พระสุตตนั ตปฎก ขทุ ทกนิกาย พทุ ธวงศ เลม ๙ ภาค ๒ - หนา ท่ี 201 เปน ผูส้ินอาสวะแลว ถึงความชํานาญ มีฤทธิ์ มียศ มอี ินทรยี สงบ ถงึ ความฝกแลว เปนผหู มดจด แลว สนิ้ ภพใหมแลว .ดวยประการดงั กลาวมาฉะนี้ พระผูมพี ระภาคเจา พระองคเอง ปราศ-จากราคะ อนั เหลาภกิ ษผุ ปู ราศจากราคะแวดลอ มแลว ทรงปราศจากโทสะ อันเหลา ภิกษุผูป ราศจากโทสะแวดลอ มแลว ทรงปราศจากโมหะ อันเหลา ภิกษุผูปราศจากโมหะแวดลอ มแลว ชา งงามรงุ โรจนอยา งเหลือเกิน. ครงั้ นั้น พระ-ศาสดา อันเหลา ภิกษุผมู อี านภุ าพมาก ผสู น้ิ อาสวะแลว ผไู ดอภญิ ญา ๖จาํ นวนสแี่ สนรปู แวดลอมแลว เสด็จพุทธดําเนนิ สทู างน้ันทีเ่ ขาประดบั ตกแตงแลว ดวยพทุ ธลลี าหาที่เปรียบมไิ ด ซึง่ กาํ ลังพระกศุ ลทีท่ รงสะสมไดตลอดสมยัท่นี ับไมไดบ ันดาลใหเกดิ แลว ประหน่งึ ทาวสหสั นัยน ผมู ีพระเนตรพนั ดวงอันหมเู ทพแวดลอมแลว ประหนึง่ ทา วหาริตมหาพรหมอนั หมพู รหมแวดลอ มแลวและประหนึง่ ดวงจันทรใ นฤดสู ารท อันหมูด วงดาวแวดลอ มแลว. เขาวา ดว ยพระรศั มีมสี ดี งั ทอง พระจอมปราชญ ผูมีวรรณะด่งั ทอง ทรงทําตน ไมในหนทางใหม ีสีดงั่ ทอง ทรงทําดอกไมใหมีสดี งั่ ทอง เสดจ็ พระพุทธดาํ - เนนิ ไปสทู าง แมส เุ มธดาบส จองตาตรวจดพู ระอตั ภาพของพระผูม พี ระภาคเจาทีปง กร ผูเสด็จมาตามทางที่เขาประดบั ตกแตง แลวน้ัน ซ่งึ ประดบั ดวยมหาปุริสลกั ษณะ ๓๒ ประการ ฉาบดวยอนพุ ยญั ชนะ ๘๐ ลอดว ยพระรศั มีวาหน่ึงมีสริ ิเหมอื นแกวมณสี ดี อกอินทนลิ กาํ ลังเปลงพระพทุ ธรัศมมี พี รรณะ ๖ประดจุสายฟาแลบมีประการตา ง ๆ ในอากาศ มพี ระรูปพระโฉมงดงาม แลวคิดวา
พระสุตตนั ตปฎก ขทุ ทกนิกาย พทุ ธวงศ เลม ๙ ภาค ๒ - หนาที่ 202วันน้ี เราสละชวี ติ เพอื่ พระทศพลกค็ วร ตกลงใจวาขอพระผูมีพระภาคเจาอยาทรงเหยยี บท่ตี มเลย ขอทรงเหยียบหลงั เราเสด็จไปพรอ มกับพระขีณาสพสีแ่ สนรปู เหมอื นทรงเหยียบสะพานที่มแี ผนกระดานเปนแกว ผลกึ เถิด ขอ น้ันกจ็ ักเปน ประโยชนเก้ือกูล และความสุขแกเราตลอดกาลนาน ดังน้ีแลว กเ็ ปลอ้ื งผมปลู าดทอนหนงั ชฎาและผา เปลอื กไมล งที่ตม ซ่ึงมีสีดํา แลว ทอดตัวนอนบนหลังตมในทนี ้ันน่ันเอง. ดว ยเหตุนนั้ จึงตรัสวา มนษุ ยเ หลาน้ันถกู เราถามแลวกต็ อบวา พระ- พุทธเจาพระนามวา ทีปงกร ผูยอดเย่ยี ม ผชู นะ ผนู าํ โลกทรงอบุ ัติแลว ในโลก. พวกเราแผวถางหนทาง ท่ชี ื่อวา มรรค อญั ชสะ วฏมะ อายนะ กเ็ พ่ือพระพุทธเจาพระองคนน้ั . เพราะไดย ินคาํ วา พทุ โธ กเ็ กดิ ปต ขิ นึ้ ทนั ที เรา เม่อื กลา ววา พทุ โธ พุทโธ กซ็ าบซึง้ โสมนสั . เรายินดีปตใิ จแลว ยนื คดิ ในที่นน้ั วา จาํ เราจัก ปลูกพืชทั้งหลายในพระพทุ ธเจาทีปง กรพระองคน้ี ขอ ขณะอยา ลว งไปเปลาเลย. เราจงึ กลาววา ผิวา พวกทานแผว ถางหนทาง เพอ่ื พระพุทธเจาไซร ขอพวกทา นจงใหโอกาสแหง หนง่ึ แกเ ราดว ย ถึงตวั เราก็จักแผว ถางหนทาง. มนษุ ยเหลา นัน้ ไดใ หโอกาสแกเรา เพ่อื แผว ถางหนทางในครั้งนนั้ เราคดิ วา พทุ โธ พทุ โธ ไปพลาง แผว ถางหนทางไปพลางในครั้งน้นั .
พระสุตตันตปฎ ก ขทุ ทกนิกาย พุทธวงศ เลม ๙ ภาค ๒ - หนา ท่ี 203 เมอื่ โอกาสของเรายังไมทันเสรจ็ พระชินมหามุนีทีปง กร พรอมดวยภิกษสุ แ่ี สนรปู ซงึ่ เปนผมู ีอภญิ ญา ๖ ผูคงท่ี ผูสิน้ อาสวะ ผไู รมลทินก็เสด็จพทุ ธดาํ เนนิ ไปยงั หนทาง. การรับเสร็จกด็ าํ เนนิ ไป เภรีทง้ั หลายกป็ ระโคมมนุษยแ ละเทวดาทั้งหลายบนั เทงิ ใจแลว ก็พากันแซซองสาธกุ าร. พวกเทวดากเ็ ห็นพวกมนุษย แมพวกมนุษยเห็นพวกเทวดา เทวดาและมนษุ ยท ้งั สองพวก ก็ประ-คองอัญชลี ตามเสด็จพระตถาคต. พวกเทวดาก็บรรเลงดวยดนตรที ิพย พวกมนษุ ยกบ็ รรเลงดวยดนตรมี นษุ ย เทวดาและมนษุ ยทง้ั สองพวกกบ็ รรเลงตามเสดจ็ พระตถาคต ในอากาศ พวกเทวดา เหลาเดินหน ก็โปรยดอกมณฑารพ ดอกปทุม ดอกปารฉิ ัตตกะอนั เปนของทพิ ยไปทัว่ ทิศานทุ ศิ . ในอากาศ พวกเทวดาเหลาเดนิ หน กโ็ ปรยจรุ ณจนั ทน และของหอมอยางดี อนั เปน ของทพิ ยไปส้ินทว่ั ทศิ านทุ ิศ. พวกมนุษย ทไี่ ปตามภาคพนื้ ดิน ก็ชูดอกจาํ ปาดอกชา งนา ว ดอกกระทมุ ดอกกระถนิ พิมาน ดอกบนุ นาค ดอกเกด ทวั่ ทิศานุทศิ .
พระสุตตันตปฎ ก ขทุ ทกนกิ าย พทุ ธวงศ เลม ๙ ภาค ๒ - หนาที่ 204 เราเปลอื้ งผม ปลู าดผา เปลอื กไมและทอ นหนัง ลงบนตมในทนี่ น้ั นอนควํ่าหนา . ดวยประสงคว า ขอพระพทุ ธเจา กบั ศิษยท้งั หลาย จงทรงเหยียบเราเสดจ็ ไป อยาทรงเหยียบท่ีตมเลย ขอนี้ จกั เปน ประโยชนเกื้อกลู แกเรา. แกอ รรถ บรรดาบทเหลา นัน้ บทวา วยิ าก สุ แปลวา พยากรณแ ลว. ปาฐะวาทีปงกฺ โร นาม ชิโน ตสฺส โสธียตี ปโถ ดงั น้กี ็มี. บทวา โสมนสฺสปเวทยึ ความวา เสวยโสมนัส. บทวา ตตฺถ ตวฺ า ไดแ ก ยนื อยใู นประ-เทศที่ลงจากอากาศนนั่ เอง. บทวา ส วิคฺคมานโส ไดแก มใี จประหลาดเพราะปต.ิ บทวา อธิ ไดแ ก ในบญุ เขตคือพระพุทธเจาทีปง กรพระองคน .ี้ บทวาพชี านิ ไดแ ก พชื คือกศุ ล. บทวา โรปสฺส ไดแก จกั ปลกู . บทวา ขโณไดแ ก ชุมนุมขณะที่ ๙ เวน จากอขณะ ๘ ขณะนน้ั หาไดย ากเราก็ไดแ ลว. บทวาเว เปนเพียงนิบาต. บทวา มา อุปจจฺ คา ความวา ขณะนน้ั อยา ไดเปนไปลวง คอื อยาลวงเลยไป. บทวา ททาถ แปลวา จงให. บทวา เต ไดแกพวกมนุษยทเี่ ราถาม. บทวา โสเธมห ตทา ตัดบทเปน โสเธม อห ตทา.บทวา อนิฏ ิเต ไดแก ยังไมเสร็จ ทําคางไว. ในบทวา ขีณาสเวหิ น้ี อาสวะมี ๔ คอื กามาสวะ ภวาสวะทิฏฐาสวะ อวิชชาสวะ อาสวะ ๔ เหลา น้ีของภิกษเุ หลาใดสิ้นไปแลว ละแลวถอนแลว ระงบั แลว ไมควรเกดิ อนั ไฟคือญาณเผาแลว ภกิ ษุเหลาน้ัน ชอื่วา ขีณาสพ ผูมีอาสวะสน้ิ แลว ดวยภิกษขุ ณี าสพเหลา นนั้ ชอ่ื วาไมม ีมลทนิ ก็เพราะเปน ผสู ้ินอาสวะนน่ั เอง.
