Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore tripitaka_17

tripitaka_17

Published by sadudees, 2017-01-10 01:15:38

Description: tripitaka_17

Search

Read the Text Version

พระสตุ ตนั ตปฎ ก มชั ฌมิ นกิ าย มลู ปณณาสก เลม ๑ ภาค ๑ - หนา ที่ 751 ดว ยเหตุน้นั พระผูม พี ระภาคเจาจงึ ตรสั วา ธรรม ๖ อยา งยอมเปนไปเพือ่ ละอุทธัจจกกุ กุจจะ. เธอยอมรวู า๑ บรรดาอทุ ธัจจกกุ กุจจะท่ลี ะไดแลว ดว ยธรรม ๖ อยางเหลา น้ี อทุ ธัจจะจะไมเ กิดข้ึนตอไปเพราะอรหัตตมรรค กกุ กจุ จะไมมีการเกิดขน้ึ ตอไป ดวยอนาคามมิ รรค. อธบิ ายวิจกิ ิจฉา วิจิกิจฉายอมเกดิ ขนึ้ ได โดยไมมนสกิ ารในธรรมทั้งหลายอันเปนที่ตงั้ แหง วจิ ิกจิ ฉา. ท่ชี ่อื วา ธรรมเปน ทตี่ ง้ั แหงวิจิกจิ ฉา ก็ไดแ กว จิ ิกจิ ฉานั่นเอง เพราะเปนเหตแุ หงความสงสัย. เมือ่ เรายังอโยนโิ สมนสกิ ารในวิจกิ จิ ฉานน้ั ใหเปน ไปมากคร้งั เขา วจิ กิ จิ ฉายอมเกดิ ข้นึ . ดวยเหตนุ นั้ พระผูมีพระภาคเจาจึงตรัสวา มีอยู ภกิ ษุท้งั หลายธรรมเปน ทตี่ ้งั แหง วิจิกิจฉา การทําไวในใจโดยไมแ ยบคาย และการทําใหม ากในธรรมนน้ั นีเ้ ปนอาหาร (ปจจัย) เพอ่ื ใหว จิ กิ ิจฉาท่ยี งั ไมเ กดิเกดิ ข้ึนบาง เพ่ือความไพบลู ยยง่ิ ขนึ้ แหง วิจกิ ิจฉาทเ่ี กิดขึ้นแลว บาง. กก็ ารละวจิ กิ ิจฉาแมน ้ัน ยอมมีไดด ว ยโยนโิ สมนสกิ ารในธรรมท้งั หลายมกี ศุ ลเปนตน. ดว ยเหตนุ น้ั พระผูมีพระภาคเจา จึงตรัสวามอี ยู ภกิ ษทุ งั้ หลาย ธรรมที่เปน กุศลและอกุศล ธรรมทม่ี ีโทษและไมมีโทษธรรมทค่ี วรสอ งเสพและไมค วรสอ งเสพ ธรรมทเี่ ลวและประณีต ธรรมที่มสี ว นคลายกบั ธรรมคาํ และธรรมขาว การทําไวใ นใจโดยแยบคาย และการทําใหมากในธรรมเหลานน้ั น้ีเปนอาหาร (ปจจยั ) เพอื่ ไมให๑. ปาฐะวา อเิ มหิ ปน ฉหิ ธมฺเมหิ ปหีนสฺส อทุ ฺธจฺจสสฺ อรหตติ มคเุ คน ฯลฯ ปชานาต.ิฉบบั พมา เปน อิเมหิ ปน ฉหิ ธมเฺ มหิ ปหีเน อุทฺธจฺจกกุ กฺ จุ ฺเจ อทุ ธจฺ จฺ ฯลฯ ปชานาติแปลตามฉบบั พมา.

พระสตุ ตันตปฎ ก มชั ฌมิ นิกาย มลู ปณ ณาสก เลม ๑ ภาค ๑ - หนา ที่ 752วจิ กิ ิจฉาทีย่ งั ไมเ กิด เกิดข้ึนบา ง เพื่อละวิจกิ ิจฉาท่เี กิดขนึ้ แลว บา ง.๑ ละวจิ กิ ิจฉาดว ยธรรม ๖ อยาง อกี อยางหน่งึ ธรรมทงั้ ๖ อยา ง ยอมเปน ไปเพอื่ ละวจิ ิกจิ ฉาคือความเปน พหูสูต ๑ ความเปนผสู อบถาม ๑ ความเปน ผูรปู กติในพระวินัย ๑ ความเปนผูม ากดวยอธิโมกข ๑ ความเปนผูมกี ัลยาณ-มิตร ๑ การกลา วถอยคําที่เปน สปั ปายะ ๑. อธิบายวา เธอแมเ รียน นิกาย ๑ บา ง ฯลฯ ๕ นิกายบา งทัง้ โดยพระบาลี ท้งั โดยอรรถกถา ยอมละวจิ ิกจิ ฉาไดแมด วยพาหุสจั จะ.ผูมากดว ยการสอบถามโดยการปรารภพระรัตนตรยั ก็ดี ผมู ีความชาํ นาญช่าํ ชองในพระวนิ ัยกด็ ี ผูม ากไปดว ยอธิโมกข กลา วคอื มีศรทั ธามั่นคงในพระรตั นตรยั ก็ดี ผูคบหากัลยาณมิตร ผเู ปน สัทธาวมิ ตุ เิ ชน พระวักกลเิ ถระกด็ ี ยอ มละวจิ กิ ิจฉาไดด วยพาหุสจั จะ. ในอริ ิยาบถทั้งหลายมีการยืนการนงั่ เปนตน เธอยอ มละวจิ กิ ิจฉาไดแมด ว ยถอ ยคาํ ทเ่ี ปนสปั ปายะเก่ียวกับคณุ ของพระรัตนตรัย. ดวยเหตุนั้นพระผมู ีพระภาคเจาจึงตรัสไวว า ธรรม ๖ อยา ง ยอ มเปน ไปเพื่อละวิจิกจิ ฉา กพ็ ระโยคาวจรยอ มทราบชดั วา วิจกิ จิ ฉาที่ละไดดวยธรรม ๖อยาง เหลา น้ีจะไมม ีการเกดิ ขึ้นตอ ไป เพราะโสดาปต ตมิ รรค. บทวา อิติ อชฺฌตฺต วา ความวา พระโยคาวจรพิจารณาเหน็๑. ปาฐะวา อยมาหาโร อนุปฺปนฺนาย วา วจิ ิกิจฺฉาย อุปปฺ าทาย อุปปฺ นฺนาย วา วิจิกจิ ฺฉายภยิ โฺ ยภาวาย เวปลุ ฺลายาติ. ฉบบั พมาเปน อยมาหาโร อนุปฺปนนฺ าย วา วจิ กิ ิจฉฺ าย อนุปฺปาทายอุปปฺ นฺนาย วา วิจกิ จิ ฺฉาย วา ปหานายาติ. แปลตามฉบบั พมา.

พระสตุ ตนั ตปฎ ก มัชฌิมนิกาย มูลปณณาสก เลม ๑ ภาค ๑ - หนา ท่ี 753ธรรมในธรรมทัง้ หลายของตน หรอื ในธรรมทั้งหลายของผูอื่น คอื ในธรรมท้งั หลายของตนตามกาล (ท่เี หมาะสม) หรือของผอู น่ื ตามกาล (ท่ีเหมาะสม) ดว ยการกําหนดเหน็ นวิ รณ ๕ อยางน้ีอยู. แตในนิวรณบรรพนี้ พระโยคาวจรควรนาํ ความเกดิ ขึ้นและความเสือ่ มออกไปดวยอโยนิโสมนสกิ าร หรอื โยนิโสมนสิการในสุภนมิ ติ เปน ตนโดยนยั ทต่ี รัสไวแ ลวในนิวรณ ๕. ขอ ความตอ จากน้ไี ปมีนยั ดังกลา วแลวนัน้ แล. อรยิ สัจในนิวรณ ก็สติเปนเครื่องกาํ หนดนิวรณ ในนิวรณบรรพนี้ เปนทกุ ขสัจอยา งเดยี ว บัณฑิตพงึ ประกอบความดงั ทพี่ รรณหามาน้ี แลว ทราบมขุแหงธรรมเปนเคร่อื งนําออกจากทกุ ข ของภิกษผุ ูกําหนดนวิ รณเปนอารมณขอ ความทเี่ หลอื กเ็ ปนเชนน้ันเหมือนกนั แล. จบ นิวรณบรรพ ขันธบรรพ [๑๔๒] พระผมู ีพระภาคเจา คร้ันทรงจําแนกธรรมานุปสสนาโดยนวิ รณ ๕ อยา งนแ้ี ลว บดั นี้ เพอ่ื จะทรงจาํ แนกโดยเบญจขนั ธ จึงตรัสคาํ มีอาทิวา ปุน จปร . บรรดาบทเหลานน้ั บทวา ปฺจสุ อุปาทานกขฺ นเฺ ธสุ ความวา กองแหงอุปาทาน ชอ่ื วาอุปาทานขนั ธ อธบิ ายวา กลุมแหงธรรมคือกองแหงธรรมอนั เปน ปจ จยั แหงอปุ าทาน ช่ือวา ธมั มราสี ความสงั เขปในเบญจขันธ

พระสุตตนั ตปฎ ก มัชฌมิ นกิ าย มูลปณณาสก เลม ๑ ภาค ๑ - หนาท่ี 754นี้มเี ทานี้. สวนความพิสดารเรื่องขนั ธก ลาวไวแ ลวในคันภรี วสิ ุทธิมรรค. บทวา อติ ิ รปู  ความวา รรู ูปโดยสภาวะวา นร้ี ปู รปู เทาน้ีรูปอน่ื จากนไ้ี มม.ี แมในเวทนาเปนตน กน็ ัยนีเ้ หมอื นกัน. ความสังเขปในคาํ น้ีมเี ทานี.้ สวนโดยพิสดาร รปู เปน ตน ทานกลา วไวแ ลว ในเร่อื งขนั ธในคัมภีรว ิสทุ ธมิ รรคนน้ั แหละ. บทวา อิติ รูปสสฺ สมุทโย ความวา ความเกิดแหง รูปโดยอาการ ๕ โดยมีอวิชชาเปนท่ีเกิดเปนตน อยางนี.้ บทวา อิติ รปู สสฺ อตฺถงคฺ โม ความวา ความดบั แหง รปู โดยอาการ ๕ โดยมคี วามดับแหง อวชิ ชาเปน ตนอยางน้.ี แมในเวทนาเปน ตนกน็ ยั น้เี หมอื นกนั . นี้เปน ความสงั เขปในขอน้ี สว นความพสิ ดารกลาวไวแลวในเรื่องอทุ ยัพพยญาณ ในคมั ภีรว ิสุทธิมรรค. บทวา อิติ อชฌฺ ตตฺ  วา ความวา พจิ ารณาเห็นธรรมในธรรมท้งั หลาย ไมว า ของตนหรอื ของคนอน่ื ไมวา ตามกาลของตนหรอื คนอื่นดว ยการกําหนดเบญจขนั ธเ ปนอารมณอ ยางนอ้ี ย.ู ก็ในคํานส้ี มทุ ยธรรมและวยธรรม พงึ ยกขึ้นพิจารณาลักษณะ ๕๐ ทีท่ า นกลา วไวใ นขันธท ้ังหลายมีอาทวิ า เพราะอวชิ ชาเกิด รปู จงึ เกิด. ตอจากนี้ กม็ ีนัยดังกลา วแลวน่ันแล. อรยิ สัจในเบญจขนั ธ ก็สติเปน เครื่องกําหนดขันธเปนอารมณ ในขันธบรรพน้ี เปนทกุ ขสัจอยางเดยี ว พงึ ประกอบความดงั กลาวมาน้ี แลวพึงทราบมขุ คอืขอปฏิบัตินําออกจากทกุ ขข องภิกษุผูก าํ หนดถอื ขนั ธเปนอารมณ. คําที่

พระสุตตันตปฎก มชั ฌมิ นกิ าย มูลปณณาสก เลม ๑ ภาค ๑ - หนา ท่ี 755เหลือ ก็อยา งนัน้ เหมอื นกนั . จบ ขนั ธบรรพ อายตนบรรพ [๑๔๓] พระผมู พี ระภาคเจา ครน้ั ทรงจําแนกธรรมานุปส สนาโดยเบญจขนั ธอ ยางนแ้ี ลว บัดนี้ เพอ่ื จะทรงจําแนกโดยอายตนะ จงึ ตรสัคาํ มอี าทิวา ปนุ จปร . บรรดาบทเหลา นัน้ บทวา ฉสุ อชฺฌตตฺ กิ พาหิเรสุ อายตเนสุไดแ กอายตนะภายใน ๖ เหลานคี้ ือ ตา หู จมกู ลนิ้ กาย ใจ(และ) อายตนะภายนอก ๖ เหลา นั้นคอื รูป เสยี ง กลน่ิ รส โผฏฐัพพะธรรมารมณ. บทวา จกขฺ ุ จ ปชานาติ ไดแ กร จู กั ขุปสาท โดยลักษณะแหง กิจตามความเปน จริง. บทวา รเู ป จ ปชานาติ ความวา รูช ัดรูปท่มี ีสมฏุ ฐาน ๔ อยา งภายนอกดวย โดยลกั ษณะแหง กจิ ตามความเปนจริง. ขอวา ยจฺ ตทภุ ย ปฏจิ ฺจ อุปฺปชฺชาติ สโฺ ญชน ความวาก็เพราะอาศยั อายตนะทงั้ ๒ อยาง คอื ท้งั ตาดว ย ทัง้ รปู ดวยสงั โยชน ๑๐ อยางคอื กามราคสังโยชน, ปฏิฆะ, มานะ, ทิฏฐ,ิ วจิ ิกิจฉา, สลี ัพพต-ปรามาส, ภวราคะ, อิสสา, มจั ฉริยะ และอวชิ ชา สังโยชนอนั ใดยอมเกดิ ข้ึน เธอรชู ัดสงั โยชนนั้น โดยลกั ษณะตามความเปนจรงิ ดวย.

พระสตุ ตนั ตปฎ ก มชั ฌิมนิกาย มูลปณ ณาสก เลม ๑ ภาค ๑ - หนา ท่ี 756 การเกิดของสงั โยชน ถามวา กส็ ังโยชนน ้เี กดิ ข้นึ ไดอ ยา งไร ? แกว า จะกลา วในจกั ษุทวารกอน เมื่อเธอชอบใจเพลดิ เพลินยนิ ดีอฏิ ฐารมณท ่มี าสคู ลอง (จักษุ) ดว ยอํานาจแหง ความพอใจในอฏิ ฐารมณกามราคสงั โยชนจ ะเกิดขนึ้ . เมอื่ โกรธในเพราะอนิฏฐารมณ ปฏฆิ สังโยชนจะเกิดข้นึ . เมอื่ สาํ คัญวา นอกจากเราแลว ไมม ีใครอื่นจะสามารถสําแดงอารมณ๑ น้ใี หแจม แจง ได มานสงั โยชนจะเกิดขึ้น. เม่อื ยึดถือวา รปู ารมณน ๒ี้เที่ยง ยั่งยืน ทฏิ ฐิสงั โยชนจะเกิดข้ึน. เม่ือสงสัยวา รูปารมณน ๒ี้ เปนสัตวหรอื หนอ หรอื เปนของสตั ว วจิ ิกจิ ฉาสงั โยชนจ ะเกิดขน้ึ เมื่อปรารถนาภพวา ภพ ( การเกิด ) นม้ี ใิ ช๓ จะหาไดง าย ในสมั ปตตภิ พเลยภวราคสังโยชน๔ จะเกิดข้ึน, เมือ่ ยดึ มน่ั ศลี และพรตวา เราสมาทานศลีและพรตแบบน้แี ลวอาจจะได (บรรลคุ ณุ วิเศษ) ตอ ไป สลี พั พต-ปรามาสสังโยชนจะเกิดข้นึ . เมอื่ รษิ ยาวา ไฉนหนอ คนอนื่ ๆ จึงจะไมไดรปู ารมณน้ี อสิ สาสงั โยชนจะเกิดขึ้น. เมอื่ ตระหนรี่ ูปารมณอ นั ตนไดแลว ตอผอู นื่ มจั ฉริยสังโยชนจ ะเกดิ ขึ้น. เม่ือไมรู โดยไมรูธรรมที่เกดิขนึ้ พรอมกบั ธรรมเหลา นั้นทัง้ หมดนน่ั แหละ อวชิ ชาสงั โยชนจะเกดิ ขึ้นได. บทวา ยถา จ อนุปปฺ นฺนสฺส ความวา สงั โยชนท ั้ง ๑๐ อยางน้นั ทีย่ งั ไมไ ดเกดิ จะเกดิ ข้นึ ดว ยเหตุ คอื ดว ยการไมฟ งุ ขน้ึ อนั ใด เธอรูชดั เหตุนั้นดว ย.๑. ปาฐะวา เอก ฉบบั พมา เปน เอต แปลตามฉบบั พมา .๒. ปาฐะวา เอว ฉบบั พมา เปน เอต แปลตามฉบับพมา .๓. ปาฐะวา สมฺปตฺติภเว อตตฺ โน พมา เปน สมปฺ ตฺตภิ เว วน โต แปลตามฉบับพมา .๔. ปาฐะวา ภวส โยชน ฉบับพมเ ปน ภวราคส โยชน แปลตามฉบับพมา .






















































Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook