เอกสารพัฒนาทกั ษะวิชาการ เพือ่ ยกระดับผลสมั ฤทธ์ผิ ู้เรียนรายบคุ คล ระดับมธั ยมศกึ ษาตอนปลาย รายวชิ า เศรษฐกิจพอเพยี ง ทช31001 ตามหลักสตู รการศกึ ษานอกระบบระดับการศึกษาข้ันพน้ื ฐาน พุทธศกั ราช 2551 สำ� นักงานสง่ เสรมิ การศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศัยจงั หวัดขอนแกน่ สำ� นักงานส่งเสรมิ การศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศยั ส�ำนกั งานปลดั กระทรวงศกึ ษาธิการ กระทรวงศึกษาธกิ าร
คานา เอกสารพัฒนาทักษะวิชาการเพ่ือยกระดับผลสัมฤทธ์ิผู้เรียนรายบุคคล เล่มนี้ เป็นเอกสาร ท่ีจัดทาข้ึน โดยมีวัตถุประสงค์เพ่ือให้ผู้เรียนได้ศึกษาเรียนรู้ด้วยตนเอง ให้เกิดการพัฒนาทักษะทาง วิชาการ และยกระดับผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนในการเรียนรู้ตามหลักสูตรการศึกษานอกระบบ ระดับการศึกษาข้ันพืน้ ฐาน พทุ ธศักราช 2551 เป็นการพฒั นาต่อเนื่องจากเอกสารพฒั นาทักษะวิชาการ รายบุคคล มีรายละเอียดสรุปเนื้อหาตามรายวิชา เศรษฐกิจพอเพีอง ทช31001 ระดับมัธยมศึกษา ตอนปลาย แบบทดสอบหลังเรียนและแบบบันทึกการพัฒนาทักษะวิชาการผู้เรียนรายบุคคล เพ่ือให้ผู้เรียนได้ประเมินและพัฒนาตนเองอย่างต่อเน่ืองให้มีพื้นฐานความรู้เพียงพอกับการศึกษาตาม ระดบั และมีความรู้เพม่ิ เตมิ ในการนาไปพฒั นาทักษะทางวิชาการใหม้ ีผลสมั ฤทธ์ิทางการเรยี นทส่ี งู ขึ้น คณะผู้จัดทา หวังเป็นอย่างยิ่งว่าเอกสารเล่มนี้จะเป็นประโยชน์ต่อนักศึกษา ในการศึกษา เรียนรู้ตามหลักสูตรการศึกษานอกระบบระดับการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน พุทธศักราช 2551 และขอขอบคุณ ทกุ ท่านท่ีมีสว่ นร่วมในการทาเอกสารเลม่ นใี้ หส้ าเรจ็ ลุล่วงด้วยดี สานกั งาน กศน.จังหวัดขอนแก่น
สารบัญ หน้า คานา 1 สารบญั 1 คาชแ้ี จงการใช้เอกสารพฒั นาทกั ษะวชิ าการ เพื่อยกระดับผลสมั ฤทธ์ิผเู้ รยี นรายบคุ คล 54 ตามหลกั สตู รการศึกษานอกระบบระดับการศกึ ษาข้ันพ้นื ฐาน พทุ ธศกั ราช 2551 6 รายวิชาเศรษฐกจิ พอเพยี ง ทช31001 ระดบั มัธยมศึกษาตอนปลาย 6 โครงสรา้ งการเรียนร้ดู ว้ ยตนเอง 8 ขอบขา่ ยเนอื้ หา 10 แบบทดสอบกอ่ นเรยี น 10 บทท่ี 1 ความพอเพียง 13 15 สรปุ เนอ้ื หา 15 แบบทดสอบท้ายบทเรียน 21 บทที่ 2 ชุมชนพอเพียง 23 สรุปเนอื้ หา 23 แบบทดสอบทา้ ยบทเรียน 27 บทที่ 3 การแกป้ ัญหาชมุ ชน 29 สรุปเน้ือหา 32 แบบทดสอบท้ายบทเรยี น 33 บทท่ี 4 สถานการณ์ของประเทศไทยและสถานการณโ์ ลกกบั ความพอเพียง 33 สรุปเนอ้ื หา 334 แบบทดสอบทา้ ยบทเรียน 34 บทที่ 5 การประกอบอาชีพตามหลกั ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง 35 สรปุ เนอ้ื หา 36 แบบทดสอบท้ายบทเรยี น แบบทดสอบหลังเรียน เฉลยแบบทดสอบ แบบบนั ทึกการพัฒนาทกั ษะวชิ าการเพื่อยกระดับผลสัมฤทธ์ผิ ้เู รยี นรายบุคคล แบบทดสอบกอ่ นเรียนและหลังเรียน เกณฑก์ ารประเมนิ ผลการพัฒนา แบบทดสอบกอ่ นเรยี นและหลังเรยี น แบบบันทกึ การพฒั นาทกั ษะวชิ าการเพ่ือยกระดับผลสมั ฤทธ์ิผเู้ รียนรายบคุ คล แบบทดสอบท้ายบทเรยี น เกณฑ์การประเมนิ ผลการพัฒนา แบบทดสอบทา้ ยบทเรยี น บรรณานุกรม คณะผูจ้ ดั ทา
คาชแ้ี จงการใช้เอกสารพฒั นาทักษะวชิ าการผเู้ รยี นรายบคุ คล ระดบั มธั ยมศกึ ษาตอนปลาย รายวิชาเศรษฐกจิ พอเพียง ทช31001 เอกสารพัฒนาทักษะวิชาการเพ่ือยกระดับผลสัมฤทธิ์ผู้เรียนรายบุคคล ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย รายวิชา เศรษฐกิจพอเพียง ทช31001 เล่มน้ี จัดทาขึ้นเพื่อพัฒนาผู้เรียน ให้มีความรู้ความสามารถ ทางด้านวิชาการในรายวิชาบังคับ ตามหลักสูตรการศึกษานอกระบบระดับการศึกษาข้ันพื้นฐาน พทุ ธศักราช 2551 ในการศึกษาเอกสารเลม่ นผี้ ู้เรยี นควรปฏิบตั ิ ดังน้ี 1. ผเู้ รียนสารวจรายวิชาทตี่ นเองลงทะเบียนเรียนในรายวชิ า เศรษฐกจิ พอเพียง ทช31001 2. ผ้เู รียนศกึ ษารายละเอยี ดว่าตอ้ งเรยี นร้เู น้อื หาในเรอ่ื งใดบ้างในรายวิชานี้ 3. ทาแบบทดสอบก่อนเรียน เพ่ือทราบพ้นื ฐานความรู้เดิมของผู้เรียน โดยตรวจสอบคาตอบ จากเฉลยแบบทดสอบก่อนเรียนทา้ ยเล่ม 4. ศึกษาเน้ือหาสาระในแต่ละบทเรียนให้เข้าใจ และทาแบบทดสอบท้ายบทเรียน ผู้เรียน สามารถตรวจสอบคาตอบไดจ้ ากเฉลยท้ายเล่ม 5. เม่ือศึกษาเนื้อหาสาระครบทุกบทเรียนแล้ว ให้ผู้เรียนทาแบบทดสอบหลังเรียนและตรวจ คาตอบจากเฉลยท้ายเล่ม ผู้เรียนควรทาแบบทดสอบหลังเรียนให้ได้คะแนนมากกว่าแบบทดสอบก่อน เรยี น 6. ให้ผู้เรียนบันทึกคะแนนผลการทดสอบรายวิชา เศรษฐกิจพอเพียง ทช31001 ในแบบบันทึกการพัฒนาทักษะวิชาการผู้เรียนรายบุคคล (อยู่ท้ายเล่ม) เพ่ือเป็นแนวทางในการพัฒนา ตนเองอยา่ งต่อเนือ่ ง 7. ให้ผู้เรียนศึกษาเพ่ิมเติมได้จากแบบเรียนรายวิชา เศรษฐกิจพอเพียง ทช31001 ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย ตามหลักสูตรการศึกษานอกระบบระดับการศึกษาข้ันพ้นื ฐาน พทุ ธศักราช 2551 และสื่อออนไลนอ์ ่นื ๆ
โครงสรา้ งการเรยี นรดู้ ว้ ยตนเอง สาระสาคญั เศรษฐกจิ พอเพยี ง เป็นปรชั ญาท่พี ระบาทสมเดจ็ พระปรมนิ ทรมหาภมู พิ ลอดลุ ยเดช (รชั กาลที่9) ทรงพระราชดารัสชี้แนะแนวทางการดารงอยู่และการปฏิบัตติ นของประชาชนในทุกระดับให้ดาเนินชีวิต ไปในทางสายกลาง โดยเฉพาะการพัฒนาเศรษฐกิจเพื่อให้ก้าวทันต่อโลกยุคโลกาภิวัตน์ ความพอเพียง หมายถึง ความพอประมาณ ความมีเหตุผล รวมถึงความจาเป็นท่ีจะต้องมีระบบภูมิคุ้มกันในตัวท่ีดี พอสมควรต่อผลกระทบใดๆ อันเกิดจากการเปลี่ยนแปลงทั้งภายนอกและภายใน ท้ังน้ีจะต้องอาศัย ความรอบรู้ ความรอบคอบและความระมัดระวังอย่างยิ่ง ในการนาวิชาการต่างๆ มาใช้ในการวางแผน และดาเนินการทุกข้ันตอน และขณะเดียวกันจะต้องเสริมสร้างพื้นฐานจิตใจของคนในชาติให้มีสานึกใน คุณธรรม ความซื่อสัตย์สุจริตและให้มีความรอบรู้ท่ีเหมาะสมดาเนินชีวิตด้วยความอดทน ความเพียร มีสตปิ ัญญาและความรอบคอบ เพ่ือให้สมดุลและพร้อมต่อการรองรับการเปล่ียนแปลงอย่างรวดเร็วและ กว้างขวางทัง้ ดา้ นวัตถุ สังคม สิ่งแวดล้อมและวัฒนธรรมจากโลกภายนอกได้ พรอ้ มทง้ั สามารถนาแนวคิด ตามหลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงไปใช้ประกอบอาชีพได้อยา่ งเหมาะสม ขอบขา่ ยเนอื้ หา บทท่ี 1 ความพอเพยี ง บทท่ี 2 ชุมชนพอเพียง บทที่ 3 การแกป้ ัญหาชมุ ชน บทท่ี 4 สถานการณ์ของประเทศไทยและสถานการณโ์ ลกกับความพอเพียง บทท่ี 5 การประกอบอาชพี ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี งเพื่อการสรา้ งรายได้ อยา่ งมนั่ คง ม่งั คั่ง และยัง่ ยนื
แบบทดสอบกอ่ นเรยี น รายวิชาเศรษฐกิจพอเพียง ทช31001 ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย คาชแ้ี จง จงเลอื กคาตอบที่ถกู ต้องท่ีสดุ เพียงขอ้ เดยี ว 1. ข้อใดบอกหลักการปรัชญาของเศรษฐกิจ 4. ข้อใด ไม่ใช่ เป้าหมายของปรัชญาของเศรฐ พอเพียงไดถ้ ูกต้อง กิจพอเพียง ก. พอกิน พออยู่ พอใช้ มีเงินออม มีความรู้ ก. ช่วยในมนุษย์อยุ่อย่างมีรากเหง้าทาง ข. ประมาณตน ใช้ความคิด รู้จักป้องกัน ตนเอง ไม่เส่ียง มีวินัย วัฒนธรรม ประเพณี ค. ลดรายจ่าย ประหยัด ใช้ของคุ้มค่า ข. ช่วยให้มนุษย์อยู่ร่วมกับธรรมชาติและ มีหลักประกัน และมีความเพียร ง. พอประมาณ มีเหตุผล มีภูมิคุ้มกันในตัวที่ สิ่งแวดล้อมได้อย่างย่ังยืน โดยใช้ความรู้คู่คุณธรรม ค. ช่วยให้มนุษย์มีความพออยู่พอกิน พอใช้ 2. ข้อใดคือความหมายของคาว่า \"เศรษฐกิจ พึ่งตนเองได้ และมีความสุขตามอัตภาพ พอเพียง\" ง. ช่วยให้มนุษย์มีความสะดวกสบายในการ ก. ดารงชีวิตอย่างม่ันคง และย่ังยืน ดาเนินชีวิต ข. ดารงชีวิตโดยการพ่ึงพาครอบครัว 5. การจัดการความรู้ตามหลักปรัชญาของ ค. ดารงชีวิตตามนโยบายของรัฐบาล เศรษฐกิจพอเพียง ข้อใดถูกต้องท่ีสุด ง. ดารงชีวิตโดยการพึ่งพาเศรษฐกิจของ ก. การนาความรู้มาใช้ในการประกอบธุรกิจ ประเทศ เพ่ือให้ได้ผลกาไรมากๆ 3. ข้อใดเป็นแนวคิดตามหลักปรัชญาของ ข. การนาความรู้ทางด้านเทคโนโลยีสมัยใหม่ เศรษฐกิจพอเพียง ก. สนองเปล่ียนโทรศัพท์มือถือเพ่ือให้รองรับ มาใช้ในการประกอบอาชีพ ค. การนาความรู้มาใช้ในการพัฒนาประเทศให้ 4 G เพ่ือขยายกลุ่มผู้ซื้อผักปลอดสารพิษ ข. สนามรับซ้ือผักปลอดสารพิษ แล้วนาไป ทัดเทียมกับต่างประเทศ ง. การนาความรู้และประสบการณ์มาแบ่งปัน จาหน่ายเพ่ือหวังกาไร ค. สยาม ปลูกผักปลอดสารพิษไม่ได้ผลจึง ให้เกิดประโยชน์ต่อตนเองและสังคม โดยรวม เตรียมใช้ปุ๋ยเคมี 6. ข้อใดนาความรู้เร่ืองปรัชญาของเศรษฐกิจ ง. สมปองปลูกผักปลอดสารพิษ เหลือจากการ พอเพียงไปประยุกตใ์ ช้ได้ถูกต้องที่สุด ก. สมชายเปล่ียนโทรศัพท์มือถือใหม่ เพื่อ บริโภคแล้วนาไปให้เพื่อนบ้าน รองรับระบบ 4G ข. บริษัท กอ และบริษัท ขอ เป็นพันธมิตรกัน เพ่ือสร้างอานาจต่อรองทางธุรกิจ ค. สมร รวมกลุ่มเพื่อนร่วมงานในไร่แห่งหนึ่ง เพ่ือต่อรองขอข้ึนค่าแรง ง. สมหญิงทานาแล้วไม่ได้ผล จึงหันมาปลูกพืช แบบเกษตรผสมผสาน
7. ข้อใดหมายถึง การบริหารจัดการชมุ ชนตาม 11. แนวทางเศรษฐกิจพอเพยี งสง่ เสรมิ ให้ หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ประชาชนดาเนินชวี ิตในลักษณะใด ก. การรวมกลุ่มอาชีพ เพื่อเพ่ิมส่วนแบ่ง ก. ดาเนินชีวิตในลกั ษณะใด การตลาด ข. ดาเนินชีวิตอยา่ งเครง่ ครัด ค. ดาเนินชีวติ ทางสายกลางยดึ ความพอดี ข. การใช้เทคโนโลยีทันสมัย เพ่ือเพ่ิม ง. ดาเนินชีวิตเพอ่ื สร้างความสะดวกสบาย ความสามารถในการผลิต ตนเอง ค. การพัฒนาต้องมาจากระดับล่างบน 12. หลักการของทฤษฎีใหม่มีทง้ั หมดจานวนกี่ข้นั พื้นฐานเศรษฐกิจเพ่ือการแข่งขัน ก. 2 ข้นั ง. การบริหารทรัพยากรท้องถิ่นให้เกิด ข. 3 ขัน้ ประโยชน์สูงสุด ค. 4 ข้ัน ง. 5 ข้ัน 8. การบริหารจัดการชมุ ชนมีความสาคัญ 13. ทฤษฎีใหม่ตามแนวพระราชดารขิ อง อย่างไร พระบาทสมเด็จพระปรมนิ ทรมหาภมู ิพลอดลุ ย เดช ดาเนินชีวิตแบบใด ก. เพ่ือให้ชุมชนมีผู้นาท่ีเข้มแข็ง ก. ดาเนินชีวิตที่พอเพยี ง ข. เพ่ือให้คนในชุมชนอยู่ในกรอบท่ีวางไว้ ข. ตามยถากรรม ค. เพ่ือความอยู่รอดของชุมชนและมีความ ค. ดาเนนิ ชวี ติ ตามปกติ ง. ดาเนนิ ชวี ิตอย่าฟุ่มเฟือย เข้มแข็ง 14. รอบรู้ รอบคอบ ระมัดระวงั เป็นเงอื่ นไขข้อ ง. เพ่ือให้คนในชุมชนมีความคิดไปใน ใด ก. ความรู้ แนวทางเดียวกัน ข. มีเหตผุ ล 9. ข้อใดเป็นการบริหารจัดการชุมชนท่ีดี ค. คณุ ธรรม ง. พอประมาณ ก. ร่วมแรงร่วมใจ ร่วมคิดร่วมทา เพื่อ 15. ข้อใดไมใ่ ชก่ ระบวนการจดั ทาแผนชุมชนเพ่ือ ประโยชน์ของส่วนรวม แก้ปญั หาของชมุ ชนตามหลักปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพียง ข. ร่วมมือกันทาตามนโยบายของผู้นาชุมชน ก. การคัดเลือกคณะทางานทีม่ าจากหลาย เพ่ือความเจริญของชุมชน ภาคส่วน ค. ร่วมมือกันทาตามนโยบายของรัฐ เพ่ือ ข. การจดั ลาดับปัญหาชมุ ชน ความเจริญของประเทศ ค. การพยายามแกป้ ญั หาด้วยชุมชนเองโดยไม่ ง. ทาตามความต้องการของตนเอง เพ่ือ จาเป็นตอ้ งขอความช่วยเหลอื จากภาครฐั ความอยู่ดีมีสุข ง. การนาประสบการณ์ทางชมุ ชนมาวเิ คราะห์ 10. การบรหิ ารจัดการชุมชนใหม้ ีความเข้มแข็ง ขอ้ ใดมคี วามสาคญั เป็นอันดบั แรก เปน็ แนวทางในการแกป้ ญั หา ก. การจัดโครงสร้างองค์กร ข. การกาหนดกฎเกณฑ์ ค. การตดั สนิ ใจรว่ มกนั ง. การกากบั ตดิ ตามผล
16. สาเหตทุ ี่ทาใหเ้ กดิ ราคานา้ มนั แพงใน 19. การยึดพนื้ ทใ่ี ชเ้ ปน็ ศนู ย์การพฒั นา สว่ นภาคี ตลาดโลกคืออะไร อืน่ ๆ ทาหน้าที่ชว่ ยกระตุ้นอานวยความสะดวก สง่ เสริม สนบั สนนุ คาวา่ พ้นื ที่ หมายถึงขอ้ ใด ก. ความตอ้ งการน้ามนั มีมาก ข. ความตอ้ งการผลิตน้ามันจากแหล่งใหมม่ ี ก. องค์กรชมชน ข. ไรน่ าสวนผสม ตน้ ทุนสูง ค. เกษตรแบบทฤษฎีใหม่ ค. เกิดจากความไม่สงบทางการเมือง ง. หนว่ ยงานทางราชการและศูนยแ์ พรข่ อ้ มูล ง. ถูกทุกขอ้ 17. วันสิง่ แวดล้อมแหง่ ชาติตรงกับวันที่ 4 ของ วชิ าการ เดือนอะไร 20. การบริหารจัดการทดี่ คี วรทาอยา่ งไร ก. มกราคม ข. มนี าคม ก. การแปรรปู สนิ คา้ เพือ่ การส่งออก ค. พฤษภาคม ข. การใชพ้ น้ื ทเ่ี พราะปลูกใหม้ ากทสี่ ุด ง. ธนั วาคม ค. การใชแ้ หลง่ เงนิ นจากต่างประเทศ 18. ข้อใดเปน็ ธุรกิจชมชนครบวงจร ง. การใช้ทรพั ยากรอยา่ งชาญฉลาด ค้มุ คา่ ก. ผลิต - แปรรูป ขาย บรโิ ภค ข. การมรี ปู แบบทง้ั ขายปลีกและส่ง ค. การผลิตถงึ การส่งออกภายในและนอก ประเทศ ง. การมลี กั ษณะธุรกิจท่เี อือ้ ตอ่ การบริโภค
บทที่ 1 ความพอเพียง สรุปเนอ้ื หา เร่อื งท่ี 1 ความเปน็ มา ความหมาย หลักแนวคดิ ความเปน็ มา พระบาทสมเดจ็ พระปรมินทรมหาภูมพิ ลอดุลยเดช (รัชกาลท่9ี ) ไดพ้ ฒั นาหลักปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียง เพ่ือท่ีจะให้พสกนิกรชาวไทยไดเ้ ขาถึงทางสายกลางของชวี ิตและเพ่อื คงไว้ซึ่งทฤษฎีของการพัฒนา ทีย่ ่ังยนื ทฤษฎนี เ้ี ป็นพ้ืนฐานของการดารงชีวิตซ่ึงอยรู่ ะหวา่ ง สงั คมระดับท้องถนิ่ และระดบั สากล จดุ เดน่ ของ แนวปรัชญาน้ีคือ แนวทางท่ีสมดุล โดยชาติสามารถทันสมัย และก้าวสู่ความเป็นสากล พระองค์ได้ทรง อธบิ ายวา่ ความพอเพียงและการพึ่งตนเอง คอื ทางสายกลางทจ่ี ะป้องกนั การเปลีย่ นแปลงความไม่มนั่ คง ของประเทศได้ เศรษฐกิจพอเพียงเป็นปรัชญาที่ชแ้ี นวทางการดารงอยู่และปฏิบัติตน ท่ีพระบาทสมเด็จพระ ปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช (รัชกาลท่ี9) มีพระราชดารัสแก่พสกนิกรชาวไทยมาต้ังแต่ปี พ.ศ. 2517 มี ใจความว่า “...การพัฒนาประเทศจาเป็นต้องทาตามลาดับขั้น ต้องสร้างพ้ืนฐาน คือ ความพอมี พอกิน พอใช้ ของประชาชนส่วนใหญ่เป็นเบื้องต้นก่อนโดยใช้วิธีการและใช้อุปกรณ์ที่ประหยัด แต่ถูกต้องตามหลัก วิชา เม่ือได้พ้ืนฐานม่ันคงพร้อมพอควร และปฏิบัติได้แล้ว จึงค่อยสร้างค่อยเสริมความเจริญและฐานะ เศรษฐกิจ ขนั้ ทส่ี งู ข้นึ โดยลาดับต่อไป...” และนบั จากน้ันเปน็ ตน้ มาพระองค์ไดท้ รงเน้นย้าแนวทางการพฒั นา หลักแนวคิดพ่ึงตนเองเพื่อให้เกิดความพอมี พอกิน พอใช้ของคนส่วนใหญ่ โดยใช้หลักความพอประมาณ การคานึงถึงความมีเหตุผล การสร้างภมู ิคุ้มกันในตวั ที่ดี ตลอดจนทรงเตอื นสติปวงชนชาวไทยไม่ให้ประมาท มีความตระหนักถึงการพัฒนาอย่างเป็นข้ันเป็นตอนที่ถูกต้องตามหลักวิชา และการมีคุณธรรมเป็นกรอบใน การปฏบิ ตั ิและการดารงชวี ติ พระราชดารัสของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช (รัชกาลที่9) ได้พระราชทาน แก่ปวงชนชาวไทยในโอกาสต่างๆ ที่เก่ียวข้องกับเร่ืองเศรษฐกิจพอเพียงแล้ว สรุปเป็นนิยามความหมาย ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง และได้อัญเชิญเป็นปรัชญานาทางในการจัดทา แผนพัฒนาเศรษฐกิจ และ สังคมแห่งชาติ ฉบับท่ี 12 (พ.ศ. 2560 - 2564) เพื่อส่งเสริมให้ประชาชนทุกระดับและทุกภาคส่วนของ สังคมมีความเข้าใจในหลักปรัชญาของ เศรษฐกิจพอเพียงและนาไปเป็นพ้ืนฐานและแนวทางในการดาเนิน ชีวิตอันจะนาไปสู่การพัฒนาทสี่ มดุลและยั่งยนื ประชาชนมีความเป็นอยู่ร่มเย็นเป็นสขุ สังคมมีความเข้มแข็ง และประเทศชาติมีความมัน่ คง ความหมาย ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง เป็นปรัชญาที่เป็นแนวคิด หลักการ และแนวทางปฏิบัติตนของแต่ ละบุคคลและองค์กรทุกระดับต้ังแต่ระดับครอบครัว ระดับชุมชน และระดับประเทศทั้งในการพัฒนาและ บริหารประเทศให้ดาเนินไปในทางสายกลาง โดยคานึงถึงความพอประมาณกับศักยภาพตนเองและสภาวะ แวดล้อม ความมีเหตุผลและการมีภูมิคุ้มกันที่ดีในตัวเองโดยใช้ความรู้อย่างถูกหลักวิชาการด้วยความ รอบคอบและระมัดระวังควบคู่ไปกับการมีคุณธรรม ไม่เบียดเบียนกัน แบ่งปัน ช่วยเหลือซึ่งกันและกันและ ร่วมมือปรองดองกันในสังคม ซึ่งนาไปสู่ความสามัคคี การพัฒนาที่สมดุลและย่ังยืนพร้อมรับต่อการ เปล่ยี นแปลงภายใตก้ ระแสโลกาภิวตั นไ์ ด้ เอกสารพัฒนาทักษะวชิ าการเพ่ือยกระดบั ผลสัมฤทธ์ผิ เู้ รียนรายบคุ คล ทช31001 1 ระดับมัธยมศกึ ษาปลาย
2 หลักแนวคิด การพัฒนาตามหลักเศรษฐกิจพอเพียง คือ การพัฒนาท่ีตงั้ อยู่บนพนื้ ฐานทางสายกลางและความไม่ ประมาท โดยคานึงถึงความพอประมาณ ความมีเหตุผล การสร้างภูมิคุ้มกนั ในตัวทดี่ ตี ลอดจนใชค้ วามรู้ความ รอบคอบ และคุณธรรมประกอบการวางแผน การตดั สินใจและการกระทา สรปุ เนอ้ื หา เรือ่ งที่ 2 ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียงกบั การจดั การเรียนรู้ เศรษฐกิจพอเพียง ประกอบด้วยคุณลักษณะ 3 ประการ และเงื่อนไข 2 ประการ หรือที่เรียกว่า 3 หว่ ง 2 เงอ่ื นไข คอื ความพอประมาณ หมายถึง ความพอดตี ่อความจาเป็นและเหมาะสม กับฐานะของตนเอง สังคม ส่ิงแวดล้อม รวมทั้งวัฒนธรรมในแต่ละท้องถิ่น ไม่ มากเกินไป ไม่น้อยเกินไป และต้องไม่ เบียดเบียนตนเองและผู้อน่ื ความมเี หตุผล หมายถึง การตดั สินใจดาเนนิ การเร่อื งตา่ ง ๆ อยา่ งมเี หตผุ ลตามหลักวชิ าการ หลัก กฎหมาย หลกั ศลี ธรรมจริยธรรม และวัฒนธรรมท่ีดงี าม โดยพิจารณาจากเหตปุ ัจจัยทีเ่ ก่ยี วขอ้ ง ตลอดจน คานึงถงึ ผลที่คาดวา่ จะเกิดข้ึนจากการกระทาน้ัน ๆ อยา่ งรอบรูแ้ ละรอบคอบ ระบบภูมิคุ้มกันในตัวท่ีดี หมายถึง การเตรียมตัวให้พร้อมรับต่อผลกระทบและการเปลี่ยนแปลงใน ดา้ นต่าง ๆ ไม่วา่ จะเปน็ ด้านเศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม และวัฒนธรรม เพื่อให้สามารถปรับตัวและรับมือ ได้อย่างทันท่วงทีเง่ือนไขสาคัญท่ีจะทาให้การตัดสินใจ และการกระทาเป็นไปพอเพียง จะต้องอาศัยทั้ง คณุ ธรรมและความรู้ ดงั น้ี เง่อื นไขคณุ ธรรม ทจ่ี ะต้องสรา้ งเสริมให้เป็นพน้ื ฐานจิตใจของคนในชาติประกอบดว้ ย ดา้ นจิตใจ คือ การตระหนักในคุณธรรม รู้ผิดชอบช่วั ดี ซื่อสัตย์สุจริต ใชส้ ตปิ ัญญาอย่างถูกตอ้ งและเหมาะสมในการดาเนิน ชวี ิต และด้านการกระทา คอื มคี วามขยันหม่ันเพยี ร อดทน ไมโ่ ลภ ไมต่ ระหนี่ รู้จักแบง่ ปัน และรับผิดชอบใน การอยู่ร่วมกบั ผู้อ่ืนในสงั คม เง่ือนไขความรู้ ประกอบดว้ ยการฝึกตนให้มีความรอบรู้เกี่ยวกับวิชาการตา่ ง ๆท่ีเกี่ยวข้องอย่างรอบ ด้าน มีความรอบคอบ และความระมัดระวังท่ีจะนาความรู้ต่าง ๆ เหล่าน้ันมาพิจารณาให้เชื่อมโยงกัน เพ่ือประกอบการวางแผน และในขั้นปฏิบัติเศรษฐกิจพอเพียง เป็นปรัชญาที่เป็นท้ังแนวคิด หลักการ และ แนวทางปฏิบัติตนของแตล่ ะบุคคล และองค์กร โดยคานึงถึงความพอประมาณกับศักยภาพของตนเอง และ สภาวะแวดล้อม ความมีเหตุมีผล และการมีภูมิคุ้มกันที่ดีในตัวเอง โดยใช้ความรู้อย่างถูกหลักวิชาการด้วย ความรอบคอบและระมัดระวงั ควบคไู่ ปกับการมีคุณธรรม ซือ่ สตั ยส์ จุ รติ ไม่เบยี ดเบียนกันแบง่ ปนั ชว่ ยเหลือ ซ่ึงกนั 2 เอกสารพฒั นาทกั ษะวชิ าการเพ่อื ยกระดับผลสมั ฤทธ์ิผูเ้ รียนรายบุคคล ทช31001 ระดมั ัธยมศึกษาตอนปลาย
3 และกนั และรว่ มมอื ปรองดองกนั ในสงั คม ซง่ึ จะช่วยเสรมิ สร้างสายใยเชอ่ื มโยงคนในภาคสว่ นตา่ ง ๆ ของสังคมเข้าด้วยกัน สร้างสรรค์พลังในทางบวก นาไปสู่ความสามัคคี การพัฒนาท่ีสมดุลและยั่งยืน พร้อม รับตอ่ การเปลี่ยนแปลงภายใตก้ ระแสโลกาภิวัตนไ์ ด้ QR Code วชิ าเศรษฐพอเพียง ทช31001 หมายเหตุ : ให้นักศึกษา ไดศ้ ึกษาเพิ่มเตมิ่ จากหนังสือแบบเรยี น วิชาเศรษฐกจิ พอเพยี ง ทช31001 เอกสารพฒั นาทักษะวชิ าการเพอ่ื ยกระดบั ผลสัมฤทธ์ผิ เู้ รียนรายบคุ คล ทช31001 3 ระดับมธั ยมศกึ ษาปลาย
4 แบบทดสอบทา้ ยบทเรียน บทท่ี 1 ความพอเพยี ง จงเลือกคาตอบท่ถี กู ต้องที่สดุ เพียงคาตอบเดียว 5. จุดกาเนินของแนวคิดทฤษฎใี หม่ของหลกั การ 1. ความออ่ นแอของเศรษฐกจิ ไทยมีสาเหตมุ าจาก เศรษฐกิจพอเพยี งเกดิ ขน้ึ ในพืน้ ท่จี ังหวดั ใด ปัจจยั ในดา้ นใดมากทีส่ ุด ก. สระบรุ ี ก. ความออ่ นแอทางวฒั นธรรม ข. เชยี งใหม่ ข. การพึง่ พงิ การส่งออกมากเกินไป ค. กาฬสนิ ธ์ุ ค. ความนิยมสนิ ค้าจากตา่ งประเทศ ง. ฉะเชงิ เทรา ง. การกีดกันทางการค้าระหว่างประเทศ 6. ขอ้ ใดตอ่ ไปนีไ้ ม่ใชห่ ลักการพึ่งพาตนเองตาม 2. การสรา้ งความสมดุลของแนวคดิ เศรษฐกจิ แนวทางของเศรษฐกจิ พอเพยี ง พอเพียงเน้นใหเ้ กิดกับสิง่ ใดมากท่สี ุด ก. การพึ่งตนเองทางด้านจิตใจ ก. ความสมดุลระหว่างมนุษยก์ ับส่งิ แวดลอ้ ม ข. การพึ่งตนเองทางด้านสังคม ข. ความสมดุลระหว่างอุตสาหกรรมกบั ค. การพ่ึงตนเองทางด้านเศรษฐกจิ ง. การพึง่ ตนเองทางดา้ นการเมอื งการ เกษตรกรรม ค. ความสมดลุ ระหวา่ งสนิ ค้าตา่ งประเทศกับ ปกครอง 7. แนวทางเศรษฐกิจพอเพยี งสง่ เสรมิ ให้ สินคา้ ไทย ประชาชนดาเนนิ ชวี ติ ในลักษณะใด ง. ความสมดลุ ของความเจริญทางเทคโนโลยี กับภมู ปิ ัญญาไทย ก. ดาเนนิ ชวี ติ ในลกั ษณะใด 3. เพราะสาเหตุใดจึงตอ้ งมีการประกาศใช้ ข. ดาเนินชวี ติ อยา่ งเครง่ ครัด เศรษฐกิจพอเพยี ง ค. ดาเนินชวี ิตทางสายกลางยึดความพอดี ก. สินคา้ เกษตรมรี าคูง ง. ดาเนนิ ชวี ิตเพื่อสร้างความสะดวกสบาย ข. เศรษฐกจิ มกี ารขยาตัวสูงขึ้น ตนเอง ค. ปริมาณสนิ ค้าในการบริโภคมากเกินไป 8. หลกั การของทฤษฎใี หม่มที งั้ หมดจานวนก่ขี ้ัน ง. เกดิ ภาวะขาดแคลนสินค้าอุปโภคบริโภค ก. 2 ขัน้ 4. แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสงั คมแห่วชาติฉบับ ข. 3 ขั้น แรกในปี พ.ศ. 2504 เปน็ ต้นมาไทยมกี าร ค. 4 ขั้น เนน้ หนักในการพัฒนาในดา้ นใด ง. 5 ขั้น ก. การทหาร ข. การเกษตร ค. อุตสาหกรรม ง. ดา้ นการบริการ 4 เอกสารพฒั นาทกั ษะวชิ าการเพอ่ื ยกระดบั ผลสมั ฤทธผ์ิ เู้ รียนรายบุคคล ทช31001 ระดมั ัธยมศกึ ษาตอนปลาย
9. ทฤษฎใี หม่ตามแนวพระราชดารขิ อง 5 พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมพิ ลอดลุ ย เดช ดาเนินชีวิตแบบใด 10. รอบรู้ รอบคอบ ระมดั ระวัง เปน็ เงื่อนไขข้อ ใด ก. ดาเนินชีวติ ที่พอเพยี ง ข. ตามยถากรรม ก. ความรู้ ค. ดาเนินชวี ิตตามปกติ ข. มเี หตผุ ล ง. ดาเนนิ ชีวิตอยา่ ฟุม่ เฟอื ย ค. คุณธรรม ง. พอประมาณ เอกสารพัฒนาทักษะวิชาการเพอื่ ยกระดับผลสมั ฤทธิผ์ เู้ รียนรายบคุ คล ทช31001 5 ระดับมธั ยมศึกษาปลาย
6 บทที่ 2 ชมุ ชนพอเพียง สรปุ เน้ือหา เร่อื งที่ 1 ความหมาย ความสาคญั การบรหิ ารจดั การชุมชน ความหมายของชุมชน หมายถึง ถิ่นฐานท่ีอยู่ของกลุ่มคน ถิ่นฐานน้ีมีพื้นที่อ้างอิงได้และกลุ่มคนนี้ มีการอยู่อาศัยร่วมกัน มีการทากิจกรรมเรียนรู้ ตดิ ต่อสื่อสารร่วมมอื และพึง่ พาอาศัยกัน มีวัฒนธรรมและภูมิ ปญั ญาประจาถ่ิน มจี ิตวิญญาณและความผูกพนั อยู่กบั พ้นื ทแ่ี ห่งน้นั อย่ภู ายใต้การปกครองเดียวกัน โครงสรา้ งของชมุ ชน ประกอบดว้ ย 3 ส่วนคอื 1. กลุ่มคน 2. สถาบนั ทางสงั คม 3. สถานภาพและบทบาทสถานภาพการบริหารจดั การชมุ ชน หมายถึง แนวทางการดาเนนิ งานหรือ การปฏิบัติงานท่ีบุคคลและ/หรือ หน่วยงานนามาใช้ในการเปลี่ยนแปลง พัฒนาหรือ สร้างความอยู่เย็นเป็น สขุ อย่างยง่ั ยนื มงั่ คงให้กบั ประชาชน ชมุ ชน ประเทศชาติ สรปุ เนอ้ื หา เร่ืองท่ี 2 การบรหิ ารจดั การชุมชน ตามหลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง การบริหารจัดการชุมชนตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง เป็นแนวทางวิถีทางหรือมรรควิธี ท่ีนาไปสู่จุดหมายปลายทางสูงสุด คือ ประเทศชาติ และประชาชนอยู่เย็นเป็นสุขอย่างมั่งคงและย่ังยืน โดย ประกอบได้ด้วยข้ันตอนการคิด การลงมือปฏิบัติ การประเมินผลทั้งน้ีตั้งอยู่บนทางสายกลาง เป็นหลักการ สาคัญ ยึดความพอประมาณ ความมีเหตุผลมีภูมิคุ้มกัน บนพ้ืนฐานความรู้และคุณธรรม ซ่ึงอาจมีข้ันตอน การดาเนนิ การ ดังนี้ 1. วเิ คราะหช์ มุ ชน 2. การเรยี นรู้และการตัดสินใจของชุมชน 3. การวางแผนชุมชน 4. การดาเนินกจิ กรรมชมุ ชน 5. การประเมนิ ผลการดาเนนิ งานของชมุ ชน ในการบรหิ ารจัดการชมุ ชน ควรคานึงถงึ องค์ประกอบการขบั เคลอื่ นชุมชน ดังนี้ 1. โครงสร้างพื้นฐานทางสงั คมของชมุ ชน 2. ความคิดพน้ื ฐานของประชาชน 3. บรรทัดฐานของชุมชน 4. วถิ ปี ระชาธิปไตย สรปุ เน้ือหา เร่อื งท่ี 3 กระบวนการ เทคนคิ การบริหารจดั การชมุ ชน ในการนาหลักปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียงมาใช้ในการบรหิ ารจัดการชุมชน ควรมกี ระบวนการ เทคนิคในการบริหารจดั การ ทส่ี าคัญดงั น้ี 1. กลไกการพฒั นา (มีศักยภาพและขีดความสามารถ ประกอบด้วย ผ้นู าชมุ ชนอาสาสมัคร กลมุ่ / องค์กร และเครือขา่ ย) 6 เอกสารพฒั นาทกั ษะวชิ าการเพ่อื ยกระดับผลสัมฤทธิผ์ ้เู รียนรายบุคคล ทช31001 ระดัมัธยมศึกษาตอนปลาย
7 2. การบรหิ ารจดั การชมุ ชน (เปน็ ระบบและมปี ระสิทธิ์ภาพ ประกอบดว้ ย 2.1 ระบบการบรหิ ารจัดการชุมชน (มอี งค์กรบรหิ ารการพัฒนา มีแผนชชุ นและมีขอ้ มลู เพอื่ การพัฒนา) 2.2 กระบวนการพฒั นา (มีการวเิ คราะห์ มีการวางแผน มีการปฏิบตั ิตามแผนมีการ แบง่ ปนั ผลประโยชน์ และมกี ารตดิ ตามผล) 2.3 กระบวนทัศนก์ ารพฒั นา (มกี ระบวนทศั น์เศรษฐกิจพอเพยี งมกี ระบวนทศั นท์ ุนชมุ ชน มีกระบวนทัศนม์ ่งุ สูอ่ นาคตร่วมกันและมีกระบวนทศั นพ์ ่ึงตนเอง) 3. ชมุ ชนเขม้ แขง็ (จดั การตนเองได้ปรับตัวทนั การเปล่ยี นแปลง และประชาชนอยเู่ ย็นเปน็ สขุ ) เศรษฐกิจฐานรากมั่นคง (ทุนชุมชนเป็นธรรมาภิบาลและเศรษฐกจิ ชมุ ชนพงึ ตนเองได้) QR Code วิชาเศรษฐพอเพยี ง ทช31001 หมายเหตุ : ใหน้ กั ศึกษา ได้ศึกษาเพ่ิมเต่ิมจากหนังสอื แบบเรยี น วิชาเศรษฐกจิ พอเพียง ทช31001 เอกสารพัฒนาทกั ษะวิชาการเพ่ือยกระดบั ผลสัมฤทธิผ์ ู้เรยี นรายบคุ คล ทช31001 7 ระดับมธั ยมศึกษาปลาย
8 แบบทดสอบทา้ ยบทเรียน บทที่ 2 เรอื่ งชมุ ชนพอเพยี ง จงเลอื กคาตอบทถี่ กู ตอ้ งที่สดุ เพยี งคาตอบเดียว ง. พอประมาณ มเี หตผุ ล มภี มู คิ มุ้ กนั บนเงอ่ื นไข ความรคู้ ่คู ณุ ธรรม 1. คากลา่ วใดถูกตอ้ งที่สุด ก. เศรษฐกิจพอเพียงเหมาะสาหรับประเทศ 4. ถ้านักศึกษาจะศึกษาตัวอย่างชมุ ชนทางพื้นท่ี เกษตรกรรม ประสบความสาเรจ็ ดา้ นธนาคารชมุ ชน นักศกึ ษา ข. เศรษฐกิจพอเพียงเหมาะสาหรบั คนชนบท จะศึกษาได้จากชุมชนใด และเกษตรกร ค. เศรษฐกิจพอเพียงในสังคมเมืองเปน็ เรือ่ ง ก. ชุมชนกุดกะเสยี้ น อ.เข่ืองใน จ.อุบลราชธานี ยากทจี่ ะเข้าถงึ ข. ชมุ ชนหนองแซง อ.ทันตา จ.ชัยนาท ง. เศรษฐกจิ พอเพยี งเหมาะสาหรบั ทุกเพศ ค. ชมุ ชนดารง อ.บา้ นลาด จ.เพชรบรุ ี ทกุ วัย ทกุ อาชพี ง. ชมุ ชนนาหมอบุญ จ.นครศรีธรรมราช 2. คากลา่ วใดเก่ียวกบั เศรษฐกจิ พอเพยี งไม่ 5. ขอ้ ใด ไม่ใช่ องค์ประกอบสาคญั ในการบรหิ าร ถกู ตอ้ ง จัดการชุมชนท่ีดตี ามหลกั ปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพียง ก. ไมม่ คี วามจาเป็นทเี่ ราจะกลายเป็นประเทศ อุตสาหกรรมใหม่ (NIC) ก. การมสี ว่ นรว่ มของประชาชน ข. การวดั ผลสาเร็จของชมุ ชน ข. เศรษฐกจิ พอเพยี งคือการจดั สรรท่ีดินใน ค. ผลประกอบการของชุมชน สดั สว่ นทเ่ี หมาะสมแกก่ ารดาเนินชวี ติ ง. การทาส่งิ ต่าง ๆ ใหส้ าเรจ็ ค. เศรษฐกิจพอเพยี งเปน็ พ้ืนฐานของการ 6. แผนพลังงานชมุ ชน เปน็ แนวทางการพฒั นา ดารงชีวติ ระหว่างสงั คมระดบั ทอ้ งถนิ่ และ ชมุ ชนตามหลกั ปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพียง ตลาดระดบั สากล แนวทางหนึ่ง ประเด็นใดถกู ตอ้ งท่สี ดุ ง. เศรษฐกจิ พอเพียงคือแนวทางท่สี มดุลโดย ก. การทค่ี นรูจ้ กั พง่ึ ตนเองและใช้จ่ายด้วย ชาติ สามารถทนั สมัยและกา้ วสูค่ วามเปน็ ความพอประมาณ มีเหตผุ ล มีภูมคิ ุ้มกัน สากลได้ ข. การทคี่ นในชุมชนรจู้ ักใช้ทรัพยากรใน 3. 3 หว่ ง 2 เงื่อนไข ทสี่ านักงานคณะกรรมการ ชมุ ชนอย่างคุ้มค่าท่สี ุด พัฒนาการเศรษฐกจิ และสงั คมแห่งชาตินามาใช้ ในการรณรงค์เผยแพร่ปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพียง ค. การทคี่ นในชมุ ชนมีส่วนรว่ มในการวาง หมายถงึ เรอื่ งใด แผนการใช้พลงั งานของตนเอง ก. รอบรู้ รอบคอบ ระมดั ระวงั บนเง่อื นไข ง. การทค่ี นในชมุ ชนเลือกใชพ้ ลังงานทดแทน ความรคู้ ู่คุณธรรม ได้อยา่ งเหมาะสม ข. ชีวติ สมดุล เศรษฐกจิ ม่นั คง สังคมยง่ั ยนื บนเงอื่ นไขความรูค้ คู่ ณุ ธรรม ค. ซอื่ สัตยส์ ุจริต ขยัน อดทน บนเงอื่ นไข ความรคู้ ูค่ ณุ ธรรม 8 เอกสารพฒั นาทักษะวิชาการเพอ่ื ยกระดบั ผลสมั ฤทธ์ิผูเ้ รียนรายบุคคล ทช31001 ระดมั ธั ยมศกึ ษาตอนปลาย
9 7. นกั ศึกษาคดิ ว่าวิธกี ารแก้ปญั หาชุมชน วิธีการ 9. สาเหตุทีท่ าใหเ้ กดิ ราคาน้ามันแพงในตลาดโลก ใดทเี่ หมาะสมในการแก้ปญั หาตามหลกั ปรชั ญา คืออะไร เศรษฐกิจพอเพียงทีส่ ุด ก. ความตอ้ งการนา้ มนั มมี าก ก. การเนน้ หลกั ประชาธปิ ไตย ข. ความตอ้ งการผลติ น้ามันจากแหลง่ ใหมม่ ี ข. การจัดทาแผนชุมชน ค. การจัดระเบยี บชมุ ชน ตน้ ทุนสงู ง. การจัดต้ังกองทุนในชมุ ชน ค. เกิดจากความไม่สงบทางการเมือง 8. ขอ้ ใด ไมใ่ ช่ กระบวนการจัดทาแผนชมุ ชนเพอื่ ง. ถกู ทกุ ขอ้ แก้ปญั หาของชมุ ชนตามหลกั ปรัชญาเศรษฐกิจ 10. วนั สง่ิ แวดลอ้ มแห่งชาตติ รงกับวนั ท่ี 4 ของ พอเพยี ง เดือนอะไร ก. การคดั เลือกคณะทางานท่มี าจากหลาย ก. มกราคม ข. มนี าคม ภาคส่วน ค. พฤษภาคม ข. การจดั ลาดบั ปญั หาชมุ ชน ง. ธันวาคม ค. การพยายามแกป้ ญั หาด้วยชมุ ชนเองโดยไม่ จาเป็นตอ้ งขอความชว่ ยเหลอื จากภาครฐั ง. การนาประสบการณท์ างชมุ ชนมาวิเคราะห์ เปน็ แนวทางในการแก้ปญั หา เอกสารพฒั นาทักษะวชิ าการเพอ่ื ยกระดับผลสัมฤทธิผ์ ู้เรียนรายบุคคล ทช31001 9 ระดบั มัธยมศึกษาปลาย
10 บทท่ี 3 การแกป้ ญั หาชุมชน สรปุ เนอ้ื หา เรอ่ื งท่ี 1. ปัญหาของชมุ ชนดา้ นสงั คม เศรษฐกจิ สง่ิ แวดล้อมและวัฒนธรรมพน้ื ฐานของ หลกั ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ในแต่ละชุมชนจะมีปัญหาท่ีแตกต่างกันออกไปข้ึนอยู่กับบริบทของชุมชน แต่โดยท่ัวไปเราสามารถ แบ่งปัญหาของชมุ ชนออกในดา้ นตา่ ง ๆ ดงั นี้ 1. ปัญหาด้านการศึกษา อาทิเช่น จานวนผู้ไม่รู้หนังสือระดับการศึกษาของประชาชนอัตรา การศกึ ษาในระดับตา่ ง ๆ และแหลง่ เรยี นรู้ในชุมชน เปน็ ต้น 2. ปัญหาด้านสุขภาพอนามัย ได้แก่ ภาวะโภชนาการคนพิการ โรคติดต่อโรคประจาตัวอัตราการ ตายของทารกแรกเกดิ สถานพยาบาลในชุมชน การรบั บรกิ ารดา้ นสาธารณสขุ เปน็ ตน้ 3. ปัญหาด้านสังคมการเมืองการปกครองได้แก่ การเกิดอาชญากรรมแหล่งอบายมุขความขัดแย้ง ทางการเมอื ง กจิ กรรมทีเ่ กย่ี วข้องกบั การเลือกตงั้ ในระดบั ตา่ ง ๆ 4. ปัญหาด้านส่ิงแวดล้อมและทรัพยากรธรรมชาติ ได้แก่ ปัญหามลภาวะต่าง ๆการทาลาย ทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละสิ่งแวดลอ้ มของมูลฝอยกบั ธรรมชาติตา่ ง ๆ 5. ปัญหาด้านศาสนาศิลปวัฒนธรรม ได้แก่ การสืบทอดอนุรักษ์ และการปฏิบัติศาสนกิจของ ประชาชน ทส่ี ง่ ผลถึงความรักและความสามคั คีของคนในชาติ แนวทางการแก้ปัญหาชุมชนมปี จั จัยท่ีเกีย่ วข้อง ดงั น้ี 1. เน้นเรื่องปัญหาเป็นการเปล่ียนแปลงที่เอาปัญหามาเป็นตัวตั้งแล้วหาแนวทางจัดการหรือ แก้ปญั หานั้นๆ ชมุ ชนเปล่ยี นแปลงไปหรือไม่ อยา่ งไร ดทู ีป่ ญั หาว่ามีอย่แู ละแกไ้ ขไปอยา่ งไร 2. เน้นเร่ืองอานาจเป็นการเปล่ียนแปลง ที่มองตัวอานาจเป็นสาคัญ ชุมชนเปล่ียนแปลงไปหรือไม่ อย่างไร ดูท่ีใครเป็นคนจัดการ อานาจในการเปลี่ยนแปลงอยู่ที่ไหนศักยภาพในการเปล่ียนแปลงเพ่ิมขึ้น หรือไม่ และสุดท้ายมกี ารเปล่ียนโครงสรา้ งอานาจหรือไม่ 3. เน้นการพฒั นาเป็นการเปล่ียนแปลงท่ีเน้นที่พลังจากภายในชุมชนดาเนินการเปลี่ยนแปลงชุมชน โดยการตดั สินใจการกระทาของคนในชุมชนเองไมไ่ ด้ไปเปลย่ี นที่คนอืน่ หากเป็นการเปลี่ยนท่ชี ุมชนและไม่ได้ เอาตวั ปัญหาเป็นตวั ต้ัง แตเ่ ป็นความพยายามทีจ่ ัดสรา้ งชมุ ชนทีพ่ งึ่ ตนเองและสามารถยืนอย่ไู ด้ดว้ ยตนเอง สรุปเน้ือหา เรื่องที่ 2. การพัฒนาชุมชนด้านสังคม เศรษฐกิจ ส่ิงแวดล้อมและวัฒนธรรมตามหลัก แนวคิดปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง หัวใจสาคัญของการพฒั นาชุมชน คือ การยึดชุมชนเป็นหลัก ประชาชนต้องร่วมมือกันชว่ ยเหลือกัน พ่ึงตนเอง และสร้างความเข้มแข็งของชุมชน ซึ่งเป็นเสมือนทุนทางสังคมไทยเร่ิมจากการส่งเสริมการผลิต พื้นฐาน คือการเกษตรแบบผสมผสาน การมีส่วนร่วมของประชาชนในชุมชนเป็นหลัก โดยการร่วมมือของ ประชาชน ต้องใช้กิจกรรมทางเศรษฐกิจเป็นเคร่ืองมือ มีการรวมกลุ่มโดยมีเป้าหมายเป็นผลผลิต สนับสนุน ใหเ้ กิดเครอื ขา่ ยของชาวบ้านโดยภาครฐั สามารถเขา้ ไปสนับสนนุ ใหต้ รงกับความตอ้ งการ อันจะทาใหเ้ กิดการ พฒั นาเศรษฐกจิ พืน้ ฐานเพื่อการพ่งึ พาตนเองของชมุ ชนไดอ้ ยา่ งยั่งยืนต่อไป การพัฒนาประเทศภายใต้แนวคิดปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี งมีวัตถปุ ระสงค์ ดังนี้ 1. ฟ้ืนฟูเศรษฐกจิ ให้มเี สถียรภาพและมีภูมคิ มุ้ กนั 10 เอกสารพัฒนาทกั ษะวชิ าการเพ่ือยกระดับผลสัมฤทธิ์ผ้เู รียนรายบุคคล ทช31001 ระดมั ัธยมศึกษาตอนปลาย
11 2. วางรากฐานการพฒั นาประเทศให้เขม้ แขง็ ย่ังยืนสามารถพ่ึงตนเองได้อยา่ งรเู้ ทา่ ทันโลก 3. ใหเ้ กิดการบรหิ ารจดั การท่ีดีในสังคมไทยทุกระดับ 4. แกไ้ ขปัญหาความยากจนและเพิม่ ศักยภาพและโอกาสของคนไทยในการพึ่งพาตนเอง การพัฒนาย่ังยืน ( Sustainable Development ) หมายถึง การพัฒนาท่ีตอบสนอง ความต้องการของปัจจุบันโดยไม่ทาให้ผู้คนในอนาคตเกิดปัญหาในการตอบสนองความต้องการของตนเอง (นิยามของคณะกรรมการโลกว่าด้วยสิ่งแวดล้อมและการพัฒนา World Commission on Environment and Development ในรายงาน Our Common Future 1987 หรอื Brundtland Report ) ในการพัฒนา ยั่งยืนรวมความถึง 3 ด้าน คือ เศรษฐกิจสังคมและส่ิงแวดล้อม ซ่ึงเช่ือมโยงและสัมพันธ์กัน โครงการพฒั นา ใด ๆ ต้องคานึงถึงองค์ประกอบทงั้ สามด้านน้ี สรุปเนอื้ หา เรอื่ งท่ี 3. การมสี ว่ นร่วม แกป้ ญั หา หรือพัฒนาชมุ ชนด้านสงั คม เศรษฐกิจ สิ่งแวดล้อมและ วัฒนธรรมตามหลกั แนวคิดปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง กระบวนการจัดทาแผนพัฒนาหมู่บ้าน/ชุมชน เป็นกระบวนการเรียนรู้และการมีส่วนร่วม ของประชาชนในหมู่บ้านและชุมชน โดยเริ่มจากการกระตุ้นจิตสานึก และความรับผิดชอบของประชาชน/ ชุมชน ใหม้ จี ติ สาธารณะ และร่วมกันคิด รว่ มกันจดั หา รว่ มกนั เรยี นร้/ู วิเคราะหเ์ พือ่ ใหร้ แู้ ละเข้าใจตน โดยใช้ กระบวนการชุมชน คือ การสารวจข้อมูลปัญหาและศักยภาพของชุมชน การวิเคราะห์สาเหตุ/แนวทางแก้ไข แล้วกาหนดอนาคตและทิศทางการพัฒนาตนเอง/หมู่บ้าน และชุมชน ออกมาเป็นกิจกรรม/โครงการท่ีจะ แก้ไขปัญหาและตอบสนองความต้องการการพัฒนา ในลักษณะจากชุมชน โดยชมุ ชน และเพื่อชมุ ชน ซ่ึงจะ เป็นการสร้างความเข้มแข็งและพึ่งตนเองอย่างย่ังยืนของชุมชนดังน้ันแผนชุมชน จึงเป็นเครื่องมือของการมี ส่วนร่วมแก้ปัญหา หรือพัฒนาชุมชนด้านสังคม เศรษฐกิจ ส่ิงแวดล้อมและวัฒนธรรมตามหลักแนวคิด ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียง แนวคดิ เกยี่ วกบั การจัดทาแผนชุมชน การให้ชาวบา้ นในหมบู่ ้านและชุมชน จัดทาแผนชมุ ชนเพอ่ื พัฒนาหม่บู ้านและชุมชนของตนเอง มี แนวคดิ หลกั การและความเชือ่ ในหลาย ๆ ดา้ น เชน่ 1. แนวคิดจากปรัชญาพฒั นาชุมชน ซ่งึ เปน็ สากลทบ่ี อกวา่ ชาวบา้ นมศี ักยภาพสามารถพัฒนา ตนเองไดถ้ ้าให้โอกาส และการพฒั นาตอ้ งเร่ิมต้นท่ชี าวบ้าน 2. แนวคดิ จากหลกั การพัฒนาชมุ ชน คือ การมีส่วนร่วม การพงึ่ ตนเอง การช่วยเหลือซง่ึ กันและ กนั และการรบั ผดิ ชอบตอ่ ชุมชนของตนเอง 3. แนวคิดในการพัฒนาชุมชนใหเ้ ขม้ แข็ง คือ การใหช้ ุมชนได้มีกระบวนการในการจดั การชมุ ชน มีการเรียนรู้ร่วมกนั ในกระบวนการชุมชน 4. แนวคิดในการพัฒนาชมุ ชนใหเ้ ข้มแขง็ คอื การสร้างพลังชมุ ชน ใช้พลังชมุ ชนในการพัฒนา ชุมชน 5. แนวคิดท่วี า่ ไมม่ ใี ครรูป้ ัญหาชมุ ชนเทา่ คนในชมุ ชน ดงั น้นั การแกป้ ญั หาชมุ ชนจงึ เร่ิมจาก ชุมชน การใหก้ ารสนบั สนุนของภาครัฐจะตอ้ งเป็นลกั ษณะ Bottom-up ไมใ่ ช่ Top Down ความหมายของแผนชุมชน สานักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกจิ และสงั คมแห่งชาติ ไดใ้ ห้ความหมายของแผนชมุ ชนว่า หมายถงึ การกาหนดอนาคตและกิจกรรมการพัฒนาของชุมชน โดยเกดิ ขน้ึ จากคนในชุมชนท่ีมีการรวมตัว เอกสารพฒั นาทักษะวชิ าการเพอ่ื ยกระดับผลสัมฤทธิ์ผู้เรยี นรายบุคคล ทช31001 11 ระดบั มธั ยมศึกษาปลาย
12 กนั จัดทาแผนข้ึนมา เพอ่ื ใช้เปน็ แนวทางในการพัฒนาชมุ ชนหรอื ทอ้ งถ่นิ ของตนเอง ใหเ้ ป็นไปตามท่ีตอ้ งการ และสามารถแกป้ ญั หาท่ีชุมชนเผชญิ อยู่ คนในชมุ ชนมีส่วนร่วมคิด รว่ มกาหนด แนวทางและทากิจกรรมการ พฒั นารว่ มกัน ยึดหลกั การพ่งึ ตนเองลดการพง่ึ พิงภายนอก คานงึ ถงึ ศกั ยภาพ ทรพั ยากร ภมู ิปญั ญา วถิ ชี ีวติ วัฒนธรรม และสง่ิ แวดลอ้ มในท้องถิน่ เป็นหลัก จึงกลา่ วไดว้ ่า แผนชมุ ชนเป็นของชุมชนดาเนินการโดยชุมชน และเพอ่ื ประโยชน์ของชุมชนเอง ซ่งึ แตกต่างจากแผนท่ีภาครัฐจัดทาขึน้ เพ่ือการจัดสรรงบประมาณเปน็ หลัก กระบวนการจดั ทาแผนชุมชน กรมการพัฒนาชุมชน ได้กาหนดขั้นตอนการจัดทาแผนชุมชนไว้ 5 ขั้นตอน (หนังสือระเบียบวาระ ชุมชน : กรมการพฒั นาชมุ ชน ปี 2551) ดงั นี้ ข้ันตอนที่ 1 เตรียมความพร้อมชุมชน โดยมีกลุ่มเป้าหมายคือ ผู้นาชุมชน ผู้แทนคุ้มบ้าน อบต. ผูแ้ ทนกลมุ่ /องคก์ รชุมชน ขน้ั ตอนที่ 2 การวเิ คราะห์ข้อมลู เรยี นรู้ตนเองและชุมชน กล่มุ เป้าหมาย คือ ผู้นาชมุ ชน ผแู้ ทนคุม้ บา้ น อบต. ผู้แทนกลมุ่ /องคก์ รชมุ ชน ตัวแทนครวั เรือน ประชาชนในชุมชน ข้ันตอนท่ี 3 การกาหนดเป้าหมายและทิศทางการพัฒนา กลุ่มเป้าหมาย ผู้แทนคุ้มบ้าน อบต. ผ้แู ทนกลมุ่ /องค์กรชุมชน ประชาชนในชมุ ชน ข้ันตอนท่ี ๔ การกาหนดแผนงานโครงการพัฒนาชุมชน กลุ่มเป้าหมายผู้นาชุมชนผู้แทนคุ้มบ้าน อบต. ผูแ้ ทนกลุ่ม/องค์กรชมุ ชน ประชาชนในชมุ ชน ขั้นตอนที่ ๕ การปฏิบัติตามแผนชุมชน กลุ่มเป้าหมาย คณะกรรมการ-บริหารชุมชน อบต. หน่วยงานสนับสนุนการพัฒนาในพ้ืนท่ีการจัดทาแผนชุมชน 5 ข้ันตอน ดังกล่าวข้างต้นเป็นแนวทางที่ กรมการพัฒนาชุมชนได้ศึกษาค้นคว้าจากกรณีศึกษาแผนชุมชนท่ีประสบความสาเร็จในการส่งเสริม กระบวนการแผนชุมชน อาจปรับให้เข้ากับบริบทล้อมรอบหรือภูมิสังคมแต่ละพื้นท่ีได้ตามความเหมาะสม โดยคานงึ ถงึ ประโยชนท์ ่ีประชาชนจะได้รับจากการดาเนนิ งานนัน้ ๆ สรปุ เน้อื หา เร่ืองที่ 4 การส่งเสรมิ เผยแพร่ ขยายผลงานการปฏบิ ตั ิตามหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี งของบคุ คล ชมุ ชน ท่ปี ระสบความสาเรจ็ ส่อู าเซยี น การท่ีประเทศไทยของเราน้ัน จะก้าวเข้าสู่การเป็นประชมอาเซียนได้อย่างสมบูรณ์พร้อมมูลนั้น ย่อมจะต้องอาศัยเหตุปจั จัยหลาย ๆ อย่างมาประกอบเข้าด้วยกัน เพื่อเสถียรภาพท่ีมั่นคงถาวรอย่างแท้จริง แนวทางสาคัญอย่างหน่ึงที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลท่ี 9 ทรงมอบไว้แก่ชาวไทยทุกๆคนนั้น คือ หลักเศรษฐกิจพอเพียง ซึ่งมีความเก่ียวข้องและสอดคล้องกับความพอประมาณ, การมีเหตุผลและการมี ภูมิคุ้มกัน โดยต้องอาศัยหลักความรู้คู่คุณธรรมประกอบกันด้วยหลักการเหล่าน้ีสามารถท่ีจะนามา ประยุกต์ใช้ไดก้ ับการเป็นส่วนหน่ึงของประชาคมอาเซียน เพราะว่าก่อนท่ีจะเข้าเป็นส่วนหน่ึงของประชาคม ดังกล่าวได้อย่างเต็มภาคภูมิน้ันจา ต้องสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจให้ได้มากพอที่จะเป็นที่ยอมรับของ กลุ่มประเทศต่าง ๆ ในประชาคมเศรษฐกิจพอเพียงเป็นการพัฒนาไปสู่ความสามารถในการพึ่งตนเองใน ระดับต่าง ๆ อย่างเป็นข้ันตอนชว่ ยลดความเสี่ยงเก่ียวกับการเปล่ียนแปลงจากปัจจัยต่าง ๆ โดยอาศัยความ พอประมาณ และความมีเหตุผล มีการสร้างภูมิคุ้มกันที่ดี มีความรู้ควบคู่คุณธรรมหัวใจของหลักเศรษฐกิจ พอเพียง คือ การ “อยู่ได้ด้วยส่ิงท่ีมีอยู่อย่างยั่งยืน” เป็นหลักการและแนวปฏิบัติของโลกในอนาคต ด้วย เรื่องความพอเพียงเป็นเรื่องของบคุ คล และองค์กรทุกระดับเมื่อได้รับการพัฒนาตามหลักเศรษฐกิจพอเพียง จนเกดิ ประสทิ ธผิ ลและเปน็ ท่ยี อมรบั มคี ุณธรรม สามารถพัฒนาตนเอง และเป็นผู้มสี ตปิ ญั ญา 12 เอกสารพัฒนาทักษะวชิ าการเพ่ือยกระดับผลสมั ฤทธิ์ผ้เู รียนรายบุคคล ทช31001 ระดมั ธั ยมศึกษาตอนปลาย
13 แบบทดสอบทา้ ยบทเรยี น บทที่ 3 การแกป้ ัญหาชุมชน จงเลือกคาตอบท่ีถกู ตอ้ งท่สี ดุ เพียงคาตอบเดียว 4. ถ้าผู้เรยี นรู้จกั ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง 1. บุคลใดเปน็ ผมู้ ีภูมคิ ้มุ กนั (การมคี วามรู้ และ ปฏบิ ตั ติ ิตามหลักปรัชญาของเศรษฐกจิ ร้เู ท่าทันปัญหาต่าง ๆ พอเพยี ง จะทาใหเ้ กิดผลดีในด้านใด ก. ดาวเด่นเปน็ คนใฝร่ ู้ แสวงหาความรู้และ ก. ไมเ่ ครียด พัฒนาตนเองอยา่ งต่อเนอื่ ง ข. มคี วามสขุ ค. ทาใหไ้ ม่เป็นหน้ีสนิ ข. ดจุ ดาวเป็นคนสบาย ๆ ไ่ม่ต้องดิน้ รณศกึ ษา ง. เกิดผลดตี อ่ ตนเองในทุกดา้ น เพิ่มเติมเพราะพอ่ แมม่ ีเงินมากอยูแ่ ลว้ 5. การเลี้ยงตัวเองได้ พึงพิงตวั เองได้โยไม่ทาให้ ใครเดอื ดรอ้ น ขอ้ ความใดกล่าวถงึ เร่ือการลงทนุ ค. ดวงเดอื นชอบเส่ียงโชคซ้อื หวยบนดนิ ทุก ไดถ้ ูกต้อง งวด เพราะมคี วามหวังจะถกรางวัลแจก๊ พอต ก. การลงทนุ ที่มาจากการออม ข. การลงทนุ คอการแสวงหาผลกาไร ง. เดน่ ดวงชอบซ้อื ขนมแจกเพ่ือน ๆ เพราะ ค. การลงทนุ คือการนาเงินมาจัดสรรทรยั ากร หวงั วา่ เวลาตนเองลาบากเพ่อื จะได้ ง. การลงทนุ คอื ปัจจัยของระบบเศรษฐศาสตร์ ชว่ ยเหลือ 6. ขอ้ ใดคือการลงทุนทางอ้อม ก. นาเงินไปซ้อื กิจการ 2. การพัฒนาที่ยงั่ ยนื มีความหมายตรงกบั ขอ้ ใด ข. การตง้ั สหกรณ์ร้านค้า มากท่ีสุด ค. การนาเงินฝากธนาคาร ง. การซอ้ื เฟรนไชส์ร้านสะดวกซอ้ื ก. พัฒนา กา้ วหน้าตามเทคโนโลยี 7. การพัฒนาการระบบเศรษฐกจิ ยคุ ใดทาให้ ข. พฒั นา และพงึ่ พาประเทศอน่ื อย่างตอ่ เนอ่ื ง ทรัพยากรทางธรรมชาตลิ ดลงอย่างรวดเรว็ มาก ค. พัฒนาการเกษตรเพยี งอยา่ งเดียว เพ่ือก้าวสู่ ทส่ี ุด ก. ยคุ ปจั จุบนั ความพอเพยี ง ข. ยคุ เกษตรกรรม ง. พัฒนาพาครอบครวั อบอ่นุ มสี งั คมสันตสิ ขุ ค. ยคุ หาของลา่ สัตว์ ง. ยคุ ปฏิบตั อิ ุตสาหกรรม สิ่งแวดล้อมย่ังยนื 3. การปฏิบัติติตนในระบบเกษตรทฤษฎีใหม่ หมายถงึ ข้อใด ก. รูจ้ ักแบง่ ที่ดินออกเป็นส่วน ๆ เท่า ๆ กนั ข. รู้จักจัดสรรทดี่ ินตามความสนใจของเจา้ ของ ทีด่ นิ ค. รจู้ กั จดั สรรทด่ี ินเปน็ แหล่งนา้ ร้อยละ 50 สว่ นทเ่ี หลอื ปลกู ขา้ ว พืชผัก ผลไม้ และ ปลกู บ้าน ง. รู้จักสรรทด่ี ินเป็นแหลง่ น้า ปลกู ขา้ ว ปลูก ต้นไม้อยา่ ละเทา่ กนั ๆ และ อีกรอ้ ยละ 10 ไว้สรา้ งบ้าน เลีย้ งสัตว์ และ ปลูกพืชผัก สมุนไพร เอกสารพฒั นาทกั ษะวชิ าการเพ่ือยกระดับผลสมั ฤทธผิ์ เู้ รยี นรายบคุ คล ทช31001 13 ระดบั มัธยมศกึ ษาปลาย
14 8. ข้อใดเปน็ ธุรกิจชมชนครบวงจร 10. การบรหิ ารจดั การท่ีดคี วรทาอย่างไร ก. ผลติ - แปรรปู ขาย บรโิ ภค ก. การแปรรปู สินค้าเพื่อการสง่ ออก ข. การมรี ปู แบบท้งั ขายปลีกและส่ง ข. การใช้พน้ื ทเ่ี พราะปลูกให้มากทส่ี ุด ค. การผลิตถงึ การส่งออกภายในและนอก ค. การใชแ้ หลง่ เงินจากต่างประเทศ ประเทศ ง. การใช้ทรพั ยากรอยา่ งชาญฉลาด คุ้มค่า ง. การมลี ักษณะธรุ กจิ ท่ีเออ้ื ต่อการบริโภค 9. การยึดพนื้ ทใี่ ชเ้ ป็นศูนยก์ ารพัฒนา สว่ นภาคี อน่ื ๆ ทาหน้าทชี่ ่วยกระตนุ้ อานวยความสะดวก ส่งเสรมิ สนบั สนนุ คาวา่ พนื้ ที่ หมายถึงข้อใด ก. องคก์ รชมชน ข. ไร่นาสวนผสม ค. เกษตรแบบทฤษฎีใหม่ ง. หน่วยงานทางราชการศูนยแ์ พรข่ ้อมูล วิชาการ 14 เอกสารพัฒนาทกั ษะวชิ าการเพือ่ ยกระดบั ผลสัมฤทธผิ์ เู้ รยี นรายบุคคล ทช31001 ระดัมัธยมศึกษาตอนปลาย
15 บทที่ 4 สถานการณข์ องประเทศไทยและสถานการณ์โลกกบั ความพอเพียง สรปุ เน้ือหา เรอื่ งที่ 1 สถานการณป์ ระเทศไทยกบั ความพอเพียง สานักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาตไิ ด้จัดทาแผนพัฒนาเศรษฐกิจและ สังคมแห่งชาติเพื่อใช้กาหนดทิศทางอันสามารถจะถือได้ว่าเป็นค่านิยมร่วมในการวางแผนแม่บทของ หน่วยงานต่างๆซึ่งเป็นจุดกาเนิดท่ีสาคัญของการนาแนวคิด หลักการปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมา ขับเคลื่อนการทางานในทุกระดับของสังคมไทย “เศรษฐกิจพอเพียง” เป็นปรัชญาท่ีพระบาทสมเด็จพระ เจ้าอยู่หัวทรงมีพระราชดารัสช้ีแนะแนวทางการดาเนินชีวิตแก่ชาวไทยมาโดยตลอดนานกว่า 25 ปีต้ังแต่ ก่อนเกิดวิกฤตการณ์ทางเศรษฐกิจและเมื่อภายหลังได้ทรงเน้นย้าแนวทางการแก้ไขเพ่ือให้รอดพ้นแ ละ สามารถดารงอยู่ได้อย่างม่ันคงย่ังยืนภายใตก้ ระแสโลกาภิวัตน์ และการเปลี่ยนแปลงต่างๆปรัชญาเศรษฐกิจ พอเพียงจึงสามารถประยุกต์ใช้เป็นพ้ืนฐานการบริหารและพัฒนาประเทศได้ในทุกภาคการผลิตรวมทั้งเป็น แนวในการดารงชีวิตและปฏิบัติงานของคนไทยท้ังในระดับบุคคล ครอบครัว ชุมชนและสังคม โดยคานึงถึง ประเด็นดังนี้ - การดาเนินการในทางสายกลางที่อยู่บนพ้ืนฐานความพอดีเน้นการพึ่งตนเองขณะเดียวกันให้ก้าว ทันโลกในยคุ โลกาภิวตั น์ - ความพอเพียงที่เน้นการผลิตและบรโิ ภคอยบู่ นความพอประมาณมเี หตผุ ล - ความสมดุลและการพัฒนาที่ย่ังยืน เป็นการพัฒนาอย่างมีองค์รวมมีสมดุลระหว่างกระแสการ แขง่ ขันจากโลกาภิวัฒน์และกระแสทอ้ งถนิ่ นิยมมีความหลากหลายในโครงสร้างการผลิตมกี ารใช้ทุนทีม่ ีอยู่ใน สังคมให้มีประสิทธภิ าพ เกิดประโยชน์สูงสุดไม่ทาลายทรัพยากรธรรมชาตสิ ่ิงแวดล้อมวัฒนธรรม ภมู ิปญั ญา และวิถชี วี ติ ท่ีดีงาม - การมีภูมิคุ้มกัน ในตัวที่ดีพอสมควรในการเตรียมความพรอ้ มรู้เทา่ ทันตอ่ ผลกระทบ ท่ีเกิดจากการ เปลี่ยนแปลงต่าง ๆ มีความยืดหยุ่นในการปรับตัวมีการตัดสินใจอย่างมีเหตุผลมีความเข้มแข็ง มั่นคง และ ยง่ั ยืน - การเสริมสร้างจิตใจคนและพัฒนาคนในชาติให้เป็นคนดีมีคุณธรรมมีความรับผิดชอบซ่ือสัตย์ สุจริตมีสตปิ ัญญามคี วามเพยี รอดทนและรอบคอบ เศรษฐกิจพอเพียงกบั การพฒั นาเศรษฐกจิ ไทย 1. โครงสร้างเศรษฐกิจไทยก่อนใช้แผนพัฒนาเศรษฐกิจ ก่อนท่ีประเทศไทยจะประกาศใช้ แผนพัฒนาเศรษฐกจิ แห่งชาติ ฉบับท่ี 1 (พ.ศ. 2504-2509) โครงสรา้ งเศรษฐกจิ ของไทย มีสภาพ ดังน้ี 1.1) เศรษฐกิจแบบยังชีพ เศรษฐกิจไทยสมัยสุโขทัย สมัยอยุธยา และสมัยรัตนโกสินทร์ ตอนต้น มีโครงสร้างทางเศรษฐกิจแบบยังชีพ โดยผลิตอาหารและส่ิงของเคร่ืองใช้ต่าง ๆ พอกิน พอใช้ภายในครอบครัวและหมูบ่ ้าน เม่อื เหลือจากการบริโภคจงึ นาไปค้าขายแลกเปล่ียนยัง หัวเมือง และประเทศใกล้เคยี ง 1.2) เศรษฐกิจแบบทุนนิยม หรือเศรษฐกิจแบบการค้าและใช้เงินตรา เกิดขึ้นภายหลัง ประเทศไทยทาสนธิสัญญาเบาว์ริงกับอังกฤษ เม่ือ พ.ศ. 2398 สมัยรัชกาลท่ี 4 และกับ ชาติ ตะวนั ตกอ่นื ๆ ในเวลาไล่เลียกนั ทาใหเ้ กิดการเปลีย่ นแปลงทางเศรษฐกจิ ตอ่ ประเทศไทย ดังน้ี เอกสารพัฒนาทกั ษะวชิ าการเพื่อยกระดบั ผลสัมฤทธ์ผิ ู้เรยี นรายบุคคล ทช31001 15 ระดบั มัธยมศกึ ษาปลาย
16 (1) มีการติดต่อค้าขายกับต่างประเทศอย่างกวา้ งขวาง มีเรือสินค้าต่างชาตเิ ดนิ ทางเข้ามาคา้ ขายในกรงุ เทพฯ เพิม่ จานวนมากขึ้นหลายเท่าตวั (2) ยกเลิกระบบการค้าผูกขาดและเปล่ียนมาเป็นระบบการค้าเสรีการผูกขาด การค้าของหน่วยราชการท่ีเรียกว่า “พระคลังสินค้า” ต้องยุติลง พ่อค้าชาวอังกฤษและ ชาตติ ะวันตกอืน่ ๆ สามารถซื้อขายสินค้ากับพ่อค้าไทยไดโ้ ดยตรง เป็นผลให้ปริมาณการค้า ระหว่างไทยกบั ชาตติ ะวนั ตกขยายตวั กวา้ งขวาง (3) ระบบการผลิตแบบยังชีพ เปล่ียนมาเป็นระบบการผลิตเพื่อการค้าข้าว กลายเป็นสินค้าออกท่ีสาคัญของไทย ชาวนาขยายการผลิตเพิ่มมากขึ้นเพ่ือสนองความ ต้องการของตลาดโลก (4) ความต้องการใช้แรงงานทางานในไร่นามีมากข้ึน ทาให้ราชการต้อง ลดหย่อนการเกณฑ์แรงงานไพร่ โดยให้จ่ายเป็นเงินค่าราชการแทนเพ่ือให้ราษฎรมีเวลา ทางานใน ไร่นามากข้ึน ส่วนงานก่อสร้างของทางราชการ เช่นขุดคลอง สร้างถนนฯลฯ ใช้ วธิ ีจา้ งแรงงาน ชาวจีนแทน (5) เกิดระบบเศรษฐกิจแบบใช้เงินตรา มีการจัดต้ังโรงงานกษาปณ์ในปี พ.ศ. 2403 เพื่อใชเ้ คร่ืองจักรผลติ เหรยี ญกษาปณ์ แบบประเทศตะวันตก และยกเลกิ เงินพดดว้ ง แบบเดิม ซึ่งปลอมแปลงได้ง่าย ทาให้การซื้อขายแลกเปลี่ยนสินค้าทาได้สะดวกคล่องตัว ยิง่ ขนึ้ 1.3) เศรษฐกิจแบบทุนนิยมโดยรัฐ เกิดข้ึนระหว่าง พ.ศ. 2475-2504 ภายหลัง เปล่ียนแปลงการปกครอง พ.ศ. 2475 ในสมัยรัชกาลท่ี 7 ภาวะเศรษฐกิจตกต่าทั่วโลก ยังคงดารง อยู่ตลอดรัชกาล ซ่ึงมีผลกระทบต่อประเทศไทย เพราะทาให้การส่งออกสินค้าไทยในตลาดโลก ลดต่าลง อันเน่ืองมาจากโครงสร้างเศรษฐกิจของไทยต้องพึ่งพารายได้จากการส่งออกสินค้าเพียง ไม่กี่ชนิด เช่น ขายไม้สัก และดีบุก ชาวนาและผู้คนส่วนใหญ่ในชนบทจึงยากจนช่วงสงครามโลก คร้ังท่ี 2 (พ.ศ. 2482-2488) เกิดภาวะเงินเฟ้อ ขาดแคลนสินค้า และข้าวของมีราคาแพง รัฐส่งเสริมการขยายตัวการผลิตภาคอุตสาหกรรมมากข้ึน โดยรัฐเข้าดาเนินการผลิตโดยตรงเช่น โรงงานทอผ้ายาสูบ ทากระดาษ และโรงงานสุรา เป็นต้น จึงเรียกวา่ เป็นยุคเศรษฐกิจแบบชาตนิ ยิ ม หรือเศรษฐกิจแบบทนุ นยิ มโดยรฐั 2. โครงสร้างเศรษฐกจิ ไทยในยุคท่ีใชแ้ ผนพัฒนาเศรษฐกิจและสงั คมแห่งชาติ 2.1) ความเป็นมาของแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคแห่งชาติ ภายหลังสงครามโลกครั้ง ที่ 2 สิ้นสุดลงสหรัฐอเมริกาเป็นชาตผิ ู้นาของโลกทุนนิยมไดส้ นับสนุนให้ไทยพฒั นาความเจริญทางเศรษฐกจิ ของประเทศตามแนวทางทุนนิยมโดยผา่ นธนาคารโลก ซ่ึงช้ีนาใหป้ ระเทศไทยจดั ตงั้ สภาพัฒนาการเศรษฐกิจ แห่งชาติและวางแผนพฒั นาเศรษฐกิจ โดยเน้นให้ภาคเอกชนมีบทบาทในการพฒั นามากขนึ้ 2.2) การเปล่ียนแปลงโครงสร้างเศรษฐกิจของไทย ประเทศไทยเร่ิมใช้แผนพัฒนา เศรษฐกจิ ฉบบั ที่ 1 (พ.ศ.2504-2509) จนกระทงั้ ในปัจจบุ นั ใช้แผนพฒั นาเศรษฐกจิ และสังคมแห่งชาติ ฉบับ ท่ี 12 (พ.ศ. 2560-2564) ผลจากการใช้แผนพัฒนาดังกล่าวมาเป็นเวลา 50 ปี ทาให้เกิดการเปล่ียนแปลง โครงสร้างเศรษฐกิจของประเทศไทย ดงั นี้ 16 เอกสารพัฒนาทกั ษะวิชาการเพื่อยกระดบั ผลสัมฤทธผ์ิ ูเ้ รียนรายบุคคล ทช31001 ระดัมธั ยมศกึ ษาตอนปลาย
17 (1) ผลผลิตภาคการเกษตรลดปริมาณลงแตม่ กี ารกระจายหรอื เพิม่ ชนดิ ขึ้นแต่เดมิ มีเพียง ข้าว ไมส้ กั และยางพารา ต่อมามีสินค้าออกเพิ่มข้ึนอีกหลายชนิด เช่น ข้าวโพดมันสาปะหลัง อ้อย และผลไม้ต่าง ๆ เปน็ ตน้ (2) ผลผลิตภาคอตุ สาหกรรมและการบริการ (ธนาคารพาณิชย์การท่องเท่ียวโรงแรม) เพิ่มข้ึนอย่าง รวดเร็ว โดยเฉพาะอุตสาหกรรมแปรรูปผลผลิตทางการเกษตร ขณะเดียวกันมีการนาเคร่ืองจักรและ เทคโนโลยีการผลติ สมยั ใหมม่ าใช้มากขน้ึ (3) การค้าระหว่างประเทศ ขยายตัวมีมูลค่าเพิ่มสูงขึ้นมาก ท้ังสินค้าออกและสินค้าเข้า สินค้าออก มีหลายชนิดมากขึ้น แต่เดิมเป็นผลผลิตทางการเกษตร แต่ในปัจจุบันเป็นสินค้าอุตสาหกรรมเป็นส่วนใหญ่ เช่น ชน้ิ สว่ นอะไหลร่ ถยนต์ อุปกรณ์คอมพวิ เตอร์และแผงวงจรไฟฟา้ 3. ความสาคัญของการพัฒนาเศรษฐกิจ การพัฒนาเศรษฐกิจมีความจาเป็นสาหรับประเทศไทย ในปัจจุบนั เพราะสาเหตุ ดังน้ี 3.1) การเพ่ิมของจานวนประชากร ซึ่งไม่สมดุลกับทรัพยากรที่มีอยู่อย่างจา กัด จึงจา เป็นต้องพัฒนาคนและใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า ผลของการพัฒนาเศรษฐกิจ คือ ประชากรมีความ เป็นอยู่ท่ีดีหรือมีสวัสดิการทางเศรษฐกิจสูงข้ึน มีชีวิตความเป็นอยู่สะดวกสบาย ได้ใช้สินค้าดีราคา ไม่แพง และมีบริการสนองความต้องการอย่างทั่วถึงและมีคุณภาพ เช่น การคมนาคมขนส่ง การ สอื่ สารทีอ่ ยอู่ าศัย ฯลฯ 3.2) โครงสร้างทางเศรษฐกิจ สังคม และการเมือง มีลกั ษณะผูกขาดโดยคนสว่ นน้อยเกิด การกระจายรายได้ท่ีไม่เป็นธรรม และมีช่องว่างระหว่างคนรวยกับคนจนผลของการพัฒนา เศรษฐกิจ คือ รัฐสามารถช่วยเหลือผู้ด้อยโอกาสทางเศรษฐกิจและสังคมได้มากขึ้นอย่างมีคุณภาพ เชน่ คนยากจน คนพกิ าร เด็กกาพรา้ คนชรา คนวา่ งงาน และผู้ประสบภัย พบิ ตั ติ ่างๆ เป็นต้น 3.3) ระบบเศรษฐกิจและสังคมของไทยเป็นระบบเปิด คือ ต้องพ่ึงทุนและการค้ากับ ต่างประเทศ รวมทั้งเปิดกว้างรับเทคโนโลยี กาส่ือสาร วัฒนธรรม การศึกษา และการปริโภคจาก โลกตะวันตกอยา่ งเต็มที่ ทาให้สงั คมไทยต้องเรง่ พัฒนาตนเอง ให้สามารถแขง่ ขันและรเู้ ทา่ ทันความ เปลี่ยนแปลงในสังคมโลกได้ เพ่ือมิให้ถูกเอาเปรียบ ผลของการพัฒนาเศรษฐกิจ คือ ประเทศ ท่ีมี ความเจริญก้าวหน้าทางเศรษฐกิจจนได้ชื่อว่าเป็นประเทศที่พัฒนาแล้วส่งผลให้มีความม่ันคง ทางการเมืองและการทหาร มีกองทัพท่ีเข้มแข็ง ทาให้ไม่ตกอยู่ใต้อานาจหรืออิทธิพลของชาติ มหาอานาจ 3.4) การเปลี่ยนแปลงของสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติ เช่น ภัยแล้งอุทกภัย วาตภัย และภัยจากธรณีพิบัติ (แผ่นดินไหว และสึนามิ) เป็นต้น รวมท้ังการเกิดโรคระบาด เช่น ไข้หวัดนก ไข้เลือดออก ฯลฯ ทาให้ประชาชนไดร้ บั ความเดอื ดร้อน ผลของการพฒั นาเศรษฐกิจ คือ ประเทศท่ี มีความเจริญก้าวหน้าทางเศรษฐกิจ จนได้ช่ือว่าเป็นประเทศท่ี พัฒนาแล้ว ส่งผลให้มีความม่ันคง ทางการเมืองและการทหาร มีกองทัพที่เข้มแข็ง ทาให้ไม่ตกอยู่ ใต้อานาจหรืออิทธิพลของชาติ มหาอานาจ ผลของการพัฒนาเศรษฐกิจ คือ ประเทศท่ีมีการพฒั นาเศรษฐกิจเจริญก้าวหน้าจะเกิด ผลดตี อ่ ประชาชน เอกสารพัฒนาทักษะวชิ าการเพ่อื ยกระดบั ผลสัมฤทธผ์ิ เู้ รียนรายบคุ คล ทช31001 17 ระดบั มธั ยมศึกษาปลาย
18 3.5) ประชาชนส่วนใหญ่ในประเทศกาลังพัฒนามีมาตรฐานการดารงชีวิตท่ีต่ากว่า เกณฑ์พ้ืนฐาน อันเน่ืองมาจากปัญหาความยากจน ทาให้ขาดแคลนสิ่งอานวยความสะดวกต่างๆ รวมทั้งปัจจัย 4 ในการดารงชีพ และไม่อาจเลือกอาชีพการงานได้ผลของการพัฒนาเศรษฐกิจ คือ ประเทศท่ีพัฒนาแล้ว และมีเศรษฐกิจเจริญก้าวหน้าส่งผลให้ประชาชนมีอาชพี และรายได้ดีมีกาลัง ซ้ือสูง ทาให้มีอิสระ ในการดาเนินชีวิตมากขึ้น เช่น มีอิสระในการเลือกอาชีพตามความถนัดและ ความสนใจทาใหช้ วี ิตมสี ุข สรุปเน้อื หา เรื่องที่ 2 สถานการณ์พลงั งานโลกกบั ผลกระทบเศรษฐกิจไทย ปัญหาเรง่ ด่วนในปจั จบุ นั ท่สี ่งผลกระทบต่อเกอื บทกุ ประเทศในโลก คือ การท่รี าคา น้ามันไดส้ ูงข้ึนอย่างรวดเร็วและต่อเนื่องในชว่ งเวลา 4-5 ปที ่ีผ่านมา และ ดูเหมือนน้ามันในปีนี้ (พ.ศ.2551) จะแพงสูงสุดเป็นประวัติการณ์แล้ว ภาวะน้ามันแพงทาให้ต้นทุนด้านพลังงาน (โดยเฉพาะอย่างย่ิงในการ ขนส่ง) สูงขึ้นอย่างรวดเร็ว มีผลลูกโซ่ต่อไปยังราคาสินค้าและบริการต่างๆ นอกจากจะทาให้ ค่าครองชีพ สูงข้ึนมากแล้วยังเป็นอุปสรรคต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจอีกด้วยผลกระทบเหล่าน้ีได้ก่อให้เกิดการ ประท้วงของกลุ่ม ผู้ที่ต้องแบกรับภาระ เช่น คนขับรถบรรทุกและชาวประมงในหลายประเทศ รวมทั้งการ เรยี กรอ้ งให้รฐั บาลยน่ื มอื เข้ามาแทรกแซงและใหค้ วามชว่ ยเหลอื ปัญหาราคานา้ มนั แพงมากในชว่ งน้ถี ือไดว้ ่า เป็นวกิ ฤตการณน์ ้ามันครัง้ ที่ 3 ของโลกก็วา่ ได้ ปรากฏการณ์โลกรอ้ นและปรากฏการณ์เรอื นกระจก ค่าผิดปกติของอณุ หภมู ิเฉลี่ยท่ีผิวโลกท่ีเพ่ิมข้ึนในช่วงปี พ.ศ.2403–2549เทียบกับอุณหภูมิระหว่าง พ.ศ.2504–2533 ค่าเฉลี่ยอุณหภูมิผิวพื้นที่ผิดปกติที่เทียบกับอุณหภูมิเฉลี่ยระหว่าง ปี พ.ศ.2538 ถึงพ.ศ. 2547ในช่วง 100 ปีท่ีผ่านมา นับถึง พ.ศ.2548 อากาศใกล้ผิวดินทั่วโลกโดยเฉล่ียมีค่าสูงขึ้น0.74±0.18 อ ง ศ า เ ซ ล เ ซี ย ส ซึ่ ง ค ณ ะ ก ร ร ม ก า ร ร ะ ห ว่ า ง รั ฐ บ า ล ว่ า ด้ ว ย ก า ร เ ป ลี่ ย น แ ป ล ง ส ภ า พ ภู มิ อ า ก า ศ (Intergovernmental Panel on Climate Change:IPCC) ของสหประชาชาติได้สรุปไว้ว่า “จากการ สังเกตการณ์การเพิ่มอุณหภูมิโดยเฉล่ียของโลกท่ีเกิดข้ึน ตั้งแต่กลางคริสต์ศตวรรษท่ี 20 (ประมาณตั้งแต่ พ.ศ.2490) ค่อนขา้ งแนช่ ัดวา่ เกดิ จากการเพ่ิมความเข้มของแก๊สเรือนกระจกที่เกิดข้ึนโดยกจิ กรรมของมนุษย์ ที่เป็นผลในรูปของปรากฏการณ์เรือนกระจก”ปรากฏการณ์ธรรมชาติบางอย่าง เช่น ความผันแปรของการ แผ่รังสีจากดวงอาทิตย์ และการระเบดิ ของภเู ขาไฟ อาจส่งผลเพียงเล็กน้อยต่อการเพิ่มอณุ หภมู ิ ในช่วงก่อน ยคุ อตุ สาหกรรมจนถงึ พ.ศ.2490 และมผี ลเพียง เล็กนอ้ ยตอ่ การลดอณุ หภูมิ หลังจากปี 2490 เปน็ ต้นมา ข้อสรุปพ้ืนฐานดังกล่าวน้ีได้รับการรับรองโดยสมาคม และสถาบันการศึกษาทางวิทยาศาสตร์ ไม่ น้อยกว่า 30 แห่ง รวมทั้งราชสมาคมทาง วิทยาศาสตร์ระดับชาติ ท่ีสาคัญของประเทศอุตสาหกรรมต่างๆ แม้นักวิทยาศาสตร์บางคนจะมีความเห็นโต้แย้งกับข้อสรุป ของ IPCCอยู่บ้าง[4] แต่เสียงส่วนใหญ่ของ นักวิทยาศาสตร์ท่ีทางานด้านการเปล่ียนแปลงของภูมิอากาศของโลกโดยตรงเห็นด้วยกับข้อสรุป น้ี แบบจาลองการคาดคะเนภูมิอากาศบ่งชี้ว่าอุณหภูมิโลกโดยเฉลี่ยที่ผิวโลกจะเพิ่มขึ้น 1.1 ถึง 6.4 องศา เซลเซยี ส ในชว่ ง คริสต์ศตวรรษที่ 21 (พ.ศ.2544–2643) คา่ ตวั เลขดังกล่าวไดม้ าจากการจาลองสถานการณ์ แบบต่างๆของการแผ่ขยายแก๊สเรือนกระจกในอนาคต รวมถึงการจาลองค่าความไวภูมิอากาศอีก หลากหลายรูปแบบแต่ความรอ้ นจะยงั คงเพ่มิ ขึน้ และระดับน้าทะเลกจ็ ะสงู ขึ้นตอ่ เนอื่ งไปอกี หลายสหัสวรรษ แมว้ ่าระดับของแก๊สเรือนกระจกจะเข้าสภู่ าวะเสถียรแล้วกต็ ามการทอ่ี ณุ หภูมแิ ละระดับนา้ ทะเลเข้าสสู่ ภาวะ ดุลยภาพได้ช้า เป็นเหตุมาจากความจุความร้อนของน้าในมหาสมุทร ซึ่งมีค่าสูงมากการท่ีอุณหภูมิของโลก 18 เอกสารพฒั นาทกั ษะวิชาการเพอ่ื ยกระดับผลสมั ฤทธผ์ิ ้เู รียนรายบคุ คล ทช31001 ระดัมัธยมศึกษาตอนปลาย
19 เพ่ิมสูงข้ึนทาให้ระดับน้าทะเลสูงข้ึน และคาดว่าทาให้เกิดภาวะลมฟ้าอากาศที่รุนแรงมากขึ้นปริมาณ และ รูปแบบการเกิดหยาดน้าฟ้าจะเปล่ียนแปลงไป ผลกระทบอ่ืนๆ ของปรากฏการณ์โลกร้อน ได้แก่ การ เปล่ียนแปลงของผลิตผลทางเกษตรการเคลื่อนถอยของธารน้าแข็ง การ สูญพันธุ์พืช-สัตว์ต่างๆ รวมทั้งการ กลายพนั ธ์ุ และแพร่ขยายโรคต่าง ๆเพ่ิมมากข้ึน รัฐบาลของประเทศต่าง ๆ แทบทุกประเทศ ไดล้ งนามและ ให้สัตยาบนั ในพิธีสารเกียวโต ซึ่งมุ่งประเด็นไปท่กี ารลดการปล่อยแกส๊ เรือนกระจก แต่ยังคงมีการโต้เถียงกัน ทางการเมืองและการโต้วาทีสาธารณะไปทั่ว ท้ังโลกเก่ียวกับมาตรการว่าควรเป็นอย่างไรจึงจะลดหรือ ยอ้ นกลับความร้อนทเ่ี พ่มิ ขึ้นของโลกในอนาคตหรอื จะปรับตัวกันอย่างไรตอ่ ผลกระทบของปรากฏการณ์โลก ร้อนทคี่ าดว่าจะต้องเกดิ ขึน้ พระบาทสมเด็จพระปรมนิ ทรมหาภมู ิพลอดุลยเดช (รัชกาลท่ี9) มีพระราชดารัสเกยี่ วกับปรากฏ การณเ์ รือนกระจก ท่ีศาลาดุสิดาลัย อย่างลึกซ้ึง กระทรวงวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี จึงไดร้ ับสนองกระแส พระราชดารัส นาเข้าประชุมคณะรัฐมนตรี จนกระท่ังทาให้วันที่ 4 ธ.ค. ของทุกปี เป็นวันสิ่งแวดล้อม แห่งชาติ ต้ังแต่ปี 2534 เป็นตน้ มาจากผลงานพระราชดาริและการทรงลงมอื ปฏิบัติพัฒนาด้วยพระองคเ์ อง เก่ียวกับสภาพแวดล้อมโดยเฉพาะอย่างย่ิง ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ที่มีคุณประโยชน์ต่อคนชนชาติ ต่างๆ ท้ังด้านเศรษฐกิจสังคม ความมั่นคงของมนุษย์และการเมือง ซ่ึงเป็นท่ีประจักษ์ไปทั่วโลก องค์การ สหประชาชาติ โดยนายโคฟีอันนัน อดีตเลขาธิการองค์การสหประชาชาติ จึงได้เดินทางมาประเทศไทย ใน วาระมหามงคลฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี เข้าเฝ้าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว วันที่ 26 พ.ค. 2549 เพอ่ื ถวายรางวลั “UNDP Human Development Lifetime Achievement Award” (รางวัลความสาเร็จ สูงสุดด้านการพัฒนามนุษย์)ซึ่งเป็นรางวัลประเภท Life - Long Achievement และพระบาทสมเด็จพระ เจ้าอยู่หัวทรงเป็นพระมหากษัตริย์พระองค์แรกในโลกท่ีได้รับรางวัลนี้องค์การสหประชาชาติ ได้ยกย่อง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เป็น “พระมหากษัตริย์นักพัฒนา”และกล่าวถึงปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง (Sufficiency Economy) ของพระองค์ว่า เป็นปรัชญาหรือทฤษฎีใหม่ที่นานาประเทศรู้จักและยกย่อง โดย ท่ีองค์การสหประชาชาติได้สนับสนุนให้ประเทศต่างๆ ท่ีเป็นสมาชิกยึดเป็นแนวทางสู่การพัฒนาประเทศที่ ย่ังยืนปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง มิใช่เป็นเพียงปรัชญานามธรรม หากเป็นแนวทางปฏิบัติซึ่งสามารถจะ ชว่ ยท้ังแก้ไขและปอ้ งกันปัญหาท่เี กิดจากกิเลสมนุษย์ และความเปล่ียนแปลงท่ซี ับซ้อนรุนแรงขน้ึ ที่กาลังเกิด ขึ้นกับมนุษย์ท้ังโลก และปัญหาท่ีลุกลามต่อถึงธรรมชาติก่อให้เกิดความเปลี่ยนแปลงใหญ่ในเชิงรุนแรงและ สร้างปัญหาย้อนกลับมาที่มนุษย์โดยท่ัวไป มักเข้าใจกันว่า ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง เหมาะท่ีจะใช้ เฉพาะกับคนยากจน คนระดับรากหญ้า และประเทศยากจน อีกทั้งเคร่ืองมือ เทคโนโลยี ก็จะต้องใช้เฉพาะ เคร่ืองมือราคาถูกเทคโนโลยีต่า การลงทุนไม่ควรจะมีการลงทุนระดบั ใหญ่ แต่ในความเป็นจริง ปรัชญาของ เศรษฐกิจพอเพียงก็ต้องการคนและความคิดที่ก้าวหน้า คนท่ีกล้าคิดกล้าทาในสิ่งใหม่ๆเน่ืองจากการนา ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงไปใช้ประโยชน์ในด้านต่างๆ ไม่มีสูตรสาเร็จหรือคู่มือการใช้ปรัชญาของเศรษฐกิจ พอเพียงสาหรับภารกิจ ดังเช่น วิกฤตโลกร้อนผู้เก่ียวข้องจึงต้องศึกษาทาความเข้าใจแล้วก็พัฒนาแนวทาง หรือแนวปฏบิ ตั สิ าหรับแต่ละปญั หาข้ึนมา โดยยึดหลกั ทสี่ าคัญ ดงั เช่น - การคดิ อยา่ งเปน็ ระบบ อย่างเปน็ กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ - หลักคิดที่ใช้ ต้องเป็นหลักการปฏิบัติที่เป็นสายกลาง ที่ให้ความสาคัญของความสมดุลพอดี ระหวา่ งทุกสิง่ ท่เี กีย่ วข้อง ดังเช่น ระหว่างธรรมชาติกับมนุษย์ - ข้อมลู ทใ่ี ช้ จะตอ้ งเปน็ ข้อมลู จรงิ ทีเ่ กดิ จากการศกึ ษา การวิจัย หรอื การลงสนามให้ได้ข้อมลู ที่เปน็ จรงิ - การสรา้ งภูมติ ้านทานตอ่ ความเปล่ยี นแปลงท่จี ะเกิดขนึ้ เอกสารพฒั นาทกั ษะวิชาการเพ่ือยกระดบั ผลสัมฤทธิ์ผู้เรียนรายบคุ คล ทช31001 19 ระดบั มธั ยมศึกษาปลาย
20 - การยึดหลักของความถูกต้อง คุณธรรม จริยธรรม จรรยาบรรณ ในทุกขั้นตอนของการดาเนินงาน ตามปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ซึ่งเป็นกระบวนการสาคัญของการสร้างภูมิต้านทานต่อผลกระทบและ ความเปลี่ยนแปลงที่กาลังเกิดขึ้น หรือที่จะเกิดข้ึนเหล่าน้ีเป็นหลักการใหญ่ๆ ซึ่งผู้ที่รับผิดชอบหรือเก่ียวข้อง หรือคิดจะทา โครงการหรือกิจกรรมในระดับค่อนข้างใหญ่ จะต้องคานึงถึง และสามารถจะนาปรัชญาน้ีไป ใช้ได้ทันที และมีผู้ท่ีได้ใช้ล้วนประสบความสาเร็จสูงสุดท่ีมนุษย์พึงจะมี คือ ความสุขที่ย่ังยืนแล้วเรื่องของ การแข่งขัน ชิงไหวชิงพริบ การวางแผนยุทธศาสตร์และโลจิสติกส์(การจัดซื้อจัดหา การจัดส่ง การ บารุงรักษาอุปกรณ์ และการรักษาพยาบาลบุคลากร ) ในการบริหารจัดการระบบ หรือโครงการใหญ่ๆ การ ใช้จิตวิทยามวลชน การใช้เทคโนโลยีก้าวหน้า การกาหนดแผนหรือตนเองให้เป็น “ฝ่ายรุก” มิใช่ “ฝ่ายต้ัง รับ” ล่ะ ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงปฏิเสธหรือไม่? คาตอบคือ ปฏิเสธ ถ้าใช้อย่างไม่ถูกต้อง อย่าง หลีกเลี่ยงกฎหมาย อย่างผิดคุณธรรม-จริยธรรม-และจรรยาบรรณ อย่างไม่ซื่อตรงต่อหน้าท่ีและความ รับผิดชอบ อย่างมีเจตนาเพื่อผลประโยชน์ที่ไม่สุจริตของตนเอง และพวกพ้อง แต่จะต้องรู้จักและใช้อย่าง รเู้ ทา่ ทัน ปกป้อง และรกั ษาผลประโยชนข์ องสว่ นรวม อย่างมีความคดิ ก้าวหนา้ ในเชงิ สรา้ งสรรค์ QR Code วิชาเศรษฐพอเพยี ง ทช31001 หมายเหตุ : ให้นักศกึ ษา ได้ศึกษาเพิ่มเติ่มจากหนงั สอื แบบเรียน วชิ าเศรษฐกจิ พอเพียง ทช31001 20 เอกสารพฒั นาทักษะวชิ าการเพ่อื ยกระดับผลสมั ฤทธิผ์ เู้ รยี นรายบุคคล ทช31001 ระดัมธั ยมศกึ ษาตอนปลาย
21 แบบทดสอบทา้ ยบทเรยี น บทที่ 4 สถานการณ์ของประเทศไทยและสถานการณโ์ ลกกับความพอเพยี ง จงเลือกคาตอบที่ถูกต้องท่ีสดุ เพียงคาตอบเดยี ว 4. \"ชมุ ชนบา้ นหนองบัว จดั เวทปี ระชาคม พบวา่ 1. หมู่บา้ นบันเทิงสุข มีพ้ืนทต่ี ดิ กบั ปา่ สงวน ปลานิลเป็นปลาที่เล้ยี งงา่ ย ตายยาก ขยายพนั ่ธ์ คนในชุมชนเข้าไปลกั ลอบตัดไม้ทาลายป่า จงึ เกดิ ได้เอง และมีแนวโนม้ เป็นปลาเศรษฐกิจ จึง ป่าเส่อื มโทรม ขาดแคลนนา้ กนิ น้าใช้ จากปญั หา รวมกล่มุ อาชพี เลี้ยงปลานิล\" การดาเนนิ การ ดังกล่าวชมุ ชนควรจดั โครงการใด ดงั กลา่ วปฏบิ ัติตามหลกั การใด ก. โครงการมคั คุเทศก์น้อย ก. มเี หตผุ ล ข. โครงการปลูกพชื อายสุ ั้น ข. มีคณุ ธรรม ค. โครงการทอ่ งเทยี่ วเชงิ อนรุ ักษ์ ค. มกี ารทางานเปน็ ทมี ง. โครงการอนุรกั ษป์ ่าไม้และแหลง่ นา้ ง. มกี ารพฒั นาความรู้ 2. การพฒั นาชุมชนใหป้ ระสบผลสาเรจ็ และยง่ั ยืน 5. ข้อใดถกู ต้องทส่ี ุดในการพฒั นาประเทศตาม ข้อใดสาคญั ที่สดุ หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ก. จัดการศกึ ษาในชมุ ชน ต้ังแต่ระดับเด็กเลก็ ก. ยดึ หลกั รว่ มคดิ รว่ มทา จนถึงการศกึ ษาภาคบังคับ ข. ม่งุ พฒั นาคนในสังคมเปน็ หลัก ค. มงุ่ เนน้ ทางด้านเศรษฐกจิ เปน็ หลัก ข. จัดศกึ ษาดูงานชุมชนทีป่ ระสบผลสาเรจ็ ง. ยดึ หลกั ทางสายกลาง สมดุล และสร้างคนดี เพือ่ นามาเป็นรูปแบบในการพฒั นา ใหเ้ กิดขน้ึ ในสงั คมทุกระดบั ค. จัดเวทปี ระชาคม รวบรวมปญั หา ทาแผน ชมุ ชน ทางานตามแผน และตดิ ตาม 6. ชุมชนในข้อใดทป่ี ระสบผลสาเร็จในการปฏิบตั ิ ประเมินผล ตามหลักปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง ง. จดั อบรมชาวบ้าน เร่อื งการทาบัญชี ก. บ้านโคกไทยประชาชนสว่ นใหญร่ า่ รวย ครัวเรอื น การลดรายจา่ ย เพ่มิ รายได้ อาชีพ ข. บา้ นโคกมอญประชาชนตงั้ กองทุนยงั ชีพให้ เสริม ผสู้ ูงอายุ 3. ข้อใดสรา้ งรายได้ใหแ้ กป่ ระเทศทส่ี อดคลอ้ งกับ ค. บ้านโคกอดุ มประชาชนทาการเกษตรและ หลกั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียง ทาบญั ชีครัวเรอื น ก. การคา้ ดา้ นพลังงาน ง. บา้ นโคกขวางตง้ั กองทุนเพอื่ ปลอ่ ยกู้ให้ ข. การทาธรุ กจิ โรงแรม ค. อุตสาหกรรมขนาดยอ่ ม ชาวบา้ นเพือ่ เป็นทุนไปทาการเกษตร ง. การทอ่ งเที่ยวตามธรรมชาติ เอกสารพฒั นาทกั ษะวิชาการเพ่อื ยกระดับผลสมั ฤทธ์ิผ้เู รยี นรายบคุ คล ทช31001 21 ระดับมัธยมศึกษาปลาย
22 7. ข้อใดคอื สาเหตุของการเกิดภาวะเงินเฟ้อ 9. การเผยแพรผ่ ลการปฏบิ ัตติ ามปรชั ญาของ ก. ผลิตได้มาก - ราคาถูก เศรษฐกจิ พอเพียงของบคุ คล/ชมุ ชนที่ประสบ ข. วัตถดุ ิบราคาถูก - ผลิตได้นอ้ ย ผลสาเร็จข้อใดได้ผลมากทส่ี ุด ค. ผลผลิตมมี าก - ความตอ้ งการมนี ้อย ง. ความต้องการมมี าก - ตน้ ทุนการผลติ สงู ก. เวบ็ ไซด์ ข. แผน่ ซีดี 8. \"นายทาดี ไดร้ บั ท่ีดนิ จากบิดา 50 ไร่ เขาจึงทา ค. จดหมาย/แผน่ พบั การเกษตรตามทฤษฎใี หม่ และประสบผลสาเรจ็ ง. หอกระจายข่าวหมบู่ ้าน เป็นอยา่ งดี\" ขอ้ ใดเปน็ สดั ส่วนการจัดสรรพ้นื ที่ ตามหลกั การของเกษตรทฤษฎใี หมข่ องนายทาดี 10. ข้อใดเปน็ แนวทางทใ่ี ชใ้ นการตัดสินใจ ประกอบอาชีพได้อย่างถกู ตอ้ ง ก. 15 : 15 : 15 : 5 ข. 20 : 20 : 5 : 5 ก. ความรู้ ทุน แรงงาน สถานที่ ตลาด และ ค. 15 : 15 : 10 : 10 คณุ ธรรม ง. 20 : 10 : 10 : 10 ข. ทุน แรงงาน สถานที่ ตลาด และวสิ ยั ทัศน์ ค. ความชอบและความถนดั ของตนเอง ง. ทุน แรงงาน ตลาดและเครือขา่ ย 22 เอกสารพัฒนาทกั ษะวิชาการเพือ่ ยกระดบั ผลสมั ฤทธ์ิผเู้ รียนรายบคุ คล ทช31001 ระดัมัธยมศึกษาตอนปลาย
23 บทที่ 5 การประกอบอาชีพตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง เพอ่ื การสร้างรายไดอ้ ย่างมัน่ คง มั่งคั่ง และยัง่ ยืน สรปุ เนื้อหา เรอื่ งท่ี 1 แนวทางการประกอบอาชพี อาชีพหมายถงึ ชนิดของงานหรอื กจิ กรรมของบุคคลประกอบอยู่ เปน็ งานท่ีทาแล้วได้รบั ผลตอบแทน เป็นเงินหรือผลผลิตอาชีพตามหลักของปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง คือ งานท่ีบุคคลทาแล้วได้รับ ผลตอบแทนเป็นเงินผลผลติ โดยยึดหลกั 5 ประการ ท่สี าคญั ในการดาเนินการ ได้แก่ ทางสาย กลางในการดาเนินชีวติ 1. ทางสายกลางในการดารงชวี ิต 2. มีความสมดลุ ระหว่างคน ชมุ ชนและสิง่ แวดล้อม 3. มีความพอประมาณ พอเพียงในการผลิต การบริโภคและการบริการ 4. มภี มู คิ ้มุ กันในการดาเนินชวี ติ และการประกอบอาชีพ 5. มีความเทา่ ทนั สถานการณ์ชุมชน สังคม แนวทาง กระบวนการประกอบอาชีพของผูเ้ รียนที่ไมม่ อี าชีพต้องเข้าสู่อาชพี ใหม่ และผู้ท่ีมอี าชีพอยู่ แลว้ ตอ้ งการพฒั นาอาชีพเดิม ผเู้ รยี นจะตอ้ งเป็นนักริเร่มิ รอบรู้ คิดค้น พฒั นาชอบความอิสระ มีความมุ่งม่ัน ม่ันใจ พร้อมที่จะเสี่ยง ทางานหนัก ขยัน อดทน คิดกว้างมองลึก มีความรู้เข้าใจในอาชีพที่ตนเองทาอย่างดี ยอมรับการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ มีมนุษยสัมพันธ์ที่ดี ย้ิมแย้มแจ่มใส มีจิตบริการ ใช้ข้อมูลหลายด้านศึกษา สภาพแวดล้อม ปจั จัยที่จะทาใหก้ ารประกอบอาชีพประสบผลสาเร็จแนวทางการประกอบอาชพี แบ่งออกได้ 2 แนวทางคอื 1. การเขา้ สอู่ าชีพใหม่ 2. การพฒั นาอาชพี เดมิ ทั้ง 2 แนวทางน้ี การที่จะประกอบอาชีพได้ผลดีมีความต่อเน่ือง มีโอกาสประสบความสาเร็จตาม วัตถปุ ระสงค์ตอ้ งพิจารณาสง่ิ ตอ่ ไปน้ี 1. พจิ ารณาศักยภาพหลักชมุ ชน 5 ด้าน ประกอบการตัดสินใจ ได้แก่ 1.1. ศกั ยภาพของทรัพยากรธรรมชาตใิ นชุมชน 1.2. ศักยภาพของภมู อิ ากาศ 1.3. ศกั ยภาพของภมู ิประเทศ 1.4. ศักยภาพดา้ นทาเลที่ต้งั 1.5. ศักยภาพด้านศิลปะ วฒั นธรรม ประเพณีศักยภาพหลักของชมุ ชนทั้ง 5 ดา้ นนี้ ถือเป็นต้นทนุ ท่ี สาคัญ ซ่ึงผู้ประกอบอาชีพไม่จาเป็นต้องใช้เงินซ้ือหามาเป็นสิ่งที่เรามีอยู่แล้ว จึงมีความจาเป็นที่ผู้ศึกษา จะต้องนาต้นทุนดังกล่าวมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดในการประกอบอาชีพ อย่างไรก็ดียังต้องพิจารณา องคป์ ระกอบอื่นอีก 2. การนา กระบวนการ “คิดเป็น” มาใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลความพร้อมก่อนตัดสินใจ ประกอบอาชีพ 3 ดา้ น ดงั น้ี 2.1. การวเิ คราะหต์ นเอง 2.2. วเิ คราะหส์ ภาพแวดล้อมของครอบครัว ชมุ ชน วถิ ีชีวิต ทรพั ยากรในทอ้ งถิน่ ทาเลทต่ี ้ัง 2.3. วิเคราะห์ความรูท้ างวชิ าการ เอกสารพัฒนาทกั ษะวชิ าการเพอ่ื ยกระดับผลสมั ฤทธผ์ิ เู้ รยี นรายบคุ คล ทช31001 23 ระดับมัธยมศกึ ษาปลาย
24 ข้อควรคานึงในการตัดสนิ ใจประกอบอาชีพ 1. การตดั สินใจประกอบอาชพี โดยใช้ขอ้ มูลอย่างเหมาะสม 2. มีความรู้วชิ าชีพนั้นๆ 3. มที ุน แรงงาน และสถานท่ี 4. มวี ธิ กี ารปฏบิ ัติงานและจัดการอาชพี 5. มีกลวธิ กี ารขาย การตลาด 6. มีการจัดการการเงินใหม้ ีเงนิ สดหมนุ เวียนสามารถประกอบอาชีพไปไดอ้ ยา่ งตอ่ เนอ่ื งไม่ขัดข้อง 7. การจดั ทาบัญชรี ายรบั – รายจ่ายเพือ่ ใหท้ ราบผลการประกอบการ 8. มีมนุษยส์ มั พนั ธแ์ ละมจี ิตบรกิ าร 9. มคี ณุ ธรรมในการประกอบอาชพี สรุปเน้ือหา เร่ืองท่ี 2 การสร้างงานอาชีพตามหลักปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพียง 5 กลุ่มอาชีพใหม่ การสร้างงานอาชีพตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง โดยจะวิเคราะห์แบ่งกลุ่ม 5 กลุ่มอาชพี ใหม่ เปน็ ดา้ นการผลติ กับด้านการบรกิ ารดังน้ี 24 เอกสารพฒั นาทกั ษะวิชาการเพื่อยกระดับผลสมั ฤทธิผ์ ู้เรียนรายบุคคล ทช31001 ระดมั ธั ยมศึกษาตอนปลาย
25 สรุปเนื้อหา เร่ืองที่ 3 แนวทางการประกอบอาชพี ใหป้ ระสบผลสาเร็จ 3.1 มีความรู้ คือ ต้องรอบรู้ รอบคอบและระมัดระวังความรอบรู้ มีความหมายมากกว่าคาว่า ความรู้คือนอกจากจะอาศัยความรู้ในเชิงลึกเก่ียวกับงานท่ีจะทาแล้ว ยังจาเป็นต้องมีความรู้ในเชิงกว้าง ได้แก่ความรู้ ความเข้าใจในข้อเท็จจริงเกี่ยวกับสภาวะแวดล้อมและสถานการณ์ท่ีเก่ียวพันธ์กับงานที่จะทา ทั้งหมดความรอบคอบ คือ การทางานอยา่ งมีสติ ใชเ้ วลาคิดวิเคราะห์ ข้อมูลรอบด้านกอ่ นลงมอื ทา ซ่ึงจะลด ความผิดพลาด ข้อบกพร่องต่าง ๆ ทา ให้งานสาเร็จได้อย่างมีประสิทธิภาพ ใช้ต้นทุนต่าระมัดระวัง คือ ความไม่ประมาท ให้ความเอาใจใส่ในการทางานอย่างต่อเนื่องจนงานสาเร็จ ไม่เกิดความเสียหายต่อชีวิต และทรัพยส์ นิ หรอื อบุ ตั ิเหตอุ นั ไมค่ วรเกิดขึ้น 3.2 คุณธรรมที่ส่งเสริมการประกอบอาชีพให้ประสบความสาเร็จ คือ ความซ่ือสัตย์สุจริต ขยัน อดทน แบ่งปันการประกอบอาชีพต้องสัมพนั ธ์เกี่ยวข้องกับบุคคล สังคมและสงิ่ แวดลอ้ มอย่างหลีกเลีย่ งไม่ได้ เพื่อให้การประกอบอาชีพประสบผลสาเร็จตามเป้าหมายได้รับการสนับสนุนจากผู้เกี่ยวข้อง ผู้ร่วมงาน และ ลูกค้า ผู้ประกอบอาชีพต้องมีคุณธรรมซ่อื สัตย์ สุจริต ขยัน อดทน แบง่ ปนั ความขยัน อดทน คือ ความตงั้ ใจ เพียรพยายามทาหนา้ ท่ี การงาน การประกอบอาชพี อยา่ งต่อเนื่อง สม่าเสมอ ความขยันต้องปฏิบตั ิควบคู่กับ การใช้สติปัญญา แก้ปัญหาจนงานเกิดผลสาเร็จผู้ท่ีมีความขยัน คือผู้ท่ีต้ังใจประกอบอาชีพอย่างจริงจัง ตอ่ เน่อื ง ในเรื่องทถ่ี ูกทคี่ วร มคี วามพยายามเป็นคนสงู้ าน ไม่ท้อถอย กล้าเผชิญอุปสรรครกั งานท่ที า ตั้งใจทา หน้าท่อี ยา่ งจริงจงั ซ่ือสัตย์ คือ การประพฤตติ รง ไม่เอนเอียง จริงใจไม่มีเล่ห์เหลี่ยมผู้ที่มีความซื่อสัตย์คือผู้ท่ีประกอบ อาชีพตรงไปตรงมา ไม่คดโกง ไม่เอาเปรียบผู้บริโภค ไม่ใช้วัตถุท่ีเป็นอันตรายและคานึงถึงผลกระทบกับ สภาพแวดล้อม ความอดทน คอื การรักษาสภาวะปกตขิ องตนไวจ้ ะกระทบกระท่งั ปญั หาอุปสรรคใดผู้มคี วามอดทน ในการประกอบอาชีพ นอกจากจะอาศัยปัญญาแล้ว ล้วนต้องอาศัย ขันติหรือความอดทนในการต่อสู้แก้ไข ปญั หาตา่ งๆ ใหง้ านอาชีพบรรลุความสาเร็จดว้ ยกันทั้งสน้ิ การแบ่งปัน/การให้ คือ การแบง่ ปนั ส่ิงที่เรามี หรือส่ิงท่ีสามารถให้แก่ผู้อื่นไดแ้ ละเปน็ ประโยชน์แก่ ผู้ที่รับ การให้ผู้อ่ืนท่ีบริสุทธิ์ใจไม่หวังสิ่งตอบแทนจะทาให้ผู้ให้ได้รับความสุขท่ีเป็นความทรงจาที่ยาวนาน เอกสารพฒั นาทกั ษะวิชาการเพอ่ื ยกระดับผลสัมฤทธผ์ิ ูเ้ รยี นรายบุคคล ทช31001 25 ระดบั มัธยมศกึ ษาปลาย
26 การประกอบอาชีพโดยขยัน อดทน ซื่อสัตย์ รู้จักการแบ่งปันหรือให้สิ่งต่าง ๆ ท่ีสามารถให้ได้แก่ลูกค้าและ ชุมชนของเรายอ่ มได้รบั การตอบสนองจากลูกค้าในดา้ นความเชื่อถอื 3.3 ขอ้ ดขี องการประกอบอาชีพอสิ ระ 1. จัดตง้ั ง่ายประกอบอาชีพได้รวดเรว็ 2. มีคา่ ใชจ้ ่ายและตน้ ทุนตา่ 3. มีความใกล้ชดิ กบั ลูกคา้ สื่อสารไดท้ นั ที โฆษณาปากตอ่ ปาก 4. มคี วามคลอ่ งตวั สูง ปรบั เปลยี่ น ปรับปรงุ ได้รวดเร็ว 5. สามารถขอรับการสนับสนนุ ดา้ นการเงนิ จากองค์กรทอ้ งถิ่นได้และ 6. มแี หลง่ เงนิ ทนุ กเู้ พื่อขยายกจิ การไดง้ า่ ย เชน่ ธนาคารออมสนิ ธนาคาร ธกส . และสถาบนั การเงนิ ในหมูบ่ ้าน QR Code วิชาเศรษฐพอเพยี ง ทช31001 หมายเหตุ : ให้นกั ศึกษา ได้ศกึ ษาเพม่ิ เติม่ จากหนังสือแบบเรียน วิชาเศรษฐกจิ พอเพียง ทช31001 26 เอกสารพฒั นาทักษะวิชาการเพ่อื ยกระดับผลสัมฤทธ์ิผู้เรยี นรายบุคคล ทช31001 ระดัมธั ยมศกึ ษาตอนปลาย
27 แบบทดสอบทา้ ยบท บทที่ 5 การประกอบอาชีพตามหลักปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียง เพ่อื การสรา้ งรายได้อย่างมนั่ คง ม่งั คั่ง และยัง่ ยนื จงเลอื กคาตอบที่ถกู ตอ้ งทส่ี ดุ เพยี งคาตอบเดยี ว 5. ข้อใดนาหลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงไป ใช้ได้ถูกต้อง 1. การบริหารจัดการชุมชนให้มีความเข้มแข็ง ข้อใดมีความสาคัญเป็นอนั ดบั แรก ก. นายไก่ ทานาปีละหลายคร้ัง เพ่ือให้ขาย ข้าวได้มากๆ แล้วเอาเงินไปซื้อของกิน ก. การจัดโครงสร้างองค์กร ข. การกาหนดกฎเกณฑ์ ข. นายเก่งมีท่ีดินของตนเอง แต่ไม่ชอบทา ค. การตัดสินใจร่วมกัน การเกษตร จึงไปทางานโรงงาน ง. การกากับติดตามผล 2. ชุมชนพอเพียงจัดทาโครงการอนุรักษ์ป่าไม้ ค. นายก้อย ปลูกผักสวนครัวไว้กิน ่ส่วน และแหล่งน้าของชุมชน เพ่ือกักเก็บนา้ ไวใ้ ช้ เหลือก็นาไปขาย แสดงว่าชุมชนมีจุดอ่อนในเร่อื งใด ก. ป่าไม้ท่ีใช้ในการทาธุรกิจท่องเท่ียวมีไม่ ง. นายก้องขายกิจการ จึงส่งลูกไปเรียน เพียงพอ ต่างประเทศได้ ข. แหล่งนา้ ท่ีใช้ในการประกอบอาชีพ 6. ชุมชนแห่งหนึ่งตั้งอยู่ใกล้ทะเล และประชาชน การเกษตรมีไม่เพียงพอ ส่วนใหญ่มีอาชีพทาสวนมะพร้าว ต่อมาประสบ ค. แหล่งนา้ ท่ีใช้ในการทาอาชีพประมงมีไม่ ปัญหาด้วยกินยอดมะพร้าว ทาให้ต้นมะพร้าว ตาย ข้อใดเป็นการนาหลักปรัชญาของเศรษฐกิจ เพียงพอ พอเพียงไปใช้ได้อย่างถูกต้องที่สุด ง. ป่าไม้ของชุมชนมีไม่เพียงพอ 3. ความเข้มแข็งของชุมชนจะเกิดขึ้นได้ต้อง ก. นายอ๋อย โคนต้นมะพร้าวทั้งหมดท้ิง แล้ว ประกอบด้วยข้อใด หันไปปลูกยางพาราแทน ก. พลังกลุ่ม พลังจิตสานึก พลังภูมิปัญญา ข. นายอุ๋ย ไปซ้ือสารเคมีจากร้านค้า แล้ว พลังปิติ นามาฉีดพ่นเพ่ือฆ่าตัวด้วงในสวนของ ข. พลังกลุ่ม พลังคุณธรรม พลังทาง ตนเอง วัฒนธรรม พลังสังคม ค. นายอ้อไปปรึกษาเกษตรอาเภอ เร่ือง ค. พลังกลุ่ม พลังความคิด พลังการจัดการ ศัตรูพืช แล้วนาเอาตัวเบียนมาปล่อยใน สวน เพ่ือกาจัดตัวด้วง พลังภูมิปัญญา ง. พลังกลุ่ม พลังการจัดการ พลังสังคม ง. นายเอ๋ ขอดูผลงานของเพ่ือนบ้าน ว่าวิธีใด 4. การพัฒนาเพ่ือให้ชุมชนยั่งยืน ควรให้ ได้ผลดีท่ีสุด แล้วค่อยทาตจามเพ่ือ ความสาคัญกับสิ่งใด ประหยัดต้นทุน ของตนเอง ก. คน ทรัพยากรธรรมชาติ และคุณธรรม ข. คนและผลประโยชน์ท่ีจะได้รับ 7. ข้อใด ไม่จัดว่าเป็นปัญหาของชุมชน ค. คนและวัฒนธรรมท้องถ่ิน ก. การศึกษา = คนมีการศึกษาสูง ง. คนและส่ิงแวดล้อม ข. สังคม = ความขัดแย้งทางการเมือง ค. ศาสนา = ขาดความรัก ความสามัคคี ง. สุขภาพ = อัตราการตายของทารกแรกเกิด เอกสารพฒั นาทกั ษะวิชาการเพื่อยกระดบั ผลสมั ฤทธผ์ิ เู้ รยี นรายบคุ คล ทช31001 27 ระดับมัธยมศกึ ษาปลาย
8. ชุมชนแสงสว่าง ต้องการข้อมูลเพ่ือนาไป 28 พัฒนาให้เป็นชุมชนท่ีพัฒนาแล้ว ควรดาเนินการ อย่างไรเป็นลาดับแรก 10. ข้อใดถูกต้องท่ีสุดในการพัฒนาหรือ แก้ปัญหาของชุมชนแบบมีสว่ นร่วม ก. เดินเก็บข้อมูลจากชาวบ้าน ข. รับฟังปัญหาจากอาเภอ ก. ร่วมคิด ร่วมตัดสินใจ ร่วมวางแผน ร่วม ค. จัดทาเวทีชาวบ้าน ทา ร่วมติดตามผล ง. จัดทาแผนชุมชน 9. บุคคลใดประสบผลสาเร็จในการนาหลัก ข. ร่วมคิด ร่วมสร้าง ร่วมปลูกจิตสานึก ร่วม ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี งไปใชใ้ นการดาเนิน เป็นเจ้าของ ชีวิต ก. นายสมพงศ์รู้จักกิน รู้จักใช้ อยู่ได้ ไม่ ค. ร่วมคิด ร่วมวางแผน ร่วมเป็นเจ้าของ ร่วมติดตามผล เดือดร้อน ข. นายอนันต์ ขยันทากิน จนมีเงินใช้จ่าย ง. ร่วมคิด ร่วมตัดสินใจ ร่วมวางแผน ร่วม เป็นเจ้าของ และนาไปให้ญาติพ่ีน้องนาไปลงทุน ค. นายสมชาย ขยันทามาหากิน รู้จักเก็บ ออม จึงนาเงินออมไปให้ชาวบ้านกู้ ง. นายสมศักด์ิ ขยันทามาหากิน รู้จักเก็บ ออม จึงนาเงินไปทาธุรกิจ 28 เอกสารพฒั นาทกั ษะวิชาการเพ่อื ยกระดบั ผลสัมฤทธ์ผิ ู้เรียนรายบคุ คล ทช31001 ระดมั ธั ยมศกึ ษาตอนปลาย
29 แบบทดสอบหลงั เรียน รายวชิ าเศรษฐกจิ พอเพยี ง ทช31001 ระดบั มธั ยมศึกษาตอนปลาย จงเลือกคาตอบที่ถกู ตอ้ งทีส่ ดุ เพียงคาตอบเดยี ว 4. ข้อใด ไม่ใช่ เป้าหมายของปรัชญาของเศรฐ กิจพอเพียง 1. ข้อใดบอกหลักการปรัชญาของเศรษฐกิจ ก. ช่วยในมนุษย์อยุ่อย่างมีรากเหง้าทาง พอเพียงได้ถูกต้อง ก. พอกิน พออยู่ พอใช้ มีเงินออม มีความรู้ วัฒนธรรม ประเพณี ข. ประมาณตน ใช้ความคิด รู้จักป้องกัน ข. ช่วยให้มนุษย์อยู่ร่วมกับธรรมชาติและ ตนเอง ไม่เสี่ยง มีวินัย ค. ลดรายจ่าย ประหยัด ใช้ของคุ้มค่า สิ่งแวดล้อมได้อย่างยั่งยืน มีหลักประกัน และมีความเพียร ค. ช่วยให้มนุษย์มีความพออยู่พอกิน พอใช้ ง. พอประมาณ มีเหตุผล มีภูมิคุ้มกันในตัวที่ โดยใช้ความรู้คู่คุณธรรม พ่ึงตนเองได้ และมีความสุขตามอัตภาพ ง. ช่วยให้มนุษย์มีความสะดวกสบายในการ 2. ข้อใดคือความหมายของคาว่า \"เศรษฐกิจ พอเพียง\" ดาเนินชีวิต 5. การจัดการความรู้ตามหลกั ปรัชญาของ ก. ดารงชีวิตอย่างม่ันคง และย่ังยืน เศรษฐกิจพอเพียง ข้อใดถูกต้องที่สุด ข. ดารงชีวิตโดยการพ่ึงพาครอบครัว ก. การนาความรู้มาใช้ในการประกอบธุรกิจ ค. ดารงชีวิตตามนโยบายของรัฐบาล ง. ดารงชีวิตโดยการพึ่งพาเศรษฐกิจของ เพื่อให้ได้ผลกาไรมากๆ ข. การนาความรู้ทางด้านเทคโนโลยีสมัยใหม่ ประเทศ 3. ข้อใดเป็นแนวคิดตามหลักปรัชญาของ มาใช้ในการประกอบอาชีพ เศรษฐกิจพอเพียง ค. การนาความรู้มาใช้ในการพัฒนาประเทศให้ ก. สนองเปล่ียนโทรศัพท์มือถือเพ่ือให้รองรับ ทัดเทียมกับต่างประเทศ 4 G เพื่อขยายกลุ่มผู้ซื้อผักปลอดสารพิษ ง. การนาความรู้และประสบการณ์มาแบ่งปัน ข. สนามรับซื้อผักปลอดสารพิษ แล้วนาไป ให้เกิดประโยชน์ต่อตนเองและสังคม จาหน่ายเพ่ือหวังกาไร โดยรวม ค. สยาม ปลูกผักปลอดสารพิษไม่ได้ผลจึง 6. ข้อใดนาความรู้เรื่องปรัชญาของเศรษฐกิจ พอเพียงไปประยุกต์ใช้ได้ถูกต้องท่ีสุด เตรียมใช้ปุ๋ยเคมี ก. สมชายเปลี่ยนโทรศัพท์มือถือใหม่ เพ่ือ ง. สมปองปลูกผักปลอดสารพิษ เหลือจากการ รองรับระบบ 4G ข. บริษัท กอ และบริษัท ขอ เป็นพันธมิตรกัน บริโภคแล้วนาไปให้เพื่อนบ้าน เพื่อสร้างอานาจต่อรองทางธุรกิจ ค. สมร รวมกลุ่มเพื่อนร่วมงานในไร่แห่งหน่ึง เพื่อต่อรองขอข้ึนค่าแรง ง. สมหญิงทานาแล้วไม่ได้ผล จึงหันมาปลูกพืช แบบเกษตรผสมผสาน เอกสารพัฒนาทกั ษะวชิ าการเพ่อื ยกระดบั ผลสมั ฤทธ์ผิ ูเ้ รียนรายบุคคล ทช31001 29 ระดับมัธยมศกึ ษาปลาย
7. ข้อใดหมายถึง การบริหารจัดการชมุ ชนตาม 30 หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง 11. แนวทางเศรษฐกิจพอเพยี งสง่ เสริมให้ ก. การรวมกลุ่มอาชีพ เพื่อเพ่ิมส่วนแบ่ง ประชาชนดาเนินชวี ติ ในลกั ษณะใด การตลาด ก. ดาเนินชีวติ ในลักษณะใด ข. การใช้เทคโนโลยีทันสมัย เพื่อเพ่ิม ข. ดาเนินชีวิตอยา่ งเครง่ ครดั ความสามารถในการผลิต ค. ดาเนนิ ชีวิตทางสายกลางยึดความพอดี ง. ดาเนนิ ชีวิตเพือ่ สรา้ งความสะดวกสบาย ค. การพัฒนาต้องมาจากระดับล่างบน พ้ืนฐานเศรษฐกิจเพ่ือการแข่งขัน ตนเอง 12. หลักการของทฤษฎใี หม่มที ัง้ หมดจานวนก่ีขน้ั ง. การบริหารทรัพยากรท้องถิ่นให้เกิด ประโยชน์สูงสุด ก. 2 ข้ัน ข. 3 ขน้ั 8. การบริหารจัดการชมุ ชนมีความสาคัญ ค. 4 ข้ัน อย่างไร ง. 5 ข้นั 13. ทฤษฎีใหม่ตามแนวพระราชดารขิ อง ก. เพ่ือให้ชุมชนมีผู้นาท่ีเข้มแข็ง พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภมู ิพลอดลุ ย ข. เพ่ือให้คนในชุมชนอยู่ในกรอบท่ีวางไว้ เดช ดาเนินชีวิตแบบใด ค. เพ่ือความอยู่รอดของชุมชนและมีความ ก. ดาเนนิ ชวี ิตทพี่ อเพยี ง ข. ตามยถากรรม เข้มแข็ง ค. ดาเนนิ ชวี ิตตามปกติ ง. เพ่ือให้คนในชุมชนมีความคิดไปใน ง. ดาเนินชวี ิตอยา่ ฟมุ่ เฟือย 14. รอบรู้ รอบคอบ ระมัดระวงั เป็นเงอ่ื นไขข้อ แนวทางเดียวกัน ใด 9. ข้อใดเป็นการบริหารจัดการชุมชนที่ดี ก. ความรู้ ข. มีเหตุผล ก. ร่วมแรงร่วมใจ ร่วมคิดร่วมทา เพ่ือ ค. คณุ ธรรม ประโยชน์ของส่วนรวม ง. พอประมาณ 15. ขอ้ ใดไม่ใชก่ ระบวนการจัดทาแผนชมุ ชนเพอ่ื ข. ร่วมมือกันทาตามนโยบายของผู้นาชุมชน แกป้ ญั หาของชุมชนตามหลกั ปรัชญาเศรษฐกจิ เพื่อความเจริญของชุมชน พอเพียง ก. การคัดเลือกคณะทางานทม่ี าจากหลาย ค. ร่วมมือกันทาตามนโยบายของรัฐ เพ่ือ ความเจริญของประเทศ ภาคสว่ น ข. การจัดลาดับปญั หาชุมชน ง. ทาตามความต้องการของตนเอง เพ่ือ ค. การพยายามแก้ปัญหาด้วยชมุ ชนเองโดยไม่ ความอยู่ดีมีสุข 10. การบริหารจดั การชุมชนใหม้ ีความเข้มแข็ง จาเปน็ ตอ้ งขอความช่วยเหลอื จากภาครัฐ ขอ้ ใดมคี วามสาคัญเป็นอันดบั แรก ง. การนาประสบการณท์ างชุมชนมาวิเคราะห์ ก. การจัดโครงสรา้ งองค์กร เปน็ แนวทางในการแก้ปญั หา ข. การกาหนดกฎเกณฑ์ ค. การตัดสินใจร่วมกนั ง. การกากบั ตดิ ตามผล 30 เอกสารพฒั นาทักษะวิชาการเพอ่ื ยกระดบั ผลสมั ฤทธ์ิผู้เรยี นรายบคุ คล ทช31001 ระดมั ธั ยมศึกษาตอนปลาย
16. สาเหตุที่ทาใหเ้ กดิ ราคาน้ามนั แพงใน 31 ตลาดโลกคืออะไร 19. การยึดพนื้ ท่ใี ช้เปน็ ศูนย์การพัฒนา ส่วนภาคี ก. ความตอ้ งการนา้ มันมีมาก อ่นื ๆ ทาหน้าท่ชี ่วยกระตนุ้ อานวยความสะดวก ข. ความตอ้ งการผลติ นา้ มนั จากแหลง่ ใหม่มี ส่งเสริม สนบั สนนุ คาวา่ พื้นท่ี หมายถึงขอ้ ใด ต้นทุนสูง ก. องคก์ รชมชน ค. เกิดจากความไมส่ งบทางการเมือง ข. ไรน่ าสวนผสม ง. ถกู ทุกขอ้ ค. เกษตรแบบทฤษฎใี หม่ 17. วนั สง่ิ แวดลอ้ มแห่งชาติตรงกบั วันท่ี 4 ของ ง. หน่วยงานทางราชการและศนู ย์แพรข่ อ้ มูล เดอื นอะไร ก. มกราคม วชิ าการ ข. มนี าคม 20. การบรหิ ารจัดการทด่ี คี วรทาอย่างไร ค. พฤษภาคม ง. ธนั วาคม ก. การแปรรูปสนิ คา้ เพ่ือการสง่ ออก 18. ขอ้ ใดเป็น ธรุ กิจชมชนครบวงจร ข. การใชพ้ นื้ ทีเ่ พราะปลูกให้มากทส่ี ุด ก. ผลติ - แปรรูป ขาย บรโิ ภค ค. การใชแ้ หล่งเงินนจากตา่ งประเทศ ข. การมีรปู แบบทัง้ ขายปลกี และส่ง ง. การใช้ทรพั ยากรอยา่ งชาญฉลาด คมุ้ คา่ ค. การผลิตถึงการส่งออกภายในและนอก ประเทศ ง. การมลี ักษณะธรุ กจิ ทเ่ี ออ้ื ตอ่ การบริโภค เอกสารพัฒนาทกั ษะวิชาการเพื่อยกระดับผลสมั ฤทธ์ิผเู้ รียนรายบุคคล ทช31001 31 ระดบั มธั ยมศกึ ษาปลาย
32 เฉลยแบบทดสอบ บทท่ี 1 ความพอเพยี ง 1. ค 2. ง 3. ก 4. ข 5. ก 6. ง 7. ค 8. ข 9. ก 10. ก บทที่ 2 ชุมชนพอเพียง 1. ง 2. ก 3. ก 4. ข 5. ค 6. ก 7. ข 8. ค 9. ง 10. ง บทที่ 3 การแกป้ ญั หาชมุ ชน 1. ก 2. ง 3. ค 4. ง 5. ก 6. ข 7. ง 8. ก 9. ง 10. ง บทที่ 4 สถานการณ์ของประเทศไทยและสถานการณโ์ ลกกับความพอเพียง 1. ง 2. ข 3. ง 4. ค 5. ง 6. ค 7. ง 8. ก 9. ก 10. ก บทท่ี 5 การประกอบอาชพี ตามหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง เพ่อื การสรา้ งรายได้อยา่ งมน่ั คง มั่งคง่ั และยัง่ ยนื 1. ค 2. ง 3. ค 4. ก 5. ค 6. ค 7. ง 8. ก 9. ก 10. ก แบบทดสอบกอ่ น-หลังเรียน 1. ง 2. ก 3. ง 4. ค 5. ง 6. ง 7. ง 8. ค 9. ก 10. ค 11. ค 12. ข 13. ก 14. ก 15. ค 16. ง 17. ง 18. ก 19. ง 20. ง 32 เอกสารพฒั นาทักษะวิชาการเพอ่ื ยกระดับผลสมั ฤทธิ์ผูเ้ รียนรายบุคคล ทช31001 ระดมั ัธยมศึกษาตอนปลาย
33 แบบบนั ทึกการพฒั นาทกั ษะวิชาการเพื่อยกระดบั ผลสัมฤทธผ์ิ ู้เรียนรายบคุ คล การทดสอบก่อนเรยี นและหลงั เรียน ระดับมัธยมศกึ ษาตอนปลาย รายวชิ าเศรษฐกิจพอเพียง ทช31001 ---------------------------------------------------------------------------------------- ช่ือ - สกุล.......................................................................... รหัสนักศกึ ษา.............................................. กศน.ตาบล............................................ กศน.อาเภอ........................................... จังหวดั ขอนแก่น จากการทผ่ี เู้ รยี นไดศ้ กึ ษาเรยี นรู้จากแบบเรยี น และสรุปเน้ือหาจากบทเรียนในรายวิชาตา่ ง ๆ ตามเอกสารเล่มนี้แล้ว ผเู้ รียนสามารถทราบไดว้ า่ ทาแบบทดสอบในรายวิชาตา่ ง ๆ ถกู ต้องจานวนก่ีข้อ โดยการบนั ทึกในแบบบนั ทึกการพฒั นาทกั ษะวชิ าการผู้เรียนรายบุคคลระดบั มธั ยมศึกษาตอนปลาย ดงั น้ี ที่ วชิ า คะแนนเตม็ คะแนนทีไ่ ด้ ผลการประเมนิ 1 แบบทดสอบก่อนเรียน 20 2 แบบทดสอบหลงั เรยี น รวมทง้ั สน้ิ 20 40 เกณฑ์การประเมินผลการพัฒนา แบบทดสอบกอ่ นเรยี นและหลงั เรยี น เมือ่ ทาแบบทดสอบกอ่ นเรียน และแบบทดสอบหลังเรียน ซ่ึงมแี บบทดสอบ 20 ข้อ ผู้เรียนสามารถ ทราบไดว้ า่ มคี วามร้อู ยู่ในระดบั ใด ดงั น้ี จานวนขอ้ สอบท่ผี ู้เรยี นทาถกู ตอ้ ง อยใู่ นระดับ หมายเหตุ 18 - 20 ขอ้ ดีมาก 16 - 17 ขอ้ ดี 14 - 15 ขอ้ 10 - 13 ข้อ ปานกลาง ต่ากวา่ 10 ขอ้ พอใช้ ควรปรบั ปรงุ หมายเหตุ : ผลจากการประเมิน ผเู้ รียนสามารถนาไปปรบั ปรุงตนเองเพอ่ื ใหเ้ กิดการพฒั นาตอ่ ไป เอกสารพัฒนาทักษะวชิ าการเพื่อยกระดบั ผลสมั ฤทธผ์ิ ู้เรยี นรายบคุ คล ทช31001 33 ระดับมัธยมศึกษาปลาย
34 แบบบันทกึ การพฒั นาทกั ษะวชิ าการเพอื่ ยกระดบั ผลสมั ฤทธิผ์ ูเ้ รยี นรายบคุ คล แบบทดสอบทา้ ยบทเรียน ระดบั มธั ยมศึกษาตอนปลาย รายวชิ าเศรษฐกจิ พอเพียง ทช31001 ---------------------------------------------------------------------------------------- ชื่อ - สกลุ .......................................................................... รหสั นักศึกษา.............................................. กศน.ตาบล............................................ กศน.อาเภอ........................................... จังหวัดขอนแก่น จากการทผี่ ้เู รียนไดศ้ ึกษาเรียนรจู้ ากแบบเรยี น และสรุปเน้ือหาจากบทเรยี นในรายวิชาตา่ ง ๆ ตามเอกสารเลม่ นแ้ี ล้ว ผ้เู รยี นสามารถทราบไดว้ ่าทาแบบทดสอบในรายวิชาตา่ ง ๆ ถูกตอ้ งจานวนก่ขี ้อ โดยการบนั ทกึ ในแบบบนั ทกึ การพฒั นาทกั ษะวชิ าการผเู้ รียนรายบคุ คลระดบั มัธยมศกึ ษาตอนปลาย ดงั นี้ ท่ี วิชา คะแนนเต็ม คะแนนท่ไี ด้ ผลการประเมนิ 1 บทท่ี 1 ความพอเพียง 10 2 บทที่ 2 ชมุ ชนพอเพยี ง 10 3 บทท่ี 3 การแกป้ ญั หาชมุ ชน 10 4 บทที่ 4 สถานการณ์ของประเทศไทยและ 10 สถานการณโ์ ลกกบั ความพอเพียง 5 บทท่ี 5 การประกอบอาชีพตามหลกั ปรัชญา 10 ของเศรษฐกิจพอเพยี งเพอื่ การสร้างรายได้ อย่างมน่ั คง มั่งคัง่ และยง่ั ยนื รวมทงั้ ส้นิ 50 เกณฑ์การประเมนิ ผลการพฒั นา แบบทดสอบท้ายบทเรียน เมอ่ื ทาแบบทดสอบทา้ ยบทเรยี นในแตล่ ะบทเรียน ซงึ่ มแี บบทดสอบบทละ 10 ขอ้ ผเู้ รยี นสามารถ ทราบได้ว่ามคี วามรอู้ ยูใ่ นระดบั ใด ดังนี้ จานวนขอ้ สอบท่ีผเู้ รยี นทาถกู ตอ้ ง อย่ใู นระดับ หมายเหตุ 9 - 10 ข้อ ดีมาก 8 ข้อ ดี 7 ขอ้ 6 ข้อ ปานกลาง ตา่ กว่า 6 ขอ้ พอใช้ ควรปรบั ปรุง หมายเหตุ : ผลจากการประเมิน ผเู้ รียนสามารถนาไปปรับปรงุ ตนเองเพ่อื ใหเ้ กิดการพฒั นาต่อไป 34 เอกสารพัฒนาทกั ษะวชิ าการเพ่อื ยกระดับผลสัมฤทธิผ์ เู้ รยี นรายบคุ คล ทช31001 ระดัมัธยมศกึ ษาตอนปลาย
35 บรรณานกุ รม คณะอนุกรรมการขับเคล่อื นเศรษฐกจิ พอเพียง. เศรษฐกิจพอเพียงคอื อะไร. กรงุ เทพฯ : สานกั งานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกจิ และสงั คมแห่งชาต,ิ 2550. คณะอนกุ รรมการขบั เคล่อื นเศรษฐกจิ พอเพียง. การสร้างขบวนการขบั เคล่อื นเศรษฐกิจ พอเพียง. (พิมพ์คร้ังที่ 2). กรุงเทพฯ : สานักงานคณะกรรมการพฒั นาการเศรษฐกจิ และสงั คมแหง่ ชาต,ิ 2548. สานกั บรหิ ารงานการศกึ ษานอกโรงเรยี น. สานกั งานปลดั กระทรวงศึกษาธกิ าร.แนวทางการ จัดการศึกษานอกโรงเรยี นตามแนวเศรษฐกิจพอเพียงชุมชนโดยกระบวนการการ ศกึ ษานอกโรงเรยี น. กรุงเทพฯ: ห้างห้นุ สว่ นจากัดโรงพมิ พอ์ กั ษรไทย (นสพ.ฟา้ เมอื งไทย). 2550. ศนู ยก์ ารศกึ ษานอกโรงเรยี นภาคกลาง. สานกั บรหิ ารงานการศึกษานอกโรงเรยี น.สานักงาน ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ.กระทรวงศึกษาธิการ.หลักสตู รเศรษฐกจิ พอเพียงสาหรับ เกษตรกร. ศูนย์การศกึ ษานอกโรงเรยี นภาคกลาง.2549. (เอกสารอัดสาเนา) สานักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสงั คมแหง่ ชาต.ิ คณะอนุกรรมการขบั เคลื่อน เศรษฐกจิ พอเพียง. นานาคาถามเก่ียวกบั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง. 2548. สานกั งานคณะกรรมการพิเศษเพ่ือประสานงานโครงการอันเน่อื งมาจากพระราชดาร.ิ เศรษฐกิจ พอเพียง. 2547. จตพุ รสุขอนิ ทร์ และมังกโรทัย. “สรา้ งชีวิตใหมอ่ ยา่ งพอเพยี งดว้ ย บญั ชคี รวั เรอื น” เดลนิ วิ ส์ หนา้ 30 ฉบบั วันจนั ทร์ที่ 20 เมษายน พ.ศ. 2522. จินตนากิจมี. “เกษตรพอเพียงแห่งบา้ นป่าไผ่”. มติชนหน้า 10 ฉบบั วันเสาร์ที่ 28 มนี าคม พ.ศ. 2552. นพกนก บรุ ุตนันท์, การพฒั นาหน่วยการเรยี นรู้แบบบูรณาการเศรษฐกิจพอเพียง. ศนู ย์การศกึ ษานอกโรงเรยี นจงั หวัดมกุ ดาหาร: 2550. ผกาพนั ธ์ วัฒนปาณ.ี “การจดั กระบวนการเรียนรู้ การจดั สภาพแวดล้อมเพอื่ ส่งเสริมการ ดาเนนิ ชีวติ ตามหลกั เศรษฐกิจในครวั เรอื น”. เอกสารอัดสาเนา, ๒๕๕๓. เอกรนิ ทร์ สม่ี หาศาลและคณะคุณธรรมนาความรูส้ ู่.....เศรษฐกิจพอเพยี ง ป.6. กรงุ เทพฯ : บรษิ ัทอกั ษรเจรญิ ทัศน์ อาทจากัด. มปพ. เอกสารพัฒนาทกั ษะวิชาการเพ่อื ยกระดับผลสัมฤทธ์ิผเู้ รียนรายบุคคล ทช31001 35 ระดับมัธยมศกึ ษาปลาย
36 คณะผจู้ ัดทา ทีป่ รกึ ษา ผ้อู านวยการสานักงาน กศน.จงั หวดั ขอนแก่น รองผ้อู านวยการสานกั งาน กศน.จังหวดั ขอนแกน่ 1. นายถาวร พลีดี สงั กดั สานกั งาน กศน.จังหวดั ขอนแก่น 2. พ.อ.อ กฤชพล พรมลี 3. ผู้อานวยการ กศน.อาเภอ คณะทางาน ผู้อานวยการ กศน.อาเภอหนองนาคา ครูชานาญการพเิ ศษ กศน.อาเภอเมืองขอนแก่น 1. นางสาวประภาศริ ิ สมวงศษ์ า ครู กศน.อาเภอมัญจาครี ี 2. นางสาวธนั ยพฒั น์ นูเร ครู กศน.อาเภอชมุ แพ 3. นางสาวภชั ณีภรณ์ บารุงราษฎร์ ครผู ชู้ ่วย กศน.อาเภอมัญจาครี ี 4. นางสาวกิตตมิ า ตั้งจิตเจริญกิจ ครูผู้ชว่ ย กศน.อาเภอพระยนื 5. นายสมบูรณ์ ยทุ ธชัย ครผู ู้ชว่ ย กศน.อาเภอภเู วยี ง 6. นางสาวพณั ณ์ชิตา สนทิ ชน 7. นางสาวกุลภานัน เชือ้ นดิ บรรณาธกิ าร รองผู้อานวยการสานกั งาน กศน.จังหวดั ขอนแกน่ ผอู้ านวยการ กศน.อาเภอหนองนาคา 1. พ.อ.อ กฤชพล พรมลี ครูชานาญการพิเศษ กศน.อาเภอเมืองขอนแก่น 2. นางสาวประภาศริ ิ สมวงศ์ษา ครู กศน.อาเภอมญั จาครี ี 3. นางสาวธนั ยพัฒน์ นเู ร ครู กศน.อาเภอชุมแพ 4. นางสาวภชั ณภี รณ์ บารุงราษฎร์ 5. นางสาวกติ ตมิ า ตั้งจติ เจริญกิจ พมิ พ์/รปู เลม่ ครู กศน.อาเภอชมุ แพ นกั จดั การงานทัว่ ไป 1. นางสาวกิตตมิ าต้ังจติ เจริญกิจ นักวชิ าการศึกษา 2. นายธนกฤษ โคตรภักดี นกั วเิ คราะหน์ โยบายและแผน 3. นางวนั เพญ็ ผานาค นกั วิชาการศกึ ษา 4. นางสาวยลดา พทุ ธสอน 5. นายธรี วัฒน์ ถมหนวด 36 เอกสารพัฒนาทกั ษะวชิ าการเพื่อยกระดับผลสัมฤทธ์ิผเู้ รียนรายบุคคล ทช31001 ระดัมธั ยมศกึ ษาตอนปลาย
เอกสารพััฒนาทักั ษะวิิชาการ เพื่อ่� ยกระดัับผลสััมฤทธิ์�์ผู้้�เรีียนรายบุคุ คล ระดับั มัธั ยมศึกึ ษาตอนปลาย รายวิิชา สุุขศึกึ ษา พลศึึกษา ทช31002 ตามหลัักสููตรการศึกึ ษานอกระบบระดัับการศึึกษาขั้้น� พื้้�นฐาน พุุทธศักั ราช 2551 สำ�ำ นัักงานส่่งเสริมิ การศึึกษานอกระบบและการศึกึ ษาตามอัธั ยาศัยั จังั หวััดขอนแก่่น สำำ�นัักงานส่่งเสริิมการศึึกษานอกระบบและการศึกึ ษาตามอัธั ยาศััย สำ�ำ นักั งานปลััดกระทรวงศึกึ ษาธิกิ าร กระทรวงศึกึ ษาธิิการ
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273
- 274
- 275
- 276
- 277
- 278
- 279
- 280
- 281
- 282
- 283
- 284
- 285
- 286
- 287
- 288
- 289
- 290
- 291
- 292
- 293
- 294
- 295
- 296
- 297
- 298
- 299
- 300
- 301
- 302
- 303
- 304
- 305
- 306
- 307
- 308
- 309
- 310
- 311
- 312
- 313
- 314
- 315
- 316
- 317
- 318
- 319
- 320
- 321
- 322
- 323
- 324
- 325
- 326
- 327
- 328
- 329
- 330
- 331
- 332
- 333
- 334
- 335
- 336
- 337
- 338
- 339
- 340
- 341
- 342
- 343
- 344
- 345
- 346
- 347
- 348
- 349
- 350
- 351
- 352
- 353
- 354
- 355
- 356
- 357
- 358
- 359
- 360
- 361
- 362
- 363
- 364
- 365
- 366
- 367
- 368
- 369
- 370
- 371
- 372
- 373
- 374
- 375
- 376
- 377
- 378
- 379
- 380
- 381
- 382
- 383
- 384
- 385
- 386
- 387
- 388
- 389
- 390
- 391
- 392
- 393
- 394
- 395
- 396
- 397
- 398
- 399
- 400
- 401
- 402
- 403
- 404
- 405
- 406
- 407
- 408
- 409
- 410
- 411
- 412
- 413
- 414
- 415
- 416
- 417
- 418
- 419
- 420
- 421
- 422
- 423
- 424
- 425
- 426
- 427
- 428
- 429
- 430
- 431
- 432
- 433
- 434
- 435
- 436
- 437
- 438
- 439
- 440
- 441
- 442
- 443
- 444
- 445
- 446
- 447
- 448
- 449
- 450
- 451
- 452
- 453
- 454
- 455
- 456
- 457
- 458
- 459
- 460
- 461
- 462
- 463
- 464
- 465
- 466
- 467
- 468
- 469
- 470
- 471
- 472
- 473
- 474
- 475
- 476
- 477
- 478
- 479
- 480
- 481
- 482
- 483
- 484
- 485
- 486
- 487
- 488
- 489
- 490
- 491
- 492
- 493
- 494
- 495
- 496
- 497
- 498
- 499
- 500
- 501
- 502
- 503
- 504
- 505
- 506
- 507
- 508
- 509
- 510
- 511
- 512
- 513
- 514
- 515
- 516
- 517
- 518
- 519
- 520
- 521
- 522
- 523
- 524
- 525
- 526
- 527
- 528
- 529
- 530
- 531
- 532
- 533
- 534
- 535
- 536
- 537
- 538
- 539
- 540
- 541
- 542
- 543
- 544
- 545
- 546
- 547
- 548
- 549
- 550
- 551
- 552
- 553
- 554
- 555
- 556
- 557
- 558
- 559
- 560
- 561
- 562
- 563
- 564
- 565
- 566
- 567
- 568
- 569
- 570
- 571
- 572
- 573
- 574
- 575
- 576
- 577
- 578
- 579
- 580
- 581
- 582
- 583
- 584
- 585
- 586
- 587
- 588
- 589
- 590
- 591
- 592
- 593
- 594
- 595
- 596
- 597
- 598
- 599
- 600
- 601
- 602
- 603
- 604
- 605
- 606
- 607
- 608
- 609
- 610
- 611
- 612
- 613
- 614
- 615
- 616
- 617
- 618
- 619
- 620
- 621
- 622
- 623
- 624
- 625
- 626
- 627
- 628
- 629
- 630
- 631
- 632
- 633
- 634
- 635
- 636
- 637
- 638
- 639
- 640
- 641
- 642
- 643
- 644
- 645
- 646
- 647
- 648
- 649
- 650
- 651
- 652
- 653
- 654
- 655
- 656
- 657
- 658
- 659
- 660
- 661
- 662
- 663
- 664
- 665
- 666
- 667
- 668
- 669
- 670
- 671
- 672
- 673
- 674
- 1 - 50
- 51 - 100
- 101 - 150
- 151 - 200
- 201 - 250
- 251 - 300
- 301 - 350
- 351 - 400
- 401 - 450
- 451 - 500
- 501 - 550
- 551 - 600
- 601 - 650
- 651 - 674
Pages: