แผนตัวอย่างวิชาภาษาไทย

แผนการจดั การเรยี นรู้ วชิ าภาษาไทย ประถมศกึ ษาปีท่ี 4 8) นกั เรยี นทาํ กิจกรรม ปา้ ยสี...วเิ ศษณ์ 3.3 ขั้นสรุปองคค์ วามรู้ นกั เรียนแตล่ ะคนรบั นิทานเร่อื ง กบกบั สงิ โต พรอ้ มทงั้ กาํ หนดใหน้ าํ ปาก ทาํ หนา้ ท่ขี ยายประธาน กรยิ า หรือกรรมของประโยค สิงโตตวั หนงึ่ ไดย้ ินเสียงรอ้ งดงั กงั วานมาแตไ่ กล มนั คิดว่าเจา้ ข สอดสายตาเดินตามหาท่ีมาของเสยี งนนั้ จนถงึ รมิ นาํ้ แห่งหนึ่งมนั จงึ พบ น่ีเอง เจา้ สิงโตโกรธจดั ตรงเขา้ ไปใชอ้ งุ้ เทา้ เหยียบจนกบแบนติดพนื้ แล 3.4 ขั้นประยกุ ตใ์ ช้ นกั เรียนนาํ เสนอสถานการณท์ ่ีจาํ เป็นตอ้ งใชค้ าํ วิเศษณใ์ นชวี ิตประจาํ วนั 4. สื่อและแหล่งเรียนรู้ - คลิปวิดโี อ คาํ วเิ ศษณ์ - แถบประโยค - บทอ่าน กบกบั สงิ โต 5. การวดั และประเมินผล เครอ่ื งมอื วัด แสดงความคิดเห วิธีวัด แบบสงั เกต 1. เห็นประโยชนข์ องการเรียนรูค้ าํ พฤตกิ รรมการแสดง วิเศษณท์ ่ีใชใ้ นการส่ือสาร (A) ความคดิ เห็น 260

กกาไฮไลทท์ บั ลงไปท่คี าํ วิเศษณ์ พรอ้ มทงั้ เขยี นประกอบว่าคาํ วิเศษณด์ งั กลา่ ว ของเสียงนนั้ ตอ้ งเป็นสตั วใ์ หญ่และน่าเกรงขามกวา่ ตวั มนั แน่ มนั บวา่ แทจ้ รงิ แลว้ เจา้ ของเสียงนนั้ คอื กบตวั หนึ่งท่อี าศยั อยรู่ มิ นา้ํ ลว้ พดู ว่า \"ทาํ ไงไดล้ ะ่ ! กเ็ จา้ อยากมีเสียงท่ีใหญ่เกินตวั ของเจา้ น่เี อง\" น พรอ้ มทงั้ ยกตวั อย่างประกอบ เกณฑก์ ารประเมิน หน็ อย่างนอ้ ย 1 ขอ้

แผนการจดั การเรยี นรู้ วชิ าภาษาไทย ประถมศกึ ษาปีท่ี 4 วธิ ีวัด เครือ่ งมอื วัด 2. บอกความหมายและลกั ษะของคาํ วิเศษณแ์ ต่ละชนิดได้ (K) เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ดี - ความครบถว้ แตล่ ะชนิด 3. แตง่ ประโยคโดยใชค้ าํ วเิ ศษณไ์ ด้ นกั เรยี นเขียนอธ ถกู ตอ้ ง (S) ชนิดไดค้ รบถว้ น พอใช้ - นกั เรียน ชนดิ ไมค่ รบถว้ น ปรบั ปรุง – นกั เร ชนิดไมไ่ ด้ เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ดี – แตง่ ประโยค พอใช้ – แต่งประ ปรบั ปรุง – แตง่ ป 261

เกณฑก์ ารประเมิน วนของการเขียนอธิบายความหมายของคาํ วเิ ศษณแ์ ละการจาํ แนกคาํ วิเศษณ์ ธิบายความหมายของคาํ วเิ ศษณแ์ ละเขียนจาํ แนกคาํ วเิ ศษณแ์ ตล่ ะ น นเขียนอธิบายความหมายของคาํ วเิ ศษณแ์ ละเขียนจาํ แนกคาํ วเิ ศษณแ์ ต่ละ น รียนเขยี นอธิบายความหมายของคาํ วิเศษณแ์ ละเขยี นจาํ แนกคาํ วเิ ศษณแ์ ต่ละ คโดยใชค้ าํ วิเศษณไ์ ดถ้ กู ตอ้ ง 8 ประโยคขึน้ ไป ะโยคโดยใชค้ าํ วิเศษณไ์ ดถ้ กู ตอ้ ง 5-7 ประโยค ประโยคโดยใชค้ าํ วิเศษณไ์ ดถ้ กู ตอ้ ง 0-4 ประโยค

แผนการจดั การเรยี นรู้ วชิ าภาษาไทย ประถมศกึ ษาปีท่ี 4 สมรรถนะย่อยท่ี 1 กาํ หนดจดุ ม่งุ หมายในการส่ือสารแบบง่าย ๆ สามารถเลือกใชแ้ ประโยชนต์ ่อตนเองไดด้ ว้ ยการเขยี นโครงเร่ืองและแผนภาพความคิด แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 7 เร่อื ง การเขียนแผนภาพโครงเรอ่ื ง 1. มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชีว้ ัด มาตรฐาน ท 2.1 ใชก้ ระบวนการเขียนเขียนส่ือสาร เขียนเรยี งควา รายงานการศึกษาคน้ ควา้ อย่างมปี ระสิทธิภาพ ท 2.1 ป.4/2 เขยี นแผนภาพโครงเรื่องและแผนภาพความ 2. จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ (A K S) 2.1 เหน็ ประโยชนใ์ นการลาํ ดบั เหตกุ ารณเ์ พ่ือนาํ ไปใชใ้ นการเขยี นเรื่องเล 2.2 บอกหลกั การเขียนแผนภาพโครงเรื่องท่ีใชป้ ระกอบในเขยี นเรื่องเลา่ 2.3 เขยี นแผนภาพโครงเร่ืองเพ่อื ใชป้ ระกอบในการเขียนเรือ่ งเลา่ ได้ (S) 3. กจิ กรรมการเรียนรู้ 3.1 ขัน้ เตรียมความพร้อมและตัง้ ข้อสังเกตในการเรียนรู้ 1) แบ่งนกั เรยี นเป็น 6 กลมุ่ และปฏิบตั ดิ งั นี้ 1.1) กาํ หนดหวั ขอ้ ในการเรยี นรู้ สตั วน์ อ้ ย ผนู้ ่าสงสาร แลว้ ใหน้ กั 1.2) เม่ือไดย้ ินสญั ญาณนกหวีด ใหก้ ล่มุ ท่ีทาํ ผลงานเสรจ็ ก่อนติด ตอ่ ไปเร่ือย ๆ จนครบ 6 กลมุ่ 262

และผลติ สอื่ ใชก้ ลวธิ ีในการสือ่ สารใหเ้ หมาะสมและเกิด เวลา 7 ช่ัวโมง เวลา 1 ช่วั โมง าม ยอ่ ความ และเขียนเรอ่ื งราวในรูปแบบต่าง ๆ เขยี นรายงานขอ้ มลู สารสนเทศและ มคิดเพ่ือใชพ้ ฒั นางานเขยี น ลา่ ได้ (A) าได้ (K) กเรียนแตล่ ะกลมุ่ นาํ เสนอประโยคท่ีเก่ียวขอ้ งกบั สตั วน์ อ้ ย ผนู้ ่าสนสงสาร ดแถบประโยคบนกระดานดาํ แลว้ ใหก้ ล่มุ อ่ืนท่ีเขียนเสรจ็ เรียบรอ้ ยแลว้ ติดประโยค

แผนการจดั การเรยี นรู้ วชิ าภาษาไทย ประถมศกึ ษาปีท่ี 4 1.3) นกั เรยี นรว่ มกนั อา่ นประโยคจากประโยคท่ี 1-6 แลว้ แสดงคว (1) การลาํ ดบั เหตกุ ารณใ์ นเรอื่ งเป็นอย่างไร (แนวคาํ ตอบ เรอื่ งมีเหตกุ ารณส์ ลบั ไปสลบั มา ไมต่ ่อเน (2) แนวทางการแกไ้ ขเหตกุ ารณค์ วรทาํ อยา่ งไร (แนวคาํ ตอบ กาํ หนดประเดน็ ท่ีตอ้ งการนาํ เสนอเรื่องก 3.2 ข้นั จัดกระบวนการเรยี นรู้ 1) นกั เรยี นแบง่ กลมุ่ พรอั มทงั้ รบั แผนภาพโครงเรื่อง 2) นกั เรยี นแต่ละกลมุ่ วางแผนการเลา่ เรอ่ื งจากแผนภาพ โครงเรื่องท่ีไดร้ บั 3) ตวั แทนกลมุ่ นาํ เสนอเรื่องเลา่ จากแผนภาพโครงเรอื่ ง 4) นกั เรยี นแตล่ ะกลมุ่ รว่ มกนั แสดงความคิดเหน็ ดงั นี้ -เรอ่ื งเลา่ จากแผนภาพโครงเรื่องเดียวกนั มีลกั ษณะ เหมอื นหรือแตกต่างกนั อย่างไร (แนวคาํ ตอบ มลี กั ษณะโดยรวมใกลก้ นั ) -ในกรณีท่ไี ม่มีแผนภาพโครงเร่ือง เรอ่ื งเลา่ เร่ืองเดยี วกนั จะเหมือนหรือแตกตา่ งกนั (แนวคาํ ตอบ แตกต่างกนั ) -การมีแผนภาพโครงเรอื่ งทาํ ใหส้ ามารถเลา่ เรื่องได้ ครอบคลมุ ทกุ ประเดน็ หรือไม่ อยา่ งไร (แนวคาํ ตอบ ไดค้ รอบคลมุ ทุกประเด็น) 263

วามคดิ เห็น ดงั นี้ น่ืองกนั ) ก่อน แลว้ จงึ เขยี นรายละเอยี ดของเรื่อง)

แผนการจดั การเรยี นรู้ วชิ าภาษาไทย ประถมศกึ ษาปีท่ี 4 -ประโยชนข์ องแผนภาพโครงเรอื่ ง (แนวคาํ ตอบ เป็นกรอบในการนาํ เสนอเร่ืองไดค้ รอบคลมุ ทุกประเด็นท่ีต 264 5) นกั เรียนแตล่ ะกลมุ่ เลือกหวั ขอ้ เร่ืองท่สี นใจ แลว้ นาํ เสนอผลงานการเข - หวั ขอ้ ท่ี 1 ประเพณีไทย - หวั ขอ้ ท่ี 2 ส่ิงเสพติดใหโ้ ทษ - หวั ขอ้ ท่ี 3 สถานท่ที ่องเท่ียวของไทย - หวั ขอ้ ท่ี 4 พืชผกั สวนครวั 6) นกั เรยี นสืบคน้ หวั ขอ้ เร่ืองท่สี นใจผ่านแหลง่ เรยี นรูข้ องโรงเรยี น เพ่ือน ประกอบการนาํ เสนอ 7) เม่ือไดย้ นิ สญั ญาณนกหวีดครงั้ ท่ี 1 ใหก้ ลมุ่ นาํ ผลงานการเขยี นแผน 8) ตวั แทนกลมุ่ นาํ เสนอแนวคิดในการนาํ เสนอเร่ืองท่ีกลมุ่ เลอื ก โดยใช สมาชกิ กลมุ่ อ่นื รว่ มแสดงความคิดเหน็ ในประเด็นท่ีตอ้ งการเรยี นรู้ หรือ เห็น 9) .สมาชิกในกลมุ่ จบั ค่กู นั นาํ เสนอเรอ่ื งตามแผนภาพโครงเร่ืองของกล 3.3 ขั้นสรุปองคค์ วามรู้ นกั เรียนช่วยกนั บอกหลกั การเขียนแผนภาพโครงเร่อื ง เพ่อื ใชป้ ระกอบใ (แนวคาํ ตอบ 1.กาํ หนดช่ือเร่ือง/ความคิดรวบยอด 2.รวบรวมสิ่งท่ีเกี่ยวขอ้ งกบั ช่ือเรอื่ ง/ความคิดรวบย 3.นาํ คาํ หรอื กลมุ่ คาํ ท่ีจดบนั ทกึ ไวม้ าจดั กลมุ่ ตงั้ ช 4.เรยี งลาํ ดบั หวั ขอ้ ตามความสาํ คญั 5.เลือกรูปแบบแผนภาพความคดิ

ตอ้ งการนาํ เสนอ นาํ ไปใชส้ าํ หรบั บนั ทกึ เหตกุ ารณส์ าํ คญั ของเรอ่ื งในบทเรียน ขยี นแผนภาพโครงเร่ืองเพ่ือนาํ เสนอกรอบแนวคิดในการนาํ เสนอเรือ่ ง ดงั ตวั อย่าง นาํ เสนอผลงานเป็นแผนภาพโครงเร่ือง โดยเขยี นลงในกระดาษชารท์ สาํ หรบั นภาพโครงเรือ่ งติดท่ีกระดานดาํ สาํ หรบั ประกอบการนาํ เสนอ ชแ้ ผนภาพโครงเรือ่ งประกอบการนาํ เสนอ นดว้ ยกบั ประเด็นท่ีนาํ เสนอ ลมุ่ พรอ้ มทงั้ ติดผลงานท่ีปา้ ยนิเทศ เพ่ือการแลกเปล่ียนเรยี นรู้ ในการพดู เลา่ เรอื่ ง ยอดนนั้ แลว้ จดบนั ทกึ เป็นคาํ หรอื กล่มุ คาํ สน้ั ๆ ช่ือกลมุ่ เป็นหวั ขอ้ ย่อย

แผนการจดั การเรยี นรู้ วชิ าภาษาไทย ประถมศกึ ษาปีท่ี 4 3.4 ขัน้ ประยุกตใ์ ช้ นกั เรียนชว่ ยกนั บอกสถานการณว์ ่าจะตอ้ งใชป้ ระโยชนใ์ นการเขียนแผน (แนวคาํ ตอบ : การเลา่ นิทาน การเลา่ เรื่อง การพดู รายงาน) 4. สอ่ื /แหลง่ เรยี นรู้ 1) หวั ขอ้ ในการเขียนเร่ือง 2) แผนภมู ิ การเขยี นแผนภาพโครงเร่ือง 5. การวดั และประเมินผล วธิ วี ัด เครอื่ งมอื วดั 1. (A) สงั เกตพฤติกรรมในการแสดงความ แบบสงั เกต แสดงความ คดิ เห็นเก่ียวกบั ประโยชนใ์ นการลาํ ดบั พฤตกิ รรมการ เหตกุ ารณเ์ พ่อื นาํ ไปใชเ้ ขียนแผนภาพโครงเร่ือง แสดงความคิดเหน็ 2. (K) ตรวจผลงานสรุปหลกั การเขยี นแผนภาพ เกณฑก์ ารให้ ดี –ผลงาน โครงเรอื่ ง คะแนน 1.กาํ หนดช 2.รวบรวมส 3.นาํ คาํ หร 4.เรยี งลาํ ด 5.เลือกรูป พอใช้ – น ปรบั ปรุง – 265

นภาพโครงเร่ืองกบั สถานการณใ์ ดไดบ้ า้ ง เกณฑก์ ารประเมิน มคิดเหน็ อย่างนอ้ ย 1 ขอ้ นการสรุปหลกั การเขียนแผนภาพความคิดนาํ เสนอประเด็นสาํ คญั ดงั นี้ ช่ือเรื่อง/ความคิดรวบยอด สิง่ ท่ีเกี่ยวขอ้ งกบั ช่ือเร่ือง/ความคิดรวบยอดนนั้ แลว้ จดบนั ทึกเป็นคาํ หรือกล่มุ คาํ สนั้ ๆ รือกลมุ่ คาํ ท่ีจดบนั ทกึ ไวม้ าจดั กลมุ่ ตงั้ ช่ือกลมุ่ เป็นหวั ขอ้ ย่อย ดบั หวั ขอ้ ตามความสาํ คญั ปแบบแผนภาพความคดิ นาํ เสนอ 3-4 รายการ – นาํ เสนอ 1-2 รายการ

แผนการจดั การเรยี นรู้ วชิ าภาษาไทย ประถมศกึ ษาปีท่ี 4 วิธวี ัด เคร่อื งมอื วดั ดี – ผลงาน 1.กาํ หนดช 3. (S) ประเมินความสามารถในการเขียน เกณฑก์ ารให้ 2.รวบรวม แผนภาพโครงเรือ่ งจากเร่อื งท่อี า่ น คะแนน สน้ั ๆ 3.นาํ คาํ หร 4.เรยี งลาํ ด 5.เลอื กรูป พอใช้ – ผล ปรบั ปรุง – 266

เกณฑก์ ารประเมิน นการเขยี นแผนภาพโครงเรือ่ ง มีคณุ ภาพดงั นี้ ช่ือเรื่อง/ความคิดรวบยอด มสิง่ ท่เี ก่ียวขอ้ งกบั ช่ือเรอ่ื ง/ความคดิ รวบยอดนนั้ แลว้ จดบนั ทกึ เป็นคาํ หรือกล่มุ คาํ รือกลมุ่ คาํ ท่ีจดบนั ทกึ ไวม้ าจดั กลมุ่ ตงั้ ช่อื กลมุ่ เป็นหวั ขอ้ ย่อย ดบั หวั ขอ้ ตามความสาํ คญั ปแบบแผนภาพความคิด ลงานแสดงคณุ ภาพตามรายการท่ีกาํ หนด 3-4 รายการ – ผลงานแสดงคณุ ภาพตามรายการท่ีกาํ หนด 1-2 รายการ

แผนการจดั การเรยี นรู้ วชิ าภาษาไทย ประถมศกึ ษาปีท่ี 4 สมรรถนะยอ่ ยท่ี 2 เขยี นตามจนิ ตนาการอย่างถกู ตอ้ งเหมาะสม แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี 8-9 เรอ่ื ง การเขยี นเรือ่ งตามจนิ ตนาการ 1. มาตรฐานการเรยี นรู้/ตัวชีว้ ัด มาตรฐาน ท 2.1 ใชก้ ระบวนการเขยี นเขียนส่ือสาร เขียนเรียงความ ย่อควา รายงานการศึกษาคน้ ควา้ อย่างมีประสิทธิภาพ ท 2.1 ป.4/7 เขียนเรื่องตามจนิ ตนาการ 2. จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ (A K S) 1. เห็นประโยชนจ์ ากการเขยี นเรือ่ งตามจนิ ตนาการ (A) 2. บอกหลกั การเขยี นเร่ืองตามจินตนาการได้ (K) 3. เขียนเร่ืองตามจินตนาการไดเ้ หมาะสมกบั ประเดน็ ท่ีกาํ หนดได้ (S) 3. กจิ กรรมการเรยี นรู้ ช่วั โมงท่ี 1 3.1 ขั้นเตรียมความพร้อมและตัง้ ขอ้ สงั เกตในการเรยี นรู้ 1. นกั เรยี นเลน่ เกมไลร่ อบวง ช่อื กจิ กรรม เกมไลร่ อบวง จดุ ประสงค์ เพ่อื สง่ เสรมิ ใหเ้ กดิ ทกั ษะการคิดเชิงจนิ ตนาการ อปุ กรณ์ 1. แถบประโยคสถานการณเ์ หนอื ความจรงิ 2.ปา้ ยสญั ลกั ษณะสเี ขียวและสแี ดง 267

เวลา 2 ช่วั โมง เวลา 2 ช่วั โมง าม และเขียนเร่ืองราวในรูปแบบตา่ ง ๆ เขยี นรายงานขอ้ มลู สารสนเทศและ

แผนการจดั การเรยี นรู้ วชิ าภาษาไทย ประถมศกึ ษาปีท่ี 4 วิธีการ หวั ขอ้ ท่ี 1 ถา้ พรกิ มรี สหวานแลว้ จะเกิดอะไรขึน้ หวั ขอ้ ท่ี 2 ถา้ นกั เรียนสามารถอา่ นความคิดของเพ่อื นได้ จะเป็นอย หวั ขอ้ ท่ี 3 ถา้ มนษุ ยแ์ ละสตั วพ์ ดู สอื่ สารกนั ไดจ้ ะเกดิ อะไรขนึ้ 1) นกั เรยี นน่งั เป็นวงกลม 2) ขออาสาสมคั รนกั เรียน 1 คน เลือกหวั ขอ้ ในการแสดงความคิดเ 3) นกั เรียนแสดงความคิดเห็นท่ีเหนือความจรงิ โดยสมาชกิ คนอ่ืน ดว้ ยยกปา้ ยสแี ดง 4) นกั เรียนปฏิบิตกิ ิจกรรมขอ้ ท่ี 3) ไปเร่อื ย ๆ จนนกั เรยี นไมส่ ามา 2. ครูและนกั เรียนสนทนากนั เก่ียวกบั กิจกรรม “คิดไลร่ อบวง” ในประเ 3.3 ข้นั จัดกระบวนการเรยี นรู้ 1) นกั เรยี นแบง่ กลมุ่ แลว้ เลือกภาพท่นี า่ สนใจกลมุ่ ละ 1 ภาพ พร รอบท่ี 1 - ระบรุ ายละเอยี ดท่ีพบในภาพใหไ้ ดม้ ากท่ีสดุ โดยเขียนลงในกระด - เม่ือไดย้ ินสญั ญาณนกหวีด ใหน้ กั เรียนแตล่ ะกลมุ่ นาํ เสนอผลงาน พรอ้ มทงั้ เปิดโอกาสใหส้ มาชิกกลมุ่ อ่ืนนาํ เสนอรายละเอียดของภาพ นาํ เสนอเหน็ ดว้ ย จะไดร้ บั รางวลั พเิ ศษ เป็นเหรยี ญทองแดง “นกั สงั เกตภาพยอดเย่ีย รอบท่ี 2 - กาํ หนดใหน้ กั เรยี นพจิ ารณารายละเอียดท่ไี ดจ้ ากภาพ แลว้ ระบวุ า่ - เม่ือไดย้ ินสญั ญาณนกหวีด ใหน้ กั เรียนแต่ละกลมุ่ นาํ เสนอขอ้ ความท 268

ย่างไร เห็น นพิจารณาว่ามีความเป็นไปไดห้ รือไม่ ถา้ เหน็ ดว้ ยยกปา้ ยสีเขียว และ ถา้ ไมเ่ ห็น ารถนาํ เสนอความคดิ ไดแ้ ลว้ ใหย้ ตุ ิกิจกรรม เด็น “ความคดิ แปลกใหม่ท่ีไดร้ บั ” รอ้ มทงั้ ปฏบิ ตั ิกจิ กรรมดงั นี้ ดาษบรูฟ นการระบรุ ายละเอียดของภาพ พเพ่ิมเติม โดยกลมุ่ ท่สี ามารถเพ่ิมเติมรายละเอียดของภาพได้ โดยกลมุ่ ท่ี ยม” าเป็นเร่ืองเกี่ยวกบั อะไรมากท่ีสดุ พรอ้ มทงั้ กาํ หนดเป็นประเด็นหลกั ของภาพ ท่เี ป็นประเดน็ หลกั ของภาพ

แผนการจดั การเรยี นรู้ วชิ าภาษาไทย ประถมศกึ ษาปีท่ี 4 พรอ้ มทงั้ เปิดโอกาสใหส้ มาชิกกลมุ่ อ่นื แสดงความคิดเห็นพอ้ งห ภาพ โดยท่ีกลมุ่ นาํ เสนอเหน็ ดว้ ย จะไดร้ บั รางวลั พิเศษ เป็นเหร รอบท่ี 3 - กาํ หนดใหน้ กั เรียนพิจารณารายละเอียดของภาพ กบั ประเด็นหลกั ข - เม่อื ไดย้ นิ สญั ญาณนกหวีด ใหน้ กั เรียนแต่ละกลมุ่ นาํ เสนอขอ้ ความ เป็นหลกั ฐานสนบั สนุนความคิด - พรอ้ มทงั้ เปิดโอกาสใหส้ มาชกิ กลมุ่ อ่ืนแสดงความคิดเห็นพอ้ ง เหตกุ ารณใ์ นภาพ โดยกลมุ่ ผูน้ าํ เสนอเห็นดว้ ย จะไดร้ บั รางวลั พ 2) นกั เรียนแตล่ ะกลมุ่ ติดผลงานของตนเองท่ปี ้ายนเิ ทศเพ่อื การแลกเปล 3.3 ข้นั สรุปองคค์ วามรู้ นกั เรยี นสรุปแนวทางการเขียนเร่อื งตามจินตนาการ (แนวคาํ ตอบ 1.นาํ เสนอรายละเอียดของเรื่อง 2.พิจารณารายละเอีย เหตกุ ารณ์ ในเรอื่ ง) 3.4 ขน้ั ประยกุ ตใ์ ช้ นกั เรียนนาํ เสนอแนวทางท่ีจะทาํ ใหผ้ ลงานการเขยี นเรอ่ื งมคี วามนา่ ใจมา (แนวคาํ ตอบ อา่ นหรอื ฟังเร่อื งผ่านส่อื ต่าง ๆ อย่างหลากหลาย) ช่วั โมงท่ี 2 3.1 ขัน้ เตรียมความพร้อมและตัง้ ข้อสงั เกตในการเรยี นรู้ 1) นกั เรยี นฟังนทิ านเสียง ตอนบา้ นขนมปัง ทาง https://www.youtube 269

หรือโตแ้ ยง้ ในกรณีท่ีกลมุ่ อ่นื สามารถโตแ้ ยง้ ความคิดเก่ียวกบั ประเดน็ หลกั ของ รยี ญเงนิ “นกั คิดยอดเย่ียม” ของภาพ วา่ มปี ระเดน็ ใดจะเป็นจดุ สาํ คญั ของเหตกุ ารณใ์ นภาพ มท่เี ป็นจดุ สาํ คญั ของเหตกุ ารณใ์ นภาพ พรอ้ มทงั้ แสดงรายละเอยี ดของภาพ งหรือโตแ้ ยง้ ในกรณีท่กี ลมุ่ อ่นื สามารถโตแ้ ยง้ ความคิดเกี่ยวกบั จุดสาํ คญั ของ พเิ ศษ เป็นเหรียญทอง “นกั คิดเชิงจินตนาการยอดเย่ียม” ล่ียนเรยี นรู้ ยดของเร่ืองว่าเป็นเรื่องเกี่ยวกับอะไร 3. กาํ หนดประเด็นท่ีเป็นจุดสาํ คัญของ ากขึน้ e.com/watch?v=MjQb7mAdvZ0 โดยใหฟ้ ังถึงนาทที ่ี 3.31

แผนการจดั การเรยี นรู้ วชิ าภาษาไทย ประถมศกึ ษาปีท่ี 4 2) นกั เรียนแสดงความคิดเห็นเก่ียวกบั การฟังนิทานเสียง ตอนบา้ นขนม -ความรูส้ กึ ท่ไี ดฟ้ ังนทิ านเสียง (เรอื่ งน่าตดิ ตาม คนอา่ นเรอื่ งอ่านไดค้ ลอ่ ง -จากการฟังนทิ านเสียง แมไ้ ม่มภี าพประกอบ แต่ทาํ ไมนกั เรยี นจึงมีความ (เหตกุ ารณข์ องเรอื่ งนา่ ติดตาม ผอู้ า่ นอา่ นเรือ่ งไดด้ ี มีดนตรีประกอบกา -นกั เรียนคิดว่าการเขยี นเรอื่ งใหน้ ่าสนใจตอ้ งนาํ เสนอสงิ่ ใดบา้ ง (เหตกุ าร 3.2 ข้นั จดั กระบวนการเรยี นรู้ 1) นกั เรยี นแบ่งกล่มุ แลว้ พิจารณาเนือ้ หาเก่ียวกบั นิทานเสียง ตอนบา้ น ของเรื่องโดยเขียนลงในกระดาษ 2) นักเรียนฟังนิทานเสียง ตอนบา้ นขนมปัง ทาง https://www.you กิจกรรมของการฟังนิทานเสียงดงั นี้ -เหตกุ ารณส์ าํ คญั ของเรอื่ งคืออะไร -เหตกุ ารณท์ ่ีนกั เรียนคาดคะเนไว้ ปรากฏในเนือ้ เร่ืองหรือไม่ -เหตกุ ารณท์ ่ีนกั เรยี นคาดคะเนไว้ กบั เหตกุ ารณท์ ่ีเกดิ ขึน้ จรงิ ในเนอื้ เร่ือง แต่ละกลมุ่ รบั ผลงานการแตง่ เรอื่ งตามจนิ ตนาการในช่วั โมงเรยี นท่ผี ่านมา พรอ้ มทงั้ พ -ประเด็นท่ีเป็นจดุ สาํ คญั ของเหตกุ ารณข์ องเร่อื งน่าสนใจหรือไม่ 3) นกั เรียนเขา้ กลมุ่ ตามการเรียนรูใ้ นช่วั โมงท่ี 1 พรอ้ มทงั้ นาํ เสนอผลก 4) นกั เรียนรว่ มกนั ปรบั ปรุงจดุ สาํ คญั ของเหตกุ ารณข์ องเรื่อง พรอ้ มทงั้ 5) นกั เรียนแต่ละกลมุ่ นาํ เสนอผลงานการเขียนเรือ่ งตามจินตนาการ โดยเปิดโอกาสใหส้ มาชกิ กลมุ่ แสดงความคิดพอ้ งหรือโตแ้ ยง้ ในเหตกุ ารณข์ อ 7) .นกั เรียนแตล่ ะคนนาํ เสนอเรื่องตามจนิ ตนาการโดยใชแ้ ผนภาพโคร 270

มปัง ในประเด็นต่อไปนี้ งทาํ ใหอ้ ยากฟัง มีสอื่ ประกอบการอ่านนทิ าน มเี หตกุ ารณน์ า่ ต่ืนเตน้ ฯลฯ) มสนใจในการฟังเร่ืองต่อไป ารอ่านทาํ ใหน้ า่ สนใจ) รณส์ าํ คญั ของเร่ือง) นขนมปังอีกครง้ั โดยเปิดโอกาสใหน้ กั เรียนแต่ละคนคาดการณเ์ หตกุ ารณต์ ่อไป utube.com/watch?v=MjQb7mAdvZ0 ในนาทีท่ี 3.31 – 12.13 โดยกาํ หนด เหตกุ ารณใ์ ดน่าสนใจมากกว่ากนั ใหร้ ะบเุ หตผุ ลประกอบ พจิ ารณาตรวจสอบผลงานของกลมุ่ ในประเด็นต่อไปนี้ การดาํ เนินงานในกิจรรมท่ี 2 งวางแผนการนาํ เสนอเรอ่ื งโดยใชแ้ ผนภาพโครงเรอ่ื ง โดยใชแ้ ผนภาพโครงเร่ืองประกอบการเลา่ เร่ือง องเรื่องหรอื จดุ สาํ คญั ของเหตกุ ารณข์ องเร่ือง รงเรื่องของกลมุ่ ประกอบการเขียนเรื่อง

แผนการจดั การเรยี นรู้ วชิ าภาษาไทย ประถมศกึ ษาปีท่ี 4 3.2 ขน้ั สรุปองคค์ วามรู้ นกั เรียนแตล่ ะคนประเมนิ ผลงานการเขียนเร่อื งตามจนิ ตนาการของตนเอ 1)เร่ืองท่นี าํ เสนอมีความสมั พนั ธก์ บั ใจความหลกั ของภาพ 2)นาํ เสนอเร่อื งตามลาํ ดบั ไมว่ กวน 3)มกี ารนาํ เสนอจดุ ท่เี ป็นประเดน็ สาํ คญั ของเรื่อง 4)เนอื้ หาในการนาํ เสนอ สว่ นนาํ สว่ นเนือ้ เรื่อง และ บทสรุป 5)เนอื้ หาของเรอื่ งนา่ สนใจ และมีความประเดน็ การนาํ เสนอท่ีแปล 3.3 ขัน้ ประยุกตใ์ ช้ นกั เรียนนาํ เสนอแนวทางการนาํ แนวคิดการเขยี นเรอื่ งตามจินตนาการไป 4. สื่อและแหล่งเรียนรู้ - เกมไลร่ อบวง - เหรียญสาํ หรบั มอบรางวัลกล่มุ ยอดเย่ียม ไดแ้ ก่ เหรียญทองแดง “นักสงั เกต จนิ ตนาการยอดเย่ียม” 5. การวัดและประเมนิ ผล เครื่องมือวดั แสดงค แบบสงั เกตพฤติกรรม วิธีวดั 1. (A) สงั เกตพฤติกรรมการแสดงความ คดิ เห็นเกี่ยวกบั ประโยชนจ์ ากการเขยี น เร่ืองตามจนิ ตนาการ 271

อง โดยใชเ้ กณฑ์ ดงั นี้ ลกใหมไ่ มซ่ า้ํ กบั ของคนอ่นื ปใชใ้ นชวี ิตจรงิ ตภาพยอดเย่ียม” เหรียญเงิน “นักคิดยอดเย่ียม” และ เหรียญทอง “นักคิดเชิง เกณฑก์ ารประเมิน ความคิดเห็นอย่างนอ้ ย 1 ประเด็น

แผนการจดั การเรยี นรู้ วชิ าภาษาไทย ประถมศกึ ษาปีท่ี 4 วธิ วี ัด เครอื่ งมอื วดั ดี –ผลง เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ตอ่ ไปน 2. (K) ตรวจผลงานบอกหลกั การเขยี น เรือ่ งตามจินตนาการ 1.น 2.พ 3. ก พอใช้ – ปรบั ปร 3. (S) ประเมนิ ความสามารถในการ เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ดี หมา เขียนเรอื่ งตามจนิ ตนาการ 1)เร 2)น 3)ม 4)เน 5)เน ซา้ํ ก พอใช้ ปรับปร 272

เกณฑก์ ารประเมิน งานการนาํ เสนอหลกั การเขียนเรื่องตามจินตนาการ แสดงประเดน็ ใน นี้ นาํ เสนอรายละเอยี ดของเรื่อง พิจารณารายละเอยี ดของเรอ่ื งว่าเป็นเร่ืองเกี่ยวกบั อะไร กาํ หนดประเดน็ ท่ีเป็นจดุ สาํ คญั ของเหตกุ ารณใ์ นเร่ือง – ผลงานแสดงประเด็นท่ีกาํ หนด 1-2 รายการ รุง – ผลงานแสดงประเด็นท่ีกาํ หนด 1 รายการ ายถึง ผลงานการเขยี นเรื่องตามจนิ ตนาการมีคณุ ภาพตามรายการต่อไปนี้ ร่อื งท่นี าํ เสนอมีความสมั พนั ธก์ บั ใจความหลกั ของภาพ นาํ เสนอเรอ่ื งตามลาํ ดบั ไม่วกวน มีการนาํ เสนอจดุ ท่ีเป็นประเด็นสาํ คญั ของเรื่อง นือ้ หาในการนาํ เสนอ สว่ นนาํ สว่ นเนอื้ เรอื่ ง และ บทสรุป นือ้ หาของเรื่องน่าสนใจ และมีความประเด็นการนาํ เสนอท่ีแปลกใหม่ไม่ กบั ของคนอ่นื หมายถงึ ผลงานนาํ เสนอมขี อ้ บกพร่อง 1-3 รายการ รุง หมายถึง ผลงานการนาํ เสนอมีขอ้ บกพรอ่ งมากกว่า 3 รายการ

แผนการจดั การเรยี นรู้ วชิ าภาษาไทย ประถมศกึ ษาปีท่ี 4 สถานการณเ์ พื่อการสอบ : แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี 10 เรอ่ื ง ชวี ิตทถ่ี กู เมนิ ชอ่ื ผลลพั ธก์ ารเรยี นรู้ สร้างฝัน ป้ันเรอ่ื ง สมรรถนะประจาํ หน่วย กาํ หนดจดุ ม่งุ หมายในการสื่อสารแบบงา่ ย ๆ สามารถเ เหมาะสมและเกิดประโยชนต์ อ่ ตนเองไดด้ ว้ ยการเขียนโครงเรื่องและแผนภาพความค อยา่ งถกู ตอ้ งเหมาะสม สถานการณเ์ พื่อการสอบ 1. ครูกาํ หนดใหน้ กั เรียนเลอื กภาพท่ีสนใจ เขียนเร่อื งตามจินตนาการจากภาพท่กี 1.1 นาํ เสนอแผนภาพโครงเรื่องเพ่อื พฒั นางานเขียนเร่ืองตามจินตนาการ (ท 2 1.2 นาํ แผนภาพโครงเรื่องมาเขียนเป็นเร่ืองตามจินตนาการ ท่มี ลี กั ษณะดงั นี้ (ท 1) เลือกใชค้ าํ ไดเ้ หมาะสมกบั การใชภ้ าษาเพ่อื การสื่อสาร (ท4.1 ป.4/2) 2) เขียนเร่อื งโดยใชป้ ระโยคท่เี หมาะสมเพ่ือการส่ือสาร (ท4.1 ป.4/4) 3) สอดแทรกความรูท้ ่ีตอ้ งการใหผ้ อู้ ่านไดร้ บั (ท1.1 ป.4/6) 2. นาํ เสนอผลงานการเขียนเร่อื งตามจินตนาการโดยการอ่านแลว้ อดั คลิปวดิ ีโอ ส 4/1) 273

เวลา 1 ช่วั โมง เลือกใชแ้ ละผลิตสื่อใชก้ ลวธิ ีในการสอ่ื สารให้ คิด แลว้ นาํ ไปใชใ้ นการเขียนตามจินตนาการได้ เวลา 1 ช่วั โมง กาํ หนด 2.1 ป.4/2) ท2.1 ป.4/7) ส่งผลงานมายงั กลมุ่ ไลนข์ องชนั้ เรียน (ท 1.1 ป.

แผนการจดั การเรยี นรู้ วชิ าภาษาไทย ประถมศกึ ษาปีท่ี 4 7. การวัดและประเมนิ ผล สมรรถนะ ประเด็นการประเมนิ ดี ประจาํ หน่วย ผลงานการนาํ เสนอ กาํ หนดจดุ ม่งุ หมาย 1. การเขยี นแผนภาพโครงเรอ่ื ง โครงเรอื่ ง แสดงคณุ ในการส่ือสารแบบงา่ ย ๆ (ท 2.1 ป.4/2) ทกุ รายการ สามารถเลอื กใชแ้ ละ (สมรรถนะย่อยท่ี 1) 1..กาํ หนดช่อื เร่ือง/ ผลติ สือ่ ใชก้ ลวิธีในการ รวบยอด ส่อื สารใหเ้ หมาะสมและ 2.รวบรวมส่ิงท่เี กี่ย เกดิ ประโยชนต์ อ่ ตนเอง เร่อื ง/ความคิดรวบ ไดด้ ว้ ยการเขียนโครง บนั ทกึ เป็นคาํ หรือก เรอื่ งและแผนภาพ 3.นาํ คาํ หรือกลมุ่ ค ความคิด แลว้ นาํ ไปใชใ้ น มาจดั กลมุ่ ตงั้ ช่ือก การเขียนตาม ย่อย จนิ ตนาการอย่างถกู ตอ้ ง 4.เรียงลาํ ดบั หวั ขอ้ เหมาะสม ความสาํ คญั 5.เลอื กรูปแบบแผน 274

การประเมิน ปรับปรุง ระดับคณุ ภาพ พอใช้ ผลงานแสดงคณุ ภาพท่ี กาํ หนด 1-2 รายการ อแผนภาพ ผลงานแสดงคณุ ภาพท่ี ณภาพตอ่ ไปนี้ กาํ หนด 3-4 รายการ /ความคิด ยวขอ้ งกบั ช่ือ บยอดนนั้ แลว้ จด กลมุ่ คาํ สนั้ ๆ คาํ ท่ีจดบนั ทกึ ไว้ กลมุ่ เป็นหวั ขอ้ อตาม นภาพความคดิ

แผนการจดั การเรยี นรู้ วชิ าภาษาไทย ประถมศกึ ษาปีท่ี 4 สมรรถนะ ประเดน็ การประเมนิ ดี ประจาํ หน่วย ผลงานการเขยี นเร กาํ หนดจดุ ม่งุ หมาย 2.การใชภ้ าษาในการส่ือสาร จนิ ตนาการแสดงถ ในการส่ือสารแบบง่าย ๆ ท 4.1 ป.4/2 ความสามารถในก สามารถเลอื กใชแ้ ละ ท 4.1 ป.4/4 การสือ่ สารดงั นี้ ผลติ สือ่ ใชก้ ลวิธีในการ (สมรรถนะย่อยท่ี 1) 1)ใชค้ าํ ไดถ้ ูกตอ้ งต ส่ือสารใหเ้ หมาะสมและ คาํ ทกุ ตาํ แหน่ง เกดิ ประโยชนต์ ่อตนเอง 2)เลอื กใชป้ ระโยคใ ไดด้ ว้ ยการเขียนโครง ไดต้ รงประเด็นไม่ว เรอื่ งและแผนภาพ ความคดิ แลว้ นาํ ไปใชใ้ น การเขียนตาม จินตนาการอย่างถกู ตอ้ ง เหมาะสม 275

การประเมิน ระดบั คณุ ภาพ พอใช้ ปรับปรุง รอ่ื งตาม ผลงานแสดงคณุ ภาพท่ี ผลงานไม่แสดงคณุ ภาพตาม รายการท่ีกาํ หนด ถงึ กาํ หนด 1 รายการ การใชภ้ าษาเพ่อื ตามหนา้ ท่ีของ ในการส่ือสาร วกวน

แผนการจดั การเรยี นรู้ วชิ าภาษาไทย ประถมศกึ ษาปีท่ี 4 สมรรถนะ ประเด็นการประเมิน ดี ประจาํ หน่วย ผลงานการเขยี นเร กาํ หนดจดุ ม่งุ หมาย 3. การเขยี นเรื่องตาม จนิ ตนาการแสดงค ในการสื่อสารแบบง่าย ๆ จนิ ตนาการ ทกุ รายการ สามารถเลือกใชแ้ ละ ท 2.1 ป.4/7 1)เร่อื งท่ีนาํ เสนอม ผลิตสอ่ื ใชก้ ลวธิ ีในการ (สมรรถนะย่อยท่ี 2) กบั ใจความหลกั ขอ ส่อื สารใหเ้ หมาะสมและ 2)นาํ เสนอเร่อื งตาม เกดิ ประโยชนต์ อ่ ตนเอง วกวน ไดด้ ว้ ยการเขียนโครง 3)มกี ารนาํ เสนอจุด เรอ่ื งและแผนภาพ สาํ คญั ของเรอื่ ง ความคิด แลว้ นาํ ไปใชใ้ น 4)เนอื้ หาในการนาํ การเขยี นตาม สว่ นเนอื้ เร่ือง และ จนิ ตนาการอย่างถกู ตอ้ ง 5)เนือ้ หาของเร่อื งน เหมาะสม ความประเด็นการน แปลกใหมไ่ มซ่ า้ํ กบั 276

การประเมิน ระดับคุณภาพ พอใช้ ปรับปรุง รื่องตาม ผลงานแสดงคณุ ภาพท่ี ผลงานแสดงคณุ ภาพท่ี กาํ หนด 1-2 รายการ คณุ ภาพต่อไปนี้ กาํ หนด 3-4 รายการ ีความสมั พนั ธ์ องภาพ มลาํ ดบั ไม่ ดท่เี ป็นประเด็น าเสนอ ส่วนนาํ บทสรุป น่าสนใจ และมี นาํ เสนอท่ี บของคนอ่ืน

โครงสร้างการออกแบบแผนการจดั การเรยี นรู้เพ่อื พัฒนาสมรรถนะ โดยใชม้ าตรฐานการเรียนรู้และตัวชีว้ ดั จากหลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษาขั้นพืน้ ฐาน พุทธศักราช 2551 รายวิชา ภาษาไทย รหัสวิชา ท 14101 ชอ่ื หน่วยการเรียนรู้ที่ 6 โอม! พินิจมหาพจิ ารณา เวลาเรยี น 10 ช่ัวโมง สาระการเรียนรู้ ภาษาไทย ระดบั ช้นั ประถมศึกษาปี ท่ี 4 _______________________________________________________________________________ 1. มาตรฐานการเรยี นรู้/ตัวชวี้ ดั มาตรฐาน ท 1.1 ใชก้ ระบวนการอ่านสรา้ งความรูแ้ ละความคิด เพ่ือนาํ ไปใชต้ ัดสินใจแก้ปัญหาในการ ดาํ เนินชวี ติ และมีนิสยั รกั การอา่ น ท 1.1 ป.4/3 อ่านเรอื่ งสน้ั ๆ ตามเวลาท่กี าํ หนดและตอบคาํ ถามจากเรื่องท่อี ่าน มาตรฐาน ท 2.1 ใชก้ ระบวนการเขยี นเขียนส่ือสาร เขียนเรยี งความ ย่อความ และเขียนเรื่องราวในรูปแบบ ต่างๆ เขียนรายงานขอ้ มลู สารสนเทศและรายงานศกึ ษาคน้ ควา้ อย่างมีประสทิ ธิภาพ ท 2.1 ป.4/3 เขยี นแผนภาพโครงเรอ่ื งและแผนภาพความคดิ เพ่อื ใชพ้ ฒั นางานเขยี น มาตรฐาน ท 3.1 สามารถเลอื กฟังและดอู ยา่ งมวี จิ ารณญาณ และพดู แสดงความรู้ ความคิด ความรูส้ กึ ในโอกาสต่างๆ อยา่ งมีวจิ ารณญาณและสรา้ งสรรค์ ท 3.1 ป.4/1 จาํ แนกขอ้ เทจ็ จรงิ และขอ้ คิดเหน็ จากเรอื่ งท่ีฟังและดู ท 3.1 ป.4/2 พดู สรุปความจากการฟังและดู ท 3.1 ป.4/3 พดู แสดงความรู้ ความคิดเหน็ และความรูส้ กึ เก่ียวกบั เรอ่ื งท่ีฟังและดู มาตรฐาน ท 4.1 เขา้ ใจธรรมชาตขิ องภาษาและหลกั ภาษาไทย การเปลี่ยนแปลงของภาษา และพลงั ของ ภาษา ภมู ปิ ัญญาทางภาษาและรกั ภาษาไทยไวเ้ ป็นสมบตั ขิ องชาติ ท 4.1 ป.4/7 เปรียบเทียบภาษาไทยมาตรฐานกบั ภาษาถ่ินได้ 2. สมรรถนะหลัก สมรรถนะท่ี 2 สมรรถนะการคิดขนั้ สงู องคป์ ระกอบท่ี 1 การคดิ อยา่ งมีวิจารณญาณ (Critical Thinking) พฤติกรรมบ่งชี้ (ระดบั 4) : สรุปความเขา้ ใจของตนและแสดงความคิดเหน็ อย่างมเี หตผุ ลเกี่ยวกบั เร่ืองนนั้ จากการตงั้ คาํ ถาม การฟัง/อ่านขอ้ มลู เรื่องราว วเิ คราะหเ์ พ่อื ประเมนิ ความเหมาะสมของขอ้ มลู ในการลงขอ้ สรุป ไดอ้ ย่างถูกตอ้ งและ/หรือ ตัดสินใจเลือกทางใดทางหน่ึง โดยระบุหลักฐานสนับสนุนความคิดไดอ้ ย่างน้อย หนึ่งแหล่งขอ้ มูล อธิบายเหตุผลของการตัดสินใจในเร่ืองต่าง ๆ ในชีวิตประจาํ วันของตน และบอกไดว้ ่าการ ตดั สินใจของตนมีความเหมาะสมโดยระบหุ ลกั ฐานสนบั สนนุ ความคดิ ได้ แผนการจดั การเรยี นรู้ วชิ าภาษาไทย ประถมศกึ ษาปีท่ี 4 277

3. สมรรถนะประจาํ หน่วย สรุปความเขา้ ใจของตนและเรยี นรูก้ ลวธิ ีสาํ หรบั ประกอบการพดู นาํ เสนอรายละเอยี ด สาระสาํ คญั และ ขอ้ คดิ รวมทงั้ แสดงความคดิ เห็น และความรูส้ กึ อยา่ งสรา้ งสรรค์ สมรรถนะเฉพาะ : 1.การฟัง สมรรถนะหลกั : การคดิ ขนั้ สูง การดแู ละการพดู เพ่อื องคป์ ระกอบที่ 1 การคดิ อยา่ งมวี จิ ารณญาณ Critical Thinking ระดบั 4 (ระดบั ความสามารถ ป.4-6 : เร่ิมตน้ ) พฒั นาการคิด พฤตกิ รรมบ่งชี้ (ระดบั 4) : สรุปความเขา้ ใจของตนและแสดงความคดิ เห็นอยา่ งมี 1.2 ฟงั และ/หรือดูสอื่ ตา่ งๆ อยา่ งตงั้ ใจแลว้ พูดเลา่ เรอื่ ง เหตผุ ลเกยี่ วกบั เรือ่ งนนั้ จากการตงั้ คาํ ถาม การฟงั /อ่านขอ้ มูล เรือ่ งราว วเิ คราะห์เพอื่ ประเมิน พดู นาํ เสนอรายละเอยี ด ความเหมาะสมของขอ้ มูลในการลงขอ้ สรุปไดอ้ ย่างถูกตอ้ งและ/หรอื ตดั สนิ ใจเลือกทางใด สาระสาํ คญั และขอ้ คดิ ทางหน่งึ โดยระบหุ ลกั ฐานสนบั สนนุ ความคดิ ไดอ้ ยา่ งนอ้ ยหนง่ึ แหล่งขอ้ มูล อธิบายเหตผุ ล รวมทงั้ แสดงความคดิ เห็น ของ และความรูส้ กึ อยา่ ง การตดั สนิ ใจในเรือ่ งต่าง ๆ ในชวี ติ ประจาํ วนั ของตน และบอกไดว้ า่ การตดั สนิ ใจของตนมี ความเหมาะสมโดยระบหุ ลกั ฐานสนบั สนนุ ความคดิ ได้ สรา้ งสรรค์ ผลลพั ธก์ ารเรียนรูข้ องหน่วยการเรียนรู้ : นักพูดมือใหม่ 4. เนือ้ หาสาระ (เดมิ ใชส้ าระการเรยี นรู)้ 1. การอ่านในใจ 2. การแสดงความคิดเหน็ อย่างมีเหตผุ ล 3. การเขียนแผนภาพโครงเรอ่ื ง 4. ภาษาพดู และภาษาเขียน 5. ภาษาถ่ิน 6. ภาษาต่างประเทศ 7. พดู นาํ เสนอสาระสาํ คญั และขอ้ คิด 8. พดู แสดงความรูส้ กึ อย่างสรา้ งสรรค์ 5. สมรรถนะย่อย/งาน (ไดจ้ ากการวเิ คราะหส์ มรรถนะประจาํ หนว่ ย เพ่ือพจิ ารณาความสามารถยอ่ ยๆ ท่ีทาํ ให้ สมรรถนะประจาํ หนว่ ยมปี ระสทิ ธิภาพ โดยนาํ เอามาทงั้ หมดท่ีใชใ้ นหน่วยนนั้ ) 1. สรุปความเขา้ ใจของตนและเรียนรูก้ ลวิธีสาํ หรบั ประกอบการพดู 2. นาํ เสนอรายละเอียด สาระสาํ คัญ และขอ้ คิด รวมทั้งแสดงความคิดเห็น และความรูส้ ึกอย่าง สรา้ งสรรค์ แผนการจดั การเรียนรู้ วชิ าภาษาไทย ประถมศกึ ษาปีท่ี 4 278

แผนการจดั การเรยี นรู้ วชิ าภาษาไทย ประถมศกึ ษาปีท่ี 4 6. โครงสร้างหน่วยการเรียนรู้ สมรรถนะย่อยที่ 1 สรุปความเข้าใจของตนและเรยี นรู้กลวธิ ีสาํ หรับประ แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 1 เร่อื ง การอา่ นในใจ 1. มาตรฐานการเรียนรู้/ตวั ชีว้ ัด มาตรฐาน ท 1.1 ใชก้ ระบวนการอา่ นสรา้ งความรูแ้ ละความคดิ เพ่อื นาํ ไปใ ป.4/3 อ�านเร่อื งสน้ั ๆ ตามเวลาท่ีกาํ หนดและตอบคาํ ถามจา 2. จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ (A K S) 2.1 เหน็ ความสาํ คญั และประโยชนข์ องการอ่านในใจ (A) 2.2 สรุปหลกั การอา่ นในใจเพ่อื จบั ประเด็นสาํ คญั ได้ (K) 2.3 อ่านในใจแลว้ สามารถจบั ใจความสาํ คญั จากบทอา่ นได้ (S) 3. กจิ กรรมการเรียนรู้ 3.1 ข้นั เตรยี มความพร้อมและตั้งข้อสังเกตในการเรยี นรู้ 1. นกั เรียนเลน่ เกม “อา่ นออกเสยี งหรืออ่านในใจ” ช่อื เกม อ่านออกเสียงหรอื อา่ นในใจ จดุ ประสงค์ เพ่ือใหน้ กั เรียนเป็นประโยชนข์ องการอ่านในใจ อปุ กรณ์ ขอ้ ความ ทาํ งานอยคู่ นเดียวในหอ้ ง อ่านหนงั สือใหค้ ณุ ยายฟัง น่งั อ่านข่าวท่ีบา้ นของเพ่อื น อ่านคาํ แปลของหนงั ในโรงภาพยนตร์ 279

ะกอบการพดู เวลา 6 ช่วั โมง เวลา 1 ช่วั โมง ใชต้ ดั สนิ ใจ แกป้ ัญหาในการดาํ เนนิ ชีวติ และมีนสิ ยั รกั การอ่าน ากเรื่องท่ีอา่ น วนั นีค้ ณุ แม่ป่วยแตเ่ ราตอ้ งอ่านหนงั สือ ไปน่งั คน้ หานิทานในหอ้ งสมดุ นอนอ่านไลนใ์ นหอ้ งพยาบาล อา่ นป้ายโฆษณาเลน่ ในขณะน่งั รถสาธารณะ ผา่ น

แผนการจดั การเรยี นรู้ วชิ าภาษาไทย ประถมศกึ ษาปีท่ี 4 วิธีการ 1) ขนั้ เตรยี มการ : นาํ บตั รขอ้ ความไปตดิ บนกระดานดาํ พรอ้ ม 2) แบง่ นกั เรียนเป็น 2 กลมุ่ เร่มิ กจิ กรรมดว้ ยการใหน้ กั เรยี นกลมุ่ ท 3) ตวั แทนกลมุ่ ยกบตั รขอ้ ความใหเ้ พ่อื นทงั้ 2 กลมุ่ ดู กล่มุ ใดท่สี า คะแนนสะสม 1 คะแนน 4) ผลดั กนั ปฏบิ ตั ิกิจกรรมขอ้ 3) จนเปิดบตั รขอ้ ความจนครบทกุ 2. นกั เรียนสนทนากนั เก่ียวกบั สถานการณท์ ่ตี อ้ งใชก้ ารอา่ นออกเสยี งแ (ไมท่ าํ ใหเ้ กิดเสียงรบกวนผูอ้ ่ืน ไดใ้ ชค้ วามคิดพจิ ารณาบทอา่ นไดด้ ีขึน้ 3.2 ข้นั จัดกระบวนการเรยี นรู้ 1. นกั เรียนแบ่งกลมุ่ โดยแต่ละกลมุ่ ไดร้ บั คาํ ถาม ดงั นี้ “นกั เรยี นจะรูไ้ ด พรอ้ มทงั้ กาํ หนดใหส้ มาชกิ ภายในกลมุ่ หาคาํ ตอบในหวั ขอ้ แลว้ ปฏ 1) ระบวุ ิธีการท่ีใชใ้ นการตรวจสอบความเขา้ ใจของตนเองในการอ 2) นกั เรยี นรบั บทอา่ นเรื่อง โอม พนิ ิจมหาพิจารณา ตอนท่ี 1 สาํ ห 3) นกั เรยี นสอบถามความคิดเหน็ ของสมาชิกในกลมุ่ กอ่ นการลงส 2.นกั เรยี นแตล่ ะกลมุ่ นาํ เสนอวธิ ีการตรวจสอบท่จี ะทาํ ใหร้ ูว้ า่ ตนเองอ่าน นาํ ไปติดท่กี ระดานดาํ 3.นกั เรียนแต่ละกลมุ่ รบั บทอ่านเร่ือง โอม พนิ ิจมหาพิจารณา ตอนท่ี 2 4. เม่ือไดย้ ินสญั ญาณนกหวดี ใหน้ กั เรียนรบั ขอ้ คาํ ถาม แลว้ ทดสอบคว 280

ทงั้ คว่าํ บตั รขอ้ ความ ท่ี 1 สง่ ตวั แทนมา 1 คน เพ่อื เลอื กบตั รขอ้ ความ ามารถตอบไดก้ อ่ นวา่ สถานการณด์ งั กลา่ วควรอา่ นออกเสยี งหรืออ่านในใจ กล่มุ นนั้ ได้ กคาํ พรอ้ มทงั้ สรุปคะแนนว่ากลมุ่ ใดเป็นผชู้ นะ และการอา่ นในใจ โดยใหน้ กั เรยี นบอกเหตผุ ลท่นี กั เรียนควรเร่มิ อา่ นในใจ น ฯลฯ) ดอ้ ย่างไรว่าอ่านบทอา่ นแบบอา่ นในใจแลว้ ทาํ ใหต้ นเองรูเ้ ร่ืองจากบทอ่าน” ฏิบตั กิ จิ กรรมดงั นี้ อ่านใจ หรบั นาํ ไปอา่ นในใจแลว้ ทดลองทดสอบความเขา้ ใจในการอ่านของตน สรุปขอ้ มลู นแบบอา่ นในใจแลว้ สามารถรูเ้ รื่องในบทอ่าน โดยเขียนวธิ ีการลงในกระดาษ แลว้ สาํ หรบั นาํ ไปอา่ นในใจแลว้ ทดสอบความเขา้ ใจในการอา่ นของตนตามวธิ ีท่ีสนใจ วามเขา้ ใจจากเรือ่ งท่ีอ่าน ดว้ ยการตอบคาํ ถาม 5 ขอ้

แผนการจดั การเรยี นรู้ วชิ าภาษาไทย ประถมศกึ ษาปีท่ี 4 คาํ ถามท่ี 1 ใครไดร้ บั จดหมายลกู โซ่ เฉลย จติ คาํ ถามท่ี 2 จดหมายลกู โซ่คืออะไร เฉลย จดหมา คาํ ถามท่ี 3 ทาํ ไมจิตจึงมาน่งั เขียนจดหมาย เฉลย ไดร้ บั จ คาํ ถามท่ี 4 ทาํ ไมจติ จงึ เลิกเขียนจดหมายลกู โซ่ เฉลย เพราะแ คาํ ถามท่ี 5 เหตกุ ารณจ์ ากเร่ืองใหข้ อ้ คิดอะไร เฉลย ไม่ควร 5. เม่ือไดย้ ินสญั ญาณนกหวดี ครง้ั ท่ี 2 ใหน้ กั เรยี นช่วยกนั เฉลยคาํ ตอบ 6. นกั เรียนท่ีไดค้ ะแนนสงู สดุ ไดร้ บั สทิ ธิใ์ นการนาํ เสนอหลกั การอา่ นท่ีท 7. นกั เรียนแตล่ ะคนรบั บทอ่านเร่ือง โอม พนิ ิจมหาพจิ ารณา ตอนท่ี 3 แ พรอ้ มทงั้ ดาํ เนินการตรวจสอบความเขา้ ใจในเรื่องดว้ ยวธิ ีการท่ีตนเองเลือก 8. เม่อื ไดย้ ินสญั ญาณนกหวดี อกี ครงั้ ใหร้ บั บตั รคาํ ถามอีกครงั้ คาํ ถามท่ี 1 คาํ วา่ หวงั ลมๆแลง้ ๆ คอื อะไร คาํ ถามท่ี 2 วิธีการตรวจสอบวา่ สง่ิ นนั้ น่าเช่ือถือหรอื ไม่ ตอ้ งทาํ อย่าง คาํ ถามท่ี 3 ความรูท้ ่ไี ดจ้ ากบทอา่ นคืออะไร คาํ ถามท่ี 4 การหลงเช่อื หมายความว่าอะไร 9.เม่ือไดย้ นิ สญั ญาณนกหวดี ครงั้ ท่ี 3 ใหน้ กั เรยี นช่วยกนั เฉลยคาํ ตอบ พ 10. นกั เรียนสรุปหลกั การอ่านในใจตามความคดิ ของตนเอง 11. นกั เรียนชมคลิปวิดีโอจากทรูปลกุ ปัญญา ผา่ น https://www.true ทงั้ ใหน้ กั เรียนตรวจสอบหลกั การอ่านในใจของตนเอง 281

ายท่สี ง่ กนั ไปมา วนไปมาไม่รูจ้ บ จดหมายลกู โซ่ แมเ่ ลา่ ประสบการณก์ ารท่ีไดร้ บั จดหมายลกู โซ่ แตไ่ ม่เกิดอะไรขนึ้ ตามคาํ ขู่ รเช่ืออะไรง่ายๆ เพยี งเพราะถกู ขู่ พรอ้ มทงั้ บอกเหตผุ ลประกอบ ทาํ ใหส้ ามารถเขา้ ใจเนอื้ เรื่องและจบั ประเด็นสาํ คญั ของเร่ืองไดด้ ี แลว้ ทดลองอ่านใจตามขอ้ เสนอของนกั เรยี นท่ปี ระสบผลสาํ เรจ็ ของการอา่ นในใจ งไร พรอ้ มทงั้ บอกเหตผุ ลประกอบ eplookpanya.com/learning/detail/27566 ซง่ึ เป็นการนาํ เสนอวธิ ีการอ่านในใจ พรอ้ ม

แผนการจดั การเรยี นรู้ วชิ าภาษาไทย ประถมศกึ ษาปีท่ี 4 3.3 ข้นั สรุปองคค์ วามรู้ นกั เรยี นรว่ มกนั สรุปเก่ียวกบั หลกั การอ่านในใจและแนวทางในการปฏ 3.4 ขัน้ ประยุกตใ์ ช้ นกั เรยี นรว่ มกนั นาํ เสนอสถานการณท์ ่ีจาํ เป็นตอ้ งใชก้ ารอ่านในใจในช 4. การวัดและประเมนิ ผล วธิ วี ัด เครื่องมือวัด 1. (A) สงั เกตพฤติกรรมการแสดงความคิดเห็น แบบสงั เกตพฤติกรรม เก่ียวกบั ความสาํ คญั และประโยชนข์ องการอ่านในใจ การแสดงความคิดเห็น 2. (K) ตรวจผลงานการสรุปหลกั การอ่านในใจเพ่ือจบั เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ประเดน็ สาํ คญั 3.ประเมนิ ความสามารถในการอา่ นในใจ เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน 282

ฏิบตั ิตนในการอ่านในใจ โดยใหบ้ นั ทกึ ลงในสมดุ งาน ชีวิตประจาํ วนั (แนวคาํ ตอบ : การอา่ นหนงั สอื ในหอ้ งสมดุ หรือการอ่านหนงั สอื ในท่ี เกณฑก์ ารประเมิน แสดงความคิดเหน็ อยา่ งนอ้ ย 1 ขอ้ ดี – ระบขุ อ้ ความท่ีเป็นหลกั การอา่ นในใจและแนวทางในการปฏบิ ตั ติ นในการอ่าน ในใจไดถ้ กู ตอ้ งครบ 5 ขอ้ ดงั นี้  ไมช่ ีต้ ามตวั อกั ษร  กวาดสายตาอยา่ งรวดเรว็ มองตวั อกั ษรใหไ้ ด้ ช่วงประมาณ 5 - 6 คาํ เป็นอย่างนอ้ ย  ไมอ่ อกเสียงหรือทาํ ปากขมบุ ขมิบในขณะอ่าน  อา่ นจากซา้ ยไปขวาโดยตลอด ไม่ยอ้ นหนา้ ยอ้ นหลงั  ทดสอบความเขา้ ใจหลงั จากอ่านจบ โดยใชว้ ธิ ีตงั้ คาํ ถามสรุปเรื่องราวท่ีอา่ น พอใช้ – ปรากฏขอ้ ผิดพลาด 1 - 2 รายการ ปรบั ปรุง – ปรากฏขอ้ ผิดพลาดมากกว่า 3 รายการขึน้ ไป ดี – ตอบคาํ ถามจากกจิ กรรมในรอบท่ี 1 และ 2 จาํ นวน 3 ขอ้ ขึน้ ไป พอใช้ – ตอบคาํ ถามจากกิจกรรมไดต้ ่าํ กว่า 3 ขอ้ ปรบั ปรุง - ตอบคาํ ถามไมไ่ ดท้ กุ ขอ้

แผนการจดั การเรยี นรู้ วชิ าภาษาไทย ประถมศกึ ษาปีท่ี 4 ภาคผนวก 1. บทอ่านเรื่อง โอม พนิ ิจมหาพจิ ารณา ตอนท่ี 1 2.บทอา่ นเรื่อง โอม พนิ ิจมหาพจิ 283

จารณา ตอนท่ี 2 3.บทอา่ นเร่ือง โอม พนิ ิจมหาพิจารณา ตอนท่ี 3

แผนการจดั การเรยี นรู้ วชิ าภาษาไทย ประถมศกึ ษาปีท่ี 4 สมรรถนะย่อยที่ 1 สรุปความเข้าใจของตนและเรยี นรู้กลวิธีสาํ หรับประ แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ 2 เรอื่ ง การแสดงความคิดเหน็ อยา่ งมเี หตผุ ล 1. มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชีว้ ดั มาตรฐาน ท 3.1 สามารถเลอื กฟังและดอู ย่างมวี จิ ารณญาณ และพดู แสด อย่างมีวจิ ารณญาณและสรา้ งสรรค์ ท 3.1 ป.4/1 จาํ แนกขอ้ เท็จจรงิ และขอ้ คดิ เห็นจากเร่ืองท่ีฟังและด ท 3.1 ป.4/3 พดู แสดงความรู้ ความคิดเหน็ และความรูส้ กึ เกี่ยวกบั 2. จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ (A K S) 2.1 เห็นความสาํ คญั ของการอา่ นแลว้ แสดงความคิดเห็นต่อเร่ืองเพ่อื การนาํ 2.2 บอกหลกั การแสดงความคิดเหน็ อยา่ งมีเหตผุ ลเก่ียวกบั การอ่านจากบท 2.3 แสดงความคิดเห็นอย่างมเี หตผุ ลในบทอา่ นท่ีกาํ หนดใหไ้ ด้ (S) 3. กจิ กรรมการเรียนรู้ 3.1 ขน้ั เตรียมความพร้อมและตั้งขอ้ สังเกตในการเรยี นรู้ 1. นกั เรียนอ่านข่าวสถานการณก์ ารฉีดวคั ซีนเพ่ือปอ้ งกนั เชอื้ ไวรสั โคโ 284

ะกอบการพดู เวลา 6 ช่วั โมง เวลา 1 ช่วั โมง ดงความรู้ ความคิด ความรูส้ กึ ในโอกาสตา่ งๆ ดู บเร่ืองท่ีฟังและดู าไปใชใ้ นชวี ิตประจาํ วนั (A) ทอ่าน (K) โรนา 2019 (โควิด – 19)

แผนการจดั การเรยี นรู้ วชิ าภาษาไทย ประถมศกึ ษาปีท่ี 4 โควิด-19 เปิ ดสถิติเสียชีวิตชัดๆ เหต หลงั จากท่ีโควิดระบาดท่วั โลกมากว่า 2 ปีเศษ โดยเร่มิ ขึน้ เม่ือว โควิด ซ่งึ ถือวา่ ใชเ้ วลาสนั้ มากประมาณ 1 ปี เม่ือเทียบกบั วคั ซนี ท่วั ไ จาํ นวนมากในปี 2563 ทาํ ใหท้ กุ ประเทศมีความจาํ เป็นท่จี ะตอ้ งยอม วคั ซนี บางตวั ไดร้ บั การจดทะเบียนฉีดในสภาวะปกตแิ ลว้ และมกี าร มผี ทู้ ่ีกงั วลเร่อื งการฉีดวคั ซีนวา่ จะมีผลขา้ งเคียงทงั้ ในระยะสน้ั และร หลกั ในปัจจุบนั ลดนอ้ ยลงกว่าไวรสั ในช่วงก่อนหนา้ นีจ้ งึ ทาํ ใหท้ กุ ปร เร่มิ การฉีดวคั ซนี ทาํ ใหม้ ีจาํ นวนผทู้ ่ีติดเชือ้ และมีอาการรุนแรงจนเส จาํ นวนมาก วนั นีม้ ีขอ้ มลู ตวั เลขของประเทศไทยและของต่างประเทศประก ไตรต่ รอง หรือช่งั ใจว่า ผลเสียจากการฉีดวคั ซีน กบั ผลเสียสาํ หรบั ผ ผเู้ สยี ชีวิตจากโควิด สว่ นใหญ่ฉีดวคั ซีนไม่ครบ หรือไมไ่ ดฉ้ ีดว 1) ไม่ไดฉ้ ีดวคั ซีนเลย 58.80% 2) ฉีดวคั ซีนไม่ครบ 37.00% 3) ฉีดวคั ซีนครบ 3 เขม็ 4.10% โดยท่ีมีรายงานการศึกษาวจิ ยั ว่า การฉีดวคั ซนี ครบ 3 เข็มสา เสียชีวิตได้ 98% ท่ีมา : กรุงเทพธุรกจิ ( 285

ตุผลทาํ ไมต้องฉีดวัคซีนเข็ม 3 กระตุ้น วนั ท่ี 31 ธันวาคม 2562 และไดม้ ีการเรง่ วจิ ยั พฒั นาวคั ซนี ปอ้ งกนั ไปซ่งึ ใชเ้ วลา 5 - 10 ปี และจากจาํ นวนผตู้ ิดเชอื้ และเสยี ชวี ติ ท่มี ี มรบั การฉีดวคั ซีนโควดิ ในสถานการณฉ์ กุ เฉิน (EUA) จนถงึ ปัจจุบนั รฉีดวคั ซีนไปแลว้ มากกว่า 1 หม่ืนลา้ นโดสท่วั โลก อย่างไรก็ตาม ยงั ระยะยาวประกอบกบั ผเู้ สยี ชีวิตจากไวรสั โอมิครอนซ่งึ เป็นสายพนั ธุ์ ระเทศประสบปัญหา พลเมืองจาํ นวน 10 – 30 % ท่ลี งั เลและยงั ไม่ สียชวี ติ อย่ใู นกลมุ่ ของผทู้ ่ไี ม่ฉีดวคั ซีนหรือฉีดวคั ซีนไมค่ รบ 3 เขม็ กอบกนั โดยเป็นขอ้ มลู เพ่อื ประกอบการวเิ คราะห์ พจิ ารณา ผูต้ ิดโควดิ ท่ไี มฉ่ ีดวคั ซนี เป็นอยา่ งไรบา้ ง วคั ซนี ามารถลดการติดเชือ้ จากไวรสั โอมคิ รอนได้ 70% และลดการ (9 เม.ย. 65: https://www.bangkokbiznews.com/news/998381)