ห ลั ก สู ต ร ส ถ า น ศึ ก ษ า | 498 คำอธิบำยรำยวชิ ำพนื้ ฐำน พ 31102 สุขศกึ ษาและพลศกึ ษา กลุม่ สาระการเรียนรู้ สุขศกึ ษาและพลศกึ ษา ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 4 ภาคเรยี นท่ี 2 เวลา 20 ชัว่ โมง จานวน 0.5 หนว่ ยการเรียนรู้ ศึกษาและใช้ความสามารถของตน เพื่อเพ่ิมศักยภาพของทีม คานึงถึงผลที่เกิดต่อผู้อื่นและสังคม เล่นกีฬาไทย กีฬาสากลประเภทบุคคล / คู่ กีฬาประเภททีมได้อย่างน้อย 1 ชนิด แสดงการเคลื่อนไหวได้อย่างสร้างสรรค์ เข้าร่วม กิจกรรมนันทนาการภายนอกโรงเรียน และนาหลักการ แนวคิดไปปรับปรุง และพัฒนาคุณภาพชีวิตของตนและสังคม แสดงออกถึงการมีมารยาทในการดู การเล่นและการแข่งขันกีฬา ด้วยความมีน้าใจนักกีฬา และนาไปใช้ปฏิบัติทุก โอกาส จนเป็นบุคลิกภาพทดี่ ี รว่ มกิจกรรมทางกายและเลน่ กีฬาอยา่ งมีความสุข ชืน่ ชมในคณุ คา่ และความงามของการ กีฬาวิเคราะห์บทบาทและความรับผิดชอบของบุคคลท่ีมีต่อการสร้างเสริมสุขภาพและการป้องกันโรคในชุมชน วิเคราะห์อิทธิพลของสื่อโฆษณาเก่ียวกับสุขภาพเพ่ือการบรโิ ภค ปฏิบัติตามสิทธิของผู้บริโภค มีส่วนร่วมในการป้องกัน ความเส่ียงต่อการใช้ยา การใช้สารเสพติด และความรุนแรง เพ่ือสุขภาพของตนเองครอบครัว และสังคม วิเคราะห์ ผลกระทบที่เกิดจากการครอบครอง การใช้ และการจาหน่ายสารเสพติด วิเคราะห์ปัจจัยที่มีผลต่อสุขภาพหรือความ รนุ แรงของคนไทยและเสนอแนวทางป้องกัน ใช้ทักษะการตัดสินใจแก้ปัญหาในสถานการณ์ทเ่ี ส่ียงต่อสขุ ภาพและความ รุนแรง แสดงวิธีการช่วยฟื้นคืนชีพอย่างถูกวิธี และเขียนบทสรุปเน้ือหา เสนอบริการแก่ผู้อ่ืนนาไปปรบั ปรุงและพฒั นา คณุ ภาพชีวติ ตามมาตรฐานสากล โดยใช้กระบวนการกลุ่ม กระบวนการสาธิต การฝึกปฏิบัติ การคิดวิเคราะห์ การอภิปราย เพื่อให้เกิดความรู้ ความเขา้ ใจ สามารถส่อื สารส่งิ ที่เรยี นรู้ และสามารถการตัดสินใจไดอ้ ยา่ งเหมาะสม เหน็ คณุ คา่ ของการนาความรไู้ ปใช้ในชีวิตประจาวัน ซื่อสตั ย์สุจริต มีวนิ ยั ใฝเ่ รียนรู้ อยอู่ ย่างพอเพียง มุ่งมน่ั ใน การทางาน รักความเปน็ ไทยและมีจติ สาธารณะ เพื่อใหผ้ ู้เรียนมคี วามรู้ความสามารถตามมาตรฐานและตวั ชีว้ ดั ต่อไปนี้ พ 3.1 ม.4-6/2 ใช้ความสามารถของตน เพื่อเพิม่ ศกั ยภาพของทีม คานึงถึงผลท่เี กดิ ต่อผอู้ ืน่ และสังคม พ 3.1 ม4-6/3 เลน่ กีฬาไทย กีฬาสากลประเภทบุคคล / คู่ กฬี าประเภททมี ได้อย่างนอ้ ย 1 ชนดิ พ 3.1 ม.4-6/4 แสดงการเคลื่อนไหวไดอ้ ย่างสร้างสรรค์ พ 3.1 ม4-6/5 เขา้ รว่ มกจิ กรรมนันทนาการภายนอกโรงเรียน และนาหลักการ แนวคิดไปปรับปรุง และพฒั นา คุณภาพชวี ติ ของตนและสงั คม พ 3.2 ม.4-6/3 แสดงออกถึงการมีมารยาทในการดู การเล่นและการแข่งขันกีฬา ด้วยความมีน้าใจ นักกีฬา และนาไปใช้ปฏบิ ัตทิ ุกโอกาส จนเป็นบุคลกิ ภาพท่ีดี
ห ลั ก สู ต ร ส ถ า น ศึ ก ษ า | 499 พ 3.2 ม.4-6/4 ร่วมกิจกรรมทางกายและเล่นกีฬาอย่างมีความสุข ช่ืนชมในคุณค่าและความงามของการ กฬี า พ 4.1 ม.4-6/1 วเิ คราะหบ์ ทบาทและความรบั ผิดชอบของบุคคลท่ีมีต่อการสร้างเสรมิ สุขภาพและการ ปอ้ งกันโรคในชุมชน พ 4.1 ม.4-6/2 วเิ คราะห์อทิ ธิพลของสื่อโฆษณาเกย่ี วกับสขุ ภาพเพอื่ การบรโิ ภค พ 4.1 ม.4-6/3 ปฏิบัติตามสทิ ธขิ องผู้บรโิ ภค พ 5.1 ม.4-6/1 มีส่วนร่วมในการปอ้ งกนั ความเสย่ี งตอ่ การใช้ยา การใช้สารเสพตดิ และความรุนแรง เพอ่ื สขุ ภาพของตนเองครอบครวั และสงั คม พ 5.1 ม.4-6/2 วเิ คราะห์ผลกระทบทีเ่ กิดจากการครอบครอง การใช้ และการจาหนา่ ยสารเสพติด พ 5.1 ม.4-6/3 วิเคราะหป์ จั จัยที่มีผลต่อสุขภาพหรือความรุนแรงของคนไทยและเสนอแนวทางปอ้ งกนั พ 5.1 ม.4-6/6 ใช้ทกั ษะการตดั สนิ ใจแก้ปญั หาในสถานการณ์ที่เสย่ี งตอ่ สขุ ภาพและความรุนแรง พ 5.1 ม.4-6/7 แสดงวธิ ีการช่วยฟนื้ คนื ชีพอยา่ งถกู วิธี รวม 14 ตัวช้ีวัด
ห ลั ก สู ต ร ส ถ า น ศึ ก ษ า | 500 คำอธิบำยรำยวชิ ำ รำยวชิ ำพน้ื ฐำน พ 32101 สขุ ศกึ ษาและพลศกึ ษา กลมุ่ สาระการเรียนรู้สุขศกึ ษาและพลศกึ ษา ช้ันมธั ยมศึกษาปีที่ 5 ภาคเรยี นท่ี 1 เวลาเรียน 20 ชวั่ โมง จานวน 0.5 หนว่ ยการเรยี น ศึกษา วเิ คราะห์ และอธบิ ายกระบวนการสร้างเสริมและดารงประสทิ ธิภาพการทางานของระบบอวัยวะตา่ งๆ วิเคราะหพ์ ฤติกรรมสขุ ภาพ และวางแผนการดแู ลสุขภาพของตนเอง และบุคคลในครอบครัวได้อยา่ งเหมาะสม เลือกใช้ ทักษะท่ีเหมาะสมในการปอ้ งกนั ลดความขดั แยง้ และแก้ไขปญั หาเรอ่ื งเพศและ ครอบครวั เพื่อเสรมิ สร้าง สมั พนั ธภาพทดี่ ีต่อกัน วเิ คราะห์ความคดิ รวบยอดเก่ยี วกบั การเคล่ือนไหวรปู แบบต่างๆในการเลน่ กีฬาใช้ความสามารถ ของตนเองเพอื่ เพม่ิ ศกั ยภาพของทีม คานึงถึงผลทเี่ กิดต่อผอู้ ่นื และสงั คม เล่นกฬี าไทยกีฬาสากลประเภทบคุ คล / คู่ ประเภททมี ไดอ้ ย่างน้อย 1 ชนิด แสดงการเคลอ่ื นไหวได้อย่างสร้างสรรค์ออกกาลงั กายและเล่นกฬี าท่ีเหมาะสมกบั ตนเองอย่างสม่าเสมอและใชค้ วามสามารถของตนเองเพม่ิ ศกั ยภาพของทมี ลดความเปน็ ตวั ตนคานงึ ถึงผลทเี่ กดิ ต่อสงั คม อธิบายและปฏิบตั เิ กยี่ วกบั สทิ ธิ กฎ กตกิ า กลวธิ ตี ่างๆ ในระหวา่ งการเล่น การแขง่ ขันกับผอู้ ื่น และนาไปสรุปเป็นแนว ปฏบิ ัตแิ ละใช้ในชีวติ ประจาวนั อย่างตอ่ เนื่อง แสดงออกถงึ การมมี ารยาทในการดู การเลน่ และการแข่งขันกฬี าด้วยความ มีน้าใจนักกฬี า และนาไปใช้ปฏิบตั ิทกุ โอกาสจนเป็นบคุ ลิกภาพท่ดี ีรว่ มกิจกรรมทางกายและเล่นกฬี าอยา่ งมคี วามสขุ ช่ืน ชมในคณุ คา่ และความงามของการกีฬา ตามมาตรฐานสากล โดยใช้กระบวนการเรียนรู้แบบกลุ่ม กระบวนการสืบค้นข้อมูล กระบวนการวิเคราะห์ และกระบวนการอภิปราย กระบวนการสาธิตและกระบวนการปฏิบัติ เพ่ือให้เกิดความรู้ ความเข้าใจ สามารถนาหลักการ แนวคิดไปปรับปรุงและนาไปปฏิบัติในการดูแลรักษา สุขภาพ และพัฒนาคุณภาพชีวิตของตนเองและครอบครัว รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ มีวินัย ใฝ่เรียนรู้ ตรงต่อเวลา และมคี วามรับผิดชอบ เพือ่ ให้ผู้เรียนมีความร้คู วามสามารถตามมาตรฐานและตัวชว้ี ดั ตอ่ ไปน้ี พ 1.1 ม.4-6/1 อธบิ ายกระบวนการการสรา้ งเสรมิ และดารงประสทิ ธภิ าพการทางานของระบบอวยั วะตา่ งๆ พ 1.1 ม.4-6/2 วางแผนดแู ลสขุ ภาพตามภาวะการเจรญิ เตบิ โตและพฒั นาการของตนเองและบุคคลใน ครอบครัว พ 2.1 ม.4-6/3 เลือกใช้ทกั ษะท่เี หมาะสมในการป้องกัน ลดความขัดแยง้ และ แกป้ ัญหาเรือ่ งเพศและ ครอบครัว พ 3.1 ม. 4-6/1 วิเคราะหค์ วามคิดรวบยอดเกีย่ วกบั การเคลอ่ื นไหวรูปแบบตา่ งๆในการเลน่ กฬี า พ 3.1 ม. 4-6/2 ใชค้ วามสามารถของตนเอง เพอื่ เพม่ิ ศกั ยภาพของทมี คานึงถงึ ผลที่เกิดตอ่ ผอู้ ่ืนและสังคม พ 3.1 ม. 4-6/3 เลน่ กฬี าไทย กฬี าสากล ประเภทบคุ คล/คู่ กีฬาประเภททมี อยา่ งน้อย 1 ชนิด
ห ลั ก สู ต ร ส ถ า น ศึ ก ษ า | 501 พ 3.1 ม. 4-6/4 แสดงการเคล่ือนไหวไดอ้ ย่างสรา้ งสรรค์ พ 3.2 ม. 4-6/1 ออกกาลังกายและเล่นกีฬาท่ีเหมาะสมกับตนเองอย่างสมา่ เสมอ และใช้ความสามารถของ ตนเองเพ่มิ ศักยภาพของทมี ลดความเปน็ ตัวตนคานงึ ถึงผลทเ่ี กดิ ต่อสงั คม พ 3.2 ม. 4-6/2 อธบิ ายและปฏิบตั ติ นเกี่ยวกบั สิทธิ กฎ กตกิ า กลวธิ ตี า่ งๆ ในระหว่างการเลน่ การแข่งขนั กีฬากบั ผ้อู ่นื และนาไปสรปุ เปน็ แนวปฏิบตั ิและใช้ในชวี ติ ประจาวนั อย่างตอ่ เน่อื ง พ 3.2 ม. 4-6/3 แสดงออกถงึ การมีมารยาทในการดู การเล่น และการแขง่ ขันกีฬาดว้ ยความมนี ้าใจนกั กีฬา และนาไปใช้ปฏบิ ตั ิทุกโอกาสจนเปน็ บุคลกิ ภาพทดี่ ี พ 3.2 ม. 4-6/4 รว่ มกจิ กรรมทางกายและเล่นกฬี าอย่างมคี วามสุข ช่ืนชมในคณุ ค่าและความงามของการ กีฬา รวม 11 ตัวช้ีวัด
ห ลั ก สู ต ร ส ถ า น ศึ ก ษ า | 502 คำอธิบำยรำยวชิ ำ รำยวิชำพ้นื ฐำน พ 32102 สุขศกึ ษา กล่มุ สาระการเรยี นรสู้ ุขศึกษาและพลศกึ ษา ชน้ั มธั ยมศึกษาปที ่ี 5 ภาคเรียนท่ี 2 เวลาเรยี น 20 ชั่วโมง จานวน 0.5 หน่วยการเรยี น ศึกษาวิเคราะห์การ ใช้ความสามารถของตนเพื่อเพิ่มศักยภาพของทีม คานึงถึงผลท่ีเกิดต่อผู้อ่ืน และสังคม เล่นกีฬาไทย กีฬาสากลประเภทบุคคล / คู่ กีฬาประเภททีมได้อย่างน้อย 1 ชนิดแสดงการเคล่ือนไหวได้อย่าง สร้างสรรค์เขา้ ร่วมกิจกรรมนันทนาการนอกโรงเรียน และนาหลักการแนวคิดไปปรับปรงุ และพัฒนา คุณภาพชีวิตของ ตนและสังคมออกกาลังกายและเล่นกีฬาที่เหมาะสมกับตนเองอย่างสม่าเสมอ และใช้ความสามารถของ ตนเองเพิ่ม ศกั ยภาพของทีม ลดความเป็นตวั ตน คานึงถงึ ผลท่ีเกดิ ต่อสังคม อธิบายและปฏิบตั เิ ก่ียวกับสิทธิ กฎ กตกิ า กลวธิ ตี า่ งๆ ในระหว่างการเล่น การแข่งขันกีฬา กับผู้อ่ืนและนาไปสรุปเป็นแนวปฏิบัติและใช้ในชีวิตประจาวันอย่างต่อเนื่อง แสดงออกถึงการมีมารยาทในการดู การเล่นและการแข่งขันกีฬา ด้วยความมีน้าใจนักกีฬา และนาไปใช้ปฏิบัติทุก โอกาส จนเป็นบุคลิกภาพท่ีดี ร่วมกิจกรรมทางกายและเล่นกีฬาอยา่ งมีความสุข ชื่นชมในคุณค่าและความงามของ การกฬี า วิเคราะห์ และอธบิ ายการปฏิบตั ิตนตามสิทธิขัน้ พนื้ ฐานของผู้บรโิ ภค และกฎหมายท่ีเกยี่ วขอ้ งกับการคุม้ ครอง ผู้บริโภค เพอื่ ความปลอดภัยและรักษาไว้ซงึ่ สิทธิที่ควรได้รับ วิเคราะหส์ าเหตุของการเจ็บป่วยและการตายของคนไทย เพ่ือหาแนวทางการป้องกันที่เหมาะสม การทดสอบสมรรถภาพของร่างกายโดยวางแผนและปฏิบัติเพื่อสร้างเสริม สมรรถภาพ ทางกาย และกลไกของตนเองให้มสี ุขภาพท่ีดี ศกึ ษา และวิเคราะห์ปัจจัยท่มี ผี ลต่อสขุ ภาพหรอื ความรุนแรง ของคนไทย โดยเลอื กใช้ทักษะทเี่ หมาะสมในการปอ้ งกนั ลดความขัดแยง้ โดยใช้กระบวนการเรียนรู้แบบกลุ่ม กระบวนการสืบค้นข้อมูล กระบวนการวิเคราะห์ และกระบวนการอภิปราย กระบวนการปฏบิ ตั ิ กระบวนการสาธติ เพื่อให้เกิดความรู้ ความเข้าใจ สามารถนาหลักการ แนวคิดไปปรับปรุงและนาไปปฏิบัติในการดูแลรักษา สุขภาพ และพัฒนาคุณภาพชีวิตของตนเองและครอบครัว รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ มีวินัย ใฝ่เรียนรู้ ตรงต่อเวลา และมคี วามรับผดิ ชอบ เพ่ือให้ผูเ้ รยี นมีความรคู้ วามสามารถตามมาตรฐานและตัวชว้ี ดั ต่อไปน้ี พ 3.1 ม. 4-6/2 ใช้ความสามารถของตนเอง เพ่ือเพม่ิ ศกั ยภาพของทมี คานึงถึงผลท่ีเกิดต่อผ้อู น่ื และสังคม พ 3.1 ม. 4-6/3 เล่นกีฬาไทย กฬี าสากล ประเภทบุคคล/คู่ กีฬาประเภททมี อยา่ งน้อย 1 ชนิด พ 3.1 ม. 4-6/4 แสดงการเคล่ือนไหวได้อย่างสร้างสรรค์ พ 3.1 ม. 4-6/5 เข้าร่วมกิจกรรมนนั ทนาการ นอกโรงเรียน และนาหลักการแนวคิดไปปรับปรุงและพัฒนา คณุ ภาพชีวติ ของตนเองและสงั คม
ห ลั ก สู ต ร ส ถ า น ศึ ก ษ า | 503 พ 3.2 ม. 4-6/1 ออกกาลังกายและเล่นกีฬาทีเ่ หมาะสมกบั ตนเองอย่างสมา่ เสมอ และใช้ความสามารถของ ตนเองเพ่มิ ศกั ยภาพของทมี ลดความเป็นตัวตนคานึงถึงผลท่เี กิดตอ่ สงั คม พ 3.2 ม. 4-6/2 อธิบายและปฏิบตั ิตนเกีย่ วกับสิทธิ กฎ กติกา กลวิธตี ่างๆ ในระหวา่ งการเล่น การแข่งขนั กฬี ากับผูอ้ น่ื และนาไปสรปุ เป็นแนวปฏิบัติและใช้ในชวี ิตประจาวันอยา่ งต่อเนอื่ ง พ 3.2 ม. 4-6/3 แสดงออกถึงการมีมารยาทในการดู การเล่น และการแข่งขันกฬี าด้วยความมนี ้าใจนักกีฬา และนาไปใช้ปฏิบตั ิทุกโอกาสจนเปน็ บคุ ลกิ ภาพทีด่ ี พ 4.1 ม.4-6/3 ปฏบิ ตั ิตนตามสิทธขิ องผู้บรโิ ภค พ 4.1 ม.4-6/4 วเิ คราะห์สาเหตแุ ละเสนอแนวทางการป้องกันการเจบ็ ป่วยและการตายของคนไทย พ 4.1 ม.4-6/7 วางแผนและปฏบิ ัติตามแผนการพฒั นาสมรรถภาพทางกายและสมรรถภาพทางกลไก พ 5.1 ม.4-6/3 วเิ คราะห์ปจั จัยทม่ี ีผลตอ่ สขุ ภาพหรือความรุนแรงของคนไทยและเสนอแนวทางป้องกนั รวม 11 ตวั ชีว้ ัด
ห ลั ก สู ต ร ส ถ า น ศึ ก ษ า | 504 คำอธบิ ำยรำยวิชำ พ 33101 สุขศกึ ษาและพลศกึ ษา กลุม่ สาระการเรยี นรู้สขุ ศกึ ษาและพลศึกษา ชน้ั มธั ยมศึกษาปีท่ี 6 ภาคเรียนท่ี 1 เวลา 20 ชัว่ โมง จานวน 0.5 หน่วยการเรียนรู้ ศึกษากระบวนการ การสร้างเสริมและดารงประสิทธิภาพ การทางานของระบบอวัยวะต่างๆ มีความรู้ ความเข้าใจและสามารถวางแผนการดูแลสุขภาพตามภาวการณ์เจริญเติบโตและพัฒนาการของตนเองและบุคคลใน ครอบครัววิเคราะห์สาเหตุและผลของความขัดแย้งที่อาจเกิดขึ้นระหว่างนกั เรียนหรือเยาวชนในชุมชน ศึกษาวิเคราะห์ ความคิดรวบยอดเก่ียวกับการเคลื่อนไหวรูปแบบต่าง ๆ ในการเล่นกีฬาวอลเลย์บอลเล่นกีฬาไทย กีฬาสากลประเภท บุคคล/คู่ กีฬาประเภททีมได้อย่างน้อย 1 ชนิดแสดงการเคลื่อนไหวได้อย่างสร้างสรรค์ออกกาลังกายและเล่นกีฬาท่ี เหมาะสมกบั ตนเองอยา่ งสม่าเสมอและใช้ความสามารถของตนเองเพิม่ ศกั ยภาพของทีม ลดความเป็นตัวตน คานึงถึงผล ท่เี กดิ ต่อสงั คมอธบิ ายและปฏบิ ัติเกี่ยวกบั สิทธิ กฎ กตกิ า กลวิธตี า่ ง ๆ ในระหวา่ งการเลน่ การแข่งขนั กีฬากับผอู้ ืน่ และ นาไปสรุปเป็นแนวปฏิบัติ และใชใ้ นชวี ิตประจาวนั อยา่ งตอ่ เนื่อง แสดงออกถึงการมมี ารยาทในการดู การเลน่ และการ แข่งขันกีฬาด้วยความมีน้าใจนักกีฬาและนาไปใช้ปฏิบัติทุกโอกาสจนเป็นบุคลิกภาพที่ดีร่วมกิจกรรมทางกายและเล่น กีฬาอย่างมีความสุข ช่ืนชนในคุณค่าและความงามของการกีฬา เสนอแนวทางแก้ไขปัญหา ได้อย่างมีประสิทธิภาพ สามารถสรปุ และแนะนาผูอ้ น่ื เพื่อนาไปใช้ปรับปรุงพฒั นาคุณภาพชวี ิตตามมาตรฐานสากล โดยใช้กระบวนการกลุม่ การสืบค้นขอ้ มูล กระบวนการคดิ วิเคราะห์ การอภปิ ราย กระบวนการแก้ปญั หา กระบวนการสร้างความตระหนักและ กระบวนการสาธิต ทกั ษะการปฏิบตั ิ เพื่อใหเ้ กิดความรู้ ความเขา้ ใจ สามารถ นาเสนอสือ่ สารสง่ิ ที่เรียนรู้ และมคี วามสามารถในการตัดสินใจ เพื่อให้มีความรู้ความเข้าใจ เห็นคุณค่าของการนาหลักการไปใช้เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของตนองและ ครอบครัวในชีวิตประจาวัน มีความ ซอ่ื สัตย์ สจุ ริต มีวนิ ยั ใฝ่เรยี นรู้ อยูอ่ ยา่ งพอเพยี ง ม่งุ เน้นในการทางาน รักความเป็น ไทยและมจี ติ สาธารณะ เพอื่ ให้ผ้เู รยี นมคี วามรูค้ วามสามารถตามมาตรฐานและตัวชีว้ ดั ตอ่ ไปนี้ พ 1.1 ม.4-6/1 อธบิ ายกระบวนการสร้างเสรมิ และดารงประสิทธิภาพ การทางานของระบบอวยั วะต่างๆ พ 1.1 ม.4-6/2 วางแผนการดูแลสุขภาพตามภาวการณเ์ จริญเติบโตและพัฒนาการของตนเองและบคุ คล ในครอบครัว พ 2.1 ม.4-6/4 วเิ คราะห์สาเหตุและผลของความขดั แยง้ ทีอ่ าจเกิดขนึ้ ระหวา่ งนกั เรยี นหรือเยาวชนใน ชุมชน เสนอแนวทางแกไ้ ขปญั หา พ 3.1 ม 4-6/1 วเิ คราะห์ความคิดรวบยอดเกยี่ วกับการเคลือ่ นไหวรูปแบบต่าง ๆ ในการเล่นกีฬา พ 3.1 ม 4-6/3 เล่นกีฬาไทย กฬี าสากลประเภทบคุ คล/คู่ กฬี าประเภททมี ได้อย่างน้อย 1 ชนดิ
ห ลั ก สู ต ร ส ถ า น ศึ ก ษ า | 505 พ 3.1 ม 4-6/4 แสดงการเคลื่อนไหวได้อย่างสรา้ งสรรค์ พ 3.2 ม 4-6/1 ออกกาลังกายและเลน่ กฬี าท่ีเหมาะสมกับตนเองอยา่ งสม่าเสมอและใช้ความสามารถของ ตนเองเพิ่มศักยภาพของทีม ลดความเปน็ ตัวตน คานงึ ถึงผล ท่เี กดิ ตอ่ สังคม พ 3.2 ม 4-6/2 อธบิ ายและปฏิบัติเกี่ยวกบั สทิ ธิ กฎ กติกา กลวธิ ตี ่าง ๆ ในระหวา่ งการเล่น การแขง่ ขนั กีฬากับผู้อ่นื และนาไปสรุปเปน็ แนวปฏบิ ัติ และใชใ้ นชีวติ ประจาวนั อย่างต่อเนอ่ื ง รวม 8 ตัวชวี้ ัด
ห ลั ก สู ต ร ส ถ า น ศึ ก ษ า | 506 คำอธิบำยรำยวิชำ พ 33102 สขุ ศึกษาและพลศกึ ษา กลุ่มสาระการเรยี นรู้สุขศึกษาและพลศกึ ษา ช้นั มัธยมศึกษาปีท่ี 6 ภาคเรียนที่ 2 เวลา 20 ชว่ั โมง จานวน 0.5 หน่วยการเรียนรู้ ศึกษาวเิ คราะห์ใชค้ วามสามารถของตนเพ่อื เพ่ิมศักยภาพของทมี คานึงถึงผลท่ีเกิดตอ่ ผ้อู น่ื และสงั คมเล่นกฬี า ไทย กฬี าสากลประเภทบุคคล/คู่ กฬี าประเภททีมไดอ้ ยา่ งน้อย 1 ชนดิ แสดงการเคลือ่ นไหวไดอ้ ย่างสร้างสรรค์เข้าร่วม กจิ กรรมนันทนาการนอกโรงเรียน และนาหลกั การแนวคิดไปปรบั ปรุงและพฒั นาคุณภาพชวี ติ ของตนและสงั คมออก กาลงั กายและเลน่ กีฬาทเ่ี หมาะสมกับตนเองอย่างสมา่ เสมอและใช้ความสามารถของตนเองเพ่ิมศักยภาพของทีม ลด ความเปน็ ตวั ตน คานึงถึงผล ทเี่ กิดต่อสงั คมอธิบายและปฏิบตั เิ กีย่ วกับสิทธิ กฎ กติกา กลวธิ ตี ่าง ๆ ในระหว่างการเลน่ การแข่งขันกฬี ากับผ้อู ่ืน และนาไปสรปุ เป็นแนวปฏบิ ัติ และใช้ในชวี ิตประจาวัน อย่างตอ่ เน่ือง แสดงออกถงึ การมี มารยาทในการดู การเล่นและการแขง่ ขนั กีฬาดว้ ยความมีน้าใจนักกฬี าและนาไปใชป้ ฏิบัติทกุ โอกาสจนเปน็ บคุ ลิกภาพท่ี ดรี ่วมกิจกรรมทางกายและเล่นกีฬาอย่างมคี วามสุข ช่ืนชนในคณุ ค่าและความงามของการกฬี าวธิ กี ารวางแผนและ ปฏิบัติตามแผนการพฒั นาสุขภาพของตนเองและครอบครัว มีสว่ นรว่ มในการสง่ เสรมิ และพฒั นาสขุ ภาพของบคุ คลใน ชุมชนใช้ทักษะการตัดสินใจแก้ปญั หาในสถานการณ์ท่ีเสย่ี งตอ่ สุขภาพและความรุนแรง แสดงวิธกี ารช่วยฟ้ืนคืนชีพอยา่ ง ถกู วิธี สามารถสรปุ และแนะนาผ้อู ื่น เพือ่ นาไปใช้ปรบั ปรุงพฒั นาคณุ ภาพชีวิตตามมาตรฐานสากล โดยใชก้ ระบวนการกลุ่ม การสืบค้นขอ้ มลู การอภปิ ราย กระบวนการปฏบิ ตั ิ กระบวนการสาธิต กระบวนการ แก้ปัญหา กระบวนการสร้างความตระหนัก เพ่ือให้เกิดความรู้ ความเข้าใจ สามารถนาเสนอสื่อสารสิ่งท่ีเรียนรู้ มี ความสามารถในการตัดสนิ ใจ เพ่ือให้มีความรู้ความเข้าใจ เห็นคุณค่าของการนาหลักการไปใช้เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของตนองและ ครอบครัวในชวี ิตประจาวนั มีความ ซือ่ สัตย์ สจุ รติ มีวินยั ใฝเ่ รยี นรู้ อยู่อยา่ งพอเพยี ง ม่งุ เน้นในการทางาน รกั ความเป็น ไทยและมีจิตสาธารณะ เพอ่ื ใหผ้ เู้ รียนมีความรคู้ วามสามารถตามมาตรฐานและตวั ชี้วัดต่อไปนี้ พ 3.1 ม 4-6/2 ใช้ความสามารถของตนเพื่อเพิม่ ศักยภาพของทีม คานึงถงึ ผลท่เี กดิ ตอ่ ผ้อู ืน่ และสงั คม พ 3.1 ม 4-6/3 เลน่ กีฬาไทย กีฬาสากลประเภทบคุ คล/คู่ กีฬาประเภททีมได้อย่างนอ้ ย1ชนดิ พ 3.1 ม 4-6/4 แสดงการเคลอ่ื นไหวได้อยา่ งสรา้ งสรรค์ พ 3.1 ม 4-6/5 เข้าร่วมกจิ กรรมนนั ทนาการนอกโรงเรียน และนาหลกั การแนวคิดไปปรับปรุงและพัฒนา คุณภาพชีวิตของตนและสงั คม พ 3.2 ม 4-6/1 ออกกาลงั กายและเลน่ กีฬาทีเ่ หมาะสมกับตนเองอย่างสมา่ เสมอและใช้ความสามารถของ ตนเองเพม่ิ ศักยภาพของทมี ลดความเป็นตัวตน คานึงถงึ ผล ทีเ่ กดิ ตอ่ สังคม
ห ลั ก สู ต ร ส ถ า น ศึ ก ษ า | 507 พ 3.2 ม 4-6/2 อธิบายและปฏบิ ตั ิเก่ยี วกบั สิทธิ กฎ กติกา กลวิธีตา่ ง ๆ ในระหวา่ งการเลน่ การแข่งขนั กีฬากับผ้อู ื่น และนาไปสรุปเป็นแนวปฏบิ ัติ และใชใ้ นชีวติ ประจาวัน อย่างตอ่ เนื่อง พ 3.2 ม 4-6/3 แสดงออกถงึ การมีมารยาทในการดู การเลน่ และการแขง่ ขันกีฬาด้วยความมีน้าใจ นกั กีฬาและนาไปใช้ปฏิบตั ิทกุ โอกาสจนเป็นบุคลกิ ภาพท่ดี ี พ 3.2 ม 4-6/4 รว่ มกิจกรรมทางกายและเล่นกีฬาอย่างมคี วามสุข ช่นื ชนในคุณค่าและความงามของการ กีฬา พ 4.1 ม.4-6/5 วางแผนและปฏบิ ตั ิตามแผนการพฒั นาสุขภาพของตนเองและครอบครวั พ 4.1 ม.4-6/6 มีสว่ นรว่ มในการสง่ เสริมและพัฒนาสุขภาพของบุคคลในชมุ ชน พ 5.1 ม.4-6/6 ใช้ทักษะการตัดสินใจแก้ปัญหาในสถานการณ์ที่เสยี่ งตอ่ สขุ ภาพและความรนุ แรง พ 5.1 ม.4-6/7 แสดงวธิ กี ารช่วยฟ้ืนคืนชพี อยา่ งถกู วิธี รวม 12 ตัวชว้ี ดั
ห ลั ก สู ต ร ส ถ า น ศึ ก ษ า | 508 คำอธิบำยรำยวชิ ำ พ 30201 พลศึกษา( ลลี าศ) กลมุ่ สาระการเรยี นรสู้ ุขศกึ ษาและพลศึกษา ช้ันมัธยมศึกษาปที ี่ 4-6 ภาคเรยี นท่ี 1-2 เวลา 20 ช่วั โมง จานวน 0.5 หน่วยการเรยี น ศึกษาประวัตคิ วามเปน็ มาของการลีลาศ การศึกษากฎ ระเบยี บ มารยาทของการลลี าศ หลักการลลี าศ การ เสรมิ สรา้ งสมรรถภาพทางกาย การสร้างความคุ้นเคยกบั จังหวะดนตรีและการนบั จงั หวะ มีทกั ษะพน้ื ฐานลลี าศใน จงั หวะบกี นิ จงั หวะชา่ ชา่ ช่า จงั หวะรุมบา้ และจังหวะไจว์ กล้าแสดงออกดว้ ยความมั่นใจ ปฏบิ ัติตนในการเปน็ ผูน้ า ผตู้ ามที่ดี ตามมาตรฐานสากล โดยใชก้ ระบวนการกล่มุ การสบื คน้ ขอ้ มูลสารวจ การอภปิ ราย กระบวนการฝึกปฏิบตั เิ พื่อใหเ้ กิดความร้คู วาม เข้าใจ สามารถนาเสนอสื่อสารสิง่ ท่เี รียนรู้ มคี วามสามารถในการตัดสินใจ เพื่อให้มีความรู้ความเข้าใจ เห็นคุณค่าของการนาหลักการไปใช้เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของตนเองและ ครอบครัวในชวี ติ ประจาวนั มีความ ซ่อื สัตย์ สจุ ริต มวี นิ ยั ใฝ่เรียนรู้ อยู่อยา่ งพอเพยี ง มงุ่ เนน้ ในการทางาน รกั ความเป็น ไทยและมีจติ สาธารณะ เพือ่ ให้ผู้เรยี นมีความรคู้ วามสามารถตามผลการเรียนร้ตู อ่ ไปน้ี 1. บอกประวัติความเป็นมา กฎ ระเบียบและมารยาทของการลลี าศได้ 2. ลีลาศรว่ มกับผู้อน่ื ในสถานทีอ่ ย่างเหมาะสมมคี วามเป็นระเบยี บและมมี ารยาทในการลีลาศ 3. มีทักษะพ้ืนฐานในการลลี าศที่ถกู ตอ้ งเหมาะสมและสวยงาม 4. ลลี าศในจงั หวะต่างๆ ได้อย่างมที ักษะถกู ตอ้ งและสวยงาม 5. นากิจกรรมกิจกรรมลีลาศไปประยกุ ต์ใช้ในการออกกาลงั กาย กล้าแสดงออก มารยาทในการเขา้ สงั คม และ การเปน็ ผนู้ า ผตู้ ามที่ดี รวมทัง้ หมด 5 ผลกำรเรียนรู้
ห ลั ก สู ต ร ส ถ า น ศึ ก ษ า | 509 คำอธิบำยรำยวิชำ พ 30202 พลศึกษา( วอลเลยบ์ อล) กลุ่มสาระการเรยี นร้สู ขุ ศึกษาและพลศึกษา ชนั้ มธั ยมศึกษาปที ี่ 4-6 ภาคเรยี นที่ 1-2 เวลา 20 ชั่วโมง จานวน 0.5 หนว่ ยการเรยี น ศกึ ษาประวตั ิความเป็นมาของกฬี าวอลเลย์บอล และมีทักษะในการเลน่ กฬี าวอลเลย์บอล บอกกฎ กติกา กลวธิ กี ารเลน่ และการแข่งขนั กฬี าวอลเลยบ์ อล มีวนิ ัย ปฏิบตั ิตามกฎ กติกา และขอ้ ตกลงในการเล่นกีฬา วางแผนการ รกุ และการปอ้ งกนั ในการเล่นกฬี าอยา่ งเหมาะสมกบั ทมี มมี ารยาทในการดู การเลน่ การแข่งขนั มนี า้ ใจเปน็ นักกฬี า และนาผลการปฏบิ ัติในการเลน่ กีฬามาสรุปเป็นวิธที เ่ี หมาะสมกับตนเองด้วยความมุ่งมน่ั ตามมาตรฐานสากล โดยใช้กระบวนการกลุ่ม การสืบค้นข้อมูล กระบวนการสาธิต กระบวนการฝึกปฏิบัติเพ่ือให้เกดิ ความรู้ ความเขา้ ใจ มสี ามารถความสามารถในการตัดสินใจ เพื่อให้มีความรู้ความเข้าใจ เห็นคุณค่าของการนาหลักการไปใช้เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของตนเองและ ครอบครวั ในชวี ิตประจาวันมีความ ซอ่ื สัตย์ สุจรติ มวี ินัย ใฝ่เรียนรู้ อยูอ่ ย่างพอเพยี ง ม่งุ เนน้ ในการทางาน รกั ความเป็น ไทยและมจี ติ สาธารณะ เพอื่ ใหผ้ ้เู รียนมคี วามรคู้ วามสามารถตามผลการเรียนรู้ตอ่ ไปน้ี 1. รู้และเขา้ ใจการทดสอบสมรรถภาพ (ก่อน-หลังเรยี น) 2. บอกประวัตคิ วามเปน็ มากีฬาวอลเลยบ์ อลได้ 3. การบริหารกายสาหรบั กีฬาวอลเลยบ์ อล 4. รแู้ ละเขา้ ใจทักษะการเคลอื่ นไหวเบอื้ งต้นและการสร้างความคุน้ เคยกับลูกวอลเลย์บอล 5. ปฏิบตั ิทักษะการเล่นลกู สองมือลา่ ง (อนั เดอร)์ ไดถ้ ูกตอ้ ง 6. ปฏิบตั ิทักษะการเลน่ ลูกสองมือบน (เซต)ได้ถกู ตอ้ ง 7. ปฏิบตั ิทักษะการเสิรฟ์ ลกู วอลเลย์บอลไดถ้ ูกต้อง 8. ปฏิบัตทิ ักษะการการตบและการสกัดกัน้ ไดถ้ กู ต้อง 9. ร้แู ละเข้าใจทักษะการเลน่ ทีมเป็นฝ่ายรุกและทักษะการเล่นทีมเปน็ ฝ่ายรับ 10. รู้และเข้าใจกติกาการแข่งขนั กฬี าวอลเลยบ์ อล รวมทง้ั หมด 10 ผลการเรยี นรู้
ห ลั ก สู ต ร ส ถ า น ศึ ก ษ า | 510 พ 30203 เปตอง คำอธบิ ำยรำยวชิ ำเพม่ิ เติม ช้ันมัธยมศกึ ษาปีท่ี 4-6 กลุม่ สาระการเรียนรู้สขุ ศึกษาและพลศกึ ษา ภาคเรียนที่ 1-2 เวลา 20 ชั่วโมง จานวน 0.5 หน่วยการเรยี น ศกึ ษาประวตั ิความเป็นมา ประโยชน์ คุณคา่ มารยาท และความรูท้ ว่ั ไปของกฬี าเปตองมที ักษะ การเคลื่อนไหว การบรหิ าร การเลน่ เกม ทักษะการเล่นเปตอง หลักการวาง หลกั การตี การเลน่ เป็นทมี ระเบียบข้อบังคบั กติกาที่ควร ทราบ คาศัพท์เฉพาะที่ใช้ในการเลน่ กฬี าเปตองตดั สินเปตอง และการทดสอบสมรรถภาพทางกายทั้ง 8 ประการ การ คิดวเิ คราะห์ เขียนบทสรุปและนาเสนอบริการแก่ผู้อื่น เพือ่ นาไปปฏบิ ัติตามมาตรฐานสากล โดยการนากระบวนการกลุ่ม การมีส่วนรว่ มการสาธิต การปฏิบตั จิ รงิ เพอ่ื ให้เกิดความรูค้ วามเขา้ ใจมีทกั ษะการ ชานาญสามารถปฏิบัติตามกฎกตกิ า มารยาท สิทธิ หลกั ความปลอดภัย ในการเขา้ รว่ มกิจกรรม การแขง่ ขนั กฬี าเปตอง มีมารยาทในการชม การแข่งขนั เปตองและแขง่ ขันกฬี าเปตอง ดว้ ยความมนี ้าใจนกั กีฬา ร้แู พ้ รู้ชนะ รู้อภัย เหน็ คุณค่าของการออกกาลงั กาย นาความรู้ ความเขา้ ใจ ในการเกิดประโยชน์ในชวี ติ ประจาวัน มคี ุณธรรม กิจกรรม คา่ นิยมที่เหมาะสมกับตนเองและนาไปปฏิบัตไิ ดท้ ุกโอกาสจนเกิดเป็นบุคลกิ ภาพทีด่ ี เพือ่ ใหผ้ เู้ รยี นมีความรู้ความสามารถตามผลการเรียนรตู้ ่อไปน้ี 1. มีความร้เู กยี่ วกับประวัติของกฬี าเปตอง 2. ปฏิบตั ทิ ักษะต่างๆของการเลน่ กีฬาเปตองไดอ้ ย่างถูกต้อง 3. นาทักษะไปใชใ้ นการเล่นทมี และแขง่ ขันได้ 4. นากีฬาเปตองไปใช้ในชีวิตประจาวันได้ 5. เขยี นสรุปการเรียนรู้ได้อยา่ งสร้างสรรค์ 6. จดั ทาโครงงานได้อย่างถกู ตอ้ งตามหลกั สากล 7. นาเสนอผลงานในรูปแบบท่เี ป็นสากลได้ รวมท้งั หมด 7 ผลกำรเรียนรู้
ห ลั ก สู ต ร ส ถ า น ศึ ก ษ า | 511 คำอธิบำยรำยวชิ ำเพิ่มเติม พ 30204 พลศึกษา( กระบี่) กลุ่มสาระการเรียนรสู้ ุขศึกษาและพลศกึ ษา ช้นั มธั ยมศึกษาปีท่ี 4-6 ภาคเรียนที่ 1-2 เวลา 20 ช่วั โมง จานวน 0.5 หน่วยการเรยี น ศกึ ษาประวัติความเปน็ มา ประโยชน์ คุณคา่ มารยาทของการเล่นกระบ่กี ระบอง และให้มีส่วนร่วมปฏบิ ัติจริง ในการบรหิ ารการออกกาลงั กายด้วยกจิ กรรมกีฬากระบ่ี ทักษะการถวายบงั คม การข้ันพรมน่ัง พรมยืน การราไมร้ า 12 ทา่ ทักษะไม้ตีทา่ ต่าง ๆ อย่างถูกตอ้ งปลอดภยั และสนุกสนาม โดยใชก้ ระบวนการกลมุ่ การสืบค้นขอ้ มูล กระบวนการสาธติ กระบวนการฝึกปฏิบตั ิเพื่อให้เกดิ ความรู้ความ เข้าใจ มสี ามารถความสามารถในการตดั สนิ ใจ เพื่อให้มีความรู้ความเข้าใจ เห็นคุณค่าของการนาหลักการไปใช้เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของตนเองและ ครอบครวั ในชีวติ ประจาวันมีความ ซ่อื สตั ย์ สุจริต มีวนิ ยั ใฝเ่ รยี นรู้ อย่อู ยา่ งพอเพียง มงุ่ เนน้ ในการทางาน รักความเป็น ไทยและมีจิตสาธารณะ เพอื่ ใหผ้ ูเ้ รียนมคี วามรู้ความสามารถตามผลการเรียนรู้ตอ่ ไปนี้ 1. มีความรู้เก่ยี วกับประวัตขิ องกฬี ากระบ่กี ระบองก่อน - หลงั เรียน 2. สามารถปฏิบตั ิทักษะการราถวายบังคมได้อย่างถูกต้อง 3. สามารถปฏบิ ตั ิทักษะการราพรมน่ังได้ 4. สามารถปฏิบัติทกั ษะการราพรมยืนได้ 5. สามารถปฏิบัติทกั ษะการราไมร้ า 12 ไม้ได้ 6. สามารถปฏิบัติทักษะการตไี ม้ 6 ไม้และการตไี ม้ลูกผสมได้ 7. สามารถปฏิบัติทักษะการกลับหัวสนามและเดินแปลงลดลอ่ ได้ 8. สามารถปฏิบตั ิทกั ษะการตอ่ สู้ การแข่งขนั และระเบียบกตกิ าของกระบไ่ี ด้ รวมทง้ั หมด 8 ผลกำรเรยี นรู้
ห ลั ก สู ต ร ส ถ า น ศึ ก ษ า | 512 คำอธบิ ำยรำยวิชำ พ 30205 พลศึกษา( กิจกรรมเข้าจังหวะ) กลมุ่ สาระการเรยี นรูส้ ขุ ศกึ ษาและพลศกึ ษา ชน้ั มัธยมศกึ ษาปีท่ี 4-6 ภาคเรียนที่ 1-2 เวลา 20 ชว่ั โมง จานวน 0.5 หนว่ ยการเรยี นรู้ มีความรู้ ความเข้าใจ เก่ียวกับความเป็นมา และคุณค่าของกิจกรรมเข้าจังหวะ เพิ่มพูนผลการปฏิบัติตน เกี่ยวกบั ทกั ษะกลไกและทักษะการเคล่อื นไหวส่วนต่าง ๆ ของรา่ งกายให้เขา้ กับจงั หวะ ทักษะการเคล่ือนไหวแบบต่างๆ ระเบยี บวฒั นธรรม และมารยาทในการเข้ารว่ มกิจกรรมเข้าจงั หวะประเภทนั้นๆ การนากิจกรรมและประสบการณ์จาก การรว่ มกิจกรรมนันทนาการไปปรับใชใ้ นชีวิตประจาวนั โดยใช้กระบวนการกลุ่มการปฏิบัติ การแสดง การสาธิต การแสวงหาแนวทาง การคิดวิเคราะห์ การอธิบาย การสืบค้น และ การแก้ปญั หา เพ่ิมพูนการปฏิบตั ิตนเก่ียวกับทกั ษะกลไก ทักษะการเคลือ่ นไหว มาใช้ใหเ้ หมาะสมกับตนเอง ในการ ร่วม กิจกรรมนันทนาการ พรอ้ มนาหลกั การไปปรบั ใชใ้ นชวี ิตประจาวนั อย่างเปน็ ระบบ มีความซอื่ สัตย์ สุจริต มีวินยั ใฝ่ เรยี นรู้ มงุ่ ม่ันในการทางาน และมจี ิตสาธารณะ เพอื่ ให้ผู้เรยี นมีความรู้ความสามารถตามผลการเรียนรูต้ อ่ ไปนี้ 1. บอกประวัตคิ วามเปน็ มาของกิจกรรมเข้าจังหะของไทยและของตา่ งประเทศได้ 2 .ปฏิบตั ิทกั ษะการเคลอ่ื นไหวสว่ นตา่ งๆของรา่ งกายใหเ้ ขา้ กับจังหวะได้ 3. ฟงั จังหวะและเคาะจงั หวะตามดนตรีไดถ้ กู ตอ้ ง ไมเ่ ร็วหรือช้าเกนิ ไป 4. จาแนกจังหวะเสยี งเพลงและเคลือ่ นไหวรา่ งกายในทา่ งา่ ย ๆ ให้เขา้ กับจังหวะได้ 5 อธบิ ายขั้นตอนการปฏบิ ัติของทักษะการเคล่ือนไหวเบ้ืองตน้ ของการออกกาลังกายของกจิ กรรมเข้าจงั หวะได้ 6. เต้นราพืน้ เมอื งของประเทศไทยได้ 2 กิจกรรม 7. เต้นราพื้นเมืองของต่างประเทศได้ 2 กิจกรรม 8. บอกประโยชนแ์ ละความปลอดภัยในการออกกาลังกายได้ 9. บอกจังหวะดนตรีและเลอื กจงั หวะดนตรีทใี่ ชป้ ระกอบการออกกาลงั กายแบบกิจกรรมเข้าจงั หวะได้ 10. นากิจกรรมเขา้ จังหวะแบบไทยและกจิ กรรมเขา้ จงั หวะแบบต่างชาตมิ าผสมผสานและเตน้ ได้ 11. เพ่มิ พนู ทักษะการเคล่อื นไหวร่างกายและนาเทคนิคไปใช้ในชวี ิตประจาวนั ได้อย่างเปน็ ระบบ รวมทัง้ หมด 11 ผลกำรเรียนรู้
ห ลั ก สู ต ร ส ถ า น ศึ ก ษ า | 513 คำอธบิ ำยรำยวชิ ำเพิม่ เตมิ พ 30206 พลศกึ ษา( แฮนด์บอล) กล่มุ สาระการเรียนรสู้ ุขศกึ ษาและพลศกึ ษา ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 4-6 ภาคเรียนท่ี 1-2 เวลา 20 ชวั่ โมง จานวน 0.5 หนว่ ยการเรียนรู้ ศกึ ษาประวัตคิ วามเปน็ มา ประโยชน์ คณุ คา่ มารยาทของการเลน่ กฬี าแฮนดบ์ อล มที ักษะการเคลือ่ นไหวแบบ ต่าง ๆ มที ักษะการเลน่ กฬี าแฮนดบ์ อล การแขง่ ขันและรกู้ ติกา เห็นคณุ คา่ ของการออกกาลังกาย นาความรู้ ความ เข้าใจ ไปใช้ให้เกดิ ประโยชนใ์ นชวี ิตประจาวันตามมาตรฐานสากล โดยใชก้ ระบวนการกลุม่ การสบื คน้ ขอ้ มูล กระบวนการสาธติ กระบวนการฝึกปฏิบัติเพอ่ื ใหเ้ กิดความร้คู วาม เข้าใจ มสี ามารถความสามารถในการตัดสนิ ใจ เพื่อให้มีความรู้ความเข้าใจ เห็นคุณค่าของการนาหลักการไปใช้เพ่ือพัฒนาคุณภาพชีวิตของตนเองและ ครอบครัวในชวี ิตประจาวนั มีความ ซ่อื สตั ย์ สจุ รติ มวี ินยั ใฝ่เรยี นรู้ อย่อู ย่างพอเพยี ง มุ่งเนน้ ในการทางาน รกั ความเป็น ไทยและมจี ติ สาธารณะ เพ่อื ใหผ้ เู้ รยี นมคี วามร้คู วามสามารถตามผลการเรียนรู้ตอ่ ไปนี้ 1. มคี วามรู้เก่ยี วกับประวัติของกฬี าแฮนด์บอล ก่อน-หลังเรียน 2. สามารถปฏิบัติทักษะการอบอนุ่ รา่ งกายก่อน-หลงั การเล่นกีฬาแฮนด์บอลและการทดสอบสมรรถภาพทางกาย 3. สามารถปฏบิ ตั ิทักษะการรบั -ส่งบอลแบบต่าง ๆ ได้ 4. สามารถปฏบิ ตั ิทกั ษะการเล้ยี งลกู บอลแบบต่าง ๆ ได้ 5. สามารถปฏิบัติทักษะการยงิ ประตู และผู้รกั ษาประตูแบบตา่ ง ๆ ได้ 6. สามารถปฏิบัติทักษะการเปน็ ผูเ้ ล่น ฝ่ายรุกและฝา่ ยรบั ได้ 7. สามารถปฏิบตั ิทกั ษะการเล่นเป็นทมี และบอกกติกาการแข่งขันได้ รวมท้งั หมด 7 ผลกำรเรียนรู้
ห ลั ก สู ต ร ส ถ า น ศึ ก ษ า | 514 คำอธิบำยรำยวชิ ำเพ่มิ เติม พ 30207 พลศกึ ษา( ฟตุ บอล) กลุ่มสาระการเรยี นรสู้ ุขศกึ ษาและพลศึกษา ช้นั มธั ยมศึกษาปที ี่ 4-6 ภาคเรยี นท่ี 1-2 เวลา 20 ชวั่ โมง จานวน 0.5 หนว่ ยการเรียนรู้ ศึกษาประวัติ ประโยชน์และกตกิ าของกฬี าฟตุ บอล วิเคราะหค์ วามคิดรวบยอดเกยี่ วกับการเคล่ือนไหว รูปแบบต่างๆ ไดอ้ ย่างเหมาะสม และใชค้ วามสามารถของตนเพมิ่ ศักยภาพของทีมในการเล่น ปฏิบัติเกี่ยวกบั สทิ ธิ กฎ กติกา กลวิธีการเล่นแบบตา่ งๆ ในระหวา่ งการแขง่ ขนั การเก็บรักษาอุปกรณ์ มารยาทการเลน่ กฬี า ปฏิบตั ิทักษะตา่ งๆ ในการเลน่ ฟุตบอลได้อยา่ งถกู ต้อง เป็นระบบตามมาตรฐานสากล โดยใช้กระบวนการกลุ่ม การสืบค้นข้อมูล กระบวนการสาธติ กระบวนการฝึกปฏบิ ัติเพ่ือให้เกิดความรู้ ความเข้าใจ สามารถ เขียน สรุปและสอ่ื สาร เพ่ือให้มีความรู้ความเข้าใจ เห็นคุณค่าของการนาหลักการไปใช้เพ่ือพัฒนาคุณภาพชีวิตของตนเองและ ครอบครัวในชีวิตประจาวันมีความ ซ่ือสัตย์ สุจริต มีวินัย ใฝ่เรียนรู้ มุ่งเน้นในการทางาน รักความเป็นไทยและมีจิต สาธารณะ เพ่อื ใหผ้ เู้ รยี นมคี วามรคู้ วามสามารถตามผลการเรียนรู้ตอ่ ไปนี้ 1. มีความรู้ความเข้าใจประวัติความเป็นมาในกีฬาฟุตบอล 2. อธบิ ายความสาคญั ของการออกกาลังกายได้ 3. ปฏิบตั ิทกั ษะการปฏิบตั ิรา่ งกายและการเคลอ่ื นไหวแบบต่างๆ ได้ 4. ปฏิบัตทิ กั ษะการสรา้ งความคุน้ เคยกับลกู บอลดว้ ยมือ และเทา้ ได้ 5. ปฏิบัตทิ ักษะการครอบครองลกู บอลด้วยเท้าได้ 6. ปฏิบตั ิทักษะการสง่ ลกู บอลแบบต่าง ๆ ได้ 7. ปฏิบตั ทิ กั ษะการเลอื กลกู บอลแบบตา่ งๆ ได้ 8. ปฏิบัตทิ กั ษะการยงิ ประตแู บบตา่ งๆ ได้ 9. ปฏิบตั ทิ กั ษะการเปน็ ฝ่ายรุก และรับได้ 10.ปฏบิ ัตทิ กั ษะในการเล่นในตาแหน่งต่างๆ ได้ 11.ปฏบิ ัติทักษะการเล่นเป็นทีมได้ 12.ปฏบิ ัติทักษะการเลน่ เป็นระบบได้ 13.มีเจตคติและคุณลักษณะท่ีดใี นการเรยี นวิชา พลศกึ ษา รวมท้งั หมด 13 ผลกำรเรยี นรู้
ห ลั ก สู ต ร ส ถ า น ศึ ก ษ า | 515 คำอธิบำยรำยวิชำเพมิ่ เติม พ 30208 พลศกึ ษา( แชร์บอล) กลุ่มสาระการเรียนรู้สขุ ศึกษาและพลศึกษา ชนั้ มธั ยมศึกษาปีที่ 4-6 ภาคเรยี นที่ 1-2 เวลา 20 ช่วั โมง จานวน 0.5 หนว่ ยการเรยี นรู้ ศกึ ษาประวัตคิ วามเป็นมา ประโยชน์ คณุ ค่า มารยาทของการเลน่ กีฬาแชรบ์ อล มีทกั ษะการเคล่อื นไหวแบบ ตา่ ง ๆ มีทักษะการเล่นกฬี าแชรบ์ อล รวมทั้งการแขง่ ขนั และรู้กฎ กตกิ า เห็นคุณคา่ ของการออกกาลงั กาย นาความรู้ ความเข้าใจ ไปใชใ้ ห้เกดิ ประโยชนใ์ นชีวิตประจาวัน โดยใช้กระบวนการกลมุ่ การสืบค้นขอ้ มูล กระบวนการสาธิต กระบวนการฝึกปฏบิ ตั ิเพอ่ื ให้เกิดความรู้ความ เขา้ ใจ มีสามารถความสามารถในการตัดสินใจ เพื่อให้มีความรู้ความเข้าใจ เห็นคุณค่าของการนาหลักการไปใช้เพ่ือพัฒนาคุณภาพชีวิตของตนเองและ ครอบครัวในชวี ิตประจาวันมีความ ซอื่ สัตย์ สจุ รติ มีวนิ ัย ใฝ่เรียนรู้ อยอู่ ย่างพอเพยี ง ม่งุ เน้นในการทางาน รกั ความเป็น ไทยและมีจติ สาธารณะ เพอ่ื ให้ผู้เรยี นมีความรู้ความสามารถตามผลการเรียนร้ตู ่อไปน้ี 1. มคี วามรูเ้ ก่ยี วกบั ประวัติของกีฬาแชรบ์ อล กอ่ น-หลงั เรยี น 2. สามารถปฏิบตั ิทักษะการอบอุ่นรา่ งกายกอ่ น-หลงั การเลน่ กฬี าแชร์บอลและการทดสอบสมรรถภาพทาง กาย 3. สามารถปฏบิ ตั ิทักษะการรับ-ส่งบอลแบบตา่ ง ๆ ได้ 4. สามารถปฏิบตั ิทกั ษะการยงิ ประตู และถอื ตะกรา้ แบบตา่ ง ๆ ได้ 5. สามารถปฏบิ ัติทกั ษะการเปน็ ผู้เลน่ ฝ่ายรุกและฝา่ ยรบั ได้ 6. สามารถปฏบิ ัติทกั ษะการเล่นเปน็ ทีม และบอกกตกิ าการแข่งขันได้ รวมท้งั หมด 6 ผลกำรเรยี นรู้
ห ลั ก สู ต ร ส ถ า น ศึ ก ษ า | 516 คำอธิบำยรำยวิชำเพม่ิ เติม พ 30209 พลศกึ ษา( กรฑี า) กลมุ่ สาระการเรยี นรสู้ ขุ ศกึ ษาและพลศกึ ษา ช้นั มัธยมศึกษาปีท่ี 4-6 ภาคเรียนท่ี 1-2 เวลา 20 ชว่ั โมง จานวน 0.5 หนว่ ยการเรยี นรู้ ศึกษาประวัตคิ วามเป็นมา ประโยชน์ คุณค่า มารยาทของการเรียนกรีฑามีทักษะการเคลอื่ นไหวแบบต่าง ๆ มี สมรรถภาพทางกายดี มีทกั ษะกลไก เปน็ พ้ืนฐานในการเล่นกรีฑา มที ักษะการเลน่ กรีฑา การแข่งขนั และรูก้ ฎ กตกิ า ตลอดเหน็ คุณค่าของการออกกาลงั กาย นาความรู้ความเขา้ ใจไปใชใ้ ห้เกิดประโยชนใ์ นชวี ติ ประจาวัน โดยใชก้ ระบวนการกลมุ่ การสบื คน้ ข้อมูล กระบวนการสาธิต กระบวนการฝึกปฏิบตั เิ พอ่ื ให้เกิดความรคู้ วาม เขา้ ใจ มสี ามารถความสามารถในการตัดสินใจ เพ่ือให้มีความรู้ความเข้าใจ เห็นคุณค่าของการนาหลักการไปใช้เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของตนเองและ ครอบครัวในชวี ิตประจาวันมีความ ซื่อสตั ย์ สุจรติ มวี นิ ัย ใฝ่เรยี นรู้ อยู่อยา่ งพอเพยี ง มงุ่ เน้นในการทางาน รกั ความเป็น ไทยและมีจิตสาธารณะ เพอื่ ให้ผู้เรียนมคี วามรคู้ วามสามารถตามผลการเรียนรตู้ อ่ ไปน้ี 1. มคี วามรู้เกย่ี วกบั ประวัตขิ องกรฑี า กอ่ น-หลังเรยี น 2. สามารถปฏิบตั ิทักษะการอบอ่นุ ร่างกาย กอ่ น-หลงั การเลน่ กรฑี าและการทดสอบสมรรถภาพทางกาย 3. สามารถปฏบิ ตั ิทักษะ การวง่ิ ระยะสน้ั การวงิ่ ผลดั ได้ 4. สามารถปฏิบตั ิทักษะ การแขง่ ขนั และบอกกตกิ าการแข่งขันได้ รวมทั้งหมด 4 ผลกำรเรยี นรู้
ห ลั ก สู ต ร ส ถ า น ศึ ก ษ า | 517 คำอธิบำยรำยวิชำเพิม่ เติม พ 30210 พลศึกษา(บาสเกตบอล) กลุ่มสาระการเรยี นรสู้ ขุ ศึกษาและพลศกึ ษา ชน้ั มัธยมศึกษาปที ่ี 4-6 ภาคเรียนท่ี 1-2 เวลา 20 ช่วั โมง จานวน 0.5 หนว่ ยการเรยี นรู้ ศกึ ษาประวตั คิ วามเป็นมา ประโยชน์ คณุ ค่า มารยาทของการเลน่ กีฬาบาสเกตบอล มีทักษะการเคลอ่ื นไหว แบบตา่ ง ๆ มีทักษะการเล่นกฬี าบาสเกตบอล การแขง่ ขนั และรูก้ ตกิ า เห็นคณุ ค่าของการออกกาลังกาย นาความรู้ ความเข้าใจ ไปใช้ให้เกดิ ประโยชนใ์ นชีวิตประจาวันตามมาตรฐานสากล โดยใชก้ ระบวนการกลุม่ การสบื คน้ ขอ้ มูล กระบวนการสาธติ กระบวนการฝึกปฏิบตั ิเพ่ือให้เกิดความรู้ความ เข้าใจ มีสามารถความสามารถในการตัดสินใจ เพื่อให้มีความรู้ความเข้าใจ เห็นคุณค่าของการนาหลักการไปใช้เพ่ือพัฒนาคุณภาพชีวิตของตนเองและ ครอบครวั ในชีวติ ประจาวนั มีความ ซอ่ื สัตย์ สจุ ริต มวี นิ ยั ใฝเ่ รยี นรู้ อยู่อยา่ งพอเพยี ง มงุ่ เนน้ ในการทางาน รักความเป็น ไทยและมจี ิตสาธารณะ เพอ่ื ให้ผู้เรียนมคี วามรู้ความสามารถตามผลการเรียนรูต้ อ่ ไปนี้ 1. มีความรู้เกี่ยวกับประวัตขิ องกีฬาบาสเกตบอล ก่อน-หลงั เรยี น 2. สามารถปฏิบตั ิทักษะการอบอ่นุ รา่ งกายกอ่ น-หลังการเลน่ กฬี าบาสเกตบอลและการทดสอบสมรรถภาพทางกาย 3. สามารถปฏิบตั ิทกั ษะการรบั -สง่ บอลแบบต่าง ๆ ได้ 4. สามารถปฏบิ ัติทกั ษะการเลยี้ งลูกบอลแบบตา่ ง ๆ ได้ 5. สามารถปฏิบตั ิทกั ษะการยงิ ประตู ได้ 6. สามารถปฏิบตั ิทักษะการเป็นผู้เลน่ ฝา่ ยรุกและฝา่ ยรับได้ 7. สามารถปฏิบตั ิทักษะการเล่นเปน็ ทีม และบอกกตกิ าการแข่งขันได้ รวมทัง้ หมด 7 ผลกำรเรยี นรู้
ห ลั ก สู ต ร ส ถ า น ศึ ก ษ า | 518 คำอธิบำยรำยวิชำเพม่ิ เติม พ 30211 พลศึกษา(แบดมินตนั ) กลุ่มสาระการเรียนรสู้ ขุ ศกึ ษาและพลศกึ ษา ชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี 4-6 ภาคเรียนที่ 1-2 เวลา 20 ชวั่ โมง จานวน 0.5 หน่วยการเรียนรู้ ศกึ ษาให้มีความรู้ ความเขา้ ใจในการเลน่ กฬี าแบดมินตนั เรือ่ งความรู้ทัว่ ไปเกี่ยวกบั การเลน่ กีฬา แบดมินตนั หลักการ รปู แบบการเคลอ่ื นไหวแบบต่างๆตลอดจนการนาหลกั การทางวิทยาศาสตร์การเคลอ่ื นไหวไปใชใ้ น การออกกาลังกายและเล่นกีฬาแบดมนิ ตนั ตามกฎกติกา ความปลอดภยั กลวธิ กี ารเลน่ และการแข่งขัน ยอมรับและเห็นคุณคา่ ของการออกกาลังกายและเลน่ กฬี าแบดมนิ ตัน โดยปฏบิ ัติตนตามสทิ ธิ กฎ กติกา ความรับผดิ ชอบตามบทบาทและหน้าทท่ี ่ีได้รบั มอบหมาย ให้ความร่วมมอื เป็นผ้มู นี ้าใจนกั กฬี า ชืน่ ชมสนุ ทรยี ภาพใน การเลน่ การดู และการแข่งขันเปน็ ประจาสม่าเสมอ มคี วามรู้ ความเขา้ ใจ รู้จักวางแผน เลอื กปฏิบัติปรบั ปรุงแกไ้ ข และพฒั นาสมรรถภาพทางกาย สมรรถภาพทางจิต และสมรรถภาพทางกลไก โดยใช้กฬี าแบดมินตนั เป็นสือ่ เพอ่ื ให้เปน็ ผูท้ ี่มีสมรรถภาพทางกายและทาง จิตทดี่ ีและนาไปประยกุ ต์ใช้ในชวิ ิตประจาวนั ได้ เพือ่ ให้ผ้เู รยี นมคี วามรคู้ วามสามารถตามผลการเรียนร้ตู อ่ ไปน้ี ผลการเรียนรู้ 1 รู้ประวัติ ประโยชน์กฎ กติกา มารยาท และการดแู ลรักษาอุปกรณ์ในกฬี าแบดมนิ ตัน 2. ปฏบิ ัตกิ ารบรหิ ารร่างกาย และการเคลื่อนไหวร่างกายเบอื้ งต้นแบบต่างๆได้ 3. ปฏิบัติทักษะการจับไม้ การยนื การถอื ลกู การใช้น้ิว-ขอ้ มือ และการเคล่อื นทีเ่ ท้าในการเล่นแบดมินตนั ได้ 4. ปฏิบัติทักษะในการส่งลกู การตีลกู หน้ามอื และหลังมอื ได้ 5 ปฏิบตั ิทักษะการเล่นลูกโด่ง ลูกหยอด ลกู ดาด และลกู ตบได้ 6 ปฏิบตั กิ ารเลน่ เป็นฝา่ ยรุกและรับได้ 7 ปฏิบตั ิการแข่งขนั ประเภทเดีย่ วและคูไ่ ด้ 8 มีเจตคตทิ ด่ี ีในการเรยี นวชิ าพลศกึ ษา รวมทั้งหมด 8 ผลกำรเรียนรู้
ห ลั ก สู ต ร ส ถ า น ศึ ก ษ า | 519 คำอธิบำยรำยวชิ ำ เพ่ิมเติม พ 30212 พลศึกษา( แอโรบกิ ) กลมุ่ สาระการเรียนรู้สขุ ศกึ ษาและพลศึกษา ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 4-6 ภาคเรียนท่ี 1-2 เวลา 20 ชัว่ โมง จานวน 0.5 หน่วยการเรียนรู้ มีความรู้ ความเข้าใจ การนาผลการปฏิบัติตนเก่ียวกับทักษะกลไกและทักษะการเคล่ือนไหวในการเล่น กฬี าแบบแอโรบิกและแอโรบิกดานซ์จากแหลง่ ข้อมูลท่ีหลากหลายมาสรุปเป็นวิธีท่ีเหมาะสมของตนเอง เลน่ แอโรบิก รู้ ประสิทธิภาพของรูปแบบการเคลื่อนไหวที่ส่งผลต่อการออกกาลังกายแบบแอโรบิก การนาประสบการณ์จากการร่วม กิจกรรมนันทนาการไปปรับใช้ในชีวิตประจาวัน โดยใช้กระบวนการกลุ่ม การปฏิบัติ การแสดง การสาธิต การแสวงหาแนวทาง การคิดวิเคราะห์ การ อธบิ าย การสบื ค้น และ การแก้ปัญหา นาผลการปฏบิ ัตติ นเกีย่ วกับทักษะกลไก ทักษะการเคลอื่ นไหว มาใชใ้ หเ้ หมาะสมกับตนเอง ในการเลน่ กฬี า แบบแอโรบิก และแอโรบิกดานซ์ ร่วมกจิ กรรมนนั ทนาการ พร้อมนาหลกั การไปปรับใช้ในชีวิตประจาวันอย่างเปน็ ระบบ มคี วามซ่ือสัตย์ สจุ ริต มีวนิ ยั ใฝเ่ รยี นรู้ มุ่งม่นั ในการทางาน และมีจติ สาธารณะ เพือ่ ใหผ้ เู้ รยี นมีความรู้ความสามารถตามผลการเรียนรู้ตอ่ ไปน้ี 1. บอกประวัติความเปน็ มาของการออกกาลังกายแบบแอโรบกิ 2 .อธิบายประโยชน์และองคป์ ระกอบของการออกกาลังแบบแอโรบิกดานซไ์ ด้ 3 .ปฏิบัตกิ ารตรวจนบั ชีพจรและกาหนดชพี จรเป้าหมายในการออกกาลงั กายแบบแอโรบกิ ได้ 4. อธบิ ายขั้นตอนการปฏบิ ตั ขิ องทักษะการเคล่อื นไหวเบ้ืองตน้ ของการออกกาลังกาย แบบแอโรบิกดานซ์ได้ 5. ฝกึ ปฏบิ ัติตามข้ันตอนการอบอนุ่ ร่างกาย การแอโรบกิ และการวอมรด์ าวน์ได้ 6. บอกประโยชน์และความปลอดภัยในการออกกาลังกายได้ 7. บอกจังหวะดนตรีและเลอื กจังหวะดนตรที ใี่ ช้ประกอบการออกกาลังกายแบบแอโรบกิ ดานซไ์ ด้ 8. จาแนกจังหวะดนตรใี นแต่ละช่วงของการออกกาลังการแบบแอโรบิกดานซ์ 9. นาเทคนคิ ในการวางทา่ ทางและทักษะการเคลื่อนไหวพน้ื ฐานของการออกกาลงั กายแบบแอโรบิกดานซ์ไป ประยุกต์ใช้ในชวี ติ ประจาวนั ทงั้ การเปน็ ผู้นาแอโรบิกและผู้ตามการเตน้ แอโรบกิ ดานซ์ในชุมชนได้ รวมทงั้ หมด 9 ผลกำรเรียนรู้
ห ลั ก สู ต ร ส ถ า น ศึ ก ษ า | 520 คำอธบิ ำยรำยวชิ ำเพ่ิมเติม พ 30213 พลศึกษา(ฟตุ ซอล) กลุม่ สาระการเรยี นรู้สุขศกึ ษาและพลศกึ ษา ชน้ั มธั ยมศึกษาปที ี่ 4-6 ภาคเรียนท่ี 1-2 เวลา 20 ชว่ั โมง จานวน 0.5 หนว่ ยการเรียนรู้ ศึกษาประวัติ ประโยชนแ์ ละกติกาของกฬี าฟตุ ซอล อธบิ ายความสาคญั ของการออกกาลังกายและ วิเคราะห์ความคิดรวบยอดเกยี่ วกับการเคลอ่ื นไหวรูปแบบปฏบิ ัติทกั ษะ มีทักษะการสร้างความคุน้ เคย การ ครอบครองและการรบั สง่ ลูกฟุตซอล ปฏิบัตเิ ก่ียวกับสทิ ธิ กฎ กติกา กลวิธีการเล่นแบบตา่ งๆ ในระหวา่ งการแข่งขนั การเกบ็ รกั ษาอุปกรณ์ มารยาทการเล่นกฬี า ปฏิบตั ิทกั ษะตา่ งๆในการเล่นฟตุ ซอลได้อย่างถูกตอ้ ง เป็นระบบตาม มาตรฐานสากล โดยใช้กระบวนการกลุ่ม การสืบค้นข้อมูล กระบวนการสาธติ กระบวนการฝึกปฏบิ ัติเพื่อให้เกิดความรู้ ความเขา้ ใจ สามารถ เขียน สรุปและส่ือสาร เพื่อให้มีความรู้ความเข้าใจ เห็นคุณค่าของการนาหลักการไปใช้เพ่ือพัฒนาคุณภาพชีวิตของตนเองและ ครอบครัวในชีวิตประจาวันมีความ ซื่อสัตย์ สุจริต มีวินัย ใฝ่เรียนรู้ มุ่งเน้นในการทางาน รักความเป็นไทยและมีจิต สาธารณะ เพอ่ื ใหผ้ เู้ รยี นมคี วามรคู้ วามสามารถตามผลการเรียนรตู้ ่อไปน้ี 1. มีความรคู้ วามเข้าใจประวตั คิ วามเป็นมาในกฬี าฟตุ ซอล 2. อธบิ ายความสาคญั ของการออกกาลังกายได้ 3. ปฏิบัติทักษะการปฏบิ ตั ริ ่างกายและการเคลอ่ื นไหวแบบตา่ งๆ ได้ 4. ปฏิบตั ทิ กั ษะการสรา้ งความค้นุ เคยกับลกู ฟตุ ซอลดว้ ยมือ และเท้าได้ 5. ปฏิบตั ิทักษะการครอบครองลูกฟุตซอลด้วยเท้าได้ 6. ปฏิบัติทกั ษะการส่งลกู ฟุตซอลแบบต่าง ๆ ได้ 7. ปฏิบตั ทิ ักษะการเลยี้ งลูกฟตุ ซอลแบบต่างๆ ได้ 8. ปฏิบตั ทิ ักษะการยงิ ประตูแบบตา่ งๆ ได้ 9. ปฏิบัตทิ กั ษะการเปน็ ฝ่ายรกุ และรับได้ 10.ปฏิบัตทิ ักษะการเล่นเปน็ ทมี ได้ รวมท้งั หมด 10 ผลกำรเรียนรู้
ห ลั ก สู ต ร ส ถ า น ศึ ก ษ า | 521 คำอธบิ ำยรำยวิชำเพิม่ เตมิ พ 30214 พลศกึ ษา(มวยไทย) กล่มุ สาระการเรยี นรสู้ ุขศึกษาและพลศึกษา ชั้นมธั ยมศกึ ษาปที ี่ 4-6 ภาคเรียนท่ี 1-2 เวลา 20 ชั่วโมง จานวน 0.5 หน่วยการเรียนรู้ ศกึ ษาหลงั การเคลอื่ นไหว รปู แบบการเคล่อื นไหว ทกั ษะ กฎ กติกา มารยาท เกี่ยวกับศิลปะมวยไทย เพอ่ื ออก กาลังกายและสร้างเสรมิ สมรรถภาพทางกาย สามารถใช้เปน็ สอ่ื ในการออกกาลงั กายในชวี ติ ประจาวันไดว้ เิ คราะหห์ ลกั วิทยาศาสตร์การเคลื่อนไหวและรูปแบบการเคลือ่ นไหนนาไปประยกุ ตใ์ ช้ในศิลปม์ วยไทย อธบิ ายและปฏิบตั ิเก่ียวกับ สทิ ธิ กฎ กติกา กลวธิ ีตา่ งๆ ในระหวา่ งการเล่น การแข่งขนั กฬี ากับผอู้ นื่ และนาไปสรปุ เปน็ แนวปฏิบัตแิ ละใช้ใน ชีวิตประจาวัน แสดงออกถึงการมมี ารยาทในการดู การเลน่ การแขง่ ขนั กฬี าด้วยความมีนา้ ใจนักกฬี า จนเปน็ ผทู้ ีม่ ี บุคลกิ ภาพที่ดี สร้างเสริมสมรรถภาพทางกายเพ่ือสขุ ภาพของตนเอง นาประสบการณแ์ ละความสามารถของตนเองเพ่อื เพ่ิมศักยภาพของทีม คานงึ ถงึ ผลที่เกิดตอ่ ผอู้ ืน่ และสงั คม เพือ่ ไหม้ ีความรคู้ วามเขา้ ใจท่ีถูกต้อง ยอมรบั และเห็นคณุ ค่าของการออกกาลังกายและการเขา้ ร่วมกิจกรรมกีฬา ประเภทศิลปะมวยไทย ชื่นชมในสุนทรยี ภาพและแสดงความมนี า้ ใจนักกีฬาของการออกกาลังกายและเลน่ กฬี า นา ประสบการณท์ ่ไี ดร้ บั จากกิจกรรมทางการกฬี าไปใชเ้ ป็นแนวทางในการทางานและดาเนนิ ชวี ติ ประจาวัน เพื่อใหผ้ ู้เรียนมคี วามรูค้ วามสามารถตามผลการเรียนรู้ตอ่ ไปน้ี ๑. วเิ คราะห์หลังวทิ ยาศาสตรก์ ารเคลอ่ื นไหวการนาไปใช้ในศลิ ปะมวยไทย และการสร้างเสรมิ สมรรถภาพทาง กายได้ ๒. วเิ คราะห์รูปแบบการเคลอื่ นไหวและนาไปใช้ในศิลปะมวยไทยและเสรมิ สรา้ งสมรรถภาพทางกายได้ ๓. ประยกุ ตค์ วามคิดรวบยอดจากหลกั การทางวิทยาศาสตร์การเคล่ือนไหวในกจิ กรรมศลิ ปะมวยไทยได้อย่างมี ประสิทธภิ าพ ๔. อธบิ ายเก่ียวกบั สิทธิ กฎ กตกิ า กลวิธีต่างๆ ในกระว่างการเลน่ การแขง่ ขนั กบั ผอู้ ื่นและนาไปสรุปเปน็ แนว ปฏบิ ัตแิ ละใชใ้ นชีวติ ประจาวันอย่างต่อเนือ่ งได้ ๕. แสดงออกถึงการมีมารยาทในการดู การเลน่ การแข่งขนั กฬี าด้วยความมนี ้าใจนกั กฬี า และนาไปใช้ปฏบิ ัติ ทกุ โอกาส จนเปน็ ผ้ทู ี่มีบุคลกิ ภาพทีด่ ี ๖. สรา้ งเสริมสมรรถภาพทางกายเพอื่ สุขภาพของตนเองได้ ๗. นาประสบการณ์และความสามารถของตนเองเพือ่ เพ่ิมศักยภาพของทีม คานงึ ผมที่เกิดตอ่ ผู้อื่นและสังคมได้ ๘. เห็นคณุ ค่าของการออกกาลงั กายและการเขา้ ร่วมกจิ กรรมกฬี าศิลปะมวยไทย ๙. ช่นื ชมในสุนทรยี ภาพและแสดงความมนี า้ ใจนกั กฬี าของการออกกาลงั กายและเล่นกีฬา
ห ลั ก สู ต ร ส ถ า น ศึ ก ษ า | 522 ๑๐. ยอมรับและเห็นคุณคา่ ของการนาประสบการณท์ ี่ไดร้ บั จากกจิ กรรมทางการกีฬาไปใช้เปน็ แนวทางในการ ทางานและดาเนินชีวิตประจาวนั ได้ รวมทั้งหมด 10 ผลกำรเรยี นรู้
ห ลั ก สู ต ร ส ถ า น ศึ ก ษ า | 523 คำอธบิ ำยรำยวิชำเพิม่ เตมิ พ 30215 พลศกึ ษา(ศิลปะป้องกันตวั ) กลุ่มสาระการเรียนรสู้ ุขศกึ ษาและพลศกึ ษา ช้ันมธั ยมศึกษาปที ่ี 4-6 ภาคเรยี นที่ 1-2 เวลา 20 ช่วั โมง จานวน 0.5 หนว่ ยการเรยี นรู้ ศกึ ษาหลักการเคล่อื นไหว รูปแบบการเคล่อื นไหว ทักษะ กฎ กตกิ า มารยาท เกี่ยวกับศิลปะป้องกนั ตวั แบบ ต่างประเทศและในประเทศ เพอื่ ออกกาลังกายและสร้างเสรมิ สมรรถภาพทางกาย สามารถใช้ในชวี ิตประจาวนั ได้ วเิ คราะหห์ ลกั วิทยาศาสตร์การเคลอ่ื นไหวและรปู แบบการเคลอื่ นไหนนาไปประยุกตใ์ ช้ในศิลปม์ วย อธิบายและปฏิบัติ เก่ียวกับสทิ ธิ กฎ กติกา กลวิธีต่างๆ ในระหวา่ งการเล่น การแขง่ ขันกีฬากับผู้อื่นและนาไปสรุปเปน็ แนวปฏบิ ตั แิ ละใช้ใน ชวี ิตประจาวัน แสดงออกถึงการมมี ารยาทในการดู การเล่นการแขง่ ขนั กฬี าด้วยความมีน้าใจนักกีฬา จนเป็นผู้ที่มี บุคลกิ ภาพท่ีดี สร้างเสรมิ สมรรถภาพทางกายเพ่ือสขุ ภาพของตนเอง นาประสบการณแ์ ละความสามารถของตนเองเพื่อ เพ่ิมศักยภาพของทีม คานงึ ถึงผลท่เี กิดตอ่ ผอู้ น่ื และสังคม เพอื่ ไห้มีความรูค้ วามเข้าใจท่ีถูกตอ้ ง ยอมรบั และเห็นคุณคา่ ของการออกกาลงั กายและการเขา้ ร่วมกจิ กรรมกีฬา ประเภทศลิ ปะมวยไทย ไอคโิ อ ช่ืนชมในสุนทรียภาพและแสดงความมีนา้ ใจนักกีฬาของการออกกาลังกายและเล่นกฬี า นาประสบการณ์ทไี่ ด้รับจากกิจกรรมทางการกฬี าไปใชเ้ ป็นแนวทางในการทางานและดาเนนิ ชวี ิตประจาวนั ๑. วิเคราะหห์ ลักวิทยาศาสตรก์ ารเคลอื่ นไหวการนาไปใชใ้ นศิลปะป้องกนั ตัว มวยไทย ไอคิโดและการสร้าง เสรมิ สมรรถภาพทางกายได้ ๒. วิเคราะหร์ ูปแบบการเคลื่อนไหวและนาไปใชใ้ นศลิ ปะมวยไทย ไอคิโด และเสริมสรา้ งสมรรถภาพทางกาย ได้ ๓. ประยกุ ต์ความคิดรวบยอดจากหลักการทางวทิ ยาศาสตร์การเคลอ่ื นไหวในกจิ กรรมศลิ ปะมวยไทยและไอคิ โดไดอ้ ยา่ งมปี ระสิทธิภาพ ๔. อธิบายเก่ยี วกับสิทธิ กฎ กตกิ า กลวธิ ีต่างๆ ในกระวา่ งการเล่นการแข่งขันกบั ผู้อ่ืนและนาไปสรุปเปน็ แนว ปฏบิ ัติและใช้ในชีวติ ประจาวนั อย่างตอ่ เนอ่ื งได้ ๕. แสดงออกถงึ การมีมารยาทในการดู การเล่น การแขง่ ขนั กฬี าดว้ ยความมีนา้ ใจนักกีฬา และนาไปใชป้ ฏบิ ัติ ทกุ โอกาส จนเปน็ ผู้ทมี่ ีบุคลกิ ภาพทีด่ ี ๖. สรา้ งเสริมสมรรถภาพทางกายเพ่อื สุขภาพของตนเองได้ ๗. นาประสบการณ์และความสามารถของตนเองเพ่อื เพิ่มศักยภาพของทมี คานงึ ผมท่ีเกิดตอ่ ผู้อื่นและสงั คมได้ ๘. เห็นคณุ ค่าของการออกกาลงั กายและการเข้าร่วมกิจกรรมกฬี าศลิ ปะมวยไทย ศิลปะปอ้ งกันตัว ไอคิโด ๙. ชืน่ ชมในสุนทรียภาพและแสดงความมนี ้าใจนักกีฬาของการออกกาลังกายและเลน่ กฬี า
ห ลั ก สู ต ร ส ถ า น ศึ ก ษ า | 524 ๑๐. ยอมรับและเหน็ คุณคา่ ของการนาประสบการณ์ท่ไี ด้รับจากกิจกรรมทางการกีฬาไทยและต่างประเทศไปใช้ เป็นแนวทางในการทางานและดาเนินชวี ิตประจาวนั ได้ รวม 10 ผลกำรเรียนรู้
ห ลั ก สู ต ร ส ถ า น ศึ ก ษ า | 525 คำอธบิ ำยรำยวชิ ำเพ่ิมเติม พ 30216 พลศกึ ษา(เทเบิลเทนนิส) กลุ่มสาระการเรยี นรสู้ ุขศึกษาและพลศกึ ษา ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 4-6 ภาคเรียนท่ี 1-2 เวลา 20 ชั่วโมง จานวน 0.5 หน่วยการเรียนรู้ ศกึ ษาประวตั ิความเป็นมา ประโยชน์ คุณคา่ มารยาทของการเล่นกีฬาเทเบิลเทนนิส มีทักษะการ เคล่อื นไหวแบบตา่ ง ๆ มีทักษะการเลน่ กีฬาเทเบิลเทนนสิ การแขง่ ขนั และรกู้ ติกา เห็นคุณค่าของการออกกาลงั กาย นาความรู้ ความเข้าใจ ไปใช้ให้เกดิ ประโยชนใ์ นชีวิตประจาวนั ตามมาตรฐานสากล โดยใช้กระบวนการกลุ่ม การสืบค้นข้อมูล กระบวนการสาธิต กระบวนการฝึกปฏิบัติเพื่อให้เกิด ความรคู้ วามเข้าใจ มีสามารถความสามารถในการตัดสินใจ เพื่อให้มีความรู้ความเข้าใจ เห็นคุณค่าของการนาหลักการไปใช้เพ่ือพัฒนาคุณภาพชีวิตของตนเอง และครอบครัวในชีวิตประจาวนั มีความ ซือ่ สัตย์ สุจริต มีวนิ ยั ใฝ่เรยี นรู้ อยู่อย่างพอเพียง มุ่งเนน้ ในการทางาน รกั ความ เป็นไทยและมจี ติ สาธารณะ เพื่อให้ผู้เรียนมีความรู้ความสามารถตามผลการเรียนรู้ตอ่ ไปนี้ 1. มคี วามรเู้ กย่ี วกบั ประวัติของกฬี าเทเบลิ เทนนสิ กอ่ น-หลังเรยี น 2. สามารถบอกประโยชน์ คณุ คา่ และมารยาทชองการเล่นกีฬาเทเบิลเทนนิสได้ 3. สามารถปฏบิ ัติทักษะการอบอุน่ ร่างกายก่อน-หลังการเลน่ กีฬาเทเบลิ เทนนสิ และการทดสอบ สมรรถภาพทางกาย 4. สามารถปฏิบตั ิทักษะการยืน การถอื ลกู และการเคลือ่ นท่ีเท้าในการเลน่ เทเบิลเทนนิสได้ 5. สามารถปฏบิ ตั ิทักษะการรบั -สง่ ลูกหนา้ มอื และหลงั มอื ได้ 6. สามารถปฏิบัติทักษะการเสริฟลกู หนา้ มอื และหลงั มอื ได้ 7. สามารถปฏบิ ตั ิทกั ษะการเล่นลูกส้นั ลูกยาวได้ 8. สามารถปฏิบตั ิทกั ษะการเปน็ ผู้เล่น ฝา่ ยรุกและฝา่ ยรบั ได้ 9. สามารถปฏบิ ัติการแขง่ ขนั ประเภทเดี่ยวและคู่ได้ และบอกกติกาการแข่งขนั ได้ รวมท้ังหมด 9 ผลกำรเรียนรู้
ห ลั ก สู ต ร ส ถ า น ศึ ก ษ า | 526 โครงสร้ำงหลกั สูตร พ 31101 สขุ ศกึ ษาและพลศกึ ษา กล่มุ สาระการเรยี นรสู้ ขุ ศึกษาและพลศึกษา ชน้ั มัธยมศกึ ษาปที ่ี 4 ภาคเรยี นท่ี 1 เวลา 20 ช่ัวโมง จานวน 0.5 หนว่ ยการเรียนรู้ ลาดบั ชอ่ื หน่วยการเรยี น มาตรฐานการ สาระสาคัญ เวลา นา้ หนัก ที่ เรยี นรู้ / (ช่ัวโมง) คะแนน ตวั ช้ีวัด ช้แี จง ขอ้ ตกลงในการเรยี นการสอนและ คะแนนสอบ 1 - 1 ปฐมนิเทศ 2 ความรู้เก่ียวกับลลี าศ พ 3.2 ม.4- บอกประวัตคิ วามเป็นมาและการออก 1 6/1 กาลงั กายและเลน่ กฬี าที่เหมาะสมกับ ตนเองอยา่ งสมา่ เสมอและใช้ - ความสามารถของตนเอง เพม่ิ ศกั ยภาพ ของทมี ลดความเป็นตัวตน คานงึ ถึงผล ท่ีเกดิ ตอ่ สังคม 3 จงั หวะบกี นิ พ 3.1 ความสามารถในการรู้จักกีฬาลีลาศใน 4 ม.4-6/2 จงั หวะบีกินดว้ ยศกั ยภาพของตนเอง พ 3.1 และเพมิ่ ศักยภาพของทมี ซงึ่ ใช้ความ 20 ม.4-6/3 เคล่อื นไหวของลีลาศในจงั หวะบกี นิ เพอ่ื พ 3.1 สรา้ งสรรค์เป็นกิจรรมนนั ทนาการและ ม.4-6/4 นาไปปรับปรุงพฒั นาคณุ ภาพชีวติ ของ พ 3.1 ตนและสงั คม และมีความสุขในการเขา้ ม.4-6/5 ร่วมกจิ กรรมของสงั คม โดยเห็นคณุ ค่า และความงามของกีฬาลีลาศในจังหวดั บีกิน พ 3.2
ห ลั ก สู ต ร ส ถ า น ศึ ก ษ า | 527 ม.4-6/4 4 จงั หวะช่า ช่า ช่า พ 3.1 ความสามารถในการรู้จักกีฬาลีลาศใน 4 ม.4-6/2 จงั หวะชา่ ชา่ ช่า ด้วยศักยภาพของ พ 3.1 ตนเองและเพม่ิ ศกั ยภาพของทีมซง่ึ ใช้ 20 ม.4-6/3 ความเคล่อื นไหวของลลี าศในจงั หวะชา่ พ 3.1 ชา่ ช่า เพ่อื สรา้ งสรรค์เป็นกิจรรม ม.4-6/4 นันทนาการและนาไปปรับปรงุ พฒั นา พ 3.1 คุณภาพชีวิตของตนและสังคม และมี ม.4-6/5 ความสุขในการเข้าร่วมกจิ กรรมของ พ 3.2 สังคม โดยเห็นคุณค่าและความงามของ ม.4-6/4 กีฬาลลี าศในจังหวดั ช่า ช่า ช่า ประเมนิ ผลสอบกลางภาคเรยี น 10 10 5 กลไกของร่างกาย พ 1.1 การสร้างเสรมิ ประสิทธภิ าพการทางาน 3 ม.4-6/1 ของระบบตา่ งๆ ในร่างกายอย่างถกู ตอ้ ง จะสามารถชว่ ยใหร้ ะบบตา่ งๆ ใน รา่ งกายทางานได้อยา่ งมีประสทิ ธิภาพ 6 สุขภาพดีไมม่ ขี าย พ 1.1 การวางแผนดแู ลสุขภาพของตนเองและ 2 ม.4-6/2 ครอบครวั ใหม้ สี ภาวะการเจรญิ เตบิ โต พ 4.1 และพฒั นาการตามวยั เป็นเรื่องสาคญั 5 ม.4-6/5 และสง่ ผลใหม้ ีสุขภาพสมบรู ณ์แขง็ แรง
ห ลั ก สู ต ร ส ถ า น ศึ ก ษ า | 528 7 ชีวติ ต้องกา้ วไป พ 2.1 ปราศจากโรคภัยไขเ้ จ็บและมคี ณุ ภาพ 3 ม.4-6/1 ชีวิตทีด่ ี พ 2.1 10 ม.4-6/2 อทิ ธิพลของครอบครวั เพอื่ น สังคม และวัฒนธรรมส่งผลต่อพฤติกรรมทาง เพศและการดาเนินชีวติ ในสงั คม ความแตกตา่ งทางวัฒนธรรมทาให้แต่ละ คนมีค่านยิ มทางเพศท่ีแตกตา่ งกัน การศกึ ษาค่านิยมในเรือ่ งเพศตาม วฒั นธรรม เพื่อใหร้ ู้จกั ปรับตวั และ เปลี่ยนแปลงพฤติกรรม ใหส้ อดคล้อง กับสงั คมและวฒั นธรรมนน้ั 8 สมรรถภาพ พ 4.1 การวางแผนและปฏบิ ัติตามแผนพฒั นา 2 ม 4-6/7 สมรรถภาพทางกายและสมรรถภาพทาง กลไก 5 ประเมินผล (สอบปลายภาคเรยี น) 20 รวม 20 100
ห ลั ก สู ต ร ส ถ า น ศึ ก ษ า | 529 โครงสร้ำงหลักสูตร พ 31102 สขุ ศึกษาและพลศึกษา กลมุ่ สาระการเรียนรสู้ ุขศึกษาและพลศกึ ษา ชัน้ มัธยมศึกษาปที ่ี 4 ภาคเรียนที่ 2 เวลา 20 ชั่วโมง จานวน 0.5 หนว่ ยการเรียนรู้ ลาดับ ช่ือหน่วยการเรียน มาตรฐานการ สาระสาคญั เวลา นา้ หนกั ท่ี เรียนรู้ / (ช่ัวโมง) คะแนน ตวั ชวี้ ดั 1- 1 ปฐมนเิ ทศ ชีแ้ จง ข้อตกลงในการเรียนการสอน และคะแนนสอบ 2 ความร้เู กี่ยวกับลลี าศ พ 3.2 บอกประวัติความเป็นมาและการออก 1 - ม.4-6/1 กาลังกายและเลน่ กฬี าท่ีเหมาะสมกับ 4 20 ตนเองอยา่ งสม่าเสมอและใช้ 3 จงั หวะบีกนิ พ 3.1 ความสามารถของตนเอง เพ่ิม ม.4-6/2 ศกั ยภาพของทมี ลดความเป็นตวั ตน พ 3.1 คานึงถึงผลทีเ่ กิดต่อสังคม ม.4-6/3 พ 3.1 ความสามารถในการรูจ้ กั กีฬาลลี าศใน ม.4-6/4 จงั หวะบีกนิ ด้วยศักยภาพของตนเอง พ 3.1 และเพมิ่ ศกั ยภาพของทมี ซ่งึ ใชค้ วาม ม.4-6/5 เคลอื่ นไหวของลีลาศในจังหวะบีกิน พ 3.2 เพอื่ สรา้ งสรรค์เปน็ กิจรรมนนั ทนาการ ม.4-6/4 และนาไปปรบั ปรุงพฒั นาคุณภาพชีวติ ของตนและสังคม และมีความสุขใน การเขา้ รว่ มกิจกรรมของสงั คม โดย เหน็ คณุ ค่าและความงามของกฬี า ลลี าศในจังหวัดบกี นิ
ห ลั ก สู ต ร ส ถ า น ศึ ก ษ า | 530 4 จงั หวะชา่ ชา่ ช่า พ 3.1 ความสามารถในการร้จู ักกฬี าลลี าศ 4 ม.4-6/2 ในจงั หวะชา่ ชา่ ช่า ด้วยศักยภาพของ พ 3.1 ตนเองและเพมิ่ ศกั ยภาพของทีมซ่ึงใช้ 20 ม.4-6/3 ความเคลือ่ นไหวของลีลาศในจงั หวะ พ 3.1 ชา่ ช่า ช่า เพ่อื สร้างสรรค์เปน็ กจิ รรม ม.4-6/4 นนั ทนาการและนาไปปรับปรุงพฒั นา พ 3.1 คุณภาพชีวิตของตนและสงั คม และมี ม.4-6/5 ความสุขในการเขา้ รว่ มกจิ กรรมของ พ 3.2 สงั คม โดยเห็นคุณค่าและความงาม ม.4-6/4 ของกีฬาลีลาศในจงั หวัดช่า ช่า ช่า ประเมินผลสอบกลางภาคเรียน 10 15 5 ชุมชนรว่ มใจ พ 4.1 บทบาทและความรบั ผิดชอบของ ม.4-6/1 บคุ คลทม่ี ีตอ่ การสร้างเสริมสขุ ภาพ และการปอ้ งกนั โรคในชมุ ชน 6 ใส่ใจสุขภาพ พ 4.1 อิทธพิ ลของส่ือโฆษณาเกย่ี วกบั 1 ม.4-6/2 สุขภาพและแนวทางการเลอื กบริโภค 1 อย่างฉลาดและปลอดภยั 1 พ 4.1 5 ม.4-6/3 สิทธพิ น้ื ฐานของผู้บรโิ ภคและ กฏหมายทีเ่ ก่ียวขอ้ งกบั การคุ้มครอง 7 ความปลอดภยั ใน พ 5.1 ผู้บรโิ ภค ชีวติ ม.4-6/1 การมีส่วนรว่ มในการจดั กิจกรรม ปอ้ งกันความเส่ียงต่อการใช้ยา มี
ห ลั ก สู ต ร ส ถ า น ศึ ก ษ า | 531 ความสาคญั ต่อสุขภาพของคนใน ครอบครวั และสงั คม พ 5.1 การมีสว่ นร่วมในการจดั กิจกรรม 2 10 ม.4-6/2 ป้องกนั ความเสีย่ งต่อการใชส้ ารเสพ 5 ตดิ มคี วามสาคยั ต่อสุขภาพของคนใน ครอบครวั และสังคม 5 10 8 สัมพนั ธภาพท่ีดีไม่มี พ 2.1 การเลือกใช้ทกั ษะทีเ่ หมาะสมในการ 100 ป้องกนั ลดความขดั แย้งและแกป้ ัญหา ความขดั แยง้ ม 4-6/3 เร่อื งเพศและครอบครวั และการ 3 ตัดสินใจแก้ปัญหาในสถานการณท์ ่ี พ 2.1 เส่ยี งต่อสุขภาพและความรุนแรง ม 4-6/4 พ 5.1 วิเคระหส์ าเหตุและผลของความ ม.4-6/3 ขัดแย้ง ปจั จัยทีม่ ีผลตอ่ สุขภาพหรือ พ 5.1 ความรนุ แรงและเสนอแนวทางปอ้ งกนั ม.4-6/6 แก้ไขปญั หา 9 ฟื้นคนื ชพี พ 5.1 ม.4- การช่วยฟ้ืนคืนชีพเปน็ การปฏิบัติการ 2 6/7 ช่วยชีวิตผปู้ ่วยอย่างถูกวธิ ี และ สามารถช่วยใหผ้ ูป้ ว่ ยปลอดภัยก่อน ได้รบั การรกั ษา จากบุคลากรทาง การแพทย์ ประเมินผล (สอบปลายภาคเรียน) 20
ห ลั ก สู ต ร ส ถ า น ศึ ก ษ า | 532 โครงสร้ำงรำยวิชำ สุขศกึ ษำ พ 32101 สขุ ศึกษาและพลศึกษา กลุม่ สาระการเรยี นรู้สขุ ศกึ ษาและพลศึกษา ช้นั มัธยมศกึ ษาปที ่ี 5 ภาคเรยี นที่ 1 เวลา 20 ช่ัวโมง จานวน 0.5 หนว่ ยการเรียนรู้ ที่ ชอื่ หน่วยการ มาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตัวชว้ี ัด สาระสาคัญ เวลา นา้ หนกั เรยี นรู้ (ชั่วโมง) คะแนน 1 เรยี นรู้ รตู้ น มาตรฐาน พ3.1 เข้าใจมี - หลักการเคลอ่ื นไหวที่ใช้ทักษะ 2 10 รู้ผู้อืน่ ทักษะในการเคล่ือนไหว กลไกและทักษะพ้นื ฐานที่นาไปสู่ 6 20 กจิ กรรมทางกาย การเล่นเกม การพฒั นาทกั ษะการเล่นกีฬาฟตุ และกีฬา ซอล พ3.1 ม.4-6/1 วเิ คราะห์ -วิเคราะหเ์ ปรยี บเทียบและยอมรบั ความคดิ รวบยอดเก่ยี วกบั ความแตกต่างระหว่างวิธีการเล่น การเคลอื่ นไหวรปู แบบตา่ ง ๆ กีฬาของตนเองกับผู้อนื่ ในการเลน่ กฬี า 2 มนี า้ ใจ พ3.1 ม.4-6/2 ใช้ - กีฬาไทยและกฬี าสากลประเภท นักกฬี า ความสามารถของตนเพื่อเพม่ิ บุคคลและทีมโดยใช้ทกั ษะพนื้ ฐาน ศกั ยภาพของทีม คานึงถงึ ผล ตามชนดิ กฬี า ทเ่ี กดิ ตอ่ ผอู้ ื่นและสังคม - เลือกเขา้ ร่วมเล่นกีฬาฟตุ ซอล พ3.1 ม.4-6/3 เลน่ กฬี า ปฏบิ ตั ติ ามกฎ กตกิ า และข้อตกลง ไทย กฬี าสากลประเภท ตามชนดิ กีฬา วางแผนการรุก บคุ คล ประเภทคู่ กีฬา - การปอ้ งกนั ในการเล่นกีฬาท่เี ลอื ก ประเภททีม อยา่ งน้อย 1 รว่ มมอื ในการเล่นกฬี า และการ ชนดิ ทางานเปน็ ทีมอยา่ งสนกุ สนาน พ3.2 ม.4-6/1 ออกกาลงั กายและเล่นกฬี าท่เี หมาะสม กับตนเองอยา่ งสมา่ เสมอ และใช้ความสามารถของ ตนเองเพ่ิมศักยภาพของทีม ลดความเปน็ ตวั ตน คานงึ ถงึ ผลที่เกดิ ต่อสงั คม พ3.2 ม.4-6/2 อธบิ ายและ ปฏิบัติเกย่ี วกบั สิทธิ กฎ กติกา กลวธิ ีตา่ งๆ ใน
ห ลั ก สู ต ร ส ถ า น ศึ ก ษ า | 533 ชอื่ หนว่ ยการ สาระสาคัญ เวลา นา้ หนัก ที่ เรยี นรู้ มาตรฐานการเรียนร/ู้ ตัวชวี้ ัด (ชวั่ โมง) คะแนน ระหว่างการเล่น การแขง่ ขัน 10 กีฬากบั ผู้อ่นื และนาไปสรุป เป็นแนวปฏบิ ัติและใช้ใน ชวี ิตประจาวันอยา่ งต่อเนือ่ ง 3 ออกกาลังกายเพ่ือ พ3.1 ม.4-6/5 เข้าร่วม - กิจกรรมนันทนาการ 2 สุขภาพ กิจกรรมนนั ทนาการนอก ความสาคัญของการออกกาลงั โรงเรยี น และนาหลักการ กายและเลน่ กฬี าฟุตซอล แนวคิดไปปรบั ปรุงและพฒั นา จนเป็นวถิ ชี ีวติ ทีม่ สี ุขภาพดี คณุ ภาพชีวิตของตนและสังคม พ3.2 ม.4-6/3 แสดงออก ถงึ การมีมารยาทในการดู การ เล่นและการแข่งขนั กีฬา ดว้ ย ความมนี า้ ใจนกั กีฬา และ นาไปใชป้ ฏบิ ตั ิทุกโอกาส จน เป็นบคุ ลิกภาพที่ดี พ3.2 ม.4-6/4 ร่วม กิจกรรมทางกายและเลน่ กีฬา อย่างมีความสขุ ชนื่ ชมใน คณุ ค่าและความงามของการ กฬี า ประเมนิ ผลสอบกลางภาคเรียน 10 14 4 รา่ งกายของเรา พ1.1 ม.4-6/1 การสร้างเสรมิ และดารง 4 ประสิทธภิ าพการทางานของ ระบบต่างๆ ในร่างกาย จะชว่ ย ให้ร่างกายทางานได้เป็นปกติ และส่งผลให้มีสุขภาพแขง็ แรง
ห ลั ก สู ต ร ส ถ า น ศึ ก ษ า | 534 ชอ่ื หน่วยการ สาระสาคัญ เวลา น้าหนกั ท่ี เรียนรู้ มาตรฐานการเรียนรู้/ตวั ช้ีวัด (ชวั่ โมง) คะแนน การวางแผนดูแล การวางแผนดแู ลสุขภาพของ 3 12 สุขภาพ ตนเองและครอบครัว ถอื เป็น กจิ กรรมที่มีคุณค่า ซึง่ นาไปสู่ พ1.1 ม.4-6/2 การปฏบิ ตั เิ พ่อื ส่งเสริม 5 สุขภาพทั้งของตนเองและ สมาชิกในครอบครวั ให้ดียิง่ ขน้ึ และสามารถดารงชีวิตอยใู่ น สังคมไดอ้ ย่างมคี วามสุข 6 เพศศกึ ษาและ พ2.1 ม.4-6/3 การเลือกใช้ทักษะที่เหมาะสม 3 14 การดาเนินชีวิต ในการปอ้ งกนั ลดความ ขัดแยง้ และแกป้ ญั หาเรื่อง 20 เพศและครอบครัวจะช่วย 100 สร้างเสรมิ สัมพนั ธภาพทด่ี ีต่อ กัน ประเมนิ ผล (สอบปลายภาคเรยี น) รวม 20
ห ลั ก สู ต ร ส ถ า น ศึ ก ษ า | 535 โครงสรำ้ งรำยวชิ ำ สุขศกึ ษำ พ 32102 สขุ ศึกษาและพลศกึ ษา กลมุ่ สาระการเรียนรู้สขุ ศึกษาและพลศกึ ษา ชั้นมธั ยมศกึ ษาปีท่ี 5 ภาคเรียนท่ี 2 เวลา 20 ช่ัวโมง จานวน 0.5 หนว่ ยการเรยี นรู้ ชื่อหน่วย สาระสาคัญ เวลา น้าหนัก ท่ี การเรยี นรู้ มาตรฐานการเรยี นร้/ู ตัวช้วี ดั (ชว่ั โมง) คะแนน 1 เรยี นรู้ มาตรฐาน พ3.1 เข้าใจมีทกั ษะ - หลักการเคลือ่ นไหวที่ใช้ทักษะ 2 10 รตู้ นรูผ้ ู้อน่ื ในการเคลอื่ นไหว กิจกรรม กลไกและทักษะพ้ืนฐานท่ีนาไปสู่ ทางกาย การเลน่ เกมและกฬี า การพัฒนาทักษะการเล่นกีฬา พ3.1 ม.4-6/1 วเิ คราะห์ ฟุตซอล ความคดิ รวบยอดเก่ยี วกบั การ -วิเคราะห์เปรียบเทียบและ เคลอื่ นไหวรูปแบบตา่ ง ๆ ใน ยอมรบั ความแตกต่างระหวา่ ง การเล่นกฬี า วธิ กี ารเล่นกฬี าของตนเองกบั ผู้อน่ื 2 มนี า้ ใจ พ3.1 ม.4-6/2 ใช้ - กฬี าไทยและกีฬาสากลประเภท 6 20 นกั กีฬา ความสามารถของตนเพ่ือเพิม่ บุคคลและทีมโดยใช้ทกั ษะ ศักยภาพของทีม คานงึ ถงึ ผลท่ี พ้นื ฐานตามชนดิ กฬี า เกิดต่อผอู้ น่ื และสังคม - เลอื กเข้ารว่ มเล่นกีฬาฟตุ ซอล พ3.1 ม.4-6/3 เลน่ กีฬาไทย ปฏบิ ัติตามกฎ กตกิ า และ กฬี าสากลประเภทบคุ คล ขอ้ ตกลงตามชนดิ กีฬา วาง ประเภทคู่ กีฬาประเภททีม แผนการรกุ อย่างน้อย 1 ชนดิ - การป้องกันในการเลน่ กีฬาที่ พ3.2 ม.4-6/1 ออกกาลงั กาย เลือกรว่ มมือในการเล่นกฬี า และ และเล่นกฬี าท่ีเหมาะสมกบั การทางานเป็นทมี อยา่ ง ตนเองอย่างสม่าเสมอ และใช้ สนกุ สนาน ความสามารถของตนเองเพมิ่ ศกั ยภาพของทีม ลดความเปน็ ตวั ตน คานงึ ถงึ ผลท่ีเกิดต่อ สังคม พ3.2 ม.4-6/2 อธิบายและ ปฏบิ ตั เิ ก่ียวกบั สิทธิ กฎ
ห ลั ก สู ต ร ส ถ า น ศึ ก ษ า | 536 ชอื่ หนว่ ยการ สาระสาคญั เวลา น้าหนกั ที่ เรยี นรู้ มาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตวั ชี้วัด (ช่ัวโมง) คะแนน กตกิ า กลวธิ ีต่างๆ ในระหวา่ ง การเลน่ การแขง่ ขันกีฬากับ ผู้อ่ืนและนาไปสรุปเป็นแนว ปฏิบตั แิ ละใชใ้ นชวี ิตประจาวัน อยา่ งต่อเนอื่ ง 3 ออกกาลังกาย พ3.1 ม.4-6/5 เขา้ ร่วม - กจิ กรรมนนั ทนาการ 2 10 เพ่อื สขุ ภาพ กจิ กรรมนันทนาการนอก ความสาคัญของการออก โรงเรียน และนาหลักการ กาลังกายและเลน่ กีฬาฟตุ แนวคิดไปปรับปรงุ และพัฒนา ซอล จนเปน็ วิถีชีวิตทม่ี ี คุณภาพชีวติ ของตนและสงั คม สุขภาพดี พ3.2 ม.4-6/3 แสดงออกถึง การมีมารยาทในการดู การเล่น และการแขง่ ขนั กีฬา ดว้ ยความ มีนา้ ใจนักกีฬา และนาไปใช้ ปฏิบัติทกุ โอกาส จนเปน็ บุคลกิ ภาพท่ีดี พ3.2 ม.4-6/4 ร่วมกิจกรรม ทางกายและเลน่ กฬี าอย่างมี ความสขุ ชื่นชมในคุณค่าและ ความงามของการกฬี า ประเมินผล (สอบกลางภาคเรียน) 10 4 สิทธผิ ูบ้ รโิ ภค พ4.1 ม.4-6/3 ผบู้ ริโภคควรปฏิบัตติ นตาม 2 10 สทิ ธขิ ้นั พน้ื ฐาน และ กฎหมายท่เี ก่ยี วข้องกบั การคมุ้ ครองผู้บริโภคเพ่อื ความปลอดภยั และรักษา ไว้ซ่งึ สิทธทิ ค่ี วรจะไดร้ ับ
ห ลั ก สู ต ร ส ถ า น ศึ ก ษ า | 537 ที่ ช่อื หนว่ ยการ มาตรฐานการเรียนรู้/ตวั ชว้ี ดั สาระสาคัญ เวลา น้าหนกั เรยี นรู้ (ชวั่ โมง) คะแนน สุขภาพกบั การวิเคราะห์สาเหตุของ 3 10 ความปลอดภัย การเจ็บปว่ ยและการตาย 5 พ4.1 ม.4-6/4 ของคนไทย จะช่วยให้ สามารถหาแนวทางการ ปอ้ งกนั ทีเ่ หมาะสมได้ 6 รักสขุ ภาพ พ4.1 ม.4-6/7 การรู้จกั วางแผนดแู ล 3 10 สุขภาพและปฏบิ ัตติ าม แผน จะชว่ ยให้การพฒั นา สมรรถภาพทางกายและ ทางกลไกบรรลุสู่ ความสาเร็จไดต้ รงตาม วตั ถปุ ระสงค์ ซึง่ จะส่งผล ให้ร่างกายแข็งแรงและมี สุขภาพที่ดี 7 ปัจจยั ทม่ี ีผล พ5.1 ม.4-6/3 การวเิ คราะห์ปัจจัยที่มผี ล 2 10 ตอ่ สขุ ภาพ หรือความ ตอ่ ความรุนแรง รุนแรงของคนไทย จะ ของคนไทย ชว่ ยให้สามารถหา แนวทางในการปอ้ งกันทด่ี ี และแกไ้ ขปญั หาความ รุนแรงในสังคม ใหล้ ด และยุติปัญหาความรุนแรง ท่อี าจเกิดข้ึน ตลอดจน ปรับเปลีย่ นพฤตกิ รรมการ ใชค้ วามรุนแรงของคนไทย เพื่อสรา้ งสัมพนั ธภาพทดี่ ี ในสงั คม ประเมนิ ผล (สอบปลายภาคเรยี น) 10 รวม 20 100
ห ลั ก สู ต ร ส ถ า น ศึ ก ษ า | 538 โครงสร้ำงหลักสูตรรำยวิชำ พ 33101 สุขศึกษาและพลศกึ ษา กลุ่มสาระการเรียนร้สู ุขศึกษาและพลศกึ ษา ช้นั มัธยมศึกษาปที ่ี 6 ภาคเรยี นท่ี 1 เวลาเรียน 20 ชัว่ โมง จานวน 0.5 หน่วยการเรยี นรู้ ที่ ชือ่ หน่วยการ มาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตัวชี้วัด สาระสาคัญ เวลา น้าหนกั เรยี นรู้ (ชว่ั โมง) คะแนน 1 กีฬาเปตอง มาตรฐาน พ3.2 -ประวตั แิ ละความเปน็ มา 2 5 กีฬาเปตอง รักการออกกาลังกาย -ประโยชนข์ องกฬี า การเล่นเกม และการเล่นกีฬา ปฏิบัติเป็นประจาอยา่ งสม่าเสมอ เปตอง มีวนิ ัย เคารพสิทธิ กฎ กติกา มนี ้าใจนกั กีฬา มีจติ วญิ ญาณในการแข่งขันและช่ืน ชมในสนุ ทรียภาพของการกีฬา พ3.2 ม.6/1 ออกกาลังกายและ เล่นกีฬาทเี่ หมาะสมกับตนเอง อย่างสม่าเสมอ และใช้ ความสามารถของตนเองเพิม่ ศกั ยภาพของทีม ลดความเป็น ตวั ตน คานงึ ถึงผลท่เี กิดต่อสงั คม 2 กฎ กติกาการ พ3.2 ม.6/2 อธบิ ายและปฏิบตั ิ -สทิ ธิ กฎ กตกิ าการเล่น 4 10 เล่นกฬี าเปตอง เกี่ยวกับสทิ ธิ กฎ กติกา กลวิธี กีฬาเปตอง ตา่ งๆ ในระหว่างการเล่น การ -กลวธิ ี หลักการรกุ การ แขง่ ขนั กีฬากับผู้อ่นื และนาไปสรปุ ปอ้ งกนั อย่างสรา้ งสรรคใ์ น เปน็ แนวปฏิบัติและใช้ใน การเล่นกีฬาเปตองและ ชวี ติ ประจาวนั อยา่ งต่อเนือ่ ง แข่งขนั กฬี า -การนาประสบการณจ์ าก การเล่นกฬี าไปใช้ใน ชวี ติ ประจาวนั
ห ลั ก สู ต ร ส ถ า น ศึ ก ษ า | 539 ท่ี ชอ่ื หนว่ ยการเรียนรู้ มาตรฐานการเรียนรู/้ สาระสาคญั เวลา นา้ หนกั ตัวชีว้ ัด (ชวั่ โมง) คะแนน 3 มารยาทผู้เล่นและผู้ดู พ3.2 ม.6/3 แสดงออกถงึ -การปฏิบัติตนในเรอ่ื งมารยาท 2 5 การมมี ารยาทในการดูการ ในการดู การเลน่ การแขง่ ขนั เล่น และการแข่งขันกฬี า ความมนี า้ ใจนักกฬี า ดว้ ยนา้ ใจนักกฬี า และ -บคุ ลิกภาพท่ดี ี นาไปใชป้ ฏิบตั ิทกุ โอกาส จนเปน็ บุคลิกภาพท่ดี ี 4 ความสขุ ท่ีเป็นจรงิ พ3.2 ม.6/4 ร่วม -การรว่ มเลน่ ทีมและมสี ว่ นรว่ ม 2 10 กจิ กรรมทางกายและเล่น ในการชว่ ยเป็นผู้ชว่ ยกรรมการ กีฬาอยา่ งมีความสุข ชน่ื ชม ตัดสิน ในคณุ ค่าและความงามของ การกีฬา ประเมินผล (สอบกลางภาคเรียน) 10 10 5 ระบบอวยั วะ มาตรฐาน พ1.1 การทางานและการสร้างเสรมิ 3 เข้าใจธรรมชาตขิ องการ ประสิทธภิ าพของระบบ เจริญเติบโตและพัฒนาการ ประสาท ระบบสืบพนั ธุ์ ระบบ ของมนุษย์ ตอ่ มไร้ทอ่ พ1.1 ม.6 /1 อธิบาย กระบวนการ การ สรา้ งเสริมและดารง ประสทิ ธิภาพ การทางาน ของระบบอวยั วะตา่ งๆ 6 รกั สขุ ภาพ พ1.1 ม.6 /2 วางแผนดูแล การวางแผนดแู ลสุขภาพของ 3 10 สขุ ภาพตามภาวะการ ตนเองและบุคคลในครอบครัว เจรญิ เติบโตและพัฒนาการ
ห ลั ก สู ต ร ส ถ า น ศึ ก ษ า | 540 ของตนเองและบคุ คลใน ครอบครวั 7 ความขัดแยง้ พ2.1 ม. 6/4วเิ คราะห์ ความขัดแยง้ ทอ่ี าจเกิดขน้ึ 4 10 สาเหตุและผลของความ ระหว่างนักเรียนหรอื เยาวชน ขัดแยง้ ทีอ่ าจเกิดขึน้ ในชมุ ชน ที่ ชอื่ หน่วยการเรยี นรู้ มาตรฐานการเรยี นร/ู้ สาระสาคญั เวลา นา้ หนกั ตัวชว้ี ัด (ชั่วโมง) คะแนน ระหว่างนักเรยี นหรอื เยาวชนในชมุ ชนและเสนอ แนวทางแก้ไขปญั หา ประเมนิ ผล (สอบปลายภาคเรยี น) 20 รวมตลอดภาคเรียน 20 100
ห ลั ก สู ต ร ส ถ า น ศึ ก ษ า | 541 โครงสร้ำงหลกั สูตรรำยวชิ ำ พ 33102 สุขศกึ ษาและพลศึกษา กลมุ่ สาระการเรยี นรสู้ ขุ ศึกษาและพลศึกษา ชนั้ มธั ยมศึกษาปที ่ี 6 ภาคเรยี นที่ 2 เวลาเรยี น 20 ชว่ั โมง จานวน 0.5 หนว่ ยการเรยี นรู้ ที่ ชือ่ หนว่ ยการเรียนรู้ มาตรฐานการเรยี นร้/ู ตวั ช้ีวัด สาระสาคญั เวลา น้าหนัก คะแนน (ชวั่ โมง) 10 1 มาเล่นวอลเลย์บอลกัน พ3.1 ม.4-6/1 วเิ คราะห์ 1.1 ความรทู้ ่วั ไปเก่ยี ว 2 10 เถอะ ความคิดรวบยอดเกีย่ วกบั การ กบั กฬี าวอลเลยบ์ อล เคลอื่ นไหวรปู แบบตา่ ง ๆ ใน การเล่นกีฬา พ3.1 ม.6/4 แสดงการ 1.2 การเคลอื่ นไหว เคลอ่ื นไหวได้อยา่ งสรา้ งสรรค์ เบอ้ื งต้นในกีฬา วอลเลย์บอล พ3.1 ม.6/5 เข้าร่วมกจิ กรรม 1.3 การบริหารร่างกาย นันทนาการนอกโรงเรยี นและนา ในกฬี าวอลเลย์บอล หลักการแนวคิดไปปรับปรงุ และ พฒั นาคุณภาพชีวติ ของตนเอง และสังคม พ3.2 ม.6/1 ออกกาลงั กาย 1.4 การสรา้ ง และเล่นกฬี าท่ีเหมาะสมกับ ความคุ้นเคยกบั ลกู ตนเองอย่างสม่าเสมอ และใช้ วอลเลย์บอล ความสามารถของตนเองเพมิ่ ศักยภาพของทมี ลดความเป็น ตวั ตน คานงึ ถึงผลที่เกิดตอ่ สังคม 2 เรียนรูท้ กั ษะ พ 3.2 ม.4-6/1ออกกาลังกาย 2.1ทกั ษะการเลน่ ลูก 2 วอลเลย์บอล และเลน่ กีฬาที่เหมาะสมกบั สองมือล่าง ตนเองอยา่ งสม่าเสมอและใช้ ความสามารถของตนเองเพ่มิ 2.2ทกั ษะการเล่นลกู ศักยภาพของทมี ลดความเปน็ สองมอื บน ตัวตนคานงึ ถึงผลทีเ่ กดิ ตอ่ สงั คม
ห ลั ก สู ต ร ส ถ า น ศึ ก ษ า | 542 ที่ ชอ่ื หน่วยการเรียนรู้ มาตรฐานการเรียนร/ู้ ตวั ช้วี ดั สาระสาคัญ เวลา น้าหนัก (ชัว่ โมง) คะแนน 3 ริเรมิ่ ..เลน่ วอลเลยบ์ อล พ 3.2 ม 4-6/1ออกกาลังกาย 3.1 ทักษะ 2 10 และเล่นกีฬาที่เหมาะสมกบั การเสรฟิ และการ ตนเองอยา่ งสมา่ เสมอและใช้ รับลูกเสรฟิ ความสามารถของตนเองเพ่ิม ศกั ยภาพของทมี ลดความเป็น 3.2ทักษะการตบ ตัวตนคานึงถึงผลท่เี กดิ ตอ่ และการสกดั กัน้ สังคม 4 เล่นวอลเลย์บอลอย่าง พ 3.1 ม.4-6/2ใช้ 4.1 การเล่นทีม 4 10 สนกุ สนาน ความสามารถของตนเพือ่ เพ่ิม ศักยภาพของทีม คานึงถึงผลที่ เกิดต่อผ้อู นื่ และสังคม พ 3.2 ม.4-6/2 อธิบายและ ปฏิบตั ิเกยี่ วกับสิทธิ กฎ กติกา กลวธิ ตี ่างๆ ในระหว่างการเล่น การแขง่ ขนั กฬี ากบั ผ้อู ่นื และ นาไปสรปุ เปน็ แนวปฏิบตั ิใช้ใน ชวี ติ ประจาวนั อย่างตอ่ เนอ่ื ง พ 3.2 ม.4-6/3แสดงออกถึง การมมี ารยาทในการดู การเลน่ การแขง่ ขันกีฬาดว้ ยความมี นา้ ใจนักกีฬา พ 3.2 ม.4-6/4รว่ มกิจกรรม เล่นกฬี าอย่างมีความสุข ชื่นชม ในคุณค่าและความงามของ กีฬา
ห ลั ก สู ต ร ส ถ า น ศึ ก ษ า | 543 ท่ี ช่อื หนว่ ยการเรียนรู้ มาตรฐานการเรียนร้/ู ตัวชว้ี ดั สาระสาคญั เวลา นา้ หนัก (ช่วั โมง) คะแนน ประเมนิ ผลกลางภาคเรยี น 5 พัฒนาสุขภาพ พ4.1 ม.6/5 วางแผนและ การวางแผนการ 2 10 พัฒนาสขุ ภาพของ 5 ปฏบิ ตั ติ ามแผนการพฒั นา ตนเองและ สุขภาพของตนเองและ ครอบครัว ครอบครัว 6 สง่ เสริมสุขภาพ พ4.1 ม.6/6 มีสว่ นร่วมในการ การมีส่วนร่วมใน 2 5 7 ฉลาดคิดชีวติ สดใส 3 10 ส่งเสรมิ และพัฒนาสขุ ภาพของ การส่งเสรมิ และ บคุ คลในชมุ ชน พฒั นาสขุ ภาพของ บคุ คลในชุมชน พ5.1 ม.6/6 ใชท้ กั ษะการ ทกั ษะการตดั สนิ ใจ ตดั สนิ ใจแกป้ ัญหาใน แกป้ ญั หาใน สถานการณท์ ี่เสยี่ งต่อสุขภาพ สถานการณท์ ่ีเสีย่ ง และความรนุ แรง ตอ่ สขุ ภาพและ ความรุนแรง 8 ฟ้ืนคนื ชพี พ5.1 ม.6/7 แสดงวธิ กี ารช่วย วิธกี ารชว่ ยฟื้นคนื 3 10 ฟนื้ คนื ชีพอย่างถูกวธิ ี ชพี อย่างถูกวิธี ประเมนิ ผล (สอบปลายภาคเรียน) 20 รวมตลอดภาคเรยี น 10 100
ห ลั ก สู ต ร ส ถ า น ศึ ก ษ า | 544 กล่มุ สำระกำรเรียนร้ภู ำษำตำ่ งประเทศ ระดับมัธยมศกึ ษำตอนต้นและตอนปลำย รำยวิชำพ้ืนฐำน ภาษาอังกฤษ 1 จานวน 6๐ ชั่วโมง ๑.5 หนว่ ยกติ รหัสวิชา อ21101 ภาษาองั กฤษ 2 จานวน 6๐ ชั่วโมง 1.5 หน่วยกิต รหสั วิชา อ21102 ภาษาอังกฤษ 3 จานวน 6๐ ชั่วโมง 1.5 หน่วยกิต รหสั วิชา อ22101 ภาษาอังกฤษ 4 จานวน 6๐ ชัว่ โมง 1.5 หนว่ ยกติ รหสั วชิ า อ22102 ภาษาองั กฤษ 5 จานวน 6๐ ชว่ั โมง 1.5 หนว่ ยกิต รหัสวิชา อ23101 ภาษาองั กฤษ 6 จานวน 6๐ ชว่ั โมง 1.5 หนว่ ยกิต รหัสวชิ า อ23102 ภาษาอังกฤษ 1 จานวน 4๐ ชวั่ โมง ๑.0 หน่วยกิต รหัสวิชา อ31101 ภาษาองั กฤษ 2 จานวน 4๐ ชว่ั โมง ๑.0 หน่วยกิต รหัสวิชา อ31102 ภาษาอังกฤษ 3 จานวน 4๐ ช่วั โมง ๑.0 หนว่ ยกิต รหัสวิชา อ32101 ภาษาอังกฤษ 4 จานวน 4๐ ชั่วโมง ๑.0 หน่วยกติ รหสั วิชา อ32102 ภาษาองั กฤษ 5 จานวน 4๐ ชวั่ โมง ๑.0 หน่วยกติ รหสั วชิ า อ33101 ภาษาอังกฤษ 6 จานวน 4๐ ชว่ั โมง ๑.0 หนว่ ยกติ รหัสวชิ า อ33102 รำยวิชำเพมิ่ เตมิ องั กฤษอา่ น-เขยี น 1 จานวน 4๐ ชั่วโมง ๑.0 หนว่ ยกติ รหัสวิชา อ21201 องั กฤษอา่ น-เขยี น 2 จานวน 4๐ ชั่วโมง 1.0 หน่วยกติ รหัสวิชา อ21202 อังกฤษอา่ น-เขียน 3 จานวน 4๐ ชั่วโมง 1.0 หน่วยกติ รหัสวิชา อ22201 อังกฤษอา่ น-เขียน 4 จานวน 4๐ ชั่วโมง 1.0 หน่วยกติ รหสั วิชา อ22202 องั กฤษอ่าน-เขยี น 5 จานวน 4๐ ชั่วโมง 1.0 หนว่ ยกติ รหัสวชิ า อ23201 อังกฤษอ่าน-เขยี น 6 จานวน 4๐ ชว่ั โมง 1.0 หนว่ ยกติ รหสั วิชา อ23202 องั กฤษอ่าน-เขียน 1 จานวน 4๐ ชว่ั โมง ๑.0 หน่วยกิต รหสั วิชา อ31201 องั กฤษอ่าน-เขียน 2 จานวน 4๐ ชว่ั โมง ๑.0 หนว่ ยกิต รหัสวชิ า อ31202 องั กฤษอ่าน-เขยี น 3 จานวน 4๐ ชว่ั โมง ๑.0 หนว่ ยกิต รหสั วชิ า อ32201 องั กฤษอา่ น-เขียน 4 จานวน 4๐ ชว่ั โมง ๑.0 หนว่ ยกติ รหัสวิชา อ32202 อังกฤษอา่ น-เขยี น 5 จานวน 4๐ ชั่วโมง ๑.0 หนว่ ยกิต รหสั วิชา อ33201 องั กฤษอา่ น-เขยี น 6 จานวน 4๐ ชว่ั โมง ๑.0 หน่วยกิต รหสั วชิ า อ33202 ภาษาองั กฤษเพอ่ื การสื่อสาร 1 จานวน ๔๐ ชว่ั โมง ๑.๐ หนว่ ยกิต รหสั วชิ า อ๓1๒03 ภาษาองั กฤษเพ่ือการสื่อสาร 2 จานวน ๔๐ ชั่วโมง ๑.๐ หน่วยกิต รหสั วิชา อ๓1๒04 ภาษาองั กฤษเพือ่ การสอ่ื สาร 3 จานวน ๔๐ ชว่ั โมง ๑.๐ หนว่ ยกติ รหัสวชิ า อ๓2๒03 ภาษาองั กฤษเพอื่ การสื่อสาร 4 จานวน ๔๐ ชั่วโมง ๑.๐ หน่วยกติ รหสั วิชา อ๓2๒04 ภาษาองั กฤษเพ่ือการสอื่ สาร 5 จานวน ๔๐ ชั่วโมง ๑.๐ หนว่ ยกติ รหสั วิชา อ๓3๒03 ภาษาองั กฤษเพอ่ื การสื่อสาร 6 จานวน ๔๐ ชว่ั โมง ๑.๐ หนว่ ยกิต รหสั วิชา อ๓3๒04 รหสั วชิ า จ21๒01 ภาษาจีน 1 จานวน ๔๐ ชั่วโมง ๑.๐ หนว่ ยกิต
ห ลั ก สู ต ร ส ถ า น ศึ ก ษ า | 545 รหสั วชิ า จ21๒02 ภาษาจีน 2 จานวน ๔๐ ชว่ั โมง ๑.๐ หนว่ ยกติ รหสั วชิ า จ22๒03 ภาษาจีน 3 จานวน ๔๐ ชว่ั โมง ๑.๐ หน่วยกติ รหัสวชิ า จ22204 ภาษาจนี 4 จานวน ๔๐ ชั่วโมง ๑.๐ หน่วยกิต รหสั วชิ า จ23๒05 ภาษาจนี 5 จานวน ๔๐ ชั่วโมง ๑.๐ หนว่ ยกิต รหสั วชิ า จ23๒06 ภาษาจีน 6 จานวน ๔๐ ชวั่ โมง ๑.๐ หนว่ ยกิต รหัสวชิ า จ31๒01 ภาษาจนี 1 จานวน ๔๐ ชว่ั โมง ๑.๐ หน่วยกิต รหัสวชิ า จ31๒02 ภาษาจนี 2 จานวน ๔๐ ชั่วโมง ๑.๐ หน่วยกิต รหัสวชิ า จ32๒03 ภาษาจนี 3 จานวน ๔๐ ชว่ั โมง ๑.๐ หน่วยกิต รหสั วชิ า จ32๒04 ภาษาจีน 4 จานวน ๔๐ ชว่ั โมง ๑.๐ หน่วยกิต รหัสวิชา จ33๒05 ภาษาจนี 5 จานวน ๔๐ ชว่ั โมง ๑.๐ หนว่ ยกิต รหสั วิชา จ33๒06 ภาษาจนี 6 จานวน ๔๐ ชั่วโมง ๑.๐ หนว่ ยกติ รหัสวชิ า จ๓1๒03 ภาษาจีนสื่อสาร 1 จานวน ๔๐ ชั่วโมง ๑.๐ หนว่ ยกติ รหัสวชิ า จ๓1๒04 ภาษาจนี สื่อสาร 2 จานวน ๔๐ ช่วั โมง ๑.๐ หนว่ ยกิต รหัสวิชา จ๓2๒05 ภาษาจีนสอ่ื สาร 3 จานวน ๔๐ ช่ัวโมง ๑.๐ หนว่ ยกติ รหสั วชิ า จ๓2๒06 ภาษาจีนสือ่ สาร 4 จานวน ๔๐ ชั่วโมง ๑.๐ หนว่ ยกติ รหัสวชิ า จ๓3๒07 ภาษาจนี สอ่ื สาร 5 จานวน ๔๐ ชว่ั โมง ๑.๐ หนว่ ยกติ รหัสวชิ า จ๓3๒08 ภาษาจนี สอื่ สาร 6 จานวน ๔๐ ชว่ั โมง ๑.๐ หนว่ ยกิต
ห ลั ก สู ต ร ส ถ า น ศึ ก ษ า | 546 คำอธิบำยรำยวชิ ำ รำยวชิ ำ ภำษำอังกฤษ 1 รหัสวิชำ อ21101 กล่มุ สำระกำรเรียนรู้ภำษำต่ำงประเทศ ชน้ั มธั ยมศกึ ษำปที ี่ 1 ภำคเรยี นท่ี 1 เวลำ 60 ชั่วโมง จำนวน 1.5 หน่วยกิต ปฏิบัตติ ามคาสั่ง คาแนะนา และคาช้ีแจงงา่ ย ๆ ที่ฟงั และอ่าน อา่ นออกเสยี งข้อความ นทิ านส้ัน ๆ ถูกต้องตาม หลักการอ่าน สามารถเข้าใจในเนื้อความของบทความและลาดับโครงสร้างประโยคของภาษาอังกฤษและเช่ือมโยงกับ โครงสร้างทางภาษาไทย เลือก/ระบุประโยคและข้อความให้สัมพันธ์กับสื่อที่ไม่ใช่ความเรียง ระบุหัวข้อเรื่อง ใจความ สาคัญ และตอบคาถามจากการฟังและอ่านบทสนทนา นิทาน เร่ืองสั้น สนทนาแลกเปล่ียนข้อมูลเกี่ยวกับตนเอง กจิ กรรม และสถานการณต์ ่าง ๆ ในชวี ติ ประจาวัน ใชค้ าขอร้อง คาแนะนา และคาชแี้ จงตามสถานการณ์ พูดและเขียน แสดงความตอ้ งการ ขอความช่วยเหลือ ตอบรบั และปฏิเสธ การให้ความช่วยเหลอื ในสถานการณ์ต่าง ๆ อยา่ งเหมาะสม พูดและเขียนเพื่อขอและให้ข้อมูล แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องที่ฟังหรืออ่านอย่างเหมาะสม แสดงความรู้สึกและ ความคิดเห็นของตนเองเก่ียวกับเร่ืองต่าง ๆ ใกล้ตัว พร้อมให้เหตุผลประกอบ พูดและเขียนบรรยายเก่ียวกับตนเอง กิจวัตรประจาวนั ประสบการณ์ และสิ่งแวดล้อมใกล้ตัว สรุปใจความสาคัญ จากการวิเคราะห์เร่ือง แสดงความคิดเห็น เก่ียวกับกิจกรรมหรือเรื่องต่าง ๆ ใกล้ตัว พร้อมท้ังให้เหตุผลส้ัน ๆ ประกอบ ใช้ภาษา น้าเสียง และกิริยาท่าทางสุภาพ เหมาะสมตามมารยาทสังคม และวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา บรรยายเกี่ยวกับเทศกาล วันสาคัญ ชีวิตความเป็นอยู่ และประเพณขี องเจ้าของภาษากับของไทย เขา้ รว่ มกิจกรรมทางภาษาและวฒั นธรรมตามความสนใจ บอกความเหมือน และความแตกต่างระหวา่ งการออกเสียงประโยคชนดิ ต่าง ๆ เปรียบเทียบความเหมือนและความแตกต่างวิถีชีวติ ความ เปน็ อยู่ของภาษาตา่ งประเทศและภาษาไทย ค้นคว้า รวบรวมและสรุปข้อมูลท่ีเกี่ยวข้องกบั กลมุ่ สาระการเรยี นรอู้ น่ื และ นามาเสนอ ส่อื สารในสถานการณ์จริงท่เี กิดขึน้ และใชภ้ าษาต่างประเทศในการสืบคน้ /ค้นคว้าความรู้/ขอ้ มูลต่าง ๆ จาก ส่ือและแหล่งการเรียนรตู้ า่ ง ๆ ในการศกึ ษาตอ่ และประกอบอาชีพ อีกทั้งสามารถประยุกต์ทักษะการใช้ภาษาอังกฤษครบท้ังหมดเพื่อเป็นแนวทางในการเรียนรตู้ ลอดชีพและเป็น ทักษะชีวิตในการติดต่อสื่อสารตามแนวทางการเรียนภาษาเพ่อื การสื่อสาร (Communicative Language Teaching) และการเรียนร้ใู นศตวรรษที่ 21 (21st Century Skills) ทั้งหมดน้ีเพ่ือให้ผู้เรยี นเกิดความรู้ ความคิด ความเข้าใจ เห็น คุณค่าในการเรียนภาษาอังกฤษ สามารถใช้ภาษาอังกฤษในการสื่อสารได้เหมาะสมกับบุคคล สังคม สถานการณ์และ โอกาสตามวัฒนธรรมของตนเอง รวมทั้งวฒั นธรรมของเจ้าของภาษา อย่างมีคณุ ธรรม จรยิ ธรรม และคา่ นิยมทเี่ หมาะสม ตัวช้ีวดั ต 1.1 ม.1/1, ม.1/2, ม.1/3, ม.1/4 ต 1.2 ม.1/1, ม.1/2, ม.1/3, ม.1/4, ม.1/5 ต 1.3 ม.1/1, ม.1/2, ม.1/3 ต 2.1 ม.1/1, ม.1/2, ม.1/3 ต 2.2 ม.1/1, ม.1/2 ต 3.1 ม.1/1 ต 4.1 ม.1/1 ต 4.2 ม.1/1 รวม 20 ตัวช้ีวดั
ห ลั ก สู ต ร ส ถ า น ศึ ก ษ า | 547 โครงสรำ้ งรำยวิชำภำษำอังกฤษพนื้ ฐำน 1 รหัสวิชำ อ21101 กลุม่ สำระกำรเรยี นรภู้ ำษำตำ่ งประเทศ ชน้ั มธั ยมศึกษำปที ี่ 1 ภำคเรยี นที่ 1 จำนวน 1.5 หน่วยกิต เวลำ 3 คำบ/สปั ดำห์ หน่วย ชอื่ หนว่ ย มำตรฐำนกำร สำระสำคัญ เวลำ น้ำหนัก ท่ี กำรเรยี นรู้ เรียนร/ู้ ตัวชว้ี ัด (ชวั่ โมง) คะแนน 1 We are ต1.1 ม. -ก าร รู้คาศัพ ท์ท่ีใช้เรียก สมาชิกใน 14 10 family 1/1,2,3 ครอบครัว ช่วยให้สามารถพูดขอและให้ ต1.1 ม.1/4 ข้ อ มู ล ส่ ว น ตั ว ไ ด้ แ ล ะ ส่ื อ ส า ร ต าม ต1.3 ม.1/1 โครงสร้างภาษาได้อยา่ งถกู ตอ้ ง ต2.2 ม.1/1 -การนาคาศัพท์ที่ใช้เรียกสมาชิ กใน ต3.1 ม.1/1 ครอบครัว อาชีพของคนในครอบครัว ต4.1 ม.1/1 และบรรยายลักษณะ ช่วยให้สามารถ สื่อสาร ถ่ายทอดข้อมูลส่วนตัวได้อย่าง 1.2 ม.1/1, 4, ถูกตอ้ ง 5 - การรู้คาศัพท์ที่ใช้บรรยายลักษณะ ช่วย ใ ห้ ส า ม า ร ถ พู ด แ ล ะ เ ขี ย น บ อ ก ข้ อ มู ล ส่วนตวั ได้ และส่ือสารตามโครงสร้างภาษาได้อย่าง ถกู ต้อง 2 Back to ต1.1 ม. -การรู้คาศัพท์เรยี กอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่ใช้ใน 14 10 school 1/1,2,3,4 การเรียน ช่วยใหส้ ามารถพูดและให้ข้อมูล ต1.2 ม. ส่วนตัวได้ และส่ือสารตามโครงสร้าง 1/1,3,4 ภาษาได้อย่างถูกตอ้ ง ต1.3 ม.1/1,3 - ก า ร รู้ ค า ศั พ ท์ ที่ ใ ช้ ถ า ม เ ก่ี ย ว กั บ ต2.1 ม.1/1,3 สิ่งแวดล้อมใกล้ตัว ช่วยให้สามารถพูดขอ ต2.2 ม.1/1 และให้ข้อมูลส่วนตัวได้และสื่อสารตาม ต3.1 ม.1/1 โครงสร้างภาษาได้อยา่ งถกู ตอ้ ง ต4.1 ม.1/1 - การนาคาศพั ท์ที่ใช้เรยี กสิ่งใกล้ตัว การใช้ ต4.2 ม.1/1 คาบุพบททีถ่ กู ต้อง ช่วยใหส้ ามารถส่ือสาร ขอ้ มลู ได้ หนว่ ย ชื่อหนว่ ย มำตรฐำนกำร สำระสำคัญ เวลำ นำ้ หนัก ท่ี กำรเรียนรู้ เรยี นรู้/ ตัวช้วี ัด - (ช่ัวโมง) คะแนน Review Unit - 1- 1-2 ทดสอบกลางภาคเรียน 1 20
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273
- 274
- 275
- 276
- 277
- 278
- 279
- 280
- 281
- 282
- 283
- 284
- 285
- 286
- 287
- 288
- 289
- 290
- 291
- 292
- 293
- 294
- 295
- 296
- 297
- 298
- 299
- 300
- 301
- 302
- 303
- 304
- 305
- 306
- 307
- 308
- 309
- 310
- 311
- 312
- 313
- 314
- 315
- 316
- 317
- 318
- 319
- 320
- 321
- 322
- 323
- 324
- 325
- 326
- 327
- 328
- 329
- 330
- 331
- 332
- 333
- 334
- 335
- 336
- 337
- 338
- 339
- 340
- 341
- 342
- 343
- 344
- 345
- 346
- 347
- 348
- 349
- 350
- 351
- 352
- 353
- 354
- 355
- 356
- 357
- 358
- 359
- 360
- 361
- 362
- 363
- 364
- 365
- 366
- 367
- 368
- 369
- 370
- 371
- 372
- 373
- 374
- 375
- 376
- 377
- 378
- 379
- 380
- 381
- 382
- 383
- 384
- 385
- 386
- 387
- 388
- 389
- 390
- 391
- 392
- 393
- 394
- 395
- 396
- 397
- 398
- 399
- 400
- 401
- 402
- 403
- 404
- 405
- 406
- 407
- 408
- 409
- 410
- 411
- 412
- 413
- 414
- 415
- 416
- 417
- 418
- 419
- 420
- 421
- 422
- 423
- 424
- 425
- 426
- 427
- 428
- 429
- 430
- 431
- 432
- 433
- 434
- 435
- 436
- 437
- 438
- 439
- 440
- 441
- 442
- 443
- 444
- 445
- 446
- 447
- 448
- 449
- 450
- 451
- 452
- 453
- 454
- 455
- 456
- 457
- 458
- 459
- 460
- 461
- 462
- 463
- 464
- 465
- 466
- 467
- 468
- 469
- 470
- 471
- 472
- 473
- 474
- 475
- 476
- 477
- 478
- 479
- 480
- 481
- 482
- 483
- 484
- 485
- 486
- 487
- 488
- 489
- 490
- 491
- 492
- 493
- 494
- 495
- 496
- 497
- 498
- 499
- 500
- 501
- 502
- 503
- 504
- 505
- 506
- 507
- 508
- 509
- 510
- 511
- 512
- 513
- 514
- 515
- 516
- 517
- 518
- 519
- 520
- 521
- 522
- 523
- 524
- 525
- 526
- 527
- 528
- 529
- 530
- 531
- 532
- 533
- 534
- 535
- 536
- 537
- 538
- 539
- 540
- 541
- 542
- 543
- 544
- 545
- 546
- 547
- 548
- 549
- 550
- 551
- 552
- 553
- 554
- 555
- 556
- 557
- 558
- 559
- 560
- 561
- 562
- 563
- 564
- 565
- 566
- 567
- 568
- 569
- 570
- 571
- 572
- 573
- 574
- 575
- 576
- 577
- 578
- 579
- 580
- 581
- 582
- 583
- 584
- 585
- 586
- 587
- 588
- 589
- 590
- 591
- 592
- 593
- 594
- 595
- 596
- 597
- 598
- 599
- 600
- 601
- 602
- 603
- 604
- 605
- 606
- 607
- 608
- 609
- 610
- 611
- 612
- 613
- 614
- 615
- 616
- 617
- 618
- 619
- 620
- 621
- 622
- 623
- 624
- 625
- 626
- 627
- 628
- 629
- 630
- 631
- 632
- 633
- 634
- 635
- 636
- 637
- 638
- 639
- 640
- 641
- 642
- 643
- 644
- 645
- 646
- 647
- 648
- 649
- 650
- 651
- 652
- 653
- 654
- 655
- 656
- 657
- 658
- 659
- 660
- 661
- 662
- 663
- 664
- 665
- 666
- 667
- 668
- 669
- 670
- 671
- 672
- 673
- 674
- 675
- 676
- 677
- 678
- 679
- 680
- 681
- 682
- 683
- 684
- 685
- 686
- 687
- 688
- 689
- 690
- 691
- 692
- 693
- 694
- 695
- 696
- 697
- 698
- 699
- 700
- 701
- 702
- 703
- 704
- 705
- 706
- 707
- 708
- 709
- 710
- 711
- 712
- 713
- 714
- 715
- 716
- 717
- 718
- 719
- 720
- 721
- 722
- 723
- 724
- 725
- 726
- 727
- 728
- 729
- 730
- 731
- 732
- 733
- 734
- 735
- 736
- 737
- 738
- 739
- 740
- 741
- 742
- 743
- 744
- 745
- 746
- 747
- 748
- 749
- 750
- 751
- 752
- 753
- 754
- 755
- 756
- 757
- 758
- 759
- 760
- 761
- 762
- 763
- 764
- 765
- 766
- 767
- 768
- 769
- 770
- 771
- 1 - 50
- 51 - 100
- 101 - 150
- 151 - 200
- 201 - 250
- 251 - 300
- 301 - 350
- 351 - 400
- 401 - 450
- 451 - 500
- 501 - 550
- 551 - 600
- 601 - 650
- 651 - 700
- 701 - 750
- 751 - 771
Pages: