111 ษณะอนั พึงประสงค์ แลว้ ขดี ✓ลงในช่องท่ีตรงกบั ระดบั คะแนน ลาวา่ งให้ รจู้ ักจัดสรรเวลาให้ ต้งั ใจเรียน มคี วามต้ังใจและ รวม ยชน์ และ เหมาะสม พยายามในการ 15 ปฏิบตั ิได้ ทำงานทไ่ี ดร้ ับ คะแนน มอบหมาย 1321321321 ✓✓ ✓✓ 8 10 ✓✓✓✓ 10 15 ✓✓✓✓ 15 10 ✓✓✓ 10 10 ✓✓✓ 9 8 ✓✓✓✓ 8 8 ✓✓✓✓ 15 10 ✓✓✓✓ ✓✓✓ ✓ ✓✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓✓ ✓ ✓ ✓✓ ✓✓✓ ✓ ✓✓ ✓
15 นางสาวพชั รนิ ทร์ สวุ รรณพรม ✓ ✓ 16 นางสาววราพร พมิ ไพ ✓ ✓ ✓ 17 นางสาววิราภา รวมรัตน์ ✓ ✓ 18 นางสาววิสา ชนะมูล ✓ ✓ 19 นางสาวอภญิ ญา ปัทมอมั รนิ ทร์ ✓ เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ให้ 3 คะแนน เกณ พฤติกรรมทป่ี ฏิบัตชิ ดั เจนและสม่ำเสมอ ให้ 2 คะแนน พฤตกิ รรมท่ปี ฏิบตั ิชดั เจนและบอ่ ยครง้ั ให้ 1 คะแนน ช่วงคะแ พฤตกิ รรมท่ปี ฏิบตั บิ างครั้ง 14-1 11-1 8-10 ต่ำกว่า
112 ✓✓✓ 15 15 ✓✓✓ 10 ✓✓✓✓ 10 15 ✓✓✓✓ ✓✓✓ ลงชื่อ .................................................. ผู้ประเมิน ............/.................../............ ณฑ์การตดั สินคุณภาพ แนน ระดบั คณุ ภาพ 15 ดีมาก 13 ดี 0 พอใช้ า 8 ปรบั ปรุง
113 บนั ทึกหลงั การจัดการเรียนรู้ 1. ผลการจัดการเรยี นการสอน • ด้านความรู้ - นักเรยี นมคี วามรู้ความเขา้ ใจในเนื้อหา - นักเรียนสามารถอธบิ ายขนาดอะตอมและรศั มีไอออนของธาตุเรพรเี ซนเททฟี ตามหมแู่ ละตามคาบได้ - นักเรยี นสามารถวิเคราะหแ์ ละบอกแนวโนม้ ของขนาดอะตอมและรัศมีไอออนของธาตุได้ • ดา้ นสมรรถนะสำคญั ของผูเ้ รยี น - นักเรยี นมีทักษะและกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ตามเกณฑท์ ีค่ รกู ำหนด • ดา้ นคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ - นกั เรยี นทกุ คนมคี วามใฝ่เรยี นรู้ - มคี วามตรงต่อเวลาในการเข้าเรยี น - นักเรียนมีความม่งุ มนั่ ตงั้ ใจในการเรียนรู้ - มวี ินัยในการเรยี น • ดา้ นอน่ื ๆ (พฤตกิ รรมเดน่ หรือพฤติกรรมทม่ี ีปญั หาของนักเรยี นเป็นรายบคุ คล (ถา้ ม)ี ) - 2. ปญั หา / อปุ สรรค - มนี กั เรยี นบางคนไม่สามารถเข้ามาเรียนออนไลน์ได้ เน่อื งจากไม่มีความพร้อมในเร่ืองของอปุ กรณ์การเรยี น - นกั เรยี นบางคนตามไมท่ ัน ไม่สนใจฟงั 3. ขัน้ เสนอแนะ / แนวทางแก้ไข -หากจิ กรรมชกั ชวนให้แดก็ เกิดความสนใจมากข้นึ ลงชอื่ ..................................................................ผ้เู ขียนแผนการจัดการเรยี นรู้ (นางสาวณฐั ธดิ า ชากรแก้ว) ......................./................/.................... ลงชื่อ..................................................................ผตู้ รวจ (นางสาววารุณี อิทธพิ ัทธ์อเนก) ......................./................/....................
114 แผนการจัดการเรยี นรูท้ ่ี 10 กลมุ่ สาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ระดับช้ันมธั ยมศกึ ษาปที ่ี 4 หน่วยการเรียนรทู้ ี่ 2 เร่ือง อะตอมและสมบตั ขิ องธาตุ เร่ือง พลังงานไอออไนเซชนั วิชา เคมี 1 รหสั ว31223 เวลาเรยี น 1 ชว่ั โมง จำนวน 1.0 หน่วยกิต ครูผ้สู อน นางสาวณัฐธิดา ชากรแกว้ สาระการเรยี นรู้ เขา้ ใจโครงสร้างอะตอม การจดั เรียงธาตใุ นตารางธาตุ สมบตั ิของธาตุ พนั ธะเคมแี ละสมบัติของสาร แก๊ส และสมบตั ิของแก๊ส ประเภทและสมบัตขิ องสารประกอบอินทรีย์และพอลิเมอร์ รวมท้ังการนําความรไู้ ปใช้ ประโยชน์ ผลการเรยี นรู้ วเิ คราะหแ์ ละบอกแนวโนม้ สมบตั ิของธาตเุ รพรเี ซนเททฟี ตามหมูแ่ ละตามคาบ จุดประสงค์การเรยี นรู้ ด้านความรู้ (Knowledge) 1. อธบิ ายพลังงานไอออไนเซชันของธาตุเรพรีเซนเททฟี ตามหมู่และตามคาบได้ ดา้ นทักษะ (Process) 2. วิเคราะหแ์ ละบอกแนวโนม้ ของพลงั งานไอออไนเซชันของธาตเุ รพรีเซนเทเทีฟตามหมแู่ ละตามคาบได้ ดา้ นคุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ (Affective) 3. ตงั้ ใจในการเรียนรู้ และแสวงหาความรู้ สาระสำคญั หรือความคิดรวบยอด ธาตุเรพรเี ซนเททฟี ในหมูเ่ ดยี วกนั จะมจี ำนวนเวเลนซ์อเิ ลก็ ตรอนเท่ากนั และธาตทุ ีอ่ ยใู่ นคาบเดียวกันจะมี เวเลนซอ์ ิเลก็ ตรอนอยูใ่ นระดบั พลังงานหลักเดียวกัน ทำให้ธาตเุ รพรเี ซนเททีฟมีสมบตั คิ ล้ายคลงึ กนั ตามหมูแ่ ละตาม คาบ สมรรถนะสำคัญของผเู้ รียน ความสามารถในการสื่อสาร ความสามารถในการคิด ความสามารถในการแกป้ ัญหา ความสามารถในการใช้ทกั ษะชีวิต ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ รกั ชาติ ศาสน์ กษตั รยิ ์ ซ่ือสตั ย์ มีวนิ ยั ใฝเ่ รยี นรู้
115 อยู่อยา่ งพอเพยี ง มุ่งม่ันในการทำงาน รกั ความเป็นไทย มจี ติ สาธารณะ กจิ กรรมการเรยี นรู้ ผ่านวิธีการสอนแบบออนไลน์ โดยผา่ นแอพพลเิ คชั่น Google meet วิธสี อนโดยใช้กระบวนการสบื เสาะหาความรู้ (Inquiry Cycle หรอื Inquiry Method : 5E) ขัน้ ที่ 1 ข้นั กระต้นุ ความสนใจ (Engagement) 5 นาที 1.1 ครทู บทวนเก่ยี วกับการเกดิ สเปกตรมั วา่ เสน้ สเปกตรัมเกดิ จากพลังงานที่อิเล็กตรอนคายออกมาเมื่อ จะเปลี่ยนระดับช้ันพลังงานจากระดับสูงไประดับต่ำ แต่อเิ ล็กตรอนไม่ได้หลดุ ไปจากอะตอมด้วย ซ่ึงการจะทำให้ อิเล็กตรอนหลุดออกไปจากอะตอมได้ ต้องใช้พลังงานที่สูงกว่าการทำให้อิเล็กตรอนเปลี่ยนระดับชั้นพลังงาน เรียกว่า พลังงานไอออไนเซชนั ขัน้ ท่ี 2 ข้ันสำรวจและคน้ หา (Exploration) 25 นาที 2.1 ครูให้นกั เรียนจบั คูก่ ับเพื่อน แล้วศึกษาเร่ือง พลังงานไอออไนเซชัน จากหนังสือเรียนเคมี แล้วสรปุ ความรู้ท่ีได้ลงในสมดุ บันทึกของนกั เรียน 2.2 ครูสุ่มตัวแทนนกั เรยี น 2 คู่ ออกมาสรปุ ความรู้ เร่อื ง พลังงานไอออไนเซชนั ให้เพอื่ นฟังหนา้ ช้ันเรียน ขั้นท่ี 3 อธิบายและลงข้อสรุป (Explanation) 10 นาที 3.1 ครตู ัง้ คำถามให้นกั เรียนร่วมกนั อภิปรายเร่อื ง พลังงานไอออไนเซชนั เช่น 1) พลังงานไอออไนเซชนั คอื อะไร (แนวตอบ : พลังงานไอออไนเซชัน คอื ค่าพลงั งานท่ีนอ้ ยที่สดุ ท่ีใชใ้ นการดึงอิเล็กตรอนให้หลุดออก จากอะตอมในสภาวะแก๊ส) 2) ธาตเุ รพรเี ซนเททีฟมแี นวโนม้ ของพลังงานไอออไนเซชนั ลำดับท่ี 1 ตามหมูแ่ ละตามคาบเปน็ อยา่ งไร (แนวตอบ : ในหมู่เดยี วกัน พลงั งานไอออไนเซชนั ลำดบั ที่ 1 (IE1) จะลดลง เม่อื เลขอะตอมเพ่ิมข้ึน ในคาบเดียวกัน พลังงานไอออไนเซชันลำดับที่ 1 (IE1) จะเพิ่มขึ้น เมื่อเลขอะตอม เพมิ่ ข้ึน) 3.2 ครแู ละนักเรยี นร่วมกนั อภิปรายเกี่ยวกับพลังงานไอออไนเซชัน ซึ่งเม่ือเรยี นจบหวั ข้อน้ีแล้ว นักเรียน ควรสรุปสาระสำคญั ได้ ดงั นี้ • พลังงานไอออไนเซชันเป็นพลังงานปริมาณน้อยที่สุดที่ทำให้อิเล็กตรอนหลุดออกจากอะตอมใน สถานะแก๊ส ซึ่งพลังงานไอออไนเซชันจะมีค่ามากหรือน้อยขึ้นอยู่กบั แรงดงึ ดดู ระหว่างโปรตอนใน นิวเคลยี สกบั อเิ ล็กตรอน ถ้าอเิ ล็กตรอนไดร้ บั แรงดึงดดู จากนวิ เคลียสมาก พลงั งานไอออไนเซชันก็จะ สงู • ธาตุทม่ี หี ลายอเิ ล็กตรอนจะมีพลังงานไอออไนเซชนั ได้หลายค่า โดยพลงั งานไอออไนเซชันลำดับท่ี 1 จะมคี ่านอ้ ยกวา่ ลำดับสูงขึ้นไป • อเิ ลก็ ตรอนท่อี ยู่ในระดับพลังงานเดยี วกันจะมคี ่าพลงั งานไอออไนเซชนั ใกล้เคียงกัน แตถ่ า้ อย่ใู นระดับ พลังงานตา่ งกนั ค่าพลงั งานไอออไนเซชันก็จะต่างกันมาก
116 • พลังงานไอออไนเซชันลำดับที่ 1 ของธาตุในหมู่เดียวกันจะมีค่าลดลง เมื่อเลขอะตอมเพิ่มข้ึน เนอื่ งจากอะตอมมีขนาดใหญ่ข้ึน เวเลนซ์อิเล็กตรอนอยหู่ ่างจากโปรตอนมากขึน้ • พลังงานไอออไนเซชันลำดับที่ 1 ของธาตุในคาบเดียวกันจะมีค่าเพิ่มขึ้น เมื่อเลขอะตอมเพิ่มขึ้น เน่ืองจากแรงดึงดดู ระหว่างโปรตอนและอเิ ลก็ ตรอนมคี ่ามากขน้ึ ข้นั ท่ี 4 ข้ันขยายความรู้ (Elaboration) 10 นาที 4.1 ครแู ละนักเรยี นร่วมกันสรปุ ความรเู้ รือ่ ง พลงั งานไอออไนเซชัน จนนักเรียนเกดิ ความเขา้ ใจทต่ี รงกนั ข้ันท่ี 5 ขน้ั ประเมิน (Evaluation) 10 นาที 5.1 ครปู ระเมนิ ผลโดยการสังเกตการตอบคำถาม และการร่วมกันทำผลงาน สือ่ วสั ดุ อปุ กรณ์ และแหล่งการเรียนรู้ ส่อื /วสั ดุ/อุปกรณ์ แหล่งการเรยี นรู้ 1. PowerPoint เร่ือง พลงั งานไอออไนเซชนั 1. หนังสือเรียนรายวิชาเพม่ิ เติมวทิ ยาศาสตร์ เคมี เลม่ 1 ช้นั มธั ยมศกึ ษาปีที่ 4 2. ใบกิจกรรมการเรยี นรู้ 3. อินเตอรเ์ นต็ การประเมินการเรยี นรู้ การวดั ผลประเมนิ ด้าน วิธีการวดั ผล เครอื่ งมอื ทีใ่ ช้วัดผล เกณฑ์การ ประเมินผล 1.ด้านความรู้ (K) - การนำเสนอผลงานหนา้ ชีน้ เรยี น - การนำเสนอผลงานหนา้ -ระดับคุณภาพ 3 ช้ีนเรียน ผ่านเกณฑ์ 2. ด้านทักษะ/ -การนำเสนอผลงานหน้าชีน้ เรียน -แบบประเมนิ การ -ระดบั คณุ ภาพ 3 กระบวนการ (P) นำเสนอหนา้ ชีน้ เรียน ผา่ นเกณฑ์ 3. ดา้ นคุณลกั ษณะอันพึง -การสังเกตพฤติกรรมรายบุคคล -แบบสังเกตพฤติกรรม -ระดับคณุ ภาพ 3 ประสงค์ (A) รายบคุ คล ผา่ นเกณฑ์
แบบสังเกตพฤติกร คำชแี้ จง : ใหผ้ ู้สอนสังเกตพฤตกิ รรมของนักเรยี นในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรยี น แล้ว ลำดบั ท่ี ช่อื –สกลุ การแสดง การยอมรับฟงั คน ของนักเรยี น ความคิดเหน็ 1 2 เดก็ ชายณัฐพร ทับเจริญ 32132 3 เด็กชายธนากร รุ่งฟ้า 4 เด็กชายบญุ ฤทธิ์ เสนมา ✓✓ 5 เด็กหญิงตวงรัตน์ กิจขยัน 6 เด็กหญิงมณมี ัญชุ์ ดว้ งแสง ✓✓ 7 นายกษิดิเ์ ดช ชูภักด์ิ ✓✓ 8 นายชยั วัฒน์ คำแหง 9 นายทรงพล แคนศิลา ✓✓ 10 เดก็ ชายธีรภทั ร เอีย่ มบุญ ✓✓ 11 นายธันวา เนาวศ์ รี 12 นายสุทศั น์ เลไทสงค์ ✓✓ 13 เด็กชายอภชิ าติ ชนะมลู ✓✓ 14 นางสาวนันทิกานต์ ถาวร 15 นางสาวนรมน พลเยยี่ ม ✓✓ 16 นางสาวพชั รินทร์ สวุ รรณพรม ✓✓ 17 นางสาววราพร พิมไพ 18 นางสาววิราภา รวมรัตน์ ✓✓ นางสาววิสา ชนะมลู ✓✓ ✓✓ ✓✓ ✓✓ ✓✓ ✓✓ ✓✓ ✓✓
117 รรมการทำงานกลุม่ วขดี ✓ลงในชอ่ งที่ตรงกับระดบั คะแนน การทำงาน ความมีนำ้ ใจ การมี รวม นอนื่ ตามที่ได้รับ สว่ นร่วมในการ 15 คะแนน มอบหมาย ปรบั ปรงุ ผลงานกลุ่ม 10 1321321 11 321 10 ✓✓ 14 ✓ 15 ✓✓ ✓ 8 ✓✓ 8 ✓ 8 ✓✓ ✓ 9 ✓✓ ✓ 9 ✓ 7 ✓✓ ✓ 9 ✓ ✓✓ ✓ 15 ✓ 10 ✓ ✓✓ ✓ 12 ✓ ✓✓ ✓ 12 ✓ 9 ✓ ✓✓ ✓ 9 ✓ ✓✓ ✓ ✓✓✓ ✓ ✓ ✓✓ ✓✓ ✓ ✓ ✓✓ ✓✓ ✓✓ ✓✓
19 นางสาวอภิญญา ปัทมอมั รนิ ทร์ ✓ ✓ เกณฑก์ ารให้คะแนน ให้ 3 คะแนน ปฏบิ ตั หิ รือแสดงพฤติกรรมอย่างสม่ำเสมอ ให้ 2 คะแนน ปฏบิ ัตหิ รือแสดงพฤตกิ รรมบอ่ ยครงั้ ให้ 1 คะแนน ปฏิบัตหิ รือแสดงพฤติกรรมบางคร้ัง เกณฑก์ ารตดั สิน ช่วงคะแนน 14–15 11–13 8–10 ต่ำกว่า 8
✓✓✓ 118 ลงชื่อ ................................................... ผู้ประเมนิ 15 ............./.................../............... นคุณภาพ ระดับคุณภาพ ดีมาก ดี พอใช้ ปรบั ปรุง
แบบประเมนิ คณุ ลักษ คำชีแ้ จง : ให้ผสู้ อนสงั เกตพฤติกรรมของนกั เรยี นในระหว่างเรียนและนอกเวลาเ ปฏบิ ตั ิตามข้อตกลง กฎเกณฑ์ ระเบยี บ ลำดับที่ ช่ือ–สกุล ข้อบงั คับในช้ันเรียน รจู้ ักใชเ้ วล ของนักเรยี น เป็นประโย มคี วามตรงต่อเวลา ในการปฏบิ ัติกจิ กรรม นำไปป ต่าง ๆ และ รบั ผดิ ชอบในการ ทำงาน 1 เดก็ ชายณัฐพร ทบั เจรญิ 32132 ✓✓ 2 เด็กชายธนากร รงุ่ ฟ้า ✓✓ 3 เด็กชายบุญฤทธ์ิ เสนมา ✓ ✓ 4 เดก็ หญิงตวงรัตน์ กจิ ขยัน ✓ ✓ 5 เด็กหญิงมณมี ัญชุ์ ดว้ งแสง ✓ ✓ 6 นายกษิดเิ์ ดช ชภู ักดิ์ ✓✓ 7 นายชัยวฒั น์ คำแหง ✓✓ 8 นายทรงพล แคนศิลา ✓✓ 9 เด็กชายธรี ภัทร เอ่ียมบญุ ✓ ✓ 10 นายธันวา เนาว์ศรี ✓ 11 นายสุทศั น์ เลไทสงค์ ✓✓ 12 เดก็ ชายอภิชาติ ชนะมลู ✓ ✓ 13 นางสาวนันทิกานต์ ถาวร ✓ ✓ 14 นางสาวนรมน พลเยย่ี ม ✓ ✓ 15 นางสาวพัชรนิ ทร์ สุวรรณพรม ✓ ✓
119 ษณะอันพงึ ประสงค์ เรียน แล้วขีด ✓ลงในช่องที่ตรงกับระดบั คะแนน ลาวา่ งให้ รจู้ ักจัดสรรเวลาให้ ตงั้ ใจเรียน มคี วามต้ังใจและ รวม ยชน์ และ เหมาะสม พยายามในการ 15 ปฏิบตั ไิ ด้ ทำงานที่ไดร้ บั คะแนน มอบหมาย 1321321321 ✓✓ ✓✓ 8 10 ✓✓✓✓ 10 15 ✓✓✓✓ 15 10 ✓✓✓ 10 10 ✓✓✓ 9 8 ✓✓✓✓ 8 8 ✓✓✓✓ 15 10 ✓✓✓✓ 15 ✓✓✓ ✓ ✓✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓✓ ✓ ✓ ✓✓ ✓✓✓ ✓ ✓✓ ✓ ✓✓✓
16 นางสาววราพร พมิ ไพ ✓ ✓ 17 นางสาววริ าภา รวมรัตน์ ✓ ✓ ✓ 18 นางสาววิสา ชนะมลู ✓ ✓ 19 นางสาวอภญิ ญา ปัทมอมั รนิ ทร์ ✓ เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ให้ 3 คะแนน เกณ พฤติกรรมทป่ี ฏิบัตชิ ดั เจนและสมำ่ เสมอ ให้ 2 คะแนน ชว่ งคะแ พฤตกิ รรมที่ปฏิบตั ิชดั เจนและบอ่ ยครงั้ ให้ 1 คะแนน พฤติกรรมทป่ี ฏิบัติบางครั้ง 14-1 11-1 8-10 ตำ่ กวา่
120 ✓✓✓ 15 10 ✓✓✓✓ 10 ✓✓✓✓ 15 ✓✓✓ ลงชื่อ .................................................. ผ้ปู ระเมนิ ............/.................../............ ณฑก์ ารตัดสินคณุ ภาพ แนน ระดับคุณภาพ 15 ดีมาก 13 ดี 0 พอใช้ า 8 ปรับปรงุ
121 บันทึกหลงั การจดั การเรยี นรู้ 1. ผลการจดั การเรียนการสอน • ด้านความรู้ - นกั เรียนมีความรู้ความเขา้ ใจในเน้ือหา - นกั เรยี นสามารถอธิบายพลงั งานไอออไนเซชนั ของธาตุเรพรเี ซนเททฟี ตามหมู่และตามคาบได้ - นกั เรยี นสามารถวิเคราะห์และบอกแนวโน้มของพลังงานไอออไนเซชนั ของธาตุเรพรีเซนเทเทีฟตามหมู่และตาม คาบได้ • ดา้ นสมรรถนะสำคญั ของผูเ้ รยี น - นักเรียนมีทักษะและกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ตามเกณฑ์ท่ีครูกำหนด • ดา้ นคณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ - นักเรยี นทกุ คนมีความใฝ่เรียนรู้ - มคี วามตรงต่อเวลาในการเข้าเรยี น - นกั เรยี นมีความม่งุ ม่นั ต้ังใจในการเรยี นรู้ - มวี ินยั ในการเรียน • ดา้ นอืน่ ๆ (พฤตกิ รรมเดน่ หรือพฤตกิ รรมท่มี ีปัญหาของนักเรียนเปน็ รายบุคคล (ถ้าม)ี ) - 2. ปญั หา / อปุ สรรค - 3. ขนั้ เสนอแนะ / แนวทางแกไ้ ข - ลงชอ่ื ..................................................................ผูเ้ ขียนแผนการจดั การเรยี นรู้ (นางสาวณฐั ธิดา ชากรแกว้ ) ......................./................/.................... ลงชือ่ ..................................................................ผตู้ รวจ (นางสาววารณุ ี อิทธพิ ัทธ์อเนก) ......................./................/....................
122 แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 11 กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ระดับชน้ั มัธยมศึกษาปที ่ี 4 หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 2 เรื่อง อะตอมและสมบตั ขิ องธาตุ เรื่อง อิเล็กโทรเนกาตวิ ติ ีและสัมพรรคภาพอิเล็กตรอน วิชา เคมี 1 รหสั ว31223 เวลาเรียน 2 ช่ัวโมง จำนวน 1.0 หนว่ ยกติ ครผู ูส้ อน นางสาวณัฐธิดา ชากรแก้ว สาระการเรยี นรู้ เขา้ ใจโครงสรา้ งอะตอม การจัดเรยี งธาตุในตารางธาตุ สมบัตขิ องธาตุ พนั ธะเคมีและสมบัตขิ องสาร แกส๊ และสมบัตขิ องแกส๊ ประเภทและสมบตั ิของสารประกอบอนิ ทรยี ์และพอลเิ มอร์ รวมทั้งการนาํ ความรูไ้ ปใช้ ประโยชน์ ผลการเรียนรู้ วเิ คราะห์และบอกแนวโนม้ สมบัตขิ องธาตุเรพรีเซนเททฟี ตามหมูแ่ ละตามคาบ จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ ด้านความรู้ (Knowledge) 1. อธบิ ายอเิ ล็กโทรเนกาตวิ ติ แี ละสมั พรรคภาพอิเล็กตรอนของธาตเุ รพรเี ซนเททีฟตามหมู่และตามคาบได้ ด้านทกั ษะ (Process) 2. วิเคราะห์และบอกแนวโน้มของอิเล็กโทรเนกาตวิ ิตีและสัมพรรคภาพอเิ ล็กตรอนของธาตเุ รพรเี ซนเทเทีฟ ตามหมแู่ ละตามคาบได้ ด้านคุณลักษณะอนั พึงประสงค์ (Affective) 3. ต้งั ใจในการเรยี นรู้ และแสวงหาความรู้ สาระสำคญั หรอื ความคิดรวบยอด ธาตุเรพรีเซนเททีฟในหม่เู ดยี วกันจะมีจำนวนเวเลนซอ์ เิ ลก็ ตรอนเท่ากนั และธาตุทอ่ี ยู่ในคาบเดยี วกนั จะมี เวเลนซอ์ เิ ล็กตรอนอยู่ในระดบั พลังงานหลักเดยี วกนั ทำให้ธาตเุ รพรเี ซนเททฟี มสี มบตั คิ ล้ายคลงึ กนั ตามหม่แู ละตาม คาบ สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รยี น ความสามารถในการสื่อสาร ความสามารถในการคดิ ความสามารถในการแก้ปัญหา ความสามารถในการใช้ทักษะชวี ติ ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ รักชาติ ศาสน์ กษัตรยิ ์ ซื่อสตั ย์ มีวินัย
123 ใฝ่เรียนรู้ อยอู่ ยา่ งพอเพยี ง มุ่งมนั่ ในการทำงาน รักความเปน็ ไทย มจี ติ สาธารณะ กจิ กรรมการเรยี นรู้ ผา่ นวิธีการสอนแบบออนไลน์ โดยผา่ นแอพพลิเคช่ัน Google meet วิธสี อนโดยใชก้ ระบวนการสบื เสาะหาความรู้ (Inquiry Cycle หรอื Inquiry Method : 5E) ขัน้ ที่ 1 ข้นั กระตุ้นความสนใจ (Engagement) 5 นาที 1.1 ครูทบทวนความรู้เก่ียวกับการรวมตวั ของอะตอมของธาตเุ กดิ เปน็ โมเลกลุ ของสารประกอบ โดยการใช้ อเิ ล็กตรอนร่วมกัน ขั้นที่ 2 ข้นั สำรวจและคน้ หา (Exploration) 40 นาที 2.1 ครูให้นักเรียนจับคู่กับเพื่อน แล้วศึกษาเรื่อง อิเล็กโทรเนกาติวิตีและสัมพรรคภาพอิเล็กตรอนจาก หนังสอื เรียนเคมี แลว้ สรปุ ความรทู้ ่ีได้ลงในสมดุ บันทึกของนักเรยี น 2.2 ครสู ่มุ ตัวแทนนกั เรียน 2 คู่ ออกมาสรปุ ความรู้ เรอื่ ง อเิ ลก็ โทรเนกาติวติ ีและสมั พรรคภาพอิเล็กตรอน ใหเ้ พ่ือนฟงั หน้าช้ันเรียน ข้นั ท่ี 3 อธิบายและลงข้อสรปุ (Explanation) 45 นาที 3.1 ครูตง้ั คำถามให้นกั เรียนร่วมกันอภปิ รายเร่ือง อเิ ลก็ โทรเนกาติวติ ี เช่น 1) อิเลก็ โทรเนกาตวิ ิตีคืออะไร (แนวตอบ : อิเล็กโทรเนกาติวิตี คือ ค่าความสามารถของอะตอมในการดึงดูดอิเล็กตรอนของ อะตอมคู่ท่ีเกิดพันธะ) 2) ธาตเุ รพรเี ซนเททฟี มีแนวโน้มของคา่ อิเล็กโทรเนกาตวิ ติ ตี ามหมแู่ ละตามคาบเปน็ อยา่ งไร (แนวตอบ : ในหมเู่ ดยี วกัน ค่าอเิ ล็กโทรเนกาติวิตี (EN) จะลดลง เม่ือเลขอะตอมเพมิ่ ขึ้น ในคาบเดียวกนั คา่ อเิ ล็กโทรเนกาตวิ ิตี (EN) จะเพิ่มข้ึน เมอ่ื เลขอะตอมเพม่ิ ข้ึน) 3.2 ครูและนักเรียนร่วมกันอภิปรายเก่ียวกับค่าอิเล็กโทรเนกาติวิตี ซึง่ เมอื่ เรียนจบหัวข้อนี้แล้ว นักเรียน ควรสรปุ สาระสำคัญได้ ดังน้ี • คา่ อิเลก็ โทรเนกาติวิตีของธาตุจะข้ึนอยู่กับแรงดึงดูดระหวา่ งนิวเคลยี สกบั อิเล็กตรอนคู่ที่ใช้ร่วมกัน ของอะตอมคู่หนง่ึ ๆ • คา่ อเิ ลก็ โทรเนกาตวิ ิตีของธาตุในหมู่เดียวกันจะมีคา่ ลดลง เม่อื เลขอะตอมเพ่ิมขึ้น เนื่องจากอะตอม มขี นาดใหญ่ขนึ้ • ค่าอเิ ล็กโทรเนกาตวิ ิตีของธาตุในคาบเดียวกนั จะมีคา่ เพม่ิ ข้ึน เมอ่ื เลขอะตอมเพิ่มข้ึน เนือ่ งจากอะตอม มขี นาดเลก็ ลง 3.3 ครูตง้ั คำถามใหน้ ักเรียนร่วมกนั อภปิ รายเรือ่ ง สัมพรรคภาพอิเล็กตรอน เช่น 1) สมั พรรคภาพอิเล็กตรอน คืออะไร (แนวตอบ : สมั พรรคภาพอิเล็กตรอน คือ คา่ พลังงานท่ีคายออกมาเมื่ออะตอมในสถานะแก๊สได้รับ อิเล็กตรอน 1 อเิ ล็กตรอน)
124 2) ธาตเุ รพรเี ซนเททีฟมีแนวโน้มของสัมพรรคภาพอเิ ลก็ ตรอนตามหมู่และตามคาบเป็นอยา่ งไร (แนวตอบ : ในหมเู่ ดยี วกนั ค่าสัมพรรคภาพอเิ ล็กตรอน (EA) จะลดลง เม่อื เลขอะตอมเพิ่มขน้ึ ในคาบเดยี วกัน คา่ สมั พรรคภาพอิเล็กตรอน (EA) จะเพมิ่ ขึ้น เมอื่ เลขอะตอมเพม่ิ ขนึ้ ) 3.4 ครแู ละนักเรยี นร่วมกนั อภปิ รายเก่ียวกบั สัมพรรคภาพอเิ ล็กตรอน ซึง่ เมื่อเรียนจบหัวข้อนแ้ี ลว้ นกั เรียน ควรสรุปสาระสำคัญได้ ดงั นี้ • คา่ สมั พรรคภาพอิเล็กตรอนเป็นค่าความสามารถในการรบั อิเลก็ ตรอนของธาตุ ซึง่ คือ พลังงานคาย ออกมาเมอื่ อะตอมในสถานะแกส๊ ได้รับอิเล็กตรอน 1 อเิ ล็กตรอน • อะตอมที่รบั อิเล็กตรอนได้ดี จะคายพลังงานออกมามาก ทำใหม้ คี ่าสัมพรรคภาพอเิ ล็กตรอนเป็นลบ มาก ส่วนอะตอมที่รับอิเล็กตรอนได้ยาก จะคายพลังงานออกมาน้อย ทำให้มีค่าสัมพรรคภาพ อเิ ลก็ ตรอนเป็นลบนอ้ ย หรอื เปน็ บวก • เมื่อพิจารณาตามหมู่ ธาตหุ มู่ 1A และ 2A มแี นวโนม้ รบั อเิ ล็กตรอนไดย้ ากจากบนลงล่าง สว่ นธาตุหมู่ 7A มีแนวโน้มรบั อิเลก็ ตรอนได้งา่ ย แต่การรับอิเลก็ ตรอนจะยากขนึ้ จากบนลงล่าง สว่ นธาตุหมู่อื่นยัง มีแนวโน้มไม่ชัดเจน • เมื่อพิจารณาตามคาบ ธาตุหมู่ 1A-3A มีแนวโน้มรับอิเล็กตรอนได้ยาก โดยธาตุหมู่ 2A จะรับ อิเล็กตรอนได้ยากที่สุด ส่วนธาตหุ มู่ 4A-7A มีแนวโนม้ รบั อิเล็กตรอนได้งา่ ย โดยธาตุหมู่ 7A จะรับ อเิ ลก็ ตรอนไดง้ ่ายทส่ี ดุ 3.5 ครใู หน้ กั เรยี นทำใบงานท่ี 2.7 เรือ่ ง สมบัติของธาตใุ นตารางธาตุ ขน้ั ท่ี 4 ข้นั ขยายความรู้ (Elaboration) 10 นาที 4.1 ครูและนักเรียนรว่ มกนั สรปุ ความรู้เรอื่ ง สมบตั ขิ องธาตุ จนนกั เรียนเกดิ ความเขา้ ใจท่ีตรงกนั ขน้ั ที่ 5 ขั้นประเมิน (Evaluation) 20 นาที 5.1 ครูประเมนิ ผลโดยการสงั เกตการตอบคำถาม และการร่วมกนั ทำผลงาน 5.2 ครตู รวจผลจากการทำใบงานท่ี 2.7 เรอื่ ง สมบตั ิของาตตุ ารางธาตุ สอื่ วัสดุ อุปกรณ์ และแหล่งการเรยี นรู้ สอื่ /วสั ดุ/อปุ กรณ์ แหล่งการเรยี นรู้ 1. PowerPoint เรื่อง อเิ ล็กโทรเนกาตวิ ติ ีและสัม 1. หนงั สือเรียนรายวชิ าเพ่มิ เติมวิทยาศาสตร์ เคมี เล่ม พรรคภาพอเิ ล็กตรอน 1 ชัน้ มธั ยมศึกษาปที ี่ 4 2. ใบงานที่ 2.7 เรื่อง สมบตั ิของธาตุในตารางธาตุ 2. ใบกิจกรรมการเรียนรู้ 3. อินเตอรเ์ น็ต การประเมินการเรียนรู้ การวัดผลประเมนิ ด้าน วิธกี ารวดั ผล เครอื่ งมือทใ่ี ชว้ ัดผล เกณฑก์ าร ประเมนิ ผล 1.ดา้ นความรู้ (K) - การนำเสนอผลงาน - การนำเสนอผลงาน -ระดับคุณภาพ 3 -ตรวจใบงาน 2.7 -ใบงานท่ี 2.7 ผา่ นเกณฑ์
2. ดา้ นทกั ษะ/ -การนำเสนอผลงาน -แบบประเมนิ การ 125 กระบวนการ (P) นำเสนอผลงาน -ระดบั คุณภาพ 3 ผ่านเกณฑ์ 3. ดา้ นคณุ ลักษณะอันพึง -การสงั เกตพฤตกิ รรมรายบคุ คล -แบบสงั เกตพฤติกรรม -ระดับคณุ ภาพ 3 ประสงค์ (A) รายบุคคล ผา่ นเกณฑ์
126 ใบงานที่ 2.7 เรอื่ ง สมบตั ิของธาตใุ นตารางธาตุ คำช้ีแจง : ให้นกั เรยี นตอบคำถามตอ่ ไปนี้ 1. ธาตุในหมูเ่ ดียวกันจะมแี นวโนม้ ของขนาดอะตอมเปน็ อย่างไร …………………………………………………………………………………………………………………………..………………………..… 2. ธาตุ A B และ C เป็นธาตุหมู่ 1A 2A และ 3A ตามลำดบั และอย่ใู นคาบเดียวกนั จงเรียงลำดับสมบัติตอ่ ไปนี้ จากมากไปน้อย 2.1 จดุ หลอมเหลว ………………………………………………………………..………………………..………………………………….. 2.2 พลงั งานไอออไนเซชันลำดบั ที่ 1 ………………………………………..………………………..………………………………….. 2.3 รศั มีไอออน ………………………………………………………………..………………………..……………………………………….. 3. K M N O P และ Q เป็นธาตุทอี่ ยู่ในหมูเ่ ดียวกันจากบนลงลา่ ง จงทำนายสมบัติของธาตตุ อ่ ไปน้ี 3.1 ธาตใุ ดควรมีขนาดอะตอมเล็กที่สุด ……..………………………………………..……..………………………………………..… 3.2 ธาตใุ ดควรมีคา่ อิเล็กโทรเนกาตวิ ิตีสงู ท่ีสุด ……..………………………………………..……..………………………………… 3.3 ธาตุ P ควรมพี ลงั งานไอออไนเซชนั ลำดบั ที่ 1 สูงหรือต่ำกว่าธาตุ F …………………………………………………… 4. จงเรยี งลำดับขนาดไอออนของไอออนตอ่ ไปนี้ 12Mg2+ 16S2- และ 19K+ จากเลก็ ไปใหญ่ …………………………………………………………………………………………………………………………..………………………..… 5. ธาตุชนิดหนึ่งมีค่าพลงั งานไอออไนเซชนั ดังน้ี 0.79 1.57 2.23 14.13 17.23 20.08 23.56 26.67 27.95 29.91 32.52 80.25 90.29 MJ/mol 5.1 ธาตุน้ีน่าจะเปน็ ธาตใุ ดในตารางธาตุ เพราะเหตุใด …………………………………………………………………………..… …………………………………………………………………………………………………………………………..……………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………..……………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………..……………………….. 5.2 ธาตุน้มี ีจำนวนอิเล็กตรอนทัง้ หมดเท่าใด ………………………………………………………….……..……………………….. 5.3 ธาตุนี้มเี ลขอะตอมเท่าใด ……………………………………………………………..………………………..……..……………… 6. คา่ อเิ ลก็ โทรเนกาตวิ ิตีของธาตุอโลหะเปน็ อย่างไร ธาตุอโลหะใดทม่ี ีค่าอิเลก็ โทรเนกาตวิ ติ ีสูงทีส่ ดุ ในตารางธาตุ …………………………………………………………………………………………………………………………..………………………..… .
ใบงานที่ 2.7 127 เรือ่ ง สมบตั ิของธาตุในตารางธาตุ เฉลย คำชี้แจง : ให้นกั เรียนตอบคำถามตอ่ ไปนี้ 1. ธาตใุ นหมู่เดียวกันจะมีแนวโนม้ ของขนาดอะตอมเป็นอยา่ งไร ธาตทุ ี่อยู่ในหมูเ่ ดียวกนั จะมขี นาดอะตอมใหญข่ ึ้น เม่ือเลขอะตอมเพิม่ ข้ึน 2. ธาตุ A B และ C เปน็ ธาตุหมู่ 1A 2A และ 3A ตามลำดบั และอยู่ในคาบเดยี วกัน จงเรยี งลำดับสมบตั ติ อ่ ไปนี้ จากมากไปน้อย 2.1 จดุ หลอมเหลว C > B > A 2.2 พลงั งานไอออไนเซชันลำดับที่ 1 C > B > A 2.3 รัศมีไอออน A > B > C 3. K M N O P และ Q เปน็ ธาตุที่อยใู่ นหมเู่ ดียวกันจากบนลงลา่ ง จงทำนายสมบตั ขิ องธาตุตอ่ ไปนี้ 3.1 ธาตุใดควรมีขนาดอะตอมเล็กที่สดุ K 3.2 ธาตุใดควรมคี า่ อิเล็กโทรเนกาตวิ ิตีสูงที่สุด K 3.3 ธาตุ P ควรมีพลงั งานไอออไนเซชันลำดบั ท่ี 1 สูงหรือต่ำกวา่ ธาตุ F สงู กว่า 4. จงเรียงลำดบั ขนาดไอออนของไอออนต่อไปน้ี 12Mg2+ 16S2- และ 19K+ จากเลก็ ไปใหญ่ 12Mg2+ < 19K+ < 16S2- 5. ธาตุชนดิ หนึง่ มคี า่ พลังงานไอออไนเซชนั ดังน้ี 0.79 1.57 2.23 14.13 17.23 20.08 23.56 26.67 27.95 29.91 32.52 80.25 90.29 MJ/mol 5.1 ธาตุนี้น่าจะเป็นธาตุใดในตารางธาตุ เพราะเหตุใด ธาตุอะลมู ิเนียม ซง่ึ สามารถอธิบายได้จากผลต่างของค่า พลงั งานไอออไนเซชันในแต่ละระดับช้ันพลังงานได้ ดังนี้ 0.79, 1.57, 2.23, / 14.13, 17.23, 20.08, 23.56, 26.67, 27.95, 29.91, 32.52, / 80.25, 90.29 MJ/mol ซงึ่ สามารถจดั เรียงอิเล็กตรอนได้เป็น 2, 8, 3 ธาตุน้ี จงึ อย่หู มทู่ ่ี 3 คาบท่ี 3 5.2 ธาตนุ ้มี จี ำนวนอิเล็กตรอนทง้ั หมดเท่าใด 13 5.3 ธาตนุ ม้ี เี ลขอะตอมเท่าใด 13 6. ค่าอเิ ล็กโทรเนกาตวิ ิตขี องธาตอุ โลหะเปน็ อย่างไร ธาตอุ โลหะใดทมี่ คี ่าอิเลก็ โทรเนกาติวติ สี ูงที่สดุ ในตารางธาตุ ธาตุอโลหะสว่ นใหญจ่ ะมคี า่ อเิ ล็กโทรเนกาตวิ ติ ีสูง โดยฟลูออรีนเปน็ ธาตทุ ี่มีคา่ อิเล็กโทรเนกาติวิตีสูงทสี่ ุ
แบบสังเกตพฤติกร คำชแี้ จง : ใหผ้ ู้สอนสังเกตพฤตกิ รรมของนักเรยี นในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรยี น แล้ว ลำดบั ท่ี ช่อื –สกลุ การแสดง การยอมรับฟงั คน ของนักเรยี น ความคิดเหน็ 1 2 เดก็ ชายณัฐพร ทับเจริญ 32132 3 เด็กชายธนากร รุ่งฟ้า 4 เด็กชายบญุ ฤทธิ์ เสนมา ✓✓ 5 เด็กหญิงตวงรัตน์ กิจขยัน 6 เด็กหญิงมณมี ัญชุ์ ดว้ งแสง ✓✓ 7 นายกษิดิเ์ ดช ชูภักด์ิ ✓✓ 8 นายชยั วัฒน์ คำแหง 9 นายทรงพล แคนศิลา ✓✓ 10 เดก็ ชายธีรภทั ร เอีย่ มบุญ ✓✓ 11 นายธันวา เนาวศ์ รี 12 นายสุทศั น์ เลไทสงค์ ✓✓ 13 เด็กชายอภชิ าติ ชนะมลู ✓✓ 14 นางสาวนันทิกานต์ ถาวร 15 นางสาวนรมน พลเยยี่ ม ✓✓ 16 นางสาวพชั รินทร์ สวุ รรณพรม ✓✓ 17 นางสาววราพร พิมไพ 18 นางสาววิราภา รวมรัตน์ ✓✓ นางสาววิสา ชนะมลู ✓✓ ✓✓ ✓✓ ✓✓ ✓✓ ✓✓ ✓✓ ✓✓
128 รรมการทำงานกลุม่ วขดี ✓ลงในชอ่ งที่ตรงกับระดบั คะแนน การทำงาน ความมีนำ้ ใจ การมี รวม นอนื่ ตามที่ได้รับ สว่ นร่วมในการ 15 คะแนน มอบหมาย ปรบั ปรงุ ผลงานกลุ่ม 10 1321321 11 321 10 ✓✓ 14 ✓ 15 ✓✓ ✓ 8 ✓✓ 8 ✓ 8 ✓✓ ✓ 9 ✓✓ ✓ 9 ✓ 7 ✓✓ ✓ 9 ✓ ✓✓ ✓ 15 ✓ 10 ✓ ✓✓ ✓ 12 ✓ ✓✓ ✓ 12 ✓ 9 ✓ ✓✓ ✓ 9 ✓ ✓✓ ✓ ✓✓✓ ✓ ✓ ✓✓ ✓✓ ✓ ✓ ✓✓ ✓✓ ✓✓ ✓✓
19 นางสาวอภิญญา ปัทมอมั รนิ ทร์ ✓ ✓ เกณฑก์ ารให้คะแนน ให้ 3 คะแนน ปฏบิ ตั หิ รือแสดงพฤติกรรมอย่างสม่ำเสมอ ให้ 2 คะแนน ปฏบิ ัตหิ รือแสดงพฤตกิ รรมบอ่ ยครงั้ ให้ 1 คะแนน ปฏิบัตหิ รือแสดงพฤติกรรมบางคร้ัง เกณฑก์ ารตดั สิน ช่วงคะแนน 14–15 11–13 8–10 ต่ำกว่า 8
✓✓✓ 129 ลงชื่อ ................................................... ผู้ประเมนิ 15 ............./.................../............... นคุณภาพ ระดับคุณภาพ ดีมาก ดี พอใช้ ปรบั ปรุง
แบบประเมนิ คณุ ลกั ษ คำชีแ้ จง : ให้ผสู้ อนสงั เกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหว่างเรยี นและนอกเวลาเ ปฏบิ ัติตามข้อตกลง กฎเกณฑ์ ระเบียบ ลำดบั ที่ ชือ่ –สกลุ ข้อบังคับในชั้นเรียน ร้จู กั ใชเ้ วล ของนกั เรียน มคี วามตรงต่อเวลา เปน็ ประโย ในการปฏิบัติกิจกรรม นำไปป ต่าง ๆ และ รบั ผิดชอบในการ ทำงาน 32132 1 เด็กชายณัฐพร ทับเจริญ ✓ ✓ 2 เด็กชายธนากร รงุ่ ฟา้ ✓✓ 3 เดก็ ชายบญุ ฤทธ์ิ เสนมา ✓ ✓ 4 เดก็ หญิงตวงรตั น์ กจิ ขยนั ✓ ✓ 5 เด็กหญิงมณมี ัญชุ์ ด้วงแสง ✓ ✓ 6 นายกษิดเ์ิ ดช ชูภักดิ์ ✓✓ 7 นายชยั วัฒน์ คำแหง ✓✓ 8 นายทรงพล แคนศลิ า ✓✓ 9 เดก็ ชายธีรภัทร เอ่ียมบุญ ✓ ✓ 10 นายธันวา เนาว์ศรี ✓ 11 นายสุทศั น์ เลไทสงค์ ✓✓ 12 เดก็ ชายอภิชาติ ชนะมูล ✓ ✓ 13 นางสาวนันทกิ านต์ ถาวร ✓ ✓ 14 นางสาวนรมน พลเย่ียม ✓ ✓
130 ษณะอนั พึงประสงค์ เรียน แล้วขีด ✓ลงในช่องท่ีตรงกับระดบั คะแนน ลาวา่ งให้ รู้จกั จัดสรรเวลาให้ ตง้ั ใจเรียน มีความตั้งใจและ รวม ยชน์ และ เหมาะสม พยายามในการ 15 ปฏิบัตไิ ด้ ทำงานทไ่ี ดร้ บั คะแนน มอบหมาย 1321321321 ✓✓ ✓✓ 8 10 ✓✓✓✓ 10 15 ✓✓✓✓ 15 10 ✓✓✓ 10 10 ✓✓✓ 9 8 ✓✓✓✓ 8 8 ✓✓✓✓ 15 10 ✓✓✓✓ ✓✓✓ ✓ ✓✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓✓ ✓ ✓ ✓✓ ✓✓✓ ✓ ✓✓ ✓
15 นางสาวพชั รนิ ทร์ สวุ รรณพรม ✓ ✓ 16 นางสาววราพร พมิ ไพ ✓ ✓ ✓ 17 นางสาววิราภา รวมรัตน์ ✓ ✓ 18 นางสาววิสา ชนะมูล ✓ ✓ 19 นางสาวอภญิ ญา ปัทมอมั รนิ ทร์ ✓ เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ให้ 3 คะแนน เกณ พฤติกรรมทป่ี ฏิบัตชิ ดั เจนและสม่ำเสมอ ให้ 2 คะแนน พฤตกิ รรมท่ปี ฏิบตั ิชดั เจนและบอ่ ยครง้ั ให้ 1 คะแนน ช่วงคะแ พฤตกิ รรมท่ปี ฏิบตั บิ างครั้ง 14-1 11-1 8-10 ต่ำกว่า
131 ✓✓✓ 15 15 ✓✓✓ 10 ✓✓✓✓ 10 15 ✓✓✓✓ ✓✓✓ ลงชื่อ .................................................. ผปู้ ระเมิน ............/.................../............ ณฑ์การตดั สินคุณภาพ แนน ระดับคุณภาพ 15 ดมี าก 13 ดี 0 พอใช้ า 8 ปรับปรุง
132 บนั ทึกหลังการจัดการเรียนรู้ 1. ผลการจัดการเรียนการสอน • ด้านความรู้ - นักเรยี นมคี วามรู้ความเขา้ ใจในเน้ือหา - นกั เรยี นสามารถอธบิ ายอธบิ ายอิเล็กโทรเนกาติวิตแี ละสัมพรรคภาพอิเลก็ ตรอนของธาตุเรพรีเซนเททีฟตามหมู่ และตามคาบได้ - นกั เรียนสามารถวิเคราะห์วิเคราะหแ์ ละบอกแนวโนม้ ของอิเล็กโทรเนกาตวิ ติ ีและสมั พรรคภาพอิเล็กตรอนของ ธาตุเรพรีเซนเทเทีฟตามหม่แู ละตามคาบได้ • ดา้ นสมรรถนะสำคญั ของผูเ้ รียน - นักเรยี นมีทกั ษะและกระบวนการทางวิทยาศาสตรต์ ามเกณฑท์ คี่ รูกำหนด • ด้านคณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ - นกั เรียนทกุ คนมคี วามใฝ่เรียนรู้ - มีความตรงต่อเวลาในการเข้าเรยี น - นักเรียนมคี วามมุง่ มน่ั ตั้งใจในการเรียนรู้ - มีวินัยในการเรียน • ดา้ นอ่นื ๆ (พฤตกิ รรมเด่น หรือพฤติกรรมทมี่ ีปัญหาของนักเรียนเปน็ รายบุคคล (ถา้ มี)) - 2. ปัญหา / อุปสรรค - 3. ข้นั เสนอแนะ / แนวทางแกไ้ ข - ลงช่อื ..................................................................ผเู้ ขียนแผนการจัดการเรียนรู้ (นางสาวณฐั ธดิ า ชากรแกว้ ) ......................./................/.................... ลงชอื่ ..................................................................ผตู้ รวจ (นางสาววารณุ ี อิทธิพัทธอ์ เนก) ......................./................/....................
133 แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี 12 กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ระดบั ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปีที่ 4 หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 2 เร่ือง อะตอมและสมบตั ขิ องธาตุ เรอ่ื ง สมบัตขิ องธาตแุ ทรนซิชนั วิชา เคมี 1 รหสั ว31223 เวลาเรยี น 2 ช่วั โมง จำนวน 1.0 หนว่ ยกติ ครูผ้สู อน นางสาวณัฐธิดา ชากรแกว้ สาระการเรยี นรู้ เขา้ ใจโครงสรา้ งอะตอม การจัดเรียงธาตใุ นตารางธาตุ สมบตั ขิ องธาตุ พันธะเคมีและสมบัตขิ องสาร แก๊ส และสมบัตขิ องแกส๊ ประเภทและสมบัตขิ องสารประกอบอินทรียแ์ ละพอลเิ มอร์ รวมทั้งการนาํ ความรู้ไปใช้ ประโยชน์ ผลการเรียนรู้ บอกสมบตั ขิ องธาตโุ ลหะแทรนซิชนั และเปรียบเทยี บสมบัติกับธาตโุ ลหะในกลุ่มธาตุเรพรีเซนเททีฟ จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ ด้านความรู้ (Knowledge) 1. อธิบายสมบตั ขิ องธาตุแทรนซิชันได้ ด้านทกั ษะ (Process) 2. เปรยี บเทยี บสมบตั ขิ องธาตุแทรนซิชนั กับธาตุโลหะในกลุ่มธาตุเรพรเี ซนเททีฟได้ ด้านคณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์ (Affective) 3. ตั้งใจในการเรียนรู้ และแสวงหาความรู้ สาระสำคญั หรือความคิดรวบยอด ธาตุแทรนซิชันเป็นโลหะ มีขนาดอะตอมใกล้เคียงกัน มีจุดเดือด จุดหลอมเหลว และความหนาแนน่ สูง เมือ่ เกิดเป็นสารประกอบสว่ นใหญจ่ ะมีสี สมรรถนะสำคญั ของผู้เรียน ความสามารถในการส่ือสาร ความสามารถในการคิด ความสามารถในการแก้ปัญหา ความสามารถในการใช้ทกั ษะชีวิต ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี คณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ รกั ชาติ ศาสน์ กษัตรยิ ์ ซอื่ สัตย์ มวี นิ ยั ใฝเ่ รยี นรู้ อย่อู ยา่ งพอเพียง
134 มงุ่ ม่ันในการทำงาน รักความเปน็ ไทย มีจติ สาธารณะ กิจกรรมการเรยี นรู้ ผ่านวิธีการสอนแบบออนไลน์ โดยผา่ นแอพพลเิ คชั่น Google meet วิธสี อนโดยใช้กระบวนการสืบเสาะหาความรู้ (Inquiry Cycle หรือ Inquiry Method : 5E) ข้นั ที่ 1 ขั้นกระตุ้นความสนใจ (Engagement) 10 นาที 1.1 ครูทบทวนความรู้เดิมเก่ียวกับธาตใุ นตารางธาตุ ดังน้ี • ตารางธาตแุ บ่งออกเป็น 18 หมู่ 7 คาบ • ตารางธาตุที่ใช้อยู่ในปจั จุบันแบ่งธาตุในแนวตัง้ ออกเปน็ 18 แถว โดยเรยี กแถวในแนวต้ังว่า “หมู่” ธาตใุ นแนวตงั้ ยงั แบง่ ออกเป็นธาตุกล่มุ A และธาตุกลุม่ B - กลมุ่ A มี 8 หมู่ คือ 1A ถงึ 8A เรยี กวา่ ธาตุเรพรีเซนเททฟี - กล่มุ B มี 8 หมู่ คือ 1B ถึง 8B (โดยหมู่ 8B จะมี 3 แถว) เรียกว่า ธาตุแทรนซชิ ัน 1.2 ครูให้นักเรียนพิจารณาตารางธาตุจากหนังสือเรียนเคมี ม.4 เล่ม 1 หน้า 63 แล้วใช้คำถามกระตุ้น ความสนใจของนกั เรียน ดงั น้ี 1) นกั เรยี นคิดวา่ ธาตุกลมุ่ B ทป่ี รากฏในตารางธาตุ มีสมบตั แิ ตกต่างจากธาตุกลมุ่ A หรอื ไม่ อยา่ งไร (แนวตอบ : แตกต่างกัน ซง่ึ นักเรยี นจะไดศ้ กึ ษาสมบตั ิของธาตุกลมุ่ B ในลำดบั ตอ่ ไป) 2) นกั เรยี นคดิ ว่า ธาตุกลมุ่ B ทุกธาตจุ ะมสี มบัติเหมอื นหรือแตกตา่ งกัน อย่างไร (แนวตอบ : มที ้งั เหมอื นและแตกต่างกนั เช่น ทกุ ธาตุในกลุ่ม B จะเปน็ โลหะ สว่ นใหญ่จะมีมีเวเลนซ์ อิเล็กตรอนเท่ากับ 2 ยกเว้นธาตโุ ครเมยี ม และทองแดง ทม่ี ีเวเลนซ์อิเล็กตรอนเป็น 1 เปน็ ต้น) ข้ันท่ี 2 ขน้ั สำรวจและคน้ หา (Exploration) 50 นาที 2.1 ครูทบทวนเก่ยี วกบั ตารางธาตุในปัจจบุ นั และให้สงั เกตการจดั เรียงธาตุในตารางธาตุ จากนั้น ถามคาถามกระตุน้ ความคดิ ของนักเรยี น ดงั น้ี 1) ตารางธาตทุ ่นี กั เรยี นเหน็ มลี กั ษณะอยา่ งไร และมกี ารจดั เรยี งธาตใุ นตารางธาตอุ ยา่ งไร (แนวตอบ : ตารางธาตแุ บ่งออกเป็น 18 หมู่ 7 คาบ ซ่งึ แบ่งเปน็ ธาตหุ มู่ A หรือธาตเุ รพรีเซนเททีฟ คือ ธาตุหมู่ 1A ถึงหมู่ 8A และธาตุหมู่ B หรือธาตุแทรนซชิ นั ซง่ึ ตารางธาตุจะจัดเรียง ตามเลขอะตอมของธาตจุ ากซ้ายไปขวา) 2.2 ครอู ธบิ ายเสริมเก่ียวกับธาตุแทรนซิชัน ว่า คาบท่ี 6 แบง่ เป็น 2 กลมุ่ กลุ่มแรกมี 18 ธาตุ คอื Cs ถึง Rn กลมุ่ ท่สี องมี 14 ธาตุ คือ Ce ถึง Lu ซงึ่ มชี ่อื เรียกว่า กลุ่มธาตแุ ลนทาไนด์ และคาบท่ี 7 แบง่ เป็น 2 กลุ่ม กลุ่มแรกเร่ิม จาก Fr เปน็ ตน้ ไป และมีการคน้ พบเพิ่มขึ้นอย่ตู ลอดเวลา สว่ นกลุม่ ท่สี องมี 14 ธาตุ คอื Th ถึง Lr ซึง่ มีช่อื เรียกว่า กลุ่ม ธาตุแอกทิไนด์ 2.3 ครูถามนักเรียนเกีย่ วกับสมบัติของธาตุแทรนซชิ ัน โดยใช้คำถามว่า “นกั เคมีจัดธาตุแทรนซิชันไว้ใน กลุ่มของธาตุที่เป็นโลหะ แต่ไม่ได้เป็นกลุ่มเดียวกับธาตุหมู่ 1A 2A และ 3A เพราะเหตุใด” จากนั้นทิ้งช่วงให้ นกั เรียนคิด 2.4 ครใู ห้นักเรยี นศึกษาข้อมูลเก่ียวกับสมบัติของธาตุแทรนซิชัน
135 ขั้นท่ี 3 อธบิ ายและลงขอ้ สรปุ (Explanation) 30 นาที 3.1 ครูและนักเรียนร่วมกันอภปิ รายเกย่ี วกบั สมบัติของธาตุแทรนซชิ ัน เพื่อใหไ้ ด้ข้อสรปุ ดงั นี้ • ธาตุแทรนซชิ นั มคี า่ IE1 และค่า EN ตำ่ คลา้ ยธาตุ K และ Ca แตม่ จี ุดหลอมเหลว จุดเดอื ด และความ หนาแนน่ สูงกวา่ K และ Ca ซงึ่ เปน็ โลหะ ดงั น้นั ธาตุแทรนซิชนั จงึ มสี มบัติเปน็ โลหะ • ธาตแุ ทรนซิชนั มีขนาดอะตอมใกลเ้ คียงกนั 3.2 ครูอธิบายเพ่ิมเติมเกี่ยวกับการจัดเรียงอิเล็กตรอนในระดับพลังงานหลักของธาตุแทรนซิ ชัน ดังนี้ • ถ้าจัดเรียงอิเลก็ ตรอนในระดบั พลงั งานแลว้ ลงท้ายเปน็ 11 ถึง 20 จะเป็นธาตุแทรนซชิ นั • ธาตหุ มู่ B จะมีเวเลนซอ์ เิ ลก็ ตรอนเทา่ กับ 2 ยกเว้น 24Cr และ 29Cu จะมีเวเลนซ์อิเลก็ ตรอนเทา่ กบั 1 • อิเลก็ ตรอนถดั จากวงนอกสดุ เขา้ มา 1 ระดบั ไม่จำเปน็ ต้องเปน็ 8 หรือ 18 เป็นเลขอะไรก็ได้ 3.3 ครูยกตัวอย่างการจัดเรียงอิเล็กตรอนในระดับพลังงานหลักของธาตุแทรนซิชัน เช่น 26Fe มีการ จดั เรยี งอิเลก็ ตรอนเป็น 2 8 14 2 ซึ่งจะเห็นวา่ ระดบั พลังงานท่ี 3 มอี ิเล็กตรอนเกนิ 8 อยู่ 6 อิเลก็ ตรอน 3.4 ครูอธบิ ายสรปุ เกยี่ วกับสมบตั ขิ องธาตุแทรนซิชนั และเปิดโอกาสใหน้ ักเรียนไดส้ อบถามในส่วนท่ีมีข้อ สงสัย ขั้นที่ 4 ขนั้ ขยายความรู้ (Elaboration) 20 นาที 4.1 ครูและนกั เรยี นร่วมกันสรุปความรูเ้ ร่อื ง สมบตั แิ ละสารประกอบของธาตแุ ทรนซิชัน จนนกั เรียนเกิด ความเขา้ ใจท่ีตรงกัน 4.2 ครูให้นักเรียนทำใบงานท่ี 2.9 เร่อื ง ธาตุแทรนซิชัน ขั้นท่ี 5 ขนั้ ประเมิน (Evaluation) 20 นาที 5.1 ครปู ระเมนิ ผลโดยการสงั เกตการตอบคำถาม 5.2 ครตู รวจผลจากการทำใบงานที่ 2.9 เรอ่ื ง ธาตแุ ทรนซิชนั สือ่ วัสดุ อุปกรณ์ และแหลง่ การเรยี นรู้ สอื่ /วสั ด/ุ อุปกรณ์ แหล่งการเรยี นรู้ 1. PowerPoint เรื่อง ธาตแุ ทรนซชิ นั 1. หนงั สือเรียนรายวชิ าเพมิ่ เติมวิทยาศาสตร์ เคมี เล่ม 1 ชั้นมธั ยมศกึ ษาปที ่ี 4 2. ใบงานท่ี 2.9 เรอื่ ง ธาตุแทรนซิชนั 2. ใบกิจกรรมการเรยี นรู้ 3. อินเตอรเ์ นต็ การประเมินการเรียนรู้ การวัดผลประเมนิ ด้าน วิธีการวดั ผล เคร่อื งมอื ที่ใช้วดั ผล เกณฑก์ าร ประเมนิ ผล 1.ด้านความรู้ (K) -ตรวจใบงาน 2.9 -ใบงานที่ 2.9 -ร้อยละ 60 ผ่าน เกณฑ์
2. ดา้ นทกั ษะ/ -การนำเสนอผลงาน -แบบประเมนิ การ 136 กระบวนการ (P) นำเสนอผลงาน -ระดบั คุณภาพ 3 ผ่านเกณฑ์ 3. ดา้ นคณุ ลักษณะอันพึง -การสงั เกตพฤตกิ รรมรายบคุ คล -แบบสงั เกตพฤติกรรม -ระดับคณุ ภาพ 3 ประสงค์ (A) รายบุคคล ผา่ นเกณฑ์
137 ใบงานท่ี 2.9 เร่ือง ธาตแุ ทรนซิชัน คำชแี้ จง : ใหน้ กั เรยี นตอบคำถามตอ่ ไปนี้ 1. จงอธิบายความหมายของธาตุแทรนซิชนั …………………………………………………………………………………………………………………………..………………………..…….. …………………………………………………………………………………………………………………………..………………………..…….. 2. ธาตุแทรนซชิ นั แบง่ ออกเปน็ กี่หมู่ …………………………………………………………………………………………………………………………..………………………..…….. …………………………………………………………………………………………………………………………..………………………..…….. 3. ธาตุแทรนซชิ ันมีความแตกต่างจากโลหะหมู่ 1A อยา่ งไร …………………………………………………………………………………………………………………………..………………………..…….. …………………………………………………………………………………………………………………………..………………………..…….. 4. ธาตุแทรนซิชนั หมู่ 8B มีท้ังหมดกธ่ี าตุ …………………………………………………………………………………………………………………………..………………………..…….. …………………………………………………………………………………………………………………………..………………………..…….. 5. ธาตแุ ทรนซชิ ันมคี ณุ สมบัตอิ ย่างไร …………………………………………………………………………………………………………………………..………………………..…….. …………………………………………………………………………………………………………………………..………………………..…….. …………………………………………………………………………………………………………………………..………………………..…….. 6. แนวโนม้ การเปลยี่ นแปลงของสมบตั ิต่าง ๆ ของธาตุแทรนซชิ ันในคาบเดยี วกันจะเหมือนหรอื แตกต่างจากธาตุ เรพรเี ซนเททฟี อยา่ งไร …………………………………………………………………………………………………………………………..………………………..…….. …………………………………………………………………………………………………………………………..………………………..…….. …………………………………………………………………………………………………………………………..………………………..…….. 7. ธาตุอนุกรมแทรนซชิ นั ที่ 1 มีอะไรบา้ ง และขนาดของอะตอมมีแนวโนม้ เปน็ อย่างไรจากซ้ายไปขวา …………………………………………………………………………………………………………………………..………………………..…….. …………………………………………………………………………………………………………………………..………………………..…….. …………………………………………………………………………………………………………………………..………………………..…….. …………………………………………………………………………………………………………………………..………………………..…….
ใบงานท่ี 2.9 138 เรื่อง ธาตแุ ทรนซิชัน เฉลย คำชีแ้ จง : ใหน้ กั เรียนตอบคำถามต่อไปนี้ 1. จงอธิบายความหมายของธาตุแทรนซิชัน ธาตุแทรนซิชนั คอื กลมุ่ ธาตุทีม่ ีตำแหน่งอยู่ระหว่างธาตุหมู่ 2A และ 3A ในตารางธาตุ โดยเปน็ ธาตใุ นบล็อก-ดี (d-block) โดยธาตุท้ังหมดนจ้ี ะมอี ย่างน้อย 1 รปู แบบ ทมี่ ี 1 ไอออน ทอ่ี ยใู่ นวงโคจร-ดี (d shell of electrons) 2. ธาตุแทรนซชิ ันแบ่งออกเป็นก่หี มู่ ธาตแุ ทรนซิชันแบง่ ออกเปน็ 8 หมู่ โดยเรม่ิ จาก 3B จนถึง 2B ในตารางธาตุ 3. ธาตุแทรนซชิ ันมีความแตกต่างจากโลหะหมู่ 1A อย่างไร สว่ นใหญ่เนอ้ื โลหะจะแข็งกวา่ ธาตหุ มู่ 1A (ยกเว้นปรอท) และปฏกิ ิรยิ าจะไมร่ ุนแรงเทา่ กบั หมู่ 1A 4. ธาตุแทรนซิชันหมู่ 8B มีทง้ั หมดก่ธี าตุ หมู่ 8B (ธาตุหม่ชู ดุ สาม หรือไทรแอด) มที ้งั หมด 9 ธาตุ ซ่ึงมีสมบตั ใิ กล้เคยี งกนั มาก จึงจดั ไว้ในหมู่เดียวกนั 5. ธาตุแทรนซิชนั มคี ุณสมบตั อิ ย่างไร มีสถานะเป็นของแข็งท่ีอุณหภมู หิ ้อง ยกเวน้ ปรอทเปน็ ของเหลว มีจุดหลอมเหลว จุดเดือด และความหนาแน่น สูง นำไฟฟา้ ได้ดี ซ่งึ ในโลหะแทรนซิชนั ธาตุที่นำไฟฟา้ ไดด้ ีท่ีสดุ คือ เงนิ และรองลงมา คือ ทอง นำความรอ้ นได้ ดี สารประกอบของธาตุแทรนซิชนั ส่วนใหญ่จะมีสี 6. แนวโน้มการเปลยี่ นแปลงของสมบตั ติ ่าง ๆ ของธาตแุ ทรนซชิ ันในคาบเดียวกันจะเหมือนหรือแตกต่างจากธาตุ เรพรีเซนเททฟี อยา่ งไร ธาตุเรพรีเซนเททีฟซึ่งอยู่ใน s-block หรือ p-block ในตารางธาตุ ธาตุทางซ้ายมือจะเป็นโลหะ ส่วนธาตุ ทางขวามอื จะเป็นอโลหะ ส่วนธาตุแทรนซิชันจะไมพ่ บแนวโนม้ ดงั กลา่ ว เพราะธาตุทกุ ตัวเปน็ โลหะทง้ั หมด 7. ธาตอุ นกุ รมแทรนซิชันที่ 1 มีอะไรบ้าง และขนาดของอะตอมมแี นวโนม้ เป็นอย่างไรจากซ้ายไปขวา ธาตุอนุกรมแทรนซชิ ันท่ี 1 เรมิ่ ตั้งแตธ่ าตุที่มีเลขอะตอม 21 ถึง 30 ดงั นี้ Sc Ti V Cr Mn Fe Co Ni Cu และ Zn รศั มอี ะตอมของธาตุเหล่านีโ้ ดยทั่วไปแล้วมีขนาดเล็กลง เมอ่ื เลขอะตอมเพ่ิมข้ึน แต่รัศมีอะตอมของ ธาตุตา่ ง ๆ ต้ังแตโ่ ครเมยี ม (Cr) ถึงทองแดง (Cu) จะมขี นาดใกล้เคยี งกันมาก ท้ังนเี้ น่ืองจากแม้ว่าธาตุในแถว เดียวกันจะมีประจนุ วิ เคลยี สเพม่ิ ขน้ึ ซ่งึ ทำใหห้ มอกอเิ ล็กตรอนเล็กลงก็ตาม แต่ 3d อิเลก็ ตรอนมจี ำนวนมากขึ้น และมแี รงต้านการหดขนาดของหมอกอเิ ล็กตรอน จึงทำใหข้ นาดอะตอมของธาตุในอนกุ รมแทรนซิชันนี้ไม่ค่อย เปลีย่ นแปลงมากนกั และจะลดลงอยา่ งชา้ ๆ เทา่ น้ัน
แบบประเมนิ คณุ ลักษ คำชีแ้ จง : ให้ผสู้ อนสงั เกตพฤติกรรมของนกั เรยี นในระหว่างเรียนและนอกเวลาเ ปฏบิ ตั ิตามข้อตกลง กฎเกณฑ์ ระเบยี บ ลำดับที่ ช่ือ–สกุล ข้อบงั คับในช้ันเรียน รจู้ ักใชเ้ วล ของนักเรยี น เป็นประโย มคี วามตรงต่อเวลา ในการปฏบิ ัติกจิ กรรม นำไปป ต่าง ๆ และ รบั ผดิ ชอบในการ ทำงาน 1 เดก็ ชายณัฐพร ทบั เจรญิ 32132 ✓✓ 2 เด็กชายธนากร รงุ่ ฟ้า ✓✓ 3 เด็กชายบุญฤทธ์ิ เสนมา ✓ ✓ 4 เดก็ หญิงตวงรัตน์ กจิ ขยัน ✓ ✓ 5 เด็กหญิงมณมี ัญชุ์ ดว้ งแสง ✓ ✓ 6 นายกษิดเิ์ ดช ชภู ักดิ์ ✓✓ 7 นายชัยวฒั น์ คำแหง ✓✓ 8 นายทรงพล แคนศิลา ✓✓ 9 เด็กชายธรี ภัทร เอ่ียมบญุ ✓ ✓ 10 นายธันวา เนาว์ศรี ✓ 11 นายสุทศั น์ เลไทสงค์ ✓✓ 12 เดก็ ชายอภิชาติ ชนะมลู ✓ ✓ 13 นางสาวนันทิกานต์ ถาวร ✓ ✓ 14 นางสาวนรมน พลเยย่ี ม ✓ ✓ 15 นางสาวพัชรนิ ทร์ สุวรรณพรม ✓ ✓
139 ษณะอันพงึ ประสงค์ เรียน แล้วขีด ✓ลงในช่องที่ตรงกับระดบั คะแนน ลาวา่ งให้ รจู้ ักจัดสรรเวลาให้ ตงั้ ใจเรียน มคี วามต้ังใจและ รวม ยชน์ และ เหมาะสม พยายามในการ 15 ปฏิบตั ไิ ด้ ทำงานที่ไดร้ บั คะแนน มอบหมาย 1321321321 ✓✓ ✓✓ 8 10 ✓✓✓✓ 10 15 ✓✓✓✓ 15 10 ✓✓✓ 10 10 ✓✓✓ 9 8 ✓✓✓✓ 8 8 ✓✓✓✓ 15 10 ✓✓✓✓ 15 ✓✓✓ ✓ ✓✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓✓ ✓ ✓ ✓✓ ✓✓✓ ✓ ✓✓ ✓ ✓✓✓
16 นางสาววราพร พมิ ไพ ✓ ✓ 17 นางสาววริ าภา รวมรัตน์ ✓ ✓ ✓ 18 นางสาววิสา ชนะมลู ✓ ✓ 19 นางสาวอภญิ ญา ปัทมอมั รนิ ทร์ ✓ เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ให้ 3 คะแนน เกณ พฤติกรรมทป่ี ฏิบัตชิ ดั เจนและสมำ่ เสมอ ให้ 2 คะแนน ชว่ งคะแ พฤตกิ รรมที่ปฏิบตั ิชดั เจนและบอ่ ยครงั้ ให้ 1 คะแนน พฤติกรรมทป่ี ฏิบัติบางครั้ง 14-1 11-1 8-10 ตำ่ กวา่
140 ✓✓✓ 15 10 ✓✓✓✓ 10 ✓✓✓✓ 15 ✓✓✓ ลงชื่อ .................................................. ผ้ปู ระเมนิ ............/.................../............ ณฑก์ ารตัดสินคณุ ภาพ แนน ระดับคุณภาพ 15 ดีมาก 13 ดี 0 พอใช้ า 8 ปรับปรงุ
141 บนั ทึกหลงั การจัดการเรยี นรู้ 1. ผลการจดั การเรยี นการสอน • ดา้ นความรู้ - นักเรียนมีความรู้ความเขา้ ใจในเน้ือหา - นักเรียนสามารถอธิบายสมบตั ิของธาตุแทรนซิชันได้ - นกั เรยี นสามารถเปรยี บเทียบสมบตั ขิ องธาตแุ ทรนซชิ นั กับธาตโุ ลหะในกลมุ่ ธาตเุ รพรเี ซนเททีฟได้ • ด้านสมรรถนะสำคัญของผเู้ รยี น - นกั เรียนมีทักษะและกระบวนการทางวิทยาศาสตรต์ ามเกณฑ์ที่ครกู ำหนด • ด้านคุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ - นกั เรียนทุกคนมีความใฝ่เรียนรู้ - มคี วามตรงต่อเวลาในการเข้าเรยี น - นักเรียนมคี วามม่งุ ม่ันตง้ั ใจในการเรียนรู้ - มวี ินยั ในการเรียน • ดา้ นอ่ืน ๆ (พฤติกรรมเด่น หรือพฤตกิ รรมท่ีมีปญั หาของนักเรียนเปน็ รายบุคคล (ถา้ ม)ี ) - 2. ปัญหา / อปุ สรรค - 3. ข้ันเสนอแนะ / แนวทางแกไ้ ข - ลงชื่อ..................................................................ผูเ้ ขียนแผนการจัดการเรยี นรู้ (นางสาวณัฐธิดา ชากรแก้ว) ......................./................/.................... ลงชื่อ..................................................................ผตู้ รวจ (นางสาววารุณี อิทธิพัทธอ์ เนก) ......................./................/....................
142 แผนการจดั การเรียนรูท้ ่ี 13 กลมุ่ สาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ระดบั ช้ันมธั ยมศึกษาปีท่ี 4 หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 2 เรื่อง อะตอมและสมบัติของธาตุ เร่อื ง การเกิดธาตุกมั มันตรังสี วิชา เคมี 1 รหัส ว31223 เวลาเรยี น 1 ชว่ั โมง จำนวน 1.0 หน่วยกติ ครผู สู้ อน นางสาวณฐั ธิดา ชากรแกว้ สาระการเรยี นรู้ เข้าใจโครงสรา้ งอะตอม การจดั เรยี งธาตใุ นตารางธาตุ สมบัตขิ องธาตุ พนั ธะเคมแี ละสมบัตขิ องสาร แกส๊ และสมบตั ขิ องแกส๊ ประเภทและสมบัติของสารประกอบอินทรียแ์ ละพอลเิ มอร์ รวมท้ังการนาํ ความรไู้ ปใช้ ประโยชน์ ผลการเรยี นรู้ อธบิ ายสมบัตแิ ละคำนวณครงึ่ ชวี ิตของไอโซโทปกัมมนั ตรังสี จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ ดา้ นความรู้ (Knowledge) 1. อธบิ ายการเกิดธาตุกัมมันตรงั สีได้ ดา้ นทกั ษะ (Process) 2. วิเคราะห์สมบตั ิของรงั สีแต่ละชนดิ ได้ ดา้ นคณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์ (Affective) 3. ตั้งใจในการเรยี นรู้ และแสวงหาความรู้ สาระสำคัญหรอื ความคดิ รวบยอด ธาตุกมั มันตรงั สเี ปน็ ธาตทุ ี่ทกุ ไอโซโทปสามารถแผ่รงั สไี ด้ โดยครงึ่ ชีวติ ของไอโซโทปกมั มนั ตรังสีเปน็ ระยะเวลาทไ่ี อโซโทปกมั มนั ตรังสีสลายตัวจนเหลอื คร่งึ หนึ่งของปรมิ าณเดมิ สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รียน ความสามารถในการสื่อสาร ความสามารถในการคดิ ความสามารถในการแก้ปัญหา ความสามารถในการใช้ทกั ษะชีวิต ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี คณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ซอ่ื สัตย์ มีวนิ ยั ใฝเ่ รยี นรู้ อยู่อย่างพอเพียง
143 มงุ่ ม่นั ในการทำงาน รักความเป็นไทย มีจติ สาธารณะ กิจกรรมการเรยี นรู้ ผา่ นวธิ กี ารสอนแบบออนไลน์ โดยผ่านแอพพลเิ คช่ัน Google meet วธิ สี อนโดยใชก้ ระบวนการสบื เสาะหาความรู้ (Inquiry Cycle หรือ Inquiry Method : 5E) ข้นั ที่ 1 ข้ันกระตุ้นความสนใจ (Engagement) 5 นาที 1.1 ครทู บทวนเกี่ยวกับองคป์ ระกอบท่สี ำคัญของอะตอมทน่ี กั เรยี นเคยศกึ ษาไปแลว้ เชน่ อะตอม ประกอบดว้ ยนิวเคลียสที่มีโปรตอนและนิวตรอนรวมตัวกันอยู่อย่างหนาแน่นบริเวณตรงกลางอะตอม นิวเคลียสมี ขนาดเล็กมาก มมี วลมาก มีประจุไฟฟา้ บวก และมมี วลเกือบเท่ากับมวลอะตอม โดยมีอิเลก็ ตรอนซึ่งมีประจุไฟฟ้า ลบ เคลื่อนที่อยูร่ อบ ๆ นิวเคลียส เป็นต้น จากนั้นครูกล่าวต่อว่า ในตารางธาตุยังมีธาตุอกี กลุ่มหนึง่ ซึ่งมีสมบัติ แตกตา่ งไปจากธาตุอืน่ ๆ ท่ีไดศ้ กึ ษาไปแล้ว โดยธาตุกลมุ่ นส้ี ามารถแผร่ ังสีแลว้ กลายเปน็ อะตอมของธาตุใหมไ่ ด้ โดย เรียกธาตุในกลมุ่ นว้ี า่ ธาตุกมั มนั ตรงั สี ซ่งึ นักเรียนจะไดศ้ ึกษาตอ่ ไป 1.2 ครตู ั้งคำถามว่า นกั วิทยาศาสตร์มวี ธิ ีศกึ ษาหาองค์ประกอบของนิวเคลียสอยา่ งไร โดยให้นักเรียนแตล่ ะ คนชว่ ยกนั ตอบคำถาม ขนั้ ท่ี 2 ขน้ั สำรวจและคน้ หา (Exploration) 20 นาที 2.1 ครูให้นักเรียนแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ 4–5 คน จากนั้นให้นักเรียนแต่ละกลุ่มศึกษาค้นควา้ เกี่ยวกับการ ทดลองของเบ็กเคอเรล โดยใช้คำถามต่อไปนี้ 1) การทดลองของเบก็ เคอเรลมีวัตถปุ ระสงค์อยา่ งไร (แนวตอบ : เพื่อศึกษาว่าสารที่กำลังเรืองแสงทุกชนิดมีการปล่อยรังสีเอกซ์ออกมาหรือไม่ โดย ทดลองกบั สารเรืองแสงต่างๆ หลายชนิด โดยการใชแ้ สงอาทิตย์เป็นตัวกระตุ้นให้เกิด สารเรืองแสงขึ้น เพอ่ื ทดสอบวา่ มกี ารปลอ่ ยรงั สเี อกซ์ออกมาหรือไม่) 2) เบก็ เคอเรลมีเหตุผลอย่างไรท่ีสรุปว่า ในการทดลองกับสารประกอบยเู รเนียมน้ัน รอยดำบนฟิล์ม ไม่ได้เกดิ จากรงั สีเอกซ์ (แนวตอบ : เน่ืองจากรังสีเอกซ์เกิดข้ึนเองไม่ได้ จะตอ้ งกระตนุ้ ด้วยด้วยอนุภาค หรือรังสีบางชนิด แต่รังสีท่ที ำใหเ้ กดิ รอยดำบนฟลิ ม์ ในการทดลองกบั สารประกอบยูเรเนียมนั้นเกิดขึ้นเอง) 2.2 ครูและนักเรียนร่วมกันอภิปรายเกย่ี วกับการทดลองของเบ็กเคอเรล ขั้นท่ี 3 อธบิ ายและลงข้อสรุป (Explanation) 15 นาที 3.1 ครูทบทวนความรทู้ ไ่ี ด้เรียนไปในช่ัวโมงทีแ่ ล้ว และช้ใี หเ้ ห็นว่ากมั มนั ตภาพรังสีเป็นปรากฏการณ์ท่ีธาตุ กมั มันตรังสเี กิดการแผ่รังสีออกมาตลอดเวลา ทำใหม้ ีการจำแนกรังสีจากธาตกุ ัมมันตรังสเี ปน็ 3 ชนดิ คือ แอลฟา บตี า แกมมา โดยทราบวา่ อนภุ าคแอลฟามปี ระจุไฟฟา้ เป็นบวก อนุภาคบตี ามีประจุไฟฟ้าเป็นลบ และรงั สีแกมมา ไม่มีมวล ไมม่ ปี ระจไุ ฟฟ้า 3.2 ครูอธิบายเพ่ิมเติมเกี่ยวกับความสามารถในการทำให้อากาศแตกตัวเป็นไอออน โดยชี้ให้เห็นว่า ความสามารถในการทำให้อากาศแตกตัวเป็นไอออนจะข้ึนกับจำนวนประจุไฟฟ้าของรังสีนั้น ส่วนอำนาจทะลุ ผ่านของรังสีจะขึ้นอยู่กับมวล รังสีที่มีมวลมากย่อมมีอำนาจทะลุผ่านต่ำกว่ารังสีที่มีมวลน้อย การศึกษา
144 เกี่ยวกับความสามารถในการทำให้อากาศแตกตัวเป็นไอออนและอำนาจทะลุผ่าน ช่วยให้นักวิทยาศาสตร์วัด พลังงานของรังสีชนิดต่าง ๆ ได้ 3.3 ครูนำนักเรียนอภิปรายและสรุปเกี่ยวกับกัมมันตภาพรังสี ธาตุกัมมันตรังสี และคุณสมบัติของ กัมมันตภาพรงั สี โดยตงั้ คำถาม ดงั นี้ 1) เราทราบได้อยา่ งไรว่า อนุภาคแอลฟา อนุภาคบตี า และรังสแี กมมา มีประจุไฟฟา้ บวก ประจไุ ฟฟ้า ลบ และไม่มปี ระจไุ ฟฟ้า ตามลำดับ (แนวตอบ : ทราบโดยให้รังสผี ่านสนามแม่เหลก็ แลว้ สังเกตทิศการเบยี่ งเบนของอนุภาคแอลฟาและ อนุภาคบีตาเป็นทิศเดียวกับการเบี่ยงเบนไปของประจุบวกและประจุลบ ตามลำดบั ส่วนรงั สแี กมมาไม่เบ่ียงเบนในสนามแมเ่ หลก็ แสดงวา่ ไมม่ ปี ระจุไฟฟา้ ) 2) อนุภาคหรือรงั สใี ดมีอำนาจทะลผุ า่ นสงู ท่สี ดุ (แนวตอบ : รังสีแกมมา) 3) อนุภาคหรือรงั สใี ดตอ้ งใชว้ ัสดุทมี่ คี วามหนาแน่นมากในการกัน้ รังสชี นดิ น้ัน (แนวตอบ : รังสีแกมมา) 4) อนุภาคหรอื รังสใี ดมีสมบัติเหมือนอิเล็กตรอน (แนวตอบ : อนภุ าคบตี า) 5) อนุภาคหรอื รังสีใดมีอำนาจทะลุทะลวงต่ำ กระดาษท่ีหนาประมาณ 2-3 เซนติเมตร ก็สามารถกั้น รงั สนี ี้ได้ (แนวตอบ : อนภุ าคแอลฟา) 3.4 ครูเปิดโอกาสให้นักเรียนสอบถามเน้ือหา เรื่อง การเกิดกัมมันตภาพรงั สี วา่ มีส่วนไหนที่ยังไม่เข้าใจ และใหค้ วามร้เู พม่ิ เตมิ ในส่วนน้นั ข้นั ที่ 4 ข้ันขยายความรู้ (Elaboration) 10 นาที 4.1 ครูและนักเรยี นร่วมกันสรุปความรู้เรอ่ื ง การเกิดธาตุกมั มนั ตรังสี จนนกั เรียนเกิดความเข้าใจทต่ี รงกนั ขั้นท่ี 5 ข้นั ประเมิน (Evaluation) 10 นาที 5.1 ครูประเมนิ ผลโดยการสังเกตการตอบคำถาม 5.2 ครูประเมินผลโดยใชแ้ บบทดสอบออนไลน์ wordwall สื่อ วัสดุ อปุ กรณ์ และแหล่งการเรียนรู้ ส่อื /วสั ดุ/อปุ กรณ์ แหล่งการเรียนรู้ 1. PowerPoint เรอื่ ง การเกิดธาตุกมั มันตรงั สี 1. หนงั สือเรยี นรายวิชาเพ่มิ เตมิ วทิ ยาศาสตร์ เคมี เลม่ 1 ชัน้ มธั ยมศึกษาปที ี่ 4 2. ใบกจิ กรรมการเรยี นรู้ 3. อินเตอรเ์ นต็ การประเมนิ การเรียนรู้ การวดั ผลประเมนิ ด้าน วธิ ีการวดั ผล เคร่ืองมอื ที่ใช้วดั ผล เกณฑ์การ ประเมินผล
1.ด้านความรู้ (K) - การมีสว่ นร่วมในการตอบคำถาม - คำถามในชนั้ เรยี น 145 - แบบทดสอบออนไลน์ wordwall -แบบทดสอบออนไลน์ 2. ด้านทกั ษะ/ -ระดบั คณุ ภาพ 3 กระบวนการ (P) wordwall ผ่านเกณฑ์ -รอ้ ยละ 60 ผ่าน -แบบทดสอบออนไลน์ wordwall -แบบทดสอบออนไลน์ เกณฑ์ wordwall -รอ้ ยละ 60 ผ่าน เกณฑ์ 3. ด้านคุณลกั ษณะอนั พงึ -การสังเกตพฤติกรรมรายบคุ คล -แบบสังเกตพฤตกิ รรม -ระดับคุณภาพ 3 ประสงค์ (A) รายบคุ คล ผ่านเกณฑ์
แบบสังเกตพฤติกร คำชแี้ จง : ใหผ้ ู้สอนสังเกตพฤตกิ รรมของนักเรยี นในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรยี น แล้ว ลำดบั ท่ี ช่อื –สกลุ การแสดง การยอมรับฟงั คน ของนักเรยี น ความคิดเหน็ 1 2 เดก็ ชายณัฐพร ทับเจริญ 32132 3 เด็กชายธนากร รุ่งฟ้า 4 เด็กชายบญุ ฤทธิ์ เสนมา ✓✓ 5 เด็กหญิงตวงรัตน์ กิจขยัน 6 เด็กหญิงมณมี ัญชุ์ ดว้ งแสง ✓✓ 7 นายกษิดิเ์ ดช ชูภักด์ิ ✓✓ 8 นายชยั วัฒน์ คำแหง 9 นายทรงพล แคนศิลา ✓✓ 10 เดก็ ชายธีรภทั ร เอีย่ มบุญ ✓✓ 11 นายธันวา เนาวศ์ รี 12 นายสุทศั น์ เลไทสงค์ ✓✓ 13 เด็กชายอภชิ าติ ชนะมลู ✓✓ 14 นางสาวนันทิกานต์ ถาวร 15 นางสาวนรมน พลเยยี่ ม ✓✓ 16 นางสาวพชั รินทร์ สวุ รรณพรม ✓✓ 17 นางสาววราพร พิมไพ 18 นางสาววิราภา รวมรัตน์ ✓✓ นางสาววิสา ชนะมลู ✓✓ ✓✓ ✓✓ ✓✓ ✓✓ ✓✓ ✓✓ ✓✓
146 รรมการทำงานกลุม่ วขดี ✓ลงในชอ่ งที่ตรงกับระดบั คะแนน การทำงาน ความมีนำ้ ใจ การมี รวม นอนื่ ตามที่ได้รับ สว่ นร่วมในการ 15 คะแนน มอบหมาย ปรบั ปรงุ ผลงานกลุ่ม 10 1321321 11 321 10 ✓✓ 14 ✓ 15 ✓✓ ✓ 8 ✓✓ 8 ✓ 8 ✓✓ ✓ 9 ✓✓ ✓ 9 ✓ 7 ✓✓ ✓ 9 ✓ ✓✓ ✓ 15 ✓ 10 ✓ ✓✓ ✓ 12 ✓ ✓✓ ✓ 12 ✓ 9 ✓ ✓✓ ✓ 9 ✓ ✓✓ ✓ ✓✓✓ ✓ ✓ ✓✓ ✓✓ ✓ ✓ ✓✓ ✓✓ ✓✓ ✓✓
19 นางสาวอภิญญา ปัทมอมั รนิ ทร์ ✓ ✓ เกณฑก์ ารให้คะแนน ให้ 3 คะแนน ปฏบิ ตั หิ รือแสดงพฤติกรรมอย่างสม่ำเสมอ ให้ 2 คะแนน ปฏบิ ัตหิ รือแสดงพฤตกิ รรมบอ่ ยครงั้ ให้ 1 คะแนน ปฏิบัตหิ รือแสดงพฤติกรรมบางคร้ัง เกณฑก์ ารตดั สิน ช่วงคะแนน 14–15 11–13 8–10 ต่ำกว่า 8
✓✓✓ 147 ลงชื่อ ................................................... ผู้ประเมนิ 15 ............./.................../............... นคุณภาพ ระดับคุณภาพ ดีมาก ดี พอใช้ ปรบั ปรุง
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273
- 274
- 275
- 276
- 277
- 278
- 279
- 280
- 281
- 282
- 283
- 284
- 285
- 286
- 287
- 288
- 289
- 290
- 291
- 292
- 293
- 294
- 295
- 296
- 297
- 298
- 299
- 300
- 301
- 302
- 303
- 304
- 305
- 306
- 307
- 308
- 309
- 310
- 311
- 312
- 313
- 314
- 315
- 316
- 317
- 318
- 319
- 320
- 321
- 322
- 323
- 324
- 325
- 326
- 327
- 328
- 329
- 330
- 331
- 332
- 333
- 334
- 335
- 336
- 337
- 338
- 339
- 340
- 341
- 342
- 343
- 344
- 345
- 346
- 347
- 348
- 349
- 350
- 351
- 352
- 353
- 354
- 355
- 356
- 357
- 358
- 359
- 360
- 361
- 362
- 363
- 364
- 365
- 366
- 367
- 368
- 369
- 370
- 371
- 372
- 373
- 374
- 375
- 376
- 377
- 378
- 379
- 380
- 381
- 382
- 383
- 384
- 385
- 386
- 387
- 388
- 389
- 390
- 391
- 392
- 393
- 394
- 395
- 396
- 397
- 398
- 399
- 400
- 401
- 402
- 403
- 404
- 405
- 406
- 407
- 408
- 409
- 410
- 411
- 412
- 413
- 414
- 415
- 416
- 417
- 418
- 419
- 420
- 421
- 422
- 423
- 424
- 425
- 426
- 427
- 428
- 429
- 430
- 431
- 432
- 433
- 434
- 435
- 436
- 437
- 438
- 439
- 440
- 441
- 442
- 443
- 444
- 445
- 446
- 447
- 448
- 449
- 450
- 451
- 452
- 453
- 454
- 455
- 456
- 457
- 458
- 459
- 460
- 461
- 462
- 463
- 464
- 465
- 466
- 467
- 468
- 469
- 470
- 471
- 472
- 473
- 474
- 475
- 476
- 477
- 478
- 479
- 480
- 481
- 482
- 483
- 484
- 485
- 486
- 487
- 488
- 489
- 490
- 491
- 492
- 493
- 494
- 495
- 496
- 497
- 498
- 499
- 500
- 501
- 502
- 503
- 504
- 505
- 506
- 507
- 508
- 509
- 510
- 511
- 512
- 513
- 514
- 515
- 516
- 517
- 518
- 519
- 520
- 521
- 522
- 523
- 524
- 525
- 526
- 527
- 528
- 529
- 530
- 531
- 532
- 533
- 534
- 535
- 536
- 537
- 538
- 539
- 540
- 541
- 542
- 543
- 544
- 545
- 546
- 547
- 548
- 549
- 550
- 551
- 552
- 553
- 554
- 555
- 556
- 557
- 558
- 559
- 560
- 561
- 562
- 563
- 564
- 565
- 566
- 567
- 568
- 569
- 570
- 571
- 572
- 573
- 574
- 575
- 576
- 577
- 578
- 579
- 580
- 581
- 582
- 583
- 584
- 585
- 586
- 587
- 588
- 589
- 590
- 591
- 592
- 593
- 594
- 595
- 596
- 597
- 598
- 599
- 600
- 601
- 602
- 603
- 604
- 605
- 606
- 607
- 608
- 609
- 610
- 611
- 612
- 613
- 614
- 615
- 616
- 617
- 618
- 619
- 620
- 621
- 622
- 623
- 624
- 625
- 626
- 627
- 628
- 629
- 630
- 631
- 632
- 633
- 634
- 635
- 636
- 637
- 638
- 639
- 640
- 641
- 642
- 643
- 644
- 645
- 646
- 647
- 648
- 649
- 650
- 651
- 652
- 653
- 654
- 655
- 656
- 657
- 658
- 659
- 660
- 661
- 662
- 663
- 664
- 665
- 666
- 667
- 668
- 669
- 670
- 671
- 672
- 673
- 674
- 675
- 676
- 677
- 678
- 679
- 680
- 681
- 682
- 683
- 684
- 685
- 686
- 687
- 688
- 689
- 690
- 691
- 692
- 693
- 694
- 695
- 696
- 697
- 698
- 699
- 700
- 701
- 702
- 703
- 704
- 705
- 706
- 707
- 708
- 709
- 710
- 711
- 712
- 713
- 714
- 715
- 716
- 717
- 718
- 719
- 720
- 721
- 722
- 723
- 724
- 725
- 726
- 727
- 728
- 729
- 730
- 731
- 732
- 733
- 734
- 735
- 736
- 737
- 738
- 739
- 740
- 741
- 742
- 743
- 744
- 745
- 746
- 747
- 748
- 749
- 750
- 751
- 752
- 753
- 754
- 755
- 756
- 757
- 758
- 759
- 760
- 761
- 762
- 763
- 764
- 765
- 766
- 767
- 768
- 769
- 770
- 771
- 772
- 773
- 774
- 775
- 776
- 777
- 778
- 779
- 780
- 781
- 1 - 50
- 51 - 100
- 101 - 150
- 151 - 200
- 201 - 250
- 251 - 300
- 301 - 350
- 351 - 400
- 401 - 450
- 451 - 500
- 501 - 550
- 551 - 600
- 601 - 650
- 651 - 700
- 701 - 750
- 751 - 781
Pages: