Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore tripitaka_73

tripitaka_73

Published by sadudees, 2017-01-10 01:15:44

Description: tripitaka_73

Search

Read the Text Version

พระสุตตนั ตปฎก ขุททกนกิ าย พุทธวงศ เลม ๙ ภาค ๒ - หนา ท่ี 601สัมพทุ ธเจา. บทวา คนตฺ ฺวา ไดแก รูธรรมของพระองค. อภิสมัยครัง้ ที่ ๓ไดม ีแกบ รรพชิตเหลาน้นั ดวยประการอยา งน.ี้ พระผมู ีพระภาคเจาวิปส สีประทับนัง่ ทา มกลางภกิ ษแุ สนแปดหมืน่ หกพนั ซง่ึ บวชตามพระวปิ ส สีสมั พุทธเจา และพระอัครสาวก ณ เขมมคิ ทายวัน ทรงยกปาตโิ มกขขนึ้ แสดง ดงั น้ีวา ขนตฺ ิ ปรม ตโป ตตี กิ ขฺ า นพิ พฺ าน ปรม วทนตฺ ิ พทุ ฺธา น หิ ปพฺพชโิ ต ปรูปฆาตี น สมโณ โหติ ปร วเิ หยนฺโต. พระพทุ ธเจาทง้ั หลายตรัส ตตี กิ ขาขันตวิ า เปน ตบะอยางยิ่ง ตรัสนิพพานวาเปน บรมธรรม ผูย งั ทาํ รา ย ผูอืน่ หาเปน บรรพชิตไม ผูยังเบียดเบยี นผอู ่ืนอยู หา เปนสมณะไม. สพพฺ ปาปสสฺ อกรณ กุสลสฺสูปสมฺปทา สจิตฺตปรโิ ยทปน เอต พทุ ฺธานสาสน . การไมท าํ บาปทงั้ ปวง การยงั กศุ ลใหถ ึงพรอ ม การชาํ ระจิตของตนใหผอ งแผว นเี้ ปน คาํ สอนของ พระพทุ ธเจาท้งั หลาย. อนปู วาโท อนปู ฆาโต ปาฏโิ มกเฺ ข จ ส วโร มตฺตฺ ตุ า จ ภตฺตสฺมึ ปนตฺ ฺจ สยนาสน อธจิ ติ ฺเต จ อาโยโค เอต พทุ ธฺ าน สาสน . การไมวาราย การไมทาํ ราย ความสํารวมใน พระปาติโมกข [คําสอนที่เปน หลกั เปน ประธาน] ความรู

พระสตุ ตนั ตปฎก ขทุ ทกนิกาย พุทธวงศ เลม ๙ ภาค ๒ - หนา ท่ี 602 จกั ประมาณในภัตตาหาร ท่ีนอนท่ีนัง่ อนั สงดั และ การประกอบความเพยี รในอธิจติ นีเ้ ปนคําสอนของ พระพุทธเจาทัง้ หลาย. พึงทราบวา คาถาปาติโมกขทุ เทศเหลา นี้ เปน ของพระพทุ ธเจา ทกุพระองค นั้นเปน สันนบิ าตคร้ังที่ ๑ ตอ มาอีก สันนบิ าตครั้งที่ ๒ไดมแี กภิกษุแสนหน่งึ ซ่ึงเห็นยมกปาฏหิ าริยแ ลวบวช. ครั้งพระกนษิ ฐภาดา ๓พระองคต า งพระมารดา ของพระวิปส สพี ทุ ธเจา ปราบปจ จันตประเทศใหส งบแลวไดรับพระราชทานพร ดวยการทําการบํารงุ พระผมู พี ระภาคเจา นําเสด็จมาสูพระนครของพระองคบ าํ รงุ ทรงสดับธรรมของพระพทุ ธองคแลว ทรงผนวชพระผูมีพระภาคเจา ประทบั น่ังทามกลางภกิ ษุแปดลา นเหลาน้นั ทรงยกปาตโิ มกขข ้ึนแสดง ณ เขมมคิ ทายวัน น้ันเปน สนั นิบาตครงั้ ท่ี ๓ ดว ยเหตุนัน้ จึงตรสั วา พระวปิ ส สพี ุทธเจา ผูแ สวงคุณยิ่งใหญ มสี นั นิ- บาต ประชุมพระสาวกผูขณี าสพ ผไู รม ลทิน มจี ติ สงบ คงท่ี ๓ คร้งั . การประชมุ พระสาวกหกลานแปดเเสน เปน สนั นบิ าตคร้ังที่ ๑ การประชุมพระสาวกหนึง่ แสนเปน สนั นิบาตคร้ังท่ี ๒. การประชมุ พระภิกษุสาวกแปดหม่ืน เปน สัน- นบิ าต ครั้งที่ ๓ พระสมั พทุ ธเจา ทรงรุงโรจน ทา ม กลางหมภู กิ ษุ ณ เขมมคิ ทายวันน้ัน.

พระสตุ ตันตปฎ ก ขทุ ทกนิกาย พทุ ธวงศ เลม ๙ ภาค ๒ - หนาท่ี 603 แกอ รรถ บรรดาบทเหลา น้นั บทวา อฏ สฏ ิสตสหสฺสาน ความวาภกิ ษุหกลา นแปดแสน. บทวา ตตถฺ ไดแ ก ณ เขมมคิ ทายวันนน้ั . บทวาภิกฺขคุ ณมชฺเฌ แปลวา ทามกลางหมูภ กิ ษุ. ปาฐะวา ตสฺส ภิกฺขคุ ณมชฺเฌดงั นีก้ ็มี. ความวา ทา มกลางหมูภกิ ษุน้ัน. ครง้ั นน้ั พระโพธิสัตวของเรา เปนพระยานาคชอื่ อตุละ มฤี ทธา-นภุ าพมาก มีนาคหลายแสนโกฏิเปนบริวาร สรา งมณฑปอันสาํ เรจ็ ดว ยรัตนะ๗ เปน สว นอันมัน่ คงผอ งแผว ทนี่ า ดู เชน เดียวกบั ดวงจันทร เพ่อื ทําสกั การะแดพ ระทศพล ผมู ีกําลังและศีลทีไ่ มมผี เู สมอ มพี ระหฤทยั เยือกเยน็ ดว ยพระ-กรณุ า พรอมทงั้ บรวิ าร นิมนตใหป ระทบั นั่ง ณ มณฑปนั้น ถวายมหาทานอันเหมาะแกส มบตั ิทิพย ๗ วนั ไดถ วายตง่ั ทอง ขจติ ดว ยรัตนะ ๗ อันรงุ เรืองดว ยประกายโชติชว งแหงมณตี า งๆ สมควรย่งิ ใหญ แดพ ระผูม ีพระภาคเจา .คร้ังนน้ั พระวปิ สสีพุทธเจา ทรงพยากรณพ ระโพธิสัตวนัน้ เวลาจบอนุโมทนาปฐ ทานวา เกาสิบเอด็ กัปนับแตกปั น้ีไป ทา นผนู จ้ี กั เปน พระพทุ ธเจา . ดวยเหตุนน้ั จึงตรสั วา สมยั น้ัน เราเปน พญานาค ช่อื อตลุ ะ มีฤทธ์มิ าก มีบุญ ทรงรศั มีโชติชวง. ครงั้ น้ัน เราแวดลอ มดว ยนาคหลายโกฏิ บรรเลง ทพิ ดนตรี เขาไปเฝา พระผูเจริญทส่ี ดุ ในโลก. ครัน้ เขา เฝาแลว ก็นมิ นตพระวปิ สสสี ัมพุทธเจา ผูน ําโลก ไดถ วายตง่ั ทอง อนั ขจติ ดว ยรัตนะคือแกว มณี และแกวมกุ ดา ประดับดวยอาภรณท กุ อยา ง แดพระผู เปนพระธรรมราชา.

พระสุตตนั ตปฎก ขุททกนิกาย พุทธวงศ เลม ๙ ภาค ๒ - หนา ที่ 604 พระพทุ ธเจาแมพระองคน้นั ประทบั นง่ั ทามกลางสงฆ ก็ทรงพยากรณเราวา เกา สิบเอ็ดกปั นับแตกัปนี้ ทานผนู ี้จักเปน พระพทุ ธเจา. พระตถาคต ออกอภเิ นษกรมณ จากกรุงกบิลพสั ดุอันนา ร่ืนรมย ทรงตั้งความเพยี ร ทาํ ทุกกรกิริยา. พระตถาคต ประทบั นั่งที่โคนตนอชปาลนโิ ครธทรงรบั ขาวมธุปายาสแลวเขา ไปยังแมน้าํ เนรญั ชรา. พระชนิ เจา พระองคน้นั เสวยขา วมธปุ ายาสที่รมิฝง แมน้ําเนรัญชรา เสด็จดาํ เนนิ ตามทางอนั ดที ี่เขาจัดแตงไว เขาไปยังโคนโพธิพฤกษ. แตน ัน้ พระผมู พี ระยศใหญ ทรงทาํ ประทักษณิโพธมิ ณั ฑสถานอนั ยอดเยยี่ ม ตรัสรู ณ โคนโพธิพฤกษชอื่ วา อสั สตั ถะ. ทานผนู ้ี จักมพี ระชนนี พระนามวา พระนางมายา พระชนกพระนามวา พระเจา สทุ โธทนะ พระ-องคทรงพระนามวา โคตมะ. จักมพี ระอคั รสาวก ชอื่ วา พระโกลติ ะ และพระ-อปุ ตสิ สะ ผไู มมอี าสวะ ปราศจากราคะ มจี ติ สงบตงั้ มั่นพระพุทธอปุ ฏฐาก ชื่อวา พระอานนั ทะ จักบาํ รงุ พระชินเจาผูน้.ี จกั มอี คั รสาวกิ าช่ือวาพระเขมา และพระอบุ ล-วรรณาผูไมมอี าสวะ ปราศจากราคะ มจี ิตสงบ ตง้ั ม่นัโพธพฤกษข องพระผูมพี ระภาคเจาพระองคน นั้ เรยี กวา อสั สัตถะ ฯ ล ฯ.

พระสุตตนั ตปฎก ขทุ ทกนกิ าย พทุ ธวงศ เลม ๙ ภาค ๒ - หนา ท่ี 605 เราฟงพระดาํ รสั ของพระองคแลว กย็ ่งิ มจี ิตเสือ่ ม ใส จึงอธิษฐานขอวัตรยงิ่ ยวดขน้ึ ไป เพ่อื บําเพ็ญบารมี๑๐ ใหบ รบิ ูรณ. แกอรรถ บรรดาบทเหลานนั้ บทวา ปุ ฺวนฺโต แปลวา ผมู ีบญุ อธิบายวาผมู ีกองบุญอนั สง่ั สมไวแลว. บทวา ชุตินฺธฺโร ไดแ ก ประกอบดว ยรศั ม.ีบทวา เนกาน นาคโกฏีน กค็ ือ อเนกาหิ นาคโกฏหี ิ พึงเห็นฉัฏฐีวภิ ัตติ ใชใ นอรรถตติยาวิภตั ติ. บทวา ปริวาเรตฺวา ไดแก แวดลอ มพระผมู ีพระภาคเจา . ทรงแสดงพระองค ดว ยคาํ วา อห . บทวา วชฺชนฺโตไดแ ก บรรเลงประโคม. บทวา มณมี ุตฺตรตนขจิต ความวา ขจติ ดว ยรตั นะตางชนดิ มีแกว มณแี ละแกวมกุ ดาเปน ตน. บทวา สพฺพาภรณวภิ ูสิตความวาประดับดว ยอาภรณท ุกอยาง ท่สี ําเร็จดว ยรัตนะเชน รปู สัตวร ายเปนตน .บทวา สวุ ณฺณป  ไดแ ก ตงั่ ทสี่ าํ เร็จดว ยทอง. บทวา อทาสห ตัดบทเปน อทาสึ อห . พระผมู ีพระภาคเจาวปิ สสีพระองคนน้ั ทรงมีพระนครชื่อวา พนั ธมุ ดีพระชนก พระนามวา พระเจาพันธมุ า พระชนนพี ระนามวา พระนางพันธมุ ดี คพู ระอคั รสาวก็ชือ่ วา พระขัณฑะ และ พระติสสะ พระพุทธอปุ ฏ ฐาก ช่ือวา พระอโสกะ คูพระอัครสาวกิ า ชื่อวา พระจนั ทา และ พระจนั ทมติ ตา โพธพิ ฤกษช ่ือวา ปาฏลี พระสรีระสูง ๘๐ ศอก พระรศั มแี หงพระสรรี ะแผไ ป ๗ โยชนทกุ เวลา พระชนมายแุ ปดหม่ืนป พระอคั รมเหสขี องพระองค พระนามวา พระนางสุตนู พระโอรสของพระองค พระนามวาพระสมวัฏฏขนั ธะ ออกอภิเนษกรมณ ดวยรถเทยี มมา . ดวยเหตนุ นั้จึงตรสั วา

พระสุตตนั ตปฎ ก ขทุ ทกนกิ าย พทุ ธวงศ เลม ๙ ภาค ๒ - หนา ท่ี 606 พระวิปสสีพทุ ธเจา ผูแสวงคุณยงิ่ ใหญ ทรงมีพระนคร ช่อื พนั ธุมวดี พระชนกพระนามวา พระเจาพนั ธุมา พระชนนพี ระนามวา พระนางพันธุมด.ี พระวปิ สสพี ุทธเจา ผแู สวงคุณยงิ่ ใหญ ทรงมีพระอคั รสาวก ชื่อวาพระขณั ฑะ และ พระตสิ สะ พระพทุ ธอุปฏฐาก ช่อื วา พระอโสกะ. มีพระอคั รสาวกิ า ช่อื วาพระจนั ทาและ พระจนั ท-มิตตา โพธิพฤกษข องพระผมู ีพระภาคเจา พระองคนัน้เรียกวา ตนปาฏล.ี พระวปิ สสีพทุ ธเจา ผูนําโลก สงู ๘๐ ศอกพระรัศมขี องพระองคแลนไปโดยรอบ ๗ โยชน. ในยุคนน้ั มนษุ ยม อี ายุแปดหมน่ื ป พระชนมายุของพระพุทธเจา พระองคน ้นั มีพระชนมยนื ถึงเพยี งน้นัจึงทรงยงั หมูชนเปน อนั มากใหขา มโอฆะ. พระวปิ ส สีพุทธเจา ทรงเปลื้องเทวดาและมนษุ ยเปน อันมากจากเคร่ืองผกู ทรงบอกทางและมิใชทางกะพวกปถุ ชุ นท่ีเหลือ. พระองคแ ละพระสาวก สําแดงแสงสวา ง ทรงแสดงอมตบท รุงโรจนแลว ก็ดับขันธปรนิ ิพพานเหมือนกองไฟโพลงแลวกด็ ับ ฉะน้นั . พระวรฤทธิ์อนั เลิศ พระบุญญาธิการอันประเสรฐิพระวรลักษณอนั บานเตม็ ทแ่ี ลว ทั้งนนั้ ก็อนั ตรธานไปส้ิน สงั ขารทงั้ ปวงก็วางเปลา แนแ ท.
























































































Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook