Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore นักธรรมโท

Description: นักธรรมโท

Search

Read the Text Version

www.kalyanamitra.org 6 :-?T - fc s \"*>•%» คู่มือเตรียมสอบ นักธรรมชั้นโท โรงเรียนพระปริยัติธรรม วัดพระธรรมกาย

www.kalyanamitra.org คู่มือเตรียมสอบ นักธรรมชั้นโท โรงเรียนพระปริยติธรรม วัดพระธรรมกาย ๑

www.kalyanamitra.org คู่มือเตรียมสอบนักธรรมผั้โท ทปรึกษา พระครึพัชโรดม(พระมหาลักษณะ)ป.ธ.๙ พระมหา ดร.สมชาย ฐานวุฑฺโฒ ป.ธ.๓ พระมหาวีรวัฒใร วีรวฑฺฒโก ป.ธ.๙ พระมหาสุธรรม .สุรดโน ป.ธ.๙ พระมหาเสถียร, สุ9^ณฐโต้. ป.ธ.๙ พระมหาซัชวาลย์ โอภาโส ป.ธ.๙ พระมหา,สมบติ อินฺฑปฌุโญ ป.ธ.๙ พระมหาเทพเทวินทร์ ธมฺมินฺโท ป.ธ.๙ บรรณาธิการบริหๆร .หา.อารีย พสุาธิโก(ป๋ญจพล) กองบรรณาธิการ- พระมหาป่รชา จิi^ตชณฺโญฺ • พระมหาจำลักษณ พระมหาสมบุญ อนนฺตชโย พระมหาอภิชาติ วชิรชโย พระมหาวินชนะ ญาตชโย ^ - คุณจุฑาทิพย์ คันทะนาด เรึยฺบเรึ.ยง พระมหาอารึย์ พสุาธิโก กมลวรรณ กองศรี รูปเล่ม พุทธติลป็ ภาพประกอบ ลิขสิทธิ้ โรงเรียนพระปริย้ตธรรม วัดพระธรรมกาย โทรคัพ'ย์. ๐-๒๘๓๑-๒๒๒๓ พิมพ์ครั้งที่ ๑ ธันวาคม ๒๕๔๔ จำ นวน ๑,๐๐๐ เล่ม พิมพ์ครั้งที่ ๒ ตุลาคม ๒๙๔๔ จำ นวน.๓,๐๐๐ เล่ม พิมพ์ที่ บริษัทสุขขฺมวิทการพิมพ์

www.kalyanamitra.org โครงการส่งเสริมการศึกษาพระปริยตธ่รรม พร่ะมงดmViพมุนี(หลวง้ป่สด จันทสโร) พระเทพญาณมหามุนี(ห่ลวงพอธมมชโย) พร®ภาวนาวิริยคุณ(หลวงฟ่อทัดดชืโว) คุ่ณย่ายอาจารย์มหารั่ตนอุบาสิกาจันทร์ขนยกยูง • บูรล่ธรรมโดย ' ฟ่ระภกษุและสาม่เณร -อุบ่าสิกแส่ะอุบาสิกา กลยาณมิตรวัดพระธรรมกาย 5,๓

www.kalyanamitra.org คํฯนำ พระภิกเ^ละสามเณรุทุกรูปเมื่อบ่วชเป็นทุทฺธบุตร คือบุตรที่ เกิดในทางะรรมขององคืสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ต้องศึกษาพระ ธรรมและพระรนํยที่เป็นคำสั่งและคำสอนของพระองคืให้แตกฉาน เพื่อ ?|กหัดขัดเกลาตัวเองให้เป็นพระกิกา^ละสามเล่เรที่คืสมบูรณ์พร้อม ต้วยปริย้สิ ปฏิบติปฏิเวธ และเทศนา , , คณาจารย์โรงเรียนพระปริยด็ธรรม วัดพ^ธรรมกาย ไต้เล็ง เห็นถึงควุามสำคัญอย่างยิ่งฺในการศึกษาพระธรรมคำสั่งสอนของพุทธ บุดร จึงไต้จัดทำหนังสือคู่มือเดรียมสอบนักธรรมชั้นโท ไต้รวบรวม เนื้อหาของแต่ลฺะวิชาไว้โดยย่อ! กระชับ ^ คัวอักษรอ่านง่าย่ อ่านจบใน ระยะเวลาอันสั้น เมื่ออ่านจบแต่ละบทจะมืขฺอสอบไว้ทดสอบความรู้ คณะผู้จัดทำหวังเป็นอย่างยิ่งว่า หนังสือคู่มือเตรียมสอบนัก ธรรมชั้นโทเล่มนื้ จะเป็นประโยชนกบพระกิกษสามเณร และผู้ที่ สนใจศึกษาพระพุทธคาสนาทุกท่าน เพราะว่าท่านคืออายุของ พระพุทธคาสนา คณะผู้จัดท่า เมษายน ๒๙๔๙

www.kalyanamitra.org หลัก๓ณฑกๆรใหฺคะแนน ๑. นักธรรมทุกชั้นให้ถือ ๔๐๐ คะแนน เป็นเกณฑ วิชาทุก วิชาคะแนนเต็ม ๑๐๐ คะแนน เมื่อรวมคะแนนของทั้ง ๔ วิชๅ แล้ว ต้องได้คะแนนไม่ตรกว่า ๒๘๐ คะแนน ถือว่าสอบได้ ตากว่า ๒๘๐ คะแนน ถือว่าสอบตก . . ๒. นักธรรมทุกชั้น เมื่อตรวจดูคะแนนุชองแต่ละวิชาที่สอบ ได้ หากมีวิชาใดวิชาหนึ่งได้คะแนนตํ่ากํว่า ๒๔ คะแนน แม้จะรวม ทุกวิชาแล้วได้เกินกว่าเกณฑ์ที่กำหนด ให้ถือว่าการสอบครั้งนี้เป็น การสอบตกด้วฺย ๓. นักธรรมทุกชั้น ด้องสอบทั้ง ๔ วิช่า ถาขาต่สอบวิชาใด วิชาหนึ่ง สนามหลวงแผนกธรรมไม่รับพิจารเนาให้อยู่ในเกณฑ์สอบ ตก แม้รวมคะแนนทุกวิชาแล้วจะได้คะแนนสู่งตามเกณฑ์ที่กำหนด * อ้างอิง เรื่องสอบธรรมสนามหลวง ของสนามหลวงแผนก ธรรม พ.ศ.๒๔๔๘ หน้า ๑๑๔ . ๔

www.kalyanamitra.org สารฃญ วิชาอนุทุทธป^สิ «๒ อนุฬุทรปรราติ บทุท « องค์ที่ e- ๑๔ ๑. พระอัญญาโกณฑัญญเถระ ๑๙ '- ๒.พระวัปปเถระ - ๒๐ ๓. พระสัเๆทิยเถระ ! - ๒๐ - ๔. พระมหานามเถระ ๒๑ ๔. พระอัสสชิเถระ ๒๒ ๖. พระยสเถระ !.๒ ๗. พระวิมลเถระ ๒๖ .๘. พรฺะสุพาหุเถระ ๒๖ ๙. พระปุณณชเถระ • ๒๗ ๑๐. พระควัมปติเถระ ๓๖ อนพุทธประวต บทที่ ๒ อ^ ๑๑- ๒๐ . ๓๗ ๑๑. พร่ะนาลกเถระ '^ ๔๐ ๑๒..พระอุรุเวลกัสสปเถระ ๔๑ ๑๓. พระนทีกัสสปเถระ ๔๒ ๑๔. พระคยากัสสปเถระ ๔๔ . ๔๘ ๑๔. พระสารีบุตรเถร่ะ ๑๖. พระมหาโมคคัลลานเถระ ๑๗. พระมหากัสสปเถระ ::๖

www.kalyanamitra.org ๑๘. พระมหากัจจายน๓ระ ๔๑ . ๑๙. พระราธเถระ ๔๓ ๒๐. พระปุณณมันตานีบุตรเถระ ๔๔ อนุพุทธประวด บทที่๓ องค์ที่ ๒๑-๓๐ ๖๖ ๒๑. พระกาพุฑายีเถระ ๖๖ ๒๒. พระนันทเถระ , ๖๘ ๒๓. พระราหุลเถระ . s ๗๐ r : ๒๔. พระอุบาลีเถระ ๗๒ ๒๔. พระภททิยเถระ ไ ๗๔ ๒๖. พระอนุรุทธเถระ ๗๔ . ๒๗. พระอานนทเถระ - .๗๘ . ๒๘. พระภัคคุเถระ ๘๑ ๒๙. พระกิมพิลเถระ ๘๒ . ๓๐. พระรัฐบาลเถระ \" . ๘๒: อนุพุทธประไ® บทที่ ๔ องค์ที่ ๓๑- ๔๖ ๘๙ ๓๑: พระอซิตเถระ ๙๑ ๙๒ ๓๒. พระติสสเมตเตยยเถระ ๙๒ s ๓๓. พระปุณณกเถระ ๙๓ ๓olj๔CS-.• พriรoะvbเoมNrตllตrคl^เboถlระ ๙๔ ๓๔. พระโธตกเถรร ๙๔ ^ ๓๖. พระอุปสิวเถระ ๙๖ ๓๗. พระนันทเถระ - ๙๗ ๓๘. พระเหมกเถระ ๙

www.kalyanamitra.org ๓๙. พระโตเทยยเถระ ๙๗ ๔๐. พระกัปปเถระ ๙๘ ๔๑. พระชตุกัณณีเถระ ๙๙ ๔๒. พระกัทราวุธเถระ ๙๙ ๔๓. พระอุทยเถระ ๙๙ ๑๐๐ ๔๔. พระโปสาลเถระ ๑๐๑ ๔๔. พระโมฆราชเถระ ๑๐๒ ๔๖. พระปิงคิยเถระ > ๑๐๗ อนุพุทธประวด บทที่ ๕ องค์ที่ ๔๗- ๕๐ . ๑๐๗ ๔๗. พระโสณโกสิ'วิสเถระ ! ๑๐๙ . ๔๘. พระโสณกุฏิกัณณเถระ • ๑๑๑ ๔๙. พระมหาป๋ณถกเถระ . ๑๑๓ - ๔๐. พระจูฬไป็นถกเถระ : ๑๑๘ อนุพุทธประ บทที่๕ องค์ที่ ๙๑-๖๐ ๑๑๘ ๔๑. พุระปีณโฑลภารทวาชเถระ ๑๒๐ ๑๒๒ ๔๒. พระลกุณฏกกัททิยเถระ ๔๓. พระสุภูติเถระ ๑๒๓ ๑๒๔ ๔๔. พระกังขาเรวตเถระ ๑๒๗ ๑๒๙ ๔๔. พระวักกสิเถระ ๑๓๐ ๑๓๒ ๔๖. พระโกณฑธานเถระ ๔๗. พระวังคีสเถระ ๔๘. พระปีสินทวัจฉเถระ ๔๙. พระกมารกัสสปเถระ

www.kalyanamitra.org . ๑๓๔ ๖๐.พระมหาโกฏฐตเถระ ๑๓๙ อนุพุทธประว้ด บทที่ ๙ องค์ที่ ๖๑- ๗๐ ๑๓๙ ๑๔๐ , ๖๑. พระโสภิตเถระ ๑๔๒ ๖๒. พระนันทกเถระ ๖๓. พระมหากัปปีนเถระ ๑๔๓ ๖๔. พระสาคตเถระ ' ๑๔๔ ๑๔๖ ๖๔. พระจุนทเถระ, ๖๖. พระอุปเสนเถระ ๑๔๘ ๖๗. พระฃทิรวนยเรวตเถระ . ๑๔๙ ๑๔๑ ๖๘. พระสีวลีเถระ ๑๔๓ ๖๙. พระพาหิยทารจีริยเถระ ๗๐. พระพากุลเถระ ๑๔๘ อนุพุทธประว้ด บทที่ ๔ องค์ที่ ๗๑^ ๘๐ ๑๔๘ ๑๖๐ ๗๑. พระทัพพมัลสบุตฺรเถระ ๗๒. พระอุทายีเถระ ๑๖๒ ๗๓. พระอุปวาณเถระ ๑๖๓ ๗๔. พระเมฆิยเถระ ๑๖๔ ๗๔. พระนาคิยเถระ ^ ๑๖๔ ๗๖. พระยโสชเถระ ๑๖๗ ๗๗. พระสภิยเถระ ๑๖๘ ๗๘.พระเสลเถระ ๑๗๐ ๑๗๒ ๗๙. พระมหาปรันตปเถระ ๘๐. พระองคุลิมาลเถระ ๙

www.kalyanamitra.org ๑๗๘ วิชาศาสนพิธี ๑๘๒ ๑๙๘ หมวดที่ ๑ กุศลพิธี หมวดที่ ๒ บุญพิธี ๒๑๗ ๒๔๐ หมวดที่ ๓ ทานพิธี หมวดที่ ๔ ปกิณกพิธี ๒๔๔ วิชาวินัยมุข ๒๖๓ ๒๗๓ กัณฑ์ที่ ๑๑ กายบริหาร กัณฑ์ที่ ๑๒ บริขาร บริโภค ๓๐๑ กัณฑ์ที ๑๓ นิสัย ๓๑๓ ๓๓๘ กัณฑ์ที่ ๑๔ วัดร .๓๔๔ กัณฑ์ที่ ๑๔ คารวะ กัณฑ์ที่ ๑๖ จำ พรรษา ๓๔๔ ๓๘๓ กัณฑ์ที่ ๑๗ อุโบสถและปวารณา กัณฑ์ที่ ๑๘ อุปปถ่กิริยา ๓๙๔ ๔๐๘ กัณฑ์ที่ ๑๙ กาลิก ๔ ๔๑๙ กัณฑ์ที่ ๒๐ กัณฑะต่างเจ้าของ ๔๓๓ กัณฑ์ที่ ๒๑ วินัยกรรม กัณฑ์ที่ ๒๒ ปกิณณกะ ๔๙๒ ๔๔๓ .วิชาธรรมวิภาค คือหมวด ๒ ทกะ ๑๐

www.kalyanamitra.org ติกะ คึอหมวด ๓ ๔๖๘ ๔๑๐ จตุกกะ คือหมวด ๔. ๔๔๓ คือหมวด ๔ ๔๖๒ ป๋ญจกะ คือหมวด ๖ ๔๗๔ คือหมวด ๗ ๔๘๓ ฉักกะ คือหมวด ๘ ๔๙๓ สัตตกะ คือหมวด ๙ ๖๑๐ คือหมวด ๑๐ ๖๓๖ อัฏฐกะ คือหมวด ๑๑ ๖๔๐ คือหมวด ๑๒ ๖๔๘ นวกะ คือหมวด ๑๓ ๖๔๖ คือหมวด๑๔ 1าสกะ ๖๖๒ ๖๖01^ เอกาทสกะ ๖๗๑ ทวาทสกะ ๖๗๔ เตรสกะ ๗๐๒ ป๋ณณรสกะ วิชาเรียงความแก้กระทู้ธรรม เรียงความแก้กระทู้ธรร่ม แบบฟอร์มการเขียนกระทู้ ตัวอย่างเรียงความแก้กระทู้ พุทธคาสนสุภารตชั้นโท บรรณานุกรม ๑๑

www.kalyanamitra.org วิซ่าอนุพทธประว้ต ๑๒

www.kalyanamitra.org อนพทรป.ระว้ด อ่เฟิมฬาสาวก ความหมายของคำว่า อสีติมหาสาวก ตามรูปศัพห์: คำ ว่า อสีติมหาสาวก เปีนคำสมาสประกอบด้วยคำ^ อสีติ และมหาสาวก คำ ว่า' อสีติ เป็นปกติสังขยา คือ คำ นวนนับติามปกติแปลว่า ๘๐ ส่วนัมหาสาวก ประกอบด้วยคำว่า มหา ร่งเป็นคณศพคํแปลว่า ใหญ่ มาก สำ คัญ และคำว่า สาวก ร่งเป็นคำน่ามกิตก ประกอบฐป มาจาก สุ ธาตุ ในความหมายว่าฟ็ง+ ณฺว ป๋จจย มีรูปคัพท์ว่าสาวก แปลว่า ผูฟ้ง ในที่นี้หมายถึง ภิกษยูบรรลุธรรม^สงสุดคืออรหัตกล คังนั้นคำว่า อสีติ และ มหาสาวก เมื่อรวมเข้าด้วยกันเป็น คำ สมาสเป็น อสีติมหาส่าวก จึงแปลว่า พระสาวกผู้ใหญ่ ๘๐ รูป หรือ 1(^ระสาวกผู้ยิ่งใหญ่ ๘๐ รูป หรือ พระสาวกสำคัญ ๘๐ รูป ที่มาของคำว่า อฺสีติมหาสาวก ในพระไตรปีฎกไม่มีคำว่า.อสีติมหาสาวก พบแตคำว่า พระ สาวกเถระผู้มีชื่อเสียง แต่พบคำว่า อสีติมหาสาวก ปรากฏอยู่ใน หนังสืออรรถกถาต่าง ๆ คืออรรถกถาธรรมบท สุมังคลวิลาสินี และ ๑๓

www.kalyanamitra.org ปรมัตถทีปนี ส่วนรายนามของพระอสีติมหาสาวกในพระไตรปีฎกมี กล่าวไว้ครบทง ๘๐ องคแต่กล่าวไว้ในที่ต่าง ๆ กัน ส่วนมากกล่าว ไว้1นพระสุดตนต่ปิฎก ในอรรถกถาธรรมบทก็มีบ้าง ในปรมัตถทีปนี กล่าวไว้ครบเช่นเดียวกับในพระไตรปิฎก อนุพุทธประวต อนุพุทธประวดี คือประว้ตของพระสาวกที่รับฟังคำสั่งสอน จากพระศาสดาแล้วเพียรพยายามปฏิบ้ต?!กหัดกาย วาจา และใจ ตามนั้น จนได้บรรลุผลสูงสุดในพระพุทธศาสนา คือ พระอรหัตผล บุคคลเหล่านี้เป็นพยานในการตรัสรู้ธรรมของพระพุทธองคืเป็น อย่างดี ในหลกสูตรนักธรรมชั้นโท กำ หนดให้เรียน. ๘๐ องค ^ง เป็นพระอรียสาวกผู้ได้รับยกย่องว่าเป็นเอตหัคคะคือเป็นเลิศในด้าน ต่าง ๆก็มี และที่ไม่เป็นเอตทัคคะกมี พุทธะ คือทานผู้เ มี ๓ ประเภท ๑. สัมมาสัมพุทธะ คือผู้ตรัสรู้เองโดยช่อบ และสามารถสอนให้ ผู้อื่นรู้ตามด้วย - ๒.บ้จเจกพุทธะ คือผู้ตรัสรู้เฉพาะตน ไม่สามารถสอนให้ผู้อื่นัรู้ ตามได้ ๓. สาวกพุทธะ คือผู้บรรลุธรรมได้เพราะฟังผู้อื่นสั่งสอนคือ พระสัมมาสัมพุทธเจ้าและตนเองก็สามารถสอนให้ผู้อื่นรู้ตามได้ด้วย เรียกอีกอย่างหนึ่งว่า อนุพุทธะ ๑<ร:

www.kalyanamitra.org อนพุทรประว้ต๊ บทที่ ๑ จ่ จิ องค์ที ๑-๑๐ ๑. ประฬพระอัญญาโกณ'ทัญญเถระ สถานรเดิม พระอัญญาโกณฟ้ญญะ ร่อเดิมวา โกณฺฑัญญะ บิดามารดาไม่ ปรากฏร่อ เป็นบุดรของพราหมณมหาศาลในบ้านพราหมณ!ทณฺวตถุ อยูไม่ไกลจากกรุงกบิลพัสดุ แคว้นสักกะ ไดิรับการศึกษาจบไตรเพท ตามสัทธิของพราหมณ และรู้ตำรามนตสำหรับทำนายสักษณะของ บุคคลต่าง ๆ มูลเหตุแห่งการออกบวช เมื่อเจ้าชายสิทธัตถะประสูตได้ ๕ วัน พระเจ้าสุทโธทนะเชิญ พราหมณ์ ๑๐๘ คนมารับประทานอาหาร ได้คัตเลือกพราหมณ์ ๘ คน จากพราหมณ์ทั้งหมดเพื่อทำนายสักษณะของเจ้าชายสิทธัตถะ โกณฑัญญะเป็นพราหมณ์หนุ่มที่สุตในพราหมณ์ ๘ คน พราหมณ์ ๗ คน ได้ทำนายสักษณะของพระราชกมารว้ามีคติเป็น ๒ คือ ๑๕

www.kalyanamitra.org ๑. ถ้าอยู่ครองเรือนจักได้เป็นพระเจ้าจักรพรรดิ ๒. ถ้าเสิด็จออกผนวชจักได้ตรัสรู้เป็นพระสัมมาส้มพุทธเจ้า เป็นศาสดาเอกไนโลก ส่วนโกณฑญญพราหมณ์ได้ทำนายว่ามีดดิเป็นอย่างเดียว คือ . เสด็จออํกผนวชได้ตรัสรู้เป็นพระสัมมาส้มพุทธเจ้าเป็นศาสดาเอก ในโลกแน่นอน ตั้งแต่นั้นมาโกณ์ฑัญญพราหมณ์ตั้งใจว่า พระราชกุมาร เสด็จออกผนวชเมื่อใดตนจะออกบวชตามด้วย ป๋ญจวัคคีย์ออกบวช เมื่อพระราชกุมารเสด็จออกผนวชตอนพระชนมฺายุ ๒๙ ปี โกณฑญญพราหมณ์ทราบข่าวจึงได้ชักชวนพราหมณ์อีก ๔ คน คือ วัปปะ ภัททฺยะ มหานามะ และอัสสซิ ซึ่งเป็นบุตรของพราหมณ์Iน จำ นวน ๑๐๘ คน ออกบวชตาม พบพระมหาบุรษที่ตำบลอุรุเวลา- เสนานิคมจึงอยู่เฝืาอุป๋ฏรู่ากด้วยคิดว่า ถ้าพระองค์ได้บรรลุธรรมแล้วจะ เทศนาสั่งสอนใหพวกตนได้บรรลุบ้าง ป็ญจฺวัคคีย์หนีจากํพระมหาบุรุษ เมื่อพระมหาบุรุษบํ่าเพ็ญทุกรกิริยาอยู่ ๖ ปี เห็นว่าไม่ใข่หน ทางที่จะพ้นทุกขจึงเลิกบำเพ็ญทุกรกิริยาหันมาฉฺนภัตุ.ตาหารเพื่อให้ ร่ๆงกายแข็งแรงทรงบำเพ็ญเพียรทางใจ ป๋ญจวัคคีย์หมดความเลื่อมใส คิดว่าพระมหาบุรุษคลายจากความเพียรเวียนมฺาเป็นคนมักมากในกาม เสียแล้วพากันหนีLบํอฺยู่ที่บำอิสิปฺตน่มฤคที่ายวันฺ แฃวงเมืองพาราณสี 6)^

www.kalyanamitra.org บรรลุธรรมเป็นพระโสดาบํโน เมื่อพระมหาบุรุษได้ตรัสรู้ธรรมเป็นพระสัมมาส้มพุทธเจ้า แล้ว ทรงตัดสินพระทัยที่จะแสดงพระธรรมเทศนา ครั้งแรกทรงคิด ถึงอาฬารดาบสและอุทกดาบส แดทานทั้งสองได้ถึงแก่กรรมแล้ว ทรงคดถึงป๋ญจรัคคียจึงได้เสด็จไปยังป้าอิสิปดนมฤคทายวัน ฝ่าย ป๋ญจวัคคีย์เห็นพระพุทธองค์เสด็จมาแต่ไกลจึงทำกติกากันว่า พวก. เราไม่พึงไหวัไม่พึงลุกฃื้นด้อนรับไม่รับบาดรและจึวรแต่จะปูอาส!เะ เอฺาไว้ให้ พอพระพุทธองค์เสด็จมาถึงกสับลืมกติกาที่ตฺงไว้ เพราะ ความเคารพที่เคยมีต่อพระองค์ แต่ยังสนทนากับพระองค์ด้วยถ้อยคำ อันไม่เคารพ พูดออกพระนามว่า อาวุโส พระองค์ทรงห้ามแล้วดรัส ว่า \"เราได้บรรลุอมดธรรมแล้ว ขอไห้ฟานทั้งหลายตั้งใจฟังและ ปฏบติดามที่เราสอน ในไม่ชาจะได้บรรลุอมดธรรมนั้น\" ป๋ญจวัคคีย์ ตัดด้านพระพุทธองค์ ๓ ครั้ง ทรงดรัสเตอนสติพวกเขาว่า เมื่อก่อน ท่านทั้งหลายเคยได้ฟังคำที่เทพูดเซ่นนี้บ้างไห,ม ขณะนั้นป๋ญจวัคคีย์ จึงระลึกได้ว่า พระดำรัสเซ่นนี้พระองค์ไม่เคยตรัสเลย พระองค์ได้ ตรัสรู้ธรรมแล้วเป็นแน่ จึงได้ตั้งใจฟังพระธรรมเทศนา ทรงแสดง พระธรรมเทศนากัณฑ์แรกมื่อว่า ธมมจักกัปปวัตตนสูตร ไนวันขึ้น ๑๔ คํ่า เดือน ๘ เรียกว่าวันอาสาฬหบูชา พอจบพระธรรมเทศนา โกณฑ์ญญะได้ตวงตาเห็นธรรม ดือ บรรลุธรรมเป็นพระโส่ตาบันว่า \"สิงใดสิงหนึ่งมีความเถึตขึ้นเป็นธรรมตา สิงนั้นทั้งหมดมีความตับ ไปเป็นธรรมตา\" พระพุทธองค์ทรงเปลงอุทานว่า อัญญาสิ วะดะ โก โกณฑัญโญ ๆ แปลว่า โกณฑ์ญญะได้รู้แล้วหนอ ๆ ท่านจึงได้ชื่อ ใหม่ว่าอัญญาโกณฑัญญะ . ๑๙

www.kalyanamitra.org บวชในพระทุทธศาสนา เมื่ออัญญาโกณฑัฌญะไดฺดจงตาเห็นธรรมุแล้วจึงทูลขอบวชํ ทรงอนุญาตให้บวชด้วยพระดำรัสว่า \"เธอจงเป็นภิกษุฆาเถิด ธรรม อันเTไกส่าวดีแล้ว เธอจงประพฤดีพรหมจรรย์เพื่อทาที่สุดแห่งทุกข์ โดยชอบเถิด\" การบวชแบบนี้เรียกว่า เอหิภิกขุอุปสัมปทา ท่านเป็น พระสงฟ้รูปแรกที่เกิดขึ้นในโลกเป็นวันที่พระรัตนตรัยคือพระ.พุทธ พระธรรม และพระสงฆ์เกิดขึ้นคร่บครั้งแรกในวันอาสาฬหบชา บรรลุธรรนเป็นพระอรหนต์ หลังจากนั้นพระพุทธองค์ทรงเทศนาสั่งสอนให้อีก๔คน ได้. ดวงตาเห็นธรรม และทรงประทานการบวชให้แบบเอหิภิกขุอุปลัมปทา ในวันแรม ๔ คํ่า เดีอน ๘ ทรงแสดงพระธรรมเทศนากัณฑ์ที่ ๒ ขึ้อ ว่า อนัดดลักชณสุดร คือสุดรที่ว่าด้วยขันธ์ ๕ เป็นอนัดดา ให้แก่ พรฟ้ญจวัคคืย์ฟ้งเมื่อจบพระธรรมเทศนาทั้ง ๕ องค์ ได้บรรลุธรรม เป็นพระอรหันต์พร้อมกัน งานประกาศพระศาสนา พระอัญญาโกณฑัญญฺะเป็นพระอรหันต์ชุดแรกคือ ๖๐ องฺค์ ที่พระพุทธองค์ส่งไปเผยแผ่พระพุทธศาสนา ผลงานที่สำคัญขอฺง ท่านคือ ท่านกลับไปบ้านเกิดให้หลานชายชื่อว่า ปกเณะ ชื่งเป็นลูก ของนางมันตานีผู้เป็นน้องสาวของตนุเองบวชในพระพุทธศาสนา ต่อมาท่านได้เป็นกำลังสำคัญในการประกาศพระศาสนา . มีกุลบตร เป็นจำนว1เมากมาบวชในสำนักของท่าน

www.kalyanamitra.org ตำ แหน่งเอตทัคคะ พระอัฌญๆโกณฑัญญะได้ร้บยกย่องจากพระพุทธองค์ว่า \"ฟ้น เสิศกว่าภิกษทั้งหลายผู้รัตตฌฌ แปลว่า ผู้เฑตรีนาน\" หมายความว่า ท่านเป็นองค์แรกที่ได้ทังธรรมและบรรลุธรรมที่พระพุทธองค์ทรง แสดงก่อนไครทั้งหมด. ท่านได้ช่วยพระพุทธองค์ประกาศพระศาสนา จนถงบั้นปลายชีวิตก่กราบทูลลาพระพุทธองค์ไปอยู่ป้าหิมวันค์ ไกล สระฉัททันค์ ๑๒ พรรษา เมื่อใกล้จะน่พพานไปเข้าเลาพระพุทธองค์ ทูสขอลานิพพาน และกลบไปนิพพานที่สระฉัททันค์ ๒.ประ^พระวัปปเถระ สถานะเดิม พระรัปปเถระเกิดไนสกลพราหมณที่หฝูบานโทณรัตลุซึ่งอยู่ไม่ ไกลจากกรุงกบิลพัสดุ แคว้นสักกะ บิดามารดาไม่ปรากฏชื่อบิดาเป็นผู้ หนึ่งในจำนวนพราหมณ์ ๘ คน ที่ทำ นายพระสักษณะของมหฺาบุรุษ เป็น ๒ ประการ กสับมาจึงได้สั่งลูกชายไว้ว่า \"ถ้าพระมหาบุรุษออก บวช เจ้าจงบวชดาม\" เพราะดนเองหมดหวังที่จะมีชีวิดอยู่ทันพระมหา- บุรุษออกบวช รัปปมาณพร้บคำสั่งของฟ่อ เมื่อโกณฑัฌญพราหมณ์!ด้ ทราบช่าวว่ามหาบุรุษออกบวชจึงมาชักชวน และพร้อมกันกับมาณพ อีก ๓ คน รวมเป็น ๔ ออกบวชดาม เรื่องราวต่อไปเหมือนกับประวิด ท่านพระกัญญาโกณฑญญะ เมื่อรันแรม ๑ คํ่า เดือน ๘ ได้ทังปกิณก- เทศนากิได้ดวงดาเห็นธรรม จึงทูลขออุปสมบท และเมื่อได้ทังธรรม เทศนาอนัดดสักขณสูดรกิได้บรรลุธรรมเป็นพระอรทันค์ ท่านกิเป็นผู้ หนึ่งที่เป็นกำสังกันสำคัญในการช่วยประกาศพระศาสนา เมื่อดำรงอายุ สังขารอย่พอสมค์วรแก่กาลิกินิพพาน ๑๙

www.kalyanamitra.org ๓. ประวัติพระภัททิยเถระ สถานะเติม พระภ้ททยเถระ{.กดในสกุลพราหม่ณทึ่หฝูบ้านโทณวัตถ รง อยู่ไม่ไกลจากกรุงกบิลพัสดุ แคว้นสกกะ บิดามารดาไม่ปรากฏชื่อ บิดาเป็นผู้หนึ่งไนจำนวนพราหมณ์ ๘ คนที่ทำนายพระลักษณะของ มหาบุรุษ บิดาของดนสั่งไว้เหมือนกับวัปปมาณพ จึงได้ออกบวช พร้อมกัน ๕ คน เรื่องราวต่อไปเหมือฺนท่านพระกัญญาโกณฑัญญะ เมื่อวันแรม ๒ คํ่า เดือน ๘ ได้พังปกิณกเทศนาก็ได้ดวงตาเห็นธรรมจึง ทูลขออุปสมบท และเมื่อได้พังธรรมเทศนาอนัตตลักขณสูดรก็ได้ บรรลุธรรมเป็นพระอรหันต์ ท่านก็เป็นผู้หนึ่งที่เป็นกำลังกันสำคัญ ในการช่วยประกาศพระศาสนา เมื่อดำรงอายุลังขารอยู่พอสมควร แก่กาลก็นิพพาน ๔. ประวัติพระมหานามเถระ สถานะเติม พระมหานามเถระเกิดในสกุลพราหมณ์ที่หม่บ้านโทณวัตถุ ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากกรุงกบิลพัสดุ แคว้นลักกะ บิดามารดาไม่ปรากุฎ ชื่อ บิดาเป็นผู้หนึ่งในจำนวนพราหมณ์ ๘ คน ที่ท่านายพระลักษณะ ของมหาบุรุษ บิดาของดนสั่งไว้เหมือนหัททิยมาณพ จึงออกบวช พร้อม กันทั้ง ๔ คน เรื่องราวต่อไปเหมือนกันกับท่านพระกัญญา- โกณฑัญญะ เมื่อวันแรม ๓ คํ่า เดือน ๘ ได้พังปกิณกเทศนาก็ได้ ดวงตาเห็นธรรมจึงทลขออุปสมบท และเมื่อได้พังธรรมเทศนาอนัตต- ๒๐

www.kalyanamitra.org ลักฃณสูตรก็ได้บรรลุธรรมเป็นพระอรหันส์ พ่านก็เป็นผู้หนึ่งที่เป็น กำ ลังอันสำคญในการช่วยประกาศพระศาสนา เมื่อดำรงอายุลังขาร อย่พอสมควรแก่กาลก็นิพพาน ๙: ประฬพระอัสสรเถระ สถานะเดิม พระอัสสชิเถระเก็ดในสกุลพราหมณ์ที่หยู่บ้านโทณวัตถุร่ง อยู่ใมใกลจากกรุงกบิลพัสดุ แคว้นลักกะ บิด่ามารดาใมฺปรากฏชื่อ บิดาเป็นผู้หนึ่งในจำนวนพราหมณ์ ๘ คน ที่ทำ นายพระลักษณะของ มหาบุรุษ บิดาของดนสั่งใว้เช่นเดียวกับมหานามมาณพ จึงออกบวช พร้อมกันที่ง ๕ คน มีโกณฑัญฌพราหมณ์เป็นหัวหน้าเรื่องราวต่อใป เช่นเดียวกับประว้ตพ่านพระกัญญาโกณฑัฌญะ เมื่อวันแรม ๔ คํ่า เสือน ๘ ใด้พัฝก็ณกเทศนาก็ใด้ดวงตาเห็นธรรม จึงทูลขออุปสมบท วันแรม ๕ดา เสือน ๘ เมื่อพระองค์ทรงเห็นวา ภกษุบ้ญจวัคสืย์ทั้ง ๙ รูป มีอินทรีย์แก่กล้าจึงดรสพระธรรมเทศนาชื่อว่า อนัตตลักขณ- สูตร พอจบพระธรรมเทศนาพ่านก็ใด้บรรลุธรรมเป็นพระอรหันค์ แสดงธรรมแก่อุปดิสสปรพาชก ครั้งเมื่อพระบรมศาสดาทรงส่งพระสาวกใปประกาศพระ ศาสนาคราวแรกพ่านเป็นองค์หนึ่งอ่ยู่ในจำนวนนั้นด้วย ปรากฏว่า พ่านเป็นผู้เฉลียวฉลาดรู้จักประมาณดนใม่โอ้อวดเย่อหยิ่ง กิริยา มารยาทน่าเลื่อมใส เช้าวันหนึ่งพ่านเข้าใปบิณฑบาดในกรุงราชคฤหั ๒๑

www.kalyanamitra.org อุปติสสปริพาชกได้เหนท่านเข้า๓ดความเลื่อมใสจึงขอใหท่านแสดง ธฺรรมให้ฟัง ท่านกล่าวว่าผู้มีอายุเราเป็นคนใหม่บวชได้ไม่นานเพิ่ง มาสู่พระธรรมวินัยนี้ไม่อาจสามารถแสดงธรรมแท่เธอโดยกว้างขวาง ได้ เราจั่กกล่าวโดยย่อพอได้ความแล้วท่านก็แสดงว่า \"ธรรมเหล่า ใดเก็ดแด่เหตุ พระศาสดาทรงแสดงเหตุแห่งธรรมนั้นและความสับ แห่งธรรมนั้น พระศาสดาทรงสั่งสอนอย่างนี้\" อุปดิสสปริพาชกได้ ฟังก็ได้ดวงดาเห็นธรรม จึงนับว่าท่านได้เป็นอาจารย์องคแรกของ พระอัครสาวกฝ่ายขวา คือท่านพระสารีบุตร ท่านดำรงอายุสังขาร พอสมควรแก'กาลก็นิพพาน . ๖. ประว้ตพรฺะยสเถระ สถานะเดิม พระยสเถระ ชื่อเดิมว่า ยสิะ บิดาไม่ปรากฏชื่อ มารดาชื่อว่า นางสุชาดาผู้ถวายข้าวมธุปายาสแด่พระมหาบุรุษท่อนด?สเธรรมเป็น พระสัมมาสัมพุทธเจ้า เกิดในวรรณะแพศย์ที่เมืองพาราถส์ แคว้นกาสื เป็นบุตรเศรษฐีมืปราสาท ๓ ฤดู มูลเหตุแห่งการออกบวช ครั้งนั้นเป็นฤดูฝนยสะนั่งอยู่ในปราสาทสำหรฺบฟักในฤดูฝน มืพวกสฺตรีล้วนบำรุงบำเรอด้วยดนตรีดลอด ๔ เดือน คืนหนึ่งเห็น พวกบริวฺารนอนหสับํมืกิริยาอาการด่าง ๆ เช่น บางนางมืนํ้าลายไหล บางนางละเมอ เหมือนป่าข้าผีดิบ จึงเบื่อหน่ายข้วิตการครองเรีอน ๒๒

www.kalyanamitra.org กลุ้มใจ เปล่งอุทานว่า \"ที่นี่วุ่ยวายหนอ ที่นี่ขัดข้องหนอ\" สวมรองเท้า เดินออกจากบ้านไปยังป้าอิสิปตนมฤคทายวัน ทรงแสดงอนุปุพฟ็กถา ในเวลาเข้ามืดได้พบพระสัม่มาสัมพุทธเจ้ากำลังเสด็จจงกรม อยูในที่แจ้งทรงได้ยินเสียงของยสะ พระองค์จึงตรัสว่า \"ดูก่อนยสะ ที่นึ่นทุนวาย ที่ฟ้!ฝขัดข้อง มาเถิดยสะนั่งลงเราจกแสดํงธรรมแก่เธอ\" ยสะดีใจถอดรองเท้าแล้วเดินเข้าไปหา พระองค์ทรงแสดงอนุปุพพิกถา คือถ้อยคำที่กล่าวโดยลำดับ ๔ ประการ ๑. ทานกถา คือ การให้ทาน ๒. สีลกถา คือ การรักษากายวาจา ให้เรียบร้อย ๓. ลัคคกถา คือ การพรรณนาถึงสวรรค์ว่าเมื่อบุคคลให้ทาน รักษาศีลแล้วจะมืสวรรค์เป็นที่ไป ๙. กามาท้นวกถา คือพูดถึงโทษความตํ่าทราม ความเศร้า หมองของกามว่าเป็นที่มาของความทุกข้ ๔. เนกขัมมานิลังสกถา คือ พูดถึงอานิสงส1นการออกจากกาม ต่อจากนั่นพระอุงค์ทรงแสดงสามกงสิกธรรม คือ อริยลัจ ๔ มีทุกข์สมุทัยนิโรธมรรคเมื่อจบพระธรรมเท่ศนา ยสะได้ดวงดา เห็นธรรมเป็นพระโสดาบัน ปฐมอุบาสก ครั้นรุ่งเข้าบิดาออกดามหาบุตรไปที่ป้าอิสิปตนมฤคทายวัน เห็นรอยเท้าของบุตรจึงเดินเข้าไปเuาพระลัมมาลัมพทธเจ้า พระองค์ ๒๓

www.kalyanamitra.org แสดงสิทธาภิสังขารทอการปรุงแต่งฤฑธิ๋ขึ๊นไม่!.ห้รศาพ็นบุตร ทรง แสดงอนุปุพพิกถาและอริยสัจ ๔ ให้ฟ้ง ครั้นจบพระธรรมเทศนา เศรษฐีได้ดวงตาเห็นธรรมสำเร็จเป็นพระโสดาบัน ฝ่ายยสะกุลบุดร นั่งฟังธรรมอยู่ด้วยเป็นครั้งที่ ๒ ได้บรรลุธรรมเป็นพระอรหนต์ เศรษฐี ประกาศดนเป็นอุบาสกขอถึงพระรัดนดรัยคือ พระพุทธ พระธรรม และพระสงฟ้ว่าเป็นสรณะตลอดชีวิตเป็นอุบาสกคนแรก(ปฐมอุบาสก) ที่ขอถึงพระรัดนํตรัยเป็นสรณะไนโลก เรียกว่า เดวาจิกอุบาสก ขอบวชในพระพุทธศาสนา ครั้นยสะเป็นพระอรหฺนตแล้ว พระพุทธองค์ทรงคลายฤทธ ให้บิดากับบุตรได้เห็นกันเศรษฐีได้ชวนยสะกลับบาน พระองค์ตรัส ว่า ยสะเป็นพระอรหันค์แล้วไมไช่ผู้ที่จะกลับไปครองเรีอ.นอีก เศรษฐี อาราธนาพระองค์ไปเสวยภัตตาหารที่บ้านในรันรุงขึ้น เมื่อเศรษฐี กลับไปแล้วยสะได้กราบทูลขออุปสมบท ทรงอนุญาตด้วยพระดำรัส ว่า \"เธอจงเป็นภิกษุมาเถิด ธรรมลันเรากลาวดีแล้ว เธอจงประพฤดี พรหมจรรย์เถิด\" ไม่มีคำว่า \"เพื่อทำที่สุดแฟงทุกข์โดยชอบเถิด\" เพราะว่ายสะได้บรรลุธรรมเป็นพระอรหันค์ถึงที่สุดแห่งทุกข์แล้ว ปฐมอุบาสิกา ในเวลาเชีาในรันรุ่งขึ้นพระพุทธองค์เสด็จไปบ้านเศรษฐีมี พระยสะเป็นบัจฉาสมณะ. ประทับนั่งบนพุทธอาสนที่เขาปูลาดถวาย ลำ ดับนั้นมารดาและภริยาเก่าของพระยสะได้เข้าเฝืา พระองค์ทรงแส tear

www.kalyanamitra.org ดงอนุปพฟ้กถาและอริยสัจ ๔ เป็นครั้งท ๓ เมื่อจบพระธรรมเทศนา มารดาและอดีตภรรยาของท่านพระยสะทง ๒ ได้บรรลุธรรมเป็น พระโสดาบนจึงประกาศดนเป็นอุบาสิกาขอถึงพระรัดนดรัยมีพระพุทธ พระธรรม และพระสงฆเป็นสรณะดลอดชีวิด ต่อจากนั้นรดามารดา และภริยาเก่าได้อังคาสพระพุทธองค์และพระยสะด้วยอาหารอันประณีต เมื่อเสร็จภัดดกิจแล้วเสด็จกสับป้าอิสิปดนมฤคทายวัน(มารดาและ ภริยาเก่าเป็นอุบาสิกาอุ่แรกในโลกที่ขอถึงพระรัตนตรัย) การบวชของทานเป็นเหตุชักจูงให้ผู้อื่นมาบวชอีกเป็นอัน มาก เช่น สหาย ๔๔ ดุน และท่านได้ช่วยเป็นกำสังสำคัญในการ่ ประกาศพระศาสนาในคราวแรก เมื่อดำรงอายุสังขารอยู่พอสมควร แก่กาลก็นิพพฺาน ๗. ประวตพระวิมลเถระ สถานะเดิม พระวิมลเถระเป็นบุดรเศรษฐีในเมืองพาราณสิเป็นสหายของ พระยส่ะ บิดามารดาไม่ปรากฏชื่อ เกิดในวรรณะแพศย์ที่เมืองพาราณสิ แคว้นกาสิ ได้ทราบช่าวว่ายสะออกบวชจึงคิดว่า พระธรรมวิพัJที่ยสะ ออกบวชคงจะไม่เลวทรามคง่ป้ระเสริฐอำนวยประโยชนั้แก่ผู้ประพฤติ ปฐบิติ คิดคังนั้นแล้วจึงไปชวนสหายอีก ๓ คือ สุพาหุ ปุณณชี ควัมปติพากัน่ไปหาพระยสะ พระยสะพาเข้าไปเมืาพระบรมศาสดา พระองค์ทรงสั่งสอฺนจนได้บรรลุธรรมพิเศษแล้ว ประทานอุป่สมบทด้วย เอห้กิกฃุอุปสัมปทา และทรงสั่งสอนจนบรรลุธรรมป็นพระอรหันค์ ๒รr

www.kalyanamitra.org ฟานเป็นผู้หนึ่งที่ได้ถูกส่งไปประกาศพระศาสนาคราวแรกยังกลบุตร ไห้เกิดความเลื่อมไส เมื่อท่านดำรงอยู่ตามสมควรแก่กาลก็นิพพาน ๘. ประวตพระสุพาหุเถ่ระ สถานะเสิม พระสุพาหเถระเป็นบุตรเศรษฐ1นเมืองพาราณสืเป็นสหายของ พระอสะบิดามารตาไม่ปรากฏชื่อ เกิดในวรรณะแพศย์ที่เมืองพาราณสื แคว้นกาสื ได้ท.ราบข่าวว่ายสะผู้สหายออกบวชจึงมืความคิดเช่นเดียว กับพระวิมละจึงพร้อมกับท่านวิมละ ปุณณช ควัมปติ ไปหาพุระยสะ พระยสะพาเข้าไปเตาพระบรมศาสดา พระองคทฺรงสั่งสอนจนได้บรรลุ ธรรมพิเศษแล้วประทานอุปสมบทด้วยเอหิกิกขุอุปสัมปทา และทรงสั่ง สอนจนบรรลุธรรมป็นพระอรหันต์ช่วยประกาศพระศาสนา เช่นเดียว กับพระวิมลเถระ ท่านดำรงอยู่ดามสมควรแกอายุขัยก็นึ่พพาน ๙.ประว้ตพระปุณณรเถระ สถานะเดิม พรฺะปุณณข้เถระเป็นบุตรเศรษฐในเมืองพารา.ณสิเป็น่สหาย ของพระยสะ บิดามารดาไม่ปร่ากฎชื่อ เกิดในวรรณะแพศย์ที่เมื่อง พาราณสิ แคว้นกาสิ ได้ทราบข่าวว่ายสะผู้สหายออกบวชจึงมืค่วาม คดเช่นเดียวกับพระวิมละจึงพร้อมกับท่านวิมละ สุพาห ควิมปติ ไปหาพระยสะ พระยสะพาเข้าไปเตาพระบรมศาสดา พระองต์ทรง สั่งสอนจนได้บรรลุธรรมพิเศษแล้วประทานอุปสมบทด้วยเอหิภกฃุ- ๒๖

www.kalyanamitra.org อุปสัมปทา และทรงสั่งสอนจํนบรรลุธรรมเป็นพฺระอร่หันต ช่วย ประกาศพระศาสนาเช่นเดียวถับพระวิมลเถระ ทานดารงอยู่ตามสมควร แค่อายุขัยก็นิพพาน ♦ ๑๐. ประ ะคสัมปสิเถรร สถานะเดิม พระดวัมปดิเถระเป็นบุตรเศรษฐีในเมืองพาราณสีเป็นสหฺาย ของพรุะยุสะ ป็ดามารดาไม่ปรากฏร่อ เก็ดในวรรณะแพศย์ที่เมือง พาราณสี แคว้นกาสี ได้ทราบช่าวว่ายสะผู้สหายออกบวชจึงมืความดีด เช่นเดียวกับพระวิมละจึงพร้อมก็บท่านวิมละ สุพาหุ ปุณณซิ ไปหา พระยสะ พระยสะพาเข้าไปเฝืาพระบรม่ศาสดา พระองค์ทรงสั่งสอน จนไดบรรลุธรรมพิเศษแลวประทานอุปสมบทด้วยเอฺหิภกฃอุปสัมปทา และทรงสั่งสอนจนบรรลุธรรมป็นพระอรหันค์ช่วยประกาศพระศาสนา เช่นเดียวกับพระวิมลเถระ ท่านดำรงอยู่ตามสมควรแค่อายุขัยก็นิพพาน ป็ญหาและเฉลยอนพุทธประวิด บทที่ ๑ ๑. อนพุทธบุคศลฺดีอบุคคลพวกไหน ได้ร่อว่าอย่างนั้นเพราะเหตุไร เป็นฟ้กบวชหรือบุคคลทั่วไป ? ตอบ คือบุคคลผู้เป็นสาวกของพระพุทธเจ้า ได้ร่ออย่างนั้นเพราะ เป็นผ้ร้ตามพระพทธเจ้า เป็นนักบวชก็มื เป็นบคคลทั่วไปก็มื ฃข <1 s, •ไ: q ๒. สัมมาสัมพุทธะ ป็จเจกพุทธะ และอนุพุทธะ ด่างกันอย่างไร ^ การเรืยนอนุพุทธปฺรุะวิดสำเร็จประโยช่น์อย่างไร? ๒๙

www.kalyanamitra.org ตmjสัม^สัมทุฑธะ ตร้สรู้เองโดยชอบ และสอนผู้อื่นให้รู้ตามได้ด้วย ปัจเจกพุทธะ ตรัสรู้เฉพาะตน แต่ไฝสามารถสอนผู้อื่นให้รู้ตามได้ อนุพุทธะ ตรัสรู้ตาม คอมีพระพุทธเจ้าสั่งสอนจงรู้ตาม่ได้ และ สามารถสอนผู้อื่นให้กระทำตามได้ด้วย เพื่อจะได้ทราบความเป็นไป และปฏิปทาของท่าน ที่ได้ช่วยประกาศพระศาสนาในที่นน ๆ จนฺ เป็นเหตุเจรึญแพร่หลายและมั่นคง แล้วจักได้ถือเป็นทิฏฐานุคติ ปาเพ็ญประโยชนตนและประโยชน์ท่านโตยควร่แก่ฐานะของตน ทั้งให้สำเร็จเป็นสังฆานุสสติมั่นคงอีกด้วย ๓.พระสาวกสงฆ์ผู้ได้ชึ่อว่าอนุพุทธะ มีความสำคัญอย่างไร? ตอบ มีความสำคัญ คือพระสาวกสงฆ์จัตเป็นรัตใแ;ประการหนึ่ง ในรัตนะ ๓ นึ่งเป็นผู้มีศีลและทิฎแสมอกัน ถ้าไม่มีพระสาวก สงฆ์เป็นผู้รู้ธรรมและรับปฏิบติธรรม ความตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า' ก็ไม่สำเร็จประโยชน์ และพระสาวกสงฆ์นั้นได้เป็นกำลังใหญของ พระศาสนาในอันช่วยประกาศพระธรรมประติษฐานพระพุทธศาสนา ขึ้น เพื่อประโยชน์สุขแก่ชนเป็นอันมาก ๔.การศีกษาอนุพุทธประวดให้ประโยชน์อย่างไรต่อเจ้าของประว้ติ? ตอบ เป็นการประกาศเกีย่รติคุณพระสาวกผู้เป็นอุปการะแก่พระ- ศาสนาได้เชิตชูพระคุณท่าน นำ เพื่อนร่วมศาสน์าให้เก็ตปสาทะ และนับถือความดีของพระสาวกปรากฏแล้วจักเชิตชูพ่ระเกียรติคุณ ของพระคาสตายิ่งขึ้น ๔.ประรติอนุพุทธบุคคลมีความสำคัญต่อผู้ศีกษาอย่าง่ไร? ตอบ.ท่าให้ผู้ศีกษาได้รับความรู้ในจริยารัตรและคุณความดีที่ท่าน ได้บำเพ็ญมาตลอตจนถืงผลงานในการช่วยเผยแฝ่พระพุทธศาสนา ๒07

www.kalyanamitra.org อันy5าให้เจริญสืบมาถึงทุกวันนี้นาให้เกิดความเลื่อมใสและความ นับถึอ เป็นทิฏฐานุคติอันดี สามฺารถน้อมนำมาปฏิบติตามไดี ๖. อฺนุทุฑธบุคคล ดีอใคร ท่านเหล่านั้นมีความสำคญด่อ'พระศาสดา อย่างไร? ตอบ คือ สาวกผู้ตรัสรู้ตามพระ'พุทธเจ้า มีความสำคัญอย่างนี้ แม้ พระศาสตาได้ตรัสรู้และทรงแสตงธรรม แต่เมีอขาตผู้รู้ธรรมและ รับปฏิบติ ความตรัสรู้ของพระองค์กิไฝสำเร็จประโยชน้ ๗.'พุทธิบุคคลมีกี่ประเภทอะไรบ้าง? ศอบ มี ๓ ประ๓ท คือ -๑.พระสัมมาสัมพุทธะ ๒. พระบ้จเจกพุทธะ ๓. พระอนุพุทธะ ๘.พระอัญญาโกผฑญญะ ร่อเติมว่าอะไร เกิดที่ไหน เรียนจบอะไร ท่าไมจึงได้ร่ออัญญาโกณฑัญญะ ? ตอบ ชื่อเติมว่า โกณ®คัญญะ เกิตที่บ้านพราหมณ์ชื่อโทณวัตถุอยู่ ไม่ฟางจากกรุงกบิลพัสดุ เรียนจบไตรเพทและรู้ตำราทำ'น่ายสักษณะ เพราะอาคัยพระอุทานว่า อฌฺญาสิ ที่แปลว่า ได้รู้แล้ว ที่พระผู้มี พระภาคเจ้าทรงเปล่งเมื่อท่านโกณ®คัญญะได้ตวงตาเห็นธรรม ๙. พระอัญญาโกณ®คัญญะท่านมีความรู้เห็นอย่างไรก่อน จึงนับว่า เป็นปฐมอริยสาวก ท่านได้ริบเกียรติเป็นพเศษเพราะเหตุนี้ อย่างไรบ้าง? ตอบ ท่านมีความเห็นว่า \"สิ่งไตสิ่งหนึ่งมีความเกิตขึ้นเป็นธรรมตา สิ่งนั้น'ทั้งหมตมีความคับไปเป็นธรรมตา\" ท่านได้รับเกียรติเป็น ๒๙

www.kalyanamitra.org พิเศษเพราะเหตุที่ พระบรมศาสดาทรงเปล่งอุทานว่า:\"อณุฌาสิ วต โภ โกณฺฑณุโฌ อณุฌาสิ วต โภ โกณุฑณุโฌ\" แปลว่า โกณฑัญญะได้รู้แล้วหนอ ๆ ตั้งแต่mเมาท่าน่ก็มีนามว่าอัญญา- โกณฑัญญะ นี้เป็นเกียรติพิเศษสำหรับท่านผู้เป็นอริยสาวก ๑๐. พระอ้ญญาโกณฑัญญะใคร่ครวญดูดามประวดความเร่อถือของ ท่านหนักไปทางไหนในตำรททายลักษณร?ครือฺในอัดตกีลมถานุโยค ปฏบดฃอฟังเหตุผล? ดอบ เห็นว่าหนักไปในอัตต้กีลมถานุโยคปฏิป๋ติ เหตุผลคือเติม ท่านเชือตำราแนใจจึงบวชตามและเพาอุป๋ฏฐาก ครั้แเห็นทรงเลิก ทุกรกิริยากีสิ้นหวัง นี่กีเพราะเร่อมั่นในอัตตกิลมถานุโยคปฏิบติว่า เลิกเสียเป็นอันไม่สำเร็จ เมื่อพระองค์ตรัสบอกว่า สำ เร็จแล้วก็ คัดค้านไม่เร่อถือ อาการที่คัดค้านและพูดถ้อยคำที่แสดงอคารวะ นั้น-เป็นเครื่องยืนอันความเห็นคังกล่าว . ๑๑.พุทธบริษท่ ๔ ผู้เป็นอริยสาวก มีลำ คับการเกิดขึ้นก่อนัหลังคัน อย่างไรบุค่คลแรกของแต่ละบริษ้ทนั้นคือใคร? ตอบ มีสำ คับอย่างนี้ คือ ภิกษุ อุบาสก อุบาสิกา และภิกษุณี พระอัญญาโกณฑัญญะ เป็นคนแรกของภิกษุบริพั บิดาของพระยสะเป็นคนแรกของอุบาสกบริษท มารดาและภรรยาของพระยสะ^เป็นคนแรกของอุบาสิกาบริอัท พระนางปชาบดีโคตฺมี เป็นค่นแรกของภิกษุณีบริฟัท - ๑๒.พระอัญญาโกณฑญญะมีมูลเหตุดูงใจอะไร จึงได้ออกบวชตาม อุบิฏฐากพระมหาบุรุษขณะบำเพ็ญทุกรกิริยา? ตอบ เพราะได้เคยเข้าร่วมทำนายพระลักษณะของพระมหาบุรุษ ๓๐

www.kalyanamitra.org โดยเชื่อมั่นจาจะตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าจึงต่ามอุป๋ฏฐากด้วยหวังว่า .เมื่อพระมหาบุรุษตรัสรู้จักทรงเทศนาโปรด ๑รfti อนุพุทธองค์แรกส์าเร็จเป็นพร่ะภิกษุต้จ่ยพระพุทธดำรัสว่าอย่างไร อนุพุทธองค์นั้นได้เป็นพระโสดาบันและได้เป็นพระอรหนค์เพราะ ได้ฟังพระธรรมเทศนาอะไร? ตอบ ด้วยพระพุทธดำรัสว่า \"ทานจ้งเป็นภิกษุมาเถิดํ ธรรมอัน เรากล่าวดีแล้ว ท่านจงประพฤดีพรหมจรรย์ เพื่อทำที่สุดทุกฃโดย ชอบเถิด\"ได้เป็นพระโสดาบัน เพราะได้ฟังธัมมจักอัปปวัตตนสูตร และไศุ้เป็นพระอรหันค์ เพราะได้ฟังอนัตตอักขณสูตร ๑๔.พระบัญจวัคคีย์ได้สำเร็จเป็นพระอรหันต์ เพราะฟังธรรมเทศนา ชื่ออะไร พระธรรมเทศนานั้นโดยย่อว่าด้วยเรื่องอะไร? ดอบ ชื่อ อนัตตอักขณสูตร ว่าด้วย รูป เวทนา สัญญา สังขาร วฺญญาณ ไม่เที่ยง เป็น่ทุกข์ เป็นอนัตตา. ๑๔.พระพุทธดำรัสมีดวามว่าอย่าง่ไร เป็นเหสุให้บัญจวัคคีย์ยอมฟัง ธรรมเทศนา? ดอบ พระดำรัสว่า \"ท่านทั้งหลายจำได้หรือวาจาเช่นนี้(คือ วาจา ว่าเราได้บรรลุอมตธรรมแล้ว),เราได้เคยพูดแล้ว ในปางก่อน แต่กาลนี้\" ๑๖;คำ ที่มีอย่ในธัมมจักอัปปวัดดนสูดรต่อไปนี้ ได้แก่อะไรบ้าง? ก: ส่วนสุด ๒ อย่าง ข. บัชฌิมาปฏิปทา ดอบ ก.ส่วนสุด ๒อย่างคือ. ๑. กามสุขัล.ลิกานุโยค ความหมกมุ่นอย่ในกาม ๒,อัตตกิลมถานโยค ความทำตนให้ลำบาก ๓๑

www.kalyanamitra.org ข/มชฌิมาปฏิปทาได้แก่ขอปฏบฺตสายกลาง คือ มรรครองค์๘ ๑๗.1โญจว้คคืย์ทั้ง ๕ฟ่าน่ได้ดวงตาเห็นธรรมก่อนหลังก้นอย่างไร? ตอบ ท่านฺโกณฑัญญะได้ดวงตาเห็นธรรมเป็นองค์แรก ต่อมาท่าน วัปปะ และท่านภัททยะจึงได้ และต่อมาท่านมหานามะและท่าน อัสสชิจึงได้ตามลำดับ ๑๘.อนัดดลักขณสูดรและอาห็ดดปริยายสูตร ว่าด้วยเรื่องอะไร ทรง แสตงแก่ใคร? ตอบ อนัตตลักขณสูตร ว่าด้วยเรื่อง ขันธ์ ๙ คือ รูป เวทนา สัญญาสังขาร วิญญาณ เป็นอนัตตาทรงแสดงแก่พระป๋ญจวัคคืย์ อาทิตดปริยายสูดร ว่าด้วยเรื่องสิงทั้งปวงเป็นของร้อน ร้อนเพราะ ไฟคือราคะ โทสะ โมหะ ทรฺงแสดงแก่ชฏิล ๓ พี่น้อง พร้อมด้วย บริวาร ๑,๐0๐ คน ๑๙.พระขัญจวัคคีย์ได้บรรลุเรนพระอรหนค์พร้อมก้น แต่พระลัญญา- โกณฑัญญะ ได้ริบยกย่องเป็นปฐมสาวก เพราะเหตุไร? ตอบ เพราะพระสัญญาโกณฑัญญะเป็นผู้ได้ดวงตาเห็นธรรมก่อน และได้รับอุปสมบทก่อนองค์อื่น ๒๐.พระป็ญจวัคคีย์องค์ไหนบ้างได้ศิษย์ดมืความลำดัญต่อพระศาสนา ศิษย์นนชื่ออะไร และเป็นผู้เลศในทางโด ? ดอบ พระสัญญาโกณฑัญญะได้พระปุณณมันตานีบุตร่เป็นศิษค์ เป็นผู้เลิศในทางธรรมกถึก พระสัสสชิได้พระสารีบุตรเป็นศิษย์ เป็นผู้เลิศในทางมีมัญญามาก ๒๑. เมื่อครั้งที่พระอรหนํค์ ๖๑ องค์ เทิดชื่นในโลก มีใครบ้าง? ดอฺบ มีพระพุทธองค์ ๑ พระบ้ญจวัคคีย์ ๕ พระยสะ ๑ สหายของ ๓๒

www.kalyanamitra.org พระยสะที่ปรากฏนาม ๔ และที่ไม่ปรากฏนามอีก ๔๐ . ๒๒.พระพุทธองค์ทรงส่งสาวกออกไปประกาศพระศาสนา เพราะ ทรงเห็นประโยชน์อ่ะไร? ตอบ ทรงเห็นประโยชน์เกื้อกูลแก่มหาชน เพื่อให้เห็นธรรมและ ตั้งอยู่ในสุมมาปฏิบติอันเป็นป็จจัยแห่งความสุขความสงบ ๒».พระวาจาว่า ท่านจงเป็นภิกaพุ4าเถิด ธรรมอันเรากส่าวดีแล้ว ท่านจงประพฤติพรหมจรรย์ เพื่อทำที่สุตทุกข์โดยชอบเถิด ดงนี้ คำ ว่าที่สุดทุกข์ ดีออะไร ผู้ทำ ที่สุดทุกข์ไล้ก่อนกว่าผู้อึ๋นคอใคฺร ล้วยพระธรรมเทศนาอะไร? ตอบ คือ พระอรหัตผล คือพระภิกษุฟ้ญจวัคคืย์ ด้วยพระธรรมเทศนาร่อว่า อนัตตอักขณสูตร่ ๒๔.ธรรมที่พระอัสสชิแสดงนก่อุปติสสปรพาชกมีเนี้อความอยางไร? ดอม ธรรมนั้นมีเนี้อความว่า \"ธรรมเหล่าใดเถิดแต่เหต พระดลาคต ตรัสเหตุแห่งธรรมนั้นและความดับแห่งธรรมนั้น พระมหาสมณะ มีปกติตรัสอย่างนี้ ฯ\" ๒๔.มารยาทดีมีความส่ารวมย่อมฟืนศรีของสมผะ สามารถจะปลูก ศรีทธาเลื่อมใสให้เถิดแก่ผู้พบเห็น เป็นปฏิปทาจริยาวัตรของ พระสาวกรูปใดจงเล่าประวตของท่านโดยย่อ? ตอบ ของพระอัสสชิเถระ ท่านเป็นหนึ่งในพระป๋ญจวัคคืย์ ได้ฟ้ง พระธรรมเทศนาจนได้บรรลุพระอรหันค์แล้ว ได้เป็นกำอังในการ ประกาศพระศาสนา อุปติสสปริพาชกพบเห็นแล้วเถิดความเลื่อมใส ขอฟังธร์รมจากท่านแล้วได้เข้ามาบวชในพระพทธศาสนา ๓๓

www.kalyanamitra.org ๒๖.พระยสะมีมารดาบิดา^มิลำ!,นาอยู่ที่ไหน ออกบวช!,พราะเหตุ่ไร? ตอบ อยู่ที่ฒืองพาราณflกล้ป้าอิสิปตนมฤคทายวัน เพราะมีความ. เบื่อหน่ายในการครองฆราวาส เนื่องจากได้เห็นอ่าการของพวก ชนบริวารอันวิปริตไปโดยอาการต่าง ๆ ไม่เป็นที่ตั้งแห่งการยังจิต ให้เพลิดเพลินจงได้เดินออกจากเรือนไป พบพระพุทธองค์ได้ฟัง ธรรมเทศนาจบบรรลุเป็นพระอรหันต์ จึงได้ออกบวช ๒k เศร!!^ดาพระยสะออกดิดฺดามหาพระยสะให้กลับบ้าน แต่เหตุ ไฉนเมื่อพบแล้วจิงมิได้นำกลับไปดามประสงค์เดิม ? ตอบ เพราะได้ทราบว่า พระยสะบรรลุเป็นพระอรหันต์แล้ว ไม่ควร เพื่อจะกลับไปครองเรือนอีกต่อไป ควรจะออกบวชเป็นพระภิกษุ ๒๘. พระสาวกผู้ส์าเร็จเป็นพระอริยบุคคลเพราะฟังธรรมเทศนาเรึ๋อง เดียวซํ้า ๒ ครั้งคือใครธรรมเทศนาเรึ่อฺงอะไร? ต่อบ คือ พระยสะ เรื่องอนุปุพพิกถาและอริยสจ ๔ ๒๙. เอห็ภิกขอุปสัมปทาที่ประทานแก่พระบ้ญจวัคคืย์ และพระยสะ ต่างลันอย่างไร เพราะเหตุไร? ตอบ ต่างลันคือที่ประทานแก่พระบ้ญจวัคคียมีคํ!ว่า.เพื่อทาที่สุด่ ท่กข์โดยชอบ ส่วนที่ประทานแก่พระยสะไม่มีคำว่าเพื่อทำที่สุดทุกข์ โดยชอบ เพราะพระยสะได้ถึงที่สุดทุกข์แล้ว ๓๐.อนุปุพฟิกถา คืออะไร ทรงยกขึ้นแสดงด้วยพระพุทธประสงค์ อย่างไร พระสาวกผู้ได้ฟังอนุปุพฟิกถาครั้งแรกคือใคร ณ ที่ไหน?; ตอบ คือ ถ้อยคำที่กส่าวโดยลำดับ ด้วยพระพุทธประสงค์เพื่อฟอก จิตกุลบุตรให้ห่างไกลจากความยินดีในกาม ควรรบพระธรรมเทศนา ให้เกิดธรรมจักษุเหมือนผ้าที่ปราศจากมลทิน ควรรบนํ้าย้อมได้ ๓0:

www.kalyanamitra.org ฉะนั้น คือ ยสกลบุตร ณ ป่าอิสิปตนมฤคทายวัน ๓๑. พระพุทธเจ้าทรงทาอิทราภิสังขารแกไครเป็นครั้งแรก ? ตอบ ทรงทำแก่ยสกุลบุตรและบิดาของยสกุลบุตร ๓๒^ พระพุทธ่เจ้าทรงแสดงอนุปุพฟ้กถา ครั้งที๋ ๔ แก่ใคร ทรง แสดงครั้งนี้ ณที่ใดมีผลเป็นอย่างไร? ตอบ ทํรงแส่ดงแก่สหายของพระยศ ๔ คน คือ วิมละ สุพาหุ ปุณณชิ ควัมปติ ทรงแสดงที่ป่าอิสิปตนมฤคทายวัน เมืองพาราณสี ผลการแสดงครั้งนี้กุลบุตรทั้ง ๔ คน สำ เร็จโสดุาป๋ตติผลและทูล ขอบรรพชาอุปสมบทในพระพทธศาสนา ๓&:

www.kalyanamitra.org อนุพุทธประว้ต๊ บททึ๋ ๒ องค์ที ๑๑ - ๒๐ ๑๑. ประฬพระนาลกเถระ สถานะเดิม พระนาลกเถระ เป็นบุตรน้องสาวของอสิตดาบส หรือกาฬ- เทวิลดาบส เกิดในวรรณะพฺราหมณ กิเมืองกบิลฟ้สดุ แคว้นสักกะ ท่านออกบวชเป็นฤๅษีอยู่ ๓๔ ปี เมื่อได้ทราบว่าพระพุทธเจ้าเกิด ขึ้นแล้วจึงเดินทางไปเข้าเฝืาที่ป้าอิสิปดนมฤคทายวัน มลเหตุแห่งการออกบวช เมื่อครั้งพระมหาบุรุษประสูดิใหม่ ๆ กาฬเทรสดาบสไปเยี่ยม เกินพระสักษณะแล้วเชื่อแน่ดามตำราพยากรณว่าพระองค์จะเสด็จ ออกบวชและจักเป็นศาสดาเอกของโลก จึงแนะนำนาลกะให้บวชนาลกะก็ ทำ ดามคำแนะนำ เมื่อพระองค์ดวัสรู้แล้วได้เข้าไปเฮาทูลถามป๋ญหา. เกี่ยวกับโมเนยยปฐบิดิ พระองค์ทรงพยากรถ!Iดยฟ้ยฟ็นด้นว่า พงทำ จึตให้เสมอในสัด่ว์และบุคคลทั้งปวง อย่าโกรํธ อยาโทมนัสสับแด้นใจ เมื่อถูกดา เมื่อจบคำพยากรณ์ท่านเกิดความเลื่อมใสทูลฺขอบวช ๓๖

www.kalyanamitra.org บรรลุธรรมเป็นพระอรทนต์ เมื่อได้บวชแล้วทูลลาไปอยู่ป่าบำเพ็ญเพียรในโมไนยปฏิป๋ติ อย่างเคร่งครัดถือหลักปฏบดมกน้อย ผ ประการ ถือมกน้อยไนการ เห็น มักน้อยไนการฟัง มักน้อยไนการถาม และถือไม่อยู่ป่าแฟง เถืยวิถืง to รัน ไม่นั่งที่โคนด้นไมัเดียวถืง to รัน ไม่บิณฑบาตที่ บ้านเดียวถืง to รัน ไม่ช้ากบรร่ลุธรรมเป็นพระอรหันต์ พระสาวกผู้ ปฎิบ้ติอย่างอุกฤษฏ์มีชีวิตอยู่ได้ ๗ เดือน ถ้าปฎิป๋ติอย่างปานกลาง มีชีวิตอยู่ได้ ๗ ปี ถ้าปฎิบ้ติอย่างน้อยมีชีวิตอยู่ได้ ๑๖ ปี พระนาลก- เถระเป็นพระสาวกองต์เดียวเทานั้นที่บำเพ็ญโมไนยปฏิบ้ติ เพราะ เหตุที่ท่านปฺฏิบิติอย่างเคร่งครัตจึงมีอายุอยู่ได้เพียง ๗ เดือนเท่านั้น แล้วท่านก็ยนพ็งภูเขาทองยกมือประนมหันหน้าไปทางที่พระพทธเจ้า ประหับอยู่แล้วนิพพาน ๑๒.ประ^พระอุรุเวลฑัสิสปะ สถานะเดิม พระอุรุเวลกัสสปะ ชื่อเติมว่า กัสสปะ บิตามารตาไม่ปรากฏ ชื่อ เกิตไนวรรณะพราหมณที่เมีอฺงพาราณสิ แคว้นกาสี ตระกูล ถัสสปโคตร ศึกษาจบไตรเพทตามลัทธิพราหมณ์ ท่าใฟ้น้องชาย สองคนชื่อกัสสปะเหมือนกัน. ต่อมาทั้ง ๓ ท่านพ็จารณาเห็นว่า ความฺรู้ที่มีอยู่นั้นไม่มีแก่นสาร มีแต่เพียงประโยชน!นบ้จจุบันเท่านั้น จึง่ได้ชกชวนกันออกบวชเป็นฤษี บำ เพ็ญพรตด้วยการบูชาไฟ พี่ ชายคนโตตั้งอาศรมอย่ที่ริมฝังแม่นํ้าคงคา ตำ บลอุรุเวลาเสนานิคม่ ๓6/

www.kalyanamitra.org จึงไดนามว่า อุรุเวลกัสสปะ มีบริวาร ๔๐๐ คน น้องข่ายคนกลางตั้ง อาศรมอยู่ที่ทางโค้งแม่นํ้าคงคาจึงได้นามว่า นทีก้สสปะ มีบริวาร ๓๐๐ คน น้องชายคนเล็กตั้งอาศรมอยู่ที่ตำบลคยาสีสะ จึงได้นาม ว่า คยาก้สส่ปะ มีบริวาร- ๒๐๐ คน มูลเหตุแหงการออกบวช เมื่อพ่ระพุทธองค์ทรงส่งพระสาวก ๖๐ องค์ไปประกาศพระ ศาสนายังแว่นแคว้นต่าง ๆ. พระองค์เสด็จไปที่แคว้นมคธ่เมื่อโปรด อุรุเวลกัสสปะ ระหว่างทางทรงเทศนาโปรดภททวัค่คียักุมาร ๓๐ คนฺ ทรงประทานการบวชแบบเอหิภิกขุอุปสมปทาไห้แล้วส่งไปประกาศ พระศาสนา ตํอจากนนเสด็จไปตำบลอุรุเวลาเสนานิคม ทรงแสดง ปาฏิหาริยต่าง ๆ จนอุรุเวลกัสสปะละทีฏเมานะกลับมาเลื่อมใส เห็นว่า ลัทธิขอฺงตนเองไม่มีแก่นสารอะไรจึงทูลขอบวช อุรุเวลกัสสปะพร้อม ทงบริวารพากันลอยบริขารและเครื่องบูชาไฟลอบไปไนแม่นํ้า พระองค์ทรงประทานการบวชไห้แบบเอห็ภิกขุอุปลัมปทา ด้วยพระ ดำรัสว่า \"เธอจงเป็นภิกษมาเถิด ธรรมอันเรากล่าวดีแล้ว พวกเธอ จงประพฤติพรหมจรรย์ เพื่อทำที่สดแห่งทุกขโดยชอบเถิด\" บรรลธรรมเป็นพระอรหนฺค์ น้องชาย ๒ คนพร้อมทั้งบริวาร เมื่อเห็นบริขารของพื่ชาย ลอยมาดามแม่นํ้า ได้เตินทางไปที่สำนักของพื่ชาย ขุอบวชในสำนัก ของพระพุทธองค์ ทรงประทานการบวชให้ด้วยวิธีเอห็ภิกขุอุปสัมปทา ๓0?

www.kalyanamitra.org เมือบุญบารมีของพระภกษุ ๑,๐๐๓ รูปนั้นแก่กล้าแล้T ทรงเสด็จไป ที่ตำ บลคยาสีสะพร้อมด้วยภิกษุทั้งหมด ทรงแสดงอาทิตดปริยายสูตร สูดฟาด้วยอายตนะภายในและภายนอกเป็นชองร้อน มืเนึ๊อดวาม โตยย่อว่า \"ตา หู จมูก ลิ้น กาย และใจเป็นของร้อน ร้อนเพราะ อะไร ร้อนเพราะไฟคือราคะ ไฟคือโทสะ ไฟคือโมหะ ร้อนเพราะ ความเกิต ความแก่ ความตาย ร้อนเพราะความเศร้าโศก ความ ครํ่าครวญ ความทุกข์ ความโทมนุสและความดับแค้นใจ\" เมอจบ พระธรรมเทศนาภิกษุ ๑,๐๐๓ รูป ได้บรรลุธรรมเป็นพรุะอรหันต งานประกาศพระศาสนา พระอุรุเวลดัสสุปะ เป็นกำลังสำคัญในการประกาศพรุะศาสนา ในุแคว้นมคธ พระพุทธองค์ทรงพาภิกษุ ๑,๐๐๓ รูป เสด็จไปเมือง ราชคฤหั ประหับอยู่ที่สวนตาลหปุม ร่อว่า ลัฏเวัน พระเจ้าพิมพิสาร พระเจ้าแผ่นดินแคว้นมคธทรงทราบข่าวเสฺด็จ พร้อมด้วยบริวารไป เข้าเฝืาพระพุทธองค์ทรงทอดฺพระเนุตฺรเห็นบริวารชองพระเจ้าพิมพิ- สารมืภิริยาอาการไม่เลื่อมใส จึงตรัสให้พระอุรุเวลกัสสปะประกาศให้ คนเหล่านั้นทราบว่า ลัทธิของตนไม่มืแก่นสาร จนคนเหล่านั้นหมด ความสงลัย เพราะว่าคนเหล่านั้นเป็นลูกศิษย์ชองฤษีอุรุเวลกัสสปะ มาก่อน ทรงแสดงอนุปุพพิกถาและอริยลัจ ๔ เวลาจบพระธรรม เทศนุา พระเจ้าพิมพสารพร้อมทั้งบริวาร ๑๑ นหุต ได้ดวงตาเห็น ธรรมคือบรรลุธรรมเป็นพระโสดาบัน อีก ๑ นหุต ตั้งอยู่ในไตรสรณ- คมน์(๑ นหุต = ๑๐,๐๐๐ คน) และพระเจ้าพิมพิสฺารได้ถวายสวน ไผ่ให้เป็นวัดแห่งแรกในพระพุทธศาสนา ร่อว่า 'วัโดเวฬุวัน\" ๓๙

www.kalyanamitra.org ตำ !,Vพน่งเอตทัคคะ พระอุรุเวลกัสสปะท่านได้สั่งสอนปร-ชาชนเป็นจำนวนมาก ให้มีความเลื่อมใสในพระพุทธศาสนา ใด้รบย่กย่องจากพระพุทธองค์ว่า \"เป็นผ้เสิศกว่าภกษุทั้งหลาย ผู้มีบริวารมาก\" ท่านใด้ประพฤติตนช่วย พระพุทธองค์เผยแผ่พระพุทธศาสนา สงเคราะห้พระภิกษุสงฆ และ ประชาชนด้วยพระธรรมมาตลอดอายุขัย ครั้นดำรงอายุสังขารพอ สมควรแก่อัตภาพแล้วก็นิพพานในที่สุด ๑๓. ประวดพระนทีกัสสปะเถระ สถานะเดิม เป็นน้องชายของอุรุเวลกัสสปะ มีนิองชายคนหนึ่งชื่อ คยากัสสปะ เติมเขาเรียกกันว่า กัส่สปะ ตามโคตรทั้ง ๓ พี่น้อง เหตุที่ใด้ชื่อนที กัสสปะ เพราะเมึ่อบวช่เป็นชฎิล ตั้งอาศรมอยู่ริมฝังแม่นํ้าเนรัญชรา ตอนใด้อาศรมของพี่ชายมีบริวาร ๓๐๐.คน เมื่อพี่ชายลอยบริขาร ของชฎิลแล้วบวชในพระพุทธศาสนา ใด้เ,ทีนบริขารลอยมาเข้าใจว่า คงจะเภิดอันตรายแก่พี่ชายตนเอง พร้อมด้วยบริวารรีบใปอาศรม ของพี่ชายเห็นพี่ชาย พร้อมทั้งบริวารอุปสมบทเป็นบรรพชิต ถาม ใด้ความว่า พรหมจรรย์นี้ประเสริฐ จึงพากันลอยบริขารชฎิลตนเอง พร้อมทั้งบริวารทูลขออุปสมบท เมื่อใด้ทังเทศนาอาทิตดปริยายสูตร ที่ ตำ บลคยาสิสะ ก็ใด้บรรลุธรรมเป็นพระห'นค์พร้อมกันิทั้ง ๑,๐๐๓ องค์ ท่านใด้ช่วยทำภิจพระศาสนาตามสมคว่รแก่หน้าที่ ดารง ชนม่ายุอยู่ใด้ตามสมควร่แก่กาลเวลาก็นิพพาน่ (TO

www.kalyanamitra.org ๑๔. ประ^พระคยากัสสปะเถระ สถานะเดิม เป็นน้องชายของอุรุเวลกัสสปะและนทกัสสปะ เดิมเรียกกน่ ว่า กัสสปะ ตาม่โคตรทั้ง ๓ พี่น้อง เหตุที่ได้ร่อว่า คยากัสสปะ เพราะยวชเป็นชฎลตั้งอาศรมอยู่ที่ตาบลคยาสืสะ ที่หวคุ้งแม่นํ้าคยา ตอนใด้อาศรมของ่พี่ชายทั้งสอง มีบริวาร ๒๐๐ คน ได้เห็นบริขาร ของพี่ชายลอ่ยนามา สำ คญว่าอันตรายคฺงเกิดแก่พี่ชายทั้งสอง จึง พร้อมด้วยบริวารพาอันรีบมา เมื่อเห็นพี่ชายทั้งสองพร้อมอับบริวาร ถือเพศ่เป็นบรรพชิต ถามได้ความว่า พรหมจรรยนี้ประเสริฐจึงพา อันลอยบริขารของตน พร้อมอับบริวารทูลขออุปสมบท เมื่อได้ฟัง เทศนาอาทิตตปริยายสูตรที่ตำบลคยาสีสะ ก็ได้บรรลุธรรมเป็นพระ อรหันตพร้อมอันทั้ง ๑,๐๐๓ องค์ ท่านได้ช่วยทำกิจพระศาสนาตาม สดิก่าลังตามกาลเวลาอันสมควรก็น้พพาน 9 ๑๔. ปร่ะวํ®ฟระสารีบุตรเถระ สถานะเดิม พระสารีบุตร ร่อเดิมว่า อุปติสสะ บิดาร่อว่า วังอันดพราหมณ มารดาร่อว่านางสารีพราหมณี เกิดในวรรณะพราหมณี ที่หม่บาน บุตรของนางสารี ท่านมีน้องชาย ๓ คน แล่ะน้องสาว ๓ คน และมี เพี่อนที่สนิทอยู่คนหนึ่งร่อว่า'โกลิตะ ซึ่งเป็นบุตรของหัวหน้าหมูบาน (ร:๑

www.kalyanamitra.org โกลิตะ ทั้งสองท่านมีบริวารคนละ ๔๐๐ บวชกับอาจารย์สัญชัยํ อยู่มาวันหนึ่ง สหายทั้งสองกำลังดูมหรสพบนยอดุเขาใน กรุงราชคฤห์ มีอาการและความรู้สึกไฝเหมีอนเมื่อกํอน คือถึงตอน หัวเราะก็ไม่หัวเราะ ถึงตอนเศร้าโศกก็ไม่เดุร้าโศก ถึงตอนไหรางวัล ก็ไม่ให้รางวัล แต่มีความสลดุใจว่า การดูมหรสพไม่มีประโยชนอะไร เลย แม้คนที่กำลังแสดงอยู่นั้นไม่ถึง ๑๐๐ ปี ก็ตายเหมีอนกันหมด สหายทั้งสองมีความเห็นตรงกันคืดกันว่า ควรออกบวชแสวงหาโมกข- ธรรมดีกว่า จึงออกบวชอยู่ในสำนักของอาจารย์ลัญชฺยปริพาชก พร้อม ด้วยบริวารคนละ ๒๔๐ มูลเหตุแห่งการออกบวชในพระพุทธศาสนา สหายทั้งสองเมื่อบวชแล้วไม่นานก็เรียนจนหมดความรู้ของ อาจารย์ลัญชัย เห็นว่าลัทธินี้ไม่มีประโยชน์อะไรเลย ทั้งสองจึงแสวง หาโมกขธรรมต่อไปและได้ทำกติกากันว่า 'ใครบรรลุอมตธรรมก่อน จงบอกแก่อีกคนหนึ่งด้วย\" วันหนึ่งอุปติสสํปริพาชกเข้าไปในเมีอง ราชคฤห้ เห็นพระอัสสชิกำลังบิณฑบาต คืดว่านั้กบวชผู้มีกิริยาอาการ น่าเลื่อมใสอย่างนี้เราไม่เคยเห็นมาก่อน ท่านน่าจะมีธรรมละเอียด อยู่ภายใน เกิดความเลื่อมใส จึงเตินติดตามไปข้างหลัง เมื่อท่านฉัน ภัตตาหารเสรีจแล้ว เรียนถามว่า \"ข้าแต่ท่านผู้มีอาย อินทรีย์ของ ท่านผ่องใสยิ่งนั่ก ผิวพรรณของท่านก็ผ่องใส ท่านบวชในสำนักของ

www.kalyanamitra.org .ใคร ใครเป็นศาสดาของท่าน และท่านชอบใจธรรมของใคร\" พระ อัสสรตอบว่า \"ผู้มอายุ เราบวชเจาะจงพระมหาสมณะศากยบุตร พระองค์เป็นศาสตาของเรา เราชอบใจธรรมของท่าน\" จึงขอให้ท่าน แสตงธรรมให้ฟัง พระอัสสชิตอบแบบถ่อมตนว่า \"ผู้มีอายุ เราเป็นผู้ บวชใหม่ มาสู่พระธรรมวินัยนี้ไม่นาน ไม่สามารถจะแสตงธรรมโตย พิสดารได้ เราจะกล่าวแต่โตยย่อพอรู้ความ\" ท่านจึงแสดงธรรมโตย ย่อว่า \"ธรรํมเหล่าใดเกิดแต่เหตุ พระดถาคดดรัสเหตุแห่งธรรมเหล่า นั้น และความสับแห่งธรรมเหล่านั้น พระมหาสมณะมีปกติด?สอย่าง นี\"้ อุปติสสปริพาชกครั้นได้ฟังธรรมจบลงแล้ว ได้ตวงตาเห็นธรรม่ เป็นพระโสตาบัน จากนั้นได้ถามพระเถระว่า ขณะนี้พระศาสดาของ ท่านประทับอยู่ที่ไหน ทราบว่าพระพุทธองค์ประทับอยู่ที่วิดเวฬุวิ'น จึงลาพระเถระ กลับไปแสดงธรรมให้แก่สหายโกลิตะฟังก็ได้ตวงตา เห็นธร[รมเหมือนกัน บรรลุธรรมเป็นพระอรทันต์ ทั้งสองท่านชักชวนอาจารยลัญชัยไปเข้าเฝืาพระพุทธอฺงค์ ได้รับการปฏิเสธจึงลาอาจารย์ลัญชัย พร้อมด้วยบริวาร ๒๔๐ คนไป เข้าแ!าพระพุทธองค์ที่วัตเวฬุวัน และทูลขอบวช ทรงอนญาตการ บวชด้วยวิธีเอห็ภิกขุอุปลัมปทา จึงมืชิอใหม่ว่า สารีบุตร หลังจาก บวชแล้ว; ๑๔ วัน ได้ฟังธรรมเทศนาร่อว่า \"เวทนาปริคคหสูตร\" ที่ พระพุทธองฺค์ทรงแสดงแก่ฑีฆนขปริพาชก ซึ่งเป็นหลานของท่าน ที่ ถาสุก่รขาตา เขาคิชฌกูฏ ในวันขึ้น ๑๔ คํ่า เดือน ๓ ส์าเรีจเป็น •๙ พระอรหนต £๓

www.kalyanamitra.org งานประกาสพระศาสนา พระสารีฃตรเป็นกำลังสำคัญอย่างยิ่งในการเผยแผ่พระพุทธ- ศาสนา ฟานได้ชักชวนน้องชาย ๓ คน และน้องสาว ๓ คนให้บวช ในพระพุทธศาสนา กุลบุตรกุลธิดาได้ฟ้งธรรมจากท่านบรรลุธรรม มากมาย ท่านเป็นพระธรรมเสนาบดีลู่คับพระพุทธองคัผู้เป็นพ่ระธรรม- ราชา และเป็นผู้มีความกคัญฺญกตเวทีบวชให้ราธะพราหมณ์ผู้เคยถวาย ข้าวเพียงหนึ่งทัพพี พระพุทธองคทรงยกย่องท่านวา \"สารีบุตรเปรียบ เหมือนมารดาผู้ให้กำเนิดบุตร โมดคัลลา!เะเปรียบเหมือนผู้บำรุง เลี้ยงทารกที่เกิดแล้ว สารีบุตรย่อมแนะนำในโสดาชัดดุผล โมคคัลลานะ ย่อมแนะนำในผลชั้นสูงขึ้นไป\" ตำ แหน่งเอตทัคคะ เนึ่องจากท่านเป็นผู้มีชัญฌามาก สามารถแส่ดงอริย่สจ ๔ให้ พิสดารกว้างขวางเหมือนพระพุทธองค์ จึงได้รีบยกย่องจากพระพุทธ- องค์ว่า \"เป็นเลิศกว่ากิกชุทั้งหลายผู้มืชัญญามาก\" และได้รีบการ แต่งตั้งไว้ในตำแหน่งพระอครสาวกเบื้องขวา พระสารีบุตรนิพพานก่อนพระพุทธองค์ ท่านทูส่ลาไปนิพพาน ที่บ้านเกิตของท่าน ออกเดีนทางไปพร้อมคับพระจุนทะน้องชุายของ ท่านและภิกษบริวาร คณั้ถึงบ้านแล้ว ได้เกิดชักชันริกาพๅธในคืนนั้น (ถ่ายเป็นเลือด) ได้เทศนาโปรดมารดาจนบรรลุธรรุมเป็นพระโสดาบัน และนิพพานในคืนนั้น พระจุนทะและญาติท่าพิธีฌาปนกิจสรีระของ ท่านแล้วนำอเไปถวายแด่พระพุทธฺองค์ โปรดให้ส่ร้างพระเจดีย์บรรจุ อฐิขอิงท่านไว้ใกล้ประตูวั๋ดพระเชตวัน <£<£

www.kalyanamitra.org ๑๖.ประฬพระมหาโมศคัลสานเถร่ะ สถานะเดิม พระมหาโมคคัลลานะชื่ฐเดิมวา โกลตะ บดาชื่อวา โกลดะ มาร่ดาชื่อ่ว่า โมคคัลลี เกดใน์ตระถูลพtไหมณ์ เกดทึ่หมู่บ้านโกลิต ดาม ไม่ไกลจากกรุงราชคฤห บิดาเป็นหัวหน้าหมู่บ้านโกลิต« เมื่อ บวชแล้วได้ชื่อว่า โมุคคัลลานะ เพราริ;เป็นบุตรของนางโมคคัสลี มี สหายรักอยูค่น่หนึ่ง ชื่อว่า อุป้ติสละ ชื่งเป็นลูกชายของหัวหน้า หมู่บ้านอุปดิสสะ บวชคับอาจารย์สัญ้ชัย อยู่มาวันหนึ่ง สหายทั้งสองกำลังดูมหรสพบนยอตเขาใน กรุงราชคฤหั มีอาการและความรู้สึกไม่เหมือนเมื่อก่อน คือสืงตอน หัวเราะก็ไม่หัวเราะ ถึงตอนเศร้าโศกก็ไม่เศร้าโศก ถึงตอนให้รางวัล ก็ไมให้ราง่วัล แตมีความสลตใจว่า การดูมหรสพไม่มีประโยชน้อะไร เลย แม้คนที่กำลังแสตงอยู่นั้นไม่ถึง ๑๐๐ ปี ก็ตายเหมีอนคันหมต สหายทั้งสองมีความเห้นตรงคันคตกน้ว่า ควรออกบวชแสวงหาโมกข- ธรรมดีกว่า จึงออกบวชอยู่ในสำนกฃอง่อาจารย์ลัญชัยปริพาชก พร้อม ด้วยบริวารคนละ ๒๔๐ มูลเหตุแห่งการออกบวช สหายทั้งสองเมื่อบวชแล้วไม่นานก็เรียนจนหมตความรู้ของ อาจารย์ลัญชัย เห็นว่าลัทธินี้ไม่มีประโยชนอะไรเลย ทั้งสองจึงแสวง <£๕

www.kalyanamitra.org หาโมกข่ธรรมต่อไป และได้ทำกติกากันว่า 'ใคฺรบรรลุอมต่ธรรม ก่อน จงบอกแก่อีกคนหนึ่งด้วย\" อุปติสสปริพาชกฟังธรรมจากพระ กัสสชิ ได้บรรลุธรรมเป็นพระโสดาบัน .และได้กลับมาแสดงธรรมให้ โกลิดปริพาชกฟังบ้างว่า \"ธรรมเหล่าใดฺเกิดแต่เหตุ พระตถาคตตรัส เหตุแห่งธรรมเหล่านั้น และความสับแห่งธรรมเหล่านั้น พระมหา สมณะมีปกติตริสอย่างนี้\" ท่านกิได้ดวงตาเห็นธรรมเป็นพระโสดาบัน สหายทั้งสองชักชวนอาจารย์ลัญชัยไปเข้าเฝืาพระพุทธองค ได้รับ การปฏิเสธ จึงลาอาจารย์ส์ญชัยพาบริวาร ๒๔๐ คน เข้าเรา พระพุทธองค์ที่วัดเวฬุวัน และทูลขอบวช ทรงประทานการบวชให้ ด้วยวิธีเอห็ภิกขุอุปลัมปทา จึงมีชิอใหม่ว่า \"พระมหาโมคสัลลานะ\" บรรลุธรรมเป็นพระอรหันต์ พระมหาโมคสัลลานะ หลังจากบวชแล้ว ๗ วัน ทูลลา พระพุทธอ^ค์ไปนำเฟ้ญเพียรอยู่ที่หยู่บ้านกัลลวาลมุตตคาม แคว้น มคธ.ถูกความง่วงเข้าครอบงำไม่สามารถนำเพีญเพียรได้ พระพุทธ- องค์เสด็จไปตรัสบอกอุบายแก้ง่วงให้๘ประการคือ ๑. นึกถึงเรื่องที่จำมาให้มาก ๒. ตรึกดรองถึงธรรมที่ได้ศึกษามา ๓. สาธยายธรรม ๔. ยอนช่องทู ๔. ลุกขึ้นยืนเอานํ้าลูบหน้า ๖. ท่าความสำคัญในแสงสว่าง ๗. เตินจงกรมสำรวมอินทรึย์ (£๖

www.kalyanamitra.org ๘. นอนตะแคงขํวามีสติสัมปชัญญะตั้งใจว่าจะลุกขึ้น และทรงสอนต่อไปว่า โมคคัลลานะ เธอควรสำเหนียกในใจ อยางนี้ว่า . ๑. เราจักไม่ชูงวง คือถือคัวเข้าไปสู่ตระกูล ๒. เราจักไม่พูดคำเป็นเหตุเถืยงคัน เพราะจะเป็นเหตุให้ห่างฺ จากสมาธิ ๓. เราจักไม่คลุกคลีด้วยคฤหัสถ์และบรรพชิต แต่ควรคลุกคลี ด้วยเสนาสนะอันสงัด และฟังคัณหักขยธรรม คือข้อที่ปฏิบติแล้วซื่อ ว่าน้อมไปในธฺรรมเป็นที่สินไปแห้งคัณหา และฟัง.เรื่องธาตุคัมมัฏPน คือให้พิจารณาร่างกายนี้เป็นเพียงธาตุติน นํ้า ลม ไฟเท่านั้น ไม่ใช่ คัวเราของเรา ท่านปฏิบติธรรมตามพระโอวาทได้บรรลุธรรมเป็น พระอรหันตในวันนั้น < งานประกาศพระศาสนา พระมหาโมคคัลลานะเป็นกำสังสำคัญยิ่งในการประกาศพระ ศาสนา ท่านมีฤทธมาก ประกาศธรรมแก่เทวดาและมนุษยทั้งหลาย แสดงฤทธิปราบพวกมิจฉาพิฏฐ ท่านไปอังเทวโลก ถามถืงกร่รม ของเทวดาที่ทำในสมัยเป็นมนุษย และไปนรกถามถึงกรรมของสัดวั นรกในสมัยเป็นมนุษย์กลับมาบอกแก่พวกมนุษย์ เมื่อได้ฟังคำของ, พระเถระแล้วเกิดความเลื่อมใสเป็นจำนวนมาก ทำ ให้พระพุทธศาสนา เจริญร่งเรืองจนเป็นที่อจฉาของเจ้าลัทธิต่าง ๆ พระพุทธองคตรัส ยกย่องท่านคับพร่ะสารืบุดฟา \"ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย สารืบุตรฟรืยบ เหมีอนมาร่ดาผู้Iห้กำเนีดบุตร โมดคัลลานะฝรืยบเหมือนนางนมผู้ ore/

www.kalyanamitra.org เลี้ยงทารกที่๓ดแ;ล้ว สา^ดรย่อมแฬะนาให้ดังอยูในโสดาป็ดดิผล โมคดัลลานะย่อมนนะนำให้ดั้งอยู่ในคุณที่สูงขึ้นไป'' และท่านเป็นผู้ที่ เลิศในด้านการก่อสร้าง ดาแหนงเอตทคคะ พระมหาโมคคัลลานะ เป็นผู้มีฤทธิ้มาก สามารถท่องเที่ยว ไปยังเหวโลกและนรก่ได้ จึงได้ร้ษการยกย่อิง่จากพระพุทธองคว่า \"เป็น ผู้เลิศกวาภิกษุฑงหลายในทางผู้มีฤทร\" และได้ร้บการแต่งดั้งให้เป็น อดรสๆ(วกเบื้องซ้ายต่กฃพระสารืบุตรซึ่งเป็นพระอครสาวกเบื้อง่ขฺวา ท่านนพพ่ๆนํที่ตำบลกาฬศลา แคว้นมคธ เมื่อวันแรม ๑๔ คํ่า เดือน ๑๒ หลงจากพระสารีบุด่รนิพพานได้ ๑๔ วัน ท่าน่ถูกโจร ทุบจนร่างกายแหลกละเอียด เพราะผลกรรมที่เคยทุบตีฟอแมในอดีต ประสานกระดูกด้วยกำลังฌานเหาะไปเข้าเฝืาพระพุทธองค์ กราบ ทูลลานิพพาน และได้กลับไปนิพพานในที่เดิม พระพุทธองค์เสด็จ ไปท่าพิธีณาปนภิจสรีระของท่าน่ แล้ววับสงให้นำ(อฐิบ้รรจุไว้ในเจดีย์ ใกล้ประตวัดเวฬุวัน ๑๗. ประพพระมุหากั่สสป่เถรร สฺถานะเดิม พระมหากัสสปะ ซึ่อเดิมว่า ปีปผลิ บดาซึ่อว่า กป็ละ* มารดา ชื่อว่าสูมนเทวี เภิดในตระกลพราหมณ์ เภิดที่หม่บ้านมหาดิดฺถะ ดั้งอยู่ ในเมืองราชคฤห้ เมื่อบวชแล้วได้ชื่อว่า พระมvnลัสสปะ เพราะเป็น

www.kalyanamitra.org เชื้อสายของกัสสปโคตร อายุได้ ๒๐ ปี แต่งงานกับนาง^ภัททกา- ปีลานี ผู้มีอายุได้ ๑๖ปี มูลเหตุแห่งการออกบวช เมื่อบิดามารดาเสืยชีวิตแล้ว เห็นโทษของการครอฺงเรือนว่า ด้องคอยรับบาปจากการกระทาของผู้อื่น จึงตัดสินใจออกบวชพร้อม กับนางกัททกาปีลานีมอบทรัพย์สมบดทงหมดให็แก่ญาติและบรืวาร ได้ชื้อผ้ากาสาวพัสดรและบาดรตินเผาจากดลาด ต่างปลงผมให้กัน และกันครุองผ้ากาสาวพัสตร์สะพายบาดรลงจากปราสาทอย่างไม่มี ความอาลัย ออกบวชอุทศพระอรหันต์ไนโลก เตินทางไปด้วยกัน ระยะหนึ่ง่กัแยกจากกัน เกิดเหตุอัศจรรย์คือแผ่นตินไหว ปีปผสิเติน ไปทางขวา ส่วนนางกัททกาปีลานีเตินไปทางชีายจนถึงสำนักของ ภิกษุณี ขอบวชในสำนักของภิกษุณีและปฏิบิติธรรมจนได้บรรลุธรรม เป็นพระอรหันต บรรลุธรรมเป็นพระอรหนส์ ป็ปผสิได้พบพระพุทธองค์ที่ได้ด้นไทรชื่อว่า พหุปุดตนิโครธ ระหว่างเมีองราชคฤห้กับเมีองนาลันทา เมื่อได้เห็นพระพุทธองค์ แล้วติดว่า ท่านผู้นี้เป็นศาสดาของเรา เราจักขอบวชอุทิศพระ ศาสดาองค์นี้ ได้นอมตัวเข้าไปหามูลขอบวช ทรงประทานการบวช ให้ด้วยวิธโอวาทปฏิคคหณูปลัมปทา คือบวชด้วยการรับโอวาท ๓ ข้อ ตังนี้ <£๙