หน่วยการเรียนรทู้ ี่ 2 เรอ่ื ง อทิ ธิพลของอารยธรรมตา่ งชาติทมี่ ีต่อไทย ๑๐๕๗ แบบประเมนิ สมรรถนะสาคญั ของผเู้ รยี น คาชแ้ี จง : ใหผ้ ู้สอนสังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหว่างเรยี นและนอกเวลาเรยี น แล้วขดี ✓ลงในชอ่ งท่ตี รง กับระดับคะแนน รายการประเมิน พฤตกิ รรมการแสดงออก ระดับการปฏบิ ตั ิ ๓๒๑ ๑. ความสามารถ ๑.1 มคี วามสามารถในการรบั - ส่งสาร ในการสอ่ื สาร 1.2 มคี วามสามารถในการถ่ายทอดความรู้ ความคิด ความเขา้ ใจ ของตนเอง โดยใชภ้ าษาอย่างเหมาะสม 2. ความสามารถ 2.1 มีทักษะในการคดิ นอกกรอบอย่างสรา้ งสรรค์ ในการคดิ 2.2 มคี วามสามารถในการคดิ อยา่ งมรี ะบบ 3. ความสามารถ 3.1 สามารถทางานกลมุ่ รว่ มกบั ผ้อู นื่ ได้ ในการใชท้ กั ษะ 3.2 นาความรทู้ ไ่ี ด้ไปใช้ประโยชนใ์ นชวี ติ ประจาวัน ชีวติ ลงชอ่ื ................................................................ผู้ประเมิน ...................../..................../................... เกณฑก์ ารให้คะแนน ๓ คะแนน หมายถงึ ปฏิบัติหรอื แสดงพฤตกิ รรมอย่างสมา่ เสมอ ๒ คะแนน หมายถึง ปฏบิ ัตหิ รือแสดงพฤตกิ รรมบอ่ ยคร้ัง ๑ คะแนน หมายถงึ ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมบางครั้ง เกณฑก์ ารให้คะแนนดังตารางแนบทา้ ย เกณฑก์ ารประเมนิ สมรรถนะสาคญั ของผเู้ รยี น ดงั นี้ ช่วงคะแนน ระดับคณุ ภาพ เกณฑก์ ำรสรปุ ผลกำรประเมนิ 16-18 ดมี าก นกั เรยี นทไ่ี ดร้ ะดบั คณุ ภาพผ่านขน้ึ ไป ถือว่า ผำ่ น 13-15 ดี 10-12 ผา่ น 1-9 ไม่ผา่ น
๑๐๕๘ คูม่ อื ครแู ละแผนจัดการเรียนรู้ ระดับประถมศึกษา ภาคเรยี นที่ ๑ (ประวตั ศิ าสตร์ ป.5) แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ 11 เรื่อง อทิ ธิพลของชาติตะวนั ตกที่มตี ่อสังคมไทย (โปรตเุ กส ฮอลนั ดา ฝรัง่ เศส อังกฤษ) หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 เร่อื ง อิทธิพลของอารยธรรมตา่ งชาตทิ มี่ ตี อ่ ไทย เวลา 1 ชว่ั โมง กล่มุ สาระการเรยี นรสู้ ังคมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม รายวชิ าประวตั ศิ าสตร์ ช้ันประถมศกึ ษาปที ่ี 5 1. มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชว้ี ัด มาตรฐาน ส ๔.2 เข้าใจพัฒนาการของมนุษยชาติจากอดีตจนถึงปัจจุบัน ในด้านความสัมพันธ์ และ การเปลย่ี นแปลงของเหตุการณ์อยา่ งต่อเนอื่ ง ตระหนักถงึ ความสาคัญและสามารถ วิเคราะหผ์ ลกระทบทเ่ี กิดขนึ้ ตัวช้วี ดั ส 4.2 ป.5/2 อภปิ รายอิทธพิ ลของวัฒนธรรมต่างชาติทมี่ ตี อ่ สังคมไทยปัจจบุ นั โดยสังเขป 2. สาระสาคัญ/ความคดิ รวบยอด อารยธรรมของชาติตะวันตกเริ่มเข้ามีบทบาทในไทยสมัยอยุธยาและเริ่มมากข้ึนเร่ือย ๆ โดยเฉพาะ อยา่ งย่ิงในสมยั พระบาทสมเด็จนารายณม์ หาราชท่ไี ทยมกี ารติดตอ่ ค้าขายกับชาวตา่ งชาติเปน็ จานวนมาก ทาให้ ได้รับวิทยาการความรู้ใหม่ ๆ จากชาติตะวันตกท่ีนาเข้ามาเผยแพร่ เช่น การแพทย์ อาวุธยุทโธปกรณ์ การทหาร การศึกษา การก่อสรา้ ง เป็นตน้ 3. จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ 3.1 ด้านความรู้ ความเขา้ ใจ (K) - อธิบายและวิเคราะห์อิทธพิ ลของชาติตะวนั ตกทมี่ ตี ่อสังคมไทย 3.2 ด้านทกั ษะ/กระบวนการ (P) - เกิดทักษะในการสบื ค้นอทิ ธพิ ลของชาติตะวนั ตกท่มี ีตอ่ สงั คมไทย 3.3 ด้านคณุ ลกั ษณะ เจตคติ คา่ นยิ ม (A) - ตระหนกั ถึงความสาคญั ของอทิ ธิพลของชาตติ ะวันตกท่มี ีต่อสังคมไทย 4. สาระการเรียนรู้ - อิทธพิ ลของชาตติ ะวันตกทีม่ ีตอ่ สงั คมไทย 5. สมรรถนะสาคญั ของผูเ้ รยี น 5.1 ความสามารถในการคดิ - ทักษะการคดิ สรา้ งสรรค์ - ทกั ษะการคดิ วิเคราะห์ 5.2 ความสามารถในการแกป้ ญั หา - กระบวนการสืบค้นขอ้ มูล 5.3 ความสามารถในการใชท้ ักษะชวี ติ - กระบวนการปฏบิ ตั ิ
หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 2 เรอื่ ง อทิ ธพิ ลของอารยธรรมต่างชาติทีม่ ีตอ่ ไทย ๑๐๕๙ 6. คณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ 1. มวี นิ ยั 2. ใฝเ่ รียนรู้ 3. มุ่งม่นั ในการทางาน 7. กิจกรรมการเรยี นรู้
๑๐๖๐ ค ลาดับท่ี การจดั กิจกรรมการเรียน 1. แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ 11 เรอ่ื ง อทิ ธิพลของชาติตะวนั ต รายวชิ าประวตั ศิ าสตร จุดประสงค์ ขนั้ ตอนการจดั เวลาท่ี แน การเรียนรู้ การเรียนรู้ ใช้ กจิ กรรมครู ขนั้ นา 5 นาที 1. ครูให้นกั เรียนดภู าพ “ ไทย” และดวู ดิ โี อ เรื่อง ต ตาหรับขนมไทย ทา้ วทอง 2. ครใู ช้คาถาม 1) นักเรยี นทราบหรือไม ภาพนี้มีขนมหวานชนิดใด ๒) ขนมหวานเหล่านมี้ ีต กาเนิดมาจากที่ใด 3) เพราะเหตใุ ดขนมหว เหลา่ น้ีจงึ แพร่หลายและเ นิยมมาจนถึงปัจจุบัน 2. 1. อธบิ ายและ ขั้นสอน 25 ๑. ครใู หน้ กั เรียนศกึ ษาขอ้ วิเคราะหอ์ ิทธพิ ล นาที ใบความรู้ เร่อื ง อิทธพิ ลข ของชาตติ ะวนั ตก ทม่ี ีต่อสงั คมไทย ตะวนั ตกท่มี ตี ่อสงั คมไทย พูดคยุ สอบถามเก่ียวกับก แลกเปลย่ี นเรยี นรู้อิทธิพล ชาตติ ะวันตกที่มีตอ่ สังคม
คูม่ อื ครแู ละแผนจัดการเรยี นรู้ ระดบั ประถมศึกษา ภาคเรียนท่ี ๑ (ประวตั ิศาสตร์ ป.5) นรู้ ชนั้ ประถมศกึ ษาปีท่ี 5 ตกท่ีมตี ่อสังคมไทย( โปรตุเกส ฮอลันดา ฝร่ังเศส องั กฤษ) ร์ จานวน 1 ชว่ั โมง นวการจดั การเรยี นรู้ สอ่ื การเรยี นรู้ การประเมนิ กิจกรรมนักเรยี น การเรยี นรู้ “ขนม 1. นกั เรียนดูภาพ ขนมไทย - PowerPoint - การประเมิน ตานาน งกีบมา้ - ภาพ ขนมไทย คาตอบ มว่ ่าใน ดบา้ ง 2. นกั เรยี นตอบคาถาม - วดิ โี อ เรือ่ ง ตานาน - การสังเกต ตน้ ตาหรบั ขนมไทย 1) แนวคาตอบ ทองหยอด ทา้ วทองกีบม้า ฝอยทอง ลูกชบุ ขนมช้นั จา่ มงกุฎ https://youtu.be/ 2) แนวคาตอบ เปน็ ขนมทม่ี ี ตน้ ตารับมาจากประเทศโปรตเุ กส RaOVdhgiFx8 วาน 3) แนวคาตอบ ขนมหวาน เปน็ ที่ เหล่าน้เี ป็นตัวอยา่ งของอทิ ธพิ ล จากชาติตะวนั ตกท่ีเข้ามามี อทิ ธิพลในภูมิภาคเอเชียตะวนั ออกเฉียงใต้ อมูลจาก 1. นักเรยี นศึกษาขอ้ มูลจากใบ - PowerPoint - การประเมนิ ของชาติ ความรู้ เรื่อง อิทธพิ ลของชาติ - ใบความรู้ เรอื่ ง คาตอบ ย และ ตะวันตกทม่ี ตี อ่ สังคมไทย อิทธิพลของชาติ - การสงั เกต การ ตะวนั ตกทีม่ ีต่อ ลของ สงั คมไทย มไทย
หน่วยการเรยี นร้ทู ่ี 2 เรอื่ ง อทิ ธพิ ลของอารยธรรมตา่ งชาตทิ ีม่ ตี อ่ ไทย ลาดบั ท่ี จดุ ประสงค์ ข้ันตอนการจดั เวลาที่ แน 3. การเรียนรู้ การเรียนรู้ ใช้ กจิ กรรมครู 2. เกิดทักษะใน การสืบคน้ ขนั้ ปฏิบัติ 10 2. ครแู ละนกั เรียนรว่ มกนั อิทธิพลของชาติ นาที แลกเปลยี่ นเรยี นรูเ้ กี่ยวกับ ตะวนั ตกทมี่ ีต่อ ของชาตติ ะวันตก (โปรตุเ สงั คมไทย ฮอลนั ดา ฝรง่ั เศส องั กฤษ สังคมไทย 3. ครูใหน้ ักเรียนจับคทู่ าใ เร่อื ง อิทธพิ ลของชาตติ ะว ต่อสังคมไทย (โปรตเุ กส ฮ ฝรง่ั เศส อังกฤษ) ๔. ครูให้ตวั แทนนกั เรียนน ผลงานหน้าชัน้ เรยี น 4. 3. ตระหนกั ถงึ ขั้นสรปุ 10 1. ครสู มุ่ ตวั แทนนักเรยี น ความสาคญั ของ นาที ออกมานาเสนอใบงาน เร อิทธพิ ลของชาติ อทิ ธพิ ลของชาตติ ะวนั ตก ตะวนั ตกทมี่ ตี ่อ สงั คมไทย (โปรตเุ กส ฮอล สงั คมไทย ฝรงั่ เศส องั กฤษ) 2. ครูและนกั เรียนร่วมกัน ตรวจสอบความถกู ตอ้ ง ๓. ครแู ละนกั เรียนรว่ มกนั ความรู้
๑๐๖๑ นวการจดั การเรยี นรู้ สอื่ การเรียนรู้ การประเมิน กิจกรรมนกั เรียน - PowerPoint การเรียนรู้ - การสังเกต นสนทนา 2. นกั เรยี นรว่ มกนั สนทนา - ใบงานท่ี 11 เรื่อง - การประเมิน บอทิ ธิพล แลกเปล่ยี นเรยี นรเู้ กยี่ วกบั อทิ ธิพลของชาติ เกส อทิ ธิพลของชาติตะวนั ตก ตะวันตกทีม่ ตี ่อ ษ) ที่มีตอ่ (โปรตุเกส ฮอลันดา ฝรั่งเศส สงั คมไทย (โปรตเุ กส ฮอลนั ดา อังกฤษ) ท่ีมตี ่อสังคมไทย ฝรัง่ เศส องั กฤษ) าใบงาน 3. นกั เรยี นจับค่ทู าใบงาน เรื่อง วนั ตกท่ีมี อทิ ธพิ ลของชาติตะวนั ตกทีม่ ตี อ่ ฮอลันดา สงั คมไทย (โปรตุเกส ฮอลันดา ฝรง่ั เศส องั กฤษ) นาเสนอ 4. ตวั แทนนกั เรยี นนาเสนอ ผลงานหน้าชั้นเรยี น น 2-3 คู่ 1. ตัวแทนนกั เรียน 2-3 คู่ รื่อง ออกมานาเสนอใบงาน เร่ือง กทีม่ ีตอ่ อทิ ธิพลของชาติตะวนั ตกท่มี ีต่อ ลันดา สงั คมไทย (โปรตุเกส ฮอลันดา ฝรัง่ เศส องั กฤษ) น 2. นกั เรยี นร่วมกันตรวจสอบ ความถกู ตอ้ ง นสรุปองค์ 3. นักเรยี นรว่ มกันสรุปความรู้
๑๐๖๒ คู่มอื ครแู ละแผนจดั การเรยี นรู้ ระดบั ประถมศึกษา ภาคเรยี นที่ ๑ (ประวตั ิศาสตร์ ป.5) 8. สอ่ื การเรียนรู/้ แหล่งการเรียนรู้ ๑. หอ้ งสมุดโรงเรียน ๒. การค้นคว้าข้อมูลจากอินเทอร์เน็ต 3. สื่อ PowerPoint 4. ใบงานท่ี 11 เรอื่ ง อิทธิพลของชาติตะวันตกทีม่ ีต่อสงั คมไทย (โปรตุเกส ฮอลนั ดา ฝรัง่ เศส อังกฤษ) 9. การประเมินผลรวบยอด ชนิ้ งานหรือภาระงาน 1. ใบงานท่ี 11 เรื่อง อิทธิพลของชาติตะวันตกที่มตี อ่ สังคมไทย (โปรตเุ กส ฮอลนั ดา ฝรงั่ เศส องั กฤษ) 2. ความถูกตอ้ งของการทาใบงาน เกณฑก์ ารประเมนิ ผลชน้ิ งานหรือภาระงาน ประเดน็ การวดั วิธีการ เครอื่ งมอื เกณฑก์ ารประเมิน และประเมนิ ผล ความรู้ (K) - ตรวจใบงาน - ใบงานท่ี 11 เรอ่ื งอิทธพิ ล ผา่ นเกณฑ์การประเมิน - การสังเกต ทกั ษะ (P) - การประเมนิ ของชาตติ ะวนั ตกทมี่ ตี อ่ รอ้ ยละ 60 เจตคติ (A) - ตรวจใบงาน สังคมไทย คณุ ลักษณะ - การสังเกต อันพงึ ประสงค์ - การประเมิน - แบบสังเกต สมรรถนะสาคญั ของผเู้ รยี น - สังเกตพฤตกิ รรม - แบบประเมนิ - ประเมินความมีวนิ ัย - ใบงานท่ี 11 เร่อื งอิทธพิ ล ผา่ นเกณฑ์การประเมนิ ใฝเ่ รยี นรู้ และมุง่ มน่ั ใน การทางาน ของชาติตะวนั ตกท่ีมีต่อ รอ้ ยละ 60 - ประเมนิ ความสามารถ การคดิ การใช้ทักษะชีวิต สังคมไทย และการแก้ปญั หา - แบบสงั เกต - แบบประเมิน - แบบประเมินพฤตกิ รรม ผา่ นเกณฑป์ ระเมนิ ระดับ คณุ ภาพพอใช้ข้นึ ไป - แบบประเมินคณุ ลักษณะ ผ่านเกณฑป์ ระเมนิ ระดับ อันพึงประสงค์ คุณภาพพอใชข้ น้ึ ไป - แบบประเมินสมรรถนะ ผ่านเกณฑป์ ระเมนิ ระดับ สาคัญของผ้เู รยี น คุณภาพพอใชข้ นึ้ ไป
หน่วยการเรยี นรู้ที่ 2 เรื่อง อิทธพิ ลของอารยธรรมต่างชาติทม่ี ีต่อไทย ๑๐๖๓ 10. บนั ทึกผลหลังสอน ผลการจัดการเรียนการสอน .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ความสาเร็จ .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ปัญหาและอุปสรรค .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ขอ้ จากัดการใช้แผนการจดั การเรยี นรู้ และขอ้ เสนอแนะ/แนวทางการปรบั ปรุงแกไ้ ข .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ลงช่อื ............................................ผสู้ อน (...........................................) วนั ท.่ี .......เดอื น.................พ.ศ............ 11. ความคดิ เหน็ /ข้อเสนอแนะของผบู้ รหิ ารหรอื ผทู้ ่ีไดร้ บั มอบหมาย .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ลงช่อื ............................................ผตู้ รวจ (...........................................) วันที.่ .......เดอื น.................พ.ศ............
๑๐๖๔ คมู่ อื ครแู ละแผนจดั การเรียนรู้ ระดบั ประถมศกึ ษา ภาคเรยี นที่ ๑ (ประวัตศิ าสตร์ ป.5) ใบความรทู้ ี่ 3 เรือ่ ง อทิ ธิพลของชาตติ ะวนั ตกที่มตี อ่ สงั คมไทย หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ ๒ เร่อื ง อทิ ธพิ ลของอารยธรรมตา่ งชาตทิ มี่ ตี ่อไทย แผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี 11 เรอ่ื ง อทิ ธพิ ลของชาตติ ะวนั ตกท่ีมตี ่อสงั คมไทย (โปรตเุ กส ฮอลนั ดา ฝร่งั เศส อังกฤษ) รายวชิ าประวตั ศิ าสตร์ รหสั วชิ า ส๑๕๑๐๒ ภาคเรียนท่ี ๑ ชนั้ ประถมศึกษาปที ่ี ๕ อทิ ธพิ ลของชาตติ ะวนั ตกทมี่ ตี อ่ สังคมไทย วฒั นธรรมชาตนิ ิยมตะวนั ตกท่ีมอี ทิ ธิพลต่อวัฒนธรรมไทย โปรตุเกส เป็นชาติตะวันตกชาติแรกที่เข้ามาในสมัยสมเด็จพระรามาธิบดีที่ ๒ นาวัฒนธรรมการทา ปืนไฟ การสร้างป้อมต่อต้านปืนไฟ ยุทธวิธีทางการทหาร การทาขี้ผ้ึงรักษาแผล การทาขนมฝอยทอง ขนม ฝร่ัง เป็นทหารอาสาสมยั พระชยั ราชาธริ าช รบกบั พม่า ๑๒๐ คน ฮอลันดา เข้ามาในสมัยพระนเรศวรมหาราช อาคารท่ีฮอลันดาสร้าง ไทยเรียกว่า “ตึกวิลันดา” นาอาวุธปืนมาขาย รวมท้ังเครื่องแก้ว กล้องยาสูบ เคร่ืองเพชรเคร่ืองพลอย ในสมัยสมเด็จพระนารายณ์ มหาราชกท็ รงพอพระทัยแว่นตา และกล้องสอ่ งทางไกลจากฮอลันดา องั กฤษ เขา้ มาในราชสานักสมยั พระเอกาทศรถ มุ่งทางดา้ นการค้า แต่สู้ฮอลันดาไม่ได้ เชน่ ยอรช์ ไวต์ มีตาแหน่งเปน็ ออกหลวงวชิ ิตสาคร สว่ น แซมมวล ไวต์ ได้เปน็ นายท่าเมอื งมะรดิ ฝร่ังเศส เข้ามาสมัยพระนารายณ์มหาราช เพื่อเผยแผ่ศาสนาคริสต์ คณะบาทหลวงได้นาความรู้ด้าน การแพทย์ การศกึ ษา การทหาร ดาราศาสตร์ การวางทอ่ ประปา การสรา้ งหอดดู าวที่ลพบรุ แี ละอืน่ ๆ อกี หลายแหง่ ในสมัยอยุธยาตอนปลายความสัมพันธ์กับชาติตะวันตกลดลงและหยุดชะงักไปในสมัยพระบาทสมเด็จ พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงปรับปรุงประเทศตามแบบตะวันตกโดยมีการเปิดสัมพันธ์ทางการทูต เพราะ ตระหนักถึงภยันตรายที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ เป็นการป้องกันการแทรกแซงภายใน วัฒนธรรมตะวันตกจึงเร่ิม ผสมผสานจนเปน็ ท่ยี อมรับและเขา้ มามีบทบาทในดา้ นตา่ ง ๆ ดงั นี้ ๑. การเมืองการปกครอง รับเอาประเพณี ค่านิยม วัฒนธรรม เข้ามาในประเทศ เพราะมีพระบรม วงศานุวงศ์ไปเรียนต่างประเทศ มีการปฏิรูปการปกครองแบบชาติตะวันตก ตั้งกระทรวง ๑๒ กระทรวง ๒. เศรษฐกิจ ยกเลิกระบบไพร่ เลิกทาส ใช้เงินตราเป็นตัวกลางในการซ้ือขาย ตั้งธนาคารแห่งแรก คือ บคุ คลัภย์ (Book Club) ตอ่ มาคือธนาคารไทยพาณชิ ย์ ๓. ด้านสังคม เลิกระบบหมอบคลานมาเป็นแสดงความเคารพให้นั่งเก้าอ้ีแทน เปล่ียนแปลงการ แต่งกาย จัดการศึกษาเป็นระบบโรงเรียน ต่อมาในสมัยรัชกาลที่ ๖ ได้ออกพระราชบัญญัติประถมศึกษา พ.ศ. ๒๔๖๔ การศึกษาขยายถึงระดบั มหาวิทยาลัย มีพระราชบญั ญัตินามสกุล และคานาหน้าชื่อ นาย นาง นางสาว เด็กหญงิ เด็กชาย สรุปได้ว่า คนไทยมีวัฒนธรรมที่เป็นของตนเองมาตง้ั แต่สุโขทยั ซ่ึงแสดงออกถึงความเป็นชาตทิ ีม่ ีความ รัก ความสามัคคี และสงบสุข อย่างไรก็ตาม วฒั นธรรมไทยก็เหมือนวัฒนธรรมของชนชาติอ่นื ที่เป็นวัฒนธรรม แบบผสมผสาน คือ ๑. มวี ฒั นธรรมดงั้ เดมิ เปน็ ของตนเอง ๒. รับเอาวัฒนธรรมอน่ื จากภายนอกทไ่ี ด้ตดิ ต่อสมั พนั ธก์ ัน มาผสมผสานใหเ้ กิดประโยชนต์ อ่ ส่วนรวม อา้ งอิง/แหลง่ ทม่ี า : http://www.legendnews.net/index.php?lay=show&ac=article&Id=539362698
หนว่ ยการเรียนร้ทู ี่ 2 เร่อื ง อทิ ธิพลของอารยธรรมต่างชาตทิ ม่ี ตี ่อไทย ๑๐๖๕ ใบงานท่ี 11 เรื่อง อิทธพิ ลของชาติตะวันตกทมี่ ตี ่อสังคมไทย (โปรตเุ กส ฮอลันดา ฝร่ังเศส องั กฤษ) หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ ๒ เร่อื ง อทิ ธพิ ลของอารยธรรมตา่ งชาตทิ ี่มตี อ่ ไทย แผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี 11 เรื่อง อทิ ธพิ ลของชาตติ ะวนั ตกทมี่ ตี อ่ สงั คมไทย (โปรตเุ กส ฮอลนั ดา ฝรง่ั เศส องั กฤษ) รายวชิ าประวตั ศิ าสตร์ รหสั วชิ า ส๑๕๑๐๒ ภาคเรยี นท่ี ๑ ชั้นประถมศกึ ษาปที ่ี ๕ คาสง่ั : ให้นักเรยี นตัดภาพด้านขา้ งทีเ่ กย่ี วกบั อทิ ธพิ ลตา่ งชาตใิ หต้ รงกับประเทศที่กาหนด ประเทศโปรตเุ กส ประเทศฝร่ังเศส ทีม่ าของภาพ : ท่ีมาของภาพ : http://www.digitalschool.club https://commons.wiki /digitalschool/social1_1_1/ media.org/wiki/File:Au social1_4/more/page42.php dience_with_Narai,_16 85-10-18_(b).jpg ประเทศฮอลันดา ประเทศองั กฤษ ที่มาของภาพ : https:// bankanhomthai/home /prawati-khwam-pen- ma-khxng-khnm-thiy คาชี้แจง : ให้นักเรียนรว่ มกันวเิ คราะหผ์ ลดแี ละผลเสยี ของการรับวัฒนธรรมจากชาติตะวันตก โดยใชแ้ ผนภาพ ความคดิ แล้วสรุปเป็นความคิดรวบยอด อารยธรรม ตะวนั ตก ผลดี ผลเสยี ชอ่ื -นามสกลุ .......................................................................................ชัน้ .............................เลขท.ี่ ......................
๑๐๖๖ คูม่ ือครแู ละแผนจัดการเรยี นรู้ ระดบั ประถมศกึ ษา ภาคเรียนที่ ๑ (ประวตั ิศาสตร์ ป.5) เฉลยใบงานท่ี 11 เรือ่ ง อทิ ธพิ ลของชาตติ ะวันตกท่ีมตี ่อสังคมไทย (โปรตุเกส ฮอลันดา ฝร่งั เศส องั กฤษ) หนว่ ยการเรยี นร้ทู ่ี ๒ เรอ่ื ง อิทธพิ ลของอารยธรรมต่างชาตทิ ีม่ ตี อ่ ไทย แผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี 11 เร่อื ง อทิ ธิพลของชาตติ ะวนั ตกทีม่ ตี อ่ สงั คมไทย (โปรตเุ กส ฮอลนั ดา ฝร่งั เศส องั กฤษ) รายวชิ าประวตั ศิ าสตร์ รหสั วชิ า ส๑๕๑๐๒ ภาคเรียนที่ ๑ ชั้นประถมศกึ ษาปที ี่ ๕ คาสงั่ : ใหน้ ักเรียนตัดภาพด้านข้างทีเ่ กีย่ วกับอทิ ธิพลตา่ งชาตใิ ห้ตรงกับประเทศท่กี าหนด ท่มี าของภาพ : https:// ทมี่ าของภาพ : bankanhomthai/home https://commons.wikimedia.org/ /prawati-khwam-pen- wiki/File:Audience_with_Narai,_1 ma-khxng-khnm-thiy 685-10-18_(b).jpg ประเทศโปรตเุ กส ประเทศฝร่ังเศส ทม่ี าของภาพ : http://www.digitalschool.club /digitalschool/social1_1_1/ social1_4/more/page42.php ประเทศฮอลนั ดา ประเทศองั กฤษ คาช้ีแจง : ใหน้ กั เรยี นรว่ มกนั วเิ คราะหผ์ ลดีและผลเสยี ของการรบั วัฒนธรรมจากชาตติ ะวนั ตก โดยใช้แผนภาพ ความคดิ แล้วสรุปเป็นความคดิ รวบยอด อตาะรวยนัธรตรกม ผลดี ผลเสีย ทาให้เกดิ ทาให้เกดิ ความเจริญก้าวหน้า ความฟมุ่ เฟือย เน้นด้านวัตถุนิยม มีความทนั สมัย
หน่วยการเรียนร้ทู ี่ 2 เรื่อง อทิ ธพิ ลของอารยธรรมตา่ งชาตทิ ีม่ ตี อ่ ไทย ๑๐๖๗ แบบประเมินการนาเสนอหน้าชน้ั เรียน เกณฑ์ ระดับคณุ ภาพ การประเมนิ ดีมาก (๔) ดี (๓) พอใช้ (๒) ปรับปรุง (๑) 1. การ คล่องแคล่วไมต่ ิดขัด คล่องแคล่วไมต่ ดิ ขัด ไมค่ ล่องแคล่วมกี าร ตดิ ขัด หยุดชะงกั ใน ถา่ ยทอดเนือ้ หา ทาให้เข้าใจประเดน็ ทาใหเ้ ข้าใจประเดน็ หยดุ ชะงักบ้าง หลายจงั หวะ พูด ไดง้ ่ายและเร็ว ได้ง่าย การพูดมกี าร บางครง้ั จงั หวะพดู เร็วหรือช้าเกินไป การพูดมีการเว้น เว้นจังหวะอย่าง ชา้ จบั ประเดน็ ไม่ได้ จงั หวะและเนน้ คา เหมาะสม ความเรว็ เนน้ สาระสาคญั อยา่ ง ในการพูดอยูใ่ น เหมาะสมเพอื่ ให้ผ้ฟู ัง ระดับเหมาะสม ตดิ ตามการนาเสนอ ความเร็วในการพูด อยูใ่ นระดบั เหมาะสม 2. บุคลกิ ภาพ มคี วามมนั่ ใจ สบสายตาผู้ฟัง สบสายตาผู้ฟงั น้อย ก้มหนา้ ไม่สบตา สบสายตา ผู้ฟัง พอสมควร นา้ เสยี ง น้าเสียงส่นั ขาด และ ตลอดเวลาเพ่ือดึงดูด สะท้อนถึงความ ความม่นั ใจ เสยี ง น้าเสียงสนั่ และเบา ให้ผฟู้ ังสนใจใน ม่นั ใจ เสียงดงั เบาและดงั สลับไป เนื้อหาทถี่ า่ ยทอด พอเหมาะ เสยี งดังพอเหมาะ 3. การใชภ้ าษา คลอ่ งแคลว่ เชน่ แสดงกริยาท่าทาง ใช้ภาษากายส่อื สาร ไมใ่ ช้ภาษากาย กายใน ยกมอื /ผายมอื แสดง ประกอบการนาเสนอ น้อยครั้ง ส่ือสาร การสื่อสาร กริยาท่าทาง พอสมควร ประกอบการนาเสนอ เพ่อื ดงึ ดูดความสนใจ 4. ความ ใชเ้ วลาใน ใชเ้ วลาใน ใช้เวลาใน ใช้เวลาใน เหมาะสมกับ การนาเสนอ การนาเสนอเกนิ การนาเสนอเกนิ การนาเสนอเกิน เวลา เหมาะสม เวลาทกี่ าหนด ๑-๓ เวลาทก่ี าหนด ๔-๕ เวลาทกี่ าหนด นาที นาที มากกวา่ ๕ นาทีขน้ึ ไป เกณฑก์ ารให้คะแนน คะแนน หมายถึง ดี คะแนน 8-๑0 คะแนน หมายถึง พอใช้ คะแนน 5-7 คะแนน หมายถงึ ปรบั ปรงุ คะแนน ๑-4 เกณฑก์ ารผา่ น ตงั้ แต่ 5 คะแนน ขน้ึ ไป
๑๐๖๘ คมู่ อื ครแู ละแผนจดั การเรียนรู้ ระดับประถมศกึ ษา ภาคเรยี นท่ี ๑ (ประวตั ศิ าสตร์ ป.5) แบบประเมนิ การสังเกตพฤติกรรมการเรียนรู้ เกณฑก์ ารประเมนิ ดี (๓) ระดบั คณุ ภาพ ปรับปรุง (๑) 1. การร่วมกจิ กรรม มคี วามกระตือรอื รน้ ใน พอใช้ (๒) ไมม่ ีความกระตอื รอื รน้ การร่วมกจิ กรรมอย่าง ในการรว่ มกจิ กรรม สม่าเสมอ มคี วามกระตือรอื รน้ ใน การรว่ มกิจกรรมใน บางครง้ั 2. การรบั ฟงั ความ รบั ฟังความคดิ เหน็ ของ รับฟังความคดิ เหน็ ของ ไม่รับฟงั ความคดิ เห็น คดิ เห็นของผ้อู นื่ ผอู้ นื่ อย่างสม่าเสมอ ผู้อื่นเปน็ บางครั้ง ของผ้อู ื่น 3. ความรับผดิ ชอบ มีความรับผดิ ชอบในงาน มคี วามรบั ผดิ ชอบในงาน ไม่มคี วามรับผดิ ชอบใน ทีไ่ ด้รบั มอบหมายอยา่ ง ท่ไี ดร้ ับมอบหมายใน งานท่ีได้รับมอบหมาย สม่าเสมอ บางคร้งั 4. ขยนั หมัน่ เพยี ร มคี วามขยันหมั่นเพียร มคี วามขยันหมัน่ เพียร ไม่มีความขยันหมน่ั เพียร พยายามทางานใหส้ าเร็จ พยายามทางานให้สาเรจ็ พยายามทางานใหส้ าเร็จ อย่างสม่าเสมอ เป็นบางคร้ัง 5. ตรงตอ่ เวลา สง่ ชน้ิ งานภายในเวลาที่ สง่ ผลงานเสร็จตรงเวลา ส่งผลงานชา้ กว่าเวลา กาหนด กาหนด เกณฑก์ ารให้คะแนน หมายถงึ ดี คะแนน ๑1-๑๕ คะแนน หมายถงึ พอใช้ คะแนน 6-๑0 คะแนน หมายถงึ ปรับปรุง คะแนน ๑-5 คะแนน เกณฑก์ ารผ่าน ตัง้ แต่ 6 คะแนน ขนึ้ ไป
หน่วยการเรยี นรูท้ ี่ 2 เรอื่ ง อทิ ธพิ ลของอารยธรรมตา่ งชาตทิ มี่ ีตอ่ ไทย ๑๐๖๙ แบบประเมนิ ใบงาน คาช้ีแจง : ให้ครูผู้สอนประเมินใบงานของนักเรยี น แล้วให้ทาเครอ่ื งหมาย ✓ ลงในช่องท่ตี รงกบั ระดบั คะแนน ลาดบั ท่ี ชือ่ -สกุล การรว่ ม การรบั ฟัง ความ ขยนั หมั่นเพยี ร ตรงต่อเวลา รวม กจิ กรรม ความคดิ เห็น รับผิดชอบ 20 ของผ้อู น่ื 4 3 2 1 4 3 2 1 4 3 2 1 4 3 2 1 4 3 2 1 คะแนน 1 2 3 4 5 ลงช่อื ................................................................ผปู้ ระเมนิ ...................../..................../................... เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน เกณฑก์ ารตดั สนิ คณุ ภาพ นกั เรยี นทไ่ี ดร้ ะดบั คณุ ภาพพอใชข้ ึน้ ไป ถือวา่ ผ่าน ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ 16-20 ดีมาก 11-15 ดี 6-10 พอใช้ 1-5 ปรบั ปรงุ
๑๐๗๐ คู่มอื ครแู ละแผนจดั การเรียนรู้ ระดับประถมศกึ ษา ภาคเรยี นที่ ๑ (ประวัติศาสตร์ ป.5) แบบประเมนิ การสงั เกตพฤตกิ รรมนกั เรยี นรายบุคคล ช้ันประถมศกึ ษาปที ่ี 5 สงั เกตพฤติกรรมการเรียนรู้ วนั ที่.......................เดือน.........................................พ.ศ.................................. ลาดบั ท่ี ช่ือ-สกลุ ความ เกณฑก์ ารให้คะแนน มสี ่วน ระดบั ตัง้ ใจใน ร่วมใน คณุ ภาพ 1 การเรยี น ความ กิจกรรม 2 สนใจ (4) รวม 3 (4) และการ การตอบ (16) 4 ซักถาม คาถาม 5 (4) (4) 6 7 8 9 10 ลงชอื่ ................................................................ผปู้ ระเมิน ...................../..................../................... เกณฑก์ ารให้คะแนนดังตารางแนบทา้ ย เกณฑก์ ารประเมินในการสงั เกตพฤตกิ รรมนกั เรียนรายบคุ คล ดังน้ี ช่วงคะแนน ระดับคณุ ภาพ เกณฑ์การสรุปผลการประเมนิ 14-16 ดีมาก นกั เรยี นทไ่ี ดร้ ะดบั คณุ ภาพพอใชข้ ึน้ ไป ถือวา่ ผ่าน 11-13 ดี 8-10 พอใช้ 1-7 ปรับปรุง
หน่วยการเรียนรทู้ ่ี 2 เรอ่ื ง อทิ ธิพลของอารยธรรมต่างชาตทิ ม่ี ีตอ่ ไทย ๑๐๗๑ เกณฑก์ ารวดั และประเมนิ ผลการสังเกตพฤตกิ รรมนักเรยี นรายบุคคล (Rubric) ประเดน็ การประเมนิ เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ดี (3) พอใช้ (2) ดีมาก (4) ต้องปรบั ปรงุ (1) 1. ความตง้ั ใจใน สนใจในการเรยี น สนใจในการเรียน สนใจในการเรยี น ไมส่ นใจใน การเรยี น ไมค่ ยุ หรอื เล่นกนั คยุ กนั เลก็ นอ้ ย คยุ กนั และเลน่ กนั การเรยี น คยุ และ 2. ความสนใจและ การซักถาม ในขณะเรยี น ในขณะเรียน ในขณะเรียนเปน็ เลน่ กนั ในขณะ 3. การตอบคาถาม บางครง้ั เรยี น 4. มสี ว่ นรว่ มใน มีการถามในหวั ข้อ มีการถามในหวั ขอ้ มีการถามในหวั ข้อ ไม่ถามในหวั ขอ้ ท่ี กจิ กรรม ท่ีตนไม่เขา้ ใจทกุ ท่ีตนไมเ่ ขา้ ใจเป็น ท่ีตนไม่เข้าใจเป็น ตนไม่เข้าใจและ เร่อื งและกล้า สว่ นมากและกลา้ บางครั้งและไม่ ไม่กลา้ แสดงออก แสดงออก แสดงออก คอ่ ยกล้าแสดงออก รว่ มตอบคาถามใน ร่วมตอบคาถามใน ร่วมตอบคาถามใน ไม่ตอบคาถาม เรอ่ื งท่ีครูถามและ เร่ืองทค่ี รถู ามและ เร่อื งทค่ี รถู ามเป็น ตอบคาถามถูกทุก ตอบคาถาม บางครง้ั และตอบ ข้อ สว่ นมากถูก คาถามถกู เปน็ บางครั้ง รว่ มมอื และ ร่วมมอื และ ร่วมมือและ ไมม่ คี วามร่วมมือ ช่วยเหลอื เพอ่ื นใน ช่วยเหลือเพื่อน ชว่ ยเหลือเพือ่ นใน ในขณะทากจิ กรรม การทากจิ กรรม เป็นส่วนใหญใ่ น การทากิจกรรม การทากจิ กรรม เป็นบางครง้ั
๑๐๗๒ คู่มือครแู ละแผนจัดการเรียนรู้ ระดับประถมศกึ ษา ภาคเรยี นที่ ๑ (ประวตั ิศาสตร์ ป.5) แบบประเมินการสังเกตพฤติกรรมการทางานกลมุ่ ช้ันประถมศกึ ษาปที ่ี 5 สงั เกตพฤตกิ รรมการเรียนรู้ วนั ท่ี.......................เดอื น..........................................พ.ศ................................. ลาดบั ท่ี ช่อื กลุ่ม การ เกณฑก์ ารให้คะแนน พฤตกิ รรม ระดบั ปฏิสมั พันธ์ 1 การ การทางาน คุณภาพ 2 กนั สนทนา 3 (4) เร่อื ง การตดิ ตอ่ กลุ่ม รวม 4 ทก่ี าหนด ส่อื สาร 5 (4) (16) 6 (4) (4) 7 8 9 10 ลงชื่อ................................................................ผู้ประเมิน ...................../..................../................... เกณฑก์ ารให้คะแนนดังตารางแนบทา้ ย เกณฑก์ ารประเมนิ ในการสงั เกตพฤตกิ รรมการทางานกลมุ่ ดังน้ี ชว่ งคะแนน ระดบั คณุ ภาพ เกณฑ์การสรปุ ผลการประเมิน 14-16 ดีมาก นกั เรยี นทไ่ี ดร้ ะดบั คณุ ภาพพอใชข้ ึน้ ไป ถือวา่ ผา่ น 11-13 ดี 8-10 พอใช้ 1-7 ปรบั ปรุง
หน่วยการเรยี นรูท้ ี่ 2 เร่ือง อิทธิพลของอารยธรรมต่างชาตทิ ีม่ ตี อ่ ไทย ๑๐๗๓ เกณฑ์การวดั และประเมนิ ผลการสงั เกตพฤติกรรมนกั เรยี นรายกลุ่ม (Rubric) ประเดน็ การประเมิน เกณฑก์ ารให้คะแนน ต้องปรบั ปรงุ (1) ดมี าก (4) ดี (3) พอใช้ (2) 1. การปฏิสมั พนั ธ์ ร่วมมอื และ รว่ มมือและ รว่ มมอื และ ไม่ให้ความร่วมมอื กนั ช่วยเหลอื เพ่อื นใน ช่วยเหลอื เพือ่ น ช่วยเหลอื เพื่อนใน ในขณะทากจิ กรรม การทากจิ กรรม เป็นส่วนใหญใ่ น การทากิจกรรม การทากจิ กรรม เปน็ บางครั้ง 2. การสนทนาเรื่อง สนทนาตรง สนทนาตรงประเด็น สนทนาตรงประเดน็ สนทนาไม่ตรง ท่ีกาหนด ประเด็น ครอบคลมุ เนือ้ หา ประเด็น ครอบคลมุ เน้ือหา บางสว่ น 3. การติดต่อสอ่ื สาร มกี ารปรึกษาครู มกี ารปรึกษาครู มกี ารปรึกษาครู ไมม่ กี ารปรกึ ษา และเพอ่ื นกลมุ่ และเพอ่ื นกลุ่ม และเพื่อนกลุม่ ครแู ละเพ่ือนกลุ่ม อ่นื ๆ อ่นื ๆ เป็นสว่ นใหญ่ อน่ื ๆ เปน็ บางครงั้ อน่ื ๆ 4. พฤติกรรม มีการวางแผน มกี ารวางแผน มีการวางแผน ไมม่ ีการวางแผน การทางาน อยา่ งเป็นระบบ อย่างเป็นระบบ อยา่ งเป็นระบบ อย่างเปน็ ระบบ และแบ่งหน้าทข่ี อง และแบง่ หนา้ ทข่ี อง และแบง่ หนา้ ทขี่ อง และไมม่ กี ารแบ่ง สมาชกิ ในกลมุ่ สมาชกิ ในกลมุ่ เปน็ สมาชกิ ในกลมุ่ เป็น หน้าที่ของสมาชกิ สว่ นใหญ่ บางครงั้ ในกลุ่ม
๑๐๗๔ คมู่ ือครแู ละแผนจัดการเรยี นรู้ ระดับประถมศึกษา ภาคเรียนท่ี ๑ (ประวตั ิศาสตร์ ป.5) แบบประเมินคุณลักษณะอนั พึงประสงค์ คาช้ีแจง : ให้ผู้สอนสังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรียน แล้วขีด ✓ลงในช่องที่ ตรงกบั ระดบั คะแนน รายการ พฤตกิ รรมการแสดงออก ระดับการปฏบิ ตั ิ ประเมนิ ๓๒๑ ๑. มวี นิ ัย ๑.1 ปฏิบัติตามขอ้ ตกลง กฎเกณฑ์ ระเบยี บ ขอ้ บงั คบั ของครอบครวั รบั ผิดชอบ และโรงเรยี น มีความตรงตอ่ เวลาในการปฏบิ ัตกิ ิจกรรมต่าง ๆ ๒. ใฝ่เรยี นรู้ ในชีวติ ประจาวันมีความรบั ผดิ ชอบ 2.1 ตัง้ ใจเรียน 3. มงุ่ ม่ันใน การทางาน 2.2 เอาใจใส่ในการเรยี น และมีความเพยี รพยายามในการเรยี น 2.3 เข้าร่วมกิจกรรมการเรยี นรตู้ ่าง ๆ 2.4 ศกึ ษาค้นคว้า หาความรจู้ ากหนงั สือ เอกสาร สิ่งพิมพ์ ส่อื เทคโนโลยตี ่าง ๆ แหล่งการเรยี นรทู้ ้งั ภายในและภายนอกโรงเรยี น และเลอื กใช้สอ่ื ได้อยา่ งเหมาะสม 2.5 บนั ทึกความร้วู เิ คราะห์ ตรวจสอบบางสิง่ ท่เี รยี นรู้ สรปุ เป็น องคค์ วามรู้ 2.6 แลกเปลย่ี นความรู้ดว้ ยวธิ ีการต่าง ๆ และนาไปใชใ้ นชีวติ ประจาวนั 3.1 มีความตง้ั ใจและพยายามในการทางานท่ไี ด้รบั มอบหมาย 3.2 มคี วามอดทนและไมท่ ้อแท้ตอ่ อปุ สรรคเพื่อใหง้ านสาเรจ็ ลงช่ือ................................................................ผู้ประเมิน ...................../..................../................... เกณฑก์ ารให้คะแนน ๓ คะแนน หมายถึง ปฏบิ ตั ิหรือแสดงพฤตกิ รรมอยา่ งสม่าเสมอ ๒ คะแนน หมายถงึ ปฏบิ ตั ิหรอื แสดงพฤตกิ รรมบ่อยคร้ัง ๑ คะแนน หมายถึง ปฏบิ ัตหิ รือแสดงพฤตกิ รรมบางครัง้ เกณฑก์ ารให้คะแนนดังตารางแนบทา้ ย เกณฑก์ ารประเมนิ คณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์ ดังนี้ ชว่ งคะแนน ระดับคณุ ภาพ เกณฑก์ ารสรุปผลการประเมนิ 22-27 ดมี าก นกั เรยี นทไ่ี ดร้ ะดบั คณุ ภาพผ่านขน้ึ ไป ถือวา่ ผา่ น 15-21 ดี 8-14 ผา่ น 1-7 ไมผ่ า่ น
หน่วยการเรยี นรู้ที่ 2 เร่อื ง อทิ ธิพลของอารยธรรมตา่ งชาติทม่ี ตี อ่ ไทย ๑๐๗๕ แบบประเมินสมรรถนะสาคญั ของผู้เรียน คาชี้แจง : ให้ผู้สอนสังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรียน แล้วขีด ✓ลงในช่องที่ ตรงกับระดับคะแนน รายการประเมนิ พฤตกิ รรมการแสดงออก ระดบั การปฏบิ ตั ิ ๓๒๑ ๑. ความสามารถ ๑.1 มคี วามสามารถในการรบั -สง่ สาร ในการสือ่ สาร 1.2 มคี วามสามารถในการถา่ ยทอดความรู้ ความคดิ ความเขา้ ใจ ของตนเอง โดยใชภ้ าษาอย่างเหมาะสม 2. ความสามารถ 2.1 มที กั ษะในการคดิ นอกกรอบอย่างสร้างสรรค์ ในการคดิ 2.2 มีความสามารถในการคดิ อย่างมรี ะบบ 3. ความสามารถ 3.1 สามารถทางานกลุ่มร่วมกับผอู้ นื่ ได้ ในการใชท้ ักษะ 3.2 นาความรทู้ ่ไี ด้ไปใช้ประโยชน์ในชีวิตประจาวนั ชีวิต ลงชื่อ................................................................ผู้ประเมนิ ...................../..................../................... เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ๓ คะแนน หมายถงึ ปฏบิ ัตหิ รอื แสดงพฤติกรรมอย่างสมา่ เสมอ ๒ คะแนน หมายถึง ปฏบิ ตั ิหรือแสดงพฤตกิ รรมบอ่ ยครงั้ ๑ คะแนน หมายถงึ ปฏิบัตหิ รอื แสดงพฤติกรรมบางครง้ั เกณฑก์ ารใหค้ ะแนนดงั ตารางแนบทา้ ย เกณฑก์ ารประเมินสมรรถนะสาคัญของผูเ้ รยี น ดงั น้ี ช่วงคะแนน ระดับคณุ ภาพ เกณฑ์การสรุปผลการประเมิน 14-16 ดมี าก นกั เรยี นทไ่ี ดร้ ะดบั คณุ ภาพพอใชข้ ึน้ ไป ถือวา่ ผา่ น 11-13 ดี 8-10 พอใช้ 1-7 ปรบั ปรุง
๑๐๗๖ คู่มอื ครแู ละแผนจดั การเรียนรู้ ระดบั ประถมศกึ ษา ภาคเรียนท่ี ๑ (ประวตั ศิ าสตร์ ป.5) แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 12 เรือ่ ง ผลกระทบของวฒั นธรรมต่างชาตทิ ม่ี ตี ่อสงั คมไทย หน่วยการเรียนรูท้ ่ี 2 เรือ่ ง อิทธิพลของอารยธรรมตา่ งชาตทิ มี่ ีตอ่ ไทย เวลา 1 ชว่ั โมง กลมุ่ สาระการเรียนรู้สงั คมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม รายวิชาประวัตศิ าสตร์ ชั้นประถมศึกษาปที ี่ 5 1. มาตรฐานการเรียนรู/้ ตัวชวี้ ดั มาตรฐาน ส ๔.2 เข้าใจพัฒนาการของมนุษยชาติจากอดีตจนถึงปัจจุบัน ในด้านความสัมพันธ์ และ การเปลยี่ นแปลงของเหตกุ ารณอ์ ยา่ งต่อเนอ่ื ง ตระหนกั ถึงความสาคญั และสามารถ วิเคราะหผ์ ลกระทบที่เกิดขึ้น ตวั ชวี้ ดั ส 4.2 ป.5/2 อภปิ รายอิทธิพลของวฒั นธรรมต่างชาตทิ ีม่ ีต่อสงั คมไทยปจั จบุ ันโดยสังเขป 2. สาระสาคัญ/ความคดิ รวบยอด ความนิยมในวัฒนธรรมตะวนั ตก และวฒั นธรรมตา่ งชาติอื่น ๆ เปน็ ผลให้คนไทยสูญเสียเงินตราต่างประเทศ ในการใชผ้ ลผลติ จากต่างประเทศ ซงึ่ ส่วนใหญม่ รี าคาแพง ทาให้สญู เสียเงนิ ตราตา่ งประเทศอยา่ งฟ่มุ เฟือย 3. จุดประสงค์การเรียนรู้ 3.1 ด้านความรู้ ความเขา้ ใจ (K) - อธบิ ายและวิเคราะห์ผลกระทบของวัฒนธรรมตา่ งชาติท่มี ีตอ่ สงั คมไทย 3.2 ดา้ นทกั ษะ/กระบวนการ (P) - เกิดทักษะในการสบื คน้ ผลกระทบของวฒั นธรรมต่างชาตทิ ีม่ ีต่อสงั คมไทย 3.3 ดา้ นคณุ ลักษณะ เจตคติ คา่ นิยม (A) - ตระหนกั ถึงความสาคัญของผลกระทบของวัฒนธรรมต่างชาตทิ ี่มีตอ่ สังคมไทย 4. สาระการเรยี นรู้ - ผลกระทบของวัฒนธรรมต่างชาติที่มีต่อสงั คมไทย 5. สมรรถนะสาคญั ของผเู้ รยี น 5.1 ความสามารถในการคดิ - ทักษะการคดิ สรา้ งสรรค์ - ทักษะการคดิ วเิ คราะห์ 5.2 ความสามารถในการแกป้ ญั หา - กระบวนการสืบค้นข้อมูล 5.3 ความสามารถในการใชท้ ักษะชวี ติ - กระบวนการปฏิบตั ิ 6. คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ 1. มีวนิ ัย 2. ใฝเ่ รียนรู้ 3. มุง่ มั่นในการทางาน 7. กิจกรรมการเรยี นรู้
หนว่ ยการเรยี นรูท้ ี่ 2 เรือ่ ง อิทธพิ ลของอารยธรรมตา่ งชาติทมี่ ตี ่อไทย การจดั กิจกรรมการเรียน แผนการจัดการเรยี นรทู้ ี่ 12 เรือ่ ง ผลกระท รายวิชาประวตั ศิ าสตร ลาดับท่ี จดุ ประสงค์ ข้ันตอนการจดั เวลาท่ี 1. การเรียนรู้ การเรยี นรู้ ใช้ กิจกรรมค ขั้นนา 5 นาที 1. ครใู ห้นกั เรยี นดภู าพ - กระเปา๋ - รองเท้า - ลิปสติก - เสอื้ ผ้า 2. ครูใชค้ าถาม 1) นกั เรยี นทราบหรอื ภาพนมี้ ีสินค้าประเภท ๒) การใชส้ นิ คา้ ฟุม่ เฟ ต่างประเทศส่งผลอย่าง 3) เพราะเหตใุ ดสนิ ค แพรห่ ลายและเปน็ ที่น ปจั จบุ นั 2. 1. อธิบายและ ขัน้ สอน 25 ๑. ครอู ธบิ ายเกีย่ วกับ วิเคราะห์ผลกระทบ นาที ของวัฒนธรรมตา่ งชาต ของวฒั นธรรมต่างชาติ ทมี่ ีตอ่ สังคมไทย สงั คมไทยเพื่อให้ไดน้ กั เรียนร้แู ละศึกษา
๑๐๗๗ นรู้ ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ี่ 5 สือ่ การเรยี นรู้ การประเมิน - PowerPoint การเรียนรู้ ทบของวฒั นธรรมตา่ งชาติทม่ี ตี อ่ สงั คมไทย - ภาพกระเปา๋ - การประเมิน - ภาพรองเท้า คาตอบ ร์ จานวน 1 ชว่ั โมง - ภาพลิปสตกิ - การสงั เกต - ภาพเสอื้ ผ้า แนวการจดั การเรยี นรู้ - การประเมนิ - PowerPoint คาตอบ ครู กจิ กรรมนกั เรยี น - การสังเกต พ 1. นกั เรียนดูภาพ - กระเปา๋ - รองเทา้ - ลปิ สตกิ - เส้อื ผ้า 2. นกั เรยี นตอบคาถาม อไม่ว่าใน 1) แนวคาตอบ เครื่อง สาอาง ทไหนบา้ ง เครอ่ื งแตง่ กาย ฟอื ยจาก 2) แนวคาตอบ คนไทยสญู เสยี งไรกับคนไทย เงินตราไหลออกนอกประเทศ ค้าเหลา่ นจ้ี งึ 3) แนวคาตอบ เนือ่ งจาก นิยมมาจนถึง เยาวชนไทยและชาวไทยในเมือง ใหญ่นิยมท่จี ะประพฤตติ นตาม แบบตะวนั ตก บผลกระทบ 1. นกั เรยี นศึกษาข้อมลู เก่ียวกับ ตทิ ี่มีตอ่ ผลกระทบของวัฒนธรรม กเรยี น ตา่ งชาติที่มีต่อสังคมไทย
๑๐๗๘ ค ลาดับท่ี จดุ ประสงค์ ขนั้ ตอนการจดั เวลาที่ กิจกรรมค การเรยี นรู้ การเรียนรู้ ใช้ 3. 2. เกิดทกั ษะในการ ข้นั ปฏบิ ัติ 10 ๒. ใหน้ ักเรยี นร่วมกัน สืบค้นผลกระทบของ นาที ขอ้ เสยี ของการรบั อทิ ธ วัฒนธรรมตา่ งชาตทิ ี่ วัฒนธรรมตา่ งชาติ มีต่อสงั คมไทย 4. 3. ตระหนกั ถึงความ ข้ันสรปุ ๓. ครใู ห้นักเรยี นดวู ิด สาคญั ของผลกระทบ ข้อดขี ้อเสยี ของการรับ ของวฒั นธรรมต่างชาติ มาจากต่างประเทศ ทมี่ ีต่อสงั คมไทย 4. ครูและนกั เรยี นรว่ สนทนาแลกเปลี่ยนเร เกีย่ วกบั ผลกระทบขอ ตา่ งชาติที่มีตอ่ สังคมไท 5. ครูใหน้ ักเรยี นทาใบ ผลกระทบของวฒั นธร ทมี่ ีตอ่ สังคมไทย 6. ครใู ห้ตวั แทนนกั เร ผลงานหนา้ ช้นั เรยี น 10 1. ครูสุ่มตัวแทนนกั เร นาที 4-5 คน ออกมานาเส เรอ่ื ง ผลกระทบของว ตา่ งชาตทิ ม่ี ีต่อสังคมไท
คูม่ ือครแู ละแผนจัดการเรียนรู้ ระดับประถมศกึ ษา ภาคเรยี นท่ี ๑ (ประวัตศิ าสตร์ ป.5) แนวการจดั การเรยี นรู้ สอื่ การเรียนรู้ การประเมนิ ครู กจิ กรรมนกั เรยี น การเรียนรู้ นบอกขอ้ ดี ๒. แนวการตอบ ขอ้ ดี ประเทศมี - PowerPoint - การสงั เกต ธพิ ลขออง การพฒั นา และได้ใชส้ ่ิงของตา่ ง ๆ - วิดโี อ เร่ือง - การประเมนิ ทตี่ า่ งชาตผิ ลิตขนึ้ มีความ ขอ้ ดีขอ้ เสยี ของ หลากหลายให้เลือก ขอ้ เสยี ทาให้ การรบั วฒั นธรรม วัฒนธรรมดง้ั เดิมของไทยหายไป มาจาก หรือผิดพลาดไปจากเดมิ ต่างประเทศ ดีโอ เร่อื ง 3. นกั เรียนดวู ดิ โี อ เรอ่ื ง ขอ้ ดี https://youtu บวฒั นธรรม ข้อเสยี ของการรับวัฒนธรรมมา .be/rUmTnIS จากต่างประเทศ Xd6M วมกัน 4. นกั เรยี นรว่ มกนั สนทนา - ใบงานที่ 12 รียนรู้ แลกเปลย่ี นเรยี นรู้เกย่ี วกบั เรือ่ ง ผลกระทบ องวฒั นธรรม ผลกระทบของวฒั นธรรม ของวฒั นธรรม ทย ต่างชาตทิ ่ีมตี ่อสงั คมไทย ต่างชาตทิ ่ีมีต่อ บงาน เร่อื ง 5. นกั เรยี นทาใบงาน เรอ่ื ง สงั คมไทย รรมตา่ งชาติ ผลกระทบของวฒั นธรรม ต่างชาติที่มตี อ่ สังคมไทย รียนนาเสนอ 6. ตวั แทนนักเรียนนาเสนอ ผลงานหน้าช้ันเรยี น รยี น 1. ตัวแทนนกั เรยี น สนอใบงาน 4-5 คน ออกมานาเสนอใบงาน วัฒนธรรม เร่อื ง ผลกระทบของวัฒนธรรม ทย ตา่ งชาตทิ ม่ี ีต่อสังคมไทย
หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 2 เร่อื ง อิทธิพลของอารยธรรมต่างชาตทิ มี่ ีตอ่ ไทย ลาดับท่ี จดุ ประสงค์ ข้ันตอนการจดั เวลาที่ การเรียนรู้ การเรยี นรู้ ใช้ กิจกรรมค 2. ครูและนกั เรยี นร่ว ตรวจสอบความถกู ตอ้ ๓. ครูและนักเรยี นรว่ องคค์ วามรู้
๑๐๗๙ แนวการจดั การเรียนรู้ สือ่ การเรียนรู้ การประเมิน การเรยี นรู้ ครู กจิ กรรมนักเรียน - การสงั เกต วมกนั 2. นักเรยี นร่วมกนั ตรวจสอบ - การประเมิน อง ความถกู ตอ้ ง วมกันสรุป 3. นักเรยี นร่วมกนั สรปุ ความรู้
๑๐๘๐ คมู่ ือครแู ละแผนจัดการเรยี นรู้ ระดับประถมศกึ ษา ภาคเรยี นที่ ๑ (ประวัติศาสตร์ ป.5) 8. สือ่ การเรียนร/ู้ แหล่งการเรยี นรู้ ๑. หอ้ งสมดุ โรงเรยี น ๒. การคน้ คว้าข้อมลู จากอนิ เทอร์เนต็ 3. สือ่ PowerPoint 4. ใบงานที่ 12 เรอ่ื ง ผลกระทบของวัฒนธรรมต่างชาติทม่ี ตี อ่ สังคมไทย 9. การประเมนิ ผลรวบยอด ชนิ้ งานหรอื ภาระงาน 1. ใบงานที่ 12 เรื่อง ผลกระทบของวฒั นธรรมต่างชาติท่มี ตี อ่ สังคมไทย 2. ความถกู ต้องของการทาใบงาน เกณฑก์ ารประเมนิ ผลชิ้นงานหรือภาระงาน ประเดน็ การวดั วธิ กี าร เคร่อื งมอื เกณฑก์ ารประเมนิ และประเมินผล - ตรวจใบงาน ผ่านเกณฑก์ ารประเมิน ความรู้ (K) - การสงั เกต - ใบงานท่ี 12 เรอ่ื ง รอ้ ยละ 60 - การประเมนิ ผลกระทบของวัฒนธรรม ทกั ษะ (P) ต่างชาตทิ ี่มีต่อสงั คมไทย ผา่ นเกณฑก์ ารประเมนิ - ตรวจใบงาน - แบบสงั เกต รอ้ ยละ 60 เจตคติ (A) - การสังเกต - แบบประเมนิ คุณลักษณะ - การประเมิน - ใบงานท่ี 12 เรื่อง ผ่านเกณฑป์ ระเมนิ ระดบั อันพึงประสงค์ ผลกระทบของวัฒนธรรม คณุ ภาพพอใช้ขนึ้ ไป สมรรถนะสาคัญ - สังเกตพฤตกิ รรม ตา่ งชาติทม่ี ีตอ่ สงั คมไทย ผ่านเกณฑป์ ระเมนิ ระดบั ของผู้เรยี น - แบบสงั เกต คุณภาพพอใช้ขึน้ ไป - แบบประเมนิ - แบบประเมนิ พฤติกรรม ผา่ นเกณฑป์ ระเมินระดับ คุณภาพพอใช้ขน้ึ ไป - ประเมินความมวี นิ ยั - แบบประเมินคณุ ลกั ษณะ ใฝ่เรียนรู้ และม่งุ มั่นใน อันพงึ ประสงค์ การทางาน - แบบประเมินสมรรถนะ - ประเมินความสามารถ สาคญั ของผู้เรยี น การคดิ การใช้ทกั ษะชีวติ และการแก้ปญั หา
หนว่ ยการเรยี นร้ทู ี่ 2 เร่อื ง อิทธพิ ลของอารยธรรมตา่ งชาตทิ ่ีมีต่อไทย ๑๐๘๑ 10. บนั ทกึ ผลหลังสอน ผลการจดั การเรยี นการสอน .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ความสาเรจ็ .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ปัญหาและอุปสรรค .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ข้อจากัดการใชแ้ ผนการจดั การเรียนรู้ และขอ้ เสนอแนะ/แนวทางการปรับปรุงแก้ไข .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ลงชือ่ ............................................ผสู้ อน (...........................................) วันท่ี........เดือน.................พ.ศ............ 11. ความคิดเห็น/ขอ้ เสนอแนะของผบู้ รหิ ารหรือผทู้ ไี่ ดร้ บั มอบหมาย .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ลงช่อื ............................................ผู้ตรวจ (...........................................) วันท.ี่ .......เดอื น.................พ.ศ............
๑๐๘๒ คมู่ ือครแู ละแผนจดั การเรียนรู้ ระดบั ประถมศกึ ษา ภาคเรียนท่ี ๑ (ประวัตศิ าสตร์ ป.5) ใบงานท่ี 12 เรอ่ื ง ผลกระทบของวฒั นธรรมต่างชาตทิ ม่ี ตี ่อสังคมไทย หน่วยการเรียนรทู้ ่ี ๒ เรอื่ ง อิทธพิ ลของอารยธรรมตา่ งชาตทิ ี่มตี อ่ ไทย แผนการจัดการเรยี นรทู้ ่ี 12 เรื่อง อิทธพิ ลของวฒั นธรรมต่างชาตทิ ม่ี ตี ่อสงั คมไทย รายวชิ าประวตั ศิ าสตร์ รหสั วิชา ส๑๕๑๐๒ ภาคเรยี นท่ี ๑ ช้นั ประถมศกึ ษาปที ี่ ๕ คำช้ีแจง : ให้นักเรียนวิเคราะห์ผลกระทบของวัฒนธรรมต่างชาติที่มีต่อสังคมไทยท้ังด้านเศรษฐกิจและสังคม โดยใช้แผนภาพความคดิ แลว้ สรุปความคดิ รวบยอด ผลต่อเศรษฐกิจ ผลกระทบของ วัฒนธรรมตำ่ งชำติ ที่มีต่อสงั คมไทย ผลต่อสังคม
หนว่ ยการเรียนรูท้ ี่ 2 เร่อื ง อทิ ธพิ ลของอารยธรรมต่างชาตทิ ี่มตี อ่ ไทย ๑๐๘๓ คาถามพัฒนากระบวนการคิด 1. การรบั วฒั นธรรมของชาตติ ะวนั ตกมากเกนิ ไป อาจก่อให้เกิดผลอยา่ งไร ตอบ...................................................................................................................................... .............................................................................................................................................. .............................................................................................................................................. 2. นักเรียนเหน็ ด้วยกับการรบั วัฒนธรรมจากต่างชาตหิ รือไม่ เพราะเหตใุ ด ตอบ...................................................................................................................................... .............................................................................................................................................. .............................................................................................................................................. 3. วฒั นธรรมของชาตติ ะวนั ตกวฒั นธรรมใดท่ีก่อใหเ้ กดิ ประโยชนต์ อ่ ชาตไิ ทย ตอบ...................................................................................................................................... .............................................................................................................................................. .............................................................................................................................................. 4. วฒั นธรรมไทยในปจั จุบนั แตกต่างจากอดตี อยา่ งไร ตอบ...................................................................................................................................... .............................................................................................................................................. .............................................................................................................................................. 5. นักเรยี นจะสบื ทอดวัฒนธรรมไทยให้คงอยสู่ ืบตอ่ ไปได้อย่างไร ตอบ...................................................................................................................................... .............................................................................................................................................. .............................................................................................................................................. ชือ่ -นามสกุล..........................................................................................ชนั้ .................เลขที่...................
๑๐๘๔ คู่มอื ครแู ละแผนจัดการเรยี นรู้ ระดบั ประถมศกึ ษา ภาคเรยี นท่ี ๑ (ประวัติศาสตร์ ป.5) เฉลยใบงานท่ี 12 เร่ือง ผลกระทบของวฒั นธรรมต่างชาตทิ ม่ี ตี ่อสงั คมไทย หน่วยการเรียนรู้ท่ี ๒ เรือ่ ง อิทธพิ ลของอารยธรรมตา่ งชาตทิ ่ีมตี อ่ ไทย แผนการจัดการเรียนรทู้ ี่ 12 เร่อื ง อิทธิพลของวฒั นธรรมตา่ งชาตทิ ่ีมตี ่อสงั คมไทย รายวิชาประวตั ศิ าสตร์ รหสั วิชา ส๑๕๑๐๒ ภาคเรยี นที่ ๑ ช้ันประถมศกึ ษาปที ่ี ๕ คำช้แี จง ใหน้ กั เรยี นวเิ คราะหผ์ ลกระทบของวฒั นธรรมต่างชาติทม่ี ตี ่อสงั คมไทยทงั้ ด้านเศรษฐกิจและสงั คม โดยใช้แผนภาพความคดิ แล้วสรุปความคดิ รวบยอด ผลต่อเศรษฐกิจ มกี ำรใชจ้ ่ำยเงินฟมุ่ เฟอื ยมำกขึน้ เพอ่ื ซ้อื สินค้ำตำ่ งชำติ ผลกระทบของ วฒั นธรรมไทยบำงอย่ำงสญู หำยไป วัฒนธรรมตำ่ งชำติ เกดิ กำรรับวฒั นธรรมจำกต่ำงชำติ ที่มีต่อสงั คมไทย มำแทนท่ี ผลต่อสังคม
หนว่ ยการเรียนรูท้ ่ี 2 เร่ือง อทิ ธพิ ลของอารยธรรมตา่ งชาตทิ มี่ ตี อ่ ไทย ๑๐๘๕ คาถามพัฒนากระบวนการคิด 1. การรบั วฒั นธรรมของชาตติ ะวนั ตกมากเกนิ ไป อาจกอ่ ใหเ้ กดิ ผลอย่างไร ตอบ...ว..ฒั ....น...ธ..ร..ร..ม...ไ..ท...ย..ถ...กู ...ล..มื...แ...ล..ะ...เ.อ...ก..ล...กั ...ษ...ณ...ข์...อ...ง..ช..า..ต...ถิ ...ูก..ก...ล...ืน..ไ..ป...ก...ับ...ว..ัฒ....น...ธ..ร..ร..ม...ต...ะ..ว..นั...ต.. ก .............................................................................................................................................. .............................................................................................................................................. 2. นกั เรียนเหน็ ดว้ ยกบั การรับวัฒนธรรมจากต่างชาติหรอื ไม่ เพราะเหตใุ ด ตอบ...ว..ัฒ....น...ธ..ร..ร..ม...ไ..ท...ย..ถ...กู ..ล...มื...แ..ล...ะ..เ..อ...ก..ล...กั ..ษ...ณ....์ข...อ..ง..ช...า..ต...ิถ..ูก...ก...ล..ืน...ไ..ป...ก...ับ...ว..ัฒ....น..ธ...ร..ร..ม...ต...ะ..ว..นั...ต..ก .............................................................................................................................................. .............................................................................................................................................. 3. วัฒนธรรมของชาตติ ะวันตกวฒั นธรรมใดท่ีก่อให้เกดิ ประโยชนต์ อ่ ชาตไิ ทย ตอบ....ภ...า..ษ...า..อ...ัง..ก...ฤ..ษ...ท...ท่ี...า..ใ..ห...้ค..น...ไ..ท...ย...ส..า..ม...า..ร..ถ...ต...ดิ ..ต...่อ...ส..อ่ื...ส...า..ร..ก...บั ...ช..า..ต...ิอ...นื่ ...ไ.ด...เ้.ข...้า..ใ..จ............. .............................................................................................................................................. .............................................................................................................................................. 4. วฒั นธรรมไทยในปัจจุบนั แตกตา่ งจากอดีตอยา่ งไร ตอบ....ใ..น...ป..ัจ...จ..ุบ...นั...ม...ีก...า..ร..ผ...ส..ม...ผ...ส..า..น...ก...บั...ว..ัฒ....น...ธ..ร..ร..ม...ต...่า..ง..ช...า..ต...มิ ..า..ก...ก...ว..า่..อ...ด...ีต......................... .............................................................................................................................................. .............................................................................................................................................. 5. นกั เรยี นจะสบื ทอดวฒั นธรรมไทยใหค้ งอย่สู ืบตอ่ ไปไดอ้ ย่างไร ตอบ....เ.ข...้า..ร..่ว...ม..ป...ร..ะ...เ.พ...ณ....ีส...า..ค...ัญ...ข...อ..ง..ไ..ท...ย....ม...ีค...ว..า..ม...เ.ค...า..ร..พ...น...อ...บ...น...้อ..ม...ต...อ่ ..ผ...ูใ้..ห...ญ...่เ..ส..ม...อ.......... .............................................................................................................................................. .............................................................................................................................................. ชอื่ -นามสกลุ ...................................................................ช้ัน...............เลขท่ี.................
๑๐๘๖ คูม่ อื ครแู ละแผนจัดการเรียนรู้ ระดบั ประถมศึกษา ภาคเรยี นท่ี ๑ (ประวัติศาสตร์ ป.5) แบบประเมนิ การนาเสนอหนา้ ชนั้ เรยี น เกณฑ์ ระดบั คณุ ภาพ การประเมนิ ดีมาก (๔) ดี (๓) พอใช้ (๒) ปรบั ปรุง (๑) 1. การ คลอ่ งแคล่วไม่ติดขัด คล่องแคลว่ ไมต่ ิดขัด ไมค่ ล่องแคล่วมกี าร ติดขัด หยดุ ชะงักใน ถ่ายทอดเนื้อหา ทาใหเ้ ข้าใจประเดน็ ทาให้เข้าใจประเด็น หยุดชะงกั บา้ ง หลายจังหวะ พดู ได้งา่ ยและเร็ว ได้ง่าย การพดู มีการ บางคร้งั จงั หวะพดู เรว็ หรอื ช้าเกินไป การพูดมกี ารเวน้ เว้นจังหวะอย่าง ช้าจับประเดน็ ไมไ่ ด้ จงั หวะและเนน้ คา เหมาะสม ความเรว็ เนน้ สาระสาคัญอยา่ ง ในการพดู อย่ใู น เหมาะสมเพอ่ื ให้ผฟู้ ัง ระดับเหมาะสม ตดิ ตามการนาเสนอ ความเรว็ ในการพดู อย่ใู นระดบั เหมาะสม 2. บคุ ลกิ ภาพ มีความม่นั ใจ สบสายตาผู้ฟัง สบสายตาผ้ฟู ังน้อย ก้มหน้าไม่สบตา สบสายตา ผู้ฟัง พอสมควร นา้ เสยี ง นา้ เสียงส่นั ขาด และ ตลอดเวลาเพ่ือดึงดดู สะท้อนถงึ ความ ความม่นั ใจ เสยี ง นา้ เสียงสั่นและเบา ใหผ้ ฟู้ ังสนใจใน มน่ั ใจ เสยี งดัง เบาและดงั สลับไป เน้ือหาท่ีถา่ ยทอด พอเหมาะ เสยี งดงั พอเหมาะ 3. การใช้ คลอ่ งแคล่ว เชน่ แสดงกรยิ าท่าทาง ใช้ภาษากายส่ือสาร ไม่ใช้ภาษากาย ภาษากาย ยกมือ/ผายมือ ประกอบการนาเสนอ นอ้ ยครง้ั สือ่ สาร ในการสอ่ื สาร แสดงกริยาท่าทาง พอสมควร ประกอบการ นาเสนอเพื่อดงึ ดดู ความสนใจ 4. ความ ใชเ้ วลาใน ใชเ้ วลาใน ใช้เวลาใน ใช้เวลาใน เหมาะสมกับ การนาเสนอ การนาเสนอเกิน การนาเสนอเกนิ การนาเสนอเกนิ เวลา เหมาะสม เวลาท่กี าหนด ๑-๓ เวลาท่ีกาหนด ๔-๕ เวลาทก่ี าหนด นาที นาที มากกวา่ ๕ นาทขี ึ้น ไป เกณฑก์ ารให้คะแนน คะแนน หมายถงึ ดี คะแนน 8-๑0 คะแนน หมายถึง พอใช้ คะแนน 5-7 คะแนน หมายถงึ ปรบั ปรงุ คะแนน ๑-4 เกณฑก์ ารผ่าน ตงั้ แต่ 5 คะแนน ข้นึ ไป
หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 2 เร่ือง อทิ ธพิ ลของอารยธรรมต่างชาตทิ ี่มตี ่อไทย ๑๐๘๗ แบบประเมินการสงั เกตพฤติกรรมการเรยี นรู้ ปรับปรงุ (๑) ไม่มีความกระตอื รือร้น เกณฑก์ ารประเมนิ ดี (๓) ระดบั คณุ ภาพ ในการรว่ มกจิ กรรม 1. การรว่ มกจิ กรรม มีความกระตอื รอื ร้นใน พอใช้ (๒) การรว่ มกจิ กรรมอยา่ ง สม่าเสมอ มีความกระตือรอื รน้ ใน การร่วมกจิ กรรมใน บางครง้ั 2. การรับฟงั ความ รับฟังความคดิ เหน็ ของ รับฟังความคิดเห็นของ ไมร่ ับฟงั ความคดิ เห็น คิดเหน็ ของผ้อู น่ื ผู้อ่นื อยา่ งสมา่ เสมอ ผู้อ่นื เปน็ บางครั้ง ของผู้อ่ืน 3. ความรบั ผดิ ชอบ มคี วามรับผิดชอบในงาน มีความรบั ผิดชอบในงาน ไมม่ คี วามรบั ผดิ ชอบใน ท่ไี ด้รับมอบหมายอย่าง ทไ่ี ดร้ ับมอบหมายใน งานทไ่ี ด้รบั มอบหมาย สมา่ เสมอ บางครงั้ 4. ขยันหมนั่ เพยี ร มีความขยนั หมนั่ เพยี ร มคี วามขยันหม่นั เพยี ร ไม่มีความขยนั หม่นั เพยี ร พยายามทางานให้สาเรจ็ พยายามทางานใหส้ าเรจ็ พยายามทางานใหส้ าเรจ็ อย่างสม่าเสมอ เป็นบางครัง้ 5. ตรงตอ่ เวลา ส่งชน้ิ งานภายในเวลาท่ี สง่ ผลงานเสร็จตรงเวลา สง่ ผลงานชา้ กว่าเวลา กาหนด กาหนด เกณฑก์ ารให้คะแนน หมายถงึ ดี คะแนน ๑1-๑๕ คะแนน หมายถงึ พอใช้ คะแนน 6-๑0 คะแนน หมายถงึ ปรับปรุง คะแนน ๑-5 คะแนน เกณฑก์ ารผ่าน ตัง้ แต่ 6 คะแนน ขนึ้ ไป
๑๐๘๘ คู่มอื ครแู ละแผนจดั การเรยี นรู้ ระดับประถมศกึ ษา ภาคเรยี นท่ี ๑ (ประวัตศิ าสตร์ ป.5) แบบประเมนิ ใบงำน คำชแ้ี จง : ใหค้ รผู สู้ อนประเมนิ ใบงานของนักเรียน แล้วใหท้ าเครอื่ งหมาย ✓ ลงในชอ่ งท่ีตรงกบั ระดบั คะแนน ลาดบั ท่ี ช่ือ-สกุล การร่วม การรับฟัง ความ ขยนั หม่ันเพียร ตรงตอ่ เวลา รวม กิจกรรม ความคิดเหน็ รบั ผิดชอบ 20 1 2 ของผอู้ ่นื 3 4 3 2 1 4 3 2 1 4 3 2 1 4 3 2 1 4 3 2 1 คะแนน 4 5 ลงชื่อ................................................................ผูป้ ระเมิน ...................../..................../................... เกณฑ์กำรใหค้ ะแนน เกณฑ์กำรตดั สนิ คณุ ภำพ นกั เรยี นทไ่ี ดร้ ะดบั คณุ ภาพพอใชข้ ึน้ ไป ถือวา่ ผ่ำน ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภำพ 16-20 ดีมาก 11-15 ดี 6-10 พอใช้ 1-5 ปรบั ปรุง
หน่วยการเรียนรูท้ ่ี 2 เรอื่ ง อิทธิพลของอารยธรรมต่างชาตทิ ่มี ตี อ่ ไทย ๑๐๘๙ แบบประเมนิ การสังเกตพฤตกิ รรมนกั เรียนรายบุคคล ช้ันประถมศกึ ษาปที ี่ 5 สังเกตพฤติกรรมการเรียนรู้ วันที่.......................เดือน................................................พ.ศ........................... ลาดบั ท่ี ชื่อ-สกลุ ความ เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน มีสว่ น ระดับ ตงั้ ใจใน ร่วมใน คณุ ภาพ 1 การเรียน ความ กจิ กรรม 2 สนใจ (4) รวม 3 (4) และการ การตอบ (16) 4 ซักถาม คาถาม 5 (4) (4) 6 7 8 9 10 ลงชือ่ ................................................................ผ้ปู ระเมิน ...................../..................../................... เกณฑก์ ารให้คะแนนดังตารางแนบทา้ ย เกณฑก์ ารประเมินในการสงั เกตพฤตกิ รรมนักเรยี นรายบคุ คล ดงั น้ี ช่วงคะแนน ระดับคณุ ภาพ เกณฑ์กำรสรปุ ผลกำรประเมนิ 14-16 ดีมาก นกั เรยี นทไ่ี ดร้ ะดบั คณุ ภาพพอใชข้ ึน้ ไป ถือวา่ ผ่ำน 11-13 ดี 8-10 พอใช้ 1-7 ปรบั ปรุง
๑๐๙๐ คมู่ ือครแู ละแผนจดั การเรยี นรู้ ระดบั ประถมศกึ ษา ภาคเรยี นท่ี ๑ (ประวัตศิ าสตร์ ป.5) เกณฑก์ ารวดั และประเมนิ ผลการสังเกตพฤตกิ รรมนักเรียนรายบุคคล (Rubric) ประเดน็ การประเมิน เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ดี (3) พอใช้ (2) ดีมาก (4) ตอ้ งปรบั ปรุง (1) 1. ความต้งั ใจใน สนใจในการเรียน สนใจในการเรียน สนใจในการเรยี น ไม่สนใจใน การเรยี น ไม่คุยหรือเล่นกัน คยุ กันเลก็ นอ้ ย คุยกนั และเล่นกนั การเรียน คุยและ 2. ความสนใจและ การซกั ถาม ในขณะเรียน ในขณะเรยี น ในขณะเรียนเปน็ เล่นกนั ในขณะ 3. การตอบคาถาม บางครง้ั เรียน 4. มีสว่ นร่วมใน มีการถามในหวั ข้อ มกี ารถามในหวั ขอ้ มกี ารถามในหวั ขอ้ ไมถ่ ามในหัวขอ้ ที่ กจิ กรรม ที่ตนไมเ่ ขา้ ใจทกุ ท่ตี นไมเ่ ขา้ ใจเป็น ที่ตนไมเ่ ข้าใจเป็น ตนไม่เข้าใจและ เรอื่ งและกลา้ ส่วนมากและกล้า บางคร้ังและไม่ ไมก่ ลา้ แสดงออก แสดงออก แสดงออก ค่อยกลา้ แสดงออก ร่วมตอบคาถามใน ร่วมตอบคาถามใน รว่ มตอบคาถามใน ไมต่ อบคาถาม เรอ่ื งท่คี รถู ามและ เรื่องทีค่ รูถามและ เรอ่ื งท่คี รูถามเป็น ตอบคาถามถูกทุก ตอบคาถาม บางครงั้ และตอบ ข้อ ส่วนมากถกู คาถามถกู เปน็ บางครั้ง ร่วมมอื และ ร่วมมอื และ ร่วมมอื และ ไม่มคี วามรว่ มมอื ชว่ ยเหลือเพื่อนใน ช่วยเหลือเพอ่ื น ช่วยเหลอื เพอ่ื นใน ในขณะทา การทากิจกรรม เปน็ ส่วนใหญใ่ น การทากจิ กรรม กจิ กรรม การทากิจกรรม เปน็ บางครงั้
หนว่ ยการเรยี นร้ทู ี่ 2 เร่ือง อทิ ธิพลของอารยธรรมต่างชาตทิ ่ีมตี อ่ ไทย ๑๐๙๑ แบบประเมินการสังเกตพฤตกิ รรมการทางานกล่มุ ชั้นประถมศกึ ษาปที ี่ 5 สงั เกตพฤติกรรมการเรียนรู้ วนั ท่ี.....................เดอื น...........................................พ.ศ.................................. เกณฑก์ ารให้คะแนน ลาดบั การ ระดบั ท่ี คณุ ภาพ ชื่อกลมุ่ การ สนทนา พฤตกิ รรม ปฏสิ มั พันธ์ เร่อื ง การตดิ ต่อ การทางาน กัน ทกี่ าหนด สอื่ สาร กลมุ่ รวม (4) (4) (4) (4) (16) 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 ลงชื่อ................................................................ผ้ปู ระเมิน ...................../..................../................... เกณฑก์ ารใหค้ ะแนนดงั ตารางแนบทา้ ย เกณฑก์ ารประเมนิ ในการสงั เกตพฤตกิ รรมการทางานกลมุ่ ดงั นี้ ชว่ งคะแนน ระดบั คณุ ภาพ เกณฑ์กำรสรุปผลกำรประเมนิ 14-16 ดมี าก นกั เรยี นทไ่ี ดร้ ะดบั คณุ ภาพพอใชข้ ึน้ ไป ถือวา่ ผำ่ น 11-13 ดี 8-10 พอใช้ 1-7 ปรบั ปรุง
๑๐๙๒ คู่มอื ครแู ละแผนจัดการเรียนรู้ ระดบั ประถมศึกษา ภาคเรียนท่ี ๑ (ประวตั ิศาสตร์ ป.5) เกณฑก์ ำรวดั และประเมินผลกำรสังเกตพฤตกิ รรมนกั เรยี นรำยกลุม่ (Rubric) ประเดน็ การประเมิน เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ต้องปรับปรงุ (1) ดมี าก (4) ดี (3) พอใช้ (2) 1. การปฏิสมั พนั ธ์ ร่วมมือและ รว่ มมือและ ร่วมมอื และ ไม่ให้ความรว่ มมอื กนั ชว่ ยเหลือเพื่อนใน ชว่ ยเหลือเพอ่ื น ชว่ ยเหลือเพ่ือนใน ในขณะทากจิ กรรม การทากิจกรรม เป็นสว่ นใหญใ่ น การทากจิ กรรม การทากิจกรรม เปน็ บางครง้ั 2. การสนทนาเรือ่ ง สนทนาตรง สนทนาตรงประเด็น สนทนาตรงประเด็น สนทนาไมต่ รง ท่กี าหนด ประเด็น ครอบคลมุ เนื้อหา ประเดน็ ครอบคลุมเนอ้ื หา บางส่วน 3. การตดิ ตอ่ สือ่ สาร มีการปรึกษาครู มีการปรกึ ษาครู มีการปรกึ ษาครู ไม่มีการปรึกษา และเพ่อื นกลุม่ และเพอ่ื นกล่มุ และเพือ่ นกลุ่ม ครูและเพ่อื นกลุ่ม อ่นื ๆ อนื่ ๆ เปน็ ส่วนใหญ่ อนื่ ๆ เปน็ บางคร้ัง อ่นื ๆ 4. พฤตกิ รรม มีการวางแผน มกี ารวางแผน มกี ารวางแผน ไม่มีการวางแผน การทางาน อยา่ งเป็นระบบ อยา่ งเป็นระบบ อย่างเป็นระบบ อยา่ งเปน็ ระบบ และแบง่ หนา้ ทขี่ อง และแบ่งหนา้ ทขี่ อง และแบง่ หนา้ ทข่ี อง และไมม่ กี ารแบ่ง สมาชิกในกลมุ่ สมาชิกในกลมุ่ เป็น สมาชิกในกลมุ่ เปน็ หนา้ ท่ขี องสมาชิก สว่ นใหญ่ บางครงั้ ในกลมุ่
หน่วยการเรยี นร้ทู ่ี 2 เรือ่ ง อิทธิพลของอารยธรรมตา่ งชาติทมี่ ตี อ่ ไทย ๑๐๙๓ แบบประเมนิ คุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ คาช้ีแจง : ให้ผู้สอนสังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรียน แล้วขีด ✓ลงในช่องท่ี ตรงกบั ระดับคะแนน รายการ พฤตกิ รรมการแสดงออก ระดับการปฏบิ ตั ิ ประเมนิ ๓๒๑ ๑. มวี ินัย ๑.1 ปฏิบตั ิตามข้อตกลง กฎเกณฑ์ ระเบียบ ข้อบงั คบั ของครอบครัว รบั ผิดชอบ และโรงเรยี น มคี วามตรงต่อเวลาในการปฏบิ ัตกิ จิ กรรมตา่ ง ๆ ๒. ใฝ่เรียนรู้ ในชวี ติ ประจาวนั มีความรับผิดชอบ 2.1 ต้ังใจเรียน 3. มงุ่ มน่ั ใน 2.2 เอาใจใสใ่ นการเรียน และมคี วามเพียรพยายามในการเรียน การทางาน 2.3 เขา้ ร่วมกิจกรรมการเรียนร้ตู า่ ง ๆ 2.4 ศึกษาค้นคว้า หาความรจู้ ากหนงั สือ เอกสาร สง่ิ พมิ พ์ สอื่ เทคโนโลยตี ่าง ๆ แหล่งการเรยี นรู้ทั้งภายในและภายนอกโรงเรียน และเลือกใชส้ อื่ ไดอ้ ยา่ งเหมาะสม 2.5 บนั ทกึ ความรูว้ ิเคราะห์ ตรวจสอบบางสง่ิ ทเ่ี รียนรู้ สรุปเป็น องคค์ วามรู้ 2.6 แลกเปล่ยี นความรู้ ด้วยวิธีการตา่ ง ๆ และนาไปใชใ้ นชีวติ ประจาวัน 3.1 มีความตั้งใจและพยายามในการทางานท่ไี ด้รับมอบหมาย 3.2 มีความอดทนและไมท่ อ้ แทต้ อ่ อุปสรรคเพ่อื ใหง้ านสาเร็จ ลงช่อื ................................................................ผ้ปู ระเมิน ...................../..................../................... เกณฑก์ ารให้คะแนน ๓ คะแนน หมายถึง ปฏบิ ตั หิ รือแสดงพฤตกิ รรมอยา่ งสมา่ เสมอ ๒ คะแนน หมายถึง ปฏบิ ตั ิหรอื แสดงพฤตกิ รรมบอ่ ยครัง้ ๑ คะแนน หมายถึง ปฏิบตั ิหรือแสดงพฤติกรรมบางครง้ั เกณฑก์ ารใหค้ ะแนนดังตารางแนบทา้ ย เกณฑก์ ารประเมนิ คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ดังน้ี ชว่ งคะแนน ระดบั คณุ ภาพ เกณฑก์ ำรสรปุ ผลกำรประเมิน 22-27 ดมี าก นกั เรยี นทไ่ี ดร้ ะดบั คณุ ภาพผ่านข้นึ ไป ถือว่า ผำ่ น 15-21 ดี 8-14 ผา่ น 1-7 ไมผ่ า่ น
๑๐๙๔ คมู่ อื ครแู ละแผนจดั การเรยี นรู้ ระดับประถมศึกษา ภาคเรยี นที่ ๑ (ประวตั ิศาสตร์ ป.5) แบบประเมินสมรรถนะสาคัญของผ้เู รยี น คาชี้แจง : ให้ผู้สอนสังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรียน แล้วขีด ✓ลงในช่องที่ ตรงกับระดับคะแนน รายการประเมิน พฤตกิ รรมการแสดงออก ระดับการปฏบิ ตั ิ ๓๒๑ ๑. ความสามารถ ๑.1 มีความสามารถในการรบั -ส่งสาร ในการสื่อสาร 1.2 มคี วามสามารถในการถา่ ยทอดความรู้ ความคดิ ความเข้าใจ 2. ความสามารถ ของตนเอง โดยใชภ้ าษาอย่างเหมาะสม ในการคิด 2.1 มที กั ษะในการคิดนอกกรอบอย่างสร้างสรรค์ 3. ความสามารถ ในการใชท้ กั ษะ 2.2 มีความสามารถในการคดิ อย่างมีระบบ ชีวติ 3.1 สามารถทางานกลุ่มรว่ มกับผู้อ่นื ได้ 3.2 นาความรทู้ ี่ไดไ้ ปใช้ประโยชนใ์ นชีวิตประจาวนั ลงชือ่ ................................................................ผูป้ ระเมิน ...................../..................../................... เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ๓ คะแนน หมายถึง ปฏบิ ัตหิ รือแสดงพฤติกรรมอยา่ งสม่าเสมอ ๒ คะแนน หมายถึง ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤติกรรมบอ่ ยครัง้ ๑ คะแนน หมายถึง ปฏิบัติหรอื แสดงพฤติกรรมบางคร้ัง เกณฑก์ ารให้คะแนนดงั ตารางแนบทา้ ย เกณฑก์ ารประเมินสมรรถนะสาคัญของผ้เู รยี น ดังนี้ ชว่ งคะแนน ระดบั คณุ ภาพ เกณฑ์กำรสรปุ ผลกำรประเมิน 16-18 ดมี าก นกั เรยี นทไ่ี ดร้ ะดบั คณุ ภาพผ่านขึ้นไป ถือวา่ ผำ่ น 13-15 ดี 10-12 ผ่าน 1-9 ไม่ผ่าน
หน่วยการเรียนรทู้ ่ี 2 เรอื่ ง อทิ ธิพลของอารยธรรมตา่ งชาติทีม่ ตี อ่ ไทย ๑๐๙๕ แบบประเมินตนเอง ชือ่ : _____________________________________วนั เดอื น ป_ี __________________________ หนว่ ยการเรยี นรูท้ ี่ 2 เรื่อง อิทธิพลของอารยธรรมตา่ งชาตทิ ี่มีตอ่ ไทย ๑. ประเมินกำรเรยี นร้ขู องตนเอง กาเครือ่ งหมาย ✓ ในช่องระดับความสามารถของแต่ละกจิ กรรมทีน่ ักเรยี นคดิ ว่าทาได้ตามระดบั การ ประเมนิ เหล่านี้ ระดบั ความสามารถ : ดมี าก คอ่ นข้างดี ดี พอใช้ ปรับปรุง ท่ี รำยกำร ระดบั ความสามารถ ปรบั ปรงุ ดมี าก ค่อนขา้ งดี ดี พอใช้ ๑ นกั เรยี นมคี วามรคู้ วามเขา้ ใจเกย่ี วกบั อารยธรรมอินเดียและจนี ๒ อธบิ ายลกั ษณะการเข้ามาของอารยธรรม อนิ เดยี และจนี สูป่ ระเทศไทยได้ ๓ สามารถสืบคน้ อิทธพิ ลของอารยธรรมอนิ เดยี และจนี ทีม่ ีต่อสังคมไทยและภมู ภิ าคเอเชยี ตะวันออกเฉียงใตไ้ ด้ ๔ อธิบายลกั ษณะความแตกตา่ งของอทิ ธิพล ของอารยธรรมอินเดยี และจีนทีม่ ตี ่อไทยได้ 2. ส่ิงทฉ่ี นั ยงั ไมเ่ ขา้ ใจ/ยังทาไดไ้ ม่ดี คอื ...... (สามารถเขียนไดม้ ากกวา่ 1 อย่าง) ……………………………………………...................................................................................................... ............................................................................................................................................................... ……………………………………………...................................................................................................... ............................................................................................................................................................... 3. ส่งิ ที่ฉนั ตงั้ ใจจะทาให้ดีขน้ึ ในการเรยี นหน่วยตอ่ ไป (สามารถเขยี นได้มากกวา่ 1 อยา่ ง) ……………………………………………............................................................................................................. ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................
๑๐๙๖ คู่มือครแู ละแผนจดั การเรยี นรู้ ระดบั ประถมศึกษา ภาคเรียนที่ ๑ (ประวตั ศิ าสตร์ ป.5) บันทกึ กำรเรยี นรู้ (Learning logs) ช่อื : ____________________ สกลุ : _________________วนั ____ เดือน_____________ พ.ศ. _____ สง่ิ หนงึ่ ท่ฉี นั ได้เรยี นรจู้ ำกกำรเรยี นวชิ ำนี้ในปลำยภำคเรียน คอื ....................................... .................................................................................................................................... .................................................................................................................................... ........... ฉันน่ำจะเรยี นรไู้ ดด้ กี วำ่ น้ีหำก ....................................................................................... .................................................................................................................................... .................................................................................................................................... ........... สิ่งท่ีฉนั อยำกจะบอกคุณครู คอื ..................................................................................... .................................................................................................................................... .................................................................................................................................... ........... สิง่ ทีฉ่ นั ควรปรับปรุงตวั เองใหด้ ีขึ้น คือ .......................................................................... .................................................................................................................................... .................................................................................................................................... ........... ปัญหำในกำรเรยี นของฉนั คอื ....................................................................................... .................................................................................................................................... .................................................................................................................................... ...........
๑๐๙๗ คู่มือครแู ละแผนจัดการเรียนรู้ ระดับประถมศกึ ษา ภาคเรียนที่ ๑ (ประวตั ิศาสตร์ ป.5) บรรณานุกรม สื่อการสอนบา้ นสายรุ้ง https://medium.com/ http://sites.google.com>nsjiranan http://www.gotoknow.org http://www.veradet.com
๑๐๙๘ คูม่ อื ครูและแผนจัดการเรียนรู้ ระดบั ประถมศึกษา ภาคเรยี นท่ี ๑ (ประวัตศิ าสตร์ ป.5) ภาคผนวก ก. แบบประเมินรวม (ประวตั ศิ าสตร)์
ภาคผนวก ก. แบบประเมนิ รวม (ประวตั ิศาสตร)์ ๑๐๙๙ แบบประเมนิ การสังเกตพฤติกรรมนักเรียนรายบคุ คล ช้นั ประถมศกึ ษาปที ่ี ๕ สงั เกตพฤติกรรมการเรยี นรู้ วนั ที่.......................เดือน............................................พ.ศ............................. ลาดับที่ ชอ่ื -สกลุ ความ เกณฑก์ ารให้คะแนน มสี ่วน ระดบั ตงั้ ใจใน รว่ มใน คุณภาพ 1 การเรียน ความ กิจกรรม 2 สนใจ (4) รวม 3 (4) และการ การตอบ (16) 4 ซักถาม คาถาม 5 (4) (4) 6 7 8 9 10 ลงชอ่ื ................................................................ผ้ปู ระเมิน ...................../..................../................... เกณฑก์ ารใหค้ ะแนนดังตารางแนบทา้ ย เกณฑก์ ารประเมินในการสังเกตพฤตกิ รรมนกั เรยี นรายบคุ คล ดงั น้ี ช่วงคะแนน ระดับคณุ ภาพ เกณฑ์การสรุปผลการประเมิน 14-16 ดีมาก นกั เรยี นทไ่ี ดร้ ะดบั คณุ ภาพพอใชข้ ึน้ ไป ถือวา่ ผา่ น 11-13 ดี 8-10 พอใช้ 1-7 ปรับปรงุ
๑๑๐๐ คมู่ ือครแู ละแผนจดั การเรยี นรู้ ระดบั ประถมศกึ ษา ภาคเรยี นท่ี ๑ (ประวตั ศิ าสตร์ ป.5) เกณฑก์ ารวดั และประเมนิ ผลการสังเกตพฤติกรรมนักเรยี นรายบคุ คล (Rubric) ประเดน็ การประเมิน เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ดี (3) พอใช้ (2) ดีมาก (4) ตอ้ งปรบั ปรุง (1) 1. ความต้งั ใจใน สนใจในการเรียน สนใจในการเรยี น สนใจในการเรยี น ไม่สนใจใน การเรยี น ไม่คุยหรอื เล่นกัน คยุ กันเลก็ นอ้ ย คุยกนั และเล่นกนั การเรยี น คยุ และ 2. ความสนใจและ การซกั ถาม ในขณะเรยี น ในขณะเรยี น ในขณะเรยี นเปน็ เลน่ กันในขณะ 3. การตอบคาถาม บางครง้ั เรยี น 4. มีสว่ นร่วมใน มีการถามในหวั ข้อ มกี ารถามในหวั ขอ้ มกี ารถามในหวั ข้อ ไมถ่ ามในหวั ขอ้ ท่ี กจิ กรรม ที่ตนไมเ่ ขา้ ใจทกุ ท่ตี นไมเ่ ขา้ ใจเป็น ที่ตนไมเ่ ข้าใจเป็น ตนไม่เขา้ ใจและไม่ เรอื่ งและกลา้ ส่วนมากและกล้า บางคร้ังและไม่ กล้าแสดงออก แสดงออก แสดงออก ค่อยกล้าแสดงออก ร่วมตอบคาถามใน ร่วมตอบคาถามใน รว่ มตอบคาถามใน ไมต่ อบคาถาม เรอ่ื งท่คี รูถามและ เรื่องทีค่ รูถามและ เรอ่ื งท่คี รูถามเปน็ ตอบคาถามถูกทุก ตอบคาถาม บางครงั้ และตอบ ข้อ ส่วนมากถกู คาถามถูกเปน็ บางครั้ง ร่วมมอื และ ร่วมมอื และ ร่วมมอื และ ไม่มคี วามรว่ มมอื ชว่ ยเหลือเพื่อนใน ช่วยเหลือเพอ่ื น ช่วยเหลอื เพอื่ นใน ในขณะทา การทากิจกรรม เปน็ ส่วนใหญใ่ น การทากิจกรรม กิจกรรม การทากิจกรรม เปน็ บางครั้ง
ภาคผนวก ก. แบบประเมนิ รวม (ประวัติศาสตร์) ๑๑๐๑ แบบประเมนิ การสงั เกตพฤติกรรมการทางานกลุม่ ช้นั ประถมศกึ ษาปที ่ี ๕ สงั เกตพฤติกรรมการเรียนรู้ วนั ท่ี.......................เดอื น..............................................พ.ศ.......................... ลาดับที่ ช่อื กลุ่ม การ เกณฑก์ ารให้คะแนน พฤตกิ รรม ระดบั ปฏสิ มั พนั ธ์ 1 การ การทางาน คณุ ภาพ 2 กัน สนทนา 3 (4) เรอื่ ง การตดิ ตอ่ กลุ่ม รวม 4 ทก่ี าหนด ส่อื สาร 5 (4) (16) 6 (4) (4) 7 8 9 10 ลงชอื่ ................................................................ผูป้ ระเมนิ ...................../..................../................... เกณฑก์ ารให้คะแนนดังตารางแนบทา้ ย เกณฑก์ ารประเมินในการสงั เกตพฤตกิ รรมการทางานกลุ่ม ดังน้ี ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ เกณฑก์ ารสรปุ ผลการประเมนิ 14-16 ดีมาก นกั เรยี นทไ่ี ดร้ ะดบั คณุ ภาพพอใชข้ ึน้ ไป ถือวา่ ผา่ น 11-13 ดี 8-10 พอใช้ 1-7 ปรบั ปรงุ
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273
- 274
- 275
- 276
- 277
- 278
- 279
- 280
- 281
- 282
- 283
- 284
- 285
- 286
- 287
- 288
- 289
- 290
- 291
- 292
- 293
- 294
- 295
- 296
- 297
- 298
- 299
- 300
- 301
- 302
- 303
- 304
- 305
- 306
- 307
- 308
- 309
- 310
- 311
- 312
- 313
- 314
- 315
- 316
- 317
- 318
- 319
- 320
- 321
- 322
- 323
- 324
- 325
- 326
- 327
- 328
- 329
- 330
- 331
- 332
- 333
- 334
- 335
- 336
- 337
- 338
- 339
- 340
- 341
- 342
- 343
- 344
- 345
- 346
- 347
- 348
- 349
- 350
- 351
- 352
- 353
- 354
- 355
- 356
- 357
- 358
- 359
- 360
- 361
- 362
- 363
- 364
- 365
- 366
- 367
- 368
- 369
- 370
- 371
- 372
- 373
- 374
- 375
- 376
- 377
- 378
- 379
- 380
- 381
- 382
- 383
- 384
- 385
- 386
- 387
- 388
- 389
- 390
- 391
- 392
- 393
- 394
- 395
- 396
- 397
- 398
- 399
- 400
- 401
- 402
- 403
- 404
- 405
- 406
- 407
- 408
- 409
- 410
- 411
- 412
- 413
- 414
- 415
- 416
- 417
- 418
- 419
- 420
- 421
- 422
- 423
- 424
- 425
- 426
- 427
- 428
- 429
- 430
- 431
- 432
- 433
- 434
- 435
- 436
- 437
- 438
- 439
- 440
- 441
- 442
- 443
- 444
- 445
- 446
- 447
- 448
- 449
- 450
- 451
- 452
- 453
- 454
- 455
- 456
- 457
- 458
- 459
- 460
- 461
- 462
- 463
- 464
- 465
- 466
- 467
- 468
- 469
- 470
- 471
- 472
- 473
- 474
- 475
- 476
- 477
- 478
- 479
- 480
- 481
- 482
- 483
- 484
- 485
- 486
- 487
- 488
- 489
- 490
- 491
- 492
- 493
- 494
- 495
- 496
- 497
- 498
- 499
- 500
- 501
- 502
- 503
- 504
- 505
- 506
- 507
- 508
- 509
- 510
- 511
- 512
- 513
- 514
- 515
- 516
- 517
- 518
- 519
- 520
- 521
- 522
- 523
- 524
- 525
- 526
- 527
- 528
- 529
- 530
- 531
- 532
- 533
- 534
- 535
- 536
- 537
- 538
- 539
- 540
- 541
- 542
- 543
- 544
- 545
- 546
- 547
- 548
- 549
- 550
- 551
- 552
- 553
- 554
- 555
- 556
- 557
- 558
- 559
- 560
- 561
- 562
- 563
- 564
- 565
- 566
- 567
- 568
- 569
- 570
- 571
- 572
- 573
- 574
- 575
- 576
- 577
- 578
- 579
- 580
- 581
- 582
- 583
- 584
- 585
- 586
- 587
- 588
- 589
- 590
- 591
- 592
- 593
- 594
- 595
- 596
- 597
- 598
- 599
- 600
- 601
- 602
- 603
- 604
- 605
- 606
- 607
- 608
- 609
- 610
- 611
- 612
- 613
- 614
- 615
- 616
- 617
- 618
- 619
- 620
- 621
- 622
- 623
- 624
- 625
- 626
- 627
- 628
- 629
- 630
- 631
- 632
- 633
- 634
- 635
- 636
- 637
- 638
- 639
- 640
- 641
- 642
- 643
- 644
- 645
- 646
- 647
- 648
- 649
- 650
- 651
- 652
- 653
- 654
- 655
- 656
- 657
- 658
- 659
- 660
- 661
- 662
- 663
- 664
- 665
- 666
- 667
- 668
- 669
- 670
- 671
- 672
- 673
- 674
- 675
- 676
- 677
- 678
- 679
- 680
- 681
- 682
- 683
- 684
- 685
- 686
- 687
- 688
- 689
- 690
- 691
- 692
- 693
- 694
- 695
- 696
- 697
- 698
- 699
- 700
- 701
- 702
- 703
- 704
- 705
- 706
- 707
- 708
- 709
- 710
- 711
- 712
- 713
- 714
- 715
- 716
- 717
- 718
- 719
- 720
- 721
- 722
- 723
- 724
- 725
- 726
- 727
- 728
- 1 - 50
- 51 - 100
- 101 - 150
- 151 - 200
- 201 - 250
- 251 - 300
- 301 - 350
- 351 - 400
- 401 - 450
- 451 - 500
- 501 - 550
- 551 - 600
- 601 - 650
- 651 - 700
- 701 - 728
Pages: