แนวทางการจัดประสบการณ์ช่วง 4-5 ปี

2.2 ใชม้ ือ-ตา (สภาพที่พึงประสงค)์ ประสานสัมพันธ์กนั 12.2 มคี วามสามารถในการแสวงหาความรู้ (สภาพทีพ่ ึงประสงค)์ (สภาพทพ่ี ึงประสงค์)  จดุ ประสงค์ 1. สังเกตเคร่อื งใชไ้ ฟฟา้ ที่รูจ้ ักและเปรียบเทยี บรูปรา่ งลกั ษณะกับรูปเรขาคณิตได้ 2. บอกประโยชนข์ องพลงั งานไฟฟา้ ในรูปแบบตา่ งๆ ได้ 3. พฒั นากลา้ มเนอื้ มือและตาใหป้ ระสานสัมพันธก์ นั จากการระบายสีภาพ  กิจกรรมการเรยี นรู้ ขนั้ นา ครูเลา่ นิทานเก่ียวกับการใชเ้ ครือ่ งใชไ้ ฟฟ้าอย่างฟ่มุ เฟือย เรอ่ื ง “นอ้ งเจนช่วยโลก” แลว้ สนทนาเกยี่ วกับ เนอื้ เรือ่ งในนิทาน โดยถามคาถาม ดงั นี้  นอ้ งเจนใชเ้ ครอ่ื งใชไ้ ฟฟา้ ชนดิ ต่างๆ อยา่ งไรบา้ ง  คณุ แมแ่ นะนาวิธีใดใหน้ อ้ งเจนชว่ ยประหยดั พลงั งาน  เด็กๆ เคยทาอย่างนอ้ งเจนหรือไม่ อย่างไร  เดก็ ๆ คดิ วา่ การประหยดั พลงั งานจากการใชเ้ คร่ืองใชไ้ ฟฟ้ามีประโยชนอ์ ย่างไรบา้ ง ขนั้ สอน 1. ครูนาภาพเครอ่ื งใชไ้ ฟฟา้ ชนิดตา่ งๆ มารว่ มสนทนาเกี่ยวกับประโยชนใ์ นรูปแบบตา่ งๆ เชน่ พดั ลมให้ พลังงานลม กาตม้ นา้ เตารดี ใหค้ วามรอ้ น ตเู้ ยน็ แอร์ พัดลม ใหค้ วามเยน็ ทอ่ี านวยความสะดวกกบั เรา ในชวี ิตประจาวัน 2. ครูใหเ้ ด็กสงั เกตภาพเคร่ืองใชไ้ ฟฟา้ ท่คี รูนามาว่า มรี ูปทรงคลา้ ยกับรูปเรขาคณิตรูปใดบา้ ง ใหช้ ่วยกนั คิด และตอบคาถาม 3. ครูแจกบัตรภาพรปู เรขาคณิต เช่น    แลว้ ใหเ้ ด็กนาไปเปรยี บเทยี บจับคู่กบั บัตรภาพ เคร่ืองใชไ้ ฟฟา้ ชนดิ ตา่ งๆ ท่คี รูนามา แลว้ ออกมานาเสนอผลการจบั ค่บู ัตรภาพเครื่องใชไ้ ฟฟ้ากับบตั รภาพ รูปทรงเรขาคณติ 4. ครูใหเ้ ดก็ เรียนรูค้ าศพั ทเ์ กยี่ วกับรูปเรขาคณิต และฝึกใหเ้ ดก็ ออกเสียงคาศพั ทใ์ หถ้ กู ตอ้ ง เชน่ รูปส่ีเหล่ียม square รูปสามเหล่ียม triangle รูปวงกลม circle ขนั้ สรุป 1. ครูและเด็กรว่ มกันสรุปความรูเ้ ก่ยี วกับประโยชนท์ ่ีไดร้ บั จากเคร่ืองใชไ้ ฟฟา้ และวธิ ีชว่ ยกนั ประหยัด พลงั งาน เช่น ไมค่ วรเปิดเครอื่ งใชไ้ ฟฟา้ ทงิ้ ไวเ้ มอื่ ไมม่ คี น เคร่อื งใชไ้ ฟฟา้ บางชนดิ ไมค่ วรเปิดปิดบอ่ ยๆ

2. ครูใหเ้ ด็กสงั เกตภาพในหนงั สอื เสรมิ ฯ ส่ิงตา่ งๆ รอบตัวเด็ก กจิ กรรม เครือ่ งใชไ้ ฟฟ้าหลายลกั ษณะ หนา้ 16 สนทนาจากภาพ แลว้ ระบายสีรูปเรขาคณิตที่มีรูปร่างเหมือนกับภาพท่ีกาหนดให้  ประเมินผล 1. สังเกตการบอกประโยชนข์ องเครือ่ งใชไ้ ฟฟา้ ชนิดต่างๆ 2. สังเกตการสนทนาและการตอบคาถามเกยี่ วกบั เรื่องที่เรียน 3. สังเกตการทากิจกรรมเปรียบเทียบรูปเรขาคณติ กับเครอ่ื งใชไ้ ฟฟา้ 4. สงั เกตผลงานการทากิจกรรม เครอื่ งใชไ้ ฟฟ้าหลายลกั ษณะ  สื่อการเรียนรู้ 1. นิทานเรือ่ ง นอ้ งเจนชว่ ยโลก 2. บตั รภาพภาพเครอ่ื งใชไ้ ฟฟ้า เช่น พดั ลม เตารดี ตเู้ ยน็ เป็นตน้ 3. บตั รภาพรปู เรขาคณติ  ภาคผนวก  บตั รภาพเครือ่ งใชไ้ ฟฟา้  บัตรภาพรูปเรขาคณติ  บตั รคาศพั ทร์ ูปเรขาคณิต triangle oval square circle

แนวทางการจดั ประสบการณก์ ารเรียนรู้ การศกึ ษาปฐมวัย ภาคเรียนที่...1... สำหรบั เดก็ ท่มี ีความต้องการจำเป็นพิเศษ ชว่ งอายุ .....4-5...... ปี สาระการเรียนรูท้ ี.่ .4. หนว่ ย พลงั งานรอบตวั วนั ท่ี 3 รูใ้ ชพ้ ลงั งานไฟฟ้าอย่างถกู วิธี กิจกรรมเสริมประสบการณ์  สาระที่ควรเรยี นรู้ ปัจจุบนั เครอื่ งใชไ้ ฟฟ้าตา่ งๆ เป็นส่งิ จาเป็นทเี่ ราใชใ้ นชีวติ ประจาวนั เคร่อื งใชไ้ ฟฟา้ ทกุ ชนิดตอ้ งอาศยั พลังงานไฟฟ้ามาชว่ ยใหท้ างานได้ เราตอ้ งเรยี นรูก้ ารใชพ้ ลงั งานไฟฟา้ อย่างประหยดั และใชใ้ หเ้ กิดประโยชน์ คมุ้ คา่ และปลอดภยั สาระสาคญั เด็กไดเ้ รยี นรูเ้ กยี่ วกับการทดลองทาไอศกรีมทีใ่ ชพ้ ลังงานไฟฟ้าจากเครือ่ งใชไ้ ฟฟา้ คือ ตเู้ ยน็ ในรูปของ ความเย็นเพ่ือเปลี่ยนแปลงนา้ ใหก้ ลายเป็นนา้ แข็งแบบไอศกรีม  มาตรฐานคุณลกั ษณะท่พี งึ ประสงค์ / ประสบการณ์สาคญั รา่ งกาย อารมณ์ จิตใจ สังคม สตปิ ัญญา มาตรฐานคณุ ลกั ษณะทพี่ ึงประสงค์ มฐ.1 มฐ.2 มฐ.3 มฐ.4 มฐ.5 มฐ.6 มฐ.7 มฐ.8 มฐ.9 มฐ.10 มฐ.11 มฐ.12 1.2, 1.3 2.1, 2.2 3.1, 3.2 4.1 5.4 6.1,6.3 7.2 8.2, 8.3 9.1,9.2 10.1,10.3 11.1,11.2 12.1,12.2 ประสบการณส์ าคญั 1.2 มสี ขุ ภาพ 3.1 แสดงออกทางอารมณไ์ ด้ 6.1 ชว่ ยเหลือตนเองในการ 9.1 รับรู้และเข้าใจความหมายของภาษาได้ อนามยั สุขนสิ ัยทดี่ ี อยา่ งเหมาะสม ปฏบิ ัตกิ ิจวตั รประจำวัน (สภาพทพ่ี ึงประสงค)์ (สภาพท่ีพงึ ประสงค)์ (สภาพที่พงึ ประสงค)์ (สภาพทพ่ี งึ ประสงค์) 9.2 แสดงออกและ/หรือพูดเพ่ือส่ือความหมาย 1.3 รกั ษาความ 3.2 มคี วามรู้สกึ ที่ดีตอ่ ตนเอง 6.3 ประหยดั และพอเพียง ได้ (สภาพท่พี งึ ประสงค์) ปลอดภยั ของตนเอง และผู้อืน่ (สภาพที่พงึ ประสงค)์ 10.1 มีความสามารถในการคดิ รวบยอด และผ้อู ่ืน (สภาพทพี่ งึ ประสงค)์ 7.2 ดูแลรกั ษาธรรมชาติ (สภาพที่พงึ ประสงค)์ (สภาพทพ่ี ึงประสงค์) 4.1 สนใจ มคี วามสุขและ และส่ิงแวดล้อม 10.3 มีความสามารถในการคิดแก้ปัญหาและ 2.1 เคลอื่ นไหว แสดงออกผา่ นงานศิลปะดนตรี 8.2 มีปฏสิ ัมพันธ์ทีด่ กี ับผ้อู ่ืน ตัดสินใจ (สภาพท่ีพึงประสงค)์ รา่ งกายอย่าง และการเคล่อื นไหว (สภาพท่ีพงึ ประสงค)์ 11.1 ทำงานศลิ ปะตามจนิ ตนาการและความคิด คล่องแคลว่ ประสาน (สภาพทพ่ี งึ ประสงค)์ 8.3 ปฏบิ ัตติ นเบอ้ื งต้นใน สร้างสรรค์ สมั พนั ธแ์ ละทรงตัว 5.4 มคี วามรับผิดชอบ (สภาพท่ี การเป็นสมาชกิ ท่ีดขี องสังคม (สภาพท่พี ึงประสงค์) ได้(สภาพทพ่ี ึง พึงประสงค)์ (สภาพทพี่ ึงประสงค)์ 11.2 แสดงท่าทาง/เคลื่อนไหวตามจนิ ตนาการ ประสงค์) อย่างสร้างสรรค์(สภาพทีพ่ ึงประสงค์) 12.1 มีเจตคติทดี่ ีตอ่ การเรียนรู้

2.2 ใช้มอื -ตา (สภาพท่พี งึ ประสงค)์ ประสานสมั พนั ธก์ นั 12.2 มีความสามารถในการแสวงหาความรู้ (สภาพทพ่ี งึ ประสงค์) (สภาพท่ีพึงประสงค์)  จุดประสงค์ 1. บอกชอ่ื ลกั ษณะ และประโยชนข์ องตเู้ ย็นได้ 2. พัฒนากลา้ มเนอื้ มอื และตาใหป้ ระสานสัมพันธก์ ันจากการขีดเขียนเสน้  กิจกรรมการเรยี นรู้ ขนั้ นา 1. ครูแนะนากิจกรรมการทาไอศกรมี หลอดหวานเยน็ แลว้ ใหเ้ ด็กๆ สังเกตวสั ดุและอปุ กรณใ์ นการทา เชน่ นา้ แข็ง นา้ หวาน ถงุ พลาสตกิ นมสด เกลือเมด็ 2. ครูใหเ้ ดก็ สมั ผัส สังเกต ชิมรสชาติ ดมกลน่ิ วัสดุทจี่ ะนามาทาไอศกรมี แลว้ รว่ มสนทนาเพ่ิมเติมตามความ สนใจของเด็ก ขนั้ สอน 1. ครูสาธติ วิธกี ารผสมนา้ หวานและนมสดเพอื่ เตรยี มทาไอศกรมี แลว้ ใหเ้ ดก็ ทดลองผสมนา้ หวานกับนมสด ดว้ ยตนเอง แลว้ ชมิ รสชาติตามความชอบ 2. เมือ่ เด็กไดน้ า้ หวานสาหรบั ทาไอศกรีมแลว้ ใหเ้ ดก็ ช่วยกันคดิ วิธีทาให้ไอศกรมี แข็งตัวหรอื เย็นดว้ ยวธิ ีการต่างๆ 3. ครูอาจทดลองเปรยี บเทียบความแขง็ ตวั เป็นไอศกรมี ระหว่างนา้ แข็งผสมเกลอื เมด็ กับความเย็นในตเู้ ย็น โดยใหแ้ บ่งกันแชไ่ อศกรมี ทงั้ 2 แหง่ ขนั้ สรุป 1. ครูใหเ้ ด็กสงั เกตเปรียบเทยี บความเยน็ เป็นไอศกรมี ของการแชใ่ นทที่ ตี่ า่ งกนั แลว้ รว่ มกันสรุป โดยครู ใหค้ วามรูเ้ พ่ิมเตมิ เก่ียวกับเครอ่ื งใชไ้ ฟฟา้ ท่ใี หค้ วามเย็น เช่น ตเู้ ยน็ เป็นเครือ่ งใชไ้ ฟฟ้าท่ที าความเยน็ เพอ่ื ถนอมอาหารโดยการลดอุณหภูมิ ตเู้ ย็นเป็นเคร่อื งใชไ้ ฟฟ้าท่ีใชพ้ ลังงาน 24 ช่วั โมง เราควรเลอื กใช้ ตเู้ ย็นใหเ้ หมาะสม จะช่วยประหยัดพลงั งานไดม้ าก และไม่ควรเปิดปิดตเู้ ย็นบอ่ ยๆ เพราะจะทาใหเ้ ปลอื งไฟ 2. ครูใหเ้ ด็กสังเกตภาพในหนงั สอื เสรมิ ฯ สงิ่ ต่างๆ รอบตวั เด็ก อ.2 กิจกรรม เคร่ืองใชไ้ ฟฟา้ อะไรเอ่ย หนา้ 17 สนทนาเกีย่ วกบั ภาพ แลว้ ลากเสน้ ต่อจุดตัวเลข 1-20 และระบายสภี าพใหส้ วยงาม  ประเมินผล 1. สงั เกตการทดลองทาไอศกรีมตามคาแนะนา 2. สงั เกตการสนทนาและการตอบคาถามเกี่ยวกับเรือ่ งทเ่ี รียน 3. สังเกตการทากิจกรรมร่วมกันกบั ผอู้ นื่ 4. สงั เกตผลงานการทากิจกรรม เคร่อื งใชไ้ ฟฟา้ อะไรเอย่

สอื่ การเรียนรู้ 1. วัสดุอปุ กรณใ์ นการทาไอศกรีม เช่น นา้ แข็ง เกลือเม็ด นา้ หวาน นมสด ถงุ พลาสตกิ 2. ตเู้ ยน็ 3. กระตกิ ใส่นา้ แข็ง 4. หนังสอื เสริมฯ สิ่งต่างๆ รอบตวั เดก็ อ.2 กิจกรรม เครื่องใชไ้ ฟฟ้าอะไรเอย่ หนา้ 17  ภาคผนวก  การทดลอง ทาไอศกรมี จากนา้ หวาน การทดลองทาไอศกรมี จากนา้ หวาน จดุ ประสงค์ 1. เพื่อใหเ้ ด็กไดร้ บั ประสบการณต์ รงดว้ ยการลงมอื ปฏิบตั จิ รงิ 2. เพื่อใหเ้ ด็กไดฝ้ ึกการเรยี นรทู้ าการทดลองดว้ ยตนเอง วัสดุ/อปุ กรณ์ 1. นา้ แข็ง 2. เกลือเมด็ 3. นา้ หวาน 4. กระติกนา้ แข็ง 5. ตเู้ ย็น วิธที าการทดลอง อตั ราส่วนนา้ แขง็ ตอ่ เกลือ 5 : 1 เปิดเครอ่ื ง แลว้ ใสน่ า้ แข็งประมาณคร่ึงหนึ่งของถังภายนอก (โดยใหค้ ดิ เป็น 5 สว่ น) แลว้ ใสเ่ กลอื (คิดเป็น 1 ส่วน เม่อื เทยี บกับนา้ แข็งที่ใส่ไปก่อนแลว้ ) แลว้ จึงใสน่ า้ แข็งและเกลอื สลบั กนั จน เต็ม (อาจจะใชว้ ิธตี กั นา้ แข็ง 5 ทัพพี แลว้ ใชเ้ กลอื 1 ทัพพี โรยรอบๆ) จนสุดท้ายปิดทา้ ยดว้ ยเกลอื แลว้ นาท่อน ไมห้ รอื อะไรท่ีเป็นท่อนกระทงุ้ ลงไปที่นา้ แข็งจนสุดถงั (ไม่ควรแรงจนเกินไป และตอ้ งระมัดระวงั ไมใ่ หก้ ระแทกถกู ถังดา้ นในและดา้ นนอก) กระทงุ้ จนรอบ เพ่อื คอ่ ยๆ ใหเ้ กลือและนา้ แขง็ เขา้ ดว้ ยกนั (เพราะนา้ แขง็ กบั เกลอื จะบีบ รดั ตัวกนั เองคอื เกลอื จะออกรอ้ นๆ เวลาถูกนา้ แลว้ ไปผสมกบั ความเย็นก็จะเกดิ การหักเหของอุณหภมู ใิ ห้ต่าลง เป็นอณุ หภมู ิที่ต่าที่สดุ หรอื ตดิ ลบประมาณ 3-4 องศา) สรุปผลการทดลอง เกลือเม่ือผสมกับนา้ แขง็ จะชว่ ยทาใหน้ า้ หวานแข็งตวั เป็นไอศกรีม

แนวทางการจดั ประสบการณก์ ารเรียนรู้ การศึกษาปฐมวยั ภาคเรียนท่ี...1... สำหรบั เด็กท่ีมีความต้องการจำเป็นพิเศษ ชว่ งอายุ .....4-5...... ปี สาระการเรียนรทู้ ี.่ .4. หน่วย พลงั งานรอบตวั วันท่ี 4 รใู้ ช้ไฟฟ้าอย่างประหยดั กิจกรรมเสริมประสบการณ์  สาระที่ควรเรยี นรู้ ปัจจุบนั เคร่ืองใชไ้ ฟฟา้ ต่างๆ เป็นสงิ่ จาเป็นทเี่ ราใชใ้ นชีวติ ประจาวนั เครอื่ งใชไ้ ฟฟ้าทุกชนดิ ตอ้ งอาศยั พลังงานไฟฟ้ามาชว่ ยใหท้ างานได้ เราตอ้ งเรียนรูก้ ารใชพ้ ลังงานไฟฟา้ อยา่ งประหยดั และใชใ้ หเ้ กิดประโยชน์ คมุ้ ค่าและปลอดภยั สาระสาคญั เดก็ ไดเ้ รยี นรูเ้ กี่ยวกบั วธิ ีการใชเ้ ครอ่ื งใชไ้ ฟฟ้าชนิดตา่ งๆ อย่างถูกวธิ ี รูค้ ุณค่า เพือ่ ช่วยใหเ้ ราประหยดั ค่าใชจ้ า่ ยและชว่ ยประหยดั พลงั งานไฟฟา้  มาตรฐานคณุ ลกั ษณะท่ีพงึ ประสงค์ / ประสบการณ์สาคญั ร่างกาย อารมณ์ จติ ใจ สังคม สตปิ ัญญา มาตรฐานคุณลกั ษณะทพ่ี ึงประสงค์ มฐ.1 มฐ.2 มฐ.3 มฐ.4 มฐ.5 มฐ.6 มฐ.7 มฐ.8 มฐ.9 มฐ.10 มฐ.11 มฐ.12 1.2, 1.3 2.1, 2.2 3.1, 3.2 4.1 5.4 6.1,6.3 7.2 8.2, 8.3 9.1,9.2 10.1,10.2, 11.1,11.2 12.1,12.2 10.3 ประสบการณส์ าคญั 1.2 มสี ุขภาพ 3.1 แสดงออกทางอารมณไ์ ด้ 6.1 ช่วยเหลือตนเองในการ 9.1 รับรูแ้ ละเข้าใจความหมายของภาษาได้ อนามยั สขุ นิสยั ทีด่ ี อย่างเหมาะสม ปฏิบัตกิ ิจวตั รประจำวนั (สภาพทพ่ี ึงประสงค)์ (สภาพท่พี ึงประสงค์) (สภาพที่พึงประสงค์) (สภาพทพ่ี ึงประสงค)์ 9.2 แสดงออกและ/หรือพดู เพอ่ื ส่ือความหมาย 1.3 รกั ษาความ 3.2 มคี วามรู้สกึ ทดี่ ีตอ่ ตนเอง 6.3 ประหยัดและพอเพียง ได้ (สภาพท่ีพงึ ประสงค)์ ปลอดภัยของตนเอง และผู้อ่นื (สภาพทีพ่ งึ ประสงค์) 10.1 มีความสามารถในการคิดรวบยอด และผอู้ ืน่ (สภาพท่พี งึ ประสงค)์ 7.2 ดแู ลรักษาธรรมชาติ (สภาพทพ่ี งึ ประสงค)์ (สภาพที่พึงประสงค์) 4.1 สนใจ มคี วามสขุ และ และสิ่งแวดลอ้ ม 10.2 มคี วามสามารถในการคดิ เชิงเหตผุ ล 2.1 เคล่อื นไหว แสดงออกผา่ นงานศลิ ปะดนตรี 8.2 มปี ฏิสมั พนั ธ์ที่ดกี บั ผู้อ่ืน (สภาพท่ีพงึ ประสงค์) ร่างกายอย่าง และการเคลื่อนไหว (สภาพท่พี งึ ประสงค์) 10.3 มคี วามสามารถในการคิดแกป้ ญั หาและ คลอ่ งแคล่วประสาน (สภาพท่พี งึ ประสงค์) 8.3 ปฏบิ ตั ติ นเบ้ืองตน้ ใน ตดั สินใจ (สภาพที่พึงประสงค)์ สมั พนั ธแ์ ละทรงตัว 5.4 มคี วามรับผิดชอบ (สภาพที่ การเปน็ สมาชิกที่ดขี องสังคม 11.1 ทำงานศิลปะตามจินตนาการและความคดิ ได้(สภาพทพ่ี งึ พงึ ประสงค)์ (สภาพทพ่ี ึงประสงค์) สร้างสรรค์ ประสงค)์ (สภาพท่พี งึ ประสงค์)

2.2 ใชม้ ือ-ตา 11.2 แสดงทา่ ทาง/เคล่อื นไหวตามจนิ ตนาการ ประสานสมั พันธก์ นั อยา่ งสร้างสรรค์(สภาพท่พี ึงประสงค)์ (สภาพทพ่ี ึงประสงค์) 12.1 มีเจตคติทด่ี ตี อ่ การเรียนรู้ (สภาพที่พึงประสงค์) 12.2 มีความสามารถในการแสวงหาความรู้ (สภาพท่พี ึงประสงค์)  จดุ ประสงค์ 1. บอกวิธกี ารประหยัดพลงั งานจากการใชเ้ ครือ่ งใชไ้ ฟฟา้ ได้ 2. พัฒนากลา้ มเนอื้ มือและตาใหป้ ระสานสัมพนั ธก์ ันจากการขีดเขียนเสน้  กิจกรรมการเรียนรู้ ขนั้ นา ครูใหเ้ ดก็ ทายปรศิ นาคาทายเครอื่ งใชไ้ ฟฟา้ ดงั นี้  อะไรเอย่ มรี ูปรา่ งคลา้ ยส่เี หลยี่ ม มเี สยี งและมภี าพเคลื่อนไหว (โทรทศั น)์  อะไรเอ่ย เปิดป๊ บุ สวา่ งป๊ับ ปิดป๊ บุ มืดป๊ับ (หลอดไฟ สวิตชไ์ ฟ)  อะไรเอ่ย เก็บความเยน็ ไวใ้ หอ้ าหารสดใหม่ นา้ เย็นชนื่ ใจดืม่ ไดจ้ ากตนู้ ี้ (ตเู้ ย็น)  อะไรเอ่ย ใบพัดหมุนไว ชว่ ยไลค่ วามรอ้ น ค่าเย็นพกั ผอ่ น นอนหลบั สบาย (พดั ลม) ขนั้ สอน 1. ครูนาเครอื่ งใชไ้ ฟฟา้ จาลองหรอื ของจรงิ ทมี่ ี เช่น วิทยุ โทรทศั น์ คอมพิวเตอร์ มาใหเ้ ดก็ สังเกต แลว้ สนทนา เกีย่ วกบั วธิ ีการใชเ้ ครอื่ งใชไ้ ฟฟ้าแต่ละชนิด 2. ใหเ้ ด็กๆ ช่วยกนั นาเสนอวธิ กี ารใช้เครื่องใชไ้ ฟฟา้ แตล่ ะชนดิ ใหป้ ระหยดั และรูค้ ณุ ค่า โดยใหเ้ ดก็ ดูภาพ ในหนงั สือเสริมฯ ส่งิ ต่างๆ รอบตวั เดก็ อ.2 กิจกรรม ใชไ้ ฟฟา้ อย่างประหยดั หนา้ 18 สนทนาจากภาพ แลว้ สารวจตนเองเกี่ยวกับการใชเ้ คร่อื งใชไ้ ฟฟา้ วา่ เคยปฏบิ ตั ิ หรือไม่เคยปฏิบัติอย่างในภาพ 3. ครูใหอ้ าสาสมคั ร 3-4 คน ออกมานาเสนอผลการสารวจตนเองเกย่ี วกบั การใชเ้ คร่ืองใชไ้ ฟฟา้ ขนั้ สรุป 1. ครูและเด็กรว่ มกันสรุปความรูเ้ กี่ยวกบั การใชเ้ ครอ่ื งใชไ้ ฟฟา้ อยา่ งถกู วธิ ี จะช่วยใหเ้ ราปลอดภัยและชว่ ย ประหยดั เงิน ประหยัดพลงั งานดว้ ยวิธงี า่ ยๆ เช่น  ปิดสวิตชไ์ ฟและเคร่อื งใชไ้ ฟฟ้าทกุ ชนดิ เมอื่ เลกิ ใชง้ าน  ปิดตเู้ ยน็ ใหส้ นิท ไมเ่ ปิดตเู้ ยน็ บอ่ ยๆ และหม่นั ทาความสะอาดตเู้ ย็น  ปิดโทรทศั นเ์ มอ่ื ไม่มคี นดู 2. ครูใหเ้ ดก็ ฝึกท่องคาคลอ้ งจอง ป ปลา ประมาณ 2 รอบ เพอ่ื ใหเ้ ด็กเขา้ ใจเกีย่ วกับความสาคัญของการ ประหยัดพลังงาน โดยเนน้ ใหเ้ ดก็ รูจ้ กั คดิ รูใ้ ช้ พลงั งานอยา่ งคมุ้ คา่

 ประเมินผล 1. สังเกตการบอกวธิ ีการประหยัดพลงั งานจากการใชเ้ คร่ืองใชไ้ ฟฟ้า 2. สังเกตการสนทนาและการตอบคาถามเก่ยี วกับเนอื้ เรอ่ื งท่ีเรียน 3. สังเกตผลงานการทากจิ กรรม ใชไ้ ฟฟ้าอยา่ งประหยดั  สอื่ การเรียนรู้ 1. ปรศิ นาคาทายเครอื่ งใชไ้ ฟฟา้ 2. เครอ่ื งใชไ้ ฟฟ้าของจรงิ หรอื ของจาลอง เช่น วิทยุ โทรทัศน์ คอมพวิ เตอร์ 3. คาคลอ้ งจอง ป ปลา 4. หนงั สือเสรมิ ฯ สง่ิ ตา่ งๆ รอบตัวเด็ก อ.2 กจิ กรรม ใชไ้ ฟฟ้าอยา่ งประหยดั หนา้ 18  ภาคผนวก  คาคลอ้ งจอง ป ปลา คาคลอ้ งจอง ป ปลา (ไม่ทราบนามผแู้ ตง่ ) ป ปลาน้ันหายาก ตอ้ งลาบากออกเรอื ไป ขนสง่ จากแดนไกล ใชน้ า้ แขง็ เปลอื งนา้ มนั แช่เย็นก็เสียไป หุงตม้ ไซรแ้ กส๊ ทงั้ น้นั พลังงานตอ้ งหมดกัน โอล้ ูกหลานจาจงดี

แนวทางการจดั ประสบการณก์ ารเรียนรู้ การศกึ ษาปฐมวยั ภาคเรียนที่...1... สำหรับเด็กทีม่ คี วามต้องการจำเป็นพิเศษ ชว่ งอายุ .....4-5...... ปี สาระการเรยี นรู้ท.่ี .4. หนว่ ย พลงั งานรอบตวั วนั ที่ 5 พลงั งานความร้อน และพลงั งานเสียง กิจกรรมเสริมประสบการณ์  สาระทค่ี วรเรยี นรู้ ปัจจบุ ันเครอ่ื งใชไ้ ฟฟา้ ตา่ งๆ เป็นสิ่งจาเป็นที่เราใชใ้ นชีวติ ประจาวัน เครือ่ งใชไ้ ฟฟ้าทกุ ชนิดตอ้ งอาศัย พลังงานไฟฟ้ามาชว่ ยใหท้ างานได้ เราตอ้ งเรียนรูก้ ารใชพ้ ลงั งานไฟฟา้ อย่างประหยดั และใชใ้ หเ้ กิดประโยชน์ คมุ้ คา่ และปลอดภัย สาระสาคญั เด็กไดเ้ รยี นรูเ้ ก่ยี วกบั แหลง่ พลงั งานต่างๆ ท่สี ามารถพบเหน็ ในชีวติ ประจาวนั เชน่ พลงั งานแสงอาทติ ย์ พลงั งานลม พลังงานนา้ เป็นตน้  มาตรฐานคณุ ลกั ษณะท่ีพึงประสงค์ / ประสบการณ์สาคญั รา่ งกาย อารมณ์ จติ ใจ สงั คม สตปิ ัญญา มาตรฐานคณุ ลกั ษณะที่พงึ ประสงค์ มฐ.1 มฐ.2 มฐ.3 มฐ.4 มฐ.5 มฐ.6 มฐ.7 มฐ.8 มฐ.9 มฐ.10 มฐ.11 มฐ.12 1.2, 1.3 2.1, 2.2 3.1, 3.2 4.1 5.4 6.1 7.2 8.2, 8.3 9.1,9.2 10.1,10.3 11.2 12.1,12.2 ประสบการณ์สาคัญ 1.2 มสี ุขภาพ 3.1 แสดงออกทางอารมณไ์ ด้ 6.1 ช่วยเหลือตนเองในการ 9.1 รบั รู้และเข้าใจความหมายของภาษาได้ อนามยั สขุ นสิ ัยทด่ี ี อยา่ งเหมาะสม ปฏิบัตกิ ิจวตั รประจำวนั (สภาพท่ีพึงประสงค)์ (สภาพทพ่ี ึงประสงค)์ (สภาพที่พงึ ประสงค์) (สภาพท่ีพึงประสงค์) 9.2 แสดงออกและ/หรอื พูดเพื่อสอ่ื ความหมาย 1.3 รกั ษาความ 3.2 มคี วามรู้สึกทดี่ ตี อ่ ตนเอง 7.2 ดูแลรกั ษาธรรมชาติ ได้ (สภาพทีพ่ ึงประสงค์) ปลอดภัยของตนเอง และผ้อู ่ืน และส่ิงแวดล้อม 10.1 มคี วามสามารถในการคดิ รวบยอด และผู้อ่ืน (สภาพทพ่ี ึงประสงค)์ 8.2 มีปฏสิ มั พนั ธ์ที่ดกี ับผอู้ ืน่ (สภาพท่ีพงึ ประสงค์) (สภาพท่พี ึงประสงค)์ 4.1 สนใจ มีความสุขและ (สภาพท่พี งึ ประสงค)์ 10.3 มีความสามารถในการคดิ แกป้ ญั หาและ 2.1 เคลอื่ นไหว แสดงออกผา่ นงานศลิ ปะดนตรี 8.3 ปฏบิ ัติตนเบอื้ งตน้ ใน ตดั สนิ ใจ (สภาพทีพ่ งึ ประสงค์) ร่างกายอย่าง และการเคลอ่ื นไหว การเป็นสมาชกิ ท่ีดขี องสงั คม 11.2 แสดงท่าทาง/เคลอื่ นไหวตามจินตนาการ คล่องแคล่วประสาน (สภาพทพี่ ึงประสงค์) (สภาพท่ีพึงประสงค)์ อย่างสรา้ งสรรค์(สภาพที่พึงประสงค)์ สมั พันธ์และทรงตัว 5.4 มคี วามรับผดิ ชอบ (สภาพท่ี 12.1 มีเจตคตทิ ด่ี ีตอ่ การเรยี นรู้ ได้(สภาพทพี่ ึง พึงประสงค)์ (สภาพทพ่ี งึ ประสงค)์ ประสงค)์ 12.2 มคี วามสามารถในการแสวงหาความรู้ 2.2 ใช้มือ-ตา (สภาพทพ่ี งึ ประสงค์) ประสานสมั พนั ธก์ นั

 จดุ ประสงค์ 1. บอกชอ่ื แหลง่ พลังงานชนดิ ต่างๆ ท่ตี นรูจ้ กั ได้ 2. จาแนกประเภทของแหลง่ พลังงานทใ่ี ชใ้ นชีวติ ประจาวันได้ 3. บอกประโยชนข์ องแหลง่ พลงั งานชนดิ ตา่ ง ๆ ได้  กิจกรรมการเรยี นรู้ ขนั้ นา ครูและเด็กรว่ มกนั สนทนาถึงพลังงานในชวี ติ ประจาวัน โดยครูถามเดก็ วา่ รูจ้ ักพลังงานอะไรบา้ ง ขนั้ สอน 1. ครูนาภาพการใชพ้ ลงั งานตา่ งๆ มาใหเ้ ดก็ ดู ดังนี้  ภาพการตากผา้ โดยใชพ้ ลงั งานแสงอาทติ ย์  ภาพกังหันลม โดยใชพ้ ลังงานลม  ภาพกงั หันวดิ นา้ โดยใชพ้ ลังงานนา้ 2. ครูใหเ้ ดก็ ร่วมกันสนทนาเกย่ี วกับพลังงานชนิดต่างๆ โดยบอกช่อื ของพลงั งานจากภาพ 3. ครูขออาสาสมัครเดก็ ออกมาเลา่ ถึงแหล่งพลงั งานอน่ื ๆ ท่เี ด็กรูจ้ ักใหค้ รูและเพื่อนฟัง ขนั้ สรุป 1. ครูและเด็กร่วมกันสรุปเกยี่ วกับพลงั งานจากแหล่งตา่ งๆ 2. ครูใหเ้ ดก็ ทากิจกรรมในหนงั สอื เสรมิ ฯ สงิ่ ต่างๆ รอบตวั เด็ก อ.2 กจิ กรรม พลงั งานน่ารู้ หนา้ 19 สนทนา เรอ่ื งพลังงานความรอ้ นและพลงั งานเสียง คัดตัวอกั ษร แลว้ เตมิ ตัวพยญั ชนะ ร หรอื ส ลงใน ภาพท่ี สัมพันธ์กัน  ประเมินผล 1. สงั เกตการสนทนาและตอบคาถาม 2. สงั เกตการมสี ว่ นรว่ มกบั ผอู้ ื่น 3. สงั เกตผลงานการทากิจกรรม พลงั งานน่ารู้  สื่อการเรยี นรู้ 1. ภาพการใชพ้ ลงั งานตา่ งๆ 2. หนังสือเสริมฯ สิ่งต่างๆ รอบตัวเดก็ อ.2 กิจกรรม พลงั งานนา่ รู้ หนา้ 19  ภาคผนวก  ภาพการใชพ้ ลงั งานตา่ งๆ

กิจกรรมเคล่ือนไหวและจงั หวะ  สาระที่ควรเรียนรู้ การเคลอื่ นไหวร่างกายตามคาบรรยาย  มาตรฐานคุณลกั ษณะทีพ่ งึ ประสงค์ / ประสบการณ์สาคญั รา่ งกาย อารมณ์ จติ ใจ สงั คม สติปัญญา มาตรฐานคุณลักษณะทพ่ี งึ ประสงค์ มฐ.1 มฐ.2 มฐ.3 มฐ.4 มฐ.5 มฐ.6 มฐ.7 มฐ.8 มฐ.9 มฐ.10 มฐ.11 มฐ.12 1.2, 1.3 2.1 3.1, 3.2 4.1 8.1,8.2, 10.3 11.2 12.1 8.3 ประสบการณส์ าคญั 1.2 มสี ุขภาพ 3.1 แสดงออกทางอารมณไ์ ด้ 8.1 ยอมรับความเหมือน 10.3 มีความสามารถในการคดิ แกป้ ญั หาและ อนามยั สุขนสิ ัยที่ดี อยา่ งเหมาะสม และความแตกต่างระหว่าง ตัดสนิ ใจ (สภาพทพี่ ึงประสงค์) (สภาพทพ่ี งึ ประสงค)์ (สภาพทพี่ งึ ประสงค์) บุคคล 11.2 แสดงท่าทาง/เคลอ่ื นไหวตามจนิ ตนาการ 1.3 รกั ษาความ 3.2 มคี วามรสู้ ึกที่ดตี อ่ ตนเอง (สภาพท่ีพึงประสงค์) อย่างสร้างสรรค์(สภาพที่พงึ ประสงค์) ปลอดภัยของตนเอง และผอู้ นื่ 8.2 มปี ฏิสมั พันธท์ ดี่ กี บั ผู้อื่น 12.1 มเี จตคตทิ ี่ดีตอ่ การเรยี นรู้ และผูอ้ ่นื (สภาพทพี่ ึงประสงค)์ (สภาพทพ่ี ึงประสงค์) (สภาพที่พงึ ประสงค)์ (สภาพทีพ่ งึ ประสงค์) 4.1 สนใจ มคี วามสุขและ 8.3 ปฏบิ ตั ิตนเบอื้ งตน้ ใน 2.1 เคลื่อนไหว แสดงออกผา่ นงานศลิ ปะดนตรี การเปน็ สมาชกิ ทีด่ ีของสงั คม รา่ งกายอยา่ ง และการเคลอ่ื นไหว (สภาพทพ่ี ึงประสงค์) คลอ่ งแคลว่ ประสาน (สภาพที่พึงประสงค)์ สมั พันธแ์ ละทรงตวั

 จุดประสงค์ 1. พัฒนาการใชก้ ลา้ มเนอื้ ใหญ่ เล็กและตาใหส้ มั พันธ์กัน 2. พัฒนาทกั ษะการเคลอ่ื นไหวตามคาบรรยาย 3. เพื่อใหเ้ กดิ ความสนุกสนานและผ่อนคลายอารมณ์  กิจกรรมการเรยี นรู้ 1. ครูใหเ้ ดก็ เคล่อื นไหวร่างกายโดยไม่ใหช้ นกันตามจงั หวะทคี่ รูกาหนด 2. ครูใหเ้ ดก็ อาสาสมัครออกมานาเคล่อื นไหวร่างกายในทา่ ตา่ งๆ ใหเ้ พ่อื นทาท่าตาม 3. เดก็ และครูรว่ มกันสรา้ งขอ้ ตกลงในการเคลื่อนไหว โดยใหเ้ ดก็ เคลือ่ นไหวร่างกายตามคาบรรยายของครู ใหจ้ ับคกู่ บั เพ่อื นแลว้ สมมติเป็นตวั ละครในคาบรรยาย คิดและแสดงท่าทางตามจนิ ตนาการ ดงั นี้ วนั นีอ้ ากาศดี ลมพดั เยน็ สบาย ปอกบั ป่ านกาลงั ว่ิงเล่นว่าวอย่ทู ีส่ วนหลงั บา้ น ว่าวของปอและป่านคอ่ ยๆ ลอยสงู ข้นึ … สูงขนึ้ … เรอื่ ยๆ ป่านวิ่งไปทางขวา ว่าวของ ป่าน ก็ลอ่ งลอยไปทางขวา ส่วนปอว่งิ ไปทางซา้ ย วา่ วของปอก็คอ่ ยๆ ล่องลอยไปทางซา้ ย เมอ่ื เวลาผ่านไป ทง้ั ป่านและปอรูส้ กึ เหนือ่ ย จึงหยุดวงิ่ และค่อยๆ ดึงเชือกใหว้ ่าวลอยลงมา ทาใหว้ า่ วคอ่ ยๆ ลอยต่าลง … ต่าลง … เรื่อยๆ จนตกลงถงึ พนื้ 4. ครูพูดคาบรรยาย แลว้ ใหเ้ ด็กเคล่อื นไหวรา่ งกายตามคาบรรยายของครู  ประเมินผล 1. สังเกตการใชก้ ลา้ มเนอื้ ใหญเ่ ลก็ และตาใหส้ ัมพันธ์กัน 2. สังเกตการเคลื่อนไหวตามคาบรรยาย 3. สงั เกตความสนุกสนานและผ่อนคลายอารมณ์  ส่ือการเรยี นรู้ 1. คาบรรยาย 2. เครอ่ื งเคาะจังหวะ

กิจกรรมสร้างสรรค์  สาระทีค่ วรเรยี นรู้ การวาดและระบายสภี าพการประหยดั พลงั งาน  มาตรฐานคุณลกั ษณะท่ีพงึ ประสงค์ / ประสบการณ์สาคญั รา่ งกาย อารมณ์ จิตใจ สงั คม สตปิ ัญญา มาตรฐานคณุ ลกั ษณะท่ีพึงประสงค์ มฐ.1 มฐ.2 มฐ.3 มฐ.4 มฐ.5 มฐ.6 มฐ.7 มฐ.8 มฐ.9 มฐ.10 มฐ.11 มฐ.12 1.3 2.2 3.1, 3.2 4.1 5.2,5.4 6.2,6.3 8.1,8.2, 9.1 10.3 11.1 12.1 8.3 ประสบการณ์สาคญั 1.3 รกั ษาความ 3.1 แสดงออกทางอารมณไ์ ด้ 6.2 มวี นิ ยั ในตนเอง (สภาพ 9.1 รับร้แู ละเข้าใจความหมายของภาษาได้ ปลอดภยั ของตนเอง อย่างเหมาะสม ที่พงึ ประสงค์) (สภาพท่ีพึงประสงค์) และผู้อน่ื (สภาพท่พี งึ ประสงค์) 6.3 ประหยัดและพอเพียง 10.3 มคี วามสามารถในการคิดแกป้ ัญหาและ (สภาพท่ีพงึ ประสงค)์ 3.2 มคี วามรสู้ ึกทดี่ ตี อ่ ตนเอง (สภาพท่ีพงึ ประสงค)์ ตัดสนิ ใจ (สภาพทีพ่ ึงประสงค์) 2.2 ใช้มอื -ตา และผอู้ ื่น 8.1 ยอมรับความเหมอื น 11.1 ทำงานศลิ ปะตามจนิ ตนาการและ ประสานสมั พนั ธก์ นั (สภาพทพี่ ึงประสงค์) และความแตกต่างระหวา่ ง ความคดิ สร้างสรรค์ (สภาพท่ีพงึ ประสงค)์ 4.1 สนใจ มคี วามสขุ และ บคุ คล (สภาพทพ่ี ึงประสงค)์ แสดงออกผ่านงานศิลปะดนตรี (สภาพท่พี งึ ประสงค)์ 12.1 มีเจตคตทิ ่ดี ตี อ่ การเรียนรู้ และการเคลอ่ื นไหว 8.2 มีปฏสิ มั พนั ธท์ ด่ี กี ับผูอ้ ่ืน (สภาพท่พี งึ ประสงค์) (สภาพท่ีพึงประสงค์) (สภาพที่พงึ ประสงค)์ 5.2 มคี วามเมตตากรณุ า มี 8.3 ปฏิบตั ติ นเบอื้ งต้นใน นำ้ ใจและชว่ ยเหลอื แบ่งปัน การเปน็ สมาชกิ ทีด่ ขี องสงั คม (สภาพทพ่ี งึ ประสงค)์ (สภาพทพี่ งึ ประสงค์) 5.4 มคี วามรบั ผดิ ชอบ (สภาพที่ พงึ ประสงค์)  จุดประสงค์ 1. พฒั นาการกลา้ มเนอื้ มดั เลก็ และตาใหส้ มั พันธก์ นั 2. การสรา้ งสรรคผ์ ลงานตามจนิ ตนาการ 3. สามารถบอกเลา่ เกีย่ วกับผลงานของตนเองได้

 กิจกรรมการเรยี นรู้ 1. ครูใหเ้ ดก็ ชว่ ยกันบอกวิธีการประหยดั พลงั งาน ทงั้ ทบ่ี า้ นและทีโ่ รงเรยี น ว่าเด็กๆ จะช่วยประหยัดพลงั งานได้ อยา่ งไรบา้ ง เช่น ปิดนา้ ปิดไฟ เมือ่ เลิกใชง้ านแลว้ เป็นตน้ 2. ครูแจกกระดาษใหเ้ ด็กคนละ 1 แผน่ แลว้ ใหเ้ ด็กๆ วาดภาพการประหยดั พลงั งานตามความคิดของเด็ก และระบายสีภาพใหส้ วยงาม 3. เดก็ บอกเล่าผลงานใหเ้ พอ่ื นฟัง และครูจดบนั ทกึ ลงบนผลงาน 4. เด็กๆ ช่วยกนั เกบ็ วสั ดุอปุ กรณเ์ ขา้ ท่ี และทาความสะอาดโต๊ะกิจกรรม  ประเมินผล 2. สังเกตผลงาน 1. สังเกตการใชก้ ลา้ มเนอื้ มัดเล็กและตาใหส้ มั พนั ธก์ นั 3. สงั เกตการบอกเลา่ เกย่ี วกบั ผลงานของตนเอง  ส่ือการเรยี นรู้ 2. สเี ทยี น 1. กระดาษ A4 กิจกรรมเสรี  สาระท่คี วรเรียนรู้ การเล่นตามมุมประสบการณ์ เปิดโอกาสใหเ้ ดก็ เลน่ อสิ ระตามมมุ ประสบการณห์ รอื ศนู ยก์ ารเรยี น ท่ีจัดไวใ้ น หอ้ งเรียน เชน่ มุมบลอ็ ก มุมวทิ ยาศาสตรห์ รอื มมุ ธรรมชาติศึกษา มมุ คณติ ศาสตร์ มุมบา้ น มุมหนังสอื มมุ ศิลปะ มมุ ดนตรี มุมบทบาทสมมติ เป็นตน้  มาตรฐานคณุ ลกั ษณะท่พี งึ ประสงค์ / ประสบการณ์สาคญั ร่างกาย อารมณ์ จิตใจ สงั คม สติปัญญา มฐ.1 มฐ.2 มาตรฐานคณุ ลกั ษณะทพี่ งึ ประสงค์ มฐ.10 มฐ.11 มฐ.3 มฐ.4 มฐ.5 มฐ.6 มฐ.7 มฐ.8 มฐ.9 มฐ.12 1.3 2.2 3.1, 3.2 4.1 5.1,5.2, 6.2,6.3 7.2 8.1,8.2, 9.1 10.3 11.2 12.1,12.2 5.3 8.3 ประสบการณส์ าคัญ 1.3 รกั ษาความ 3.1 แสดงออกทางอารมณไ์ ด้ 6.2 มวี ินยั ในตนเอง (สภาพ 9.1 รับรูแ้ ละเขา้ ใจความหมายของภาษาได้ ปลอดภยั ของตนเอง อยา่ งเหมาะสม ท่ีพึงประสงค์) (สภาพที่พงึ ประสงค)์ 6.3 ประหยดั และพอเพยี ง 10.3 มคี วามสามารถในการคดิ แก้ปัญหาและ และผอู้ น่ื (สภาพที่พงึ ประสงค์) (สภาพท่พี ึงประสงค)์ ตัดสินใจ (สภาพท่พี งึ ประสงค์) (สภาพทีพ่ งึ ประสงค)์ 3.2 มคี วามรูส้ ึกทดี่ ตี อ่ ตนเอง 7.2 ดแู ลรกั ษาธรรมชาติ 11.2 แสดงท่าทาง/เคลื่อนไหวตามจนิ ตนาการ 2.2 ใชม้ ือ-ตา และผูอ้ น่ื และสิ่งแวดล้อม อย่างสรา้ งสรรค์(สภาพท่พี งึ ประสงค)์ ประสานสัมพนั ธก์ นั (สภาพท่ีพงึ ประสงค)์ 12.1 มีเจตคติทดี่ ีตอ่ การเรียนรู้ (สภาพทพ่ี ึงประสงค์) (สภาพทพ่ี ึงประสงค)์

4.1 สนใจ มีความสขุ และ 8.1 ยอมรบั ความเหมอื น 12.2 มคี วามสามารถในการแสวงหาความรู้ แสดงออกผ่านงานศิลปะดนตรี และความแตกตา่ งระหวา่ ง (สภาพที่พึงประสงค์) และการเคลื่อนไหว บุคคล (สภาพทพ่ี ึงประสงค์) (สภาพทพี่ ึงประสงค)์ 5.1 ซอื่ สัตยส์ จุ รติ 8.2 มปี ฏิสมั พันธ์ทด่ี กี บั ผู้อ่ืน (สภาพท่ีพงึ ประสงค)์ (สภาพทพ่ี งึ ประสงค)์ 5.2 มคี วามเมตตากรณุ า มี 8.3 ปฏิบัตติ นเบ้ืองตน้ ใน นำ้ ใจและชว่ ยเหลือแบ่งปัน การเป็นสมาชิกท่ีดีของสังคม (สภาพที่พึงประสงค)์ (สภาพที่พึงประสงค์) 5.3 มคี วามเหน็ อกเหน็ ใจผ้อู นื่ (สภาพทพี่ ึงประสงค)์  จุดประสงค์ 2. มที กั ษะทางดา้ นสังคมเลน่ ร่วมกับผอู้ น่ื ได้ 1. สง่ เสรมิ พัฒนาการ 4 ดา้ นผ่านการเลน่ 3. ส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรม มคี วามอดทน เออื้ เฟื้อ แบ่งปัน และรูจ้ ักการรอคอย  กิจกรรมการเรยี นรู้ 1. เด็กและครูร่วมกนั ทบทวนมุมประสบการณต์ า่ งๆ ในหอ้ งเรยี น และใหค้ ดิ วางแผนการเลน่ วา่ จะเลน่ อะไร ตามลาดบั ความสนใจของตนเอง 2. เดก็ และครูรว่ มกนั สรา้ งขอ้ ตกลงในการเลน่ เชน่ - เด็กไม่ส่งเสียงดงั ขณะเลน่ - เม่ือเล่นเสร็จเก็บของเล่นเขา้ ท่ี - รูจ้ กั แบง่ ปันกนั เล่น - เล่นของเลน่ อย่างทะนุถนอม ไม่ทาลายใหเ้ สยี หาย - รูจ้ กั ขอบคณุ เมื่อครูช่วยเหลือ ขอบใจเมอ่ื เพือ่ นช่วยเหลือ และขอโทษเม่อื ทาใหผ้ อู้ น่ื เจบ็ หรอื เดือดรอ้ น - เม่ือไดย้ นิ สัญญาณหยดุ (เคาะจังหวะ 2 ครงั้ ) ใหเ้ ก็บของเล่นทนั ที และมาน่งั รวมกนั ท่ีหนา้ หอ้ ง 3. เดก็ ๆ เลอื กเลน่ ตามทค่ี ดิ ไวอ้ ยา่ งอิสระ ปฏิบตั ติ ามขอ้ ตกลง และเมือ่ ไดย้ นิ สญั ญาณหยุดใหเ้ ก็บของเขา้ ที่ให้ เรยี บรอ้ ย และมาน่งั รวมกนั ท่ีหนา้ หอ้ ง 4. ครูใหเ้ ดก็ อาสาสมคั รออกมาบอกเล่าถึงสิ่งท่ตี นเองเล่น ความรูส้ ึก และปัญหาทพ่ี บ รวมถงึ วธิ แี กป้ ัญหาอย่างไร  ประเมินผล 1. สงั เกตพัฒนาการ 4 ดา้ น 2. สังเกตการแสดงความเออื้ เฟื้อแบง่ ปัน และรูจ้ กั การรอคอย 3. สงั เกตการเลน่ รว่ มกบั ผอู้ นื่  ส่อื การเรียนรู้ 2. เคร่อื งเคาะจังหวะ 1. ของเลน่ ในมุมประสบการณต์ า่ งๆ

กิจกรรมกลางแจ้ง  สาระทค่ี วรเรยี นรู้ การเลน่ เครอื่ งเลน่ สนาม เด็กไดม้ ีโอกาสออกไปนอกหอ้ งเรียนเพ่อื ออกกาลงั เคล่อื นไหวรา่ งกายและ แสดงออกอย่างอสิ ระในการเลน่ เครือ่ งเลน่ สนาม โดยยดึ ความสนใจและความสามารถของเดก็ เป็นหลกั  มาตรฐานคุณลกั ษณะทพ่ี งึ ประสงค์ / ประสบการณ์สาคญั รา่ งกาย อารมณ์ จติ ใจ สงั คม สติปัญญา มาตรฐานคณุ ลักษณะท่ีพงึ ประสงค์ มฐ.1 มฐ.2 มฐ.3 มฐ.4 มฐ.5 มฐ.6 มฐ.7 มฐ.8 มฐ.9 มฐ.10 มฐ.11 มฐ.12 1.2, 1.3 2.1 3.1, 3.2 5.1,5.2, 6.1,6.2 7.2 8.1,8.2, 9.1 10.3 11.2 12.1 5.3 8.3 ประสบการณ์สาคัญ 1.2 มสี ุขภาพ 3.1 แสดงออกทางอารมณไ์ ด้ 6.1 ชว่ ยเหลอื ตนเองในการ 9.1 รับรูแ้ ละเข้าใจความหมายของภาษาได้ อนามัยสขุ นสิ ยั ทดี่ ี อย่างเหมาะสม ปฏบิ ตั ิกจิ วตั รประจำวัน (สภาพทพ่ี ึงประสงค์) (สภาพทีพ่ ึงประสงค)์ (สภาพทพ่ี งึ ประสงค์) (สภาพทพี่ ึงประสงค์) 10.3 มคี วามสามารถในการคดิ แกป้ ญั หาและ 1.3 รกั ษาความ 3.2 มคี วามรสู้ กึ ท่ีดีตอ่ ตนเอง 6.2 มวี ินัยในตนเอง (สภาพ ตัดสินใจ (สภาพท่ีพึงประสงค์) ปลอดภยั ของตนเอง และผู้อื่น ที่พึงประสงค์) 11.2 แสดงท่าทาง/เคลอ่ื นไหวตามจินตนาการ และผูอ้ ืน่ (สภาพที่พงึ ประสงค์) 7.2 ดแู ลรกั ษาธรรมชาติ อย่างสรา้ งสรรค์(สภาพท่พี ึงประสงค์) (สภาพที่พงึ ประสงค์) 5.1 ซอ่ื สตั ย์สุจรติ และส่ิงแวดลอ้ ม 12.1 มีเจตคตทิ ี่ดตี อ่ การเรยี นรู้ 2.1 เคลอ่ื นไหว (สภาพทพี่ ึงประสงค์) 8.1 ยอมรับความเหมือน (สภาพท่ีพึงประสงค์) ร่างกายอย่าง 5.2 มคี วามเมตตากรุณา มี และความแตกต่างระหว่าง 12.2 มคี วามสามารถในการแสวงหาความรู้ คล่องแคลว่ ประสาน นำ้ ใจและชว่ ยเหลือแบง่ ปัน บุคคล (สภาพท่พี ึงประสงค์) สัมพันธแ์ ละทรงตัว (สภาพท่ีพงึ ประสงค)์ (สภาพท่พี งึ ประสงค)์ ได้(สภาพทพี่ งึ 5.3 มคี วามเหน็ อกเห็นใจผอู้ ่ืน 8.2 มปี ฏสิ ัมพันธท์ ีด่ กี บั ผู้อน่ื ประสงค)์ (สภาพท่พี ึงประสงค์) (สภาพทพ่ี งึ ประสงค)์ 5.4 มีความรบั ผิดชอบ (สภาพท่ี 8.3 ปฏบิ ตั ติ นเบอื้ งต้นใน พงึ ประสงค์) การเปน็ สมาชกิ ท่ีดีของสงั คม (สภาพที่พงึ ประสงค์)  จดุ ประสงค์ 2. พฒั นาทกั ษะการเล่นกบั ผอู้ ่ืน 1. พัฒนาทักษะการเคลื่อนไหวและการทรงตวั 3. ส่งเสรมิ คณุ ธรรม จรยิ ธรรม มีความอดทน เออื้ เฟื้อ แบ่งปัน และรูจ้ กั การรอคอย 4. การปลูกฝังทศั นคตทิ ่ดี ีในการออกกาลงั กาย  กิจกรรมการเรยี นรู้ 1. เดก็ และครูร่วมกันอบอนุ่ ร่างกายดว้ ยการออกกายบริหารในการเคลอื่ นไหวอยูก่ บั ที่ 2. ครูแนะนาการเล่นเครอ่ื งเล่นสนามอย่างถูกวิธี และปลอดภยั ใหเ้ ด็กฟังพรอ้ มสาธติ ใหด้ ู แลว้ ร่วมกันสรา้ ง ขอ้ ตกลงในการเลน่ เครื่องเล่นสนาม เช่น

- เล่นอยา่ งถกู วิธี ไม่เลน่ โลดโผน - เขา้ แถวรอคอยเล่นต่อจากเพือ่ น - รูจ้ กั แบ่งปันกนั เลน่ - เลน่ เครอื่ งเล่นอยา่ งทะนุถนอม ไม่ทาลายใหเ้ สียหาย - เล่นร่วมกันไม่ทะเลาะกัน - ไม่เด็ดใบไม้ ดอกไมม้ าเลน่ - รูจ้ ักขอบคุณเมอื่ ครูช่วยเหลือ ขอบใจเมอ่ื เพื่อนช่วยเหลอื และขอโทษเม่ือทาใหผ้ อู้ น่ื เจ็บหรือเดือดรอ้ น - เมือ่ ไดย้ ินเสยี งนกหวีดใหห้ ยุดเลน่ ทนั ที เตรยี มเขา้ แถวท่ีหนา้ สนามเดก็ เล่น 3. ครูใหเ้ ด็กคดิ วางแผนการเล่นเครือ่ งเลน่ สนามตามลาดบั ความสนใจ จากนน้ั ใหเ้ ลน่ ตามทค่ี ดิ วางแผนไว้ อย่างอิสระ ปฏิบัตติ ามขอ้ ตกลง และเมือ่ ไดย้ นิ เสียงนกหวีดใหห้ ยุดเลน่ แลว้ มาเขา้ แถวทีห่ นา้ สนามเดก็ เล่น 4. ครูใหเ้ ดก็ อาสาสมัครออกมาบอกเลา่ ถงึ สิง่ ที่ตนเองเล่น ความรูส้ ึก และปัญหาทพ่ี บ รวมถึงวธิ ีแกป้ ัญหาอยา่ งไร  ประเมินผล 1. สังเกตการเคลื่อนไหวและการทรงตัว 2. สังเกตการเลน่ รว่ มกบั ผอู้ ื่น 3. สงั เกตการแสดงความอดทน เออื้ เฟื้อ แบง่ ปัน และรูจ้ กั รอคอย 4. สงั เกตทศั นคตทิ ีด่ ใี นการออกกาลังกาย  สื่อการเรยี นรู้ 2. เครื่องเลน่ สนาม 1. นกหวดี กิจกรรมเกมการศึกษา  สาระที่ควรเรียนรู้ การเล่นเกม ภาพตดั ตอ่ เครือ่ งใชไ้ ฟฟา้  มาตรฐานคุณลกั ษณะทีพ่ ึงประสงค์ / ประสบการณ์สาคญั ร่างกาย อารมณ์ จติ ใจ สังคม สติปัญญา มาตรฐานคณุ ลกั ษณะทพี่ ึงประสงค์ มฐ.1 มฐ.2 มฐ.3 มฐ.4 มฐ.5 มฐ.6 มฐ.7 มฐ.8 มฐ.9 มฐ.10 มฐ.11 มฐ.12 1.3 2.2 3.1, 3.2 5.1,5.2, 6.2,6.3 7.2 8.1,8.2, 9.1,9.2 10.1,10.3 12.1 5.3 8.3 ประสบการณส์ าคญั 1.3 รกั ษาความ 3.1 แสดงออกทางอารมณไ์ ด้ 6.2 มวี นิ ัยในตนเอง (สภาพ 9.1 รบั รแู้ ละเข้าใจความหมายของภาษาได้ ปลอดภัยของตนเอง อย่างเหมาะสม ท่พี งึ ประสงค์) (สภาพที่พึงประสงค)์ และผ้อู ่ืน (สภาพที่พงึ ประสงค์) 6.3 ประหยดั และพอเพยี ง 9.2 แสดงออกและ/หรือพูดเพอ่ื สอื่ (สภาพทพ่ี งึ ประสงค)์ ความหมายได้ (สภาพทพี่ งึ ประสงค์) (สภาพทีพ่ ึงประสงค์) 3.2 มคี วามรูส้ ึกท่ีดีตอ่ ตนเอง 7.2 ดแู ลรักษาธรรมชาติ 10.1 มีความสามารถในการคดิ รวบยอด 2.2 ใช้มอื -ตา และผอู้ ืน่ และสิ่งแวดลอ้ ม (สภาพที่พึงประสงค์) ประสานสัมพนั ธก์ ัน (สภาพทีพ่ ึงประสงค)์ 8.1 ยอมรับความเหมือน 10.3 มคี วามสามารถในการคดิ แก้ปัญหาและ และความแตกต่างระหวา่ ง ตัดสินใจ (สภาพทพ่ี งึ ประสงค์) (สภาพทีพ่ งึ ประสงค์) 5.1 ซ่อื สัตยส์ ุจริต บคุ คล 12.1 มีเจตคตทิ ี่ดีตอ่ การเรียนรู้ (สภาพที่พึงประสงค์) (สภาพท่ีพงึ ประสงค)์ (สภาพที่พงึ ประสงค)์ 5.2 มคี วามเมตตากรุณา มี 8.2 มปี ฏิสมั พันธท์ ด่ี กี บั ผู้อืน่ นำ้ ใจและช่วยเหลอื แบง่ ปัน (สภาพที่พงึ ประสงค)์

5.3 มคี วามเห็นอกเหน็ ใจผ้อู นื่ (สภาพท่พี ึงประสงค)์ (สภาพท่ีพงึ ประสงค์) 8.3 ปฏิบตั ติ นเบอ้ื งตน้ ใน 5.4 มีความรับผิดชอบ (สภาพท่ี การเป็นสมาชิกที่ดขี องสังคม พงึ ประสงค์) (สภาพท่ีพงึ ประสงค)์  จุดประสงค์ 1. พัฒนากลา้ มเนอื้ มดั เล็กและตาใหป้ ระสานสัมพันธ์กัน 2. ฝึกทักษะกระบวนการแกไ้ ขปัญหาได้ 3. พฒั นาทกั ษะทางสตปิ ัญญา เช่น การสงั เกต การเปรียบเทียบ ความรูค้ วามเขา้ ใจในเร่อื งตา่ งๆ 4. สง่ เสรมิ คณุ ธรรม จริยธรรม มีความอดทน เออื้ เฟื้อ แบง่ ปัน และรูจ้ กั การรอคอย  กิจกรรมการเรยี นรู้ 1. ครูแนะนาเกม ภาพตดั ตอ่ เคร่อื งใชไ้ ฟฟ้า และสาธติ วธิ ีการเลน่ ใหเ้ ด็กดู พรอ้ มใหเ้ ด็กมีส่วนรว่ มดว้ ย 2. ครูทบทวนเกมเกา่ ทเ่ี คยเล่นมาแลว้ และรว่ มกนั สรา้ งขอ้ ตกลงในการเล่น เช่น - ไมส่ ง่ เสยี งดงั ขณะเลน่ - รูจ้ ักแบ่งปันกันเล่น - เล่นอยา่ งทะนถุ นอม ไมท่ าลายใหเ้ สียหาย - รูจ้ ักขอบคณุ เมื่อครูช่วยเหลอื ขอบใจเมอื่ เพ่อื นชว่ ยเหลอื และขอโทษเมอื่ ทาใหผ้ อู้ ่นื เจบ็ หรือเดือดรอ้ น - เม่ือไดย้ นิ สญั ญาณหยุด (เคาะจังหวะ 2 ครงั้ ) ใหเ้ ก็บเกมเขา้ ที่ และมาน่งั รวมกนั ที่หนา้ หอ้ ง 3. ครูแบ่งเด็กเป็นกลุ่มยอ่ ย กลุ่มละ 4 คน ใหก้ ลุ่มแรกเลน่ เกม ภาพตดั ต่อเครื่องใช้ไฟฟา้ กลุ่มทเ่ี หลอื เลน่ เกมที่ เคยเลน่ มาแลว้ เม่ือเล่นเสร็จใหห้ มนุ เวียนกันเล่นจนครบทกุ เกม เมือ่ ไดย้ นิ สัญญาณหยุดใหเ้ ก็บเกมเขา้ ท่ีให้ เรยี บรอ้ ย และมาน่งั รวมกันทหี่ นา้ หอ้ ง 4. ครูใหเ้ ด็กอาสาสมคั รออกมาบอกเล่าถงึ เกมทต่ี นเองเล่น ความรูส้ กึ และปัญหาทีพ่ บ รวมถงึ วิธแี กป้ ัญหาอย่างไร  ประเมินผล 1. สงั เกตการใชก้ ลา้ มเนอื้ มัดเล็กและตาใหป้ ระสานสัมพนั ธ์กนั 2. สังเกตกระบวนการแกไ้ ขปัญหา 3. สังเกตทักษะทางสตปิ ัญญา เช่น การสังเกต การเปรยี บเทียบ ความรูค้ วามเขา้ ใจในเรอ่ื งตา่ งๆ 4. สังเกตการแสดงความเออื้ เฟื้อแบง่ ปัน และรูจ้ ักการรอคอย  สอ่ื การเรยี นรู้ 1. เกม ภาพตดั ต่อเคร่อื งใชไ้ ฟฟ้า 2. เกมเก่าทเี่ คยเล่นมาแลว้ 3. เคร่ืองเคาะจังหวะ

 ภาคผนวก  เกม ภาพตดั ตอ่ เครอ่ื งใชไ้ ฟฟา้

 สาระท่คี วรเรียนรู้ ในปัจจุบนั อุปกรณเ์ ทคโนโลยีเพอื่ การสื่อสารชว่ ยใหเ้ ราติดตอ่ กันไดง้ า่ ยขนึ้ และทางานต่างๆ ไดส้ ะดวก รวมทงั้ ชว่ ยประหยัดเวลาในการเดนิ ทาง แต่เราตอ้ งรูจ้ กั วธิ ใี ชอ้ ปุ กรณเ์ หล่าน้นั อยา่ งถกู ตอ้ ง เพื่อความคงทนในการใชง้ าน และใชใ้ หเ้ หมาะสมกับเวลา สิ่งทเ่ี ดก็ รูแ้ ลว้ สิ่งทเี่ ด็กต้องการรู้ สิ่งท่เี ดก็ ควรรู้ - เครื่องมือส่อื สารใชง้ านต่างกัน - รบั รขู้ ่าวสารจากโทรทศั น์ - สื่อสารผ่านโทรศัพท์ - การใชค้ อมพิวเตอร์ - บันทกึ ช่วยจาเพือ่ การสือ่ สาร  การจดั ประสบการณ์บรู ณาการ กิจกรรมเกมการศึกษา กิจกรรมเคลื่อนไหวและจังหวะ กจิ กรรมสร้างสรรค์ 1. การเคลื่อนไหวรา่ งกายประกอบเพลง 1. เกมจับคู่ภาพเหมอื นเคร่อื งมอื สอื่ สาร 1. การวาดภาพเครื่องมอื ส่ือสารท่ีช่ืนชอบ 2. เกมทายชนิ้ ส่วนจากบัตรภาพ จาๆ ลมื ๆ 2. การตดิ ปะรปู ถ่ายตนเอง และตกแตง่ 2. การเคลอ่ื นไหวรา่ งกายตามจนิ ตนาการ เครอื่ งมือสอ่ื สาร 3. การเคลอื่ นไหวร่างกายตามคาสั่ง กรอบรูป 3. เกมเรยี งลาดับขนาดเคร่อื งมือสอ่ื สาร 4. การเคลอื่ นไหวร่างกายอย่างอสิ ระ 3. การระบายสภี าพโทรศพั ท์ 5. การเคล่อื นไหวร่างกายตามคาบรรยาย 4. การปั้นดนิ นา้ มันเป็นเคร่ืองมอื สือ่ สาร จากบัตรภาพ 5. การพบั ซองจดหมายและปะติด 4. เกมภาพเงาปริศนาเครือ่ งมอื สื่อสาร กิจกรรมหลกั 5. เกมภาพตดั ตอ่ โทรศัพท์ 6 กิจกรรม ตกแต่งซองจดหมาย กจิ กรรมกลางแจง้ กิจกรรมเสริมประสบการณ์ กจิ กรรมเสรี 1. เล่นตามมมุ ประสบการณ์ 1. การเล่นเครือ่ งเลน่ สนาม 1. กิจกรรม “เคร่ืองมอื ส่ือสารท่ีหนใู ช้งาน” 2. จดั ป้ายนเิ ทศเสริมความรเู้ ก่ียวกับ 2. การเลน่ ตกั นา้ ใสข่ วด 2. กิจกรรม “รับรูข้ ่าวสารจากโทรทศั น์” 3. การเล่นเครื่องเล่นสนาม 3. กิจกรรม “สื่อสารผ่านโทรศพั ท์” ขา่ วสารทางหนังสอื พมิ พ์ เว็บไซต์ 4. การเล่นทราย 4. กจิ กรรม “สารวจการใชค้ อมพิวเตอร์” ต่างๆ ทีใ่ ห้ความรกู้ บั เดก็ เพมิ่ เตมิ ตาม 5. การเลน่ เครอ่ื งเลน่ สนาม 5. กจิ กรรม “บนั ทึกช่วยจาเพ่ือการส่ือสาร” ความสนใจ

แนวทางการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ การศกึ ษาปฐมวยั ภาคเรียนที่...1... สำหรับเด็กท่มี ีความตอ้ งการจำเปน็ พเิ ศษ ชว่ งอายุ .....4-5...... ปี สาระการเรียนรทู้ .่ี .4. หน่วย เทคโนโลยีเพื่อการส่อื สาร วนั ที่ 1 เครอ่ื งมอื ส่อื สารใช้งานต่างกนั กิจกรรมเสริมประสบการณ์  สาระทีค่ วรเรียนรู้ ในปัจจุบันอุปกรณเ์ ทคโนโลยีเพอ่ื การสือ่ สารช่วยใหเ้ ราติดต่อกนั ไดง้ า่ ยขนึ้ และทางานตา่ งๆ ไดส้ ะดวก รวมทงั้ ชว่ ยประหยดั เวลาในการเดินทาง แต่เราตอ้ งรูจ้ กั วธิ ใี ชอ้ ปุ กรณเ์ หลา่ น้ันอย่างถกู ตอ้ ง เพื่อความคงทน ในการใชง้ านและใชใ้ ห้เหมาะสมกับเวลา สาระสาคญั เด็กไดเ้ รียนรูเ้ ก่ยี วกบั อปุ กรณท์ ่ีใชส้ าหรบั ตดิ ต่อและรบั ทราบขอ้ มลู ข่าวสารจากเคร่อื งมอื หรอื สื่อทแี่ ตกตา่ ง กนั เช่น โทรทัศนใ์ หข้ ่าวสารขอ้ มลู ความรูต้ ่างๆ ผ่านภาพเคล่อื นไหวและเสียง จดหมายเป็นการตดิ ตอ่ พดู คุย ผ่านตวั หนงั สอื เป็นตน้  มาตรฐานคณุ ลกั ษณะท่ีพึงประสงค์ / ประสบการณ์สาคญั รา่ งกาย อารมณ์ จติ ใจ สงั คม สตปิ ัญญา มาตรฐานคณุ ลักษณะทีพ่ งึ ประสงค์ มฐ.1 มฐ.2 มฐ.3 มฐ.4 มฐ.5 มฐ.6 มฐ.7 มฐ.8 มฐ.9 มฐ.10 มฐ.11 มฐ.12 1.2, 1.3 2.1, 2.2 3.1, 3.2 4.1 5.4 6.1 7.2 8.2, 8.3 9.1,9.2 10.1,10.3 11.1,11.2 12.1,12.2 ประสบการณ์สาคญั 1.2 มีสขุ ภาพ 3.1 แสดงออกทางอารมณไ์ ด้ 6.1 ช่วยเหลือตนเองในการ 9.1 รับร้แู ละเข้าใจความหมายของภาษาได้ อนามัยสุขนิสัยทด่ี ี อยา่ งเหมาะสม ปฏบิ ตั กิ ิจวตั รประจำวนั (สภาพที่พึงประสงค์) (สภาพทพี่ ึงประสงค์) (สภาพทพ่ี ึงประสงค์) (สภาพทพ่ี งึ ประสงค์) 9.2 แสดงออกและ/หรือพูดเพ่ือส่ือความหมาย 1.3 รกั ษาความ 3.2 มคี วามร้สู กึ ทีด่ ีตอ่ ตนเอง 7.2 ดแู ลรักษาธรรมชาติ ได้ (สภาพที่พงึ ประสงค)์ ปลอดภยั ของตนเอง และผูอ้ ื่น และส่ิงแวดล้อม 10.1 มีความสามารถในการคิดรวบยอด และผู้อ่นื (สภาพทพี่ ึงประสงค)์ 8.1 ยอมรับความเหมอื น (สภาพท่ีพึงประสงค์) (สภาพทีพ่ งึ ประสงค์) 4.1 สนใจ มคี วามสุขและ และความแตกตา่ งระหวา่ ง 10.3 มคี วามสามารถในการคิดแกป้ ัญหาและ 2.1 เคลื่อนไหว แสดงออกผา่ นงานศลิ ปะดนตรี บุคคล ตดั สินใจ (สภาพทพี่ งึ ประสงค์) รา่ งกายอย่าง และการเคลอ่ื นไหว (สภาพท่พี ึงประสงค)์ 11.1 ทำงานศิลปะตามจินตนาการและความคิด คล่องแคลว่ ประสาน (สภาพทพี่ งึ ประสงค์) 8.2 มีปฏสิ มั พันธท์ ่ดี กี บั ผอู้ นื่ สร้างสรรค์ (สภาพทพี่ งึ ประสงค)์ สมั พนั ธแ์ ละทรงตวั 5.4 มีความรบั ผิดชอบ (สภาพท่ี (สภาพที่พงึ ประสงค์) 11.2 แสดงทา่ ทาง/เคลอื่ นไหวตามจินตนาการ ได้(สภาพทพี่ ึง พึงประสงค)์ 8.3 ปฏิบัตติ นเบ้อื งตน้ ใน อยา่ งสร้างสรรค์(สภาพท่พี งึ ประสงค)์ ประสงค)์ การเปน็ สมาชกิ ทด่ี ีของสังคม 12.1 มีเจตคตทิ ่ีดตี อ่ การเรยี นรู้

2.2 ใช้มือ-ตา (สภาพท่พี งึ ประสงค์) (สภาพท่ีพึงประสงค)์ ประสานสมั พนั ธก์ นั 12.2 มีความสามารถในการแสวงหาความรู้ (สภาพทพ่ี ึงประสงค)์ (สภาพท่ีพึงประสงค)์  จุดประสงค์ 1. บอกชือ่ เครอื่ งมือสอ่ื สารทรี่ ูจ้ กั ได้ 2. สังเกตเปรยี บเทียบรูปรา่ งลกั ษณะของเครอื่ งมือส่อื สารชนิดตา่ ง ๆ ได้ 3. พฒั นากลา้ มเนอื้ มือและตาใหป้ ระสานสัมพนั ธก์ นั จากการวาดภาพ  กิจกรรมการเรยี นรู้ ขนั้ นา ครูใหเ้ ด็กเคล่ือนไหวรา่ งกายโดยใหอ้ าสาสมัครสลับกนั ออกมาเป็นผนู้ าในการทาท่ากายบริหาร โดยมขี อ้ ตกลง ดงั นี้  ถา้ ครูชบู ัตรภาพ โทรศพั ท์ ใหเ้ ดก็ หยดุ การเคลอื่ นไหว  ถา้ ครูชบู ัตรภาพ โทรทัศน์ ใหเ้ ด็กเคลือ่ นไหวรา่ งกายต่อไปได้ ขนั้ สอน 1. ครูนาซองจดหมาย และไปรษณียบัตร มาใหเ้ ด็กสงั เกต แลว้ พูดคุยแลกเปลีย่ นประสบการณก์ ัน โดยถามคาถามกระตนุ้ ความคิด ดงั นี้  เดก็ ๆ รูจ้ ักสิง่ นหี้ รอื ไม่ คอื อะไร มีรูปรา่ งคลา้ ยรูปทรงเรขาคณิตชนดิ ใด  เด็กๆ รูจ้ กั จดหมายและไปรษณยี บัตรหรือไม่  จดหมายและไปรษณยี บตั รมีประโยชนอ์ ยา่ งไร 2. เด็กๆ คนใดรูจ้ ักและเคยใชใ้ หอ้ อกมาเลา่ ประสบการณ์ของตนเองใหเ้ พื่อนๆ ฟัง 3. ครูใหค้ วามรูเ้ พิ่มเตมิ เก่ยี วกบั การติดตอ่ สอ่ื สารในอดตี ว่า เรมิ่ จากการส่งขอ้ ความสัญญาณควนั และใช้ นกพริ าบ ต่อมามกี ารพฒั นาระบบส่อื สารดว้ ยการเขยี นจดหมายและโทรเลข จนมาถงึ ปัจจบุ นั ที่มีการใช้ โทรศัพทเ์ คล่อื นที่ วทิ ยุ โทรทศั น์ ตามลาดับ เพ่อื ใหผ้ คู้ นตดิ ตอ่ สอ่ื สารกันไดร้ วดเร็วและประหยัดเวลา 4. ครูนาบัตรภาพไอโฟน โทรศพั ท์ คอมพิวเตอร์ มาใหเ้ ด็กดู แลว้ ชวนเด็กสนทนาเกี่ยวกับรูปรา่ งและ ประโยชนข์ องเครื่องมอื สื่อสารแต่ละชนดิ วา่ มปี ระโยชนอ์ ย่างไร ใหเ้ ดก็ ๆ ช่วยกันแสดงความคิดเหน็ ขนั้ สรปุ 1. ครูใหเ้ ด็กสังเกตภาพในหนงั สือเสริมฯ สิ่งตา่ งๆ รอบตวั เด็ก อ.2 กจิ กรรม เครอื่ งมือส่อื สารทหี่ นูใชง้ าน หนา้ 21 สนทนาเกย่ี วกบั ภาพและวาดภาพอปุ กรณส์ ่ือสารแตล่ ะชนดิ ทเ่ี คยใช้ แลว้ ระบายสีภาพ 2. ครูและเดก็ รว่ มกนั สรุปประโยชนข์ องอปุ กรณส์ ือ่ สารทพ่ี บในชวี ติ ประจาวันวา่ อุปกรณส์ ่อื สารในปัจจบุ นั เช่น โทรศัพทเ์ คลื่อนที่ ชว่ ยใหเ้ ราตดิ ต่อสอ่ื สารกันไดส้ ะดวกรวดเรว็ มากขนึ้  ประเมินผล 1. สังเกตการบอกชือ่ เครื่องมอื สือ่ สารท่ีรูจ้ กั ได้

2. สงั เกตการทากิจกรรมรว่ มกนั กบั ผอู้ ่ืนและการปฏิบตั ิตามขอ้ ตกลงได้ 3. สังเกตผลงานการทากิจกรรม เครือ่ งมือส่ือสารทหี่ นูใชง้ าน 4. สงั เกตการสนทนาและการตอบคาถาม  สอื่ การเรียนรู้ 1. บัตรภาพโทรศัพท์ ภาพโทรทศั น์ ภาพนกพริ าบ ภาพมา้ ภาพไอโฟน ภาพคอมพิวเตอร์ 2. ซองจดหมาย ไปรษณียบัตร 3. หนงั สือเสรมิ ฯ ส่งิ ตา่ งๆ รอบตัวเดก็ อ.2 กจิ กรรม เคร่ืองมือสอื่ สารที่หนูใชง้ าน หนา้ 21  ภาคผนวก  ตวั อย่างภาพ กิจกรรมเคล่ือนไหวและจงั หวะ  สาระทีค่ วรเรียนรู้ การเคลื่อนไหวร่างกายประกอบเพลง จาๆ ลมื ๆ  มาตรฐานคณุ ลกั ษณะที่พึงประสงค์ / ประสบการณ์สาคญั ร่างกาย อารมณ์ จิตใจ สังคม สตปิ ัญญา มาตรฐานคุณลักษณะท่พี ึงประสงค์ มฐ.10 มฐ.11 มฐ.12 มฐ.1 มฐ.2 มฐ.3 มฐ.4 มฐ.5 มฐ.6 มฐ.7 มฐ.8 มฐ.9

1.2, 1.3 2.1 3.1, 3.2 4.1 8.1,8.2, 10.3 11.2 12.1 8.3 ประสบการณ์สาคัญ 1.2 มีสขุ ภาพ 3.1 แสดงออกทางอารมณไ์ ด้ 8.1 ยอมรบั ความเหมือน 10.3 มคี วามสามารถในการคดิ แก้ปญั หาและ อนามัยสขุ นสิ ัยทีด่ ี อย่างเหมาะสม และความแตกต่างระหว่าง ตัดสินใจ (สภาพทพี่ ึงประสงค)์ (สภาพท่ีพึงประสงค์) (สภาพทพี่ ึงประสงค์) บุคคล 11.2 แสดงท่าทาง/เคลื่อนไหวตามจนิ ตนาการ 1.3 รกั ษาความ 3.2 มคี วามร้สู กึ ที่ดีตอ่ ตนเอง (สภาพทพี่ ึงประสงค)์ อยา่ งสร้างสรรค์(สภาพทพ่ี ึงประสงค)์ ปลอดภยั ของตนเอง และผอู้ ่นื 8.2 มปี ฏสิ ัมพนั ธ์ท่ดี กี ับผ้อู นื่ 12.1 มเี จตคตทิ ดี่ ีตอ่ การเรยี นรู้ และผอู้ ืน่ (สภาพทพ่ี งึ ประสงค)์ (สภาพทีพ่ ึงประสงค)์ (สภาพท่ีพงึ ประสงค)์ (สภาพท่ีพึงประสงค์) 4.1 สนใจ มีความสขุ และ 8.3 ปฏบิ ัตติ นเบ้ืองตน้ ใน 2.1 เคลื่อนไหว แสดงออกผ่านงานศลิ ปะดนตรี การเป็นสมาชกิ ท่ีดีของสังคม รา่ งกายอย่าง และการเคลอ่ื นไหว (สภาพทีพ่ งึ ประสงค์) คลอ่ งแคล่วประสาน (สภาพทีพ่ งึ ประสงค์) สัมพันธแ์ ละทรงตวั ได้(สภาพทพ่ี ึง ประสงค)์  จุดประสงค์ 1. พัฒนาการใชก้ ลา้ มเนอื้ ใหญ่ เลก็ และตาใหส้ ัมพนั ธก์ ัน 2. พัฒนาทักษะการเคลื่อนไหวประกอบเพลง 3. เพือ่ ใหเ้ กดิ ความสนกุ สนานและผ่อนคลายอารมณ์  กิจกรรมการเรียนรู้ 1. ครูใหเ้ ด็กเคล่ือนไหวร่างกายอยา่ งอิสระโดยไม่ใหช้ นกันตามจงั หวะทค่ี รูกาหนด 2. ครูใหเ้ ด็กอาสาสมัครออกมาเป็นผกู้ าหนดจงั หวะ และใหเ้ พ่ือนๆ เคล่ือนไหวร่างกายอย่างอิสระโดยไม่ใหช้ นกัน 3. เดก็ และครูร่วมกันสรา้ งขอ้ ตกลงในการเคลอื่ นไหวประกอบเพลง จาๆ ลืมๆ โดยครูรอ้ งเพลงใหเ้ ดก็ ฟังก่อน 1 รอบ แลว้ ใหเ้ ด็กรอ้ งตามทีละวรรค จนเดก็ สามารถรอ้ งเพลงไดค้ ล่อง 4. เดก็ และครูรว่ มกนั รอ้ งเพลง จาๆ ลืมๆ พรอ้ มกันและทาท่าทางประกอบเพลงตามจินตนาการ  ประเมินผล 1. สงั เกตการใชก้ ลา้ มเนอื้ ใหญเ่ ล็กและตาใหส้ ัมพนั ธ์กัน 2. สงั เกตการเคลอ่ื นไหวประกอบเพลงตามจินตนาการ 3. สังเกตความสนุกสนานและผอ่ นคลายอารมณ์  สอื่ การเรยี นรู้ 2. เครอื่ งเคาะจงั หวะ 1. เพลง จาๆ ลืมๆ

 ภาคผนวก  เพลง จาๆ ลมื ๆ เพลง จาๆ ลมื ๆ จาๆ ๆ บอกใหจ้ าทาไมจงึ ลมื (ไมท่ ราบนามผแู้ ต่ง) แหมมันช่างนา่ ขา(ซา้ ) ลมื ๆ ๆ บอกใหล้ ืมทาไมยังจา บอกใหจ้ าทาไมจงึ ลืม (ซา้ ) กิจกรรมสรา้ งสรรค์  สาระทค่ี วรเรยี นรู้ การวาดภาพเครื่องมือสื่อสารทีช่ ื่นชอบ  มาตรฐานคุณลกั ษณะทพ่ี งึ ประสงค์ / ประสบการณ์สาคญั รา่ งกาย อารมณ์ จติ ใจ สังคม สติปัญญา มาตรฐานคณุ ลกั ษณะทพี่ ึงประสงค์ มฐ.1 มฐ.2 มฐ.3 มฐ.4 มฐ.5 มฐ.6 มฐ.7 มฐ.8 มฐ.9 มฐ.10 มฐ.11 มฐ.12 1.3 2.2 3.1, 3.2 4.1 5.2,5.4 6.2,6.3 8.1,8.2, 9.1 10.3 11.1 12.1 8.3 ประสบการณส์ าคญั 1.3 รกั ษาความ 3.1 แสดงออกทางอารมณไ์ ด้ 6.2 มวี นิ ัยในตนเอง (สภาพ 9.1 รบั รู้และเขา้ ใจความหมายของภาษาได้ ปลอดภยั ของตนเอง อยา่ งเหมาะสม ทพี่ ึงประสงค์) (สภาพทพ่ี งึ ประสงค)์ และผอู้ น่ื (สภาพที่พงึ ประสงค์) 6.3 ประหยดั และพอเพยี ง 10.3 มีความสามารถในการคิดแกป้ ญั หาและ (สภาพท่พี ึงประสงค)์ 3.2 มคี วามรสู้ ึกท่ีดตี อ่ ตนเอง (สภาพทีพ่ งึ ประสงค์) ตัดสินใจ (สภาพท่ีพึงประสงค์) 2.2 ใชม้ อื -ตา และผอู้ นื่ 8.1 ยอมรับความเหมอื น 11.1 ทำงานศลิ ปะตามจินตนาการและ ประสานสัมพันธ์กนั (สภาพทพ่ี ึงประสงค์) และความแตกต่างระหวา่ ง ความคดิ สรา้ งสรรค์ (สภาพท่พี ึงประสงค)์ 4.1 สนใจ มคี วามสขุ และ บคุ คล (สภาพท่ีพึงประสงค)์ แสดงออกผา่ นงานศิลปะดนตรี (สภาพทพ่ี ึงประสงค)์ 12.1 มเี จตคติท่ดี ีตอ่ การเรยี นรู้ และการเคล่ือนไหว 8.2 มปี ฏสิ ัมพันธท์ ่ีดกี ับผอู้ ่ืน (สภาพที่พึงประสงค์) (สภาพทพ่ี งึ ประสงค์) (สภาพทพี่ งึ ประสงค์) 12.2 มคี วามสามารถในการแสวงหาความรู้ 8.3 ปฏิบตั ติ นเบอื้ งตน้ ใน (สภาพทีพ่ งึ ประสงค์) 5.2 มคี วามเมตตากรุณา มี การเป็นสมาชิกทด่ี ีของสงั คม นำ้ ใจและชว่ ยเหลอื แบ่งปัน (สภาพท่พี งึ ประสงค)์ (สภาพทพี่ งึ ประสงค์) 5.4 มคี วามรบั ผิดชอบ (สภาพท่ี พงึ ประสงค์)  จดุ ประสงค์

1. พัฒนาการกลา้ มเนอื้ มัดเล็กและตาใหส้ ัมพนั ธก์ ัน 2. การสรา้ งสรรคผ์ ลงานตามจินตนาการ 3. สามารถบอกเลา่ เกี่ยวกบั ผลงานของตนเองได้  กิจกรรมการเรยี นรู้ 1. ครูใหเ้ ดก็ น่งั เป็นครึง่ วงกลม ครูน่งั ตรงกลางวง และจดั วางอุปกรณใ์ นการทากจิ กรรมไวใ้ หเ้ ดก็ ๆ 2. ครูใหเ้ ด็กๆ ชว่ ยกันบอกชอ่ื เคร่ืองมอื ในการสือ่ สารท่ีเด็กรูจ้ กั หรอื เคยใช้ พรอ้ มบอกวิธใี ชง้ านและประโยชน์ ของเครอ่ื งมือสือ่ สารนน้ั 3. ครูใหเ้ ดก็ วาดเคร่อื งมอื ในการส่ือสารท่ีเดก็ ๆ ชืน่ ชอบ แลว้ ระบายสภี าพใหส้ วยงาม โดยเลอื กใชส้ เี ทยี น หรือ ดนิ สอสตี ามความชอบ 4. เดก็ บอกเลา่ ผลงานใหเ้ พ่ือนฟงั และครูจดบันทึกลงบนผลงาน 5. เด็กๆ ช่วยกันเกบ็ วสั ดอุ ุปกรณเ์ ขา้ ที่ และทาความสะอาดโต๊ะกจิ กรรม  ประเมินผล 2. สังเกตผลงาน 1. สังเกตการใชก้ ลา้ มเนอื้ มดั เลก็ และตาใหส้ ัมพนั ธก์ นั 3. สังเกตการบอกเล่าเกยี่ วกับผลงานของตนเอง  สอ่ื การเรยี นรู้ 2. สีเทยี น 3. ดินสอสี 1. กระดาษ A4

กิจกรรมเสรี  สาระทีค่ วรเรยี นรู้ การเล่นตามมุมประสบการณ์ เปิดโอกาสใหเ้ ดก็ เล่นอสิ ระตามมมุ ประสบการณห์ รือศนู ยก์ ารเรยี น ท่จี ัดไวใ้ น หอ้ งเรยี น เชน่ มุมบล็อก มุมวิทยาศาสตรห์ รือมมุ ธรรมชาตศิ กึ ษา มุมคณติ ศาสตร์ มุมบา้ น มุมหนงั สอื มมุ ศิลปะ มมุ ดนตรี มมุ บทบาทสมมติ เป็นตน้  มาตรฐานคุณลกั ษณะที่พึงประสงค์ / ประสบการณ์สาคญั รา่ งกาย อารมณ์ จติ ใจ สงั คม สตปิ ัญญา มาตรฐานคณุ ลกั ษณะทพ่ี ึงประสงค์ มฐ.1 มฐ.2 มฐ.3 มฐ.4 มฐ.5 มฐ.6 มฐ.7 มฐ.8 มฐ.9 มฐ.10 มฐ.11 มฐ.12 1.3 2.2 3.1, 3.2 4.1 5.1,5.2, 6.2,6.3 7.2 8.1,8.2, 9.1 10.3 11.2 12.1,12.2 5.3 8.3 ประสบการณ์สาคัญ 1.3 รกั ษาความ 3.1 แสดงออกทางอารมณไ์ ด้ 6.2 มวี นิ ยั ในตนเอง (สภาพ 9.1 รับร้แู ละเขา้ ใจความหมายของภาษาได้ ปลอดภยั ของตนเอง อยา่ งเหมาะสม ทีพ่ ึงประสงค)์ (สภาพที่พงึ ประสงค)์ และผู้อน่ื (สภาพท่พี งึ ประสงค์) 6.3 ประหยดั และพอเพียง 10.3 มีความสามารถในการคิดแก้ปญั หาและ (สภาพท่ีพงึ ประสงค)์ 3.2 มคี วามรูส้ ึกทีด่ ีตอ่ ตนเอง (สภาพที่พงึ ประสงค)์ ตัดสนิ ใจ (สภาพท่พี ึงประสงค)์ 2.2 ใชม้ ือ-ตา และผอู้ ่ืน 7.1 สนใจและเรียนรูส้ ่ิง 11.2 แสดงท่าทาง/เคล่ือนไหวตามจนิ ตนาการ ประสานสมั พนั ธ์กนั (สภาพทีพ่ งึ ประสงค์) ต่างๆ รอบตัว (สภาพทพี่ งึ อย่างสรา้ งสรรค์(สภาพทพี่ ึงประสงค)์ (สภาพที่พึงประสงค์) 4.1 สนใจ มคี วามสขุ และ ประสงค)์ 12.1 มเี จตคตทิ ีด่ ตี อ่ การเรยี นรู้ แสดงออกผ่านงานศิลปะดนตรี 8.1 ยอมรับความเหมอื น (สภาพท่ีพงึ ประสงค์) และการเคล่อื นไหว และความแตกตา่ งระหวา่ ง 12.2 มคี วามสามารถในการแสวงหาความรู้ (สภาพที่พงึ ประสงค)์ บคุ คล (สภาพท่ีพงึ ประสงค)์ 5.1 ซอ่ื สตั ย์สุจริต (สภาพท่ีพึงประสงค)์ (สภาพท่ีพงึ ประสงค)์ 8.2 มีปฏสิ มั พนั ธท์ ี่ดกี บั ผ้อู น่ื 5.2 มคี วามเมตตากรุณา มี (สภาพทพี่ งึ ประสงค์) นำ้ ใจและชว่ ยเหลอื แบ่งปนั 8.3 ปฏิบัตติ นเบอื้ งตน้ ใน (สภาพท่ีพึงประสงค)์ การเปน็ สมาชิกทดี่ ขี องสงั คม 5.3 มคี วามเห็นอกเห็นใจผูอ้ ื่น (สภาพทีพ่ ึงประสงค)์ (สภาพทีพ่ งึ ประสงค์)  จุดประสงค์ 2. มีทักษะทางดา้ นสงั คมเลน่ รว่ มกับผอู้ ื่นได้ 1. ส่งเสริมพฒั นาการ 4 ดา้ นผา่ นการเล่น 3. สง่ เสรมิ คุณธรรม จรยิ ธรรม มคี วามอดทน เออื้ เฟื้อ แบ่งปัน และรูจ้ กั การรอคอย  กิจกรรมการเรียนรู้

1. เด็กและครูรว่ มกนั ทบทวนมุมประสบการณต์ ่างๆ ในหอ้ งเรียน และใหค้ ิดวางแผนการเลน่ ว่าจะเล่นอะไร ตามลาดับความสนใจของตนเอง 2. เดก็ และครูรว่ มกนั สรา้ งขอ้ ตกลงในการเล่น เช่น - เด็กไม่ส่งเสียงดังขณะเลน่ - เม่ือเลน่ เสร็จเกบ็ ของเล่นเขา้ ที่ - รูจ้ ักแบง่ ปันกนั เลน่ - เล่นของเลน่ อย่างทะนถุ นอม ไมท่ าลายใหเ้ สยี หาย - รูจ้ กั ขอบคณุ เมือ่ ครูช่วยเหลือ ขอบใจเม่อื เพอ่ื นช่วยเหลือ และขอโทษเมอ่ื ทาใหผ้ อู้ ืน่ เจบ็ หรือเดือดรอ้ น - เมอื่ ไดย้ ินสญั ญาณหยดุ (เคาะจังหวะ 2 ครง้ั ) ใหเ้ ก็บของเล่นทนั ที และมาน่งั รวมกนั ทหี่ นา้ หอ้ ง 3. เด็กๆ เลือกเลน่ ตามท่ีคดิ ไวอ้ ย่างอสิ ระ ปฏบิ ัติตามขอ้ ตกลง และเมอ่ื ไดย้ นิ สัญญาณหยดุ ใหเ้ ก็บของเขา้ ที่ให้ เรยี บรอ้ ย และมาน่งั รวมกันทีห่ นา้ หอ้ ง 4. ครูใหเ้ ด็กอาสาสมคั รออกมาบอกเล่าถึงสงิ่ ที่ตนเองเล่น ความรูส้ ึก และปัญหาท่พี บ รวมถงึ วิธีแกป้ ัญหาอย่างไร  ประเมินผล 1. สังเกตพฒั นาการ 4 ดา้ น 2. สังเกตการแสดงความเออื้ เฟื้อแบง่ ปัน และรูจ้ กั การรอคอย 3. สังเกตการเลน่ รว่ มกับผอู้ ่นื  สอื่ การเรียนรู้ 2. เคร่อื งเคาะจงั หวะ 1. ของเล่นในมุมประสบการณต์ า่ งๆ กิจกรรมกลางแจ้ง  สาระท่ีควรเรยี นรู้ การเลน่ เคร่ืองเล่นสนาม เดก็ ไดม้ โี อกาสออกไปนอกหอ้ งเรียนเพ่ือออกกาลัง เคล่อื นไหวรา่ งกายและ แสดงออกอย่างอสิ ระในการเล่นเครื่องเลน่ สนาม โดยยึดความสนใจและความสามารถของเด็กเป็นหลัก  มาตรฐานคุณลกั ษณะทีพ่ ึงประสงค์ / ประสบการณ์สาคญั รา่ งกาย อารมณ์ จติ ใจ สงั คม สตปิ ัญญา มาตรฐานคณุ ลักษณะที่พึงประสงค์ มฐ.1 มฐ.2 มฐ.3 มฐ.4 มฐ.5 มฐ.6 มฐ.7 มฐ.8 มฐ.9 มฐ.10 มฐ.11 มฐ.12 1.2, 1.3 2.1 3.1, 3.2 5.1,5.2, 6.1,6.2 7.2 8.1,8.2, 9.1 10.3 11.2 12.1 5.3 8.3 ประสบการณส์ าคญั 1.2 มีสขุ ภาพ 3.1 แสดงออกทางอารมณไ์ ด้ 6.1 ชว่ ยเหลือตนเองในการ 9.1 รับรู้และเขา้ ใจความหมายของภาษาได้ ปฏบิ ัติกิจวตั รประจำวนั (สภาพท่ีพงึ ประสงค์) อนามยั สุขนิสยั ทด่ี ี อยา่ งเหมาะสม (สภาพทพ่ี ึงประสงค์) 10.3 มคี วามสามารถในการคดิ แกป้ ญั หาและ (สภาพท่พี ึงประสงค์) (สภาพท่พี ึงประสงค์) 6.2 มวี นิ ยั ในตนเอง (สภาพ ตดั สินใจ (สภาพท่ีพึงประสงค)์ 1.3 รกั ษาความ 3.2 มคี วามรู้สกึ ท่ีดตี อ่ ตนเอง ท่พี ึงประสงค์) 11.2 แสดงทา่ ทาง/เคลอ่ื นไหวตามจนิ ตนาการ ปลอดภัยของตนเอง และผอู้ ื่น อยา่ งสร้างสรรค์(สภาพที่พงึ ประสงค)์ และผอู้ ่นื (สภาพทพ่ี ึงประสงค์)

(สภาพที่พงึ ประสงค์) 5.1 ซอ่ื สตั ย์สจุ รติ 7.2 ดแู ลรักษาธรรมชาติ 12.1 มเี จตคตทิ ด่ี ตี อ่ การเรยี นรู้ 2.1 เคลือ่ นไหว (สภาพท่ีพงึ ประสงค)์ และสิ่งแวดล้อม (สภาพทพ่ี ึงประสงค์) รา่ งกายอยา่ ง 5.2 มคี วามเมตตากรุณา มี 8.1 ยอมรบั ความเหมอื น คลอ่ งแคลว่ ประสาน นำ้ ใจและชว่ ยเหลือแบ่งปัน และความแตกต่างระหว่าง สมั พนั ธแ์ ละทรงตัว (สภาพทพ่ี ึงประสงค)์ บคุ คล ได้(สภาพทพี่ ึง 5.3 มคี วามเห็นอกเหน็ ใจผอู้ น่ื (สภาพทพ่ี ึงประสงค์) ประสงค)์ (สภาพท่ีพงึ ประสงค์) 8.2 มีปฏิสัมพันธ์ท่ดี กี บั ผูอ้ ื่น 5.4 มีความรับผดิ ชอบ (สภาพท่ี (สภาพที่พึงประสงค์) พงึ ประสงค์) 8.3 ปฏบิ ตั ิตนเบอื้ งต้นใน การเปน็ สมาชกิ ทีด่ ขี องสังคม (สภาพทพ่ี ึงประสงค์)  จดุ ประสงค์ 2. พัฒนาทกั ษะการเล่นกบั ผอู้ ื่น 1. พัฒนาทกั ษะการเคลอ่ื นไหวและการทรงตวั 3. สง่ เสรมิ คณุ ธรรม จรยิ ธรรม มคี วามอดทน เออื้ เฟื้อ แบง่ ปัน และรูจ้ ักการรอคอย 4. การปลูกฝังทัศนคตทิ ่ีดีในการออกกาลังกาย  กิจกรรมการเรียนรู้ 1. เด็กและครูรว่ มกนั อบอนุ่ รา่ งกายดว้ ยการออกกายบริหารในการเคลอื่ นไหวอยกู่ บั ที่ 2. ครูแนะนาการเลน่ เครอื่ งเล่นสนามอยา่ งถูกวิธี และปลอดภัยใหเ้ ดก็ ฟังพรอ้ มสาธิตใหด้ ู แลว้ ร่วมกันสรา้ ง ขอ้ ตกลงในการเล่นเครื่องเล่นสนาม เชน่ - เล่นอย่างถูกวิธี ไม่เลน่ โลดโผน - เขา้ แถวรอคอยเลน่ ต่อจากเพ่อื น - รูจ้ ักแบง่ ปันกนั เลน่ - เล่นเครื่องเลน่ อย่างทะนถุ นอม ไม่ทาลายใหเ้ สียหาย - เล่นร่วมกันไมท่ ะเลาะกนั - ไม่เด็ดใบไม้ ดอกไมม้ าเลน่ - รูจ้ ักขอบคุณเมอื่ ครูชว่ ยเหลือ ขอบใจเม่ือเพือ่ นช่วยเหลือ และขอโทษเมอ่ื ทาใหผ้ อู้ ่ืนเจ็บหรือเดือดรอ้ น - เมื่อไดย้ ินเสียงนกหวดี ใหห้ ยุดเล่นทนั ที เตรยี มเขา้ แถวท่ีหนา้ สนามเด็กเลน่ 3. ครูใหเ้ ดก็ คดิ วางแผนการเล่นเครือ่ งเล่นสนามตามลาดับความสนใจ จากน้ันใหเ้ ลน่ ตามท่คี ิดวางแผนไว้ อยา่ งอสิ ระ ปฏิบตั ติ ามขอ้ ตกลง และเมอ่ื ไดย้ นิ เสียงนกหวีดใหห้ ยุดเลน่ แลว้ มาเขา้ แถวท่หี นา้ สนามเด็กเล่น 4. ครูให้เด็กอาสาสมัครออกมาบอกเล่าถึงสิ่งทีต่ นเองเล่น ความรูส้ ึก และปัญหาทีพ่ บ รวมถึงวิธแี กป้ ัญหาอย่างไร  ประเมินผล 1. สงั เกตการเคลอ่ื นไหวและการทรงตัว 2. สงั เกตการเล่นรว่ มกับผอู้ ื่น 3. สังเกตการแสดงความอดทน เออื้ เฟื้อ แบ่งปัน และรูจ้ กั รอคอย 4. สงั เกตทัศนคติทด่ี ีในการออกกาลังกาย  ส่ือการเรยี นรู้ 1. นกหวดี 2. เครื่องเล่นสนาม กิจกรรมเกมการศึกษา

 สาระที่ควรเรียนรู้ การเล่นเกม จบั คภู่ าพเหมอื นเครอ่ื งมอื สอื่ สาร  มาตรฐานคณุ ลกั ษณะทพี่ ึงประสงค์ / ประสบการณ์สาคญั ร่างกาย อารมณ์ จิตใจ สงั คม สตปิ ัญญา มาตรฐานคุณลักษณะทพ่ี ึงประสงค์ มฐ.1 มฐ.2 มฐ.3 มฐ.4 มฐ.5 มฐ.6 มฐ.7 มฐ.8 มฐ.9 มฐ.10 มฐ.11 มฐ.12 1.3 2.2 3.1, 3.2 5.1,5.2, 6.2,6.3 7.2 8.1,8.2, 9.1,9.2 10.1,10.3 12.1 5.3 8.3 ประสบการณส์ าคัญ 1.3 รกั ษาความ 3.1 แสดงออกทางอารมณไ์ ด้ 6.2 มวี นิ ยั ในตนเอง (สภาพ 9.1 รบั รู้และเขา้ ใจความหมายของภาษาได้ ปลอดภยั ของตนเอง อยา่ งเหมาะสม ทีพ่ ึงประสงค์) (สภาพทพี่ ึงประสงค)์ และผู้อื่น (สภาพทพี่ ึงประสงค)์ 6.3 ประหยัดและพอเพยี ง 9.2 แสดงออกและ/หรือพดู เพือ่ สือ่ (สภาพที่พงึ ประสงค์) 3.2 มคี วามรสู้ ึกท่ีดีตอ่ ตนเอง (สภาพท่ีพึงประสงค)์ ความหมายได้ (สภาพทีพ่ ึงประสงค์) 2.2 ใชม้ ือ-ตา และผอู้ ืน่ 7.2 ดแู ลรักษาธรรมชาติ 10.1 มีความสามารถในการคิดรวบยอด ประสานสมั พนั ธ์กนั (สภาพทพ่ี ึงประสงค์) และส่ิงแวดลอ้ ม (สภาพท่พี งึ ประสงค)์ (สภาพทพี่ งึ ประสงค์) 5.1 ซ่ือสัตย์สุจรติ 8.1 ยอมรบั ความเหมอื น 10.3 มคี วามสามารถในการคิดแกป้ ัญหาและ (สภาพท่พี งึ ประสงค์) และความแตกตา่ งระหว่าง ตดั สนิ ใจ (สภาพที่พงึ ประสงค)์ 5.2 มคี วามเมตตากรณุ า มี บุคคล 12.1 มีเจตคติทดี่ ตี อ่ การเรียนรู้ น้ำใจและชว่ ยเหลอื แบง่ ปัน (สภาพทพี่ ึงประสงค)์ (สภาพทพ่ี งึ ประสงค)์ (สภาพที่พงึ ประสงค)์ 8.2 มีปฏิสัมพันธท์ ีด่ กี ับผู้อน่ื 5.3 มคี วามเหน็ อกเหน็ ใจผ้อู ่ืน (สภาพทีพ่ ึงประสงค)์ (สภาพทีพ่ ึงประสงค์) 8.3 ปฏิบัติตนเบื้องตน้ ใน การเป็นสมาชิกท่ีดขี องสงั คม (สภาพที่พึงประสงค์)  จุดประสงค์ 1. พฒั นากลา้ มเนอื้ มัดเล็กและตาใหป้ ระสานสมั พนั ธ์กัน 2. ฝึกทักษะกระบวนการแกไ้ ขปัญหาได้ 3. พฒั นาทกั ษะทางสตปิ ัญญา เช่น การสงั เกต การเปรียบเทยี บ ความรูค้ วามเขา้ ใจในเร่ืองต่างๆ 4. สง่ เสริมคุณธรรม จรยิ ธรรม มคี วามอดทน เออื้ เฟื้อ แบง่ ปัน และรูจ้ กั การรอคอย  กิจกรรมการเรียนรู้ 1. ครูแนะนาเกม จับคภู่ าพเหมือนเครื่องมือสอ่ื สาร และสาธติ วธิ ีการเลน่ ใหเ้ ดก็ ดู พรอ้ มใหเ้ ด็กมสี ว่ นรว่ มดว้ ย 2. ครูทบทวนเกมเกา่ ทเ่ี คยเล่นมาแลว้ และร่วมกนั สรา้ งขอ้ ตกลงในการเลน่ เชน่ - ไม่ส่งเสยี งดงั ขณะเลน่ - รูจ้ กั แบง่ ปันกนั เลน่ - เล่นอยา่ งทะนุถนอม ไมท่ าลายใหเ้ สยี หาย

- รูจ้ ักขอบคุณเมอ่ื ครูช่วยเหลอื ขอบใจเมื่อเพือ่ นชว่ ยเหลือ และขอโทษเมือ่ ทาใหผ้ อู้ ่นื เจบ็ หรอื เดือดรอ้ น - เมื่อไดย้ นิ สัญญาณหยุด (เคาะจังหวะ 2 ครงั้ ) ใหเ้ กบ็ เกมเขา้ ที่ และมาน่งั รวมกนั ทห่ี นา้ หอ้ ง 3. ครูแบง่ เด็กเป็นกลุ่มย่อย กลุ่มละ 4 คน ใหก้ ลุ่มแรกเล่นเกม จบั ค่ภู าพเหมือนเครื่องมือส่อื สาร กลุ่มที่เหลือเลน่ เกมท่เี คยเลน่ มาแลว้ เม่ือเลน่ เสร็จใหห้ มุนเวียนกันเล่นจนครบทกุ เกม เม่ือไดย้ ินสญั ญาณหยุดใหเ้ ก็บเกม เขา้ ท่ใี หเ้ รยี บรอ้ ย และมาน่งั รวมกนั ท่ีหนา้ หอ้ ง 4. ครูใหเ้ ด็กอาสาสมคั รออกมาบอกเล่าถึงเกมทีต่ นเองเลน่ ความรูส้ ึก และปัญหาที่พบ รวมถึงวธิ แี กป้ ัญหาอยา่ งไร  ประเมินผล 2. สงั เกตกระบวนการแกไ้ ขปัญหา 1. สงั เกตการใชก้ ลา้ มเนอื้ มดั เลก็ และตาใหป้ ระสานสมั พันธ์กนั 3. สงั เกตทกั ษะทางสติปัญญา เชน่ การสังเกต การเปรยี บเทียบ ความรูค้ วามเขา้ ใจในเร่อื งต่างๆ 4. สังเกตการแสดงความเออื้ เฟื้อแบง่ ปัน และรูจ้ กั การรอคอย  สอ่ื การเรยี นรู้ 2. เกมเก่าทเ่ี คยเลน่ มาแลว้ 1. เกม จับคู่ภาพเหมือนเคร่ืองมอื ส่อื สาร 3. เคร่อื งเคาะจังหวะ  ภาคผนวก  เกม จบั คู่ภาพเหมอื นเครือ่ งมอื สอื่ สาร

แนวทางการจัดประสบการณก์ ารเรียนรู้ การศึกษาปฐมวัย ภาคเรยี นท่ี...1... สำหรบั เดก็ ทม่ี ีความตอ้ งการจำเปน็ พเิ ศษ ชว่ งอายุ .....4-5...... ปี สาระการเรียนรูท้ .่ี .4. หนว่ ย เทคโนโลยเี พือ่ การสอื่ สาร วนั ท่ี 2 รบั รูข้ า่ วสารจากโทรทศั น์ กิจกรรมเสริมประสบการณ์  สาระท่ีควรเรยี นรู้ ในปัจจบุ ันอุปกรณเ์ ทคโนโลยีเพ่ือการสือ่ สารชว่ ยใหเ้ ราตดิ ตอ่ กนั ไดง้ า่ ยขนึ้ และทางานต่างๆ ไดส้ ะดวก รวมทงั้ ช่วยประหยัดเวลาในการเดนิ ทาง แตเ่ ราตอ้ งรูจ้ กั วธิ ีใชอ้ ปุ กรณเ์ หลา่ น้นั อยา่ งถูกตอ้ ง เพอื่ ความคงทน ในการใชง้ านและใชใ้ หเ้ หมาะสมกบั เวลา สาระสาคญั เดก็ ไดเ้ รยี นรูเ้ กีย่ วกับวิธีการเลอื กรายการโทรทัศนท์ เ่ี หมาะสมกับตนเอง และรู้จกั เลือกรายการโทรทศั น์ ที่ตนเองชอบ แลว้ นาเสนอผลการสารวจของตนเองใหผ้ อู้ ืน่ เขา้ ใจได้  มาตรฐานคุณลกั ษณะท่พี งึ ประสงค์ / ประสบการณ์สาคญั ร่างกาย อารมณ์ จิตใจ สังคม สตปิ ัญญา มาตรฐานคุณลักษณะทพี่ งึ ประสงค์ มฐ.1 มฐ.2 มฐ.3 มฐ.4 มฐ.5 มฐ.6 มฐ.7 มฐ.8 มฐ.9 มฐ.10 มฐ.11 มฐ.12 1.2, 1.3 2.1, 2.2 3.1, 3.2 4.1 5.4 6.1 7.2 8.2, 8.3 9.1,9.2 10.1,10.2, 11.1,11.2 12.1,12.2 10.3 ประสบการณส์ าคญั 1.2 มีสุขภาพ 3.1 แสดงออกทางอารมณไ์ ด้ 6.1 ช่วยเหลอื ตนเองในการ 9.1 รับรแู้ ละเข้าใจความหมายของภาษาได้ อนามยั สขุ นสิ ัยทีด่ ี อยา่ งเหมาะสม ปฏบิ ัติกิจวตั รประจำวัน (สภาพท่ีพึงประสงค)์ (สภาพท่ีพึงประสงค)์ (สภาพทพ่ี งึ ประสงค)์ (สภาพที่พงึ ประสงค)์ 9.2 แสดงออกและ/หรอื พูดเพอ่ื ส่อื ความหมาย 1.3 รกั ษาความ 3.2 มคี วามร้สู กึ ทีด่ ตี อ่ ตนเอง 7.2 ดแู ลรักษาธรรมชาติ ได้ (สภาพท่ีพงึ ประสงค)์ ปลอดภัยของตนเอง และผอู้ นื่ และสิ่งแวดลอ้ ม 10.1 มีความสามารถในการคดิ รวบยอด และผอู้ ืน่ (สภาพที่พงึ ประสงค)์ 8.2 มปี ฏสิ มั พนั ธท์ ี่ดกี บั ผอู้ ื่น (สภาพที่พึงประสงค์) (สภาพท่พี ึงประสงค์) 4.1 สนใจ มคี วามสุขและ (สภาพท่พี งึ ประสงค)์ 10.2 มีความสามารถในการคิดเชิงเหตผุ ล 2.1 เคล่อื นไหว แสดงออกผา่ นงานศลิ ปะดนตรี 8.3 ปฏิบตั ติ นเบ้ืองตน้ ใน (สภาพทพ่ี ึงประสงค์) ร่างกายอยา่ ง และการเคลอื่ นไหว การเป็นสมาชิกที่ดีของสงั คม 10.3 มคี วามสามารถในการคิดแก้ปญั หาและ คล่องแคล่วประสาน (สภาพทพ่ี งึ ประสงค)์ (สภาพที่พึงประสงค)์ ตดั สนิ ใจ (สภาพทพ่ี ึงประสงค์) สมั พนั ธแ์ ละทรงตวั 5.4 มคี วามรบั ผดิ ชอบ (สภาพที่ 11.1 ทำงานศิลปะตามจินตนาการและความคดิ ได้(สภาพทพี่ ึง พึงประสงค์) สร้างสรรค์ ประสงค์) (สภาพท่ีพงึ ประสงค)์

2.2 ใช้มือ-ตา 11.2 แสดงทา่ ทาง/เคล่ือนไหวตามจนิ ตนาการ ประสานสัมพนั ธก์ ัน อย่างสรา้ งสรรค์(สภาพท่ีพงึ ประสงค์) (สภาพที่พงึ ประสงค)์ 12.1 มเี จตคตทิ ่ดี ตี อ่ การเรยี นรู้  จดุ ประสงค์ (สภาพท่พี งึ ประสงค์) 1. บอกและนาเสนอผลการสารวจรายการโทรทัศนท์ ี่ชนื่ ชอบได้ 12.2 มคี วามสามารถในการแสวงหาความรู้ (สภาพทพี่ ึงประสงค์) 2. สงั เกตสิ่งตา่ งๆ รอบตวั และนามาเชือ่ มโยงในชวี ติ ประจาวันได้ 3. พัฒนากลา้ มเนอื้ มือและตาใหป้ ระสานสมั พันธก์ ันจากการขีดเขยี นเสน้  กิจกรรมการเรยี นรู้ ขนั้ นา 1. ครูพาเดก็ ไปชมการต์ นู จากโทรทัศนข์ องโรงเรียน เมือ่ ชมเสรจ็ แลว้ ใหเ้ ดก็ บอกเล่าประสบการณเ์ กี่ยวกับ รายการโทรทัศนท์ ต่ี นเองเคยชมวา่ มลี กั ษณะรายการเป็นอยา่ งไร 2. ใหเ้ ด็กเลือกบตั รภาพแสดงชือ่ รายการโทรทศั นท์ ีค่ รูเตรียมมาใหถ้ ูกตอ้ ง ขนั้ สอน 1. ครูใหเ้ ดก็ สงั เกตภาพในหนังสอื เสริมฯ สิง่ ตา่ งๆ รอบตวั เด็ก อ.2 กิจกรรม รบั รูข้ า่ วสาร จากโทรทศั น์ หนา้ 22 ครูสนทนาเก่ยี วกบั ชอ่ งรายการโทรทศั น์ เช่น ช่องการต์ นู รายการข่าว รายการเดก็ 2. ครูใหเ้ ดก็ แสดงความคดิ เห็นโดยเลือกระดบั ความชอบลงในชอ่ งที่กาหนด  ☺ ชอบที่สดุ   ชอบ   ไมช่ อบ 3. ครูใหเ้ ดก็ แตล่ ะคนออกมานาเสนอผลการแสดงความคดิ เห็นของตนเองทมี่ ีต่อรายการโทรทัศน์ โดยการวาดภาพ และครูถามคาถามกระตนุ้ ใหเ้ ด็กตอบ เชน่  เดก็ ๆ ชื่นชอบรายการโทรทศั นใ์ ดมากท่สี ุด เพราะเหตุใด  รายการโทรทัศนใ์ ดทเ่ี ดก็ ๆ ไม่ชอบดู เพราะเหตุใด  เดก็ ๆ คิดวา่ รายการโทรทศั นใ์ ดที่เหมาะสมกบั เด็กมากทสี่ ดุ เพราะเหตุใด 4. ครูใหค้ วามรูเ้ กีย่ วกับรายการโทรทัศนอ์ น่ื ๆ ทีเ่ หมาะสมกบั เด็ก และเดก็ ควรดู เชน่ รายการสารคดีชีวิตสัตว์ รายการอาหารสาหรบั เด็ก รายการอนุรกั ษธ์ รรมชาติ รายการทอ่ งเที่ยวท่วั ไทย เป็นตน้

ขนั้ สรปุ 1. ครูและเด็กรว่ มกนั ตรวจสอบผลการสารวจและสรุปความคดิ เห็นของเด็กๆ ที่มตี ่อรายการโทรทศั นท์ ชี่ ่ืนชอบ จากกจิ กรรม รบั รูข้ า่ วสารจากโทรทศั น์ หนา้ 22 2. ครูใหค้ วามรูเ้ พม่ิ เตมิ เกยี่ วกับรายการโทรทัศนท์ ่ีเหมาะสมกบั เด็ก ควรมีลกั ษณะเนอื้ หาไม่รุนแรง ไม่ตอ่ สกู้ ัน ใชภ้ าษาทสี่ ุภาพ อาจเป็นรายการการต์ นู เพลง หรือสารคดีสาหรบั เดก็ โดยมผี ใู้ หญ่ดแู ลใหค้ าแนะนาและ ไมค่ วรดตู ดิ ต่อกันเป็นเวลานาน  ประเมินผล 1. สังเกตการบอกความชอบรายการโทรทศั นแ์ ละนาเสนอผลการสารวจง่ายๆ ดว้ ยตนเองได้ 2. สังเกตการสนทนาและการตอบคาถาม 3. สังเกตผลงานการทากิจกรรม รบั รูข้ า่ วสารจากโทรทศั น์  สอ่ื การเรียนรู้ 1. โทรทัศนข์ องโรงเรียน 2. บัตรภาพแสดงช่ือรายการโทรทศั นส์ าหรบั เดก็ 3. หนงั สือเสริมฯ สิง่ ต่างๆ รอบตัวเด็ก อ.2 กจิ กรรม รบั รูข้ า่ วสารจากโทรทศั น์ หนา้ 22  ภาคผนวก  บตั รภาพแสดงชื่อรายการโทรทัศนส์ าหรบั เดก็

แนวทางการจัดประสบการณก์ ารเรียนรู้ การศกึ ษาปฐมวยั ภาคเรยี นที่...1... สำหรับเดก็ ทมี่ ีความต้องการจำเปน็ พเิ ศษ ช่วงอายุ .....4-5...... ปี สาระการเรียนร้ทู ่.ี .4. หนว่ ย เทคโนโลยเี พอ่ื การสอ่ื สาร วนั ท่ี 3 สอ่ื สารผ่านโทรศพั ท์ กิจกรรมเสริมประสบการณ์  สาระทค่ี วรเรียนรู้ ในปัจจบุ ันอปุ กรณเ์ ทคโนโลยเี พอื่ การส่ือสารชว่ ยใหเ้ ราติดต่อกนั ไดง้ า่ ยขนึ้ และทางานตา่ งๆ ไดส้ ะดวก รวมทงั้ ชว่ ยประหยัดเวลาในการเดินทาง แต่เราตอ้ งรูจ้ ักวธิ ใี ชอ้ ุปกรณเ์ หลา่ นน้ั อยา่ งถูกตอ้ ง เพือ่ ความคงทน ในการใชง้ านและใชใ้ หเ้ หมาะสมกับเวลา สาระสาคญั เดก็ ไดเ้ รยี นรูเ้ ก่ยี วกับมารยาททค่ี วรปฏิบัติเมอ่ื ใชเ้ คร่อื งมือสอื่ สาร เชน่ การรบั โทรศพั ท์ การพดู จาสุภาพ การปฏบิ ัติตนท่ีดีเมือ่ เลิกใชโ้ ทรศพั ท์  มาตรฐานคุณลกั ษณะทพ่ี ึงประสงค์ / ประสบการณ์สาคญั รา่ งกาย อารมณ์ จติ ใจ สังคม สติปัญญา มาตรฐานคุณลกั ษณะที่พึงประสงค์ มฐ.1 มฐ.2 มฐ.3 มฐ.4 มฐ.5 มฐ.6 มฐ.7 มฐ.8 มฐ.9 มฐ.10 มฐ.11 มฐ.12 1.2, 1.3 2.1, 2.2 3.1, 3.2 4.1 5.4 6.1 7.2 8.2, 8.3 9.1,9.2 10.1,10.2, 11.1,11.2 12.1,12.2 10.3 ประสบการณ์สาคัญ 1.2 มีสขุ ภาพ 3.1 แสดงออกทางอารมณไ์ ด้ 6.1 ชว่ ยเหลอื ตนเองในการ 9.1 รบั รู้และเข้าใจความหมายของภาษาได้ อนามัยสขุ นสิ ยั ทด่ี ี อยา่ งเหมาะสม ปฏิบตั กิ ิจวตั รประจำวนั (สภาพที่พึงประสงค์) (สภาพท่ีพึงประสงค)์ (สภาพท่ีพงึ ประสงค)์ (สภาพท่พี ึงประสงค์) 9.2 แสดงออกและ/หรือพดู เพื่อส่ือความหมาย 1.3 รกั ษาความ 3.2 มคี วามรูส้ กึ ทด่ี ตี อ่ ตนเอง 7.2 ดแู ลรกั ษาธรรมชาติ ได้ (สภาพที่พึงประสงค)์ ปลอดภัยของตนเอง และผู้อ่ืน และสิ่งแวดล้อม 10.1 มคี วามสามารถในการคิดรวบยอด และผูอ้ ่ืน (สภาพที่พึงประสงค์) 8.2 มปี ฏสิ ัมพันธ์ท่ีดกี บั ผอู้ ่ืน (สภาพที่พงึ ประสงค)์ (สภาพทีพ่ งึ ประสงค)์ 4.1 สนใจ มคี วามสุขและ (สภาพท่พี ึงประสงค)์ 10.2 มคี วามสามารถในการคดิ เชิงเหตผุ ล 2.1 เคลอ่ื นไหว แสดงออกผ่านงานศลิ ปะดนตรี 8.3 ปฏิบตั ติ นเบือ้ งต้นใน (สภาพที่พึงประสงค)์ รา่ งกายอยา่ ง และการเคลือ่ นไหว การเป็นสมาชกิ ที่ดีของสงั คม 10.3 มคี วามสามารถในการคิดแกป้ ญั หาและ คล่องแคลว่ ประสาน (สภาพทพี่ งึ ประสงค)์ (สภาพท่พี ึงประสงค์) ตดั สนิ ใจ (สภาพทีพ่ งึ ประสงค)์ สัมพันธแ์ ละทรงตวั 5.4 มีความรบั ผิดชอบ (สภาพท่ี 11.1 ทำงานศลิ ปะตามจนิ ตนาการและความคิด ได้(สภาพทพ่ี งึ พงึ ประสงค์) สรา้ งสรรค์ ประสงค์) (สภาพที่พึงประสงค)์

2.2 ใชม้ ือ-ตา 11.2 แสดงทา่ ทาง/เคลือ่ นไหวตามจนิ ตนาการ ประสานสัมพนั ธ์กัน อย่างสรา้ งสรรค์(สภาพท่พี ึงประสงค)์ (สภาพทพ่ี ึงประสงค)์ 12.1 มีเจตคติท่ดี ีตอ่ การเรยี นรู้  จุดประสงค์ (สภาพทพี่ งึ ประสงค)์ 1. บอกวธิ ปี ฏิบัตติ นในการใชโ้ ทรศัพทไ์ ด้ 12.2 มคี วามสามารถในการแสวงหาความรู้ (สภาพท่ีพึงประสงค)์ 2. พฒั นากลา้ มเนอื้ มือและตาใหป้ ระสานสมั พันธก์ ันจากการเขยี นเสน้  กิจกรรมการเรียนรู้ ขนั้ นา ครูใหเ้ ด็กสังเกตภาพในหนงั สอื เสริมประสบการณ์ กิจกรรม สือ่ สารผ่านโทรศพั ท์ หนา้ 23 และสนทนา เกี่ยวกบั ภาพ โดยถามคาถาม ดังนี้  มภี าพใดท่แี สดงใหเ้ ห็นว่า เด็กในภาพปฏิบตั ิไดถ้ กู ตอ้ งเมือ่ ตอ้ งใชโ้ ทรศพั ท์  ภาพใดทีเ่ ด็กๆ คดิ ว่าไม่ควรปฏิบตั ิ เพราะเหตุใด ขนั้ สอน 1. ครูสนทนาซักถามเด็กๆ ว่า “ใครเคยรบั โทรศพั ท์บา้ ง” “เด็กๆ มีวธิ กี ารพูดอย่างไร” โดยครูขออาสาสมคั ร 2-3 คน ออกมาเลา่ เรอื่ งประกอบการแสดงบทบาทสมมติใหเ้ พ่อื นฟังหนา้ ชั้นเรยี น 2. ครูใหเ้ ด็กแบ่งกลมุ่ หรอื จบั คู่กับเพ่อื นตามความสนใจ แลว้ ออกมาแสดงบทบาทสมมติเกยี่ วกับมารยาท ในการโทรศพั ท์ โดยกาหนดสถานการณใ์ หเ้ ดก็ ๆ ชว่ ยกันคิดและปฏิบัติใหถ้ กู วิธี  สถานการณท์ ี่ 1 : มีโทรศพั ทด์ งั ขนึ้ ทบี่ า้ น เมื่อเดก็ ๆ ไปรบั ควรพดู ว่าอยา่ งไร ...  สถานการณท์ ี่ 2 : เม่ือพูดธุระทางโทรศพั ทเ์ สรจ็ แลว้ เดก็ ๆ ควรปฏบิ ัตอิ ย่างไร ...  สถานการณท์ ่ี 3 : ถา้ มีคนโทรศัพทม์ าหาคณุ แม่ แตเ่ ดก็ ๆ เป็นผรู้ บั สายควรปฏบิ ัติอยา่ งไร ... 3. ครูและเด็กรว่ มกันแสดงความคดิ เหน็ เก่ยี วกับมารยาทในการรบั โทรศัพทท์ คี่ วรปฏบิ ัตทิ ี่แตล่ ะกลมุ่ แสดง บทบาทสมมติวา่ เหมาะสมหรือไม่ อย่างไร แลว้ ช่วยกนั สรุป 4. ครูสรุปความรูเ้ พิ่มเติมว่า มารยาททีด่ ีในการพูดโทรศพั ทค์ วรพดู ดว้ ยนา้ เสยี งสุภาพนุ่มนวล ควรมคี า ลงทา้ ย ครบั / ค่ะ และไม่ควรวางกระแทกโทรศพั ท์ เป็นตน้ ขนั้ สรุป

1. ครูใหเ้ ด็กทากจิ กรรมในหนังสือเสรมิ ฯ สง่ิ ต่างๆ รอบตวั เดก็ อ.2 กิจกรรม ส่อื สารผา่ นโทรศพั ท์ หนา้ 23 สนทนาเก่ยี วกบั ภาพการใชโ้ ทรศพั ท์ แลว้ ขดี ✓ ลงในชอ่ งว่างของภาพท่คี วรปฏิบัติ และ  ลงในชอ่ งวา่ ง ของภาพทไี่ มค่ วรปฏบิ ัติ แลว้ ระบายสภี าพ 2. ครูและเดก็ ร่วมกนั ตรวจสอบผลงานและความถกู ตอ้ งในการทากิจกรรมรว่ มกนั  ประเมินผล 1. สังเกตการบอกวธิ ใี นการปฏบิ ตั ิตนทีด่ ีในการใชโ้ ทรศัพทไ์ ด้ 2. สังเกตการสนทนาและการทากจิ กรรมร่วมกันกบั ผอู้ ื่น 3. สังเกตการปฏบิ ตั ิตามคาส่งั และขอ้ ตกลง 4. สงั เกตผลงานการทากิจกรรม สอ่ื สารผ่านโทรศพั ท์  สื่อการเรยี นรู้ 1. โทรศพั ทจ์ าลอง 2. หนังสอื เสรมิ ฯ สง่ิ ต่างๆ รอบตัวเดก็ อ.2 กจิ กรรม ส่อื สารผา่ นโทรศพั ท์ หนา้ 23 แนวทางการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ การศกึ ษาปฐมวัย ภาคเรียนที่...1... สำหรบั เด็กที่มีความตอ้ งการจำเปน็ พเิ ศษ ช่วงอายุ .....4-5...... ปี สาระการเรียนรู้ที.่ .4. หน่วย เทคโนโลยเี พ่อื การสื่อสาร วนั ที่ 4 การใช้คอมพิวเตอร์ กิจกรรมเสริมประสบการณ์  สาระท่ีควรเรยี นรู้ ในปัจจบุ นั อุปกรณเ์ ทคโนโลยีเพื่อการสอื่ สารช่วยใหเ้ ราตดิ ตอ่ กันไดง้ า่ ยขนึ้ และทางานตา่ งๆ ไดส้ ะดวก รวมทงั้ ช่วยประหยดั เวลาในการเดินทาง แตเ่ ราตอ้ งรูจ้ ักวิธีใชอ้ ปุ กรณเ์ หล่าน้นั อยา่ งถูกตอ้ ง เพอ่ื ความคงทน ในการใชง้ านและใชใ้ ห้เหมาะสมกับเวลา สาระสาคญั เด็กไดเ้ รยี นรูเ้ ก่ยี วกับการสอ่ื สารผา่ นทางอินเทอรเ์ นต็ ทเ่ี ป็นเครอื ขา่ ยคอมพวิ เตอรท์ ีม่ ีขนาดใหญ่ มกี ารเชอ่ื มตอ่ ท่วั โลก สอ่ื สารถงึ กันไดห้ ลายทาง เชน่ อเี มล ไลน์ เป็นตน้

 มาตรฐานคุณลกั ษณะทพี่ ึงประสงค์ / ประสบการณ์สาคญั ร่างกาย อารมณ์ จิตใจ สงั คม สตปิ ัญญา มาตรฐานคณุ ลักษณะที่พึงประสงค์ มฐ.1 มฐ.2 มฐ.3 มฐ.4 มฐ.5 มฐ.6 มฐ.7 มฐ.8 มฐ.9 มฐ.10 มฐ.11 มฐ.12 1.2, 1.3 2.1, 2.2 3.1, 3.2 4.1 5.4 6.1 7.2 8.2, 8.3 9.1,9.2 10.1,10.3 11.1,11.2 12.1,12.2 ประสบการณส์ าคัญ 1.2 มสี ขุ ภาพ 3.1 แสดงออกทางอารมณไ์ ด้ 6.1 ช่วยเหลอื ตนเองในการ 9.1 รบั รูแ้ ละเขา้ ใจความหมายของภาษาได้ อนามัยสุขนสิ ัยทด่ี ี อย่างเหมาะสม ปฏิบัติกจิ วตั รประจำวนั (สภาพที่พึงประสงค์) (สภาพที่พงึ ประสงค์) (สภาพทพ่ี งึ ประสงค์) (สภาพทีพ่ งึ ประสงค์) 9.2 แสดงออกและ/หรือพดู เพอ่ื สื่อความหมาย 1.3 รกั ษาความ 3.2 มคี วามรสู้ กึ ที่ดตี อ่ ตนเอง 7.2 ดูแลรกั ษาธรรมชาติ ได้ (สภาพที่พงึ ประสงค)์ ปลอดภัยของตนเอง และผูอ้ ่นื และสิ่งแวดลอ้ ม 10.1 มีความสามารถในการคิดรวบยอด และผ้อู ่นื (สภาพที่พงึ ประสงค)์ 8.2 มปี ฏสิ มั พันธท์ ด่ี กี ับผอู้ ่นื (สภาพทพ่ี ึงประสงค)์ (สภาพทพ่ี ึงประสงค์) 4.1 สนใจ มีความสุขและ (สภาพทพี่ ึงประสงค์) 10.3 มคี วามสามารถในการคิดแกป้ ญั หาและ 2.1 เคลอ่ื นไหว แสดงออกผ่านงานศิลปะดนตรี 8.3 ปฏบิ ตั ติ นเบือ้ งตน้ ใน ตดั สนิ ใจ (สภาพทพ่ี ึงประสงค์) รา่ งกายอยา่ ง และการเคลอ่ื นไหว การเป็นสมาชิกท่ดี ขี องสงั คม 11.1 ทำงานศิลปะตามจนิ ตนาการและความคดิ คลอ่ งแคลว่ ประสาน (สภาพท่ีพงึ ประสงค์) (สภาพท่พี ึงประสงค)์ สร้างสรรค์ สัมพันธ์และทรงตัว 5.4 มคี วามรบั ผดิ ชอบ (สภาพท่ี (สภาพที่พงึ ประสงค)์ ได้(สภาพทพ่ี ึง พึงประสงค)์ 11.2 แสดงท่าทาง/เคล่ือนไหวตามจินตนาการ ประสงค์) อย่างสร้างสรรค์(สภาพทพ่ี ึงประสงค์) 2.2 ใช้มือ-ตา 12.1 มีเจตคติที่ดีตอ่ การเรยี นรู้ ประสานสัมพันธ์กัน (สภาพที่พึงประสงค์) (สภาพทพ่ี ึงประสงค์) 12.2 มีความสามารถในการแสวงหาความรู้ (สภาพทพี่ งึ ประสงค์)  จุดประสงค์ 1. บอกประโยชน์ และการใชง้ านคอมพวิ เตอรอ์ ยา่ งง่ายได้ 2. สบื คน้ ขอ้ มูลอย่างงา่ ยและสอื่ สารใหผ้ อู้ ่นื เขา้ ใจได้ 3. พฒั นากลา้ มเนอื้ มอื และตาใหป้ ระสานสมั พันธ์กนั จากการเขยี นเลียนแบบตวั เลขและพยัญชนะ  กิจกรรมการเรียนรู้ ขนั้ นา ครูใหเ้ ด็กดูบตั รภาพคอมพวิ เตอร์ แลว้ ใหเ้ ด็กบอกวา่ คืออะไร และสง่ิ นสี้ ามารถตดิ ตอ่ สื่อสารกนั ไดห้ รือไม่ อย่างไร ขนั้ สอน 1. ครูพาเดก็ ๆ ไปหอ้ งคอมพวิ เตอร์ แลว้ อธิบายเพมิ่ เติมวา่ คอมพิวเตอรเ์ ป็นเครอื่ งมือท่ีใชเ้ ป็นสอ่ื

ในการติดต่อส่ือสารผา่ นอนิ เทอรเ์ นต็ ที่มีการเชอื่ มตอ่ ท่วั โลก สือ่ สารถงึ กันไดห้ ลายทาง เช่น อเี มล ไลน์ เป็นตน้ จากนนั้ ครูสาธิตวธิ กี ารเขา้ อินเทอรเ์ น็ต และวิธกี ารรบั รูข้ ่าวสารจากอินเทอรเ์ นต็ รวมถงึ การส่ง ขอ้ ความแชทถึงกนั โดยใหเ้ ด็กมีสว่ นร่วมในการสาธติ ดว้ ย 2. ครูอธิบายเพิม่ เตมิ ถงึ ประโยชนแ์ ละโทษของการใชอ้ ินเทอรเ์ นต็ เช่น การรบั รูข้ า่ วสารรวมถงึ การติดตอ่ สื่อสารผ่านทางอินเทอรเ์ นต็ ทาใหไ้ ดร้ บั ขอ้ มลู อย่างรวดเรว็ แต่โทษท่ีอาจเกดิ ขนึ้ ไดถ้ า้ เปิดใชง้ าน อยูต่ ลอดเวลาอาจทาใหส้ ายตาเสยี ไดจ้ ากการจอ้ งมองคอมพิวเตอรน์ านๆ ขนั้ สรปุ 1. ครูและเดก็ ร่วมกนั สรุปเก่ยี วกบั การติดตอ่ สอื่ สารผา่ นอนิ เทอรเ์ นต็ ว่าเป็นอยา่ งไร พรอ้ มกนั อีกครงั้ 2. ครูใหเ้ ดก็ ทากจิ กรรมในหนังสือเสริมฯ สิง่ ตา่ งๆ รอบตวั เด็ก อ.2 กิจกรรม สารวจการใชค้ อมพิวเตอร์ หนา้ 24  ประเมินผล 1. สังเกตการสนทนาและการตอบคาถาม 2. สังเกตการทากจิ กรรมกลุ่มรว่ มกนั กบั ผอู้ นื่ 3. สังเกตผลงานการทากจิ กรรม สารวจการใชค้ อมพวิ เตอร์  ส่ือการเรยี นรู้ 1. บัตรภาพคอมพิวเตอร์ 2. หอ้ งคอมพิวเตอรข์ องโรงเรียน 3. หนงั สอื เสริมฯ ส่งิ ตา่ งๆ รอบตัวเดก็ อ.2 กจิ กรรม สารวจการใชค้ อมพิวเตอร์ หนา้ 24  ภาคผนวก  บัตรภาพคอมพิวเตอร์

แนวทางการจดั ประสบการณก์ ารเรียนรู้ การศกึ ษาปฐมวยั ภาคเรียนที่...1... สำหรับเด็กทีม่ คี วามตอ้ งการจำเป็นพเิ ศษ ชว่ งอายุ .....4-5...... ปี สาระการเรยี นรทู้ ี.่ .4. หนว่ ย เทคโนโลยเี พื่อการส่อื สาร วนั ท่ี 5 บนั ทึกชว่ ยจาเพ่ือการสอ่ื สาร กิจกรรมเสริมประสบการณ์  สาระท่ีควรเรียนรู้ ในปัจจุบันอปุ กรณเ์ ทคโนโลยเี พอ่ื การส่อื สารชว่ ยใหเ้ ราติดต่อกันไดง้ า่ ยขนึ้ และทางานตา่ งๆ ได้ สะดวก รวมทงั้ ช่วยประหยัดเวลาในการเดินทาง แต่เราตอ้ งรูจ้ ักวธิ ีใชอ้ ปุ กรณเ์ หล่านั้นอยา่ งถกู ตอ้ ง เพอ่ื ความ คงทนในการใชง้ านและใชใ้ หเ้ หมาะสมกบั เวลา สาระสาคญั เด็กไดเ้ รยี นรูเ้ ก่ียวกับขอ้ มูลสว่ นตวั ของตนเองจากการสบื คน้ และสอบถามจากผปู้ กครอง และ บันทึกขอ้ มูลเพ่ือนาเสนอใหผ้ อู้ น่ื เขา้ ใจได้  มาตรฐานคณุ ลกั ษณะทพ่ี ึงประสงค์ / ประสบการณ์สาคญั ร่างกาย อารมณ์ จติ ใจ สังคม สตปิ ัญญา มฐ.1 มฐ.2 มาตรฐานคณุ ลักษณะที่พงึ ประสงค์ มฐ.10 มฐ.11 มฐ.3 มฐ.4 มฐ.5 มฐ.6 มฐ.7 มฐ.8 มฐ.9 มฐ.12 1.2, 1.3 2.1, 2.2 3.1, 3.2 4.1 5.4 6.1 7.2 8.2, 8.3 9.1,9.2 10.1,10.3 11.1,11.2 12.1,12.2 ประสบการณส์ าคัญ 1.2 มสี ุขภาพ 3.1 แสดงออกทางอารมณไ์ ด้ 6.1 ชว่ ยเหลือตนเองในการ 9.1 รับรแู้ ละเขา้ ใจความหมายของภาษาได้ ปฏิบัติกิจวตั รประจำวัน (สภาพที่พึงประสงค์) อนามัยสขุ นิสัยทด่ี ี อย่างเหมาะสม (สภาพที่พึงประสงค)์ 9.2 แสดงออกและ/หรอื พูดเพอ่ื สือ่ (สภาพทพี่ งึ ประสงค์) (สภาพทพี่ งึ ประสงค์) 7.2 ดแู ลรกั ษาธรรมชาติ ความหมายได้ (สภาพทีพ่ งึ ประสงค์) 1.3 รกั ษาความ 3.2 มคี วามร้สู ึกท่ีดีตอ่ ตนเอง ปลอดภัยของตนเอง และผูอ้ น่ื และสิ่งแวดล้อม 10.1 มีความสามารถในการคิดรวบยอด และผูอ้ น่ื (สภาพทพี่ ึงประสงค์) 8.2 มปี ฏิสัมพันธ์ท่ีดกี บั ผ้อู นื่ (สภาพทีพ่ ึงประสงค์) (สภาพทีพ่ ึงประสงค์) 4.1 สนใจ มีความสขุ และ (สภาพทพ่ี งึ ประสงค)์ 10.3 มีความสามารถในการคดิ แก้ปญั หาและ 2.1 เคลอื่ นไหว แสดงออกผา่ นงานศิลปะดนตรี 8.3 ปฏิบตั ิตนเบ้อื งตน้ ใน ตัดสินใจ (สภาพท่พี ึงประสงค)์ รา่ งกายอย่าง และการเคลือ่ นไหว การเปน็ สมาชกิ ที่ดีของสังคม 11.1 ทำงานศิลปะตามจินตนาการและ คล่องแคล่วประสาน (สภาพทพ่ี ึงประสงค)์ (สภาพท่ีพึงประสงค์) ความคดิ สรา้ งสรรค์(สภาพท่ีพงึ ประสงค์) 11.2 แสดงทา่ ทาง/เคลอ่ื นไหวตามจินตนาการ สมั พันธ์และทรงตวั 5.4 มคี วามรบั ผดิ ชอบ (สภาพท่ี ได้(สภาพทพ่ี งึ พงึ ประสงค์) อย่างสร้างสรรค์(สภาพทีพ่ ึงประสงค)์ ประสงค์) 12.1 มเี จตคตทิ ดี่ ตี อ่ การเรียนรู้

2.2 ใชม้ ือ-ตา (สภาพทีพ่ ึงประสงค)์ ประสานสมั พันธก์ ัน 12.2 มีความสามารถในการแสวงหาความรู้ (สภาพทีพ่ ึงประสงค์) (สภาพทพี่ ึงประสงค์)  จดุ ประสงค์ 1. บอกและเขียนขอ้ มลู สว่ นตวั ของตนเองไดต้ ามวยั 2. สืบคน้ ขอ้ มูลอยา่ งงา่ ยและส่อื สารใหผ้ อู้ ่นื เขา้ ใจได้ 3. พัฒนากลา้ มเนอื้ มอื และตาใหป้ ระสานสัมพันธ์กนั จากการเขยี นเลียนแบบตัวเลขและพยญั ชนะ  กิจกรรมการเรยี นรู้ ขนั้ นา 1. ครูใหเ้ ดก็ เลน่ เกม ฟังแลว้ จา โดยแบ่งกลมุ่ เดก็ กลมุ่ ละ 4-5 คน ตามความสมคั รใจ เมอื่ ไดก้ ลมุ่ แล้ว ใหท้ ุกกลุม่ ประจาท่ีเตรียมพรอ้ มในการเล่นเกม 2. ครูแนะนาวธิ ีการเล่นเกม ดงั นี้  ใหเ้ ดก็ ยนื เขา้ แถวเรียงกนั แลว้ ใหเ้ ด็กคนแรกกระซิบบอกเพ่ือนคนถดั ไปเกยี่ วกบั ชื่อ อายุ เลขท่ี  ใหเ้ ดก็ คนถดั ไปกระซิบบอกจนถงึ คนสุดทา้ ย  ใหเ้ ด็กคนสดุ ทา้ ยมาบอกขอ้ มูลทไี่ ดร้ บั มา โดยมีเพ่อื นคนแรกตรวจสอบความถูกตอ้ งของขอ้ มูล ขนั้ สอน 1. ครูใหเ้ ดก็ เลน่ เกม ฟงั แลว้ จา 2-3 รอบ สลับเปลีย่ นผบู้ อกขอ้ มลู 2. ครูใหเ้ ด็กรว่ มกนั แสดงความคิดเหน็ เกี่ยวกบั กจิ กรรม เชน่  เด็กๆ คดิ วา่ การท่เี ด็กๆ จาขอ้ มูลไมค่ รบถว้ นทงั้ หมดมสี าเหตุมาจากอะไร  จะมวี ธิ ีใดท่จี ะช่วยใหเ้ ราจดจาขอ้ มูลตา่ งๆ ได้  เด็กๆ คนใดสามารถจาขอ้ มลู ตนเองเกย่ี วกับ เลขทบ่ี า้ น เบอรโ์ ทรศัพท์ วัน เดอื น ปีเกิด 3. ครูขออาสาสมัคร 2-3 คน ทีจ่ าขอ้ มูลสว่ นตวั ของตนเองไดอ้ อกมานาเสนอขอ้ มูลใหเ้ พือ่ นๆ ฟังเป็นตัวอย่าง ขนั้ สรปุ 1. ครูใหเ้ ดก็ สังเกตภาพในหนังสอื เสริมฯ สิง่ ตา่ งๆ รอบตัวเดก็ อ.2 กจิ กรรม บนั ทึกชว่ ยจา เพอื่ การสอ่ื สาร หนา้ 25 สนทนาเก่ยี วกบั ขอ้ มลู ทเี่ ด็กกบั ผปู้ กครองตอ้ งชว่ ยกันบันทกึ 2. ครูใหเ้ ดก็ ไปสืบคน้ ขอ้ มูลแลว้ เขยี นลงในช่องวา่ ง (ใหผ้ ปู้ กครองช่วยกรอกขอ้ มูล) แลว้ บอกเล่าใหล้ กู ฟัง และนาผลงานการทากจิ กรรมมานาเสนอหนา้ ชน้ั เรยี นในวันรุ่งขนึ้ 3. ครูบอกประโยชนข์ องการจาขอ้ มลู สว่ นตวั ของตนเองใหเ้ ดก็ ฟังวา่ การทีเ่ ดก็ ๆ สามารถจาขอ้ มูลของตนเอง ได้ เช่น เลขทบ่ี า้ น เบอรโ์ ทรศัพทบ์ า้ น เบอรโ์ ทรศัพทค์ ณุ พอ่ คณุ แม่ หากเกดิ การพลดั หลงกับผปู้ กครอง เด็กๆ กส็ ามารถนาขอ้ มลู ของตนเองบอกกับคุณตารวจใหช้ ่วยเหลือพากลับบา้ นได้

4. ครูและเดก็ รว่ มกนั สรุปเก่ยี วกบั การตดิ ตอ่ สอ่ื สารผา่ นอนิ เทอรเ์ นต็ ว่าเป็นอย่างไร พรอ้ มกนั อีกครง้ั  ประเมินผล 1. สังเกตการบอกขอ้ มูลสว่ นตัวใหผ้ อู้ นื่ เขา้ ใจไดต้ ามความสามารถ 2. สังเกตการสนทนาและการตอบคาถาม 3. สงั เกตการทากิจกรรมกลุ่มร่วมกันกับผอู้ ืน่ 4. สงั เกตผลงานการทากจิ กรรม บนั ทกึ ชว่ ยจาเพือ่ การสื่อสาร  สอ่ื การเรียนรู้ 1. เกม ฟังแลว้ จา กิจกรรมเคลือ่ นไหวและจงั หวะ  สาระท่ีควรเรยี นรู้ การเคลอ่ื นไหวร่างกายตามคาบรรยาย  มาตรฐานคณุ ลกั ษณะทพ่ี งึ ประสงค์ / ประสบการณ์สาคญั ร่างกาย อารมณ์ จติ ใจ สงั คม สติปัญญา มฐ.1 มฐ.2 มาตรฐานคณุ ลกั ษณะท่ีพงึ ประสงค์ มฐ.10 มฐ.11 1.2, 1.3 2.1 10.3 11.2 มฐ.3 มฐ.4 มฐ.5 มฐ.6 มฐ.7 มฐ.8 มฐ.9 มฐ.12 12.1 3.1, 3.2 4.1 8.1,8.2, 8.3 ประสบการณส์ าคญั 1.2 มสี ขุ ภาพ 3.1 แสดงออกทางอารมณไ์ ด้ 8.1 ยอมรบั ความเหมือน 10.3 มีความสามารถในการคิดแกป้ ัญหาและ อนามยั สขุ นิสัยที่ดี อย่างเหมาะสม และความแตกตา่ งระหว่าง ตดั สินใจ (สภาพทีพ่ งึ ประสงค์) (สภาพท่ีพึงประสงค)์ (สภาพทีพ่ ึงประสงค์) บุคคล 11.2 แสดงทา่ ทาง/เคลื่อนไหวตามจินตนาการ อยา่ งสร้างสรรค์(สภาพท่พี งึ ประสงค)์ 1.3 รกั ษาความ 3.2 มคี วามรู้สึกท่ีดีตอ่ ตนเอง (สภาพทีพ่ ึงประสงค์) ปลอดภัยของตนเอง และผู้อืน่ 8.2 มปี ฏิสมั พันธท์ ดี่ กี ับผู้อ่นื 12.1 มีเจตคติทดี่ ตี อ่ การเรียนรู้ และผู้อืน่ (สภาพที่พงึ ประสงค)์ (สภาพที่พงึ ประสงค)์ (สภาพทพี่ ึงประสงค์) (สภาพทพี่ ึงประสงค)์ 4.1 สนใจ มคี วามสุขและ 8.3 ปฏิบัตติ นเบอื้ งต้นใน 2.1 เคล่ือนไหว แสดงออกผ่านงานศิลปะดนตรี การเปน็ สมาชิกท่ดี ขี องสงั คม รา่ งกายอย่าง และการเคลื่อนไหว (สภาพท่พี งึ ประสงค์) คล่องแคล่วประสาน (สภาพทพี่ งึ ประสงค์) สัมพนั ธ์และทรงตัว ได้(สภาพทพ่ี งึ ประสงค)์ 

จุดประสงค์ 1. พฒั นาการใชก้ ลา้ มเนอื้ ใหญ่ เลก็ และตาใหส้ ัมพันธ์กัน 2. พฒั นาทักษะการเคลอ่ื นไหวตามคาบรรยาย 3. เพ่ือใหเ้ กดิ ความสนุกสนานและผ่อนคลายอารมณ์  กิจกรรมการเรยี นรู้ 1. ครูใหเ้ ดก็ เคล่ือนไหวร่างกายโดยไม่ใหช้ นกันตามจังหวะท่ีครูกาหนด 2. ครูใหเ้ ดก็ อาสาสมคั รออกมานาเคลื่อนไหวรา่ งกายในทา่ ต่างๆ ใหเ้ พื่อนทาท่าตาม 3. เดก็ และครูรว่ มกันสรา้ งขอ้ ตกลงในการเคลื่อนไหว โดยใหเ้ ด็กเคลือ่ นไหวรา่ งกายตามคาบรรยายของครู คิดและแสดงท่าทางตามจนิ ตนาการของตนเอง ดงั นี้ วนั นีค้ รูพาเดก็ ๆ ออกไปสารวจส่งิ มีชวี ิตนอกหอ้ งเรยี น เดก็ ทุกคน ถอื แว่นขยาย คนละ 1 อนั เดนิ สารวจรอบๆ สวนดอกไมข้ องโรงเรียน เดก็ บางคนใชแ้ วน่ ขยายสอ่ งดมู ด ตวั นอ้ ยกาลงั เดินขนอาหารกลบั รงั เป็นแถวอยา่ งเป็นระเบยี บ เดก็ บางคนส่องดกู อ้ นหนิ ตามพนื้ ดิน บา้ งก็สอ่ งดใู บไม้ เดก็ ๆ ทุกคนมีความสขุ เพราะไดอ้ อกมาเรยี นนอกหอ้ งเรียน 4. ครูพดู คาบรรยาย แลว้ ใหเ้ ดก็ เคลือ่ นไหวรา่ งกายตามคาบรรยายของครู  ประเมินผล 1. สงั เกตการใชก้ ลา้ มเนอื้ ใหญ่เล็กและตาใหส้ ัมพันธ์กัน 2. สังเกตการเคลอื่ นไหวตามคาบรรยาย 3. สังเกตความสนุกสนานและผอ่ นคลายอารมณ์  สื่อการเรียนรู้ 2. เครอ่ื งเคาะจงั หวะ 1. คาบรรยาย

กิจกรรมสร้างสรรค์  สาระทค่ี วรเรียนรู้ การพบั ซองจดหมาย และปะตดิ ตกแต่งจดหมาย  มาตรฐานคุณลกั ษณะท่พี งึ ประสงค์ / ประสบการณ์สาคญั รา่ งกาย อารมณ์ จิตใจ สังคม สติปัญญา มฐ.1 มฐ.2 มาตรฐานคณุ ลักษณะที่พงึ ประสงค์ มฐ.10 มฐ.11 1.3 2.2 10.3 11.1 มฐ.3 มฐ.4 มฐ.5 มฐ.6 มฐ.7 มฐ.8 มฐ.9 มฐ.12 12.1 3.1, 3.2 4.1 5.2,5.4 6.2,6.3 8.1,8.2, 9.1 8.3 ประสบการณส์ าคญั 1.3 รกั ษาความ 3.1 แสดงออกทางอารมณไ์ ด้ 6.2 มวี นิ ยั ในตนเอง (สภาพ 9.1 รับรูแ้ ละเข้าใจความหมายของภาษาได้ ปลอดภัยของตนเอง อย่างเหมาะสม ทีพ่ ึงประสงค์) (สภาพท่พี ึงประสงค์) และผอู้ ืน่ (สภาพทพี่ ึงประสงค์) 6.3 ประหยดั และพอเพียง 10.3 มคี วามสามารถในการคดิ แกป้ ัญหาและ (สภาพทพี่ งึ ประสงค)์ 3.2 มคี วามรสู้ กึ ท่ดี ตี อ่ ตนเอง (สภาพที่พงึ ประสงค)์ ตัดสนิ ใจ (สภาพท่พี งึ ประสงค)์ 8.1 ยอมรบั ความเหมอื น 11.1 ทำงานศลิ ปะตามจินตนาการและ 2.2 ใชม้ ือ-ตา และผู้อ่ืน ประสานสัมพันธ์กนั (สภาพท่พี งึ ประสงค)์ และความแตกตา่ งระหวา่ ง ความคิดสร้างสรรค์ (สภาพท่ีพงึ ประสงค)์ 4.1 สนใจ มคี วามสขุ และ บคุ คล (สภาพท่ีพงึ ประสงค์) แสดงออกผ่านงานศิลปะดนตรี (สภาพทพ่ี ึงประสงค์) 12.1 มเี จตคตทิ ด่ี ีตอ่ การเรยี นรู้ และการเคลอ่ื นไหว 8.2 มปี ฏิสมั พันธ์ที่ดกี บั ผอู้ ื่น (สภาพท่ีพึงประสงค)์ (สภาพทพ่ี งึ ประสงค)์ (สภาพท่พี ึงประสงค์) 5.2 มคี วามเมตตากรุณา มี 8.3 ปฏบิ ตั ิตนเบื้องตน้ ใน นำ้ ใจและช่วยเหลอื แบง่ ปนั การเป็นสมาชิกทีด่ ีของสังคม (สภาพท่ีพึงประสงค)์ (สภาพที่พึงประสงค์) 5.4 มคี วามรับผดิ ชอบ (สภาพที่ พึงประสงค)์  จุดประสงค์ 1. พัฒนาการกลา้ มเนอื้ มดั เลก็ และตาใหส้ ัมพนั ธก์ ัน 2. การสรา้ งสรรคผ์ ลงานตามจนิ ตนาการ 3. สามารถบอกเล่าเกย่ี วกบั ผลงานของตนเองได้  กิจกรรมการเรยี นรู้ 1. ครูใหเ้ ดก็ น่งั เป็นกลุ่ม กล่มุ ละ 4 คน แลว้ แจกอปุ กรณใ์ นการทากิจกรรมใหเ้ ดก็ ทุกกลุ่ม

2. ครูแนะนาและสาธติ วธิ ีการพับซองจดหมาย และฉีกกระดาษสปี ะตดิ ตกแตง่ ซองจดหมายให้เดก็ ฟงั แลว้ ให้ เด็กลงมอื พับซองจดหมาย และฉกี กระดาษสปี ะตดิ ตกแต่งซองจดหมายของตนเองใหส้ วยงามตาม จินตนาการ 3. เดก็ บอกเลา่ ผลงานใหเ้ พอ่ื นฟัง และครูจดบันทึกลงบนผลงาน 4. เดก็ ๆ ช่วยกนั เก็บวสั ดุอุปกรณเ์ ขา้ ท่ี และทาความสะอาดโตะ๊ กิจกรรม  ประเมินผล 2. สังเกตผลงาน 1. สังเกตการใชก้ ลา้ มเนอื้ มัดเล็กและตาใหส้ ัมพนั ธ์กัน 3. สังเกตการบอกเล่าเกยี่ วกับผลงานของตนเอง  ส่ือการเรียนรู้ 2. กระดาษสี 3. สเี ทียน 4. กาว 1. กระดาษขาว กิจกรรมเสรี  สาระที่ควรเรียนรู้ การเล่นตามมมุ ประสบการณ์ เปิดโอกาสใหเ้ ด็กเล่นอสิ ระตามมุมประสบการณห์ รือศนู ยก์ ารเรียน ทจ่ี ัดไวใ้ น หอ้ งเรียน เช่น มุมบล็อก มุมวิทยาศาสตรห์ รอื มมุ ธรรมชาติศกึ ษา มุมคณิตศาสตร์ มุมบา้ น มุมหนังสอื มมุ ศิลปะ มุมดนตรี มุมบทบาทสมมติ เป็นตน้  มาตรฐานคณุ ลกั ษณะท่พี ึงประสงค์ / ประสบการณ์สาคญั ร่างกาย อารมณ์ จติ ใจ สงั คม สตปิ ัญญา มาตรฐานคณุ ลกั ษณะที่พงึ ประสงค์ มฐ.1 มฐ.2 มฐ.3 มฐ.4 มฐ.5 มฐ.6 มฐ.7 มฐ.8 มฐ.9 มฐ.10 มฐ.11 มฐ.12 1.3 2.2 3.1, 3.2 4.1 5.1,5.2, 6.2,6.3 7.2 8.1,8.2, 9.1 10.3 11.2 12.1,12.2 5.3 8.3 ประสบการณส์ าคญั 1.3 รกั ษาความ 3.1 แสดงออกทางอารมณไ์ ด้ 6.2 มวี ินยั ในตนเอง (สภาพ 9.1 รับรู้และเข้าใจความหมายของภาษาได้ (สภาพท่พี งึ ประสงค์) ปลอดภัยของตนเอง อยา่ งเหมาะสม ที่พึงประสงค)์ 10.3 มีความสามารถในการคิดแก้ปัญหาและ และผู้อน่ื (สภาพทพี่ งึ ประสงค)์ 6.3 ประหยดั และพอเพียง ตดั สนิ ใจ (สภาพที่พงึ ประสงค)์ (สภาพที่พึงประสงค์) 3.2 มคี วามรสู้ กึ ทีด่ ตี อ่ ตนเอง (สภาพท่ีพงึ ประสงค)์ 11.2 แสดงทา่ ทาง/เคลอ่ื นไหวตามจินตนาการ อยา่ งสร้างสรรค์(สภาพท่ีพงึ ประสงค์) 2.2 ใชม้ อื -ตา และผ้อู นื่ 7.2 ดูแลรกั ษาธรรมชาติ 12.1 มีเจตคตทิ ด่ี ตี อ่ การเรียนรู้ ประสานสมั พันธ์กนั (สภาพทพี่ ึงประสงค)์ และสิ่งแวดลอ้ ม (สภาพท่พี งึ ประสงค์) (สภาพที่พึงประสงค์) 4.1 สนใจ มคี วามสขุ และ 8.1 ยอมรบั ความเหมือน 12.2 มคี วามสามารถในการแสวงหาความรู้ แสดงออกผ่านงานศิลปะดนตรี และความแตกตา่ งระหวา่ ง (สภาพท่พี ึงประสงค์) และการเคลอื่ นไหว บุคคล (สภาพที่พงึ ประสงค์) (สภาพทีพ่ งึ ประสงค)์

5.1 ซ่ือสัตย์สุจริต 8.2 มปี ฏสิ มั พันธ์ท่ีดกี บั ผอู้ ่นื (สภาพท่ีพงึ ประสงค์) (สภาพทพี่ ึงประสงค์) 5.2 มคี วามเมตตากรณุ า มี 8.3 ปฏิบัติตนเบ้อื งตน้ ใน นำ้ ใจและชว่ ยเหลอื แบ่งปนั การเป็นสมาชิกที่ดีของสงั คม (สภาพที่พงึ ประสงค์) (สภาพที่พงึ ประสงค์) 5.3 มคี วามเหน็ อกเห็นใจผู้อื่น (สภาพท่พี ึงประสงค)์  จดุ ประสงค์ 2. มีทกั ษะทางดา้ นสังคมเล่นรว่ มกับผอู้ ืน่ ได้ 1. สง่ เสรมิ พฒั นาการ 4 ดา้ นผา่ นการเล่น 3. สง่ เสรมิ คุณธรรม จรยิ ธรรม มีความอดทน เออื้ เฟื้อ แบ่งปัน และรูจ้ กั การรอคอย  กจิ กรรมการเรยี นรู้ 1. เดก็ และครูร่วมกนั ทบทวนมมุ ประสบการณต์ ่างๆ ในหอ้ งเรียน และใหค้ ดิ วางแผนการเล่น ว่าจะเล่นอะไร ตามลาดับความสนใจของตนเอง 2. เด็กและครูร่วมกันสรา้ งขอ้ ตกลงในการเลน่ เชน่ - เด็กไมส่ ง่ เสียงดงั ขณะเลน่ - เมื่อเลน่ เสร็จเก็บของเลน่ เขา้ ที่ - รูจ้ ักแบง่ ปันกันเลน่ - เล่นของเลน่ อยา่ งทะนุถนอม ไมท่ าลายใหเ้ สยี หาย - รูจ้ กั ขอบคณุ เม่ือครูชว่ ยเหลือ ขอบใจเมื่อเพ่ือนช่วยเหลือ และขอโทษเมื่อทาใหผ้ อู้ ื่นเจบ็ หรือเดือดรอ้ น - เมอื่ ไดย้ นิ สญั ญาณหยุด (เคาะจงั หวะ 2 ครงั้ ) ใหเ้ กบ็ ของเล่นทันที และมาน่งั รวมกนั ที่หนา้ หอ้ ง 3. เด็กๆ เลอื กเล่นตามทคี่ ิดไวอ้ ย่างอิสระ ปฏบิ ัติตามขอ้ ตกลง และเมือ่ ไดย้ นิ สญั ญาณหยุดใหเ้ กบ็ ของเขา้ ท่ใี ห้ เรยี บรอ้ ย และมาน่งั รวมกันท่หี นา้ หอ้ ง 4. ครูใหเ้ ด็กอาสาสมัครออกมาบอกเล่าถึงสิ่งทีต่ นเองเล่น ความรูส้ ึก และปัญหาทพี่ บ รวมถงึ วธิ ีแกป้ ัญหาอย่างไร  ประเมินผล 1. สงั เกตพฒั นาการ 4 ดา้ น 2. สังเกตการแสดงความเออื้ เฟื้อแบง่ ปัน และรูจ้ กั การรอคอย 3. สงั เกตการเล่นร่วมกับผอู้ ่ืน  ส่อื การเรียนรู้ 2. เครอ่ื งเคาะจังหวะ 1. ของเล่นในมุมประสบการณต์ ่างๆ  สาระท่ีควรเรยี นรู้ การเลน่ เครื่องเล่นสนาม เด็กไดม้ ีโอกาสออกไปนอกหอ้ งเรียนเพอ่ื ออกกาลงั เคลอื่ นไหวร่างกายและ แสดงออกอยา่ งอสิ ระในการเลน่ เครื่องเลน่ สนาม โดยยึดความสนใจและความสามารถของเดก็ เป็นหลกั

 มาตรฐานคุณลกั ษณะท่พี งึ ประสงค์ / ประสบการณ์สาคญั ร่างกาย อารมณ์ จติ ใจ สงั คม สติปัญญา มาตรฐานคณุ ลกั ษณะที่พึงประสงค์ มฐ.1 มฐ.2 มฐ.3 มฐ.4 มฐ.5 มฐ.6 มฐ.7 มฐ.8 มฐ.9 มฐ.10 มฐ.11 มฐ.12 1.2, 1.3 2.1 3.1, 3.2 5.1,5.2, 6.1,6.2 7.2 8.1,8.2, 9.1 10.3 11.2 12.1 5.3 8.3 ประสบการณ์สาคัญ 1.2 มสี ุขภาพ 3.1 แสดงออกทางอารมณไ์ ด้ 6.1 ช่วยเหลอื ตนเองในการ 9.1 รับร้แู ละเข้าใจความหมายของภาษาได้ อนามยั สุขนสิ ัยทีด่ ี อยา่ งเหมาะสม ปฏบิ ตั ิกจิ วตั รประจำวัน (สภาพที่พึงประสงค์) (สภาพทพ่ี งึ ประสงค)์ (สภาพทพ่ี ึงประสงค)์ (สภาพทพี่ ึงประสงค)์ 10.3 มีความสามารถในการคดิ แกป้ ญั หาและ 6.2 มวี นิ ยั ในตนเอง (สภาพ ตดั สนิ ใจ (สภาพที่พงึ ประสงค์) 1.3 รกั ษาความ 3.2 มคี วามรู้สกึ ท่ดี ีตอ่ ตนเอง ทีพ่ ึงประสงค์) 11.2 แสดงท่าทาง/เคลื่อนไหวตามจินตนาการ ปลอดภัยของตนเอง และผู้อืน่ 7.2 ดูแลรักษาธรรมชาติ อยา่ งสร้างสรรค์(สภาพท่พี งึ ประสงค)์ และผู้อ่ืน (สภาพทพ่ี ึงประสงค)์ และส่ิงแวดลอ้ ม 12.1 มเี จตคติทด่ี ตี อ่ การเรียนรู้ 8.1 ยอมรับความเหมือน (สภาพที่พงึ ประสงค์) (สภาพทีพ่ งึ ประสงค)์ 5.1 ซ่ือสัตยส์ จุ รติ และความแตกต่างระหวา่ ง 2.1 เคล่อื นไหว (สภาพที่พึงประสงค)์ บุคคล ร่างกายอยา่ ง 5.2 มคี วามเมตตากรณุ า มี คล่องแคลว่ ประสาน นำ้ ใจและชว่ ยเหลอื แบง่ ปัน สมั พนั ธ์และทรงตวั (สภาพทพ่ี งึ ประสงค์) (สภาพที่พึงประสงค)์ ได้(สภาพทพี่ งึ 5.3 มคี วามเห็นอกเหน็ ใจผอู้ น่ื 8.2 มปี ฏสิ มั พนั ธ์ทีด่ กี ับผูอ้ ืน่ ประสงค์) (สภาพทีพ่ ึงประสงค์) (สภาพท่พี งึ ประสงค)์ 8.3 ปฏบิ ตั ติ นเบื้องต้นใน การเปน็ สมาชกิ ทดี่ ขี องสังคม (สภาพทพ่ี งึ ประสงค์)  จดุ ประสงค์ 2. พฒั นาทกั ษะการเลน่ กบั ผอู้ ื่น 1. พฒั นาทักษะการเคลื่อนไหวและการทรงตัว 3. สง่ เสริมคุณธรรม จริยธรรม มคี วามอดทน เออื้ เฟื้อ แบ่งปัน และรูจ้ กั การรอคอย 4. การปลกู ฝังทศั นคติที่ดีในการออกกาลังกาย  กิจกรรมการเรยี นรู้ 1. เด็กและครูรว่ มกนั อบอุน่ รา่ งกายดว้ ยการออกกายบริหารในการเคลอื่ นไหวอยกู่ ับท่ี 2. ครูแนะนาการเล่นเครอ่ื งเลน่ สนามอยา่ งถูกวธิ ี และปลอดภัยใหเ้ ดก็ ฟังพรอ้ มสาธติ ใหด้ ู แลว้ ร่วมกันสรา้ ง ขอ้ ตกลงในการเลน่ เคร่อื งเลน่ สนาม เชน่ - เล่นอยา่ งถูกวธิ ี ไม่เลน่ โลดโผน - เขา้ แถวรอคอยเล่นตอ่ จากเพอื่ น - รูจ้ ักแบง่ ปันกนั เลน่ - เลน่ เครือ่ งเลน่ อยา่ งทะนถุ นอม ไม่ทาลายใหเ้ สียหาย - เลน่ รว่ มกันไม่ทะเลาะกัน - ไม่เดด็ ใบไม้ ดอกไมม้ าเลน่ - รูจ้ ักขอบคณุ เมือ่ ครูชว่ ยเหลือ ขอบใจเม่อื เพื่อนชว่ ยเหลือ และขอโทษเมอ่ื ทาใหผ้ อู้ นื่ เจ็บหรอื เดือดรอ้ น - เมอื่ ไดย้ ินเสียงนกหวีดใหห้ ยดุ เลน่ ทนั ที เตรียมเขา้ แถวทีห่ นา้ สนามเดก็ เล็ก

3. ครูใหเ้ ด็กคดิ วางแผนการเล่นเครื่องเล่นสนามตามลาดบั ความสนใจ จากน้ันใหเ้ ลน่ ตามท่คี ดิ วางแผนไว้ อยา่ งอิสระ ปฏบิ ัตติ ามขอ้ ตกลง และเมื่อไดย้ ินเสียงนกหวีดใหห้ ยดุ เลน่ แลว้ มาเขา้ แถวท่หี นา้ สนามเดก็ เลน่ 4. ครูให้เด็กอาสาสมัครออกมาบอกเล่าถึงสง่ิ ที่ตนเองเล่น ความรูส้ ึก และปัญหาที่พบ รวมถงึ วธิ แี กป้ ัญหาอย่างไร  ประเมินผล 1. สงั เกตการเคลือ่ นไหวและการทรงตวั 2. สังเกตการเลน่ รว่ มกบั ผอู้ ื่น 3. สังเกตการแสดงความอดทน เออื้ เฟื้อ แบง่ ปัน และรู้จกั รอคอย 4. สังเกตทัศนคตทิ ่ดี ใี นการออกกาลังกาย  ส่อื การเรยี นรู้ 2. เครือ่ งเล่นสนาม 1. นกหวดี กิจกรรมเกมการศึกษา  สาระที่ควรเรยี นรู้ การเลน่ เกม ภาพตดั ตอ่ โทรศพั ท์  มาตรฐานคุณลกั ษณะทพ่ี งึ ประสงค์ / ประสบการณ์สาคญั รา่ งกาย อารมณ์ จิตใจ สังคม สติปัญญา มาตรฐานคุณลักษณะท่พี ึงประสงค์ มฐ.1 มฐ.2 มฐ.3 มฐ.4 มฐ.5 มฐ.6 มฐ.7 มฐ.8 มฐ.9 มฐ.10 มฐ.11 มฐ.12 1.3 2.2 3.1, 3.2 5.1,5.2, 6.2,6.3 7.2 8.1,8.2, 9.1,9.2 10.1,10.3 12.1 5.3 8.3 ประสบการณ์สาคัญ 1.3 รกั ษาความ 3.1 แสดงออกทางอารมณไ์ ด้ 6.2 มวี ินยั ในตนเอง (สภาพ 9.1 รับรแู้ ละเข้าใจความหมายของภาษาได้ ปลอดภยั ของตนเอง อย่างเหมาะสม ที่พึงประสงค)์ (สภาพท่ีพงึ ประสงค)์ และผู้อน่ื (สภาพทีพ่ ึงประสงค)์ 6.3 ประหยดั และพอเพยี ง 9.2 แสดงออกและ/หรอื พดู เพ่ือส่ือ (สภาพท่พี ึงประสงค)์ 3.2 มคี วามร้สู กึ ท่ดี ตี อ่ ตนเอง (สภาพท่ีพงึ ประสงค์) ความหมายได้ (สภาพที่พึงประสงค์) 2.2 ใชม้ ือ-ตา และผ้อู ืน่ 7.2 ดแู ลรกั ษาธรรมชาติ 10.1 มีความสามารถในการคิดรวบยอด ประสานสัมพันธก์ ัน (สภาพท่ีพึงประสงค์) และส่ิงแวดลอ้ ม (สภาพทีพ่ งึ ประสงค์) (สภาพท่พี ึงประสงค)์ 5.1 ซื่อสัตย์สจุ ริต 8.1 ยอมรับความเหมือน 10.3 มคี วามสามารถในการคิดแกป้ ญั หาและ (สภาพที่พึงประสงค)์ และความแตกตา่ งระหวา่ ง ตดั สินใจ (สภาพท่พี ึงประสงค)์ 5.2 มคี วามเมตตากรุณา มี บคุ คล 12.1 มเี จตคตทิ ่ดี ตี อ่ การเรียนรู้ นำ้ ใจและชว่ ยเหลอื แบง่ ปนั (สภาพทพ่ี ึงประสงค)์ (สภาพท่พี ึงประสงค์) (สภาพทพี่ ึงประสงค)์ 8.2 มีปฏิสมั พนั ธ์ทด่ี กี บั ผู้อืน่ 5.3 มคี วามเห็นอกเห็นใจผ้อู น่ื (สภาพท่พี ึงประสงค์) (สภาพที่พงึ ประสงค)์ 8.3 ปฏิบตั ิตนเบ้ืองต้นใน การเป็นสมาชิกท่ีดีของสังคม (สภาพทพ่ี งึ ประสงค)์

จุดประสงค์ 1. พฒั นากลา้ มเนอื้ มัดเลก็ และตาใหป้ ระสานสัมพันธก์ ัน 2. ฝึกทักษะกระบวนการแกไ้ ขปัญหาได้ 3. พัฒนาทักษะทางสตปิ ัญญา เชน่ การสงั เกต การเปรยี บเทียบ ความรูค้ วามเขา้ ใจในเร่อื งต่างๆ 4. สง่ เสริมคุณธรรม จรยิ ธรรม มคี วามอดทน เออื้ เฟื้อ แบ่งปัน และรูจ้ กั การรอคอย  กิจกรรมการเรียนรู้ 1. ครูแนะนาเกม ภาพตดั ตอ่ โทรศพั ท์ และสาธติ วธิ ีการเลน่ ใหเ้ ด็กดู พรอ้ มใหเ้ ด็กมสี ว่ นรว่ มดว้ ย 2. ครูทบทวนเกมเกา่ ทเ่ี คยเล่นมาแลว้ และรว่ มกันสรา้ งขอ้ ตกลงในการเลน่ เช่น - ไมส่ ่งเสียงดังขณะเล่น - รูจ้ ักแบง่ ปันกันเลน่ - เล่นอย่างทะนุถนอม ไม่ทาลายใหเ้ สยี หาย - รูจ้ กั ขอบคุณเม่ือครูช่วยเหลือ ขอบใจเม่ือเพ่อื นชว่ ยเหลอื และขอโทษเมอื่ ทาใหผ้ อู้ ื่นเจ็บหรือเดือดรอ้ น - เมื่อไดย้ ินสญั ญาณหยุด (เคาะจงั หวะ 2 ครงั้ ) ใหเ้ ก็บเกมเขา้ ที่ และมาน่งั รวมกันที่หนา้ หอ้ ง 3. ครูแบง่ เดก็ เป็นกลุ่มยอ่ ย กลุ่มละ 4 คน ใหก้ ลุ่มแรกเลน่ เกม ภาพตดั ต่อโทรศพั ท์ กลุ่มทเ่ี หลอื เล่นเกมที่เคยเลน่ มาแลว้ เม่อื เล่นเสรจ็ ใหห้ มนุ เวียนกนั เลน่ จนครบทกุ เกม เมอื่ ไดย้ ินสญั ญาณหยดุ ใหเ้ กบ็ เกมเขา้ ทใ่ี ห้ เรียบรอ้ ย และมาน่งั รวมกันท่ีหนา้ หอ้ ง 4. ครูใหเ้ ดก็ อาสาสมคั รออกมาบอกเล่าถึงเกมทตี่ นเองเล่น ความรูส้ กึ และปัญหาทีพ่ บ รวมถงึ วิธีแกป้ ัญหาอยา่ งไร  ประเมินผล 1. สังเกตการใชก้ ลา้ มเนอื้ มัดเล็กและตาใหป้ ระสานสัมพนั ธ์กนั 2. สงั เกตกระบวนการแกไ้ ขปัญหา 3. สงั เกตทกั ษะทางสติปัญญา เช่น การสงั เกต การเปรยี บเทยี บ ความรูค้ วามเขา้ ใจในเร่ืองตา่ งๆ 4. สังเกตการแสดงความเออื้ เฟื้อแบง่ ปัน และรูจ้ กั การรอคอย  สอ่ื การเรยี นรู้ 2. เกมเก่าท่ีเคยเล่นมาแลว้ 1. เกม ภาพตดั ต่อโทรศพั ท์ 3. เครื่องเคาะจังหวะ  ภาคผนวก  เกม ภาพตดั ต่อโทรศพั ท์

 สาระทีค่ วรเรยี นรู้ วทิ ยาศาสตรร์ อบตวั คือ ความรเู้ กย่ี วกบั ส่งิ ตา่ งๆ ในธรรมชาตทิ ั้งทม่ี ชี วี ติ และไม่มีชีวติ ท่ีอย่รู อบตวั เด็ก โดยเนน้ ใหเ้ ด็กไดเ้ รียนรูผ้ ่านการทดลองทีเ่ ป็นกจิ กรรมทจี่ ัดให้เด็กได้รับประสบการณ์ตรง เพราะไดท้ ดลองปฏบิ ัติดว้ ยตัวเอง ฝึก การสงั เกต การคดิ แกป้ ัญหา และสง่ เสรมิ ให้เดก็ มคี วามอยากรู้อยากเหน็ และค้นพบดว้ ยตัวเอง ส่ิงทเ่ี ดก็ รแู้ ล้ว สิ่งท่เี ด็กตอ้ งการรู้ สิง่ ทเ่ี ด็กควรรู้ - วทิ ยาศาสตร์รอบตวั - ค้นหาสงิ่ ของใดทีพ่ ับได้ - จำแนกของแข็งและของเหลว - คน้ หาสจี ากพชื ธรรมชาติ - สำรวจทิศทางของลูกบอล  การจดั ประสบการณ์บรู ณาการ กจิ กรรมเคลอื่ นไหวและจังหวะ กิจกรรมสรา้ งสรรค์ 1. การเคลื่อนไหวร่างกายพรอ้ มอปุ กรณ์ 1. การพับจรวดและระบายสีตกแต่ง กิจกรรมเกมการศึกษา 2. การเคล่ือนไหวร่างกายประกอบเพลง 2. การหยดสี พับสี และตกแตง่ ภาพ 1. เกมจับคู่ภาพเหมอื นเคร่ืองมือ 3. การระบายสดี ว้ ยแม่สีและการ วา่ ว วทิ ยาศาสตร์ 3. การเคลอ่ื นไหวร่างกายตามจินตนาการ ผสมแม่สี 2. เกมทายแบบรูปภาพแมส่ ที หี่ ายไป 4. การเคลื่อนไหวร่างกายตามคาส่ัง 4. การหยดสี เป่าสี และตกแต่งภาพ 3 . เกมทายภาพชนิ้ ส่วนเครื่องมือ 5. การเคลื่อนไหวร่างกายอยา่ งอสิ ระ 5. การวาดภาพลกู บอลในทิศทางต่างๆ วิทยาศาสตร์ กิจกรรมหลกั กิจกรรมเสรี 4. เกมสงั เกตรายละเอยี ดภาพเดก็ ใช้ 6 กิจกรรม 1. เลน่ ตามมมุ ประสบการณ์ 2. จัดป้ายนิเทศให้ความรูเ้ กยี่ วกบั แรง เคร่อื งมอื วิทยาศาสตร์ 5. เกมเรยี งลาดบั การเจริญเติบโตของตน้ ถ่วั ดึงดูดของโลก 3. เลน่ ตามมุมประสบการณ์ กจิ กรรมกลางแจ้ง กจิ กรรมเสรมิ ประสบการณ์ 4. เล่นตามมมุ ประสบการณ์ 5. เลน่ ตามมมุ ประสบการณ์ 1. การเล่นเคร่ืองเล่นสนาม 1. กิจกรรม “วทิ ยาศาสตรร์ อบตวั ” 2. การเลน่ ทราย 2. กจิ กรรม “สง่ิ ของใดท่พี บั ได”้ 3. การเลน่ ทราย 3. กจิ กรรม “จาแนกของแขง็ และของเหลว” 4. การเล่นเคร่อื งเล่นสนาม 4. กิจกรรม “สีจากพชื ธรรมชาต”ิ 5. การการละเล่นไทย รีรีขา้ วสาร 5. กิจกรรม “ทศิ ทางของลกู บอล