แนวทางการจัดประสบการณก์ ารเรียนรู้ การศึกษาปฐมวัย ภาคเรยี นที่...1... สำหรบั เด็กทีม่ ีความตอ้ งการจำเป็นพิเศษ ช่วงอายุ .....4-5...... ปี สาระการเรยี นรทู้ ี่..3.. หน่วย สตั ว์รอบตวั วนั ท่ี 1 สตั ว์รอบตวั เรา กิจกรรมเสริมประสบการณ์ สาระที่ควรเรียนรู้ สตั วร์ อบตัวเรามอี ยู่มากมายหลายชนิด แบ่งออกเป็น 2 ประเภท ตามลักษณะทอ่ี ย่อู าศยั ไดแ้ ก่ สัตวเ์ ลยี้ ง เชน่ แมว สนุ ขั เป็ด ไก่ ววั และสตั วป์ ่า เช่น สิงโต เสอื ยีราฟ ชา้ ง งู เป็นตน้ สตั วท์ กุ ชนดิ ตา่ งมคี วามสมั พันธ์กบั สงิ่ แวดลอ้ มและทอ่ี ยู่อาศัย เราจึงควรใหค้ วามเมตตาสตั ว์ เพื่อใหค้ นและสัตวอ์ ยรู่ ่วมกนั ไดอ้ ย่างมคี วามสขุ สาระสาคญั เดก็ ไดเ้ รียนรูเ้ กี่ยวกับลกั ษณะของสัตวเ์ ลยี้ งท่ีสามารถเลยี้ งไวด้ ูเลน่ ภายในบา้ นเพอ่ื คลายเหงา เชน่ แมว กระต่าย ปลา นก ฯลฯ และสตั วเ์ ลยี้ งทเ่ี ลยี้ งไวใ้ ชง้ าน เช่น มา้ วัว ชา้ ง เป็นตน้ มาตรฐานคณุ ลกั ษณะที่พึงประสงค์ / ประสบการณ์สาคญั รา่ งกาย อารมณ์ จติ ใจ สงั คม สติปัญญา มาตรฐานคุณลักษณะทพ่ี งึ ประสงค์ มฐ.1 มฐ.2 มฐ.3 มฐ.4 มฐ.5 มฐ.6 มฐ.7 มฐ.8 มฐ.9 มฐ.10 มฐ.11 มฐ.12 1.2, 1.3 2.1, 2.2 3.1, 3.2 4.1 5.4 6.1 7.2 8.2, 8.3 9.1,9.2 10.1,10.2, 11.2 12.1,12.2 10.3 ประสบการณ์สาคัญ 1.2 มสี ขุ ภาพ 3.1 แสดงออกทางอารมณไ์ ด้ 6.1 ชว่ ยเหลอื ตนเองในการ 9.1 รับรแู้ ละเขา้ ใจความหมายของภาษาได้ อนามยั สขุ นิสยั ทดี่ ี อย่างเหมาะสม ปฏิบัติกิจวตั รประจำวนั (สภาพท่ีพงึ ประสงค)์ (สภาพทพ่ี ึงประสงค์) (สภาพทพี่ ึงประสงค)์ (สภาพที่พงึ ประสงค)์ 9.2 แสดงออกและ/หรือพูดเพอื่ สื่อ 1.3 รกั ษาความ 3.2 มคี วามรสู้ ึกทีด่ ีตอ่ ตนเอง 7.2 ดแู ลรกั ษาธรรมชาติ ความหมายได้ (สภาพท่ีพงึ ประสงค์) ปลอดภยั ของตนเอง และผู้อื่น และส่ิงแวดล้อม 10.1 มคี วามสามารถในการคิดรวบยอด และผอู้ ่นื (สภาพท่ีพงึ ประสงค์) 8.2 มีปฏสิ มั พันธ์ทด่ี กี ับผูอ้ นื่ (สภาพทีพ่ งึ ประสงค์) (สภาพทพี่ งึ ประสงค)์ 4.1 สนใจ มีความสุขและ (สภาพท่พี ึงประสงค)์ 10.2 มคี วามสามารถในการคิดเชิงเหตุผล 2.1 เคลื่อนไหว แสดงออกผ่านงานศิลปะดนตรี 8.3 ปฏิบตั ติ นเบื้องต้นใน (สภาพที่พงึ ประสงค์) ร่างกายอยา่ ง และการเคล่อื นไหว การเป็นสมาชิกทีด่ ีของสังคม 10.3 มีความสามารถในการคดิ แก้ปัญหาและ คล่องแคลว่ ประสาน (สภาพท่ีพงึ ประสงค์) (สภาพท่ีพงึ ประสงค)์ ตัดสินใจ (สภาพท่ีพงึ ประสงค์) สัมพนั ธแ์ ละทรงตวั 5.4 มีความรับผดิ ชอบ (สภาพที่ 11.2 แสดงทา่ ทาง/เคลอ่ื นไหวตามจนิ ตนาการ ได้(สภาพทพ่ี งึ พึงประสงค์) อย่างสร้างสรรค์(สภาพทีพ่ งึ ประสงค์) ประสงค)์ 12.1 มีเจตคติที่ดตี อ่ การเรียนรู้ 2.2 ใชม้ อื -ตา (สภาพที่พงึ ประสงค์) ประสานสัมพันธก์ นั 12.2 มคี วามสามารถในการแสวงหาความรู้
(สภาพที่พึงประสงค)์ (สภาพท่ีพงึ ประสงค์) จดุ ประสงค์ 1. บอกลกั ษณะและประโยชนข์ องสตั วเ์ ลยี้ งได้ 2. พัฒนากลา้ มเนอื้ มือและตาใหป้ ระสานสมั พันธก์ ันจากการลากเสน้ กิจกรรมการเรยี นรู้ ขนั้ นา 1. ครูและเด็กรว่ มกนั รอ้ งเพลง เสียงลูกสตั ว์ แลว้ ทาท่าทางเคล่ือนไหวตามจนิ ตนาการ 2. ครูสนทนาเก่ยี วกับเนอื้ เพลง โดยถามคาถาม เช่น ในเนอื้ เพลงกลา่ วถึงสตั วช์ นิดใด และจดั อย่ใู นประเภทสัตวอ์ ะไร เด็กๆ เคยเลยี้ งสัตวเ์ ลยี้ งอะไรบา้ ง ขนั้ สอน 1. ครูใหเ้ ด็กออกมาเลา่ ประสบการณเ์ กีย่ วกับสตั วเ์ ลยี้ งท่ีตนเองเคยเลยี้ งวา่ เป็นสัตวอ์ ะไร มีลักษณะและ มีวธิ ีการดูแลอย่างไร 2. เมอื่ เล่าเสร็จ ครูใหเ้ ดก็ ดบู ัตรภาพสตั วเ์ ลยี้ งชนิดตา่ งๆ เช่น แมว สนุ ขั นก ปลา เป็นตน้ และสนทนาเก่ียวกบั ภาพวา่ มีสัตวช์ นดิ ใดบา้ ง และมวี ธิ ีการดแู ลอยา่ งไร 3. ครูนาภาพสัตวเ์ ลยี้ งตา่ งๆ มาใหเ้ ด็กลงคะแนนสารวจความชอบสัตวเ์ ลยี้ งชนดิ ตา่ งๆ แลว้ สรุปผลว่าสัตว์ ชนดิ ใดท่ีเด็กๆ ชอบและอยากเลยี้ งมากท่สี ดุ พรอ้ มซักถามเหตผุ ลของเด็กแต่ละคน 4. ครูอธบิ ายเพ่มิ เติมเกีย่ วกบั ลักษณะความแตกตา่ งของสัตวเ์ ลยี้ งไวด้ ูเลน่ กบั สัตวเ์ ลยี้ งไวใ้ ชง้ านวา่ สตั วเ์ ลยี้ ง เราเลีย้ งไวด้ เู ลน่ เป็นเพ่ือนคลายเหงาจะมีความนา่ รกั ไม่ดรุ า้ ย เช่น นก ปลา แมว สว่ นสัตวท์ ่เี ลยี้ งไวใ้ ชง้ าน เราเลยี้ งไวใ้ นการทางาน จะมคี วามแขง็ แรง เช่น ววั ควาย มา้ 5. ครูใหเ้ ดก็ เรยี นรูค้ าศัพทช์ ่ือสตั วเ์ ลยี้ งประกอบภาพ พรอ้ มฝึกออกเสียงตามครู เช่น แมว cat สุนัข dog นกแกว้ parrot ปลาทอง goldfish ขนั้ สรุป 1. ครูและเดก็ รว่ มกันสรุปคะแนนความชอบสัตว์ และสรุปเหตผุ ลของความชอบสตั วส์ นั้ ๆ ใหเ้ พอ่ื นเขา้ ใจ 2. ครูใหค้ วามรูเ้ กยี่ วกับการดแู ลสัตวเ์ ลยี้ งใหม้ ีความสุข เราตอ้ งรูจ้ ักเมตตาใหค้ วามรกั และดแู ลใหอ้ าหาร ทาความสะอาด เป็นตน้ 3. ครูใหเ้ ดก็ ทากิจกรรมในหนงั สือเสรมิ ฯ ธรรมชาติรอบตวั อ.2 กิจกรรม ทายเสยี งสตั ว์เลยี้ ง หนา้ 9 ฟังปรศิ นาคาทายจากครู และลากเสน้ ไปหาภาพทเ่ี ป็นคาตอบ แลว้ คัดคาศพั ทต์ ามรอยประ
ประเมินผล 2. สังเกตการจัดกลมุ่ ประเภทของสัตว์ 1. สงั เกตการสนทนาและการตอบคาถาม 4. สงั เกตผลงานการทากจิ กรรม ทายเสียงสตั วเ์ ลยี้ ง 3. สังเกตการทากจิ กรรมร่วมกัน ส่ือการเรยี นรู้ 1. เพลง เสยี งลูกสตั ว์ 2. บัตรคาศพั ทช์ อื่ สตั วเ์ ลยี้ ง สตั วเ์ ลยี้ งไวใ้ ชง้ าน 3. บัตรภาพสตั วเ์ ลยี้ ง เชน่ แมว สนุ ัข นก ปลาทอง 4. แผนภมู ิลงคะแนนความชอบสัตวเ์ ลยี้ ง 5. หนังสอื เสรมิ ฯ ธรรมชาตริ อบตวั อ.2 กิจกรรม ทายเสยี งสตั วเ์ ลยี้ ง หนา้ 9 ภาคผนวก เพลง เสยี งลูกสตั ว์ เพลง เสยี งลกู สตั ว์ คารอ้ ง-ทานอง กัมปนาท โนนศรี มาพวกเรามาฟังเสยี งลูกสตั ว์ สารพดั เสียงรอ้ งมากมาย เหมยี ว เหมยี ว เหมียว เสยี งแมวตัวลาย วัวตวั ใหญ่รอ้ ง มอ มอ มอ เจา้ หมมู ตัวอว้ นรอ้ ง อูด อู๊ด อดู เป็ดเดนิ มารอ้ ง กา้ บ ก๊าบ กา้ บ เจา้ หมาเหา่ โฮง่ โฮง่ โฮ่ง โฮง่ น่นั เจา้ ไกโ่ ตง้ ขัน เอก้ อเี้ อก้ เอก้ เหมยี วๆ มอๆ อ๊ดู ๆ กา๊ บๆ โฮ่งๆ เอก้ อเี้ อก้ เอก้ .....(ซา้ 2 ครงั้ ) ดาวน์โหลดเพลงที่มสี ญั ลกั ษณ์น้ไี ดท้ ี่ www.aksorn.com บตั รคาศัพทช์ ือ่ สตั ว์ cat dog parrot goldfish แมว สุนัข นกแกว้ ปลาทอง ตวั อย่างบตั รภาพ
แนวทางการจดั ประสบการณก์ ารเรียนรู้ การศึกษาปฐมวัย ภาคเรียนที่...1... สำหรับเดก็ ทมี่ คี วามต้องการจำเปน็ พเิ ศษ ชว่ งอายุ .....4-5...... ปี สาระการเรียนรทู้ .ี่ .3.. หนว่ ย สตั วร์ อบตวั วนั ท่ี 2 สตั ว์เลยี้ งในฟารม์ กิจกรรมเสริมประสบการณ์ สาระท่ีควรเรียนรู้ สตั วร์ อบตัวเรามอี ยู่มากมายหลายชนดิ แบง่ ออกเป็น 2 ประเภท ตามลกั ษณะทอ่ี ยู่อาศัย ไดแ้ ก่ สัตวเ์ ลยี้ ง เชน่ แมว สุนขั เป็ด ไก่ วัว และสัตวป์ ่า เช่น สงิ โต เสอื ยีราฟ ชา้ ง งู เป็นตน้ สัตวท์ ุกชนดิ ตา่ งมคี วามสมั พันธ์กับ ส่ิงแวดลอ้ มและท่อี ยู่อาศัย เราจงึ ควรใหค้ วามเมตตาสัตว์ เพ่ือใหค้ นและสัตวอ์ ย่รู ่วมกนั ไดอ้ ยา่ งมคี วามสุข สาระสาคญั เดก็ ไดเ้ รียนรูเ้ กี่ยวกบั ความสัมพนั ธ์ของสตั วก์ บั ที่อย่อู าศัย ไดแ้ ก่ สตั วท์ เี่ ลยี้ งไวใ้ นฟารม์ โดยใหป้ ระโยชน์ กับผเู้ ลยี้ ง เชน่ วัวใหน้ มและเนอื้ เป็ด ไกใ่ หไ้ ข่และเนอื้ เป็นตน้ มาตรฐานคณุ ลกั ษณะท่พี งึ ประสงค์ / ประสบการณ์สาคญั รา่ งกาย อารมณ์ จติ ใจ สงั คม สติปัญญา มฐ.1 มฐ.2 มาตรฐานคุณลักษณะทีพ่ งึ ประสงค์ มฐ.10 มฐ.11 มฐ.12 1.2, 1.3 2.1, 2.2 10.1,10.3 11.1,11.2 12.1,12.2 มฐ.3 มฐ.4 มฐ.5 มฐ.6 มฐ.7 มฐ.8 มฐ.9 3.1, 3.2 4.1 5.4 6.1 7.2 8.2, 8.3 9.1,9.2 ประสบการณส์ าคญั 1.2 มสี ุขภาพ 3.1 แสดงออกทางอารมณไ์ ด้ 6.1 ช่วยเหลอื ตนเองในการ 9.1 รบั รู้และเขา้ ใจความหมายของภาษาได้ ปฏบิ ัติกจิ วตั รประจำวัน (สภาพท่พี ึงประสงค)์ อนามยั สขุ นิสัยทดี่ ี อยา่ งเหมาะสม (สภาพทีพ่ ึงประสงค)์ 9.2 แสดงออกและ/หรอื พูดเพอื่ สอ่ื (สภาพทีพ่ งึ ประสงค์) (สภาพทพ่ี งึ ประสงค์) 7.2 ดแู ลรกั ษาธรรมชาติ ความหมายได้ (สภาพที่พึงประสงค์) 1.3 รกั ษาความ 3.2 มคี วามรสู้ กึ ที่ดตี อ่ ตนเอง และส่ิงแวดล้อม 10.1 มคี วามสามารถในการคิดรวบยอด 8.2 มปี ฏิสมั พนั ธ์ทดี่ กี ับผอู้ น่ื (สภาพทพ่ี งึ ประสงค์) ปลอดภยั ของตนเอง และผอู้ ื่น และผูอ้ น่ื (สภาพทพี่ ึงประสงค์) (สภาพท่พี ึงประสงค)์ 4.1 สนใจ มคี วามสขุ และ (สภาพท่ีพึงประสงค์) 10.2 มีความสามารถในการคดิ เชิงเหตผุ ล 2.1 เคลอื่ นไหว แสดงออกผ่านงานศลิ ปะดนตรี 8.3 ปฏิบัติตนเบื้องตน้ ใน (สภาพที่พงึ ประสงค์) รา่ งกายอยา่ ง และการเคล่ือนไหว การเป็นสมาชกิ ที่ดีของสงั คม 10.3 มีความสามารถในการคิดแก้ปญั หาและ คล่องแคล่วประสาน (สภาพทพ่ี ึงประสงค์) (สภาพทีพ่ งึ ประสงค์) ตดั สินใจ (สภาพทีพ่ งึ ประสงค)์ 11.2 แสดงท่าทาง/เคลือ่ นไหวตามจนิ ตนาการ สมั พันธ์และทรงตัว 5.4 มคี วามรบั ผดิ ชอบ (สภาพท่ี ได้(สภาพทพี่ งึ พงึ ประสงค)์ อยา่ งสรา้ งสรรค์(สภาพที่พึงประสงค)์ ประสงค์) 12.1 มเี จตคติท่ีดีตอ่ การเรียนรู้
2.2 ใช้มอื -ตา (สภาพท่ีพงึ ประสงค)์ ประสานสัมพนั ธ์กนั 12.2 มคี วามสามารถในการแสวงหาความรู้ (สภาพที่พงึ ประสงค)์ (สภาพท่ีพงึ ประสงค)์ จุดประสงค์ 1. บอกช่ือและลักษณะของสัตวท์ ่อี าศยั อยู่ในฟารม์ ได้ 2. สงั เกต นบั จานวน และเขยี นตัวเลขบอกจานวนได้ กิจกรรมการเรียนรู้ ขนั้ นา 1. ครูเล่านทิ านเกี่ยวกับสัตวช์ นดิ ตา่ งๆ ทเี่ ลยี้ งไวใ้ นฟารม์ แลว้ สนทนาเกีย่ วกบั เนอื้ เรอ่ื งในนิทาน โดยถาม คาถามกระตนุ้ การคดิ ดังนี้ ในนทิ านมีสัตวอ์ ะไรบา้ ง และมรี ูปรา่ งลกั ษณะอย่างไร เด็กๆ คดิ ว่าเราเลยี้ งสัตวใ์ นฟารม์ ไวเ้ พอ่ื อะไร และมีประโยชนอ์ ยา่ งไร เดก็ ๆ เคยไปเทย่ี วท่ีไหนอกี บา้ งที่มสี ตั ว์ 2. ครูใหเ้ ด็กสนทนาแลกเปลี่ยนประสบการณร์ ว่ มกนั แลว้ ใหอ้ าสาสมัคร 2-3 คน ออกมาเล่าประสบการณ์ เกีย่ วกับสัตวช์ นิดตา่ งๆ ทเ่ี ลยี้ งไวท้ บี่ า้ นใหเ้ พือ่ นฟัง ขนั้ สอน 1. ครูใหเ้ ด็กคดิ ชื่อสตั วท์ ่ีรูจ้ กั โดยไม่ใหซ้ า้ กับเพอ่ื น มาคนละ 1 ช่อื แลว้ ทาเสยี งรอ้ งเลียนแบบเสยี งของสัตว์ ประกอบการบอกชอื่ 2. ครูใหเ้ ด็กแบ่งกลมุ่ กลุ่มละ 4-5 คน ครูแจกชดุ สตั วจ์ าลอง เชน่ มา้ หมู ววั ไก่ เป็ด เสอื ยรี าฟ ปลา มา้ นา้ กงุ้ เตา่ ฮปิ โป กล่มุ ละ 1 ชุด 3. ครูใหเ้ ด็กแต่ละกลุ่มชว่ ยกนั จัดกล่มุ ประเภทสตั วต์ ามขอ้ ตกลงของกล่มุ 4. ครูใหอ้ าสาสมคั รของแตล่ ะกลมุ่ ออกมานาเสนอผลการจดั กลุ่มประเภทสัตว์ โดยนาเสนอตามหวั ข้อ ดังนี้ จัดกลุ่มประเภทสตั วอ์ ะไรบา้ ง และจัดไดก้ กี่ ลมุ่ เพราะอะไรจึงจดั กลมุ่ ประเภทสตั วแ์ บบนี้ พรอ้ มใหเ้ หตุผลสนั้ ๆ ประกอบ 5. ครูใหเ้ ด็กเรยี นรูค้ าศัพทช์ ื่อสตั ว์ และฝึกออกเสียง เช่น มา้ horse หมู pig ววั cow แม่ไก่ hen แกะ sheep เป็ ด duck เป็นตน้ ขนั้ สรปุ 1. ครูและเดก็ รว่ มกนั สรุปความรูเ้ กี่ยวกับประเภทของสัตวว์ ่า เราสามารถแบง่ ประเภทของสตั วไ์ ดจ้ ากทอี่ ยู่ อาศยั เช่น สตั วเ์ ลยี้ ง สัตวป์ ่า สตั วน์ า้ หรอื อาจแยกไดต้ ามลกั ษณะประเภทของสตั ว์ เชน่ สตั วเ์ ลยี้ งไว้ ดเู ล่น เลยี้ งไวใ้ ชง้ าน หรือเลยี้ งไวเ้ ป็นอาหาร เป็นตน้
2. ครูใหเ้ ดก็ สังเกตภาพในหนังสอื เสริมฯ ธรรมชาติรอบตัว อ.2 กจิ กรรม สตั วเ์ ลยี้ งในฟารม์ หนา้ 10 สนทนาและสังเกตภาพ นับจานวนสัตวแ์ ตล่ ะชนิด และคดั ชอื่ สัตวต์ ามรอยประ แลว้ เขียนตวั เลขตาม จานวนสัตวท์ นี่ บั ไดล้ งใน ประเมินผล 1. สังเกตการสนทนาและการตอบคาถาม 2. สงั เกตการจดั กลุ่มประเภทของสัตว์ 3. สงั เกตการทากจิ กรรมรว่ มกัน 4. สังเกตผลงานการทากิจกรรม สตั ว์เลยี้ งในฟารม์ สื่อการเรยี นรู้ 1. นิทานเกยี่ วกับสตั ว์ 2. สตั วจ์ าลองหลากหลายชนดิ 3. บตั รคาศพั ทช์ ่อื สัตว์ 4. บัตรภาพสตั ว์ 5. หนังสอื เสรมิ ฯ ธรรมชาตริ อบตวั อ.2 กจิ กรรม สตั ว์เลยี้ งในฟาร์ม หนา้ 10 ภาคผนวก นิทานเกี่ยวกบั สตั ว์ นิทานเรื่อง วัวผู้อวดรู้ (ไม่ทราบนามผแู้ ตง่ ) กาลครงั้ หนงึ่ นานมาเเลว้ มีฟารม์ เลยี้ งสัตวแ์ หง่ หนงึ่ มีสัตวอ์ าศัยอยูม่ ากมาย หนึ่งในนน้ั มสี ตั วอ์ ยู่กลุ่มหนง่ึ มี 4 ตวั ไดเ้ เก่ ววั ไก่ มา้ และแกะ สัตวท์ ัง้ สเ่ี ป็นเพื่อนรกั กนั มาก แต่แลว้ วันหนึง่ กม็ คี นงานนาฟางไปเผาทาใหเ้ กิด กลิน่ ไหม้ และแลว้ วัวท่ีไม่รอู้ ะไรและมนี ิสยั คิดว่าตนเป็นผรู้ ดู้ ีไปหมดและไม่รอบคอบ รบี ไปประกาศบอกสตั วต์ ัวอน่ื ว่า ไฟไหมฟ้ ารม์ ทาใหส้ ัตวต์ วั อน่ื ท่ไี ม่รอู้ ะไรกเ็ ชอ่ื เเละวิง่ ออกจากฟารม์ เหยยี บกันตาย สว่ นสัตวบ์ างตัวท่ีรอดกย็ งั คง อย่ใู นฟารม์ วนั ต่อมามา้ จงึ เตอื นวัววา่ \"ถา้ เจา้ ไมร่ ูอ้ ะไรกอ็ ย่าเพ่ิงไปประกาศบอกสตั ว์ตวั อ่ืนอีกนะ มิฉะนนั้ จะเกดิ ความ หายนะแบบเมอ่ื วานนอี้ กี \" แตว่ วั ก็ยังไมเ่ ชอื่ ความหวงั ดขี องมา้ และเขา้ ใจว่ามา้ อิจฉาตนซ่ึงเป็นผรู้ ไู้ ปหมดทกุ อย่าง มันจงึ ไดพ้ ูดกบั วัววา่ \"เจ้าจงออกจากกลมุ่ เราไป เราไมอ่ ยากมีเพอื่ นทข่ี อี้ ิจฉาเเบบเจ้าอกี \" มา้ ไดย้ ินดังนน้ั จงึ เสียใจมากและบอกลาววั เพอ่ื นรกั ของมันไปวา่ \"เเลว้ เเตเ่ จ้าเพราะเราบอกดว้ ยความหวงั ดี ถา้ ไม่รับ ก็ไม่ตอ้ งก็ได้ ขา้ ยินดีออกจากกล่มุ \" วนั ตอ่ มาวัวไปเดินเล่นทร่ี มิ แมน่ า้ ลาธาร มันไดเ้ หน็ เป็ดกลมุ่ หนึ่งมากิน นา้ ทลี่ าธารจงึ คาดเดาวา่ เป็ดกลุ่มนจี้ ะมายดึ เอาลาธารสายนไี้ ปครองจึงไปประกาศบอกสตั วต์ วั อ่ืนว่า \"แยเ่ เลว้ ! พวกเป็ดจะมายึดเอาลาธารไป\" สัตวต์ ัวอนื่ จึงไปดูเเต่เมื่อไมเ่ ป็นความจริง ววั จึงถูกสัตวต์ วั อื่นๆ ในฟารม์ ขับไลอ่ อกไป
มันเสยี ใจมากและไดน้ กึ ถึงความหวังดีของมา้ มันพดู กบั ตัวเองว่า \"ขา้ ไม่นา่ ปฏิเสธความหวงั ดขี องเจา้ เลย\" วา่ เเลว้ เจา้ มา้ กเ็ ดินมาพอดี มา้ จงึ อธิบายใหว้ วั ฟังทง้ั หมดมันทาใหว้ วั กลับใจเป็นสัตวท์ ี่รอบคอบมากกว่านี้ สตั วท์ ง้ั สองไดก้ ลบั มาเป็นเพ่อื นรกั กนั เหมอื นเดมิ เเละวัวก็ไดไ้ ปขอโทษเเละสัญญากับสตั วใ์ นฟารม์ ตัวอื่นว่า ตนจะรอบคอบและไม่อวดเกง่ อีกตอ่ ไป ทาใหส้ ตั วท์ ้งั หลายยอมรบั และยินดีรบั เจา้ วัวกลบั สฟู่ ารม์ อีกครงั้ หนง่ึ นิทานเร่ืองนส้ี อนให้รูว้ ่า ถา้ ยงั ไม่รูอ้ ะไรท่ีเเนน่ อนอย่าไดพ้ ดู ออกไป มิฉะนน้ั อาจจะเกดิ หายนะไดด้ งั เช่นเจา้ ววั บตั รคาศพั ทช์ ่ือสตั ว์ horse pig cow hen มา้ หมู ววั แม่ไก่ บัตรภาพสตั ว์ แนวทางการจัดประสบการณก์ ารเรยี นรู้ การศกึ ษาปฐมวยั ภาคเรยี นที่...1... สำหรับเดก็ ทมี่ ีความตอ้ งการจำเป็นพเิ ศษ ช่วงอายุ .....4-5...... ปี สาระการเรยี นรูท้ ี่..3.. หนว่ ย สตั ว์รอบตวั วนั ที่ 3 สตั ว์เลย้ี ง สตั วป์ ่า กิจกรรมเสริมประสบการณ์ สาระท่คี วรเรียนรู้ สตั วร์ อบตัวเรามอี ย่มู ากมายหลายชนดิ แบ่งออกเป็น 2 ประเภท ตามลกั ษณะท่อี ยอู่ าศัย ไดแ้ ก่ สัตวเ์ ลยี้ ง เชน่ แมว สุนัข เป็ด ไก่ ววั และสตั วป์ ่า เช่น สิงโต เสอื ยีราฟ ชา้ ง งู เป็นตน้ สตั วท์ กุ ชนดิ ตา่ งมคี วามสมั พนั ธก์ ับ สิ่งแวดลอ้ มและทอี่ ย่อู าศัย เราจึงควรใหค้ วามเมตตาสตั ว์ เพ่อื ใหค้ นและสตั วอ์ ยู่ร่วมกนั ไดอ้ ยา่ งมคี วามสขุ
สาระสาคญั เด็กไดเ้ รียนรูเ้ ก่ยี วกับชอ่ื ของสัตวป์ ่า รูปรา่ งลกั ษณะ และแหลง่ ทอ่ี ย่อู าศัยของสตั วป์ ่าแต่ละชนดิ ซง่ึ มี ลักษณะแตกตา่ งกันตามธรรมชาติ เชน่ ชา้ งอยกู่ ันเป็นโขลงในป่าลึก สิงโตอย่กู ันเป็นฝูง อาศัยในป่าพนื้ ที่ ป่าหญ้า จระเขเ้ ป็นสตั วเ์ ลอื้ ยคลานมักอาศัยอยใู่ นบริเวณป่าริมนา้ เพราะหากินในนา้ เป็นตน้ และสตั วเ์ ลยี้ ง ทอ่ี าศยั อยู่ภายในบริเวณบา้ นของคน ซง่ึ มีคนเป็นผดู้ ูแลสัตวเ์ ลยี้ ง อาจเลยี้ งไวด้ ูเลน่ หรือใชง้ าน มาตรฐานคุณลกั ษณะที่พึงประสงค์ / ประสบการณ์สาคญั ร่างกาย อารมณ์ จติ ใจ สงั คม สตปิ ัญญา มาตรฐานคุณลกั ษณะทีพ่ ึงประสงค์ มฐ.1 มฐ.2 มฐ.3 มฐ.4 มฐ.5 มฐ.6 มฐ.7 มฐ.8 มฐ.9 มฐ.10 มฐ.11 มฐ.12 1.2, 1.3 2.1, 2.2 3.1, 3.2 4.1 5.4 6.1 7.2 8.2, 8.3 9.1,9.2 10.1,10.3 11.1,11.2 12.1,12.2 ประสบการณ์สาคญั 1.2 มสี ุขภาพ 3.1 แสดงออกทางอารมณไ์ ด้ 6.1 ชว่ ยเหลือตนเองในการ 9.1 รบั ร้แู ละเข้าใจความหมายของภาษาได้ อนามัยสุขนสิ ัยที่ดี อย่างเหมาะสม ปฏิบัติกจิ วตั รประจำวนั (สภาพท่พี งึ ประสงค)์ (สภาพท่ีพงึ ประสงค)์ (สภาพทีพ่ งึ ประสงค์) (สภาพทีพ่ งึ ประสงค์) 9.2 แสดงออกและ/หรือพดู เพือ่ สอื่ 1.3 รกั ษาความ 3.2 มคี วามรสู้ ึกทีด่ ีตอ่ ตนเอง 7.2 ดแู ลรักษาธรรมชาติ ความหมายได้ (สภาพท่พี งึ ประสงค)์ ปลอดภยั ของตนเอง และผอู้ ื่น และส่ิงแวดลอ้ ม 10.1 มคี วามสามารถในการคิดรวบยอด และผอู้ นื่ (สภาพทพ่ี งึ ประสงค์) 8.2 มปี ฏิสมั พนั ธ์ท่ีดกี บั ผ้อู ่ืน (สภาพที่พงึ ประสงค์) (สภาพทีพ่ งึ ประสงค)์ 4.1 สนใจ มีความสุขและ (สภาพท่ีพงึ ประสงค)์ 10.2 มีความสามารถในการคดิ เชิงเหตผุ ล 2.1 เคล่อื นไหว แสดงออกผ่านงานศลิ ปะดนตรี 8.3 ปฏิบัติตนเบือ้ งตน้ ใน (สภาพทพี่ ึงประสงค)์ ร่างกายอย่าง และการเคล่อื นไหว การเป็นสมาชกิ ที่ดขี องสงั คม 10.3 มคี วามสามารถในการคดิ แก้ปญั หาและ คล่องแคล่วประสาน (สภาพท่พี ึงประสงค)์ (สภาพทพี่ ึงประสงค์) ตดั สนิ ใจ (สภาพท่ีพึงประสงค)์ สัมพนั ธ์และทรงตวั 5.4 มีความรบั ผิดชอบ (สภาพท่ี 11.2 แสดงทา่ ทาง/เคล่อื นไหวตามจนิ ตนาการ ได้(สภาพทพ่ี งึ พึงประสงค์) อยา่ งสร้างสรรค์(สภาพที่พงึ ประสงค์) ประสงค์) 12.1 มีเจตคตทิ ีด่ ีตอ่ การเรยี นรู้ 2.2 ใช้มือ-ตา (สภาพทพ่ี งึ ประสงค์) ประสานสมั พันธก์ นั 12.2 มีความสามารถในการแสวงหาความรู้ (สภาพท่พี งึ ประสงค์) (สภาพทพี่ ึงประสงค)์ จดุ ประสงค์ 1. บอกชอ่ื และลักษณะของสัตวเ์ ลยี้ งและสตั วป์ ่าได้ 2. บอกความสัมพนั ธ์ของสัตวป์ ่ากับทอ่ี ยอู่ าศัยได้ 3. พัฒนากลา้ มเนอื้ มอื และตาใหป้ ระสานสัมพันธ์กนั จากการวาดภาพระบายสี
กิจกรรมการเรียนรู้ ขนั้ นา ครูเลา่ นทิ านเรอ่ื ง ราชสหี ์กบั หนู ใหเ้ ดก็ ฟัง แลว้ สนทนาเก่ียวกบั เนอื้ เรอ่ื ง โดยถามคาถาม ดงั นี้ ราชสหี ค์ อื สัตวช์ นิดใด และมที ี่อยอู่ าศยั อยู่ที่ใด เด็กๆ คดิ ว่าราชสีหแ์ ละหนูมีนิสยั อยา่ งไร เดก็ ๆ รูจ้ ักสตั วช์ นดิ ใดบา้ งท่ีน่าจะอาศัยอยู่ที่เดียวกบั ราชสีห์ ขนั้ สอน 1. ครูนาภาพสตั วป์ ่ามาใหเ้ ด็กสงั เกต แลว้ สนทนาจากภาพ และถามคาถามกระตนุ้ ความคิด ดงั นี้ สตั วช์ นดิ นชี้ ื่ออะไร มีรูปร่างลกั ษณะอย่างไร อาศยั อยทู่ ่ใี ด กนิ อะไรเป็นอาหาร 2. ครูใหเ้ ดก็ แบง่ กลุ่ม 4-5 คน ช่วยกนั ระดมความคิดในการวาดภาพสตั วป์ ่าทีแ่ ตล่ ะคนรูจ้ กั มาใหไ้ ดม้ ากที่สดุ 3. ครูใหเ้ วลาเดก็ ในการคิดเพอื่ วาดภาพสัตวป์ ่า ครูใหค้ วามช่วยเหลอื และเสนอแนะเพม่ิ เตมิ เม่อื เด็กตอ้ งการ 4. ครูใหเ้ ด็กแตล่ ะกลมุ่ ผลดั กนั ออกมานาเสนอผลการวาดภาพเพ่ือสารวจสัตวป์ ่าท่ีรูจ้ ักวา่ มีทงั้ หมดกี่ชนดิ และมีจานวนเท่าไร 5. ครูใหเ้ ด็กเรียนรูค้ าศัพทช์ อื่ สตั วป์ ่า และฝึกออกเสียงคาศัพทต์ ามครู เชน่ ชา้ ง elephant สิงโต lion ยรี าฟ giraffe เสือ tiger เป็นตน้ ขนั้ สรุป 1. ครูและเดก็ ร่วมกันสรุปผลการสารวจชือ่ และลักษณะของสตั วป์ ่าทเี่ ด็กๆ รูจ้ ัก โดยครูใหค้ วามรูเ้ พม่ิ เติม เกย่ี วกบั คุณค่าของสตั วป์ ่าทม่ี ตี อ่ มนุษยแ์ ละธรรมชาติ เช่น สตั วป์ ่าช่วยขยายเมลด็ พันธ์ุไมโ้ ดยจะกินผลไม้ เป็นอาหาร แลว้ ขบั ถ่ายเมล็ดออกมาตามที่ต่างๆ สตั วป์ ่าจะช่วยทาใหด้ นิ สมบูรณ์ เพราะมูลสตั วเ์ ป็นป๋ ยุ บารุงดนิ เป็นตน้ 2. ครูใหเ้ ดก็ สงั เกตภาพในหนังสือเสรมิ ฯ ธรรมชาตริ อบตวั อ.2 กจิ กรรม สตั ว์เลยี้ ง สตั ว์ป่า หนา้ 11จากน้นั สนทนาเกยี่ วกบั ภาพแหลง่ ที่อยูอ่ าศยั ของสัตวป์ ่า และใหเ้ ดก็ วาดภาพสตั วป์ ่าท่หี นูรูจ้ กั แลว้ นาผลงานมา เล่าใหเ้ พ่อื นๆ ฟังหนา้ ช้นั เรียน ประเมินผล 1. สังเกตการสนทนาและการตอบคาถาม 2. สังเกตการเลา่ เร่ืองราวเกย่ี วกับสตั วป์ ่าที่รูจ้ กั 3. สงั เกตการทากจิ กรรมกลมุ่ ร่วมกันกับผอู้ น่ื 4. สงั เกตผลงานการทากจิ กรรม สตั ว์เลยี้ ง สตั วป์ ่า
ส่อื การเรยี นรู้ 1. นิทานเรื่อง ราชสหี ก์ บั หนู 2. ภาพสตั วป์ ่า 3. กระดาษ A4 4. ดนิ สอ สี 5. บัตรคาศพั ทช์ ือ่ สตั วป์ ่า 6. หนังสือเสรมิ ฯ ธรรมชาติรอบตัว อ.2 กจิ กรรม สตั ว์เลยี้ ง สตั ว์ป่า หนา้ 11 ภาคผนวก นทิ านเรอื่ ง ราชสีหก์ บั หนู นิทานเรอ่ื ง ราชสหี ก์ บั หนู (ไม่ทราบนามผแู้ ตง่ ) มีราชสีหต์ วั หนึง่ นอนพักผอ่ นยามบ่ายอย่างมคี วามสขุ แตต่ อ้ งสะดงุ้ ต่นื ขนึ้ มาเพราะมีหนูตวั หน่งึ ขนึ้ มา ว่งิ ไตต่ ามลาตวั โดยไม่รวู้ า่ เป็นร่างของเจา้ ป่า ราชสหี ใ์ ชอ้ งุ้ เทา้ ตะครบุ เอาไวด้ ว้ ยความโกรธเกรยี้ ว ขณะจะลงมือสังหารหนนู ้ันเองกไ็ ดย้ นิ เสียงหนกู ล่าวคาวิงวอนขนึ้ ว่า “ทา่ นผเู้ ป็นราชาแห่งสตั ว์ทง้ั ปวง ไดโ้ ปรด ไวช้ วี ิตขา้ สกั ครงั้ เถิดท่าน เพราะตวั ขา้ นน้ั ทาผดิ ไปโดยหารูไ้ ม่ ตวั ขา้ นน้ั มิไดม้ เี จตนาดูหมิ่นท่านแมแ้ ต่อยา่ งใด” “ฮ.ึ .กไ็ ด้ ในเมอื่ เจ้าไม่ไดม้ เี จตนาขา้ ก็จะปล่อยไปสกั ครงั้ หนง่ึ แลว้ เจา้ อยา่ มากวนใจขา้ อกี ละ่ ” ราชสีหไ์ มอ่ ยากไดช้ ื่อว่ารงั แกผทู้ ่ีอ่อนแอกวา่ จงึ ยอมเลิกรา “บญุ คุณในครงั้ นีข้ า้ จะไมล่ มื เลยตราบชว่ั ชวี ิต ของขา้ หากมโี อกาสในวนั หนา้ ขา้ ตอ้ งตอบแทนท่านอยา่ งแนน่ อน ถา้ ท่านมเี รอ่ื งเดือนรอ้ นอนั ใด โปรดส่งเสยี ง คาราม ขา้ จะรีบมาหาทา่ นในทนั ที” “ฮะ..ฮะ..ฮะ..” ราชสหี ห์ ัวเราะลั่นป่า “สตั วต์ วั เล็กๆ เชน่ เจา้ จะทาอะไรใหข้ า้ ได้ ไป..รบี ไปใหพ้ น้ ขา้ จะไดน้ อนตอ่ เสยี ที” หลงั จากนัน้ ไม่นาน ในขณะท่ีราชสีหอ์ อกล่าเหยื่อเกิดพลาดทา่ เสียทีไปตดิ กับบว่ งของนายพรานเขา้ ดนิ้ อยา่ งไรกไ็ มส่ ามารถหลดุ ออกไปไดจ้ งึ ไดส้ ง่ เสียงรอ้ งลนั่ ป่า หนูจาเสยี งของราชสหี ไ์ ดจ้ ึงรบี มาชว่ ยกัดบว่ งของ นายพรานจนขาด ราชสหี จ์ งึ ไดเ้ ป็นอสิ ระอกี ครง้ั นิทานเร่ืองนสี้ อนใหร้ ู้วา่ อย่าดูถูกคนทีต่ ่าตอ้ ยกวา่ ตน บตั รคาศพั ทช์ อื่ สตั วป์ ่า lion giraffe สงิ โต ยีราฟ elephant ชา้ ง
บตั รภาพสตั วป์ ่า
แนวทางการจดั ประสบการณ์การเรียนรู้ การศกึ ษาปฐมวยั ภาคเรยี นที่...1... สำหรับเด็กที่มคี วามต้องการจำเปน็ พเิ ศษ ช่วงอายุ .....4-5...... ปี สาระการเรยี นรทู้ ี.่ .3.. หน่วย สตั วร์ อบตวั วนั ที่ 4 ชว่ ยกนั อนรุ กั ษ์ชา้ งไทย กิจกรรมเสริมประสบการณ์ สาระที่ควรเรยี นรู้ สตั วร์ อบตัวเรามอี ยูม่ ากมายหลายชนดิ แบง่ ออกเป็น 2 ประเภท ตามลักษณะทีอ่ ยอู่ าศัย ไดแ้ ก่ สัตวเ์ ลยี้ ง เช่น แมว สุนัข เป็ด ไก่ ววั และสตั วป์ ่า เชน่ สิงโต เสอื ยีราฟ ชา้ ง งู เป็นตน้ สัตวท์ กุ ชนิดตา่ งมคี วามสัมพันธ์กบั สิ่งแวดลอ้ มและท่อี ย่อู าศยั เราจงึ ควรใหค้ วามเมตตาสัตว์ เพือ่ ใหค้ นและสัตวอ์ ย่รู ่วมกนั ไดอ้ ย่างมคี วามสุข สาระสาคญั เด็กไดเ้ รยี นรูเ้ กย่ี วกบั วิธกี ารดูแลและอนุรกั ษ์ธรรมชาติดว้ ยวิธีการงา่ ยๆ เชน่ การปลกู ตน้ ไม้ การ ไมส่ นับสนุนกลุม่ คนท่ีนาชา้ งมาเดินขายอาหารตามทอ้ งถนน เพราะสัตวป์ ่าทุกชนิดมคี วามสาคญั และ มีความสัมพนั ธต์ ่อระบบนเิ วศของป่าที่เป็นประโยชนก์ ับสตั วแ์ ละสิง่ มชี ีวิต มาตรฐานคุณลกั ษณะทีพ่ ึงประสงค์ / ประสบการณ์สาคญั รา่ งกาย อารมณ์ จิตใจ สังคม สตปิ ัญญา มฐ.1 มฐ.2 มาตรฐานคุณลักษณะที่พึงประสงค์ มฐ.10 มฐ.11 มฐ.3 มฐ.4 มฐ.5 มฐ.6 มฐ.7 มฐ.8 มฐ.9 มฐ.12 1.2, 1.3 2.1, 2.2 3.1, 3.2 4.1 5.4 6.1 7.2 8.2, 8.3 9.1,9.2 10.1,10.2, 11.1,11.2 12.1,12.2 10.3 ประสบการณส์ าคญั 1.2 มีสขุ ภาพ 3.1 แสดงออกทางอารมณไ์ ด้ 6.1 ช่วยเหลอื ตนเองในการ 9.1 รับรู้และเขา้ ใจความหมายของภาษาได้ อนามยั สขุ นสิ ัยทด่ี ี อย่างเหมาะสม ปฏบิ ตั กิ จิ วตั รประจำวนั (สภาพทีพ่ งึ ประสงค์) (สภาพทพ่ี งึ ประสงค์) (สภาพท่พี ึงประสงค)์ (สภาพท่พี งึ ประสงค)์ 9.2 แสดงออกและ/หรือพดู เพ่ือสือ่ ความหมาย 1.3 รกั ษาความ 3.2 มคี วามรูส้ ึกที่ดีตอ่ ตนเอง 7.2 ดแู ลรักษาธรรมชาติ ได้ (สภาพท่ีพงึ ประสงค)์ ปลอดภยั ของตนเอง และผู้อน่ื และสิ่งแวดลอ้ ม 10.1 มีความสามารถในการคดิ รวบยอด และผูอ้ ื่น (สภาพทพี่ ึงประสงค)์ 8.2 มีปฏสิ ัมพันธท์ ด่ี กี บั ผอู้ ่ืน (สภาพทีพ่ งึ ประสงค)์ (สภาพทพ่ี งึ ประสงค)์ 4.1 สนใจ มคี วามสขุ และ (สภาพทพ่ี งึ ประสงค)์ 10.2 มคี วามสามารถในการคดิ เชิงเหตุผล 2.1 เคลอ่ื นไหว แสดงออกผ่านงานศลิ ปะดนตรี 8.3 ปฏิบตั ิตนเบือ้ งต้นใน (สภาพทพ่ี ึงประสงค์) ร่างกายอย่าง และการเคลอื่ นไหว การเป็นสมาชกิ ท่ีดีของสังคม 10.3 มคี วามสามารถในการคิดแกป้ ญั หาและ คล่องแคลว่ ประสาน (สภาพทพี่ ึงประสงค)์ (สภาพทีพ่ ึงประสงค์) ตดั สินใจ (สภาพทพ่ี ึงประสงค)์ สมั พันธ์และทรงตวั 5.4 มีความรับผดิ ชอบ (สภาพท่ี 11.1 ทำงานศิลปะตามจินตนาการและความคดิ พึงประสงค์) สร้างสรรค์
ได้(สภาพทพ่ี งึ (สภาพที่พึงประสงค์) ประสงค์) 11.2 แสดงทา่ ทาง/เคล่อื นไหวตามจินตนาการ 2.2 ใช้มอื -ตา อย่างสร้างสรรค์(สภาพทพี่ งึ ประสงค์) ประสานสมั พนั ธ์กนั 12.1 มเี จตคติทดี่ ตี อ่ การเรยี นรู้ (สภาพทีพ่ งึ ประสงค)์ (สภาพท่ีพงึ ประสงค์) 12.2 มีความสามารถในการแสวงหาความรู้ (สภาพที่พึงประสงค์) จดุ ประสงค์ 1. บอกวิธีการดแู ลและอนรุ กั ษ์ชา้ งไทยได้ 2. พัฒนาทักษะการสงั เกตและลากเสน้ ตอ่ จุด ตวั เลข 1-15 3. พัฒนากลา้ มเนอื้ มือและตาใหป้ ระสานสมั พนั ธก์ ันจากการวาดต่อเติมภาพได้ กิจกรรมการเรียนรู้ ขนั้ นา 1. ครูและเด็กร่วมกันรอ้ งเพลง ชา้ ง แลว้ ทาท่าทางประกอบเพลงตามจินตนาการ 2. ครูสนทนาเกีย่ วกบั เนอื้ เพลง โดยถามคาถามกระตนุ้ ความคดิ ดังนี้ เพลงนกี้ ล่าวถงึ สตั วช์ นดิ ใด ชา้ งมรี ูปรา่ งลกั ษณะอย่างไร เดก็ ๆ เคยเหน็ ชา้ งทไ่ี หน อยา่ งไร ออกมาเลา่ เร่ืองเพ่อื แลกเปลย่ี นประสบการณร์ ่วมกนั ขนั้ สอน 1. ครูเลา่ เรอ่ื ง ชา้ ง สตั วใ์ หญ่ตวั ชวี้ ดั ความอุดมสมบูรณ์ ประกอบภาพชา้ งใหเ้ ด็กฟัง แลว้ ถามคาถามกระตนุ้ ความคิด ดังนี้ ชา้ งตวั เมยี มชี ่อื ว่าอะไร ชา้ งตวั ผมู้ ีชื่อวา่ อะไร ชา้ งสีดอคอื ชา้ งทม่ี ีลกั ษณะอย่างไร ชา้ งกนิ อะไรเป็นอาหาร 2. ครูใหอ้ าสาสมัครออกมาเลา่ ประสบการณเ์ กีย่ วกบั ชา้ งทต่ี นเคยพบใหเ้ พอ่ื นฟัง 3. ครูชูบตั รภาพชา้ งที่โดนทารา้ ยและนามาเดินตามทอ้ งถนน และนาภาพชา้ งมีความสุขเมอื่ ไดอ้ ยใู่ นป่า เลน่ นา้ ฯลฯ มาใหเ้ ด็กรว่ มกันแสดงความคิดเห็นเก่ียวกับภาพ และชว่ ยกันคิดวา่ ถา้ ชา้ งสูญพนั ธุ์ ธรรมชาติ จะเป็นอยา่ งไร 4. ครูใหเ้ ดก็ นาเสนอความคิดเห็นรว่ มกนั โดยครูใหค้ วามรูเ้ พมิ่ เติมเกยี่ วกับชา้ งวา่ เป็นตวั ชวี้ ัดความอุดม สมบรู ณข์ องผืนป่าได้ เพราะชา้ งเป็นสัตวป์ ่าที่กนิ อาหารในปริมาณมาก หากป่าบรเิ วณใดพบว่ามชี า้ ง อาศยั อยู่ แสดงว่าป่าแหง่ นน้ั อดุ มสมบรู ณเ์ พยี งพอตอ่ การดารงชวี ิตของชา้ ง
ขนั้ สรุป 1. ครูใหเ้ ด็กดูภาพในหนังสอื เสริมฯ ธรรมชาติรอบตัว อ.2 กจิ กรรม ช่วยอนรุ กั ษ์ชา้ งไทย หนา้ 12 และสนทนา เก่ยี วกับภาพชา้ งและวิธีการช่วยอนรุ กั ษ์ชา้ งไทยไดอ้ ย่างไร ใหเ้ ด็กทากจิ กรรมลากเสน้ ตอ่ จดุ 1-15 ใหเ้ ป็น ภาพที่สมบูรณ์ แลว้ ระบายสภี าพ 2. ครูใหเ้ ด็กเตรียมหาภาพสตั ว์ คนละ 1 ภาพ เพือ่ ใชท้ ากิจกรรมในวันถดั ไป ประเมินผล 1. สังเกตการสนทนาและการตอบคาถาม 2. สังเกตการทากิจกรรมร่วมกันกับผอู้ น่ื 3. สงั เกตผลงานการทากิจกรรม ชว่ ยอนุรกั ษช์ า้ งไทย สอ่ื การเรียนรู้ 1. เพลง ชา้ ง 2. เร่ือง ชา้ งสตั วใ์ หญ่ตวั ชวี้ ดั ความอดุ มสมบรู ณ์ 3. บัตรภาพชา้ ง 4. หนังสือเสริมฯ ธรรมชาติรอบตัว อ.2 กิจกรรม ชว่ ยอนุรกั ษ์ชา้ งไทย หนา้ 12 ภาคผนวก เพลง ชา้ ง เพลง ช้าง (ไมท่ ราบนามผแู้ ตง่ ) ชา้ ง ชา้ ง ชา้ ง ชา้ ง ชา้ ง นอ้ งเคยเห็นชา้ งหรอื เปล่า ชา้ งมนั ตวั โตไม่เบา จมูกยาวๆ เรยี กวา่ งวง มีเขยี้ วใตง้ วงเรียกวา่ งา มีหู มีตา หางยาว เรอ่ื ง ชา้ ง สตั ว์ใหญ่ตวั ชวี้ ดั ความอดุ มสมบูรณ์ เรอื่ ง ชา้ ง สัตวใ์ หญต่ วั ชี้วดั ความอุดมสมบรู ณ์ ชา้ ง เป็นสัตวบ์ กทม่ี ขี นาดใหญท่ ี่สดุ ในโลก มี 2 สายพันธุ์ คือ ชา้ งแอฟริกา และชา้ งเอเชยี ชา้ งในประเทศไทย เป็นชา้ งเอเชยี ชา้ งเอเชียพบมากที่อนิ เดีย เมยี นมา ไทย คาบสมทุ รอนิ โดจนี และหมู่เกาะต่างๆ เชน่ เกาะสมุ าตรา เกาะบอรเ์ นยี ว มาเลเซีย
ชา้ งไม่มีฤดผู สมพนั ธ์ุ ส่วนใหญ่แลว้ แต่การติดสัดของตวั เมีย ชา้ งตกลกู ครง้ั ละ 1 เชือก โดยระยะเวลาตั้งครรภ์ ประมาณ 20 เดือน อาจจะมากนอ้ ยกว่านแี้ ลว้ แตป่ ัจจยั เช่น อายุ สุขภาพ ความเครียดของแม่ชา้ ง เป็นตน้ ลกู ชา้ งแรกคลอดมีนา้ หนักประมาณ 90 กโิ ลกรมั และสงู ประมาณ 90-100 เซนติเมตร เม่อื อายุประมาณ 12-15 ปี กส็ ามารถสบื พันธไุ์ ด้ และร่างกายหยดุ เจริญเตบิ โตเม่ือมีอายปุ ระมาณ 25 ปี หลังจากตัวเมยี คลอดลูกแลว้ ประมาณ 8-10 เดอื น ก็จะสามารถต้งั ทอ้ งใหมไ่ ด้ ชา้ งมีอายุเฉล่ียประมาณ 60-70 ปี และอาจมากกว่าน้ันหากไมม่ อี ุบัติเหตหุ รอื โรคภยั ชา้ งตัวเต็มวยั สงู ประมาณ 2.5-3 เมตร และมีนา้ หนกั ตัวถงึ 2,000 กโิ ลกรมั ตัวเมยี (ชา้ งพงั ) ไมม่ งี า ส่วนตัวผูจ้ ะมงี าเพยี งบางตวั เทา่ นั้น ชา้ งตวั ผทู้ มี่ งี าเรยี กวา่ \"ชา้ งพลาย\" สว่ นชา้ งตวั ผทู้ ่ไี มม่ งี าเรยี กว่า \"ชา้ งสดี อ\" ชา้ งสดี อบางตวั อาจพบว่ามีฟันหนา้ ย่นื ออกมาเล็กนอ้ ยแตส่ นั้ กว่าเรียกว่า \"ขนาย\" อาหารท่วั ไปของชา้ ง คือ ใบพืชต่างๆ รวมทง้ั ผลไม้ เพราะชา้ งเป็นสัตวก์ นิ พืช พืชที่พบว่าชา้ งกินมากทสี่ ดุ คอื ใบไผแ่ ละยอดออ่ นของไผ่ โดยชา้ งจะใชง้ วงรูดใบไผแ่ ลว้ นาเขา้ ปาก นอกจากนชี้ า้ งยังกินเถาวลั ยต์ า่ งๆ โดยการ ลอกกินแต่เปลือกจนเหลือแกนสขี าวขา้ งใน นอกจากอาหารทเ่ี ป็นพชื แลว้ ช้างยังกินดินโป่งเพอื่ เป็นการเติม แร่ธาตุ ใหก้ ับร่างกาย ชา้ งโตเตม็ วยั แต่ละตวั จะตอ้ งดืม่ นา้ ประมาณ 200 ลติ ร และกินอาหารประมาณ 200 กิโลกรมั ตอ่ วนั ภาพชา้ ง
แนวทางการจดั ประสบการณ์การเรยี นรู้ การศกึ ษาปฐมวยั ภาคเรยี นท่ี...1... สำหรบั เดก็ ทม่ี ีความตอ้ งการจำเป็นพิเศษ ช่วงอายุ .....4-5...... ปี สาระการเรียนร้ทู ี่..3.. หน่วย สตั ว์รอบตวั วนั ท่ี 5 เมตตาต่อสตั ว์ กิจกรรมเสริมประสบการณ์ สาระที่ควรเรยี นรู้ สตั วร์ อบตวั เรามีอยูม่ ากมายหลายชนิด แบ่งออกเป็น 2 ประเภท ตามลักษณะทอ่ี ยอู่ าศัย ไดแ้ ก่ สัตวเ์ ลยี้ ง เชน่ แมว สุนขั เป็ด ไก่ ววั และสัตวป์ ่า เช่น สิงโต เสอื ยรี าฟ ชา้ ง งู เป็นตน้ สัตวท์ ุกชนิดตา่ งมคี วามสัมพันธ์กับ ส่งิ แวดลอ้ มและท่ีอย่อู าศัย เราจึงควรใหค้ วามเมตตาสตั ว์ เพ่ือใหค้ นและสัตวอ์ ยรู่ ่วมกนั ไดอ้ ยา่ งมคี วามสุข สาระสาคญั เด็กไดเ้ รยี นรูเ้ ก่ียวกบั การดแู ลสตั วเ์ ลยี้ ง และสัตวต์ า่ งๆ เราควรมคี วามเมตตาต่อสัตว์ แบ่งปันอาหารให้ สัตวท์ ่ีหิวอาหาร ใหค้ วามช่วยเหลอื เมือ่ พบเห็นสตั วท์ ไ่ี ดร้ บั บาดเจบ็ มาตรฐานคณุ ลกั ษณะท่พี งึ ประสงค์ / ประสบการณ์สาคญั ร่างกาย อารมณ์ จิตใจ สังคม สตปิ ัญญา มาตรฐานคณุ ลักษณะทพี่ งึ ประสงค์ มฐ.1 มฐ.2 มฐ.3 มฐ.4 มฐ.5 มฐ.6 มฐ.7 มฐ.8 มฐ.9 มฐ.10 มฐ.11 มฐ.12 1.2, 1.3 2.1, 2.2 3.1, 3.2 4.1 5.2,5.4 6.1 7.2 8.2, 8.3 9.1,9.2 10.1,10.3 11.2 12.1,12.2 ประสบการณส์ าคญั 1.2 มีสขุ ภาพ 3.1 แสดงออกทางอารมณไ์ ด้ 6.1 ช่วยเหลอื ตนเองในการ 9.1 รับรแู้ ละเขา้ ใจความหมายของภาษาได้ อนามยั สขุ นสิ ยั ท่ดี ี อยา่ งเหมาะสม ปฏิบตั ิกจิ วตั รประจำวัน (สภาพท่พี งึ ประสงค์) (สภาพที่พงึ ประสงค์) (สภาพท่ีพงึ ประสงค)์ (สภาพท่พี ึงประสงค)์ 9.2 แสดงออกและ/หรือพูดเพื่อสอื่ ความหมาย 1.3 รกั ษาความ 3.2 มคี วามรูส้ กึ ท่ดี ีตอ่ ตนเอง 7.2 ดแู ลรกั ษาธรรมชาตแิ ละ ได้ (สภาพที่พึงประสงค)์ ปลอดภัยของตนเอง และผูอ้ ่นื สงิ่ แวดล้อม 10.1 มีความสามารถในการคดิ รวบยอด และผอู้ น่ื (สภาพทพี่ งึ ประสงค)์ 8.2 มปี ฏสิ มั พันธท์ ่ดี กี บั ผ้อู น่ื (สภาพทพี่ ึงประสงค์) (สภาพทพ่ี งึ ประสงค)์ 4.1 สนใจ มคี วามสุขและ (สภาพท่พี ึงประสงค์) 10.3 มีความสามารถในการคิดแก้ปัญหาและ 2.1 เคล่ือนไหว แสดงออกผา่ นงานศิลปะดนตรี 8.3 ปฏบิ ัตติ นเบือ้ งตน้ ใน ตัดสินใจ (สภาพที่พึงประสงค์) ร่างกายอย่าง และการเคลื่อนไหว การเป็นสมาชิกท่ดี ขี องสังคม 11.2 แสดงทา่ ทาง/เคล่ือนไหวตามจนิ ตนาการ คล่องแคล่วประสาน (สภาพทพ่ี ึงประสงค)์ (สภาพทพ่ี งึ ประสงค์) อยา่ งสรา้ งสรรค์(สภาพท่ีพึงประสงค์) สัมพันธแ์ ละทรงตวั 5.2 มคี วามเมตตากรณุ า มี 12.1 มีเจตคติทดี่ ีตอ่ การเรยี นรู้ ได้(สภาพทพ่ี ึง น้ำใจและช่วยเหลอื แบง่ ปนั (สภาพทพ่ี ึงประสงค)์ ประสงค์) (สภาพทพ่ี งึ ประสงค)์ 12.2 มคี วามสามารถในการแสวงหาความรู้ 2.2 ใชม้ อื -ตา 5.4 มีความรบั ผดิ ชอบ (สภาพท่ี (สภาพที่พงึ ประสงค)์ ประสานสมั พันธก์ ัน พงึ ประสงค)์ (สภาพท่พี ึงประสงค)์
จดุ ประสงค์ 1. บอกวิธีดูแลสัตวเ์ ลยี้ งได้ 2. พฒั นาทกั ษะการสังเกตและจาแนกประเภทจากเกณฑท์ ่ีกาหนดได้ กิจกรรมการเรียนรู้ ขนั้ นา 1. ครูและเดก็ ร่วมกนั รอ้ งเพลง Lion สิงโต และทาทา่ ทางประกอบเพลงตามจินตนาการ 2. ครูสนทนาเกี่ยวกบั เพลง Lion สงิ โต และชอื่ ของสัตวป์ ่าชนิดต่างๆ โดยถามคาถามกระตนุ้ ความคิด ดงั นี้ สิงโตเป็นสัตวป์ ระเภทใด ทาไมสิงโตจงึ เป็นเจา้ ป่า ขนั้ สอน 1. ครูใหเ้ ด็กสงั เกตบตั รภาพสตั วท์ กี่ าลงั เจบ็ ป่วย แลว้ ถามคาถามวา่ หากเดก็ ๆ พบเห็นสัตวท์ กี่ าลังเจบ็ ป่วย เดก็ ๆ จะทาอย่างไร 2. ครูใหค้ วามรูเ้ พ่มิ เติมเกยี่ วกับวธิ ีการดแู ลสตั วเ์ ลยี้ งว่า เมื่อสัตวเ์ ลยี้ งเจบ็ ป่วย จะตอ้ งพาไปใหส้ ตั วแพทย์ ตรวจและรกั ษาอาการ เพ่อื เป็นการชว่ ยเหลือสัตวท์ นั เวลา 3. ครูแบ่งกลุ่มเด็ก กลุม่ ละ 4-5 คน แลว้ ใหแ้ ต่ละกลุ่มชว่ ยกันบอกวธิ ีดูแลสตั วเ์ ลยี้ งของตนเอง 4. ครูสนทนาซกั ถามเด็กเกยี่ วกบั การดแู ลสัตวเ์ ลยี้ ง ขนั้ สรุป ครูใหเ้ ดก็ สังเกตภาพและทากจิ กรรมในหนงั สือเสรมิ ฯ ธรรมชาติรอบตวั ประเมินผล 1. สังเกตการสนทนาและการตอบคาถาม 2. สงั เกตการจาแนกประเภทของสัตวก์ ับทอี่ ยอู่ าศยั 3. สังเกตการทากิจกรรมร่วมกนั กับผอู้ นื่ 4. สงั เกตผลงานการทากิจกรรม เมตตาต่อสตั ว์ สือ่ การเรยี นรู้ 1. เพลง Lion สิงโต
ภาคผนวก เพลง Lion สิงโต เพลง Lion สิงโต (ไม่ทราบนามผแู้ ตง่ ) สงิ โต สิงโต สงิ โต ไปทาอะไรมา ผมเผา้ รุงรงั อยากรูจ้ ัง ไปใหช้ ่าง รา้ นไหนทามา แอล ไอ โอ เอน็ ไลออน ไลออน แอล ไอ โอ เอน็ ใครสะกดสิงโตไม่เป็น แอล ไอ โอ เอน็ ไลออน สงิ โต กิจกรรมเคลอื่ นไหวและจงั หวะ สาระทคี่ วรเรียนรู้ การเคลื่อนไหวรา่ งกายแบบผนู้ า ผตู้ าม มาตรฐานคณุ ลกั ษณะทพ่ี งึ ประสงค์ / ประสบการณ์สาคญั ร่างกาย อารมณ์ จติ ใจ สังคม สตปิ ัญญา มาตรฐานคณุ ลักษณะที่พึงประสงค์ มฐ.1 มฐ.2 มฐ.3 มฐ.4 มฐ.5 มฐ.6 มฐ.7 มฐ.8 มฐ.9 มฐ.10 มฐ.11 มฐ.12 1.2, 1.3 2.1 3.1, 3.2 4.1 8.1,8.2, 10.3 11.2 12.1 8.3 ประสบการณ์สาคัญ 1.2 มสี ขุ ภาพ 3.1 แสดงออกทางอารมณไ์ ด้ 8.1 ยอมรับความเหมอื น 10.3 มคี วามสามารถในการคิดแก้ปัญหาและ อนามัยสขุ นสิ ัยที่ดี อย่างเหมาะสม และความแตกต่างระหว่าง ตัดสนิ ใจ (สภาพที่พึงประสงค)์ (สภาพทพี่ งึ ประสงค)์ (สภาพทพ่ี ึงประสงค์) บคุ คล 11.2 แสดงท่าทาง/เคลอ่ื นไหวตามจนิ ตนาการ 1.3 รกั ษาความ 3.2 มคี วามรสู้ กึ ทด่ี ีตอ่ ตนเอง (สภาพทีพ่ ึงประสงค)์ อย่างสรา้ งสรรค์(สภาพทพ่ี ึงประสงค์) ปลอดภัยของตนเอง และผอู้ ่ืน 8.2 มปี ฏิสมั พันธ์ท่ดี กี บั ผู้อน่ื 12.1 มเี จตคติที่ดีตอ่ การเรยี นรู้ และผอู้ น่ื (สภาพทพี่ งึ ประสงค์) (สภาพทีพ่ ึงประสงค์) (สภาพท่พี ึงประสงค์) (สภาพทีพ่ ึงประสงค์) 4.1 สนใจ มคี วามสขุ และ 8.3 ปฏิบัตติ นเบ้อื งตน้ ใน 2.1 เคลื่อนไหว แสดงออกผา่ นงานศลิ ปะดนตรี การเป็นสมาชิกท่ีดีของสงั คม รา่ งกายอย่าง และการเคลื่อนไหว (สภาพที่พงึ ประสงค์) คลอ่ งแคลว่ ประสาน (สภาพท่ีพงึ ประสงค์) สมั พันธแ์ ละทรงตัว ได้(สภาพทพี่ ึง ประสงค์)
2.2 ใชม้ อื -ตา ประสานสัมพนั ธ์กัน (สภาพทพี่ งึ ประสงค์) จุดประสงค์ 1. พัฒนาการใชก้ ลา้ มเนอื้ มดั ใหญ่ มัดเลก็ และตาใหส้ ัมพันธ์กนั 2. พฒั นาทกั ษะการเคล่อื นไหวแบบผนู้ า ผตู้ าม 3. เพอ่ื ใหเ้ กดิ ความสนุกสนานและผ่อนคลายอารมณ์ กิจกรรมการเรียนรู้ 1. ครูใหเ้ ดก็ เคลอ่ื นไหวรา่ งกายโดยไมใ่ หช้ นกนั ตามจังหวะทีค่ รูกาหนด 2. ครูใหเ้ ด็กอาสาสมัครออกมาเป็นผกู้ าหนดจังหวะ และใหเ้ พ่อื นๆ เคล่อื นไหวร่างกายอย่างอิสระโดยไม่ใหช้ นกัน 3. เด็กและครูร่วมกันสรา้ งขอ้ ตกลงในการเคล่ือนไหว โดยใหเ้ ดก็ เคลอื่ นไหวรา่ งกายตามเพอื่ นที่ออกมาเป็น ผู้นา โดยใหผ้ ลดั กันออกมาเป็นผนู้ าเคล่ือนไหวในท่าตา่ งๆ และผตู้ ามตอ้ งตงั้ ใจปฏบิ ตั ติ ามเพ่อื น 4. ครูเปิดเพลงบรรเลงเบาๆ แลว้ สมุ่ เรยี กเด็กออกมาทีละ 1-2 คน ออกมาเป็นผนู้ าเคลื่อนไหวในทา่ ตา่ งๆ ให้ เพื่อนทาตาม สลบั กบั การใหเ้ ดก็ อาสาสมัครออกมาเป็นผนู้ าตามความสนใจ ครูคอยดูแลใหเ้ ดก็ ทกุ คนได้ มีโอกาสออกมาเป็นผนู้ าเคลือ่ นไหวร่างกาย จนครบทุกคน ประเมินผล 1. สงั เกตการใชก้ ลา้ มเนอื้ ใหญ่เล็กและตาใหส้ ัมพันธก์ นั 2. สงั เกตการเคล่ือนไหวแบบผนู้ า ผตู้ าม 3. สังเกตความสนกุ สนานและผ่อนคลายอารมณ์ สื่อการเรยี นรู้ 2. เพลงบรรเลง 1. เครือ่ งเคาะจงั หวะ
กิจกรรมสร้างสรรค์ สาระทค่ี วรเรียนรู้ การวาด ระบายสภี าพการดแู ลสัตว์ และการติดวสั ดุตกแตง่ ภาพสตั ว์ มาตรฐานคณุ ลกั ษณะทพี่ งึ ประสงค์ / ประสบการณ์สาคญั ร่างกาย อารมณ์ จิตใจ สงั คม สติปัญญา มาตรฐานคุณลักษณะที่พึงประสงค์ มฐ.1 มฐ.2 มฐ.3 มฐ.4 มฐ.5 มฐ.6 มฐ.7 มฐ.8 มฐ.9 มฐ.10 มฐ.11 มฐ.12 1.3 2.2 3.1, 3.2 4.1 5.2,5.4 6.2,6.3 8.1,8.2, 9.1 10.3 11.1 12.1 8.3 ประสบการณส์ าคัญ 1.3 รกั ษาความ 3.1 แสดงออกทางอารมณไ์ ด้ 6.2 มวี นิ ยั ในตนเอง (สภาพ 9.1 รับร้แู ละเขา้ ใจความหมายของภาษาได้ ปลอดภยั ของตนเอง อยา่ งเหมาะสม ท่พี ึงประสงค์) (สภาพทพี่ ึงประสงค์) และผอู้ ่นื (สภาพที่พงึ ประสงค์) 6.3 ประหยัดและพอเพียง 10.3 มคี วามสามารถในการคิดแกป้ ัญหาและ (สภาพท่ีพึงประสงค์) 3.2 มคี วามรู้สกึ ท่ดี ีตอ่ ตนเอง (สภาพท่พี งึ ประสงค)์ ตัดสนิ ใจ (สภาพที่พึงประสงค์) 2.2 ใชม้ อื -ตา และผู้อน่ื 8.1 ยอมรบั ความเหมือน 11.1 ทำงานศลิ ปะตามจินตนาการและ ประสานสัมพนั ธก์ ัน (สภาพท่พี ึงประสงค์) และความแตกตา่ งระหว่าง ความคดิ สรา้ งสรรค์ (สภาพทพ่ี งึ ประสงค์) 4.1 สนใจ มคี วามสขุ และ บุคคล (สภาพที่พงึ ประสงค์) แสดงออกผา่ นงานศลิ ปะดนตรี (สภาพที่พึงประสงค์) 12.1 มเี จตคตทิ ี่ดีตอ่ การเรียนรู้ และการเคลอื่ นไหว 8.2 มปี ฏสิ ัมพันธท์ ่ีดกี บั ผู้อ่ืน (สภาพทพ่ี งึ ประสงค์) (สภาพทีพ่ ึงประสงค์) (สภาพทีพ่ งึ ประสงค)์ 5.2 มคี วามเมตตากรณุ า มี 8.3 ปฏบิ ตั ิตนเบือ้ งตน้ ใน นำ้ ใจและช่วยเหลอื แบง่ ปนั การเป็นสมาชิกท่ีดีของสงั คม (สภาพท่ีพงึ ประสงค์) (สภาพท่ีพึงประสงค์) 5.4 มีความรบั ผดิ ชอบ (สภาพท่ี พงึ ประสงค์) จุดประสงค์ 1. พัฒนาการกลา้ มเนอื้ มัดเล็กและตาใหส้ มั พันธ์กัน 2. การสรา้ งสรรคผ์ ลงานตามจินตนาการ 3. สามารถบอกเล่าเกยี่ วกับผลงานของตนเองได้ กิจกรรมการเรียนรู้ 1. ครูใหเ้ ด็กน่งั เป็นกลุม่ กลมุ่ ละ 4 คน แลว้ แจกอปุ กรณใ์ นการทากิจกรรมใหเ้ ด็กทุกกลุ่ม 2. ครูใหเ้ ด็กคดิ วธิ ีการดูแลสตั วค์ นละ 1 วิธี แลว้ วาดภาพน้นั พรอ้ มระบายสตี กแตง่ ภาพใหส้ วยงาม
3. เด็กบอกเลา่ ผลงานใหเ้ พือ่ นฟัง และครูจดบนั ทกึ ลงบนผลงาน 4. เด็กๆ ชว่ ยกันเก็บวสั ดุอปุ กรณเ์ ขา้ ท่ี และทาความสะอาดโตะ๊ กิจกรรม ประเมินผล 2. สังเกตผลงาน 1. สังเกตการใชก้ ลา้ มเนอื้ มัดเลก็ และตาใหส้ ัมพนั ธ์กัน 3. สังเกตการบอกเล่าเกยี่ วกบั ผลงานของตนเอง สือ่ การเรยี นรู้ 3. สเี ทยี น 4. วัสดุทน่ี ่ิมและแข็ง เช่น สาลีกอ้ น กระดุม 1. กระดาษ A4 2. ดินสอ 5. กาว กิจกรรมเสรี สาระท่ีควรเรยี นรู้ การเลน่ ตามมุมประสบการณ์ เปิดโอกาสใหเ้ ดก็ เล่นอิสระตามมมุ ประสบการณห์ รอื ศนู ยก์ ารเรยี นท่จี ัดไวใ้ น หอ้ งเรยี น เช่น มุมบล็อก มุมวทิ ยาศาสตรห์ รือมมุ ธรรมชาตศิ ึกษา มมุ คณติ ศาสตร์ มุมบา้ น มุมหนังสือ มุมศิลปะ มมุ ดนตรี มุมบทบาทสมมติ เป็นตน้ มาตรฐานคุณลกั ษณะที่พงึ ประสงค์ / ประสบการณ์สาคญั ร่างกาย อารมณ์ จติ ใจ สงั คม สติปัญญา มาตรฐานคุณลกั ษณะทพี่ งึ ประสงค์ มฐ.1 มฐ.2 มฐ.3 มฐ.4 มฐ.5 มฐ.6 มฐ.7 มฐ.8 มฐ.9 มฐ.10 มฐ.11 มฐ.12 1.3 2.2 3.1, 3.2 4.1 5.1,5.2, 6.2,6.3 7.2 8.1,8.2, 9.1 10.3 11.2 12.1,12.2 5.3 8.3 ประสบการณ์สาคัญ 1.3 รกั ษาความ 3.1 แสดงออกทางอารมณไ์ ด้ 6.2 มวี ินัยในตนเอง (สภาพ 9.1 รบั รู้และเขา้ ใจความหมายของภาษาได้ ปลอดภัยของตนเอง อย่างเหมาะสม ท่ีพึงประสงค)์ (สภาพทีพ่ ึงประสงค)์ และผู้อืน่ (สภาพทพี่ งึ ประสงค)์ 6.3 ประหยัดและพอเพียง 10.3 มีความสามารถในการคิดแกป้ ัญหาและ (สภาพทพี่ งึ ประสงค)์ 3.2 มคี วามรสู้ กึ ท่ดี ตี อ่ ตนเอง (สภาพทพ่ี งึ ประสงค์) ตัดสนิ ใจ (สภาพท่ีพงึ ประสงค์) 2.2 ใช้มือ-ตา และผูอ้ ื่น 7.2 ดแู ลรกั ษาธรรมชาติ 11.2 แสดงทา่ ทาง/เคลื่อนไหวตามจินตนาการ ประสานสัมพันธ์กัน (สภาพที่พึงประสงค)์ และส่ิงแวดลอ้ ม อยา่ งสร้างสรรค์(สภาพท่ีพึงประสงค์) (สภาพท่ีพึงประสงค)์ 4.1 สนใจ มคี วามสขุ และ 8.1 ยอมรบั ความเหมอื น 12.1 มีเจตคตทิ ี่ดีตอ่ การเรยี นรู้ แสดงออกผา่ นงานศิลปะดนตรี และความแตกตา่ งระหว่าง (สภาพที่พึงประสงค์) และการเคลอื่ นไหว บุคคล 12.2 มคี วามสามารถในการแสวงหาความรู้ (สภาพท่ีพึงประสงค์) (สภาพที่พึงประสงค์) (สภาพทพ่ี ึงประสงค์) 5.1 ซื่อสัตยส์ จุ รติ 8.2 มปี ฏิสัมพนั ธท์ ด่ี กี ับผู้อนื่ (สภาพทพ่ี งึ ประสงค์) (สภาพท่พี ึงประสงค์) 5.2 มคี วามเมตตากรุณา มี 8.3 ปฏบิ ัตติ นเบอ้ื งต้นใน น้ำใจและชว่ ยเหลือแบ่งปัน การเปน็ สมาชกิ ที่ดีของสังคม
(สภาพทพี่ งึ ประสงค์) (สภาพท่พี งึ ประสงค์) 5.3 มคี วามเห็นอกเหน็ ใจผู้อื่น (สภาพท่ีพงึ ประสงค)์ จุดประสงค์ 2. มีทักษะทางดา้ นสงั คมเล่นร่วมกับผอู้ ืน่ ได้ 1. สง่ เสริมพฒั นาการ 4 ดา้ นผ่านการเลน่ 3. ส่งเสริมคณุ ธรรม จรยิ ธรรม มคี วามอดทน เออื้ เฟื้อ แบ่งปัน และรูจ้ ักการรอคอย กิจกรรมการเรียนรู้ 1. เด็กและครูร่วมกันทบทวนมุมประสบการณต์ ่างๆ ในหอ้ งเรยี น และใหค้ ดิ วางแผนการเล่น วา่ จะเลน่ อะไร ตามลาดับความสนใจของตนเอง 2. เด็กและครูรว่ มกนั สรา้ งขอ้ ตกลงในการเล่น เชน่ - เดก็ ไมส่ ่งเสยี งดงั ขณะเล่น - เม่ือเลน่ เสร็จเกบ็ ของเล่นเขา้ ท่ี - รูจ้ ักแบง่ ปันกนั เล่น - เลน่ ของเลน่ อยา่ งทะนุถนอม ไมท่ าลายใหเ้ สียหาย - รูจ้ กั ขอบคณุ เมอื่ ครูชว่ ยเหลอื ขอบใจเม่อื เพือ่ นช่วยเหลือ และขอโทษเมอ่ื ทาใหผ้ อู้ นื่ เจบ็ หรือเดือดรอ้ น - เม่ือไดย้ นิ สัญญาณหยดุ (เคาะจังหวะ 2 ครง้ั ) ใหเ้ ก็บของเล่นทนั ที และมาน่งั รวมกันทหี่ นา้ หอ้ ง 3. เด็กๆ เลือกเลน่ ตามทค่ี ิดไวอ้ ยา่ งอิสระ ปฏบิ ัตติ ามขอ้ ตกลง และเมื่อไดย้ ินสัญญาณหยดุ ใหเ้ กบ็ ของเขา้ ท่ใี ห้ เรียบรอ้ ย และมาน่งั รวมกันที่หนา้ หอ้ ง 4. ครูใหเ้ ด็กอาสาสมคั รออกมาบอกเล่าถงึ สิ่งท่ตี นเองเล่น ความรูส้ ึก และปัญหาท่พี บ รวมถึงวธิ แี กป้ ัญหาอย่างไร ประเมินผล 1. สงั เกตพฒั นาการ 4 ดา้ น 2. สงั เกตการแสดงความเออื้ เฟื้อแบง่ ปัน และรูจ้ ักการรอคอย 3. สงั เกตการเล่นรว่ มกับผอู้ นื่ 2. เคร่ืองเคาะจงั หวะ ส่อื การเรยี นรู้ 1. ของเลน่ ในมุมประสบการณต์ า่ งๆ
กิจกรรมกลางแจง้ สาระทคี่ วรเรียนรู้ การเล่นเครอ่ื งเลน่ สนาม เดก็ ไดม้ โี อกาสออกไปนอกหอ้ งเรยี นเพือ่ ออกกาลงั เคลื่อนไหวร่างกายและ แสดงออกอย่างอสิ ระในการเล่นเครื่องเล่นสนาม โดยยึดความสนใจและความสามารถของเดก็ เป็นหลกั มาตรฐานคณุ ลกั ษณะทพี่ งึ ประสงค์ / ประสบการณ์สาคญั ร่างกาย อารมณ์ จิตใจ สงั คม สตปิ ัญญา มาตรฐานคณุ ลักษณะทพี่ งึ ประสงค์ มฐ.1 มฐ.2 มฐ.3 มฐ.4 มฐ.5 มฐ.6 มฐ.7 มฐ.8 มฐ.9 มฐ.10 มฐ.11 มฐ.12 1.2, 1.3 2.1 3.1, 3.2 5.1,5.2, 6.1,6.2 7.1,7.2 8.1,8.2, 9.1 10.3 11.2 12.1 5.3 8.3 ประสบการณ์สาคัญ 1.2 มสี ขุ ภาพ 3.1 แสดงออกทางอารมณไ์ ด้ 6.1 ช่วยเหลือตนเองในการ 9.1 รับรู้และเข้าใจความหมายของภาษาได้ อนามยั สุขนสิ ยั ท่ีดี อย่างเหมาะสม ปฏบิ ตั ิกจิ วตั รประจำวัน (สภาพทพี่ ึงประสงค์) (สภาพท่ีพงึ ประสงค)์ (สภาพทพ่ี งึ ประสงค์) (สภาพทพ่ี งึ ประสงค)์ 10.3 มีความสามารถในการคดิ แกป้ ญั หาและ 1.3 รกั ษาความ 3.2 มคี วามร้สู กึ ทด่ี ตี อ่ ตนเอง 6.2 มวี นิ ยั ในตนเอง (สภาพ ตดั สินใจ (สภาพท่พี งึ ประสงค์) 11.2 แสดงทา่ ทาง/เคล่อื นไหวตามจินตนาการ ปลอดภัยของตนเอง และผอู้ น่ื ท่พี งึ ประสงค์) อยา่ งสรา้ งสรรค์(สภาพทพี่ ึงประสงค์) และผอู้ ่นื (สภาพทพ่ี ึงประสงค์) 7.1 สนใจและเรียนรู้สิ่ง 12.1 มีเจตคตทิ ด่ี ีตอ่ การเรียนรู้ (สภาพที่พงึ ประสงค)์ 4.1 สนใจ มคี วามสขุ และ ตา่ งๆ รอบตัว (สภาพท่พี งึ (สภาพทพ่ี ึงประสงค)์ 2.1 เคลอ่ื นไหว แสดงออกผา่ นงานศลิ ปะดนตรี ประสงค์) ร่างกายอย่าง และการเคล่อื นไหว 7.2 ดูแลรักษาธรรมชาติ คล่องแคล่วประสาน (สภาพท่พี งึ ประสงค์) และส่ิงแวดล้อม สัมพนั ธแ์ ละทรงตัว 5.1 ซือ่ สตั ย์สุจรติ 8.1 ยอมรบั ความเหมือน ได้(สภาพทพี่ งึ (สภาพทพ่ี งึ ประสงค์) และความแตกตา่ งระหวา่ ง ประสงค)์ 5.2 มคี วามเมตตากรุณา มี บุคคล นำ้ ใจและชว่ ยเหลอื แบง่ ปัน (สภาพทพ่ี งึ ประสงค์) (สภาพท่ีพึงประสงค)์ 8.2 มีปฏสิ มั พนั ธ์ทีด่ กี บั ผู้อนื่ 5.3 มคี วามเหน็ อกเห็นใจผูอ้ ่ืน (สภาพทพี่ งึ ประสงค์) (สภาพที่พึงประสงค)์ 8.3 ปฏิบัตติ นเบอ้ื งตน้ ใน การเปน็ สมาชกิ ทีด่ ขี องสงั คม (สภาพทพ่ี งึ ประสงค์) จุดประสงค์ 2. พฒั นาทักษะการเล่นกบั ผอู้ นื่ 1. พฒั นาทกั ษะการเคล่ือนไหวและการทรงตัว 3. ส่งเสรมิ คณุ ธรรม จริยธรรม มีความอดทน เออื้ เฟื้อ แบง่ ปัน และรูจ้ ักการรอคอย 4. การปลกู ฝังทศั นคตทิ ่ดี ีในการออกกาลงั กาย
กิจกรรมการเรียนรู้ 1. เด็กและครูรว่ มกนั อบอุน่ ร่างกายดว้ ยการออกกายบริหารในการเคล่ือนไหวอยกู่ บั ที่ 2. ครูแนะนาการเลน่ เครอื่ งเลน่ สนามอย่างถกู วิธี และปลอดภยั ใหเ้ ด็กฟังพรอ้ มสาธติ ใหด้ ู แลว้ ร่วมกันสรา้ ง ขอ้ ตกลงในการเล่นเครอ่ื งเล่นสนาม เชน่ - เล่นอยา่ งถกู วิธี ไม่เล่นโลดโผน - เขา้ แถวรอคอยเล่นต่อจากเพ่อื น - รูจ้ กั แบง่ ปันกนั เลน่ - เลน่ เครื่องเล่นอย่างทะนถุ นอม ไม่ทาลายใหเ้ สยี หาย - เล่นรว่ มกนั ไม่ทะเลาะกัน - ไมเ่ ดด็ ใบไม้ ดอกไมม้ าเลน่ - รูจ้ กั ขอบคณุ เมื่อครูช่วยเหลอื ขอบใจเมื่อเพ่อื นชว่ ยเหลอื และขอโทษเมอื่ ทาใหผ้ อู้ นื่ เจบ็ หรอื เดือดรอ้ น - เมือ่ ไดย้ นิ เสียงนกหวดี ใหห้ ยุดเล่นทันที เตรียมเขา้ แถวทีห่ นา้ สนามเด็กเลน่ 3. ครูใหเ้ ด็กคดิ วางแผนการเลน่ เครอ่ื งเลน่ สนามตามลาดบั ความสนใจ จากนัน้ ใหเ้ ลน่ ตามทคี่ ิดวางแผนไว้ อยา่ งอิสระ ปฏิบตั ติ ามขอ้ ตกลง และเมื่อไดย้ นิ เสียงนกหวีดใหห้ ยดุ เล่น แลว้ มาเขา้ แถวทหี่ นา้ สนามเดก็ เล่น 4. ครูให้เดก็ อาสาสมคั รออกมาบอกเล่าถึงส่งิ ท่ีตนเองเล่น ความรูส้ ึก และปัญหาท่ีพบ รวมถึงวธิ แี กป้ ัญหาอย่างไร ประเมินผล 1. สังเกตการเคลอ่ื นไหวและการทรงตวั 2. สงั เกตการเลน่ ร่วมกบั ผอู้ นื่ 3. สังเกตการแสดงความอดทน เออื้ เฟื้อ แบ่งปัน และรูจ้ ักรอคอย 4. สงั เกตทัศนคตทิ ดี่ ใี นการออกกาลังกาย ส่อื การเรยี นรู้ 2. เคร่ืองเล่นสนาม 1. นกหวีด กิจกรรมเกมการศึกษา สาระท่ีควรเรียนรู้ การเลน่ เกม เรยี งลาดบั การใหอ้ าหารสตั ว์ มาตรฐานคณุ ลกั ษณะที่พึงประสงค์ / ประสบการณ์สาคญั รา่ งกาย อารมณ์ จติ ใจ สงั คม สติปัญญา มฐ.1 มฐ.2 มาตรฐานคุณลกั ษณะทพี่ ึงประสงค์ 1.3 2.2 มฐ.3 มฐ.4 มฐ.5 มฐ.6 มฐ.7 มฐ.8 มฐ.9 มฐ.10 มฐ.11 มฐ.12 12.1 3.1, 3.2 5.1,5.2, 6.2,6.3 7.2 8.1,8.2, 9.1,9.2 10.1,10.3 5.3 8.3 ประสบการณส์ าคญั 1.3 รกั ษาความ 3.1 แสดงออกทางอารมณไ์ ด้ 6.1 ช่วยเหลือตนเองในการ 9.1 รบั รแู้ ละเขา้ ใจความหมายของภาษาได้ ปลอดภยั ของตนเอง อย่างเหมาะสม ปฏบิ ตั กิ จิ วตั รประจำวัน (สภาพทพี่ ึงประสงค)์ (สภาพท่พี ึงประสงค์) 9.2 แสดงออกและ/หรอื พดู เพอื่ สือ่ และผู้อ่นื (สภาพที่พึงประสงค์) ความหมายได้ (สภาพท่พี งึ ประสงค)์ (สภาพท่พี งึ ประสงค)์
2.2 ใชม้ อื -ตา 3.2 มคี วามรูส้ กึ ที่ดีตอ่ ตนเอง 6.2 มวี ินัยในตนเอง (สภาพ 10.1 มีความสามารถในการคิดรวบยอด ประสานสมั พันธ์กัน และผอู้ ่ืน ทพ่ี งึ ประสงค์) (สภาพท่พี ึงประสงค์) (สภาพทพี่ งึ ประสงค)์ (สภาพทีพ่ งึ ประสงค์) 7.1 สนใจและเรยี นรสู้ ่ิง 10.3 มีความสามารถในการคดิ แกป้ ญั หาและ 5.1 ซือ่ สตั ยส์ จุ ริต ตา่ งๆ รอบตัว (สภาพทพี่ งึ ตดั สินใจ (สภาพที่พงึ ประสงค์) (สภาพทพ่ี งึ ประสงค)์ ประสงค)์ 11.2 แสดงท่าทาง/เคลือ่ นไหวตามจนิ ตนาการ 5.2 มคี วามเมตตากรณุ า มี 7.2 ดูแลรกั ษาธรรมชาติ อย่างสร้างสรรค์(สภาพทีพ่ งึ ประสงค)์ น้ำใจและชว่ ยเหลือแบ่งปนั และสิ่งแวดลอ้ ม 12.1 มเี จตคติท่ีดีตอ่ การเรียนรู้ (สภาพทพี่ ึงประสงค)์ 8.1 ยอมรบั ความเหมอื น (สภาพทพี่ ึงประสงค)์ 5.3 มคี วามเหน็ อกเหน็ ใจผู้อื่น และความแตกต่างระหว่าง ) (สภาพที่พึงประสงค์) บคุ คล (สภาพทีพ่ งึ ประสงค)์ 8.2 มปี ฏสิ มั พันธ์ทด่ี กี ับผู้อื่น (สภาพที่พึงประสงค์) 8.3 ปฏบิ ัตติ นเบื้องต้นใน การเปน็ สมาชิกทดี่ ีของสงั คม (สภาพทพี่ งึ ประสงค์) จดุ ประสงค์ 1. พฒั นากลา้ มเนอื้ มัดเลก็ และตาใหป้ ระสานสัมพนั ธ์กัน 2. ฝึกทักษะกระบวนการแกไ้ ขปัญหาได้ 3. พัฒนาทกั ษะทางสตปิ ัญญา เชน่ การสงั เกต การเปรียบเทียบ ความรูค้ วามเขา้ ใจในเรื่องตา่ งๆ 4. สง่ เสรมิ คณุ ธรรม จริยธรรม มคี วามอดทน เออื้ เฟื้อ แบ่งปัน และรูจ้ ักการรอคอย กจิ กรรมการเรียนรู้ 1. ครูแนะนาเกม เรียงลาดบั การใหอ้ าหารสตั ว์ และสาธติ วิธกี ารเล่นใหเ้ ด็กดู พรอ้ มใหเ้ ด็กมีสว่ นร่วมดว้ ย 2. ครูทบทวนเกมเกา่ ที่เคยเล่นมาแลว้ และรว่ มกันสรา้ งขอ้ ตกลงในการเล่น เช่น - ไมส่ ง่ เสียงดงั ขณะเล่น - รูจ้ ักแบง่ ปันกันเล่น - เล่นอยา่ งทะนุถนอม ไมท่ าลายใหเ้ สยี หาย - รูจ้ ักขอบคณุ เมอ่ื ครูชว่ ยเหลือ ขอบใจเมื่อเพือ่ นชว่ ยเหลอื และขอโทษเมอื่ ทาใหผ้ อู้ ืน่ เจ็บหรอื เดือดรอ้ น - เมือ่ ไดย้ นิ สญั ญาณหยุด (เคาะจงั หวะ 2 ครง้ั ) ใหเ้ ก็บเกมเขา้ ท่ี และมาน่งั รวมกนั ทหี่ นา้ หอ้ ง 3. ครูแบ่งเดก็ เป็นกลุ่มยอ่ ย กลุ่มละ 4 คน ใหก้ ลุ่มแรกเลน่ เกม เรียงลาดบั การใหอ้ าหารสตั ว์ กลุ่มท่เี หลือเล่น เกมที่เคยเลน่ มาแลว้ เมอ่ื เล่นเสรจ็ ใหห้ มุนเวยี นกนั เลน่ จนครบทกุ เกม เม่อื ไดย้ นิ สัญญาณหยุดใหเ้ กบ็ เกม เขา้ ที่ใหเ้ รยี บรอ้ ย และมาน่งั รวมกนั ท่ีหนา้ หอ้ ง 4. ครูใหเ้ ดก็ อาสาสมัครออกมาบอกเล่าถงึ เกมท่ตี นเองเล่น ความรูส้ ึก และปัญหาทพ่ี บ รวมถึงวิธีแกป้ ัญหาอย่างไร ประเมินผล 2. สงั เกตกระบวนการแกไ้ ขปัญหา 1. สงั เกตการใชก้ ลา้ มเนอื้ มัดเล็กและตาใหป้ ระสานสมั พันธก์ นั
3. สังเกตทกั ษะทางสติปัญญา เช่น การสงั เกต การเปรยี บเทยี บ ความรูค้ วามเขา้ ใจในเรอื่ งตา่ งๆ 4. สงั เกตการแสดงความเออื้ เฟื้อแบง่ ปัน และรูจ้ ักการรอคอย สื่อการเรียนรู้ 2. เกมเก่าที่เคยเลน่ มาแลว้ 1. เกม เรยี งลาดบั การใหอ้ าหารสตั ว์ 3. เคร่ืองเคาะจงั หวะ ภาคผนวก เกม เรยี งลาดบั การใหอ้ าหารสตั ว์ 1 23
สาระท่คี วรเรียนรู้ ทอ้ งฟ้าในแต่ละวันบอกช่วงเวลาที่เปลยี่ นแปลงใหเ้ รารู้ เช่น เวลากลางวนั เป็นชว่ งเวลาทท่ี อ้ งฟา้ สว่างไสว จากแสงของดวงอาทิตย์ เวลากลางคืนเป็นช่วงเวลาทท่ี อ้ งฟา้ มดื มดี วงจันทรแ์ ละดวงดาวมาแทนทบี่ อกชว่ งเวลา ในระหว่างวนั ทอ้ งฟา้ ชว่ ยบอกสภาพอากาศในขณะนัน้ หรือสภาพอากาศที่กาลงั จะเปลยี่ นแปลงใหเ้ รารูด้ ว้ ย สง่ิ ทเ่ี ดก็ รูแ้ ล้ว ส่งิ ท่ีเด็กต้องการรู้ ส่งิ ทเ่ี ดก็ ควรรู้ - ทอ้ งฟ้าบอกเวลา - สง่ิ ทีอ่ ยบู่ นทอ้ งฟา้ - ทอ้ งฟา้ บอกสภาพอากาศ - ฤดกู าลในบา้ นเรา - ฤดกู าลที่ชนื่ ชอบ การจดั ประสบการณ์บรู ณาการ กิจกรรมเกมการศกึ ษา กิจกรรมเคลือ่ นไหวและจงั หวะ กิจกรรมสรา้ งสรรค์ 1. เกมจบั คู่ภาพเหมอื นสภาพอากาศ 1. การเคลือ่ นไหวรา่ งกายประกอบเพลง 1. การวาดภาพดวงอาทิตย์ ดวงจนั ทร์ 2. เกมอนกุ รมดวงอาทติ ย์ ดวงจันทร์ จนั ทรเ์ อ๋ย จนั ทรเ์ จ้า และภาพกจิ กรรมในตอนกลางวนั 3. เกมภาพตัดต่อฤดหู นาว 4. เกมโดมิโนตัวเลขกับจานวน 2. การเคลือ่ นไหวร่างกายตามจนิ ตนาการ 2. การวาดภาพสภาพอากาศตามท่ีกาหนด 5. เกมจบั คู่ภาพเครอื่ งแตง่ กายกบั 3. การเคลอื่ นไหวรา่ งกายตามคาสั่ง 3. การวาดภาพสนี า้ กลางวัน กลางคืน 4. การเคลื่อนไหวร่างกายอย่างอสิ ระ 4. การวาดออกแบบเสอื้ กนั หนาวและฉีก บัตรคา 5. การเคลอ่ื นไหวรา่ งกายพรอ้ มอปุ กรณ์ ปะตดิ ตกแตง่ ภาพ กิจกรรมกลางแจง้ กิจกรรมหลกั 5. การปั้นดินนา้ มนั 6 กิจกรรม 1. การสารวจสภาพอากาศนอกหอ้ งเรยี น กจิ กรรมเสรี 2. การสารวจทอ้ งฟ้า กจิ กรรมเสรมิ ประสบการณ์ 3. การเล่นเคร่อื งเล่นสนาม 1. กิจกรรม “ทอ้ งฟ้าบอกเวลา” 1. เล่นตามมมุ ประสบการณ์ 4. การเล่นทราย 2. กจิ กรรม “ลาดบั ภาพส่ิงท่ีอยบู่ นทอ้ งฟ้า 2. จดั ป้ายนิเทศเก่ยี วกับเรอ่ื งราวของ 5. การเล่นเครอ่ื งเล่นสนาม 3. กจิ กรรม “ทอ้ งฟา้ บอกสภาพอากาศ” 4. กิจกรรม “ฤดูกาลบา้ นเรา” กลมุ่ ดาวต่างๆ และก้อนเมฆรปู รา่ ง 5. กิจกรรม “ฤดูกาลทช่ี ่ืนชอบ” แปลกๆ ให้เดก็ ไดศ้ ึกษาเพม่ิ เตมิ ตาม ความสนใจ 3. จดั ชดุ เตรียมตามฤดกู าลตา่ งๆ เพม่ิ เตมิ ในมุมบา้ น เชน่ ชดุ กันฝน ชุดกนั หนาว ใหเ้ ด็กไดเ้ ล่นบทบาทสมมตติ าม จนิ ตนาการ
แนวทางการจัดประสบการณ์การเรยี นรู้ การศกึ ษาปฐมวัย ภาคเรียนท่ี...1... สำหรบั เด็กทีม่ คี วามต้องการจำเป็นพเิ ศษ ช่วงอายุ .....4-5...... ปี สาระการเรยี นรทู้ ี.่ .3.. หน่วย ท้องฟ้าน่ารู้ วนั ท่ี 1 ทอ้ งฟ้าบอกเวลา กิจกรรมเสริมประสบการณ์ สาระทคี่ วรเรียนรู้ ทอ้ งฟ้าในแต่ละวันบอกชว่ งเวลาทีเ่ ปลยี่ นแปลงใหเ้ รารู้ เชน่ เวลากลางวัน เป็นชว่ งเวลาทีท่ อ้ งฟ้าสว่างไสว จากแสงของดวงอาทติ ย์ เวลากลางคนื เป็นชว่ งเวลาท่ที อ้ งฟา้ มดื มีดวงจันทรแ์ ละดวงดาวมาแทนทบ่ี อก ชว่ งเวลาในระหวา่ งวัน ทอ้ งฟา้ ชว่ ยบอกสภาพอากาศในขณะนน้ั หรอื สภาพอากาศทีก่ าลงั จะเปลยี่ นแปลง ใหเ้ รารูด้ ว้ ย สาระสาคญั เดก็ ไดเ้ รียนรูเ้ ก่ยี วกบั ความแตกต่างของช่วงเวลากลางวนั และเวลากลางคืน รวมไปถึงกิจกรรมทีค่ วรปฏบิ ตั ิ ตามช่วงเวลาใหเ้ หมาะสม เพอ่ื ความปลอดภัยของตนเอง มาตรฐานคุณลกั ษณะท่พี งึ ประสงค์ / ประสบการณ์สาคญั รา่ งกาย อารมณ์ จิตใจ สงั คม สติปัญญา มาตรฐานคุณลักษณะที่พงึ ประสงค์ มฐ.1 มฐ.2 มฐ.3 มฐ.4 มฐ.5 มฐ.6 มฐ.7 มฐ.8 มฐ.9 มฐ.10 มฐ.11 มฐ.12 1.2, 1.3 2.1, 2.2 3.1, 3.2 4.1 5.4 6.1 7.2 8.2, 8.3 9.1,9.2 10.1,10.2, 11.1,11.2 12.1,12.2 10.3 ประสบการณส์ าคญั 1.2 มสี ขุ ภาพ 3.1 แสดงออกทางอารมณไ์ ด้ 6.1 ชว่ ยเหลือตนเองในการ 9.1 รบั รแู้ ละเขา้ ใจความหมายของภาษาได้ อนามยั สขุ นสิ ยั ที่ดี อย่างเหมาะสม ปฏบิ ตั กิ จิ วตั รประจำวนั (สภาพที่พึงประสงค)์ (สภาพท่พี ึงประสงค)์ (สภาพที่พงึ ประสงค์) (สภาพท่ีพงึ ประสงค)์ 9.2 แสดงออกและ/หรอื พูดเพื่อสอ่ื ความหมาย 1.3 รกั ษาความ 3.2 มคี วามรสู้ ึกท่ดี ตี อ่ ตนเอง 7.2 ดแู ลรกั ษาธรรมชาติ ได้ (สภาพทีพ่ ึงประสงค์) ปลอดภยั ของตนเอง และผอู้ ื่น และส่ิงแวดลอ้ ม 10.1 มคี วามสามารถในการคิดรวบยอด และผู้อนื่ (สภาพทีพ่ ึงประสงค์) 8.2 มีปฏิสัมพันธท์ ด่ี กี ับผู้อ่นื (สภาพทีพ่ ึงประสงค์) (สภาพที่พึงประสงค์) 4.1 สนใจ มีความสุขและ (สภาพทีพ่ งึ ประสงค์) 10.2 มคี วามสามารถในการคิดเชงิ เหตุผล 2.1 เคลอ่ื นไหว แสดงออกผา่ นงานศลิ ปะดนตรี 8.3 ปฏิบัติตนเบื้องตน้ ใน (สภาพทพี่ งึ ประสงค์) ร่างกายอยา่ ง และการเคลอื่ นไหว การเปน็ สมาชกิ ท่ีดขี องสงั คม 10.3 มีความสามารถในการคิดแก้ปัญหาและ คลอ่ งแคล่วประสาน (สภาพทพี่ งึ ประสงค)์ (สภาพทพ่ี ึงประสงค์) ตัดสนิ ใจ (สภาพท่ีพึงประสงค)์ สมั พันธ์และทรงตวั 5.4 มีความรับผดิ ชอบ (สภาพท่ี 11.2 แสดงท่าทาง/เคลื่อนไหวตามจนิ ตนาการ พึงประสงค)์ อย่างสร้างสรรค์(สภาพทพ่ี ึงประสงค์)
ได้(สภาพทพ่ี ึง 12.1 มเี จตคตทิ ีด่ ีตอ่ การเรยี นรู้ ประสงค์) (สภาพทพ่ี งึ ประสงค์) 2.2 ใชม้ ือ-ตา 12.2 มีความสามารถในการแสวงหาความรู้ ประสานสัมพันธก์ ัน (สภาพท่ีพึงประสงค์) (สภาพทพี่ ึงประสงค)์ จดุ ประสงค์ 1. บอกลกั ษณะของทอ้ งฟา้ ในช่วงเวลาต่างๆ ได้ 2. บอกการปฏิบตั ติ นใหเ้ หมาะสมกบั ชว่ งเวลาได้ 3. พฒั นากลา้ มเนอื้ มือและตาใหป้ ระสานสัมพันธ์กนั จากการวาดภาพและเขยี นคาตามรอยประ กิจกรรมการเรียนรู้ ขนั้ นา 1. ครูและเด็กร่วมกันท่องบทรอ้ งเลน่ จันทร์เอ๋ย จันทรเ์ จา้ แลว้ สนทนาเกยี่ วกบั บทรอ้ งเลน่ โดยครูเลา่ ถึง วถิ ีชวี ิตของคนไทยสมยั กอ่ นที่ใชก้ ารดูดวงจนั ทรเ์ พ่อื บอกเวลาและสังเกตธรรมชาตนิ า้ ขนึ้ นา้ ลง เป็นตน้ 2. ครูแนะนากจิ กรรมสารวจทอ้ งฟา้ และการระมัดระวงั ตนเองในการมองดวงอาทติ ย์ ซ่ึงอนั ตรายถา้ จอ้ งมอง ดวงอาทิตยไ์ ม่ถกู วิธี ขนั้ สอน 1. ครูพาเดก็ ๆ ไปสารวจทอ้ งฟา้ นอกหอ้ งเรยี น แลว้ สนทนาซกั ถามเกีย่ วกับสภาพอากาศและส่ิงทีพ่ บบน ทอ้ งฟา้ วันนี้ โดยถามคาถามกระตนุ้ ความคิด ดงั นี้ ทอ้ งฟ้าวนั นเี้ ป็นอยา่ งไร เด็กๆ พบอะไรบา้ ง แลว้ รูส้ ึกอยา่ งไร 2. ครูใหเ้ ดก็ วาดภาพทอ้ งฟา้ ท่สี ังเกตไดล้ งบนกระดาษทีเ่ ตรียมมา โดยใหเ้ วลาเด็กในการวาดภาพ 3. ครูใหเ้ ด็กผลดั กนั ออกมานาเสนอผลงานการวาดภาพสารวจทอ้ งฟา้ หนา้ ชัน้ เรยี น แลว้ บอกเล่าเรอื่ งราว สนั้ ๆ เกีย่ วกับภาพตามความคิดของตนเอง 4. ครูใหเ้ ดก็ เรยี นรูค้ าศัพทเ์ กยี่ วกบั ทอ้ งฟา้ และฝึกออกเสยี งคาศัพท์ เชน่ ทอ้ งฟ้า sky ดวงอาทิตย์ sun ดวงจันทร์ moon ดวงดาว star ขนั้ สรุป 1. ครูและเด็กรว่ มกันสรุปเก่ยี วกับสิ่งท่ีสารวจพบบนทอ้ งฟา้ วา่ สิง่ ท่ีเดก็ ๆ สังเกตพบในวนั นเี้ หมือนหรอื แตกต่างจากทเ่ี พอ่ื นสังเกตหรือไม่ และใหเ้ ด็กสงั เกตบัตรภาพ กิจกรรมท่ที าในชว่ งเวลาตา่ งๆ แลว้ ใหเ้ ด็ก ชว่ ยกนั ตอบวา่ เป็นชว่ งเวลาใด เหมาะสมกบั เวลาและควรทาหรือไม่ อย่างไร 2. ครูใหเ้ ดก็ สังเกตภาพในหนังสือเสริมฯ ธรรมชาติรอบตวั อ.2 กจิ กรรม ทอ้ งฟ้าบอกเวลา หนา้ 15 วาดภาพ ดวงอาทิตยห์ รอื ดวงจนั ทร์ แลว้ เติมคาบอกเวลากลางวนั กลางคนื ให้สมั พันธก์ ัน
ประเมินผล 2. สงั เกตการนาเสนอผลงานและการแสดงความคดิ เห็น 1. สงั เกตความสนใจในการร่วมกิจกรรม 3. สังเกตการสนทนาและการตอบคาถาม 4. สังเกตผลงานการทากจิ กรรม ทอ้ งฟา้ บอกเวลา สอื่ การเรยี นรู้ 1. บทรอ้ งเล่น จนั ทรเ์ อ๋ย จันทร์เจา้ 2. กระดาษวาดภาพ สี ดนิ สอ 3. ภาพกิจกรรมที่ทาในชว่ งเวลาต่างๆ 4. หนังสือเสรมิ ฯ ธรรมชาติรอบตวั อ.2 กิจกรรม ทอ้ งฟ้าบอกเวลา หนา้ 15 ภาคผนวก บทรอ้ งเล่น จันทรเ์ อ๋ย จนั ทรเ์ จา้ บทร้องเล่น จนั ทรเ์ อ๋ย จันทรเ์ จ้า (ไม่ทราบนามผแู้ ต่ง) จันทรเ์ อ๋ย จันทรเ์ จา้ ขอขา้ วขอแกง ขอแหวนทองแดง ผกู มอื นอ้ งขา้ ขอชา้ ง ขอมา้ ใหน้ อ้ งขา้ ขี่ ขอเก้าอี้ ใหน้ อ้ งขา้ น่งั ขอเตยี งต่งั ใหน้ อ้ งขา้ นอน ขอละคร ใหน้ อ้ งขา้ ดู ขอยายชู เลยี้ งนอ้ งขา้ เถิด ขอยายเกดิ เลยี้ งตวั ขา้ เอง ตัวอย่างบตั รภาพ
แนวทางการจดั ประสบการณก์ ารเรียนรู้ การศกึ ษาปฐมวยั ภาคเรียนท่ี...1... สำหรับเดก็ ท่มี ีความตอ้ งการจำเป็นพเิ ศษ ชว่ งอายุ .....4-5...... ปี สาระการเรยี นรทู้ .ี่ .3.. หนว่ ย ท้องฟ้าน่ารู้ วนั ท่ี 2 สิ่งที่อย่บู นท้องฟ้า กิจกรรมเสริมประสบการณ์ สาระทคี่ วรเรียนรู้ ทอ้ งฟา้ ในแต่ละวันบอกชว่ งเวลาที่เปลีย่ นแปลงใหเ้ รารู้ เชน่ เวลากลางวนั เป็นช่วงเวลาที่ทอ้ งฟ้าสว่างไสว จากแสงของดวงอาทิตย์ เวลากลางคนื เป็นชว่ งเวลาทท่ี อ้ งฟา้ มดื มีดวงจนั ทรแ์ ละดวงดาวมาแทนท่ีบอกชว่ งเวลา ในระหว่างวัน ทอ้ งฟ้าช่วยบอกสภาพอากาศในขณะน้นั หรอื สภาพอากาศท่ีกาลังจะเปล่ยี นแปลงใหเ้ รารูด้ ว้ ย สาระสาคญั เดก็ ไดเ้ รียนรูเ้ ก่ยี วกับการเรียงลาดับภาพตามแบบรูปที่อยูล่ าดบั ถัดไป โดยใชภ้ าพดวงจนั ทร์ ดวงดาว ดวงอาทิตย์ กอ้ นเมฆ สายรุง้ ซง่ึ เป็นสงิ่ ทเ่ี ด็กพบอยบู่ นทอ้ งฟ้าในชว่ งเวลาท่แี ตกตา่ งกัน มาตรฐานคุณลกั ษณะที่พงึ ประสงค์ / ประสบการณ์สาคญั รา่ งกาย อารมณ์ จติ ใจ สังคม สติปัญญา มาตรฐานคุณลกั ษณะทพ่ี ึงประสงค์ มฐ.1 มฐ.2 มฐ.3 มฐ.4 มฐ.5 มฐ.6 มฐ.7 มฐ.8 มฐ.9 มฐ.10 มฐ.11 มฐ.12 1.2, 1.3 2.1, 2.2 3.1, 3.2 4.1 5.4 6.1 7.2 8.2, 8.3 9.1,9.2 10.1,10.3 11.1,11.2 12.1,12.2 ประสบการณส์ าคัญ 1.2 มสี ขุ ภาพ 3.1 แสดงออกทางอารมณไ์ ด้ 6.1 ชว่ ยเหลอื ตนเองในการ 9.1 รบั ร้แู ละเข้าใจความหมายของภาษาได้ อนามยั สุขนสิ ยั ทด่ี ี อย่างเหมาะสม ปฏิบตั กิ ิจวตั รประจำวนั (สภาพท่ีพงึ ประสงค์) (สภาพทพี่ งึ ประสงค)์ (สภาพท่พี ึงประสงค์) (สภาพที่พงึ ประสงค์) 9.2 แสดงออกและ/หรือพดู เพอ่ื สื่อความหมาย 1.3 รกั ษาความ 3.2 มคี วามรู้สกึ ที่ดีตอ่ ตนเอง 7.2 ดแู ลรกั ษาธรรมชาติ ได้ (สภาพท่ีพึงประสงค)์ ปลอดภัยของตนเอง และผ้อู ื่น และสิ่งแวดล้อม 10.1 มีความสามารถในการคิดรวบยอด และผู้อ่ืน (สภาพทพ่ี ึงประสงค์) 8.2 มีปฏสิ มั พนั ธท์ ี่ดกี บั ผอู้ ืน่ (สภาพที่พึงประสงค์) (สภาพทพ่ี งึ ประสงค)์ 4.1 สนใจ มคี วามสขุ และ (สภาพที่พึงประสงค)์ 10.3 มคี วามสามารถในการคิดแก้ปัญหาและ 2.1 เคลื่อนไหว แสดงออกผา่ นงานศิลปะดนตรี 8.3 ปฏบิ ัติตนเบ้ืองตน้ ใน ตัดสินใจ (สภาพท่พี ึงประสงค)์ ร่างกายอยา่ ง และการเคลื่อนไหว การเปน็ สมาชกิ ทดี่ ีของสังคม 11.1 ทำงานศลิ ปะตามจินตนาการและความคดิ คลอ่ งแคลว่ ประสาน (สภาพทีพ่ งึ ประสงค์) (สภาพท่พี งึ ประสงค)์ สร้างสรรค์ สมั พันธแ์ ละทรงตัว 5.4 มีความรบั ผดิ ชอบ (สภาพที่ (สภาพท่ีพึงประสงค)์ ได้(สภาพทพ่ี งึ พงึ ประสงค์) 11.2 แสดงทา่ ทาง/เคล่อื นไหวตามจนิ ตนาการ ประสงค์) อย่างสร้างสรรค์(สภาพทพ่ี ึงประสงค)์ 12.1 มีเจตคตทิ ่ีดตี อ่ การเรยี นรู้
2.2 ใช้มือ-ตา (สภาพทพ่ี งึ ประสงค)์ ประสานสมั พนั ธก์ นั 12.2 มีความสามารถในการแสวงหาความรู้ (สภาพท่ีพึงประสงค)์ (สภาพทพี่ งึ ประสงค์) จุดประสงค์ 1. เรียงลาดับภาพตามแบบรูปทอี่ ยู่ลาดับต่อไปได้ 2. สงั เกตและเปรยี บเทียบความเหมอื นหรอื แตกต่างของแบบรูปท่กี าหนดให้ 3. พัฒนากลา้ มเนอื้ มอื และตาใหป้ ระสานสัมพนั ธ์กันจากการวาดภาพ กิจกรรมการเรียนรู้ ขนั้ นา 1. ครูและเดก็ ร่วมกนั รอ้ งเพลง ดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ และปรบมือตามจงั หวะชา้ -เร็ว 2. ครูใหเ้ ดก็ รว่ มกันคิดจังหวะการปรบมือประกอบบทรอ้ งเล่น และปรบมอื ตามจังหวะร่วมกัน ขนั้ สอน 1. ครูใหเ้ ดก็ สงั เกตบัตรภาพดวงอาทติ ย์ ดวงจันทร์ และกอ้ นเมฆ เมอื่ เดก็ ๆ เหน็ ภาพเหล่านี้ เดก็ ๆ คิดถงึ สงิ่ ใด ใหเ้ ด็กๆ คดิ และชว่ ยกนั ตอบ 2. ครูแบง่ กลุ่มเด็ก กลมุ่ ละ 4-5 คน แลว้ แจกบัตรภาพดวงจันทร์ ดวงอาทติ ย์ กอ้ นเมฆ ดวงดาว สายรุง้ ใหเ้ ดก็ แต่ละกลุม่ เพอ่ื ทากจิ กรรมเรยี งลาดบั ภาพส่ิงท่พี บบนทอ้ งฟา้ 3. ครูใหเ้ ดก็ แตล่ ะกลมุ่ ชว่ ยกนั เรยี งลาดับภาพตามที่ครูกาหนด เช่น ดวงอาทิตย์ ดวงจนั ทร์ ดวงดาว ดวงอาทิตย์ กอ้ นเมฆ กอ้ นเมฆ ดวงอาทิตย์ สายรุง้ ดวงจันทร์ ดวงดาว สายรงุ้ กอ้ นเมฆ สายรุง้ ดวงจันทร์ ดวงดาว ดวงอาทิตย์ 4. ครูใหเ้ ดก็ เรียงภาพและหาคาตอบวา่ ภาพใดคือภาพลาดบั ต่อไป 5. เด็กไดเ้ รยี นรูค้ าศัพทเ์ กีย่ วกับปรากฏการณบ์ นทอ้ งฟา้ และฝึกออกเสียงคาศพั ท์ เชน่ เมฆ clound ฝน rain รุง้ rainbow ดวงอาทติ ย์ sun ดวงดาว star ขนั้ สรุป 1. ครูและเด็กช่วยกนั ตรวจสอบความถกู ตอ้ งของการเรียงบตั รภาพ 2. ครูใหเ้ ด็กสงั เกตภาพในหนังสอื เสรมิ ฯ ธรรมชาตริ อบตัว กจิ กรรม ลาดบั ภาพส่งิ ทีอ่ ยู่บนทอ้ งฟ้า หนา้ 16 สนทนาและสังเกตการเรยี งลาดบั แลว้ วาดภาพทเี่ ป็นลาดบั ถดั ไปลงในช่องว่างใหถ้ ูกตอ้ ง ประเมินผล
1. สังเกตการสนทนาและการตอบคาถาม 2. สังเกตการแสดงความคิดเห็นเกยี่ วกับเรือ่ งท่เี รียน 3. สังเกตผลงานการทากจิ กรรม ทอ้ งฟ้าบอกสภาพอากาศ ส่อื การเรยี นรู้ 1. บัตรภาพฝนตก ภาพเด็กต่ืนนอน ภาพเด็กเขา้ นอนตอนกลางคนื 2. สัญลักษณบ์ ตั รภาพเกยี่ วกบั สภาพอากาศ 3. ลาดบั ภาพสง่ิ ทีอ่ ยูบ่ นทอ้ งฟา้ ภาคผนวก ตัวอยา่ งภาพ สญั ลกั ษณบ์ ัตรภาพเกีย่ วกับสภาพอากาศ มเี มฆมาก ทอ้ งฟ้าแจ่มใส มฝี นเล็กน้อย
แนวทางการจดั ประสบการณ์การเรยี นรู้ การศึกษาปฐมวัย ภาคเรยี นท่ี...1... สำหรบั เดก็ ทีม่ คี วามต้องการจำเป็นพิเศษ ชว่ งอายุ .....4-5...... ปี สาระการเรียนรู้ท.่ี .3.. หน่วย ท้องฟ้าน่ารู้ วนั ที่ 3 ท้องฟ้าบอกสภาพอากาศ กิจกรรมเสริมประสบการณ์ สาระที่ควรเรียนรู้ ทอ้ งฟา้ ในแตล่ ะวนั บอกช่วงเวลาที่เปลี่ยนแปลงให้เรารู้ เช่น เวลากลางวนั เป็นช่วงเวลาที่ทอ้ งฟา้ สวา่ งไสว จากแสงของดวงอาทติ ย์ เวลากลางคนื เป็นช่วงเวลาที่ทอ้ งฟา้ มืด มดี วงจันทรแ์ ละดวงดาวมาแทนท่บี อกช่วงเวลา ในระหวา่ งวัน ทอ้ งฟ้าชว่ ยบอกสภาพอากาศในขณะนั้นหรอื สภาพอากาศที่กาลังจะเปลยี่ นแปลงใหเ้ รารูด้ ว้ ย สาระสาคญั เด็กไดเ้ รยี นรูเ้ กย่ี วกับปรากฏการณท์ ่ีเกดิ ขนึ้ บนทอ้ งฟา้ ท่สี ามารถบอกสภาพอากาศท่อี าจเกิดขนึ้ ในแต่ละ วนั เชน่ ทอ้ งฟ้ามดื ครมึ้ มลี มพดั อาจจะเกิดฝนตกในไม่ชา้ หรือในเวลากลางคืนดวงจนั ทรบ์ นทอ้ งฟา้ มีทงั้ ดวงจนั ทรเ์ ตม็ ดวงและดวงจันทรเ์ สยี้ ว บอกเวลาขา้ งขนึ้ ขา้ งแรม มาตรฐานคุณลกั ษณะทพ่ี งึ ประสงค์ / ประสบการณ์สาคญั รา่ งกาย อารมณ์ จติ ใจ สังคม สตปิ ัญญา มาตรฐานคุณลกั ษณะท่ีพงึ ประสงค์ มฐ.1 มฐ.2 มฐ.3 มฐ.4 มฐ.5 มฐ.6 มฐ.7 มฐ.8 มฐ.9 มฐ.10 มฐ.11 มฐ.12 1.2, 1.3 2.1, 2.2 3.1, 3.2 4.1 5.4 6.1 7.2 8.2, 8.3 9.1,9.2 10.1,10.2, 11.1,11.2 12.1,12.2 10.3 ประสบการณ์สาคญั 1.2 มีสขุ ภาพ 3.1 แสดงออกทางอารมณไ์ ด้ 6.1 ช่วยเหลือตนเองในการ 9.1 รับร้แู ละเข้าใจความหมายของภาษาได้ อนามัยสุขนิสยั ทดี่ ี อยา่ งเหมาะสม ปฏบิ ตั ิกิจวตั รประจำวัน (สภาพทพ่ี งึ ประสงค์) (สภาพทพี่ งึ ประสงค์) (สภาพทพ่ี งึ ประสงค์) (สภาพที่พงึ ประสงค)์ 9.2 แสดงออกและ/หรือพูดเพ่ือสอ่ื ความหมาย 1.3 รกั ษาความ 3.2 มคี วามรู้สึกท่ดี ีตอ่ ตนเอง 7.2 ดแู ลรักษาธรรมชาติ ได้ (สภาพท่ีพงึ ประสงค์) ปลอดภยั ของตนเอง และผูอ้ ื่น และส่ิงแวดลอ้ ม 10.1 มีความสามารถในการคดิ รวบยอด และผอู้ นื่ (สภาพทพ่ี ึงประสงค)์ 8.2 มีปฏิสัมพันธท์ ่ีดกี ับผอู้ น่ื (สภาพทพ่ี ึงประสงค์) (สภาพท่ีพึงประสงค)์ 4.1 สนใจ มีความสุขและ (สภาพที่พึงประสงค์) 10.2 มีความสามารถในการคิดเชิงเหตุผล 2.1 เคลื่อนไหว แสดงออกผา่ นงานศิลปะดนตรี 8.3 ปฏิบตั ิตนเบือ้ งตน้ ใน (สภาพท่พี ึงประสงค)์ ร่างกายอย่าง และการเคลือ่ นไหว การเปน็ สมาชกิ ทีด่ ีของสังคม 10.3 มีความสามารถในการคิดแกป้ ญั หาและ คล่องแคลว่ ประสาน (สภาพที่พึงประสงค์) (สภาพทพ่ี ึงประสงค)์ ตัดสินใจ (สภาพทีพ่ ึงประสงค)์ สมั พนั ธ์และทรงตวั 5.4 มคี วามรับผดิ ชอบ (สภาพท่ี 11.1 ทำงานศิลปะตามจนิ ตนาการและความคิด ได้(สภาพทพ่ี ึง พงึ ประสงค์) สร้างสรรค์ ประสงค์) (สภาพที่พึงประสงค์)
2.2 ใชม้ ือ-ตา 11.2 แสดงทา่ ทาง/เคลื่อนไหวตามจินตนาการ ประสานสมั พนั ธก์ นั อย่างสร้างสรรค์(สภาพท่พี ึงประสงค์) (สภาพที่พึงประสงค)์ 12.1 มีเจตคติทีด่ ตี อ่ การเรียนรู้ (สภาพทีพ่ ึงประสงค)์ 12.2 มีความสามารถในการแสวงหาความรู้ (สภาพที่พงึ ประสงค)์ จดุ ประสงค์ 1. บอกลกั ษณะทอ้ งฟ้าในชว่ งเวลาหนง่ึ วนั ได้ 2. บอกชว่ งเวลาในหน่งึ วนั ได้ 3. พฒั นากลา้ มเนอื้ มือและตาใหป้ ระสานสมั พนั ธก์ นั จากการโยงเสน้ กิจกรรมการเรียนรู้ ขนั้ นา ครูใหเ้ ด็กเคลอื่ นไหวร่างกายประกอบเรือ่ งราวทีค่ รูเลา่ ดงั นี้ “วนั นเี้ ด็กๆ ตน่ื นอนตอนเชา้ อากาศแจม่ ใส ดวงอาทิตยท์ อแสงออ่ นๆ เดก็ ๆ ทาความสะอาดร่างกาย แต่งกายดว้ ยชุดนกั เรียน รบั ประทานอาหารเรยี บรอ้ ยแลว้ คณุ แมเ่ ดินไปสง่ ท่โี รงเรียน ขณะน่งั เรยี นหนงั สอื ก็เกดิ ลมพดั ฟ้ารอ้ ง กอ้ นเมฆครมึ้ แลว้ ฝนก็ตกลงมาอยา่ งหนกั เป็นเวลานาน หลงั ฝนหยดุ ตก ดวงอาทิตย์ ส่องแสงอีกครงั้ เด็กๆ เห็นรงุ้ สวยงาม อากาศหลงั ฝนตกนสี้ ดช่ืนจรงิ ๆ” ขนั้ สอน 1. เม่ือเด็กทาท่าทางเคล่ือนไหวประกอบเรอื่ งราวแลว้ ครูสนทนาซักถามประกอบบัตรภาพฝนกาลงั ตก ภาพเดก็ ตนื่ นอนตอนเชา้ ภาพเดก็ เขา้ นอนเวลากลางคนื เป็นตน้ โดยถามคาถามกระตนุ้ ความคดิ ดังนี้ เหตกุ ารณใ์ นกจิ กรรมเคลอ่ื นไหวมีปรากฏการณอ์ ะไรเกดิ ขนึ้ บา้ ง เด็กๆ เคยพบกบั เหตกุ ารณเ์ หมือนในกิจกรรมเคลือ่ นไหวหรอื ไม่ ใหเ้ ลา่ เรอ่ื งสนั้ ๆ ใหเ้ พื่อนฟัง 2. ครูใหอ้ าสาสมคั รออกมาหยิบบตั รภาพที่สอดคลอ้ งกับเหตกุ ารณ์ แลว้ ชบู ัตรภาพใหเ้ พอื่ นดู 3. ครูสนทนาเกย่ี วกบั ปรากฏการณท์ ่ีเกดิ ขนึ้ บนทอ้ งฟ้าทเี่ ปลย่ี นแปลงไปในแต่ละวนั ทสี่ ามารถทาให้เรา คาดการณส์ ภาพอากาศที่อาจจะเกิดขนึ้ เช่น กอ่ นฝนตกทอ้ งฟ้าจะเป็นอย่างไร กอ้ นเมฆแบบใดทีจ่ ะบอกใหเ้ รารูไ้ ดว้ า่ จะเกิดฝนตกในไม่ชา้ เด็กๆ รูจ้ กั ปรากฏการณบ์ นทอ้ งฟ้าแบบใดอกี บา้ ง และมีลกั ษณะเป็นอยา่ งไร 4. ครูนาเสนอสัญลักษณบ์ ัตรภาพเก่ียวกับสภาพอากาศ โดยอธบิ ายความหมายใหเ้ ด็กเขา้ ใจเพอ่ื ใหเ้ ด็ก เช่ือมโยงความรูท้ ่เี รยี น นาไปสงั เกตสภาพอากาศทเ่ี กดิ ขนึ้ ในสถานการณจ์ ริงได้ ขนั้ สรปุ
1. ครูและเด็กร่วมกันสรุปเก่ียวกับปรากฏการณท์ ่เี กิดขนึ้ บนทอ้ งฟา้ ทีม่ กี ารเปลี่ยนแปลง เพราะความแตกต่าง ของชว่ งฤดูกาลนั้นๆ ทท่ี าใหส้ ภาพอากาศเปลีย่ นแปลง 2. ครูใหเ้ ด็กทากิจกรรมในหนังสือเสริมฯ ธรรมชาติรอบตวั กจิ กรรม ทอ้ งฟา้ บอกสภาพอากาศ หนา้ 17 ฟัง เร่ืองราวจากครู แลว้ วาดภาพตอ่ เติมทอ้ งฟา้ สภาพอากาศจากเรอ่ื งราว ประเมินผล 1. สงั เกตการมีสว่ นรว่ มในการทากิจกรรม 2. สงั เกตการแสดงความคิดเหน็ และการตอบคาถาม 3. สังเกตผลงานการทากจิ กรรม ทอ้ งฟ้าบอกสภาพอากาศ ส่ือการเรียนรู้ 1. เพลง ฝนตก 2. นทิ านเรื่อง เทพสามฤดู 3. ของใชแ้ ละเครอื่ งแตง่ กายในฤดตู า่ งๆ 4. ภาพเครอ่ื งแตง่ กายในฤดูตา่ งๆ 5. บัตรคาศพั ทช์ ่ือฤดกู าลในประเทศไทย 6. หนังสือเสริมฯ ธรรมชาติรอบตวั กจิ กรรม ทอ้ งฟ้าบอกสภาพอากาศ หนา้ 17 ภาคผนวก ตวั อย่างภาพ สญั ลักษณบ์ ัตรภาพเกีย่ วกับสภาพอากาศ มีเมฆมาก ท้องฟ้าแจม่ ใส มฝี นเลก็ น้อย
แนวทางการจดั ประสบการณก์ ารเรยี นรู้ การศึกษาปฐมวัย ภาคเรยี นท่ี...1... สำหรบั เด็กท่มี คี วามตอ้ งการจำเปน็ พเิ ศษ ชว่ งอายุ .....4-5...... ปี สาระการเรยี นรทู้ .ี่ .3.. หน่วย ท้องฟ้าน่ารู้ วนั ท่ี 4 ฤดกู าลในบา้ นเรา กิจกรรมเสริมประสบการณ์ สาระท่ีควรเรยี นรู้ ทอ้ งฟ้าในแตล่ ะวันบอกช่วงเวลาท่ีเปลยี่ นแปลงใหเ้ รารู้ เชน่ เวลากลางวนั เป็นชว่ งเวลาท่ที อ้ งฟ้าสว่างไสว จากแสงของดวงอาทิตย์ เวลากลางคืน เป็นช่วงเวลาท่ที อ้ งฟ้ามืด มีดวงจนั ทรแ์ ละดวงดาวมาแทนท่ีบอก ช่วงเวลาในระหว่างวนั ทอ้ งฟ้าชว่ ยบอกสภาพอากาศในขณะนน้ั หรอื สภาพอากาศทีก่ าลงั จะเปลย่ี นแปลง ใหเ้ รารูด้ ว้ ย สาระสาคญั เดก็ ไดเ้ รยี นรูเ้ กยี่ วกบั ช่ือของฤดูกาลในประเทศไทย และลกั ษณะสภาพอากาศท่ีแตกต่างกัน จึงทาใหเ้ รา ตอ้ งมเี ครือ่ งแต่งกายทเี่ หมาะสมกับสภาพอากาศ เพอ่ื ใหเ้ ราไม่เจ็บป่วยและปรบั ตวั เขา้ กับอากาศแต่ละฤดูได้ มาตรฐานคุณลกั ษณะทีพ่ งึ ประสงค์ / ประสบการณ์สาคญั ร่างกาย อารมณ์ จติ ใจ สงั คม สตปิ ัญญา มาตรฐานคุณลักษณะทพี่ งึ ประสงค์ มฐ.1 มฐ.2 มฐ.3 มฐ.4 มฐ.5 มฐ.6 มฐ.7 มฐ.8 มฐ.9 มฐ.10 มฐ.11 มฐ.12 1.2, 1.3 2.1, 2.2 3.1, 3.2 4.1 5.4 6.1 7.2 8.2, 8.3 9.1,9.2 10.1,10.2, 11.1,11.2 12.1,12.2 10.3 ประสบการณส์ าคัญ 1.2 มีสขุ ภาพ 3.1 แสดงออกทางอารมณไ์ ด้ 6.1 ชว่ ยเหลือตนเองในการ 9.1 รบั ร้แู ละเขา้ ใจความหมายของภาษาได้ อนามัยสุขนสิ ัยท่ีดี อยา่ งเหมาะสม ปฏบิ ตั กิ ิจวตั รประจำวนั (สภาพทีพ่ ึงประสงค์) (สภาพทีพ่ งึ ประสงค์) (สภาพทพ่ี ึงประสงค)์ (สภาพทพ่ี งึ ประสงค)์ 9.2 แสดงออกและ/หรอื พูดเพือ่ ส่อื ความหมาย 1.3 รกั ษาความ 3.2 มคี วามรสู้ กึ ทีด่ ตี อ่ ตนเอง 7.2 ดูแลรกั ษาธรรมชาติ ได้ (สภาพที่พงึ ประสงค)์ ปลอดภยั ของตนเอง และผู้อ่นื และสิ่งแวดลอ้ ม 10.1 มคี วามสามารถในการคดิ รวบยอด และผ้อู ื่น (สภาพทพี่ ึงประสงค์) 8.2 มีปฏิสัมพันธท์ ่ีดกี บั ผ้อู น่ื (สภาพที่พงึ ประสงค)์ (สภาพทพ่ี ึงประสงค์) 4.1 สนใจ มคี วามสขุ และ (สภาพทพี่ ึงประสงค์) 10.2 มคี วามสามารถในการคดิ เชิงเหตผุ ล 2.1 เคลื่อนไหว แสดงออกผ่านงานศิลปะดนตรี 8.3 ปฏบิ ัตติ นเบื้องต้นใน (สภาพที่พงึ ประสงค)์ รา่ งกายอยา่ ง และการเคลอ่ื นไหว การเปน็ สมาชิกท่ดี ีของสังคม 10.3 มคี วามสามารถในการคดิ แก้ปญั หาและ คล่องแคลว่ ประสาน (สภาพท่พี ึงประสงค)์ (สภาพทพ่ี ึงประสงค)์ ตดั สนิ ใจ (สภาพท่พี ึงประสงค)์ สมั พนั ธ์และทรงตวั 5.4 มีความรบั ผิดชอบ (สภาพที่ 11.1 ทำงานศลิ ปะตามจนิ ตนาการและความคดิ ได้(สภาพทพี่ งึ พึงประสงค์) สรา้ งสรรค์ ประสงค์) (สภาพทพ่ี งึ ประสงค์)
2.2 ใชม้ ือ-ตา 11.2 แสดงทา่ ทาง/เคลื่อนไหวตามจนิ ตนาการ ประสานสัมพนั ธก์ นั อยา่ งสร้างสรรค์(สภาพทพ่ี งึ ประสงค)์ (สภาพที่พึงประสงค์) 12.1 มเี จตคติทดี่ ตี อ่ การเรียนรู้ จดุ ประสงค์ (สภาพทพี่ ึงประสงค์) 1. บอกลักษณะสภาพอากาศในฤดกู าลตา่ งๆ ได้ 12.2 มคี วามสามารถในการแสวงหาความรู้ (สภาพทพี่ ึงประสงค)์ 2. บอกวธิ กี ารปฏิบัตติ นใหเ้ หมาะสมกบั สภาพอากาศได้ 3. พัฒนากลา้ มเนอื้ มอื และตาใหป้ ระสานสัมพันธ์กนั จากการวาดภาพ กิจกรรมการเรียนรู้ ขนั้ นา 1. ครูและเดก็ รว่ มกนั รอ้ งเพลง ฝนตก แลว้ ทาท่าประกอบเพลงตามจินตนาการ 2. ครูสนทนาเกี่ยวกบั เนอื้ เพลง โดยถามคาถาม ดังนี้ บทเพลงนเี้ ก่ยี วขอ้ งกบั ฤดกู าลใด ฤดูฝนมีสภาพอากาศเป็นอยา่ งไร เดก็ ๆ รูจ้ กั ฤดกู าลใดบา้ ง และมีลักษณะสภาพอากาศเป็นอยา่ งไร เดก็ ๆ ชอบฤดใู ดมากทส่ี ดุ และทาไมจงึ ชอบฤดนู ั้น ขนั้ สอน 1. ครูเล่านิทานเรื่อง เทพสามฤดู ใหเ้ ด็กฟัง แลว้ สนทนาเกยี่ วกบั เนอื้ เร่อื งในนิทาน โดยถามคาถาม ดังนี้ เทพสามฤดมู ีเทพฤดใู ดบา้ ง ฤดูหนาว ฤดฝู น ฤดรู อ้ น เป็นอยา่ งไร เด็กๆ ชอบเทพฤดูใดมากทสี่ ุด เพราะเหตใุ ด ถา้ มีฤดฝู นเพียงฤดูเดยี ว เดก็ ๆ คดิ วา่ จะเกดิ อะไรขนึ้ 2. ครูนาเครือ่ งใชใ้ นฤดูกาลตา่ งๆ เชน่ รม่ พัด เสอื้ กนั หนาว เป็นตน้ มาใหเ้ ดก็ สังเกตและรว่ มสนทนา แลกเปลีย่ นประสบการณร์ ่วมกนั 3. ครูใหอ้ าสาสมัครออกมาเลือกภาพเครอ่ื งแตง่ กายทเ่ี หมาะสมกับสภาพอากาศตามทคี่ รูบอก เชน่ ฤดูหนาวเราควรแต่งกายดว้ ย... ครูใหเ้ ด็กหยบิ บตั รภาพเครื่องแตง่ กายแลว้ พูดซา้ คาครู แลว้ ตอ่ ดว้ ย ชื่อเครอื่ งแตง่ กายท่หี ยบิ โดยครพู ดู สลับฤดกู าลไปเร่อื ยๆ 4. ครูใหเ้ ดก็ เรยี นรูค้ าศัพทเ์ กีย่ วกับชือ่ ฤดกู าลต่างๆ และฝึกออกเสยี งคาศัพทต์ ามครู เชน่ ฤดูรอ้ น summer ฤดฝู น rainy season ฤดหู นาว winter
ขนั้ สรุป 1. ครูใหค้ วามรูเ้ พิ่มเติมเก่ยี วกบั ฤดูกาลและการดูแลรกั ษาสขุ ภาพเบือ้ งตน้ ที่อากาศเปล่ยี นแปลง เชน่ ไม่เดิน ตากฝน เดนิ หรือเล่นกลางแดดจัดในวันที่อากาศรอ้ น เวลากลางคนื อากาศเย็นควรนอนหม่ ผา้ เป็นตน้ 2. ครูใหเ้ ด็กสังเกตภาพในหนงั สือเสรมิ ฯ ธรรมชาตริ อบตวั กิจกรรม ฤดกู าลบา้ นเรา หนา้ 18 สนทนา เก่ียวกับฤดูกาล แลว้ โยงเสน้ จบั คภู่ าพเครื่องแตง่ กายใหเ้ หมาะสมกับฤดู ประเมินผล 1. สังเกตการสนทนาและการตอบคาถาม 2. สังเกตความสนใจในการรว่ มกิจกรรม 3. สังเกตการทากิจกรรมรวมกลุ่มกับผอู้ ่ืน 4. สงั เกตผลงานการทากิจกรรม ฤดูกาลบา้ นเรา สื่อการเรยี นรู้ 1. เพลง ฝนตก 2. นิทานเร่ือง เทพสามฤดู 3. ของใชแ้ ละเครอื่ งแต่งกายในฤดตู ่างๆ 4. ภาพเครื่องแตง่ กายในฤดตู า่ งๆ 5. บัตรคาศพั ทช์ ือ่ ฤดูกาลในประเทศไทย 6. หนงั สือเสรมิ ฯ ธรรมชาติรอบตวั กจิ กรรม ฤดูกาลบา้ นเรา หนา้ 18 ภาคผนวก เพลง ฝนตก เพลง ฝนตก (ไมท่ ราบนามผแู้ ต่ง) ซา่ ซา่ ซา่ ฝนตกลงมา กระเซน็ เป็นฝอย เด็กๆ หลบฝนกันหนอ่ ย (ซ้า) เปียกฝนเล็กนอ้ ยจะเป็นหวดั เอย ฮัดเชย้ ฮดั เชย้ (ซา้ ) แบ่งหนา้ ทก่ี ันในการดลบนั ดาลสภาพอากาศใหส้ ลบั เปลี่ยนกันจนครบ 3 ฤดู ทาใหช้ าวบา้ นสามารถปรบั ตัวเขา้ กับสภาพอากาศ ทีเ่ ปล่ียนแปลงไป
บัตรคาศพั ทช์ ่ือฤดูกาลในประเทศไทย summer rain season winter ฤดรู อ้ น ฤดูฝน ฤดูหนาว แนวทางการจดั ประสบการณ์การเรียนรู้ การศกึ ษาปฐมวยั ภาคเรียนที่...1... สำหรับเด็กทม่ี ีความต้องการจำเป็นพเิ ศษ ช่วงอายุ .....4-5...... ปี สาระการเรยี นรูท้ ่ี..3.. หน่วย ทอ้ งฟ้าน่ารู้ วันที่ 5 ฤดูกาลทีช่ ืน่ ชอบ กิจกรรมเสริมประสบการณ์ สาระทีค่ วรเรียนรู้ ทอ้ งฟ้าในแต่ละวนั บอกช่วงเวลาที่เปลย่ี นแปลงใหเ้ รารู้ เชน่ เวลากลางวัน เป็นชว่ งเวลาทีท่ อ้ งฟา้ สว่างไสว จากแสงของดวงอาทิตย์ เวลากลางคืนเป็นช่วงเวลาท่ที อ้ งฟ้ามดื มีดวงจนั ทรแ์ ละดวงดาวมาแทนที่บอก ชว่ งเวลาในระหวา่ งวัน ทอ้ งฟ้าช่วยบอกสภาพอากาศในขณะน้นั หรือสภาพอากาศท่ีกาลงั จะเปลยี่ นแปลง ใหเ้ รารูด้ ว้ ย สาระสาคญั เด็กไดเ้ รียนรูเ้ กีย่ วกบั ลักษณะของฤดกู าลในประเทศไทย มี 3 ฤดู ไดแ้ ก่ ฤดรู อ้ น ฤดูฝน และฤดหู นาว และวธิ กี ารปฏิบัตติ นในฤดกู าลตา่ งๆ ใหเ้ หมาะสมกบั สภาพอากาศ เช่น ฤดูหนาวใส่เสอื้ กนั หนาวใหร้ า่ งกาย มคี วามอบอ่นุ เป็นตน้ มาตรฐานคณุ ลกั ษณะท่ีพึงประสงค์ / ประสบการณ์สาคญั รา่ งกาย อารมณ์ จิตใจ สงั คม สติปัญญา มฐ.1 มฐ.2 มาตรฐานคณุ ลักษณะทพ่ี ึงประสงค์ 1.2, 1.3 2.1, 2.2 มฐ.3 มฐ.4 มฐ.5 มฐ.6 มฐ.7 มฐ.8 มฐ.9 มฐ.10 มฐ.11 มฐ.12 3.1, 3.2 4.1 5.4 6.1 7.2 8.2, 8.3 9.1,9.2 10.1,10.3 11.1,11.2 12.1,12.2 ประสบการณ์สาคญั 1.2 มีสุขภาพ 3.1 แสดงออกทางอารมณไ์ ด้ 6.1 ชว่ ยเหลือตนเองในการ 9.1 รับรูแ้ ละเขา้ ใจความหมายของภาษาได้ อนามยั สขุ นสิ ัยทดี่ ี (สภาพท่ีพงึ ประสงค)์ อย่างเหมาะสม ปฏบิ ตั กิ ิจวตั รประจำวัน (สภาพท่พี ึงประสงค)์ 9.2 แสดงออกและ/หรือพูดเพ่อื สือ่ ความหมาย 1.3 รกั ษาความ (สภาพท่พี ึงประสงค)์ (สภาพท่พี งึ ประสงค์) ได้ (สภาพท่พี งึ ประสงค)์ ปลอดภยั ของตนเอง 3.2 มคี วามรู้สกึ ทดี่ ีตอ่ ตนเองและ 7.2 ดแู ลรกั ษาธรรมชาติ 10.1 มคี วามสามารถในการคดิ รวบยอด และผู้อืน่ (สภาพทพี่ ึงประสงค)์ ผอู้ ื่น และสิ่งแวดลอ้ ม (สภาพทีพ่ งึ ประสงค์) 8.2 มปี ฏสิ มั พันธ์ที่ดกี ับผอู้ ่ืน
(สภาพทีพ่ ึงประสงค)์ 4.1 สนใจ มีความสุขและ (สภาพทพ่ี งึ ประสงค์) 10.2 มคี วามสามารถในการคิดเชงิ เหตุผล 2.1 เคลื่อนไหว แสดงออกผา่ นงานศลิ ปะดนตรี 8.3 ปฏบิ ัติตนเบ้ืองต้นใน (สภาพท่ีพึงประสงค)์ รา่ งกายอยา่ ง และการเคลื่อนไหว การเป็นสมาชกิ ท่ดี ขี องสังคม 10.3 มีความสามารถในการคดิ แกป้ ญั หาและ คล่องแคลว่ ประสาน (สภาพทีพ่ งึ ประสงค)์ (สภาพทพี่ ึงประสงค)์ ตดั สนิ ใจ (สภาพทพี่ งึ ประสงค์) สมั พนั ธ์และทรงตวั 5.4 มคี วามรับผิดชอบ (สภาพที่ 11.1 ทำงานศลิ ปะตามจินตนาการและความคิด ได้(สภาพทพ่ี งึ พึงประสงค์) สร้างสรรค์ ประสงค์) (สภาพท่ีพงึ ประสงค์) 2.2 ใช้มือ-ตา 11.2 แสดงทา่ ทาง/เคลื่อนไหวตามจนิ ตนาการ ประสานสมั พนั ธ์กัน อย่างสรา้ งสรรค์(สภาพทีพ่ ึงประสงค์) (สภาพทีพ่ ึงประสงค์) 12.1 มีเจตคติทีด่ ีตอ่ การเรียนรู้ (สภาพที่พงึ ประสงค)์ 12.2 มีความสามารถในการแสวงหาความรู้ (สภาพทพ่ี ึงประสงค์) จุดประสงค์ 1. บอกลกั ษณะของฤดกู าลตา่ งๆ ได้ 2. บอกวธิ กี ารปฏบิ ัตติ นใหเ้ หมาะสมกบั ฤดูกาลได้ 3. บอกความรูส้ กึ ชอบ ไม่ชอบ ฤดูกาลต่างๆ และอธิบายเหตุผลได้ กิจกรรมการเรียนรู้ ขนั้ นา 1. ครูและเด็กร่วมกันรอ้ งเพลง หนาวจรงิ เอย แลว้ สนทนาเกี่ยวกบั เพลง ดงั นี้ ฤดหู นาว ฤดูรอ้ น ฤดฝู น มีลักษณะอากาศเป็นอยา่ งไร เด็กๆ ชอบฤดูใดมากท่ีสดุ เพราะอะไร ขนั้ สอน 1. ครูใหเ้ ดก็ วาดภาพฤดกู าลทต่ี นเองชอบและไมช่ อบ 2. ครูใหเ้ ดก็ ออกมานาเสนอผลงานของตนเอง 3. ครูอธิบายเพม่ิ เตมิ เกยี่ วกบั ลักษณะของฤดูกาลในประเทศไทย ซึ่งมี 3 ฤดู ไดแ้ ก่ ฤดูรอ้ น ฤดูฝน และฤดู หนาว โดยสภาพอากาศจะแตกต่างกันออกไป เราจงึ ควรปฏบิ ัติตนใหเ้ หมาะสมกับสภาพอากาศ เพ่อื เป็น การรกั ษาสุขภาพของตวั เราในช่วงฤดกู าลตา่ งๆ น้ัน 4. ครูใหเ้ ดก็ ชว่ ยกนั บอกวิธีการปฏิบตั ิตนทเ่ี หมาะสมในฤดรู อ้ น ฤดูฝนและฤดหู นาว แลว้ ครูบันทึกขอ้ มลู บนกระดานหนา้ ช้ันเรยี น ขนั้ สรุป 1. ครูและเดก็ รว่ มกันสรุปถึงฤดูกาลต่างๆ ท่เี ด็กชอบ และวิธกี ารปฏิบตั ติ น
2. ครูใหเ้ ดก็ ทากจิ กรรมในหนงั สอื เสรมิ ฯ ธรรมชาติรอบตัว อ.2 กิจกรรม ฤดกู าลที่ชื่นชอบ หนา้ 19 สนทนา เก่ยี วกับฤดกู าลและการปฏบิ ตั ิตน แลว้ วาดภาพระบายสฤี ดกู าลท่ชี อบ พรอ้ มบอกเหตผุ ล ประเมินผล 1. สงั เกตการสนทนาและตอบคาถาม 2. สังเกตการมีส่วนรว่ มกบั ผอู้ น่ื 3. สังเกตผลงานการทากิจกรรม ฤดูกาลท่ชี ืน่ ชอบ ส่ือการเรยี นรู้ 1. เพลง หนาวจรงิ เอย 2. หนังสอื เสริมฯ ธรรมชาติรอบตวั อ.2 กจิ กรรม ฤดกู าลทีช่ ื่นชอบ หนา้ 19 ภาคผนวก เพลง หนาวจรงิ เอย เพลง หนาวจรงิ เอย (ไม่ทราบนามผแู้ ต่ง) หนาว หนาว หนาว พอถงึ หนา้ หนาวแลว้ มนั หนาวมันส่นั หนาวนนู้ หนาวนี้ หนาวนั้น มันหนาวมันสัน่ ไมร่ ูจ้ ะทาอยา่ งไร เอาอย่างนี้ เอาอย่างนี้ เอาอยา่ งนี้ หนา้ หนาวอกี ที ตอ้ งแขง็ แรงว่องไว ตื่นเชา้ ตอ้ งออกกาลังกาย ๆ แลว้ จะหายหนาวเอย กิจกรรมเคล่อื นไหวและจงั หวะ สาระท่ีควรเรียนรู้ การเคลือ่ นไหวร่างกายพรอ้ มอปุ กรณ์ มาตรฐานคณุ ลกั ษณะทพี่ ึงประสงค์ / ประสบการณ์สาคญั ร่างกาย อารมณ์ จิตใจ สังคม สติปัญญา มฐ.1 มฐ.2 มาตรฐานคณุ ลักษณะที่พงึ ประสงค์ มฐ.10 มฐ.11 10.3 11.2 มฐ.3 มฐ.4 มฐ.5 มฐ.6 มฐ.7 มฐ.8 มฐ.9 มฐ.12 12.1 1.2, 1.3 2.1 3.1, 3.2 4.1 8.1,8.2, 8.3
ประสบการณส์ าคญั 1.2 มีสขุ ภาพ 3.1 แสดงออกทางอารมณไ์ ด้ 8.1 ยอมรับความเหมอื น 10.3 มีความสามารถในการคิดแก้ปญั หาและ อนามยั สขุ นสิ ัยท่ีดี อยา่ งเหมาะสม และความแตกต่างระหว่าง ตัดสินใจ (สภาพที่พงึ ประสงค)์ (สภาพทพี่ งึ ประสงค)์ (สภาพทพ่ี งึ ประสงค์) บุคคล 11.2 แสดงทา่ ทาง/เคลื่อนไหวตามจนิ ตนาการ 1.3 รกั ษาความ 3.2 มคี วามรู้สึกทด่ี ตี อ่ ตนเอง (สภาพที่พึงประสงค์) อย่างสร้างสรรค์(สภาพทีพ่ ึงประสงค)์ ปลอดภัยของตนเอง และผูอ้ น่ื 8.2 มปี ฏิสมั พนั ธท์ ีด่ กี ับผูอ้ ื่น 12.1 มีเจตคตทิ ี่ดตี อ่ การเรยี นรู้ และผู้อน่ื (สภาพทพ่ี ึงประสงค์) (สภาพทีพ่ ึงประสงค์) (สภาพท่พี งึ ประสงค)์ (สภาพทพ่ี ึงประสงค์) 4.1 สนใจ มีความสุขและ 8.3 ปฏบิ ัตติ นเบื้องต้นใน 2.1 เคลื่อนไหว แสดงออกผา่ นงานศลิ ปะดนตรี การเปน็ สมาชกิ ทดี่ ีของสงั คม ร่างกายอย่าง และการเคลอ่ื นไหว (สภาพท่พี ึงประสงค)์ คลอ่ งแคล่วประสาน (สภาพทพี่ งึ ประสงค์) สัมพันธ์และทรงตัว ) ได้(สภาพทพ่ี งึ ประสงค์) จดุ ประสงค์ 1. พฒั นาการใชก้ ลา้ มเนอื้ ใหญ่ เล็กและตาใหส้ มั พนั ธ์กัน 2. พฒั นาทกั ษะการเคลือ่ นไหวรา่ งกายพรอ้ มอปุ กรณ์ 3. เพ่ือใหเ้ กิดความสนกุ สนานและผอ่ นคลายอารมณ์ กิจกรรมการเรียนรู้ 1. ครูใหเ้ ด็กเคล่ือนไหวรา่ งกายโดยไม่ใหช้ นกนั ตามจังหวะที่ครูกาหนด 2. ครูใหเ้ ดก็ อาสาสมคั รออกมานาเคล่อื นไหวร่างกายในทา่ ต่างๆ ใหเ้ พ่ือนทาทา่ ตาม 3. เด็กและครูร่วมกันสรา้ งขอ้ ตกลงในการเคลื่อนไหว โดยใหเ้ ด็กเคล่ือนไหวประกอบริบบนิ้ เป็นรูปตา่ งๆ เชน่ แกว่งรบิ บนิ้ เป็นวงกลม หรือแกว่งขนึ้ ลงไปมาในทศิ ทางต่างๆ ตามจงั หวะเพลงบรรเลง โดยเดินไปเรือ่ ยๆ เป็นวงกลม เมื่อไดย้ ินสญั ญาณ ใหห้ ยุดเคลอ่ื นไหว แลว้ วางรบิ บนิ้ บนพนื้ และยนื นิ่งๆ อยู่กบั ที่ รอฟัง สญั ญาณจากครู 4. ครูเปิดเพลงบรรเลงเบาๆ ใหเ้ ด็กเคลอ่ื นไหวร่างกายพรอ้ มแกวง่ รบิ บนิ้ ประกอบตามจงั หวะเพลงบรรเลง โดยเดินไปเรอื่ ยๆ เป็นวงกลม ครูใหส้ ัญญาณ ใหห้ ยุดเคลื่อนไหว วางริบบนิ้ ลงบนพนื้ แลว้ ยืนนง่ิ ๆ ครูให้ สญั ญาณ ใหเ้ ดก็ หยบิ ริบบนิ้ ขนึ้ มาและเรม่ิ เคล่อื นไหวร่างกาย โดยปฏิบัตซิ า้ อีก 1-2 ครง้ั ประเมินผล 1. สังเกตการใชก้ ลา้ มเนอื้ ใหญ่เล็กและตาใหส้ ัมพนั ธ์กัน 2. สังเกตการเคล่อื นไหวพรอ้ มอุปกรณ์ 3. สังเกตความสนุกสนานและผ่อนคลายอารมณ์
สื่อการเรยี นรู้ 2. เคร่อื งเคาะจงั หวะ 3. เพลงบรรเลง 1. รบิ บนิ้ กิจกรรมสรา้ งสรรค์ สาระที่ควรเรียนรู้ การป้ันดนิ นา้ มนั มาตรฐานคุณลกั ษณะทพ่ี ึงประสงค์ / ประสบการณ์สาคญั รา่ งกาย อารมณ์ จิตใจ สังคม สตปิ ัญญา มาตรฐานคุณลกั ษณะทพี่ ึงประสงค์ มฐ.1 มฐ.2 มฐ.3 มฐ.4 มฐ.5 มฐ.6 มฐ.7 มฐ.8 มฐ.9 มฐ.10 มฐ.11 มฐ.12 1.3 2.2 3.1, 3.2 4.1 5.2,5.4 6.2,6.3 8.1,8.2, 9.1 10.3 11.1 12.1 8.3 ประสบการณส์ าคญั 1.3 รกั ษาความ 3.1 แสดงออกทางอารมณไ์ ด้ 6.2 มวี นิ ยั ในตนเอง (สภาพ 9.1 รบั รู้และเขา้ ใจความหมายของภาษาได้ ปลอดภยั ของตนเอง อย่างเหมาะสม ทพี่ ึงประสงค)์ (สภาพที่พึงประสงค์) และผอู้ นื่ (สภาพทพ่ี งึ ประสงค์) 6.3 ประหยดั และพอเพียง 10.3 มคี วามสามารถในการคิดแก้ปัญหาและ (สภาพทพ่ี งึ ประสงค์) 3.2 มคี วามรสู้ กึ ที่ดีตอ่ ตนเอง (สภาพท่ีพึงประสงค์) ตัดสินใจ (สภาพทพ่ี งึ ประสงค์) 2.2 ใชม้ อื -ตา และผอู้ น่ื 8.1 ยอมรับความเหมอื น 11.1 ทำงานศิลปะตามจนิ ตนาการและ ประสานสัมพันธก์ ัน (สภาพท่พี งึ ประสงค์) และความแตกตา่ งระหวา่ ง ความคดิ สร้างสรรค์ (สภาพทพ่ี ึงประสงค)์ 4.1 สนใจ มคี วามสุขและ บคุ คล (สภาพทพ่ี ึงประสงค์) แสดงออกผา่ นงานศลิ ปะดนตรี (สภาพท่ีพึงประสงค์) 12.1 มเี จตคตทิ ีด่ ีตอ่ การเรยี นรู้ และการเคล่ือนไหว 8.2 มปี ฏสิ มั พนั ธ์ทีด่ กี ับผูอ้ น่ื (สภาพทพ่ี ึงประสงค)์ ) (สภาพทพี่ ึงประสงค์) (สภาพทพ่ี งึ ประสงค์) 5.2 มคี วามเมตตากรุณา มี 8.3 ปฏิบัตติ นเบอ้ื งตน้ ใน น้ำใจและช่วยเหลอื แบง่ ปนั การเป็นสมาชิกทีด่ ีของสงั คม (สภาพที่พงึ ประสงค์) (สภาพที่พงึ ประสงค์) 5.4 มีความรับผดิ ชอบ (สภาพท่ี พึงประสงค์) จุดประสงค์
1. พัฒนาการกลา้ มเนอื้ มดั เล็กและตาใหส้ มั พนั ธก์ ัน 2. การสรา้ งสรรคผ์ ลงานตามจนิ ตนาการ 3. สามารถบอกเล่าเกย่ี วกับผลงานของตนเองได้ กิจกรรมการเรียนรู้ 1. ครูใหเ้ ดก็ น่งั เป็นกลุม่ กลมุ่ ละ 4 คน แลว้ สนทนาแสดงความคิดเห็นรว่ มกันในกลุม่ วา่ ชอบฤดูกาลใดมาก ที่สดุ และชอบอะไรในฤดกู าลนนั้ 2. ครูแจกดนิ นา้ มันใหเ้ ดก็ แตล่ ะกลุ่ม และใหป้ ้ันดนิ นา้ มนั เป็นสิง่ ท่ชี อบในฤดูกาลทตี่ นเองชอบทส่ี ดุ อยา่ งอสิ ระ 3. เด็กบอกเลา่ ผลงานใหเ้ พ่ือนฟัง และครูจดบนั ทึกลงบนกระดาษวางผลงาน 4. เดก็ ๆ ชว่ ยกนั เกบ็ วสั ดุอุปกรณเ์ ขา้ ท่ี และทาความสะอาดโต๊ะกิจกรรม ประเมินผล 2. สงั เกตผลงาน 1. สังเกตการใชก้ ลา้ มเนอื้ มดั เลก็ และตาใหส้ มั พันธ์กนั 3. สังเกตการบอกเล่าเก่ียวกบั ผลงานของตนเอง สอ่ื การเรียนรู้ 2. แผ่นรองปั้น 3. อปุ กรณก์ ารป้ัน 1. ดินนา้ มนั กิจกรรมเสรี สาระท่ีควรเรียนรู้ การเลน่ ตามมุมประสบการณ์ เปิดโอกาสใหเ้ ด็กเลน่ อสิ ระตามมมุ ประสบการณห์ รือศูนยก์ ารเรยี นที่จัดไวใ้ น หอ้ งเรยี น เช่น มุมบลอ็ ก มุมวทิ ยาศาสตรห์ รอื มุมธรรมชาตศิ กึ ษา มมุ คณิตศาสตร์ มุมบา้ น มุมหนังสอื มุมศิลปะ มมุ ดนตรี มมุ บทบาทสมมติ เป็นตน้ มาตรฐานคณุ ลกั ษณะทพี่ ึงประสงค์ / ประสบการณ์สาคญั รา่ งกาย อารมณ์ จติ ใจ สงั คม สตปิ ัญญา มาตรฐานคณุ ลักษณะท่ีพงึ ประสงค์ มฐ.1 มฐ.2 มฐ.3 มฐ.4 มฐ.5 มฐ.6 มฐ.7 มฐ.8 มฐ.9 มฐ.10 มฐ.11 มฐ.12 1.3 2.2 3.1, 3.2 4.1 5.1,5.2, 6.2,6.3 7.2 8.1,8.2, 9.1 10.3 11.2 12.1,12.2 5.3 8.3 ประสบการณ์สาคัญ 1.3 รกั ษาความ 3.1 แสดงออกทางอารมณไ์ ด้ 6.2 มวี นิ ัยในตนเอง (สภาพ 9.1 รบั รู้และเขา้ ใจความหมายของภาษาได้ ปลอดภัยของตนเอง อย่างเหมาะสม ที่พึงประสงค์) (สภาพทีพ่ ึงประสงค)์ และผู้อ่ืน (สภาพท่ีพงึ ประสงค)์
(สภาพท่ีพงึ ประสงค)์ 3.2 มคี วามรูส้ ึกท่ีดตี อ่ ตนเอง 6.3 ประหยัดและพอเพยี ง 10.3 มีความสามารถในการคดิ แก้ปัญหาและ 2.2 ใช้มอื -ตา และผูอ้ นื่ (สภาพทพี่ งึ ประสงค)์ ตัดสนิ ใจ (สภาพที่พงึ ประสงค)์ ประสานสมั พันธก์ นั (สภาพที่พึงประสงค์) 7.2 ดแู ลรกั ษาธรรมชาติ 11.2 แสดงทา่ ทาง/เคลือ่ นไหวตามจินตนาการ (สภาพท่พี งึ ประสงค)์ 4.1 สนใจ มคี วามสขุ และ และสิ่งแวดลอ้ ม อย่างสรา้ งสรรค์(สภาพทพี่ ึงประสงค์) แสดงออกผ่านงานศิลปะดนตรี 8.1 ยอมรับความเหมอื น 12.1 มเี จตคตทิ ดี่ ตี อ่ การเรยี นรู้ และการเคลือ่ นไหว และความแตกตา่ งระหว่าง (สภาพท่ีพึงประสงค์) (สภาพทพี่ งึ ประสงค์) บคุ คล 12.2 มีความสามารถในการแสวงหาความรู้ 5.1 ซ่ือสตั ย์สจุ ริต (สภาพท่ีพงึ ประสงค)์ (สภาพท่ีพงึ ประสงค)์ (สภาพทพ่ี ึงประสงค์) 8.2 มปี ฏสิ มั พันธท์ ่ดี กี บั ผู้อ่นื 5.2 มคี วามเมตตากรณุ า มี (สภาพท่ีพึงประสงค)์ น้ำใจและชว่ ยเหลอื แบ่งปนั 8.3 ปฏบิ ัติตนเบ้อื งต้นใน (สภาพที่พงึ ประสงค)์ การเปน็ สมาชกิ ทีด่ ขี องสังคม 5.3 มคี วามเห็นอกเหน็ ใจผอู้ ืน่ (สภาพท่พี งึ ประสงค์) จุดประสงค์ (สภาพทีพ่ งึ ประสงค์) 1. ส่งเสรมิ พัฒนาการ 4 ดา้ นผ่านการเลน่ 2. มที กั ษะทางดา้ นสังคมเล่นรว่ มกบั ผอู้ นื่ ได้ 3. ส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรม มคี วามอดทน เออื้ เฟื้อ แบง่ ปัน และรูจ้ ักการรอคอย กิจกรรมการเรยี นรู้ 1. เดก็ และครูร่วมกนั ทบทวนมุมประสบการณต์ า่ งๆ ในหอ้ งเรยี น และใหค้ ิดวางแผนการเลน่ วา่ จะเล่นอะไร ตามลาดับความสนใจของตนเอง 2. เด็กและครูร่วมกนั สรา้ งขอ้ ตกลงในการเลน่ เชน่ - เดก็ ไม่ส่งเสยี งดังขณะเลน่ - เม่ือเลน่ เสร็จเกบ็ ของเลน่ เขา้ ท่ี - รูจ้ กั แบ่งปันกันเลน่ - เลน่ ของเล่นอยา่ งทะนถุ นอม ไม่ทาลายใหเ้ สียหาย - รูจ้ ักขอบคณุ เมอ่ื ครูชว่ ยเหลือ ขอบใจเมื่อเพ่อื นชว่ ยเหลือ และขอโทษเมือ่ ทาใหผ้ อู้ ่นื เจบ็ หรอื เดือดรอ้ น - เมอื่ ไดย้ ินสญั ญาณหยุด (เคาะจงั หวะ 2 ครง้ั ) ใหเ้ กบ็ ของเลน่ ทันที และมาน่งั รวมกันท่ีหนา้ หอ้ ง 3. เดก็ ๆ เลอื กเลน่ ตามที่คดิ ไวอ้ ยา่ งอสิ ระ ปฏบิ ตั ติ ามขอ้ ตกลง และเมอื่ ไดย้ ินสัญญาณหยุดใหเ้ ก็บของเขา้ ท่ีให้ เรยี บรอ้ ย และมาน่งั รวมกนั ท่ีหนา้ หอ้ ง 4. ครูใหเ้ ดก็ อาสาสมคั รออกมาบอกเล่าถึงสิ่งท่ีตนเองเล่น ความรูส้ ึก และปัญหาทพ่ี บ รวมถึงวิธีแกป้ ัญหาอยา่ งไร ประเมินผล 1. สังเกตพฒั นาการ 4 ดา้ น 2. สังเกตการแสดงความเออื้ เฟื้อแบง่ ปัน และรูจ้ ักการรอคอย 3. สังเกตการเลน่ รว่ มกับผอู้ นื่ สื่อการเรียนรู้ 2. เครื่องเคาะจังหวะ 1. ของเลน่ ในมุมประสบการณต์ า่ งๆ กิจกรรมกลางแจง้ สาระท่ีควรเรยี นรู้
การเล่นเครอ่ื งเลน่ สนาม เดก็ ไดม้ ีโอกาสออกไปนอกหอ้ งเรยี นเพอื่ ออกกาลงั เคลอ่ื นไหวร่างกายและ แสดงออกอยา่ งอสิ ระในการเล่นเครอ่ื งเล่นสนาม โดยยดึ ความสนใจและความสามารถของเดก็ เป็นหลัก มาตรฐานคุณลกั ษณะท่ีพึงประสงค์ / ประสบการณ์สาคญั รา่ งกาย อารมณ์ จิตใจ สังคม สติปัญญา มาตรฐานคณุ ลกั ษณะทพ่ี งึ ประสงค์ มฐ.1 มฐ.2 มฐ.3 มฐ.4 มฐ.5 มฐ.6 มฐ.7 มฐ.8 มฐ.9 มฐ.10 มฐ.11 มฐ.12 1.2, 1.3 2.1 3.1, 3.2 5.1,5.2, 6.1,6.2 7.2 8.1,8.2, 9.1 10.3 11.2 12.1 5.3 8.3 ประสบการณ์สาคญั 1.2 มสี ุขภาพ 3.1 แสดงออกทางอารมณไ์ ด้ 6.1 ชว่ ยเหลอื ตนเองในการ 9.1 รบั รู้และเขา้ ใจความหมายของภาษาได้ อนามัยสขุ นสิ ัยท่ีดี อยา่ งเหมาะสม ปฏิบตั ิกิจวตั รประจำวัน (สภาพทพี่ ึงประสงค)์ (สภาพท่พี งึ ประสงค)์ (สภาพที่พงึ ประสงค์) (สภาพทีพ่ ึงประสงค)์ 10.3 มคี วามสามารถในการคดิ แก้ปญั หาและ 1.3 รกั ษาความ 3.2 มคี วามร้สู กึ ทดี่ ตี อ่ ตนเอง 6.2 มวี นิ ัยในตนเอง (สภาพ ตัดสินใจ (สภาพทพี่ ึงประสงค)์ ปลอดภยั ของตนเอง และผอู้ น่ื ทพ่ี งึ ประสงค)์ 11.2 แสดงทา่ ทาง/เคลอ่ื นไหวตามจินตนาการ และผู้อ่ืน (สภาพที่พึงประสงค)์ 6.3 ประหยัดและพอเพียง อย่างสร้างสรรค์(สภาพทีพ่ ึงประสงค)์ (สภาพท่ีพึงประสงค์) 5.1 ซอื่ สัตยส์ จุ รติ (สภาพทพ่ี ึงประสงค์) 12.1 มีเจตคติทด่ี ตี อ่ การเรยี นรู้ 2.1 เคลื่อนไหว (สภาพที่พึงประสงค)์ 8.1 ยอมรบั ความเหมือน (สภาพทพ่ี ึงประสงค)์ ร่างกายอย่าง 5.2 มคี วามเมตตากรุณา มี และความแตกต่างระหว่าง คล่องแคล่วประสาน นำ้ ใจและชว่ ยเหลอื แบ่งปัน บคุ คล สัมพันธแ์ ละทรงตัว (สภาพท่พี ึงประสงค)์ (สภาพท่ีพงึ ประสงค)์ ได้(สภาพทพ่ี ึง 5.3 มคี วามเห็นอกเห็นใจผูอ้ นื่ 8.2 มีปฏสิ มั พันธ์ท่ดี กี บั ผอู้ ่นื ประสงค)์ (สภาพทีพ่ งึ ประสงค)์ (สภาพทพ่ี ึงประสงค)์ 5.4 มคี วามรับผิดชอบ (สภาพที่ 8.3 ปฏบิ ัตติ นเบอื้ งตน้ ใน พึงประสงค์) การเป็นสมาชิกท่ีดีของสังคม (สภาพทพ่ี ึงประสงค์) จุดประสงค์ 2. พฒั นาทักษะการเล่นกับผอู้ ่ืน 1. พัฒนาทักษะการเคล่อื นไหวและการทรงตวั 3. สง่ เสรมิ คณุ ธรรม จรยิ ธรรม มคี วามอดทน เออื้ เฟื้อ แบ่งปัน และรูจ้ กั การรอคอย 4. การปลูกฝังทศั นคตทิ ีด่ ีในการออกกาลงั กาย กิจกรรมการเรยี นรู้ 1. เด็กและครูร่วมกันอบอุน่ รา่ งกายดว้ ยการออกกายบริหารในการเคล่ือนไหวอยู่กบั ที่ 2. ครูแนะนาการเลน่ เคร่ืองเลน่ สนามอยา่ งถูกวิธี และปลอดภัยใหเ้ ด็กฟังพรอ้ มสาธติ ใหด้ ู แลว้ ร่วมกันสรา้ ง ขอ้ ตกลงในการเลน่ เครอื่ งเล่นสนาม เช่น - เลน่ อยา่ งถูกวธิ ี ไม่เลน่ โลดโผน - เขา้ แถวรอคอยเลน่ ต่อจากเพื่อน - รูจ้ กั แบง่ ปันกันเล่น - เล่นเคร่ืองเลน่ อยา่ งทะนุถนอม ไม่ทาลายใหเ้ สียหาย
- รูจ้ ักขอบคุณเมื่อครูชว่ ยเหลอื ขอบใจเมอ่ื เพื่อนช่วยเหลือ และขอโทษเมอื่ ทาใหผ้ อู้ ่นื เจ็บหรือเดือดรอ้ น - เมื่อไดย้ นิ เสียงนกหวีดใหห้ ยุดเลน่ ทันที เตรียมเขา้ แถวทหี่ นา้ สนามเดก็ เล่น 3. ครูใหเ้ ดก็ คดิ วางแผนการเล่นเครอ่ื งเล่นสนามตามลาดบั ความสนใจ จากนัน้ ใหเ้ ล่นตามที่คดิ วางแผนไว้ อยา่ งอสิ ระ ปฏบิ ตั ติ ามขอ้ ตกลง และเมอื่ ไดย้ นิ เสียงนกหวีดใหห้ ยุดเลน่ แลว้ มาเขา้ แถวที่หนา้ สนามเด็กเลน่ 4. ครูให้เด็กอาสาสมคั รออกมาบอกเล่าถึงสง่ิ ท่ีตนเองเล่น ความรูส้ ึก และปัญหาทพ่ี บ รวมถงึ วิธีแกป้ ัญหาอยา่ งไร ประเมินผล 2. สงั เกตการเลน่ รว่ มกบั ผอู้ ืน่ 1. สงั เกตการเคลื่อนไหวและการทรงตวั 3. สงั เกตการแสดงความอดทน เออื้ เฟื้อ แบ่งปัน และรูจ้ ักรอคอย 4. สังเกตทัศนคติทีด่ ีในการออกกาลังกาย ส่ือการเรยี นรู้ 2. เคร่ืองเล่นสนาม 1. นกหวีด กิจกรรมเกมการศึกษา สาระท่คี รเรยี นรู้ การเล่นเกม จบั คู่ภาพเครื่องแตง่ กายกบั บตั รคา มาตรฐานคณุ ลกั ษณะทีพ่ ึงประสงค์ / ประสบการณ์สาคญั ร่างกาย อารมณ์ จิตใจ สังคม สติปัญญา มาตรฐานคณุ ลักษณะทีพ่ ึงประสงค์ มฐ.1 มฐ.2 มฐ.3 มฐ.4 มฐ.5 มฐ.6 มฐ.7 มฐ.8 มฐ.9 มฐ.10 มฐ.11 มฐ.12 1.3 2.2 3.1, 3.2 5.1,5.2, 6.2,6.3 7.2 8.1,8.2, 9.1,9.2 10.1,10.3 12.1 5.3 8.3 ประสบการณ์สาคัญ 1.3 รกั ษาความ 3.1 แสดงออกทางอารมณไ์ ด้ 6.2 มวี นิ ยั ในตนเอง (สภาพ 9.1 รับรู้และเขา้ ใจความหมายของภาษาได้ ปลอดภัยของตนเอง อยา่ งเหมาะสม ทีพ่ ึงประสงค์) (สภาพท่ีพึงประสงค์) และผู้อืน่ (สภาพท่ีพงึ ประสงค)์ 6.3 ประหยัดและพอเพียง 9.2 แสดงออกและ/หรอื พูดเพอื่ ส่ือ (สภาพทพี่ ึงประสงค์) 3.2 มคี วามรู้สกึ ทดี่ ีตอ่ ตนเอง (สภาพทีพ่ งึ ประสงค์) ความหมายได้ (สภาพท่ีพงึ ประสงค)์ 2.2 ใช้มอื -ตา และผู้อ่นื 7.2 ดูแลรักษาธรรมชาติ 10.1 มีความสามารถในการคดิ รวบยอด ประสานสมั พนั ธก์ ัน (สภาพทพี่ ึงประสงค์) และสิ่งแวดล้อม (สภาพทพี่ ึงประสงค)์ (สภาพทพี่ ึงประสงค์) 5.1 ซ่อื สัตยส์ ุจรติ 8.1 ยอมรบั ความเหมอื น 10.3 มคี วามสามารถในการคดิ แก้ปญั หาและ (สภาพที่พึงประสงค)์ และความแตกต่างระหว่าง ตัดสนิ ใจ (สภาพทีพ่ ึงประสงค)์ 5.2 มคี วามเมตตากรุณา มี บคุ คล 12.1 มเี จตคติทด่ี ตี อ่ การเรียนรู้ น้ำใจและช่วยเหลือแบ่งปัน (สภาพท่ีพึงประสงค)์ (สภาพที่พงึ ประสงค์) (สภาพทพี่ ึงประสงค)์ 8.2 มีปฏสิ ัมพนั ธ์ที่ดกี ับผู้อน่ื 5.3 มคี วามเหน็ อกเหน็ ใจผอู้ นื่ (สภาพท่พี งึ ประสงค)์ (สภาพทพ่ี งึ ประสงค์) 8.3 ปฏบิ ตั ติ นเบอื้ งตน้ ใน การเป็นสมาชกิ ทดี่ ีของสงั คม (สภาพท่พี งึ ประสงค)์
จดุ ประสงค์ 1. พฒั นากลา้ มเนอื้ มดั เล็กและตาใหป้ ระสานสัมพันธก์ ัน 2. ฝึกทักษะกระบวนการแกไ้ ขปัญหาได้ 3. พัฒนาทกั ษะทางสติปัญญา เช่น การสงั เกต การเปรยี บเทยี บ ความรู ความเขา้ ใจในเร่อื งตา่ งๆ 4. สง่ เสริมคณุ ธรรม จรยิ ธรรม มีความอดทน เออื้ เฟื้อ แบ่งปัน และรูจ้ กั การรอคอย กจิ กรรมการเรียนรู้ 1. ครูแนะนาเกม จับคู่ภาพเคร่อื งแต่งกายกบั บตั รคา และสาธิตวธิ ีการเล่นใหเ้ ดก็ ดู พรอ้ มใหเ้ ดก็ มสี ่วนรว่ มดว้ ย 2. ครูทบทวนเกมเก่าท่ีเคยเล่นมาแลว้ และรว่ มกนั สรา้ งขอ้ ตกลงในการเล่น เช่น - ไมส่ ง่ เสยี งดงั ขณะเล่น - รูจ้ กั แบง่ ปันกนั เลน่ - เล่นอยา่ งทะนถุ นอม ไม่ทาลายใหเ้ สียหาย - รูจ้ ักขอบคุณเมอื่ ครูช่วยเหลอื ขอบใจเมอ่ื เพื่อนชว่ ยเหลือ และขอโทษเมื่อทาใหผ้ อู้ น่ื เจบ็ หรือเดือดรอ้ น - เมื่อไดย้ นิ สัญญาณหยดุ (เคาะจังหวะ 2 ครง้ั ) ใหเ้ ก็บเกมเขา้ ที่ และมาน่งั รวมกันท่ีหนา้ หอ้ ง 3. ครูแบง่ เด็กเป็นกลุ่มยอ่ ย กลุ่มละ 4 คน ใหก้ ลุ่มแรกเลน่ เกม จบั คภู่ าพเคร่อื งแต่งกายกบั บตั รคา กลมุ่ ทเี่ หลอื เล่นเกมท่ีเคยเล่นมาแลว้ เมื่อเลน่ เสรจ็ ใหห้ มนุ เวยี นกันเลน่ จนครบทุกเกม เมือ่ ไดย้ ินสัญญาณหยดุ ใหเ้ กบ็ เกมเขา้ ทีใ่ หเ้ รยี บรอ้ ย และมาน่งั รวมกนั ท่หี นา้ หอ้ ง 4. ครูใหเ้ ด็กอาสาสมคั รออกมาบอกเล่าถงึ เกมทต่ี นเองเล่น ความรูส้ กึ และปัญหาทพ่ี บ รวมถงึ วิธีแกป้ ัญหาอย่างไร ประเมินผล 2. สงั เกตกระบวนการแกไ้ ขปัญหา 1. สังเกตการใชก้ ลา้ มเนอื้ มัดเล็กและตาใหป้ ระสานสมั พนั ธก์ นั 3. สงั เกตทกั ษะทางสตปิ ัญญา เชน่ การสังเกต การเปรียบเทียบ ความรู้ ความเขา้ ใจในเรือ่ งตา่ งๆ 4. สังเกตการแสดงความเออื้ เฟื้อแบง่ ปัน และรูจ้ ักการรอคอย สอ่ื การเรียนรู้ 2. เกมเกา่ ที่เคยเล่นมาแลว้ 1. เกม จับค่ภู าพเครอื่ งแตง่ กายกบั บตั รคา 3. เครอ่ื งเคาะจงั หวะ ภาคผนวก เกม จับคูภ่ าพเคร่อื งแตง่ กายกบั บตั รคา เสอื้ กลา้ ม
รม่ ชุดกนั ฝน เสือ้ กันหนาว
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273
- 274
- 275
- 276
- 277
- 278
- 279
- 280
- 281
- 282
- 283
- 284
- 285
- 286
- 287
- 288
- 289
- 290
- 291
- 292
- 293
- 294
- 295
- 296
- 297
- 298
- 299
- 300
- 301
- 302
- 303
- 304
- 305
- 306
- 307
- 308
- 309
- 310
- 311
- 312
- 313
- 314
- 315
- 316
- 317
- 318
- 319
- 320
- 321
- 322
- 323
- 324
- 325
- 326
- 327
- 328
- 329
- 330
- 331
- 332
- 333
- 334
- 335
- 336
- 337
- 338
- 339
- 340
- 341
- 342
- 343
- 344
- 345
- 346
- 347
- 348
- 349
- 350
- 351
- 352
- 353
- 354
- 355
- 356
- 357
- 358
- 359
- 360
- 361
- 362
- 363
- 364
- 365
- 366
- 367
- 368
- 369
- 370
- 371
- 372
- 373
- 374
- 375
- 376
- 377
- 378
- 379
- 380
- 381
- 382
- 383
- 384
- 385
- 386
- 387
- 388
- 389
- 390
- 391
- 392
- 393
- 394
- 395
- 396
- 397
- 398
- 399
- 400
- 401
- 402
- 403
- 404
- 405
- 406
- 407
- 408
- 409
- 410
- 411
- 412
- 413
- 414
- 415
- 416
- 417
- 418
- 419
- 420
- 421
- 422
- 423
- 424
- 425
- 426
- 427
- 428
- 429
- 430
- 431
- 432
- 433
- 434
- 435
- 436
- 437
- 438
- 439
- 440
- 441
- 442
- 443
- 444
- 445
- 446
- 447
- 448
- 449
- 450
- 451
- 452
- 453
- 454
- 455
- 456
- 457
- 458
- 459
- 460
- 461
- 462
- 463
- 464
- 465
- 466
- 467
- 468
- 469
- 470
- 471
- 472
- 473
- 474
- 475
- 476
- 477
- 478
- 479
- 480
- 481
- 482
- 483
- 484
- 485
- 486
- 487
- 488
- 489
- 490
- 491
- 492
- 493
- 494
- 495
- 496
- 497
- 498
- 499
- 500
- 501
- 502
- 503
- 504
- 505
- 506
- 507
- 508
- 509
- 510
- 511
- 512
- 513
- 514
- 515
- 516
- 517
- 518
- 519
- 520
- 521
- 522
- 523
- 524
- 525
- 526
- 527
- 528
- 529
- 530
- 531
- 532
- 533
- 534
- 535
- 536
- 537
- 538
- 539
- 540
- 541
- 542
- 543
- 544
- 545
- 546
- 547
- 548
- 549
- 550
- 551
- 552
- 553
- 554
- 555
- 556
- 557
- 558
- 559
- 560
- 561
- 562
- 563
- 564
- 565
- 566
- 567
- 568
- 569
- 570
- 571
- 572
- 573
- 574
- 575
- 576
- 577
- 578
- 579
- 580
- 581
- 582
- 583
- 584
- 585
- 586
- 587
- 588
- 589
- 590
- 591
- 592
- 593
- 594
- 595
- 596
- 597
- 598
- 599
- 600
- 601
- 602
- 603
- 604
- 605
- 606
- 607
- 608
- 609
- 610
- 611
- 612
- 613
- 614
- 615
- 616
- 617
- 618
- 619
- 620
- 621
- 622
- 623
- 624
- 625
- 626
- 627
- 628
- 629
- 630
- 631
- 632
- 633
- 634
- 635
- 636
- 637
- 638
- 639
- 640
- 641
- 642
- 643
- 644
- 645
- 646
- 647
- 648
- 649
- 650
- 651
- 652
- 653
- 654
- 655
- 656
- 657
- 658
- 659
- 660
- 661
- 662
- 663
- 664
- 665
- 666
- 667
- 668
- 669
- 670
- 671
- 672
- 673
- 674
- 675
- 676
- 677
- 678
- 679
- 680
- 681
- 682
- 683
- 684
- 685
- 686
- 687
- 688
- 689
- 690
- 691
- 692
- 693
- 694
- 695
- 696
- 697
- 698
- 699
- 700
- 701
- 702
- 703
- 704
- 705
- 1 - 50
- 51 - 100
- 101 - 150
- 151 - 200
- 201 - 250
- 251 - 300
- 301 - 350
- 351 - 400
- 401 - 450
- 451 - 500
- 501 - 550
- 551 - 600
- 601 - 650
- 651 - 700
- 701 - 705
Pages: