ห ลั ก สู ต ร ส ถ า น ศึ ก ษ า | 298 ท่ี ชื่อหนว่ ยกำรเรยี นรู้ มำตรฐำนกำร สำระสำคัญ เวลำ นำ้ หนัก เรียนร/ู้ ตวั ช้วี ัด 8 คะแนน 4 ประวตั วิ รรณคดสี มยั วเิ คราะหว์ ิจารณ์วรรณคดีและ อยุธยาตอนกลาง ท5.1 ม5/1 5/3 วรรณกรรม ประเมนิ คณุ คา่ ด้าน 15 5/4 5/5 วรรณศิลปข์ องวรรณคดี วรรณกรรมท่ีเป็นมรดกทาง วฒั นธรรมของชาตสิ ามารถ ประยุกต์ใช้ในการดาเนินชีวติ รวบรวมวรรณกรรมพ้ืนบ้าน สอบระหวา่ งภาค 20 สอบปลายภาค 20 40 100 รวม
กลุ่มสาระการเรยี นรูภ้ าษาไทย คำอธบิ ำยรำยวชิ ำ ห ลั ก สู ต ร ส ถ า น ศึ ก ษ า | 299 ช้ันมัธยมศึกษาปที ่ี 5 วิชา ภาษาไทยพืน้ ฐาน4 รหัส ท32102 เวลาเรยี น 40 ชัว่ โมง จานวน 1.0 หนว่ ยกติ อ่านออกเสียงบทร้อยแก้วและร้อยกรองได้อย่างถูกต้อง ไพเราะ วิเคราะห์และวิจารณ์เร่ืองท่ีอ่านอย่างมี เหตผุ ล ตอบคาถาม แลว้ เขียนกรอบแนวคดิ ผงั ความคิด สงั เคราะห์ความรู้จากการอ่าน ส่งิ ตีพิมพ์ ส่อื อเิ ล็กทรอนิกส์ และแหลง่ เรียนรู้ต่าง ๆ มาพฒั นาตน พฒั นาการเรียน และพัฒนาความรู้ทางอาชีพ ยอ่ ความและรายงาน ประเมินค่า เพ่ือนาความรู้ความคิดไปตัดสินใจแก้ปัญหาในการดาเนินชีวิต และมีมารยาทในการอ่าน เขียนเรียงความ เขียน ส่ือสารในรูปแบบต่าง ๆ ได้ตรงตามวัตถุประสงค์ และเรียบเรียงภาษาได้ถูกต้อง มีข้อมูลและสาระสาคัญชัดเจน เขียนรายงานการศึกษาค้นคว้าเรื่องที่สนใจตามหลักการเขียนเชิงวิชาการ และใชข้ ้อมูลสารสนเทศอ้างองิ อย่างถูกต้อง บันทึกการศกึ ษาคน้ คว้าเพื่อนาไปพัฒนาตนเองอย่างเป็นสม่าเสมอ มมี ารยาทในการเขียน สรุป วิเคราะหแ์ นวคดิ การ ใช้ภาษา และความน่าเชื่อถือจากเรื่องท่ีฟังและดูอย่างมีเหตุผล ประเมินเร่ืองที่ฟังและดู แล้วกาหนดแนวทางไป ประยกุ ต์ใช้ในการดาเนนิ ชวี ิตมวี จิ ารณญาณในการฟงั และดู พูดในโอกาสตา่ ง ๆ ได้อยา่ งเหมาะสม มมี ารยาทในการฟงั การดู อธิบายและวิเคราะห์หลักการสร้างคาในภาษาไทย ใช้คาและกลุ่มคาสร้างประโยคตรงตามวัตถุประสงค์ วิเคราะห์อิทธพิ ลของภาษาตา่ งประเทศและภาษาถ่นิ วิเคราะห์และประเมินการใช้ภาษาจากส่ือส่ิงพิมพ์และสื่ออิเล็กทรอนิกส์ วิเคราะห์ วิจารณ์ สังเคราะห์และ ประเมินคุณค่าด้านวรรณศิลป์ของวรรณคดีและวรรณกรรมในฐานะท่ีเป็นมรดกทางวัฒนธรรมของชาติ เพ่ือนาไป ประยุกต์ใช้ในชีวิตจริง รวบรวมวรรณกรรมพ้ืนบ้านและอธิบายภูมิปัญญาทางภาษา ท่องจาและบอกคุณค่าบท อาขยานตามทกี่ าหนด และบทร้อยกรองทมี่ ีคุณคา่ ตามความสนใจ และนาไปใชอ้ า้ งองิ ได้ โดยใช้กระบวนการคิด วเิ คราะห์ สังเคราะห์ อธิบาย นาเสนอความคดิ และมสี ่วนรว่ มเพ่อื ให้เห็นคุณค่า มี ความตระหนัก สามารถนาไปประยกุ ต์ใช้ในชีวติ มคี ุณธรรม จรยิ ธรรม มีจิตสานกึ และคา่ นิยมท่ดี ีงาม รหสั ตวั ชี้วัด ท 1.1 ม. 4-6/7 ม. 4-6/9 ท 2.1 ม. 4-6/2 ม. 4-6/3 ม. 4-6/4 ม. 4-6/5 ม. 4-6/6 ม.4-6/7 ม. 4-6/8 ท 3.1 ม. 4-6/5 ม. 4-6/6, ท 4.1 ม. 4-6/1 ม. 4-6/3 ม. 4-6/5 ท 5.1 ม. 4-6/1 ม. 4-6/2 ม. 4-6/3 ม. 4-6/4 ม. 4-6/6 รวมทงั้ หมด 19 ตัวชวี้ ัด
กล่มุ สาระการเรียนรภู้ าษาไทย โครงสร้ำงรำยวิชำ ห ลั ก สู ต ร ส ถ า น ศึ ก ษ า | 300 ชนั้ มัธยมศกึ ษาปีท่ี 5 วชิ า ภาษาไทยพ้ืนฐาน4 รหัส ท32102 เวลาเรยี น 40 ชัว่ โมง จานวน 1.0 หนว่ ยกติ ท่ี ช่อื หน่วยกำรเรียนรู้ มำตรฐำนกำร สำระสำคัญ เวลำ นำ้ หนกั 1 การเพ่มิ คา เรยี นรู้/ตัวชวี้ ัด (ชวั่ โมง) คะแนน ท 4.1 ม. 4-6/1, คา อาจเปรยี บไดก้ ับสิ่งมชี วี ติ 2 การเขยี นรายงาน ท้งั หลาย คือมีเกดิ ขึน้ ดารงอยู่ แลว้ ก็ 6 10 เชงิ วิชาการ ม. 4-6/3, ตายไป คาจานวนไม่น้อยทเ่ี คยใช้มา ม. 4-6/5 แต่โบราณ ปัจจุบันไดส้ ูญไปจาก 6 10 3 บทละครพูดคาฉนั ท์ เรื่อง ภาษา มคี าใหม่เกิดขน้ึ คาใหม่ท่ี มทั นะพาธา ท 1.1 ม. 4-6/7, เกิดขึ้นนี้ บางคาเพยี งแตใ่ ชพ้ ูดกนั 6 5 ม. 4-6/9 เฉพาะกลมุ่ เฉพาะโอกาส แลว้ เสือ่ มความนิยมไป คาเชน่ นม้ี ีผู้ ท 2.1 ม. 4-6/3, เรยี กวา่ คา คะนอง ม. 4-6/4, การเขียนรายงานเชิงวชิ าการเปน็ ม. 4-6/5, การนาเสนอผลของการศึกษา ม. 4-6/6, คน้ คว้าซง่ึ ผู้ทารายงานตอ้ งเข้าใจ ม.4-6/7, การจดบนั ทกึ ขอ้ มลู ตา่ ง ๆ จากการ ม. 4-6/8 ฟงั การอา่ นและจากประสบการณ์ ตรง โดยการจดบนั ทึกน้นั จะจด ท 5.1 ม. 4-6/1, เฉพาะประเดน็ สาคัญ และระบุ ม. 4-6/2, แหล่งทม่ี าให้ชัดเจน รายงานเชิง ม. 4-6/3, วชิ าการประกอบ ด้วยสว่ นสาคัญ ม. 4-6/4, 3 ส่วน คอื ส่วนหนา้ สว่ น ม. 4-6/6 เนื้อความ และสว่ นทา้ ย มัทนะพาธาเปน็ พระราชนิพนธ์ใน พระบาทสมเดจ็ พระมงกุฎเกลา้ เจ้าอย่หู วั ไดร้ ับยกย่องจาก วรรณคดีสโมสรให้เป็นยอดของบท ละครพูดคาฉนั ท์ วรรณคดีเร่อื งน้ี พระบาทสมเดจ็ พระมงกฎุ -เกลา้ เจ้าอยหู่ วั ทรงวางโครงเรอ่ื งขึน้ เอง เพ่ือชใ้ี หเ้ ห็นถึงความ
ห ลั ก สู ต ร ส ถ า น ศึ ก ษ า | 301 ท่ี ชือ่ หน่วยกำรเรยี นรู้ มำตรฐำนกำร สำระสำคญั เวลำ นำ้ หนัก 4 การเขียนเรียงความ เรยี นรู้/ตวั ชีว้ ัด (ช่ัวโมง) คะแนน ท 2.1 ม. 4-6/2, การเขยี นเรียงความเรามักประสบ 5 การพดู ต่อท่ปี ระชุมชน ปัญหาว่า จะเขียนอะไรบ้างเขียน 4 5 ม. 4-6/8 อย่างไรจงึ จะเปน็ เรียงความที่ดี ปัญหาเหล่านส้ี ามารถแกป้ ัญหาได้ 6 10 ท 3.1 ม. 4-6/5, ด้วยการศึกษาทาความเข้าใจ ม. 4-6/6, เก่ียวกบั สว่ นประกอบในการเขยี น การใชโ้ วหารแนวปฏิบตั ิแต่ละ ข้ันตอน รวมท้ังการฝกึ ทักษะการ เขียนอย่างสม่าเสมอ จะชว่ ยให้การ เขยี นเรยี งความมีความน่าสนใจ และนา่ ติดตามอ่านยิง่ ข้นึ การพูดต่อทป่ี ระชุมชนเปน็ เรอื่ ง สาคัญของการสื่อสารในสงั คม จาแนกได้หลายวธิ ี คอื วิธีนาเสนอ แบง่ เปน็ การพูดโดยฉับพลนั การ พูดโดยอาศัยต้นร่าง การพูดโดย การทอ่ งจา และการพูดโดยอา่ น จากรา่ งจุดมุ่งหมายของการพดู แบ่ง เปน็ การพูดเพ่ือใหค้ วามรู้ ขอ้ เทจ็ จรงิ การพดู เพ่อื โนม้ น้าวใจ การพดู เพ่อื จรรโลงใจและการพูด เพอื่ คน้ หาคาตอบ ความ หลากหลายของเน้อื หาท่ีพดู อาจ เป็นเร่อื งเก่ยี วกับนโยบาย เรอื่ ง เกีย่ วกับข้อเท็จจริง และเกย่ี วกับ คุณธรรมความดีโอกาสทีพ่ ดู มีท้งั เป็นทางการไม่เป็นทางการ และกง่ึ ทางการ
ห ลั ก สู ต ร ส ถ า น ศึ ก ษ า | 302 ท่ี ชือ่ หนว่ ยกำรเรยี นรู้ มำตรฐำนกำร สำระสำคัญ เวลำ นำ้ หนัก 6 การสือ่ สารในการประชุม เรยี นร้/ู ตัวชว้ี ัด (ชั่วโมง) คะแนน ท 3.1 ม. 4-6/5, การประชมุ คือ การพบปะบุคคล 7 การเขียนสื่อสารเชงิ กจิ ตามทีไ่ ดน้ ดั หมาย โดยมี 4 5 ธุระ ม. 4-6/6 วตั ถปุ ระสงค์เพ่อื แลกเปล่ียน ความรู้ แก้ปัญหานาเสนอนโยบาย 4 5 ท 2.1 ต่าง ๆ รปู แบบการประชมุ มีทั้งการ ม. 4-6/1, ประชมุ เฉพาะกลุ่ม และการประชุ ม. 4-6/8 สาธารณะ ในการประชมุ ตอ้ ง ประกอบดว้ ยบุคคลที่เปน็ ประธาน และผู้เข้าประชุมการปฏบิ ัตติ น อย่างเหมาะสมเข้าใจคาศพั ท์ เฉพาะและใช้ภาษาเหมาะแก่ กาลเทศะทาให้การประชุม สมั ฤทธิผลได้ การกรอกแบบรายการ คอื การ กรอกขอ้ ความลงในชอ่ งว่างทเี่ วน้ ไว้ ใหก้ รอกข้อความมี 4 ประเภท ไดแ้ ก่ แบบรายการท่ใี ช้ตดิ ตอ่ กบั หน่วยงานท้งั ภาครฐั และ ภาคเอกชน แบบรายการท่ีผอู้ ื่นขอ ความร่วมมอื ใหก้ รอก แบบรายการ ทใ่ี ช้ในองค์กรและหนว่ ยงาน และ แบบรายการการทาสัญญา ผ้กู รอก แบบรายการจะตอ้ งอา่ นแบบ รายการให้เขา้ ใจ เขยี นตามความ จริงใหค้ รบถว้ น 2. การเขยี น ประกาศ คอื การแจ้งเรอื่ งต่าง ๆ ใหค้ นจานวนมากทราบมีทั้งที่เปน็ ทางการ
ห ลั ก สู ต ร ส ถ า น ศึ ก ษ า | 303 ท่ี ชือ่ หน่วยกำรเรียนรู้ มำตรฐำนกำร สำระสำคัญ เวลำ น้ำหนัก เรียนร/ู้ ตัวช้วี ัด (ชั่วโมง) คะแนน 8 คมั ภีรฉ์ ันทศาสตร์ ท 5.1 ม. 4-6/1, แพทย์ศาสตร์สงเคราะห์เป็นตารา 4 10 แพทยศ์ าสตรส์ งเคราะห์ ม. 4-6/2, เกยี่ วกับการแพทย์แผนโบราณของไทยท่ี ม. 4-6/3, สืบทอดกนั มาตาราเล่มน้ีสมบรู ณ์ด้วย ม. 4-6/4 องค์ความรอู้ นั เป็นภมู ิปัญญาเกี่ยวกบั ลกั ษณะของโรคต่าง ๆ การวินจิ ฉัยโรค การรักษาโรค สรรพคุณของสมนุ ไพร ชนิดต่าง ๆ และคุณสมบตั ิของการเป็น แพทย์ท่ดี ีจุดประสงค์ของการรวบรวม และจัดพิมพ์ตาราแพทย์ศาสตร์ สงเคราะหน์ ีเ้ พ่ือไมใ่ ห้การแพทยแ์ ผน โบราณและตารายาพ้ืนบ้านของไทยสญู หายไปสมดัง พระราชประสงค์ในพระบาทสมเด็จพระ จลุ จอมเกล้าเจา้ อยู่หวั สอบระหว่างภาค 20 สอบปลายภาค 20 รวม 40 100
กลมุ่ สาระการเรียนร้ภู าษาไทย คำอธบิ ำยรำยวิชำ ห ลั ก สู ต ร ส ถ า น ศึ ก ษ า | 304 ชั้นมัธยมศกึ ษาปที ี่ 6 วชิ า ภาษาไทยพนื้ ฐาน5 รหสั ท33101 เวลาเรียน 40 ชั่วโมง จานวน 1.0 หนว่ ยกิต ศึกษาการอ่านออกเสียงร้อยแก้ว ร้อยกรอง อ่านงานเขียนประเภทต่าง ๆ อ่านตีความ แปลความ ขยาย ความ วิเคราะห์ วิจารณ์ ประเมินค่า แสดงความคิดเห็นโต้แยง้ เขียนกรอบแนวคิด ผังความคิด เขียนสื่อ ความในรูปแบบต่าง ๆ การอธิบาย บรรยาย พรรณนา การประเมินคุณค่างานเขียน รายงานการค้นคว้า ใช้ ข้อมูลสารสนเทศอ้างอิง เลือกฟังและดู อย่างมีวิจารณญาณ พูดแสดงทรรศนะ โน้มน้าวใจธรรมชาติของภาษา ลกั ษณะภาษาไทย การเปลยี่ นแปลงของภาษา ระดบั ภาษา ราชาศัพท์ อทิ ธิพลภาษาต่างประเทศ หลักการวเิ คราะห์ วิจารณ์วรรณคดีและวรรณกรรมไทย เชื่อมโยงเหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์และวิถีชีวิตสังคมไทยในอดีต ประเมินค่า ดา้ นวรรณศลิ ป์ ใช้กระบวนการอ่าน การเขยี น ทักษะการฟงั และดู การพูด และกระบวนการคิด ในการอา่ นออกเสียง รอ้ ย แก้ว ร้อยกรอง ตีความ แปลความ ขยายความ วิเคราะห์ วิจารณ์ ประเมินค่า แสดงความคิดเห็นโต้แย้ง มี มารยาทในการส่ือสาร เพ่ือให้เกิดความรู้ ความคิด สามารถสื่อสารด้วยภาษาที่ถูกต้องเหมาะสม นาไปประยุกต์ใช้ใน การดาเนินชวี ติ เห็นคุณค่าและรักษาภาษาไทย วรรณคดี วรรณกรรมไทย ไว้เป็นสมบัติและมรดกทางวัฒนธรรม นาความรู้ หลักการปฏิบัตติ ามปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพียงมาประยุกต์ใชใ้ นชวี ติ ประจาวนั รหสั ตวั ช้ีวดั ท 1.1 ม.4 - 6/1 ม. 4-6/2 ม. 4-6/6 ม.4 - 6/9 ท 2.1 ม.4 - 6/1 ม.4 - 6/5 ม.4 - 6/6 ม.4 - 6/8 ท 3.1 ม.4 - 6/1 ม.4 - 6/3 ม.4 - 6/5 ท 4.1 ม.4 - 6/1 ม.4 - 6/3 ม.4 - 6/4 ม.4-6/5 ม.4-6/6 ท 5.1 ม.4 - 6/1 ม.4 - 6/4 ม.4 - 6/6 รวมท้ังหมด 19 ตัวชี้วัด
กลุ่มสาระการเรียนรภู้ าษาไทย โครงสร้ำงรำยวชิ ำ ห ลั ก สู ต ร ส ถ า น ศึ ก ษ า | 305 ชั้นมธั ยมศึกษาปีท่ี 6 วชิ า ภาษาไทยพน้ื ฐาน5 รหสั ท33101 เวลาเรยี น 40 ชวั่ โมง จานวน 1.0 หนว่ ยกติ ท่ี ชือ่ หนว่ ย ตัวช้ีวัด สำระสำคัญ เวลำ น้ำหนัก 1. อา่ นถอ้ ยคาจับสานวน ท1.1 ม. 4-6/1 คะแนน (ชัว่ โมง) 2 เรียงรอ้ ยถ้อยความ ม. 4-6/2 10 สือ่ สารภาษา ม. 4-6/6 การอ่านออกเสียงประเภทรอ้ ยแก้ว 6 ม. 4-6/9 10 เป็นการสอ่ื สาร ผู้อ่านออกเสยี งจึง ท 2.1 ม.4-6/1 ม. 4-6/5 ต้องมีความรเู้ รือ่ งการอา่ นออกเสียง ม. 4-6/6 ม. 4-6/8 เพอ่ื ถ่ายทอดใหผ้ ู้ฟงั เขา้ ใจเร่ืองราว ตา่ ง ๆ ไดอ้ ยา่ งมีประสทิ ธภิ าพการ อา่ น จับใจความมงุ่ เน้นการเกบ็ สาระสาคญั จากเรอ่ื งท่ีอ่าน ผอู้ ่านจงึ ตอ้ งใช้สมาธิ และความเขา้ ใจ อกี ทง้ั ยงั ต้องฝกึ ฝน เพือ่ ให้การอ่านจับใจความมี ประสทิ ธิภาพการอา่ นจบั ใจความจาก ปาฐกถาตอ้ งพิจารณาจุดมุ่งหมายของ ผ้พู ดู ว่าตอ้ งการให้ความรู้หรอื แสดง ความคิดเหน็ เกย่ี วกบั เรื่องใด เพื่อให้ สามารถจับใจความสาคัญได้ถูกตอ้ ง และเขา้ ใจเรื่องที่อา่ น การเขยี นอธบิ ายเปน็ การเขียนทม่ี ี 8 จุดมุ่งหมายให้ผู้รับสารเข้าใจเร่ืองราว อย่างใดอย่างหน่ึงอยา่ งถูกต้องชัดเจน การศกึ ษาและฝกึ ฝนตามกลวธิ ีการ เขยี นอธบิ าย ทาให้สามารถเขียน อธิบายได้ละเอยี ดและชดั เจนมาก ยง่ิ ขึ้นการประเมนิ คณุ คา่ ของงานเขยี น เป็นขนั้ ตอนสุดท้ายของกระบวนการ อ่านเพ่ือวิเคราะหส์ ารอนั จะนาไปสู่ การวจิ ารณ์และตดั สินคณุ ค่าของงาน เขียน การประเมนิ คณุ คา่ ของงาน เขียนทีด่ คี วรทาดว้ ยหลักการและ เหตุผล
ห ลั ก สู ต ร ส ถ า น ศึ ก ษ า | 306 ท่ี ชอ่ื หน่วย ตัวชวี้ ัด สำระสำคญั เวลำ นำ้ หนกั คะแนน 3 รอบรู้อยา่ งมี ท 3.1 (ช่วั โมง) วิจารณญาณ ม.4 - 6/1 10 ม.4 - 6/3 การเลอื กเรอื่ งเพอื่ ฟงั และดูอย่างมี 8 15 ม.4 - 6/5 วจิ ารณญาณ ช่วยพฒั นาความคดิ 15 สติปญั ญาใหเ้ ปน็ ผรู้ อบรู้ และรจู้ กั นา ประสบการณ์ และแนวคดิ มาใช้ตัดสิน แกป้ ัญหาในชวี ติ ประจาวันไดอ้ ยา่ งมี เหตุผล 4 สื่อความหมายใช้ถอ้ ยคา ท 4.1 ธรรมชาตขิ องภาษามี 4 ประการคือ 10 ม. 4-6/1 ภาษาใช้เสียงสือ่ ความหมาย ภาษา ม.4-6/3 ม. 4-6/4 ประกอบจากหน่วยเสียงเป็นหนว่ ยท่ี ม.4 - 6/5 ใหญ่ขึน้ ภาษามีการเปล่ียนแปลง ม.4-6/6 และภาษาต่าง ๆ มีลกั ษณะท่ี เหมอื นกนั และแตกต่างกัน การเข้าใจธรรมชาติ ของภาษาทาให้นาไปใช้ในการสอ่ื สาร ได้อยา่ งถกู ต้อง ซง่ึ ภาษาทใี่ ช้สื่อสารมี ท้งั วจั นภาษาและอวจั นภาษา ผู้ ส่ือสารต้องมคี วามชดั เจนในการ ส่อื สาร จึงจะทาให้การสื่อสารมีสัมฤทธิผล ภาษาสามารถสะท้อนความคดิ ความรู้สึกและทัศนคตขิ องบคุ คล เกิด เป็นพลังของภาษาทท่ี าใหผ้ ู้รับสาร เกดิ ความคิดหรอื ความรสู้ กึ คล้อยตาม ดงั นัน้ ผ้ใู ชภ้ าษาจงึ ควรไตรต่ รอง เพอ่ื ใหเ้ กดิ พลังของภาษาในทาง สร้างสรรค์ 5 รคู้ ณุ ค่ารกั ษาวรรณคดี ท 5.1 วเิ คราะห์วิจารณ์ตามหลักการวจิ ารณ์ 8 วรรณกรรม ม.4 - 6/1 เบ้อื งต้น และลกั ษณะเดน่ โดย ม.4 - 6/4 ม.4 - 6/6 เชื่อมโยงกบั การเรียนรทู้ าง ประวัติศาสตรแ์ ละวถิ ชี วี ิตของสงั คมใน อดีต คุณคา่ ด้านวรรณศิลป์ในฐานะท่ี เป็นมรดกทางวฒั นธรรมของชาติ มี การสังเคราะห์ขอ้ คิด
ห ลั ก สู ต ร ส ถ า น ศึ ก ษ า | 307 ท่ี ชือ่ หนว่ ย ตัวช้ีวัด สำระสำคญั เวลำ น้ำหนกั (ชั่วโมง) คะแนน การอา่ นออกเสยี งเร่ือง สามกก๊ ตอน กวนอูไปรบั ราชการกับโจโฉ จะตอ้ ง 40 20 อ่านอยา่ งถกู ตอ้ ง เหมาะสม วเิ คราะห์ 20 วิจารณ์ ตามหลักการวิจารณเ์ บ้อื งต้น 100 และลักษณะเดน่ โดยเชอ่ื มโยงกับการ เรยี นร้ทู างประวัตศิ าสตร์และวิถีชีวิต ของสังคมจนี ในอดีต คุณค่าด้าน วรรณศิลปแ์ ละสงั เคราะหข์ อ้ คดิ เพอ่ื นาไปประยุกตใ์ ชใ้ นชวี ิตจรงิ สอบระหวา่ งภาค สอบปลายเรียน รวม
กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย คำอธบิ ำยรำยวิชำ ห ลั ก สู ต ร ส ถ า น ศึ ก ษ า | 308 ชน้ั มัธยมศึกษาปีท่ี 6 วิชา ภาษาไทยพน้ื ฐาน6 รหสั ท33102 เวลาเรยี น 40 ชวั่ โมง จานวน 1.0 หน่วยกติ ศึกษาการอ่านออกเสียงร้อยแก้ว ร้อยกรอง อ่านงานเขียนประเภทต่าง ๆ อ่านตีความ แปลความ ขยาย ความ วิเคราะห์ วิจารณ์ ประเมินค่า แสดงความคิดเห็นโต้แย้ง เขียนกรอบแนวคิด ผังความคิด เขียนส่ือ ความในรูปแบบต่าง ๆ การแสดงทรรศนะ โต้แย้ง โน้มน้าวใจ เชิญชวน ประเมินคุณค่างานเขียน การเขียน รายงานจากการค้นคว้า ใช้ข้อมลู สารสนเทศอา้ งอิง การเขียนบนั ทึกความรู้ เลือกฟงั และดู อยา่ งมวี จิ ารณญาณ พลัง ของภาษา การแตง่ บทรอ้ ยกรอง ประเมินการใชภ้ าษาจากสอื่ ส่งิ พมิ พ์และสอ่ื อเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ ลักษณะเดน่ ขอ้ คิดจาก วรรณคดแี ละวรรณกรรมไทย ประเมนิ คา่ ดา้ นวรรณศลิ ปแ์ ละสังคม บทอาขยาน บทร้อยกรอง ใช้กระบวนการอ่าน การเขียน ทักษะการฟังและดู การพูด และกระบวนการคิด ในการอ่านออกเสียงร้อย แกว้ รอ้ ยกรอง ตีความ แปลความ ขยายความ วเิ คราะห์ วจิ ารณ์ ประเมนิ ค่า แสดงความคิดเหน็ โต้แยง้ มีมารยาท ในการสือ่ สาร เพอ่ื ให้เกิดความรู้ ความคิด สามารถสอ่ื สารดว้ ยภาษาทีถ่ กู ต้องเหมาะสม เห็นคุณค่าและรักษาภาษาไทย วรรณคดี วรรณกรรมไทย ไว้เป็นสมบัติและมรดกทางวัฒนธรรม นาความรู้ หลกั การปฏิบัตติ ามปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาประยุกตใ์ ช้ในชีวติ ประจาวัน รหัสตวั ชี้วัด ม.4-6/6 ม.4 - 6/9 ม.4-6/4 ม.4-6/6 ม.4 - 6/7 ท 1.1 ม.4 - 6/1 ท 2.1 ม.4-6/2 ม.4 - 6/6 ม.4 - 6/7 ม.4 - 6/4 ม.4-6/3 ม.4-6/4 ม.4 - 6/6 ท 3.1 ม.4 - 6/1 ม.4-6/2 ท 4.1 ม.4 - 6/1 ท 5.1 ม.4-6/1 รวมทั้งหมด 17 ตัวชี้วัด
กลมุ่ สาระการเรียนรู้ภาษาไทย โครงสร้ำงรำยวชิ ำ ห ลั ก สู ต ร ส ถ า น ศึ ก ษ า | 309 ช้นั มัธยมศึกษาปที ่ี 6 วชิ า ภาษาไทยพ้ืนฐาน6 รหัส ท33102 ท่ี เวลาเรยี น 40 ช่วั โมง จานวน 1.0 หนว่ ยกติ ช่ือหน่วยกำรเรียนรู้ มำตรฐำน/ สำระกำรเรยี นรู้ เวลำ น้ำหนกั 1 ภูมิใจบทรอ้ ยแก้ว ตัวชวี้ ัด (ชว่ั โมง) คะแนน 2 เพริศแพรว้ บทเห่เรอื ท๑.๑ ม.๔-๖/๖ สามก๊ก ตอนกวนอูไปรับราชการ 8 10 ท๕.๑ ม.๔-๖/๑ กับโจโฉ การอ่านออกเสียงบท 8 15 3 จนิ ตนาการลา้ เหลือ เรยี งความไทย ม.๔-๖/๒ รอ้ ยแก้ว หลกั การวเิ คราะห์ ม.๔-๖/๓ วจิ ารณ์ การประเมนิ คุณคา่ 4 ประวตั ิวรรณคดีสมัย ม.๔-๖/๔ วรรณคดี (ด้านวรรณศลิ ป์ รตั นโกสนิ ทร์ ท๓.๑ ม. ๔-๖/๑ ดา้ นสังคมและวัฒนธรรม) ม. 4-6/6 และสรุปแนวคิด 5 เสรมิ ศกั ยภาพภาษาไทย ท๕.๑ ม.๔-๖/๑ กาพย์เหเ่ รอื หลักการวิเคราะห์ ม.๔-๖/๒ วจิ ารณ์ การประเมินคณุ ค่า ม.๔-๖/๓ วรรณคดี (ด้านวรรณศลิ ป์ ดา้ น ม.๔-๖/๔ สังคมและวฒั นธรรม) ทอ่ งจาบท ม.๔-๖/๖ อาขยานทีม่ คี ุณค่า ท๒.๑ ม.๔-๖/๔ ใชภ้ าษาอธบิ าย บรรยาย 8 15 ม.๔-๖/๒ พรรณนา การเขียนท่บี รรลุ ม.๔-๖/๖ วตั ถปุ ระสงค์ การเขยี นเรยี งความ 8 15 เกีย่ วกบั โลกจนิ ตนาการและโลก อุดมคติ 8 15 ท๕.๑ ม.๔-๖/๔ การศึกษาประวัตวิ รรณคดไี ทย - 10 ท๒.๑ ม.๔-๖/๖ สมัยรัตนโกสนิ ทร์ รัชกาลท่ี ๔ – - 20 40 100 ม.๔-๖/๗ ปจั จบุ นั การเขยี นรายงานเชิง วชิ าการ ท๔.๑ ม.4-6/1 หลักภาษาไทย การใช้ภาษาเพอ่ื ม.4-6/4 การสื่อสาร สนุ ทรยี ภาพทาง ม.4-6/7 วรรณคดี คุณคา่ แนวคิด ท๕.๑ ม. ๔-๖/๑ คา่ นยิ ม ในคาประพันธ์ สอบระหว่างภาค สอบปลายภาค รวมคะแนน
กลุม่ สาระการเรียนรู้ภาษาไทย ห ลั ก สู ต ร ส ถ า น ศึ ก ษ า | 310 ชนั้ มัธยมศกึ ษาปที ่ี 4 คำอธบิ ำยรำยวชิ ำ รายวิชา พฒั นาการเขียน 1 (เพ่มิ เตมิ ) ท31201 เวลาเรียน 40 ชวั่ โมง จานวน 1.0 หนว่ ยกิต ศกึ ษาหลักการเขยี นสะกดคาถูกตอ้ งตามอกั ขรวธิ ีและหลักการเขียนคาไทย การเลือกใช้คาตรงความหมาย และถูกระดับภาษา และการเลอื กใช้ภาษาเรียบเรียงขอ้ ความอยา่ งถกู ตอ้ ง ใชก้ ระบวนการเขยี นพัฒนางานเขียนในรูปแบบต่าง ๆ อยา่ งสรา้ งสรรค์ มีมารยาทในการเขยี น การ เขียนโดยใชภ้ าษาสภุ าพ รับผดิ ชอบในสง่ิ ทเี่ ขียน การเขียนอยา่ งสร้างสรรค์และอา้ งองิ แหลง่ ทม่ี า ปลูกฝังนิสัยรักการเขียน โดยการสังเกต การศึกษา การค้นคว้า รวบรวมข้อมูลและจดบันทึกความรู้ ประสบการณ์และเหตกุ ารณอ์ ย่างสม่าเสมอ ผลกำรเรียนรู้ 1. อธิบายกระบวนการในการศึกษา ค้นคว้าหาความรู้เกย่ี วกับส่ิงท่ีตนสนใจ 2. ใช้ถอ้ ยคาภาษาได้อยา่ งถูกตอ้ งตามหลกั การใช้ภาษา 3. ระบุองคป์ ระกอบของการเขยี นแต่ละประเภท 4. เขียนโครงรา่ ง จากการศึกษาคน้ ควา้ เรยี บเรยี งและถา่ ยทอดความคิดไดอ้ ยา่ งชดั เจนเทยี่ งตรงและเปน็ เชิง วิชาการอยา่ งแทจ้ ริง รวมทัง้ หมด 4 ผลกำรเรยี นรู้
กล่มุ สาระการเรยี นรภู้ าษาไทย ห ลั ก สู ต ร ส ถ า น ศึ ก ษ า | 311 ชน้ั มัธยมศึกษาปีที่ 4 โครงสรำ้ งรำยวิชำ รายวชิ า พฒั นาการเขยี น 1 (เพ่ิมเตมิ ) ท31201 เวลาเรยี น 40 ชวั่ โมง จานวน 1.0 หนว่ ยกติ ท่ี ช่อื หน่วยกำรเรียนรู้ ผลกำรเรียนรู้ สำระสำคัญ เวลำ นำ้ หนกั ชวั่ โมง คะแนน ทีค่ ำดหวัง 8 10 1 พ้นื ฐานการเขยี น ขอ้ ที่1 มารยาทในการเขียนการคดั ลายมอื ตาม ขอ้ ที่3 รปู แบบกระทรวงศกึ ษาธิการ การเขยี นสะกดคาตรงตามอกั ขระวิธี ภาษาไทย 2 เขียนแนะนาตนเอง ข้อที่1 การเขียนแนะนาตนเองเปน็ การเขยี น 8 15 3 เขียนบรรยาย ข้อท่ี 2 เพอื่ บอกข้อมูลเกีย่ วกับตนเองโดยมีการ 8 ขอ้ ที่3 จดั ทารูปแบบทีน่ า่ สนใจ 8 15 4 เขยี นย่อความ ขอ้ ที่4 ขอ้ ท1่ี การเขียนบรรยายประสบการณ์ เป็นการ 8 15 5 เขยี นจดหมายเพื่อกิจ ขอ้ ที่ 2 เขยี นเลา่ เหตกุ ารณใ์ ดเหตุการณห์ น่งึ ท่ี 40 ธรุ ะ ขอ้ ท3่ี เกดิ ขน้ึ เพื่อใหผ้ อู้ ่านเห็นภาพเหตกุ ารณ์ 15 ข้อท4่ี ลาดบั เวลา สถานที่ บคุ คล ผเู้ ขียนควร 10 20 กลา่ วถึง เหตุการณใ์ หช้ ัดเจน 100 ข้อท1่ี -การเขยี นยอ่ ความจากสอ่ื ตา่ งๆคือ การ ขอ้ ที่ 2 จบั ใจความสาคัญ จับประเด็นสาคัญของ ข้อท3่ี เรอื่ งท่ไี ด้อ่าน ได้ฟงั หรอื ได้ดูมาอยา่ งย่อๆ ข้อท่ี4 แล้วนามาเรยี บเรยี งใหม่ใหไ้ ด้ความ ครบถว้ น สัน้ กระชบั ด้วยสานวนภาษา ของตนเอง ข้อท1ี่ การเขยี นจดหมายเพื่อกจิ ธรุ ะ จดหมาย ข้อที่3 ท่ตี ดิ ต่อกนั ระหว่างภายนอก หรอื ภายใน ขอ้ ที่4 สอบระหวา่ งภาค สอบปลายภาค รวม
ห ลั ก สู ต ร ส ถ า น ศึ ก ษ า | 312 คำอธิบำยรำยวชิ ำ กลุม่ สาระการเรียนร้ภู าษาไทย รายวชิ าพฒั นาการเขยี น2 (เพม่ิ เตมิ ) ท 31202 ช้ันมัธยมศึกษาปที ี่ 4 เวลาเรยี น 40 ชว่ั โมง จานวน 1.0 หน่วยกติ ศึกษาหลักการคัดลายมือตัวบรรจงคร่ึงบรรทัด เขียนสะกดคาถูกต้องตามอักขรวิธีและหลักการเขียนคาไทย การเลอื กใช้คาตรงความหมายและถกู ระดบั ภาษา และการเลอื กใช้ภาษาเรียบเรียงข้อความอย่างประณีต เขยี นแนะนา ตนเอง เขียนบรรยายประสบการณ์ เขียนเรียงความ ย่อความ เขียนแสดงความคิดเหน็ เขียนจดหมายสว่ นตัว ใชก้ ระบวนการเขยี นพฒั นางานเขียนในรปู แบบต่าง ๆ อย่างสร้างสรรค์ และเป็นผู้มีมารยาท ในการเขยี น และมีนิสยั รกั การเขยี น นาทักษะต่าง ๆ ด้านการเขียนมาประยุกต์ใช้ในชีวติ ประจาวนั ผลกำรเรียนรู้ 1. มกี ระบวนการเขยี นพัฒนางานเขยี นในรูปแบบต่าง ๆ อย่างสร้างสรรค์ 2. นาเสนอวิธีคิด วธิ ีแก้ปญั หาดว้ ยภาษาหรือวิธกี ารของตนเอง 3. กาหนดเป้าหมาย คาดการณ์ ตดั สนิ ใจแก้ปญั หาโดยมีเหตุผลประกอบ 4. มคี วามคิดริเริม่ และสรา้ งสรรค์ผลงานด้วยความภาคภูมิใจ รวมทง้ั หมด 4 ผลกำรเรียนรู้
ห ลั ก สู ต ร ส ถ า น ศึ ก ษ า | 313 โครงสร้ำงรำยวชิ ำ กลมุ่ สาระการเรียนรภู้ าษาไทย รายวิชาพัฒนาการเขียน2 (เพิม่ เตมิ ) ท31202 ชนั้ มัธยมศกึ ษาปีท่ี 4 เวลาเรียน 40 ชว่ั โมง จานวน 1.0 หน่วยกิต ท่ี ช่อื หนว่ ย ผลกำรเรยี นรทู้ ี่ สำระสำคญั เวลำ นำ้ หนกั กำรเรยี นรู้ คำดหวงั ข้อที่1 ชั่วโมง คะแนน 1 แนะนาสถานท่สี าคญั ขอ้ ท4่ี การเขียนแนะนาสถานทีส่ าคัญใช้ 8 15 2 เขียนบนสอื่ ขอ้ ท1่ี อเิ ลก็ ทรอนิกส์ ขอ้ ท2่ี ภาษาเขียนท่กี ระชัด ได้ใจความ ข้อท4่ี 3 เรยี งความข้ันสงู ชดั เจนใช้ถ้อยคาให้ถกู ต้อง ขอ้ ท่ี1 ข้อท2่ี เหมาะสมในเชงิ แนะนา ไม่บงั ครับ ข้อที่4 ขเู่ ข็ญ สุภาพ นมุ่ นวล และไม่มี อคตโิ ดยแสดงถงึ ความจริงใจ ให้ กาลงั ใจ เพือ่ ให้ผูร้ บั คาแนะนารู้สึก วา่ สามารถนาไปปฏบิ ัติได้นาเสนอ คาแนะนาหลายๆ วธิ ี เพอื่ ให้ผ้อู า่ น มที างเลอื กในการนาไปปฏิบตั ิ การเขียนบนสอ่ื อิเล็กทรอนิกสเ์ ปน็ 8 15 กระบวนการถ่ายทอดสาร (message) จากผ้สู ง่ สาร (sender) ไปยงั ผูร้ ับสาร (receiver) โดยผา่ นสื่อ (media) ประเภทต่างๆในการอยู่ร่วมกนั ของสังคมย่อมมกี ารสอ่ื สารเพ่อื สร้างความเข้าใจอันดตี อ่ กัน ระหว่างสมาชกิ ภายในกลุม่ การ สือ่ สารจงึ เป็นกลไกสาคญั ที่ทาให้ มนษุ ย์ดาเนนิ กิจกรรมต่างๆ การเขียนเรียงความ เชงิ พรรณนา 8 15 ลักษณะการเขียนรปู แบบหนึ่งท่มี ี ระบบ มแี บบแผนและมีการศกึ ษา ค้นคว้ามาเปน็ อย่างดใี นหัวขอ้ ที่ ผู้เขียนสนใจ 4 เขียนแสดง ข้อที่1 การเขียนแสดงความคิดเห็น 8 10 ความคิดเห็นอย่างมี ขอ้ ท2่ี เกี่ยวกับข่าว และเหตกุ ารณ์ วิจารณญาณ ข้อท่ี4 ประจาวนั ปญั ญาหรอื ความรูใ้ น เรือ่ งใดเรอ่ื งหนึง่ ท่ถี กู ตอ้ ง เหมาะสม และสอดคลอ้ งตาม
ห ลั ก สู ต ร ส ถ า น ศึ ก ษ า | 314 ท่ี ชื่อหนว่ ย ผลกำรเรยี นรู้ที่ สำระสำคัญ เวลำ นำ้ หนกั กำรเรียนรู้ คำดหวงั ช่ัวโมง คะแนน 5 โครงงาน เหตผุ ล อันไดม้ าจากกระบวนการ คดิ และพจิ ารณาดว้ ยความรู้ และ ประสบการณ์เดิมของตน ขอ้ ที่1 การเขียนโครงงาน ควรใช้ภาษาที่ 8 15 ข้อท่ี2 เข้าใจง่าย กระชับ ชดั เจน และ ขอ้ ท่3ี ครอบคลมุ ประเดน็ สาคัญของ ข้อท4่ี โครงงาน โดยสามารถเขียนให้อยู่ ในรปู ตา่ งๆ เชน่ การสรุป การ รายงานผล ซึ่งประกอบไปดว้ ย หัวข้อตา่ งๆ เชน่ บทคัดยอ่ บทนา เอกสารทเี่ กย่ี วขอ้ ง เปน็ ตน้ สอบระหวา่ งภาคเรยี น 10 สอบปลายภาค 20 รวม 40 100
ห ลั ก สู ต ร ส ถ า น ศึ ก ษ า | 315 คำอธิบำยรำยวิชำ กลุ่มสาระการเรยี นรูภ้ าษาไทย รายวชิ า การอ่านพิจารณาวรรณกรรม (เพม่ิ เติม) ท32201 ชนั้ มัธยมศกึ ษาปีที่ 5 เวลาเรยี น 40 ชั่วโมง จานวน 1.0 หน่วยกิต ใช้กระบวนการคิดวิเคราะห์ เป็นเคร่ืองมือ พัฒนาสมรรถภาพการอ่าน และ การเรียนรู้ อ่านหนังสือประเภท ต่าง ๆ และวเิ คราะหเ์ นือ้ หา รูปแบบ คุณคา่ ดา้ นวรรณศลิ ป์และสังคม วิจารณแ์ ละประเมินค่า เลอื กอ่านหนงั สอื และส่ือ สารสนเทศ ทงั้ สื่อส่ิงพิมพแ์ ละสื่ออิเล็กทรอนกิ ส์จากแหล่งเรยี นรูต้ ่าง ๆ นาไปใช้ประโยชน์ในการศึกษาตอ่ และทางาน มี มารยาทในการอ่านปลูกฝังนิสัยรักการอ่านและสุขลักษณะในการอ่านหนังสือ การใช้เวลาว่างในการอ่านหนังสือใช้ ห้องสมุด หรือแหล่งเรียนรู้แสวงหาความรู้ โดยเน้นห้องสมุดโรงเรียนและห้องสมุด ใช้กระบวนการเขียนพัฒนางาน เขียน เตรียมการเขียน ด้านต่าง ๆ ท้ังด้าน โครงเร่ือง เนื้อหา องค์ประกอบการเขียน ยกร่างข้อเขียน ตรวจทาน ปรับปรุงแก้ไข เขียนเรียงความ ย่อความ จดหมายราชการ เขียนโต้แย้ง โฆษณา ประชาสัมพันธ์ สารคดี รายงาน มี มารยาทในการเขยี นโดยใชภ้ าษาสุภาพ รับผิดชอบในสิ่งทีเ่ ขียนอยา่ งสร้างสรรค์และอ้างองิ แหลง่ ทม่ี าปลูกฝงั นสิ ยั รักการ เขยี น โดยการสังเกต ศกึ ษา คน้ ควา้ รวบรวมข้อมลู และจดบนั ทกึ อย่างสม่าเสมอ นาความรู้จากการฟัง การดูส่ือรูปแบบต่าง ๆ มาใช้เป็นข้อมูลในการตัดสินใจและแก้ปัญหา พูดแสดงความ คิดเหน็ วเิ คราะห์วจิ ารณ์ จากการฟังดู อยา่ งมเี หตผุ ล รจู้ ักพูดโน้มนา้ วใจ พูดเพ่อื ความบนั เทงิ มีมารยาท ในการฟัง การดู และการพูด ใช้ภาษาถูกต้องตามระดับภาษา สอดคล้องกับวัฒนธรรมและมีคุณธรรมพัฒนาบุคลิกภาพเข้าใจการใช้ภาษา ของกลมุ่ บุคคลในวงการต่าง ๆ ในสังคม ศึกษาวรรณกรรมประเภทเรอ่ื งส้ัน นวนิยาย สารคดี และบทความ ภาษาถ่ิน สานวนภาษิต ท่ีมีในวรรณกรรม พ้ืนบ้าน การวิเคราะห์คุณค่าของวรรณกรรม พื้นบ้าน สานวนภาษาด้านภาษาและสังคมในภาคตะวันออกของไทย หลักการวิจารณ์ วรรณคดีเบื้องต้น พิจารณาเร่ืองท่ีอ่าน วิเคราะห์องค์ประกอบของงานประชาสัมพันธ์และประเมิน คณุ คา่ ด้านวรรณศลิ ป์ และคุณคา่ ด้านสงั คมและการนาไปใช้ในชวี ิตจรงิ ผลกำรเรียนรู้ 1. ตระหนักถึงความสาคัญของการอ่านอย่างมีจุดมุ่งหมายตลอดจนนาประโยชน์ท่ีได้จากการอ่านมา ประยกุ ตใ์ ช้ในชีวติ ประจาวนั 2. มีความรู้ความเข้าใจความหมายของวรรณกรรมทั้งในความหมายกว้างและความหมายอย่างแคบพรอ้ มท้ัง พิจารณางานเขียนที่แบ่งตามประเภทวรรณกรรมได้อย่างถูกต้องเหมาะสม 3. มีทักษะกระบวนการใช้แนวทางและลาดบั ข้ันในการพจิ ารณาวรรณกรรมประเภทสารคดแี ละบันเทงิ คดี 4. มีทักษะกระบวนการใช้แนวทางและลาดับขั้นในการพิจารณาวรรณกรรมรอ้ ยกรองได้ตามหลักเกณฑ์ และ เลง็ เห็นคณุ ค่าทางวรรณศิลป์ในบทร้อยกรอง 5 . มีทักษะในการเลือกวรรณกรรมที่คุณค่าประเภทต่าง ๆ และเข้าใจหลักการพิจารณาวรรณกรรมประเภท รอ้ ยแกว้ และรอ้ ยกรอง เลง็ เหน็ ประโยชนต์ ลอดจนแสดงทรรศนะหนงั สอื และมีเจตคติเกี่ยวกบั วรรณกรรม ทอี่ ่านได้ 6. ใช้ภาษาในการส่ือสารอย่างมีคุณธรรม วัฒนธรรมและมีประสิทธิภาพ รวมท้ังมารยาทในการเขียนและเกดิ ความภูมิใจในการใช้ภาษาทถี่ ูกต้อง รวมทัง้ หมด 6 ผลกำรเรยี นรู้
ห ลั ก สู ต ร ส ถ า น ศึ ก ษ า | 316 โครงสร้ำงรำยวิชำ กลมุ่ สาระการเรียนรภู้ าษาไทย รายวชิ า การอ่านพิจารณาวรรณกรรม(เพ่มิ เติม) ท32201 ช้นั มัธยมศึกษาปีท่ี 5 เวลาเรยี น 40 ช่วั โมง จานวน 1.0 หน่วยกติ มำตรฐำน สำระกำรเรยี นรู้ จำนวน น้ำหนกั ชว่ั โมง คะแนน ท่ี ช่ือหน่วยกำรเรยี นรู้ กำรเรียนร/ู้ ตวั ช้ีวัด 1 พื้นฐานของการอา่ น ขอ้ ท่ี1 วิเคราะห์เนือ้ หาจากการอ่านหนังสอื 4 7 เลอื กอ่านหนงั สือ และสื่อสารสนเทศ 2 การอ่านและพิจารณา ข้อที่3 พฒั นาการอ่าน 4 7 วรรณกรรมประเภทสารคดี ปลกู ฝงั นสิ ัยรักการอ่าน 4 4 7 3 การอา่ นและพจิ ารณา ขอ้ ท4่ี พฒั นางานเขียน 4 วรรณกรรมประเภทบทความ ฝกึ อา่ นและเขียนเรยี งความ ย่อความ 7 7 4 วิธีอ่านตารา ข้อท่ี 1 หลักการอ่าน และฝึกด้านการเขยี น 5 การอ่านและพจิ ารณาข่าว ข้อท2่ี ศกึ ษาค้นควา้ ต่าง ๆ ข้อท5่ี การดูข่าวจากสื่อตา่ ง ๆ ข้อท่6ี การแสดงความคิดเหน็ 6 การอา่ นและพจิ ารณา ข้อท5่ี การพิจารณาประกาศฝกึ ดา้ นการ 4 7 ประกาศ สงั เกตและการส่ือสาร 4 7 4 7 7 การอา่ นและพิจารณานทิ าน ขอ้ ที่3 การพจิ ารณานทิ านดา้ นวัฒนธรรม 4 7 คณุ ธรรม พิจารณาดา้ นการใชภ้ าษา 4 7 8 การอ่านและพจิ ารณาเรอ่ื งสนั้ ข้อที3่ พจิ ารณาวรรณกรรมประเภทเรื่องส้ัน 9 การอ่านและพจิ ารณา วิเคราะห์คณุ ค่าของวรรณกรรม นวนยิ าย ขอ้ ท่3ี วจิ ารณว์ รรณกรรมประเภทนวนิยาย 10 การอ่านและพิจารณาบทร้อย ปจั จยั แวดลอ้ มของนวนยิ าย กรองจากวรรณกรรม ขอ้ ที่5 การเข้าใจโลกทัศน์จากการอ่าน ขอ้ ที่6 วรรณกรรมวถิ ชี ีวติ ของคนไทยจาก การอ่านบทร้อยกรอง สอบระหว่างภาค 10 สอบปลายภาค 20 40 100 รวม
ห ลั ก สู ต ร ส ถ า น ศึ ก ษ า | 317 คำอธิบำยรำยวิชำ กลุ่มสาระการเรียนรภู้ าษาไทย รายวิชาการอา่ นพจิ ารณาวรรณคดี(เพมิ่ เติม) ท32202 ชน้ั มัธยมศกึ ษาปีท่ี 5 เวลาเรียน 40 ช่วั โมง จานวน 1.0 หน่วยกติ อ่านเร่ืองต่าง ๆ อย่างเข้าใจ โดยการแปลความ ตีความ ขยายความ มีวิจารณญาณในการอ่าน และนาความรู้ จากการอา่ น ประสบการณจ์ ากการอ่าน รวมท้ังความร้จู ากแหล่งเรยี นรู้ต่าง ๆมาใช้ในการพัฒนา สมรรถภาพการเรียน การพดู และการคิด ในการตัดสินใจแก้ปญั หาและสร้างวิสัยทศั น์ในการดาเนินชวี ติ ใชก้ ระบวนการคิดวิเคราะหอ์ ย่างหลากหลายเพ่ือเปน็ เครอ่ื งมือพัฒนา สมรรถภาพการอา่ นและการเรียนรู้ โดย การอา่ นหนงั สือประเภทตา่ ง ๆ วเิ คราะหเ์ นอ้ื หา รปู แบบ คุณค่า ดา้ นวรรณศลิ ป์ สังคม รวมทง้ั การวิจารณ์และประเมิน ค่า เลือกอ่านหนังสือ ส่ือสารสนเทศ ทั้งสื่อสิ่งพิมพ์และสื่ออิเล็กทรอนิกส์ จากแหล่งการเรียนรู้ต่าง ๆ นักเรียนเลือกฟัง เลอื กดสู ่ิงทีเ่ ปน็ ความรแู้ ละความบันเทิงอย่างมวี จิ ารณญาณ พดู แสดงความคิดเห็น วิเคราะหว์ ิจารณ์จากการฟงั และการ ดูอย่างมีเหตุผล พูดในโอกาสต่าง ๆ ทั้งที่เป็นทางการ กึ่งทางการ และไม่เป็นทางการ โดยใช้ภาษาถูกต้องเหมาะสมมี เหตุผล มีมารยาทในการฟัง การดู และการพูด เข้าใจธรรมชาติ และลักษณะของภาษาไทย ใช้ถ้อยคาเหมาะสมแก่ โอกาส และฐานะของบคุ คล ใช้ภาษาถกู ตอ้ งตามระดับภาษา สอดคลอ้ งกับวฒั นธรรมและเพ่อื พฒั นาบุคลิกภาพ เข้าใจ การใชภ้ าษาของกลุ่มบุคคล ในวงการตา่ ง ๆ ในสังคม ศึกษากวนี ิพนธ์ ประเภทกาพย์ กลอน โคลง บทละคร หลกั การ วิจารณ์วรรณคดีเบื้องต้น พิจารณาเร่ืองท่ีอ่าน วิเคราะห์องค์ประกอบของงานประพันธ์ ประเมินคุณค่าด้านวรรณศิลป์ คุณคา่ ดา้ นสงั คม และการนาไปใชใ้ นชีวิตจริง ๆ เข้าใจในโลกทัศน์ วีชีวิตของคนไทย และการดารงชีวิตอย่างเพียงพอจากการอ่านวรรณคดี รู้จักรักษา ขนบธรรมเนยี มประเพณขี องไทย ผลกำรเรยี นรู้ 1. แต่งคาประพันธ์ได้ถูกต้องตามลักษณะบังคับของคาประพันธ์ชนิดนั้นๆ และมีใจความชัดเจนตามความ ประสงค์ 2. มีความรู้ความเข้าใจในการใช้ภาษาได้ถูกต้อง สร้างสรรค์ มีคุณธรรมเพ่ือใช้ภาษาสื่อสารอย่างมี ประสิทธภิ าพ 3. สามารถวิเคราะห์ วจิ ารณแ์ ละประเมนิ คณุ คา่ วรรณคดีและวรรณกรรมจากเร่อื งทอี่ ่านเก่ียวกบั คุณค่าด้านวรรณศลิ ป์ สังคม และวฒั นธรรม และนาไปใช้ในชีวติ จรงิ ได้ 4. ทอ่ งจาบทอาขยานและบทรอ้ ยกรองทม่ี คี ณุ ค่าได้ 5. วิเคราะห์วรรณคดีและวรรณกรรมเกย่ี วกบั เหตกุ ารณ์ประวตั ศิ าสตร์ และวถิ ีชวี ิตของสงั คมในอดีต รวมทั้งหมด 5 ผลกำรเรยี นรู้
ห ลั ก สู ต ร ส ถ า น ศึ ก ษ า | 318 โครงสร้ำงรำยวิชำ กลมุ่ สาระการเรยี นรภู้ าษาไทย รายวิชา การอา่ นพจิ ารณาวรรณคดี(เพ่มิ เติม) ท32202 ช้ันมธั ยมศึกษาปีที่ 5 เวลาเรียน 40 ชว่ั โมง จานวน 1.0 หนว่ ยกิต ท่ี ช่อื หน่วยกำรเรียนรู้ มำตรฐำนกำร สำระกำรเรยี นรู้ จำนวน นำ้ หนัก 1 กรองกานทว์ ิจติ ร เรยี นร/ู้ ตวั ชว้ี ัด ชวั่ โมง คะแนน 10 2 พินิจภาษา ขอ้ ที่1 ปฐมนเิ ทศ แจง้ มาตรฐานการเรยี นรู้ และ 15 3 พฒั นาการอ่าน 10 ขอ้ ท่2ี ทดสอบก่อนเรยี น การอา่ นออกเสยี งบท 10 15 วรรณคดี 10 20 4 สบื สานวรรณคดี รอ้ ยกรองประเภทโคลงและกาพย์ 40 20 หลักการอา่ นวิเคราะห์และประเมินค่า 10 วรรณคดี 20 100 ขอ้ ที่1 พันธกิจของภาษา ความสัมพันธข์ อง ข้อที่2 ภาษากบั ความคดิ ขอ้ ที่3 หลักการอ่านกลอน โคลง ร่าย เสภา ขอ้ ที่4 และการวิเคราะหส์ งั เคราะหแ์ ละ ประเมินคา่ วรรณคดี ขอ้ ท่ี3 การวิจารณว์ รรณคดีตามหลักการ ขอ้ ท่5ี วิจารณเ์ บื้องตน้ อนุรกั ษ์ เห็นคุณคา่ วรรณคดี สอบระหว่างภาค สอบปลายภาค รวม
ห ลั ก สู ต ร ส ถ า น ศึ ก ษ า | 319 คำอธบิ ำยรำยวิชำ กลุ่มสาระการเรียนรูภ้ าษาไทย รายวชิ า ภาษาไทยเพ่ือการสื่อสาร 1 ท33201 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 เวลาเรยี น 40 ชั่วโมง จานวน 1.0 หน่วยกติ ศึกษาถึงความหมายของภาษา ลักษณะและความสาคัญของภาษาไทย ความหมาย องค์ประกอบและ ความสาคัญของการส่ือสาร ใช้ภาษาไทยสือ่ สาร และข้อมลู สารสนเทศแขนงต่างๆ จากสื่อทุกประเภท ใช้กระบวนการทักษะสัมพันธ์ทางภาษาในการสรุปความ ตีความ วิเคราะห์ วิจารณ์ สังเคราะห์ นาเสนอผล การศึกษาคน้ คว้าดว้ ยลายลกั ษณอ์ กั ษร วาจา และส่อื ประสม เพ่ือให้ผู้เรียนตระหนักในคุณค่า และความสาคัญของภาษาไทย ทั้งภาษาไทยถิ่น และภาษาไทยมาตรฐาน มี ทกั ษะการใช้ภาษาไทยเพือ่ การสอื่ สารและการสบื คน้ อย่างมีประสิทธิภาพ ผลกำรเรยี นรู้ 1. นักเรียนมคี วามรเู้ กีย่ วกับกับภาษาไทยและการสือ่ สาร 2. นักเรียนใช้ภาษาเป็นเคร่ืองมือในการพัฒนาทักษะการฟัง การพูด การอ่าน และการเขียนได้อย่างมี ประสิทธิภาพ 3. นักเรียนสามารถใช้กระบวนการทักษะสัมพันธ์ทางภาษา สืบค้นสารสนเทศต่าง ๆ จาก ทรัพยากร สารสนเทศไดอ้ ย่างมปี ระสทิ ธิภาพ 4. นักเรียนสามารถใช้ภาษาไทยในการติดต่อส่ือสารสืบค้นข้อมูลท้ังในชีวิตประจาวัน และในหน้าท่ีการงาน ตลอดจนการศึกษาหาความรู้ตา่ ง ๆ ได้เปน็ อยา่ งดี และสามารถนาเสนอองค์ความร้ใู หมไ่ ดอ้ ย่างมีประสทิ ธภิ าพ รวมทงั้ หมด 4 ผลกำรเรยี นรู้
ห ลั ก สู ต ร ส ถ า น ศึ ก ษ า | 320 โครงสรำ้ งรำยวชิ ำ กลมุ่ สาระการเรียนรู้ภาษาไทย รายวิชา ภาษาไทยเพ่ือการส่อื สาร 1 ท33201 ชน้ั มัธยมศกึ ษาปีที่ 6 เวลาเรยี น 40 ชว่ั โมง จานวน 1.0 หนว่ ยกิต ท่ี ชือ่ หน่วยกำรเรียนรู้ ผลกำรเรียนรู้ สำระสำคญั จำนวน นำ้ หนกั 1 ภาษากับการสื่อสาร ทคี่ ำดหวงั (ชวั่ โมง) คะแนน 2 ฟงั อย่างมีวจิ ารณญาณ ข้อท1ี่ ภาษากบั การสอ่ื สาร 7 10 3 อา่ นอยา่ งมวี ิจารณญาณ -ความร้พู น้ื ฐานเรอื่ งการส่ือสาร -ความสัมพันธร์ ะหว่างภาษากับ 7 15 4 การพดู อยา่ งมวี จิ ารณญาณ การสื่อสาร 7 15 5 นาความรปู้ ระยุกตใ์ ช้ บรรยาย ยกตัวอย่างประกอบ 7 15 ขอ้ ท2่ี ความรทู้ วั่ ไปเกยี่ วกับการฟัง 7 15 การประเมนิ ผลการฟงั ข้อที่1 ความรทู้ ว่ั ไปเกี่ยวกับการอ่าน ข้อท2ี่ การอ่านจับใจความสาคญั ขอ้ ที่3 -การอา่ นสรปุ ความ -การอา่ นเรว็ -การวินิจสาร -การอ่านอย่างมีวจิ ารณญาณ ข้อที่2 ความรพู้ ้นื ฐานเกีย่ วกับการพดู ข้อที่4 การพูดประเภทตา่ งๆ การประเมนิ ผลการพดู ขอ้ ท2ี่ ใช้วัจนภาษาและอวจั นภาษาใน ขอ้ ท4่ี การนาเสนองานอย่างเหมาะสม สอบระหวา่ งภาค 10 สอบปลายภาค 20 40 100 รวม
ห ลั ก สู ต ร ส ถ า น ศึ ก ษ า | 321 คำอธิบำยรำยวชิ ำ กลุ่มสาระการเรียนร้ภู าษาไทย รายวชิ าภาษาไทยเพ่อื การสอื่ สาร2 ท 33202 (เพม่ิ เตมิ ) ชน้ั มธั ยมศึกษาปที ่ี 6 เวลาเรียน 40 ชั่วโมง จานวน 1.0 หน่วยกติ ความสาคญั ของภาษาไทยในฐานะเป็นเคร่ืองมอื สอ่ื สาร การใช้ภาษาไทยในชีวติ ประจาวัน กระบวนการพฒั นา ดา้ นการพูด การฟัง การอา่ น และการเขยี น การใชภ้ าษาไทยในการสอื่ สาร ทเ่ี ป็นทางการและไมเ่ ปน็ ทางการ การเขียน รายงาน การนาเสนอผลงานโดยใช้สอ่ื และเทคโนโลยี ฝกึ ทกั ษะเกีย่ วกับธรรมชาติและพลงั ของภาษาไทย ภมู ปิ ญั ญาทางภาษาไทย ความสาคญั และประสิทธภิ าพการ เขยี น การอ่าน การฟัง การดูและการพูด การวิเคราะห์ สงั เคราะห์ วจิ ารณส์ าร ในรปู แบบตา่ งๆ เพ่ือให้ผู้เรียนตระหนักในคุณค่า และความสาคัญของภาษาไทย ท้ังภาษาไทยถิ่น และภาษาไทยมาตรฐาน มี ทกั ษะการใชภ้ าษาไทยเพ่อื การส่อื สารและการสืบคน้ อยา่ งมีประสทิ ธภิ าพ ผลกำรเรียนรู้ 1. อธิบายความหมายของการส่อื สาร ธรรมชาติ พลังของภาษา และภมู ิปญั ญาทางภาษาไทยได้ 2. สรปุ ความสาคัญและประสิทธภิ าพของการเขยี น การอ่าน การฟัง การดู และการพูดได้ 3. นาทกั ษะภาษาไทยไปใชใ้ นการสอื่ สารไดถ้ ูกต้องเหมาะสม และมมี ารยาท 4. นาความรู้ ข้อคิดท่ีได้จากการศึกษาวรรณคดี วรรณกรรม และภูมิปัญญาทางภาษาไทย ไปใช้ในการ ดารงชีวิตและงานอาชพี รวมทง้ั หมด 4 ผลกำรเรียนรู้
ห ลั ก สู ต ร ส ถ า น ศึ ก ษ า | 322 โครงสรำ้ งรำยวชิ ำ กลุ่มสาระการเรยี นรูภ้ าษาไทย รายวิชาภาษาไทยเพื่อการสือ่ สาร2 ท 33202 (เพม่ิ เติม) ชน้ั มัธยมศึกษาปีท่ี 6 ท่ี ช่ือหนว่ ยกำรเรยี นรู้ เวลาเรยี น 40 ชว่ั โมง จานวน 1.0 หนว่ ยกติ 1 ความรเู้ บ้อื งตน้ เกี่ยวกบั มำตรฐำน จำนวน การสอ่ื สาร กำรเรียนร/ู้ สำระสำคัญ (ชั่วโมง นำ้ หนัก 2 โนม้ น้าวใจพ้นื ฐานการ คะแนน สอ่ื สาร ตวั ช้วี ัด ) 10 3 ภาษากบั การโฆษณา ข้อที่1 ความหมายของการส่ือสาร ความสาคญั ของ 7 15 4 ภาษากับงานเขยี น การสื่อสาร องค์ประกอบของการ สือ่ สาร 15 5 ภาษากับการสือ่ สาร หลกั ในการสอ่ื สารวัตถปุ ระสงค์ในการ สมัยใหม่ 15 สอ่ื สารประเภทของการสอื่ สารปัจจัยท่ีช่วย 15 ใหก้ ารส่อื สารประสบผลสาเร็จอุปสรรคใน 10 20 การส่อื สาร 100 ข้อท1่ี การโนม้ นา้ วใจ คอื การพยายาม 7 ข้อท2่ี เปล่ียนแปลง ความเชอื่ ทศั นคติ การ กระทาของบุคคล อื่นด้วยกลวิธีท่ีเหมาะสม ใหม้ ีผลกระทบใจผนู้ ้นั จนเกิดการ ยอมรบั และเปลยี่ นตามผู้โนม้ น้าวใจตอ้ งการ ขอ้ ท่ี2 การโฆษณาหมายถึง การให้ข้อมูล ข่าวสาร 7 ขอ้ ที่3 เป็นการส่ือสารจูงใจผา่ นส่อื โฆษณาประเภท ขอ้ ท่4ี ต่าง ๆ เพือ่ จงู ใจหรอื โน้มน้าวใจใหก้ ลุม่ ผูบ้ รโิ ภคเป้าหมาย มีพฤตกิ รรมคลอ้ ยตาม เนือ้ หาสารท่ีโฆษณา อันเอ้อื อานวยใหม้ ี การซือ้ หรอื ใชส้ ินค้าและบรกิ าร ตลอดจน ชกั นาใหป้ ฏิบตั ิตามแนวความคิดต่าง ๆ ท้ังนขี้ อใหผ้ ู้โฆษณาหรือผู้อุปถัมภ์จะตอ้ งเสยี คา่ ใช้จ่ายในการส่อื น้ัน ๆ ข้อท่2ี ความร้พู ้ืนฐานเกีย่ วกับการใชภ้ าษา ถอ้ ยคา 7 ข้อที่4 ในส่อื สงิ่ พมิ พ์ทีใ่ ช้ในชวี ิตประจาวนั อาทิ สารคดหี นงั สอื พิมพ์ นิตยสาร วารสาร บทความ เอกสารสิ่งพิมพ์อน่ื ๆ ข้อท่ี2 ความรู้พ้นื ฐานเกย่ี วกบั การใชภ้ าษา ถ้อยคา 7 ขอ้ ที่4 ในสือ่ ทางวทิ ยุ โทรทศั น์ บทบาทการเปน็ พธิ กี ร สอบระหวา่ งภาค สอบปลายภาค รวม 40 กลุ่มสำระกำรเรยี นรู้สังคมศึกษำ ศำสนำ และวัฒนธรรม
ห ลั ก สู ต ร ส ถ า น ศึ ก ษ า | 323 ระดบั มธั ยมศกึ ษำตอนต้น รำยวชิ ำพื้นฐำน ชั้นมัธยมศึกษำปีท่ี 1 จานวน 60 ชั่วโมง 1.5 หน่วยกติ ส21101 สงั คมศกึ ษา 1 จานวน 20 ชว่ั โมง 0.5 หน่วยกติ จานวน 60 ช่ัวโมง 1.5 หน่วยกิต ส21103 ประวตั ศิ าสตร์ 1 จานวน 20 ชัว่ โมง 0.5 หนว่ ยกติ ส21102 สงั คมศกึ ษา 2 ส21104 ประวัติศาสตร์ 2 จานวน 60 ชว่ั โมง 1.5 หน่วยกิต จานวน 20 ชว่ั โมง 0.5 หนว่ ยกิต ช้นั มธั ยมศึกษำปีท่ี 2 จานวน 60 ชว่ั โมง 1.5 หน่วยกิต ส22101 สงั คมศกึ ษา 3 จานวน 20 ชั่วโมง 0.5 หนว่ ยกิต ส22103 ประวตั ศิ าสตร์ 3 จานวน 60 ชั่วโมง 1.5 หน่วยกติ ส22102 สงั คมศกึ ษา 4 จานวน 20 ชว่ั โมง 0.5 หนว่ ยกิต ส22104 ประวตั ศิ าสตร์ 4 จานวน 60 ชว่ั โมง 1.5 หนว่ ยกติ จานวน 20 ชว่ั โมง 0.5 หน่วยกิต ชั้นมัธยมศึกษำปที ่ี 3 ส23101 สงั คมศกึ ษา 5 ส23103 ประวัติศาสตร์ 5 ส23102 สงั คมศกึ ษา 6 ส23104 ประวัติศาสตร์ 6
ห ลั ก สู ต ร ส ถ า น ศึ ก ษ า | 324 คำอธิบำยรำยวชิ ำพน้ื ฐำน ส21101 สงั คมศึกษำ 1 กลุ่มสำระกำรเรียนรู้สงั คมศกึ ษำ ศำสนำและวฒั นธรรม ชน้ั มัธยมศกึ ษำปีที่ 1 ภำคเรียนท่ี 1 เวลำ 60 ช่ัวโมง จำนวน 1.5 หนว่ ยกิต ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ศึกษาและเป็นแนวทางในการปฏิบตั ิเรือ่ ง อธิบายการเผยแผ่พระพุทธศาสนาหรอื ศาสนาท่ีตนนับถือสู่ประเทศ ไทย วเิ คราะห์ความสาคญั ของพระพุทธศาสนา หรอื ศาสนาทีต่ นนับถือทีม่ ีต่อสภาพแวดล้อมในสังคมไทย รวมท้ังการ พัฒนาตนและครอบครัว วิเคราะห์พุทธประวัติตั้งแต่ประสูติ จนถึงบาเพ็ญทุกรกิริยา หรือประวัติศาสดาท่ีตนนับถือ ตามท่ีกาหนด อธิบายพุทธคุณ และข้อธรรมสาคัญในกรอบอริยสัจ 4 หรือหลักธรรมของศาสนาท่ตี นนบั ถือ เหน็ คุณค่า และนาไปพัฒนาแก้ปัญหาของตนเองและครอบครัว สวดมนต์ แผเ่ มตตา บรหิ ารจติ และเจริญปัญญาดว้ ยอานาปานสติ หรอื ตามแนวทางของศาสนาทตี่ นนบั ถือตามทก่ี าหนดได้ บทบาทหนา้ ท่ขี องเยาวชนที่มตี ่อสงั คมและประเทศชาติ เคารพสทิ ธิ เสรีภาพของตนเองและผู้อน่ื ปฏบิ ัติตามกฎหมายคุ้มครองเดก็ กฎหมายการศึกษา กฎหมายคุม้ ครองผู้บริโภค กฎหมาย ลิขสิทธิ์ และกฎหมายการกระทาผิดเก่ียวกับคอมพิวเตอร์ หลักการ เจตนารมณ์โครงสร้างและสาระสาคัญของ รฐั ธรรมนญู แหง่ ราชอาณาจักรไทยฉบับปัจจบุ ันโดยสงั เขป บทบาทการถ่วงดุลของอานาจอธิปไตยจากรฐั ธรรมนูญฉบับ ปัจจุบัน วิเคราะห์ความหมายและความสาคัญของเศรษฐศาสตร์ ระบุปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการกาหนดอุปสงค์และ อปุ ทาน วเิ คราะห์บทบาทหน้าที่และความแตกต่างของสถาบันการเงินแตล่ ะประเภทและธนาคารกลาง ใชเ้ ครอ่ื งมอื ทางภมู ิศาสตร์สารวจ สบื ค้น พกิ ดั ภมู ิศาสตร์ (ละติจดู และลองจจิ ูด) เสน้ แบง่ เวลา และเปรยี บเทียบวนั เวลาของ โลก ลกั ษณะทางกายภาพ ทาเลทตี่ ั้งของกิจกรรมทางเศรษฐกิจ สังคม รวมถึงปัจจยั ทางกายภาพ ปัจจัยทางสังคมท่ีมีผล ต่อทาเลทตี่ ั้งของกิจกรรมทางเศรษฐกจิ และสังคมในทวีปเอเชยี โดยการเช่ือมโยงประสบการณ์เดิมสู่การสร้างประสบการณ์ใหม่ การใช้ภาพ ข่าว หรือสถานการณ์ ต่างๆ เพ่ือให้ผู้เรียนฝึกการสังเกต ตอบคาถามเชิงวิเคราะห์และสรุปความรู้ที่ได้ เปน็ แผนผังความคดิ กระตนุ้ ให้แสดงความ คิดเห็นอย่างหลากหลาย และใช้เคร่ืองมือทางภูมิศาสตร์ในการสืบค้น วิเคราะห์ และสรุปข้อมูลตามกระบวนการทาง ภูมิศาสตร์ ด้านการสังเกต การแปลความข้อมูลทางภูมิศาสตร์ การคิดเชิงพ้ืนที่ การคิดแบบองค์รวมเพ่ือร่วมกันหา แนวทางปฏิบัติที่ถูกต้องเหมาะสม ส่งเสริมการทางานกลุ่มเพื่อพัฒนาทักษะทางสังคม นาไปสู่การยอมรับและ เห็น คุณคา่ ของตนเองและผู้อ่ืน เพื่อให้เกิดความรู้ ความเข้าใจ สามารถนาไปปฏิบัติในการดาเนินชีวิต มีคุณธรรม จริยธรรม มีความสามารถ ทางภมู ิศาสตร์ และมีทกั ษะในศตวรรษที่ ๒๑ ด้านการสื่อสาร การใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศ ความสามารถในการคิดและ แกป้ ญั หา มีคณุ ลักษณะอันพงึ ประสงคใ์ นด้านรักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ซื่อสตั ย์สจุ ริต มวี ินัย ใฝเ่ รียนรู้ รักความเป็นไทยอยู่ อย่างพอเพยี งมีจิตสาธารณะ สามารถดาเนินชีวติ อย่างสนั ติสุขในสงั คมไทยและสังคมโลก เพ่ือให้ผเู้ รยี นมคี วำมรคู้ วำมสำมำรถตำมมำตรฐำนและตวั ชว้ี ดั ดังตอ่ ไปน้ี ส ๑.๑ ม.๑/๑ อธบิ ายการเผยแผ่พระพุทธศาสนาหรือศาสนาท่ีตนนบั ถือสปู่ ระเทศไทย ส ๑.๑ ม.๑/๒ วเิ คราะหค์ วามสาคัญของพระพุทธศาสนาหรือศาสนาท่ีตนนับถือท่มี ตี อ่ สภาพแวดลอ้ ม ใน สังคมไทย รวมท้งั การพัฒนาตนและครอบครวั ส ๑.๑ ม.๑/๓ วิเคราะหพ์ ทุ ธประวตั ิตั้งแตป่ ระสูติจนถงึ บาเพญ็ ทุกรกิริยาหรือประวตั ิศาสดาท่ีตนนับถอื ตามท่ี กาหนด ส ๑.๑ ม.๑/๕ อธิบายพุทธคุณ และข้อธรรมสาคัญในกรอบอริยสัจ ๔ หรือหลักธรรมของศาสนาท่ีตนนับถอื ตามท่กี าหนด เห็นคุณคา่ และนาไปพฒั นา แก้ปัญหาของตนเองและครอบครวั
ห ลั ก สู ต ร ส ถ า น ศึ ก ษ า | 325 ส ๑.๑ ม.๑/๖ เห็นคุณค่าของการพัฒนาจิตเพื่อการเรียนรูแ้ ละการดาเนนิ ชีวติ ดว้ ยวิธคี ิดแบบโยนิโสมนสกิ ารคอื วธิ คี ิดแบบคุณค่าแท-้ คุณค่าเทียมและวธิ คี ดิ แบบคุณ-โทษและทางออกหรือการพฒั นาจิตตามแนวทางของศาสนาทตี่ นนับ ถอื ส ๑.๑ ม.๑/๗ สวดมนต์แผเ่ มตตาบริหารจติ และเจรญิ ปญั ญาดว้ ย อานาปานสติหรอื ตามแนวทางของศาสนาที่ตน นบั ถอื ตามทีก่ าหนด ส ๑.๑ ม.๑/๘ วิเคราะห์และปฏิบัตติ นตามหลกั ธรรมทางศาสนาท่ีตนนับถือในการดารงชีวติ แบบพอเพยี งและ ดูแลรักษาส่งิ แวดล้อมเพื่อการอยรู่ ่วมกนั ได้อยา่ งสนั ตสิ ขุ ส ๑.๒ ม.๑/๓ ปฏบิ ัติตนอย่างเหมาะสมต่อบุคคลต่าง ๆ ตามหลักศาสนาทตี่ นนับถือตามที่กาหนด ส ๑.๒ ม.๑/๕ อธิบายประวัติ ความสาคญั และปฏิบัติตนในวนั สาคัญทางศาสนาท่ีตนนบั ถอื ตามที่กาหนดได้ ถกู ต้อง ส ๒.๑ ม.๑/1 ปฏิบัติตามกฎหมายในการคมุ้ ครองสิทธิของบุคคล ส ๒.๑ ม.๑/๔ แสดงออกถึงการเคารพในสิทธเิ สรีภาพของตนเองและผอู้ ่นื ส ๒.๒ ม.๑/๑ อธบิ ายหลักการ เจตนารมณ์ โครงสร้าง และสาระสาคัญของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจกั รไทย ฉบับปัจจุบันโดยสังเขป ส ๒.๒ ม.๑/๒ วิเคราะหบ์ ทบาทการถ่วงดุลอานาจอธปิ ไตยในรฐั ธรรมนูญแหง่ ราชอาณาจกั รไทย ฉบบั ปจั จุบัน ส ๒.๒ ม.๑/๓ ปฏบิ ตั ิตนตามบทบญั ญัติของรฐั ธรรมนูญแหง่ ราชอาณาจักรไทย ฉบบั ปัจจุบนั ทเี่ กี่ยวขอ้ งกับตนเอง ส ๓.๑ ม.๑/๑ อธบิ ายความหมายและความสาคญั ของเศรษฐศาสตร์ ส ๓.๒ ม.๑/๑ วเิ คราะหบ์ ทบาทหนา้ ทีแ่ ละความแตกต่างของสถาบนั การเงินแต่ละประเภทและธนาคารกลาง ส ๓.๒ ม.๑/๓ ระบุปจั จัยทีม่ อี ิทธพิ ลต่อการกาหนดอุปสงคแ์ ละอปุ ทาน ส ๕.๑ ม.๑/๑ วิเคราะหล์ กั ษณะทางกายภาพของทวีปเอเชยี ทวปี ออสเตรเลยี และโอเชยี เนีย โดยใช้เคร่ืองมือ ทางภูมิศาสตร์สืบค้นขอ้ มูล ส ๕.๑ ม.๑/๒ อธบิ ายพิกัดภมู ิศาสตร์ (ละตจิ ดู และลองจิจูด) เส้นแบง่ เวลา และเปรยี บเทยี บวัน เวลาของโลก ส ๕.๒ ม.๑/๑ สารวจและระบุทาเลท่ีต้ังของกจิ กรรมทางเศรษฐกจิ และสังคมในทวปี เอเชยี ทวปี ออสเตรเลยี และ โอเชยี เนีย ส ๕.๒ ม.๑/๒ วเิ คราะห์ปัจจยั ทางกายภาพและปัจจยั ทางสงั คมทส่ี ง่ ผลต่อทาเลทตี่ งั้ ของกจิ กรรมทางเศรษฐกิจ และสังคมในทวีปเอเชีย ออสเตรเลียและโอเชียเนยี รวม ๒๑ ตัวช้ีวัด
ห ลั ก สู ต ร ส ถ า น ศึ ก ษ า | 326 บรู ณำกำรรำยวชิ ำ ส20231 หน้ำทพี่ ลเมอื ง โดยมผี ลกำรเรยี นรู้ดังขอ้ ตอ่ ไปนี้ ๔. เปน็ แบบอย่างของความรกั ชาติ ยึดมนั่ ในศาสนา และเทดิ ทูนสถาบันพระมหากษตั รยิ ์ (มาตรฐานและตวั ชว้ี ัด ท่ี ส ๒.๒ ม.๑/๓) 6. ปฏิบัติตนเป็นพลเมืองดตี ามวิถีประชาธิปไตย (มาตรฐานและตัวช้ีวดั ที่ ส 2.2 ม1/3) ๗. มีส่วนร่วมและรับผิดชอบในการตัดสินใจ ตรวจสอบข้อมูลเพ่ือใช้ประกอบการตัดสินใจในกิจกรรมต่างๆ (มาตรฐานและตัวชว้ี ดั ที่ ส ๒.๑ ม.๑/1) ๙. มีส่วนรว่ มในการแกป้ ัญหาความขดั แยง้ โดยสนั ติวิธี (มาตรฐานและตัวชีว้ ัดที่ ส 2.1 ม1/4) ๑๐. ปฏบิ ตั ิตนเปน็ ผู้มีวินยั ในตนเอง (มาตรฐานและตวั ชวี้ ดั ที่ ส 2.1 ม1/1)
ห ลั ก สู ต ร ส ถ า น ศึ ก ษ า | 327 โครงสรำ้ งรำยวิชำพ้ืนฐำน ส21101 สงั คมศกึ ษำ 1 กลุม่ สำระกำรเรยี นร้สู ังคมศึกษำ ศำสนำและวัฒนธรรม ช้นั มธั ยมศกึ ษำปที ่ี 1 ภำคเรียนที่ 1 เวลำ 60 ชวั่ โมง จำนวน 1.5 หน่วยกิต ท่ี หนว่ ยกำรเรียนรู้ ตวั ชี้วัด / สำระกำรเรยี นรู้ เวลำ คะแนน ผลกำรเรยี นรู้ 1 ศาสดาและ ส 1.1 ม. 1/1 พระพุทธศาสนาเป็นหนึ่งในสถาบันหลักทม่ี ี ๑๕ 20 หลักธรรมทาง ส 1.1 ม. 1/2 ความสาคัญตอ่ สังคมไทย เป็นรากฐานของ ศาสนา ส 1.1 ม. 1/3 ขนบธรรมเนยี มประเพณี และวัฒนธรรมทสี่ าคัญ ส 1.1 ม. 1/4 ของชาติไทย วถิ ีชวี ติ ของพทุ ธศาสนิกชนมคี วาม ส 1.1 ม. 1/5 เกีย่ วขอ้ งกบั พระพทุ ธศาสนาตง้ั แต่เกิดจนตาย ส 1.1 ม. 1/6 พระพทุ ธเจา้ ทรงตรัสรธู้ รรมดว้ ยพระองค์เอง และ ส 1.1 ม. 1/7 ทรงเผยแผ่หลกั ธรรมคาสอนแกพ่ ทุ ธศาสนกิ ชน ส 1.1 ม. 1/8 เพ่อื ให้พทุ ธศาสนิกชนนาไปประยกุ ตใ์ ชเ้ ป็นแนวทาง ส ๑.๒ ม.๑/๓ ในการดาเนนิ ชวี ิตเพอื่ ความผาสกุ ของตนเองและ ส ๑.๒ ม.๑/๕ ครอบครวั การปฏิบัติตนตามหลกั ธรรมคาสอนจะ ช่วยใหส้ ังคมสงบสขุ 2 รัฐธรรมนูญของ ส 2.1 ม. 1/1 เยาวชนทีด่ ีต้องรูจ้ กั เคารพสทิ ธิของตนเองและผอู้ ื่น 1๔ 10 เรา ส 2.1 ม. 1/4 ทาประโยชนต์ ่อสังคมและประเทศชาติ ซงึ่ จะส่งผล ส 2.2 ม. 1/1 ต่อการอยู่รว่ มกนั อย่างสงบสขุ รัฐธรรมนญู แหง่ ส 2.2 ม. 1/2 ราชอาณาจักรไทย มบี ทบญั ญตั สิ าคัญเก่ยี วกับ ส 2.2 ม. 1/3 หลักการ เจตนารมณ์ โครงสรา้ ง สาระสาคัญและ การใชอ้ านาจอธิปไตย ชาวไทยทกุ คนตอ้ งปฏิบตั ิตน ตามบทบัญญัตขิ องรฐั ธรรมนญู 3 เศรษฐศาสตร์ ใน ส 3.1 ม. 1/1 เศรษฐศาสตรม์ ีความสาคญั ต่อการดาเนนิ ชีวิตของ 1๑ 15 ระบบเศรษฐกิจ ส 3.๒ ม. 1/๑ มนุษย์ การศึกษาและทาความเข้าใจทรัพยากรมี ส 3.2 ม. 1/3 จากดั ความตอ้ งการมีไมจ่ ากัด ความขาดแคลน การเลือก และค่าเสียโอกาส มีผลตอ่ การตัดสินใจ เลอื กใช้ทรพั ยากรท่ีมอี ยู่อย่างคุม้ ค่าค่านิยมและ พฤตกิ รรมการบรโิ ภคของ คนในสงั คม มี ความสัมพนั ธ์กับอปุ สงค์ และอปุ ทาน มีผลต่อ เศรษฐกิจของชุมชนและประเทศ ในปัจจุบนั มี กฎหมายทรพั ยส์ นิ ทางปัญญา ซ่ึงมีผลดีต่อผ้บู ริโภค
ห ลั ก สู ต ร ส ถ า น ศึ ก ษ า | 328 ท่ี หน่วยกำรเรียนรู้ ตัวชว้ี ัด / สำระกำรเรียนรู้ เวลำ คะแนน ผลกำรเรียนรู้ 4 เส้นแบ่งเวลาและ ส 5.1 ม. 1/1 เครือ่ งมือทางภมู ศิ าสตร์ เปน็ เครือ่ งมือสาคัญใน 1๘ 1๕ ภูมศิ าสตร์ทวีป ส 5.1 ม. 1/2 การศกึ ษาข้อมูลลกั ษณะทางกายภาพ และสงั คม เอเชีย ส 5.2 ม. 1/1 ของประเทศไทยและทวปี เอเชีย ออสเตรเลยี และ ส 5.2 ม. 1/๒ โอเชียเนีย โดยใชเ้ สน้ แบง่ เวลาเปรยี บเทยี บเวลา ของประเทศไทยกับประเทศในทวีปต่างๆการสืบค้น ขอ้ มูลลักษณะทางกายภาพและสังคมของทวีปเอเชีย โดยใช้เคร่ืองมอื ทางภูมศิ าสตร์ ย่อมได้ความรู้ พ้ืนฐานเกี่ยวกับทาเลทต่ี ้งั กจิ กรรมทางเศรษฐกจิ และสังคม ปัจจยั ทางกายภาพและสังคมท่มี ีผลต่อ การ เลอื่ นไหลของความคิด เทคโนโลยี สินคา้ และ ประชากร ผลกระทบจากการเปลยี่ นแปลงทาง ธรรมชาติซ่งึ ประเทศต่าง ๆ ต้องรว่ มมอื กนั อตั ราสว่ น 80 : 20 รวมระหว่างภาค ๕๘ 60 รวมกลางภาค 1 20 รวมปลายภาค ๑ 2๐ รวม ๖๐ ๑๐๐
ห ลั ก สู ต ร ส ถ า น ศึ ก ษ า | 329 คำอธบิ ำยรำยวิชำพน้ื ฐำน ส21103 ประวัติศำสตร์1 กลมุ่ สำระกำรเรียนรูส้ งั คมศึกษำ ศำสนำและวัฒนธรรม ชน้ั มธั ยมศึกษำปีที่ 1 ภำคเรยี นที่ 1 เวลำ 20 ชวั่ โมง จำนวน 0.5 หนว่ ยกิต ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ศึกษา วิเคราะห์ ความสาคัญ และความสัมพันธ์ ของเวลา ท่ีมาศักราช วิธีการทางประวัติศาสตร์ ต้ังแต่ สมัยก่อนประวัติศาสตร์ พัฒนาการของชุมชนก่อนสมัยสุโขทัย พัฒนาการจากชุมชนมาสู่รัฐโบราณ และอาณาจักร โบราณในดนิ แดนสวุ รรณภมู ิ โดยใชก้ ระบวนการคิดวเิ คราะห์ กระบวนการสืบคน้ ข้อมลู กระบวนการปฏิบตั ิ กระบวนการกลมุ่ กระบวนการ เรยี นรแู้ บบบูรณาการ กระบวนการแกป้ ญั หา และวธิ กี ารทางประวตั ศิ าสตร์ เพ่ือให้เกิดความรู้ ความเข้าใจถึงความสาคัญของเหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์ สามารถใช้วิธีการทาง ประวัติศาสตร์มาวิเคราะห์เหตุการณ์ต่างๆ อย่างเป็นระบบ เข้าใจความเป็นมาของชาติไทย พัฒนาการด้านต่างๆ วัฒนธรรมไทย ภูมิปัญญาไทย มีคุณลักษณะอันพึงประสงค์ด้านรักชาติ ศาสน์กษัตริย์ ซ่ือสัตย์ สุจริต มีวินัย ใฝ่เรียนรู้ มุ่งม่ันในการทางาน รักความเปน็ ไทย และมจี ติ สาธารณะ เพ่อื ให้ผ้เู รยี นมีควำมรู้ควำมสำมำรถตำมมำตรฐำนและตวั ชวี้ ดั ดังต่อไปนี้ ส ๔.๑ ม๑/๑ วเิ คราะห์ความสาคัญของเวลาในการศกึ ษาประวัตศิ าสตร์ ส ๔.๑ ม๑/๒ เทยี บศักราชตามระบบตา่ งๆที่ใชศ้ ึกษาประวตั ิศาสตร์ ส ๔.๑ ม๑/๓ นาวธิ ีการทางประวตั ศิ าสตร์มาใช้ศึกษาเหตุการณ์ทางประวตั ิศาสตร์ ส ๔.๓ ม๑/๑ อธิบายเร่ืองราวทางประวัตศิ าสตร์ สมัยกอ่ นสุโขทัยในดนิ แดนไทยโดยสังเขป รวม ๔ ตวั ชวี้ ดั
ห ลั ก สู ต ร ส ถ า น ศึ ก ษ า | 330 โครงสร้ำงรำยวชิ ำพ้ืนฐำน ส21103 ประวัตศิ ำสตร์ 1 กลุ่มสำระกำรเรียนรสู้ ังคมศึกษำ ศำสนำและวฒั นธรรม ชนั้ มธั ยมศกึ ษำปีท่ี 1 ภำคเรียนที่ 1 เวลำ 20 ชัว่ โมง จำนวน 0.5 หน่วยกิต ท่ี หน่วยกำรเรยี น ตวั ชวี้ ัด / สำระกำรเรยี นรู้ เวลำ คะแนน 1 เวลาและการแบ่งยุค 5 15 ผลกำรเรียนรู้ สมยั ทางประวัติศาสตร์ ๔ 15 ส 4.1 ม.1/1 เวลา ชว่ งเวลา และการเทยี บ ๙ 30 2 วิธกี ารทาง ประวัติศาสตร์ ส 4.1 ม.1/2 ศักราชตามระบบต่างๆ มี 18 60 1 20 3 สมยั ก่อนสุโขทยั ความสาคญั ตอ่ การศกึ ษา 1 20 ในดินแดนไทย 20 100 ประวตั ศิ าสตร์ ทาให้เห็น ความสัมพนั ธ์ และความสาคัญ ของอดตี ทีม่ ตี ่อปัจจบุ ันและ อนาคต ส 4.1 ม.1/3 การนาวิธกี ารทางประวตั ิศาสตร์ มาใช้ในการศึกษาประวตั ศิ าสตร์ ทอ้ งถ่นิ และประวัตศิ าสตร์สโุ ขทยั จะทาให้ไดข้ ้อมูลท่นี า่ เช่อื ถอื ส 4.๓ ม.1/1 การศึกษาเรื่องราวทาง ประวตั ศิ าสตร์สมยั ก่อนสุโขทัยใน ดนิ แดนไทย จะทาใหเ้ ราเขา้ ใจ พัฒนาการจากชมุ ชนโบราณมาสู่ รฐั โบราณ ก่อนทจ่ี ะสถาปนาเปน็ อาณาจักรสโุ ขทัย และการ สร้างสรรค์ภูมิปัญญาของ อาณาจกั รโบราณในดินแดนไทย อัตราส่วน 80 : 20 รวมระหวา่ งภาค รวมกลางภาค รวมปลายภาค รวม
ห ลั ก สู ต ร ส ถ า น ศึ ก ษ า | 331 คำอธิบำยรำยวิชำพน้ื ฐำน ส21102 สังคมศึกษำ 2 กลุ่มสำระกำรเรยี นรสู้ ังคมศึกษำ ศำสนำและวัฒนธรรม ชั้นมัธยมศึกษำปที ่ี 1 ภำคเรยี นที่ 2 เวลำ 60 ช่ัวโมง จำนวน 1.5 หนว่ ยกติ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ศึกษา วิเคราะห์เหตุผลความจาเป็นท่ีทุกคนต้องศึกษาเรียนรู้ศาสนาอื่นๆ ปฏิบัติตนต่อศาสนิกชนอื่น ใน สถานการณ์ต่างๆ ได้อย่างเหมาะสม วิเคราะห์การกระทาของบุคคลท่ีเป็นแบบอย่างด้านศาสนสัมพันธ์ และนาเสนอแนว ทางการปฏิบัติของตนเอง บาเพ็ญประโยชน์ต่อศาสนสถานของศาสนาท่ีตนนับถือ อธิบายจริยวัตรของสาวกเพื่อเป็น แบบอยา่ งในการประพฤตปิ ฏบิ ัติ และปฏิบตั ิตนอย่างเหมาะสมตอ่ สาวกของศาสนาท่ีตน นับถือ ปฏบิ ตั ิตนอย่างเหมาะสม ตอ่ บคุ คลตา่ งๆ ตามหลกั ศาสนาที่ตนนับถือตามทก่ี าหนด จดั พธิ กี รรม และปฏบิ ัตติ นในศาสนพธิ ี พิธกี รรมไดถ้ กู ตอ้ ง อธิบาย ประวตั ิ ความสาคญั และปฏบิ ัติตนในวนั สาคญั ทางศาสนาที่ตนนบั ถือตามท่ีกาหนดได้ถกู ตอ้ ง ความคล้ายคลงึ และความ แตกตา่ งระหว่างวฒั นธรรมไทยกับวัฒนธรรมของประเทศในภมู ภิ าคเอเชยี ตะวนั ออกเฉยี งใต้ และวัฒนธรรมท่ีเปน็ ปจั จัย ในการสร้างความสัมพันธ์ท่ีดี หรืออาจนาไปสู่ความเข้าใจผิดต่อกัน ปฏิบัติตนเป็นประโยชน์ต่อสังคมและประเทศชาติ ยกตัวอยา่ งที่สะทอ้ นใหเ้ หน็ การแขง่ ขนั กนั ทางเศรษฐกิจในประเทศ ความเปน็ มา หลักการและความสาคัญของปรัชญา เศรษฐกิจพอเพียงต่อสังคมไทย วิเคราะห์ค่านิยมและพฤติกรรมการบริโภคของคนในสังคมซ่ึงส่งผลต่อเศรษฐกิจของ ชุมชนและประเทศชาติ วิเคราะห์ลักษณะทางกายภาพ ทาเลท่ีตั้งของกิจกรรมทางเศรษฐกิจ สังคมรวมถึงปัจจัยทาง กายภาพ ปัจจัยทางสังคมที่มีผลต่อทาเลที่ต้ังของกิจกรรมทางเศรษฐกิจและสังคมในทวีปออสเตรเลียและ โอเชียเนีย วิเคราะห์สาเหตุการเกิดภัยพิบัติ ผลกระทบ แนวทางการจัดการภัยพิบตั ิ และการจัดการทรัพยากรและส่ิงแวดล้อมในทวีป เอเชีย ทวปี ออสเตรเลยี และโอเชียเนีย โดยการเชื่อมโยงประสบการณ์เดิมสู่การสร้างประสบการณ์ใหม่ การใช้ภาพ ข่าว หรือสถานการณ์ต่างๆ เพื่อให้ผู้เรียนฝึกการสังเกต ตอบคาถามเชิงวิเคราะห์และสรุปความรู้ที่ได้ เปน็ แผนผังความคดิ กระต้นุ ใหแ้ สดงความ คิดเห็นอย่างหลากหลาย และใช้เคร่ืองมือทางภูมิศาสตร์ในการสืบค้น วิเคราะห์ และสรุปข้อมูลตามกระบวนการทาง ภูมิศาสตร์ ด้านการสังเกต การแปลความข้อมูลทางภูมิศาสตร์ การคิดเชิงพื้นที่ การคิดแบบองค์รวมเพื่อร่วมกันหา แนวทางปฏิบัติที่ถูกต้องเหมาะสม ส่งเสริมการทางานกลุ่มเพื่อพัฒนาทักษะทางสังคม นาไปสู่การยอมรับและ เห็น คณุ คา่ ของตนเองและผอู้ ื่น เพ่ือให้เกิดความรู้ ความเข้าใจ สามารถนาไปปฏิบัติในการดาเนินชีวิต มีคุณธรรม จริยธรรม มีความสามารถ ทางภูมิศาสตร์ และมที ักษะในศตวรรษท่ี ๒๑ ดา้ นการส่ือสาร การใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศ ความสามารถในการคิดและ แกป้ ญั หา มคี ณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงคใ์ นดา้ นรกั ชาติ ศาสน์ กษัตรยิ ์ ซ่ือสัตย์สุจริต มวี ินยั ใฝ่เรยี นรู้ รักความเป็นไทยอยู่ อยา่ งพอเพยี งมจี ติ สาธารณะ สามารถดาเนนิ ชีวิตอย่างสันติสขุ ในสงั คมไทยและสังคมโลก เพือ่ ใหผ้ เู้ รียนมคี วำมรคู้ วำมสำมำรถตำมมำตรฐำนและตัวชวี้ ัดดังตอ่ ไปน้ี ส ๑.๑ ม. ๑/๔ วิเคราะหแ์ ละประพฤติตนตามแบบอย่างการดาเนนิ ชวี ติ และขอ้ คิดจากประวัติสาวก ชาดก เรื่องเลา่ และศาสนิกชนตัวอย่างตามทีก่ าหนด ส ๑.๑ ม.๑/๙ วเิ คราะห์เหตุผลความจาเปน็ ทที่ ุกคนต้องศึกษาเรียนรู้ศาสนาอน่ื ๆ ส ๑.๑ ม.๑/๑๐ ปฏบิ ตั ติ นต่อศาสนิกชนอนื่ ในสถานการณ์ต่าง ๆ ไดอ้ ย่างเหมาะสม ส ๑.๑ ม. ๑/๑๑ วิเคราะห์การกระทาของบุคคลท่ีเป็นแบบอยา่ งดา้ นศาสนสัมพนั ธ์ และนาเสนอแนวทางการ ปฏิบตั ิของตนเอง ส ๑.๒ ม. ๑/๑ บาเพญ็ ประโยชนต์ ่อศาสนสถานของศาสนาทีต่ นนบั ถอื
ห ลั ก สู ต ร ส ถ า น ศึ ก ษ า | 332 ส ๑.๒ ม. ๑/๒ อธบิ ายจรยิ วตั รของสาวกเพ่ือเปน็ แบบอย่างในการประพฤติปฏิบัติ และปฏบิ ัติตนอยา่ ง เหมาะสมต่อสาวกของศาสนาท่ตี นนบั ถือ ส ๑.๒ ม. ๑/๔ จัดพธิ กี รรม และปฏิบัตติ นในศาสนพิธี พธิ ีกรรมไดถ้ ูกต้อง ส ๒.๑ ม.๑/๒ ระบุความสามารถของตนเองในการทาประโยชนต์ อ่ สังคมและประเทศชาติ ส 2.1 ม.1/3 อภปิ รายเก่ยี วกับคุณค่าทางวฒั นธรรมท่เี ปน็ ปัจจยั ในการสร้างความสมั พนั ธท์ ด่ี หี รืออาจนาไปสู่ ความเขา้ ใจผิดตอ่ กัน ส ๓.๑ ม.๑/๒ วเิ คราะห์คา่ นิยมและพฤติกรรมการบรโิ ภคของคนในสงั คมซง่ึ ส่งผลตอ่ เศรษฐกิจของชุมชนและ ประเทศ ส ๓.๑ ม.๑/๓ อธิบายความเปน็ มา หลักการ และความสาคญั ของปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี งตอ่ สังคมไทย ส ๓.๒ ม.๑/๒ ยกตวั อย่างทีส่ ะท้อนใหเ้ หน็ การพึ่งพาอาศยั กนั และการแขง่ ขันกันทางเศรษฐกจิ ในประเทศ ส ๓.๒ ม.๑/๔ อภปิ รายผลของการมีกฎหมายเก่ยี วกับทรัพยส์ นิ ทางปัญญา ส ๕.๑ ม.๑/๑ วเิ คราะห์ลักษณะทางกายภาพของทวปี เอเชยี ทวีปออสเตรเลีย และโอเชียเนยี โดยใชเ้ คร่ืองมอื ทางภูมิศาสตรส์ ืบค้นขอ้ มลู ส ๕.๑ ม.๑/๓ วิเคราะห์สาเหตุการเกดิ ภยั พิบัติและผลกระทบในทวีปเอเชีย ทวีปออสเตรเลีย และ โอเชยี เนยี ส ๕.๒ ม.๑/๑ สารวจและระบทุ าเลทีต่ ง้ั ของกิจกรรมทางเศรษฐกิจและสงั คมในทวีปเอเชยี ทวีปออสเตรเลยี และโอเชียเนยี ส ๕.๒ ม. ๑/๒ วิเคราะหป์ ัจจยั ทางกายภาพและปัจจยั ทางสังคมทส่ี ง่ ผลตอ่ ทาเลท่ตี ง้ั ของกิจกรรมทาง เศรษฐกจิ และสังคมในทวีปเอเชีย ออสเตรเลียและโอเชยี เนีย ส ๕.๒ ม. ๑/๓ สืบค้น อภปิ ราบประเดน็ ปญั หาจากปฏิสัมพนั ธร์ ะหวา่ งสภาพแวดลอ้ มทางกายภาพกบั มนษุ ยท์ ่ี เกดิ ขน้ึ ในทวีปเอเชยี ทวปี ออสเตรเลยี และโอเชียเนีย ส ๕.๒ ม. ๑/๔ วิเคราะห์แนวทางการจดั การภัยพิบัตแิ ละการจดั การทรพั ยากรและส่ิงแวดลอ้ มในทวปี เอเชยี ทวีปออสเตรเลยี และโอเชียเนีย รวม ๑๙ ตวั ชวี้ ัด
ห ลั ก สู ต ร ส ถ า น ศึ ก ษ า | 333 บูรณำกำรรำยวชิ ำ ส 20231 หน้ำทีพ่ ลเมอื ง โดยมีผลกำรเรียนรู้ดังข้อตอ่ ไปนี้ ๑. มีสว่ นร่วมในการอนรุ ักษ์มารยาทไทย (มาตรฐานและตวั ช้วี ัดท่ี ส 2.1 ม1/3) ๒. แสดงออกถึงความเอือ้ เฟื้อเผ่ือแผ่ และเสยี สละตอ่ สงั คม (มาตรฐานและตัวช้ีวัดท่ี ส ๑.๒ ม. ๑/๑) ๓. เห็นคณุ คา่ และอนุรักษข์ นบธรรมเนยี ม ประเพณี ศลิ ปวฒั นธรรม และภมู ิปัญญาไทย (มาตรฐานและตัวช้ีวัด ท่ี ส 2.1 ม1/3) ๕. ประยกุ ตแ์ ละเผยแพร่พระบรมราโชวาท หลักการทรงงานและหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียง (มาตรฐานและตัวชวี้ ดั ที่ ส 3.1 ม1/3) ๘. ยอมรับความหลากหลายทางสังคมวัฒนธรรมในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และอยู่ร่วมกันอย่างสันติ และพง่ึ พาซ่งึ กันและกัน (มาตรฐานและตวั ชีว้ ดั ที่ ส 2.1 ม1/3)
ห ลั ก สู ต ร ส ถ า น ศึ ก ษ า | 334 โครงสรำ้ งรำยวิชำพ้ืนฐำน ส21102 สังคมศึกษำ 2 กลุ่มสำระกำรเรียนรู้สงั คมศึกษำ ศำสนำและวฒั นธรรม ชน้ั มัธยมศกึ ษำปที ่ี 1 ภำคเรียนที่ 2 เวลำ 60 ชัว่ โมง จำนวน 1.5 หน่วยกติ ท่ี หน่วยกำรเรียนรู้ ตวั ชวี้ ัด / สำระกำรเรียนรู้ เวลำ คะแนน 20 ผลกำรเรยี นรู้ 10 1 การปฏิบัติตนตาม ส 1.1 ม. 1/๔ นอกจากพระพทุ ธศาสนาที่เปน็ ศาสนาทคี่ น 2๐ ๑๕ หลกั ศาสนาทตี่ น ส 1.1 ม. 1/๙ ไทยส่วนใหญ่นับถอื แล้ว ในสงั คมไทยเรายงั นบั ถือ ส 1.1 ม. 1/10 ประกอบไปดว้ ยศาสนาอื่นๆ ดงั นั้นเพ่ือให้เรา ส 1.1 ม. 1/11 เข้าใจถึงการประพฤตปิ ฏบิ ตั ติ น และวิธกี าร ส 1.2 ม. 1/๑ ดาเนนิ ชวี ติ ของศาสนกิ ชนผนู้ ับถอื ศาสนา ส 1.2 ม. 1/๒ เหลา่ นัน้ เราจึงจาเปน็ ต้องเรียนรถู้ งึ หลักธรรม ส 1.2 ม. 1/๔ คาสอนของศาสนาดงั กลา่ ว ศาสนสมั พนั ธ์ การบาเพ็ญประโยชน์ การบารุงรักษาวดั ศาสนพิธี พธิ กี รรมมีความสาคญั ตอ่ ชาวไทย หรอื พทุ ธศาสนกิ ชน วนั สาคญั เทศกาลทาง พระพุทธศาสนา เพือ่ ความเข้าใจท่ตี รงกัน และอยู่รว่ มกันอย่างสนั ตสิ ขุ 2 เรยี นรวู้ ฒั นธรรม ส 2.๑ ม. 1/2 เยาวชนที่ดตี ้องรู้จกั เคารพสทิ ธิของตนเองและ ๘ และการทา ส 2.๑ ม. 1/3 ผ้อู น่ื ทาประโยชนต์ อ่ สังคมและประเทศชาติ ประโยชนต์ อ่ ซึง่ จะส่งผลต่อการอย่รู ว่ มกนั อยา่ งสงบสขุ สงั คม และวัฒนธรรมเป็นส่งิ ทม่ี คี ุณค่า การศึกษา วเิ คราะห์วฒั นธรรมไทยและวฒั นธรรมของ ประเทศในภูมภิ าคเอเชยี ย่อมทาใหเ้ ขา้ ใจ แนวทางการสรา้ งความสัมพนั ธท์ ีด่ ตี ่อกนั 3 เศรษฐกิจประเทศ ส ๓.1 ม. 1/๒ เศรษฐศาสตรก์ ารพัฒนาเศรษฐกจิ ของ ๑๐ ไทย ส ๓.1 ม. 1/๓ ประเทศไทย มีท้ังการพงึ่ พาอาศยั กนั และการ ส ๓.1 ม. 1/๒ แข่งขันกันทรพั ยส์ ินทางปัญญาเปน็ ผลงานอนั ส ๓.1 ม. 1/๔ เกดิ จากความคดิ สร้างสรรคข์ องมนษุ ย์ และ จะได้รับการคุม้ ครองตามกฎหมาย และ ปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพยี งมหี ลักการที่สาคัญท่ี ทาให้ผปู้ ฏิบตั ิสามารถดารงชีวิตอย่างมดี ุลย ภาพ สง่ ผลตอ่ การพฒั นาเศรษฐกิจและสงั คม ของประเทศอย่างย่ังยนื
ห ลั ก สู ต ร ส ถ า น ศึ ก ษ า | 335 ท่ี หน่วยกำรเรยี นรู้ ตวั ชีว้ ัด / สำระกำรเรยี นรู้ เวลำ คะแนน ผลกำรเรยี นรู้ ๔ ภมู ิศาสตร์ทวีป ส 5.1 ม. 1/1 การสบื ค้นข้อมูลลักษณะทางกายภาพและ ๒๐ ๑๕ เอเชยี ส 5.1 ม. 1/๓ สงั คมของทวีปเอเชยี ออสเตรเลยี และโอเชีย ออสเตรเลยี และ ส 5.2 ม. 1/1 เนีย โดยใช้เครอื่ งมอื ทางภมู ิศาสตร์ย่อมได้ โอเชีย ส 5.2 ม. 1/2 ความร้พู ้นื ฐานเก่ียวกบั ทาเลท่ีตัง้ กจิ กรรมทาง ส 5.2 ม. 1/3 เศรษฐกิจและสงั คม ปัจจยั ทางกายภาพและ ส 5.2 ม. 1/4 สงั คมทมี่ ีผลต่อการเลื่อนไหลของความคิด เทคโนโลยี สินค้าและประชากร ผลกระทบ จากการเปล่ยี นแปลงทางธรรมชาติ การเกิด ภัยธรรมชาติเป็นสิ่งทเ่ี กดิ ขน้ึ เองตามธรรมชาติ การหาความรู้และการเตรียมป้องกนั ภัย ธรรมชาติ ตลอดจนความร่วมมือกันระหวา่ ง ประเทศ จะชว่ ยใหม้ นษุ ย์สามารถรบั มือและ ปอ้ งกนั ภัยธรรมชาติตา่ งๆ ทเ่ี กดิ ขึ้นอยู่ ตลอดเวลาได้อย่างรเู้ ทา่ ทนั และส่งผลกระทบ ต่อมนษุ ย์ อัตราส่วน 80 : 20 รวมระหวา่ งภาค ๕๘ 60 รวมกลางภาค 1 20 รวมปลายภาค ๑ 2๐ รวม ๖๐ ๑๐๐
ห ลั ก สู ต ร ส ถ า น ศึ ก ษ า | 336 คำอธิบำยรำยวชิ ำพนื้ ฐำน ส21104 ประวตั ิศำสตร์ 2 กลุม่ สำระกำรเรยี นรู้สังคมศกึ ษำ ศำสนำและวฒั นธรรม ชั้นมัธยมศึกษำปีท่ี 1 ภำคเรยี นที่ 2 เวลำ 20 ชว่ั โมง จำนวน 0.5 หน่วยกิต ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ศึกษา วิเคราะห์ พัฒนาการของอาณาจักรสุโขทัยในด้านการเมืองการปกครอง เศรษฐกิจ สังคม และ ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ วัฒนธรรม ภูมิปัญญาไทยสมัยสุโขทัย ความเส่ือมของอาณาจักรสุโขทัย ท่ีตั้ง และสภาพภูมิศาสตร์ท่ีมีผลต่อพัฒนาการทางประวัติศาสตร์ สังคม เศรษฐกิจ และการเมืองของประเทศต่างๆ ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ความร่วมมือผ่านการรวมกลุ่มเป็นอาเซียนที่ถือว่าเป็นพัฒนาการของภูมิภาคท่ีต้ัง และความสาคญั ของแหลง่ อารยธรรมในภูมิภาคเอเชยี ตะวนั ออกเฉยี งใต้ อทิ ธิพลของอารยธรรมโบราณในดนิ แดนไทยท่ี มีพัฒนาการของสงั คมไทยสมยั ปัจจบุ ัน โดยใช้กระบวนการคิดวเิ คราะห์ กระบวนการสืบค้นข้อมูล กระบวนการปฏิบัติ กระบวนการกลุ่ม กระบวน การ เรียนรู้แบบบรู ณาการ กระบวนการแก้ปญั หา และวธิ กี ารทางประวัตศิ าสตร์ เพื่อให้เกิดความรู้ ความเข้าใจถึงความสาคัญของเหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์ สามารถใช้วิธีการทาง ประวัติศาสตร์มาวิเคราะห์เหตุการณ์ต่างๆ อย่างเป็นระบบ เข้าใจความเป็นมาของชาติไทย พัฒนาการด้านต่างๆ วัฒนธรรมไทย ภูมิปัญญาไทย มีคุณลักษณะอันพึงประสงค์ด้านรักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ซ่ือสัตย์สุจริต มีวินัยใฝ่เรียนรู้ มุง่ ม่นั ในการทางาน รกั ความเปน็ ไทย และมีจิตสาธารณะ เพ่ือใหผ้ เู้ รยี นมคี วำมรคู้ วำมสำมำรถตำมมำตรฐำนและตัวชีว้ ัดดังตอ่ ไปนี้ ส 4.2 ม.1/1 อธบิ ายพัฒนาการทางสงั คม เศรษฐกิจและการเมืองของประเทศต่าง ๆ ในภมู ภิ าคเอเชยี ตะวันออกเฉียงใต้ ส 4.2 ม.1/2 ระบคุ วามสาคัญของแหลง่ อารยธรรมในภูมิภาคเอเชยี ตะวนั ออกเฉียงใต้ ส 4.3 ม.1/2 วิเคราะห์พัฒนาการของอาณาจกั รสโุ ขทัยในด้านต่าง ๆ ส 4.3 ม.1/3 วเิ คราะห์อทิ ธิพลของวัฒนธรรม และภูมปิ ญั ญาไทยสมยั สโุ ขทยั และสงั คมไทยในปจั จบุ นั รวม 5 ตวั ชว้ี ดั
ห ลั ก สู ต ร ส ถ า น ศึ ก ษ า | 337 โครงสร้ำงรำยวิชำพนื้ ฐำน ส2110๔ ประวัตศิ ำสตร์ 2 กลมุ่ สำระกำรเรยี นรสู้ งั คมศึกษำ ศำสนำและวัฒนธรรม ชั้นมธั ยมศกึ ษำปีท่ี 1 ภำคเรียนที่ 2 เวลำ 20 ช่วั โมง จำนวน 0.5 หน่วยกิต ท่ี หน่วยกำรเรียนรู้ ตวั ชวี้ ัด/ สำระกำรเรยี นรู้ เวลำ คะแนน ผลกำรเรยี นรู้ 20 ๑ พัฒนาการของ ส 4.3 ม.1/2 พัฒนาการของอาณาจักรสโุ ขทยั ๙ ๑๕ อาณาจกั รสุโขทัย ส 4.3 ม.1/3 ในดา้ นตา่ งๆ เกดิ จากปจั จยั สาคัญที่มีอิทธพิ ล ๑๕ ตอ่ พัฒนาการของอาณาจักรหลายประการ 60 20 และมวี ฒั นธรรมและภูมิปญั ญาท่ีสง่ ผลตอ่ 20 ๑๐๐ สังคมไทยในปจั จุบนั ๒ พัฒนาการของ ส 4.2 ม.1/1 พฒั นาการของประเทศตา่ งๆ ๕ ภูมภิ าคเอเชยี ในภูมภิ าคเอเชยี ตะวันออกเฉียงใต้ ตะวันออกเฉียงใต้ มปี ัจจัยสาคัญท่มี อี ิทธิพลต่อพัฒนาการในแต่ ละสมัย ซึ่งนอกจากนั้นยังมี ความร่วมมือกันในภูมภิ าค กอ่ ให้เกิดความเข็ม แขง็ และความเจริญรงุ่ เรืองเช่นในปจั จุบัน ๓ แหลง่ อารยธรรม ส 4.2 ม.1/2 แหลง่ อารยธรรมในภูมิภาคเอเชยี ตะวนั ออก ๔ ในภูมภิ าคเอเชีย เฉยี งใต้ มอี ิทธพิ ลต่อพัฒนาการของภมู ภิ าค ตะวันออกเฉียงใต้ เอเชยี ตะวันออกเฉียงใต้และสงั คมไทยใน ปัจจุบนั อตั ราส่วน 80:20 รวมระหวา่ งภาค 18 รวมกลางภาค 1 รวมปลายภาค 1 รวม ๒๐
ห ลั ก สู ต ร ส ถ า น ศึ ก ษ า | 338 คำอธิบำยรำยวิชำพนื้ ฐำน ส๒๒๑๐๑ สังคมศกึ ษำ 3 กลมุ่ สำระกำรเรยี นร้สู ังคมศึกษำ ศำสนำ และวฒั นธรรม ชน้ั มธั ยมศึกษำปที ี่ ๒ ภำคเรยี นที่ ๑ เวลำ ๖๐ ชวั่ โมง จำนวน ๑.๕ หน่วยกติ ........................................................................................................................................................................... ศกึ ษา อธิบาย วิเคราะหฝ์ กึ ปฏิบัติ สร้างความคิดรวบยอด การเผยแผพ่ ระพุทธศาสนาเข้าสู่ประเทศเพอื่ นบ้าน และการนับถือพระพุทธศาสนาของประเทศเพื่อนบ้านในปัจจุบัน ความสาคัญของพระพุทธศาสนาท่ีช่วยเสริมสร้าง ความเข้าใจอันดีกับประเทศเพื่อนบ้าน ความสาคัญของพระพุทธศาสนาต่อสังคมไทยในฐานะเป็น รากฐานของ วัฒนธรรม เอกลักษณ์และ มรดกของชาติ ความสาคัญของพระพุทธศาสนากับ การพัฒนาชุมชนและการจัดระเบียบ สงั คม สรุปและวิเคราะห์ พุทธประวัติ พุทธสาวก พทุ ธิสาวิกา ชาดก ศาสนกิ ชนตัวอย่าง โครงสรา้ งและสาระสังเขปของ พระวินยั ปฎิ ก พระสตุ ตนั ตปฎิ กและพระอภิธรรมปิฎก การปฏิบตั ติ นตามหลักธรรมทางศาสนาทต่ี นนับถือ พุทธศาสน สุภาษติ พฒั นาการเรียนรูด้ ้วยวิธีคิดแบบโยนโิ สมนสิการ สวดมนต์ แผ่เมตตา บรหิ ารจิตและเจริญปัญญาดว้ ยอานาปาน สติ หรอื ตามแนวทางของศาสนาท่ีตนนบั ถือ ปฏบิ ัติตนอยา่ งเหมาะสมตอ่ บุคคล ต่าง ๆ ตามหลกั ศาสนา มมี ารยาทของ ความเปน็ ศาสนกิ ชนท่ดี ี การปฏิบตั ติ นอย่างเหมาะสม วนั สาคัญทางพระพุทธศาสนา ศาสนพิธี พิธกี รรม แนวปฏิบัติของ ศาสนาอื่น ๆ วิเคราะห์ เกย่ี วกับปฏิบัติตนตามกฎหมายท่ีเก่ยี วขอ้ งกับตนเอง ครอบครัว ชมุ ชนและประเทศ การปฏิบัติ ตนตามสถานภาพ บทบาท สิทธิ เสรีภาพ หน้าที่ในฐานะพลเมืองดีตามวิถีประชาธิปไตย บทบาท ความสาคัญและ ความสัมพันธ์ของสถาบนั ทางสงั คม ความคล้ายคลึงและความแตกตา่ งของวัฒนธรรมไทย และวัฒนธรรมของประเทศใน ภูมิภาคเอเชยี นาไปส่คู วามเข้าใจอันดีระหว่างกัน กระบวนการในการตรากฎหมาย ผู้มสี ทิ ธิเสนอร่างกฎหมาย ข้ันตอน การตรากฎหมาย การมีส่วนร่วมของประชาชนใน กระบวนการตรากฎหมาย วเิ คราะห์ข้อมูล ขา่ วสารทางการเมอื งการ ปกครองทมี่ ีผลกระทบต่อสังคมไทยสมัยปจั จบุ นั โดยใช้กระบวนการคิด กระบวนการสืบค้นข้อมูล กระบวนการทางสังคม กระบวนการปฏิบัติ กระบวนการ เผชญิ สถานการณ์และแก้ปัญหา กระบวนการกลุ่ม เพื่อให้เกิดความรู้ ความเข้าใจ เห็นคุณค่า สามารถนาไปปฏิบัติในการดาเนินชีวิต นาไปพัฒนาและแก้ปัญหา ของชุมชนและสังคม เป็นพลเมืองดีตามหลักเศรษฐกิจพอเพยี ง ดาเนินชีวิตร่วมกนั อยา่ งสันติสุขในสังคมไทยและสังคม โลกมีคุณธรรมจริยธรรม มีคุณลักษณะพึงประสงค์ในด้าน รักชาติ ศาสน์ กษัตรยิ ์ มีความซอ่ื สัตย์สุจริต มีวนิ ัย ใฝ่เรยี นรู้ อยู่อย่างพอเพียง มุ่งมั่นในการทางาน รักความเป็นไทยและมีจิตสาธารณะ รหัสตวั ช้ีวดั ส๑.๑ ม.๒/๑ , ม.๒/๒ , ม.๒/๓ , ม.๒/๔ , ม.๒/๕ , ม.๒/๖ , ม.๒/๗ , ม.๒/๘ , ม.๒/๙ , ม.๒/๑๐ ม.๒/๑๑ ส๑.๒ ม.๒/๑ , ม.๒/๒ , ม.๒/๓ , ม.๒/๔ , ม.๒/๕ , ม2/5 ส2.๑ ม.๒/๑ , ม.๒/๒ , ม.๒/๓ , ม.๒/๔ ส2.๒ ม.๒/๑ , ม.๒/๒ รวมท้งั หมด ๒3 ตวั ช้วี ัด
ห ลั ก สู ต ร ส ถ า น ศึ ก ษ า | 339 โครงสรำ้ งรำยวชิ ำพนื้ ฐำน ส22101 สังคมศกึ ษำ 3 กล่มุ สำระกำรเรยี นร้สู งั คมศึกษำ ศำสนำและวฒั นธรรม ชนั้ มธั ยมศึกษำปีที่ 2 ภำคเรียนที่ 1 เวลำ 60 ชั่วโมง จำนวน 1.5 หนว่ ยกติ ท่ี หนว่ ยกำรเรียน ตัวชวี้ ัด / สำระกำรเรียนรู้ เวลำ คะแนน 1 พระพทุ ธ ผลกำรเรียนรู้ 10 2 พระธรรม ส ๑.๑ ม.๒/1 - 2/11 1. การเผยแผ่พระพุทธศาสนาหรือ 12 15 ส.1.2 ม.2/1 – 2/5 ศาสนาที่ตนนับถือสู่ประเทศเพื่อน บ้าน 2. ความสาคญั ของพระพทุ ธศาสนา หรอื ศาสนาที่ตนนบั ถือทช่ี ว่ ย เสรมิ สร้างความเขา้ ใจอันดกี บั ประเทศเพอื่ นบ้าน 3. ความสาคัญของพระพุทธศาสนา หรอื ศาสนาที่ตนนับถอื ในฐานะทเ่ี ป็น รากฐานของวฒั นธรรม เอกลกั ษณ์ ของชาติ และมรดกของชาติ 4. ความสาคญั ของพระพุทธศาสนา หรอื ศาสนาที่ตนนับถอื กับการพัฒนา ชุมชนและการจดั ระเบยี บสงั คม 5. พุทธประวัติหรือประวัติศาสดา ของศาสนาทต่ี นนับถือตามทีก่ าหนด - พทุ ธประวตั เิ หตกุ ารณ์ชว่ งผจญ มาร การตรสั รูแ้ ละการสอนธรรมของ พระพทุ ธเจ้าเป็นแบบอย่างการ บาเพญ็ ความดเี พ่อื ประโยชน์ตนและ ผอู้ ื่น นามาซงึ่ ความสขุ ความเจริญ และความสงบแห่งชวี ิต ส ๑.๑ ม.2/7,2/8, 1. โครงสร้างและสาระของ 15 2/9, 2/10, 2/11 พระไตรปฎิ ก ส ๑.2 ม.๒/1 2. พระรตั นตรยั 3. ธรรมคุณ 6 4. อริยสัจ 4 5. พุทธศาสนาสภุ าษิต 6. การพัฒนาจติ เพอื่ การเรยี นรแู้ ละ การดาเนนิ ชวี ิตด้วยวธิ ีคิดแบบโยนิโส
ห ลั ก สู ต ร ส ถ า น ศึ ก ษ า | 340 ท่ี หนว่ ยกำรเรยี น ตัวชวี้ ัด / สำระกำรเรยี นรู้ เวลำ คะแนน ผลกำรเรียนรู้ 3 พระสงฆ์ ส 1.๑ ม.๒/6 มนสิการ : แบบอุบายปลกุ เร้า 10 10 ส 1.2 ม.๒/2 คณุ ธรรมและวิธีคิดแบบอรรถธรรม ส 1.2 ม.๒/4 สมั พันธ์ 2 5 7. สวดมนตแ์ ปล แผ่เมตตา บรหิ าร 15 15 4 ศาสนาสากล ส 1.2 ม.๒/5 จติ และเจริญปญั ญา ดว้ ยอานาปาน สติ 5 สังคมกบั การ ส 2.1 ม.2/1 8. การปฏิบัตติ นตามหลกั ธรรมทาง ดาเนินชวี ติ ใน ส 2.1 ม.2/2 พุทธศาสนาเพอ่ื การดารงตนอยา่ ง สังคม ส 2.1 ม.2/3 เหมาะในกระแสความเปลย่ี นแปลง ของโลกและการอยรู่ ว่ มกันอย่าง ส 2.2 ม.2/1 สนั ติสขุ ส 2.2 ม.2/2 1. ประวัตขิ องพุทธสาวก พุทธ สาวกิ า ชาดก และศาสนกิ ชน ตวั อย่าง เปน็ การเสรมิ สรา้ งศรัทธา ในพระพทุ ธศาสนา เพ่อื นา แบบอย่างทดี่ ีมาดาเนินชีวติ 2. ศาสนพธิ ี 3. มารยาทพทุ ธศาสนกิ ชน 4. ทิศ 6 : การปฏบิ ัติตนเปน็ ลกู ทีด่ ี ตามหลกั ทิศเบ้ืองต้น 1. ศาสนพธิ ี พธิ กี รรม ตามแนว ปฏบิ ตั ิของศาสนา คริสต์ ศาสนา อิสลาม ศาสนาพราหมณ์-ฮนิ ดี และ ศาสนาซิกข์ 1. บทบาทและความสาคัญของ สถาบนั ทางสงั คม 2. ความสัมพนั ธข์ องสถาบันทาง สังคม 3. กระบวนการในการตรากฎหมาย 4. กฎหมายเก่ียวกบั ตัวเองและ ครอบครัว 5. กฎหมายทเ่ี กย่ี วขอ้ งกบั ชุมชน และประเทศ
ห ลั ก สู ต ร ส ถ า น ศึ ก ษ า | 341 ท่ี หน่วยกำรเรยี น ตัวชี้วัด / สำระกำรเรียนรู้ เวลำ คะแนน ผลกำรเรยี นรู้ 6 สงั คมกับการ 5 ดาเนินชวี ติ ใน 6. สถานภาพ บทบาท สิทธิเสรภี าพ สงั คม หนา้ ท่ใี นฐานะพบเมอื งดตี ามวิถี 60 20 ประชาธิปไตย 20 7. แนวทางส่งเสรมิ ให้ปฏิบัตติ นเป็น 100 พลเมอื งดตี ามวถิ ปี ระชาธปิ ไตย 8. เหตกุ ารณ์และการเปล่ยี นแปลง สาคญั ของระบอบการปกครองของ ไทย 9. หลกั การเลือกขอ้ มูลขา่ วสารทาง การเมอื งเพ่อื นามาวิเคราะห์ ส 2.1 ม.2/4 1. วัฒนธรรมทีเ่ ปน็ ปจั จยั สาคัญใน 4 การสร้างความเขา้ ใจอันดรี ะหวา่ งกัน 2. ความคลา้ ยคลงึ และความแตกตา่ ง ของวฒั นธรรม และวัฒนธรรมของ ประเทศในภมู ิภาคเอเชยี รวมระหว่างภาค 58 กลางภาค 1 รวมปลายภาค 1 รวม 60
ห ลั ก สู ต ร ส ถ า น ศึ ก ษ า | 342 คำอธิบำยรำยวชิ ำพน้ื ฐำน ส22103 ประวตั ิศำสตร์ 3 กลุ่มสำระกำรเรียนรู้สังคมศึกษำ ศำสนำ และวัฒนธรรม ชั้นมธั ยมศกึ ษำปที ี่ 2 ภำคเรยี นท่ี 1 เวลำ 20 ชั่วโมง จำนวน 0.5 หนว่ ยกติ .............................................................................................................................................................................. ศึกษาวเิ คราะห์การประเมินความนา่ เชือ่ ถอื ของหลักฐานทางประวตั ิศาสตร์ และความสาคัญของการตีความ หลักฐานทางประวตั ิศาสตร์ทีน่ ่าเชื่อถือ ตลอดจนวเิ คราะหค์ วามแตกต่างระหว่างความจรงิ กับข้อเท็จจริงของเหตุการณ์ ทางประวัติศาสตร์ การพัฒนาการทางสังคม เศรษฐกิจ และการเมืองของภูมิภาคเอเชีย ความสาคัญของแหล่งอารย ธรรมโบราณในภูมภิ าคเอเชยี โดยใชว้ ธิ กี ารทางประวัติศาสตร์ กระบวนการคิดวิเคราะห์ กระบวนการคดิ อยา่ งมีวจิ ารณญาณ กระบวนการ กลมุ่ กระบวนการเผชิญสถานการณ์ กระบวนการแก้ปัญหา และกระบวนการแก้ปญั หา เพ่ือให้เกิดความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับพัฒนาการของมนุษยชาติในภูมิภาคต่างๆ ในทวีปเอเชียจากอดีต จนถึงปัจจุบัน ให้ตระหนักถึงความสาคัญและผลกระทบท่ีเกิดขึ้น มีคุณลักษณะที่พึงประสงค์ในด้านรักชาติ ศาสน์ กษตั รยิ ์ ใฝเ่ รียนรู้ มุ่งม่นั ในการทางาน มวี นิ ยั ซื่อสัตย์สจุ รติ มีความรัก ความภมู ใิ จและธารงความเปน็ ไทย รหัสตัวชวี้ ดั /ผลกำรเรียนรู้ ส 4.1 ม.2/1 ม.2/2 ม.2/3 ส 4.2 ม.2/1 ม.2/2 รวมทั้งหมด 5 ตัวชวี้ ัด/ผลกำรเรียนรู้
ห ลั ก สู ต ร ส ถ า น ศึ ก ษ า | 343 กำรจดั กลุ่มหรอื บูรณำกำรตัวชวี้ ัดในหนว่ ยกำรเรียนรู้ (เพื่อเพิ่มประสทิ ธิภาพการสร้างขอ้ สอบแบบบรู ณาการตวั ชวี้ ัดของคร)ู หนว่ ยท่ี ตวั ชวี้ ัด บูรณาการตัวชวี้ ัด 1 ประเมนิ ความนา่ เช่ือถือของหลักฐานทางประวตั ิศาสตร์ ประเมินความนา่ เชอ่ื ถือ วเิ คราะห์ 2 ในลกั ษณะตา่ งๆ ความแตกต่างระหว่างความจรงิ กบั 3 ข้อเทจ็ จรงิ ของเหตกุ ารณ์ และตีความ วิเคราะหค์ วามแตกต่างระหวา่ งความจรงิ กับข้อเท็จจรงิ หลกั ฐานทางประวัติศาสตร์ ของเหตกุ ารณ์ทางประวัติศาสตร์ อธิบายพฒั นาการทางสงั คม เศรษฐกิจ เห็นความสาคญั ของการตีความหลกั ฐานทาง และการเมอื งของภูมภิ าคเอเชีย ประวตั ศิ าสตรท์ น่ี ่าเชื่อถือ ระบุความสาคัญของแหลง่ อารยธรรม โบราณในภมู ภิ าคเอเชยี อธิบายพฒั นาการทางสงั คม เศรษฐกจิ และการเมือง ของภมู ภิ าคเอเชยี ระบคุ วามสาคัญของแหลง่ อารยธรรมโบราณในภูมภิ าค เอเชีย
ห ลั ก สู ต ร ส ถ า น ศึ ก ษ า | 344 โครงสร้ำงรำยวชิ ำพน้ื ฐำน ส22103 ประวัตศิ ำสตร์ 3 กลมุ่ สำระกำรเรยี นรู้สังคมศกึ ษำ ศำสนำและวัฒนธรรม ชั้นมัธยมศกึ ษำปที ่ี 2 ภำคเรียนที่ 1 เวลำ 20 ชวั่ โมง จำนวน 0.5 หนว่ ยกิต ท่ี หนว่ ยกำรเรยี น ตวั ชี้วัด / สำระกำรเรยี นรู้ เวลำ คะแนน ผลกำรเรยี นรู้ 1 ความสาคญั ของ ส 4.1 ม.2/๑ หลักฐานทางประวัติศาสตร์ที่ผ่าน 4 10 หลักฐานทาง ส 4.1 ม.2/๒ การวเิ คราะห์ดว้ ยวิธีการทาง ประวตั ิศาสตร์ ส 4.1 ม.2/๓ ประวัติศาสตร์ จะทาให้ผล การศึกษามีความถกู ต้อง และ น่าเชอื่ ถือ 2 ท่ีตัง้ และสภาพ ส 4.1 ม.2/๑ ที่ต้ังและสภาพภูมิศาสตร์ท่ี 8 30 ภูมิศาสตร์ท่ีมผี ลต่อ หลากหลายของทวีปเอเชยี มี พัฒนาการของทวปี อิทธพิ ลตอ่ พัฒนาการทางสงั คม เอเชีย เศรษฐกิจ และการเมือง ตลอดจน พฒั นาการทางประวัติศาสตร์ของ ภูมิภาคต่างๆ ในทวีปเอเชีย 3 แหล่งอารยธรรมใน ส 4.1 ม.2/๒ แหล่งอารยธรรมตะวนั ออกและ 6 20 ทวีปเอเชยี มรดกโลกของประเทศต่างๆใน ภมู ิภาคเอเชยี ลว้ นมีความสาคญั ทางประวตั ิศาสตร์ แสดงถงึ ความ เจริญรุ่งเรืองเมือ่ ครงั้ อดตี ซึ่งมี อทิ ธิพลต่อภูมภิ าคเอเชยี ในปัจจุบัน อตั รา 80 : 20 ระหว่างภาค 60 กลางภาค 20 ปลายภาค 20 รวม 100
ห ลั ก สู ต ร ส ถ า น ศึ ก ษ า | 345 คำอธิบำยรำยวิชำพนื้ ฐำน ส ๒๒๑๐2 สงั คมศกึ ษำ 4 กลุม่ สำระกำรเรยี นรู้สงั คมศกึ ษำ ศำสนำ และวฒั นธรรม ชน้ั มัธยมศกึ ษำปีที่ ๒ ภำคเรยี นท่ี ๒ เวลำ ๖๐ ช่วั โมง จำนวน ๑.๕ หนว่ ยกติ ......................................................................................................................................................................................... ศึกษา วิเคราะห์ ปัจจัยที่มีผลต่อการลงทุนและการออม ปัจจัยการผลิตสินค้าและบรกิ าร การผลิตสินคา้ และบริการ การพัฒนาการผลิตในท้องถิ่นตามปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง และคุ้มครองสิทธิของตนเองในฐานะ ผู้บริโภค ระบบเศรษฐกิจแบบต่างๆ หลักการและผลกระทบการพ่ึงพาอาศัยกัน และการแข่งขันกันทางเศรษฐกิจใน ภูมิภาคเอเชีย วิเคราะห์การกระจายของทรัพยากรในโลกที่ส่งผลต่อความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจระหว่างประเทศ การ แขง่ ขันทางการค้าในประเทศและต่างประเทศ วิเคราะหล์ กั ษณะทางกายภาพของทวีปยโุ รป และทวีปแอฟริกา โดยใช้ เคร่อื งมือทางภมู ิศาสตร์สืบคน้ ข้อมูล การแปลความหมายมาตราส่วน ทศิ และสัญลกั ษณใ์ นแผนท่ี วิเคราะห์สาเหตุการ เกิดภัยพิบัติของทวีปยุโรป และทวีปแอฟริกา สารวจและระบุทาเลที่ตั้งของกิจกรรมทางเศรษฐกิจและสังคมในทวีป ยโุ รป และทวปี แอฟริกา วเิ คราะห์ปัจจยั ทางกายภาพและปจั จัยทางสังคมท่ีมีผลตอ่ ทาเลที่ตัง้ ของกจิ กรรมทางเศรษฐกิจ และสังคมในทวีปยุโรป และทวีปแอฟริกา สืบค้น อภิปรายประเด็นปัญหาจากปฏิสัมพันธ์ระหว่างสภาพแวดล้อมทาง กายภาพกับมนุษย์ท่ีเกิดข้ึนในทวีปยุโรป และทวีปแอฟริกา วิเคราะห์แนวทางการจัดการภัยพิบัติและการจัดการ ทรพั ยากรและสงิ่ แวดลอ้ มในทวีปยโุ รป และทวปี แอฟรกิ า อย่างยัง่ ยืน โดยใช้กระบวนการคิด กระบวนการสืบค้นข้อมูล กระบวนการทางสังคม กระบวนการปฏิบัติ กระบวนการ เผชญิ สถานการณแ์ ละแกป้ ัญหา กระบวนการกลมุ่ เพ่ือให้เกิดความรู้ ความเข้าใจ เห็นคุณค่า สามารถนาไปปฏิบัติในการดาเนินชีวิต นาไปพัฒนาและแก้ปัญหา ของชุมชนและสังคม เป็นพลเมืองดีตามหลักเศรษฐกิจพอเพยี ง ดาเนินชีวิตร่วมกนั อยา่ งสันติสุขในสังคมไทยและสังคม โลกมีคณุ ธรรมจริยธรรม มคี ุณลกั ษณะพงึ ประสงค์ในด้าน รกั ชาติ ศาสน์ กษัตรยิ ์ มคี วามซอ่ื สตั ย์สุจริต มีวนิ ัย ใฝ่เรียนรู้ อยู่อย่างพอเพียง มุ่งมั่นในการทางาน รักความเป็นไทยและมีจิตสาธารณะ รหัสตวั ชี้วัด ส 3.1 ม.2/1,2/2,2/3,2/4 ส 3.2 ม.2/1,2/2,2/3,2/4 ส5.๑ ม.๒/๑ , ม.๒/๒ , ม.๒/๓ ส5.๒ ม.๒/๑ , ม.๒/๒ , ม.๒/๓ , ม.๒/๔ รวมทงั้ หมด ๑5 ตัวช้ีวัด
ส22102 สงั คมศกึ ษำ 4 ห ลั ก สู ต ร ส ถ า น ศึ ก ษ า | 346 ชนั้ มธั ยมศึกษำปที ่ี 2 โครงสร้ำงรำยวิชำพ้นื ฐำน กล่มุ สำระกำรเรียนรสู้ ังคมศึกษำ ศำสนำและวฒั นธรรม ภำคเรยี นท่ี 1 เวลำ 60 ช่ัวโมง จำนวน 1.5 หนว่ ยกติ ท่ี หน่วยกำรเรยี น ตวั ชว้ี ัด / สำระกำรเรียนรู้ เวลำ คะแนน ผลกำรเรยี นรู้ 1 เศรษฐศาสตร์กับ 1. ความหมายและความสาคัญของการ 15 15 ความพอเพียง ส 3.1 ม.๒/1, ลงทุนและการออมต่อระบบเศรษฐกิจ 4 5 ม.๒/2, ม.๒/3, 2. การบริหารจัดการเงนิ ม.๒/4 ออมและการลงทุนภาคครวั เรอื น 3. ปจั จัยของการลงทุนและการออมคอื 2 ระบบเศรษฐกจิ กับ ส 3.2 ม.๒/1, อัตราดอกเบี้ย รวมทัง้ ปัจจัยอ่ืน ๆ เชน่ ควำมสัมพันธ์ ม.๒/2, ม.๒/3, คา่ ของเงนิ เทคโนโลยี การคาดเดาเก่ียวกบั อนาคต ระหวำ่ งประเทศ ม.๒/4 4. ปญั หาของการลงทนุ และการออมใน สังคมไทย 5. ความหมาย ความสาคญั และหลกั การ ผลิตสินค้าและบริการอยา่ งมีประสิทธภิ าพ 6. การผลติ สินค้าและบริการในทอ้ งถน่ิ 7. ปัญหาการผลิตสนิ ค้าและบริการใน ท้องถนิ่ 8. หลักการและเป้าหมายปรัชญาของ เศรษฐกจิ พอเพยี ง 9. การประยกุ ต์ใช้ปรัชญาของเศรษฐกิจ พอเพยี ง 10. กฎหมายค้มุ ครองผ้บู ริโภคและ หน่วยงานที่เก่ยี วขอ้ ง 11. การดาเนินกจิ กรรมพิทักษ์สิทธแิ ละผล ประโยชนต์ ากฎหมายในฐานะผบู้ รโิ ภค 12. แนวทางการปกปอ้ งสิทธขิ องผบู้ ริโภค 13. การรักษาและคุ้มครองสิทธปิ ระโยชน์ ของผบู้ รโิ ภค 1. ระบบเศรษฐกจิ แบบต่างๆ 2. การแข่งขันทางการคา้ ในประเทศและ ต่างประเทศที่สง่ ผลตอ่ คุณภาพสินค้า ปริมาณการผลติ และราคาสินค้า
ห ลั ก สู ต ร ส ถ า น ศึ ก ษ า | 347 ท่ี หน่วยกำรเรยี น ตัวชวี้ ัด / สำระกำรเรียนรู้ เวลำ คะแนน 3 เคร่อื งมือทาง ผลกำรเรียนรู้ ภมู ิศาสตร์ 3. การกระจายของทรัพยากรในโลกที 4 ทวีปยโุ รป สง่ ผลตอ่ ความสมั พนั ธ์ทางเศรษฐกิจ 5 ทวปี แอฟริกา ระหวา่ งประเทศ 4. หลกั การและผลกระทบการพ่งึ พาอาศยั กันและการแข่งขนั ทางเศรษฐกจิ ในภูมภิ าค เอเชยี ส 5.1 ม.2/1, ม. 1. แผนที่ 8 10 2/2 2. รีโมตเซนซิง่ 3. ระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์หรือ จีไอเอส (GIS) 4. ระบบกาหนดตาแหนง่ บนพ้ืนโลกหรอื จีพเี อส (GPS) 5. มาตราส่วน ทิศ และสญั ลักษณ์ ส 5.1 ม.2/1, ม. 1. ลกั ษณะทางกายภาพของทวปี ยุโรป 16 15 2/2, 2. ลกั ษณะทางเศรษฐกิจ วฒั นธรรม และ ส 5.2 ม.2/1, ม. ประชากรของทวีปยโุ รป 2/2 ,ม.2/3, ม.2/4 3. ส่งิ แวดลอ้ มใหม่ทางสงั คมในทวปี ยโุ รป 4. ภยั พิบตั ขิ องทวปี ยุโรป 5. ทาเลที่ตง้ั ของกิจกรรม ทางเศรษฐกจิ และสงั คมในทวีปยุโรป 6. ปญั หา ผลกระทบจากปฏิสมั พันธ์ ระหว่างสภาพแวดล้อมทางกายภาพกับ มนษุ ยท์ ่เี กดิ ข้นึ ในทวปี ยุโรป 7. แนวทางการจดั การภยั พิบัติและ การ จดั การทรพั ยากรและสง่ิ แวดล้อม ในทวีปยุโรปอย่างย่งั ยนื ส 5.1 ม.2/1, ม. 1. ลกั ษณะทางกายภาพของทวปี แอฟรกิ า 16 15 2/2 2. ลกั ษณะทางเศรษฐกิจ วัฒนธรรม และ ส 5.2 ม.2/1, ม. ประชากรของทวีปแอฟรกิ า 2/2 ,ม.2/3, ม.2/4 3. สง่ิ แวดล้อมใหม่ทางสังคมในทวปี แอฟริกา 4. ภยั พิบัติของทวีปแอฟรกิ า
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273
- 274
- 275
- 276
- 277
- 278
- 279
- 280
- 281
- 282
- 283
- 284
- 285
- 286
- 287
- 288
- 289
- 290
- 291
- 292
- 293
- 294
- 295
- 296
- 297
- 298
- 299
- 300
- 301
- 302
- 303
- 304
- 305
- 306
- 307
- 308
- 309
- 310
- 311
- 312
- 313
- 314
- 315
- 316
- 317
- 318
- 319
- 320
- 321
- 322
- 323
- 324
- 325
- 326
- 327
- 328
- 329
- 330
- 331
- 332
- 333
- 334
- 335
- 336
- 337
- 338
- 339
- 340
- 341
- 342
- 343
- 344
- 345
- 346
- 347
- 348
- 349
- 350
- 351
- 352
- 353
- 354
- 355
- 356
- 357
- 358
- 359
- 360
- 361
- 362
- 363
- 364
- 365
- 366
- 367
- 368
- 369
- 370
- 371
- 372
- 373
- 374
- 375
- 376
- 377
- 378
- 379
- 380
- 381
- 382
- 383
- 384
- 385
- 386
- 387
- 388
- 389
- 390
- 391
- 392
- 393
- 394
- 395
- 396
- 397
- 398
- 399
- 400
- 401
- 402
- 403
- 404
- 405
- 406
- 407
- 408
- 409
- 410
- 411
- 412
- 413
- 414
- 415
- 416
- 417
- 418
- 419
- 420
- 421
- 422
- 423
- 424
- 425
- 426
- 427
- 428
- 429
- 430
- 431
- 432
- 433
- 434
- 435
- 436
- 437
- 438
- 439
- 440
- 441
- 442
- 443
- 444
- 445
- 446
- 447
- 448
- 449
- 450
- 451
- 452
- 453
- 454
- 455
- 456
- 457
- 458
- 459
- 460
- 461
- 462
- 463
- 464
- 465
- 466
- 467
- 468
- 469
- 470
- 471
- 472
- 473
- 474
- 475
- 476
- 477
- 478
- 479
- 480
- 481
- 482
- 483
- 484
- 485
- 486
- 487
- 488
- 489
- 490
- 491
- 492
- 493
- 494
- 495
- 496
- 497
- 498
- 499
- 500
- 501
- 502
- 503
- 504
- 505
- 506
- 507
- 508
- 509
- 510
- 511
- 512
- 513
- 514
- 515
- 516
- 517
- 518
- 519
- 520
- 521
- 522
- 523
- 524
- 525
- 526
- 527
- 528
- 529
- 530
- 531
- 532
- 533
- 534
- 535
- 536
- 537
- 538
- 539
- 540
- 541
- 542
- 543
- 544
- 545
- 546
- 547
- 548
- 549
- 550
- 551
- 552
- 553
- 554
- 555
- 556
- 557
- 558
- 559
- 560
- 561
- 562
- 563
- 564
- 565
- 566
- 567
- 568
- 569
- 570
- 571
- 572
- 573
- 574
- 575
- 576
- 577
- 578
- 579
- 580
- 581
- 582
- 583
- 584
- 585
- 586
- 587
- 588
- 589
- 590
- 591
- 592
- 593
- 594
- 595
- 596
- 597
- 598
- 599
- 600
- 601
- 602
- 603
- 604
- 605
- 606
- 607
- 608
- 609
- 610
- 611
- 612
- 613
- 614
- 615
- 616
- 617
- 618
- 619
- 620
- 621
- 622
- 623
- 624
- 625
- 626
- 627
- 628
- 629
- 630
- 631
- 632
- 633
- 634
- 635
- 636
- 637
- 638
- 639
- 640
- 641
- 642
- 643
- 644
- 645
- 646
- 647
- 648
- 649
- 650
- 651
- 652
- 653
- 654
- 655
- 656
- 657
- 658
- 659
- 660
- 661
- 662
- 663
- 664
- 665
- 666
- 667
- 668
- 669
- 670
- 671
- 672
- 673
- 674
- 675
- 676
- 677
- 678
- 679
- 680
- 681
- 682
- 683
- 684
- 685
- 686
- 687
- 688
- 689
- 690
- 691
- 692
- 693
- 694
- 695
- 696
- 697
- 698
- 699
- 700
- 701
- 702
- 703
- 704
- 705
- 706
- 707
- 708
- 709
- 710
- 711
- 712
- 713
- 714
- 715
- 716
- 717
- 718
- 719
- 720
- 721
- 722
- 723
- 724
- 725
- 726
- 727
- 728
- 729
- 730
- 731
- 732
- 733
- 734
- 735
- 736
- 737
- 738
- 739
- 740
- 741
- 742
- 743
- 744
- 745
- 746
- 747
- 748
- 749
- 750
- 751
- 752
- 753
- 754
- 755
- 756
- 757
- 758
- 759
- 760
- 761
- 762
- 763
- 764
- 765
- 766
- 767
- 768
- 769
- 770
- 771
- 1 - 50
- 51 - 100
- 101 - 150
- 151 - 200
- 201 - 250
- 251 - 300
- 301 - 350
- 351 - 400
- 401 - 450
- 451 - 500
- 501 - 550
- 551 - 600
- 601 - 650
- 651 - 700
- 701 - 750
- 751 - 771
Pages: