36 แผนการจัดการเรียนรทู้ ี่ 3 กลมุ่ สาระการเรียนร้วู ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ระดับช้นั มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 4 หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 1 เรื่อง ความปลอดภัยและทักษะในปฏิบัติการเคมี เร่ือง การวดั ปริมาณสาร เลขนยั สำคญั และหนว่ ยวัด วิชา เคมี 1 รหัส ว31223 เวลาเรียน 1 ช่ัวโมง จำนวน 1.0 หนว่ ยกติ ครผู สู้ อน นางสาวณัฐธิดา ชากรแกว้ สาระการเรียนรู้ เขา้ ใจหลักการทำปฏบิ ัติการเคมี การวัดปรมิ าณสาร หนว่ ยวัดและการเปล่ียนหน่วย การคํานวณปริมาณ ของสาร ความเข้มข้นของสารละลาย รวมทั้งการบูรณาการความรู้และทักษะในการอธิบายปรากฏการณ์ใน ชวี ิตประจำวนั และการแกป้ ญั หาทางเคมี ผลการเรยี นรู้ เลือกและใชอ้ ปุ กรณห์ รือเครือ่ งมือในการทำปฏิบตั ิการ และวดั ปริมาณต่าง ๆ ไดอ้ ย่างเหมาะสม ระบหุ นว่ ยวัดปรมิ าณต่าง ๆ ของสาร และเปลี่ยนหนว่ ยวดั ให้เป็นหนว่ ยในระบบเอสไอ ด้วยการใชแ้ ฟก เตอร์เปล่ียนหนว่ ย จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ ด้านความรู้ (Knowledge) 1. บอกชื่อและเลอื กใช้อุปกรณ์หรือเครอ่ื งมือในการปฏบิ ตั กิ ารและวัดปริมาณต่างๆไดอ้ ย่างเหมาะสม 2. อ่านคา่ ปรมิ าณจากการวัดโดยแสดงเลขนัยสำคญั ทีถ่ ูกต้อง 3. ระบุหน่วยวัดปรมิ าณตา่ ง ๆ ได้ ด้านทกั ษะ (Process) 4. เรียกช่ือหนว่ ยวดั ในระบบเอสไอไดอ้ ย่างถูกตอ้ ง ดา้ นคณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ (Affective) 5. มคี วามมงุ่ มัน่ ตง้ั ใจในการเรียนรู้ และแสวงหาความรู้ สาระสำคญั หรือความคิดรวบยอด ในการทำปฏิบตั ิการทดลองทางเคมีสามารถเกดิ อุบตั ิเหตจุ ากการใช้สารเคมไี ด้ทุกเมื่อ หากผทู้ าํ การทดลองมีความรูใ้ นเรื่องการปฐมพยาบาลเบือ้ งต้นเก่ียวกับการไดร้ ับอุบัติเหตจุ ากสารเคมี จะสามารถลดความรุนแรงและความเสียหายท่เี กดิ ข้ึนได้ ดังนั้นเพ่อื ปอ้ งกันความรนุ แรงท่เี กิดจาก อุบัติเหตจุ ากสารเคมี จึงมกี ารปฐมพยาบาลเบอื้ งต้นเมื่อไดร้ ับอบุ ตั ิเหตุจากสารเคมี สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รียน ความสามารถในการส่ือสาร ความสามารถในการคดิ ความสามารถในการแกป้ ัญหา ความสามารถในการใช้ทกั ษะชวี ิต ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์
37 รกั ชาติ ศาสน์ กษตั ริย์ ซอื่ สัตย์ มีวนิ ยั ใฝเ่ รียนรู้ อยอู่ ยา่ งพอเพยี ง มงุ่ มน่ั ในการทำงาน รักความเปน็ ไทย มีจติ สาธารณะ กิจกรรมการเรยี นรู้ ผา่ นวิธกี ารสอนแบบออนไลน์ โดยผ่านแอพพลเิ คช่ัน Google meet วธิ สี อนโดยใชก้ ระบวนการสืบเสาะหาความรู้ (Inquiry Cycle หรือ Inquiry Method : 5E) ขนั้ ที่ 1 ข้ันกระตุน้ ความสนใจ (Engagement) 5 นาที 1.1 ครกู ลา่ วทักทายนักเรียน 1.2 ครูถามนักเรียนว่าถ้าตอ้ งการน้ำใหม้ ีปริมาตรใกลเ้ คียง 25 mL มากทส่ี ดุ ควรใช้อปุ กรณ์ใดในการตวง ระหว่าง กระบอกตวงกบั ปิเปตต์ ซึ่งวนั น้เี ราจะไดท้ ำการพิสูจน์วา่ ระหว่างกระบอกตวงกับปเิ ปตต์ชน้ิ ไหนแม่นยำ กว่ากัน ขนั้ ท่ี 2 ขั้นสำรวจและค้นหา (Exploration) 20 นาที 1. ครูแบ่งกลุม่ นกั เรียนกลุ่มละ 3-4 คน 2. ให้นักเรียนแตล่ ะกล่มุ ทำ ดวู ิดโี อกิจกรรม 1.1 การทดลองวดั ปรมิ าตรโดยใชอ้ ปุ กรณช์ นดิ ต่าง ๆ และ การวัดมวลโดยใชเ้ ครื่องชั่ง (https://www.youtube.com/watch?v=TBnRdiFAq6k&t=334s) วธิ ีการทดลอง 1. เทน้ำกล่ันปรมิ าตร 200 mL ลงในบกี เกอรข์ นาด 250 วัดอณุ หภูมิของน้ำ บนั ทกึ ผลการทดลล 2. ชงั่ มวลของบีกเกอร์ขนาด 100 mL 3. หามวลของนำ้ 25 mL 3 ครั้งดังน้ี ครงั้ ท่ี 1 ปิเปตต์นำ้ 25 mL ลงในบกี เกอรข์ นาด 100 mL ช่ังมวลของน้ำและบีกเกอร์ บันทกึ ผล และคำนวณมวล ของน้ำ 25 mL บนั ทึกผล ครงั้ ท่ี 2 ปเิ ปตตน์ ้ำ 25 mL ลงในบกี เกอรใ์ บเดิม ชั่งมวลรวมของนำ้ 50 mL และบกี เกอร์ บนั ทึกผล และคำนวณ มวลของนำ้ 25 mL ทเ่ี ตมิ ครงั้ ที่ 2 บนั ทกึ ผล ครง้ั ที่ 3 ปเิ ปตตน์ ำ้ 25 mL ลงในบีกเกอร์ใบเดมิ ชง่ั มวลรวมของนำ้ 75 mL และบีกเกอร์ บันทึกผล และคำนวณ มวลของนำ้ 25 mL ทเ่ี ติมครง้ั ท่ี 3 บันทึกผล 4. คำนวณค่ามวลเฉลยี่ ของน้ำท่ีไดจ้ ากการปิเปตต์ 3 ครัง้ บนั ทึกผล นำค่ามวลเฉล่ียของนำ้ ในขอ้ 4 มาคำนวณปริมาณของน้ำดว้ ยสตู ร d=m/v เม่ือ d คอื ความหนาแนน่ ของนำ้ (g/ml) m คอื มวลของน้ำ (g) V คือ ปริมาตรของนำ้ (mL)
38 5. ทำการทดลองซ้ำในขอ้ 1-5 โดยเปลีย่ นปิเปตตเ์ ปน็ กระบอกตวงขนาด 25 mL 6. นำค่าปริมาตรของนำ้ ท่คี ำนวณไดจ้ ากการใชป้ ิเปตต์และกระบอกตวงมาเปรียบเทยี บความแมน่ ของการวัดจาก การใช้อปุ กรณ์ตา่ งชนิดกัน ขัน้ ที่ 3 อธบิ ายและลงข้อสรปุ (Explanation) 15 นาที 3.1 ครูอธิบายเกี่ยวกับคา่ ทวี่ ัดได้จากการทดลองเพื่อนำเข้าสู่เรอื่ ง เลขนยั สำคัญ และสอนการนบั เลข นยั สำคญั โดยใช้ powerpoint 3.2 ครูอธิบายเกย่ี วกบั อปุ กรณ์ทีใ่ ช้สำหรับการวัดปริมาตร อปุ กรณว์ ัดปริมาตรสารเคมีท่ีเป็นของเหลวท่ีใช้ ในห้องปฏิบตั กิ ารทางวิทยาศาสตรม์ หี ลายชนดิ ซ่ึงแต่ละชนิดมขี ีดและตัวเลขแสดงปรมิ าตรทีไ่ ด้รับการตรวจสอบ มาตรฐานและกำหนดความคลาดเคล่ือนท่ียอมรับได้ บางชนิดมีความคลาดเคลอ่ื นน้อย บางชนิดมคี วาม คลาดเคล่ือนมาก ในการเลือกใช้ตอ้ งคำนึงถึงความเหมาะสมกับประมาตรและระดบั ความแมน่ ยำทีต่ ้องการ อปุ กรณว์ ดั ปรมิ าตรบางชนิดทน่ี ักเรยี นไดใ้ ช้งานท่ผี า่ นมา เช่น บีกเกอร์ ขวดรูปกรวย กระบอกตวง เป็นอปุ กรณท์ ไี่ ม่ สามารถบอกปรมิ าณไดแ้ ม่นมากพอสำหรับการทดลองในบางปฏิบัติการ บกี เกอร์ มลี ักษณะเปน็ ทรงกระบอกปากกว้าง มขี ดี บอกปรมิ าตรในระดับมิลลลิ ติ ร มีหลายขนาด ดงั รูป1.7 ขวดรปู กรวย มลี ักษณะคล้ายผลชมพู่ มขี ีดบอกปรมิ าตรในระดับมลิ ลลิ ติ รมหี ลายขนาด ดงั รูป 1.8 กระบอกตวง มลี ักษณะเป็นทรงกระบอก มขี ดี บอกปริมาตรในระดบั มิลลลิ ติ ร ดงั รูป 1.9 นอกจากน้ันยงั มีอปุ กรณ์ทส่ี ามารถวัดปริมาตรของเหลวได้แมน่ มากกว่าอุปกรณ์ข้างตน้ โดยท้งั ท่เี ปน็ การวัก ปริมาตรของเหลวที่บรรจุอย่ใู น และการวัดปรมิ าตรของเหลวทถ่ี ่ายเท เช่น ปิเปตต์ บวิ เรตต์ ขวดกำหนดปรมิ าตร ปิเปตต์ เป็นอุปกรณ์วัดปริมาตรท่ีมคี วามแม่นสูง ซึ่งใชส้ ำหรับการถ่ายเทของเหลวปิเปตต์ใช้กันท่วั ไป 2 แบบ คอื แบบปริมาตรมีกระเปาะตรงกลาง มีขีดบอกปรมิ ตรเพยี งค่าเดียวและแบบใช้ตวง บวิ เรตต์ เปน็ อุปกรณ์สำหรับการถา่ ยเทของเหลวในปริมาตรตา่ ง ๆ ตามตอ้ งการ ขวดกำหนดปริมาตร เปน็ อุปกรณส์ ำหรบั วัดปรมิ าตรของเหลวท่ีบรรจภุ ายใน ใช้สำหรับการเตรยี มสารละลายที่ ความเขม้ ข้นแนน่ อน 3.3 ครกู ระตุ้นความสนใจของนักเรียนโดยยกตวั อย่างการวัดปรมิ าณสิง่ ของทพี่ บชวี ิตประจำวันซงึ่ วดั ปริมาณเดียวกันแตใ่ ชห้ นว่ ยท่แี ตกตา่ งกัน เชน่ การวัดมวลท่ีรายงานด้วยหนว่ ยปอนดแ์ ละกโิ ลกรัม จากน้ันให้ นักเรียนยกตัวอย่างอืน่ ๆ เพ่มิ เตมิ เชน่ การระบุปริมาตรในหน่วยลติ รลูกบาศกเ์ ซนติเมตร ลูกบาศกเ์ ดซิเมตร ถ้วย ตวง แกลลอน การระบอุ ุณหภมู ิในหน่วยองศาเซลเซียส ฟาเรนไฮต์ แลว้ อภิปรายร่วมกันเพ่ือใหไ้ ด้ข้อสรุปว่าหนว่ ยท่ี วดั ได้จากปรมิ าณท่ีตา่ งกนั ก็จะมีหน่วยทแ่ี ตกต่างกนั และแตล่ ะปรมิ าณก็มไี ด้หลายหนว่ ย 3.4 ครใู ห้นักเรียนจบั ค่กู ัน และให้แตล่ ะคู่วเิ คราะห์เกย่ี วกับหนว่ ยวัด วา่ มีหนว่ ยอะไรบ้าง จากแหล่งการ เรยี นรู้ตา่ ง ๆ เช่น หนังสือเรียนวิชาวิทยาศาสตร์เพิ่มเตมิ (เคมี) อนิ เทอร์เนต็ หนงั สืออ้างอิงต่างๆ ในหอ้ งสมุด
39 3.5 ครแู ละนักเรียนร่วมกนั อภปิ รายว่าหนว่ ยทนี ักเรียนได้หามาไดแ้ บ่งประเภทออกเปน็ หน่วยในระบบ เอสไอ หน่วยเอสไออนุพันธ์ แนวทางการอภปิ ราย : ซ่ึงหน่วยในระบบเอสไอ หรอื หน่วยเอสไอ ใช้เปน็ หน่วยกลางที่ทกุ ประเทศใชเ้ ป็นมาตรฐาน ในการระบหุ นว่ ยการวดั ทางวิทยาศาสตร์ซึ่งหน่วยเอสอพ้ืนฐานมี 7 หน่วย ข้ันท่ี 4 ขัน้ ขยายความรู้ (Elaboration) 10 นาที 1. ครใู ห้ความร้เู พมิ่ เตมิ ว่า อุปกรณแ์ ตล่ ะชนดิ มีความละเอยี ดไมเ่ ท่ากัน โดยชใ้ี หเ้ หน็ ตัวเลขทปี่ รากฏฏบน อุปกรณ์ท่นี ำมาให้นักเรยี นดู เชน่ ความคลาดเคลอ่ื นของกระบอกตวงและปิเปตต์และตงั้ คำถามเพ่อื อธบิ ายวา่ เพราะเหตใุ ดกระบอกตวงมคี ่าความคลาดเคล่ือนน้อยกว่าปเิ ปตต์ แนวคำตอบ : ปเิ ปตต์มพี นื้ ทห่ี น้าตดั บริเวณท่ีผวิ ของของเหลวน้อยกว่ากระบอกตวง ทำใหค้ วามผดิ พลาดของระดบั ของเหลวทถี่ ่ายเทมคี า่ น้อยกวา่ กระบอกตวง 2. ครอู ธิบายเก่ยี วกับ เคร่ืองแก้วและอุปกรณว์ ดั มวล โดยใช้เกมสบ์ ิงโก “เคร่ืองแก้ว” พร้อมทง้ั อธบิ าย ประโยชนแ์ ละการใช้งานของเครือ่ งแก้วแต่ละชนดิ ขัน้ ท่ี 5 ขัน้ ประเมิน (Evaluation) 10 นาที 1. ครใู ห้นกั เรียนทำแบบทดสอบ เรอื่ ง การวดั ปรมิ าณสาร เลขนัยสำคัญ หนว่ ยวดั ในรูปแบบ เกมส์ออนไลน์ Wordwall สือ่ วสั ดุ อปุ กรณ์ และแหลง่ การเรยี นรู้ สอ่ื /วสั ดุ/อปุ กรณ์ แหลง่ การเรยี นรู้ 1. PowerPoint เรอ่ื ง การวัดปริมาณสาร เลขนยั สำคญั หนว่ ยวดั 1. หนงั สือเรยี นรายวิชาเพ่มิ เติม วิทยาศาสตร์ เคมี เล่ม 1 ช้ันมธั ยมศกึ ษา ปที ่ี 4 2. สอ่ื ประกอบการสอน 2. ใบกจิ กรรมการเรยี นรู้ https://www.youtube.com/watch?v=TBnRdiFAq6k&t=334s
40 3. แบบทดสอบ เรื่อง การวดั ปรมิ าณสาร เลขนยั สำคญั หนว่ ยวดั 3. อนิ เตอร์เนต็ ในรูปแบบ เกมส์ออนไลน์ Wordwall การประเมินการเรยี นรู้ จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ วิธีการวัดผล เครื่องมอื ที่ใช้วัดผล เกณฑก์ ารประเมินผล 1.ด้านความรู้ (K) - การมีส่วนร่วมเม่ือครูถาม -แบบประเมนิ รายบคุ คล -ระดับคณุ ภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์ - ใบงานท่ี 1.1 เร่ือง การ - เกมส์ออนไลน์ -ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์ ทดลองวดั ปริมาตรโดยใช้ Wordwall เร่ือง การวัด อุปกรณ์ชนดิ ต่าง ๆ และการ ปริมาณสาร เลขนัยสำคญั วดั มวลโดยใช้เคร่อื งชง่ั หน่วยวัด -แบบทดสอบ เร่อื ง การวัด ปริมาณสาร เลขนัยสำคญั หนว่ ยวัด ในรปู แบบ เกมส์ออนไลน์ Wordwall 2. ดา้ นทักษะ/ - สงั เกตพฤตกิ รรมผูเ้ รยี น - สังเกตพฤติกรรมผู้เรียน -ระดบั คณุ ภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์ กระบวนการ (P) 3. ด้านคุณลักษณะอัน -การสงั เกตพฤติกรรมแบบ -แบบประเมินรายบคุ คล -ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ พึงประสงค์ (A) รายบุคคล
41 กจิ กรรม 1.1 การทดลองวดั ปริมาตรโดยใช้อุปกรณช์ นดิ ตา่ ง ๆ และการวัดมวลโดยใชเ้ คร่ืองชง่ั จดุ ประสงค์การทดลอง .................................................................................................................................................................................... .............................................................................................................. ตารางบนั ทกึ ผลการทดลอง การวดั ปรมิ าตรน้ำด้วยปิเปตต์ มวลของน้ำทไี่ ด้ (g) อุณหภมู ิของน้ำทท่ี ำการทดลอง คือ ....... องศาเซลเซียส - ความหนาแน่นของน้ำทอ่ี ุณหภมู ินี้ เทา่ กับ ………… g/ml มวลทช่ี ง่ั ได้ (g) บีกเกอร์เปล่า เตมิ น้ำครง้ั ที่ 1 เตมิ น้ำครงั้ ที่ 2 เติมนำ้ ครัง้ ที่ 3 เฉลย่ี วิธกี ารคำนวณ .................................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................................... การวัดปริมาตรน้ำด้วยกระบอกตวง
อุณหภมู ิของนำ้ ท่ีทำการทดลอง คือ ....... องศาเซลเซยี ส 42 ความหนาแน่นของน้ำท่ีอุณหภูมนิ ้ี เท่ากับ ………… g/ml มวลของนำ้ ทีไ่ ด้ (g) มวลทชี่ ัง่ ได้ (g) - บกี เกอร์เปล่า เติมนำ้ ครง้ั ท่ี 1 เติมนำ้ ครั้งที่ 2 เตมิ นำ้ ครั้งที่ 3 เฉลยี่ วธิ กี ารคำนวณ .................................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................................... สรุปผลการทดลอง .................................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................................
แบบสังเกตพฤติกร คำชแี้ จง : ใหผ้ ู้สอนสังเกตพฤตกิ รรมของนักเรยี นในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรยี น แล้ว ลำดบั ท่ี ช่อื –สกลุ การแสดง การยอมรับฟงั คน ของนักเรยี น ความคิดเหน็ 1 2 เดก็ ชายณัฐพร ทับเจริญ 32132 3 เด็กชายธนากร รุ่งฟ้า 4 เด็กชายบญุ ฤทธิ์ เสนมา ✓✓ 5 เด็กหญิงตวงรัตน์ กิจขยัน 6 เด็กหญิงมณมี ัญชุ์ ดว้ งแสง ✓✓ 7 นายกษิดิเ์ ดช ชูภักด์ิ ✓✓ 8 นายชยั วัฒน์ คำแหง 9 นายทรงพล แคนศิลา ✓✓ 10 เดก็ ชายธีรภทั ร เอีย่ มบุญ ✓✓ 11 นายธันวา เนาวศ์ รี 12 นายสุทศั น์ เลไทสงค์ ✓✓ 13 เด็กชายอภชิ าติ ชนะมลู ✓✓ 14 นางสาวนันทิกานต์ ถาวร 15 นางสาวนรมน พลเยยี่ ม ✓✓ 16 นางสาวพชั รินทร์ สวุ รรณพรม ✓✓ 17 นางสาววราพร พิมไพ 18 นางสาววิราภา รวมรัตน์ ✓✓ นางสาววิสา ชนะมลู ✓✓ ✓✓ ✓✓ ✓✓ ✓✓ ✓✓ ✓✓ ✓✓
43 รรมการทำงานกลมุ่ วขีด ✓ลงในชอ่ งท่ีตรงกับระดบั คะแนน การทำงาน ความมีน้ำใจ การมี รวม นอื่น ตามท่ไี ด้รับ สว่ นร่วมในการ 15 คะแนน มอบหมาย ปรบั ปรุง ผลงานกลุ่ม 10 1321321 11 321 10 ✓✓ 14 ✓ 15 ✓✓ ✓ 8 ✓✓ 8 ✓ 8 ✓✓ ✓ 9 ✓✓ ✓ 9 ✓ 7 ✓✓ ✓ 9 ✓ ✓✓ ✓ 15 ✓ 10 ✓ ✓✓ ✓ 12 ✓ ✓✓ ✓ 12 ✓ 9 ✓ ✓✓ ✓ 9 ✓ ✓✓ ✓ ✓✓✓ ✓ ✓ ✓✓ ✓✓ ✓ ✓ ✓✓ ✓✓ ✓✓ ✓✓
19 นางสาวอภิญญา ปัทมอมั รนิ ทร์ ✓ ✓ เกณฑก์ ารให้คะแนน ให้ 3 คะแนน ปฏบิ ตั หิ รือแสดงพฤติกรรมอย่างสม่ำเสมอ ให้ 2 คะแนน ปฏบิ ัตหิ รือแสดงพฤตกิ รรมบอ่ ยครงั้ ให้ 1 คะแนน ปฏิบัตหิ รือแสดงพฤติกรรมบางคร้ัง เกณฑก์ ารตดั สิน ช่วงคะแนน 14–15 11–13 8–10 ต่ำกว่า 8
✓✓✓ 44 ลงชื่อ ................................................... ผปู้ ระเมนิ 15 ............./.................../............... นคณุ ภาพ ระดับคุณภาพ ดมี าก ดี พอใช้ ปรับปรุง
แบบประเมินคณุ ลกั ษณะ คำช้แี จง : ให้ผูส้ อนสังเกตพฤตกิ รรมของนกั เรยี นในระหว่างเรยี นและนอกเวลาเรียน แล้ว ปฏบิ ตั ิตามข้อตกลง กฎเกณฑ์ ระเบียบ ข้อบังคับในช้ันเรียน มี รู้จกั ใช้เวลาว่างใ ลำดับที่ ชือ่ –สกุล ความตรงต่อเวลาใน ประโยชน์ และ ของนักเรยี น การปฏิบัติกจิ กรรมต่าง ปฏิบตั ไิ ด้ ๆ และรับผิดชอบใน การทำงาน 32132 1 เดก็ ชายณัฐพร ทับเจรญิ ✓ ✓ 2 เดก็ ชายธนากร รงุ่ ฟ้า ✓✓ 3 เดก็ ชายบญุ ฤทธ์ิ เสนมา ✓ ✓ 4 เด็กหญิงตวงรตั น์ กจิ ขยัน ✓ ✓ 5 เดก็ หญิงมณีมัญช์ุ ด้วงแสง ✓ ✓ 6 นายกษิดิ์เดช ชูภกั ดิ์ ✓✓ 7 นายชัยวัฒน์ คำแหง ✓✓ 8 นายทรงพล แคนศลิ า ✓✓ 9 เดก็ ชายธรี ภทั ร เอย่ี มบญุ ✓ ✓ 10 นายธันวา เนาวศ์ รี ✓ 11 นายสทุ ศั น์ เลไทสงค์ ✓✓ 12 เดก็ ชายอภชิ าติ ชนะมลู ✓ ✓ 13 นางสาวนันทิกานต์ ถาวร ✓ ✓ 14 นางสาวนรมน พลเยย่ี ม ✓ ✓ 15 นางสาวพัชรินทร์ สุวรรณพรม ✓ ✓
45 ะอันพึงประสงค์ วขดี ✓ลงในช่องที่ตรงกับระดบั คะแนน ให้เปน็ รจู้ กั จัดสรรเวลาให้ ตัง้ ใจเรยี น มีความตั้งใจและ รวม ะนำไป เหมาะสม พยายามในการทำงาน 15 ทีไ่ ดร้ บั มอบหมาย คะแนน 1321321321 ✓ ✓✓ 8 10 ✓✓✓ 10 15 ✓✓✓ 15 10 ✓✓✓ 10 10 ✓✓✓ 9 8 ✓✓✓ 8 8 ✓✓✓ 15 10 ✓✓✓ 15 ✓✓ ✓ ✓✓ ✓ ✓ ✓ ✓✓ ✓ ✓✓ ✓✓✓ ✓✓ ✓ ✓✓✓
16 นางสาววราพร พิมไพ ✓ ✓ 17 นางสาววิราภา รวมรัตน์ ✓ ✓ ✓ 18 นางสาววสิ า ชนะมลู ✓ ✓ 19 นางสาวอภิญญา ปทั มอัมรินทร์ ✓ เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ให้ 3 คะแนน เกณฑ์การต พฤตกิ รรมทีป่ ฏิบตั ชิ ัดเจนและสมำ่ เสมอ ให้ 2 คะแนน ช่วงคะแนน พฤตกิ รรมทปี่ ฏิบตั ชิ ดั เจนและบ่อยครั้ง ให้ 1 คะแนน พฤตกิ รรมท่ปี ฏิบัตบิ างครั้ง 14-15 11-13 8-10 ต่ำกว่า 8
✓ ✓ ✓ 46 ✓ ✓ ✓ 15 ✓ ✓ ✓ 10 ✓ ✓ ✓ 10 15 ลงชอ่ื .................................................. ผปู้ ระเมิน ............/.................../............ ตัดสนิ คุณภาพ ระดบั คณุ ภาพ ดีมาก ดี พอใช้ ปรบั ปรงุ
47 บันทกึ หลังการจัดการเรยี นรู้ 1. ผลการจดั การเรยี นการสอน • ดา้ นความรู้ - นกั เรียนมคี วามรู้ความเขา้ ใจในเนอ้ื หา - นกั เรยี นสามารถบอกชื่อและเลือกใช้อปุ กรณ์หรือเครื่องมอื ในการปฏิบัติการได้ - นักเรยี นสามารถอา่ นคา่ ปรมิ าณจากการวดั โดยแสดงเลขนัยสำคัญทีถ่ กู ต้อง - นกั เรียนรู้จักและสามารถระบุหนว่ ยวัดปรมิ าณต่าง ๆ ได้ • ด้านสมรรถนะสำคัญของผ้เู รียน - นกั เรียนมีทักษะและกระบวนการทางวิทยาศาสตรต์ ามเกณฑท์ ่คี รูกำหนด • ด้านคณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ - นักเรยี นทุกคนมคี วามใฝเ่ รียนรู้ - มีความตรงต่อเวลาในการเข้าเรยี น - นักเรยี นสามารถแก้ปัญหาอาจจะช้าหรือเรว็ ต่างกนั แต่สามารถแกป้ ัญหาได้ - มีวินัยในการเรียน • ดา้ นอ่นื ๆ (พฤติกรรมเด่น หรือพฤติกรรมทมี่ ีปัญหาของนักเรียนเป็นรายบุคคล (ถา้ มี)) - 2. ปญั หา / อุปสรรค - มีนักเรียนบางคนไม่สามารถเขา้ มาเรยี นออนไลนไ์ ด้ เนือ่ งจากไม่มีความพร้อมในเร่ืองของอุปกรณ์การเรียน 3. ขัน้ เสนอแนะ / แนวทางแกไ้ ข - ลงช่ือ..................................................................ผู้เขียนแผนการจัดการเรยี นรู้ (นางสาวณัฐธิดา ชากรแก้ว) ......................./................/.................... ลงชื่อ..................................................................ผู้ตรวจ (นางสาววารณุ ี อิทธพิ ัทธ์อเนก) ......................./................/....................
48 แผนการจัดการเรียนรูท้ ี่ 4 กลุม่ สาระการเรียนรวู้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ระดับชน้ั มธั ยมศึกษาปที ี่ 4 หนว่ ยการเรยี นร้ทู ี่ 1 เรือ่ ง ความปลอดภยั และทักษะในปฏิบตั ิการเคมี เรือ่ ง แฟกเตอร์เปล่ียนหน่วย วิชา เคมี 1 รหัส ว31223 เวลาเรียน 1 ชัว่ โมง จำนวน 1.0 หนว่ ยกิต ครูผสู้ อน นางสาวณัฐธิดา ชากรแก้ว สาระการเรียนรู้ เขา้ ใจหลักการทำปฏิบัติการเคมี การวัดปริมาณสาร หน่วยวดั และการเปลีย่ นหนว่ ย การคํานวณปริมาณ ของสาร ความเข้มข้นของสารละลาย รวมทั้งการบูรณาการความรู้และทักษะในการอธิบายปรากฏการณ์ใน ชวี ติ ประจำวนั และการแก้ปญั หาทางเคมี ผลการเรียนรู้ ระบุหน่วยวดั ปริมาณตา่ ง ๆ ของสาร และเปลี่ยนหนว่ ยวัดใหเ้ ปน็ หน่วยในระบบเอสไอดว้ ยการใช้แฟก เตอร์เปล่ยี นหน่วย จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ ดา้ นความรู้ (Knowledge) 1. อธิบายความสมั พนั ธข์ องหน่วยวดั ในระเอสไอได้ ด้านทกั ษะ (Process) 2. นาํ ความรูเ้ กยี่ วกบั การเปล่ยี นหนว่ ยในการคํานวณเพื่อเปลี่ยนหนว่ ยตา่ ง ๆ ใน ระบบเอสไอโดยใช้แฟก เตอรไ์ ด้ ดา้ นคณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ (Affective) 3. มีความมุ่งมน่ั ตั้งใจในการเรียนรู้ และแสวงหาความรู้ สาระสำคัญหรอื ความคดิ รวบยอด ในทางวทิ ยาศาสตรก์ ารคาํ นวณเก่ยี วกับปริมาณต่าง ๆ จำเปน็ ตอ้ งมกี ารเปลยี่ นหน่วยให้อยใู่ น หน่วยทีเ่ หมาะสม โดยไม่ทำใหค้ ่าของปรมิ าณเปลย่ี นแปลง เช่น ในทางเคมนี ยิ มระบุพลงั งานในหนว่ ย แคลอรี ในขณะทห่ี น่วยเอสไอของพลังงานคอื จูล ดงั นน้ั นกั เคมีจึงต้องเปลย่ี นหน่วยพลังงานแคลอรี และจูลใหเ้ หมาะสมกบั การใช้งาน โดยการเปลี่ยนหน่วยทำไดห้ ลายวิธฉี ะนนั้ ในท่นี ่จี ะใช้วธิ กี ารเทียบ หนว่ ยโดยแฟกเตอร์เปลี่ยนหน่วย สมรรถนะสำคญั ของผูเ้ รยี น ความสามารถในการส่ือสาร ความสามารถในการคิด ความสามารถในการแกป้ ัญหา ความสามารถในการใช้ทกั ษะชวี ติ ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี คณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์
49 รักชาติ ศาสน์ กษตั รยิ ์ ซ่ือสตั ย์ มวี นิ ัย ใฝเ่ รยี นรู้ อยู่อย่างพอเพียง ม่งุ มน่ั ในการทำงาน รักความเปน็ ไทย มีจติ สาธารณะ กิจกรรมการเรยี นรู้ ผ่านวธิ กี ารสอนแบบออนไลน์ โดยผา่ นแอพพลิเคชัน่ Google meet วธิ ีสอนโดยใช้กระบวนการสืบเสาะหาความรู้ (Inquiry Cycle หรือ Inquiry Method : 5E) ขน้ั ท่ี 1 ข้ันกระตนุ้ ความสนใจ (Engagement) 10 นาที 1.1 ครูทบทวนความรู้เดมิ ในเร่ือง หน่วยวดั โดยการใชค้ ําถาม แนวคําถาม : เมอื่ นกั เรียนรจู้ กั หน่วยวัดแลว้ แล้วนักเรียนรูห้ รือไมว่ า่ มนั มีความสัมพนั ธ์กันอย่างไร แนวคาํ ตอบ : ไม่ทราบ แนวคาํ ถาม : ถา้ นักเรียนยังไม่ทราบ ฉะนนั้ ก่อนเรยี นครูมีขา่ วจะมาเล่าให้นกั เรยี นฟงั หมายเหตุ : ครเู ล่าข่าวเกี่ยวกับปรากฏการณ์ทเ่ี กิดจากผลกระทบของภาวะโลกรอ้ น ซึง่ ทำให้บรเิ วณทไ่ี ด้รบั ผลกระทบมีอณุ หภูมิทต่ี ่ำกว่าเยอื กแขง็ ซง่ึ บางพนื้ ที่มอี ุณหภมู ิ -30 องศาฟาเรนไฮต์ (oF) และในบางพนื้ ท่มี ีอุณหภูมิ -70 องศาฟาเรนไฮต์ (oF) ซึ่งปรากฏการณด์ ังกล่าวมผี ลกระทบทำให้อากาศหนาวมากจนทำใหม้ ผี ้คู นเสยี ชีวติ เป็น จำนวนมาก ซ่ึงจากขา่ งท่ีครูเล่ามานักเรียนจะเหน็ ไดว้ ่าหนว่ ยของอุณหภูมไิ มใ่ ชอ่ งศาเซลเซียส แลว้ นกั เรยี นทราบ ไหมว่าอุณหภูมิ -30 กับ -70 oF คดิ เปน็ ก่อี งศาเซลเซยี ส ขั้นที่ 2 ขั้นสำรวจและค้นหา (Exploration) 20 นาที 2.1 ครูแสดงวิธีคํานวณการเปล่ียนหน่วยจากองศาฟาเรนไฮต์ (oF) เป็นองศาเซลเซียสให้นักเรยี นดูโดยใช้ วธิ แี ฟกเตอรเ์ ปลี่ยนหน่วย 2.2 ครูยกตวั อยา่ งการเปลย่ี นหนว่ ยอื่น ๆ ให้นกั เรียนดู 2.3 ครูใหน้ ักเรยี นทำแบบฝึกหดั 1.4 ในหนงั สอื เรียน หนา้ 35 เร่ืองแฟกเตอร์เปลี่ยนหน่วย จากน้นั ครจู ะ ขออาสาสมคั รหรอื สมุ่ เลขท่ีเพื่อให้ออกมาอธบิ าย เพ่ือตรวจสอบวา่ นกั เรยี นเขา้ ใจหรือไม่ ขั้นที่ 3 อธิบายและลงขอ้ สรุป (Explanation) 10 นาที 3.1 ครูใหน้ ักเรียนแต่ละกลุ่มสง่ ตวั แทนออกมาสรปุ ความรู้ แนวการสรปุ : หลักแฟคเตอร์เปล่ยี นหน่วย (conversion factor) เปน็ อตั ราสว่ นซ่ึงไดจ้ ากการเปรยี บเทยี บ ความสมั พันธข์ องหนว่ ยที่เกย่ี วขอ้ ง ทั้งทีม่ ีปรมิ าณอยใู่ นมติ ิเดยี วกันแต่มหี นว่ ยตา่ งกนั หรือมีปรมิ าณอยู่ตา่ งมติ ิกนั ก็ ได้กการเปลย่ี นหน่วยทั้งหมด โดยบอกถงึ เทคนคิ และวิธกี ารสังเกต เช่น การเปลี่ยนหน่วยเลก็ ไปหน่วยใหญค่ า่ จะ นอ้ ยลง แต่เป็นการเปล่ียนจากหน่วยใหญไ่ ปหนว่ ยเล็กคา่ จะมากขึน้ ขน้ั ที่ 4 ข้ันขยายความรู้ (Elaboration) 10 นาที 4.1 ครูใหค้ วามรเู้ พมิ่ เตมิ เก่ียวกบั การเปลีย่ นหน่วยในชวี ิตประจำวนั (การเปลีย่ นหน่วยในชีวติ ประจำวัน เชน่ การเปลย่ี นหนว่ ยของอุณหภูมิการเปลีย่ นหนว่ ยของเงนิ และใหเ้ หตผุ ลเพ่ิมเตมิ วา่ ทาํ ไมต้องเปล่ยี น หนว่ ย (เชน่
50 เนือ่ งจากว่า หน่วยต่าง ๆ ของแต่ละประเทศน้ันมกี ารใช้หน่วยทไี่ ม่เหมอื นกัน จงึ จำเปน็ ต้องคิดหนว่ ยที่เปน็ หน่วย สากลขนึ้ มาเพ่อื ให้ทุกประเทศเข้าใจตรงกันและใชร่ ่วมกนั นนั่ คือ SI Unit ขน้ั ที่ 5 ขน้ั ประเมิน (Evaluation) 10 นาที 5.1 ครูใหน้ ักเรียนทำแบบทดสอบเร่ือง แฟกเตอร์เปลย่ี นหน่วย ในรูปแบบเกมส์ออนไลน์ Vonder go สอ่ื วสั ดุ อุปกรณ์ และแหล่งการเรยี นรู้ ส่อื /วัสดุ/อปุ กรณ์ แหลง่ การเรยี นรู้ 1. PowerPoint เร่ือง แฟกเตอรเ์ ปลี่ยนหน่วย 1. หนงั สือเรียนรายวชิ าเพิ่มเตมิ วิทยาศาสตร์ เคมี เล่ม 1 ชนั้ มัธยมศกึ ษาปีท่ี 4 2. แบบทดสอบเร่อื ง แฟกเตอร์เปลีย่ นหนว่ ย ใน 2. ใบกจิ กรรมการเรียนรู้ รปู แบบเกมส์ออนไลน์ Vonder go 3. อินเตอร์เนต็ การประเมินการเรยี นรู้ จุดประสงค์การเรียนรู้ วิธีการวัดผล เคร่ืองมือทใ่ี ชว้ ดั ผล เกณฑก์ ารประเมินผล 1.ดา้ นความรู้ (K) - การมีส่วนร่วมเมื่อครูถาม -แบบประเมินรายบุคคล -ระดบั คุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ - เกมส์ออนไลน์ Vonder go - เกมสอ์ อนไลน์ Vonder -รอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑ์ เร่อื งแฟกเตอรเ์ ปลย่ี นหน่วย go เรอ่ื งแฟกเตอรเ์ ปล่ยี น หนว่ ย 2. ดา้ นทกั ษะ/ - ตรวจแบบฝกึ หัด - ตรวจแบบฝึกหดั รอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑ์ กระบวนการ (P) 3. ด้านคณุ ลกั ษณะอัน -การสังเกตพฤตกิ รรมแบบ -แบบประเมนิ รายบุคคล -ระดับคณุ ภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์ พึงประสงค์ (A) รายบคุ คล
แบบประเมนิ คณุ ลกั ษ คำชีแ้ จง : ให้ผสู้ อนสงั เกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหว่างเรยี นและนอกเวลาเ ปฏบิ ัติตามข้อตกลง กฎเกณฑ์ ระเบียบ ลำดบั ที่ ชือ่ –สกลุ ข้อบังคับในชั้นเรียน ร้จู กั ใชเ้ วล ของนกั เรียน มคี วามตรงต่อเวลา เปน็ ประโย ในการปฏิบัติกิจกรรม นำไปป ต่าง ๆ และ รบั ผิดชอบในการ ทำงาน 32132 1 เด็กชายณัฐพร ทับเจริญ ✓ ✓ 2 เด็กชายธนากร รงุ่ ฟา้ ✓✓ 3 เดก็ ชายบญุ ฤทธ์ิ เสนมา ✓ ✓ 4 เดก็ หญิงตวงรตั น์ กจิ ขยนั ✓ ✓ 5 เด็กหญิงมณมี ัญชุ์ ด้วงแสง ✓ ✓ 6 นายกษิดเ์ิ ดช ชูภักดิ์ ✓✓ 7 นายชยั วัฒน์ คำแหง ✓✓ 8 นายทรงพล แคนศลิ า ✓✓ 9 เดก็ ชายธีรภัทร เอ่ียมบุญ ✓ ✓ 10 นายธันวา เนาว์ศรี ✓ 11 นายสุทศั น์ เลไทสงค์ ✓✓ 12 เดก็ ชายอภิชาติ ชนะมูล ✓ ✓ 13 นางสาวนันทกิ านต์ ถาวร ✓ ✓ 14 นางสาวนรมน พลเย่ียม ✓ ✓
51 ษณะอันพึงประสงค์ เรยี น แล้วขดี ✓ลงในช่องท่ีตรงกับระดับคะแนน ลาว่างให้ รจู้ ักจดั สรรเวลาให้ ตั้งใจเรียน มีความตั้งใจและ รวม ยชน์ และ เหมาะสม พยายามในการ 15 ปฏิบตั ิได้ ทำงานท่ีไดร้ ับ คะแนน มอบหมาย 1321321321 ✓✓ ✓✓ 8 10 ✓✓✓✓ 10 15 ✓✓✓✓ 15 10 ✓✓✓ 10 10 ✓✓✓ 9 8 ✓✓✓✓ 8 8 ✓✓✓✓ 15 10 ✓✓✓✓ ✓✓✓ ✓ ✓✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓✓ ✓ ✓ ✓✓ ✓✓✓ ✓ ✓✓ ✓
15 นางสาวพชั รนิ ทร์ สวุ รรณพรม ✓ ✓ 16 นางสาววราพร พมิ ไพ ✓ ✓ ✓ 17 นางสาววิราภา รวมรัตน์ ✓ ✓ 18 นางสาววิสา ชนะมูล ✓ ✓ 19 นางสาวอภญิ ญา ปัทมอมั รนิ ทร์ ✓ เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ให้ 3 คะแนน เกณ พฤติกรรมทป่ี ฏิบัตชิ ดั เจนและสม่ำเสมอ ให้ 2 คะแนน พฤตกิ รรมท่ปี ฏิบตั ิชดั เจนและบอ่ ยครง้ั ให้ 1 คะแนน ช่วงคะแ พฤตกิ รรมท่ปี ฏิบตั บิ างครั้ง 14-1 11-1 8-10 ต่ำกว่า
52 ✓✓✓ 15 15 ✓✓✓ 10 ✓✓✓✓ 10 15 ✓✓✓✓ ✓✓✓ ลงชื่อ .................................................. ผู้ประเมิน ............/.................../............ ณฑก์ ารตดั สนิ คณุ ภาพ แนน ระดับคุณภาพ 15 ดีมาก 13 ดี 0 พอใช้ า 8 ปรับปรงุ
53 บันทึกหลังการจดั การเรียนรู้ 1. ผลการจัดการเรียนการสอน • ดา้ นความรู้ - นกั เรยี นมคี วามรู้ความเขา้ ใจในเนอ้ื หา - นักเรียนสามารถอธิบายความสัมพันธ์ของหน่วยวัดในระเอสไอได้ • ดา้ นสมรรถนะสำคญั ของผู้เรยี น - นกั เรียนมีทกั ษะและกระบวนการทางวิทยาศาสตรต์ ามเกณฑ์ทค่ี รูกำหนด - นกั เรียนสามารถนําความรเู้ กยี่ วกับการเปลีย่ นหน่วยในการคํานวณเพอื่ เปล่ียนหนว่ ยตา่ ง ๆ ใน ระบบเอสไอโดยใช้ แฟกเตอรไ์ ด้ • ดา้ นคุณลักษณะอนั พึงประสงค์ - นักเรียนทุกคนมคี วามใฝ่เรียนรู้ - มคี วามตรงตอ่ เวลาในการเข้าเรยี น - นักเรียนสามารถแก้ปญั หาอาจจะชา้ หรอื เรว็ ต่างกนั แต่สามารถแกป้ ัญหาได้ - มวี ินัยในการเรียน • ด้านอ่ืน ๆ (พฤติกรรมเด่น หรือพฤตกิ รรมทมี่ ีปัญหาของนักเรียนเปน็ รายบคุ คล (ถา้ ม)ี ) - 2. ปัญหา / อุปสรรค - มนี ักเรียนบางคนไมส่ ามารถเขา้ มาเรยี นออนไลน์ได้ เน่อื งจากไม่มีความพร้อมในเรื่องของอุปกรณ์การเรยี น 3. ข้ันเสนอแนะ / แนวทางแกไ้ ข - ลงชื่อ..................................................................ผู้เขยี นแผนการจัดการเรียนรู้ (นางสาวณฐั ธิดา ชากรแกว้ ) ......................./................/.................... ลงชอ่ื ..................................................................ผูต้ รวจ (นางสาววารุณี อิทธพิ ัทธ์อเนก) ......................./................/....................
54 แผนการจัดการเรียนรทู้ ่ี 5 กลมุ่ สาระการเรียนรวู้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ระดับชั้นมัธยมศกึ ษาปีท่ี 4 หนว่ ยการเรียนรูท้ ่ี 2 เรื่อง อะตอมและสมบัตขิ องธาตุ เรอื่ ง แบบจำลองอะตอม วิชา เคมี 1 รหัส ว31223 เวลาเรยี น 1 ชวั่ โมง จำนวน 1.0 หน่วยกิต ครผู ู้สอน นางสาวณัฐธดิ า ชากรแกว้ สาระการเรยี นรู้ เข้าใจโครงสร้างอะตอม การจัดเรียงธาตใุ นตารางธาตุ สมบตั ขิ องธาตุ พันธะเคมีและสมบัตขิ องสาร แก๊ส และสมบตั ขิ องแกส๊ ประเภทและสมบตั ขิ องสารประกอบอนิ ทรีย์และพอลิเมอร์ รวมทั้งการนาํ ความรไู้ ปใช้ ประโยชน์ ผลการเรียนรู้ สืบค้นขอ้ มลู สมมติฐาน การทดลอง หรือ ผลการทดลองทีเ่ ป็นประจักษพ์ ยานในการเสนอ แบบจาํ ลอง อะตอมของนักวิทยาศาสตร์ และอธิบายวิวัฒนาการของแบบจําลองอะตอม จุดประสงค์การเรียนรู้ ดา้ นความรู้ (Knowledge) 1. อธิบายลักษณะ และบอกความแตกตา่ งของแบบจำลองอะตอมของดอลตัน ทอมสัน รัทเทอร์ฟอร์ด โบร์ และแบบจำลองอะตอมแบบกลมุ่ หมอกได้ ด้านทักษะ (Process) 2. เขียนและระบุลกั ษณะของแบบจำลองอะตอมได้ ดา้ นคณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ (Affective) 3. มีความมุ่งมัน่ ตง้ั ใจในการเรยี นรู้ และแสวงหาความรู้ สาระสำคญั หรอื ความคิดรวบยอด ธาตตุ า่ ง ๆ จะมอี นภุ าคท่เี ลก็ มาก เรียกวา่ อะตอม ภายในโครงสร้างอะตอมของธาตุต่าง ๆประกอบด้วย อนุภาคมลู ฐาน และจดั เรยี งตวั กันอย่างเปน็ ระบบ ซ่งึ สามารถช่วยอธิบายสมบัติทางเคมีของสสาร และก่อให้เกิด ประโยชน์มากมาย นักวิทยาศาสตร์ได้ศึกษาโครงสร้างอะตอมโดยสร้างแบบจำลองอะตอมแบบต่าง ๆ เช่น แบบจำลองอะตอมของ ดอลตัน ทอมสัน รัทเทอร์ฟอร์ด โบร์ และแบบกลุ่มหมอก ซึ่งจากการศึกษาทำให้เกิด พัฒนาการอย่างต่อเนือ่ งของการศึกษาโครงสร้างของอะตอม และอธิบายปรากฏการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึน้ ไดอ้ ย่าง ถกู ตอ้ งเหมาะสม สมรรถนะสำคัญของผ้เู รียน ความสามารถในการส่ือสาร ความสามารถในการคดิ ความสามารถในการแกป้ ัญหา ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี
55 คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ รักชาติ ศาสน์ กษตั รยิ ์ ซอื่ สัตย์ มีวินยั ใฝ่เรียนรู้ อยอู่ ย่างพอเพียง มุง่ ม่ันในการทำงาน รกั ความเป็นไทย มีจติ สาธารณะ กิจกรรมการเรียนรู้ ผา่ นวิธีการสอนแบบออนไลน์ โดยผ่านแอพพลเิ คชนั่ Google meet วธิ สี อนโดยใช้กระบวนการสืบเสาะหาความรู้ (Inquiry Cycle หรือ Inquiry Method : 5E) ขน้ั ที่ 1 ข้ันกระตนุ้ ความสนใจ (Engagement) 10 นาที 1.1 ครูกระตุน้ ความสนใจของนักเรยี นเกีย่ วกบั เร่ืองท่ีจะเรียนในชว่ั โมงนี้ โดยครูต้งั คำถามกระต้นุ ความคิด วา่ หน่วยทเ่ี ลก็ ที่สุดของส่งิ มีชีวติ คอื เซลล์ แลว้ นักเรยี นคดิ ว่า อนุภาคทเ่ี ลก็ ที่สุดของสารคืออะไร มีลักษณะอยา่ งไร และมีส่วนประกอบอะไรบา้ ง (แนวตอบ : อนุภาคทีเ่ ล็กท่ีสดุ ของสาร คือ อะตอม มีลักษณะเปน็ ทรงกลม ประกอบด้วยนิวเคลียสอยู่ ตรงกลาง โดยในนิวเคลียสประกอบดว้ ยโปรตอนและนิวตรอน และมอี เิ ล็กตรอนเคล่ือนท่ี อยูร่ อบ ๆ นิวเคลียสทั่วทง้ั อะตอม) 1.2 ครูกระตุ้นความสนใจของนกั เรียน โดยการบรรยายเก่ียวกับประวัติความเปน็ มาของแนวคิดในการ พฒั นาแบบจำลองอะตอมของนักวทิ ยาศาสตร์ และวิธีที่นักวทิ ยาศาสตรใ์ ชศ้ กึ ษาแบบจำลองอะตอม ขน้ั ที่ 2 ขน้ั สำรวจและคน้ หา (Exploration) 20 นาที 2.1 ครแู บ่งกลุ่มให้เรยี นไปศกึ ษาแบบจำลองอะตอมของแตล่ ะคน โดยให้ศกึ ษาแค่กล่มุ ละ 1 หัวขอ้ ดังนี้ -แบบจำลองอะตอมของดอลตัน -แบบจำลองอะตอมของทอมสัน -แบบจำลองอะตอมของรัทเทอร์ฟอรด์ -แบบจำลองอะตอมของโบร์ แบบจำลองอะตอมแบบกลุ่มหมอก ข้ันที่ 3 อธิบายและลงข้อสรุป (Explanation) 10 นาที 3.1 ครใู หน้ ักเรียนแต่ละกลสุ่ ง่ ตวั แทนออกมานำเสนอหัวข้อที่ไดไ้ ปศึกษามา 3.2 ครสู รปุ ความรเู้ ร่ืองแบบจำลองอะตอมใหน้ ักเรียนฟังอีกคร้งั แนวคิดที่ว่า ส่งิ ต่าง ๆ ประกอบด้วยอนุภาคที่มขี นาดเล็กมากและมองไม่เห็นด้วยตาเปลา่ ได้เริ่มข้นึ ในสมยั กรีกโบราณ โดยเดโมคริตุส (Democritus) ซึ่งเปน็ นกั ปราชญ์ชาวกรีกผู้หนึ่ง เสนอแนวคิดว่า ถ้าแบง่ สงิ่ ต่าง ๆ ใหม้ ี ขนาดเล็กลงเรื่อย ๆ จะได้หนว่ ยย่อยซึง่ ไม่สามารถแบง่ ให้ลงไปไดอ้ ีกและเรียกหนว่ ยย่อยนีว้ า่ อะตอม (atom) ซ่งึ มาจากคำในภาษากรีกว่า atomos แปลว่า แบ่งแยกอีกไม่ได้ นกั วิทยาศาสตร์มีวธิ กี ารศึกษาเกีย่ วกบั โครงสร้าง อะตอมซงึ่ มองไม่เห็นดว้ ยตาเปลา่
56 แบบจำลองอะตอม จากกิจกรรมอาจกลา่ วได้วา่ การไดม้ าซ่ึงความรู้ทางวทิ ยาศาสตรน์ ้ันเก่ียวข้องกับกระบวนการสืบ เสาะหาความรแู้ ละทกั ษะทางวทิ ยาศาสตร์ เชน่ การสังเกต การต้งั สมมติฐาน การทดลอง การลงความเห็นจาก ข้อมลู จากนั้นจึงนำองคค์ วามรู้เหล่านัน้ มาผสมกบั จินตนาการ เพ่อื สร้างเป็นแนวคดิ หรือแบบจำลอง โดย แบบจำลองท่สี รา้ งข้นึ มาต้องมีข้อมูลสนบั สนนุ เพ่ือให้เกิดความน่าเชอื่ ถือและได้รับการยอมรบั อย่างไรกต็ าม แนวคดิ หรือแบบจำลองท่สี รา้ งข้นึ มานัน้ สามารถอธิบายปรากฎการณ์ไดด้ กี วา่ เดิม เช่นเดียวกบั การศกึ ษาโครงสร้าง อะตอมซึ่งมีขนาดเล็กมากและมองไม่เห็นดว้ ยตาเปลา่ นักวทิ ยาศาสตรต์ ้องใช้กระบวนการสบื เสาะหาความรูแ้ ละ ทกั ษะทางวิทยาศาสตร์เพอ่ื ใหไ้ ด้มาซึ่งความรู้ จากนั้นจึงนำความร้ทู ่ีไดร้ บั มาประกอบกับจนิ ตนาการเพื่อสรา้ งเปน็ แบบจำลองอะตอมเดมิ ไม่สามารถใช้อธิบายขอ้ มลู หรือผลทดลองใหม่ แบบจำลองอะตอมน้นั ๆ ก็สามารถ เปล่ียนแปลงได้ แบบจำลองอะตอมมีววิ ัฒนาการดงั นี้ แบบจำลองอะตอมของดอลตัน ในปี พ.ศ. 2346 จอห์น ดอลตัน (John Dolton) นกั วิทยาศาสตร์ชาวองั กฤษไดเ้ สนอทฤษฎอี ะตอม เพ่อื ใชอ้ ธิบายเก่ียวกบั การเปลย่ี นแปลงมวลสารก่อนและหลังทำปฏิกิริยาเคมี รวมทงั้ อตั ราสว่ นโดยมวลของธาตทุ ่ี รวมกันเปน็ สารประกอบหนง่ึ ๆ ซึ่งมสี าระสำคัญดงั นี้ 1. ธาตุประกอบดว้ ยอนภุ าคเล็ก ๆ อนภุ าคเหล่าน้ีเรยี กวา่ อะตอม ซึ่งแบ่งแยกและทำให้สญู หายไม่ได้ 2. อะตอมของธาตชุ นิดเดยี วกนั มีสมบตั เิ หมือนกนั เชน่ มีมวลเท่ากนั แตจ่ ะมสี มบตั แิ ตกตา่ งจากอะตอม ของธาตุอ่ืน 3.สารประกอบเกิดจากอะตอมของธาตุมากกว่าหน่ึงชนดิ ทำปฏิกิรยิ าเคมกี ันในอตั ราส่วนท่เี ป็นเลขลงตัว น้อย ๆ แบบจำลองอะตอมของทอมสัน ในชว่ งปี พ.ศ.2440 เจ เจ ทอมสนั (J.J. Thomson) นกั วทิ ยาศาสตร์ชาวอังกฤษทำการทดลองโดยใช้ รังสแี คโทดเคลอ่ื นที่ผา่ นสนามไฟฟา้ ที่ตงั้ ฉากกับสนามแม่เหลก็ และปรบั ขนาดของสนามแมเ่ หล็กไฟฟ้าให้พอเหมาะ ผลปรากฏว่า รังสแี คโทดเบยี่ งเบนในสนามไฟฟ้าเข้าหาข้วั บวกของสนามไฟฟ้า และทดสอบการเบย่ี งเบนของรังสี แคโทดในสนามแม่เหล็ก ปรากฏว่า รงั สแี คโทดเบ่ียงเบนในสนามแม่เหล็กเข้าหาข้ัวเหนอื แสดงว่า รังสแี คโทดมี ประจุลบ จากน้นั ทอมสนั ไดท้ ดลองเปลย่ี นชนดิ ของแกส๊ ทีบ่ รรจใุ นหลอดรงั สแี คโทด พบว่าไดผ้ ลเหมอื นเดมิ และ เม่ือคำนวณหาอตั ราสว่ นของประจตุ ่อมวล(e/m) ของอนุภาค ไดค้ ่าเทา่ 1.76 คูลอมบ/์ กรัม ทอมสันจึงสรุปไดว้ ่า อนุภาครงั สแี คโทดมปี ระจุลบ และเรยี กอนุภาคดังกล่าวว่า อิเลก็ ตรอน (electron) ขั้นที่ 4 ข้นั ขยายความรู้ (Elaboration) 15 นาที 4.1 ครใู หน้ กั เรยี นทำใบงานที่ 2.1 เรื่อง วิวัฒนาการของแบบจำลองอะตอม และใบงานท่ี 2.2 เร่ือง แบบจำลองอะตอม ข้นั ที่ 5 ขน้ั ประเมิน (Evaluation) 5 นาที 5.1 ครปู ระเมนิ ผล โดยการสงั เกตการตอบคำถาม การรว่ มกนั ทำงานและการนำเสนอผลงานหนา้ ช้ันเรยี น 5.2 ครูตรวจสอบผลจากการทำใบงานที่ 2.1 เรือ่ ง ววิ ัฒนาการของแบบจำลองอะตอม 5.3 ครูตรวจสอบผลจากการทำใบงานที่ 2.2 เรือ่ ง แบบจำลองอะตอมของธาตุ
57 สือ่ วัสดุ อปุ กรณ์ และแหล่งการเรียนรู้ แหลง่ การเรียนรู้ สือ่ /วสั ด/ุ อุปกรณ์ 1. หนังสือเรียนรายวิชาเพม่ิ เตมิ วิทยาศาสตร์ เคมี เล่ม 1 ช้นั มธั ยมศึกษาปที ี่ 4 1. PowerPoint เรอื่ ง แบบจำลองอะตอม 2. ใบกจิ กรรมการเรียนรู้ 2. ใบงานท่ี 2.1 เรือ่ ง วิวฒั นาการของแบบจำลองอะตอม 3. อนิ เตอรเ์ นต็ 3. ใบงานที่ 2.2 เร่อื ง แบบจำลองอะตอม การประเมินการเรียนรู้ การวดั ผลประเมนิ ด้าน วธิ กี ารวัดผล เคร่อื งมือท่ีใชว้ ดั ผล เกณฑก์ าร - ใบงานที่ 2.1-2.2 ประเมนิ ผล 1.ด้านความรู้ (K) - ตรวจใบงานที่ 2.1-2.2 -ร้อยละ 60 ผ่าน เกณฑ์ 2. ดา้ นทักษะ/ - ตรวจใบงานที่ 2.1-2.2 - ใบงานที่ 2.1-2.2 -ร้อยละ 60 ผ่าน กระบวนการ (P) เกณฑ์ 3. ด้านคณุ ลกั ษณะอนั พึง -การสงั เกตพฤติกรรมรายบคุ คล -แบบสังเกตพฤติกรรม -ระดบั คุณภาพ 3 ประสงค์ (A) รายบุคคล ผ่านเกณฑ์
58 ใบงานท่ี 2.1 เร่ือง ววิ ัฒนาการของแบบจำลองอะตอม คำช้แี จง : ให้นักเรยี นวาดแบบจำลองอะตอมแบบตา่ ง ๆ พรอ้ มทง้ั เขยี นคำอธบิ ายลกั ษณะของแตล่ ะ แบบจำลองอะตอมให้เขา้ ใจ พอสงั เขป แบบจำลองอะตอมของดอลตนั ……………………………………………………. ……………………………………………………. ……………………………………………………. ……………………………………………………. ……………………………………………………. ……………………………………………………. ……………………………………………………. ……………………………………………………. แบบจำลองอะตอมของทอมสนั ……………………………………………………. ……………………………………………………. ……………………………………………………. ……………………………………………………. ……………………………………………………. ……………………………………………………. ……………………………………………………. …………………………………………………….
59 แบบจำลองอะตอมของรทั เทอรฟ์ อรด์ ……………………………………………………. ……………………………………………………. ……………………………………………………. ……………………………………………………. ……………………………………………………. ……………………………………………………. ……………………………………………………. ……………………………………………………. แบบจำลองอะตอมของโบร์ ……………………………………………………. แบบจำลองอะตอมแบบกล่มุ หมอก ……………………………………………………. ……………………………………………………. ……………………………………………………. ……………………………………………………. ……………………………………………………. ……………………………………………………. ……………………………………………………. ……………………………………………………. ……………………………………………………. ……………………………………………………. ……………………………………………………. ……………………………………………………. ……………………………………………………. ……………………………………………………. …………………………………………………….
ใบงานท่ี 2.1 60 เร่อื ง ววิ ฒั นาการของแบบจำลองอะตอม เฉลย คำชี้แจง : ใหน้ ักเรียนวาดแบบจำลองอะตอมแบบตา่ ง ๆ พรอ้ มท้งั เขยี นคำอธิบายลักษณะของแต่ละ แบบจำลองอะตอมใหเ้ ข้าใจ พอสงั เขป แบบจำลองอะตอมของดอลตนั อะตอมเป็นทรงกลม ขนาดเล็กทส่ี ดุ ไม่สามารถ แบง่ แยกได้ แบบจำลองอะตอมของทอมสนั อะตอมเป็นทรงกลม ประกอบด้วยโปรตอนซึ่งมี ประจบุ วก และอเิ ลก็ ตรอนซึ่งมีประจุลบกระจายอยู่ ทั่วไปอย่างสม่ำเสมอ อะตอมในสภาพที่เป็นกลาง ทางไฟฟ้าจะมีจำนวนประจุบวกเท่ากับจำนวน ประจุลบ
61 แบบจำลองอะตอมของรทั เทอรฟ์ อรด์ อะตอมเป็นทรงกลม ประกอบด้วยนิวเคลียสที่มี ประจุบวกอยู่ตรงกลางอะตอม โดยมอี เิ ล็กตรอนที่ มีประจลุ บวิ่งอยู่รอบ ๆ นิวเคลยี ส แบบจำลองอะตอมของโบร์ อะตอมเป็นทรงกลม ประกอบด้วยนิวเคลียสอยู่ ตรงกลางอะตอม โดยมอี เิ ล็กตรอนวิ่งอยู่โดยรอบ อะตอมเป็นระดับชน้ั พลังงาน แบบจำลองอะตอมแบบกลมุ่ หมอก อะตอมเป็นทรงกลม ประกอบด้วยนิวเคลียสอยู่ ตรงกลางอะตอม มีอิเล็กตรอนวิ่งอยู่โดยรอบ นิวเคลียส โดยมที ิศทางไม่แนน่ อน
62 ใบงานที่ 2.2 เรือ่ ง แบบจำลองอะตอมของธาตุ คำชี้แจง : ใหน้ กั เรียนตอบคำถามตอ่ ไปน้ี 1. นักเรียนคดิ ว่าแบบจำลองอะตอมท่สี ร้างขน้ึ มานั้นสามารถปรับปรงุ หรือเปลีย่ นแปลงได้หรือไม่ เพราะเหตใุ ด …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 2. แนวคดิ เกี่ยวกับแบบจำลองอะตอมของดอลตนั ทอมสนั และรัทเทอร์ฟอรด์ แตกตา่ งกนั อย่างไร …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 3. นกั เรียนคดิ ว่าเราสามารถแยกแสงขาวออกเปน็ แสงสอี ่ืน ๆ ได้หรอื ไม่ อยา่ งไร …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 4. นักวทิ ยาศาสตร์ทา่ นใดเปน็ ผคู้ น้ พบโปรตอน …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 5. “อะตอมเป็นทรงกลม ประกอบด้วยประจุบวกและประจลุ บกระจายอยู่ทว่ั ไป” ข้อสรปุ นี้คอื แบบจำลองอะตอม ของนกั วิทยาศาสตร์ทา่ นใด …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 6. นกั วิทยาศาสตร์ท่านใดเป็นผคู้ ้นพบนวิ ตรอน …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 7. แนวคดิ ท่ีว่ามวลสว่ นใหญ่ของอะตอมคอื มวลของนิวเคลียส เปน็ แนวคดิ ของนักวิทยาศาสตรท์ า่ นใด …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 8. อเิ ล็กตรอนที่มพี ลังงานต่ำจะพบอยบู่ รเิ วณใดของอะตอม …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 9. “อเิ ลก็ ตรอนมีขนาดเลก็ มาก และเคล่ือนท่อี ย่างรวดเรว็ ตลอดเวลาไปทว่ั ทง้ั อะตอม” ขอ้ สรปุ นค้ี อื แบบจำลอง อะตอมแบบใด …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 10.การทดลองของทอมสนั ทำใหค้ น้ พบวา่ อะตอมประกอบด้วยอนุภาคใด ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ใบงานที่ 2.2 63 เรอ่ื ง แบบจำลองอะตอมของธาตุ เฉลย คำชีแ้ จง : ใหน้ ักเรยี นตอบคำถามตอ่ ไปนี้ 1. นกั เรียนคดิ ว่าแบบจำลองอะตอมทสี่ รา้ งขึ้นมานัน้ สามารถปรับปรุงหรือเปล่ยี นแปลงได้หรอื ไม่ เพราะเหตุใด เปลยี่ นแปลงได้ เพราะความทันสมัยของเคร่อื งมอื และความรคู้ วามสามารถของมนษุ ยท์ ่มี ากข้นึ ทำให้ คน้ พบความจรงิ ใหม่ ๆ จึงทำใหแ้ บบจำลองอะตอมเกิดการเปล่ียนแปลงไปได้ 2. แนวคิดเก่ยี วกบั แบบจำลองอะตอมของดอลตัน ทอมสัน และรัทเทอร์ฟอร์ด แตกต่างกันอยา่ งไร ดอลตนั เสนอว่าอะตอมไมส่ ามารถแบ่งแยกได้ ทอมสนั พบว่าในอะตอมอนภุ าค 2 ชนดิ คือ โปรตอนกับ นิวตรอน สว่ นรทั เทอร์ฟอรด์ พบวา่ ในอะตอมมีอนภุ าค 3 ชนดิ คือ โปรตอน นิวตรอน และอิเล็กตรอน 3. นกั เรยี นคดิ วา่ เราสามารถแยกแสงขาวออกเปน็ แสงสีอ่นื ๆ ได้หรอื ไม่ อยา่ งไร ได้ โดยให้แสงขาวส่องผา่ นปรซิ ึม จะไดแ้ ถบสีทั้งหมด 7 สี คอื สมี ่วง คราม นำ้ เงนิ เขยี ว เหลอื ง แสด และแดง 4. นกั วทิ ยาศาสตร์ท่านใดเปน็ ผคู้ น้ พบโปรตอน ออยเกนิ โกลด์ชไตน์ 5. “อะตอมเป็นทรงกลม ประกอบดว้ ยประจบุ วกและประจลุ บกระจายอยู่ท่ัวไป” ข้อสรปุ น้ีคอื แบบจำลองอะตอม ของนกั วิทยาศาสตร์ทา่ นใด แบบจำลองอะตอมของทอมสนั 6. นกั วทิ ยาศาสตร์ทา่ นใดเปน็ ผูค้ น้ พบนวิ ตรอน เซอร์ เจมส์ แชดวกิ 7. แนวคิดท่วี า่ มวลสว่ นใหญ่ของอะตอมคือมวลของนวิ เคลยี ส เป็นแนวคดิ ของนกั วิทยาศาสตร์ทา่ นใด รทั เทอร์ฟอรด์ 8. อิเล็กตรอนท่ีมพี ลังงานต่ำจะพบอยบู่ ริเวณใดของอะตอม บรเิ วณใกลน้ วิ เคลยี ส 9. “อิเลก็ ตรอนมีขนาดเลก็ มาก และเคล่ือนท่ีอย่างรวดเรว็ ตลอดเวลาไปทว่ั ทัง้ อะตอม” ข้อสรุปนคี้ อื แบบจำลอง อะตอมแบบใด แบบจำลองอะตอมแบบกลุ่มหมอก 10.การทดลองของทอมสันทำให้ค้นพบวา่ อะตอมประกอบด้วยอนุภาคใด โปรตอนและนิวตรอน
แบบสังเกตพฤติกร คำชแี้ จง : ใหผ้ ู้สอนสังเกตพฤตกิ รรมของนักเรยี นในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรยี น แล้ว ลำดบั ท่ี ช่อื –สกลุ การแสดง การยอมรับฟงั คน ของนักเรยี น ความคิดเหน็ 1 2 เดก็ ชายณัฐพร ทับเจริญ 32132 3 เด็กชายธนากร รุ่งฟ้า 4 เด็กชายบญุ ฤทธิ์ เสนมา ✓✓ 5 เด็กหญิงตวงรัตน์ กิจขยัน 6 เด็กหญิงมณมี ัญชุ์ ดว้ งแสง ✓✓ 7 นายกษิดิเ์ ดช ชูภักด์ิ ✓✓ 8 นายชยั วัฒน์ คำแหง 9 นายทรงพล แคนศิลา ✓✓ 10 เดก็ ชายธีรภทั ร เอีย่ มบุญ ✓✓ 11 นายธันวา เนาวศ์ รี 12 นายสุทศั น์ เลไทสงค์ ✓✓ 13 เด็กชายอภชิ าติ ชนะมลู ✓✓ 14 นางสาวนันทิกานต์ ถาวร 15 นางสาวนรมน พลเยยี่ ม ✓✓ 16 นางสาวพชั รินทร์ สวุ รรณพรม ✓✓ 17 นางสาววราพร พิมไพ 18 นางสาววิราภา รวมรัตน์ ✓✓ นางสาววิสา ชนะมลู ✓✓ ✓✓ ✓✓ ✓✓ ✓✓ ✓✓ ✓✓ ✓✓
64 รรมการทำงานกลมุ่ วขีด ✓ลงในชอ่ งท่ีตรงกับระดบั คะแนน การทำงาน ความมีน้ำใจ การมี รวม นอื่น ตามท่ไี ด้รับ สว่ นร่วมในการ 15 คะแนน มอบหมาย ปรบั ปรุง ผลงานกลุ่ม 10 1321321 11 321 10 ✓✓ 14 ✓ 15 ✓✓ ✓ 8 ✓✓ 8 ✓ 8 ✓✓ ✓ 9 ✓✓ ✓ 9 ✓ 7 ✓✓ ✓ 9 ✓ ✓✓ ✓ 15 ✓ 10 ✓ ✓✓ ✓ 12 ✓ ✓✓ ✓ 12 ✓ 9 ✓ ✓✓ ✓ 9 ✓ ✓✓ ✓ ✓✓✓ ✓ ✓ ✓✓ ✓✓ ✓ ✓ ✓✓ ✓✓ ✓✓ ✓✓
19 นางสาวอภิญญา ปัทมอมั รนิ ทร์ ✓ ✓ เกณฑก์ ารให้คะแนน ให้ 3 คะแนน ปฏบิ ตั หิ รือแสดงพฤติกรรมอย่างสม่ำเสมอ ให้ 2 คะแนน ปฏบิ ัตหิ รือแสดงพฤตกิ รรมบอ่ ยครงั้ ให้ 1 คะแนน ปฏิบัตหิ รือแสดงพฤติกรรมบางคร้ัง เกณฑก์ ารตดั สิน ช่วงคะแนน 14–15 11–13 8–10 ต่ำกว่า 8
✓✓✓ 65 ลงชื่อ ................................................... ผปู้ ระเมนิ 15 ............./.................../............... นคณุ ภาพ ระดับคุณภาพ ดมี าก ดี พอใช้ ปรับปรุง
แบบประเมนิ คณุ ลกั ษ คำชีแ้ จง : ให้ผสู้ อนสงั เกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหว่างเรยี นและนอกเวลาเ ปฏบิ ัติตามข้อตกลง กฎเกณฑ์ ระเบียบ ลำดบั ที่ ชือ่ –สกลุ ข้อบังคับในชั้นเรียน ร้จู กั ใชเ้ วล ของนกั เรียน มคี วามตรงต่อเวลา เปน็ ประโย ในการปฏิบัติกิจกรรม นำไปป ต่าง ๆ และ รบั ผิดชอบในการ ทำงาน 32132 1 เด็กชายณัฐพร ทับเจริญ ✓ ✓ 2 เด็กชายธนากร รงุ่ ฟา้ ✓✓ 3 เดก็ ชายบญุ ฤทธ์ิ เสนมา ✓ ✓ 4 เดก็ หญิงตวงรตั น์ กจิ ขยนั ✓ ✓ 5 เด็กหญิงมณมี ัญชุ์ ด้วงแสง ✓ ✓ 6 นายกษิดเ์ิ ดช ชูภักดิ์ ✓✓ 7 นายชยั วัฒน์ คำแหง ✓✓ 8 นายทรงพล แคนศลิ า ✓✓ 9 เดก็ ชายธีรภัทร เอ่ียมบุญ ✓ ✓ 10 นายธันวา เนาว์ศรี ✓ 11 นายสุทศั น์ เลไทสงค์ ✓✓ 12 เดก็ ชายอภิชาติ ชนะมูล ✓ ✓ 13 นางสาวนันทกิ านต์ ถาวร ✓ ✓ 14 นางสาวนรมน พลเย่ียม ✓ ✓
66 ษณะอันพึงประสงค์ เรยี น แล้วขดี ✓ลงในช่องท่ีตรงกับระดับคะแนน ลาว่างให้ รจู้ ักจดั สรรเวลาให้ ตั้งใจเรียน มีความตั้งใจและ รวม ยชน์ และ เหมาะสม พยายามในการ 15 ปฏิบตั ิได้ ทำงานท่ีไดร้ ับ คะแนน มอบหมาย 1321321321 ✓✓ ✓✓ 8 10 ✓✓✓✓ 10 15 ✓✓✓✓ 15 10 ✓✓✓ 10 10 ✓✓✓ 9 8 ✓✓✓✓ 8 8 ✓✓✓✓ 15 10 ✓✓✓✓ ✓✓✓ ✓ ✓✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓✓ ✓ ✓ ✓✓ ✓✓✓ ✓ ✓✓ ✓
15 นางสาวพชั รนิ ทร์ สวุ รรณพรม ✓ ✓ 16 นางสาววราพร พมิ ไพ ✓ ✓ ✓ 17 นางสาววิราภา รวมรัตน์ ✓ ✓ 18 นางสาววิสา ชนะมูล ✓ ✓ 19 นางสาวอภญิ ญา ปัทมอมั รนิ ทร์ ✓ เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ให้ 3 คะแนน เกณ พฤติกรรมทป่ี ฏิบัตชิ ดั เจนและสม่ำเสมอ ให้ 2 คะแนน พฤตกิ รรมท่ปี ฏิบตั ิชดั เจนและบอ่ ยครง้ั ให้ 1 คะแนน ช่วงคะแ พฤตกิ รรมท่ปี ฏิบตั บิ างครั้ง 14-1 11-1 8-10 ต่ำกว่า
67 ✓✓✓ 15 15 ✓✓✓ 10 ✓✓✓✓ 10 15 ✓✓✓✓ ✓✓✓ ลงชื่อ .................................................. ผู้ประเมิน ............/.................../............ ณฑก์ ารตดั สนิ คณุ ภาพ แนน ระดับคุณภาพ 15 ดีมาก 13 ดี 0 พอใช้ า 8 ปรับปรงุ
68 บันทกึ หลงั การจัดการเรยี นรู้ 1. ผลการจดั การเรยี นการสอน • ดา้ นความรู้ - นักเรียนมคี วามรู้ความเข้าใจในเนือ้ หา - นกั เรยี นสามารถอธิบายลกั ษณะ และบอกความแตกต่างของแบบจำลองอะตอมของดอลตัน ทอมสนั รัทเทอร์ฟอร์ด โบร์ และแบบจำลองอะตอมแบบกลุ่มหมอกได้ • ดา้ นสมรรถนะสำคญั ของผ้เู รยี น - นกั เรียนมีทกั ษะและกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ตามเกณฑ์ทีค่ รกู ำหนด • ดา้ นคุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ - นกั เรยี นทุกคนมีความใฝเ่ รียนรู้ - มคี วามตรงต่อเวลาในการเข้าเรียน - นักเรียนมีความม่งุ มน่ั ตง้ั ใจในการเรียนรู้ - มีวินยั ในการเรียน • ด้านอ่นื ๆ (พฤติกรรมเด่น หรือพฤติกรรมท่มี ีปญั หาของนักเรยี นเปน็ รายบุคคล (ถ้าม)ี ) - 2. ปัญหา / อุปสรรค - มนี ักเรยี นบางคนไมส่ ามารถเข้ามาเรยี นออนไลนไ์ ด้ เนอ่ื งจากไม่มคี วามพร้อมในเรื่องของอปุ กรณ์การเรยี น 3. ขนั้ เสนอแนะ / แนวทางแกไ้ ข - ลงชือ่ ..................................................................ผูเ้ ขยี นแผนการจดั การเรยี นรู้ (นางสาวณัฐธิดา ชากรแก้ว) ......................./................/.................... ลงชื่อ..................................................................ผูต้ รวจ (นางสาววารณุ ี อิทธพิ ัทธอ์ เนก) ......................./................/....................
69 แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 6 กลมุ่ สาระการเรียนรูว้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ระดับชน้ั มัธยมศกึ ษาปที ี่ 4 หน่วยการเรียนรทู้ ี่ 2 เร่อื ง อะตอมและสมบตั ขิ องธาตุ เรือ่ ง อนุภาคในอะตอมและไอโซโทป วิชา เคมี 1 รหัส ว31223 เวลาเรียน 1 ชัว่ โมง จำนวน 1.0 หน่วยกติ ครูผ้สู อน นางสาวณัฐธดิ า ชากรแกว้ สาระการเรยี นรู้ เข้าใจโครงสร้างอะตอม การจัดเรยี งธาตใุ นตารางธาตุ สมบัติของธาตุ พนั ธะเคมแี ละสมบัตขิ องสาร แก๊ส และสมบตั ิของแกส๊ ประเภทและสมบัตขิ องสารประกอบอินทรยี แ์ ละพอลเิ มอร์ รวมท้ังการนําความรูไ้ ปใช้ ประโยชน์ ผลการเรียนรู้ เขยี นสัญลกั ษณน์ วิ เคลยี ร์ของธาตุ และระบุจำนวนโปรตอน นิวตรอน และอิเล็กตรอนของอะตอมจาก สญั ลักษณน์ ิวเคลียร์ รวมทั้งบอกความหมายของไอโซโทป จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ ด้านความรู้ (Knowledge) 1. อธิบายความหมายของไอโซโทปได้ ดา้ นทกั ษะ (Process) 2. เขียนและระบอุ งค์ประกอบของสัญลกั ษณน์ ิวเคลยี ร์ได้ ด้านคุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ (Affective) 3. มีความม่งุ มน่ั ตั้งใจในการเรียนรู้ และแสวงหาความรู้ สาระสำคญั หรือความคดิ รวบยอด จากการศึกษาเกี่ยวกับโครงสร้างของอะตอม โดยมีข้อมลู ต่างๆ จากการทดลองมาสนบั สนุน สรุปได้ว่า อะตอมของธาตตุ ่างๆ จะประกอบด้วยอเิ ล็กตรอน โปรตอนและนิวตรอน (ยกเว้นอะตอมของธาตุไฮโดรเจน ท่ีไม่มี นิวตรอน) ซึ่งมีจำนวนแตกต่างกันไป เลขที่แสดงจ้านวนโปรตอนในนิวเคลียสของอะตอม เรียกว่าเลขอะตอม (atomic number, Z) เลขอะตอมจะเปน็ ค่าเฉพาะของธาตุ ธาตุชนิดเดียวกันจะมีเลขอะตอมเท่ากันเสมอ ซึ่งท่ี สภาวะปกติจะมีจำนวนโปรตอนและอิเล็กตรอนเท่ากัน ส่วนเลขที่แสดงจำนวนผลบวกของโปรตอนและจำนวน นิวตรอน เราเรียกว่า เลขมวล (mass number, A) ซึ่งในนิวเคลียสของอะตอม เลขมวลจะมีค่าใกล้เคยี งกับเลข ของอะตอม สมรรถนะสำคญั ของผ้เู รียน ความสามารถในการส่ือสาร ความสามารถในการคิด ความสามารถในการแก้ปัญหา ความสามารถในการใช้ทกั ษะชีวติ ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี
70 คณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์ รกั ชาติ ศาสน์ กษตั ริย์ ซ่ือสตั ย์ มวี นิ ัย ใฝ่เรยี นรู้ อยู่อย่างพอเพียง มงุ่ มน่ั ในการทำงาน รกั ความเปน็ ไทย มีจติ สาธารณะ กิจกรรมการเรยี นรู้ ผ่านวธิ ีการสอนแบบออนไลน์ โดยผา่ นแอพพลิเคช่นั Google meet วธิ ีสอนโดยใชก้ ระบวนการสบื เสาะหาความรู้ (Inquiry Cycle หรือ Inquiry Method : 5E) ขน้ั ที่ 1 ข้นั กระตนุ้ ความสนใจ (Engagement) 5 นาที 1.1 ครูทบทวนความร้เู กย่ี วกับอนภุ าคท่คี ้นพบภายในอะตอม คอื โปรตอน อเิ ล็กตรอน และนวิ ตรอน แล้ว ใหค้ วามรตู้ ่อไปวา่ อนุภาคโปรตอน นวิ ตรอน และอิเล็กตรอน เป็นอนุภาคมูลฐานทีส่ ำคญั ของอะตอม ขนั้ ที่ 2 ขนั้ สำรวจและคน้ หา (Exploration) 20 นาที 2.1 ครูใหน้ ักเรยี นแบ่งกลมุ่ แลว้ ศึกษาขอ้ มลู เก่ยี วกับอนภุ าคมูลฐานของอะตอม 2.2 ครทู บทวนความรเู้ ร่อื งการคน้ พบอนภุ าคนิวตรอนในนวิ เคลยี ส จากนน้ั ใหน้ กั เรียนแบ่งกลมุ่ ตามเดมิ แลว้ ศึกษาขอ้ มลู เกยี่ วกับสัญลักษณ์นิวเคลยี รแ์ ละไอโซโทป ขัน้ ท่ี 3 อธบิ ายและลงข้อสรุป (Explanation) 10 นาที 3.1 ครูให้นักเรยี นร่วมกันอภิปรายและเปรยี บเทียบสมบตั ิของอิเลก็ ตรอน โปรตอน และนิวตรอน ซ่ึง นักเรียนควรได้ขอ้ สรุปว่า อเิ ล็กตรอนและโปรตอนมีประจุไฟฟ้าเทา่ กัน แต่อเิ ล็กตรอนมีประจุลบ ส่วนโปรตอนมี ประจุบวก และนิวตรอนไม่มีประจไุ ฟฟา้ 3.2 ครูอธบิ ายเพ่มิ เติมในประเด็นตา่ ง ๆ ดงั น้ี 1) อธิบายการหาอนภุ าคมลู ฐานของธาตแุ ละการเขียนสัญลักษณน์ วิ เคลียร์ 2) อธบิ ายถึงสภาวะท่ีอะตอมมีจำนวนโปรตอนและจำนวนอิเล็กตรอนไมเ่ ทา่ กนั เรยี กว่า ไอออน (ion) เกดิ ขนึ้ ได้อย่างไร และมผี ลอยา่ งไร 3) อธบิ ายเพิม่ เตมิ เกีย่ วกับไอโซโทป (Isotope) ไอโซโทน (Isotone) และไอโซบาร์ (Isobar) 3.3 ครูต้งั คำถามให้นักเรยี นรว่ มกนั อภปิ รายเรือ่ งสัญลักษณข์ องธาตุ และไอโซโทป ไอโซโทน และไอโซ บาร์ เชน่ 1) จากสญั ลกั ษณน์ ิวเคลียร์ AZX ตวั A และ Z หมายถงึ อะไร (แนวตอบ : A หมายถึง เลขมวล ซ่งึ เป็นจำนวนโปรตอนรวมกับจำนวนนิวตรอนในนิวเคลียส และ Z หมายถึง เลขอะตอม ซ่ึงเปน็ จำนวนโปรตอนในนิวเคลยี ส) 2) การเปล่ยี นแปลงจากอะตอมของธาตไุ ปเป็นไอออนเกิดขนึ้ จากอะไร (แนวตอบ : การเปลย่ี นแปลงจากอะตอมของธาตุไปเป็นไอออนเกิดจากการเปลย่ี นแปลงของอเิ ลก็ ตรอนในอะตอม ของธาตแุ ต่ละชนิด)
71 3) กำหนดธาตใุ ห้ 6 ธาตุ ดังน้ี 151B 126C 1305P 136C 1340Si และ 146C จงระบวุ ่าธาตุใดเปน็ ไอโซโทป ไอโซโทน หรือไอโซบารก์ ัน พร้อมทัง้ ใหเ้ หตุผลประกอบ (แนวตอบ : ธาตุ 126������ และ 146������ เปน็ ไอโซโทปกัน เนื่องจากเปน็ อะตอมของธาตชุ นิดเดียวกันที่มี จำนวนโปรตอนเท่ากนั แตม่ ีจำนวนนวิ ตรอนต่างกนั ธาตุ 126������ และ 115������ เป็นไอโซโทนกนั เนื่องจากเป็นอะตอมของธาตุต่างชนดิ กัน แต่มี จำนวนนวิ ตรอนเทา่ กัน ธาตุ 3105������และ 3104������������ เป็นไอโซบารก์ ัน เนอ่ื งจากเป็นอะตอมของธาตตุ ่างชนิดกัน แต่มี เลขมวลเท่ากัน) ขั้นท่ี 4 ข้นั ขยายความรู้ (Elaboration) 15 นาที 4.1 ครูตัง้ ประเดน็ คำถามวา่ นกั เรยี นสามารถนำความรู้เร่อื งแบบจำลองอะตอมมาใชป้ ระโยชนไ์ ด้อยา่ งไร 4.2 ครตู ง้ั ประเดน็ คำถามวา่ ความรู้เร่ืองอนภุ าคมลู ฐานของธาตุสามารถนำมาใช้ประโยชน์ไดอ้ ย่างไร ขัน้ ที่ 5 ขน้ั ประเมิน (Evaluation) 10 นาที 5.1 ครูประเมนิ ผล โดยการสงั เกตการตอบคำถาม การร่วมกนั ทำงาน 5.2 ครปู ระเมินโดยใช้แบบทดสอบออนไลน์ ผา่ น google form สอ่ื วสั ดุ อปุ กรณ์ และแหลง่ การเรยี นรู้ สอื่ /วัสด/ุ อุปกรณ์ แหล่งการเรียนรู้ 1. PowerPoint เร่ือง อนภุ าคในอะตอมและไอโซโทป 1. หนังสือเรียนรายวชิ าเพิม่ เตมิ วทิ ยาศาสตร์ เคมี เล่ม 1 ชั้นมัธยมศกึ ษาปีท่ี 4 2. แบบทดสอบออนไลน์ ผา่ น google form 2. ใบกิจกรรมการเรียนรู้ 3. อนิ เตอรเ์ น็ต การประเมินการเรียนรู้ การวดั ผลประเมินดา้ น วิธกี ารวัดผล เคร่อื งมอื ทใ่ี ชว้ ดั ผล เกณฑ์การ ประเมินผล 1.ด้านความรู้ (K) - ตรวจแบบทดสอบออนไลน์ ผ่าน - แบบทดสอบออนไลน์ -รอ้ ยละ 60 ผ่าน google form ผา่ น google form เกณฑ์ 2. ด้านทักษะ/ - ตรวจแบบทดสอบออนไลน์ ผ่าน - แบบทดสอบออนไลน์ -รอ้ ยละ 60 ผ่าน กระบวนการ (P) google form ผ่าน google form เกณฑ์ 3. ด้านคณุ ลักษณะอนั พึง -การสงั เกตพฤติกรรมรายบุคคล -แบบสงั เกตพฤติกรรม -ระดับคณุ ภาพ 3 ประสงค์ (A) รายบคุ คล ผา่ นเกณฑ์
แบบสังเกตพฤติกร คำชแี้ จง : ใหผ้ ู้สอนสังเกตพฤตกิ รรมของนักเรยี นในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรยี น แล้ว ลำดบั ท่ี ช่อื –สกลุ การแสดง การยอมรับฟงั คน ของนักเรยี น ความคิดเหน็ 1 2 เดก็ ชายณัฐพร ทับเจริญ 32132 3 เด็กชายธนากร รุ่งฟ้า 4 เด็กชายบญุ ฤทธิ์ เสนมา ✓✓ 5 เด็กหญิงตวงรัตน์ กิจขยัน 6 เด็กหญิงมณมี ัญชุ์ ดว้ งแสง ✓✓ 7 นายกษิดิเ์ ดช ชูภักด์ิ ✓✓ 8 นายชยั วัฒน์ คำแหง 9 นายทรงพล แคนศิลา ✓✓ 10 เดก็ ชายธีรภทั ร เอีย่ มบุญ ✓✓ 11 นายธันวา เนาวศ์ รี 12 นายสุทศั น์ เลไทสงค์ ✓✓ 13 เด็กชายอภชิ าติ ชนะมลู ✓✓ 14 นางสาวนันทิกานต์ ถาวร 15 นางสาวนรมน พลเยยี่ ม ✓✓ 16 นางสาวพชั รินทร์ สวุ รรณพรม ✓✓ 17 นางสาววราพร พิมไพ 18 นางสาววิราภา รวมรัตน์ ✓✓ นางสาววิสา ชนะมลู ✓✓ ✓✓ ✓✓ ✓✓ ✓✓ ✓✓ ✓✓ ✓✓
72 รรมการทำงานกลมุ่ วขีด ✓ลงในชอ่ งท่ีตรงกับระดบั คะแนน การทำงาน ความมีน้ำใจ การมี รวม นอื่น ตามท่ไี ด้รับ สว่ นร่วมในการ 15 คะแนน มอบหมาย ปรบั ปรุง ผลงานกลุ่ม 10 1321321 11 321 10 ✓✓ 14 ✓ 15 ✓✓ ✓ 8 ✓✓ 8 ✓ 8 ✓✓ ✓ 9 ✓✓ ✓ 9 ✓ 7 ✓✓ ✓ 9 ✓ ✓✓ ✓ 15 ✓ 10 ✓ ✓✓ ✓ 12 ✓ ✓✓ ✓ 12 ✓ 9 ✓ ✓✓ ✓ 9 ✓ ✓✓ ✓ ✓✓✓ ✓ ✓ ✓✓ ✓✓ ✓ ✓ ✓✓ ✓✓ ✓✓ ✓✓
19 นางสาวอภิญญา ปัทมอมั รนิ ทร์ ✓ ✓ เกณฑก์ ารให้คะแนน ให้ 3 คะแนน ปฏบิ ตั หิ รือแสดงพฤติกรรมอย่างสม่ำเสมอ ให้ 2 คะแนน ปฏบิ ัตหิ รือแสดงพฤตกิ รรมบอ่ ยครงั้ ให้ 1 คะแนน ปฏิบัตหิ รือแสดงพฤติกรรมบางคร้ัง เกณฑก์ ารตดั สิน ช่วงคะแนน 14–15 11–13 8–10 ต่ำกว่า 8
✓✓✓ 73 ลงชื่อ ................................................... ผปู้ ระเมนิ 15 ............./.................../............... นคณุ ภาพ ระดับคุณภาพ ดมี าก ดี พอใช้ ปรับปรุง
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273
- 274
- 275
- 276
- 277
- 278
- 279
- 280
- 281
- 282
- 283
- 284
- 285
- 286
- 287
- 288
- 289
- 290
- 291
- 292
- 293
- 294
- 295
- 296
- 297
- 298
- 299
- 300
- 301
- 302
- 303
- 304
- 305
- 306
- 307
- 308
- 309
- 310
- 311
- 312
- 313
- 314
- 315
- 316
- 317
- 318
- 319
- 320
- 321
- 322
- 323
- 324
- 325
- 326
- 327
- 328
- 329
- 330
- 331
- 332
- 333
- 334
- 335
- 336
- 337
- 338
- 339
- 340
- 341
- 342
- 343
- 344
- 345
- 346
- 347
- 348
- 349
- 350
- 351
- 352
- 353
- 354
- 355
- 356
- 357
- 358
- 359
- 360
- 361
- 362
- 363
- 364
- 365
- 366
- 367
- 368
- 369
- 370
- 371
- 372
- 373
- 374
- 375
- 376
- 377
- 378
- 379
- 380
- 381
- 382
- 383
- 384
- 385
- 386
- 387
- 388
- 389
- 390
- 391
- 392
- 393
- 394
- 395
- 396
- 397
- 398
- 399
- 400
- 401
- 402
- 403
- 404
- 405
- 406
- 407
- 408
- 409
- 410
- 411
- 412
- 413
- 414
- 415
- 416
- 417
- 418
- 419
- 420
- 421
- 422
- 423
- 424
- 425
- 426
- 427
- 428
- 429
- 430
- 431
- 432
- 433
- 434
- 435
- 436
- 437
- 438
- 439
- 440
- 441
- 442
- 443
- 444
- 445
- 446
- 447
- 448
- 449
- 450
- 451
- 452
- 453
- 454
- 455
- 456
- 457
- 458
- 459
- 460
- 461
- 462
- 463
- 464
- 465
- 466
- 467
- 468
- 469
- 470
- 471
- 472
- 473
- 474
- 475
- 476
- 477
- 478
- 479
- 480
- 481
- 482
- 483
- 484
- 485
- 486
- 487
- 488
- 489
- 490
- 491
- 492
- 493
- 494
- 495
- 496
- 497
- 498
- 499
- 500
- 501
- 502
- 503
- 504
- 505
- 506
- 507
- 508
- 509
- 510
- 511
- 512
- 513
- 514
- 515
- 516
- 517
- 518
- 519
- 520
- 521
- 522
- 523
- 524
- 525
- 526
- 527
- 528
- 529
- 530
- 531
- 532
- 533
- 534
- 535
- 536
- 537
- 538
- 539
- 540
- 541
- 542
- 543
- 544
- 545
- 546
- 547
- 548
- 549
- 550
- 551
- 552
- 553
- 554
- 555
- 556
- 557
- 558
- 559
- 560
- 561
- 562
- 563
- 564
- 565
- 566
- 567
- 568
- 569
- 570
- 571
- 572
- 573
- 574
- 575
- 576
- 577
- 578
- 579
- 580
- 581
- 582
- 583
- 584
- 585
- 586
- 587
- 588
- 589
- 590
- 591
- 592
- 593
- 594
- 595
- 596
- 597
- 598
- 599
- 600
- 601
- 602
- 603
- 604
- 605
- 606
- 607
- 608
- 609
- 610
- 611
- 612
- 613
- 614
- 615
- 616
- 617
- 618
- 619
- 620
- 621
- 622
- 623
- 624
- 625
- 626
- 627
- 628
- 629
- 630
- 631
- 632
- 633
- 634
- 635
- 636
- 637
- 638
- 639
- 640
- 641
- 642
- 643
- 644
- 645
- 646
- 647
- 648
- 649
- 650
- 651
- 652
- 653
- 654
- 655
- 656
- 657
- 658
- 659
- 660
- 661
- 662
- 663
- 664
- 665
- 666
- 667
- 668
- 669
- 670
- 671
- 672
- 673
- 674
- 675
- 676
- 677
- 678
- 679
- 680
- 681
- 682
- 683
- 684
- 685
- 686
- 687
- 688
- 689
- 690
- 691
- 692
- 693
- 694
- 695
- 696
- 697
- 698
- 699
- 700
- 701
- 702
- 703
- 704
- 705
- 706
- 707
- 708
- 709
- 710
- 711
- 712
- 713
- 714
- 715
- 716
- 717
- 718
- 719
- 720
- 721
- 722
- 723
- 724
- 725
- 726
- 727
- 728
- 729
- 730
- 731
- 732
- 733
- 734
- 735
- 736
- 737
- 738
- 739
- 740
- 741
- 742
- 743
- 744
- 745
- 746
- 747
- 748
- 749
- 750
- 751
- 752
- 753
- 754
- 755
- 756
- 757
- 758
- 759
- 760
- 761
- 762
- 763
- 764
- 765
- 766
- 767
- 768
- 769
- 770
- 771
- 772
- 773
- 774
- 775
- 776
- 777
- 778
- 779
- 780
- 781
- 1 - 50
- 51 - 100
- 101 - 150
- 151 - 200
- 201 - 250
- 251 - 300
- 301 - 350
- 351 - 400
- 401 - 450
- 451 - 500
- 501 - 550
- 551 - 600
- 601 - 650
- 651 - 700
- 701 - 750
- 751 - 781
Pages: