่ีปา้ ยนเิ ทศ m/watch?v=i1cme1YjQHA ทรวดทรง เศรษฐี อินทรีย์ ตน้ ไทร สายสรอ้ ย พทุ รา แลว้ นาํ คาํ มาแตง่

แผนการจดั การเรยี นรู้ วชิ าภาษาไทย ประถมศกึ ษาปีท่ี 4 4. การวัดและประเมินผล เครื่องมือวดั แบบสงั เกตพฤติกรรมกา วธิ วี ัด สว่ นรว่ ม สงั เกตพฤติกรรมการมีสว่ นร่วมในการแสดง ความคิดเห็นเกี่ยวกบั คณุ ค่าของการออกเสยี ง เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน คาํ ควบไมแ่ ทท้ ่ีถกู ตอ้ งในชีวิตประจาํ วนั ตรวจผลงานบอกวิธีการออกเสยี งคาํ ควบไม่แท้ ประเมินความสามารถในการออกเสียงคาํ ไม่แท้ เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ท่ใี ชใ้ นการส่ือสาร 192

เกณฑก์ ารประเมิน ารมี ดี แสดงความคิดเห็นอย่างนอ้ ย 2 รายการ พอใช้ แสดงความคดิ เห็น 1 รายการ ปรบั ปรุง ไมไ่ ดแ้ สดงความคิดเห็น ดี ผลงานแสดงถงึ หลกั การออกเสยี งคาํ ควบกลา้ํ ไม่แทไ้ ด้ ครอบคลมุ ประเดน็ ต่อไปนี้ 1) คาํ ควบกลา้ํ ไม่แทจ้ ะออกเสียงพยญั ชนะตน้ เพยี งตวั แรกเทา่ นนั้ ไม่สามารถออกเสียงพยญั ชนะตน้ ทงั้ สองใหก้ ลา้ํ กนั สนิทหรอื ออก เสียงใหพ้ รอ้ มกนั ได้ เชน่ คาํ ว่า จรงิ 2) คาํ ควบกลา้ํ ไม่แทจ้ ะออกเสียง ทร เป็นเสียง ซ เช่น พทุ รา (พดุ -ซา) พอใช้ แสดงผลงานไดส้ อดคลอ้ งกบั รายการท่ีกาํ หนด 1 ขอ้ ปรบั ปรุง ผลงานไม่สอดคลอ้ งกบั รายการท่ีกาํ หนด ดี ออกเสียงคาํ ควบไม่แทไ้ ดถ้ กู ตอ้ งทกุ คาํ พอใช้ ปรากฏคาํ ท่ีออกเสียงไมถ่ กู ตอ้ ง 1 คาํ ปรบั ปรุง ปรากฏคาํ ท่ีออกเสียงไมถ่ กู ตอ้ งมากกวา่ 1 คาํ

แผนการจดั การเรยี นรู้ วชิ าภาษาไทย ประถมศกึ ษาปีท่ี 4 สมรรถนะยอ่ ยท่ี 1 ฟังและ/หรือดูสอื่ ตา่ ง ๆ ทเี่ กี่ยวกับสถานการณใ์ นช จุดมุง่ หมายในการสื่อสารแบบง่าย ๆ จากการต้ังคาํ ถาม วเิ คราะห์ แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 2 เรอ่ื งคาํ ทมี่ ีอกั ษรนํา 1. มาตรฐานการเรียนรู้และตวั ชวี้ ัด มาตรฐาน ท 1.1 ใชก้ ระบวนการอ่านสรา้ งความรูแ้ ละความคิดเพ่อื น ท 1.1 ป. 4/1 อา่ นออกเสียงบทรอ้ ยแกว้ และบทรอ้ ยกรองไ 2. จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ 2.1 เหน็ คณุ ค่าของการอ่านคาํ ท่มี อี กั ษรนาํ A 2.2 บอกหลกั การอา่ นอกั ษรนาํ ท่ีพบในชวี ิตประจาํ วนั ได้ K 2.3 อ่านคาํ อกั ษรนาํ ในบทอา่ นท่ีกาํ หนดใหอ้ ย่างคลอ่ งแคล่ว S 3. กจิ กรรมการเรียนรู้ 3.1 ข้นั เตรียมความพร้อมและตั้งข้อสังเกตในการเรียนรู้ 1) นกั เรียนเลน่ เกม อ่านสายฟ้าแลบ ช่อื เกม : อา่ นสายฟา้ แลบ อปุ กรณ์ : ชุดคาํ อกั ษรนาํ จาํ นวน 4 ชุด ชุดท่ี 1 ขณะ ขนม ขมวด ขยนั ฉงน ชุดท่ี 2 ถวาย เถลไถล ผงก ผนัง ผยอง 193

ชวี ติ ประจาํ วัน ชุมชนและสังคม เพ่ือกาํ หนด เวลา 6 ช่วั โมง เวลา 1 ช่วั โมง นาํ ไปใชต้ ดั สนิ ใจ แกป้ ัญหาในการดาํ เนินชวี ิต และมีนิสยั รกั การอ่าน ไดถ้ กู ตอ้ ง ฉนวน ฉมวก ฉลาด ไถง ถนน ผลติ ผวา สลาก สลวั สลิด

แผนการจดั การเรยี นรู้ วชิ าภาษาไทย ประถมศกึ ษาปีท่ี 4 ชุดท่ี 3 ฝร่ัง สงา่ สนุก สมุด สยาม ชุดท่ี 4 เสนอ สนอง สมาน เสมอ สมอง ชุดท่ี 5 สลดั สวิง ขยะ ขยาย ขยาํ้ ชุดท่ี 6 ไฉน ฉมัง ฉลม ฉลาก ฉลอง แหลง่ ท่ีมา https://th-th.facebook.com/102554595139568/photos/pcb.119375530 วิธีการเล่น 1) ใหน้ กั เรียนแบง่ กลมุ่ ออกเป็นกลมุ่ กลมุ่ ละเท่าๆ ก 2) กาํ หนดให้ กลมุ่ ท่ี 1 รบั ชุดคาํ อกั ษรนาํ ชดุ ท่ี 1 กลมุ่ ท่ี 4 รบั ชุดอกั ษรนาํ ชดุ ท่ี 4 พรอ้ มทงั้ ตรวจสอบการอ่านคาํ ในชดุ คาํ อกั ษร 3) กาํ หนดค่กู ารแข่งขนั ดงั นี้ กลมุ่ ท่ี 1 เป็นผแู้ ข่งขนั โดยใหก้ ลมุ่ ท่ี 1 และกลมุ่ ท่ี 3 เป็นกรรมการ 4) เรม่ิ การแขง่ ขนั โดยใหก้ ลมุ่ ผเู้ ขา้ รบั การแข่งขนั เขา้ เม่ือไดย้ ินสญั ญาณนกหวีดใหผ้ แู้ ขง่ ขนั ท่ีอยหู่ วั แถ ว่า “ผ่าน” แลว้ ใหว้ ่งิ ไปต่อทา้ ยแถว พรอ้ มทงั้ ใหค้ นถดั ไปมาอ่านคาํ ตอ่ ไป กร การอ่านออกเสียงของสมาชิกในกลมุ่ ตน กาํ หนดเวลาในการดาํ เนนิ การแข่งขนั เป็นเวลา 1 จาํ นวนคาํ ท่อี ่านได้ 194

สระ สลบั สวาย สงบ สนาม สมุย สมุน สยาย แสยะ สละ ขยี้ เชยิบ เขยอื้ น โขยง เขม็ง เฉลย เฉล่ยี ฉลู ถลอก ถลาํ 0124141/119375446790816/?type=3&theater กนั กลมุ่ ท่ี 2 รบั ชุดอกั ษรนาํ ชดุ ท่ี 2 กลมุ่ ท่ี 3 รบั ชุดอกั ษรนาํ ชดุ ท่ี 3 รนาํ ท่ไี ดร้ บั ใหถ้ กู ตอ้ งทกุ คาํ กบั กลมุ่ ท่ี 2 และกลมุ่ ท่ี 3 แข่งขนั กบั กลมุ่ ท่ี 4 กลมุ่ ท่ี 2 และกลมุ่ ท่ี 4 เป็นผเู้ ขา้ รบั การแขง่ ขนั าแถวตอน เพ่ืออ่านชดุ คาํ อกั ษรนาํ ของกรรมการ ดงั นี้ ถว อ่านคาํ ในชดุ คาํ อกั ษรนาํ ของกรรมคาํ ท่ี 1 ถา้ อ่านถกู ตอ้ ง กรรมการพดู คาํ รณีท่อี ่านไม่ถกู ตอ้ ง จะถกู กรรมการจบั ตวั ไวเ้ ป็นตวั ประกนั และรว่ มสงั เกต นาที โดยใชส้ ญั ลกั ษณเ์ สยี งนกหวีดเป็นการยุติการแขง่ ขนั พรอ้ มทงั้ นบั

แผนการจดั การเรยี นรู้ วชิ าภาษาไทย ประถมศกึ ษาปีท่ี 4 2) นกั เรียนสลบั กนั เป็นผแู้ ขง่ ขนั และผรู้ บั การแข่งขนั 3) นกั เรยี นสนทนากนั ในประเดน็ ต่อไปนี้ - นกั เรยี นพบคาํ อกั ษรนาํ เหล่านใี้ นชวี ิตประ - การอา่ นคาํ อกั ษรนาํ เหลา่ นีไ้ มค่ ลอ่ งจะสง่ ผ (สง่ ผลกระทบ เช่น อ่านออกเสียงคาํ ผิดทาํ 3.2 ข้นั จดั กระบวนการเรียนรู้ 1) นกั เรยี นอา่ นช่ือคาํ อกั ษรนาํ ท่ีพบในกจิ กรรมเกมพรอ้ มกนั 2) นกั เรยี นรบั บทความ แลว้ บนั ทกึ คาํ อกั ษรนาํ ท่ีพบลงในใบง ประเด็นท่ี 1 คาํ ท่ีมอี กั ษรสงู นาํ ประเดน็ ท่ี 2 คาํ ท่ีมีอกั ษรกลางนาํ 195

ะจาํ วนั หรือไม่ ผลถึงการส่ือสารในชวี ิตประจาํ วนั หรือไม่ อยา่ งไร าใหส้ ่ือสารภาษาไม่เขา้ ใจกนั ) งาน พรอ้ มทงั้ จดั กลมุ่ คาํ อกั ษรนาํ ท่ีพบตามประเด็น ดงั นี้

แผนการจดั การเรยี นรู้ วชิ าภาษาไทย ประถมศกึ ษาปีท่ี 4 3) ครูและนกั เรียนรว่ มกนั อภิปรายถงึ เร่ืองอกั ษรนาํ จากนนั้ แ บัตรสเี หลอื ง บัตรสเี ขียว ขมกุ ขมวั ผลิต ภณั ฑ์ ซ่า หร่มิ บาท หลวง สะระ แหน่ โดยกาํ หนดใหน้ กั เรยี นท่ีมีบตั รคาํ ทงั้ 12 คน เลน่ เกมจบั ค่กู นั โดย ตดั สินความถกู ตอ้ ง 4) นาํ บตั รคาํ ท่จี บั คถู่ กู ตอ้ งแลว้ ใหน้ กั เรียนฝึกอ่านและรว่ มกนั สบื คน้ ค 5). นกั เรยี นรว่ มอภิปรายเกี่ยวกบั พยญั ชนะตน้ ของคาํ แต่ละคาํ ขมกุ ขมวั มี คาํ วา่ ขมกุ พยญั ชนะตน้ ข เป็นตวั นาํ ม ขมกุ ขมวั มี คาํ วา่ ขมวั พยญั ชนะตน้ ข เป็นตวั นาํ ม ผลติ ภณั ฑ์ มีคาํ ว่า ผลติ พยญั ชนะตน้ ผ เป็นตวั นาํ ต ซา่ หร่มิ มีคาํ วา่ หรม่ิ พยญั ชนะตน้ ห เป็นตวั นาํ ร บาทหลวง มคี าํ วา่ หลวง พยญั ชนะตน้ ห เป็นตวั นาํ ล สะระแหน่ มีคาํ ว่า แหน่ พยญั ชนะตน้ ห เป็นตวั นาํ น 196

แจกบตั รคาํ ซง่ึ แยกเป็น 2 สี จาํ นวน 10 บตั ร ใหน้ กั เรียน กลมุ่ ละ 12 คน ดงั นี้ ยใหน้ กั เรียนเลน่ เกมจาํ นวน 10 คนและท่ีเหลือจาํ นวน 2 คนเป็นกรรมการ ความหมาย เป็นตวั ตาม เป็นตวั ตาม เป็นตวั ตาม เป็นตวั ตาม เป็นตวั ตาม เป็นตวั ตาม

แผนการจดั การเรยี นรู้ วชิ าภาษาไทย ประถมศกึ ษาปีท่ี 4 6) ขออาสาสมคั รนกั เรียนเพ่ือตอบขอ้ ซกั ถาม - ใหน้ กั เรียนบอกความหมายของคาํ ท่มี ีอกั ษรนาํ พรอ้ มทงั้ ยก 3.2 ข้นั สรุปองคค์ วามรู้ นกั เรียนจบั คกู่ นั ทดสอบความสามารถในการอ่านคาํ อกั ษรนาํ โดยกาํ ห เพ่อื ตรวจสอบความคลอ่ งแคลว่ ในการอา่ นอกั ษรนาํ 3.3 ขน้ั นําไปประยกุ ตใ์ ช้ นกั เรยี นนาํ แนวทางการฝึกความคล่องในการอา่ นอกั ษรนาํ มาพฒั นา ตรวจสอบความถูกตอ้ งและความคลอ่ งแคลว่ ในการอ่านบทอา่ นท่มี คี าํ อกั ษรน 4. การวัดและประเมินผล วิธีวดั เครอื่ งมือ สงั เกตพฤติกรรมในการแสดงความคิดเห็นเก่ียวกบั แบบสงั เกตพฤติกรรม คณุ ค่าของการอ่านคาํ ท่มี อี กั ษรนาํ ไดค้ ลอ่ ง ตรวจผลงานการบอกหลกั การอา่ นคาํ อกั ษรนาํ เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน 197

กตวั อย่างคาํ ท่มี ีอกั ษรนาํ หนดเวลาในการอ่าน 1 นาที โดยใชช้ ดุ คาํ อกั ษรนาํ ใน เกมอา่ นสายฟา้ แลบ าตนเองในการอ่านบทอ่านใหค้ ลอ่ งแคลว่ ดว้ ยการจบั ค่กู บั เพ่ือนเพ่ือใหเ้ พ่ือน นาํ อวดั เกณฑก์ ารประเมิน มการอา่ น แสดงความคิดเห็นอย่างนอ้ ย 1 รายการ น ดี ผลงานการบอกหลกั การแสดงใจความสาํ คญั ตอ่ ไปนีท้ กุ รายการ 1)การออกเสียงคาํ อกั ษรนาํ ท่ีมอี กั ษรสงู นาํ 2)การออกเสียงคาํ อกั ษรนาํ ท่ีมอี กั ษรกลางนาํ พอใช้ ผลงานแสดงประเดน็ สาํ คญั ท่ีกาํ หนด 1 รายการ ปรบั ปรุง ผลงานไม่แสดงตามรายการท่ีกาํ หนด

แผนการจดั การเรยี นรู้ วชิ าภาษาไทย ประถมศกึ ษาปีท่ี 4 วธิ วี ัด เครื่องมือ เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ประเมนิ ความสามารถในการอา่ นอกั ษรนาํ (ขนั้ สรุปองคค์ วามรู)้ 198

อวดั เกณฑก์ ารประเมิน น ดี อ่านชดุ คาํ อกั ษรนาํ ท่ีเลือกไดถ้ กู ตอ้ ง ทกุ คาํ และอา่ นไดภ้ ายในเวลา 1 นาที พอใช้ อา่ นไดถ้ กู ตอ้ งทกุ คาํ แตเ่ กินเวลา 1 นาที ปรบั ปรุง ปรากฏคาํ ท่ผี า่ นผิด

แผนการจดั การเรยี นรู้ วชิ าภาษาไทย ประถมศกึ ษาปีท่ี 4 สมรรถนะย่อยท่ี 1 ฟังและ/หรอื ดูสือ่ ตา่ ง ๆ ทเี่ กี่ยวกับสถานการณใ์ นช จดุ มุ่งหมายในการสือ่ สารแบบง่าย ๆ จากการตั้งคาํ ถาม วเิ คราะห์ 199 แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 3 เร่อื งคาํ ทมี่ ีตัวการันต์ 1. มาตรฐานการเรียนรู้และตวั ชวี้ ดั มาตรฐาน ท 1.1 ใชก้ ระบวนการอ่านสรา้ งความรูแ้ ละความคิดเพ่ือนาํ ไปใชต้ ท 1.1 ป. 4/1 อ่านออกเสียงบทรอ้ ยแกว้ และบทรอ้ ยกรองไดถ้ กู ตอ้ ง 2. จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ 2.1 เห็นคณุ คา่ ของการอา่ นออกเสียงคาํ ท่มี ีตวั การนั ต์ A 2.2 บอกหลกั การอ่านคาํ ท่มี ตี วั การนั ตใ์ นการสื่อสารได้ K 2.3 อา่ น/พดู คาํ ท่ีมีตวั การนั ตท์ ่ใี ชใ้ นการสื่อสารได้ S 3. กิจกรรมการเรยี นรู้ 3.1 ขน้ั เตรียมความพร้อมและตั้งข้อสงั เกตในการเรียนรู้ 1) นกั เรียนเลน่ เกม เป่ายงิ ฉบุ ฮปุ คาํ ชอ่ื เกม : เป่ ายงิ้ ฉุบฮบุ คาํ อปุ กรณ์ : บัตรคาํ วธิ ีการ - นกั เรียนรบั บตั รคาํ คนละ 1 ใบ จากนนั้ หาค่เู พ่ือเป่ - นกั เรียนเป่ายงิ ฉบุ กบั เพ่อื น ผชู้ นะจะมสี ิทธิ์ไดอ้ า่ นค ตอ่ ทา้ ย ผชู้ นะ ผชู้ นะไปหาค่แู ข่งขนั การอ่านคาํ โดยการจบั คเู่ พ่ือนท่มี ีบตั รในม

ชวี ติ ประจาํ วนั ชุมชนและสังคม เพ่ือกาํ หนด เวลา 6 ช่วั โมง เวลา 1 ช่วั โมง ตดั สินใจ แกป้ ัญหาในการดาํ เนินชีวติ และมีนสิ ยั รกั การอ่าน ง ปายิงฉุบ คาํ ของเพ่อื น หากอา่ นถกู ตอ้ งจะไดค้ าํ ของเพ่อื นมาครอง และคนท่แี พต้ อ้ งมา มือ ดว้ ยการเป่ายงิ้ ฉุบไปเรอื่ ย ๆ ผทู้ ่ีอย่หู วั แถวเป็นผชู้ นะ ไดร้ บั เสียงปรบมือ

แผนการจดั การเรยี นรู้ วชิ าภาษาไทย ประถมศกึ ษาปีท่ี 4 3) ครูและนกั เรียนสนทนากนั ในประเดน็ ต่อไปนี้ -คาํ จากกิจกรรมอา่ นยากหรือไม่ อย่างไร จนั ทร จนั -การอ่านออกเสียงระหวา่ งคาํ ท่ีมเี ครื่องหมายทนั ฑฆ อย่างไร (แนวคาํ ตอบ : ประเภทท่ีออกเสียง เน่ืองจากไมม่ ไี มท้ ณั ออกเสียง เพราะไมท้ ณั ฑฆาต ( ◌์ ) แสดงใหร้ ูว้ า่ ไมต่ อ้ งอา่ นออกเสียงพยญั ช -การไมร่ ูห้ ลกั การอ่านคาํ ท่มี ีตวั การนั ตส์ ง่ ผลกระทบต (แนวคาํ ตอบ มคี วามเป็นไปได้ เช่นการอา่ นช่ือของแ เชน่ เกศรนิ ทร ช่ือนีอ้ ่านว่า เกด-สะ-รนิ -ทอน สว่ น เกศรินทร์ อ่านวา่ เกด-สะ- 3.2 ข้นั จัดกระบวนการเรยี นรู้ 1) นกั เรยี นแบง่ กลมุ่ พรอ้ มทงั้ ปฏิบตั ิกจิ กรรม “ตวั การนั ต”์ ดงั ช่ือกจิ กรรม “ตวั การนั ต”์ จดุ ประสงค์ เพ่ือเรียนรูห้ ลกั การออกอ่านตวั การนั ต์ อปุ กรณ์ บตั รคาํ ไปรษณีย์ โทรทศั น์ โทรศพั ท์ เทพา ปรีดเิ์ ปรม ความทกุ ข์ เชาวนป์ ัญญา อาน วธิ ีการ 1) เม่ือเรม่ิ กิจกรรม ตวั แทนกลมุ่ เลอื กบตั รคาํ 1 แผ่น 2) สมาชิกกลมุ่ อ่นื ระบอุ กั ษรท่เี ป็นตวั การตั นข์ องคาํ 3) นกั เรียนสลบั กนั ปฏบิ ตั ิกิจกรรมไปเรื่อย ๆ จนบตั ร 200

นทร์ / ใบสทุ ธิ บรสิ ทุ ธิ์ / กาญจน กาญจน์ / พนั ธ พนั ธ์ ฆาตกาํ กบั และคาํ ท่ไี ม่มีเคร่ืองหมายทนั ฑฆาตกาํ กบั มีความแตกต่างกนั ณฑฆาตกาํ กบั ส่วนคาํ ท่ีมีไมท้ ณั ฑฆาต ( ◌์ ) กาํ กบั อย่บู นพยญั ชนะจะไม่ ชนะตวั นนั้ ต่อนกั เรียนหรือไม่ อย่างไร แขกผูม้ ีเกียรติในงานผิดเน่ืองจากไม่เขา้ ใจเก่ียวกบั การอา่ นคาํ ท่ีมีตวั การนั ต์ -รนิ เป็นตน้ งนี้ ารกั ษ์ คอมพวิ เตอร์ ประโยชน์ กรรมสิทธิ์ นิสงส์ กายวภิ าคศาสตร์ กาพยย์ านี 11 สายสญิ จน์ น พรอ้ มทงั้ อ่านออกเสยี ง พรอ้ มทงั้ พจิ ารณาความถกู ตอ้ งของการอ่าน รคาํ หมด

แผนการจดั การเรยี นรู้ วชิ าภาษาไทย ประถมศกึ ษาปีท่ี 4 4) นกั เรยี นร่วมกนั แยกประเภทโดยจาํ นวนตวั การนั ต 2) นกั เรียนแต่ละกลมุ่ รว่ มกนั สืบคน้ คาํ ท่มี ีตวั การตั น์ จาํ แนกต (คาํ ละ 1 บตั ร) 3) เม่อื ไดย้ ินสญั ญาณนกหวีด กาํ หนดใหน้ กั เรียนแตล่ ะกลมุ่ ดงั นี้ 3.1 เขยี นคาํ ท่สี ืบคน้ ได้ ลงในบตั รคาํ โดยเวน้ พยญั ช จาํ นวน 10 คาํ 4) เม่อื ไดย้ ินสญั ญาณนกหวดี ใหน้ กั เรยี นวางบตั รคาํ ท่ีเขียน 5) เม่อื ไดย้ ินสญั ญาณนกหวดี ครงั้ ท่ี 2 นกั เรียนแตล่ ะกลมุ่ เด แลว้ เติมตวั การนั ตท์ ่ีหายไป (ระบลุ าํ ดบั ท่ขี องกลมุ่ ตนต่อ - เม่อื ไดย้ ินสญั ญาณนกหวีด ครง้ั ต่อไป ใหน้ กั - เม่อื คาํ ทกุ คาํ ท่ีวางไวบ้ นโตะ๊ ถกู เขยี นครบทกุ ท่ีไดค้ ะแนนรวมสงู สดุ ไดร้ างวลั “กลมุ่ ยอดเย - นกั เรยี นนาํ บตั รคาํ ท่แี ตล่ ะกล่มุ รว่ มกนั เขยี น 3.3 ข้นั สรุปองคค์ วามรู้ นกั เรียนจบั คกู่ บั เพ่อื น แลว้ ดาํ เนนิ การทดสอบความสามารถในการเข การนั ต์ และสรุปหลกั การอ่านตวั การนั ตป์ ระกอบดว้ ย กมุ ภาพนั _ ดรุ ยิ าง_ มหศั จรร_ ภาพยน_ 201

ตเ์ ป็นเกณฑ์ ตามจาํ นวนตวั การนั ตข์ องคาํ พรอ้ มทงั้ เขียนคาํ ดงั กลา่ วลงในบตั รคาํ มออกแบบ กจิ กรรมบตั รคาํ คใู่ จตวั การนั ต์ ซ่งึ มรี ายละเอียดการดาํ เนินการ ชนะท่เี ป็นตวั การนั ตไ์ ว้ ดงั ตวั อย่าง กมุ ภาพนั _ นขนึ้ บนโต๊ะเรียน ดินเวยี นขวาไปหากลมุ่ ต่อไป พรอ้ มทงั้ พิจารณาบตั รคาํ ท่มี ีตวั การตั น์ 1 แผ่น อทา้ ยคาํ ท่เี ลอื กไวด้ ว้ ย) กเรยี นเวยี นคาํ ไปยงั กลมุ่ ถดั ไป แลว้ ปฏิบตั ิกิจกรรมเชน่ เดียวกนั กบั ขอ้ 3.3 กแผน่ แลว้ ใหก้ ลมุ่ ตรวจสอบและรายงานคะแนนท่ีแต่ละกลมุ่ ไดร้ บั โดยกลมุ่ ย่ียม” นตวั การนั ตไ์ ปติดท่ปี า้ ยนิเทศเพ่ือการแลกเปลย่ี นเรียนรู้ ขียนคาํ ท่มี ีตวั การนั ต์ โดยเติมตวั การนั ตใ์ นบตั รคาํ พรอ้ มทงั้ อา่ นคาํ ท่ีมีตวั ไปรษณี_ ผลิตภณั _ ดวงจนั _ คณิตศาส_

แผนการจดั การเรยี นรู้ วชิ าภาษาไทย ประถมศกึ ษาปีท่ี 4 3.4 ขน้ั นาํ ไปประยกุ ตใ์ ช้ นกั เรียนนาํ ความรูเ้ กี่ยวกบั คาํ ท่มี ีตวั การตั นไ์ ปอ่านช่ือของเพ่ือนในชนั้ 4. การวดั และประเมินผล วธิ ีวัด เครอ่ื งมอื วดั สงั เกตพฤติกรรมการมสี ว่ นร่วมในการ แบบสงั เกตพฤติกรรมการอ่าน ระบคุ ณุ ค่าของการอ่านคาํ ท่ีมีตวั การนั ต์ ตรวจผลงานการบอกหลกั การอา่ นคาํ ท่ี เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน มตี วั การนั ต์ ประเมินความสามารถในการอา่ นคาํ ท่มี ี เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ตวั การนั ต์ (กิจกรรมขนั้ สรุปองคค์ วามรู)้ 202

นเรยี น เกณฑก์ ารประเมิน มีสว่ นรว่ มในการแสดงความคดิ เห็นอย่างนอ้ ย 1 ขอ้ ดี ผลงานนาํ เสนอขอ้ ความท่แี สดงถึงประเด็นสาํ คญั ต่อไปนี้ ทกุ รายการ 1)พยญั ชนะท่ีอยใู่ ตไ้ มท้ ณั ฑฆาตเรยี กวา่ ตวั การนั ต์ 2)ตวั การนั ตไ์ ม่ออกเสยี ง พอใช้ ผลงานแสดงขอ้ ความท่ีกาํ หนด 1 ขอ้ ปรบั ปรุง ผลงานไม่แสดงขอ้ ความท่ีกาํ หนด ดี อ่านคาํ ท่มี ีตวั การนั ตไ์ ดอ้ ย่างถกู ตอ้ ง ทกุ คาํ ภายในเวลา 1 นาที พอใช้ อา่ นคาํ ท่มี ีตวั การนั ตไ์ ด้ ถกู ตอ้ งแตใ่ ชเ้ วลามากกว่า 1 นาที ปรบั ปรุง อ่านคาํ ท่มี ตี วั การนั ตผ์ ดิ

แผนการจดั การเรยี นรู้ วชิ าภาษาไทย ประถมศกึ ษาปีท่ี 4 สมรรถนะยอ่ ยท่ี 1 ฟังและ/หรอื ดูสอ่ื ต่าง ๆ ทเี่ กี่ยวกับสถานการณใ์ นช จุดมุ่งหมายในการสือ่ สารแบบงา่ ย ๆ จากการต้ังคาํ ถาม วเิ คราะห์ 203 แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 4 เร่อื ง คาํ ทม่ี วี รรณยกุ ต์ 1. มาตรฐานการเรยี นรู้และตวั ชวี้ ัด มาตรฐาน ท 1.1 ใชก้ ระบวนการอ่านสรา้ งความรูแ้ ละความคิดเพ่ือน ท 1.1 ป. 4/1 อา่ นออกเสียงบทรอ้ ยแกว้ และบทรอ้ ยกรองไดถ้ กู ตอ้ ง 2. จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ 2.1 เหน็ ความสาํ คญั ของการผนั อกั ษรไทย A 2.2 บอกหลกั การผนั วรรณยกุ ตไ์ ด้ K 2.3 ผนั วรรณยกุ ตอ์ กั ษรกลางและอกั ษรสงู ได้ S 3. กิจกรรมการเรยี นรู้ 3.1 ข้นั เตรียมความพร้อมและตัง้ ขอ้ สังเกตในการเรียนรู้ 1) นกั เรยี นเลน่ เกมปริศนา อะไรเอ่ย ช่อื เกม : ปริศนา อะไรเอ่ย อปุ กรณ์ : วธิ กี ารเลน่ 1) แบ่งกลมุ่ นกั เรียนออกเป็น 3 กลมุ่ 2) นกั เรยี นรบั แถบประโยคปรศิ นา อะไรเอ่ย และช่ว ใหเ้ วลาในการทาํ 1 นาที ชดุ เกมปรศิ นามดี งั นี้

ชวี ิตประจาํ วัน ชุมชนและสังคม เพ่ือกาํ หนด เวลา 6 ช่วั โมง เวลา 1 ช่วั โมง นาํ ไปใชต้ ดั สนิ ใจ แกป้ ัญหาในการดาํ เนินชวี ติ และมีนิสยั รกั การอ่าน วยกนั หาคาํ ตอบของปริศนา กลมุ่ ไหนเสรจ็ กอ่ นและถกู ตอ้ งจะเป็นฝ่ายชนะ

แผนการจดั การเรยี นรู้ วชิ าภาษาไทย ประถมศกึ ษาปีท่ี 4 ชุดท่ี 1 - ฉนั ดสู ะอาด สบายตา (ขาว) - เม่อื เอาไมเ้ อกวางไวบ้ นหวั ฉนั ฉนั กลายเป็นเร่ืองรา - ถา้ ใสไ่ มโ้ ทใหฉ้ ัน ฉนั เป็นอาหารท่มี ีผคู้ นตอ้ งรบั ประ ชุดท่ี 2 - ฉนั มไี วต้ ี มเี สียงดงั (กลอง) - เม่ือเอไมเ้ อกวางบนหวั ฉนั ฉนั มีประโยชนไ์ วเ้ ก็บสิ่ง - เม่ือใสไ่ มโ้ ทใหฉ้ นั ฉนั คือตวั สรา้ งภาพใหน้ กั รอ้ ง นกั ชุดท่ี 3 - ฉนั เป็นสตั วด์ รุ า้ ย (เสือ) - เม่ือใสไ่ มเ้ อกใหฉ้ นั ฉนั มีประโยชนเ์ อาไวร้ องน่งั (เส - แต่ใสไ่ มโ้ ทใหฉ้ นั ฉนั กลายเป็นสงิ่ สวยงาม ผูค้ สใสฉ่ 2) ครูสนทนากบั นกั เรียนในประเดน็ ดงั ต่อไปนี้ - ลกั ษณะคาํ ตอบของปรศิ นา อะไรเอ่ย เป็นอย่างไร (แนวคาํ ตอบ : คาํ ตอบของปรศิ นาแต่ละขอ้ เป็นการผนั วรรณ - การออกเสยี งของคาํ ตอบของปรศิ นา อะไรเอ่ย มีลกั ษณะเป็นอย่า (แนวคาํ ตอบ : การออกเสียงเร่มิ จากเสียงสามญั เสียงเอก - การผนั อกั ษรมีความสาํ คญั ต่อการอ่านในชีวิตประจาํ วนั ข - ยกตวั อย่างการเขียนคาํ ท่ีแสดงถึงการผนั อกั ษรผิด (แนวค 204

าวท่ีคนอยากรู้ (ข่าว) ะทานทกุ วนั (ขา้ ว) งของใหเ้ รยี บรอ้ ย (กลอ่ ง) กแสดง (กลอ้ ง) สื่อ) ฉนั เพ่ือปกปิดรา่ งกาย (เสือ้ ) ณยกุ ต์ สามญั เอก โท ) างไร และเสยี งโท) ของนกั เรียนหรือไม่ คาํ ตอบ คณุ ครูคะ่ เขา้ ใจคะ เป็นตน้ )

แผนการจดั การเรยี นรู้ วชิ าภาษาไทย ประถมศกึ ษาปีท่ี 4 3.2 ข้นั จดั กระบวนการเรยี นรู้ 1) นกั เรยี นทาํ กจิ กรรมรว่ มดว้ ยชว่ ยกนั สบื ครูแบ่งนกั เรยี นเป กลางคอ่ นขา้ งอ่อน และอ่อน จากนนั้ ครูชแี้ จงใหน้ กั เรยี นทราบวา่ ความสาํ เรจ็ ข ช่วยผทู้ ่อี ่อนกวา่ หรือเรยี นชา้ กว่า จุดท่ี 1 2) นกั เรียนแต่ละกลมุ่ ไปศกึ ษาความรูเ้ ร่ืองการผนั วรรณยกุ ต จดุ ท่ี 2 205

ป็น 3กลมุ่ คละกนั ตามความสามารถ คือ เก่ง ปานกลางคอ่ นขา้ งเก่ง ปาน ของกลมุ่ จะตอ้ งอาศยั ผลจากความรว่ มมอื ชว่ ยเหลือกนั ผูท้ ่ีเกง่ กว่าจะตอ้ ง ต์ ตามจดุ ท่ีคณุ ครูตงั้ ไวใ้ นหอ้ งจาํ นวน 3 จดุ กาํ หนดเวลาศกึ ษาจดุ ละ 5 นาที

แผนการจดั การเรยี นรู้ วชิ าภาษาไทย ประถมศกึ ษาปีท่ี 4 จุดท่ี 3 3) เม่อื ครบ 5 นาที ครูใหส้ ญั ญาณโดยการเป่านกหวีด แลว้ แ 4) เม่ือสลบั ครบทงั้ 3 จดุ แลว้ ใหน้ กั เรียนกลบั มาน่งั ท่ขี องตนเองแลว้ ช การไปศกึ ษาความรูเ้ ป็นกลมุ่ จากนนั้ ทาํ ใบงาน การผนั วรรณยกุ ต์ โดยนาํ คาํ ท อกั ษรกลางคาํ ตาย อกั ษรสงู คาํ เป็น และอกั ษรสงู คาํ ตาย เสรจ็ แลว้ นาํ สง่ ครูตร 5) นกั เรยี นสนทนากนั ในประเด็นต่อไปนี้ - จดุ ท่ี 1 เป็นเรอ่ื งท่กี ลา่ วถึงอะไร (แนวคาํ ตอบ : การผนั วรรณยกุ ต์ อกั ษรสามหม่ขู องคาํ เป็นค - จดุ ท่ี 2 เป็นเร่ืองท่ีกลา่ วถึงอะไร (แนวคาํ ตอบ : อกั ษรต่าํ ท่มี ีเสียงคกู่ บั อกั ษรสงู (ต่าํ ค่)ู ) - จดุ ท่ี 3 เป็นเรื่องท่กี ลา่ วถงึ อะไร (แนวคาํ ตอบ : อกั ษรต่าํ ท่ไี ม่มเี สยี งคกู่ บั อกั ษรสงู (ต่าํ เดี่ยว) 6) แบง่ นกั เรยี นเป็นกลมุ่ โดยแตล่ ะกลมุ่ เลือกคาํ ท่มี วี รรณยกุ ช่อื กจิ กรรม เอก โท ตรี จตั วา จุดประสงค์ เพ่อื ทดสอบความสามารถในการอ 206

แตล่ ะกลมุ่ จะตอ้ งเปลี่ยนจดุ ในการศกึ ษา ช่วยกนั สรุปความรูใ้ นเรอื่ งท่ีตนไปศกึ ษาลงกระดาษท่ีครูแจกใหแ้ ละขอ้ คิดจาก ท่กี าํ หนดไปเติมลงในชอ่ งอกั ษรสงู คาํ เป็น อกั ษรสงู คาํ ตาย อกั ษรกลางคาํ เป็น รวจ คาํ ตาย) )สามารถผนั ใหค้ รบ 5 เสียงไดโ้ ดยใช้ ห นาํ หรือ อ นาํ ) กต์ จาํ นวน 10 คาํ เพ่ือปฏิบตั กิ ิจกรรม “เอก โท ตรี จตั วา” อ่านคาํ ท่มี ีวรรณยกุ ต์

แผนการจดั การเรยี นรู้ วชิ าภาษาไทย ประถมศกึ ษาปีท่ี 4 อปุ กรณ์ บตั รคาํ ท่ีมวี รรณยกุ ต์ กลมุ่ ละ 10 ค วิธีการ 1) เรม่ิ กจิ กรรมดว้ ยการขออาสาสมคั รนกั เรียนเป็นกรรมการ แขน และหนั หนา้ เขา้ หากระดานดาํ โดยถือบตั รคาํ คนละ พรอ้ มทงั้ ขอตวั แทนท่ีจะแข่งขนั กบั กลมุ่ ท่ขี ออาสาสมคั รเ 2) เม่อื ไดย้ นิ เสยี งนกหวีด กรรมการคนท่ี 1 หนั หนา้ มาหาเพ “ถกู ตอ้ ง” แลว้ ใหก้ รรมการคนท่ี 2 หนั หนา้ มาเพ่ือแสดง 3) ปฏบิ ตั ิกิจกรรมไปจนถงึ กรรมการคนสดุ ทา้ ย ทงั้ นกี้ าํ หน การอ่านาํ 30 วินาที เม่ือหมดเวลาใหต้ วั แทนเป่านกหวีด 4) นกั เรียนผลดั กนั ปฏิบตั ิหนา้ ท่ีเป็นกรรมการ ผแู้ ขง่ ขนั และ ชนะ 3.3 ขัน้ สรุปองคค์ วามรู้ นกั เรียนบอกหลกั การผนั วรรณยกุ ตต์ ามลกั ษณะของคาํ เป็น คาํ ตายแล 3.4 ขั้นนําไปประยุกตใ์ ช้ นกั เรยี นนาํ เสนอคาํ ท่ีมวี รรณยกุ ตแ์ ละพบการใชบ้ อ่ ยในชีวติ ประจาํ วนั 207

คาํ (ท่ีนกั เรยี นสืบคน้ จากกิจกรรมขอ้ 8) ร โดยปฏบิ ตั ิกจิ กรรมดงั นี้ ยืนเป็นแถวหนา้ กระดาน มีระยะห่างกนั 1 ช่วง ะ 1 แผ่น เป็นกรรม โดยกลมุ่ ท่ีเป็นผแู้ ข่งขนั ยืนอยู่ประมาณกลางหอ้ งเรยี น พ่อื น กลมุ่ ผแู้ ข่งขนั อา่ นคาํ ดงั กลา่ ว ถา้ อ่านถกู ตอ้ ง กรรมการกลา่ วคาํ วา่ งคาํ ในบตั รคาํ กลมุ่ ผแู้ ข่งขนั อ่านคาํ ดงั กลา่ วเชน่ เดียวกนั นดใหน้ กั เรยี นกลมุ่ อ่ืนทาํ หนา้ ท่เี ป็นผรู้ กั ษาเวลา โดยกลมุ่ ท่ีแขง่ ขนั มเี วลาใน ด ะ ผรู้ กั ษาเวลา เม่ือสิน้ สดุ กิจกรรมกลมุ่ ท่สี ะสมคะแนนไดม้ ากท่สี ดุ เป็นกลมุ่ ละผนั วรรณยกุ ตอ์ กั ษรกลางและอกั ษรสงู น

แผนการจดั การเรยี นรู้ วชิ าภาษาไทย ประถมศกึ ษาปีท่ี 4 4. การวดั และประเมินผล เครื่องมอื วัด แบบสงั เกตพฤติกรรม วิธวี ดั สงั เกตพฤติกรรมการมีส่วนร่วมในการแสดง เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ความสาํ คญั ของการผนั อกั ษรไทย ตรวจผลงานการบอกหลกั การผนั วรรณยกุ ต์ ประเมนิ ความสามารถในการผนั วรรณยกุ ต์ เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน อกั ษรกลางและอกั ษรสงู (จากการปฏบิ ตั ิกิจกรรม “เอก โท ตรี จตั วา”) 208

เกณฑก์ ารประเมิน ม แสดงความคิดเห็นอย่างนอ้ ย 1 รายการ ดี ผลงานนาํ เสนอขอ้ ความท่ีแสดงถึงประเด็นสาํ คญั ต่อไปนี้ ทกุ รายการ 1) อกั ษรกลางสามารถผนั วรรณยกุ ตไ์ ดค้ รบทงั้ 5 เสียง 2)อกั ษรต่าํ ท่ไี ม่มีเสยี งคกู่ บั อกั ษรสงู (ต่าํ เดี่ยว)สามารถผนั ใหค้ รบ 5 เสยี งไดโ้ ดยใช้ ห นาํ หรือ อ นาํ 3)อกั ษรสงู และอกั ษรต่าํ ผนั ได้ 3 เสยี ง พอใช้ ผลงานแสดงขอ้ ความท่ีกาํ หนด 2 ขอ้ ปรบั ปรุง ผลงานแสดงขอ้ ความท่กี าํ หนด 1 ขอ้ ดี อา่ นคาํ ท่มี วี รรณยกุ ตไ์ ดถ้ ูกตอ้ งทกุ คนภายในเวลา 30 วนิ าที พอใช้ อา่ นคาํ ท่มี ีวรรณยกุ ตไ์ ดถ้ ูกตอ้ งทกุ คาํ แต่ใชเ้ วลามากกว่า 30 วนิ าที ปรบั ปรุง อ่านคาํ ท่ีมวี รรณยกุ ตผ์ ดิ