แผนตัวอย่างวิชาภาษาไทย

เอกสารประกอบการอบรม หลกั สูตร Digital Classroom การพฒั นาทกั ษะด้านเทคโนโลยีเพือ่ การจดั การเรยี นรู้ แผนการจดั การเรยี นรูบ้ นฐานสมรรถนะ กลุม่ สาระการเรยี นรภู้ าษาไทย ระดบั ชน้ั ประถมศึกษาปที ่ี 4 ภาคเรยี นที่ 1 ใช้เพ่อื ประกอบการอบรมเท่านั้น ห้ามนำไปคดั ลอก หรอื ดำเนินการใด ๆ ท่ไี ม่เกย่ี วขอ้ งกับกจิ กรรมการอบรมในครง้ั น้ี จัดทำโดย มูลนธิ ิสานอนาคตการศึกษา คอนเนก็ ซ์อดี ี ภายใตก้ ารดำเนนิ งานของ บริษัท ทรู คอร์ปอเรช่ัน จำกัด (มหาชน)

สารบัญ แผนการจดั การเรียนรู้ หน่วยท่ี 1 ขนมไทยไรเ้ ทียมทาน แผนการจดั การเรียนรู้ หน่วยท่ี 2 ออมไวก้ าํ ไรชีวิต แผนการจดั การเรียนรู้ หนว่ ยท่ี 3 ผกั สมนุ ไพรใบหญา้ มีคณุ คา่ ทงั้ นนั้ แผนการจดั การเรียนรู้ หน่วยท่ี 4 ภมู ิใจในมรดกโลก แผนการจดั การเรียนรู้ หนว่ ยท่ี 5 ชีวิตท่ีถกู เมนิ แผนการจดั การเรียนรู้ หน่วยท่ี 6 โอมพนิ จิ มหาพิจารณา แผนการจดั การเรียนรู้ หน่วยท่ี 7 แรงพิโรธจากฟ้าดิน แผนการจดั การเรียนรู้ หนว่ ยท่ี 8 ไวรสั วายรา้ ย แผนการจดั การเรียนรู้ วชิ าภาษาไทย ประถมศกึ ษาปีท่ี 4 1

โครงสร้างรายวิชาพนื้ ฐาน รายวิชา ท 14101 ภาษาไทย ระดับชั้นประถมศึกษาปี ท่ี 4 (ภาคเรียนที่ 1) กลุม สาระการเรยี นรภู าษาไทย จำนวน 160 ชัว่ โมง/ ป สัดสว่ นคะแนนระหวา่ งเรียน/ปลายปี 70 : 30 หน่วยการเรียนรู้ มาตรฐาน สมรรถนะหลกั สมรรถนะเฉพาะ เวลา คะแนน ผลลัพธ์ การเรยี นรู้/ (ช่วั โมง) การเรยี นรู้ (ภาระงาน ตัวชีว้ ดั รวบยอด) 1.ขนมไทย ท 1.1 ป. 4/1 สมรรถนะท่ี 2 2. การอ่าน 9 4 โปรเจคชีวิต ไรเ้ ทยี มทาน ท 1.1 ป. 4/3 สมรรถนะการคดิ เพ่ือพฒั นาการคิด ท 1.1 ป. 4/6 ขนั้ สงู 2.3 อ่านเรื่องจาก ท 3.1 ป. 4/2 องคป์ ระกอบท่ี 1 ท 3.1 ป. 4/3 การคิดอย่างมี สอื่ ต่าง ๆ แลว้ ตงั้ ท 3.1 ป. 4/4 วิจารณญาณ คาํ ถาม ตอบคาํ ถาม จบั ใจความสาํ คญั Critical Thinking สรุปความรูแ้ ละขอ้ คิด พฤตกิ รรมบ่งชี้ วิเคราะหข์ อ้ เท็จจรงิ (ระดบั 4) และขอ้ คิดเห็น ตีความความหมาย โดยตรงและโดยนยั ประเมนิ ค่า รวมทงั้ นาํ ไปประยุกตใ์ ชใ้ น ชีวติ จรงิ 2. ออมไวก้ าํ ไรชวี ิต ท 1.1 ป. 4/6 สมรรถนะท่ี 2 4. การเขา้ ใจ 10 4 สาํ นวนชวน ท 3.1 ป. 4/2 สมรรถนะการคิด ธรรมชาติของภาษา คิด ท 4.1 ป. 4/5 ขนั้ สงู และการใชภ้ าษาไทย ท 4.1 ป. 4/6 องคป์ ระกอบท่ี 1 4.3 เขา้ ใจ ความหมายและการ แผนการจดั การเรียนรู้ วชิ าภาษาไทย ประถมศกึ ษาปีท่ี 4 2

มาตรฐาน ผลลัพธ์ การเรียนรู้/ หน่วยการเรียนรู้ สมรรถนะหลกั สมรรถนะเฉพาะ เวลา คะแนน การเรยี นรู้ ตวั ชีว้ ดั (ช่วั โมง) (ภาระงาน 3. ผกั สมนุ ไพร ใบหญา้ มีคณุ คา่ รวบยอด) ทงั้ นนั้ การคิดอย่างมี ใชค้ าํ สาํ นวน คาํ 4. ภมู ใิ จ วจิ ารณญาณ ในมรดกโลก Critical Thinking ราชาศพั ท์ คาํ ท่ียืม พฤติกรรมบง่ ชี้ (ระดบั 4) มาจาก ภาษาต่างประเทศ ท่ีถกู ตอ้ งเหมาะสม กบั บุคคล โอกาส และกาลเทศะ ท 1.1 ป. สมรรถนะท่ี 2 ๒.การอ่าน 10 4 พนกั งานขาย 4/1 สมรรถนะการคิด เพ่อื พฒั นาการคดิ มอื อาชพี ท 1.1 ป. 4/3 ท 1.1 ป. 4/6 ขนั้ สงู ๒.๑ อา่ นออกเสียง ท 2.1 ป. 4/6 องคป์ ระกอบท่ี 1 ท 3.1 ป. 4/2 การคิดอยา่ งมี บทรอ้ ยแกว้ และบท รอ้ ยกรอง เพ่ือ ท 3.1 ป. 4/3 วิจารณญาณ ถ่ายทอดความหมาย ท 3.1 ป. 4/5 Critical Thinking และ/หรอื อารมณ์ ท 3.1 ป. 4/6 พฤติกรรมบ่งชี้ ความรูส้ กึ ไดอ้ ย่าง ท 4.1 ป. 4/1 (ระดบั 4) ถกู ตอ้ งเหมาะสม และไพเราะ ท 1.1 ป. 4/1 สมรรถนะท่ี 2 1. การฟัง การดู และ 10 4 มคั คเุ ทศก์ ท 1.1 ป. 4/2 สมรรถนะการคิด ท 1.1 ป.4/3 ขนั้ สงู การพดู เพ่ือพฒั นา ชมุ ชน ท 1.1 ป. 4/6 องคป์ ระกอบท่ี 1 ท 3.1 ป. 4/2 การคิด 1.1 ฟังและ/หรือดสู ื่อ ต่างๆ ท่เี กี่ยวกบั แผนการจดั การเรียนรู้ วิชาภาษาไทย ประถมศกึ ษาปีท่ี 4 3

หน่วยการเรียนรู้ มาตรฐาน สมรรถนะหลัก สมรรถนะเฉพาะ เวลา คะแนน ผลลพั ธ์ การเรียนรู้/ (ช่วั โมง) การเรยี นรู้ การคิดอย่างมี (ภาระงาน ตวั ชีว้ ัด วจิ ารณญาณ รวบยอด) Critical Thinking ท 3.1 ป. 4/5 พฤตกิ รรมบง่ ชี้ สถานการณใ์ น สรา้ งฝันป้ัน (ระดบั 4) ชีวติ ประจาํ วนั ชมุ ชน เรอื่ ง 5. ชีวิตท่ีถกู เมิน ท 1.1 ป. 4/1 และสงั คม แลว้ พดู 10 4 ท 1.1 ป. 4/6 สมรรถนะท่ี 2 สรุป ตงั้ คาํ ถาม นกั พดู ท 2.1 ป.4/7 สมรรถนะการคดิ วเิ คราะห์ รวมทงั้ มอื ใหม่ ท 4.1 ป. 4/2 ขนั้ สงู แสดงความรู้ ท 4.1 ป. 4/4 องคป์ ระกอบท่ี 1 ความรูส้ กึ และความ การคิดอย่างมี คดิ เห็นอย่างมี วจิ ารณญาณ เหตผุ ล Critical Thinking 4. การเขา้ ใจ พฤติกรรมบ่งชี้ ธรรมชาติของภาษา (ระดบั 4) และการใชภ้ าษาไทย สมรรถนะหลกั : ๔.๔ ใชป้ ระโยค การคิดขนั้ สงู ถกู ตอ้ งตามหลกั องคป์ ระกอบท่ี 1 ภาษา เพ่ือนาํ ไปใช้ การคิดอย่างมี ในการส่ือสารได้ ถกู ตอ้ งเหมาะสม 6. โอมพินจิ ท 1.1 ป. 4/3 1.การฟัง การดแู ละ 10 4 มหาพิจารณา ท 2.1 ป. 4/3 การพดู เพ่ือ ท 3.1 ป. 4/1 พฒั นาการคิด ท 3.1 ป. 4/2 แผนการจดั การเรยี นรู้ วิชาภาษาไทย ประถมศกึ ษาปีท่ี 4 4

หน่วยการเรียนรู้ มาตรฐาน สมรรถนะหลัก สมรรถนะเฉพาะ เวลา คะแนน ผลลัพธ์ การเรยี นรู้/ (ช่วั โมง) การเรียนรู้ วิจารณญาณ 1.2 ฟังและ/หรือดู (ภาระงาน ตัวชีว้ ดั Critical Thinking ส่ือต่างๆ อย่างตงั้ ใจ รวบยอด) ระดบั 4 (ระดบั แลว้ พดู เลา่ เร่ือง พดู ท 3.1 ป. 4/3 ความสามารถ ป. นาํ เสนอรายละเอียด ท 4.1 ป. 4/7 4-6 : เร่มิ ตน้ ) สาระสาํ คญั และ ขอ้ คิด รวมทงั้ แสดง ความคดิ เห็นและ ความรูส้ กึ อย่าง สรา้ งสรรค์ 7. แรงพโิ รธ ท 1.1 ป. 4/1 สมรรถนะท่ี 2 3 การเขยี น 10 4 นกั เขยี น จากฟา้ ดิน ท 1.1 ป. 4/3 สมรรถนะการคดิ เพ่อื พฒั นาการคิด ออนไลน์ ท 1.1 ป. 4/6 ขนั้ สงู 3.3 เขียนแสดง ท 2.1 ป. 4/1 องคป์ ระกอบท่ี 1 ความรูส้ กึ และความ ท 2.1 ป. 4/8 การคิดอยา่ งมี คิดเห็นดว้ ยตวั อกั ษร ท 3.1 ป. 4/2 วจิ ารณญาณ หรือสญั ลกั ษณ์ ท 3.1 ป. 4/4 Critical Thinking ผา่ นสื่อต่าง ๆ อย่าง ท 3.1 ป. 4/5 พฤตกิ รรมบง่ ชี้ เหมาะสมกบั บุคคล ท 4.1 ป.4/1 (ระดบั 4) โอกาส และ กาลเทศะ โดยไมล่ ะเมดิ สิทธิ์ ของผอู้ ่นื แผนการจดั การเรยี นรู้ วชิ าภาษาไทย ประถมศกึ ษาปีท่ี 4 5

หน่วยการเรียนรู้ มาตรฐาน สมรรถนะหลกั สมรรถนะเฉพาะ เวลา คะแนน ผลลัพธ์ การเรียนรู้/ (ช่วั โมง) การเรียนรู้ (ภาระงาน ตวั ชีว้ ัด รวบยอด) รีวิวหนงั สือ 8. ไวรสั วายรา้ ย ท 1.1 ป.4/1 สมรรถนะหลกั : 1.การฟัง การดู และ 10 4 น่าอา่ น ท 1.1 ป.4/3 การสื่อสาร การพดู เพ่ือ 1 3 ท 1.1 ป.4/7 องคป์ ระกอบท่ี 1 พฒั นาการคิด 80 35 - ดา้ นการรบั สาร 1.3 ฟังและ/หรือดสู ่อื ท 2.1 ป.4/2 อย่างมสี ตแิ ละ ต่าง ๆ วิเคราะห์ ถอดรหสั เพ่ือให้ ความน่าเช่ือถือ พดู ท 3.1 ป.4/1 เกดิ ความเขา้ ใจ แสดงความ คิดเห็น ท 3.1 ป.4/2 ท 3.1 ป.4/3 ระดบั 4 อยา่ งมีเหตผุ ล เพ่อื ใหส้ ามารถเลือก ฟังและดสู อื่ ดว้ ย ตนเองได้ อย่าง เหมาะสม สอบกลางภาคเรยี นท่ี 1 รวมคะแนนระหว่างเรียน (ภาคเรียนที่ 1) 9 10 11 12 13 14 15 16 แผนการจดั การเรยี นรู้ วิชาภาษาไทย ประถมศกึ ษาปีท่ี 4 6

หน่วยการเรียนรู้ มาตรฐาน สมรรถนะหลัก สมรรถนะเฉพาะ เวลา คะแนน ผลลัพธ์ การเรยี นรู้/ (ช่วั โมง) การเรยี นรู้ (ภาระงาน ตัวชีว้ ดั รวบยอด) รวมระหว่างเรียน (ปี การศึกษา) 159 70 ทดสอบปลายปี 1 30 รวม 160 100 แผนการจดั การเรยี นรู้ วิชาภาษาไทย ประถมศกึ ษาปีท่ี 4 7

โครงสร้างการออกแบบแผนการจดั การเรยี นรู้เพอ่ื พฒั นาสมรรถนะ โดยใช้มาตรฐานการเรยี นรู้และตัวชีว้ ดั จากหลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษาขั้นพืน้ ฐาน พุทธศักราช 2551 รายวิชา ภาษาไทย รหสั วิชา ท 14101 ช่อื หน่วยการเรียนรู้ที่ 1 ขนมไทยไร้เทยี มทาน เวลาเรยี น 9 ช่ัวโมง สาระการเรียนรู้ ภาษาไทย ระดับชัน้ ประถมศึกษาปี ท่ี 4 _____________________________________________________________________________ 1. มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชวี้ ัด มาตรฐาน ท 1.1 ใชก้ ระบวนการอา่ นสรา้ งความรูแ้ ละความคิดเพ่อื นาํ ไปใชต้ ดั สินใจ แกป้ ัญหาในการดาํ เนินชีวติ และมนี สิ ยั รกั การอา่ น ท 1.1 ป. 4/1 อ่านออกเสียงบทรอ้ ยแกว้ และบทรอ้ ยกรองไดถ้ กู ตอ้ ง ท 1.1 ป. 4/3 อา่ นเร่ืองสนั้ ๆ ตามเวลาท่ีกาํ หนดและตอบคาํ ถามจากเร่ืองท่ีอ่าน ท 1.1 ป. 4/6 สรุปความรูแ้ ละขอ้ คิดจากเร่ืองท่อี ่านเพ่อื นาํ ไปใชใ้ นชวี ิตประจาํ วนั มาตรฐาน ท 3.1 สามารถเลอื กฟังและดอู ย่างมีวิจารณญาณ และพดู แสดงความรู้ ความคิด และความรูส้ กึ ใน โอกาสตา่ งๆ อยา่ งมีวจิ ารณญาณและสรา้ งสรรค์ ท 3.1 ป.4/2 พดู สรุปความจากการดแู ละการฟัง ท 3.1 ป.4/3 พดู แสดงความรู้ ความคิดเห็นและความรูส้ กึ เกี่ยวกบั เรือ่ งท่ีฟังและดู ท 3.1 ป.4/4 ตงั้ คาํ ถามและตอบคาํ ถามเชิงเหตผุ ลจากเร่ืองท่ีฟังและดู 2. สมรรถนะหลกั สมรรถนะท่ี 2 สมรรถนะการคิดขนั้ สงู องคป์ ระกอบท่ี 1 การคิดอยา่ งมีวจิ ารณญาณ Critical Thinking พฤติกรรมบ่งชี้ (ระดับ 4) : สรุปความเขา้ ใจของตนและแสดงความคิดเห็นอย่างมีเหตุผล เก่ียวกบั เรื่องนนั้ จากการตัง้ คาํ ถาม การฟัง/อ่านขอ้ มูล เร่ืองราว วิเคราะหเ์ พ่ือประเมินความเหมาะสมของ ขอ้ มลู ในการลงขอ้ สรุปไดอ้ ย่างถูกตอ้ งและ/หรือ ตดั สินใจเลือกทางใดทางหนึ่ง โดยระบหุ ลกั ฐานสนับสนุน ความคิดไดอ้ ย่างนอ้ ยหน่ึงแหลง่ ขอ้ มลู อธิบายเหตผุ ลของการตดั สินใจในเรื่องต่าง ๆ ในชีวิตประจาํ วนั ของ ตน และบอกไดว้ า่ การตดั สินใจของตนมีความเหมาะสมโดยระบหุ ลกั ฐานสนบั สนนุ ความคดิ ได้ แผนการจดั การเรียนรู้ วชิ าภาษาไทย ประถมศกึ ษาปีท่ี 4 8

3. สมรรถนะประจาํ หน่วย อ่านเรื่องจากสื่อต่างๆ แลว้ ตงั้ คาํ ถาม ตอบคาํ ถามจบั ใจความสาํ คญั สรุปความรู้ ขอ้ คิด และแสดง ความคิดเหน็ อย่างมเี หตผุ ล เพ่อื ประเมนิ ความเหมาะสมของขอ้ มลู ในการลงขอ้ สรุปไดอ้ ย่างถกู ตอ้ งและ/หรือ ตัดสินใจเลือกทางใดทางหนึ่ง โดยระบุหลกั ฐานสนบั สนุนความคิดไดอ้ ย่างนอ้ ยหนึ่งแหล่งขอ้ มูล อธิบาย เหตผุ ลของการตดั สินใจในเร่ืองต่างๆในชวี ิตประจาํ วนั ของตน สมรรถนะเฉพาะ : สมรรถนะหลกั : การคิดขนั้ สงู 2.การอา่ นเพ่ือพฒั นาการคิด องคป์ ระกอบท่ี 1 การคิดอย่างมีวิจารณญาณ Critical Thinking 2.3 อ่านเรื่องจากสอื่ ตา่ ง ๆ ระดบั 4 (ระดบั ความสามารถ ป.4-6 : เรม่ิ ตน้ ) แลว้ ตงั้ คาํ ถาม ตอบคาํ ถามจบั พฤตกิ รรมบ่งชี้ (ระดบั 4) : สรุปความเขา้ ใจของตนและแสดงความ ใจความสาํ คญั สรุปความรู้ คดิ เห็นอย่างมเี หตผุ ลเกี่ยวกบั เร่อื งนนั้ จากการตงั้ คาํ ถาม การฟัง/อ่านขอ้ มลู และขอ้ คิด วิเคราะห์ เรือ่ งราว วเิ คราะหเ์ พ่ือประเมินความเหมาะสมของขอ้ มลู ในการลงขอ้ สรุป ขอ้ เท็จจรงิ และขอ้ คิดเห็น ไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ งและ/หรือ ตดั สินใจเลือกทางใดทางหนึง่ โดยระบหุ ลกั ฐาน ตคี วามความหมายโดยตรง สนบั สนนุ ความคดิ ไดอ้ ย่างนอ้ ยหนง่ึ แหลง่ ขอ้ มลู อธิบายเหตผุ ลของการ และโดยนยั ประเมนิ ค่า ตดั สนิ ใจในเรอ่ื งตา่ งๆในชีวิตประจาํ วนั ของตน และบอกไดว้ ่าการตดั สินใจ รวมทงั้ นาํ ไปประยกุ ตใ์ ชใ้ น ของตนมีความเหมาะสมโดยระบหุ ลกั ฐานสนบั สนนุ ความคิดได้ ชีวิตจรงิ ผลลพั ธก์ ารเรียนรู้ : โปรเจค็ ชวี ิต 4. เนือ้ หาสาระ 1. หลกั การอ่านออกเสยี ง 2. การอ่านจบั ใจความ 3. การวิเคราะหบ์ ทเรยี น 4. การพดู แสดงความคิดเหน็ 5. สมรรถนะย่อย/งาน 1. อ่านเร่อื งจากสื่อต่างๆ แลว้ ตงั้ คาํ ถาม ตอบคาํ ถาม จบั ใจความสาํ คญั สรุปความรู้ ขอ้ คิด และ แสดงความคิดเหน็ อย่างมีเหตผุ ลเพ่ือประเมินความเหมาะสมของขอ้ มลู ในการลงขอ้ สรุปไดอ้ ย่างถกู ตอ้ ง และ/หรือตดั สินใจเลอื กทางใดทางหนงึ่ 2. อธิบายเหตผุ ลของการตดั สินใจในเรื่องต่างๆในชีวิตประจาํ วนั ของตน และบอกไดว้ า่ การตดั สินใจ ของตนมีความเหมาะสมโดยระบหุ ลกั ฐานสนบั สนนุ ความคิดได้ แผนการจดั การเรยี นรู้ วชิ าภาษาไทย ประถมศกึ ษาปีท่ี 4 9

แผนการจดั การเรยี นรู้ วชิ าภาษาไทย ประถมศกึ ษาปีท่ี 4 6. โครงสร้างหน่วยการเรียนรู้ สมรรถนะยอ่ ยท่ี 1 อา่ นเร่ืองจากสอ่ื ต่างๆ แลว้ ตงั้ คาํ ถาม ตอบคาํ ถาม จบั ใจความ เหตผุ ลเพ่ือประเมนิ ความเหมาะสมของขอ้ มลู ในการลงขอ้ สรุปไดอ้ ย่างถกู ตอ้ งและ แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 1 เร่อื ง การอ่านออกเสียง 1. มาตรฐานการเรียนรู้/ตวั ชวี้ ดั มาตรฐาน ท 1.1 ใชก้ ระบวนการอ่านสรา้ งความรูแ้ ละความคดิ เพ่ือนาํ ไปใช ท 1.1 ป. 4/1 อ่านออกเสียงบทรอ้ ยแกว้ และบทรอ้ ยกรองไดถ้ กู ต 2.จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ 2.1. บอกประโยชนข์ องการอ่านท่ถี กู ตอ้ งตามอกั ขระวิธีได้ (A) 2.2 บอกวิธีการอา่ นออกเสยี งท่ถี กู ตอ้ งตามอกั ขระวธิ ี (K) 2.3 อ่านออกเสียงบทอา่ นไดถ้ กู ตอ้ งตามอกั ขระวิธี (S) 3. กิจกรรมการเรียนรู้ 3.1 ขน้ั เตรียมความพร้อมและตั้งขอ้ สังเกตในการเรียนรู้ 1) นกั เรยี นชมคลิปวีดโี อ เก่ียวกบั การอ่านออกเสยี งคาํ ไม่ถกู ตอ้ ง จาก http วดี ีโอ “เวน้ วรรคตอนผิด ชีวิตเปล่ยี น” จาก https://www.youtube.com/watch?v= 2) นกั เรยี นรว่ มแสดงความคิดเห็นจากการชมคลปิ วีดโี อดงั นี้ - การอา่ นของตวั ละครตามคลปิ วิดีโอก่อใหเ้ กิดผลเสยี อยา่ งไรบา้ ง (แนวคาํ ตอบ ทาํ ใหก้ ารสือ่ ความไม่ชดั เจน ผดิ ความหมาย) -เหตกุ ารณ์ตามคลิปวิดโี อมีโอกาสเกดิ ขนึ้ ในชวี ิตจรงิ หรือไม่ (แนวคาํ ตอบ มีโอกาสเกิดขึน้ ได้ เชน่ นอน-ตา-กลม อ่านว่า นอน-ตา-ก 10

มสาํ คญั สรุปความรู้ ขอ้ คิด และแสดงความคิดเห็นอยา่ งมี เวลา 4 ช่วั โมง ะ/หรือ ตดั สนิ ใจเลือกทางใดทางหนง่ึ เวลา 1 ช่ัวโมง ชต้ ดั สินใจ แกป้ ัญหาในการดาํ เนินชวี ิต และมนี สิ ยั รกั การอ่าน ตอ้ ง ps://www.youtube.com/watch?v=mtmtnmemomw เวลาา 3.04 นาที และ คลปิ =MperowYGOBU เวลา 3.57 นาที กลม)

แผนการจดั การเรยี นรู้ วชิ าภาษาไทย ประถมศกึ ษาปีท่ี 4 3.2 ข้นั จัดกระบวนการเรยี นรู้ 1) นกั เรยี นแบ่งกลมุ่ เป็น 5 กลมุ่ กลมุ่ ละเทา่ ๆ กนั โดยคละความสา 2) นกั เรียนแตล่ ะกลมุ่ รว่ มกนั ระดมความคิดในหวั ขอ้ “วธิ ีการท่ชี ว่ ย ประสบการณเ์ ดมิ พรอ้ มทงั้ ใหเ้ ขียนผลการระดมความคดิ ในแถบกระดาษท่แี จกให้ ภ 3) เม่ือไดย้ ินสญั ญาณเพลง ใหน้ กั เรียนนาํ แถบกระดาษไปติดบนก 4) นกั เรยี นพจิ ารณาผลงานของเพ่อื น โดยครูตงั้ คาํ ถามใหน้ กั เรยี น 5) ครูกาํ หนดแนวทางใหน้ กั เรยี นตรวจสอบวธิ ีการอ่านท่ีกลมุ่ ตนนาํ ท่งุ กวา้ ง โดยกาํ หนดใหน้ กั เรียนพิจารณาวธิ ีการอ่านของคลิปวิดโี อวา่ สอดคลอ้ งกบั ว สอดคลอ้ งกบั ผลงานท่ีกลมุ่ นาํ เสนอ โดยมเี กณฑก์ ารใหค้ ะแนนคือ เม่ือพบว่าวิธีการท่ชี ว่ ยใหอ้ า่ นออกเสยี งได วิดีโอมาประกอบได้ ไดค้ ะแนนรายการละ 1 คะแนน 6) นกั เรยี นรบั บทอ่าน เรื่อง เรียวรุง้ เหนือทงุ่ กวา้ ง 11

ามารถ ยใหก้ ารอา่ นออกเสียงถกู ตอ้ ง ไพเราะ และนา่ สนใจ” โดยใชค้ วามรูจ้ าก ภายในเวลา 10 นาที กระดานดาํ นพิจารณาว่า “วิธีการอา่ นท่นี กั เรยี น แตล่ ะกลมุ่ นาํ เสนอ ถกู ตอ้ งหรือไมอ่ ย่างไร” าเสนอวา่ ถกู ตอ้ งหรือไม่ จากการชมคลปิ วดิ ีโอการอา่ นออกเสียงเรื่องเรยี งรุง้ เหนือ วธิ ีการอ่านท่กี ลมุ่ ตนนาํ เสนอหรือไม่ ดว้ ยการระบขุ อ้ ความการอา่ นในคลิปวดิ ีโอท่ี ดถ้ กู ตอ้ งของกลมุ่ สอดคลอ้ งกบั คลิปวิดีโอ ดว้ ยการยกตวั อยา่ งการอ่านจากคลิป

แผนการจดั การเรยี นรู้ วชิ าภาษาไทย ประถมศกึ ษาปีท่ี 4 7) นกั เรียนชมคลิปวีดีโอการอ่านออกเสียงเรื่อง เรียวรุง้ เหนือทุ่ง นาที พรอ้ มทงั้ สงั เกตวิธีการอา่ น และระบขุ อ้ ความการอา่ นในคลิปวิดีโอท่สี อดคลอ้ ง 8) นกั เรยี นแตล่ ะกลมุ่ สรุปคะแนนของกลมุ่ โดยกลมุ่ ท่ีไดค้ ะแนนสงู อ่านออกเสียงไดถ้ กู ตอ้ งของกลมุ่ สอดคลอ้ งกบั คลิปวิดโี อ ดว้ ยการยกตวั อยา่ งการอา่ กรณีท่วี ธิ ีการท่ีจะนาํ เสนอมีความแตกตา่ งจากกลมุ่ ท่ไี ดค้ ะแนนสงู สดุ 9) นกั เรยี นร่วมกนั สรุปหลกั การอา่ นออกเสียงท่ที าํ ใหเ้ ขาใจเนือ้ เร่ือ (แนวคาํ ตอบ 1)อา่ นเนอื้ เรือ่ งครา่ วๆ ในใจ เพอื่ สาํ รวจคาํ ยากทอี่ า่ นไมไ่ ด้ แ 2) อ่านออกเสยี งคาํ ใหถ้ ูกตอ้ งตามอกั ขระวธิ ี โดยเฉพาะ “ร” “ 3) อ่านเวน้ วรรคตอนใหถ้ ูกตอ้ ง 4) ใชน้ ้าํ เสยี งใหส้ อดคลอ้ งเหมาะสมกบั เนอื้ เรือ่ ง อา่ นดว้ ยนา้ํ เ 5) อ่านเสยี งดงั พอประมาณ ชดั เจน และนา่ ฟงั ) 10) นกั เรียนแตล่ ะกลมุ่ รบั บทอ่าน เร่อื งขนมไทยไรเ้ ทยี มทาน ดงั นี้ กลมุ่ ท่ี 1 รบั บทอ่านตอนท่ี 1 กลมุ่ ท่ี 2 รบั บทอ่านตอนท่ี 2 กลมุ่ ท่ี 3 รบั บทอ่านตอนท่ี 3 กลมุ่ ท่ี 4 รบั บทอ่านตอนท่ี 4 กลมุ่ ท่ี 5 รบั บทอ่านตอนท่ี 5 11) กาํ หนดใหส้ มาชิกแต่ละกลมุ่ อา่ นเรื่องท่ไี ดร้ บั ตามหลกั ปฏบิ ตั กิ (1) อ่านเนือ้ เร่ืองครา่ วๆ ในใจ เพ่ือสาํ รวจคาํ ยากท่ีอ่านไม่ไ (2) ขดี เสน้ ใตค้ าํ ควบกลา้ํ และคาํ ท่ีมี “ร” “ล” เป็นพยญั ช 12

กวา้ ง จากhttps://www.youtube.com/watch?v=sAf0dvH2eV0 ใชเ้ วลา 1.52 งกบั ผลงานท่ีกลมุ่ นาํ เสนอ งสดุ ไดส้ ทิ ธิใ์ นการนาํ เสนอผลงานของกลมุ่ ซง่ึ ไดแ้ ก่ การนาํ เสนอวธิ ีการท่ีช่วยให้ านจากคลิปวดิ ีโอมาประกอบ พรอ้ มทงั้ เปิดโอกาสใหส้ มาชิกกลมุ่ อ่ืนนาํ เสนอใน องและระบุประเด็นสาํ คญั และรูจ้ กั วธิ ีการสบื คน้ การอา่ นคาํ ยาก “ล” และคาํ ควบกลา้ํ เสียงทเี่ ป็นธรรมชาติ การอ่านออกเสียง ดงั นี้ ได้ และรูจ้ กั วิธีการสืบคน้ ในการอ่านคาํ ยาก ชนะตน้

แผนการจดั การเรยี นรู้ วชิ าภาษาไทย ประถมศกึ ษาปีท่ี 4 (3) การเวน้ วรรคตอนคาํ ในบทอ่าน ท่ที าํ ใหส้ ่ือความหมาย (4) ใชน้ า้ํ เสยี งใหส้ อดคลอ้ งเหมาะสมกบั เนือ้ เรื่อง อ่านดว้ ย (5) อ่านเสยี งดงั พอประมาณ ชดั เจน และน่าฟัง โดยกาํ หน 12) เม่อื ไดย้ นิ สญั ญาณหมดเวลา ใหก้ ลมุ่ ท่ี 1 นาํ เสนอผลงาน และ กลมุ่ ท่ี 2 ประเมินความถกู ตอ้ งการอ่านออกเสียง คาํ ควบกลา้ํ และคาํ ทมี่ กลมุ่ ท่ี 3 ประเมินความถูกตอ้ งในการเวน้ วรรคตอนคาํ ในบทอ่านทที่ าํ ให กลมุ่ ท่ี 4 ประเมนิ ความถูกตอ้ งในการใชน้ า้ํ เสยี งใหส้ อดคลอ้ งเหมาะสมก กลมุ่ ท่ี 5 ประเมินความถกู ตอ้ งเร่ืองความดงั ของการอ่าน ความชดั เจน แ เม่อื กลมุ่ ท่ี 2 อ่าน ใหก้ ลมุ่ ท่ีเหลือสลบั กนั ประเมนิ ความสามารถการอา่ น และดาํ เนิน 13) นกั เรยี นรวบรวมผลการประเมนิ ความสามารถดา้ นการอา่ น ก ถือว่าชนะ และใหส้ มาชกิ ในกลมุ่ บอกแนวทางการฝึกสมาชิกใหส้ ามารถอ่านไดถ้ กู ต 3.3 ขั้นสรุปองคค์ วามรู้ นกั เรียนประเมนิ ตนเองตามเกณฑก์ ารอา่ นออกเสียงท่ดี ี ว่าตนเองบกพรอ่ งใน 3.4 ข้นั ประยุกตใ์ ช้ นกั เรยี นนาํ แนวทางการอ่านออกเสียงท่ีดี ไปฝึกอ่านกบั สื่อท่ีนกั เรียนสนใจ จ 4. สอ่ื และแหล่งเรียนรู้ 1. คลิปวดี ีโอ จาก https://www.youtube.com/watch?v=mtmtnmemom 2. คลิปวดี ีโอ จาก https://www.youtube.com/watch?v=MperowYGOB 3. คลิปวดี ีโอ จาก จาก https://www.youtube.com/watch?v=sAf0dvH2 13

ยบทอ่าน ยนาํ้ เสยี งท่เี ป็นธรรมชาติ นดใหฝ้ ึกอ่านบทอ่านตามเกณฑใ์ นแตล่ ะตอน ะกาํ หนดใหส้ มาชิกกลมุ่ อ่ืนเป็นกรรมการประเมนิ การอ่าน ตามประเดน็ ดงั นี้ มี “ร” “ล” เป็นพยญั ชนะตน้ หส้ อื่ ความหมายบทอ่าน กบั เนอื้ เรื่อง อ่านดว้ ยนา้ํ เสยี งทเี่ ป็นธรรมชาติ และนา่ ฟงั นการจนครบทกุ กลมุ่ กลมุ่ ไหนมีความผดิ พลาดนอ้ ยท่สี ดุ ตอ้ ง นขอใด พรอ้ มเสนอ แนวทางการพฒั นาตนเอง จาํ นวน 1 เรอื่ ง ใหก้ บั ผปู้ กครองฟัง พรอ้ มทงั้ ขอขอ้ เสนอแนะจากผปู้ กครอง mw BU 2eV0

แผนการจดั การเรยี นรู้ วชิ าภาษาไทย ประถมศกึ ษาปีท่ี 4 4. บทอ่านเรื่อง ขนมไทยไรเ้ ทยี มทาน จาก หนงั สอื เรยี นภาษาพาที ชนั้ ประถ 5. แถบกระดาษ 5. การวดั และประเมินผล วิธีวัด เคร่ืองมือวัด 1. สงั เกตพฤติกรรมในการรว่ ม แบบสงั เกตพฤติกรรมการรว่ ม แสดงค แสดงความคิดเหน็ เก่ียวกบั บอก แสดงความคิดเห็นเก่ียวกบั บอก ดี-สรุป สาํ รวจ ประโยชนข์ องการอา่ นท่ถี กู ตอ้ งตาม ประโยชนข์ องการอา่ นท่ถี กู ตอ้ ง 2) ขีดเ อกั ขระวิธี (A) ตามอกั ขระวธิ ี 3) การ 4) ใชน้ 2. ตรวจผลงานสรุปวิธีการอ่านออก เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน 5) อ่าน พอใช เสียงท่ถี กู ตอ้ งตามอกั ขระวธิ ี (K) ปรับป 14

ถมศึกษาปีท่ี 4 เกณฑก์ ารประเมิน ความคิดเหน็ อยา่ งนอ้ ย 1 ขอ้ ปหลกั การอ่านออกเสียงท่ดี ีได้ 4-5ขอ้ ดงั นี้ 1 ) อ่านเนือ้ เร่ืองคร่าวๆ ในใจ เพ่ือ จคาํ ยากท่อี ่านไมไ่ ด้ และรูจ้ กั วธิ ีการสืบคน้ ในการอา่ นคาํ ยาก เสน้ ใตค้ าํ ควบกลาํ้ และคาํ ท่ีมี “ร” “ล” เป็นพยญั ชนะตน้ รเวน้ วรรคตอนคาํ ในบทอา่ น ท่ีทาํ ใหส้ อื่ ความหมายบทอา่ น นา้ํ เสียงใหส้ อดคลอ้ งเหมาะสมกบั เนอื้ เรือ่ ง อา่ นดว้ ยนา้ํ เสียงท่ีเป็นธรรมชาติ นเสียงดงั พอประมาณ ชดั เจน และนา่ ฟัง ช-้ สรุปหลกั การอา่ นออกเสยี งท่ีดีได้ 2-3 ขอ้ ปรุง –สรุปหลกั การอ่านออกเสียงท่ีดีได้ 1 ขอ้ หรือไม่ปรากฏ

แผนการจดั การเรยี นรู้ วชิ าภาษาไทย ประถมศกึ ษาปีท่ี 4 วธิ วี ดั เครื่องมือวัด ด-ี อา่ เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน 1) อ่าน 3. ประเมินความสามารถการอา่ น 2) อ่าน ออกเสียงบทอ่านไดถ้ กู ตอ้ งตาม 3) การ อกั ขระวธิ ี (S) 4) อ่าน 5) อ่าน พอใช 2-3 ขอ้ ปรับป 15

เกณฑก์ ารประเมิน านบทอา่ นไดม้ ีคณุ ภาพตามเกณฑ์ 4-5ขอ้ ดงั นี้ นคาํ ท่ีมี “ร” เป็นพยญั ชนะตน้ ไดถ้ กู ตอ้ ง นคาํ ท่ีมีคาํ ควบกลา้ํ ไดถ้ ูกตอ้ ง รเวน้ วรรคตอนคาํ ในบทอา่ น ท่ที าํ ใหส้ อื่ ความหมายบทอ่าน นคาํ ไดถ้ กู ตอ้ งทกุ คาํ นคาํ ไดค้ ลอ่ งแคลว่ ทกุ คาํ ช้ – อ่านบทอ่านไดม้ ีคณุ ภาพตามเกณฑ์ อ ปรุง – อา่ นบทอา่ นไดม้ ีคณุ ภาพตามเกณฑ์ 1 ขอ้ หรอื ไม่ปรากฏ

ภาคผ บทอ่าน เ ื่รองขนม บท ่อานตอนที่ 1 แผนการจดั การเรยี นรู้ วชิ าภาษาไทย ประถมศกึ ษาปีท่ี 4 16

ผนวก มไทยไร้เทยี มทาน บทอา่ นตอนที่ 2

บทอ่านตอนที่ 3 แผนการจดั การเรยี นรู้ วชิ าภาษาไทย ประถมศกึ ษาปีท่ี 4 17

บทอา่ นตอนที่ 4

บทอ่านต แผนการจดั การเรยี นรู้ วชิ าภาษาไทย ประถมศกึ ษาปีท่ี 4 18

ตอนที่ 5

แผนการจดั การเรยี นรู้ วชิ าภาษาไทย ประถมศกึ ษาปีท่ี 4 สมรรถนะยอ่ ยท่ี 1 อา่ นเรื่องจากสือ่ ต่างๆ แลว้ ตงั้ คาํ ถาม ตอบคาํ ถาม จบั ใจความ มเี หตผุ ลเพ่อื ประเมนิ ความเหมาะสมของขอ้ มลู ในการลงขอ้ สรุปไดอ้ ย่างถกู ตอ้ งแล แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี 2 เร่ือง เข้าใจบทอา่ น 1. มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชีว้ ัด มาตรฐาน ท 1.1 ใชก้ ระบวนการอ่านสรา้ งความรูแ้ ละความคดิ เพ่อื นาํ ไป ท 1.1 ป. 4/3 อา่ นเรื่องสนั้ ๆ ตามเวลาท่ีกาํ หนดและตอบคาํ ถามจ มาตรฐาน ท 3.1 สามารถเลอื กฟังและดอู ยา่ งมวี ิจารณญาณ และพดู แสดงค ท 3.1 ป.4/4 ตงั้ คาํ ถามและตอบคาํ ถามเชงิ เหตผุ ลจากเรอ่ื งท่ีฟังแ 2. จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ 2.1 เห็นประโยชนข์ องการตงั้ คาํ ถามและตอบคาํ ถามจากบทอา่ นได้ (A) 2.2 บอกลกั ษณะในการตงั้ คาํ ถามและตอบคาํ ถามเพ่ือทาํ ความเขา้ ใจบทอ 2.3 ตงั้ คาํ ถามและตอบคาํ ถามเพ่ือทาํ ความเขา้ ใจบทอ่านได้ (S) 3. กิจกรรมการเรยี นรู้ 3.1 ขน้ั เตรียมความพร้อมและตั้งขอ้ สังเกตในการเรียนรู้ 1) นกั เรียนรบั บทอา่ นชดุ ท่ี 1( นทิ านเรื่อง หมาป่ากบั ตน้ ไมศ้ กั ดสิ์ ิท อ่านภายในเวลา 5 นาที หลงั จากนนั้ ถามคาํ ถามและนกั เรียนตอบคาํ ถามจากบทอา่ 2) นกั เรยี นรบั บทอา่ นชดุ ท่ี 2 (นทิ านเร่ือง สนุ ขั จงิ้ จอกจอมตะกละ) หลงั จากนนั้ ถามคาํ ถามและนกั เรยี นตอบคาํ ถามจากบทอา่ นท่ีไดร้ บั 19

มสาํ คญั สรุปความรู้ ขอ้ คิด และแสดงความคิดเห็นอยา่ ง เวลา 4 ช่วั โมง ละ/หรอื ตดั สินใจเลือกทางใดทางหนง่ึ เวลา 1 ช่ัวโมง ปใชต้ ดั สนิ ใจ แกป้ ัญหาในการดาํ เนินชวี ิต และมนี สิ ยั รกั การอ่าน จากเรื่องท่ีอ่าน ความรู้ ความคิด และความรูส้ กึ ในโอกาสต่างๆ อย่างมีวจิ ารณญาณและสรา้ งสรรค์ และดู อ่านได้ (K) ทธิ)์ ประกอบดว้ ยบทอ่าน และคาํ ถาม นาํ เพ่ือความเขา้ ใจบทอ่าน และใหน้ กั เรียน านท่ีไดร้ บั ) ท่ีมีบทอ่านเพียงอย่างเดยี วอา่ น และใหน้ กั เรียนอา่ นบทอา่ นภายในเวลา 5 นาที

แผนการจดั การเรยี นรู้ วชิ าภาษาไทย ประถมศกึ ษาปีท่ี 4 3) นกั เรียนเปรียบเทียบความยากง่ายของการทาํ ความเขา้ ใจเรือ่ งท คาํ ถามนาํ ทาํ ใหเ้ ขา้ ใจรายละเอยี ดของเร่อื งว่า ใคร อะไร ท่ไี หน เม่อื ไร อย่างไร ไดอ้ ย 3.2 ข้นั จดั กระบวนการเรยี นรู้ 1) แบ่งนกั เรยี นออกเป็น 4 กลมุ่ เพ่อื เขา้ รว่ มกิจกรรม “ถอดรหสั คาํ ถาม” ช่อื กจิ กรรม ถอดรหสั คาํ ถาม จุดประสงค์ - นกั เรยี นสรุปลกั ษณะคาํ ถามเพ่อื ทาํ ความเขา้ ใจบทอา่ นได้ วิธดี าํ เนินการ รอบท่ี 1 1. นกั เรียนแต่ละกลมุ่ รบั บทอ่านนิทาน เรื่องเจา้ แมวแสนสวย และคาํ ถามเก่ีย 2. นกั เรียนอ่านนิทานพรอ้ มตอบคาํ ถามภายในเวลาท่กี าํ หนด โดยกลมุ่ ท่ตี อบ โดยใชเ้ วลานอ้ ยท่สี ดุ เป็นผชู้ นะ 3. นกั เรยี นพจิ ารณาลกั ษณะของคาํ ถามท่ที าํ ใหเ้ ขา้ ใจบทอา่ นไดง้ ่ายขนึ้ โดยเข เม่ือไดย้ ินสญั ญาณเพลงใหน้ าํ ผลงานไปติดท่ีกระดานดาํ รอบท่ี 2 ปฏิบตั ิกจิ กรรมเหมือนรอบท่ี 1 แต่รบั บทอ่านจากบทความ เรื่องประวตั คิ วา และคาํ ถามเก่ียวกบั บทความ รอบท่ี 3 ปฏบิ ตั ิกจิ กรรมเหมือนรอบท่ี 1 แต่รบั บทอ่านเป็นเรื่องขา่ ว เรอ่ื ง“โอมคิ รอน เกี่ยวกบั เร่อื งข่าว 4. เม่อื ไดย้ ินสญั ญาณเพลงใหน้ กั เรียนพจิ ารณาลกั ษณะคาํ ถามในแต่ละรอบของ 5. นกั เรียนแตล่ ะกลมุ่ นาํ เสนอผลงานในกิจกรรมขอ้ 4 20

ท่มี ีการตงั้ คาํ ถามนาํ /ไมม่ ีการตงั้ คาํ ถามในบทอ่าน (แนวคาํ ตอบ บทอา่ นท่ีมแี นว ย่างชดั เจนมากกว่าบทอา่ นท่ีไมม่ ีคาํ ถามนาํ ) ยวกบั นิทานท่ีอ่าน บคาํ ถามไดค้ ะแนนสงู สดุ ขียนลงในกระดาษชารจ์ ามเป็นมาของขนมไทย น” กลายพนั ธุ์ ระบาดหนกั ยุโรป...พบเพม่ิ จาํ นวนเรว็ ในเซลลป์ อด และคาํ ถาม องการอ่านบทอ่าน พรอ้ มทงั้ สรุปเป็นลกั ษณะคาํ ถามท่ีทาํ ใหเ้ ขา้ ใจบทอ่านไดง้ า่ ยขึน้

แผนการจดั การเรยี นรู้ วชิ าภาษาไทย ประถมศกึ ษาปีท่ี 4 แนวคาํ ตอบ คาํ ถามท่ใี ชใ้ นการท่ีทาํ ใหเ้ ขา้ ใจบทอ่านไดง้ ่ายขึน้ มีลกั ษณะ ด 1) เป็นคาํ ถามท่ีถามถึงตวั ละครสาํ คญั ของเรื่อง 2) เป็นคาํ ถามท่ถี ามถึงเหตกุ ารณใ์ นเรอ่ื ง 3) เป็นคาํ ถามท่ีถามถึงสถานท่ี 4) เป็นคาํ ถามท่ถี ามถึงเวลาท่ีเกิดเหตกุ ารณ์ 5) เป็นคาํ ถามท่ถี ามถึงลกั ษณะของเหตกุ ารณ์ 6) คาํ ถามท่ถี ามถึงสาเหตขุ องการกระทาํ 7) คาํ ถามท่ถี ามถึงผลท่ีเกิดขึน้ จากเหตกุ ารณ์ 8) คาํ ถามท่ถี ามถงึ ขอ้ คิด 9) คาํ ถามท่ีถามถงึ การนาํ ไปใช้ 6. ครูและนกั เรียนรว่ มกนั สรุปลกั ษณะของคาํ ถามจากการนาํ เสนอของแต่ละก 2) นกั เรียนแตล่ ะกลมุ่ รบั บทอา่ น เร่ืองสนุ ขั จิง้ จอกกบั คนตดั ไม้ พรอ้ มทงั้ รอบท่ี 1) เป็นคาํ ถามท่ีถามถึงตวั ละครสาํ คญั ของเร่ือง รอบท่ี 2) เป็นคาํ ถามท่ถี ามถงึ เหตกุ ารณใ์ นเร่ือง รอบท่ี 3) เป็นคาํ ถามท่ีถามถึงสถานท่ี รอบท่ี 4) เป็นคาํ ถามท่ถี ามถึงเวลาท่ีเกดิ เหตกุ ารณ์ รอบท่ี 5) เป็นคาํ ถามท่ีถามถงึ ลกั ษณะของเหตกุ ารณ์ รอบท่ี 6) คาํ ถามท่ีถามถึงสาเหตขุ องการกระทาํ รอบท่ี 7) คาํ ถามท่ีถามถึงผลท่เี กิดขนึ้ จากเหตกุ ารณ์ 21

ดงั นี้ กลมุ่ ว่ามีลกั ษณะคาํ ถามแบบใดบา้ ง (แนวคาํ ตอบตามขอ้ 5) งฝึกตงั้ คาํ ถามตามลกั ษณะคาํ ถาม ท่กี าํ หนด

แผนการจดั การเรยี นรู้ วชิ าภาษาไทย ประถมศกึ ษาปีท่ี 4 รอบท่ี 8) คาํ ถามท่ถี ามถงึ ขอ้ คิด รอบท่ี 9) คาํ ถามท่ีถามถงึ การนาํ ไปใช้ เกณฑใ์ นการตรวจ 1) ขอ้ ความท่นี าํ เสนอตอ้ งมีลกั ษณะเป็นคาํ ถาม 2) ลกั ษณะคาํ ถามท่ีตงั้ ตอ้ งเป็นไปตามเกณฑท์ ่ีกาํ หนด - กลมุ่ ใดท่สี ามารถปฏบิ ตั ไิ ดถ้ กู ตอ้ งตามเกณฑจ์ ะไดร้ บั รางวลั ชนะเลิศ 3) นกั เรยี นแต่ละคนรบั บทอ่าน เรอ่ื ง กบสองตวั แลว้ ใหน้ กั เรียนตงั้ คาํ ถามพ ขอ้ โดยเขียนลงในสมดุ 3.3 ข้นั สรุปองคค์ วามรู้ นกั เรียนประเมินตนเองตามแนวทางการตงั้ คาํ ถามท่ีช่วยใหเ้ ขา้ ใจบทอ่านได 3.4 ขน้ั ประยุกตใ์ ช้ นกั เรยี นนาํ แนวทางการการตงั้ คาํ ถาม ไปฝึกอ่านเพ่อื สรา้ งความเขา้ ใจในบท ขอ้ เสนอแนะจากผูป้ กครอง 4. ส่อื และแหล่งเรยี นรู้ 1. บทอา่ น ประเภทนทิ าน บทความ และข่าว 2. กระดาษชารจ์ 3. ปากกาสาํ หรบั เขยี นงานในกระดาษชารจ์ 4. เพลงและเครอื่ งเลน่ 5. รางวลั 22

ดในแต่ละรอบ พรอ้ มหาคาํ ตอบตามแนวทางการตงั้ คาํ ถามท่ีช่วยใหเ้ ขา้ ใจบทอ่านไดง้ ่ายขนึ้ ทงั้ 9 ดง้ ่ายขึน้ ว่าตนเองบกพรอ่ งในขอ้ ใด พรอ้ มเสนอแนวทางการพฒั นาตนเอง ทอ่านกบั ส่ือท่นี กั เรียนสนใจ จาํ นวน 1 เร่อื ง ใหก้ บั ผปู้ กครองฟัง พรอ้ มทงั้ ขอ

แผนการจดั การเรยี นรู้ วชิ าภาษาไทย ประถมศกึ ษาปีท่ี 4 5. การวัดและประเมนิ ผล วิธวี ัด เคร่ืองมือวดั 1. บอกประโยชนข์ องการ ตงั้ คาํ ถามและตอบคาํ ถามจาก แบบสงั เกตพฤติกรรมเกี่ยวกบั การแสดง แส บทอ่านได้ (A) 2. ตรวจผลงานในการสรุป ความคดิ เห็นเก่ียวกบั ประโยชนข์ องการ ลกั ษณะการตงั้ คาํ ถามและตอบ คาํ ถาม ตงั้ คาํ ถามและตอบคาํ ถามจากบทอ่าน เพ่อื ทาํ ความเขา้ ใจบทอ่านได้ (K) เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ด-ี 3. ตรวจผลงานตงั้ คาํ ถามและ ตอบคาํ ถามเพ่อื ทาํ ความเขา้ ใจ 1) บทอ่านได้ (S) 2) 3) 4) 5) 6) 7) 8) 9) พอ ปร เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ด-ี 1) 2) 23

เกณฑก์ ารประเมิน สดงความคิดเห็นอย่างนอ้ ย 1 ขอ้ -สรุปลกั ษณะการตงั้ คาํ ถาม ไดถ้ กู ตอ้ ง 7-9 ลกั ษณะ ดงั นี้ เป็นคาํ ถามท่ถี ามถึงตวั ละครสาํ คญั ของเรื่อง เป็นคาํ ถามท่ีถามถึงเหตกุ ารณใ์ นเร่อื ง เป็นคาํ ถามท่ถี ามถึงสถานท่ี เป็นคาํ ถามท่ถี ามถงึ เวลาท่ีเกดิ เหตกุ ารณ์ เป็นคาํ ถามท่ีถามถึงลกั ษณะของเหตกุ ารณ์ คาํ ถามท่ถี ามถึงสาเหตขุ องการกระทาํ คาํ ถามท่ถี ามถึงผลท่เี กิดขึน้ จากเหตกุ ารณ์ คาํ ถามท่ถี ามถงึ ขอ้ คิด คาํ ถามท่ถี ามถึงการนาํ ไปใช้ อใช-้ สรุปลกั ษณะการตงั้ คาํ ถาม ไดถ้ กู ตอ้ ง 4-6 ลกั ษณะ รับปรุง –สรุปลกั ษณะการตงั้ คาํ ถาม ไดถ้ กู ตอ้ ง 1-3 ลกั ษณะ หรือไม่ปรากฏ - ผลงานการตงั้ คาํ ถามและตอบคาํ ถามมคี ณุ ภาพตามเกณฑ์ ครบ 2 รายการ ดงั นี้ เป็นขอ้ ความท่มี ีลกั ษณะเป็นประโยคคาํ ถาม คาํ ถามท่ตี งั้ สอดคลอ้ งกบั ลกั ษณะคาํ ถามขอ้ ใด ขอ้ หนงึ่ ดงั นี้

แผนการจดั การเรยี นรู้ วชิ าภาษาไทย ประถมศกึ ษาปีท่ี 4 วธิ วี ัด เครื่องมอื วัด 2.1 2.2 2.3 2.4 2.5 2.6 2.7 2.8 2.9 พอ ปร 24

เกณฑก์ ารประเมิน 1) เป็นคาํ ถามท่ีถามถึงตวั ละครสาํ คญั ของเร่ือง 2) เป็นคาํ ถามท่ถี ามถึงเหตกุ ารณใ์ นเรอ่ื ง 3) เป็นคาํ ถามท่ถี ามถงึ สถานท่ี 4) เป็นคาํ ถามท่ถี ามถงึ เวลาท่ีเกิดเหตกุ ารณ์ 5) เป็นคาํ ถามท่ถี ามถึงลกั ษณะของเหตกุ ารณ์ 6) คาํ ถามท่ีถามถงึ สาเหตขุ องการกระทาํ 7) คาํ ถามท่ีถามถงึ ผลท่ีเกิดขึน้ จากเหตกุ ารณ์ 8) คาํ ถามท่ีถามถงึ ขอ้ คิด 9) คาํ ถามท่ีถามถงึ การนาํ ไปใช้ อใช้ – ตงั้ คาํ ถามและตอบคาํ ถามมีคณุ ภาพตามเกณฑ์ 1 รายการ รับปรุง – ตงั้ คาํ ถามและตอบคาํ ถาม ไม่สอดคลอ้ งกบั เกณฑท์ ่ีกาํ หนด

แผนการจดั การเรยี นรู้ วชิ าภาษาไทย ประถมศกึ ษาปีท่ี 4 ภาคผ บทอา่ น นิทานเรื่อง หมาป่ า นานมาแลว้ มีหมาป่ าผอมโซตวั หนึ่ง… ไปบนบานกบั ตน้ ไมศ้ ักดิส์ ิทธิ์ว่า ข เม่ือยลา้ จงึ ไปบนบานกบั ตน้ ไมศ้ กั ดสิ์ ิทธิ์ว่า ขอเป็นมา้ แตก่ ลบั ถกู พระราชาผคู้ รอง ศกั ดิส์ ิทธิ์ว่า ขอเป็นพระราชาเสียเอง เม่ือไดเ้ ป็นพระราชาสมใจแลว้ เขายงั มีความ ตน้ ไมศ้ กั ดสิ์ ิทธิ์โกรธมากท่ีทาํ คณุ ไมข่ ึน้ จึงบอกใหท้ หารไปตามพระราชามาตดั เอง กลายรา่ งกลบั เป็นหมาป่าผอมโซเช่นเดิม ” ท่ีมา: https://nitanstory.com/th คาํ ถาม 1. ตวั ละครในเรอ่ื งมใี ครบา้ ง 2. หมาป่าทาํ อะไรบา้ ง 3. จากเนือ้ เรอื่ งท่อี ่าน นกั เรียนคดิ ว่าเหตกุ ารณน์ เี้ กิดขึน้ ท่ีไหน 4. จากนทิ านท่ีไดอ้ ่านมีเหตกุ ารณส์ าํ คญั ใดบา้ ง 5. เพราะเหตใุ ดหมาป่าจึงรอ้ งขอส่งิ ต่างๆ กบั ตน้ ไมศ้ กั ดสิ์ ทิ ธิ์หลายครงั้ 6. สดุ ทา้ ยหมาป่าไดร้ บั ผลท่เี กิดขึน้ อย่างไร 7. นิทานเรื่องนใี้ หข้ อ้ คิดอย่างไร 8. นกั เรียนสามารถนาํ ขอ้ คิดท่ไี ดจ้ ากการอ่านไปปรบั ใชใ้ นชีวิตประจาํ วนั ไ 25

ผนวก นชุดที่ 1 ากับตน้ ไมศ้ กั ดสิ์ ทิ ธ์ิ ขอเป็นววั บา้ นตวั อว้ นพี เม่ือกลายรา่ งเป็นววั ถูกชาวบา้ นใชไ้ ถนา เกิดความเหน่ือย งนครส่งั ใหท้ หารจบั ตวั ไปเป็นพาหนะ เกิดความเบ่ือหน่ายอีกจงึ ไปบนบานกบั ตน้ ไม้ มตอ้ งการเรือเดินทะเลขนาดใหญ่ จึงส่งั ทหารใหไ้ ปตดั ตน้ ไมศ้ กั ดิส์ ิทธิ์เพ่ือต่อเรือ … เม่ือพระราชามาถงึ …ตน้ ไมศ้ กั ดิส์ ิทธิ์ไดก้ ลา่ วตาํ หนิในความไม่รูจ้ กั พอ และสาปให้ he-swollen-fox/ ไดอ้ ย่างไร

แผนการจดั การเรยี นรู้ วชิ าภาษาไทย ประถมศกึ ษาปีท่ี 4 บทอ่า นทิ านเรื่อง สนุ ขั จงิ กาลครงั้ หน่ึงนานมาแลว้ มสี นุ ขั จงิ้ จอกตวั หนงึ่ ซง่ึ กาํ ลงั หิวมาก มนั เหน็ ขนม อาหารอย่างเอรด็ อร่อยจนอ่ิมหนาํ สาํ ราญ เม่ือมนั กินเสรจ็ และอ่มิ มากเตม็ พงุ มนั จึง เจา้ สนุ ขั จิง้ จอกอีกตวั หนึง่ ซ่งึ เดินผ่านมาและไดย้ ินเสียงรอ้ งครวญครางของมนั เลยเ เม่ือเจา้ หมาจิง้ จอกตวั ท่ีเดนิ ผ่านมาไดร้ ูถ้ งึ สาเหตขุ องส่งิ ท่ีเกิดขึน้ มนั จงึ พดู ต เอย๋ จนกระท่งั รา่ งกายเจา้ จะกลบั คืนสสู่ ภาพปกติเหมอื นตอนท่เี จา้ คลานเขา้ ไป แลว้ ท่ีมา: https://nitanstory.com/th นิทาน เร่อื งเจา้ มีตากบั ยายสองคนอยกู่ นั ตามลาํ พงั คิดอยากจะหาแมวมาเลยี้ งเป็นเพ่อื น เพ่อื ไปหาแมวมาเลีย้ ง ตาเดนิ มาไมน่ านก็พบแมวจาํ นวนหลายตวั ซง่ึ มองดตู วั ไหนก พาแมวทงั้ หมดเดินมาท่บี า้ น ตาพาแมวเหลา่ นนั้ เดินมาจนถึงบา้ น ยายออกมาตอ้ นรบั ดว้ ยความยินดี แต ตาตอบว่าตดั สินใจไม่ไดว้ า่ ตวั ไหนสวยท่สี ดุ ยายจงึ บอกว่าถา้ อยา่ งนนั้ เลือกตวั ท่สี วยท่ีสดุ สกั ตวั ก็แลว้ กนั ตาก็รอ้ งถามแ สวยท่ีสดุ เจา้ แมวทงั้ หมดก็ตอบว่า “ฉนั สวยท่ีสดุ ” และตะโกนแข่งขนั กนั แบบไมม่ ีใค จงึ เขา้ ไปหลบในบา้ นดว้ ยความกลวั 26

านชุดที่ 2 ง้ จอกจอมตะกละ มปังและชิน้ เนอื้ ท่ีคนเลยี้ งแกะ ทงิ้ ไวใ้ นโพรงตน้ โอค๊ มนั จึงย่องเขา้ ไปในโพรง และกิน งไมส่ ามารถออกไปจากโพรงได้ มนั เรม่ิ รอ้ งครวญครางเพราะนา้ํ หนกั ตวั ท่ีเพิ่มขนึ้ ขา้ ไปดใู กลๆ้ และสอบถามถึงสาเหตทุ ่ีมนั รอ้ งครวญคราง ต่อเจา้ หมาจิง้ จอกตวั ท่ีติดอย่ใู นโพรงตน้ โอ๊คว่า “เจา้ คงตอ้ งอยตู่ รงนนั้ แหละ่ เพ่ือน วเจา้ จงึ จะคลานออกมาไดโ้ ดยงา่ ย” he-swollen-fox/ าแมวแสนสวย ยายจึงบอกกบั ตาใหไ้ ปหาแมวมาเลีย้ งสกั ตวั หน่งึ เถดิ ตารบี รบั คาํ แลว้ ออกจากบา้ น กม็ ีแต่ตวั สวยๆ น่ารกั ทงั้ นนั้ ทาํ ใหแ้ กตดั สินใจไม่ไดว้ ่าจะเลือกตวั ไหนดี ในท่สี ดุ แกก็ ต่พอแกเห็นแมวจาํ นวนมากยายก็ตกใจและต่อว่าตาว่าทาํ ไมไม่เลือกมาสกั ตวั หน่ึง แมวว่าตวั ไหน ครยอมใครเพ่อื แยง่ ชิงตาํ แหน่ง “แมวสวย” จนเกิดการต่อสกู้ นั ยายกบั ตาเห็นดงั นนั้

แผนการจดั การเรยี นรู้ วชิ าภาษาไทย ประถมศกึ ษาปีท่ี 4 ไม่ชา้ เสียงแมวท่ีดงั สน่นั หว่นั ไหวก็ค่อยๆ เงียบลง ยายกบั ตาจึงเปิดประตอู เลก็ ๆ ท่ีแอบอย่ทู ่พี ่มุ ไม้ ยายจงึ เดินไปอมุ้ ขนึ้ มา และถามวา่ ทาํ ไมเจา้ จงึ ไมเ่ ป็นอะไร ไม่มีใครมากดั ฉนั ” ยายกอ็ มุ้ ลกู แมวขีเ้ หรเ่ ขา้ บา้ นเลีย้ งดอู ยา่ งดี ไมน่ านนกั จากแมวท คาํ ถาม 1. ตวั ละครในเร่ืองมใี ครบา้ ง ........................................................................................................................ 2. ใครเป็นตน้ เหตทุ ่ีทาํ ใหเ้ กิดเหตกุ ารณใ์ นเรื่องนี้ ........................................................................................................................ 3. เหตกุ ารณใ์ นเร่ืองนีเ้ กดิ ขึน้ ท่ีไหน ........................................................................................................................ 4. ทาํ ไมตาจึงตดั สนิ ใจไม่ไดว้ ่าจะเลือกแมวตวั ไหน ........................................................................................................................ 5. สาเหตทุ ่ีทาํ ใหแ้ มวกดั กนั ตายเพราะอะไร ........................................................................................................................ 6. ทา้ ยท่ีสดุ ยายไดเ้ ลยี้ งลกู แมวท่มี ลี กั ษณะเป็นอย่างไร ........................................................................................................................ 7. ลกู แมวขเี้ หร่กลายเป็นลกู แมวแสนสวยไดอ้ ย่างไร ........................................................................................................................ 8. ถา้ นกั เรียนเป็นแมวในเรื่องนี้ นกั เรียนจะปฏบิ ตั ิตนอยา่ งไร ........................................................................................................................ 27

ออกมาดู ก็ปรากฏว่าแมวจาํ นวนมากไดก้ ดั กนั ตายไปหมด เหลือแต่ลูกแมวสีดาํ ตวั รกบั เขา ลกู แมวตอบว่า “ฉนั รูส้ กึ วา่ ฉนั ไมส่ วย เพราะฉะนนั้ กไ็ มร่ อ้ งแขง่ กบั ใคร ก็เลย ท่แี สน ขเี้ หรก่ ็เป็นแมวท่แี สนสวย และอยกู่ บั ตายายอย่างมคี วามสขุ ...................................... ...................................... ...................................... ...................................... ...................................... ...................................... ....................................... ......................................

แผนการจดั การเรยี นรู้ วชิ าภาษาไทย ประถมศกึ ษาปีท่ี 4 บทความ เรื่องประวตั คิ ว ในสมัยโบราณคนไทยจะทาํ ขนมเฉพาะวาระสาํ คัญเท่านั้น เป็นตน้ ว่างา จาํ เป็นตอ้ งใชก้ าํ ลงั คนอาศยั เวลาในการทาํ พอสมควร สว่ นใหญ่เป็น ขนบประเพณี สว่ นขนมในรว้ั ในวงั จะมีหนา้ ตาจมุ๋ จ๋ิม ประณีตวจิ ิตรบรรจงในการจดั วางรูปทรงขนม ขนมไทยดงั้ เดมิ มสี ว่ นผสมคอื แปง้ นา้ํ ตาล กะทิ เท่านนั้ สว่ นขนมท่ีใชไ้ ข่เป ทองกีบมา้ ) หญิงสาวชาวโปรตเุ กส เป็นผคู้ ดิ คน้ ขึน้ มา ขนมไทยท่ีนิยมทาํ กันทุกๆ ภาคของประเทศไทย สาํ หรบั ใชใ้ นพิธีการต่าง รบั ประทานฝอยทอง เพ่ือหวงั ใหอ้ ยู่ดว้ ยกันยืดยาว มีอายุยืน รบั ประทาน ขนมชนั้ ทองเอก ก็ขอใหไ้ ดเ้ ป็นเอก เป็นตน้ ในสมยั รชั กาลท่ี 1 มีการพิมพต์ าํ ราอาหารออกเผยแพร่ รวมถึงตาํ ราขนมไ ตาํ ราอาหารไทยเลม่ แรกคอื แมค่ รวั หวั ป่ าก์ ในสมยั ตอ่ มาเม่อื การคา้ เจรญิ ขึน้ ในตลาด http://kanomwanhomemade.blogspot.com/2017/02/ 28

วามเป็ นมาของขนมไทย านทาํ บุญ งานแต่ง เทศกาลสาํ คัญ หรือตอ้ นรบั แขกสาํ คัญ เพราะขนมบางชนิด เป็นตน้ วา่ ขนมงาน เน่ืองในงานแต่งงาน ขนมพืน้ บา้ น เชน่ ขนมครก ขนมถว้ ย ฯลฯ มสวยงาม ป็นสว่ นประกอบ เช่น ทองหยบิ ทองหยอด เม็ดขนนุ นนั้ มารี กีมาร์ เดอ ปีนา (ทา้ ว งๆ ก็คือขนมท่ีทาํ จากไข่ และมีความเช่ือกนั ว่าช่ือและลกั ษณะของขนมนนั้ ๆ เช่น นก็ใหไ้ ดเ้ ลื่อนขนั้ เงินเดือน รบั ประทาน ขนมถว้ ยฟูก็ขอใหเ้ จริญ รบั ประทานขนม ไทยดว้ ย จึงนบั ไดว้ ่าวฒั นธรรมขนมไทยมีการบนั ทึกเป็นลายลกั ษณอ์ กั ษรครงั้ แรก ดก็มีขนมนานาชนิดมาขายเพิ่มมากขนึ้ /blog-post_44.html

แผนการจดั การเรยี นรู้ วชิ าภาษาไทย ประถมศกึ ษาปีท่ี 4 คาํ ถาม 1. ในสมยั โบราณจะมีการทาํ ขนมในโอกาสใดบา้ ง ........................................................................................................................ 2. ในสมยั โบราณแบ่งขนมออกเป็นก่ีประเภท อะไรบา้ ง ........................................................................................................................ 3. สว่ นผสมสาํ คญั ของการทาํ ขนมในสมยั ก่อนประกอบดว้ ยสง่ิ ใดบา้ ง ........................................................................................................................ 4. ผทู้ ่คี ิดคน้ ขนมท่ีทาํ มาจากไขเ่ ป็นคนแรกคือใคร ........................................................................................................................ 5. คนไทยมีความเช่อื ในเรือ่ งการทาํ ขนมสาํ หรบั ใชใ้ นงานตา่ งๆ อยา่ งไร ........................................................................................................................ 6. ตาํ ราขนมไทยเลม่ แรกของไทยมีช่อื เรียกว่าอะไร ........................................................................................................................ 7. ทาํ ไมขนมไทยจงึ ไดช้ ่ือว่าเป็นวฒั นธรรมอยา่ งหนึง่ ของคนไทย ........................................................................................................................ 29

....................................................... ....................................................... ....................................................... ....................................................... ....................................................... ....................................................... .......................................................