64-08-09-คู่มือครู สังคมศึกษา ป.5.-2

หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 2 เร่อื ง อทิ ธพิ ลของอารยธรรมตา่ งชาติทม่ี ีตอ่ ไทย ๘๘๓ 8. ส่ือการเรยี นรู้/แหล่งการเรียนรู้ ๑. ห้องสมุดโรงเรยี น ๒. การคน้ คว้าข้อมลู จากอนิ เทอร์เน็ต 3. ส่อื PowerPoint 4. ภาพทัชมาฮาล 5. ใบความรทู้ ่ี 1 เรื่อง อารยธรรมอนิ เดียและจีน **สามารถปรบั เปลย่ี นไดต้ ามบรบิ ทของทอ้ งถิน่ 9. การประเมนิ ผลรวบยอด ชนิ้ งานหรอื ภาระงาน - ใบงานที่ 1 เร่อื ง อารยธรรมอินเดยี เกณฑก์ ารประเมนิ ผลช้นิ งานหรือภาระงาน ประเดน็ การวดั วธิ ีการ เครอ่ื งมอื เกณฑก์ ารประเมนิ และประเมนิ ผล - ศึกษาใบความร้เู รอ่ื ง - ใบความรทู้ ี่ 1 เรือ่ ง ผา่ นเกณฑ์การประเมนิ ความรู้ (K) อารยธรรมอนิ เดยี และจนี อารยธรรมอินเดยี และจีน ร้อยละ 60 ทกั ษะ (P) - ตรวจใบงานท่ี 1 เรื่อง - ใบงานท่ี 1 เรื่อง ผ่านเกณฑก์ ารประเมนิ รอ้ ยละ 60 อารยธรรมอินเดีย อารยธรรมอนิ เดยี เจตคติ (A) - สงั เกตพฤตกิ รรม - แบบประเมนิ พฤตกิ รรม ผา่ นเกณฑป์ ระเมนิ ระดบั คณุ ภาพพอใช้ขน้ึ ไป คุณลกั ษณะ - ประเมนิ ความมีวินัย - แบบประเมินคณุ ลกั ษณะ ผา่ นเกณฑ์ประเมินระดบั อันพึงประสงค์ ใฝ่เรียนรู้ และมุ่งมน่ั ใน การทางาน อันพึงประสงค์ คณุ ภาพพอใช้ขน้ึ ไป สมรรถนะสาคญั ของผ้เู รยี น - ประเมินความสามารถ - แบบประเมนิ สมรรถนะ ผา่ นเกณฑป์ ระเมินระดบั การคิด การใช้ทักษะชวี ติ และการแก้ปญั หา สาคญั ของผเู้ รยี น คุณภาพพอใช้ขึ้นไป

๘๘๔ คู่มือครแู ละแผนจดั การเรียนรู้ ระดบั ประถมศกึ ษา ภาคเรยี นท่ี ๑ (ประวัติศาสตร์ ป.5) 10. บนั ทึกผลหลังสอน ผลการจดั การเรยี นการสอน .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ความสาเร็จ .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ปัญหาและอุปสรรค .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ข้อจากัดการใช้แผนการจดั การเรียนรู้ และข้อเสนอแนะ/แนวทางการปรบั ปรุงแก้ไข .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ลงชื่อ............................................ผู้สอน (...........................................) วันท.ี่ .......เดอื น.................พ.ศ............ 11. ความคดิ เหน็ /ข้อเสนอแนะของผบู้ รหิ ารหรอื ผทู้ ่ีไดร้ บั มอบหมาย .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ลงชอ่ื ............................................ผู้ตรวจ (...........................................) วนั ท.่ี .......เดอื น.................พ.ศ............

หนว่ ยการเรียนร้ทู ่ี 2 เรือ่ ง อิทธิพลของอารยธรรมตา่ งชาติที่มตี อ่ ไทย ๘๘๕ ใบความรทู้ ่ี 1 เรอ่ื ง อารยธรรมอนิ เดยี และจนี หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี ๒ เรื่อง อิทธิพลของอารยธรรมตา่ งชาตทิ ่มี ตี อ่ ไทย แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ 1 เรื่อง อารยธรรมอนิ เดยี และจนี รายวชิ าประวตั ศิ าสตร์ รหสั วชิ า ส๑๕๑๐๒ ภาคเรียนที่ ๑ ชัน้ ประถมศกึ ษาปที ี่ ๕ อารยธรรมอินเดียและจนี การเข้ามาของอารยธรรมอนิ เดยี และจนี ในดินแดนไทยและภมู ิภาคเอเชียตะวันออกเฉยี งใต้ ดินแดนไทยและภูมิภาคเอเชียตะวนั ออกเฉียงใตม้ ีความเจริญรุ่งเรืองมาตั้งแต่คร้ังอดตี ผู้คนในดนิ แดน บริเวณแถบน้ีได้มีการติดต่อชาวจีนและอินเดียมานานแล้ว ทาให้ได้รับอารยธรรมของจีนและอินเดียมาต้ังแต่ คร้งั อดีตสง่ ผลมาถงึ ปัจจุบัน อารยธรรมบางอย่างนามาใชโ้ ดยตรง เช่น ภาษา ศาสนา อาหารบางอย่างปรับเปลี่ยนใหก้ ับวัฒนธรรม เดิม เช่น วัฒนธรรมการดารงชีวิตรูปแบบงานศิลปะอารยธรรมอินเดียและจีนได้มาในดินแดนไทยและภูมิภาค เอเชยี ตะวันออกเฉยี งใต้หลายปัจจยั ดว้ ยกัน ดังน้ี ๑. การตดิ ตอ่ ค้าขาย พ่อค้าชาวจีนและชาวอนิ เดียได้นาสินค้ามาขายในดนิ แดนไทยและภูมิภาคเอเชีย ตะวันออกเฉียงใต้และได้นาวัฒนธรรมของตนเข้ามาเผยแพร่ เช่น วัฒนธรรมด้านภาษา การแต่งกาย อาหาร การกนิ เป็นต้น สินค้าที่พ่อค้าชาวจีนนามาขาย เช่น ใบชา ผ้าไหม กระดาษ เป็นต้น ส่วนสินค้าท่ีพ่อค้าชาวอินเดีย นามาขาย เช่น พรม ผา้ หนิ สี เครอื่ งเทศ เปน็ ตน้ ๒. การเผยแผ่ศาสนา บริเวณภูมิภาคตะวันออกเฉียงใต้ได้รับพระพุทธศาสนาจากอินเดียและศรีลังกา ได้รับศาสนาพราหมณ์-ฮินดูจากอินเดีย ได้รับศาสนาอิสลามจากพ่อค้ามุสลิม ได้รับพระพุทธศาสนานิกาย มหายานจากจนี ๓. การติดต่อทางการทูต ทูตชาวจีนได้เดินทางมายังดินแดนไทยและภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เพือ่ ตดิ ตอ่ สมั พันธ์กบั ผคู้ นในภูมภิ าคนี้ จึงทาให้เกิดการถา่ ยทอดวฒั นธรรมใหแ้ ก่กนั และกนั ๔. การเข้ามารับราชการของชาวอินเดีย ชาวจีน และการแต่งงานกบั ชาวพืน้ เมอื ง ทาให้มกี ารถ่ายทอด วัฒนธรรมในด้านต่าง ๆ เช่น การแต่งกายแบบจีน การพูดภาษาจีน การรับเอางานศิลปะในพระพุทธศาสนา จากอินเดีย เช่น เจดีย์ทรงลังกา พระพุทธรูป การรับเอางานวรรณกรรม เช่น รามเกียรติ์จากอินเดีย และ พิธีกรรมตา่ ง ๆ ท่ีพราหมณจ์ ากอนิ เดียนามาเผยแพร่ อิทธพิ ลของอารยธรรมอินเดยี และจีนที่มตี ่อไทยและคนในภมู ิภาคเอเชยี ตะวันออกเฉยี งใต้ อารยธรรมอินเดยี และจีนท่ีมอี ิทธพิ ลตอ่ ไทยและผู้คนในภมู ภิ าคเอเชยี ตะวนั ออกเฉยี งใต้ ทเ่ี ราสังเกตได้ ง่าย เช่น อารยธรรมด้านศาสนาและความเช่ืออารยธรรมด้านภาษา อารยธรรมด้านการแต่งกาย และ อารยธรรมด้านอาหาร เป็นตน้ ๑. อิทธิพลของอารยธรรมอินเดีย อารยธรรมอินเดียมีผลต่อลักษณะการดาเนินชีวิตของไทยและผู้คน ในภมู ิภาคเอเชยี ตะวันออกเฉียงใตห้ ลายด้าน เชน่ ๑) ด้านศาสนา ผู้คนพื้นเมืองในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ได้รับเอาศาสนาพราหมณ์-ฮินดู และ พระพุทธศาสนาที่มีผลต่อการสร้างงานศิลปะท่ีมีหลักฐานปรากฏอยู่มากมาย เช่น ปราสาทนครวัดนครธมใน กัมพูชา เจดีย์ชเวดากองในเมียนมาร์ บุโรพุทโธ ในอินโดนีเซีย สาหรับในดินแดนไทยได้รับศาสนาพราหมณ์- ฮินดู และพระพุทธศาสนามาต้ังแต่สมัยโบราณ เช่น ทวารวดีในสมัยสุโขทัยรับพ ระพุทธศาสนาจาก นครศรีธรรมราชทาใหพ้ ระพทุ ธศาสนาเป็นสว่ นสาคญั ในวถิ ีชวี ิตของคนไทย

๘๘๖ คู่มือครแู ละแผนจัดการเรียนรู้ ระดบั ประถมศึกษา ภาคเรยี นท่ี ๑ (ประวตั ศิ าสตร์ ป.5) ๒) ด้านการเมืองการปกครอง รับความเช่ือเร่ืองสมมติเทพและกฎหมายพระมนูธรรมศาสตร์ของ อินเดียมาเป็นแม่แบบของกฎหมายในหลายประเทศ เช่น เมียนมา กัมพูชา ไทย ในอดีตประเทศไทยมีการ ปกครองแบบพ่อปกครองลูก การรับศาสนาพราหมณ์ทาให้มีความเชื่อเรื่องกษัตริย์เป็นสมมติเทพตามแนว ความเช่ือของอินเดีย ต่อมาได้นาหลักธรรมในพระพุทธศาสนามาผสมผสานเพื่อใช้ในการปกครอง พระมหากษตั ริย์จงึ เป็นธรรมราชาในเวลาต่อมา ๓) ด้านอักษรศาสตร์ รับภาษาบาลี สันสฤตจากอินเดียมาใช้ ทาให้ประเทศต่าง ๆ ท้ังไทย กัมพูชา อินโดนีเซียมีภาษาที่มีคาในภาษาบาลี สันสกฤต ผสมอยู่มากมาย เช่น ชื่อของคนในประเทศเหล่านี้ รับวรรณคดอี ินเดีย เช่น มหากาพย์รามายณะ ซึ่งมีอทิ ธพิ ลต่อวรรณคดขี องไทย เมียนมาร์ กัมพูชา อนิ โดนีเซีย รวมถึงวรรณคดที างพระพุทธศาสนา เช่น ชาดก ๔) ด้านวิถีชีวิต คนไทยและคนที่อยู่ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้บางส่วนได้รับวัฒนธรรม การแต่งกายและวัฒนธรรมการกินอาหารจากอารยธรรมอินเดีย เช่น รับประทานอาหารที่มีเคร่ืองเทศเป็น ส่วนผสม ใส่เสอื้ ผ้าแบบชาวอินเดีย เปน็ ต้น ๕) ด้านกฎหมาย ได้รับรากฐานกฎหมายจากอินเดียคือคัมภีร์พระธรรมศาสตร์ซึ่งกลายเป็นหลักของ กฎหมายของประเทศตา่ ง ๆ เช่น เมยี นมาร์ กมั พูชา ไทย ๖) ด้านศิลปวิทยาการ รับรูปแบบสถาปัตยกรรมของพระพุทธศาสนาจากอนิ เดีย ลังกา เช่น เจดีย์ทรง ลังกา พระพุทธรูป อิทธพิ ลของอารยธรรมจีน ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และดินแดนไทยได้รับอารยธรรมจีนมานานแล้ว โดยผ่านทางการค้า การเผยแผศ่ าสนา การศกึ ษา อิทธิพลของอารยธรรมจนี ท่มี ตี ่อโลกและเอเชียตะวันออกเฉียงใตม้ ีหลายประการ เชน่ - วรรณกรรมจนี แพรห่ ลายในดินแดนนี้ เช่น สามก๊ก ไซอ๋ิว - ใชช้ าวจีนทาหนา้ ที่เดนิ เรอื - ภาษาจนี มใี ช้ปะปนในภาษาไทย เชน่ จิ้มก้อง (ของถวาย) - ใชแ้ บบแผนการเดนิ เรอื จากจีน ต้นหน (ผนู้ ารอ่ ง) - จา้ งพ่อค้าชาวจีนรบั ราชการ ในราชสานกั ทาหนา้ ที่ดแู ลการคา้ ขาย ดา้ นอกั ษรศาสตร์ ด้านการคา้ และการเดนิ เรือ อิทธิพลของ อารยธรรมจนี ด้านอกั ษรศลิ ปวทิ ยาการ ดา้ นศาสนา ดา้ นวถิ ีชีวิต - ไทยรับอทิ ธพิ ลงานจติ รกรรม และ พระพทุ ธศาสนานกิ ายมหายาน - การทาอาหาร เช่น การใช้กระทะ การทาเคร่อื งปนั้ ดินเผามาจากจนี มกี ารเผยแผเ่ ขา้ มารวมถึง การผัดอาหาร การใช้นา้ มัน - เวียดนามรับรูปแบบสถาปัตยกรรม ประเพณีการไหว้เจา้ การกินเจ - การใช้ตะเกยี บกินอาหาร ศิลปกรรมจากจีน การไหวบ้ รรพบุรุษ - การดมื่ น้าชา แหล่งทม่ี า/อา้ งอิง https://sites.google.com/site/uunntelarning/unit5022?tmpl=%2Fsystem%2Fapp%2Ftempla tes%2Fprint%2F&showPrintDialog=1

หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 2 เรือ่ ง อทิ ธิพลของอารยธรรมตา่ งชาตทิ มี่ ตี ่อไทย ๘๘๗ ใบงานที่ 1 เรอื่ ง อารยธรรมอินเดยี หน่วยการเรยี นรู้ที่ ๒ เรื่อง อทิ ธิพลของอารยธรรมตา่ งชาตทิ ่มี ตี อ่ ไทย แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 1 เรื่อง อารยธรรมอนิ เดียและจีน รายวิชาประวตั ศิ าสตร์ รหสั วิชา ส๑๕๑๐๒ ภาคเรียนที่ ๑ ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ่ี ๕ คาชแี้ จง : จงตอบคาถามดงั ต่อไปน้ี อารยธรรมอินเดยี ด้านศาสนา ด้านภาษา ดา้ นอาหาร ด้านวฒั นธรรม ....................................... ...................................... ...................................... ...................................... ....................................... ...................................... ...................................... ...................................... ....................................... ...................................... ...................................... ...................................... ....................................... ...................................... ...................................... ...................................... ....................................... ...................................... ...................................... ...................................... ....................................... ...................................... ...................................... ...................................... ....................................... ...................................... ...................................... ...................................... ....................................... ...................................... ...................................... ...................................... ....................................... ...................................... ...................................... ...................................... ....................................... ...................................... ...................................... ...................................... ....................................... ...................................... ...................................... ...................................... ...................................... ................................... ................................... ................................. ....................................... ...................................... ...................................... ...................................... ....................................... ...................................... ...................................... ...................................... ................................... ..................................... ..................................... ..................................... ....................................... ...................................... ...................................... ...................................... ....................................... ...................................... ...................................... ...................................... ....................................... ...................................... ...................................... ...................................... ....................................... ...................................... ...................................... ...................................... ....................................... ...................................... ...................................... ...................................... ชือ่ -นามสกุล..........................................................................................ชน้ั ...............................เลขท่ี...................

๘๘๘ คมู่ อื ครแู ละแผนจัดการเรียนรู้ ระดบั ประถมศึกษา ภาคเรยี นที่ ๑ (ประวัตศิ าสตร์ ป.5) เฉลยใบงานที่ 1 เรอ่ื ง อารยธรรมอนิ เดยี หน่วยการเรยี นรู้ที่ ๒ เร่ือง อทิ ธิพลของอารยธรรมต่างชาตทิ มี่ ตี ่อไทย แผนการจัดการเรยี นรทู้ ี่ 1 เรื่อง อารยธรรมอนิ เดยี รายวชิ าประวตั ศิ าสตร์ รหสั วิชา ส๑๕๑๐๒ ภาคเรียนที่ ๑ ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ่ี ๕ คาชแี้ จง : จงตอบคาถามดังตอ่ ไปนี้ อารยธรรมอนิ เดยี ดา้ นศาสนา ด้านภาษา ด้านอาหาร ดา้ นวฒั นธรรม ชาวอนิ เดียได้รับเอา ในดินแดนลมุ่ น้าสินธุ มีสว่ นประกอบ พวกดราวิเดยี นนับถือ ศาสนาพราหมณ์ – ยงั พบวฒั นธรรมดา้ น หลัก ๆ คอื ใช้ สัตวบ์ างชนิด ไดแ้ ก่ ฮนิ ดแู ละ ภาษา คือ ตวั อักษร เครือ่ งเทศสมุนไพร โค ชา้ ง และแรด พระพุทธศาสนาท่ีมี โบราณของอินเดีย ผักและผลไม้มาก นอกจากน้ยี ังนับถือ ผลต่อการ ซง่ึ เป็นอกั ษรด้งั เดิม มีท้งั พชื ผกั ท่ปี ลกู เทพเจา้ ต่าง ๆ และแม่ สรา้ งงานศิลปะท่มี ี ทยี่ งั ไมม่ นี ักวชิ าการ เองในประเทศอนิ เดยี พระธรณี ซ่งึ เป็นเทพี หลักฐานปรากฏอยู่ อา่ นออก อักษรโบราณ และจากประเทศอื่น ๆ แหง่ ความอดุ มสมบูรณ์ มากมาย เช่น นี้ปรากฏในดวงตรา ในสงั คมชาว พวกอารยนั รับความ ปราสาทนครวัด ตา่ ง ๆ มากกว่า อนิ เดียนยิ มกนิ เชือ่ ของพวกดราวิเดยี นครธมในกัมพชู า 1,200 ชิ้น โดยในดวง อาหารมงั สวิรตั ิ นบางอยา่ งมานบั ถือ เจดียช์ เวดากองใน ตราจะมภี าพววั ควาย เป็นส่วนใหญ่ ไดแ้ ก่ การนบั ถอื โค เมียนมาร์ บุโรพทุ โธ เสอื จระเข้ และชา้ ง พระศิวะ และศิวลึงค์ ในอนิ โดนเี ชยี

หน่วยการเรียนรทู้ ี่ 2 เร่ือง อทิ ธพิ ลของอารยธรรมตา่ งชาติท่ีมตี อ่ ไทย ๘๘๙ แบบประเมนิ การนาเสนอหน้าชนั้ เรยี น เกณฑ์ ระดับคณุ ภาพ การประเมนิ ดีมาก (๔) ดี (๓) พอใช้ (๒) ปรบั ปรงุ (๑) 1. การ คล่องแคล่วไมต่ ดิ ขดั คลอ่ งแคล่วไมต่ ดิ ขดั ไมค่ ลอ่ งแคล่วมี ติดขัด หยดุ ชะงกั ใน ถา่ ยทอดเนอ้ื หา ทาใหเ้ ข้าใจประเดน็ ทาให้เขา้ ใจประเด็น การหยุดชะงกั บ้าง หลายจงั หวะ พูด ได้งา่ ยและเร็ว ได้งา่ ย การพดู มี บางครัง้ จังหวะพดู เร็วหรอื ชา้ เกินไป การพูดมีการเว้น การเวน้ จงั หวะอยา่ ง ช้าจบั ประเด็นไม่ได้ จงั หวะและเนน้ คา เหมาะสม ความเร็ว เน้นสาระสาคัญอย่าง ในการพดู อยู่ใน เหมาะสมเพอ่ื ให้ผู้ฟัง ระดับเหมาะสม ตดิ ตามการนาเสนอ ความเรว็ ในการพดู อยู่ในระดบั เหมาะสม 2. บุคลกิ ภาพ มคี วามม่ันใจ สบสายตาผ้ฟู ัง สบสายตาผู้ฟังน้อย ก้มหน้าไม่สบตา สบสายตา ผู้ฟัง พอสมควรน้าเสียง นา้ เสยี งสั่น ขาด และนา้ เสียงสน่ั ตลอดเวลาเพอ่ื ดึงดูด สะทอ้ นถึงความ ความม่ันใจ เสยี ง และเบา ให้ผฟู้ ังสนใจในเนอ้ื หา มั่นใจ เสยี งดงั เบาและดงั สลับไป ที่ถา่ ยทอด เสยี งดงั พอเหมาะ พอเหมาะ 3. การใชภ้ าษา คลอ่ งแคลว่ เช่น แสดงกริยาท่าทาง ใช้ภาษากายส่อื สาร ไม่ใช้ภาษากาย กายใน ยกมือ/ผายมือ แสดง ประกอบการนาเสนอ นอ้ ยครัง้ สื่อสาร การสอ่ื สาร กริยาท่าทางประกอบ พอสมควร การนาเสนอเพ่อื ดึงดูด ความสนใจ 4. ความ ใชเ้ วลาในการ ใชเ้ วลาใน ใชเ้ วลาใน ใชเ้ วลาใน เหมาะสมกบั นาเสนอเหมาะสม การนาเสนอเกิน การนาเสนอเกนิ การนาเสนอเกิน เวลา เวลาทก่ี าหนด ๑-๓ เวลาท่ีกาหนด ๔-๕ เวลาทก่ี าหนด นาที นาที มากกว่า ๕ นาทขี ้ึน ไป เกณฑก์ ารให้คะแนน คะแนน หมายถงึ ดี คะแนน 8-10 คะแนน หมายถงึ พอใช้ คะแนน 5-7 คะแนน หมายถงึ ปรบั ปรงุ คะแนน 1-4 เกณฑก์ ารผ่าน ตั้งแต่ 5 คะแนน ขึ้นไป

๘๙๐ ค่มู อื ครแู ละแผนจดั การเรียนรู้ ระดับประถมศกึ ษา ภาคเรยี นท่ี ๑ (ประวตั ศิ าสตร์ ป.5) แบบประเมนิ การสังเกตพฤติกรรมการเรียนรู้ เกณฑก์ ารประเมนิ ดี (๓) ระดบั คณุ ภาพ ปรับปรุง (๑) 1. การรว่ มกิจกรรม มคี วามกระตือรอื รน้ ใน พอใช้ (๒) ไมม่ ีความกระตอื รอื รน้ การร่วมกจิ กรรมอย่าง ในการรว่ มกจิ กรรม สม่าเสมอ มคี วามกระตือรอื รน้ ใน การรว่ มกิจกรรมใน บางครง้ั 2. การรับฟงั ความ รบั ฟังความคดิ เหน็ ของ รับฟังความคดิ เหน็ ของ ไม่รับฟงั ความคดิ เห็น คิดเห็นของผูอ้ นื่ ผอู้ นื่ อย่างสม่าเสมอ ผู้อื่นเปน็ บางครั้ง ของผ้อู ื่น 3. ความรบั ผดิ ชอบ มีความรับผดิ ชอบในงาน มคี วามรบั ผดิ ชอบในงาน ไม่มคี วามรับผดิ ชอบใน ทีไ่ ด้รบั มอบหมายอยา่ ง ท่ไี ดร้ ับมอบหมายใน งานท่ีได้รับมอบหมาย สม่าเสมอ บางคร้งั 4. ขยันหมน่ั เพยี ร มคี วามขยันหมั่นเพียร มคี วามขยันหมัน่ เพียร ไม่มีความขยันหมน่ั เพียร พยายามทางานใหส้ าเร็จ พยายามทางานให้สาเรจ็ พยายามทางานใหส้ าเร็จ อย่างสม่าเสมอ เป็นบางคร้ัง 5. ตรงตอ่ เวลา สง่ ชน้ิ งานภายในเวลาที่ สง่ ผลงานเสร็จตรงเวลา ส่งผลงานชา้ กว่าเวลา กาหนด กาหนด เกณฑก์ ารให้คะแนน หมายถงึ ดี คะแนน ๑1-๑๕ คะแนน หมายถงึ พอใช้ คะแนน 6-๑0 คะแนน หมายถงึ ปรับปรุง คะแนน ๑-5 คะแนน เกณฑก์ ารผา่ น ตั้งแต่ 6 คะแนน ขนึ้ ไป

หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี 2 เร่ือง อิทธิพลของอารยธรรมตา่ งชาติท่มี ีต่อไทย ๘๙๑ แบบประเมินใบงาน คาชแ้ี จง : ให้ครผู ู้สอนประเมนิ ใบงานของนกั เรยี นแลว้ ให้ทาเครือ่ งหมาย ✓ ลงในช่องทตี่ รงกับระดบั คะแนน ลาดบั ท่ี ชอ่ื -สกุล การร่วม การรับฟัง ความ ขยันหม่นั เพียร ตรงตอ่ เวลา รวม กจิ กรรม ความคิดเหน็ รบั ผิดชอบ 20 1 ของผอู้ ื่น 4 3 2 1 4 3 2 1 4 3 2 1 4 3 2 1 4 3 2 1 คะแนน 2 3 4 5 ลงชอื่ ................................................................ผ้ปู ระเมนิ ...................../..................../................... เกณฑ์การใหค้ ะแนน เกณฑก์ ารตดั สินคุณภาพ นกั เรยี นทไ่ี ดร้ ะดบั คณุ ภาพพอใชข้ ึน้ ไป ถือวา่ ผ่าน ชว่ งคะแนน ระดับคณุ ภาพ 16-20 ดีมาก 11-15 ดี 6-10 พอใช้ 1-5 ปรบั ปรงุ

๘๙๒ คมู่ ือครแู ละแผนจดั การเรยี นรู้ ระดับประถมศกึ ษา ภาคเรยี นที่ ๑ (ประวตั ิศาสตร์ ป.5) แบบประเมนิ การสงั เกตพฤตกิ รรมนกั เรียนรายบุคคล ช้ันประถมศกึ ษาปที ่ี 5 สงั เกตพฤตกิ รรมการเรียนรู้ วันที่.......................เดือน............................................พ.ศ............................. ลาดับที่ ชอื่ -สกลุ ความ เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน มสี ่วน ระดับ ตั้งใจใน ร่วมใน คณุ ภาพ 1 การเรยี น ความ กจิ กรรม 2 สนใจ (4) รวม 3 (4) และการ การตอบ (16) 4 ซกั ถาม คาถาม 5 (4) (4) 6 7 8 9 10 ลงชื่อ................................................................ผู้ประเมนิ ...................../..................../................... เกณฑก์ ารให้คะแนนดงั ตารางแนบทา้ ย เกณฑก์ ารประเมนิ ในการสงั เกตพฤตกิ รรมนกั เรียนรายบคุ คล ดังน้ี ช่วงคะแนน ระดับคณุ ภาพ เกณฑก์ ารสรปุ ผลการประเมนิ 14-16 ดมี าก นกั เรยี นทไ่ี ดร้ ะดบั คณุ ภาพพอใชข้ ึน้ ไป ถือวา่ ผา่ น 11-13 ดี 8-10 พอใช้ 1-7 ปรบั ปรงุ

หน่วยการเรยี นรูท้ ่ี 2 เรอ่ื ง อทิ ธิพลของอารยธรรมต่างชาติทม่ี ีตอ่ ไทย ๘๙๓ เกณฑก์ ารวดั และประเมนิ ผลการสังเกตพฤตกิ รรมนกั เรียนรายบุคคล (Rubric) ประเดน็ การประเมิน เกณฑก์ ารให้คะแนน ดี (3) พอใช้ (2) ดีมาก (4) ต้องปรบั ปรงุ (1) 1. ความต้ังใจใน สนใจในการเรียน สนใจในการเรยี น สนใจในการเรียน ไม่สนใจใน การเรยี น ไมค่ ุยหรอื เลน่ กัน คุยกันเล็กน้อย คยุ กนั และเล่นกัน การเรยี น คุยและ 2. ความสนใจและ การซกั ถาม ในขณะเรยี น ในขณะเรียน ในขณะเรียนเป็น เลน่ กันในขณะ 3. การตอบคาถาม บางครง้ั เรียน 4. มสี ่วนร่วมใน มีการถามในหวั ขอ้ มกี ารถามในหวั ขอ้ มีการถามในหวั ขอ้ ไมถ่ ามในหัวขอ้ ท่ี กจิ กรรม ทีต่ นไมเ่ ข้าใจทกุ ที่ตนไมเ่ ข้าใจเป็น ทีต่ นไมเ่ ขา้ ใจเป็น ตนไมเ่ ขา้ ใจและ เรอื่ งและกลา้ ส่วนมากและกล้า บางคร้งั และไม่ ไมก่ ลา้ แสดงออก แสดงออก แสดงออก คอ่ ยกลา้ แสดงออก ร่วมตอบคาถามใน รว่ มตอบคาถามใน รว่ มตอบคาถามใน ไม่ตอบคาถาม เรื่องท่ีครถู ามและ เร่อื งทีค่ รูถามและ เรอ่ื งท่คี รถู ามเปน็ ตอบคาถามถกู ทกุ ตอบคาถาม บางครง้ั และตอบ ข้อ ส่วนมากถูก คาถามถูกเปน็ บางครงั้ ร่วมมอื และ ร่วมมอื และ รว่ มมือและ ไมม่ ีความร่วมมือ ชว่ ยเหลือเพือ่ นใน ชว่ ยเหลอื เพือ่ น ชว่ ยเหลือเพ่อื นใน ในขณะทา การทากิจกรรม เป็นส่วนใหญใ่ น การทากิจกรรม กิจกรรม การทากิจกรรม เป็นบางคร้งั

๘๙๔ คูม่ ือครแู ละแผนจดั การเรียนรู้ ระดับประถมศึกษา ภาคเรยี นท่ี ๑ (ประวตั ศิ าสตร์ ป.5) แบบประเมินการสงั เกตพฤติกรรมการทางานกลุ่ม ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ี่ 5 สงั เกตพฤตกิ รรมการเรยี นรู้ วนั ที่......................เดือน................................................พ.ศ............................ เกณฑก์ ารให้คะแนน ลาดับ การ ระดบั ที่ คุณภาพ ชื่อกลมุ่ การ สนทนา พฤตกิ รรม ปฏสิ ัมพนั ธ์ เร่อื ง การตดิ ต่อ การทางาน กัน ทกี่ าหนด สื่อสาร กลุ่ม รวม (4) (4) (4) (4) (16) 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 ลงชอื่ ................................................................ผ้ปู ระเมนิ ...................../..................../................... เกณฑก์ ารใหค้ ะแนนดงั ตารางแนบทา้ ย เกณฑก์ ารประเมนิ ในการสังเกตพฤตกิ รรมการทางานกลุม่ ดงั นี้ ชว่ งคะแนน ระดับคณุ ภาพ เกณฑ์การสรปุ ผลการประเมิน 14-16 ดมี าก นกั เรยี นทไ่ี ดร้ ะดบั คณุ ภาพพอใชข้ ึน้ ไป ถือวา่ ผ่าน 11-13 ดี 8-10 พอใช้ 1-7 ปรับปรุง

หน่วยการเรียนรทู้ ่ี 2 เรื่อง อทิ ธิพลของอารยธรรมตา่ งชาติทมี่ ตี อ่ ไทย ๘๙๕ เกณฑก์ ารวัดและประเมินผลการสงั เกตพฤติกรรมนักเรยี นรายกลมุ่ (Rubric) ประเดน็ ดมี าก (4) เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ตอ้ งปรบั ปรุง (1) การประเมิน ดี (3) พอใช้ (2) 1. การปฏิสมั พนั ธ์ รว่ มมือและ ร่วมมอื และ รว่ มมอื และ ไม่ใหค้ วามร่วมมอื กนั ชว่ ยเหลอื เพ่ือนใน ชว่ ยเหลอื เพ่อื น ชว่ ยเหลอื เพอ่ื นใน ในขณะทากิจกรรม การทากิจกรรม เปน็ สว่ นใหญใ่ น การทากจิ กรรม 2. การสนทนา การทากิจกรรม เป็นบางครงั้ สนทนาไมต่ รง เรื่องทก่ี าหนด สนทนาตรง สนทนาตรง ประเดน็ ประเดน็ สนทนาตรงประเด็น ประเด็น 3. การ ครอบคลมุ เน้ือหา ครอบคลมุ เน้อื หา ไม่มีการปรกึ ษาครู ติดต่อสอื่ สาร มกี ารปรกึ ษาครู บางสว่ น มกี ารปรกึ ษาครูและ และเพื่อนกลุ่ม และเพื่อนกลมุ่ เพ่ือนกลุม่ อน่ื ๆ อ่ืน ๆ 4. พฤติกรรม อ่นื ๆ มีการปรึกษาครูและ เปน็ บางคร้ัง ไมม่ กี ารวางแผน การทางาน มีการวางแผนอย่าง เพ่ือนกลุม่ อนื่ ๆ มกี ารวางแผนอยา่ ง อยา่ งเปน็ ระบบ เปน็ ระบบ และ เป็นส่วนใหญ่ เป็นระบบ และ และไมม่ กี ารแบ่ง แบ่งหน้าทข่ี อง แบง่ หน้าท่ขี อง หน้าที่ของสมาชกิ สมาชิกในกลุ่ม มีการวางแผนอยา่ ง สมาชิกในกลมุ่ เป็น ในกลมุ่ เปน็ ระบบ และ บางครัง้ แบง่ หนา้ ที่ของ สมาชกิ ในกลมุ่ เปน็ สว่ นใหญ่

๘๙๖ คูม่ ือครแู ละแผนจดั การเรียนรู้ ระดับประถมศึกษา ภาคเรียนท่ี ๑ (ประวตั ิศาสตร์ ป.5) แบบประเมนิ คุณลักษณะอนั พึงประสงค์ คาชี้แจง : ให้ผู้สอนสังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรียนแล้วขีด✓ลงในชอ่ งทต่ี รง กบั ระดับคะแนน รายการ พฤตกิ รรมการแสดงออก ระดับการปฏบิ ตั ิ ประเมนิ ๓๒๑ ๑. มีวินยั ๑.1 ปฏบิ ตั ิตามขอ้ ตกลง กฎเกณฑ์ ระเบียบ ข้อบงั คับของครอบครัว รบั ผิดชอบ และโรงเรยี น มคี วามตรงตอ่ เวลาในการปฏิบตั กิ จิ กรรมตา่ ง ๆ ๒. ใฝเ่ รยี นรู้ ในชีวติ ประจาวันมคี วามรับผิดชอบ 2.1 ตงั้ ใจเรียน 3. มุง่ ม่ันใน 2.2 เอาใจใส่ในการเรยี น และมคี วามเพยี รพยายามในการเรียน การทางาน 2.3 เข้าร่วมกจิ กรรมการเรยี นรตู้ า่ ง ๆ 2.4 ศกึ ษาคน้ คว้า หาความรู้จากหนงั สือ เอกสาร สง่ิ พมิ พ์ สื่อ เทคโนโลยตี า่ ง ๆ แหลง่ การเรียนรู้ทงั้ ภายในและภายนอกโรงเรยี น และเลือกใชส้ อื่ ไดอ้ ยา่ งเหมาะสม 2.5 บนั ทึกความรู้ วเิ คราะห์ ตรวจสอบบางสิง่ ท่ีเรยี นรู้ สรุปเป็นองค์ความรู้ 2.6 แลกเปล่ียนความรดู้ ว้ ยวธิ ีการต่าง ๆ และนาไปใชใ้ นชีวติ ประจาวนั 3.1 มีความต้ังใจและพยายามในการทางานที่ได้รับมอบหมาย 3.2 มีความอดทนและไมท่ ้อแท้ตอ่ อปุ สรรคเพ่ือใหง้ านสาเร็จ ลงชือ่ ................................................................ผู้ประเมิน ...................../..................../................... เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ๓ คะแนน หมายถงึ ปฏิบตั หิ รือแสดงพฤติกรรมอยา่ งสมา่ เสมอ ๒ คะแนน หมายถึง ปฏิบัตหิ รือแสดงพฤติกรรมบ่อยครง้ั ๑ คะแนน หมายถงึ ปฏบิ ตั หิ รือแสดงพฤติกรรมบางครั้ง เกณฑก์ ารให้คะแนนดังตารางแนบทา้ ย เกณฑก์ ารประเมินคุณลกั ษณะอันพงึ ประสงคด์ งั น้ี ช่วงคะแนน ระดับคณุ ภาพ เกณฑก์ ารสรุปผลการประเมนิ 22-27 ดมี าก นกั เรยี นทไ่ี ดร้ ะดบั คณุ ภาพผ่านข้นึ ไป ถือวา่ ผา่ น 15-21 ดี 8-14 ผา่ น 1-7 ไมผ่ ่าน

หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 เรื่อง อทิ ธพิ ลของอารยธรรมต่างชาตทิ ีม่ ตี อ่ ไทย ๘๙๗ แบบประเมนิ สมรรถนะสาคญั ของผู้เรียน คาชแี้ จง : ใหผ้ ูส้ อนสังเกตพฤตกิ รรมของนักเรียนในระหว่างเรยี นและนอกเวลาเรยี น แล้วขดี ✓ลงในชอ่ งทีต่ รง กบั ระดับคะแนน รายการประเมนิ พฤตกิ รรมการแสดงออก ระดับการปฏบิ ตั ิ ๓๒๑ ๑. ความสามารถ ๑.1 มีความสามารถในการรบั -ส่งสาร ในการสอ่ื สาร 1.2 มีความสามารถในการถา่ ยทอดความรู้ ความคิด ความเข้าใจ ของตนเอง โดยใช้ภาษาอยา่ งเหมาะสม 2. ความสามารถ 2.1 มที ักษะในการคดิ นอกกรอบอยา่ งสรา้ งสรรค์ ในการคดิ 2.2 มีความสามารถในการคดิ อยา่ งมรี ะบบ 3. ความสามารถ 3.1 สามารถทางานกลุม่ ร่วมกบั ผอู้ นื่ ได้ ในการใชท้ กั ษะ 3.2 นาความรทู้ ี่ได้ไปใช้ประโยชนใ์ นชวี ิตประจาวัน ชีวิต ลงช่ือ................................................................ผ้ปู ระเมิน ...................../..................../................... เกณฑก์ ารให้คะแนน ๓ คะแนน หมายถงึ ปฏบิ ัติหรือแสดงพฤตกิ รรมอยา่ งสม่าเสมอ ๒ คะแนน หมายถึง ปฏิบัตหิ รือแสดงพฤติกรรมบอ่ ยครงั้ ๑ คะแนน หมายถึง ปฏบิ ัตหิ รอื แสดงพฤติกรรมบางครง้ั เกณฑก์ ารใหค้ ะแนนดังตารางแนบทา้ ย เกณฑก์ ารประเมนิ สมรรถนะสาคัญของผู้เรยี นดังน้ี ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ เกณฑก์ ารสรปุ ผลการประเมนิ 16-18 ดมี าก นกั เรยี นทไ่ี ดร้ ะดบั คณุ ภาพผ่านข้ึนไป ถอื วา่ ผา่ น 13-15 ดี 10-12 ผ่าน 1-9 ไมผ่ า่ น

๘๙๘ คู่มอื ครแู ละแผนจัดการเรียนรู้ ระดบั ประถมศกึ ษา ภาคเรยี นท่ี ๑ (ประวตั ศิ าสตร์ ป.5) แผนการจัดการเรยี นรทู้ ่ี 2 เร่อื ง อารยธรรมจนี หน่วยการเรียนรู้ท่ี 2 เรื่อง อิทธพิ ลของอารยธรรมตา่ งชาตทิ ม่ี ตี อ่ ไทย เวลา 1 ชัว่ โมง กลมุ่ สาระการเรยี นรู้สงั คมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม รายวิชาประวตั ศิ าสตร์ ช้นั ประถมศึกษาปีท่ี 5 1. มาตรฐานการเรียนร/ู้ ตัวชวี้ ดั มาตรฐาน ส ๔.2 เข้าใจพัฒนาการของมนุษยชาติจากอดีตจนถึงปัจจุบัน ในด้านความสัมพันธ์ และ การเปล่ยี นแปลงของเหตุการณ์อย่างต่อเนอ่ื ง ตระหนักถงึ ความสาคญั และสามารถ วิเคราะหผ์ ลกระทบท่เี กดิ ขนึ้ ตัวชี้วัด ส 4.2 ป.5/1 อธิบายอทิ ธิพลของอารยธรรมอินเดยี และจีนที่มีต่อไทย และเอเชยี ตะวันออก เฉยี งใต้ โดยสงั เขป 2. สาระสาคญั /ความคิดรวบยอด ประเทศจีนเป็นประเทศที่มีอารยธรรมยาวนานที่สุดประเทศหนึ่ง โดยหลักฐานทางประวัติศาสตร์ที่ สามารถค้นคว้าได้บ่งชี้ว่าอารยธรรมจีนมีอายุถึง 5,000 ปี รากฐานท่ีสาคัญของอารยธรรมจีนคือ การสร้าง ระบบภาษาเขียน และการพัฒนาแนวคิดลัทธิขงจ๊ือ เมื่อประมาณศตวรรษที่ 2 ก่อน ค.ศ. ประวัติศาสตร์จีนมี ท้ังช่วงทีเ่ ป็นปกึ แผ่นและแตกเป็นหลายอาณาจักรสลบั กนั ไป ในบางคร้งั ก็ถกู ปกครองโดยชนชาติอ่ืน วัฒนธรรม ของจนี มอี ิทธิพลอย่างสงู ตอ่ ชาตอิ นื่ ๆ ในทวีปเอเชยี ซงึ่ ถา่ ยทอดไปทั้งการอพยพ การค้า และการยดึ ครอง 3. จุดประสงค์การเรียนรู้ 3.1 ดา้ นความรู้ ความเข้าใจ (K) - มีความร้คู วามเขา้ ใจเกี่ยวกับอารยธรรมจีน 3.2 ด้านทกั ษะ/กระบวนการ (P) - เกิดทกั ษะในการสบื คน้ ความแตกตา่ งของอารยธรรมจีน 3.3 ด้านคณุ ลกั ษณะ เจตคติ คา่ นยิ ม (A) - เห็นความสาคัญเก่ยี วกบั อารยธรรมจีน 4. สาระการเรียนรู้ - อารยธรรมจนี 5. สมรรถนะสาคญั ของผู้เรยี น 5.1 ความสามารถในการคดิ - ทกั ษะการคดิ สร้างสรรค์ - ทักษะการคดิ วิเคราะห์ 5.2 ความสามารถในการแกป้ ญั หา - กระบวนการสืบคน้ ข้อมูล 5.3 ความสามารถในการใชท้ กั ษะชวี ติ - กระบวนการทางานกลุม่ - กระบวนการปฏิบตั ิ

หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี 2 เร่ือง อิทธพิ ลของอารยธรรมตา่ งชาตทิ ม่ี ตี ่อไทย ๘๙๙ 6. คณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ 1. มีวินัย 2. ใฝเ่ รียนรู้ 3. มุ่งมั่นในการทางาน 7. กจิ กรรมการเรียนรู้

๙๐๐ ค ลาดับที่ จุดประสงค์ ขัน้ ตอนการจดั การจดั กจิ กรรมการเรียน 1. การเรียนรู้ การเรียนรู้ แผนการจดั การเรียนรทู้ ข้นั นา รายวชิ าประวตั ศิ าสตร เวลาที่ ใช้ กิจกรรมค 10 1. ครใู ห้นักเรยี นดภู นาที “กาแพงเมืองจนี ” แ ประเดน็ คาถาม 2. ครูใช้คาถาม 1) ภาพทนี่ ักเรยี นเ ภาพอะไร เป็นอารย ประเทศอะไร ๒) กาแพงเมอื งจนี ความสาคัญอยา่ งไร 2. 1. มคี วามรูค้ วาม ข้ันสอน 35 1. ครูให้นกั เรยี นดูวดิ เข้าใจเกยี่ วกบั อารย นาที อารยธรรมจีนพรอ้ มก ธรรมจีน พดู คยุ เกี่ยวกบั วดิ โี อท

ค่มู ือครแู ละแผนจัดการเรียนรู้ ระดบั ประถมศึกษา ภาคเรียนท่ี ๑ (ประวตั ศิ าสตร์ ป.5) นรู้ ชน้ั ประถมศึกษาปที ่ี 5 ที่ 2 เรือ่ ง อารยธรรมจนี ร์ จานวน 1 ชัว่ โมง แนวการจดั การเรียนรู้ สอ่ื การเรยี นรู้ การประเมนิ ครู กจิ กรรมนักเรยี น การเรียนรู้ ภาพ 1. นกั เรยี นดภู าพ “กาแพง - ภาพกาแพง - การประเมนิ แลว้ ตง้ั เมอื งจนี ” คาตอบ เมืองจีน - การสงั เกต 2. นักเรียนตอบคาถาม - PowerPoint - การสงั เกต เห็นคือ 1) แนวคาตอบ ภาพกาแพง ยธรรมของ เมอื งจีน เปน็ อารยธรรมของ ประเทศจีน นมี 2) แนวคาตอบ กาแพงน้ีได้ ปดิ กนั้ ทางนา้ ไม่ให้ไหลออกไป ภายนอก ชาวจนี ทาไวเ้ พ่อื ให้ ชนเผ่ามองโกเลยี ต้องลาบาก ในการปนี ปา่ ยขึ้นมาหาน้าเป็น สาคัญ แตท่ แ่ี นน่ อนก็คอื กาแพงนใี้ ช้เปน็ เส้นกัน้ พรมแดนระหวา่ งชาว ตะวนั ออกกบั ตะวนั ตก ดิ ีโอ เรอ่ื ง 1. นกั เรยี นดวู ิดีโอ เร่อื ง - PowerPoint กบั สนทนา อารยธรรมจีน ท่ดี ู

หน่วยการเรียนรทู้ ี่ 2 เรอ่ื ง อิทธพิ ลของอารยธรรมตา่ งชาตทิ ่มี ตี ่อไทย ลาดับท่ี จุดประสงค์ ขั้นตอนการจดั เวลาที่ 3. การเรยี นรู้ การเรยี นรู้ ใช้ กจิ กรรมค 35 1. ครูอธบิ ายและร่วมก 2. เกิดทกั ษะใน ข้ันปฏิบัติ นาที นักเรียน แลกเปล่ยี นเรีย การสืบคน้ ความ ประเทศจีน ตามที่นกั เร แตกต่างของอารย เชน่ ประวตั ิความเปน็ ม ธรรมจนี จีนในสมัยราชวงศ์ การ อารยธรรมจนี สดู่ ินแดน 2. ครแู จกใบความรู้ที่ 2 อารยธรรมอนิ เดยี และจ นกั เรยี นและอภปิ รายร ร่วมกันศึกษา 3. ครแู บ่งกลุม่ นักเรียน คน และแจกใบงานที่ ๒ อารยธรรมจีน ให้นกั เร กลมุ่ รว่ มกนั ระดมสมอง กลมุ่ นาเสนอหน้าช้ันเร 4. 3. เห็นความสาคญั ขนั้ สรปุ 5 นาที 1. ครสู ่มุ ตัวแทนนักเร เกีย่ วกบั อารยธรรม กลุ่ม นาเสนอหน้าชนั้ เ จีน ใบงานที่ 2 เร่ือง อารย 2. ครูให้นกั เรียนร่วมก องคค์ วามรู้เรอ่ื ง อารยธ พัฒนาอารยธรรมจีนข

๙๐๑ แนวการจดั การเรยี นรู้ ส่อื การเรยี นรู้ การประเมิน การเรยี นรู้ ครู กจิ กรรมนกั เรียน - PowerPoint - การสงั เกต - ใบความรทู้ ี่ 2 กนั สนทนากับ 1. นกั เรยี นศึกษา แลกเปล่ยี น เรือ่ ง อารยธรรม - การสังเกต ยนรเู้ กีย่ วกับ เรยี นรเู้ ก่ียวกับประเทศจนี อนิ เดียและจีน รยี นเคยรู้ - ใบงานที่ 2 มาอารยธรรม เรอื่ งอารยธรรม รถา่ ยทอด จีน นตา่ ง ๆ - PowerPoint 2 เร่อื ง 2. นกั เรยี นศกึ ษาใบความรูท้ ่ี 2 จีนให้ เรื่อง อารยธรรมอนิ เดียและจีน ร่วมกับครู นกล่มุ ละ 4 3. นักเรยี นแบ่งกลุ่มละ 4 คน ๒ เรอื่ ง และทาใบงานที่ ๒ เร่ือง รียนแต่ละ อารยธรรมจีน ง ตัวแทน รยี น รียน 2-3 1. นักเรยี น 2-3 กลุ่ม นาเสนอ เรียนใน หนา้ ชน้ั เรยี นในใบงานท่ี 2 ยธรรมจีน เรื่อง อารยธรรมจีน กนั สรุป 2. นักเรยี นรว่ มกันสรุป ยธรรมจีนการ องคค์ วามร้เู ร่ือง อารยธรรมจีน ของกลุ่มต่าง ๆ การพฒั นาอารยธรรมจีนของ กลมุ่ ตา่ ง ๆ

๙๐๒ คมู่ อื ครแู ละแผนจัดการเรยี นรู้ ระดับประถมศึกษา ภาคเรยี นท่ี ๑ (ประวตั ศิ าสตร์ ป.5) 8. ส่ือการเรยี นรู้/แหลง่ การเรยี นรู้ ๑. หอ้ งสมดุ โรงเรียน ๒. การค้นคว้าข้อมลู จากอินเทอร์เน็ต 3. สือ่ PowerPoint 4. ภาพกาแพงเมอื งจีน 5. ใบความรทู้ ่ี 2 เรือ่ ง อารยธรรมอนิ เดยี และจีน **สามารถปรบั เปล่ยี นได้ตามบริบทของทอ้ งถ่นิ 9. การประเมนิ ผลรวบยอด ชน้ิ งานหรือภาระงาน - ใบงานที่ 2 เรือ่ ง อารยธรรมจีน เกณฑก์ ารประเมนิ ผลชิน้ งานหรอื ภาระงาน ประเดน็ การวัด วธิ ีการ เคร่อื งมอื เกณฑก์ ารประเมิน และประเมนิ ผล - ศึกษาใบความรเู้ รื่อง - ใบความรทู้ ี่ 2 เร่ือง ผา่ นเกณฑก์ ารประเมนิ ความรู้ (K) อารยธรรมอินเดียและจีน อารยธรรมอนิ เดยี และจนี รอ้ ยละ 60 ทกั ษะ (P) - ตรวจใบงานท่ี 2 เรื่อง - ใบงานท่ี 2 เรื่อง ผ่านเกณฑก์ ารประเมิน รอ้ ยละ 60 อารยธรรมจีน อารยธรรมจีน เจตคติ (A) - สังเกตพฤติกรรม - แบบประเมินพฤติกรรม ผ่านเกณฑป์ ระเมนิ ระดับ คุณภาพพอใชข้ น้ึ ไป คณุ ลักษณะ - ประเมนิ ความมวี ินยั - แบบประเมินคุณลักษณะ ผ่านเกณฑ์ประเมนิ ระดบั อนั พงึ ประสงค์ ใฝเ่ รียนรู้ และมุง่ ม่นั ใน การทางาน อนั พงึ ประสงค์ คณุ ภาพพอใชข้ ้นึ ไป สมรรถนะสาคัญ ของผูเ้ รียน - ประเมินความสามารถ - แบบประเมินสมรรถนะ ผ่านเกณฑป์ ระเมนิ ระดับ การคดิ การใช้ทักษะชีวติ และการแก้ปญั หา สาคญั ของผู้เรยี น คณุ ภาพพอใชข้ ้ึนไป

หน่วยการเรียนรูท้ ี่ 2 เร่อื ง อิทธพิ ลของอารยธรรมตา่ งชาตทิ ีม่ ตี อ่ ไทย ๙๐๓ 10. บนั ทกึ ผลหลังสอน ผลการจดั การเรียนการสอน .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ความสาเร็จ .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ปญั หาและอุปสรรค .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ขอ้ จากดั การใช้แผนการจดั การเรียนรู้ และข้อเสนอแนะ/แนวทางการปรับปรุงแก้ไข .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ลงชื่อ............................................ผูส้ อน (...........................................) วนั ท.่ี .......เดอื น.................พ.ศ............ 11. ความคดิ เหน็ /ขอ้ เสนอแนะของผบู้ รหิ ารหรือผู้ท่ไี ด้รบั มอบหมาย .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ลงชอ่ื ............................................ผตู้ รวจ (...........................................) วนั ท.ี่ .......เดอื น.................พ.ศ............

๙๐๔ คู่มอื ครแู ละแผนจดั การเรียนรู้ ระดับประถมศึกษา ภาคเรียนท่ี ๑ (ประวัตศิ าสตร์ ป.5) ใบความรทู้ ี่ 2 เร่อื ง อารยธรรมอินเดียและจนี หนว่ ยการเรียนร้ทู ่ี ๒ เรอ่ื ง อิทธพิ ลของอารยธรรมต่างชาตทิ ี่มตี อ่ ไทย แผนการจัดการเรยี นรทู้ ี่ 2 เรือ่ ง อารยธรรมอนิ เดยี และจีน รายวชิ าประวตั ศิ าสตร์ รหสั วชิ า ส๑๕๑๐๒ ภาคเรยี นที่ ๑ ช้ันประถมศกึ ษาปที ่ี ๕ อารยธรรมอินเดียและจีน การเขา้ มาของอารยธรรมอนิ เดยี และจีนในดินแดนไทยและภูมภิ าคเอเชียตะวันออกเฉยี งใต้ ดินแดนไทยและภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใตม้ ีความเจริญรุ่งเรืองมาตั้งแต่คร้ังอดตี ผู้คนในดินแดน บริเวณแถบนี้ได้มีการติดต่อชาวจีนและอินเดียมานานแล้ว ทาให้ได้รับอารยธรรมของจีนและอินเดียมาตั้งแต่ ครัง้ อดีตสง่ ผลมาถงึ ปัจจุบัน อารยธรรมบางอย่างนามาใช้โดยตรง เช่น ภาษา ศาสนา อาหารบางอย่างปรับเปล่ียนให้กับวัฒนธรรม เดิม เช่น วัฒนธรรมการดารงชีวิตรูปแบบงานศิลปะอารยธรรมอินเดียและจีนได้มาในดินแดนไทยและภูมิภาค เอเชียตะวันออกเฉยี งใตห้ ลายปัจจัยด้วยกนั ดังน้ี ๑. การตดิ ตอ่ ค้าขาย พ่อค้าชาวจีนและชาวอินเดียไดน้ าสินค้ามาขายในดินแดนไทยและภูมิภาคเอเชีย ตะวันออกเฉียงใต้และได้นาวัฒนธรรมของตนเข้ามาเผยแพร่ เช่น วัฒนธรรมด้านภาษา การแต่งกาย อาหาร การกิน เป็นตน้ สินค้าท่ีพ่อค้าชาวจีนนามาขาย เช่น ใบชา ผ้าไหม กระดาษ เป็นต้น ส่วนสินค้าที่พ่อค้าชาวอินเดีย นามาขาย เช่น พรม ผา้ หนิ สี เคร่ืองเทศ เปน็ ตน้ ๒. การเผยแผ่ศาสนา บริเวณภูมิภาคตะวันออกเฉียงใต้ได้รับพระพทุ ธศาสนาจากอินเดียและศรีลังกา ได้รับศาสนาพราหมณ์-ฮินดูจากอินเดีย ได้รับศาสนาอิสลามจากพ่อค้ามุสลิม ได้รับพระพุทธศาสนานิกาย มหายานจากจีน ๓. การติดต่อทางการทูต ทูตชาวจีนได้เดินทางมายังดินแดนไทยและภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เพอ่ื ติดตอ่ สัมพนั ธก์ ับผคู้ นในภมู ภิ าคน้ี จึงทาให้เกดิ การถา่ ยทอดวฒั นธรรมใหแ้ ก่กันและกัน ๔. การเขา้ มารับราชการของชาวอนิ เดยี ชาวจีน และการแตง่ งานกบั ชาวพนื้ เมือง ทาใหม้ กี ารถ่ายทอด วัฒนธรรมในด้านต่าง ๆ เช่น การแต่งกายแบบจีน การพูดภาษาจีน การรับเอางานศิลปะในพระพุทธศาสนา จากอินเดีย เช่น เจดีย์ทรงลังกา พระพุทธรูป การรับเอางานวรรณกรรม เช่น รามเกียรติ์จากอินเดีย และ พิธกี รรมต่าง ๆ ทีพ่ ราหมณ์จากอินเดียนามาเผยแพร่ อิทธพิ ลของอารยธรรมอนิ เดียและจนี ท่มี ตี อ่ ไทยและคนในภมู ิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อารยธรรมอินเดียและจีนทม่ี อี ทิ ธิพลต่อไทยและผ้คู นในภมู ิภาคเอเชยี ตะวันออกเฉียงใต้ ที่เราสงั เกตได้ ง่าย เช่น อารยธรรมด้านศาสนาและความเช่ืออารยธรรมด้านภาษา อารยธรรมด้านการแต่งกาย และ อารยธรรมด้านอาหาร เปน็ ต้น ๑. อิทธิพลของอารยธรรมอนิ เดีย อารยธรรมอินเดยี มีผลต่อลักษณะการดาเนินชีวิตของไทยและผู้คน ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้หลายดา้ น เชน่ ๑) ด้านศาสนา ผู้คนพื้นเมืองในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ได้รับเอาศาสนาพราหมณ์-ฮินดู และ พระพุทธศาสนาท่ีมีผลต่อการสร้างงานศิลปะท่ีมีหลักฐานปรากฏอยู่มากมาย เช่น ปราสาทนครวัดนครธมใน กัมพูชา เจดีย์ชเวดากองในเมียนมาร์ บุโรพุทโธ ในอินโดนีเซีย สาหรับในดินแดนไทยได้รับศาสนาพราหมณ์- ฮินดู และพระพุทธศาสนามาตั้งแต่สมัยโบราณ เช่น ทวารวดีในสมัยสุโขทัยรับพระพุทธศาสนาจาก นครศรีธรรมราชทาใหพ้ ระพุทธศาสนาเป็นส่วนสาคญั ในวิถชี วี ิตของคนไทย

หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 เรอื่ ง อทิ ธิพลของอารยธรรมต่างชาตทิ มี่ ตี ่อไทย ๙๐๕ ๒) ด้านการเมืองการปกครอง รับความเชื่อเร่ืองสมมติเทพและกฎหมายพระมนูธรรมศาสตร์ของ อินเดียมาเป็นแม่แบบของกฎหมายในหลายประเทศ เช่น เมียนมา กัมพูชา ไทย ในอดีตประเทศไทยมีการ ปกครองแบบพ่อปกครองลูก การรับศาสนาพราหมณ์ทาให้มีความเชื่อเร่ืองกษัตริย์เป็นสมมติเทพตามแนว ความเชื่อของอินเดีย ต่อมาได้นาหลักธรรมในพระพุทธศาสนามาผสมผสานเพื่อใช้ในการปกครอง พระมหากษัตริยจ์ ึงเปน็ ธรรมราชาในเวลาตอ่ มา ๓) ด้านอักษรศาสตร์ รับภาษาบาลี สันสฤตจากอินเดียมาใช้ ทาให้ประเทศต่าง ๆ ทั้งไทย กัมพูชา อินโดนีเซียมีภาษาท่ีมีคาในภาษาบาลี สันสกฤต ผสมอยู่มากมาย เช่น ชื่อของคนในประเทศเหล่าน้ี รับวรรณคดีอินเดีย เช่น มหากาพย์รามายณะ ซ่ึงมีอทิ ธพิ ลตอ่ วรรณคดขี องไทย เมียนมาร์ กัมพูชา อนิ โดนีเซีย รวมถึงวรรณคดที างพระพุทธศาสนา เชน่ ชาดก ๔) ด้านวิถีชีวิต คนไทยและคนที่อยู่ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้บางส่วนได้รับวัฒนธรรม การแต่งกายและวัฒนธรรมการกินอาหารจากอารยธรรมอินเดีย เช่น รับประทานอาหารท่ีมีเคร่ืองเทศเป็น ส่วนผสม ใส่เสอื้ ผ้าแบบชาวอนิ เดีย เปน็ ตน้ ๕) ด้านกฎหมาย ได้รับรากฐานกฎหมายจากอินเดียคือคัมภีร์พระธรรมศาสตร์ซึ่งกลายเป็นหลักของ กฎหมายของประเทศตา่ ง ๆ เชน่ เมียนมาร์ กมั พชู า ไทย ๖) ด้านศิลปวิทยาการ รับรูปแบบสถาปัตยกรรมของพระพุทธศาสนาจากอนิ เดีย ลังกา เช่น เจดยี ์ทรง ลงั กา พระพทุ ธรูป อิทธิพลของอารยธรรมจนี ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และดินแดนไทยได้รับอารยธรรมจีนมานานแล้ว โดยผ่านทางการค้า การเผยแผ่ศาสนา การศกึ ษา อิทธิพลของอารยธรรมจีนที่มตี อ่ โลกและเอเชียตะวันออกเฉยี งใต้มหี ลายประการ เช่น - วรรณกรรมจีนแพรห่ ลายในดนิ แดนนี้ เช่น สามกก๊ ไซอิ๋ว - ใชช้ าวจนี ทาหนา้ ที่เดินเรอื - ภาษาจีนมีใช้ปะปนในภาษาไทย เชน่ จิ้มก้อง (ของถวาย) - ใช้แบบแผนการเดนิ เรือจากจนี ตน้ หน (ผนู้ าร่อง) - จ้างพ่อค้าชาวจีนรบั ราชการ ในราชสานักทาหนา้ ที่ดแู ลการคา้ ขาย ดา้ นอักษรศาสตร์ ดา้ นการค้าและการเดนิ เรอื อทิ ธพิ ลของ อารยธรรมจีน ด้านอกั ษรศลิ ปวิทยาการ ด้านวิถชี วี ติ - ไทยรบั อิทธพิ ลงานจิตรกรรม และ ด้านศาสนา การทาเคร่ืองปน้ั ดนิ เผามาจากจนี - เวียดนามรับรูปแบบสถาปตั ยกรรม พระพทุ ธศาสนานกิ ายมหายาน - การทาอาหาร เชน่ การใชก้ ระทะ ศลิ ปกรรมจากจีน มกี ารเผยแผ่เขา้ มารวมถึง การผัดอาหาร การใช้น้ามัน ประเพณีการไหว้เจา้ การกินเจ - การใชต้ ะเกียบกินอาหาร การไหว้บรรพบรุ ุษ - การดมื่ น้าชา แหล่งทีม่ า/อ้างองิ https://sites.google.com/site/uunntelarning/unit5022?tmpl=%2Fsystem%2Fapp%2Ftempla tes%2Fprint%2F&showPrintDialog=1

๙๐๖ คมู่ อื ครแู ละแผนจดั การเรียนรู้ ระดับประถมศกึ ษา ภาคเรียนท่ี ๑ (ประวตั ศิ าสตร์ ป.5) ใบงานที่ ๒ เรอื่ ง อารยธรรมจนี หน่วยการเรียนรู้ท่ี ๒ เร่อื ง อิทธพิ ลของอารยธรรมตา่ งชาติท่ีมตี ่อไทย แผนการจัดการเรียนรทู้ ี่ ๒ เรอื่ ง อารยธรรมจนี รายวชิ าประวตั ศิ าสตร์ รหัสวิชา ส๑๕๑๐๒ ภาคเรยี นที่ ๑ ชั้นประถมศกึ ษาปีท่ี ๕ อารยธรรมจนี คาชแี้ จง : จงตอบคาถามดงั ตอ่ ไปนี้ อารยธรรมจีน ดา้ นศาสนา ดา้ นภาษา ด้านอาหาร ด้านสถาปัตยกรรม ....................................... ....................................... ....................................... ....................................... ....................................... ....................................... ....................................... ....................................... ....................................... ....................................... ....................................... ....................................... ....................................... ....................................... ....................................... ....................................... ....................................... ....................................... ....................................... ....................................... ....................................... ....................................... ....................................... ....................................... ....................................... ....................................... ....................................... ....................................... ....................................... ....................................... ....................................... ....................................... ....................................... ....................................... ....................................... ....................................... ....................................... ....................................... ....................................... ....................................... ....................................... ....................................... ....................................... ....................................... ....................................... ....................................... ....................................... ....................................... ช่ือ-นามสกุล........................................................................................................ชั้น.................เลขท่.ี ..............

หนว่ ยการเรียนร้ทู ี่ 2 เร่อื ง อทิ ธพิ ลของอารยธรรมต่างชาติท่ีมีต่อไทย ๙๐๗ เฉลยใบงานท่ี 2 เร่อื ง อารยธรรมจีน หน่วยการเรียนรู้ท่ี ๒ เรื่อง อิทธพิ ลของอารยธรรมตา่ งชาตทิ ีม่ ตี อ่ ไทย แผนการจัดการเรยี นรทู้ ี่ 2 เรอ่ื ง อารยธรรมจนี รายวิชาประวตั ศิ าสตร์ รหสั วิชา ส๑๕๑๐๒ ภาคเรยี นท่ี ๑ ช้ันประถมศกึ ษาปที ่ี ๕ อารยธรรมจีน คาช้แี จง : จงตอบคาถามดังต่อไปนี้ อารยธรรมจีน ดา้ นศาสนา ดา้ นภาษา ดา้ นอาหาร ดา้ นสถาปัตยกรรม ลักษณะความเชอื่ ทาง ตัวอักษรจีนเป็นตวั อักษร อาหารทป่ี ระกอบขนึ้ ตาม กาแพงเมืองจีนเปน็ ศาสนาของชาวจีนใน ประเทศไทย ผสมผสาน ที่มีการใชม้ าเปน็ วัฒนธรรมของชาวจนี กาแพงที่มปี อ้ มค่ันเปน็ ความเชื่อของ พระพุทธศาสนา การ เวลานานที่สุด ใช้กันใน ซึ่งรวมทัง้ จนี ช่วง ๆ ของจนี สมยั บูชาบรรพบรุ ุษ ลทั ธิเต๋า ลทั ธขิ งจอ๊ื และการนบั พนื้ ทกี่ วา้ งขวางท่ีสดุ และ แผ่นดนิ ใหญ่ ไตห้ วันและ โบราณ กาแพงสว่ นใหญ่ ถอื เทพเจ้า ชาวจีนจะ นยิ มไหว้เจ้า และไหว้ มจี านวนคนที่ใชก้ ม็ าก ฮ่องกง ซึ่งมหี ลากหลาย ทีป่ รากฏในปจั จบุ ันสร้าง บรรพบุรุษ ทสี่ ุดในโลก การสรา้ ง ชนดิ ตามแต่ละทอ้ งถิน่ ขึ้นในสมยั ราชวงศ์ฉนิ และการใช้ตวั อกั ษรจนี โดยทั่วไปนยิ ม ทั้งนเี้ พ่ือป้องกนั การ ไมเ่ พยี งแตไ่ ดท้ าให้ รบั ประทานอาหารจาน รุกรานจากพวกฮน่ั วัฒนธรรมจนี พฒั นาไป ผักและธญั พืชเปน็ หลัก หรอื ชนเผา่ ซงหนู เทา่ นัน้ หากยังได้สง่ อิทธิพลอยา่ งลึกซงึ้ ตอ่ การพัฒนาวฒั นธรรมโลก ด้วย

๙๐๘ คมู่ ือครแู ละแผนจดั การเรียนรู้ ระดบั ประถมศึกษา ภาคเรยี นท่ี ๑ (ประวัติศาสตร์ ป.5) แบบประเมินการนาเสนอหน้าชนั้ เรียน เกณฑ์ ระดบั คณุ ภาพ การประเมนิ ดีมาก (๔) ดี (๓) พอใช้ (๒) ปรับปรุง (๑) 1. การ คลอ่ งแคล่วไม่ติดขดั คลอ่ งแคล่วไมต่ ิดขัด ไมค่ ลอ่ งแคล่วมี ติดขดั หยุดชะงกั ใน ถ่ายทอดเนอ้ื หา ทาให้เข้าใจประเดน็ ทาใหเ้ ข้าใจประเดน็ การหยุดชะงักบ้าง หลายจงั หวะ ไดง้ ่ายและเร็ว ได้ง่าย การพดู มี บางคร้งั จังหวะพดู พดู เร็วหรอื ช้า การพดู มีการเว้น การเวน้ จงั หวะอยา่ ง ชา้ จับประเด็นไม่ได้ เกนิ ไป จงั หวะและเนน้ คา เหมาะสม ความเร็ว เนน้ สาระสาคัญอยา่ ง ในการพูดอยู่ใน เหมาะสมเพอ่ื ใหผ้ ้ฟู งั ระดับเหมาะสม ตดิ ตามการนาเสนอ ความเรว็ ในการพูด อยู่ในระดบั เหมาะสม 2. บคุ ลกิ ภาพ มคี วามมั่นใจ สบสายตาผู้ฟัง สบสายตาผฟู้ ังน้อย ก้มหน้าไมส่ บตา สบสายตาผฟู้ งั พอสมควร นา้ เสียง นา้ เสียงสน่ั ขาด และน้าเสยี งสนั่ ตลอดเวลาเพอื่ สะท้อนถึงความมนั่ ใจ ความมน่ั ใจ เสยี ง และเบา ดงึ ดูดให้ผฟู้ งั สนใจ เสียงดงั พอเหมาะ เบาและดังสลบั ไป ในเนื้อหาที่ถ่ายทอด เสยี งดงั พอเหมาะ 3. การใช้ คล่องแคลว่ เชน่ แสดงกรยิ าทา่ ทาง ใช้ภาษากายสอ่ื สาร ไมใ่ ชภ้ าษากาย ภาษากายใน ยกมือ/ผายมือ ประกอบการนาเสนอ นอ้ ยครง้ั สือ่ สาร การสื่อสาร แสดงกริยาทา่ ทาง พอสมควร ประกอบการ นาเสนอเพ่อื ดึงดดู ความสนใจ 4. ความ ใชเ้ วลาในการ ใช้เวลาในการ ใช้เวลาในการ ใชเ้ วลาในการ เหมาะสมกับ นาเสนอเหมาะสม นาเสนอเกนิ เวลาที่ นาเสนอเกินเวลาท่ี นาเสนอเกนิ เวลาท่ี เวลา กาหนด ๑-๓ นาที กาหนด ๔-๕ นาที กาหนด มากกวา่ ๕ นาทขี ้นึ ไป เกณฑก์ ารให้คะแนน คะแนน หมายถงึ ดี คะแนน 8-10 คะแนน หมายถึง พอใช้ คะแนน 5-7 คะแนน หมายถึง ปรบั ปรงุ คะแนน 1-4 เกณฑก์ ารผา่ น ตงั้ แต่ 5 คะแนน ขึ้นไป

หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 2 เรอ่ื ง อทิ ธิพลของอารยธรรมต่างชาติท่ีมีต่อไทย ๙๐๙ แบบประเมนิ การสังเกตพฤตกิ รรมการเรยี นรู้ ปรบั ปรุง (๑) ไม่มีความกระตือรือรน้ เกณฑก์ ารประเมิน ดี (๓) ระดบั คณุ ภาพ ในการรว่ มกิจกรรม 1. การรว่ มกิจกรรม มคี วามกระตือรือร้นใน พอใช้ (๒) การรว่ มกิจกรรมอยา่ ง สม่าเสมอ มคี วามกระตอื รอื ร้นใน การรว่ มกจิ กรรมใน บางคร้ัง 2. การรับฟงั ความ รับฟังความคิดเหน็ ของ รบั ฟังความคดิ เห็นของ ไม่รบั ฟังความคดิ เหน็ คิดเหน็ ของผอู้ น่ื ผู้อ่นื อย่างสมา่ เสมอ ผอู้ ่นื เป็นบางครัง้ ของผูอ้ ่ืน 3. ความรบั ผดิ ชอบ มคี วามรบั ผดิ ชอบในงาน มคี วามรบั ผิดชอบในงาน ไมม่ ีความรับผดิ ชอบใน ทไ่ี ดร้ ับมอบหมายอยา่ ง ทไ่ี ดร้ บั มอบหมายใน งานที่ได้รับมอบหมาย สมา่ เสมอ บางครั้ง 4. ขยันหมนั่ เพยี ร มคี วามขยนั หม่ันเพียร มีความขยันหมนั่ เพยี ร ไม่มคี วามขยันหมนั่ เพยี ร พยายามทางานให้สาเรจ็ พยายามทางานให้สาเร็จ พยายามทางานใหส้ าเร็จ อย่างสม่าเสมอ เป็นบางคร้งั 5. ตรงตอ่ เวลา ส่งช้นิ งานภายในเวลาท่ี ส่งผลงานเสร็จตรงเวลา สง่ ผลงานช้ากวา่ เวลา กาหนด กาหนด เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน หมายถงึ ดี คะแนน ๑1-๑๕ คะแนน หมายถงึ พอใช้ คะแนน 6-๑0 คะแนน หมายถงึ ปรับปรุง คะแนน 1-5 คะแนน เกณฑก์ ารผ่าน ตั้งแต่ 6 คะแนน ข้นึ ไป

๙๑๐ คู่มอื ครแู ละแผนจดั การเรยี นรู้ ระดับประถมศึกษา ภาคเรยี นท่ี ๑ (ประวตั ิศาสตร์ ป.5) แบบประเมนิ ใบงาน คาชแี้ จง : ใหค้ รผู ้สู อนประเมนิ ใบงานของนกั เรียนแล้วให้ทาเครอื่ งหมาย ✓ ลงในชอ่ งที่ตรงกับระดบั คะแนน ลาดับท่ี ชอื่ -สกุล การร่วม การรับฟงั ความ ขยนั หมัน่ เพียร ตรงต่อเวลา รวม กิจกรรม ความคดิ เห็น รบั ผิดชอบ 20 1 ของผอู้ ่นื 4 3 2 1 4 3 2 1 4 3 2 1 4 3 2 1 4 3 2 1 คะแนน 2 3 4 5 ลงชอื่ ................................................................ผู้ประเมนิ ...................../..................../................... เกณฑ์การใหค้ ะแนน เกณฑก์ ารตดั สนิ คุณภาพ นกั เรยี นทไ่ี ดร้ ะดบั คณุ ภาพพอใชข้ ึน้ ไป ถือวา่ ผา่ น ช่วงคะแนน ระดับคณุ ภาพ 16-20 ดมี าก 11-15 ดี 6-10 พอใช้ 1-5 ปรับปรุง

หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ 2 เรื่อง อทิ ธพิ ลของอารยธรรมต่างชาติทีม่ ีตอ่ ไทย ๙๑๑ แบบประเมินการสงั เกตพฤตกิ รรมนักเรียนรายบุคคล ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ี่ 5 สงั เกตพฤตกิ รรมการเรยี นรู้ วันท่ี.......................เดอื น................................................พ.ศ........................ ลาดบั ท่ี ชื่อ-สกลุ ความ เกณฑก์ ารให้คะแนน มีสว่ น ระดบั ต้ังใจใน ร่วมใน คณุ ภาพ 1 การเรียน ความ กิจกรรม 2 สนใจ (4) รวม 3 (4) และการ การตอบ (16) 4 ซักถาม คาถาม 5 (4) (4) 6 7 8 9 10 ลงช่อื ................................................................ผู้ประเมนิ ...................../..................../................... เกณฑก์ ารใหค้ ะแนนดังตารางแนบทา้ ย เกณฑก์ ารประเมนิ ในการสังเกตพฤตกิ รรมนักเรียนรายบคุ คล ดงั น้ี ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ เกณฑก์ ารสรปุ ผลการประเมนิ 14-16 ดีมาก นกั เรยี นทไ่ี ดร้ ะดบั คณุ ภาพพอใชข้ ึน้ ไป ถือวา่ ผ่าน 11-13 ดี 8-10 พอใช้ 1-7 ปรบั ปรุง

๙๑๒ คู่มือครแู ละแผนจดั การเรยี นรู้ ระดบั ประถมศกึ ษา ภาคเรียนที่ ๑ (ประวตั ศิ าสตร์ ป.5) เกณฑก์ ารวดั และประเมนิ ผลการสังเกตพฤตกิ รรมนักเรียนรายบุคคล (Rubric) ประเดน็ ดีมาก (4) เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ต้องปรบั ปรงุ (1) การประเมิน ดี (3) พอใช้ (2) 1. ความตงั้ ใจใน สนใจในการเรียน สนใจในการเรียน สนใจในการเรยี น ไมส่ นใจใน การเรยี น ไม่คุยหรือเล่นกัน คยุ กันเลก็ นอ้ ย คุยกนั และเลน่ กัน การเรียน คุยและ 2. ความสนใจและ การซักถาม ในขณะเรียน ในขณะเรยี น ในขณะเรยี นเป็น เลน่ กันในขณะ 3. การตอบคาถาม บางครง้ั เรียน 4. มีส่วนรว่ มใน มีการถามในหวั ข้อ มกี ารถามในหวั ขอ้ มกี ารถามในหวั ข้อ ไมถ่ ามในหัวขอ้ ที่ กจิ กรรม ท่ตี นไมเ่ ขา้ ใจทกุ ท่ตี นไมเ่ ขา้ ใจเป็น ที่ตนไมเ่ ขา้ ใจเปน็ ตนไมเ่ ขา้ ใจและ เร่ืองและกลา้ ส่วนมากและกล้า บางคร้ังและไม่ ไมก่ ล้าแสดงออก แสดงออก แสดงออก ค่อยกลา้ แสดงออก รว่ มตอบคาถามใน ร่วมตอบคาถามใน รว่ มตอบคาถามใน ไม่ตอบคาถาม เรื่องท่คี รถู ามและ เรื่องทีค่ รูถามและ เรอ่ื งท่คี รถู ามเปน็ ตอบคาถามถูกทุก ตอบคาถาม บางครงั้ และตอบ ข้อ ส่วนมากถกู คาถามถกู เปน็ บางครั้ง ร่วมมอื และ ร่วมมอื และ ร่วมมอื และ ไม่มีความร่วมมือ ชว่ ยเหลือเพื่อนใน ช่วยเหลือเพอ่ื น ช่วยเหลอื เพอื่ นใน ในขณะทากิจกรรม การทากิจกรรม เปน็ ส่วนใหญใ่ น การทากจิ กรรม การทากิจกรรม เปน็ บางครงั้

หนว่ ยการเรยี นรูท้ ่ี 2 เรอื่ ง อิทธพิ ลของอารยธรรมตา่ งชาตทิ ่ีมตี ่อไทย ๙๑๓ แบบประเมินการสังเกตพฤติกรรมการทางานกลมุ่ ช้นั ประถมศกึ ษาปที ี่ 5 สงั เกตพฤติกรรมการเรยี นรู้ วนั ที่.......................เดอื น................................................พ.ศ......................... ลาดับที่ ช่ือกล่มุ การ เกณฑก์ ารให้คะแนน พฤตกิ รรม ระดบั ปฏิสมั พันธ์ 1 การ การทางาน คณุ ภาพ 2 กัน สนทนา 3 (4) เรอ่ื ง การตดิ ตอ่ กล่มุ รวม 4 ทก่ี าหนด สอ่ื สาร 5 (4) (16) 6 (4) (4) 7 8 9 10 ลงช่ือ................................................................ผปู้ ระเมนิ ...................../..................../................... เกณฑก์ ารให้คะแนนดังตารางแนบทา้ ย เกณฑก์ ารประเมนิ ในการสังเกตพฤตกิ รรมการทางานกลุ่ม ดงั น้ี ชว่ งคะแนน ระดับคณุ ภาพ เกณฑ์การสรปุ ผลการประเมิน 14-16 ดมี าก นกั เรยี นทไ่ี ดร้ ะดบั คณุ ภาพพอใชข้ ึน้ ไป ถือวา่ ผา่ น 11-13 ดี 8-10 พอใช้ 1-7 ปรับปรงุ

๙๑๔ ค่มู ือครแู ละแผนจดั การเรยี นรู้ ระดบั ประถมศกึ ษา ภาคเรียนที่ ๑ (ประวตั ศิ าสตร์ ป.5) เกณฑก์ ารวัดและประเมนิ ผลการสังเกตพฤตกิ รรมนักเรยี นรายกลมุ่ (Rubric) ประเดน็ ดมี าก (4) เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ต้องปรบั ปรงุ (1) การประเมิน ดี (3) พอใช้ (2) 1. การปฏสิ มั พันธ์ ร่วมมอื และ รว่ มมือและ ร่วมมือและ ไม่ให้ความร่วมมอื กนั ช่วยเหลอื เพ่ือนใน ช่วยเหลือเพือ่ น ชว่ ยเหลอื เพ่ือนใน ในขณะทากิจกรรม การทากจิ กรรม เป็นส่วนใหญใ่ น การทากจิ กรรม การทากิจกรรม เป็นบางคร้ัง 2. การสนทนา สนทนาตรง สนทนาตรงประเดน็ สนทนาตรงประเดน็ สนทนาไมต่ รง เร่อื งท่กี าหนด ประเด็น ครอบคลมุ เน้ือหา ประเด็น ครอบคลุมเนือ้ หา บางสว่ น 3. การติดตอ่ สื่อสาร มีการปรึกษาครู มีการปรึกษาครูและ มกี ารปรกึ ษาครูและ ไม่มกี ารปรึกษาครู และเพอื่ นกลุ่ม เพือ่ นกล่มุ อน่ื ๆ เพอ่ื นกล่มุ อ่ืน ๆ และเพ่ือนกลมุ่ อนื่ ๆ เป็นสว่ นใหญ่ เปน็ บางครงั้ อ่ืน ๆ 4. พฤตกิ รรม มกี ารวางแผนอยา่ ง มกี ารวางแผนอย่าง มกี ารวางแผนอย่าง ไม่มีการวางแผน การทางาน เป็นระบบ และ เปน็ ระบบ และ เปน็ ระบบ และ อยา่ งเป็นระบบ แบ่งหน้าที่ของ แบง่ หนา้ ทขี่ อง แบ่งหนา้ ทีข่ อง และไม่มีการแบง่ สมาชกิ ในกลมุ่ สมาชกิ ในกลมุ่ เป็น สมาชิกในกลมุ่ เปน็ หนา้ ที่ของสมาชิก ส่วนใหญ่ บางคร้งั ในกลุ่ม

หน่วยการเรยี นร้ทู ่ี 2 เรื่อง อิทธพิ ลของอารยธรรมตา่ งชาตทิ ม่ี ตี ่อไทย ๙๑๕ แบบประเมินคณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ คาชแี้ จง : ใหผ้ ูส้ อนสงั เกตพฤตกิ รรมของนักเรยี นในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรยี นแล้วขีด✓ลงในชอ่ งทีต่ รง กับระดบั คะแนน รายการ พฤตกิ รรมการแสดงออก ระดับการปฏบิ ตั ิ ประเมนิ ๓๒๑ ๑. มวี นิ ัย ๑.1 ปฏิบัติตามขอ้ ตกลง กฎเกณฑ์ ระเบยี บ ขอ้ บังคบั ของครอบครัว รบั ผิดชอบ และโรงเรยี น มคี วามตรงต่อเวลาในการปฏบิ ตั กิ ิจกรรมตา่ ง ๆ ๒. ใฝเ่ รยี นรู้ ในชวี ติ ประจาวันมีความรบั ผิดชอบ 2.1 ตง้ั ใจเรยี น 3. ม่งุ มั่นใน 2.2 เอาใจใส่ในการเรยี น และมีความเพียรพยายามในการเรียน การทางาน 2.3 เขา้ รว่ มกจิ กรรมการเรียนร้ตู า่ ง ๆ 2.4 ศกึ ษาค้นคว้า หาความรจู้ ากหนงั สือ เอกสาร ส่ิงพิมพ์ ส่ือ เทคโนโลยตี า่ ง ๆ แหลง่ การเรยี นรทู้ ั้งภายในและภายนอกโรงเรยี น และเลือกใช้สอื่ ได้อย่างเหมาะสม 2.5 บันทึกความรู้ วิเคราะห์ ตรวจสอบบางสิง่ ท่ีเรยี นรู้ สรปุ เปน็ องคค์ วามรู้ 2.6 แลกเปลยี่ นความรู้ดว้ ยวธิ ีการตา่ ง ๆ และนาไปใชใ้ นชวี ติ ประจาวนั 3.1 มคี วามตั้งใจและพยายามในการทางานทไี่ ด้รบั มอบหมาย 3.2 มคี วามอดทนและไมท่ ้อแทต้ อ่ อปุ สรรคเพ่ือใหง้ านสาเร็จ ลงช่ือ................................................................ผู้ประเมิน ...................../..................../................... เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ๓ คะแนน หมายถึง ปฏิบัตหิ รือแสดงพฤติกรรมอย่างสม่าเสมอ ๒ คะแนน หมายถึง ปฏิบัติหรือแสดงพฤตกิ รรมบ่อยครั้ง ๑ คะแนน หมายถงึ ปฏิบัตหิ รือแสดงพฤติกรรมบางครัง้ เกณฑก์ ารใหค้ ะแนนดังตารางแนบทา้ ย เกณฑก์ ารประเมินคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ดงั น้ี ชว่ งคะแนน ระดับคณุ ภาพ เกณฑก์ ารสรุปผลการประเมนิ 22-27 ดยี าก นกั เรยี นทไ่ี ดร้ ะดบั คณุ ภาพผ่านขึน้ ไป ถอื ว่า ผา่ น 15-21 ดี 8-14 ผา่ น 1-7 ไม่ผ่าน

๙๑๖ คู่มือครแู ละแผนจดั การเรียนรู้ ระดบั ประถมศึกษา ภาคเรยี นที่ ๑ (ประวตั ศิ าสตร์ ป.5) แบบประเมินสมรรถนะสาคญั ของผเู้ รียน คาชแี้ จง : ให้ผสู้ อนสังเกตพฤติกรรมของนกั เรยี นในระหว่างเรยี นและนอกเวลาเรยี นแล้วขดี ✓ลงในช่องทตี่ รง กบั ระดับคะแนน รายการประเมนิ พฤตกิ รรมการแสดงออก ระดับการปฏบิ ตั ิ ๓๒๑ ๑. ความสามารถ ๑.1 มีความสามารถในการรบั -สง่ สาร ในการสอ่ื สาร 1.2 มคี วามสามารถในการถา่ ยทอดความรู้ ความคดิ ความเขา้ ใจ ของตนเอง โดยใช้ภาษาอย่างเหมาะสม 2. ความสามารถ 2.1 มที ักษะในการคิดนอกกรอบอย่างสรา้ งสรรค์ ในการคิด 2.2 มคี วามสามารถในการคดิ อยา่ งมีระบบ 3. ความสามารถ 3.1 สามารถทางานกลุม่ รว่ มกบั ผู้อน่ื ได้ ในการใชท้ กั ษะ 3.2 นาความรทู้ ่ไี ด้ไปใช้ประโยชนใ์ นชวี ติ ประจาวัน ชวี ิต ลงช่อื ................................................................ผปู้ ระเมนิ ...................../..................../................... เกณฑก์ ารให้คะแนน ๓ คะแนน หมายถงึ ปฏิบตั ิหรือแสดงพฤติกรรมอย่างสม่าเสมอ ๒ คะแนน หมายถงึ ปฏิบัตหิ รือแสดงพฤตกิ รรมบอ่ ยครัง้ ๑ คะแนน หมายถึง ปฏิบตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบางครัง้ เกณฑก์ ารใหค้ ะแนนดังตารางแนบทา้ ย เกณฑก์ ารประเมินสมรรถนะสาคญั ของผูเ้ รยี น ดงั นี้ ชว่ งคะแนน ระดับคณุ ภาพ เกณฑก์ ารสรปุ ผลการประเมิน 16-18 ดมี าก นกั เรยี นทไ่ี ดร้ ะดบั คณุ ภาพผ่านข้นึ ไป ถือว่า ผา่ น 13-15 ดี 10-12 ผ่าน 1-9 ไม่ผา่ น

หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 2 เร่ือง อทิ ธพิ ลของอารยธรรมตา่ งชาติที่มตี ่อไทย ๙๑๗ แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 3 เรอ่ื ง อารยธรรมอนิ เดยี และจนี หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 2 เรอื่ ง อทิ ธิพลของอารยธรรมต่างชาตทิ มี่ ีต่อไทย เวลา 1 ช่วั โมง กล่มุ สาระการเรียนรสู้ ังคมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม รายวชิ าประวตั ศิ าสตร์ ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี 5 1. มาตรฐานการเรียนร/ู้ ตัวชี้วดั มาตรฐาน ส ๔.2 เข้าใจพัฒนาการของมนุษยชาติจากอดีตจนถึงปัจจุบัน ในด้านความสัมพันธ์ และ การเปลย่ี นแปลงของเหตกุ ารณอ์ ย่างต่อเน่อื ง ตระหนักถึงความสาคญั และสามารถ วเิ คราะหผ์ ลกระทบทเี่ กิดขึ้น ตัวชี้วัด ส 4.2 ป.5/1 อธิบายอิทธิพลของอารยธรรมอินเดยี และจีนที่มีต่อไทย และเอเชียตะวันออก เฉียงใต้ โดยสงั เขป 2. สาระสาคญั /ความคดิ รวบยอด ดินแดนไทยและภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มีความเจริญรุ่งเรืองมาตั้งแต่คร้ังอดีต ผู้คนใน ดนิ แดนบริเวณแถบนี้ได้มีการตดิ ตอ่ ชาวจีนและอนิ เดียมานานแล้ว ทาให้ได้รับอารยธรรมของจีนและอินเดียมา ตั้งแต่คร้ังอดีตส่งผลมาถึงปัจจุบัน อารยธรรมบางอย่างนามาใช้โดยตรง เช่น ภาษา ศาสนา อาหารบางอย่าง ปรับเปลี่ยนให้กบั วัฒนธรรมเดมิ เช่น วฒั นธรรมการดารงชีวติ รูปแบบงานศิลปะ 3. จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ 3.1 ดา้ นความรู้ ความเขา้ ใจ (K) - มีความรูค้ วามเข้าใจเกี่ยวกับอารยธรรมอนิ เดยี และจีน 3.2 ดา้ นทกั ษะ/กระบวนการ (P) - เกิดทักษะในการสืบคน้ ความแตกต่างของอารยธรรมอนิ เดียและจีน 3.3 ด้านคณุ ลักษณะ เจตคติ คา่ นิยม (A) - เห็นความสาคญั เก่ยี วกบั อารยธรรมอินเดียและจนี 4. สาระการเรยี นรู้ - อารยธรรมอนิ เดยี และจนี 5. สมรรถนะสาคญั ของผู้เรยี น 5.1 ความสามารถในการคิด - ทักษะการคดิ สรา้ งสรรค์ - ทกั ษะการคดิ วิเคราะห์ 5.2 ความสามารถในการแกป้ ญั หา - กระบวนการสบื ค้นข้อมูล 5.3 ความสามารถในการใชท้ ักษะชวี ติ - กระบวนการทางานกลมุ่ - กระบวนการปฏบิ ัติ

๙๑๘ คู่มือครแู ละแผนจัดการเรยี นรู้ ระดบั ประถมศกึ ษา ภาคเรยี นท่ี ๑ (ประวตั ศิ าสตร์ ป.5) 6. คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ 1. มีวินยั 2. ใฝ่เรียนรู้ 3. มงุ่ มั่นในการทางาน 7. กจิ กรรมการเรยี นรู้

หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 2 เรอ่ื ง อิทธพิ ลของอารยธรรมต่างชาตทิ ่มี ตี อ่ ไทย ลาดบั ท่ี จุดประสงค์ ขั้นตอนการจดั การจดั กจิ กรรมการเรียน 1. การเรยี นรู้ การเรยี นรู้ แผนการจัดการเรยี นรทู้ ี่ 3 เร 1. มคี วามรู้ความ ขั้นนา เข้าใจเก่ยี วกบั รายวิชาประวตั ศิ าสตร อารยธรรมอนิ เดยี และจีน เวลาที่ แน ใช้ กิจกรรมครู 10 1. ครทู บทวนความรเู้ ดมิ นาที อารยธรรมจนี และอินเดยี 2. ครูต้งั ประเดน็ คาถา ให้นักเรียนรว่ มอภิปรา ความคดิ เห็นเก่ียวกบั อ ธรรมอินเดียและจีน 3. ครูใช้คาถาม 1) อารยธรรมอินเดีย ตอ่ นักเรยี นอย่างไร 2. 2. มีความรคู้ วาม ข้นั สอน ๒) อารยธรรมจนี มผี ล เขา้ ใจเกีย่ วกับ ตอ่ นักเรยี นอย่างไร อารยธรรมอนิ เดีย 20 1. ครูนาวดี ทิ ศั นเ์ ร่ือง อ และจีน นาที ธรรมอนิ เดยี และจนี มา นกั เรยี นดู 2. ครอู ธบิ ายเก่ยี วกับ

นรู้ ชนั้ ประถมศกึ ษาปีท่ี 5 สื่อการเรียนรู้ ๙๑๙ ร่อื ง อารยธรรมอินเดยี และจนี - PowerPoint ร์ จานวน 1 ช่วั โมง การประเมนิ นวการจดั การเรยี นรู้ การเรยี นรู้ - การประเมิน กจิ กรรมนักเรียน คาตอบ ม เร่ือง 1. นกั เรียนทบทวนความรู้เดมิ - การสงั เกต ย เรอ่ื งอารยธรรมจีนและอินเดีย าม 2. นกั เรยี นรว่ มอภปิ ราย ายแสดง แสดงความคดิ เหน็ เกย่ี วกบั อารย อารยธรรมอนิ เดียและจีน 3. นกั เรยี นตอบคาถาม ยมผี ล 1) แนวคาตอบ ทาใหม้ ี การนาหลกั ธรรมทางศาสนา มาใชเ้ ปน็ แนว ทางในการดาเนนิ ชีวิต ล 2) แนวคาตอบ ทาใหม้ ี วัฒนธรรมท่ดี ีงาม เช่น การถอื ศีลกินเจ อารย- 1. นกั เรยี นศึกษาขอ้ มลู จาก - PowerPoint - การสงั เกต าให้ การดวู ดี ทิ ศั นเ์ ร่อื ง อารยธรรม คลปิ อารยธรรม อินเดียและจีน อินเดยี และจีน 2. นกั เรยี นศึกษาขอ้ มลู https://youtu.be/ 5TJjjU8HAvc

๙๒๐ ค ลาดบั ท่ี จุดประสงค์ ข้ันตอนการจดั เวลาที่ แน การเรยี นรู้ การเรยี นรู้ ใช้ กิจกรรมครู 3. 3. เกิดทกั ษะใน ขน้ั ปฏบิ ัติ 10 อารยธรรมอนิ เดียและจ การสบื คน้ ความ นาที เชอ่ื มโยงกบั ส่งิ ของ สถ แตกต่างของอารย บุคคล ทน่ี กั เรยี นเคยเร ธรรมอนิ เดียและ เคยเห็นมีความเปล่ยี นแ จีน อย่างไรบ้าง มหี ลักฐาน บ้างที่ยังหลงเหลืออยใู่ น ปัจจุบนั 3. ครใู ห้นกั เรยี นร่วมก บอกความแตกต่าง ๆ ข อารยธรรมจนี และอนิ เด 4. ครใู หน้ กั เรียนแบง่ กล และแจกใบงาน เรอ่ื ง อา ธรรมอนิ เดียและจนี โดย คาถามให้ถูกตอ้ ง 5. ครแู ละนกั เรียนรว่ ม สรุปเป็นองคค์ วามรู้เก่ยี กับอารยธรรมอินเดยี แ จีนแลว้ ใหน้ กั เรยี นเขยี น เปน็ แผนผังความคิด แ นกั เรยี นแตล่ ะกลมุ่ รว่ ม และส่งตวั แทนกล่มุ นาเ หนา้ ชั้นเรียน

คู่มือครแู ละแผนจัดการเรียนรู้ ระดบั ประถมศึกษา ภาคเรียนท่ี ๑ (ประวตั ศิ าสตร์ ป.5) นวการจดั การเรยี นรู้ ส่อื การเรียนรู้ การประเมนิ - ใบงานท่ี 3 เรื่อง การเรยี นรู้ กิจกรรมนักเรียน อารยธรรมอินเดีย - การสงั เกต จนี ท่ี เก่ียวกับอารยธรรมอินเดีย และจนี - การประเมิน ถานท่ี และจนี ท่เี ชอื่ มโยงกบั ส่งิ ของ รียนรู้ สถานที่ บุคคล ทนี่ กั เรยี นเคย - แผนผงั ความคิด แปลง เรียนรู้ เคยเหน็ มีความ สรุปเนอ้ื หา นอะไร เปล่ยี นแปลงอยา่ งไรบา้ ง น มีหลกั ฐานอะไรบ้างทีย่ ัง หลงเหลอื อยใู่ นปัจจบุ ัน กัน 3. นกั เรยี นรว่ มกนั ของ บอกความแตกต่าง ๆ ของ ดีย อารยธรรมจีนและอนิ เดีย ลุ่ม 4. นกั เรยี นแบง่ กลมุ่ และ ารย ทาใบงาน เรอื่ ง อารยธรรม ยให้ตอบ อินเดยี และจีน มกนั 5. นกั เรยี นรว่ มกนั สรุปเปน็ ยว องค์ความรเู้ กีย่ วกบั อารย- และ ธรรมอินเดยี และจีน แล้ว น เขยี นเป็นแผนผังความคิดส่ง แล้วให้ ตวั แทนกลุม่ นาเสนอหนา้ ช้นั มกนั ทา เรยี น เสนอ

หน่วยการเรียนร้ทู ่ี 2 เรื่อง อิทธพิ ลของอารยธรรมต่างชาติทมี่ ตี อ่ ไทย ลาดบั ท่ี จุดประสงค์ ขน้ั ตอนการจดั เวลาท่ี แน การเรยี นรู้ การเรียนรู้ ใช้ กจิ กรรมครู 4. 4. เห็นความสาคัญ ขนั้ สรุป 10 1. ครสู ่มุ ตวั แทนนักเรยี เก่ียวกับอารยธรรม นาที 2-3 กลุ่ม ออกมานาเส อินเดียและจีน แผนผงั ความคดิ เก่ียวก อารยธรรมอินเดียและจ 2. ครูและนักเรียนรว่ ม ตรวจสอบความถูกตอ้ ง ๓. ครแู ละนักเรียนรว่ ม สรุปองค์ความรู้

นวการจดั การเรยี นรู้ ส่อื การเรยี นรู้ ๙๒๑ กิจกรรมนักเรยี น การประเมิน การเรยี นรู้ ยน 1. ตวั แทนกลุ่ม 2-3 กลมุ่ - การสงั เกต สนอ ออกมานาเสนอแผนผัง - การประเมนิ กับ ความคดิ เก่ยี วกับอารยธรรม จีน อินเดยี และจนี มกนั 2. นกั เรยี นรว่ มกนั ตรวจ ง สอบความถูกต้อง มกัน ๓. นกั เรยี นรว่ มกนั สรุป ความรอู้ ารยธรรมอินเดีย และจีน

๙๒๒ คูม่ อื ครแู ละแผนจดั การเรยี นรู้ ระดับประถมศกึ ษา ภาคเรียนที่ ๑ (ประวัตศิ าสตร์ ป.5) 8. ส่ือการเรยี นรู้/แหล่งการเรยี นรู้ ๑. ห้องสมุดโรงเรยี น ๒. การคน้ ควา้ ขอ้ มลู จากอินเทอร์เน็ต 3. สอ่ื PowerPoint 4. ใบงานท่ี 3 เร่อื ง อารยธรรมอินเดยี และจนี **สามารถปรบั เปลยี่ นได้ตามบรบิ ทของทอ้ งถน่ิ 9. การประเมินผลรวบยอด ชน้ิ งานหรือภาระงาน - ใบงานที่ 3 เรอื่ ง อารยธรรมอนิ เดยี และจีน เกณฑก์ ารประเมินผลชิ้นงานหรือภาระงาน ประเดน็ การวดั วธิ กี าร เคร่ืองมือ เกณฑก์ ารประเมนิ และประเมินผล ผา่ นเกณฑก์ ารประเมนิ ความรู้ (K) - ตรวจใบงาน - ใบงานท่ี 3 เรอ่ื ง ร้อยละ 60 - การสังเกต อารยธรรมอนิ เดียและจีน ทกั ษะ (P) - การประเมิน - แบบสังเกต ผา่ นเกณฑ์การประเมิน - แบบประเมนิ รอ้ ยละ 60 เจตคติ (A) - ตรวจใบงาน - ใบงานที่ 3 เรอื่ ง - การสงั เกต อารยธรรมอนิ เดียและจนี ผ่านเกณฑป์ ระเมินระดบั - การประเมิน - แบบสังเกต คณุ ภาพพอใชข้ น้ึ ไป - แบบประเมิน - สงั เกตพฤติกรรม - แบบประเมินพฤติกรรม คณุ ลักษณะ - ประเมินความมวี นิ ยั - แบบประเมินคณุ ลกั ษณะ ผ่านเกณฑป์ ระเมนิ ระดับ อันพึงประสงค์ ใฝ่เรยี นรู้ และมุ่งมั่นใน การทางาน อันพึงประสงค์ คุณภาพพอใช้ขน้ึ ไป สมรรถนะสาคัญ ของผู้เรียน - ประเมินความสามารถ - แบบประเมนิ สมรรถนะ ผา่ นเกณฑป์ ระเมินระดับ การคดิ การใช้ทกั ษะชวี ิต และการแกป้ ญั หา สาคญั ของผเู้ รยี น คณุ ภาพพอใช้ขึ้นไป

หน่วยการเรียนรูท้ ่ี 2 เรอ่ื ง อทิ ธพิ ลของอารยธรรมตา่ งชาตทิ ่มี ตี ่อไทย ๙๒๓ 10. บนั ทกึ ผลหลังสอน ผลการจดั การเรยี นการสอน .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ความสาเร็จ .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ปญั หาและอปุ สรรค .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ข้อจากดั การใชแ้ ผนการจดั การเรยี นรู้ และขอ้ เสนอแนะ/แนวทางการปรบั ปรุงแก้ไข .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ลงชอ่ื ............................................ผู้สอน (...........................................) วนั ท.่ี .......เดือน.................พ.ศ............ 11. ความคดิ เห็น/ขอ้ เสนอแนะของผบู้ รหิ ารหรอื ผทู้ ่ีไดร้ บั มอบหมาย .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ลงชอื่ ............................................ผตู้ รวจ (...........................................) วนั ท.ี่ .......เดือน.................พ.ศ............

๙๒๔ คู่มือครแู ละแผนจัดการเรยี นรู้ ระดบั ประถมศกึ ษา ภาคเรยี นที่ ๑ (ประวัตศิ าสตร์ ป.5) ใบงานที่ 3 เรอื่ ง อารยธรรมอินเดียและจนี หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ ๒ เรือ่ ง อทิ ธิพลของอารยธรรมตา่ งชาตทิ ่มี ตี อ่ ไทย แผนการจัดการเรียนรทู้ ่ี 3 เรอ่ื ง อารยธรรมอนิ เดียและจนี รายวชิ าประวตั ศิ าสตร์ รหสั วิชา ส๑๕๑๐๒ ภาคเรียนท่ี ๑ ชั้นประถมศกึ ษาปที ่ี ๕ คาชแ้ี จง : จงตอบคาถามต่อไปน้ี ๏ อทิ ธิพลของอารยธรรมอินเดยี ส่งผลตอ่ สังคมไทยอย่างไร ตอบ...................................................................................................................................................................... .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ๏ อทิ ธิพลของอารยธรรมจีนสง่ ผลตอ่ สังคมไทยอยา่ งไร ตอบ...................................................................................................................................................................... .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ๏ นกั เรยี นนาอารยธรรมของชาตจิ นี และอนิ เดยี มาใชใ้ นชวี ติ ประจาวนั ไดอ้ ยา่ งไร ตอบ...................................................................................................................................................................... .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ๏ การรับอารยธรรมอินเดยี ในด้านศาสนาสง่ ผลต่อสังคมไทยอยา่ งไร ตอบ...................................................................................................................................................................... .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ๏ การรับอารยธรรมอนิ เดยี ในด้านศาสนากอ่ ใหเ้ กดิ ประโยชน์อย่างไร ตอบ...................................................................................................................................................................... .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ชอ่ื -นามสกุล................................................................................................ชน้ั ..........................เลขท.ี่ ................

หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 2 เรอ่ื ง อทิ ธิพลของอารยธรรมตา่ งชาตทิ ี่มตี อ่ ไทย ๙๒๕ เฉลยใบงานที่ 3 เรื่อง อารยธรรมอนิ เดยี และจีน หนว่ ยการเรยี นรูท้ ่ี ๒ เร่ือง อทิ ธิพลของอารยธรรมตา่ งชาตทิ ี่มตี อ่ ไทย แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ 3 เร่อื ง อารยธรรมอินเดียและจนี รายวิชาประวตั ศิ าสตร์ รหสั วชิ า ส๑๕๑๐๒ ภาคเรียนที่ ๑ ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ่ี ๕ คาชแี้ จง : จงตอบคาถามตอ่ ไปนี้ ๏ อิทธิพลของอารยธรรมอนิ เดียส่งผลต่อสงั คมไทยอย่างไร ตอบ คนไทยส่วนใหญ่นับถือพระพทุ ธศาสนา นับถือเทพเจ้าของศาสนา พราหมณ์-ฮนิ ดู นาวรรณกรรมรามเกียรต์ิ มาใชใ้ นนาฏศิลปไ์ ทย คือ การแสดงโขน มีการใชเ้ ครอ่ื งเทศมาประกอบอาหารผสมผสานกบั อาหารไทย ๏ อทิ ธพิ ลของอารยธรรมจนี สง่ ผลต่อสงั คมไทยอย่างไร ตอบ เกิดพิธีกรรมในเทศกาลสาคัญ เช่น กินเจ ไหว้พระจันทร์ ไหว้เจ้า คนไทยมีอาหารท่ีหลากหลายให้เลือก รับประทานอาหารมากขึ้น มีการใช้ภาษาจีนผสมผสานกับการใช้ภาษาไทย การศึกษาความรู้ตามวรรณกรรม จนี และนาไปปรับใช้ในการดาเนินชีวิต ๏ นกั เรยี นนาอารยธรรมของชาตจิ นี และอนิ เดยี มาใชใ้ นชวี ติ ประจาวนั ไดอ้ ยา่ งไร ตอบ นาวัฒนธรรมจีนมาใช้โดยการใช้ตะเกียบเวลารบั ประทานกว๋ ยเต๋ียว รบั ประทานโรตี ซึ่งมาจากวัฒนธรรม อนิ เดีย ๏ การรบั อารยธรรมอินเดยี ในด้านศาสนาส่งผลต่อสังคมไทยอยา่ งไร ตอบ คนไทยส่วนใหญ่ของประเทศนับถือพระพุทธศาสนาและประกอบพิธีกรรมต่าง ๆ ตามหลักศาสนา พราหมณ-์ ฮินดู ๏ การรับอารยธรรมอนิ เดียในด้านศาสนากอ่ ให้เกิดประโยชน์อยา่ งไร ตอบ มีหลักคาสอนท่ีสามารถนามาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจาวันได้ เช่น ความเมตตากรุณา ความอ่อนน้อม ถอ่ มตน

๙๒๖ คู่มือครแู ละแผนจัดการเรยี นรู้ ระดบั ประถมศกึ ษา ภาคเรยี นท่ี ๑ (ประวัตศิ าสตร์ ป.5) แบบประเมนิ การนาเสนอหนา้ ชน้ั เรยี น เกณฑ์ ระดับคณุ ภาพ การประเมนิ ดมี าก (๔) ดี (๓) พอใช้ (๒) ปรับปรุง (๑) 1. การ คลอ่ งแคลว่ ไม่ติดขัด คล่องแคลว่ ไมต่ ิดขัด ไมค่ ล่องแคลว่ มีการ ตดิ ขัด หยดุ ชะงักใน ถา่ ยทอดเนื้อหา ทาให้เข้าใจประเด็น ทาใหเ้ ข้าใจประเดน็ หยุดชะงกั บ้าง หลายจังหวะ พดู ไดง้ า่ ยและเร็ว ได้ง่าย การพดู มกี าร บางครัง้ จังหวะพูด เรว็ หรอื ช้าเกนิ ไป การพูดมีการเวน้ เวน้ จงั หวะอย่าง ชา้ จบั ประเด็นไม่ได้ จังหวะและเนน้ คา เหมาะสม ความเร็ว เนน้ สาระสาคัญอยา่ ง ในการพูดอยูใ่ น เหมาะสมเพ่อื ให้ผ้ฟู งั ระดับเหมาะสม ติดตามการนาเสนอ ความเรว็ ในการพูด อยู่ในระดบั เหมาะสม 2. บุคลกิ ภาพ มีความม่ันใจ สบ สบสายตาผฟู้ งั สบสายตาผู้ฟงั น้อย ก้มหน้าไม่สบตา สายตาผฟู้ ัง พอสมควร น้าเสยี ง น้าเสยี งส่นั ขาด และนา้ เสยี งสน่ั และ ตลอดเวลาเพ่ือ สะท้อน ความม่นั ใจ เสยี ง เบา ดึงดูดให้ผ้ฟู งั สนใจ ถงึ ความมน่ั ใจ เสียง เบาและดังสลบั ไป ในเน้ือหาทถ่ี ่ายทอด ดงั พอเหมาะ เสยี งดงั พอเหมาะ 3. การใช้ภาษา คล่องแคล่ว เชน่ แสดงกรยิ าท่าทาง ใช้ภาษากายสอื่ สาร ไม่ใช้ภาษากาย กายใน ยกมอื /ผายมอื ประกอบการนาเสนอ นอ้ ยคร้งั สื่อสาร การสอื่ สาร แสดงกรยิ าท่าทาง พอสมควร ประกอบการ นาเสนอเพื่อดึงดูด ความสนใจ 5. ความ ใช้เวลาใน ใช้เวลาใน ใชเ้ วลาใน ใช้เวลาใน เหมาะสมกับ การนาเสนอ การนาเสนอเกิน การนาเสนอเกิน การนาเสนอเกินเวลา เวลา เหมาะสม เวลาที่กาหนด ๑-๓ เวลาที่กาหนด ๔-๕ ที่กาหนด มากกวา่ ๕ นาที นาที นาทขี ้ึนไป เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน คะแนน หมายถงึ ดี คะแนน 8-๑0 คะแนน หมายถึง พอใช้ คะแนน 5-7 คะแนน หมายถึง ปรบั ปรงุ คะแนน ๑-4 เกณฑก์ ารผา่ น ต้งั แต่ 5 คะแนน ข้นึ ไป

หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 2 เรอ่ื ง อทิ ธิพลของอารยธรรมต่างชาติท่ีมีต่อไทย ๙๒๗ แบบประเมนิ การสังเกตพฤตกิ รรมการเรยี นรู้ ปรบั ปรุง (๑) ไม่มีความกระตือรือรน้ เกณฑก์ ารประเมิน ดี (๓) ระดบั คณุ ภาพ ในการรว่ มกิจกรรม 1. การรว่ มกิจกรรม มคี วามกระตือรือร้นใน พอใช้ (๒) การรว่ มกิจกรรมอยา่ ง สม่าเสมอ มคี วามกระตอื รอื ร้นใน การรว่ มกจิ กรรมใน บางคร้ัง 2. การรับฟงั ความ รับฟังความคิดเหน็ ของ รบั ฟังความคดิ เห็นของ ไม่รบั ฟังความคิดเห็น คิดเหน็ ของผอู้ น่ื ผู้อ่นื อย่างสมา่ เสมอ ผอู้ ่นื เป็นบางครัง้ ของผูอ้ ่ืน 3. ความรบั ผดิ ชอบ มคี วามรบั ผดิ ชอบในงาน มคี วามรบั ผิดชอบในงาน ไมม่ ีความรับผดิ ชอบใน ทไ่ี ดร้ ับมอบหมายอยา่ ง ทไ่ี ดร้ บั มอบหมายใน งานที่ได้รับมอบหมาย สมา่ เสมอ บางครั้ง 4. ขยันหมนั่ เพยี ร มคี วามขยนั หม่ันเพียร มีความขยันหมนั่ เพยี ร ไม่มคี วามขยันหมนั่ เพยี ร พยายามทางานให้สาเรจ็ พยายามทางานให้สาเร็จ พยายามทางานให้สาเร็จ อย่างสม่าเสมอ เป็นบางคร้งั 5. ตรงตอ่ เวลา ส่งช้นิ งานภายในเวลาท่ี ส่งผลงานเสร็จตรงเวลา สง่ ผลงานช้ากวา่ เวลา กาหนด กาหนด เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน หมายถงึ ดี คะแนน ๑1-๑๕ คะแนน หมายถงึ พอใช้ คะแนน 6-๑0 คะแนน หมายถงึ ปรับปรุง คะแนน ๑-5 คะแนน เกณฑก์ ารผ่าน ตั้งแต่ 6 คะแนน ข้นึ ไป