พระสุตตนั ตปฎ ก ขทุ ทกนกิ าย พุทธวงศ เลม ๙ ภาค ๒ - หนาที่ 205 ในบทวา เทวา มนสุ ฺเส ปสสฺ นตฺ ิ น้ี ไมม คี าํ ทีจ่ ะกลา วในขอ ท่ีเทวดาท้งั หลายเหน็ มนษุ ย. ดวยวา โดยการเหน็ อยา งปกติ แมเทวดาท้ังหลายยอ มเหน็ มนษุ ยทงั้ หลายเหมอื นอยางทม่ี นุษยท้งั หลายยืนอยูในทนี่ ี่เหน็ อย.ู บทวาเทวตา ไดแ ก เทพท้ังหลาย. บทวา อโุ ภป ไดแ ก เทวดาและมนษุ ยทงั้ สองพวก. บทวา ปฺชลิกา ไดแก ประคองอญั ชลี อธิบายวา เอามือท้ังสองตง้ัไวเหนือศรี ษะ. บทวา อนยุ นฺติ ตถาคต ไดแก ไปขา งหลงั ของพระตถาคต.พึงทราบลักษณะวา เม่ืออนโุ ยค [นคิ คหิต] มีอยู ทุตยิ าวิภัตติ ยอ มลงในอรรถฉัฏฐวี ิภัตติ ดวยเหตนุ ้ัน จงึ ตรัสวา อนุยนฺติ ตถาคต . บทวา วชฺช-ยนฺตา แปลวา บรรเลงอยู. บทวา มนทฺ ารว ไดแก ดอกมณฑารพ. บทวา ทโิ สทสิ แปลวาโดยทกุ ทิศ. บทวา โอกิรนตฺ ิ แปลวา โปรย. บทวา อากาสนภคตาแปลวา ไปในทองฟาคอื อากาศ อีกนัยหน่ึงไปสูอากาศ คอื ไปสวรรคน่นั เอง.จรงิ อยูสวรรคท า นเรียกวาทอ งฟา . บทวา มรู แปลวา เทวดาท้งั หลาย. บทวาสรล ไดแ ก ดอกสน. บทวา นีป ไดแ ก ดอกกะทมุ . บทวา นาคปนุ ฺนาค-เกตก ไดแ ก ดอกกะถนิ ดอกบุนนาค ดอกเกต. บทวา ภมู ิตลคตาไดแก ไปทีแ่ ผน ดิน. บทวา เกเส มุ ฺจติ ฺวาห ความวา เปล้อื ง คอื สยายผมจากกลมุและชฎาเกลียวท่ีมุนไว. บทวา ตตฺถ ไดแ ก ในโอกาสทีใ่ หแ กเ รา. บทวาจมมฺ ก ไดแ กท อ นหนงั . บทวา กลเล ไดแ ก ในโคลนตม. บทวา อวกุชฺ -โช แปลวา คว่ําหนา . นิปชฺชห ตดั บทเปน นปิ ชชฺ ึ อห . ศัพทวา มาในบทวา มา น เปน นิบาตลงในอรรถปฏิเสธ. ศพั ทวา น เปนนบิ าตลงในอรรถปทบรู ณะทาํ บทใหเ ตม็ ความวา ขอพระพุทธเจา อยา ทรงเหยยี บทต่ี มเลย. บทวา หติ าย เม ภวสิ ฺสติ ความวา การไมท รงเหยยี บที่ตมนัน้
พระสุตตันตปฎก ขุททกนกิ าย พทุ ธวงศ เลม ๙ ภาค ๒ - หนาท่ี 206จกั มเี พอื่ ประโยชนเกือ้ กูลแกเรา ตลอดกาลนาน. ปาฐะวา สุขาย เม ภวิสฺ-สติ ดังนกี้ ็ม.ี แตนน้ั สุเมธบัณฑติ นอนบนหลงั ตมแลวก็คิดอยางนวี้ า ถาเราพงึปรารถนาไซร เราก็พึงเปน สังฆนวกะ เผากเิ ลสทัง้ หมดแลวเขา ไปยังรมั มนครแตเ ราไมม ีกิจท่จี ะเผากเิ ลสแลว บรรลุพระนพิ พาน ดว ยเพศทีไ่ มม ีใครรจู กั ถากระไร เราพงึ เปนเหมือนพระทปี ง กรทศพล บรรลปุ รมาภิสัมโพธญิ าณ ขึ้นสธู รรมนาวา ยังมหาชนใหข ามสงั สารสาครแลวจึงปรนิ ิพพานในภายหลงั นีเ้ ปนการสมควรแกเ รา. แตน้นั จงึ ประชมุ ธรรม ๘ ประการ ลงนอนทาํ อภนิ ีหารเพอื่ เปนพระพทุ ธเจา . ดวยเหตนุ ้นั จึงตรสั วา เรานอนเหนือแผนดนิ แลว ใจกป็ ริวติ กอยางนี้ วา วนั นเี้ ราปรารถนา กจ็ ะพึงเผากิเลสท้ังหลายของ เราได. แตประโยชนอะไรของเราดว ยเพศท่ไี มม ใี ครรูจ กั ดวยการทาํ ใหแ จง ธรรมในพระพุทธเจาพระองคน ้ี เรา จกั บรรลุพระสพั พญั ุตญาณเปนพระพุทธเจา ในโลก พรอ มทั้งเทวโลก. ประโยชนอ ะไรของเรา ดว ยบุรษุ ผูเหน็ กําลงั จะ ขามสังสารสาครแตเพยี งคนเดียว เขาจักบรรลุสัพพัญ- ตุ ญาณแลว ยังโลกนพี้ รอ มทั้งเทวโลกใหข ามสังสาร สาคร. ดวยอธิการบารมีนี้ ทีเ่ ราบําเพ็ญในพระพทุ ธเจา ผเู ปนบรุ ษุ สูงสุด เราบรรลุสพั พญั ุตญาณแลวจะยงั หมูชนเปน อันมากใหขา มสงั สารสาคร.
พระสุตตนั ตปฎก ขุททกนกิ าย พุทธวงศ เลม ๙ ภาค ๒ - หนาท่ี 207 เราตัดกระแสแหง สังสาร กาํ จัดภพ ๓ ไดแลว ขึ้นสูธรรมนาวา จกั ยงั โลกนพ้ี รอ มทง้ั เทวโลก ใหข าม สังสารสาคร. แกอ รรถ บรรดาบทเหลา นน้ั บทวา ปวยิ นปิ นฺนสสฺ แปลวา นอนเหนือแผน ดนิ หรอื วา ปาฐะก็อยางน้ีเหมอื นกัน. บทวา เจตโส ความวา ใจก็ไดมีปริวิตก. ปาฐะวา เอว เม อาสิ เจตนา ดังนี้กม็ ี. บทวา อิจฺฉมาโนไดแ ก หวงั อย.ู บทวา กิเลเส ความวา ธรรมชาติเหลา ใด ยอมเศราหมองยอ มทําใหเดือดรอ น เหตุน้ัน ธรรมชาตเิ หลานัน้ ชอื่ วากเิ ลส คือกเิ ลส ๑๐ กองมีราคะเปนตน. บทวา ฌาปเย ไดแ ก พึงใหไ หม อธิบายวา เราพึงยังกเิ ลสทง้ั หลายของเราใหไหม. คําวา ก.ึ เปนคาํ ปฏเิ สธ. บทวา อฺ าตกเวเสน ไดแ ก ดว ยเพศท่ีไมปรากฏ ทไ่ี มม ีใครรูจ กั ท่ีปกปด อธบิ ายวา ก็เราพึงทาํ อาสวะใหสิ้นเหมอื นภกิ ษุท้งั หลายในพระศาสนาน้ี หรือพงึ บาํ เพญ็ พุทธการกธรรม ทํามหา-ปฐพีใหไ หวในสมยั ถอื ปฏิสนธิ ประสูติ ตรัสรู และประกาศพระธรรมจักรเปนผูตรัสรเู องเปน พระพทุ ธเจา ยงั สตั วใ หตรสั รูพงึ เปนผขู า มเอง ยังสัตวใ หขา มสังสารสาคร พงึ เปนผูห ลุดพนเอง ยงั สัตวใ หหลุดพน . บทวา สเทวเก ไดแกในโลกพรอมทงั้ เทวโลก. บทวา ถามทสสฺ นิ า ไดแก เหน็ เรี่ยวแรงกําลังของตน. บทวาสนฺตาเรสสฺ ไดแ ก จักใหข าม. บทวา สเทวก ไดแก ยงั หมสู ัตวพ รอมทง้ัเทวดา หรือยงั โลกพรอ มทง้ั เทวโลก. บทวา อธิกาเรน ไดแก ดว ยการกระ-ทําที่วเิ ศษย่ิง. อธิบายวา ดว ยการเสยี สละชีวิตตนเพ่ือพระพุทธเจา แลว นอนเหนอื หลังตม ชอื่ วา อธิการ.
พระสตุ ตันตปฎ ก ขทุ ทกนิกาย พทุ ธวงศ เลม ๙ ภาค ๒ - หนา ที่ 208 บทวา ส สารโสต ความวา การทอ งเท่ยี วไปทางโนน ทางนใ้ี นกําเนิดคติ วญิ ญาณฐิติ และสตั ตาวาส ๙ ดว ยอํานาจกรรมและกิเลส ช่ือวา สังสารเหมือนอยางทต่ี รสั ไววา ขนฺธาน ปฏปิ าฏิ ธาตอุ ายตนาน จ อพฺโพจฉินนฺ วตฺตมานา ส สาโรติ ปวุจฺจต.ิ เรียงลาํ ดับแหง ขนั ธ ธาตแุ ละอายตนะเปน ไปไม ขาดสาย ทา นเรียกวา สังสาร. สงั สารนัน้ ดวย กระแสดว ย เหตุนั้นจึงชื่อวา สงั สารโสตะ ซงึ่ สังสารและกระแสนน้ั . อีกนัยหนงึ่ กระแสแหง สงั สาระ ชอื่ วา สังสารโสตะ ความวาตดั กระแสคอื ตัณหาอันเปน เหตแุ หงสังสาร. บทวา ตโย ภเว ไดแ กกามภพรปู ภพและอรปู ภพ. กรรมและกิเลสอนั ใหเกิดภพ ๓ ทานประสงคว า ภพ ๓.บทวา ธมฺมนาว ไดแ ก อริยมรรคมีองค ๘. จรงิ อยู อรยิ มรรคมีองค ๘ นั้นทานเรยี กวา ธรรมนาวา เพราะอรรถวา เปน เครอ่ื งขา มโอฆะ ๔. บทวาสมารยุ ฺห แปลวา ขน้ึ . บทวา สนตฺ าเรสฺส แปลวา จกั ใหขา ม. แตอภินีหารยอมสําเร็จแกท า นผูปรารถนาเปนพระพทุ ธเจา เพราะความประชมุ พรอ มแหง ธรรม ๘ ประการ คอื ๑. ความเปนมนษุ ย ๒. ความสมบูรณด วยเพศ ๓. เหตุ ๔. การพบพระศาสดา ๕. การบรรพชา๖. ความสมบรู ณดว ยคุณ ๗. ความมีอธิการ ๘. ความมีฉันทะ. แกอรรถ บรรดาบทเหลาน้ัน บทวา มนสุ สฺ ตตฺ ความวา ความปรารถนายอ มสาํ เร็จ แกผ ตู ง้ั อยูในอัตภาพเปน มนษุ ยเทา นั้น แลว ปรารถนาเปน พระ-พทุ ธเจา ยอ มไมสําเร็จแกสัตวท้งั หลายทีต่ งั้ อยใู นชาตินาคเปน ตน . ถา ถามวาเพราะเหตไุ ร ก็ตอบไดว า เพราะชาตินาคเปนตน เปนอเหตุกสตั ว.
พระสตุ ตันตปฎ ก ขุททกนิกาย พุทธวงศ เลม ๙ ภาค ๒ - หนาท่ี 209 บทวา ลงิ คฺ สมฺปตตฺ ิ ความวา ความปรารถนายอมสาํ เร็จแกผแู มอยูในอตั ภาพเปน มนุษย ก็ตอ งต้ังอยูในเพศชายเทาน้ัน ยอมไมสาํ เร็จแกห ญงิหรือบณั เฑาะกค นไมม เี พศและคนสองเพศ. ถา ถามวา เพราะเหตุไร ก็ตอบไดว าเพราะลกั ษณะไมบรบิ ูรณ จริงดงั ทพ่ี ระผมู ีพระภาคเจาตรัสไววา ดูกอนภิกษุทง้ั หลาย ขอทีพ่ ระอรหนั ตสัมมาสมั พุทธเจา เปน สตรี ไมเ ปนฐานะ ไมเ ปนโอกาสพงึ ทราบความพศิ ดารเอาเองเถดิ . เพราะฉะน้ัน ความปรารถนายอ มไมสําเร็จ แมแ กผูมชี าติเปนมนุษยแตต ั้งอยูในเพศสตร.ี บทวา เหตุ ความวา ความปรารถนายอ มสาํ เร็จแมแ กบ รุ ุษ ทีถ่ งึพรอมดว ยเหตุ เพอ่ื บรรลพุ ระอรหตั ในอัตภาพนั้นไดเทา นนั้ ไมสาํ เรจ็ แกบรุ ุษนอกจากน้.ี บทวา สตฺถารทสสฺ น ความวา ถา บุรษุ ปรารถนาในสาํ นักของพระพทุ ธเจาซ่ึงยงั ทรงพระชนมชพี อยเู ทา น้นั ความปรารถนาจึงจะสาํ เรจ็ความปรารถนาในพระผมู พี ระภาคเจาซง่ึ เสดจ็ ปรินพิ พานแลว หรอื ทีส่ ํานกัพระเจดียห รือทโ่ี คนโพธพิ ฤกษ หรือท่ีพระพุทธปฏิมา หรอื ในสํานักของพระปจ เจกพทุ ธเจา และพุทธสาวก ยอมไมส ําเรจ็ . เพราะเหตไุ รเพราะพระปจ เจกพทุ ธเจาและพุทธสาวก ไมส ามารถท่ีจะรูถึงภัพพสัตวและอภพั พสตั วแ ลวกาํ หนดดว ยญาณเปนเคร่อื งกําหนดกรรมและวบิ ากแลว พยากรณได. เพราะฉะน้ัน ความปรารถนาจงึ สาํ เรจ็ ไดใ นสํานกั ของพระพุทธเจา เทา น้ัน. บทวา ปพพฺ ชฺชา ความวา ความปรารถนา ยอ มสําเรจ็ แมแกผูปรารถนาในสาํ นกั ของพระผูม พี ระภาคพุทธเจา หรอื ตองบวชในดาบสท้ังหลายจาํ พวกทเ่ี ปนกัมมกริ ิยวาทีหรือในภิกษุทั้งหลายเทา น้นั . เพราะเหตุไร เพราะ
พระสุตตนั ตปฎก ขุททกนิกาย พทุ ธวงศ เลม ๙ ภาค ๒ - หนา ที่ 210วา พระโพธสิ ตั วทง้ั หลาย ท่ีเปนบรรพชิตเทา นัน้ จึงบรรลพุ ระสมั โพธิญาณไดทเ่ี ปน คฤหสั ถ บรรลไุ มได. เพราะฉะนนั้ จงึ ตองเปน บรรพชิตเทา น้นั แมในกาลตงั้ ปณธิ านความปรารถนามาแตตน . บทวา คณุ สมฺปตตฺ ิ ความวา ปรารถนายอ มสําเร็จ แมแกบรรพชติผไู ดสมาบัติ ๘ มอี ภญิ ญา ๕ เทา น้ัน แตไมส ําเร็จแกผ เู วนจากคุณสมบัตินี.้เพราะเหตไุ ร เพราะคนไรค ุณสมบตั ไิ มมโี พธิญาณนั้น. บทวา อธกิ าโร ความวา ผใู ดแมถ ึงพรอมดวยคณุ ก็ยงั เสียสละชวี ิตตนเพ่ือพระพุทธเจาทั้งหลายได ความปรารถนายอ มสําเรจ็ แกผ นู ้ัน ซงึ่พรั่งพรอ มแลวดวยอธกิ ารน้เี ทา นน้ั ไมสําเรจ็ แกคนนอกจากน.้ี บทวา ฉนทฺ ตา ความวา ผูใดแมถงึ พรอมแลว ดวยอภินหี าร ก็มีฉนั ทะ พยายาม อตุ สาหะ แสวงหาอยา งใหญ เพื่อประโยชนแกพทุ ธการก-ธรรมทั้งหลาย ความปรารถนายอ มสาํ เร็จแกผ นู ้นั เทานนั้ ไมสําเร็จแกค นนอกจากน้ี ขอ อุปมาแหงความเปนผูม ฉี นั ทะเปน ใหญ ในขอ นนั้ มีดงั น้ี. กถ็ าบุคคลพงึ คดิ อยา งนว้ี า ผูใ ดสามารถขามหองจกั รวาลท้งั สิน้ ซึง่ มีนํา้ เปน อันเดียวกันดวยกําลังแขนของตนไปถงึ ฝงได ผนู ั้นยอมบรรลคุ วามเปนพระพทุ ธ-เจา ได. สวนผใู ด ไมสาํ คญั กิจนี้เปน ของทําไดยากสําหรบั ตน ประกอบดว ยฉันทะอตุ สาหะอยางใหญอยา งนีว้ า เราจกั ขา มหอ งจกั รวาลนไ้ี ปถงึ ฝง ความปรารถนายอ มสําเรจ็ แกผนู ัน้ ไมส าํ เรจ็ แกคนนอกจากน.้ี ก็สเุ มธบัณฑิต รวบรวมธรรม ๘ ประการนไ้ี วแลว ทาํ อภนิ หี ารเพอื่เปนพระพทุ ธเจา จึงนอนลง. ฝายพระผูมีพระภาคเจาทีปง กร ประทบั ยืนประชดิ ใกลศรี ษะของสุเมธบณั ฑติ เห็นสเุ มธดาบสนอนอยเู หนือหลังตม ทรงสง อนาคตังสญาณวา ดาบสผนู ี้ ทาํ อภินหี ารเพอ่ื เปนพระพุทธเจา นอนลงแลว
พระสตุ ตนั ตปฎก ขทุ ทกนกิ าย พุทธวงศ เลม ๙ ภาค ๒ - หนาที่ 211ความปรารถนาของเขาจักสําเรจ็ หรอื ไมห นอ ทรงพจิ ารณาทบทวนดู ก็ทรงทราบวา ลว งไปสอ่ี สงไขยกาํ ไรแสนกปั นับแตกปั น้ีไป เขาจักเปน พระพทุ ธเจาพระนามวาโคตมะ ประทับยืนพยากรณทามกลางบริษทั วา ดกู อ นภิกษุทัง้ หลายพวกเธอเหน็ ดาบสผูมีตบะสงู ซึ่งนอนเหนอื หลงั ตมผูนไี้ หมหนอ. ภิกษุทง้ัหลายกราบทลู วา เห็นพระเจาขา จึงตรสั วา ดาบสผนู ีท้ าํ อภินีหารเพอื่ เปนพระ-พทุ ธเจา จงึ นอนลงแลว ความปรารถนาของดาบสผูนีจ้ ักสําเร็จ ในทสี่ ุดส่ีอสงไขยกาํ ไรแสนกัปนบั แตกัปน้ไี ป ดาบสผูนจ้ี กั เปน พระพุทธเจาพระนามวาโคตมะ ในโลก ในอตั ภาพนัน้ ของดาบสนั้น นครช่ือวา กบิลพศั ดุ จักเปนทป่ี ระทับอยู จกั มพี ระชนนพี ระนามวา มหามายาเทวี พระชนก พระนามวาพระเจา สทุ โธทนะ พระอัครสาวกทง้ั สอง ชอ่ื วา อุปติสสะ และ โกลิตะพระพุทธอุปฏ ฐาก ชือ่ วา อานนั ทะ พระอัครสาวิกาทัง้ สองชือ่ วา เขมาและ อุบลวรรณา ดาบสผมู ีญาณกลา จักเสดจ็ ออกมหาภิเนษกรมณ ต้ังความเพยี รอยางใหญ รับขา วมธุปายาสทนี่ างสชุ าดาถวายที่โคนตนนิโครธ เสวยที่ฝง แมน า้ํ เนรญั ชรา แลว ข้ึนสูโพธมิ ัณฑสถาน จักตรัสรทู ี่โคนตน โพธใิ บ ดวยเหตนุ ั้น จึงตรัสวา พระพทุ ธเจา พระนามวา ทีปงกร ผูรโู ลก ทรง รบั ทกั ษณิ า ประทบั ยนื ใกล ๆ ศรี ษะ ไดม พี ทุ ธดาํ รสั กะเราดงั น้ีวา ทานทั้งหลายจงดชู ฏิลดาบสผูน้ี ซง่ึ มีตบะสูงจกั เปน พระพุทธเจาในโลก ในกปั ซ่ึงนับไมไ ด ต้งั แต กปั นไี้ ป.
พระสุตตนั ตปฎก ขุททกนิกาย พุทธวงศ เลม ๙ ภาค ๒ - หนา ท่ี 212 พระตถาคตเสดจ็ ออกจากกรงุ กบิลพัศดุ ทนี่ ารน่ืรมย ทรงตง้ั ความเพียร ทรงทาํ ทุกกรกริ ิยา. พระตถาคต ประทบั น่ัง ณ โคนตนอชปาลน-ิโครธ ทรงรับขา วมธุปายาส ณ ท่ีนน้ั แลว เสดจ็ สรู มิฝง แมน ้ําเนรัญชรา. พระชนิ เจา พระองคนน้ั เสวยขาวมธปุ ายาสที่ริมฝง แมนํา้ เนรัญชรา แลวเสดจ็ เขา สูโ คนโพธิพฤกษตามทางอนั ดที ่ีเขาจัดแตงไวแ ลว . ตอนัน้ พระผยู อดเยย่ี ม มีพระมหายศ ทรงทําประทกั ษิณโพธิมณั ฑสถาน จกั ตรสั รู ณ โคนโพธิใบ. พระชนนพี ุทธมารดาของดาบสผูนี้ จกั มีพระนามวา มายา พระพทุ ธบิดาจกั มีพระนามวา สทุ โธทนะดาบสผนู ี้ จักมีพระนามวาโคตมะ. พระโกลติ ะและพระอุปติสสะ ผไู มม ีอาสวะปราศจากราคะ มจี ิตสงบตงั้ ม่ันแลว จกั เปนพระอคั ร-สาวก พทุ ธอุปฐาก ชอื่ วาอานนท จกั บาํ รุงพระชิน-เจาผูน้ี. พระเขมาและพระอบุ ลวรรณา ผไู มม อี าสวะมจี ิตสงบ ตัง้ ม่ันแลว จกั เปนอัครสาวิกา ตนไมเปนทต่ี รสั รขู องพระผมู ีพระภาคเจา พระองคนัน้ เรียกวาอสั สัตถะ ตน โพธใิ บ. จติ ตะและหัตถาฬวกะ จกั เปนยอดอปุ ฏฐากอุตตราและนันทมารดา จกั เปนยอดอุปฎ ฐายิกา.
พระสตุ ตนั ตปฎก ขุททกนิกาย พทุ ธวงศ เลม ๙ ภาค ๒ - หนาที่ 213 แกอรรถ บรรดาบทเหลาน้ัน บทวา โลกวทิ ู ไดแ ก ช่อื วา โลกวิทู เพราะทรงรจู กั โลกโดยประการทงั้ ปวง. ความจรงิ พระผูมีพระภาคเจา ทรงรู ทรงรทู ่วัทรงแทงตลอดโลก แมโ ดยประการท้งั ปวง คือโดยสภาวะความจริง โดยสมทุ ยัความเกดิ โดยนโิ รธความดบั โดยนโิ รธบุ ายอุบายใหถ งึ นิโรธ เพราะฉะน้ันทา นจงึ เรียกวา โลกวิทู เหมอื นอยางท่ีตรสั ไววา เพราะฉะนัน้ แล ทา นสเุ มธผูรูจ ักโลก ถึงทสี่ ดุ โลก อยจู บพรหมจรรย รูทีส่ ดุ โลก สงบแลว ยอมไมห วงั โลกน้ีและโลกอื่น. อนง่ึ โลกมี ๓ คือ สงั ขารโลก สตั วโลกและ โอกาสโลก บรรดาโลกท้งั ๓ นน้ั ธรรมท้ังหลายมปี ฐวเี ปนตน ทอ่ี าศยั กนั เกดิ ข้ึน ช่อื วา สังขาร-โลก. สตั วท ัง้ หลาย มีสญั ญา ไมมีสญั ญา แลมีสัญญากไ็ มใ ชไ มมสี ัญญากไ็ มใช ชอ่ื วา สัตวโลก. สถานทีอ่ ยูข องสัตวท ั้งหลาย ช่ือวา โอกาสโลกกโ็ ลกทงั้ ๓ นี้ พระผูมีพระภาคเจา ทรงรแู ลวตามสภาพความเปน จรงิ เพราะฉะน้นั พระผมู ีพระภาคเจา ทานจงึ เรียกวา โลกวทิ .ู บทวา อาหตุ ีนปฏิคฺคโห ไดแ ก ชือ่ วาผูรับทกั ษิณาทาน เพราะเปนผูควรรบั ทานทงั้ หลายเพราะเปนทักขิไณยบคุ คล. บทวา อสุ ฺสสี เก ม ตวฺ าน ไดแ ก ประทบั ยืนใกลศรี ษะเรา. ความวา ไดต รัสคาํ น้คี อื คําท่ีควรกลาว ณ บดั นี้. บทวา ชฏลิ ความวา ชฎาของนักบวชนั้นมีอยู เหตนุ ้ัน นกั บวชน้ันชอื่ วา ชฎลิ ผมู ีชฎา, ชฎิลนั้น. บทวา อคุ ฺคตาปน ไดแก ผูมตี บะสูง. บทวา อหุ ไดแ ก ในวนั อธิบายวา ครัง้ น้นั . หรือวาปาฐะกอ็ ยา งน้เี หมอื นกัน. บทวา กปลวหฺ ยา ไดแ ก
พระสุตตนั ตปฎก ขทุ ทกนกิ าย พุทธวงศ เลม ๙ ภาค ๒ - หนาท่ี 214เรียกวา ชื่อวา กบลิ พัศดุ. บทวา รมฺมา ไดแก นา รืน่ รมย. บทวา ปธานไดแก ความเพยี ร. บทวา เอหติ ิ แปลวา จักถึง จักไป. คาํ ทีเ่ หลอื ในคาถาทง้ั หลายงา ยทั้งน้นั แล. ลําดบั น้ัน สเุ มธบัณฑิต เกิดความโสมนสั วา ไดย ินวา ความปรารถนาของเราจกั สาํ เรจ็ ผล. มหาชนฟงพระดาํ รัสของพระทีปงกรทศพลแลวกพ็ ากันรา เริงยนิ ดวี า ทา นสเุ มธดาบสไดเ ปนหนอพืชพระพุทธเจา . สุเมธบัณฑิตนัน้ กค็ ดิ อยา งนี้ ชนทง้ั หลายก็ไดท าํ ความปรารถนาวา บรุ ษุ กําลงั จะขามแมน า้ํ เมื่อไมอาจขามโดยทา ตรงหนาไดก็ยอ มขามโดยทาหลัง ฉนั ใด พวกเราเม่อื ไมไ ดม รรคผลในศาสนาของพระทีปง กรทศพล ในอนาคตกาล กพ็ งึสามารถทาํ ใหแ จง มรรคผล ตอ หนา ทาน ในสมัยท่ีทา นจกั เปนพระพุทธเจา ก็ฉนั น้ันเหมือนกัน. แมพระทีปง กรทศพลก็ทรงสรรเสริญพระมหาสัตวผ เู ปนพระโพธสิ ัตว ทรงบูชาดวยดอกไม ๘ กาํ ทรงทําประทกั ษณิ และเสดจ็ หลีกไปแมพ ระขณี าสพส่ีแสนรูปนั้น ก็พากันบชู าพระโพธสิ ตั วดว ยดอกไมแ ละของหอมทาํ ประทกั ษิณแลวหลีกไป. ครั้งนน้ั พระผมู พี ระภาคเจาทปี ง กร ผทู รงทําประทปี คือความรโู ลกท้งั ปวง อนั พระขีณาสพสี่แสนรปู แวดลอมแลว อันชาวรัมมนครบูชาอยู อนัเทวดาท้ังหลายถวายบังคมอยู เสดจ็ พุทธดาํ เนนิ ประหนง่ึ ยอดภูเขาทองอนั ประ-เสรฐิ ทีอ่ าบแสงสนธยา เม่ือปาฏหิ ารยิ ท ัง้ หลายเปน อันมากดําเนินไปอยู กเ็ สดจ็ไปตามหนทางท่ชี าวรัมมนครประดับประดาตกแตงนั้น เสด็จเขา ไปยงั รมั มนครอนั นาอภิรมย อบอวลดว ยกลิ่นดอกไมหอมนานาชนดิ กล่นิ จณุ ทีน่ า ชืน่ ชมธงประฏากท่ยี กขน้ึ ไสว มหี มูภมรท่ีติดใจในกลิน่ บินวอ นเปนกลุมๆ มืดคร้ึมดวยควนั ธปู สงางามดังเทพนคร พระทินกรทศพลกป็ ระทับน่ังเหนือพุทธอาสน
พระสตุ ตนั ตปฎ ก ขุททกนิกาย พทุ ธวงศ เลม ๙ ภาค ๒ - หนาท่ี 215ทส่ี มควรอยา งใหญท เี่ ขาบรรจงจดั ไว เหมือนดวงจันทรง ดงามยามฤดูสารทเหนือยอดยคุ นธร เหมือนดังดวงทินกรกาํ จัดกลมุ ความมืด ทาํ ความแยม แกดงปทุม. แมภ กิ ษุสงฆก็น่งั บนอาสนะท่ีถึงแกต นๆ ตามลาํ ดบั . สว นอบุ าสกชาวรัมมนคร ผพู รง่ั พรอมแลวดว ยคณุ มีศรัทธาเปน ตน กช็ ว ยกันถวายทานท่ปี ระ-ดับพรอ มดวยของเคี้ยวเปน ตนชนิดตาง ๆ สมบูรณดว ยสกี ล่ินและรส ไมม ีทานอื่นเสมอเหมอื น เปน ตนเหตแุ หง สุข แกภิกษุสงฆม พี ระพทุ ธเจา เปน ประธาน. คร้ังนั้น พระโพธิสัตวสดับคาํ พยากรณของพระทศพลกส็ าํ คญั ความเปนพระพทุ ธเจา ประหนง่ึ อยใู นกํามือ กบ็ ันเทิงใจ เม่อื ชาวรมั มนครกลบั กันหมดแลว กล็ กุ ข้ึนจากทน่ี อนคิดวาจกั เลือกเฟนบารมีท้ังหลาย จึงนั่งขดั สมาธิเหนอื ยอดกองดอกไม เมื่อพระมหาสัตวน ง่ั อยูอ ยา งน้ัน เทวดาสิ้นทั้งหม่ืนจักรวาล กใ็ หสาธุการ กลา ววา ทา นสุเมธดาบสเจาขา ในเวลาที่ทานนง่ั ขัดสมาธิ หมายจกั เลอื กเฟนบารมีของพระโพธิสตั วอ งคกอนๆ ธรรมดาบพุ นิมติเหลาใดปรากฏ บุพนิมิตเหลานน้ั ก็ปรากฏแลวในวนั นี้ทัง้ หมด ทานจกั เปนพระพทุ ธเจาอยา งไมตองสงสยั พวกเรารขู อนีว้ า บุพนิมติ เหลาน้ปี รากฏแกผ ูใด ผูน ัน้ จักเปน พระพุทธเจา โดยสวนเดยี วเทานนั้ เพราะฉะน้ัน ทานจงประ-คองความเพยี รของตนไวใ หมัน่ แลวไดช มพระโพธสิ ัตวดวยสดดุ นี านาประการดว ยเหตนุ ัน้ จึงตรัสวา มนุษยแ ละเทวดาทงั้ หลาย สดบั คําของพระทีปง- กรทศพล ผูแสวงคุณย่ิงใหญ ไมมผี เู สมอเหมือนนี้ แลว ก็พากนั ดีใจวา ทานผูนเ้ี ปนหนอพืชพระพุทธเจา เสยี งโหรององึ ม่ี เสยี งปรบมือ เสียงหัวเราะ หมน่ื โลกธาตเุ ทวดาก็ทําอัญชลีนมัสการกลาววา
พระสุตตันตปฎก ขุททกนกิ าย พุทธวงศ เลม ๙ ภาค ๒ - หนา ที่ 216 ผวิ าพวกเราจะพลาดคําสอน ของพระโลกนาถพระองคน ้ี ในอนาคตกาล พวกเราก็จักอยูตอพระ-พักตรข องพระโลกนาถพระองคน้.ี มนษุ ยท ้งั หลาย เมอื่ ขามแมน ํา้ พลาดทานา้ํ เฉพาะหนา แลว กถ็ ือเอาทา นาํ้ ทา หลังขา มแมน้ําฉนั ใด. พวกเราท้งั หมด ผิวาพน พระชินเจา พระองคน ี้เสีย ในอนาคตกาล กจ็ ักอยตู อพระพักตรข องพระชนิ เจา พระองคน ี้ ฉันนั้นเหมือนกนั . พระทปี งกรทศทลู ผูรูจ ักโลก ทรงเปนปฏิคาหกผูร บั ของบูชา ทรงประกาศกรรมของเราแลว กท็ รงยกพระบาทเบ้อื งขวา. พุทธชิโนรสทง้ั หมด ท่อี ยู ณ ท่นี น้ั ก็พากนั ทาํประทกั ษณิ เรา เทวดา มนุษยและอสูรท้ังหลายก็กราบไหวแลวหลกี ไป. เมือ่ พระโลกนาถพรอ มท้งั พระสงฆ เสด็จลับตาเราไปแลว ครัง้ น้ัน เราก็ลุกขน้ึ นั่งขดั สมาธิ. เราประสบสขุ โดยสขุ เบกิ บานโดยปราโมช อันปติสัมผสั ซาบซา นแลว นงั่ ขัดสมาธใิ นเวลานน้ั . คร้นั นั่งขดั สมาธิแลว เวลาน้นั เราคิดอยา งน้วี าเราเปนผูช าํ นาญในฌาน ถึงฝง ในอภญิ ญา ๕. ในหม่ืนโลกธาตุ ไมม ฤี าษที ่ีจะเสมอเรา ไมม ผี ูเสมอในอิทธิธรรมท้งั หลาย เราไดค วามสุขเชนน้ี.
พระสุตตันตปฎ ก ขทุ ทกนกิ าย พทุ ธวงศ เลม ๙ ภาค ๒ - หนา ท่ี 217 ขณะที่เราน่งั ขดั สมาธิ ทวยเทพในหมื่นโลกธาตุ ก็เปลงเสยี งโหร อ งวา ทานจักเปน พระพุทธเจา แนนอน. ขณะพระโพธิสัตวท ัง้ หลายนัง่ ขดั สมาธิ บพุ นิมติเหลา ใดปรากฏกอน บุพนมิ ิตเหลา นน้ั ก็เหน็ กันในวันน้.ี ความหนาวก็หายไป และความรอนก็สงบไปบุพนมิ ติ เหลานั้น ก็เหน็ กนั ในวนั น้ี ทานจักเปน พระ-พุทธเจาแนนอน. หม่นื โลกธาตุ ก็ปราศเสียง ปราศจากความวุนวาย บุพนิมิตเหลา นัน้ ก็เห็นกันในวันน้ี ทานจกั เปนพระพุทธเจาแนน อน. ลมขนาดใหญก ไ็ มพดั แมน้ําทงั้ หลายกไ็ มไ หลบพุ นมิ ติ เหลาน้นั ก็เหน็ กนั ในวันนี้ ทานจักเปนพระ- พทุ ธเจาแนน อน. ดอกไมบนบก ดอกไมใ นน้ํา กบ็ านหมดใน ขณะนน้ั ดอกไมแมเหลาน้ันท้งั หมด กบ็ านแลวใน วนั น้ี ทา นจักเปนพระพุทธเจา แนน อน. ผวิ า ไมเถาก็ดี ไมต น กด็ ี กม็ ผี ลในขณะนั้น ตนไมแมเ หลานัน้ ทงั้ หมด กอ็ อกผลในวันนี้ ทา นจัก เปน พระพุทธเจา แนน อน. รัตนะทง้ั หลาย ที่อยูในอากาศและท่ีอยูภาคพืน้ ดิน กส็ องแสงโชติชว งในขณะน้นั รตั นะแมเ หลา นน้ั ก็โชตชิ วงในวันนี้ ทานจักเปนพระพทุ ธเจา แนนอน.
พระสุตตนั ตปฎก ขุททกนิกาย พทุ ธวงศ เลม ๙ ภาค ๒ - หนาที่ 218 ดนตรที ้ังหลาย ทัง้ ท่เี ปน ของมนษุ ย ท้งั ทเ่ี ปนของทิพย ก็บรรเลงในขณะน้ัน ดนตรีท้งั สองแมน ้ันสงเสยี งลน่ั ในวันนี้ ทา นจักเปนพระพุทธเจา แนน อน. ฝนดอกไมอนั ไพจิตร กห็ ลน ลงมาจากทองฟาในขณะน้นั ฝนดอกไมแมเ หลานัน้ กห็ ลั่งลงมาในวันน้ี ทา นจกั เปน พระพุทธเจาแนนอน. มหาสมทุ รกค็ ะนอง หมน่ื โลกธาตกุ ็ไหว แมทัง้สองนน้ั กส็ ง เสียงลั่นในวันนี้ ทานจกั เปนพระพุทธ-เจา แนน อน. ไฟหลายหมน่ื ในนรก กด็ ับในขณะนั้น ไฟแมเหลา นัน้ กด็ บั แลวในวันนี้ ทานจักเปนพระพทุ ธเจาแนนอน. ดวงอาทิตยท ง้ั ใสไรม ลทิน ดวงดาวทัง้ หลายก็เห็นไดห มด ดวงดาวแมเ หลา น้ัน ก็เห็นกนั แลวในวันน้ี ทานจกั เปน พระพทุ ธเจาแนน อน. เม่อื ฝนไมตก นาํ้ กพ็ ุขนึ้ มาจากแผน ดิน ในขณะน้นั นา้ํ แมน น้ั ก็พขุ ้ึนแลวจากแผน ดนิ ในวันนี้ ทา นจกั เปน พระพุทธเจาแนนอน. หมูด าวและดาวนกั ษัตรทงั้ หลาย กแ็ จม กระจา งตลอดมณฑลทอ งฟา ดวงจนั ทรก ็ประกอบดว ยดาวฤกษวิสาขะ ทานจกั เปนพระพุทธเจาแนน อน.
พระสตุ ตันตปฎ ก ขุททกนิกาย พุทธวงศ เลม ๙ ภาค ๒ - หนา ที่ 219 สตั วทั้งหลายทอี่ ยใู นโพรง ทีอ่ ยใู นรองนา้ํ กอ็ อกจากทอ่ี ยขู องตน สัตวแ มเหลา นัน้ ก็ออกจากทีอ่ ยแู ลวในวันนี้ ทา นจกั เปน พระพุทธเจา แนน อน. ความไมยนิ ดที ้ังหลายไมม ีแกส ัตวท้งั หลาย สัตวทงั้ หลายยอมเปนผสู ันโดษ ในขณะน้ันสตั วแ มเหลา น้นัก็เปนผูสันโดษแลว ในวนั นี้ ทานจักเปน พระพุทธเจาแนน อน. ในขณะนั้น โรคท้งั หลายก็สงบไป ความหิวก็หายไป บุพนมิ ติ แมเหลานนั้ ก็เห็นกนั แลว ในวนั น้ีทานจักเปนพระพทุ ธเจา แนน อน. ในขณะนัน้ ราคะก็เบาบาง โทสะ โมหะก็เสือ่ มหาย กิเลสแมเ หลานน้ั กเ็ ลือนหายไปหมดในวนั นี้ทานจกั เปน พระพุทธเจา แนน อน. ในขณะนั้นภยั ก็ไมม ี ความไมมีภัยนั้นกเ็ ห็นแมในวนั น้ี พวกเรารกู นั ดวยเหตนุ ้นั ทานจกั เปนพระพทุ ธเจาแนน อน. กเิ ลสดจุ ธลุ ไี มฟ งุ ข้ึนเบือ้ งบน ความไมฟุงแหงกเิ ลสดุจธลุ ีนนั้ ก็เหน็ กนั แมในวันน้ี พวกเรารูกัน ดว ยเหตนุ ั้น ทา นจักเปน พระพุทธเจา แนนอน. กลน่ิ ทไี่ มน า ปรารถนาก็จางหายไป กลนิ่ ทพิ ยก ็โชยมา กล่นิ หอมแมน้นั ก็โชยมาในวันนี้ ทานจกั เปนพระพทุ ธเจาแนนอน.
พระสุตตนั ตปฎ ก ขทุ ทกนกิ าย พุทธวงศ เลม ๙ ภาค ๒ - หนา ท่ี 220 เทวดาทั้งหมดเวนอรูปพรหมกป็ รากฏ เทวดาแม เหลา น้นั กเ็ หน็ กันหมดในวนั นี้ ทานจักเปน พระพทุ ธ- เจาแนน อน. ขน้ึ ชื่อวา นรกมีประมาณเทาใด กเ็ ห็นกันไดหมด ในขณะนนั้ นรกแมเ หลานั้น กเ็ ห็นกนั แลว ในวันนี้ ทา นจักเปนพระพุทธเจาแนน อน. กําแพงบานประตู และภูเขาหนิ ไมเปนทก่ี ดี ขวางในขณะน้นั กําแพงบานประตแู ละภูเขาหินแม เหลาน้นั กก็ ลายเปน อากาศไปในวันน้ี ทา นจักเปน พระพทุ ธเจา แนน อน. การจตุ ิและปฏสิ นธิ ยอ มไมมีในขณะนนั้ บพุ - นมิ ติ แมเ หลานัน้ ก็เห็นกันไดใ นวันนี้ ทานจกั เปน พระพทุ ธเจาแนนอน. ขอทา นโปรดจงประคบั ประคอง ความเพียรไว ใหม่ัน อยา ถอยกลบั โปรดกาวไปขา งหนา ตอไปเถดิ แมพ วกเราก็รูเ หตขุ อ นนั้ ทานจกั เปน พระพุทธเจาแน นอน. แกอ รรถ บรรดาบทเหลา นนั้ บทวา อิท สตุ ฺวาน วจน ความวา ฟง คาํพยากรณพระโพธสิ ตั ว ของพระผมู ีพระภาคเจาทีปง กรน.้ี บทวา อสมสสฺไดแก ชือ่ วาไมม ผี เู สมอ เพราะไมม ผี ูเ สมอเหมอื น เหมอื นอยางทต่ี รสั วา
พระสุตตนั ตปฎก ขุททกนิกาย พุทธวงศ เลม ๙ ภาค ๒ - หนาท่ี 221 น เม อาจริโย อตฺถิ สทโิ ส เม น วชิ ชฺ ติ สเทวกสฺมึ โลกสฺมึ นตฺถิ เม ปฏิปุคฺคโล. เราไมมอี าจารย ผเู สมือนเราไมมี ผูเทยี บเรา ไมม ีในโลก พรอมท้งั เทวโลก. บทวา มเหสิโน ความวา ชื่อวามเหสี เพราะเสาะแสวงหาคณุ คอื ศลีสมาธิปญญาใหญ. ผูแสวงหาคณุ ใหญพ ระองคน้นั . บทวา นรมรู ไดแ กม นุษยและเทวดาทั้งหลาย กศ็ ัพทน้ชี ้ีแจงความอยางสูง สตั วแ มท ั้งหมด แมแ ตน าคสบุ รรณและยกั ษเปน ตนในหมื่นโลกธาตกุ ็พากันดีใจ. บทวา พุทธฺ พีช กริอย ความวา พากนั ดีใจวา ไดยนิ วา หนอเนอ้ื พุทธางกรู นี้เกิดขึ้นแลว . บทวา อกุ ฺกฏ สิ ททฺ า ความวา เสยี งโหรอ งเปน ไปอยู. บทวาอปโฺ ผเฏนฺติ ไดแ ก ยกแขนขน้ึ ปรบมอื . บทวา ทสสทสสฺ ี แปลวา หมื่นโลกธาตุ. บทวา สเทวกา ความวา หม่ืนโลกธาตกุ บั เทวดาท้งั หลายที่ชือ่ วา สเทวกะยอ มนมสั การ. บทวา ยทิมสฺส ตดั บทวา ยทิ อิมสสฺ หรือปาฐะ ก็อยางนี้เหมอื นกัน. บทวา วริ ชฺฌสิ สฺ าม ไดแก ผวิ าเราไมบรรลุ. บทวา อนาค-ตมหฺ ิ อทฺธาเน แปลวา ในอนาคตกาล. บทวา เหสสฺ าม แปลวา จกั เปน . บทวา สมฺมุขา แปลวา ตอ หนา . บทวา อมิ คอื อิมสฺส ทุตยิ าวภิ ตั ติลงในอรรถฉฏั ฐีวภิ ตั ติ แปลวา ของทา นผูน.ี้บทวา นทึ ตรนฺตา ไดแก ผขู า มแมน ํา้ ปาฐะวา นทติ รนฺตาดงั น้ีกม็ ี. บทวา ปฏิตติ ถฺ ไดแ ก ทาเรือเฉพาะหนา. บทวา วิรชฺฌิย แปลวาพลาดแลว . บทวา ยทิ มุจฺ าม ความวา ผวิ า พวกเราจักพน พระผูมีพระภาคเจา พระองคน ้โี ดยไมไ ดทํากิจไป. บทวา มม กมมฺ ปกติ เฺ ตตฺวาไดแ ก ทรงพยากรณป ระโยชนท ่ีเราเจรญิ แลว . บทวา ทกขฺ ิณ ปาทมุทธฺ ริแปลวา ยกพระบาทเบือ้ งขวา. ปาฐะวา กตปทกฺขิโณ ดงั นีก้ ม็ ี.
พระสุตตันตปฎ ก ขทุ ทกนกิ าย พทุ ธวงศ เลม ๙ ภาค ๒ - หนา ที่ 222 บทวา ชนิ ปตุ ตฺ า ไดแก สาวกของพระศาสดาทีปงกร. บทวา เทวามนุสสฺ า อสรุ า จ อภวิ าเทตฺวาน ปกกฺ มุ ความวา ทา นเหลานี้แมท ั้งหมดมเี ทวดาเปน ตน ทําประทักษณิ เรา ๓ คร้งั บูชาดว ยดอกไมเปน ตน ต้งัอญั ชลีไวเ ปนอยางดี ไหวแลวกก็ ลับ แลดบู อ ย ๆ แลวชมดว ยสดดุ ีนานาประการท่ีมีอรรถพยญั ชนะอันไพเราะแลวหลีกไป. ปาฐะวา นรา นาคา จ คนฺธพพฺ าอภิวาเทตวฺ าน ปกฺกมุ ดังนี้ก็มี. บทวา ทสสฺ น เม อติกกฺ นฺเต ความวา เมอ่ื พระผมู พี ระภาคเจา ลวงทศั นวสิ ัยของเราไปแลว. ปาฐะวา ชหเิ ต ทสสฺ นปู จาเร ดังนก้ี ม็ .ีบทวา สสงเฺ ฆ ไดแ ก พรอ มกับพระสงฆ ช่ือวา สสงั ฆะ พรอมกับพระ-สงฆน ัน้ . บทวา สยนา วฏุ หิตวฺ า ไดแก ลกุ ขึน้ จากตม อนั เปนท่ี ๆตนนอนลงแลว. บทวา ปลลฺ งฺก อาภชุ ึ ความวา ทําบลั ลงั กคือขดั สมาธินงั่ เหนือกองดอกไม. ปาฐะวา หฏโ หฏเน จิตเฺ ตน อาสนา วุฏหึตทา ดงั นีก้ ็มี. ปาฉะนน้ั มีอรรถงาย. บทวา ปตยิ า จ อภิสสฺ นฺโน ไดแก อันปติสมั ผสั ซาบซา นแลว.บทวา วสภี ูโต ไดแก ถึงความเปน ผชู ํานาญ. บทวา ณาเน ไดแก รปู าวจรฌานและอรปู าวจรฌาน. บทวา สหสสฺ ยิ มฺหิ แปลวา หมืน่ . บทวา โลกมฺหิไดแก ในโลกธาตุ. บทวา เม สมา ไดแก เสมือนเรา. พระองคต รสั โดยไมแปลกวา ผทู เี่ สมอไมมี บัดนเ้ี ม่อื จะทรงกําหนดความน้นั นั่นแลจึงตรัสวา ไมมผี ูเสมอในอิทธิธรรมทั้งหลาย. บรรดาบทเหลานัน้ บทวา อิทธิธมฺเมสุ ความวา ในอิทธิธรรม ๕. บทวา ลภึ แปลวา ไดแลว . บทวา อที สิ สขุ ไดแ ก โสมนสั เชนน้.ี พระผมู ีพระภาคเจา เม่อื ทรงแสดงวา ครัง้ นั้น สุเมธดาบส ฟงพยากรณของพระทศพลแลว สาํ คญั ความเปนพระพทุ ธเจาประหน่งึ อยูใ นกํามือแลว กม็ ี
พระสุตตนั ตปฎก ขทุ ทกนิกาย พุทธวงศ เลม ๙ ภาค ๒ - หนา ท่ี 223หวั ใจเบิกบาน มหาพรหมในชน้ั สุทธาวาสท้ังหลาย ในหมน่ื โลกธาตุ เคยเห็นอดตี พระพทุ ธเจา มา เพื่อประกาศความเท่ียงแทไมแ ปรผันแหง พระดํารัสของพระตถาคต เพราะเหน็ ปาฏหิ ารยิ ท เ่ี กิดข้ึนในการพยากรณนยิ ตพระโพธสิ ตั วเม่อื ทรงแสดงคําท่ีเทวดาทง้ั หลายแสดงความยนิ ดกี ะเรา ไดก ลา วคาถาเหลา นี้จึงตรัสวา ปลฺลงกฺ าภุชเน มยฺห เปนตน . บรรดาบทเหลานั้น บทวา ปลฺลงฺกาภุชเน มยหฺ ไดแก ในการน่ังขดั สมาธิของเรา. หรือปาฐะก็อยางนีเ้ หมือนกัน. บทวา ทสสหสฺสาธิวา-สโิ น ไดแ ก มหาพรหมทงั้ หลายที่อยใู นหมน่ื โลกธาตุ. บทวา ยา ปพุ เฺ พไดแก ยานิ ปพุ เฺ พ คาํ นี้พงึ ทราบวา ทานกลา วลบวิภตั ติ. บทวา ปลลฺ งฺก-วรมาภเุ ช ไดแ ก ในการนง่ั ขัดสมาธิอยางดี. บทวา นิมิตตฺ านิ ปทิสสฺ นฺติความวา นิมิตทัง้ หลาย ปรากฏแลว เม่อื ควรจะกลาวคาํ เปนอดีตกาล ก็กลาวคําเปนปจจบุ ันกาล ถงึ คาํ ทีก่ ลา วเปน ปจจบุ ันกาลแตก็ควรถือความเปนอดตี กาล.บทวา ตานิ อชชฺ ปทสิ สฺ เร ความวา นมิ ิตเหลา ใด เกิดขึ้นแลว ในการทีน่ ยิ ตพระโพธสิ ัตวทั้งหลายน่ังขดั สมาธแิ มในกาลกอน นิมติ เหลานน้ั กเ็ ห็นกันอยใู นวันน้ี เพราะฉะนนั้ ทา นจกั เปน พระพุทธเจาแนน อนทเี ดยี ว. แตม ใิ ชนิมติ เหลา นน้ั เกดิ ข้ึนแลว . คําวา นมิ ติ เหลานัน้ ก็เหน็ กนั อยใู นวันนี้ พึงทราบวา ทานกลาวกเ็ พราะเสมือนนิมิตท่ีเกดิ ข้ึนแลว นั้น. บทวา สีต แปลวา ความเยน็ . บทวา พยฺ ปคต แปลวา ไปแลวไปปราศแลว . บทวา ตานิ ความวา ความเย็นก็คลายไปความรอ นก็ผอ นไปบทวา นิสฺสทฺทา ไดแก ไมม ีเสียง ไมอกึ ทึก. บทวา นิรากุลาแปลวา ไมว ุน วาย. หรอื ปาฐะกอ็ ยางนเ้ี หมอื นกนั . บทวา น สนทฺ นตฺ ิไดแ ก ไมน าํ ไป ไมไหลไป. บทวา สวนตฺ โิ ย แปลวา แมน ้ําท้งั หลาย. บทวาตานิ ไดแ ก ไมพดั ไมไ หล. บทวา ถลชา ไดแ ก ดอกไมทีเ่ กิดทตี่ นไมตามพนื้ ดนิ และบนภเู ขา. บทวา ทกชา ไดแ ก ดอกไมทเี่ กดิ ในนาํ้ . บทวา ปปุ ฺผนตฺ ิ
พระสตุ ตันตปฎก ขทุ ทกนิกาย พทุ ธวงศ เลม ๙ ภาค ๒ - หนาที่ 224ไดแ ก บานแลว แกพ ระโพธิสัตวท งั้ หลายในกาลกอ น. คาํ เปนปจจุบันลงในอรรถอดตี กาล พึงทราบ โดยนยั ท่กี ลาวมาแลวในหนหลังนั่นแล. บทวา เตปชชฺปปุ ฺผิตานิ ความวา ดอกไมแมเหลาน้ัน บานแลวในวันน.้ี บทวา ผลภารา ไดแก ทรงผล. บทวา เตปชชฺ ตดั บทวา เตปอชฺช ทา นกลาววา เตป โดยลิงควปิ ลาส เพราะทานกลา ววา ลตา วารกุ ขฺ า วา. บทวา ผลติ า แปลวา เกดิ ผลแลว. บทวา อากาสฏา จภุมมฺ ฏา ไดแก ไปในอากาศ และท่ีไปบนแผน ดิน. บทวา รตนานิ ไดแก รตั นะท้ังหลาย มแี กว มกุ ดาเปนตน . บทวา โชตสฺติ แปลวา สอ งแสงสวาง.บทวา มานสุ สฺ กา ไดแก เปน ของมนุษยท ้ังหลาย ช่ือวา มานุสสกะของมนษุ ย.บทวา ทพิ ฺพา ไดแ ก เปน ของเทวดาทั้งหลาย ช่ือวาทิพพะของเทวดา.บทวา ตรุ ิยา ไดแก ดนตรี ๕ คือ อาตตะ วิตตะ อาตตะวติ ตะ สุสริ ะและฆนะ. บรรดาดนตรเี หลาน้นั ในดนตรมี ีกลองเปนตนที่หมุ หนัง ดนตรที ่ีหุมหนงั หนา เดียวช่อื วา อาตตะ ดนตรที ่ีหมุ หนังสองหนา ช่ือวาวิตตะ ดนตรีมีพณิใหญเปนตน ทหี่ ุมหนงั หมด ช่ือวาอาตตะวิตตะ ดนตรีมปี เ ปน ตน ช่ือวา สุสริ ะ.ดนตรีมสี ัมมตาลเปนตน ชือ่ วา ฆนะ. บทวา วชฺชนตฺ ิ ไดแ ก บรรเลงแลวโดยนัยท่กี ลา วมาแลว ในหนหลงั คําทเี่ ปน ปจจุบนั กาล พงึ ทราบวา ใชใ นอรรถอดตี กาล แมใ นคาํ เชนนต้ี อ ๆ ไป ก็นยั นี้. บทวา อภริ วนฺติ ความวา รอ งดังบันลอื ล่นั เหมอื นดนตรีทผี ูฉลาดบรรเลงแลว ประโคมแลว ขับรองแลว. บทวา วิจติ ฺตปปุ ฺผา ไดแ ก ดอกไมท ั้งหลาย มีกลิ่นและสตี า ง ๆ อันงดงาม. บทวา อภิวสฺสนฺติ แปลวา ตกลงแลว อธิบายวา หลนแลว. บทวาเตป ความวา ดอกไมอนั งดงามแมเ หลาน้นั ตกลงอยูก ็เห็นกันในวันนี้ อธิบายวา อันหมเู ทวดาและพรหมโปรยลงมาอย.ู บทวา อภริ วนฺติ ไดแก บันลอื ลนั่ .บทวา นิรเย ไดแ ก ในนรกทง้ั หลาย. บทวา ทสสหสฺเส ไดแก หลายหมื่น.บทวา นพิ ฺพนตฺ ิ ไดแ ก สงบ อธิบายวาถึงความสงบ. บทวา ตารกา ไดแก
พระสุตตนั ตปฎก ขทุ ทกนิกาย พุทธวงศ เลม ๙ ภาค ๒ - หนาท่ี 225ดาวฤกษทง้ั หลาย. บทวา เตป อชชฺ ปทสิ ฺสนฺติ ความวา ดวงดาวแมเหลานนั้ ก็เห็นกนั กลางวันวนั น้ี เพราะดวงอาทิตยส กุ ใสไรม ลทนิ . บทวา อโนวฏเ น ไดแ ก คาํ วา อโนวฏเ นีเ้ ปน ตตยิ าวิภตั ติลงในอรรถสตั ตมีวิภัตต.ิ อีกนยั หนึง่ บทวา อโนวฏเ ไดแก ไมม ีอะไรแมปดกัน้ . คาํ วา น เปนเพยี งนบิ าตเหมอื นในประโยคเปนตนวา สตุ วฺ า น ทูตวจนฟงคาํ ของทตู ดงั นี้. บทวา ตมฺปชชฺ ุพภฺ ิชชฺ เต ความวา นา้ํ แมน นั้ กพ็ ุขน้ึ ในวนั น้ี อธบิ ายวา แทรกพุง ขนึ้ . บทวา มหิยา ไดแ ก แผน ดนิ เปนปญ จมีวภิ ตั ติ.บทวา ตาราคณา ไดแ ก หมูด าวท้งั หมด มีดาวเคราะหแ ละดาวนกั ษัตรเปน ตน. บทวา นกขฺ ตฺตา ไดแ ก ดาวฤกษท ้ังหลาย. บทวา คคนมณฺฑเลความวา สองสวา งทั่วมณฑลทองฟา . บทวา พิลาสยา ไดแ ก สัตวทอ่ี ยใู นปลองมีงู พังพอน จรเขแ ละเห้ยี เปน ตน . บทวา ทรีสยา ไดแก สตั วท อี่ ยูใ นแอง น้าํ หรอื ปาฐะก็อยา งนเี้ หมอื นกนั . บทวา นิกขฺ มนตฺ ิ ไดแ ก ออกไปแลว . บทวา สกาสยา แปลวา จากที่อยูของตนๆ ปาฐะวา ตทาสยา ดังน้ีกม็ ีปาฐะนัน้ มคี วามวา ในคร้งั นั้นคอื ในกาลน้ัน จากที่อยูคือปลอง. บทวา ฉทุ ฺธาไดแก อนั เขาซัดไปแลว ขึน้ ไปแลว คือออกไป. บทวา อรตี ไดแก ความกระสัน. บทวา สนฺตุฏา ไดแ กสัน-โดษดว ยสันโดษอยา งยงิ่ . บทวา วินสสฺ ติ ไดแก ไปปราศ. บทวา ราโคไดแ กกามราคะ. บทวา ตทา ตนุ โหติ ไดแ ก มปี ระมาณนอ ย ทรงแสดงปรยิ ฏุ ฐานกิเลสดว ยบทน้ี. บทวา วคิ ตา ไดแก สญู หาย. บทวา ตทา ไดแกครง้ั กอ น อธิบายวา ครัง้ พระโพธิสัตวท ้ังหลายน่งั ขดั สมาธ.ิ บทวา น ภวติแปลวา ไมม.ี บทวา อชชฺ เปต ความวา แมค ร้งั ทานนัง่ ขัดสมาธิในวนั น้ีภยั นน้ั กไ็ มม.ี บทวา เตน ลงิ ฺเคน ชานาม ความวา พวกเราทกุ คนยอ มรดู วยเหตทุ ท่ี านจกั เปน พระพุทธเจา .
พระสตุ ตันตปฎก ขทุ ทกนิกาย พุทธวงศ เลม ๙ ภาค ๒ - หนา ท่ี 226 บทวา อนุทธฺ สติ ไดแ ก ไมฟุงขน้ึ . บทวา อนิฏคนโฺ ธ ไดแ กกล่ินเหมน็ . บทวา ปกฺกมติ แปลวา หลีกไปแลว ปราศไปแลว. บทวาปวายติ แปลวา พดั ไปแลว . บทวา โสปชฺช ไดแก กลิน่ ทิพยแ มน ้นั ในวันนี้.บทวา ปทสิ ฺสนฺติ ไดแ ก เหน็ กนั แลว . บทวา เตปชชฺ ไดแ ก เทวดาท้ังหมดแมนน้ั ในวันนี้. ศัพทว า ยาวตาเปนนบิ าตลงในอรรถวากําหนด ความวามีประมาณเทาใด. บทวา กุฑฺฑา แปลวา กาํ แพง. บทวา น โหนตฺ าวรณาไดแ ก ทําการขวางกัน้ ไมได. บทวา ตทา ไดแก คร้งั กอน. บทวาอากาสภูตา ไดแ ก กําแพงบานประตูและภเู ขาเหลา นน้ั ไมอาจทําการขวางกน้ัทําไวขา งนอกได อธบิ ายวา อากาศกลางหาว. บทวา จตุ ิ ไดแก มรณะ. บทวาอปุ ปฺ ตฺติ ไดแก ถอื ปฏิสนธ.ิ บทวา ขเณ ไดแ ก ในขณะพระโพธสิ ตั วท ้ังหลายน่งั ขดั สมาธใิ นกาลกอน. บทวา น วชิ ชฺ ติ แปลวา ไมมแี ลว . บทวาตานิปชชฺ ความวา การจุตปิ ฏิสนธิ ในวนั น้ีแมเ หลา น้ัน. บทวา มา นิวตตฺ ิไดแก จงอยา ถอยหลงั . บทวา อภกิ ฺกม ไดแก จงกา วไปขางหนา คําทีเ่ หลือในเรอื่ งน้ี งายทง้ั น้ันแล. ตอ จากนั้น สเุ มธบณั ฑติ สดบั คําของพระทปี ง กรทศพล และของเทวดาทงั้ หลายในหมน่ื จักรวาล กเ็ กดิ อุตสาหะ อยา งยิ่งยวด คดิ วา ธรรมดาพระ-พทุ ธเจาทง้ั หลายมีพระวาจาไมโ มฆะเปลา ประโยชน พระวาจาของพระพุทธเจาท้ังหลายไมเ ปลย่ี นเปนอน่ื . เหมือนอยางวา กอนดนิ ที่เหวีย่ งไปในอากาศก็ตกแนนอน สตั วท่ีเกดิ มาแลวก็ตาย เม่ืออรณุ ข้ึนดวงอาทติ ยก็ขึ้นสูทอ งฟา ราชสหี ออกจากท่ีอยู ก็บันลือสีหนาท สตรมี คี รรภห นักก็ปลงภาระแนนอน เปนอยางน้โี ดยแทฉนั ใด ธรรมดาพระดาํ รัสของพระพทุ ธเจาทั้งหลาย ก็แนน อนไมโมฆะเปลา ประโยชน ฉันนั้นเหมอื นกัน เราจักเปนพระพทุ ธเจา แนน อนดวยเหตนุ ้ัน จงึ ตรสั วา
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273
- 274
- 275
- 276
- 277
- 278
- 279
- 280
- 281
- 282
- 283
- 284
- 285
- 286
- 287
- 288
- 289
- 290
- 291
- 292
- 293
- 294
- 295
- 296
- 297
- 298
- 299
- 300
- 301
- 302
- 303
- 304
- 305
- 306
- 307
- 308
- 309
- 310
- 311
- 312
- 313
- 314
- 315
- 316
- 317
- 318
- 319
- 320
- 321
- 322
- 323
- 324
- 325
- 326
- 327
- 328
- 329
- 330
- 331
- 332
- 333
- 334
- 335
- 336
- 337
- 338
- 339
- 340
- 341
- 342
- 343
- 344
- 345
- 346
- 347
- 348
- 349
- 350
- 351
- 352
- 353
- 354
- 355
- 356
- 357
- 358
- 359
- 360
- 361
- 362
- 363
- 364
- 365
- 366
- 367
- 368
- 369
- 370
- 371
- 372
- 373
- 374
- 375
- 376
- 377
- 378
- 379
- 380
- 381
- 382
- 383
- 384
- 385
- 386
- 387
- 388
- 389
- 390
- 391
- 392
- 393
- 394
- 395
- 396
- 397
- 398
- 399
- 400
- 401
- 402
- 403
- 404
- 405
- 406
- 407
- 408
- 409
- 410
- 411
- 412
- 413
- 414
- 415
- 416
- 417
- 418
- 419
- 420
- 421
- 422
- 423
- 424
- 425
- 426
- 427
- 428
- 429
- 430
- 431
- 432
- 433
- 434
- 435
- 436
- 437
- 438
- 439
- 440
- 441
- 442
- 443
- 444
- 445
- 446
- 447
- 448
- 449
- 450
- 451
- 452
- 453
- 454
- 455
- 456
- 457
- 458
- 459
- 460
- 461
- 462
- 463
- 464
- 465
- 466
- 467
- 468
- 469
- 470
- 471
- 472
- 473
- 474
- 475
- 476
- 477
- 478
- 479
- 480
- 481
- 482
- 483
- 484
- 485
- 486
- 487
- 488
- 489
- 490
- 491
- 492
- 493
- 494
- 495
- 496
- 497
- 498
- 499
- 500
- 501
- 502
- 503
- 504
- 505
- 506
- 507
- 508
- 509
- 510
- 511
- 512
- 513
- 514
- 515
- 516
- 517
- 518
- 519
- 520
- 521
- 522
- 523
- 524
- 525
- 526
- 527
- 528
- 529
- 530
- 531
- 532
- 533
- 534
- 535
- 536
- 537
- 538
- 539
- 540
- 541
- 542
- 543
- 544
- 545
- 546
- 547
- 548
- 549
- 550
- 551
- 552
- 553
- 554
- 555
- 556
- 557
- 558
- 559
- 560
- 561
- 562
- 563
- 564
- 565
- 566
- 567
- 568
- 569
- 570
- 571
- 572
- 573
- 574
- 575
- 576
- 577
- 578
- 579
- 580
- 581
- 582
- 583
- 584
- 585
- 586
- 587
- 588
- 589
- 590
- 591
- 592
- 593
- 594
- 595
- 596
- 597
- 598
- 599
- 600
- 601
- 602
- 603
- 604
- 605
- 606
- 607
- 608
- 609
- 610
- 611
- 612
- 613
- 614
- 615
- 616
- 617
- 618
- 619
- 620
- 621
- 622
- 623
- 624
- 625
- 626
- 627
- 628
- 629
- 630
- 631
- 632
- 633
- 634
- 635
- 636
- 637
- 638
- 639
- 640
- 641
- 642
- 643
- 644
- 645
- 646
- 647
- 648
- 649
- 650
- 651
- 652
- 653
- 654
- 655
- 656
- 657
- 658
- 659
- 660
- 661
- 662
- 663
- 664
- 665
- 666
- 667
- 668
- 669
- 670
- 671
- 672
- 673
- 674
- 675
- 676
- 677
- 678
- 679
- 680
- 681
- 682
- 683
- 684
- 685
- 686
- 687
- 688
- 689
- 690
- 691
- 692
- 693
- 694
- 695
- 696
- 697
- 698
- 699
- 700
- 701
- 702
- 703
- 704
- 705
- 706
- 707
- 708
- 709
- 710
- 711
- 712
- 713
- 714
- 715
- 716
- 717
- 718
- 719
- 720
- 721
- 722
- 723
- 724
- 725
- 726
- 727
- 728
- 729
- 730
- 731
- 732
- 733
- 734
- 735
- 736
- 737
- 738
- 739
- 740
- 741
- 742
- 743
- 744
- 745
- 746
- 747
- 748
- 749
- 750
- 751
- 752
- 753
- 1 - 50
- 51 - 100
- 101 - 150
- 151 - 200
- 201 - 250
- 251 - 300
- 301 - 350
- 351 - 400
- 401 - 450
- 451 - 500
- 501 - 550
- 551 - 600
- 601 - 650
- 651 - 700
- 701 - 750
- 751 - 753
Pages: