Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore แนวทางการจัดประสบการณ์ช่วง 4-5 ปี

แนวทางการจัดประสบการณ์ช่วง 4-5 ปี

Published by Wilaiporn Mettajit, 2021-11-15 08:31:07

Description: แนวทางการจัดประสบการณ์ช่วง 4-5 ปี

Search

Read the Text Version

ผงั มโนทศั น์ 5 หน่วย 1 หน่วย 2 หน่วย เดก็ ดจี ิตใจงาม เรียนรูร้ ่างกาย ประสาทสมั ผสั ของเรา สาระท่ี 1 เรอ่ื งราวเกีย่ วกบั ตวั เดก็ 4 หน่วย 3 หน่วย ปลอดภยั ไว้กอ่ น อาหารดมี ีคณุ คา่

 สาระที่ควรเรยี นรู้ ร่างกายของเราประกอบไปดว้ ย อวัยวะภายนอก คอื อวยั วะที่เรามองเหน็ ได้ เช่น ตา หู จมกู ปาก มอื เท้า อวัยวะแตล่ ะสว่ นมหี นา้ ทแ่ี ตกตา่ งกัน เราควรดูแลทำความสะอาดร่างกายเสมอเพอ่ื สุขภาพทดี่ ี ส่งิ ที่เดก็ รแู้ ลว้ สิง่ ท่เี ด็กต้องการรู้ สิ่งทเ่ี ด็กควรรู้ - ความสำคัญของอวยั วะตา่ งๆ ใน ร่างกาย - อวัยวะภายนอกร่างกาย - หน้าทข่ี องอวยั วะและการใชง้ าน - อปุ กรณท์ ำความสะอาดรา่ งกาย - ดแู ลรา่ งกายด้วยการกนิ  การจัดประสบการณ์บูรณาการ กิจกรรมเกมการศกึ ษา กจิ กรรมเคลื่อนไหวและจงั หวะ 1. การวาดภาพ การตัด ปะ ติดภาพตอ่ เตมิ ใบหน้าของฉนั 1. เกมจบั คูบ่ ัตรคาศัพทอ์ วัยวะกบั บตั รภาพท่ี 1. การเคล่อื นไหวรา่ งกายประกอบเพลง สมั พนั ธ์กนั อวยั วะของเรา 2. การพิมพภ์ าพดว้ ยนวิ้ มอื 3. การฉีก ปะ ติดกระดาษสใี หเ้ ป็นรา่ งกายของ เรา 2. เกมปฏิบตั ิตามคาส่งั จากภาพ 2. การเคล่ือนไหวรา่ งกายตามจินตนาการ 3. เกมจบั ค่ภู าพเหมอื นอวัยวะ ประกอบจงั หวะ และการปะ ติดก้านสาลีเป็นโครงกระดกู 4. เกมภาพตดั ตอ่ อวยั วะบนใบหนา้ 4. การปัน้ ดินนา้ มันเป็นรูปคน 5. เกมจับคูจ่ านวนนิ้วมือกบั ตัวเลข 3. การเคล่อื นไหวร่างกายตามคาสั่ง 5. การประดิษฐห์ ุ่นมอื ตัวเรา 4. การเคลือ่ นไหวรา่ งกายประกอบเพลง กิจกรรมเสรี อวัยวะของเราสะอาด 5. การเคล่ือนไหวรา่ งกายตามคาบรรยาย 1. เล่นตามมุมประสบการณต์ า่ งๆ 2. จัดมุมพิเศษเพ่ิมเติมท่มี ุมบา้ น โดยจดั เรื่อง หนนู ดิ ปลูกผัก อปุ กรณ์ที่ใชท้ าความสะอาดร่างกาย กจิ กรรมกลางแจง้ กิจกรรมหลกั เชน่ แปรงสีฟัน สบู่ ยาสระผม 6 กิจกรรม ผ้าขนหนู ยาสีฟัน แป้ง เป็นตน้ ให้เด็ก 1. การเลน่ เครอ่ื งเลน่ สนาม นามาเลน่ ประกอบบทบาทสมมติ 2. การเลน่ บ่อทราย กจิ กรรมเสริมประสบการณ์ ตามจนิ ตนาการ 3. การเล่นเคร่ืองเล่นสนาม 1. กจิ กรรม “ร่างกายของฉนั ” 4. การว่ิงหลบหลกี สิ่งกีดขวาง 2. กจิ กรรม “อวยั วะอะไรเอย่ ” 5. การเลน่ เครอ่ื งเล่นสนาม 3. กิจกรรม “หนา้ ท่ีของอวัยวะ” 4. กจิ กรรม “อุปกรณท์ าความสะอาดรา่ งกาย” 5. กจิ กรรม “ดแู ลร่างกายดว้ ยการกินอาหาร”

แนวทางการจดั ประสบการณ์การเรียนรู้ การศึกษาปฐมวัย ภาคเรยี นท่ี...1... สำหรบั เดก็ ท่มี ีความต้องการจำเปน็ พเิ ศษ ช่วงอายุ .....4-5...... ปี สาระการเรียนรทู้ ี.่ .1.. หน่วย ร่างกายของเรา. วนั ท่ี 1 อวยั วะต่างๆ ของร่างกาย กจิ กรรมเสรมิ ประสบการณ์  สาระที่ควรเรยี นรู้ รา่ งกายของเราประกอบไปดว้ ย อวัยวะภายนอก คือ อวัยวะที่เรามองเหน็ ได้ เชน่ ตา หู จมูก ปาก มอื เท้า อวัยวะแต่ละสว่ นมีหน้าทแ่ี ตกต่างกัน เราควรดแู ลทำความสะอาดรา่ งกายเสมอเพ่ือสุขภาพทดี่ ี สาระสำคญั อวัยวะต่างๆ ในรา่ งกายเรามคี วามสำคัญ มีหนา้ ท่ีแตกตา่ งกัน เชน่ ปากและฟันมไี ว้พูดและบดเคี้ยว อาหาร มือมหี น้าทใี่ นการหยบิ จับถือสงิ่ ของ เป็นตน้ และอวัยวะแต่ละส่วนมกี ารทำงานที่ประสานสมั พันธก์ ัน เชน่ การรบั ประทานอาหาร เราต้องใช้อวัยวะปากและฟนั ในการรับประทาน และต้องใชอ้ วัยวะมือในการตกั อาหาร เขา้ ปาก ดงั นั้น อวัยวะทุกส่วนในรา่ งกายล้วนมคี วามสำคญั และทำงานประสานสมั พนั ธก์ นั เราจงึ ควรดูแลรกั ษา อวัยวะทุกส่วนอยู่เสมอ มาตรฐานคณุ ลักษณะทพี่ งึ ประสงค์ / ประสบการณ์สำคญั  ร่างกาย อารมณ์ จติ ใจ สังคม สติปญั ญา มาตรฐานคุณลักษณะท่ีพึงประสงค์ มฐ.1 มฐ.2 มฐ.3 มฐ.4 มฐ.5 มฐ.6 มฐ.7 มฐ.8 มฐ.9 มฐ.10 มฐ.11 มฐ.12 1.2, 1.3 2.1, 2.2 3.1, 3.2 4.1 5.4 6.1 7.2 8.2, 8.3 9.1,9.2 10.1, 10.3 11.1,11.2 12.1,12.2 สภาพท่ีพึงประสงค์ 1.1 นำ้ หนกั สว่ นสูง 3.1 แสดงออกทางอารมณไ์ ด้ 6.1 ชว่ ยเหลอื ตนเองในการ 9.1 รับรู้และเขา้ ใจความหมายของภาษา และเส้นรอบศีรษะ อยา่ งเหมาะสม(สภาพที่พงึ ปฏิบตั กิ ิจวตั รประจำวัน ได้(สภาพทพ่ี ึงประสงค)์ ตามเกณฑ์(สภาพท่ี ประสงค์) (สภาพท่ีพงึ ประสงค์) 9.2 แสดงออกและ/หรือพูดเพือ่ ส่ือ พึงประสงค์) 3.2 มคี วามรู้สึกทดี่ ีตอ่ ตนเอง 7.2 ดูแลรกั ษาธรรมชาติ ความหมายได้(สภาพที่พึงประสงค)์ 1.3 รกั ษาความ และผอู้ ่นื (สภาพท่พี ึงประสงค)์ และส่ิงแวดล้อม(สภาพที่พึง 10.1 มคี วามสามารถในการคิดรวบยอด ปลอดภัยของตนเอง 4.1 สนใจ มคี วามสขุ และ ประสงค)์ (สภาพทีพ่ งึ ประสงค์) และผู้อ่นื แสดงออกผ่านงานศลิ ปะดนตรี 8.2 มปี ฏสิ ัมพนั ธท์ ่ดี กี ับผอู้ น่ื 10.2 มคี วามสามารถในการคดิ เชงิ เหตผุ ล (สภาพที่พึงประสงค์) และการเคลอ่ื นไหว(สภาพที่ (สภาพที่พงึ ประสงค)์ (สภาพที่พงึ ประสงค)์ 2.1 เคล่อื นไหว พงึ ประสงค)์ 8.3 ปฏบิ ตั ติ นเบ้อื งตน้ ใน 10.3 มคี วามสามารถในการคดิ แกป้ ญั หาและ ร่างกายอยา่ ง 5.4 มคี วามรบั ผดิ ชอบ การเปน็ สมาชิกท่ีดขี องสงั คม ตดั สนิ ใจ(สภาพที่พงึ ประสงค์) คล่องแคล่วประสาน (สภาพทพ่ี งึ ประสงค์) (สภาพท่ีพงึ ประสงค์) 11.1 ทำงานศิลปะตามจินตนาการและ สัมพนั ธแ์ ละทรงตวั ความคิดสรา้ งสรรค์(สภาพท่พี ึงประสงค์) ได้(สภาพทพ่ี งึ 11.2 แสดงท่าทาง/เคลอ่ื นไหวตามจินตนาการ ประสงค)์ อยา่ งสร้างสรรค์(สภาพทพี่ ึงประสงค์) 2.2 ใชม้ อื -ตา 12.1 มเี จตคตทิ ี่ดีตอ่ การเรยี นรู้ ประสานสมั พันธก์ นั 12.2 มคี วามสามารถในการแสวงหา (สภาพทพ่ี งึ ประสงค์) ความรู้(สภาพทพ่ี ึงประสงค์)

 จุดประสงค์ 1. บอกช่ือและหน้าท่ีของอวยั วะตา่ งๆ ในร่างกายได้ 2. บอกหนา้ ทีก่ ารทำงานทสี่ มั พันธก์ นั ของอวัยวะตา่ งๆ ในร่างกายได้ 3. ใช้ประสาทสมั ผสั ทง้ั 5 ในการจำแนกหนา้ ทข่ี องอวัยวะตา่ งๆ ในรา่ งกายได้  กิจกรรมการเรียนรู้ ข้นั นำ 1. ครแู ละเดก็ ร่วมกนั รอ้ งเพลง อวัยวะของเรา พรอ้ มกบั ทำท่าประกอบเพลงตามจนิ ตนาการ 2. ครูและเดก็ รว่ มสนทนาทบทวนความรู้เดิมโดยถามคำถาม ดังนี้  ปากและฟันมหี นา้ ทีอ่ ะไร  มอื มีหน้าท่ีอะไร เป็นต้น ขั้นสอน 1. ครใู ห้เดก็ ร่วมกนั สำรวจร่างกาย โดยสังเกตอวัยวะส่วนต่างๆ และแสดงความคิดเหน็ รว่ มกนั เชน่  ถา้ ไม่มปี ากและฟันจะเปน็ อยา่ งไร  ถ้าไม่มีแขนและมอื จะเป็นอย่างไร 2. ครูใหเ้ ด็กทดลองปิดตาเดนิ ไปขา้ งหนา้ และเดนิ แบบไมป่ ิดตาวา่ จะเปน็ อย่างไร แลว้ นำมาเปรยี บเทยี บกนั 3. ครูใหเ้ ดก็ ร่วมกันตอบคำถามเกีย่ วกบั หน้าที่ของอวยั วะส่วนต่างๆ เช่น  อวยั วะต่างๆ ทำหน้าทเ่ี หมอื นกนั หรือไม่  อวยั วะต่างๆ มกี ารทำงานสัมพนั ธก์ นั อย่างไร ขั้นสรุป 1. ครแู ละเด็กรว่ มกนั สรปุ การทดลองความสมั พันธ์กันของอวยั วะ เช่น การเดินแบบไม่ปดิ ตาเดนิ จะเดนิ ได้ตรงทาง และปลอดภยั กว่าการปิดตา 2. ครูใหเ้ ด็กทำกจิ กรรมในหนงั สือเสริม ฯ เรือ่ งราวเกยี่ วกบั ตัวเด็ก อ.2 กิจกรรม รา่ งกายของฉัน หน้า 3  ประเมินผล 1. สังเกตการสนทนาและตอบคำถาม 2. สงั เกตการมสี ่วนรว่ มกับผู้อ่ืน 3. สงั เกตผลงานการทำกิจกรรม รา่ งกายของฉนั  ส่ือการเรยี นรู้ 1. เพลง อวยั วะของเรา 2. ผ้าปิดตา 3. อวยั วะสว่ นตา่ งๆ ของรา่ งกาย  ภาคผนวก

 เพลง อวยั วะของเรา เพลง อวัยวะของเรา ตาเรามไี วด้ ู (ไม่ทราบนามผู้แต่ง) จมูกอยตู่ รงกลาง มอื เรามีสองมือ หูเรามีไว้ฟงั มีไวส้ ำหรบั หายใจ ส่วนขาพาเราเดนิ ได้ (ซ้ำ) เอาไวจ้ บั ถอื ทำงานทวั่ ไป ไปไหนๆ ดว้ ยขาของเรา

แนวทางการจัดประสบการณ์การเรยี นรู้ การศึกษาปฐมวัย ภาคเรยี นท่ี...1... สำหรบั เดก็ ที่มีความต้องการจำเปน็ พเิ ศษ ช่วงอายุ .....4-5...... ปี สาระการเรียนรทู้ .ี่ .1.. หนว่ ย รา่ งกายของเรา วนั ท่ี 2 หน้าท่ขี องอวยั วะ กิจกรรมเสริมประสบการณ์  สาระที่ควรเรยี นรู้ ร่างกายของเราประกอบไปดว้ ย อวยั วะภายนอก คือ อวัยวะท่ีเรามองเหน็ ได้ เชน่ ตา หู จมูก ปาก มอื เทา้ อวยั วะแตล่ ะสว่ นมีหน้าท่แี ตกต่างกัน เราควรดูแลทำความสะอาดรา่ งกายเสมอเพ่ือสขุ ภาพทดี่ ี สาระสำคัญ เด็กได้เรยี นร้เู กีย่ วกับช่อื เรยี ก และลักษณะของอวัยวะภายนอกที่เปน็ ส่วนประกอบสำคญั ของรา่ งกาย เรยี นรู้วิธีการสังเกตและเปรยี บเทยี บอวัยวะของตนเองกบั เพ่ือน แลว้ นำเสนอผลการสงั เกตใหผ้ ู้อื่นเข้าใจได้  มาตรฐานคุณลักษณะที่พึงประสงค์ / ประสบการณ์สำคัญ สตปิ ัญญา รา่ งกาย อารมณ์ จิตใจ สงั คม มาตรฐานคณุ ลกั ษณะทพี่ ึงประสงค์ มฐ.1 มฐ.2 มฐ.3 มฐ.4 มฐ.5 มฐ.6 มฐ.7 มฐ.8 มฐ.9 มฐ.10 มฐ.11 มฐ.12 1.2, 1.3 2.1, 2.2 3.1, 3.2 4.1 5.4 6.1 7.2 8.2, 8.3 9.1,9.2 10.1, 10.3 11.1,11.2 12.1, 12.2 สภาพที่พึงประสงค์ 1.2 มีสุขภาพ 3.1 แสดงออกทางอารมณไ์ ด้ 6.1 ช่วยเหลอื ตนเองในการ 9.1 รบั รู้และเข้าใจความหมายของภาษา อนามยั สขุ นสิ ยั ที่ อยา่ งเหมาะสม(สภาพทีพ่ ึง ปฏบิ ัติกิจวตั รประจำวัน ได้(สภาพทพี่ งึ ประสงค์) ดี(สภาพท่พี ึง ประสงค)์ (สภาพที่พึงประสงค์) 9.2 แสดงออกและ/หรือพดู เพอ่ื สื่อ ประสงค)์ 3.2 มคี วามรูส้ กึ ทด่ี ตี อ่ ตนเอง 7.2 ดูแลรกั ษาธรรมชาติ ความหมายได้(สภาพทพี่ งึ ประสงค์) 1.3 รกั ษาความ และผู้อ่ืน(สภาพท่พี งึ ประสงค)์ และสิ่งแวดลอ้ ม(สภาพทพี่ ึง 10.1 มคี วามสามารถในการคิดรวบยอด ปลอดภัยของตนเอง 4.1 สนใจ มีความสขุ และ ประสงค)์ (สภาพทพ่ี ึงประสงค์) และผู้อนื่ (สภาพท่พี งึ แสดงออกผา่ นงานศลิ ปะดนตรี 8.2 มีปฏิสัมพนั ธท์ ด่ี กี ับผ้อู น่ื 10.2 มีความสามารถในการคดิ เชิงเหตผุ ล ประสงค)์ และการเคล่อื นไหว(สภาพที่ 8.3 ปฏบิ ัตติ นเบอ้ื งต้นใน (สภาพท่ีพึงประสงค)์ 2.1 เคลอ่ื นไหว พงึ ประสงค์) การเปน็ สมาชกิ ที่ดขี องสงั คม 10.3 มคี วามสามารถในการคดิ แกป้ ัญหาและ ร่างกายอย่าง 5.4 มคี วามรบั ผิดชอบ(สภาพท่ี (สภาพทพ่ี งึ ประสงค์) ตดั สนิ ใจ(สภาพทพี่ ึงประสงค)์ คล่องแคล่วประสาน พงึ ประสงค)์ 11.1 ทำงานศลิ ปะตามจนิ ตนาการและ สมั พนั ธ์และทรงตัว ความคิดสร้างสรรค์(สภาพทีพ่ งึ ประสงค์) ได้(สภาพทพ่ี ึง 11.2 แสดงท่าทาง/เคล่อื นไหวตามจินตนาการ ประสงค)์ อย่างสร้างสรรค์(สภาพท่ีพึงประสงค)์ 2.2 ใชม้ อื -ตา 12.1 มีเจตคตทิ ีด่ ีตอ่ การเรียนรู้(สภาพทพ่ี งึ ประสานสัมพนั ธก์ นั ประสงค์) (สภาพท่ีพึงประสงค)์ 12.2 มคี วามสามารถในการแสวงหา ความรู้(สภาพที่พงึ ประสงค์)

 จดุ ประสงค์ 1. บอกส่วนประกอบของรา่ งกายและหนา้ ท่ีของอวยั วะภายนอกได้ 2. ออกเสียงคำศัพท์เกี่ยวกับอวยั วะได้ 3. สามารถร่วมสนทนากบั ครูและเพอ่ื น พรอ้ มอธิบายสิ่งต่างๆ อยา่ งเหมาะสม  กิจกรรมการเรียนรู้ ขัน้ นำ 1. ครูใหเ้ ด็กเล่นเกมปฏิบตั ติ ามคำสงั่ เช่น  ปรบมือ 3 ครงั้  แตะไหล่ 10 ครงั้  ตบตักเบาๆ 8 ครัง้ 2. ครูให้อาสาสมัครคิดคำสัง่ อืน่ ๆ แลว้ ปฏบิ ตั ติ าม โดยเนน้ ให้เดก็ ทุกคนมีส่วนรว่ มในการปฏิบัติกจิ กรรม ขนั้ สอน 1. ครูแนะนำคำศัพทอ์ วยั วะภายนอกท่ีเปน็ สว่ นประกอบของรา่ งกายท่ีเราสามารถมองเห็นได้ โดยใหเ้ ดก็ พดู ออก เสยี งคำศัพท์ และทำทา่ ประกอบ เช่น  หู : ear : ใหเ้ ดก็ จบั หูทง้ั 2 ขา้ ง  ตา : eye : ให้เดก็ กะพริบตา  จมูก : nose : ให้เดก็ ช้ที ่จี มูก  มอื : hand : ให้เด็กกำมอื และแบมือ  ปาก : mouth : ให้เด็กชีท้ ี่ปากพร้อมกบั ยมิ้  เทา้ : foot : ให้เด็กย่ำเท้า ฯลฯ 2. ครูใหเ้ ดก็ จบั คู่กบั เพ่อื น แลว้ ผลัดกนั สังเกตอวยั วะของคู่ตนเองวา่ มคี วามเหมอื นหรือแตกตา่ งกนั อยา่ งไร เชน่ ขนาดเลก็ -ขนาดใหญ่ ความส้นั -ความยาว สีผวิ ขาว-ผิวคลำ้ เป็นตน้ 3. ครูให้เด็กแต่ละคอู่ อกมานำเสนอผลการสำรวจความเหมือนและความแตกตา่ งของอวยั วะตนเองกบั เพอื่ น ขน้ั สรปุ 1. ครแู ละเดก็ ร่วมกนั สรุปวิธกี ารสังเกตเปรียบเทยี บอวยั วะร่วมกนั 2. ครูให้ความร้เู พ่ิมเติมเก่ยี วกบั อวยั วะภายนอกท่มี ีเปน็ คู่ เชน่ ตา หู แขน ขา เปน็ ตน้ ซึ่งเปน็ ส่วนประกอบสำคญั ของรา่ งกายในการทำหน้าทต่ี า่ งๆ เช่น เดิน หยบิ จับหรอื ถือสง่ิ ของ มองดูส่งิ ตา่ งๆ ฟงั เสยี ง เป็นตน้ 3. ครูแบง่ กลมุ่ เด็กชาย-หญงิ ให้ร่วมกันเล่นเกม จับคคู่ ำศพั ท์กบั บตั รภาพอวัยวะ โดยให้ผลัดกนั เล่นทลี ะคู่ เปน็ การทบทวนเกีย่ วกบั คำศพั ทอ์ วยั วะของร่างกาย 4. ครูให้เด็กทำกิจกรรมในหนังสือเสรมิ ฯ เร่ืองราวเกีย่ วกับตวั เด็ก อ.2 กจิ กรรม อวยั วะอะไรเอย่ หน้า 4 โดยครู ใหเ้ ด็กฟงั ประโยค เตมิ ตัวเลขท่เี ป็นคำตอบลงใน แล้ววาดภาพอวัยวะตามจำนวน  ประเมนิ ผล 1. สังเกตการสนทนาและการตอบคำถาม 2. สังเกตความสนใจในการทำกิจกรรมร่วมกัน 3. สังเกตการบอกชื่อคำศัพทอ์ วัยวะและหน้าท่ีของอวัยวะได้ถูกต้อง 4. สงั เกตผลงานการทำกิจกรรม อวยั วะอะไรเอย่  ส่ือการเรยี นรู้ 2. เกม จบั คคู่ ำศพั ท์กบั บัตรภาพอวัยวะ 4. บตั รภาพอวัยวะตา หู จมูก ปาก มือ 1. ตัวเดก็ 3. บตั รคำศพั ท์ eye ear nose mouth hand foot เท้า

 ภาคผนวก  บตั รคำศพั ท์ eye ear nose mouth hand foot ตา หู จมูก ปาก มอื เทา้  บตั รภาพ

แนวทางการจดั ประสบการณก์ ารเรยี นรู้ การศึกษาปฐมวยั ภาคเรยี นท่ี...1... สำหรบั เด็กท่มี คี วามตอ้ งการจำเปน็ พิเศษ ชว่ งอายุ ......4-5..... ปี สาระการเรยี นรู้ท.ี่ .1...หน่วย .เรยี นรู้ร่างกาย วนั ท่ี 3 หน้าท่ขี องอวยั วะและการใช้งาน กจิ กรรมเสริมประสบการณ์  สาระที่ควรเรียนรู้ ร่างกายของเราประกอบไปดว้ ย อวยั วะภายนอก คือ อวัยวะทีเ่ รามองเห็นได้ เชน่ ตา หู จมูก ปาก มอื เท้า อวัยวะแต่ละสว่ นมหี น้าที่แตกตา่ งกนั เราควรดแู ลทำความสะอาดรา่ งกายเสมอเพอ่ื สขุ ภาพทีด่ ี สาระสำคัญ เด็กได้เรียนรูเ้ กีย่ วกับหน้าที่ของอวยั วะกับการใช้งานและทำกิจกรรมต่างๆ เช่น ขามีไว้เดิน ตามีไวด้ ู หูมีไว้ฟัง เป็นต้น ในบางครั้งเราต้องใช้อวัยวะส่วนต่างๆ ควบคู่กันไปเพื่อทำกิจกรรม เช่น การอ่านหนังสือ การช่วยคณุ แมถ่ ือของเมือ่ ไปตลาด เป็นต้น  มาตรฐานคณุ ลกั ษณะทีพ่ ึงประสงค์ / ประสบการณ์สำคญั สตปิ ัญญา ร่างกาย อารมณ์ จติ ใจ สังคม มาตรฐานคุณลักษณะทีพ่ ึงประสงค์ มฐ.1 มฐ.2 มฐ.3 มฐ.4 มฐ.5 มฐ.6 มฐ.7 มฐ.8 มฐ.9 มฐ.10 มฐ.11 มฐ.12 1.2, 1.3 2.1, 2.2 3.1, 3.2 4.1 5.4 6.1 7.2 8.2, 8.3 9.1,9.2 10.1, 10.3 11.1,11.2 12.1,12.2 ประสบการณ์สำคัญ 1.2 มีสุขภาพ 3.1 แสดงออกทางอารมณไ์ ด้ 6.1 ชว่ ยเหลือตนเองในการ 9.1 รับรูแ้ ละเข้าใจความหมายของภาษาได้ อนามยั สขุ นสิ ยั ท่ี อยา่ งเหมาะสม(สภาพทีพ่ ึง ปฏบิ ตั กิ ิจวตั รประจำวัน 9.2 แสดงออกและ/หรอื พูดเพ่อื สือ่ ดี(สภาพทีพ่ ึง ประสงค์) (สภาพท่ีพึงประสงค์) ความหมายได้(สภาพท่ีพงึ ประสงค์) ประสงค)์ 3.2 มคี วามรสู้ ึกทดี่ ตี อ่ ตนเอง 7.2 ดแู ลรักษาธรรมชาติ 10.1 มีความสามารถในการคดิ รวบยอด 1.3 รกั ษาความ และผ้อู นื่ (สภาพทพี่ งึ ประสงค)์ และส่ิงแวดล้อม(สภาพทีพ่ งึ 10.2 มีความสามารถในการคิดเชงิ เหตุผล ปลอดภยั ของตนเอง 4.1 สนใจ มคี วามสขุ และ ประสงค)์ 10.3 มีความสามารถในการคิดแกป้ ญั หาและ และผู้อืน่ (สภาพทพ่ี งึ แสดงออกผ่านงานศลิ ปะดนตรี 8.2 มปี ฏสิ ัมพันธท์ ่ดี กี ับผู้อ่ืน ตัดสินใจ(สภาพทพ่ี งึ ประสงค)์ ประสงค)์ และการเคลอ่ื นไหว(สภาพที่ 8.3 ปฏิบัตติ นเบื้องตน้ ใน 11.1 ทำงานศิลปะตามจนิ ตนาการและ 2.1 เคลือ่ นไหว พงึ ประสงค)์ การเปน็ สมาชิกทด่ี ขี องสังคม ความคิดสรา้ งสรรค์(สภาพที่พึงประสงค)์ รา่ งกายอย่าง 5.4 มคี วามรับผิดชอบ (สภาพที่พงึ ประสงค)์ 11.2 แสดงทา่ ทาง/เคล่อื นไหวตามจนิ ตนาการ คลอ่ งแคล่วประสาน (สภาพทพี่ งึ ประสงค)์ อย่างสร้างสรรค์(สภาพท่ีพึงประสงค์) สัมพนั ธ์และทรงตวั 12.1 มเี จตคติท่ีดีตอ่ การเรยี นรู้(สภาพท่ีพงึ ได้(สภาพทพี่ ึง ประสงค)์ ประสงค์) 12.2 มีความสามารถในการแสวงหา 2.2 ใช้มือ-ตา ความรู้(สภาพท่ีพึงประสงค)์ ประสานสัมพันธก์ ัน (สภาพทพี่ งึ ประสงค์)

 จดุ ประสงค์ 1. บอกหนา้ ท่ขี องอวยั วะและการใช้งานอวัยวะได้อย่างถูกต้อง 2. สามารถรว่ มสนทนากับครูและเพอ่ื น พร้อมกบั อธบิ ายส่ิงต่างๆ อย่างมีเหตผุ ล  กจิ กรรมการเรียนรู้ ขั้นนำ 1. ครูและเดก็ รว่ มกนั ร้องเพลง มอื และเท้า แลว้ ทำทา่ ทางประกอบเพลงตามจนิ ตนาการ 2. ครูสนทนาเกี่ยวกับเนอื้ ร้องในบทเพลงวา่ กล่าวถงึ อะไรโดยใชค้ ำถาม เชน่  ในเพลงกล่าวถงึ อวยั วะใดบ้าง  อวยั วะน้นั มีหนา้ ที่อะไร  ถา้ เราไม่มีมอื ไมม่ ีเท้า จะเป็นอย่างไร 3. ให้เด็กๆ คดิ เพิม่ เตมิ เกย่ี วกบั อวยั วะและหน้าที่ของอวยั วะท่ีเด็กมคี วามรูแ้ ละประสบการณเ์ ดมิ จากนน้ั ร่วมกนั สนทนา ข้ันสอน 1. ครูให้เด็กแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ 4-5 คน เพ่อื ทำกจิ กรรมกล่องสืบค้นทค่ี รูเตรียมมา ซง่ึ ในกลอ่ งสบื คน้ จะมีสง่ิ ของ ตา่ งๆ เช่น หนังสอื นทิ าน กระเป๋าผา้ รองเท้า วิทยุ (จำลอง) เป็นต้น กลอ่ งสบื ค้นแต่ละกล่อง จะใส่ส่งิ ของไม่ เหมอื นกนั เพอ่ื เพม่ิ ความแตกต่างในการนำเสนอข้อมูล 2. ครูใหเ้ ด็กแตล่ ะกล่มุ ออกมารบั กล่องสืบคน้ และอุปกรณ์ จากนนั้ ช่วยกนั สงั เกตส่งิ ทีพ่ บในกลอ่ งสืบค้น แล้วร่วมกันแสดงความคดิ เห็น ดงั น้ี  หากจะใช้สง่ิ ของทีพ่ บในกล่อง จะตอ้ งใช้อวยั วะใดบา้ ง  เดก็ ๆ มีวธิ ีใช้อยา่ งไร ให้ช่วยกันคดิ และแสดงทา่ ทางในการนำเสนอ 3. ครูให้เดก็ ช่วยกนั วาดภาพสิง่ ทสี่ ำรวจพบในกลอ่ งสบื คน้ ลงในกระดาษวาดเขยี นของกล่มุ 4. ครใู ห้เด็กเรยี นรู้คำศัพท์เกยี่ วกับหนา้ ทข่ี องอวัยวะและฝึกออกเสยี งตามครู เชน่ look run walk eat ข้นั สรปุ 1. ครูให้ตัวแทนแตล่ ะกลมุ่ ออกมานำเสนอเก่ียวกับวิธใี ช้สิ่งของที่อยู่ในกล่องโดยใช้อวัยวะต่างๆ ตามขอ้ สรุป ของกลมุ่ 2. ครูและเดก็ ร่วมกนั สรุปถงึ ความสำคญั ของอวัยวะต่างๆ กับการทำหน้าที่ร่วมกนั เพอื่ ทำกจิ กรรมตา่ งๆ และให้ เด็กทำกจิ กรรมในหนงั สือเสรมิ ฯ เรื่องราวเกี่ยวกับตัวเด็ก อ.2 กจิ กรรม หน้าท่ขี องอวยั วะ หน้า 5 โดยให้เดก็ ฟงั ข้อความ แลว้ ระบายสีภาพท่สี มั พันธก์ ับอวยั วะทก่ี ำหนด  ประเมินผล 1. สังเกตการบอกหน้าทขี่ องอวัยวะต่างๆ ของร่างกาย 2. สังเกตความสนใจในการรว่ มกิจกรรม 3. สงั เกตการสนทนาและการตอบคำถาม 4. สังเกตผลงานการทำกิจกรรม หน้าท่ขี องอวัยวะ  สื่อการเรียนรู้ 1. เพลง มือและเท้า 2. บัตรคำศัพท์เกย่ี วกับหนา้ ท่ขี องอวัยวะ 3. บตั รภาพเก่ยี วกบั หน้าที่ของอวัยวะ 4. กลอ่ งสืบคน้ ใส่สิ่งของต่างๆ เช่น หนังสือนทิ าน กระเปา๋ ผ้า รองเทา้ วทิ ยุ (จำลอง) เปน็ ต้น 5. หนังสอื เสรมิ ฯ เรื่องราวเก่ียวกบั ตวั เด็ก อ.2 กจิ กรรม หนา้ ทขี่ องอวัยวะ หนา้ 5

 ภาคผนวก  เพลง มอื และเท้า เพลง มือและเทา้ มอื เท้าของหนูมีอยู่สบิ น้วิ (ไมท่ ราบนามผู้แต่ง) หนเู ดินสองขา มือหนูใช้ห้ิวช่วยจบั สิ่งของ หนูนั่งยองยอง พาว่งิ ไวว่อง ดว้ ยขาแข็งแรง  บตั รคำศพั ท์เกยี่ วกบั หน้าท่ขี องอวยั วะ look run walk eat มองดู วิ่ง เดิน กิน  บัตรภาพเกยี่ วกับหน้าท่ขี องอวัยวะ

แนวทางการจัดประสบการณก์ ารเรียนรู้ การศึกษาปฐมวยั ภาคเรียนที่...1... สำหรบั เด็กทีม่ คี วามตอ้ งการจำเปน็ พิเศษ ช่วงอายุ ....4-5....... ปี สาระการเรียนรทู้ ี.่ .1... หนว่ ย .เรียนร้รู ่างกาย วันที่ 4 อปุ กรณท์ ำความสะอาดร่างกาย กิจกรรมเสริมประสบการณ์  สาระที่ควรเรยี นรู้ อวัยวะภายนอก คือ อวยั วะที่เรามองเห็นได้ เชน่ ตา หู จมูก ปาก มอื ร่างกายของเราประกอบไปดว้ ย เท้า อวยั วะแต่ละสว่ นมีหน้าทแี่ ตกต่างกัน เราควรดูแลทำความสะอาดรา่ งกายเสมอเพ่ือสุขภาพทีด่ ี สาระสำคญั เด็กไดเ้ รยี นรเู้ กี่ยวกบั ชอื่ และอุปกรณ์ที่ใช้ทำความสะอาดร่างกายในชีวติ ประจำวัน เช่น แปรงสฟี ัน หวี สบู่ เปน็ ตน้ และวธิ ีการทำความสะอาดร่างกายให้มีสุขภาพดี ปราศจากสง่ิ สกปรก เชน่ การสระผม แปรงฟัน อาบนำ้ เป็นต้น มาตรฐานคุณลักษณะท่พี งึ ประสงค์ / ประสบการณส์ ำคัญ  ร่างกาย อารมณ์ จิตใจ สังคม สตปิ ญั ญา มาตรฐานคุณลักษณะท่ีพึงประสงค์ มฐ.1 มฐ.2 มฐ.3 มฐ.4 มฐ.5 มฐ.6 มฐ.7 มฐ.8 มฐ.9 มฐ.10 มฐ.11 มฐ.12 1.2, 1.3 2.1, 2.2 3.1, 3.2 4.1 5.4 6.1 7.2 8.2, 8.3 9.1,9.2 10.1,10.2, 11.1,11.2 12.1,12.2 10.3 ประสบการณส์ ำคัญ 1.2 มสี ุขภาพ 3.1 แสดงออกทางอารมณไ์ ด้ 6.1 ชว่ ยเหลอื ตนเองในการ 9.1 รับร้แู ละเข้าใจความหมายของภาษา อนามัยสขุ นสิ ัยท่ี อยา่ งเหมาะสม(สภาพท่พี งึ ปฏิบตั กิ ิจวตั รประจำวนั ได้(สภาพทพี่ ึงประสงค์) ดี(สภาพทพ่ี งึ ประสงค)์ (สภาพทพ่ี งึ ประสงค์) 9.2 แสดงออกและ/หรอื พดู เพอื่ สอ่ื ประสงค)์ 3.2 มคี วามรสู้ กึ ทด่ี ีตอ่ ตนเอง 7.2 ดูแลรกั ษาธรรมชาติ ความหมายได้(สภาพท่ีพงึ ประสงค์) 1.3 รกั ษาความ และผู้อนื่ (สภาพทพ่ี ึงประสงค์) และส่ิงแวดลอ้ ม(สภาพท่พี ึง 10.1 มีความสามารถในการคดิ รวบยอด ปลอดภัยของตนเอง 4.1 สนใจ มีความสขุ และ ประสงค)์ (สภาพที่พงึ ประสงค์) และผ้อู ื่น(สภาพทพี่ งึ แสดงออกผ่านงานศลิ ปะดนตรี 8.2 มปี ฏิสมั พันธท์ ี่ดกี บั ผู้อน่ื 10.2 มีความสามารถในการคิดเชงิ เหตุผล ประสงค)์ และการเคลือ่ นไหว(สภาพที่ (สภาพทีพ่ งึ ประสงค)์ 10.3 มีความสามารถในการคิดแกป้ ญั หาและ 2.1 เคลอ่ื นไหว พงึ ประสงค์) 8.3 ปฏิบัติตนเบือ้ งตน้ ใน ตดั สนิ ใจ(สภาพท่พี งึ ประสงค)์ ร่างกายอยา่ ง 5.4 มคี วามรบั ผดิ ชอบ การเป็นสมาชิกท่ีดขี องสังคม 11.1 ทำงานศลิ ปะตามจนิ ตนาการและ คล่องแคลว่ ประสาน (สภาพท่พี ึงประสงค)์ (สภาพทีพ่ ึงประสงค)์ ความคิดสร้างสรรค์(สภาพที่พึงประสงค์) สมั พนั ธแ์ ละทรงตัว 11.2 แสดงทา่ ทาง/เคล่อื นไหวตามจนิ ตนาการ ได้(สภาพทพ่ี ึง อย่างสร้างสรรค์(สภาพท่พี งึ ประสงค)์ ประสงค)์ 12.1 มีเจตคตทิ ่ดี ตี อ่ การเรยี นรู้(สภาพที่พึง 2.2 ใช้มอื -ตา ประสงค)์ ประสานสัมพนั ธ์กนั 12.2 มคี วามสามารถในการแสวงหา (สภาพทพี่ งึ ประสงค์) ความรู้(สภาพท่พี งึ ประสงค์)

 จดุ ประสงค์ 1. เลือกใช้และบอกช่ืออุปกรณเ์ พอ่ื ทำความสะอาดร่างกายในชีวิตประจำวันได้ 2. บอกวิธกี ารดแู ลรักษาร่างกายให้สะอาดได้ 3. สามารถร่วมสนทนากับครูและเพือ่ น พรอ้ มกับอธบิ ายสิง่ ต่างๆ อยา่ งมีเหตุผลได้  กจิ กรรมการเรยี นรู้ ขน้ั นำ 1. ครสู นทนาซกั ถามเด็กๆ เกีย่ วกับการอาบนำ้ ให้เดก็ ๆ ชว่ ยกันแสดงความคดิ เหน็ เชน่  เดก็ ๆ ชอบอาบนำ้ หรือไม่ เพราะเหตุใด  ทำไมเด็กๆ ถงึ ตอ้ งอาบน้ำ  เม่ืออาบนำ้ แล้ว เด็กๆ รสู้ กึ อยา่ งไร 2. ครูและเดก็ ร่วมกนั รอ้ งเพลง อวยั วะของเราสะอาด และทำท่าทางประกอบเพลงตามจนิ ตนาการ ข้ันสอน 1. ครูนำอุปกรณท์ ำความสะอาดรา่ งกาย เช่น ยาสฟี ัน แปง้ แก้วน้ำ หวี สบู่ เปน็ ต้น มาใหเ้ ดก็ สงั เกต แลว้ สนทนาซกั ถามเด็กเกย่ี วกบั สงิ่ ของทีค่ รนู ำมา โดยถามคำถาม เช่น  อุปกรณท์ คี่ รูนำมามปี ระโยชนอ์ ยา่ งไรกบั รา่ งกายของเรา  เดก็ ๆ เคยใชอ้ ุปกรณ์เหล่านี้อย่างไรบ้าง  เด็กๆ รจู้ กั อปุ กรณ์ทำความสะอาดอ่นื ๆ อกี หรือไม่ 2. ครใู ห้อาสาสมัครออกมาทำท่าทางการใช้อุปกรณท์ ำความสะอาดรา่ งกาย แล้วใหเ้ ดก็ ๆ สงั เกตและแสดงความ คิดเห็นโดยครูถามคำถาม เชน่  ทำไมเราตอ้ งทำความสะอาดร่างกาย  หากเราไม่ทำความสะอาดร่างกายจะเป็นอยา่ งไร 3. ครูให้เดก็ เรียนรู้คำศัพท์เกีย่ วกบั อุปกรณ์ท่ใี ชท้ ำความสะอาดร่างกาย และฝึกออกเสยี งคำศพั ท์ เชน่ soap toothpaste shampoo 4. ครูใหเ้ ด็กวาดภาพอุปกรณ์ทำความสะอาดร่างกาย คนละ 1 ช้ิน แลว้ ช่วยกันจัดกลมุ่ อปุ กรณ์ และสาธิตวธิ กี าร ทำความสะอาดร่างกาย ขัน้ สรุป 1. ครแู ละเดก็ รว่ มกนั สรุปความรู้เกีย่ วกับอุปกรณแ์ ละวิธีท่ีใช้ทำความสะอาดร่างกายทีถ่ กู ต้อง 2. ครูให้เดก็ ทำกจิ กรรมในหนงั สือเสริมฯ เรอื่ งราวเก่ยี วกบั ตวั เด็ก อ.2 กจิ กรรม อุปกรณ์ทำความสะอาดรา่ งกาย หนา้ 6 โดยให้เดก็ คดั คำตามรอยประ แลว้ ระบายสีภาพอปุ กรณ์ทำความสะอาดร่างกายทสี่ มั พันธก์ ัน  ประเมินผล 1. สังเกตการสนทนาและการตอบคำถาม 2. สงั เกตการบอกวิธีการทำความสะอาดรา่ งกายไดอ้ ย่างถกู ตอ้ งเหมาะสม 3. สังเกตความสนใจในการรว่ มกิจกรรม 4. สังเกตผลงานการทำกิจกรรม อุปกรณท์ ำความสะอาดรา่ งกาย

 สอื่ การเรียนรู้ 1. เพลง อวัยวะของเราสะอาด 2. อปุ กรณใ์ นการทำความสะอาดร่างกาย เช่น แป้ง แก้วนำ้ สบู่ เปน็ ต้น 3. บตั รคำศัพท์เกย่ี วกับอปุ กรณ์ทใี่ ช้ทำความสะอาดร่างกาย 4. บัตรภาพอุปกรณ์ทใี่ ชท้ ำความสะอาดรา่ งกาย  ภาคผนวก  เพลง อวยั วะของเราสะอาด เพลง อวยั วะของเราสะอาด คำรอ้ ง-ทำนอง กมั ปนาท โนนศรี มาเรียนรู้เรอ่ื งความสะอาด เดก็ ๆ จ๊ะเดี๋ยวจะบอกให้ หแู ละตาดแู ลให้สะอาด ห้ามเดด็ ขาดเอาสิง่ ของแหย่ไป มือเรากต็ ้องหม่นั ลา้ ง ตัดเล็บให้สัน้ สะอาด สบาย ปากและฟนั กต็ อ้ งหมั่นแปรง ร่างกายสำคญั ทสี่ ดุ อาบน้ำถูสบตู่ วั หอมช่ืนใจ เอา้ ล้างๆ มือ เอา้ ตดั ๆ เลบ็ เอ้าแปรงๆ ฟนั เอา้ อาบๆ นำ้ เอ้าถๆู สบู่  บัตรคำศัพท์อุปกรณ์ท่ใี ช้ทำความสะอาดรา่ งกาย soap toothpaste shampoo สบู่ ยาสฟี ัน ยาสระผม  บตั รภาพอุปกรณ์ทใ่ี ช้ทำความสะอาดรา่ งกาย

แนวทางการจดั ประสบการณก์ ารเรียนรู้ การศึกษาปฐมวัย ภาคเรียนที่...1... สำหรับเดก็ ทีม่ คี วามต้องการจำเป็นพเิ ศษ ชว่ งอายุ ..4-5..... ปี สาระการเรียนรทู้ ่ี..1.. หน่วย .เรยี นรรู้ ่างกาย วนั ที่ 5 ดูแลรา่ งกายดว้ ยการกินอาหาร กิจกรรมเสริมประสบการณ์  สาระทค่ี วรเรียนรู้ รา่ งกายของเราประกอบไปดว้ ย อวยั วะภายนอก คอื อวัยวะท่ีเรามองเหน็ ได้ เชน่ ตา หู จมูก ปาก มอื เท้า อวัยวะแต่ละสว่ นมีหนา้ ที่แตกต่างกัน เราควรดแู ลทำความสะอาดร่างกายเสมอเพื่อสุขภาพทด่ี ี สาระสำคัญ เดก็ ไดเ้ รยี นร้เู กีย่ วกับอาหารท่มี ีประโยชน์และมีโทษตอ่ รา่ งกาย โดยใหเ้ ด็กรู้จักและเขา้ ใจประโยชนข์ อง การรบั ประทานอาหารท่ีดตี อ่ ร่างกายของเรา  มาตรฐานคณุ ลกั ษณะท่ีพึงประสงค์ / ประสบการณส์ ำคญั สติปญั ญา ร่างกาย อารมณ์ จติ ใจ สงั คม มาตรฐานคณุ ลักษณะท่พี งึ ประสงค์ มฐ.1 มฐ.2 มฐ.3 มฐ.4 มฐ.5 มฐ.6 มฐ.7 มฐ.8 มฐ.9 มฐ.10 มฐ.11 มฐ.12 1.2, 1.3 2.1, 2.2 3.1, 3.2 4.1 5.4 6.1 7.2 8.2, 8.3 9.1,9.2 10.1,10.2, 11.1,11.2 12.1,12.2 10.3 ประสบการณส์ ำคัญ 1.2 มสี ขุ ภาพ 3.1 แสดงออกทางอารมณไ์ ด้ 6.1 ช่วยเหลือตนเองในการ 9.1 รับร้แู ละเข้าใจความหมายของภาษา อนามยั สุขนิสยั ที่ อย่างเหมาะสม(สภาพท่ีพงึ ปฏิบตั ิกจิ วตั รประจำวัน ได้(สภาพทพ่ี ึงประสงค)์ 9.2 แสดงออกและ/หรอื พูดเพื่อส่ือ ดี(สภาพทพ่ี งึ ประสงค)์ (สภาพที่พงึ ประสงค์) ประสงค์) 3.2 มคี วามร้สู กึ ทดี่ ตี อ่ ตนเอง 7.2 ดแู ลรักษาธรรมชาติ ความหมายได้(สภาพท่ีพงึ ประสงค์) 1.3 รกั ษาความ และผอู้ นื่ (สภาพท่ีพงึ ประสงค)์ และส่ิงแวดล้อม(สภาพทพี่ งึ 10.1 มคี วามสามารถในการคิดรวบยอด ปลอดภัยของตนเอง 4.1 สนใจ มคี วามสขุ และ ประสงค)์ (สภาพทพี่ งึ ประสงค์) และผู้อ่นื (สภาพทพ่ี ึง แสดงออกผ่านงานศลิ ปะดนตรี 8.2 มีปฏิสัมพันธท์ ี่ดกี ับผูอ้ ื่น 10.2 มีความสามารถในการคิดเชงิ เหตผุ ล ประสงค)์ และการเคลือ่ นไหว(สภาพท่ี (สภาพท่พี งึ ประสงค)์ (สภาพท่ีพึงประสงค์) 2.1 เคลอ่ื นไหว พงึ ประสงค์) 8.3 ปฏบิ ัตติ นเบื้องตน้ ใน 10.3 มคี วามสามารถในการคิดแกป้ ญั หาและ รา่ งกายอยา่ ง(สภาพ 5.4 มคี วามรับผิดชอบ การเปน็ สมาชกิ ทีด่ ขี องสงั คม ตัดสินใจ(สภาพทพี่ ึงประสงค์) ท่พี ึงประสงค)์ (สภาพทพ่ี งึ ประสงค)์ (สภาพทพ่ี งึ ประสงค)์ 11.1 ทำงานศลิ ปะตามจินตนาการและ คลอ่ งแคลว่ ประสาน ความคดิ สรา้ งสรรค์(สภาพท่ีพงึ ประสงค์) สมั พนั ธแ์ ละทรงตวั 11.2 แสดงทา่ ทาง/เคลอ่ื นไหวตามจินตนาการ ได้(สภาพทพี่ ึง อยา่ งสรา้ งสรรค์(สภาพท่พี ึงประสงค์) ประสงค)์ 12.1 มีเจตคตทิ ่ดี ีตอ่ การเรยี นรู้(สภาพทีพ่ งึ 2.2 ใชม้ อื -ตา ประสงค์) ประสานสัมพันธก์ นั 12.2 มีความสามารถในการแสวงหาความรู้

 จดุ ประสงค์ 1. บอกชื่ออาหารท่มี ีประโยชนต์ อ่ ร่างกายได้ 2. บอกประโยชน์ของการรับประทานอาหารได้ 3. สามารถรว่ มสนทนากับครูและเพือ่ น พร้อมกบั อธบิ ายส่ิงต่างๆ อยา่ งมีเหตผุ ล  กิจกรรมการเรียนรู้ ขั้นนำ ครแู ละเด็กร่วมกันร้องเพลง อาหารดีมปี ระโยชน์ และสนทนาเกีย่ วกบั เน้ือเพลง เชน่  ในเนอื้ เพลงมอี าหารชนิดใดทที่ ำใหร้ า่ งกายของเราแข็งแรง  เดก็ ๆ เคยรับประทานอาหารชนดิ ใดท่ีเหมอื นในเน้อื เพลง เม่อื ได้รบั ประทานแลว้ มีรสชาติเปน็ อยา่ งไร ใหเ้ ด็กออกมาเลา่ ประสบการณ์  เด็กๆ ชอบอาหารอะไรบ้าง ลองบอกคนละ 2 อย่าง ข้ันสอน 1. ครูนำอาหารชนดิ ตา่ งๆ มาใหเ้ ด็กสังเกต เชน่ น้ำอัดลม ขนมกรุบกรอบ บะหม่กี ง่ึ สำเรจ็ รปู (มามา่ ) ขา้ วไข่เจียว ลกู อม เปน็ ตน้ และสนทนาเกย่ี วกับลกั ษณะของอาหารแตล่ ะชนดิ 2. ครูใหค้ วามรูเ้ พิม่ เตมิ เก่ยี วกับลักษณะของอาหารทมี่ ีประโยชนแ์ ละมโี ทษต่อร่างกาย โดยใชภ้ าพประกอบ การ ยกตวั อยา่ งอาหารทีม่ ปี ระโยชนแ์ ละมีโทษตอ่ ร่างกาย แลว้ เปรยี บเทยี บให้เดก็ เหน็ อย่างชดั เจน เช่น  ถา้ เด็กๆ ดมื่ นำ้ อัดลมมากๆ จะทำให้ปวดท้อง ฟันผุ และเปน็ โรคอ้วน  ถ้าเดก็ ๆ ดืม่ นมทุกวันร่างกายจะเจรญิ เตบิ โตแข็งแรง กระดกู และฟันแข็งแรง  ถ้าเดก็ ๆ รบั ประทานผกั ผลไม้ทุกวนั จะขบั ถ่ายไดง้ า่ ย ไม่ท้องผกู และไม่ปว่ ยงา่ ย เพราะมีภมู คิ ้มุ กันโรค 3. ครูให้เด็กแบ่งกลุ่ม กลมุ่ ละ 4-5 คน ทำกิจกรรมจดั กลมุ่ อาหารจากภาพ และให้ตวั แทนออกมานำเสนอ ความคิดในการจดั กล่มุ อาหาร 4. ครูให้เดก็ เรยี นรคู้ ำศัพท์เก่ยี วกบั อาหารท่มี ปี ระโยชน์และมีโทษต่อรา่ งกาย เช่น milk fruits candy ขั้นสรปุ 1. ครูและเดก็ รว่ มกันสรุปผลการจัดกลุม่ ประเภทอาหารและใหค้ วามรู้เพิ่มเติมเกยี่ วกบั อาหารที่เดก็ ควร รับประทาน และอาหารทค่ี วรหลกี เลี่ยงหรือควรรับประทานใหน้ ้อยลง 2. ครูใหเ้ ดก็ ทำกจิ กรรมในหนังสอื เสรมิ ฯ เรอื่ งราวเกย่ี วกบั ตวั เด็ก อ.2 กจิ กรรม ดูแลร่างกายด้วยการกนิ อาหาร หน้า 7 โดยครสู นทนาเกี่ยวกับอาหารที่ควรหลีกเลีย่ ง แล้วกา  ลงใน  แลว้ ระบายสภี าพอาหารทคี่ วร รับประทาน  ประเมนิ ผล 1. สังเกตการบอกช่ืออาหารทไ่ี มค่ วรรับประทานและอาหารท่ีมปี ระโยชนต์ ่อรา่ งกาย 2. สังเกตการสนทนาและการตอบคำถาม 3. สังเกตความสนใจในการร่วมกจิ กรรม 4. สังเกตผลงานการทำกจิ กรรม ดแู ลรา่ งกายดว้ ยการกินอาหาร

 สื่อการเรียนรู้ 1. เพลง อาหารดมี ีประโยชน์ 2. อาหารของจรงิ ชนดิ ตา่ งๆ เช่น น้ำอัดลม ขนมกรบุ กรอบ บะหม่กี ่งึ สำเรจ็ รปู (มาม่า) ขา้ วไขเ่ จยี ว ลูกอม 3. บัตรภาพอาหารทีม่ ีประโยชน์มาก และมปี ระโยชนน์ ้อย 4. บัตรคำศพั ทอ์ าหารทม่ี ีประโยชนแ์ ละมีโทษต่อรา่ งกาย  ภาคผนวก  เพลง อาหารดมี ปี ระโยชน์ เพลง อาหารดมี ีประโยชน์ อาหารดมี ีประโยชน์ คำรอ้ ง-ทำนอง กมั ปนาท โนนศรี หมู่หน่ึงเนื้อ นม ไข่ นัน่ ไง หมสู่ องขา้ ว แปง้ เผือก มนั ฝกึ กนิ ให้ครบและหลากหลาย หมู่สามคือผกั กินแล้วสบาย ช่วยให้รา่ งกายเติบโตแข็งแรง หมู่ส่ีผลไมก้ นิ อร่อย อาหารน้นั ให้พลังงานมากมาย ชว่ ยระบบขบั ถา่ ยให้ท้องเราดี หม่หู ้าไขมันนา่ ลอง กินบอ่ ยๆ ผวิ พรรณผดุ ผ่อง  บัตรภาพอาหารทม่ี ปี ระโยชน์ ร่างกายนอ้ งๆ อบอุน่ สบาย  บตั รภาพอาหารท่ีมีประโยชน์น้อย

กิจกรรมเคลือ่ นไหวและจังหวะ  สาระทีค่ วรเรียนรู้ การเคลือ่ นไหวร่างกายตามคำบรรยาย เร่อื ง หนูนิดปลกู ผัก  มาตรฐานคณุ ลักษณะทพี่ ึงประสงค์ / ประสบการณ์สำคญั รา่ งกาย อารมณ์ จิตใจ สังคม สตปิ ัญญา มาตรฐานคุณลกั ษณะทีพ่ งึ ประสงค์ มฐ.1 มฐ.2 มฐ.3 มฐ.4 มฐ.5 มฐ.6 มฐ.7 มฐ.8 มฐ.9 มฐ.10 มฐ.11 มฐ.12 1.2, 1.3 2.1 3.1, 3.2 4.1 8.1,8.2, 10.3 11.2 12.1 8.3 ประสบการณ์สำคญั 1.2 มีสขุ ภาพ 3.1 แสดงออกทางอารมณไ์ ด้ 8.1 ยอมรบั ความเหมอื น 10.3 มีความสามารถในการคดิ แกป้ ญั หาและ อนามยั สขุ นสิ ัยท่ี อยา่ งเหมาะสม(สภาพท่ีพึง และความแตกตา่ งระหว่าง ตัดสนิ ใจ(สภาพที่พงึ ประสงค์) ดี(สภาพทีพ่ งึ ประสงค์) บคุ คล(สภาพทพ่ี งึ ประสงค)์ 11.2 แสดงท่าทาง/เคลอ่ื นไหวตามจินตนาการ ประสงค)์ 3.2 มคี วามรสู้ กึ ท่ีดีตอ่ ตนเอง 8.2 มปี ฏิสมั พันธท์ ีด่ กี ับผอู้ น่ื อยา่ งสร้างสรรค์(สภาพท่ีพงึ ประสงค์) 1.3 รกั ษาความ และผู้อนื่ (สภาพทพี่ ึงประสงค)์ (สภาพท่ีพงึ ประสงค์) 12.1 มีเจตคติท่ีดีตอ่ การเรยี นรู้(สภาพทพ่ี ึง ปลอดภัยของตนเอง 4.1 สนใจ มคี วามสขุ และ 8.3 ปฏิบัตติ นเบ้ืองต้นใน ประสงค)์ และผอู้ ืน่ (สภาพทพ่ี งึ แสดงออกผ่านงานศิลปะดนตรี การเปน็ สมาชกิ ทีด่ ีของสงั คม ประสงค)์ และการเคลือ่ นไหว(สภาพที่ (สภาพทพ่ี งึ ประสงค)์ 2.1 เคลอื่ นไหว พึงประสงค)์ รา่ งกายอยา่ ง คลอ่ งแคล่วประสาน สมั พนั ธ์และทรงตวั ได้(สภาพทพ่ี งึ ประสงค)์  จดุ ประสงค์ เล็กและตาใหส้ ัมพนั ธก์ ัน 1. พัฒนาการใช้กล้ามเนอ้ื ใหญ่ 2. พัฒนาทกั ษะการเคล่ือนไหวตามคำบรรยาย 3. เพอื่ ใหเ้ กดิ ความสนกุ สนานและผอ่ นคลายอารมณ์

 กิจกรรมการเรียนรู้ 1. ครูใหเ้ ด็กเคล่อื นไหวร่างกายอย่างอสิ ระโดยไม่ใหช้ นกนั ตามจังหวะทีค่ รกู ำหนด 2. ครูให้เดก็ อาสาสมคั รออกมาเป็นผู้กำหนดจังหวะ และใหเ้ พือ่ นๆ เคล่ือนไหวร่างกายอย่างอสิ ระโดยไม่ใหช้ นกนั 3. เด็กและครรู ว่ มกันสร้างข้อตกลงในการเคลื่อนไหว โดยใหเ้ ด็กเคลือ่ นไหวร่างกายตามคำบรรยาย เรอ่ื ง หนู นดิ ปลกู ผกั โดยคดิ และแสดงท่าทางตามจนิ ตนาการของตนเอง ดังนี้ คาบรรยายเรือ่ ง หนนู ดิ ปลกู ผกั (ไม่ทราบนามผแู้ ต่ง) วนั นอี้ ากาศแจม่ ใส คณุ ครูพาเด็กๆ ออกไปปลูกผกั หลายชนิด บา้ งปลกู ผกั กาด บา้ งปลูกผกั คะนา้ บา้ งปลูกตน้ หอม ผักชี สว่ นหนูนดิ ปลูกผกั บงุ้ หนูนิดลงมือขุดดนิ ทาแปลง ทารอ่ งเป็นแนวยาวอยา่ งสวยงาม รองพนื้ ดว้ ยป๋ ยุ คอก แลว้ นาเมลด็ พนั ธผ์ุ ักมาโรย จากน้นั ไปตกั นา้ มารดจนชุ่ม เมอ่ื คุณครูมาตรวจดคู วามเรียบรอ้ ย กอ็ อกปากชม บอกวา่ ทกุ คนทาไดด้ ี ถกู ตอ้ งตามขัน้ ตอน แลว้ กาชับใหร้ ดนา้ ทกุ เชา้ เย็น และหม่นั พรวนดินอยเู่ สมอ วนั รุง่ ขนึ้ ทอ้ งฟ้ามดื ครมื้ แลว้ มฝี นตกลงมา กอ่ นโรงเรียนเลิก หนูนดิ เดินไปดแู ปลงผกั พบว่าดนิ ชุ่มดี และไมม่ ี ร่องรอยความเสยี หาย หนนู ดิ ยมิ้ ร่าดว้ ยความดใี จ ทไ่ี ม่ตอ้ งรดนา้ เพ่ิมเตมิ วนั ตอ่ มา หนนู ิด รีบไปสนามเด็กเลน่ จงึ ไม่ ไปดแู ลแปลงผัก เฝ้าภาวนาขอใหม้ ฝี นตงั้ เคา้ มาอีกหน หลายวนั ผา่ นไป นดิ กย็ ังไมไ่ ปดูแลแปลงเฝ้าภาวนาขอให้มี ฝนตงั้ เคา้ มาอีกหน หลายวันผ่านไป นิดก็ยงั ไม่ไปดแู ลแปลงผกั จนดนิ นน้ั แหง้ จนผักนั้นแหง้ เหี่ยวไป หนูนิดเสียใจมาก จึงสญั ญาวา่ ตอ่ ไปจะดแู ลรดนา้ ผักท่ีปลูกเป็นอยา่ งดี  ประเมนิ ผล 1. สงั เกตการใช้กลา้ มเนื้อใหญ่เลก็ และตาให้สัมพนั ธ์กนั 2. สงั เกตการเคลื่อนไหวตามคำบรรยาย 3. สังเกตความสนุกสนานและผ่อนคลายอารมณ์  สอื่ การเรยี นรู้ หนนู ิดปลูกผกั 2. เครื่องเคาะจงั หวะ 1. คำบรรยายเรื่อง

กจิ กรรมสรา้ งสรรค์  สาระท่ีควรเรียนรู้ การประดิษฐห์ นุ่ มือตัวเรา  มาตรฐานคณุ ลักษณะทีพ่ ึงประสงค์ / ประสบการณส์ ำคญั รา่ งกาย อารมณ์ จิตใจ สงั คม สติปญั ญา มาตรฐานคุณลกั ษณะทพ่ี ึงประสงค์ มฐ.1 มฐ.2 มฐ.3 มฐ.4 มฐ.5 มฐ.6 มฐ.7 มฐ.8 มฐ.9 มฐ.10 มฐ.11 มฐ.12 1.3 2.2 3.1, 3.2 4.1 5.2,5.4 6.2,6.3 8.1,8.2, 9.1 10.3 11.1 12.1 8.3 ประสบการณส์ ำคัญ 1.3 รกั ษาความ 3.1 แสดงออกทางอารมณไ์ ด้ 6.2 มวี นิ ัยในตนเอง(สภาพที่ 9.1 รบั รู้และเขา้ ใจความหมายของภาษา ปลอดภัยของตนเอง อย่างเหมาะสม(สภาพทีพ่ ึง พึงประสงค์) ได้(สภาพทพี่ งึ ประสงค)์ และผู้อ่ืน(สภาพท่พี ึง ประสงค์) 6.3 ประหยัดและพอเพยี ง 10.3 มคี วามสามารถในการคดิ แกป้ ญั หาและ (สภาพทีพ่ ึงประสงค์) ตัดสนิ ใจ(สภาพท่ีพงึ ประสงค์) ประสงค์) 3.2 มคี วามรู้สกึ ที่ดีตอ่ ตนเอง 2.2 ใชม้ ือ-ตา และผู้อนื่ (สภาพทีพ่ ึงประสงค)์ 8.1 ยอมรบั ความเหมอื น 11.1 ทำงานศิลปะตามจนิ ตนาการและ ประสานสัมพันธก์ ัน 4.1 สนใจ มีความสุขและ และความแตกตา่ งระหวา่ ง ความคิดสร้างสรรค์(สภาพทพี่ ึงประสงค)์ (สภาพทพี่ งึ ประสงค์) แสดงออกผา่ นงานศลิ ปะดนตรี บคุ คล(สภาพที่พงึ ประสงค)์ 12.1 มเี จตคตทิ ่ีดีตอ่ การเรียนรู้(สภาพท่พี ึง และการเคลือ่ นไหว(สภาพท่ี 8.2 มีปฏสิ มั พันธท์ ี่ดกี ับผู้อนื่ ประสงค์) พึงประสงค์) (สภาพท่พี งึ ประสงค)์ 5.2 มคี วามเมตตากรุณา มี 8.3 ปฏบิ ตั ติ นเบ้อื งตน้ ใน นำ้ ใจและช่วยเหลอื แบ่งปนั การเปน็ สมาชกิ ทด่ี ขี องสังคม (สภาพท่พี งึ ประสงค)์ (สภาพทพ่ี ึงประสงค)์ 5.4 มีความรบั ผิดชอบ(สภาพท่ี พงึ ประสงค)์  จุดประสงค์ 1. พฒั นาการกลา้ มเนอ้ื มดั เลก็ และตาใหส้ ัมพันธ์กัน 2. การสรา้ งสรรค์ผลงานตามจนิ ตนาการ 3. สามารถบอกเลา่ เกย่ี วกับผลงานของตนเองได้  กจิ กรรมการเรียนรู้ 1. ครูให้เด็กนั่งเปน็ กลุ่ม กลุ่มละ 4 คน แล้วใหต้ วั แทนกล่มุ ออกมารบั อุปกรณใ์ นการทำห่นุ มือตวั เรา 2. ครูแนะนำและสาธติ วิธีการทำหนุ่ มือตวั เราใหเ้ ด็กฟังทีละขน้ั ตอน เร่มิ จากระบายสภี าพหน้าคนท่ีครเู ตรียมไว้ ใหแ้ ล้วตดั ภาพหน้าคนออกมา ติดหนา้ คนลงบนถงุ กระดาษ และวาดตอ่ เติมตวั เด็กบนถุงกระดาษใหส้ มบรู ณ์ 3. ครใู หเ้ ด็กลงมือทำหุ่นมือตัวเรา โดยครคู อยช่วยเหลือและแนะนำเม่อื เด็กต้องการ 4. เด็กบอกเลา่ ผลงานให้เพอื่ นฟัง และครูจดบนั ทกึ ลงบนผลงาน 5. เดก็ ๆ ชว่ ยกนั เก็บวัสดุอุปกรณเ์ ข้าท่ี และทำความสะอาดโต๊ะกิจกรรม

 ประเมินผล 2. สังเกตผลงาน 1. สังเกตการใช้กลา้ มเน้อื มัดเล็กและตาให้สัมพันธ์กัน 3. สังเกตการบอกเล่าเกยี่ วกับผลงานของตนเอง  สือ่ การเรยี นรู้ 2. ภาพใบหนา้ เด็กชาย เด็กหญิง 3. กรรไกร 1. ถงุ กระดาษ 4. กาว 5. สเี ทยี น กิจกรรมเสรี  สาระท่ีควรเรยี นรู้ การเลน่ ตามมุมประสบการณ์ เปดิ โอกาสให้เดก็ เลน่ อสิ ระตามมมุ ประสบการณห์ รอื ศูนย์การเรยี น ท่จี ดั ไว้ใน หอ้ งเรยี น เช่น มุมบล็อก มมุ วิทยาศาสตรห์ รือมุมธรรมชาตศิ กึ ษา มมุ คณติ ศาสตร์ มมุ บา้ น มมุ หนงั สอื มมุ ศิลปะ มมุ ดนตรี มุมบทบาทสมมติ เปน็ ตน้  มาตรฐานคณุ ลักษณะทพี่ ึงประสงค์ / ประสบการณ์สำคัญ รา่ งกาย อารมณ์ จติ ใจ สังคม สตปิ ญั ญา มาตรฐานคณุ ลกั ษณะทพี่ งึ ประสงค์ มฐ.1 มฐ.2 มฐ.3 มฐ.4 มฐ.5 มฐ.6 มฐ.7 มฐ.8 มฐ.9 มฐ.10 มฐ.11 มฐ.12 1.3 2.2 3.1, 3.2 4.1 5.1,5.2,5 6.2,6.3 7.2 8.1,8.2, 9.1 10.3 11.2 12.1,12.2 .3 8.3 ประสบการณ์สำคญั 1.3 รกั ษาความ 3.1 แสดงออกทางอารมณไ์ ด้ 6.2 มวี นิ ยั ในตนเอง(สภาพท่ี 9.1 รบั ร้แู ละเข้าใจความหมายของภาษา ปลอดภัยของตนเอง อย่างเหมาะสม(สภาพที่พึง พงึ ประสงค์) ได้(สภาพทพี่ งึ ประสงค)์ และผู้อนื่ (สภาพทีพ่ งึ ประสงค)์ 6.3 ประหยัดและพอเพียง 10.3 มคี วามสามารถในการคดิ แก้ปัญหาและ ประสงค์) 3.2 มคี วามรู้สึกทด่ี ีตอ่ ตนเอง (สภาพทพ่ี ึงประสงค์) ตัดสินใจ(สภาพท่ีพงึ ประสงค์) 2.2 ใช้มือ-ตา และผอู้ น่ื (สภาพทีพ่ งึ ประสงค์) 7.2 ดูแลรักษาธรรมชาติ 11.2 แสดงทา่ ทาง/เคลอ่ื นไหวตามจินตนาการ ประสานสมั พันธ์กนั 4.1 สนใจ มีความสุขและ และสิ่งแวดลอ้ ม(สภาพท่พี ึง อย่างสรา้ งสรรค์(สภาพทีพ่ งึ ประสงค)์ (สภาพที่พงึ ประสงค)์ แสดงออกผ่านงานศลิ ปะดนตรี ประสงค)์ 12.1 มีเจตคติท่ีดีตอ่ การเรยี นรู้(สภาพทพี่ ึง และการเคลอ่ื นไหว(สภาพท่ี 8.1 ยอมรบั ความเหมือน ประสงค)์ พึงประสงค์) และความแตกตา่ งระหวา่ ง 12.2 มีความสามารถในการแสวงหา 5.1 ซื่อสัตยส์ จุ รติ (สภาพทีพ่ ึง บคุ คล(สภาพทพี่ งึ ประสงค์) ความรู้(สภาพท่พี ึงประสงค)์ ประสงค์) 8.2 มีปฏสิ มั พนั ธ์ที่ดกี ับผอู้ ่นื 5.2 มคี วามเมตตากรุณา มี (สภาพท่พี ึงประสงค)์ นำ้ ใจและชว่ ยเหลอื แบง่ ปัน 8.3 ปฏบิ ตั ติ นเบ้ืองตน้ ใน (สภาพทพ่ี งึ ประสงค์) การเป็นสมาชิกทดี่ ีของสังคม 5.3 มคี วามเหน็ อกเห็นใจผอู้ น่ื (สภาพทพ่ี งึ ประสงค)์ (สภาพที่พึงประสงค)์  จดุ ประสงค์ 2. มที กั ษะทางด้านสงั คมเลน่ ร่วมกบั ผู้อนื่ ได้ 1. สง่ เสริมพัฒนาการ 4 ดา้ นผา่ นการเลน่

3. สง่ เสริมคณุ ธรรม จริยธรรม มคี วามอดทน เอ้อื เฟอ้ื แบง่ ปัน และรจู้ กั การรอคอย  กจิ กรรมการเรยี นรู้ 1. เด็กและครูร่วมกนั ทบทวนมมุ ประสบการณต์ า่ งๆ ในหอ้ งเรยี น และให้คดิ วางแผนการเล่น วา่ จะเลน่ อะไร ตามลำดบั ความสนใจของตนเอง 2. เดก็ และครรู ว่ มกันสรา้ งขอ้ ตกลงในการเลน่ เช่น - เดก็ ไม่ส่งเสียงดงั ขณะเล่น - เมื่อเลน่ เสร็จเก็บของเลน่ เข้าท่ี - รจู้ กั แบง่ ปนั กนั เลน่ - เล่นของเลน่ อยา่ งทะนุถนอม ไม่ทำลายให้เสียหาย - รจู้ กั ขอบคุณเมือ่ ครชู ว่ ยเหลือ ขอบใจเมอ่ื เพือ่ นช่วยเหลือ และขอโทษเมอ่ื ทำให้ผอู้ ืน่ เจ็บหรอื เดือดรอ้ น - เมอื่ ได้ยนิ สัญญาณหยดุ (เคาะจงั หวะ 2 คร้งั ) ใหเ้ กบ็ ของเลน่ ทันที และมานั่งรวมกนั ทีห่ น้าห้อง 3. เด็กๆ เลือกเลน่ ตามทค่ี ิดไว้อยา่ งอิสระ ปฏิบตั ิตามข้อตกลง และเมอ่ื ไดย้ นิ สญั ญาณหยดุ ให้เกบ็ ของเข้าท่ีให้  เรยี บรอ้ ย และมานง่ั รวมกนั ท่ีหนา้ หอ้ ง ประเมนิ ผล 1. สงั เกตพัฒนาการ 4 ด้าน 2. สังเกตการแสดงความเอ้ือเฟือ้ แบ่งปนั และร้จู ักการรอคอย 3. สังเกตการเลน่ รว่ มกบั ผู้อ่ืน  สือ่ การเรียนรู้ 1. ของเลน่ ในมุมประสบการณต์ ่างๆ 2. เครื่องเคาะจงั หวะ กจิ กรรมกลางแจ้ง  สาระทคี่ วรเรยี นรู้ การเลน่ เครอ่ื งเล่นสนาม เด็กไดม้ โี อกาสออกไปนอกห้องเรยี นเพ่ือออกกำลัง เคลือ่ นไหวรา่ งกายและแสดงออก อยา่ งอสิ ระในการเล่นเครอ่ื งเล่นสนาม โดยยึดความสนใจและความสามารถของเด็กเป็นหลกั  มาตรฐานคณุ ลักษณะทีพ่ งึ ประสงค์ / ประสบการณ์สำคัญ ร่างกาย อารมณ์ จิตใจ สังคม สตปิ ญั ญา มาตรฐานคุณลกั ษณะท่พี งึ ประสงค์ มฐ.9 มฐ.10 มฐ.11 มฐ.12 9.1 10.3 11.2 12.1 มฐ.1 มฐ.2 มฐ.3 มฐ.4 มฐ.5 มฐ.6 มฐ.7 มฐ.8 9.1 รับรู้และเขา้ ใจความหมายของภาษา 1.2, 1.3 2.1 3.1, 3.2 5.1,5.2,5 6.1,6.2 7.2 8.1,8.2, ได้(สภาพทพี่ ึงประสงค)์ 10.3 มคี วามสามารถในการคดิ แกป้ ญั หาและ .3 8.3 ตัดสินใจ(สภาพที่พึงประสงค์) 11.2 แสดงทา่ ทาง/เคลื่อนไหวตามจนิ ตนาการ ประสบการณส์ ำคญั อย่างสรา้ งสรรค์(สภาพทีพ่ งึ ประสงค์) 12.1 มเี จตคตทิ ี่ดตี อ่ การเรียนรู้(สภาพที่พึง 1.2 มสี ขุ ภาพ 3.1 แสดงออกทางอารมณไ์ ด้ 6.1 ชว่ ยเหลอื ตนเองในการ ประสงค์) อนามัยสุขนิสยั ที่ อยา่ งเหมาะสม(สภาพท่ีพึง ปฏิบัตกิ ิจวตั รประจำวนั ดี(สภาพที่พงึ ประสงค)์ (สภาพท่ีพึงประสงค)์ ประสงค์) 3.2 มคี วามรสู้ กึ ทีด่ ตี อ่ ตนเอง 6.2 มวี ินัยในตนเอง(สภาพท่ี 1.3 รกั ษาความ และผู้อน่ื (สภาพท่พี ึงประสงค์) พงึ ประสงค์) ปลอดภัยของตนเอง 5.1 ซือ่ สัตยส์ ุจริต(สภาพทพ่ี ึง 7.2 ดแู ลรกั ษาธรรมชาติ และผู้อื่น(สภาพท่พี งึ ประสงค)์ และสิ่งแวดลอ้ ม(สภาพที่พงึ ประสงค์) ประสงค)์

2.1 เคลื่อนไหว 5.2 มคี วามเมตตากรุณา มี 8.1 ยอมรับความเหมือน ร่างกายอยา่ ง(สภาพ น้ำใจและชว่ ยเหลอื แบ่งปนั และความแตกต่างระหว่าง ที่พึงประสงค)์ (สภาพทพ่ี ึงประสงค์) บคุ คล(สภาพทพี่ ึงประสงค์) คล่องแคล่วประสาน 5.3 มคี วามเหน็ อกเห็นใจผู้อ่ืน 8.2 มปี ฏสิ ัมพนั ธ์ทดี่ กี ับผอู้ ืน่ สมั พันธแ์ ละทรงตวั (สภาพทพ่ี ึงประสงค)์ (สภาพทพ่ี งึ ประสงค์) ได้(สภาพทพี่ งึ 8.3 ปฏบิ ัตติ นเบอื้ งต้นใน ประสงค)์ การเปน็ สมาชิกทีด่ ขี องสังคม (สภาพทีพ่ ึงประสงค)์  จุดประสงค์ 2. พฒั นาทกั ษะการเล่นกบั ผ้อู น่ื 1. พัฒนาทักษะการเคล่อื นไหวและการทรงตัว 3. สง่ เสรมิ คุณธรรม จริยธรรม มคี วามอดทน เออ้ื เฟ้อื แบง่ ปนั และร้จู ักการรอคอย 4. การปลกู ฝังทัศนคติท่ีดใี นการออกกำลงั กาย  กจิ กรรมการเรียนรู้ 1. เด็กและครรู ว่ มกันอบอุ่นรา่ งกายดว้ ยการออกกายบรหิ ารในการเคลือ่ นไหวอย่กู บั ที่ 2. ครูแนะนำการเล่นเครื่องเล่นสนามอยา่ งถูกวิธี และปลอดภัยให้เด็กฟงั พร้อมสาธิตใหด้ ู แล้วรว่ มกันสรา้ ง ข้อตกลงในการเล่นเครอ่ื งเลน่ สนาม เช่น - เล่นอย่างถกู วธิ ี ไมเ่ ล่นโลดโผน- เข้าแถวรอคอยเล่นต่อจากเพื่อน - รจู้ กั แบง่ ปันกันเลน่ - เล่นเครอื่ งเลน่ อย่างทะนถุ นอม ไมท่ ำลายให้เสยี หาย - เล่นรว่ มกนั ไมท่ ะเลาะกนั - ไมเ่ ดด็ ใบไม้ ดอกไมม้ าเล่น - รจู้ ักขอบคุณเมอ่ื ครชู ่วยเหลือ ขอบใจเมอื่ เพอ่ื นช่วยเหลือ และขอโทษเม่ือทำใหผ้ ู้อนื่ เจบ็ หรือเดือดร้อน - เมอ่ื ไดย้ ินเสยี งนกหวดี ใหห้ ยุดเลน่ ทันที เตรยี มเขา้ แถวที่หนา้ สนามเด็กเล่น 3. ครูใหเ้ ดก็ คิดวางแผนการเล่นเครื่องเลน่ สนามตามลำดบั ความสนใจ จากน้นั ใหเ้ ล่นตามทค่ี ิดวางแผนไว้ อยา่ งอิสระ ปฏิบตั ิตามข้อตกลง และเม่อื ได้ยนิ เสียงนกหวดี ให้หยดุ เล่น แล้วมาเขา้ แถวทีห่ น้าสนามเดก็ เลน่ 4. ครูให้เดก็ อาสาสมคั รออกมาบอกเล่าถงึ ส่ิงท่ตี นเองเล่น ความรู้สึก และปัญหาท่ีพบ รวมถึงวิธแี ก้ปัญหาอย่างไร  ประเมินผล 2. สงั เกตการเลน่ รว่ มกับผอู้ น่ื 1. สังเกตการเคล่อื นไหวและการทรงตัว 3. สังเกตการแสดงความอดทน เอื้อเฟื้อ แบ่งปัน และรู้จักรอคอย 4. สังเกตทัศนคตทิ ่ีดีในการออกกำลังกาย สอ่ื การเรยี นรู้  1. นกหวีด 2. เครอ่ื งเลน่ สนาม

กิจกรรมเกมการศกึ ษา  สาระท่ีควรเรียนรู้ การเล่นเกมจบั คู่จำนวนนิ้วมอื กับตวั เลข  มาตรฐานคุณลกั ษณะท่ีพงึ ประสงค์ / ประสบการณ์สำคัญ รา่ งกาย อารมณ์ จติ ใจ สังคม สตปิ ัญญา มาตรฐานคุณลกั ษณะท่ีพงึ ประสงค์ มฐ.1 มฐ.2 มฐ.3 มฐ.4 มฐ.5 มฐ.6 มฐ.7 มฐ.8 มฐ.9 มฐ.10 มฐ.11 มฐ.12 1.3 2.2 3.1, 3.2 5.1,5.2,5 6.2,6.3 7.2 8.1,8.2, 9.1,9.2 10.1,10.3 12.1 .3 8.3 ประสบการณส์ ำคัญ 1.3 รกั ษาความ 3.1 แสดงออกทางอารมณไ์ ด้ 6.2 มวี นิ ยั ในตนเอง(สภาพท่ี 9.1 รับรแู้ ละเข้าใจความหมายของภาษา ปลอดภัยของตนเอง อย่างเหมาะสม(สภาพที่พงึ พงึ ประสงค)์ ได้(สภาพทพี่ งึ ประสงค์) และผอู้ น่ื (สภาพท่พี งึ ประสงค์) 6.3 ประหยัดและพอเพยี ง 9.2 แสดงออกและ/หรอื พูดเพื่อสอ่ื (สภาพทพ่ี ึงประสงค์) ความหมายได้(สภาพที่พงึ ประสงค)์ ประสงค)์ 3.2 มคี วามร้สู กึ ทดี่ ตี อ่ ตนเอง 7.2 ดูแลรักษาธรรมชาติ 10.1 มีความสามารถในการคิดรวบยอด 2.2 ใช้มือ-ตา และผู้อืน่ (สภาพทีพ่ ึงประสงค)์ และส่ิงแวดลอ้ ม(สภาพทพี่ งึ (สภาพท่ีพึงประสงค)์ ประสานสัมพนั ธก์ นั 5.1 ซือ่ สัตยส์ ุจริต(สภาพที่พงึ ประสงค)์ 10.3 มีความสามารถในการคดิ แก้ปญั หาและ 8.1 ยอมรับความเหมือน ตดั สนิ ใจ(สภาพทพี่ ึงประสงค)์ (สภาพท่พี งึ ประสงค์) ประสงค)์ 5.2 มคี วามเมตตากรุณา มี นำ้ ใจและช่วยเหลอื แบ่งปนั และความแตกตา่ งระหว่าง 12.1 มเี จตคติท่ดี ีตอ่ การเรยี นรู้ (สภาพทพ่ี งึ ประสงค)์ บคุ คล(สภาพท่พี ึงประสงค์) (สภาพที่พึงประสงค์) 5.3 มคี วามเห็นอกเหน็ ใจผอู้ ่ืน 8.2 มีปฏิสัมพันธ์ทด่ี กี ับผอู้ น่ื (สภาพท่พี งึ ประสงค)์ (สภาพท่พี งึ ประสงค์) 8.3 ปฏิบตั ติ นเบอื้ งต้นใน การเป็นสมาชิกทดี่ ขี องสงั คม (สภาพที่พึงประสงค)์  จุดประสงค์ 1. พัฒนากล้ามเนื้อมดั เล็กและตาให้ประสานสัมพนั ธ์กนั 2. ฝึกทักษะกระบวนการแก้ไขปัญหาได้ 3. พฒั นาทกั ษะทางสตปิ ญั ญา เช่น การสังเกต การเปรยี บเทยี บ ความรู้ความเขา้ ใจในเร่อื งตา่ งๆ 4. สง่ เสริมคณุ ธรรม จรยิ ธรรม มคี วามอดทน เออ้ื เฟือ้ แบ่งปนั และรู้จักการรอคอย  กจิ กรรมการเรียนรู้ 1. ครแู นะนำเกม จบั ค่จู ำนวนนิ้วมือกับตวั เลข และสาธติ วิธีการเลน่ ให้เด็กดู พร้อมใหเ้ ด็กมสี ว่ นรว่ มดว้ ย 2. ครูทบทวนเกมเก่าท่เี คยเล่นมาแล้ว และรว่ มกันสร้างขอ้ ตกลงในการเลน่ เช่น - ไมส่ ่งเสียงดังขณะเล่น - รจู้ กั แบง่ ปนั กนั เลน่ - เลน่ อย่างทะนุถนอม ไม่ทำลายให้เสียหาย - รจู้ กั ขอบคุณเม่อื ครูช่วยเหลือ ขอบใจเมอื่ เพอ่ื นช่วยเหลือ และขอโทษเม่ือทำให้ผอู้ น่ื เจบ็ หรอื เดือดรอ้ น - เมื่อได้ยินสญั ญาณหยุด (เคาะจงั หวะ 2 ครัง้ ) ให้เกบ็ เกมเข้าที่ และมานัง่ รวมกันที่หนา้ หอ้ ง

3. ครแู บ่งเด็กเป็นกลุ่มย่อย กล่มุ ละ 4 คน ให้กลุ่มแรกเล่นเกม จบั คู่จำนวนนว้ิ มือกบั ตัวเลข กลุม่ ทเ่ี หลือเล่นเกม ทีเ่ คยเลน่ มาแล้ว เม่ือเล่นเสรจ็ ให้หมุนเวยี นกันเลน่ จนครบทุกเกม เมอ่ื ไดย้ ินสัญญาณหยุดให้เก็บเกมเขา้ ที่ ใหเ้ รยี บร้อย และมานัง่ รวมกนั ทหี่ น้าหอ้ ง 4. ครใู หเ้ ดก็ อาสาสมคั รออกมาบอกเลา่ ถึงเกมทต่ี นเองเลน่ ความรู้สึก และปัญหาทพ่ี บ รวมถึงวิธีแก้ปัญหาอย่างไร  ประเมินผล 1. สงั เกตการใช้กล้ามเนอื้ มดั เล็กและตาให้ประสานสมั พันธก์ นั 2. สงั เกตกระบวนการแก้ไขปัญหา 3. สังเกตทกั ษะทางสตปิ ญั ญา เชน่ การสังเกต การเปรยี บเทยี บ ความรู้ความเข้าใจในเรอ่ื งตา่ งๆ 4. สงั เกตการแสดงความเอ้ือเฟ้อื แบง่ ปนั และรู้จกั การรอคอย  ส่อื การเรียนรู้ 1. เกมจับค่จู ำนวนนิว้ มือกบั ตัวเลข 2. เกมเก่าท่เี คยเล่นมาแลว้ 3. เครื่องเคาะจงั หวะ  ภาคผนวก  เกมจบั คู่จำนวนนวิ้ มือกับตวั เลข 16 27 38 49 5 10

เรื่องราวเกีย่ วกบั ตวั เดก็  สาระทคี่ วรเรยี นรู้ ประสาทสมั ผัสทงั้ 5 ของเรา ช่วยในการรับรู้ส่งิ ตา่ งๆ รอบตวั ไดแ้ ก่ ตารบั รู้ส่ิงที่มองเห็น หูรับรเู้ สียงทไ่ี ดย้ ิน จมูก รบั ร้กู ล่ิน ลิ้นรบั รู้รสชาติของอาหาร มือและผิวหนังรับรคู้ วามรูส้ กึ ต่างๆ เราตอ้ งดูแลประสาทสัมผัสของเรา ใหท้ ำงานอยา่ งดี สง่ิ ทเ่ี ดก็ รแู้ ลว้ สิง่ ที่เดก็ ต้องการรู้ ส่งิ ทเ่ี ดก็ ควรรู้ - ดวงตาช่วยสำรวจ - หจู ำแนกเสยี ง - จมกู ดมกลิน่ - ล้นิ ชิมรส - สัมผสั บอกความรู้สึก  การจัดประสบการณบ์ รู ณาการ กจิ กรรมเคลื่อนไหวและจงั หวะ กจิ กรรมสร้างสรรค์ กิจกรรมเกมการศกึ ษา 1. กำรเคล่ือนไหวรำ่ งกำยประกอบเพลง 1. กำรวำดภำพสิ่งของทีเ่ หน็ ในหอ้ งเรียน 1. เกมจับคู่คำศพั ทอ์ วัยวะกับภำพ ประสำทสมั ผัส และกำรหยดสี เป่ำสี 2. เกมจำแนกประเภทของเสียง 3. เกมภำพตดั ตอ่ ประสำทสัมผัส 2. กำรเคลื่อนไหวร่ำงกำยตำมจินตนำกำร 2. กำรวำดภำพเสียงสิ่งของทไี่ ดย้ ิน 4. เกมโดมโิ นภำพประสำทสัมผสั ประกอบจังหวะดนตรี 3. กำรระบำยสีภำพกลิ่นหอมของดอกไม้ 5. เกมจับคู่ภำพเหมือนกำรใช้ประสำทสมั ผสั 4. กำรปะ ติดภำพลนิ้ ชิมรส 3. กำรเคลื่อนไหวร่ำงกำยตำมคำสั่ง 5. กำรประดิษฐ์มอื วิเศษ และพิมพภ์ ำพ กิจกรรมกลางแจง้ 4. กำรเคล่ือนไหวร่ำงกำยพรอ้ มอปุ กรณ์ 1. กำรเล่นเครื่องเล่นสนำม 5. กำรเคลอ่ื นไหวร่ำงกำยประกอบจังหวะ ดว้ ยมือ 2. กำรสำรวจนอกห้องเรียน “เสียงท่ไี ดย้ นิ 3. กำรละเลน่ ไทย “มอญซ่อนผ้ำ” กิจกรรมหลกั กิจกรรมเสรี 4. กำรเล่นเครื่องเลน่ สนำม 6 กิจกรรม 5. กำรเล่นทรำย 1. เล่นตำมมมุ ประสบกำรณ์ กจิ กรรมเสรมิ ประสบการณ์ 2. จดั มุมวทิ ยำศำสตร์ โดยเพม่ิ เติมกลอ่ ง 1. กจิ กรรม “ดวงตาช่วยสารวจ” ทม่ี ีเสียงจำกหลำกหลำยวสั ดุ เช่น 2. กจิ กรรม “หจู าแนกเสียง” กลอ่ งใสท่ รำย กอ้ นกรวด เมลด็ พชื 3. กิจกรรม “จมูกดมกล่นิ ” กระด่งิ เป็นตน้ ใหเ้ ด็กทดลองฟังเสียง 4. กิจกรรม “ลนิ้ ชมิ รส” ตำมควำมสนใจ 5. กิจกรรม “สมั ผสั บอกความรูส้ ึก”

แนวทางการจัดประสบการณ์การเรยี นรู้ การศึกษาปฐมวยั ภาคเรยี นที่...1... สำหรบั เดก็ ทม่ี คี วามตอ้ งการจำเป็นพเิ ศษ ช่วงอายุ .....4-5...... ปี สาระการเรียนรูท้ ่ี..1.. หนว่ ย .ประสาทสมั ผัสของเรา วนั ท่ี 1 ดวงตาชว่ ยสำรวจ กจิ กรรมเสรมิ ประสบการณ์  สาระทค่ี วรเรยี นรู้ ประสาทสัมผสั ท้งั 5 ของเรา ชว่ ยในการรับรสู้ ่ิงต่างๆ รอบตัว ได้แก่ ตารบั รู้สิ่งท่ีมองเห็น หูรับร้เู สยี งทีไ่ ดย้ นิ จมูกรับรู้กล่ินตา่ งๆ ลิ้นรับรรู้ สชาตขิ องอาหาร และผวิ หนงั รบั ร้คู วามรู้สึกต่างๆ เราตอ้ งดแู ลประสาทสมั ผสั ของเราให้ทำงานอยา่ งดี สาระสำคญั เด็กได้เรียนรเู้ ก่ียวกับอวยั วะทใ่ี ชใ้ นการมองเหน็ คือ ดวงตา มหี น้าทร่ี ับขอ้ มลู ท่ีเป็นภาพ สำรวจสิ่งตา่ งๆ รอบตัว ทำใหม้ องเห็นสง่ิ ต่างๆ และปฏบิ ตั ิกจิ กรรมตา่ งๆ ได้ด้วยดี  มาตรฐานคณุ ลกั ษณะที่พึงประสงค์ / ประสบการณ์สำคญั สติปญั ญา ร่างกาย อารมณ์ จิตใจ สงั คม มาตรฐานคณุ ลักษณะท่พี ึงประสงค์ มฐ.1 มฐ.2 มฐ.3 มฐ.4 มฐ.5 มฐ.6 มฐ.7 มฐ.8 มฐ.9 มฐ.10 มฐ.11 มฐ.12 1.2, 1.3 2.1, 2.2 3.1, 3.2 4.1 5.4 6.1 7.2 8.2, 8.3 9.1,9.2 10.1, 10.3 11.1,11.2 12.1,12.2 ประสบการณส์ ำคญั 1.2 มีสขุ ภาพ 3.1 แสดงออกทางอารมณไ์ ด้ 6.1 ช่วยเหลอื ตนเองในการ 9.1 รบั ร้แู ละเข้าใจความหมายของภาษาได้ อนามยั สุขนิสยั ทดี่ ี อยา่ งเหมาะสม ปฏบิ ัติกจิ วตั รประจำวัน (สภาพทพี่ ึงประสงค์) (สภาพทีพ่ ึงประสงค์) (สภาพทพ่ี ึงประสงค)์ (สภาพท่พี งึ ประสงค)์ 9.2 แสดงออกและ/หรือพดู เพอ่ื ส่ือ 1.3 รกั ษาความ 3.2 มคี วามรู้สึกที่ดีตอ่ ตนเอง 7.2 ดูแลรกั ษาธรรมชาติ ความหมายได้ (สภาพทีพ่ ึงประสงค์) ปลอดภยั ของตนเอง และผอู้ ื่น และสิ่งแวดล้อม 10.1 มีความสามารถในการคิดรวบยอด และผู้อืน่ (สภาพทพ่ี ึงประสงค์) (สภาพทีพ่ งึ ประสงค์) (สภาพท่พี ึงประสงค์) (สภาพที่พงึ ประสงค)์ 4.1 สนใจ มคี วามสขุ และ 8.2 มีปฏิสมั พนั ธ์ท่ดี กี ับผ้อู ื่น 10.3 มีความสามารถในการคดิ แกป้ ัญหาและ 2.1 เคล่อื นไหว แสดงออกผา่ นงานศิลปะดนตรี (สภาพทพ่ี งึ ประสงค)์ ตดั สินใจ (สภาพทพี่ งึ ประสงค์) ร่างกายอยา่ ง และการเคลอื่ นไหว(สภาพท่ี 8.3 ปฏิบัตติ นเบ้อื งตน้ ใน 11.1 ทำงานศลิ ปะตามจินตนาการและ คลอ่ งแคล่วประสาน พงึ ประสงค)์ การเปน็ สมาชกิ ทด่ี ีของสงั คม ความคดิ สร้างสรรค์ สัมพนั ธ์และทรงตวั 5.4 มคี วามรับผิดชอบ (สภาพที่ (สภาพที่พึงประสงค์) (สภาพทพ่ี ึงประสงค์) ได้ พงึ ประสงค์) 11.2 แสดงทา่ ทาง/เคลื่อนไหวตามจินตนาการ (สภาพที่พงึ ประสงค)์ อยา่ งสรา้ งสรรค์ 2.2 ใช้มือ-ตา (สภาพทีพ่ งึ ประสงค)์ ประสานสมั พนั ธก์ นั 12.1 มเี จตคตทิ ีด่ ตี อ่ การเรยี นรู้ (สภาพทพี่ ึงประสงค์) (สภาพที่พงึ ประสงค)์ 12.2 มีความสามารถในการแสวงหาความรู้ (สภาพทพี่ ึงประสงค์)

 จุดประสงค์ 1. บอกหน้าทีข่ องตา และใชต้ าสำรวจสิง่ ของรอบตัวได้ 2. พฒั นากลา้ มเน้อื มอื และตาใหป้ ระสานสัมพนั ธก์ ันจากการวาดภาพ  กิจกรรมการเรียนรู้ ขนั้ นำ 1. ครูและเดก็ รว่ มกนั รอ้ งเพลง ประสาทสัมผสั และทำทา่ ทางประกอบเพลงตามจินตนาการ 2. ครูถามคำถามเพ่ิมเติมเกยี่ วกับอวยั วะท่ีใช้ในการมองเหน็ เชน่  ตามีไวม้ องดูสิ่งใดบา้ ง (ให้เดก็ คดิ คำตอบโดยไม่ใหซ้ ้ำกัน) ข้ันสอน 1. ครูให้เด็กแบง่ กล่มุ กลมุ่ ละ 4-5 คน โดยให้แต่ละกลุ่ม ช่วยกันสำรวจส่ิงของในหอ้ งเรียน และสงิ่ ของนอก หอ้ งเรยี น 2. ครูให้เดก็ แตล่ ะกลุ่มช่วยกันบันทกึ ขอ้ มูลโดยการวาดภาพสิง่ ของที่สำรวจพบ ท้ังในห้องเรยี น และนอก หอ้ งเรียน 3. ครูใหเ้ วลาเด็กแต่ละกล่มุ ในการสงั เกตและสรปุ ผล โดยครูเดินสำรวจการปฏบิ ตั กิ ิจกรรมของเด็กแตล่ ะกล่มุ และคอยให้คำแนะนำเพมิ่ เตมิ เมื่อเด็กต้องการ ขนั้ สรปุ 1. ครใู ห้เด็กแต่ละกลมุ่ นำเสนอผลการสำรวจ ดังน้ี  ช่ือของสง่ิ ทสี่ ังเกต  รปู ร่างลกั ษณะของส่งิ ทีส่ ังเกต  วิธีการสังเกตโดยใชป้ ระสาทสัมผัสอะไรบา้ ง 2. ครูและเด็กรว่ มกนั สรุปเก่ียวกับผลการสังเกตเปรียบเทยี บ โดยครอู ธิบายความรเู้ พมิ่ เติมในการสงั เกต เปรยี บเทียบสง่ิ ของต่างๆ นนั้ สง่ิ ของบางอย่างอาจใชป้ ระสาทสมั ผัสทั้ง 5 ส่วนในการสงั เกต แตส่ ิ่งของ บางอย่างอาจใชป้ ระสาทสัมผสั ไมค่ รบทัง้ 5 สว่ นในการสังเกตกไ็ ด้ 3. ครูให้เดก็ ทำกจิ กรรมในหนังสือเสรมิ ฯ เร่ืองราวเกย่ี วกบั ตวั เด็ก อ.2 กจิ กรรม ดวงตาชว่ ยสำรวจ หนา้ 9 โดย ให้เด็กใช้ตาสำรวจส่งิ ของทีอ่ ยใู่ นและนอกห้องเรียน แลว้ วาดภาพสิง่ ของที่มองเหน็ สถานท่ีละ 2 อย่าง พร้อม บอกช่ือ  ประเมนิ ผล 1. สงั เกตการสนทนาและการตอบคำถามเกย่ี วกบั อวัยวะที่ทำหนา้ ที่ในการมองเหน็ 2. สงั เกตความสนใจในการทำกิจกรรมร่วมกัน 3. สังเกตผลงานการทำกิจกรรม ดวงตาช่วยสำรวจ  ส่อื การเรียนรู้ 1. เพลง ประสาทสัมผัส 2. สงิ่ ของสำหรบั สังเกต เชน่ ของเล่น หนงั สือ ต้นไม้ เปน็ ต้น

 ภาคผนวก  เพลง ประสาทสัมผัส เ เพลง ประสาทสมั ผัส คำร้อง-ทำนอง กัมปนาท โนนศรี ประสาทสัมผสั ท้ัง 5 เพือ่ นๆ จา๋ ควรจำเอาไว้ ตามองเห็นใกล้และไกล หูชว่ ยใหฟ้ ังเสยี งรอบกาย จมกู ดมกลิ่นมากมาย ลนิ้ รบั รสได้ หวาน เค็ม เปรี้ยว ขม สดุ ท้ายผวิ หนังรับรู้สมั ผัส ใหเ้ รารูจ้ กั เรยี บ และขรุขระ เจบ็ เยน็ รอ้ น หนาว ตา หู จมกู ลน้ิ ผิวหนัง (ซ้ำ 2 ครงั้ )

แนวทางการจัดประสบการณ์การเรยี นรู้ การศกึ ษาปฐมวยั ภาคเรียนที่...1... สำหรับเด็กทม่ี ีความตอ้ งการจำเป็นพเิ ศษ ชว่ งอายุ .....4-5...... ปี สาระการเรียนรทู้ .ี่ .1.. หนว่ ย .ประสาทสมั ผสั ของเรา วนั ที่ 2 หจู าแนกเสียง กจิ กรรมเสรมิ ประสบการณ์  สาระท่คี วรเรยี นรู้ ประสาทสมั ผสั ทั้ง 5 ของเรา ช่วยในการรบั รูส้ งิ่ ตา่ งๆ รอบตัว ไดแ้ ก่ ตารับรสู้ ิง่ ที่มองเหน็ หรู ับรเู้ สยี งที่ได้ ยนิ จมกู รบั รู้กล่นิ ลน้ิ รับรู้รสชาตขิ องอาหาร มือและผิวหนงั รบั ร้คู วามรูส้ ึกตา่ งๆ เราตอ้ งดูแลประสาทสมั ผัสของ เราให้ทำงานอย่างดี สาระสำคญั เสยี ง เด็กได้เรียนรเู้ ก่ยี วกบั เสยี งท่เี กดิ ขนึ้ เองตามธรรมชาติ เชน่ เสยี งสัตว์ชนิดตา่ งๆ เสียงลมพดั ฝนตก เปน็ ตน้ และเสียงท่เี กิดจากสง่ิ ท่มี นษุ ย์สรา้ งขน้ึ เช่น เสยี งรถยนต์ เสยี งโทรศัพท์ เปน็ ตน้  มาตรฐานคุณลักษณะที่พงึ ประสงค์ / ประสบการณ์สำคญั รา่ งกาย อารมณ์ จติ ใจ สงั คม สตปิ ญั ญา มาตรฐานคุณลักษณะท่พี งึ ประสงค์ มฐ.1 มฐ.2 มฐ.3 มฐ.4 มฐ.5 มฐ.6 มฐ.7 มฐ.8 มฐ.9 มฐ.10 มฐ.11 มฐ.12 1.2, 1.3 2.1, 2.2 3.1, 3.2 4.1 5.4 6.1 7.2 8.2, 8.3 9.1,9.2 10.1, 10.3 11.1,11.2 12.1,12.2 ประสบการณ์สำคัญ 1.2 มีสขุ ภาพ 3.1 แสดงออกทางอารมณไ์ ด้ 6.1 ชว่ ยเหลือตนเองในการ 9.1 รบั รู้และเข้าใจความหมายของภาษาได้ อนามยั สุขนิสยั ทดี่ ี อยา่ งเหมาะสม ปฏิบตั กิ จิ วตั รประจำวัน (สภาพที่พึงประสงค)์ (สภาพทพ่ี งึ ประสงค์) (สภาพทพ่ี ึงประสงค์) (สภาพทพี่ งึ ประสงค์) 9.2 แสดงออกและ/หรือพดู เพ่ือสอ่ื 1.3 รกั ษาความ 3.2 มคี วามรู้สึกทดี่ ตี อ่ ตนเอง 7.2 ดแู ลรักษาธรรมชาติ ความหมายได้ (สภาพท่ีพงึ ประสงค์) ปลอดภัยของตนเอง และผอู้ น่ื และสิ่งแวดล้อม 10.1 มคี วามสามารถในการคดิ รวบยอด และผู้อน่ื (สภาพที่พงึ ประสงค์) (สภาพท่ีพึงประสงค์) (สภาพที่พึงประสงค์) (สภาพที่พึงประสงค์) 4.1 สนใจ มีความสุขและ 8.2 มีปฏิสมั พันธ์ทดี่ กี บั ผ้อู นื่ 10.3 มคี วามสามารถในการคิดแก้ปัญหาและ 2.1 เคลอ่ื นไหว แสดงออกผ่านงานศลิ ปะดนตรี (สภาพทพ่ี งึ ประสงค)์ ตัดสินใจ (สภาพทพี่ ึงประสงค์) รา่ งกายอย่าง และการเคลอ่ื นไหว(สภาพที่ 8.3 ปฏิบตั ติ นเบื้องต้นใน 11.1 ทำงานศลิ ปะตามจินตนาการและ คลอ่ งแคล่วประสาน พึงประสงค์) การเป็นสมาชกิ ที่ดีของสงั คม ความคดิ สรา้ งสรรค์ สัมพันธ์และทรงตวั 5.4 มีความรับผิดชอบ (สภาพที่ (สภาพทพี่ ึงประสงค์) (สภาพที่พงึ ประสงค)์ ได้ พงึ ประสงค)์ 11.2 แสดงท่าทาง/เคลื่อนไหวตามจินตนาการ (สภาพทพี่ ึงประสงค์) อย่างสรา้ งสรรค์ 2.2 ใชม้ อื -ตา (สภาพทีพ่ ึงประสงค์) ประสานสัมพันธก์ นั 12.1 มีเจตคตทิ ี่ดตี อ่ การเรยี นรู้ (สภาพทพี่ งึ (สภาพท่พี งึ ประสงค)์ ประสงค์) 12.2 มีความสามารถในการแสวงหาความรู้  จุดประสงค์

1. บอกทม่ี าของเสยี งทเี่ กิดขึน้ เองตามธรรมชาตแิ ละเสยี งท่คี นสรา้ งขึ้นได้ 2. บอกหนา้ ทข่ี องหู และใชห้ ูสำรวจเสียงต่างๆ รอบตวั ได้  กิจกรรมการเรียนรู้ ข้นั นำ 1. ครูแจกบตั รภาพและบัตรคำศพั ทอ์ วัยวะใหเ้ ดก็ แล้วใหเ้ ด็กเลน่ เกมจบั คู่บัตรภาพกบั บัตรคำศัพท์ เชน่ : ear : eye : mouth 2. เมื่อเดก็ จบั คู่บตั รภาพกับบัตรคำศพั ทไ์ ด้แลว้ ให้แตล่ ะคู่ออกมานำเสนอคำศพั ท์ที่หนา้ ห้องเรยี น ข้ันสอน 1. ครูพาเดก็ ไปทดลองฟงั เสยี งตา่ งๆ นอกห้องเรยี น โดยกำหนดข้อตกลงท่ปี ฏิบัตริ ว่ มกนั เช่น  ในขณะท่เี ดนิ ทางไปสำรวจ ควรเดนิ อย่างเปน็ ระเบยี บ  ไมพ่ ูดคยุ หรือสง่ เสียงดงั รบกวนผูอ้ นื่  ในขณะทที่ ดลองฟงั เสยี งไม่ควรสง่ เสียงดัง เพราะจะทำใหเ้ ราไม่ได้ยนิ เสยี งตา่ งๆ  ควรยกมือถา้ ตอ้ งการตอบหรอื ถามคำถาม 2. ครูให้เด็กทดลองเงยี บและฟงั เสยี งต่างๆ รอบตวั จากนนั้ ครใู ห้อาสาสมคั รออกมาเลา่ ถึงลกั ษณะเสียง ท่ไี ดย้ ินเพอ่ื สนทนาแลกเปลย่ี นประสบการณร์ ่วมกัน 3. ครูให้เด็กผลัดกนั ทำเสยี งตา่ งๆ และชว่ ยกันบอกวา่ คอื เสยี งอะไร เกิดจากธรรมชาติหรอื คนสรา้ งขึ้น 4. ครใู ห้ความรู้เพ่มิ เตมิ เกีย่ วกบั เสยี งที่เราไดย้ ินวา่ อาจเกดิ จากส่งิ ทม่ี นุษย์สร้างขนึ้ เชน่ เสียงดนตรี เสยี งรถยนต์ ตา่ งๆ เสยี งเคร่อื งมือสอ่ื สาร เป็นต้น และมีเสียงทีเ่ กิดข้นึ เองตามธรรมชาติ เช่น เสยี งฝนตก ฟา้ รอ้ ง เสียงร้อง ของสัตว์ เปน็ ตน้ ซงึ่ หขู องเรากส็ ามารถรับรเู้ สยี งท่ไี ด้ยินผ่านประสาทสมั ผสั ของเรา ขนั้ สรุป 1. ครใู ห้เด็กดูภาพในหนังสือเสรมิ ฯ เรอ่ื งราวเกย่ี วกับตัวเด็ก อ.2 กิจกรรม หูจำแนกเสยี ง หน้า 10 โดยให้เดก็ ระบายสเี ขียวภาพเสียงทเ่ี กิดข้นึ จากธรรมชาติ และระบายสีส้มภาพเสียงท่คี นสร้างขึ้น 2. ครูและเดก็ ร่วมกนั ตรวจสอบผลงานและสรุปท่ีมาของประเภทของเสยี ง โดยใชบ้ ัตรภาพเสยี งทเี่ กดิ ขึ้นตาม ธรรมชาตแิ ละเสียงทมี่ นษุ ยส์ รา้ งขึ้นประกอบ  ประเมินผล 1. สังเกตการจำแนกประเภทของเสยี งท่เี กดิ ข้นึ ตามธรรมชาตแิ ละเสียงที่มนุษยส์ รา้ งขึ้น 2. สังเกตการสนทนาและการตอบคำถาม 3. สังเกตความสนใจในการทำกิจกรรมร่วมกนั กบั เพอื่ น 4. สังเกตผลงานการทำกจิ กรรม หูจำแนกเสียง  สือ่ การเรียนรู้ 2. บัตรภาพและบตั รคำศพั ทอ์ วยั วะ 1. บรเิ วณรอบๆ โรงเรียน 3. บตั รภาพเสยี งทีเ่ กิดขนึ้ ตามธรรมชาตแิ ละเสียงทม่ี นุษยส์ ร้างขึน้

 ภาคผนวก  บัตรภาพและบตั รคำศพั ท์ : ear : eye : mouth  บัตรภาพเสียงทีม่ นษุ ยส์ รา้ งขน้ึ  บตั รภาพเสียงทีเ่ กิดข้ึนตามธรรมชาติ

แนวทางการจดั ประสบการณ์การเรยี นรู้ การศึกษาปฐมวัย ภาคเรยี นที่...1... สำหรับเด็กท่มี คี วามตอ้ งการจำเปน็ พิเศษ ชว่ งอายุ .....4-5.. ปี สาระการเรียนรทู้ ่ี..1.. หนว่ ย .ประสาทสัมผสั ของเรา วันท่ี 3 จมกู ดมกลิน่ กจิ กรรมเสรมิ ประสบการณ์  สาระที่ควรเรยี นรู้ ประสาทสมั ผัสทง้ั 5 ของเรา ช่วยในการรบั รสู้ ิง่ ตา่ งๆ รอบตวั ได้แก่ ตารับรสู้ ่ิงท่ีมองเหน็ หูรับรู้เสยี งทไ่ี ด้ ยนิ จมูกรบั ร้กู ล่นิ ลิน้ รับรู้รสชาติของอาหาร มอื และผิวหนังรบั รคู้ วามรู้สึกตา่ งๆ เราตอ้ งดแู ลประสาทสมั ผัสของ เราให้ทำงานอยา่ งดี สาระสำคญั เดก็ ได้เรียนรเู้ กี่ยวกบั ลกั ษณะของกล่ินหอม กลิ่นเหม็นจากสง่ิ ตา่ งๆ และรจู้ ักหน้าท่ีของจมกู ในการรับรู้ กลิน่ ตา่ งๆ ในชวี ิตประจำวัน  มาตรฐานคณุ ลักษณะทพ่ี ึงประสงค์ / ประสบการณส์ ำคัญ สตปิ ัญญา ร่างกาย อารมณ์ จติ ใจ สังคม มาตรฐานคณุ ลกั ษณะทพ่ี งึ ประสงค์ มฐ.1 มฐ.2 มฐ.3 มฐ.4 มฐ.5 มฐ.6 มฐ.7 มฐ.8 มฐ.9 มฐ.10 มฐ.11 มฐ.12 1.2, 1.3 2.1, 2.2 3.1, 3.2 4.1 5.4 6.1 7.2 8.2, 8.3 9.1,9.2 10.1,10.2, 11.1,11.2 12.1,12.2 10.3 ประสบการณ์สำคัญ 1.2 มีสุขภาพ 3.1 แสดงออกทางอารมณไ์ ด้ 6.1 ช่วยเหลอื ตนเองในการ 9.1 รับรแู้ ละเข้าใจความหมายของภาษาได้ อนามัยสุขนิสยั ทีด่ ี อย่างเหมาะสม ปฏิบตั ิกิจวตั รประจำวัน (สภาพที่พึงประสงค)์ (สภาพที่พึงประสงค์) (สภาพท่พี งึ ประสงค์) (สภาพทีพ่ งึ ประสงค)์ 9.2 แสดงออกและ/หรอื พูดเพื่อส่ือ 1.3 รกั ษาความ 3.2 มคี วามร้สู ึกทีด่ ตี อ่ ตนเอง 7.2 ดูแลรักษาธรรมชาติ ความหมายได้ (สภาพท่พี ึงประสงค์) ปลอดภัยของตนเอง และผู้อ่ืน และสิ่งแวดล้อม 10.1 มคี วามสามารถในการคดิ รวบยอด และผอู้ นื่ (สภาพท่พี งึ ประสงค)์ (สภาพทพ่ี งึ ประสงค)์ (สภาพทพ่ี งึ ประสงค)์ (สภาพทพ่ี งึ ประสงค)์ 4.1 สนใจ มคี วามสุขและ 8.2 มีปฏิสัมพนั ธ์ที่ดกี ับผู้อืน่ 10.3 มีความสามารถในการคิดแกป้ ญั หาและ 2.1 เคล่ือนไหว แสดงออกผา่ นงานศิลปะดนตรี (สภาพทีพ่ งึ ประสงค์) ตดั สินใจ (สภาพทพ่ี ึงประสงค์) ร่างกายอยา่ ง และการเคลอื่ นไหว(สภาพที่ 8.3 ปฏิบัตติ นเบ้ืองตน้ ใน 11.1 ทำงานศิลปะตามจนิ ตนาการและ คลอ่ งแคล่วประสาน พึงประสงค)์ การเป็นสมาชกิ ทีด่ ีของสังคม ความคิดสรา้ งสรรค์ สมั พันธ์และทรงตวั 5.4 มคี วามรับผดิ ชอบ (สภาพท่ี (สภาพท่พี ึงประสงค์) (สภาพที่พึงประสงค)์ ได้ พงึ ประสงค)์ 11.2 แสดงท่าทาง/เคลื่อนไหวตามจนิ ตนาการ (สภาพทพ่ี งึ ประสงค)์ อยา่ งสรา้ งสรรค์ 2.2 ใชม้ ือ-ตา (สภาพท่ีพงึ ประสงค)์ ประสานสัมพนั ธ์กัน 12.1 มเี จตคติทด่ี ตี อ่ การเรยี นรู้ (สภาพทพ่ี ึง ประสงค์) (สภาพที่พึงประสงค)์ 12.2 มคี วามสามารถในการแสวงหาความรู้

 จดุ ประสงค์ 1. บอกหนา้ ทข่ี องจมกู และใช้จมูกสำรวจกลนิ่ ต่างๆ รอบตัวได้ 2. สงั เกต จำแนกกลน่ิ ของส่ิงตา่ งๆ ท่หี อม และเหมน็ ได้  กจิ กรรมการเรยี นรู้ ขน้ั นำ 1. ครูใหเ้ ดก็ ทำท่าทางตามขอ้ ตกลง เม่อื ครูพูดวา่  กระโดดไปข้างหนา้ 1 ครง้ั แล้วทำทา่ ดมกลน่ิ แล้วพูดว่า ห้อม หอม  กระโดดไปขา้ งหลัง 1 ครงั้ แล้วทำทา่ เหมน็ แลว้ พูดวา่ เหม้น เหมน็ 2. ครูให้เด็กคดิ ชือ่ สง่ิ ของตา่ งๆ ที่มกี ลิน่ มา 1 ชนดิ แล้วใหบ้ อกวา่ มกี ล่ินหอมหรือกล่นิ เหม็น โดยไมใ่ ห้ซ้ำกนั กบั เพอื่ น ขัน้ สอน 1. ครูนำดอกกุหลาบ สบกู่ อ้ น นำ้ ปลา มาให้เด็กแต่ละคนทดลองดมกลน่ิ แล้วบอกความร้สู ึกทีไ่ ด้ดมกล่ินน้ัน โดย การยกป้ายบอกความรู้สึก รู้สึกวา่ หอม รู้สกึ ว่าเหมน็ 2. ครแู ละเดก็ ช่วยกนั นับจำนวนจากแผน่ ปา้ ยท่เี ดก็ ยกและสอบถามความรู้สึกทลี ะคนวา่ ทำไมจงึ รสู้ ึกเช่นนัน้ 3. ครูใหเ้ ด็กทดลองดมกลน่ิ ของส่ิงต่างๆ ทีม่ กี ล่ินหอม กลน่ิ เหม็น สลับไปมา ให้เดก็ ยกปา้ ยบอกความรู้สึก และ สนทนาสรปุ เก่ียวกบั การรับรกู้ ลิ่นต่างๆ จากการดมดว้ ยจมูกจากประสบการณ์ของเด็ก 4. ครูอธิบายเพ่มิ เติมวา่ บางคนอาจจะไมช่ อบกลิน่ ของดอกไม้บางชนิด เพราะดมแล้วรู้สึกเหม็น แต่บางคนชอบ เพราะดมแล้วร้สู กึ หอมสดช่ืน ซง่ึ ขึน้ อยู่กบั ความชอบของแตล่ ะคน 5. ครูเขียนตารางบันทกึ ผลการดมกลิ่นบอกความรู้สึกบนกระดาน แล้วให้เด็กช่วยกนั บนั ทึกความรู้สึกท่ีได้ ดมกล่นิ ลงในตาราง ขน้ั สรุป 1. ครูและเด็กรว่ มกันสรปุ ความรเู้ ก่ยี วกับลกั ษณะของกลน่ิ หอม กลน่ิ เหม็นจากสง่ิ ต่างๆ และหนา้ ทีข่ องจมูกใน การรับกลน่ิ ต่างๆ รอบตวั ในชวี ติ ประจำวัน 2. ครูให้เด็กดภู าพในหนงั สอื เสริมฯ เรือ่ งราวเกยี่ วกบั ตัวเดก็ อ.2 กจิ กรรม จมกู ดมกลนิ่ หนา้ 11 โดยครแู ละ เด็กร่วมกนั สนทนาเก่ยี วกับภาพทีม่ ีกลน่ิ หอม กลิ่นเหมน็ แล้วใหเ้ ด็กโยงเส้นจบั คู่ภาพกับคำทสี่ ัมพนั ธก์ ัน แล้ว ระบายสภี าพ  ประเมินผล 2. สังเกตความสนใจในการรว่ มกจิ กรรม 1. สังเกตการสนทนาและการตอบคำถามเก่ยี วกับการรบั ร้กู ลิ่น 3. สงั เกตผลงานการทำกจิ กรรม จมูกดมกล่นิ  สอ่ื การเรยี นรู้ 2. ป้ายบอกความรู้สกึ และ 1. ดอกกหุ ลาบ สบู่กอ้ น น้ำปลา 3. ภาพสง่ิ ของทมี่ ีกลิน่ หอมและกลิน่ เหมน็

4. หนงั สือเสริมฯ เรือ่ งราวเกี่ยวกับตวั เดก็ อ.2 กจิ กรรม จมกู ดมกลิ่น หนา้ 11  ภาคผนวก  ภาพกล่นิ หอมและกลิน่ เหม็น

แนวทางการจดั ประสบการณ์การเรยี นรู้ การศึกษาปฐมวัย ภาคเรยี นที่...1... สำหรบั เด็กที่มีความตอ้ งการจำเป็นพเิ ศษ ช่วงอายุ .....4-5. ปี สาระการเรียนร้ทู ่ี..1.. หน่วย .ประสาทสัมผสั ของเรา วนั ที่ 5 สัมผัสบอกความรสู้ ึก กิจกรรมเสริมประสบการณ์  สาระทีค่ วรเรียนรู้ ประสาทสัมผัสทัง้ 5 ของเรา ช่วยในการรับร้สู ิ่งต่างๆ รอบตวั ได้แก่ ตารับรู้สิง่ ทมี่ องเหน็ หูรบั รู้เสียงท่ไี ด้ ยนิ จมกู รบั รู้กล่ิน ล้ินรับรรู้ สชาติของอาหาร มอื และผิวหนงั รับรู้ความรสู้ ึกตา่ งๆ เราตอ้ งดแู ลประสาทสมั ผัสของ เราใหท้ ำงานอย่างดี สาระสำคญั เด็กได้เรยี นรูเ้ กี่ยวกับรสชาติของอาหารชนิดตา่ งๆ ท่มี ที ้งั รสเปร้ยี ว หวาน เค็ม ขม โดยใชล้ ิ้นทำหนา้ ท่ี รบั รูร้ สชาติของอาหารท่ีแตกตา่ งกัน เพราะล้นิ มปี ุม่ รับรสชาตทิ ำใหเ้ รารบั รรู้ สชาติของอาหารจากการชิมได้  มาตรฐานคุณลักษณะที่พงึ ประสงค์ / ประสบการณ์สำคัญ สติปญั ญา ร่างกาย อารมณ์ จิตใจ สงั คม มาตรฐานคุณลกั ษณะทีพ่ ึงประสงค์ มฐ.1 มฐ.2 มฐ.3 มฐ.4 มฐ.5 มฐ.6 มฐ.7 มฐ.8 มฐ.9 มฐ.10 มฐ.11 มฐ.12 1.2, 1.3 2.1, 2.2 3.1, 3.2 4.1 5.4 6.1 7.2 8.2, 8.3 9.1,9.2 10.1, 10.3 11.1,11.2 12.1,12.2 ประสบการณส์ ำคัญ 1.2 มีสขุ ภาพ 3.1 แสดงออกทางอารมณไ์ ด้ 6.1 ช่วยเหลอื ตนเองในการ 9.1 รบั รู้และเขา้ ใจความหมายของภาษาได้ อนามยั สขุ นิสัยที่ดี อยา่ งเหมาะสม ปฏิบตั กิ ิจวตั รประจำวนั (สภาพท่พี งึ ประสงค์) (สภาพท่ีพึงประสงค)์ (สภาพทพ่ี ึงประสงค)์ (สภาพท่ีพึงประสงค)์ 9.2 แสดงออกและ/หรอื พูดเพอื่ สอ่ื 1.3 รกั ษาความ 3.2 มคี วามรู้สกึ ท่ดี ีตอ่ ตนเอง 7.2 ดูแลรกั ษาธรรมชาติ ความหมายได้ (สภาพทีพ่ ึงประสงค์) ปลอดภัยของตนเอง และผอู้ นื่ และส่ิงแวดล้อม 10.1 มีความสามารถในการคดิ รวบยอด และผู้อื่น (สภาพที่พึงประสงค์) (สภาพทพ่ี ึงประสงค์) (สภาพที่พึงประสงค์) (สภาพทพ่ี งึ ประสงค์) 4.1 สนใจ มีความสุขและ 8.2 มีปฏิสัมพนั ธท์ ด่ี กี บั ผ้อู น่ื 10.3 มีความสามารถในการคดิ แกป้ ญั หาและ 2.1 เคลือ่ นไหว แสดงออกผา่ นงานศิลปะดนตรี (สภาพที่พึงประสงค์) ตดั สินใจ (สภาพทพ่ี งึ ประสงค์) ร่างกายอย่าง และการเคลอ่ื นไหว(สภาพที่ 8.3 ปฏบิ ัติตนเบื้องต้นใน 11.1 ทำงานศิลปะตามจินตนาการและ คลอ่ งแคล่วประสาน พงึ ประสงค์) การเป็นสมาชกิ ทด่ี ขี องสงั คม ความคดิ สรา้ งสรรค์ สมั พนั ธแ์ ละทรงตวั 5.4 มคี วามรับผิดชอบ (สภาพท่ี (สภาพทพ่ี ึงประสงค)์ (สภาพทพ่ี งึ ประสงค)์ ได้ พึงประสงค์) 11.2 แสดงทา่ ทาง/เคล่อื นไหวตามจนิ ตนาการ (สภาพท่พี ึงประสงค)์ อย่างสรา้ งสรรค์ 2.2 ใชม้ อื -ตา (สภาพท่ีพงึ ประสงค์) ประสานสัมพนั ธ์กนั 12.1 มีเจตคติทีด่ ีตอ่ การเรยี นรู้ (สภาพทพี่ งึ (สภาพทีพ่ ึงประสงค)์ ประสงค)์ 12.2 มคี วามสามารถในการแสวงหาความรู้ (สภาพที่พึงประสงค์)

 จุดประสงค์ 1. บอกหน้าท่ีของลน้ิ และทดลองชิมอาหารเพ่ือบอกรสชาติได้ 2. บอกชอ่ื และลกั ษณะของอาหารทมี่ รี สชาติตา่ งกัน 3. พัฒนากล้ามเนือ้ มอื และตาใหป้ ระสานสัมพันธก์ ันจากการวาดภาพอาหารตามรสชาติทกี่ ำหนดให้  กิจกรรมการเรียนรู้ ข้นั นำ 1. ครูให้เดก็ สังเกตลกั ษณะของผลไมท้ ี่นำมาทำน้ำผลไม้ ไดแ้ ก่ สม้ มะขาม และแตงโม 2. ครูและเด็กรว่ มกันสนทนาเกยี่ วกับลักษณะของผลไม้แตล่ ะชนิด โดยให้เดก็ ทเ่ี คยรบั ประทานผลไมแ้ ต่ละชนิด ลุกขึ้นมาเล่าถงึ รสชาตขิ องผลไมใ้ หเ้ พ่ือนฟงั จากนั้นครใู หเ้ ดก็ ๆ ทดลองชมิ รสชาติผลไม้ทงั้ 3 ชนิด ขน้ั สอน 1. ครูแบง่ เด็กออกเปน็ 3 กล่มุ เพื่อทำการทดลองชมิ รสชาตขิ องน้ำผลไม้ ดังนี้  กลมุ่ ท่ี 1 ชมิ นำ้ สม้  กลุม่ ที่ 2 ชิมน้ำมะขาม  กลุ่มท่ี 3 ชมิ นำ้ แตงโม 2. ครนู ำนำ้ ส้ม นำ้ มะขาม และนำ้ แตงโมที่ผา่ นการปรงุ รสชาติ เชน่ ใสน่ ำ้ ตาลและเกลอื มาใหเ้ ด็กแตล่ ะกลมุ่ ทดลองชมิ โดยให้เด็กแต่ละกลุม่ ช่วยกันสังเกตและคาดคะเนรสชาติของนำ้ ผลไมท้ ปี่ รงุ รสชาตแิ ล้ววา่ เปน็ อยา่ งไรกอ่ นการชิม 3. ให้เดก็ แตล่ ะกลุ่มชมิ นำ้ ผลไมข้ องกลมุ่ ตนเองและกล่มุ อื่นๆ แลว้ เปรยี บเทยี บรสชาตจิ ากการชมิ โดยครู ตั้งคำถามให้เด็กช่วยกนั ตอบคำถาม ดังน้ี  น้ำผลไมข้ องกลุ่มตนเองมรี สชาติอย่างไร  เด็กๆ แตล่ ะคนชอบรสชาตินำ้ ผลไมช้ นดิ ใดมากทีส่ ุด เพราะเหตุใด 4. ครูตง้ั คำถามสำรวจความชอบนำ้ ผลไมท้ ้งั 3 ชนิด ว่าเด็กๆ แต่ละคนชนื่ ชอบนำ้ ผลไม้ชนิดใดมากท่ีสุด รองลงมา และชอบนอ้ ยท่ีสุด โดยจัดทำเปน็ ตารางบันทึกผลบนกระดาน ข้ันสรุป 1. ครูให้อาสาสมัครในกลมุ่ น้ำส้ม น้ำมะขาม นำ้ แตงโม ออกมานำเสนอและสรุปผลการคาดคะเนรสชาติ และ การชมิ น้ำผลไม้ 2. ครูใหค้ วามรูเ้ พม่ิ เตมิ เกย่ี วกับการรบั รู้รสชาติตา่ งๆ ได้ เพราะลนิ้ มปี มุ่ รบั รรู้ สชาตทิ ำใหเ้ รารวู้ ่าอาหาร ชนิดน้ันๆ มีรสชาตเิ ปน็ อย่างไร 3. ครูให้เด็กทำกจิ กรรมในหนังสอื เสรมิ ประสบการณ์ เรื่องราวเกย่ี วกบั ตัวเดก็ อ.2 กิจกรรม ลน้ิ ชมิ รส หนา้ 12 โดยให้เดก็ วาดภาพอาหารท่ีมรี สชาติ เปรย้ี ว หวาน เคม็ ขม จากประสบการณข์ องเด็ก  ประเมนิ ผล 1. สงั เกตการบอกรสชาติและชอ่ื ของอาหารท่มี รี สชาติที่แตกตา่ งกัน 2. สงั เกตการสนทนาและการตอบคำถาม 3. สังเกตความสนใจในการร่วมกิจกรรม 4. สังเกตผลงานการทำกจิ กรรม ลิ้นชมิ รส

 สอ่ื การเรยี นรู้ 1. ผลไม้ของจริง เช่น มะขาม ส้ม แตงโม 2. น้ำผลไม้ เช่น นำ้ มะขาม นำ้ ส้ม น้ำแตงโม แนวทางการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ การศกึ ษาปฐมวัย ภาคเรยี นท่ี...1... สำหรับเดก็ ที่มีความตอ้ งการจำเป็นพเิ ศษ ชว่ งอายุ .....4-5...... ปี สาระการเรียนรู้ท่ี..1.. หนว่ ย .ประสาทสมั ผัสของเรา วันท่ี 5 สัมผสั บอกความรูส้ กึ กจิ กรรมเสริมประสบการณ์  สาระที่ควรเรียนรู้ ประสาทสัมผัสทง้ั 5 ของเรา ช่วยในการรับรสู้ ง่ิ ตา่ งๆ รอบตวั ได้แก่ ตารับรู้สิ่งทีม่ องเหน็ หรู บั ร้เู สียงท่ไี ด้ ยิน จมกู รับร้กู ลิน่ ล้นิ รับรู้รสชาตขิ องอาหาร มอื และผวิ หนังรับรูค้ วามรู้สึกตา่ งๆ เราตอ้ งดแู ลประสาทสมั ผัสของ เราใหท้ ำงานอย่างดี สาระสำคัญ เดก็ ไดเ้ รยี นรเู้ กย่ี วกับการบอกความร้สู กึ เม่ือสัมผสั กับสง่ิ ต่างๆ ทมี่ ีลักษณะแตกต่างกัน เช่น นุ่ม ร้อน แขง็ เย็น เป็นต้น และจดั ประเภทผวิ สมั ผัสน้นั ๆ ได้  มาตรฐานคณุ ลกั ษณะทพ่ี งึ ประสงค์ / ประสบการณส์ ำคญั รา่ งกาย อารมณ์ จติ ใจ สงั คม สตปิ ญั ญา มาตรฐานคุณลักษณะทพ่ี งึ ประสงค์ มฐ.1 มฐ.2 มฐ.3 มฐ.4 มฐ.5 มฐ.6 มฐ.7 มฐ.8 มฐ.9 มฐ.10 มฐ.11 มฐ.12 1.2, 1.3 2.1, 2.2 3.1, 3.2 4.1 5.4 6.1 7.2 8.2, 8.3 9.1,9.2 10.1,10.2 11.1,11.2 12.1,12.2 10.3 ประสบการณ์สำคัญ 1.2 มีสุขภาพ 3.1 แสดงออกทางอารมณไ์ ด้ 6.1 ช่วยเหลอื ตนเองในการ 9.1 รับรู้และเข้าใจความหมายของภาษาได้ อนามัยสขุ นิสยั ทดี่ ี อย่างเหมาะสม ปฏบิ ัตกิ ิจวตั รประจำวัน (สภาพท่ีพงึ ประสงค์) (สภาพทพี่ งึ ประสงค์) 9.2 แสดงออกและ/หรือพดู เพื่อส่ือ (สภาพทพี่ งึ ประสงค)์ (สภาพท่พี งึ ประสงค์) 7.2 ดูแลรกั ษาธรรมชาติ ความหมายได้ (สภาพทพี่ งึ ประสงค์) 1.3 รกั ษาความ 3.2 มคี วามรสู้ ึกทด่ี ตี อ่ ตนเอง และสิ่งแวดลอ้ ม 10.1 มีความสามารถในการคิดรวบยอด ปลอดภัยของตนเอง และผอู้ น่ื และผอู้ ื่น (สภาพท่พี งึ ประสงค)์ (สภาพทพ่ี ึงประสงค์) (สภาพทพี่ งึ ประสงค)์ (สภาพทพี่ งึ ประสงค์) 4.1 สนใจ มีความสุขและ 8.2 มปี ฏิสัมพันธ์ท่ีดกี ับผอู้ น่ื 10.3 มีความสามารถในการคิดแกป้ ญั หาและ 2.1 เคลอ่ื นไหว แสดงออกผ่านงานศิลปะดนตรี (สภาพทพ่ี ึงประสงค์) ตดั สินใจ (สภาพทพี่ ึงประสงค์) ร่างกายอย่าง และการเคล่อื นไหว(สภาพท่ี 8.3 ปฏิบัติตนเบ้ืองต้นใน 11.1 ทำงานศลิ ปะตามจนิ ตนาการและ คลอ่ งแคลว่ ประสาน พงึ ประสงค์) การเปน็ สมาชกิ ทีด่ ีของสงั คม ความคิดสรา้ งสรรค์(สภาพทพี่ งึ ประสงค์) (สภาพท่พี ึงประสงค)์

สมั พันธแ์ ละทรงตวั 5.4 มีความรับผดิ ชอบ (สภาพท่ี 11.2 แสดงทา่ ทาง/เคล่ือนไหวตามจนิ ตนาการ ได้ พงึ ประสงค)์ อย่างสรา้ งสรรค์(สภาพทพ่ี งึ ประสงค์) (สภาพทพี่ งึ ประสงค์) 12.1 มเี จตคติที่ดตี อ่ การเรยี นรู้ 2.2 ใช้มือ-ตา (สภาพทพ่ี งึ ประสงค)์ ประสานสัมพันธก์ ัน 12.2 มีความสามารถในการแสวงหาความรู้ (สภาพทีพ่ งึ (สภาพทพ่ี ึงประสงค์) ประสงค์)  จดุ ประสงค์ 1. บอกความรู้สกึ และผิวสมั ผสั แบบต่างๆ ได้ 2. สามารถรว่ มสนทนากบั ครูและเพ่ือน พรอ้ มกบั อธิบายส่งิ ตา่ งๆ อย่างมีเหตุผล  กจิ กรรมการเรียนรู้ ขน้ั นำ ครูให้เดก็ สงั เกตผิวหนงั ของตัวเอง หรอื ของเพื่อนแล้วซกั ถามเกย่ี วกับผวิ หนังวา่ มีลักษณะอยา่ งไร เช่น  หนา้ ท่ีของผิวหนงั คอื อะไร  ผิวหนงั ช่วยให้เรารบั รู้ทางประสาทสมั ผสั ได้อยา่ งไรบ้าง  เรามีวธิ ีดแู ลผวิ หนงั ของเราอย่างไรบ้าง ขนั้ สอน 1. ครูเตรียมอุปกรณ์ เช่น หมอนนุ่มๆ กอ้ นหนิ เหยือกนำ้ ใสน่ ้ำแขง็ ชามอาหารทม่ี อี าหารร้อนๆ ในชาม (ครูอาจทำกล่องปรศิ นา ซึ่งบรรจสุ ิง่ ของต่างๆ ให้เดก็ สมั ผัส) 2. ครูให้เดก็ ได้สัมผัสสง่ิ ท่ีครนู ำมาทีละอย่างเพื่อสนทนาแลกเปลย่ี นประสบการณโ์ ดยถามคำถาม เช่น  หลังจากได้สมั ผสั แล้วรู้สกึ อยา่ งไร  เดก็ ๆ เคยสัมผสั สง่ิ อ่นื ๆ ทรี่ ้สู ึกเหมือนกับการสัมผัสคร้งั นห้ี รอื ไม่ อย่างไร  เพราะอะไรเราจงึ รบั รู้ได้ว่า สงิ่ ใดร้อน เยน็ นุ่ม แขง็ ฯลฯ 3. ครใู ห้เด็กบนั ทกึ ผลการสมั ผัสบอกความร้สู ึกลงในหนังสือเสริมประสบการณ์ เร่อื งราวเกยี่ วกับตัวเด็ก อ.2 กิจกรรม สมั ผัสบอกความรู้สึก หน้า 13 4. ครสู มุ่ เรียกตวั แทนเด็ก 4-5 คน ให้ออกมานำเสนอผลการสมั ผัสโดยบอกความรู้สกึ หลงั จากที่ได้สัมผัส ทีละคน ขั้นสรุป 1. ครใู ห้ความรเู้ พ่ิมเตมิ เกยี่ วกับผวิ หนงั ทมี่ หี น้าทร่ี ับรูค้ วามรูส้ กึ ตา่ งๆ เชน่ ร้อน เย็น นุ่ม แข็ง เปน็ ตน้ บางคร้งั ก็ รับร้คู วามเจบ็ ปวดเม่อื เราหกลม้ หรือได้รับบาดเจบ็ 2. ครูและเด็กรว่ มกนั ตรวจสอบผลการบนั ทกึ สมั ผัสบอกความรูส้ กึ และร่วมกันสรปุ

 ประเมินผล 1. สงั เกตการตอบคำถามเก่ยี วกับความรสู้ ึกเม่ือไดส้ มั ผสั ส่งิ ต่างๆ 2. สังเกตการสนทนาและการตอบคำถาม 3. สงั เกตความสนใจในการร่วมกจิ กรรม 4. สังเกตผลงานการทำกิจกรรม สมั ผสั บอกความรู้สกึ  สอื่ การเรียนรู้ 1. สง่ิ ที่ใชเ้ พอ่ื สัมผัส เชน่ หมอน หิน เหยอื กน้ำเยน็ ชามท่ใี ส่อาหารรอ้ นๆ เป็นต้น กจิ กรรมเคล่ือนไหวและจังหวะ  สาระท่คี วรเรียนรู้ การเคลื่อนไหวรา่ งกายประกอบจงั หวะ  มาตรฐานคณุ ลักษณะที่พงึ ประสงค์ / ประสบการณ์สำคัญ รา่ งกาย อารมณ์ จติ ใจ สังคม สติปญั ญา มาตรฐานคณุ ลักษณะทพ่ี ึงประสงค์ มฐ.1 มฐ.2 มฐ.3 มฐ.4 มฐ.5 มฐ.6 มฐ.7 มฐ.8 มฐ.9 มฐ.10 มฐ.11 มฐ.12 1.2, 1.3 2.1, 2.2 3.1, 3.2 4.1 5.3 6.2 8.2, 8.3 10.3 11.2 12.1 ประสบการณ์สำคญั 1.2 มีสขุ ภาพ 3.1 แสดงออกทางอารมณไ์ ด้ 6.2 มวี นิ ยั ในตนเอง (สภาพ 10.3 มคี วามสามารถในการคดิ แก้ปญั หาและ อนามยั สุขนิสยั ที่ดี อยา่ งเหมาะสม ท่ีพงึ ประสงค์) ตดั สินใจ (สภาพทพี่ ึงประสงค์) (สภาพทพี่ ึงประสงค)์ (สภาพท่ีพึงประสงค์) 8.2 มีปฏิสมั พันธ์ทด่ี กี ับผอู้ ื่น 11.1 ทำงานศิลปะตามจินตนาการและ 1.3 รกั ษาความ 3.2 มคี วามรสู้ ึกท่ดี ตี อ่ ตนเอง (สภาพทพี่ งึ ประสงค)์ ความคดิ สรา้ งสรรค์ ปลอดภัยของตนเอง และผู้อน่ื 8.3 ปฏบิ ัตติ นเบือ้ งต้นใน (สภาพทีพ่ ึงประสงค์) และผู้อน่ื (สภาพทีพ่ ึงประสงค)์ การเปน็ สมาชกิ ที่ดขี องสงั คม 11.2 แสดงทา่ ทาง/เคล่ือนไหวตามจินตนาการ (สภาพทพ่ี ึงประสงค)์ 4.1 สนใจ มีความสขุ และ (สภาพที่พึงประสงค์) อยา่ งสรา้ งสรรค์ 2.1 เคลอื่ นไหว แสดงออกผ่านงานศิลปะดนตรี (สภาพทีพ่ ึงประสงค)์ ร่างกายอยา่ ง และการเคล่ือนไหว(สภาพท่ี 12.1 มีเจตคติทด่ี ตี อ่ การเรียนรู้ (สภาพที่พึงประสงค์) คลอ่ งแคล่วประสาน พึงประสงค)์ สัมพันธแ์ ละทรงตัว 5.3 มคี วามเห็นอกเหน็ ใจผู้อื่น ได้ (สภาพทพี่ งึ ประสงค์) (สภาพทพ่ี งึ ประสงค)์ 2.2 ใชม้ อื -ตา ประสานสัมพนั ธก์ นั (สภาพที่พงึ ประสงค์)

 จุดประสงค์ 1. พัฒนาการใช้กล้ามเนอ้ื ใหญ่ เล็กและตาใหส้ มั พันธ์กัน 2. พัฒนาทักษะการเคล่ือนไหวร่างกายประกอบจังหวะ 3. เพอ่ื ให้เกิดความสนกุ สนานและผอ่ นคลายอารมณ์  กิจกรรมการเรยี นรู้ 1. ครใู ห้เด็กอาสาสมคั รออกมานำทำท่าทางเคลื่อนไหวตามจนิ ตนาการ แล้วให้เพ่ือนทำทา่ ตาม 2. เดก็ และครูร่วมกนั สรา้ งข้อตกลงในการเคล่ือนไหวรา่ งกายประกอบจงั หวะ โดยใหเ้ ด็กเคลื่อนไหวรา่ งกาย อย่างอสิ ระตามจังหวะเครอ่ื งดนตรีไปรอบๆ ห้องเรยี น โดยไมช่ นกบั เพื่อน เมอ่ื เสียงดนตรีหยดุ ใหห้ ยดุ เคลอื่ นไหวในทา่ น้นั ทันที 3. ครูให้จงั หวะเสียงดนตรี เด็กๆ เคล่ือนไหวตามข้อตกลง ปฏิบัติซำ้ อีกรอบ โดยครอู าจเปลย่ี นเครอื่ งดนตรี  ประเมินผล 1. สงั เกตการใชก้ ล้ามเนือ้ ใหญ่เล็กและตาให้สมั พนั ธก์ นั 2. สงั เกตการเคล่ือนไหวร่างกายตามจนิ ตนาการประกอบจงั หวะ 3. สงั เกตความสนุกสนานและผอ่ นคลายอารมณ์  สื่อการเรียนรู้ เคร่อื งดนตรี กจิ กรรมสรา้ งสรรค์  สาระท่คี วรเรยี นรู้ การประดิษฐ์มือวเิ ศษ และพมิ พ์ภาพดว้ ยมือ  มาตรฐานคุณลักษณะทพ่ี งึ ประสงค์ / ประสบการณ์สำคญั ร่างกาย อารมณ์ จิตใจ สงั คม สติปัญญา มาตรฐานคุณลกั ษณะทพี่ งึ ประสงค์ มฐ.9 มฐ.10 มฐ.11 มฐ.12 9.1 10.3 11.1 12.1 มฐ.1 มฐ.2 มฐ.3 มฐ.4 มฐ.5 มฐ.6 มฐ.7 มฐ.8 9.1 รบั รู้และเข้าใจความหมายของภาษาได้ 1.3 2.2 3.1, 3.2 4.1 5.2,5.4 6.2,6.3 8.1,8.2, (สภาพที่พงึ ประสงค์) 10.3 มคี วามสามารถในการคิดแก้ปัญหาและ 8.3 ตัดสนิ ใจ (สภาพทพ่ี ึงประสงค์) 11.1 ทำงานศลิ ปะตามจินตนาการและ ประสบการณ์สำคญั ความคดิ สร้างสรรค์(สภาพที่พงึ ประสงค์) 12.1 มีเจตคติท่ีดตี อ่ การเรยี นรู้ 1.3 รกั ษาความ 3.1 แสดงออกทางอารมณไ์ ด้ 6.2 มวี นิ ยั ในตนเอง (สภาพ (สภาพที่พงึ ประสงค)์ ปลอดภัยของตนเอง อยา่ งเหมาะสม ทีพ่ ึงประสงค์) และผ้อู น่ื (สภาพที่พึงประสงค์) 6.3 ประหยดั และพอเพยี ง (สภาพท่ีพึงประสงค)์ 3.2 มคี วามรู้สกึ ท่ีดีตอ่ ตนเอง (สภาพทพี่ งึ ประสงค)์ 2.2 ใชม้ อื -ตา และผอู้ ื่น 8.1 ยอมรบั ความเหมอื น ประสานสมั พนั ธ์กนั (สภาพทพ่ี งึ ประสงค)์ และความแตกตา่ งระหว่าง (สภาพทพ่ี ึง 4.1 สนใจ มคี วามสุขและ บคุ คล(สภาพทีพ่ งึ ประสงค์) ประสงค์) แสดงออกผา่ นงานศิลปะดนตรี 8.2 มปี ฏิสัมพนั ธ์ทดี่ กี ับผู้อน่ื (สภาพทพ่ี ึงประสงค์)

และการเคลอ่ื นไหว(สภาพท่ี 8.3 ปฏบิ ัตติ นเบื้องต้นใน พึงประสงค)์ การเปน็ สมาชกิ ทด่ี ีของสงั คม 5.2 มคี วามเมตตากรณุ า มี (สภาพทพ่ี ึงประสงค)์ น้ำใจและช่วยเหลือแบ่งปนั (สภาพท่ีพึงประสงค)์ 5.4 มีความรบั ผิดชอบ (สภาพท่ี พงึ ประสงค์)  จดุ ประสงค์ 1. พัฒนาการกล้ามเน้ือมดั เลก็ และตาใหส้ มั พนั ธ์กนั 2. การสร้างสรรค์ผลงานตามจินตนาการ 3. สามารถบอกเล่าเก่ียวกับผลงานของตนเองได้  กิจกรรมการเรียนรู้ 1. ครูให้เด็กนั่งเปน็ กลมุ่ กลุ่มละ 4 คน แลว้ ใหแ้ ตล่ ะคนยกมอื ขน้ึ สำรวจความสะอาดของมือตนเองและมอื เพอ่ื น ครทู บทวนความรู้เรือ่ งหนา้ ท่ี และความสำคญั ของมือตลอดจนวธิ ดี แู ลรกั ษาความสะอาดมอื 2. ครูแนะนำและสาธิตวธิ กี ารประดิษฐ์มือวเิ ศษใหเ้ ดก็ ฟัง โดยวาดภาพมือลงบนกระดาษแข็ง ระบายสใี ห้สวยงาม ตัดภาพมือออกมา แล้วฉกี กระดาษสตี ่างๆ ปะตดิ ตกแตง่ ภาพมือให้สวยงาม แล้วนำไม้ไอศกรีมมาตดิ ประกอบ เขา้ ด้านหลังภาพมอื ทำเปน็ ดา้ มจบั 3. ครแู จกอปุ กรณ์การทำใหเ้ ด็กแตล่ ะกลมุ่ แล้วใหเ้ ดก็ ๆ ลงมือประดษิ ฐ์มือวิเศษตามขนั้ ตอน โดยครูคอยช่วย ตดิ ไม้ไอศกรมี 4. เด็กบอกเล่าผลงานให้เพ่อื นฟัง และครูจดบันทึกลงบนผลงาน 5. เด็กๆ ชว่ ยกันเก็บวสั ดุอปุ กรณ์เข้าที่ และทำความสะอาดโต๊ะกจิ กรรม  ประเมนิ ผล 1. สงั เกตการใช้กลา้ มเนอื้ มดั เล็กและตาให้สัมพันธก์ ัน 2. สงั เกตผลงาน 3. สงั เกตการบอกเล่าเกีย่ วกบั ผลงานของตนเอง ส่ือการเรียนรู้ 1. ภาพมอื 2. กระดาษแขง็ กระดาษสตี า่ งๆ 3. กรรไกร 4. กาว 5. สเี ทยี น 6. ไม้ไอศกรีม 7. สีนำ้  สาระทค่ี วรเรียนรู้ การเลน่ ตามมุมประสบการณ์ เปิดโอกาสใหเ้ ดก็ เลน่ อสิ ระตามมมุ ประสบการณ์หรอื ศนู ย์การเรียน ทจ่ี ดั ไว้ใน ห้องเรียน เช่น มุมบล็อก มมุ วทิ ยาศาสตรห์ รือมุมธรรมชาติศึกษา มุมคณติ ศาสตร์ มมุ บา้ น มุมหนงั สอื มมุ ศิลปะ มุมดนตรี มมุ บทบาทสมมติ เป็นต้น

 มาตรฐานคณุ ลักษณะทพี่ งึ ประสงค์ / ประสบการณ์สำคัญ รา่ งกาย อารมณ์ จิตใจ สังคม สติปญั ญา มาตรฐานคณุ ลักษณะทพ่ี งึ ประสงค์ มฐ.1 มฐ.2 มฐ.3 มฐ.4 มฐ.5 มฐ.6 มฐ.7 มฐ.8 มฐ.9 มฐ.10 มฐ.11 มฐ.12 1.3 2.2 3.1, 3.2 4.1 5.1,5.2,5 6.2,6.3 7.2 8.1,8.2, 9.1 10.3 11.2 12.1,12.2 .3 8.3 ประสบการณส์ ำคญั 1.3 รกั ษาความ 3.1 แสดงออกทางอารมณไ์ ด้ 6.1 ชว่ ยเหลอื ตนเองในการ 9.1 รับรแู้ ละเข้าใจความหมายของภาษาได้ ปลอดภยั ของตนเอง อยา่ งเหมาะสม ปฏบิ ัติกจิ วตั รประจำวนั (สภาพทพ่ี งึ ประสงค์) และผู้อื่น (สภาพที่พงึ ประสงค์) (สภาพท่พี ึงประสงค)์ 9.2 แสดงออกและ/หรือพูดเพ่ือสอ่ื (สภาพที่พึงประสงค)์ 3.2 มคี วามร้สู กึ ทดี่ ีตอ่ ตนเอง 7.2 ดูแลรกั ษาธรรมชาติ ความหมายได้ (สภาพท่ีพงึ ประสงค์) 2.1 เคล่อื นไหว และผู้อืน่ และสิ่งแวดลอ้ ม 10.1 มีความสามารถในการคดิ รวบยอด ร่างกายอยา่ ง (สภาพทีพ่ งึ ประสงค)์ (สภาพทพ่ี ึงประสงค์) (สภาพท่พี ึงประสงค)์ คลอ่ งแคล่วประสาน 4.1 สนใจ มคี วามสขุ และ 8.2 มีปฏสิ มั พนั ธ์ที่ดกี บั ผ้อู น่ื 10.3 มีความสามารถในการคดิ แกป้ ัญหาและ สัมพนั ธแ์ ละทรงตวั แสดงออกผ่านงานศิลปะดนตรี (สภาพทพ่ี งึ ประสงค์) ตดั สนิ ใจ (สภาพทพี่ ึงประสงค์) ได้ และการเคลอ่ื นไหว(สภาพท่ี 8.3 ปฏบิ ตั ติ นเบ้ืองตน้ ใน 11.1 ทำงานศิลปะตามจนิ ตนาการและ (สภาพทีพ่ งึ ประสงค)์ พงึ ประสงค)์ การเป็นสมาชกิ ท่ดี ีของสงั คม ความคิดสรา้ งสรรค์(สภาพทพ่ี ึงประสงค์) 2.2 ใชม้ อื -ตา 5.4 มคี วามรบั ผิดชอบ (สภาพท่ี (สภาพที่พึงประสงค์) 11.2 แสดงท่าทาง/เคลือ่ นไหวตามจนิ ตนาการ ประสานสัมพนั ธก์ ัน พึงประสงค์) อย่างสรา้ งสรรค์(สภาพทพ่ี งึ ประสงค์) (สภาพทพ่ี ึง 12.1 มีเจตคตทิ ่ีดตี อ่ การเรยี นรู้ ประสงค์) (สภาพทพ่ี ึงประสงค)์ 12.2 มีความสามารถในการแสวงหาความรู้ (สภาพทพี่ งึ ประสงค์)  จดุ ประสงค์ 2. มที กั ษะทางดา้ นสงั คมเลน่ รว่ มกับผู้อื่นได้ 1. ส่งเสรมิ พฒั นาการ 4 ดา้ นผา่ นการเล่น 3. ส่งเสรมิ คุณธรรม จริยธรรม มคี วามอดทน เอ้อื เฟ้อื แบ่งปัน และรูจ้ กั การรอคอย  กจิ กรรมการเรียนรู้ 1. เด็กและครูร่วมกนั ทบทวนมมุ ประสบการณ์ตา่ งๆ ในห้องเรียน และใหค้ ดิ วางแผนการเลน่ วา่ จะเล่นอะไร ตามลำดบั ความสนใจของตนเอง 2. เดก็ และครรู ว่ มกนั สรา้ งขอ้ ตกลงในการเลน่ เชน่ - เดก็ ไม่ส่งเสยี งดงั ขณะเล่น - เมื่อเล่นเสรจ็ เกบ็ ของเล่นเข้าท่ี - รจู้ กั แบ่งปันกนั เลน่ - เล่นของเล่นอยา่ งทะนุถนอม ไมท่ ำลายใหเ้ สียหาย - รจู้ ักขอบคุณเมอ่ื ครชู ว่ ยเหลือ ขอบใจเมอ่ื เพอ่ื นช่วยเหลือ และขอโทษเม่ือทำใหผ้ ู้อ่นื เจ็บหรอื เดือดร้อน - เม่อื ไดย้ ินสัญญาณหยดุ (เคาะจงั หวะ 2 คร้งั ) ให้เก็บของเลน่ ทนั ที และมาน่ังรวมกนั ทหี่ น้าหอ้ ง 3. เด็กๆ เลอื กเลน่ ตามทคี่ ดิ ไว้อยา่ งอิสระ ปฏิบัตติ ามข้อตกลง และเมือ่ ได้ยนิ สญั ญาณหยุดให้เกบ็ ของเข้าที่ให้ เรียบรอ้ ย และมาน่ังรวมกนั ที่หน้าหอ้ ง 4. ครใู ห้เด็กอาสาสมคั รออกมาบอกเล่าถงึ ส่ิงที่ตนเองเลน่ ความรู้สกึ และปญั หาทพี่ บ รวมถงึ วิธแี กป้ ญั หาอย่างไร

 ประเมินผล 2. สังเกตการแสดงความเออ้ื เฟอ้ื แบ่งปนั และรูจ้ ักการรอคอย 1. สงั เกตพัฒนาการ 4 ด้าน 3. สงั เกตการเลน่ รว่ มกบั ผู้อื่น 2. เคร่อื งเคาะจงั หวะ  สือ่ การเรยี นรู้ กจิ กรรมกลางแจง้ 1. ของเลน่ ในมุมประสบการณต์ า่ งๆ  สาระท่ีควรเรยี นรู้ การเลน่ บ่อทราย เดก็ ได้มีโอกาสเลน่ และสมั ผัสสอ่ื จากธรรมชาติ รว่ มกับเพื่อนนอกห้องเรยี น สรา้ งสรรคก์ ารเลน่ ทรายในรูปแบบต่างๆ อยา่ งอิสระ เชน่ การกอ่ ทรายเป็นส่ิงต่างๆ ตามจนิ ตนาการ  มาตรฐานคุณลกั ษณะท่พี ึงประสงค์ / ประสบการณส์ ำคัญ รา่ งกาย อารมณ์ จติ ใจ สังคม สติปญั ญา มาตรฐานคณุ ลักษณะทพี่ ึงประสงค์ มฐ.1 มฐ.2 มฐ.3 มฐ.4 มฐ.5 มฐ.6 มฐ.7 มฐ.8 มฐ.9 มฐ.10 มฐ.11 มฐ.12 1.2, 1.3 2.1 3.1, 3.2 5.1,5.2,5 6.1,6.2 7.2 8.1,8.2, 9.1 10.3 11.2 12.1 .3 8.3 ประสบการณส์ ำคญั 1.2 มีสขุ ภาพ 3.1 แสดงออกทางอารมณไ์ ด้ 6.1 ชว่ ยเหลอื ตนเองในการ 9.1 รับรู้และเข้าใจความหมายของภาษาได้ อนามัยสุขนิสัยท่ดี ี อยา่ งเหมาะสม ปฏบิ ตั ิกจิ วตั รประจำวัน (สภาพทพี่ งึ ประสงค์) (สภาพที่พงึ ประสงค์) (สภาพท่ีพึงประสงค์) (สภาพที่พงึ ประสงค)์ 10.3 มคี วามสามารถในการคดิ แก้ปัญหาและ 1.3 รกั ษาความ 3.2 มคี วามร้สู ึกทดี่ ตี อ่ ตนเอง 6.2 มวี ินยั ในตนเอง (สภาพ ตัดสินใจ (สภาพทพ่ี งึ ประสงค์) ปลอดภัยของตนเอง และผู้อน่ื ทีพ่ ึงประสงค์) 11.2 แสดงท่าทาง/เคลื่อนไหวตามจินตนาการ และผู้อื่น (สภาพทพ่ี งึ ประสงค)์ 7.2 ดูแลรกั ษาธรรมชาติ อยา่ งสรา้ งสรรค์(สภาพทีพ่ งึ ประสงค์) (สภาพท่พี ึงประสงค)์ 5.1 ซื่อสัตยส์ ุจริต และส่ิงแวดล้อม 12.1 มเี จตคตทิ ดี่ ีตอ่ การเรยี นรู้ 2.1 เคล่ือนไหว (สภาพทีพ่ งึ ประสงค)์ (สภาพทพ่ี งึ ประสงค)์ (สภาพทพ่ี งึ ประสงค)์ ร่างกายอยา่ ง 5.2 มคี วามเมตตากรณุ า มี 8.1 ยอมรับความเหมอื น คลอ่ งแคล่วประสาน นำ้ ใจและชว่ ยเหลือแบง่ ปนั และความแตกต่างระหว่าง สัมพนั ธ์และทรงตัว (สภาพทพี่ งึ ประสงค)์ บคุ คล ได้ 5.3 มคี วามเห็นอกเห็นใจผู้อนื่ (สภาพทีพ่ ึงประสงค)์ (สภาพที่พึงประสงค)์ (สภาพทีพ่ งึ ประสงค)์ 8.2 มปี ฏสิ มั พนั ธ์ที่ดกี บั ผูอ้ ่ืน (สภาพท่ีพึงประสงค์) 8.3 ปฏิบัตติ นเบ้อื งต้นใน การเปน็ สมาชกิ ทด่ี ขี องสงั คม (สภาพทพี่ งึ ประสงค์)

 จุดประสงค์ 1. พัฒนาพฒั นากล้ามเน้อื ใหญแ่ ละเล็กใหป้ ระสานสัมพนั ธ์กนั 2. พัฒนาทักษะการเลน่ กบั กับผอู้ น่ื 3. ส่งเสริมคณุ ธรรม จริยธรรม มคี วามอดทน เออ้ื เฟ้ือ แบ่งปัน และรจู้ กั การรอคอย  กิจกรรมการเรียนรู้ 1. เดก็ และครรู ว่ มกันอบอุ่นรา่ งกายดว้ ยการออกกายบรหิ ารในการเคล่ือนไหวอยู่กบั ท่ี 2. ครสู รา้ งขอ้ ตกลงในการเล่นทรายกับเดก็ เชน่ - เลน่ อย่างถูกวธิ ี ไมเ่ ลน่ ปาทรายใส่กัน - เข้าแถวรอคอยเล่นต่อจากเพื่อน - รจู้ กั แบ่งปนั กนั เล่น - เล่นรว่ มกนั ไมท่ ะเลาะกัน - รจู้ กั ขอบคุณเม่ือครชู ว่ ยเหลือ ขอบใจเมอ่ื เพือ่ นช่วยเหลือ และขอโทษเมอ่ื ทำใหผ้ ้อู น่ื เจบ็ หรือเดือดรอ้ น - เมอื่ ได้ยนิ เสยี งนกหวีดให้หยุดเลน่ ทนั ที เตรยี มเขา้ แถวดา้ นหนา้ สนามเดก็ เลน่ 3. ครูใหเ้ ด็กเลน่ ทรายอยา่ งอิสระตามเวลาทคี่ รูกำหนด 4. ครูให้เด็กอาสาสมัครออกมาบอกเลา่ ถึงส่งิ ที่ตนเองเล่น ความรูส้ ึก และปัญหาทพ่ี บ รวมถึงวธิ ีแกป้ ัญหาอยา่ งไร 5. ครูพาเด็กไปทำความสะอาดร่างกายกอ่ นเข้าหอ้ งเรยี น  ประเมินผล 2. สังเกตการเล่นรว่ มกบั ผ้อู ่ืน 1. สงั เกตการประสานสมั พนั ธ์ของกลา้ มเนื้อมอื และตา 3. สงั เกตการแสดงความอดทน เอื้อเฟ้ือ แบ่งปนั และรจู้ ักรอคอย  ส่ือการเรียนรู้ 2. กระบะทราย 3. อปุ กรณ์ในการเลน่ ทราย 1. นกหวดี

กิจกรรมเกมการศึกษา  สาระท่คี วรเรียนรู้ การเล่นเกม จับค่ภู าพเหมือนการใช้ประสาทสมั ผสั  มาตรฐานคุณลักษณะที่พงึ ประสงค์ / ประสบการณส์ ำคัญ สติปัญญา รา่ งกาย อารมณ์ จิตใจ สังคม มาตรฐานคุณลกั ษณะทพี่ ึงประสงค์ มฐ.1 มฐ.2 มฐ.3 มฐ.4 มฐ.5 มฐ.6 มฐ.7 มฐ.8 มฐ.9 มฐ.10 มฐ.11 มฐ.12 1.3 2.2 3.1, 3.2 5.1,5.2,5 6.2,6.3 7.2 8.1,8.2, 9.1,9.2 10.1,10.3 12.1 .3 8.3 ประสบการณ์สำคญั 1.3 รกั ษาความ 3.1 แสดงออกทางอารมณไ์ ด้ 6.2 มวี นิ ยั ในตนเอง (สภาพ 9.1 รับรู้และเขา้ ใจความหมายของภาษาได้ ปลอดภัยของตนเอง อยา่ งเหมาะสม ท่ีพึงประสงค์) (สภาพที่พึงประสงค)์ และผ้อู ่ืน (สภาพที่พงึ ประสงค)์ 6.3 ประหยดั และพอเพยี ง 9.2 แสดงออกและ/หรือพดู เพอื่ สื่อ (สภาพทพ่ี งึ ประสงค์) ความหมายได้ (สภาพทีพ่ ึงประสงค์) (สภาพท่ีพึงประสงค์) 3.2 มคี วามรูส้ ึกท่ดี ีตอ่ ตนเอง 2.2 ใชม้ ือ-ตา และผอู้ ่นื 7.2 ดแู ลรักษาธรรมชาติ 10.1 มคี วามสามารถในการคดิ รวบยอด ประสานสมั พนั ธ์กัน (สภาพท่พี งึ ประสงค์) และสิ่งแวดลอ้ ม (สภาพทีพ่ งึ ประสงค)์ (สภาพที่พึง 5.1 ซ่อื สตั ยส์ จุ ริต (สภาพที่พงึ ประสงค์) 10.3 มีความสามารถในการคิดแกป้ ญั หาและ ประสงค์) (สภาพทพ่ี ึงประสงค์) 8.1 ยอมรับความเหมอื น ตดั สินใจ (สภาพทพ่ี ึงประสงค์) 5.2 มคี วามเมตตากรณุ า มี และความแตกต่างระหวา่ ง 12.1 มีเจตคติทดี่ ีตอ่ การเรยี นรู้ นำ้ ใจและชว่ ยเหลือแบง่ ปัน บุคคล (สภาพทพี่ ึงประสงค์) (สภาพทีพ่ งึ ประสงค์) (สภาพที่พงึ ประสงค)์ 5.3 มคี วามเห็นอกเหน็ ใจผูอ้ ่นื 8.2 มีปฏสิ มั พนั ธ์ที่ดกี บั ผ้อู ่นื (สภาพที่พงึ ประสงค์) (สภาพทีพ่ ึงประสงค์) 8.3 ปฏบิ ัตติ นเบอ้ื งต้นใน การเปน็ สมาชิกทีด่ ขี องสังคม (สภาพทีพ่ ึงประสงค)์  จุดประสงค์ 1. พัฒนากล้ามเนอื้ มดั เล็กและตาให้ประสานสมั พนั ธก์ ัน2. ฝกึ ทักษะกระบวนการแกไ้ ขปัญหาได้ 3. พัฒนาทักษะทางสติปญั ญา เชน่ การสังเกต การเปรียบเทียบ ความรู้ความเขา้ ใจในเร่ืองตา่ งๆ 4. สง่ เสรมิ คณุ ธรรม จริยธรรม มคี วามอดทน เออื้ เฟ้อื แบ่งปัน และรู้จักการรอคอย  กิจกรรมการเรียนรู้ 1. ครูแนะนำเกม จบั คภู่ าพเหมือนการใชป้ ระสาทสมั ผสั และสาธติ วธิ ีการเล่นให้เดก็ ดู พร้อมใหเ้ ด็กมี สว่ นร่วมดว้ ย 2. ครูทบทวนเกมเก่าที่เคยเล่นมาแล้ว และร่วมกันสรา้ งขอ้ ตกลงในการเลน่ เชน่ - ไม่สง่ เสยี งดงั ขณะเลน่ - รจู้ กั แบ่งปันกันเลน่

- เล่นอย่างทะนถุ นอม ไมท่ ำลายใหเ้ สียหาย - รจู้ กั ขอบคุณเมื่อครูชว่ ยเหลือ ขอบใจเมื่อเพื่อนช่วยเหลือ และขอโทษเม่ือทำให้ผูอ้ ่นื เจบ็ หรือเดือดร้อน - เม่ือได้ยนิ สัญญาณหยดุ (เคาะจงั หวะ 2 ครัง้ ) ให้เก็บเกมเขา้ ท่ี และมาน่งั รวมกนั ทห่ี นา้ หอ้ ง 3. ครแู บง่ เดก็ เปน็ กลุ่มย่อย กลมุ่ ละ 4 คน ให้กลุ่มแรกเล่นเกม จบั คูภ่ าพเหมือนการใชป้ ระสาทสัมผสั กลมุ่ ท่เี หลือเลน่ เกมท่เี คยเล่นมาแล้ว เมื่อเลน่ เสรจ็ ให้หมุนเวียนกันเล่นจนครบทกุ เกม เมอื่ ไดย้ ินสญั ญาณ หยดุ ให้เก็บเกมเข้าท่ีให้เรยี บรอ้ ย และมานัง่ รวมกันที่หน้าห้อง 4. ครใู ห้เด็กอาสาสมคั รออกมาบอกเล่าถึงเกมที่ตนเองเล่น ความรู้สกึ และปญั หาท่พี บ รวมถึงวิธแี ก้ปญั หาอยา่ งไร  ประเมนิ ผล 1. สังเกตการใช้กลา้ มเนอ้ื มดั เล็กและตาให้ประสานสมั พนั ธ์กัน 2. สังเกตกระบวนการแก้ไขปัญหา 3. สงั เกตทักษะทางสตปิ ญั ญา เช่น การสงั เกต การเปรยี บเทียบ ความรู้ความเข้าใจในเรอื่ งต่างๆ 4. สงั เกตการแสดงความเอ้ือเฟ้อื แบ่งปัน และรู้จกั การรอคอย 2. เกมเก่าทเ่ี คยเลน่ มาแล้ว  สอ่ื การเรียนรู้ 1. เกมจบั ค่ภู าพเหมอื นการใช้ประสาทสมั ผัส 3. เครื่องเคาะจงั หวะ  ภาคผนวก  เกม จับคู่ภาพเหมอื นการใชป้ ระสาทสมั ผัส

 สาระทค่ี วรเรยี นรู้ ร่างกายตอ้ งการอาหาร เพ่อื ชว่ ยในการเจรญิ เตบิ โต อาหารทม่ี ีประโยชน์ ไดแ้ ก่ ขา้ ว เนื้อสตั ว์ ผัก ผลไม้ นม และน้ำดืม่ สะอาด เราตอ้ งเลือกรับประทานอาหารทมี่ ปี ระโยชนแ์ ละทานใหค้ รบ 3 มอ้ื สง่ิ ทเ่ี ดก็ รแู้ ล้ว สิง่ ท่ีเด็กตอ้ งการรู้ สงิ่ ที่เด็กควรรู้ - อาหารดีมปี ระโยชน์ทีช่ นื่ ชอบ - อาหารดมี หี ลากหลาย - ประโยชน์ของอาหาร - อาหารจากผัก ผลไม้ - อาหารดตี ้องปรงุ สุกใหม่  การจดั ประสบการณบ์ ูรณาการ กจิ กรรมเกมการศกึ ษา กจิ กรรมเคลอ่ื นไหวและจงั หวะ กจิ กรรมสรา้ งสรรค์ 1. การวาดภาพ ระบายสีภาพอาหารทรี่ ูจ้ ัก 1. เกมจับคู่ภาพเหมอื นอาหาร 1. การเคลือ่ นไหวร่างกายประกอบเพลง อาหารดีมี 2. เกมจบั คู่บตั รคากับภาพผลไม้ ประโยชน์ และการฉีก ปะ ติดตกแตง่ ภาพอาหาร 3. เกมโดมโิ นภาพอาหาร 2. การตดั ปะตดิ ภาพอาหาร 4. เกมภาพตดั ต่ออาหารหลกั 5 หมู่ 2. การเคล่ือนไหวร่างกายตามจังหวะกลองอย่างอสิ ระ 3. การตอ่ เติมภาพพมิ พด์ ว้ ยนวิ้ มอื 5. เกมพืน้ ฐานการบวก 3. การเคลื่อนไหวร่างกายตามคาสั่ง 4. การปัน้ แป้งโด และการวาดภาพผลไม้ ฉกี 4. การเคล่อื นไหวร่างกายอย่างอิสระตามจงั หวะดนตรี 5. การเคล่อื นไหวรา่ งกายตามคาบรรยายเก่ียวกับ ปะตดิ ตกแต่งภาพ 5. การวาดภาพอาหารปรงุ สุกใหม่ที่ช่ืนชอบ การทาอาหาร กิจกรรมเสรี กจิ กรรมกลางแจ้ง กิจกรรมหลกั 6 กิจกรรม 1. เลน่ ตามมุมประสบการณ์ 1. การเลน่ เครือ่ งเล่นสนาม 2. จดั มุมบา้ นเพิ่มเติมใหม้ ผี ักผลไม้ 2. การสารวจโรงอาหาร กิจกรรมเสริมประสบการณ์ 3. การเลน่ เครื่องเล่นสนาม จาลอง และตวั อย่างอาหาร ให้เดก็ ได้ 4. การรับส่งลูกบอล 1. กจิ กรรม “อาหารดมี ปี ระโยชน์ทช่ี ืน่ ชอบ” เล่นบทบาทสมมตติ ามความสนใจ 5. การเลน่ เครอ่ื งเล่นสนาม 2. กจิ กรรม “อาหารดมี หี ลากหลาย” 3. กจิ กรรม “ประโยชนข์ องอาหาร” 4. กจิ กรรม “อาหารจากผกั ผลไม”้ 5. กจิ กรรม “อาหารดตี อ้ งปรงุ สุกใหม”่

แนวทางการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ การศึกษาปฐมวัย ภาคเรียนท่ี...1... สำหรบั เด็กทม่ี คี วามต้องการจำเป็นพิเศษ ช่วงอายุ .....4-5...... ปี สาระการเรียนรู้ท.ี่ .1.. หนว่ ย .อาหารดมี ีคุณค่า วนั ที่ 1 อาหารดมี ีประโยชน์ท่ชี ่ืนชอบ กิจกรรมเสริมประสบการณ์  สาระที่ควรเรยี นรู้ รา่ งกายต้องการอาหาร เพือ่ ช่วยในการเจรญิ เติบโต อาหารที่มปี ระโยชน์ ได้แก่ ขา้ ว เนือ้ สัตว์ ผกั ผลไม้ นม และนำ้ ด่มื สะอาด เราต้องเลอื กรบั ประทานอาหารทมี่ ปี ระโยชนแ์ ละทานใหค้ รบ 3 มื้อ สาระสำคญั เดก็ ไดเ้ รียนร้เู กีย่ วกับชื่อของอาหารท่รี ู้จกั ในชีวิตประจำวนั สามารถบอกลกั ษณะและความรสู้ ึกเกี่ยวกับ ชนิดของอาหารท่ชี ่นื ชอบให้ผ้อู นื่ เข้าใจได้  มาตรฐานคณุ ลกั ษณะท่ีพึงประสงค์ / ประสบการณ์สำคัญ สตปิ ัญญา ร่างกาย อารมณ์ จติ ใจ สงั คม มาตรฐานคณุ ลกั ษณะท่ีพงึ ประสงค์ มฐ.1 มฐ.2 มฐ.3 มฐ.4 มฐ.5 มฐ.6 มฐ.7 มฐ.8 มฐ.9 มฐ.10 มฐ.11 มฐ.12 1.2, 1.3 2.1, 2.2 3.1, 3.2 4.1 5.4 6.1 7.2 8.2, 8.3 9.1,9.2 10.1,10.2, 11.1,11.2 12.1,12.2 10.3 ประสบการณ์สำคญั 1.2 มสี ุขภาพ 3.1 แสดงออกทางอารมณไ์ ด้ 6.1 ชว่ ยเหลือตนเองในการ 9.1 รบั ร้แู ละเขา้ ใจความหมายของภาษาได้ อนามัยสขุ นิสยั ท่ีดี อยา่ งเหมาะสม ปฏบิ ตั กิ จิ วตั รประจำวนั (สภาพทีพ่ งึ ประสงค)์ (สภาพที่พงึ ประสงค์) (สภาพท่พี ึงประสงค)์ (สภาพที่พึงประสงค์) 9.2 แสดงออกและ/หรอื พูดเพือ่ ส่อื 1.3 รกั ษาความ 3.2 มคี วามรสู้ กึ ทด่ี ตี อ่ ตนเอง 7.2 ดูแลรักษาธรรมชาติ ความหมายได้ (สภาพที่พึงประสงค์) ปลอดภัยของตนเอง และผูอ้ ืน่ และส่ิงแวดล้อม 10.1 มคี วามสามารถในการคิดรวบยอด และผูอ้ นื่ (สภาพที่พึงประสงค์) (สภาพท่พี ึงประสงค์) (สภาพทพี่ ึงประสงค)์ (สภาพท่ีพึงประสงค์) 4.1 สนใจ มีความสขุ และ 8.2 มีปฏิสมั พันธท์ ีด่ กี ับผอู้ น่ื 10.3 มคี วามสามารถในการคิดแก้ปัญหาและ 2.1 เคล่ือนไหว แสดงออกผ่านงานศิลปะดนตรี (สภาพท่ีพงึ ประสงค์) ตัดสนิ ใจ (สภาพทพี่ ึงประสงค์) ร่างกายอย่าง และการเคล่อื นไหว(สภาพที่ 8.3 ปฏบิ ตั ติ นเบอื้ งตน้ ใน 11.1 ทำงานศลิ ปะตามจนิ ตนาการและ คลอ่ งแคล่วประสาน พงึ ประสงค)์ การเป็นสมาชิกทด่ี ขี องสงั คม ความคิดสรา้ งสรรค์(สภาพที่พึงประสงค์) สมั พันธแ์ ละทรงตวั 5.4 มีความรับผิดชอบ (สภาพท่ี (สภาพทพี่ งึ ประสงค์) 11.2 แสดงทา่ ทาง/เคล่ือนไหวตามจนิ ตนาการ ได้ พงึ ประสงค)์ อยา่ งสร้างสรรค์(สภาพท่ีพึงประสงค์) (สภาพที่พึงประสงค์) 12.1 มีเจตคตทิ ่ีดีตอ่ การเรียนรู้ 2.2 ใชม้ ือ-ตา (สภาพทีพ่ งึ ประสงค)์ ประสานสัมพนั ธ์กัน 12.2 มีความสามารถในการแสวงหาความรู้ (สภาพทีพ่ งึ (สภาพท่พี ึงประสงค์) ประสงค์)


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook