525 2.4 ครใู หน้ กั เรียนจับคู่กับเพื่อน โดยให้ศกึ ษาค้นคว้าข้อมูลเก่ยี วกับลักษณะของปฏิกิริยาที่ผันกลับไม่ได้ และปฏกิ ิรยิ าท่ผี ันกลบั ได้ ขน้ั ที่ 3 ขัน้ อธิบายและลงขอ้ สรุป (Explaination) 30 นาที 3.1 ครอู ธบิ ายเรอ่ื งสภาวะสมดลุ ในหนงั สอื เรียน ม.5 เลม่ 3 3.2 ครูถามคำถามกับนักเรียน จากการทดลองข้างต้น กระดาษสที ยี่ ้ายจากกลมุ่ A ไป B มีแนวโน้มเป็น อย่างไร และอัตราการเปลย่ี นแปลงเป็นอยา่ งไร (แนวคำตอบ คอื กระดาษสีจากกลมุ่ A ไปกลมุ่ B ลดลงเป็นอัตรา การเปลีย่ นแปลงไปขา้ งหนา้ ) 3.3 จากการทดลองข้างต้น กระดาษสจี ากกลมุ่ B ไป A มีแนวโน้มเปน็ อยา่ งไร และอตั ราการเปล่ียนแปลง เปน็ อย่างไร (แนวคำตอบ คือการะดาษสจี ากกล่มุ B ไปกลมุ่ A เพม่ิ ขนึ้ เปน็ อัตราการเปลี่ยนแปลงยอ้ นกลับ) 3.4 ครูถามนักเรียนว่า จากที่ได้ทดการทดลองทั้ง 2 ครั้งมีความสัมพันธ์กันอย่างไร และอัตราการ เปลี่ยนแปลงเป็นอย่างไร (แนวคำตอบ คือการทดลองทั้งสองครั้งเมื่อทำการย้ายกระดาษสีไปเรื่อย ๆ พบว่า กระดาษสีคงที่ไม่เพิ่มหรือลดลงอีกแล้ว เป็นอัตราการเปลี่ยนแปลงไปข้างหน้าเท่ากับอัตราการเปลี่ยนแปลง ย้อนกลบั ) 3.5 ครูสรุปได้ว่า หากการย้ายกระดาษสี เป็นการย้ายปริมาณสาร ก็จะพบว่าปฏิกิริยาเคมีที่ไดท้ ำการ ทดลองเกิดปฏิกิริยาไปข้างหน้าได้คือ สาร A ไปเป็นสาร B คือเมื่อทำปฏิกิริยาไปเรื่อย ๆ สารตั้งต้นจะลดลง จนกระท่ังคงที่ สว่ นปฏกิ ริ ยิ าย้อยกลับคือ สาร B ไปเป็นสาร A จะพบวา่ เมือ่ ทำปฏิกิริยาไปเร่ือย ๆ ผลิตภัณฑ์จะ เพม่ิ ข้ึนจนกระทงั่ คงท่ี จะเกดิ ปฏิกริ ยิ าผันกลับไดน้ ้นั คือสารท่ียา้ ยจากกลุ่ม A และกลุ่ม B มีปรมิ าณเท่ากันเรียกว่า สมดุล 3.6 ครูสุ่มตวั แทนนักเรียน 1 คู่ ออกมานำเสนอเรื่องท่ีได้ศกึ ษาค้นควา้ ข้อมูลใหเ้ พ่อื นฟงั จากนัน้ ให้ นกั เรียนร่วมกันแสดงความคดิ เหน็ จนเกดิ ความเขา้ ใจท่ตี รงกนั 3.7 ครตู ั้งคำถามให้นักเรียนรว่ มกันอภิปรายเกยี่ วกับลักษณะของปฏกิ ิรยิ าที่ผันกลับไม่ได้และปฏิกิริยาท่ี ผนั กลับได้ เชน่ 1) ปฏกิ ริ ิยาทใี่ นระบบจะมที ้ังสารตง้ั ตน้ และผลิตภัณฑ์อยทู่ ุกชนดิ คือปฏิกิริยาประเภทใด (แนวตอบ : ปฏิกิริยาทผ่ี ันกลับได)้ 2) สัญลกั ษณ์แสดงการเปลยี่ นแปลงที่ผันกลบั ไดเ้ ป็นอย่างไร (แนวตอบ : ⇌) 3) ปฏิกิริยาท่ีผลติ ภัณฑ์ไม่เปลีย่ นกลับมาเป็นสารตั้งต้นคือปฏิกิรยิ าประเภทใด (แนวตอบ : ปฏิกริ ิยาท่ผี นั กลับไมไ่ ด้) ขัน้ ที่ 4 ขนั้ ขยายความรู้ (Elaboration) 20 นาที 4.1 นกั เรียนคิดว่าสภาวะสมดลุ เคมีในชวี ติ ประจำวนั มอี ะไรบ้าง ใหน้ ักเรยี นกลมุ่ เดิมช่วยกนั คดิ และตอบ คำถาม หากกล่มุ ใดตอบไดเ้ หมาะสมชดั เจนกจ็ ะได้รับคะแนนสะสมเพ่ิม (แนวคำตอบ เลอื ดของเราจะมีเม็ดเลือด แดง ท่ีทำหนา้ ทีล่ ำเลียงแก๊สออกซิเจนไปยังเซลลต์ ่าง ๆ ในรา่ งกาย ซ่งึ ในเซลลเ์ ม็ดเลอื ดแดงจะมีโปรตีนที่มีช่ือว่า ฮโี มโกลบินจะรวมกบั แกส๊ ออกซิเจน กลายเปน็ ออกซฮี โี มโกลบนิ เมอ่ื เราหายใจเข้ากน็ ำ O2 จากอากาศเขา้ ไปในถุง ลม ถุงลมมีความเข้มข้นของ O2 มาก ทำให้มีความดันมาก และหลอดเลือดฝอยมีความดันน้อยมี Hb อยู่ทำให้ เกิดปฏิกิริยา HbO2 เป็นปฏกิ ิรยิ าไปขา้ งหนา้ ซ่งึ เม็ดเลอื ดจะไหลเวยี นสู่ทั่วร่างกายทำให้ปริมาณ O2 ลดลงเกิดเป็น ปฏกิ ริ ิยาย้อนกลบั โดยจะหมุนเวยี นอยู่แบบนที้ ำใหร้ ่างกายเราเกิดภาวะสมดุลนัน้ เอง)
526 4.2 ครเู ปิดโอกาสใหน้ ักเรียนซักถามขอ้ สงสัยในเน้ือหา เรือ่ ง การเปลย่ี นแปลงที่ผันกลบั ได้ ว่ามสี ว่ นไหนที่ ยงั ไม่เขา้ ใจ และให้ความรเู้ พม่ิ เติมในสว่ นน้นั เพอ่ื จะใชเ้ ปน็ ความรูเ้ บอื้ งต้นสำหรับการเรียนในเนอ้ื หาตอ่ ๆ ไป 4.3 นักเรยี นทำแบบฝึกหัดทา้ ยบท ขัน้ ที่ 5 ขนั้ ประเมิน (Evaluation) 20 นาที 5.1 ตรวจสอบผลจากการทำแบบฝึกหัดท้ายบท 5.2 นักเรยี นและครรู ว่ มกันสรุปเกย่ี วกับการเปลีย่ นแปลงทผี่ นั กลับได้ ดงั น้ี • ปฏกิ ิริยาที่ผนั กลับได้เป็นปฏกิ ิรยิ าท่มี ีทัง้ การเปลีย่ นแปลงไปขา้ งหน้าและการเปลยี่ นแปลงย้อนกลับ ผลิตภัณฑส์ ามารถเปลี่ยนกลับมาเปน็ สารตั้งตน้ ได้ เกดิ ในระบบปิด และในระบบจะมีทัง้ สารตั้งตน้ และผลติ ภัณฑอ์ ยู่ทกุ ชนิด • ปฏิกริ ิยาท่ีผนั กลบั ไมไ่ ด้ มีลักษณะดงั น้ี 1) เกิดในระบบเปดิ หรือปดิ กไ็ ด้ 2) มีเฉพาะการเปลย่ี นแปลงไปข้างหนา้ 3) ผลติ ภณั ฑ์ไมเ่ ปลี่ยนกลับมาเป็นสารตงั้ ตน้ 4) เมอื่ ปฏิกิริยาเกดิ ข้ึนสมบรูณใ์ นระบบสารตั้งต้นจะหมดไป เหลอื แตผ่ ลิตภัณฑท์ เี่ กิดขึ้น • ปฏกิ ริ ิยาทผ่ี นั กลับได้ 1) เกิดในระบบปิดเท่านัน้ 2) มีท้งั การเปล่ียนแปลงไปข้างหนา้ และการเปล่ยี นแปลงย้อนกลบั 3) ผลติ ภณั ฑ์สามารถเปล่ียนกลบั มาเปน็ สารตง้ั ตน้ ได้ 4) ในระบบจะมีทง้ั สารตง้ั ตน้ และผลติ ภัณฑ์อย่ทู ุกชนดิ ส่อื วัสดุ อุปกรณ์ และแหลง่ การเรียนรู้ ส่ือ/วัสดุ/อุปกรณ์ แหลง่ การเรียนรู้ 1. Powerpoint ประกอบการสอน 1. เอกสารประกอบการเรยี นรายวชิ าเคมี ม.5 2. วดิ ีโอการ การเปลยี่ นแปลงท่ผี นั กลับได้ 2. ใบกจิ กรรมการเรียนรู้ https://www.youtube.com/watch?v=P2auN8K0S08 3. อินเตอรเ์ นต็ การประเมินการเรยี นรู้ การวัดผลประเมนิ ดา้ น วิธีการวัดผล เครอื่ งมือท่ีใช้วัดผล เกณฑ์การ ประเมินผล 1.ดา้ นความรู้ (K) -ตรวจแบบฝึกหดั ท้ายบท -แบบฝึกหดั -ร้อยละ 60 ผ่าน เกณฑ์
2. ดา้ นทักษะ/ - สังเกตพฤตกิ รรมการทำงานกลมุ่ - แบบสงั เกตพฤตกิ รรม 527 กระบวนการ (P) การทำงานกล่มุ -ระดบั คุณภาพ 3 ผ่านเกณฑ์ 3. ดา้ นคณุ ลักษณะอนั พึง -การสงั เกตพฤติกรรมรายบุคคล -แบบสงั เกตพฤติกรรม -ระดับคุณภาพ 3 ประสงค์ (A) รายบุคคล ผ่านเกณฑ์
528 แบบทดสอบหลงั เรยี น 20 ข้อ 1. นำ้ แข็งในแกว้ เกบ็ ความเย็นเป็นระบบปดิ 2. คำว่า สมดุล คือปฏิกิริยาไปข้างหนา้ มากกว่าปฏกิ ริ ยิ าย้อนกลับ 3. สภาวะสมดลุ คือ ภาวะทป่ี ริมาณสารทกุ ชนดิ ในระบบคงที่ โดยแต่ละสารไมจ่ ำเปน็ ตอ้ งมีปรมิ าณหรอื ความ เข้มขน้ เท่ากัน 4. สภาวะสมดลุ ทางกายภาพตอ้ งอยู่ในระบบเปดิ เท่านัน้ 5. ปฏกิ ริ ยิ าเคมรี ะหวา่ งหนิ ปนู กบั กรดเกลือในบกี เกอร์เป็นการเปลย่ี นแปลงในระบบเปดิ 6. เม่อื เข้าสสู่ ภาวะสมดลุ สารตง้ั ต้น และผลติ ภัณฑ์จะเพ่ิมข้ึน 7. ภาวะสมดุลเกิดขน้ึ ไดเ้ ฉพาะในระบบท่มี ีการเปลย่ี นแปลงแบบผันกลับไดเ้ ท่านน้ั 8. ในขณะที่ระบบกำลงั ดำเนินเขา้ ส่ภู าวะสมดลุ จะมเี ฉพาะปฏกิ ริ ยิ าไปข้างหน้าเกิดข้ึนเท่าน้ัน 9. การศกึ ษาเรอื่ งสมดลุ เคมีชว่ ยทำให้หาวธิ กี ารเพ่อื ให้เกดิ สารผลิตภัณฑ์ไดม้ ากตามต้องการ 10. สมดุลเคมีเกดิ ข้ึนได้ในระบบปดิ เทา่ น้ัน 11. ณ ภาวะสมดลุ อัตราเรว็ สทุ ธขิ องปฏกิ ริ ยิ าเท่ากับศูนย์ 12. ปฏกิ ริ ยิ าคายความร้อน เมื่อสัมผสั จะรสู้ ึกเย็น 13. ปฏิกิริยาดดู ความรอ้ นมีเครอ่ื งหมายเปน็ ลบ 14. การทำให้ปฏกิ ริ ยิ าเคมีเข้าสูภ่ าวะสมดลุ ไดเ้ ร็ว ต้องเพ่มิ อณุ หภมู ิ 15. การเผาถ่านในเตาเผาทีอ่ ย่ใู นระบบปดิ ไมท่ ำให้เกดิ สมดุล 16. สมดุลมีทงั้ สมดลุ ทางกายภาพและสมดุลเคมี 17. ปฏกิ ิรยิ าเคมที ุกปฏิกริ ิยาจะถอื วา่ อยใู่ นสภาวะสมดลุ ทงั้ หมด 18. น้ำแข็งละลายเปน็ ปฏกิ ิริยาทางเคมี 19. A + B → C โดยท่ีA และ B เปน็ สารตัง้ ต้น สว่ น C เป็นผลติ ภณั ฑ์ 20. เม่ือทำปฏกิ ิรยิ าไปเร่อื ย ๆ จนกระทง่ั คงที่ เรียกวา่ สมดุล
529 เฉลยแบบทดสอบหลงั เรียน 20 ขอ้ 1. √ นำ้ แขง็ ในแก้วเกบ็ ความเยน็ เป็นระบบปดิ 2. X คำว่า สมดลุ คือปฏิกิรยิ าไปขา้ งหนา้ มากกว่าปฏกิ ริ ยิ ายอ้ ยกลบั (เทา่ กบั ) 3. √ สภาวะสมดุลคือ ภาวะท่ีปรมิ าณสารทกุ ชนิดในระบบคงท่ี โดยแตล่ ะสารไมจ่ ำเปน็ ต้องมีปรมิ าณหรือความ เข้มขน้ เทา่ กนั 4. X สภาวะสมดลุ ทางกายภาพตอ้ งอยูใ่ นระบบเปดิ เทา่ น้นั (ปดิ ) 5. √ ปฏิกริ ิยาเคมีระหว่างหนิ ปนู กับกรดเกลือในบกี เกอร์เปน็ การเปล่ยี นแปลงในระบบเปดิ 6. X เมือ่ เขา้ สู่สภาวะสมดุลสารต้งั ตน้ และผลติ ภณั ฑจ์ ะเพม่ิ ขน้ึ (เทา่ กนั ) 7. √ ภาวะสมดลุ เกดิ ขึน้ ได้เฉพาะในระบบท่มี ีการเปลีย่ นแปลงแบบผันกลับได้เท่านนั้ 8. X ในขณะท่ีระบบกำลังดำเนนิ เข้าสภู่ าวะสมดุลจะมีเฉพาะปฏิกิรยิ าไปขา้ งหนา้ เกดิ ขึ้นเท่านั้น (ไปข้างหน้า และย้อนกลับ) 9. √ การศกึ ษาเรอื่ งสมดุลเคมชี ว่ ยทำให้หาวธิ ีการเพ่ือให้เกิดสารผลิตภณั ฑไ์ ดม้ ากตามต้องการ 10. X สมดลุ เคมีเกิดข้นึ ได้ในระบบปดิ เทา่ นัน้ (ไมจ่ ำเป็น ระบบเปดิ ก็เกิดขน้ึ ได้) 11. √ ณ ภาวะสมดลุ อตั ราเรว็ สุทธขิ องปฏิกิริยาเท่ากบั ศูนย์ 12. X ปฏกิ ิรยิ าคายความร้อน เม่อื สัมผัสจะร้สู กึ เยน็ (ร้อน) 13. X ปฏกิ ิรยิ าดดู ความรอ้ นมเี คร่อื งหมายเป็นลบ (บวก) 14. √ การทำให้ปฏิกริ ยิ าเคมเี ขา้ สู่ภาวะสมดลุ ไดเ้ ร็ว ตอ้ งเพมิ่ อณุ หภูมิ 15. X การเผาถา่ นในเตาเผาที่อยู่ในระบบปิดไม่ทำให้เกิดสมดุล (เกิดสมดลุ ) 16. √ สมดุลมที ง้ั สมดุลทางกายภาพและสมดลุ เคมี 17. X ปฏกิ ิริยาเคมีทุกปฏิกิรยิ าจะถือว่าอยใู่ นสภาวะสมดุลทงั้ หมด (ไมท่ ง้ั หมดบางปฏกิ ริ ยิ ากไ็ ม่สมดลุ ) 18. X นำ้ แขง็ ละลายเป็นปฏกิ ิริยาทางเคมี (กายภาพ) 19. √ A + B → C โดยที่A และ B เปน็ สารตง้ั ต้น สว่ น C เปน็ ผลติ ภัณฑ์ 20. √ เม่อื ทำปฏกิ ิริยาไปเร่ือย ๆ จนกระทงั่ คงท่ี เรียกวา่ สมดุล
แบบสังเกตพฤตกิ ร คำช้แี จง : ให้ผู้สอนสังเกตพฤตกิ รรมของนกั เรยี นในระหว่างเรยี นและนอกเวลาเรยี น แล้ว ลำดับท่ี ช่อื –สกลุ การแสดง การยอมรับฟงั คน ของนกั เรยี น ความคดิ เห็น 1 2 นายธนธรณ์ สมจนิ ดา 32132 3 นายวงศธร ประจงการ 4 นายสรเพชญ์ สวา่ งศรี ✓✓ 5 นางสาวกญั ญารัตน์ จับพิมาย 6 นายณัฐพงษ์ สามทอง ✓✓ 7 นายนันฐวัฒน์ ภู่ซอ้ น ✓✓ 8 นายภาณุมาส โลมากลุ 9 นางสาวนัฐรกิ า มังษา ✓✓ 10 นางสาวนิดาวัณย์ แจ้งพงษ์ ✓✓ 11 นางสาวรรินทิพย์ สุขไข 12 นางสาวศศิเพ็ญ วิสทุ ธิอาภรณ์ ✓✓ 13 นางสาวสริ ลิ กั ษณ์ แก้วเสนา ✓✓ 14 นายวรชยั คำเอก นางสาวมลนภา เงนิ เจริญ ✓✓ ✓✓ ✓✓ ✓✓ ✓✓ ✓✓ ✓✓
530 รรมการทำงานกลุ่ม วขีด ✓ลงในชอ่ งที่ตรงกับระดบั คะแนน การทำงาน ความมนี ้ำใจ การมี รวม นอ่นื ตามทไี่ ด้รับ สว่ นรว่ มในการ 15 คะแนน มอบหมาย ปรบั ปรงุ ผลงานกลุ่ม 10 1321321 11 321 11 ✓✓ 14 ✓ 11 ✓✓ ✓ 10 ✓✓ 8 ✓ 12 ✓✓ ✓ 9 ✓✓ ✓ 9 ✓ 14 ✓✓ ✓ 9 ✓ ✓✓ ✓ 10 ✓ 13 ✓✓ ✓ ✓ ✓✓ ✓ ✓ ✓ ✓✓ ✓✓ ✓ ✓ ✓✓✓ ✓✓ ✓✓
เกณฑก์ ารให้คะแนน ให้ 3 คะแนน ปฏบิ ตั หิ รือแสดงพฤตกิ รรมอยา่ งสม่ำเสมอ ให้ 2 คะแนน ปฏิบตั หิ รือแสดงพฤตกิ รรมบ่อยครัง้ ให้ 1 คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมบางคร้ัง เกณฑก์ ารตัดสิน ชว่ งคะแนน 14–15 11–13 8–10 ต่ำกว่า 8
531 ลงชื่อ ................................................... ผปู้ ระเมนิ ............./.................../............... นคณุ ภาพ ระดบั คุณภาพ ดมี าก ดี พอใช้ ปรบั ปรงุ
532 แบบประเมินคณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ คำชแ้ี จง : ให้ผูส้ อนสงั เกตพฤติกรรมของนกั เรียนในระหว่างเรยี นและนอกเวลาเรียน แล้วขีด ✓ลงในชอ่ งที่ตรงกับ ระดบั คะแนน ปฏิบัติตาม ขอ้ ตกลง กฎเกณฑ์ ลำดบั ช่ือ–สกุล ระเบียบ รจู้ กั ใชเ้ วลา รจู้ กั จดั สรร ตัง้ ใจเรียน มีความต้ังใจ รวม ท่ี ของนกั เรียน ขอ้ บังคับในชั้น วา่ งใหเ้ ป็น และพยายามใน 15 เวลาให้ เรียน มีความ ประโยชน์ และ เหมาะสม การทำงานที่ คะแนน ตรงตอ่ เวลาใน นำไปปฏิบัติได้ ไดร้ ับ การปฏิบัติ มอบหมาย กิจกรรมตา่ ง ๆ และรับผดิ ชอบ ในการทำงาน 3 2 13 2 13 2 13 2 1 3 2 1 1 นายธนธรณ์ สมจินดา ✓ ✓ ✓ ✓✓ 9 2 นายวงศธร ประจงการ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ 10 3 นายสรเพชญ์ สวา่ งศรี ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ 10 4 นางสาวกญั ญารตั น์ จบั พิ ✓ ✓ ✓✓ ✓ 13 มาย ✓ 5 นายณฐั พงษ์ สามทอง ✓ ✓ ✓ ✓8 6 นายนนั ฐวัฒน์ ภู่ซอ้ น ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ 10 7 นายภาณมุ าส โลมากุล ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ 10 8 นางสาวนฐั ริกา มงั ษา ✓ ✓✓✓ ✓ 11 9 นางสาวนดิ าวัณย์ แจง้ พงษ์ ✓ ✓ ✓ ✓✓ 11 10 นางสาวรรนิ ทิพย์ สุขไข ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ 10 11 นางสาวศศิเพ็ญ วิสทุ ธิ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ 15 อาภรณ์ 12 นางสาวสริ ลิ ักษณ์ แกว้ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ 10 เสนา 13 นายวรชัย คำเอก ✓✓✓✓ ✓ 10 14 นางสาวมลนภา เงนิ เจรญิ ✓ ✓✓ ✓ ✓ 12 ลงชื่อ .................................................. ผูป้ ระเมิน ............/.................../............
533 เกณฑ์การให้คะแนน ให้ 3 คะแนน เกณฑก์ ารตดั สินคุณภาพ พฤตกิ รรมทป่ี ฏิบตั ิชดั เจนและสม่ำเสมอ ให้ 2 คะแนน พฤตกิ รรมทป่ี ฏิบตั ิชดั เจนและบ่อยครั้ง ให้ 1 คะแนน ชว่ งคะแนน ระดับคุณภาพ พฤตกิ รรมทปี่ ฏิบัตบิ างคร้ัง 14-15 ดมี าก 11-13 ดี 8-10 พอใช้ ตำ่ กวา่ 8 ปรบั ปรุง
534 บันทึกหลังการจดั การเรียนรู้ 1. ผลการจัดการเรยี นการสอน • ด้านความรู้ - นกั เรียนมีความรู้ความเขา้ ใจในเนอ้ื หา - นักเรยี นสามารถอธิบายความหมายของปฏิกิรยิ าทเี่ กิดข้ึนอยา่ งสมบูรณ์ ปฏิกิริยาไปขา้ งหนา้ ปฏกิ ิรยิ าย้อนกลบั และปฏิกิริยาผนั กลบั ได้ - นกั เรียนสามารถอธิบายเกี่ยวกับความเข้มขน้ ของสารตงั้ ตน้ และผลิตภัณฑ์เม่อื เรมิ่ ปฏิกิริยาจนกระทง่ั ระบบอยใู่ น สมดลุ ได้ • • ดา้ นสมรรถนะสำคญั ของผู้เรียน - นกั เรยี นมีทักษะและกระบวนการทางวิทยาศาสตรต์ ามเกณฑ์ทค่ี รูกำหนด • ดา้ นคณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ - นกั เรียนทุกคนมคี วามใฝเ่ รยี นรู้ - นกั เรียนสามารถแก้ปญั หาอาจจะช้าหรือเรว็ ต่างกนั แต่สามารถแกป้ ญั หาได้ - มีวนิ ยั ในการเรียน • ด้านอื่น ๆ (พฤตกิ รรมเด่น หรือพฤติกรรมทม่ี ีปัญหาของนักเรยี นเป็นรายบุคคล (ถา้ ม)ี ) - 2. ปัญหา / อุปสรรค - 3. ขัน้ เสนอแนะ / แนวทางแกไ้ ข - ลงช่อื ..................................................................ผเู้ ขียนแผนการจัดการเรยี นรู้ (นางสาวณฐั ธิดา ชากรแก้ว) ......................./................/.................... ลงชื่อ..................................................................ผู้ตรวจ (นางสาววารุณี อิทธิพัทธอ์ เนก) ......................./................/....................
535 แผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี 20 กลมุ่ สาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ระดับช้นั มัธยมศึกษาปที ี่ 5 หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 8 เร่ือง สมดุลเคมี เรื่อง ปฏกิ ิริยาทางกายภาพและปฏิกิรยิ าทางเคมี วิชา เคมี 3 รหสั ว32225 เวลาเรยี น 1 ช่ัวโมง จำนวน 1.0 หนว่ ยกติ ครูผู้สอน นางสาวณัฐธิดา ชากรแกว้ สาระการเรยี นรู้ เข้าใจการเขยี นและการดุลสมการเคมี ปริมาณสมั พันธใ์ นปฏิกิรยิ าเคมี อัตราการเกิดปฏิกิริยาเคมี สมดุล ในปฏิกริ ิยาเคมี สมบตั ิและปฏิกริ ิยาของกรด-เบส ปฏิกริ ยิ ารดี อกซ์และเซลลเ์ คมีไฟฟ้า รวมทั้งการนำความรู้ไปใช้ ประโยชน์ ผลการเรียนรู้ ทดสอบ และอธบิ ายความหมายของปฏิกิรยิ าผนั กลับได้และภาวะสมดุล ดา้ นความรู้ (Knowledge) 1. อธิบายความหมายของปฏิกริ ยิ าทางกายภาพ และปฏิกิรยิ าทางเคมไี ด้ 2. อธบิ ายเก่ียวกับสมบัตขิ องการเกิดปฏิกิรยิ าทางกายภาพ และการเกิดปฏิกิรยิ าเคมีได้ ด้านทกั ษะ (Process) 3. ศึกษาการทดลองและสรุปรายงานผลการทดลองเก่ียวกับปฏิกิริยาทางกายภาพ และปฏิกริ ยิ าทางเคมี ได้ ดา้ นคณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์ (Affective) 4. มคี วามมุ่งมน่ั ตัง้ ใจในการเรียนรู้ และแสวงหาความรู้ รับผดิ ชอบตอ่ หน้าทท่ี ีไ่ ดร้ ับมอบหมาย สาระสำคญั หรอื ความคิดรวบยอด สารแตล่ ะชนิดมลี ักษณะบางประการทค่ี ล้ายคลงึ กนั จงึ จัดเป็นสมบัตทิ ั่วไปของสาร เชน่ โลหะและอโลหะ เปน็ ตน้ โดยสารทุกชนดิ มลี กั ษณะเฉพาะตวั ทแี่ ตกตา่ งจากสารอน่ื เป็นสมบัติเฉพาะตวั ท่ีใช้ระบุชนดิ ของสารนั้นๆ ได้ เชน่ จดุ เดอื ด จดุ หลอมเหลว ความหนาแน่น ความเปน็ กรด-เบส ซง่ึ นักวิทยาศาสตร์ไดแ้ บง่ สมบตั ิของสารออกเป็น 2 ประเภท คือสมบตั ทิ างกายภาพ หมายถงึ สมบัตขิ องสารท่ีสามารถสังเกตได้จากลักษณะภายนอกหรือจากการ ทดลองทไี่ มเ่ กย่ี วข้องกับการเกิดปฏิกิรยิ าเคมี เช่น สถานะ เนอ้ื สาร รปู รา่ ง สี กลิ่น รส ความหนาแน่น จุดเดอื ด จุด หลอมเหลว การนำไฟฟ้า การละลายน้ำ ความแข็ง ความเหนียว เป็นต้น และสมบัติทางเคมี หมายถึง สมบัติที่ เกย่ี วข้องกบั การเกิดปฏิกิริยาเคมีและองค์ประกอบทางเคมขี องสาร เช่น การตดิ ไฟ การผุกรอ่ น การทำปฏิกิริยากับ น้ำ การทำปฏกิ ิรยิ ากบั กรดหรอื เบส เป็นต้น สมรรถนะสำคญั ของผูเ้ รยี น 1. ความสามารถในการสอื่ สาร 2. ความสามารถในการคิด 3. ความสามารถในการแก้ปญั หา 4. ความสามารถในการใช้ทักษะชวี ติ
536 5. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ 1. รักชาติ ศาสน์ กษัตรยิ ์ 2. ซือ่ สัตย์ 3. มวี ินยั 4. ใฝเ่ รยี นรู้ 5. อยู่อยา่ งพอเพียง 6. มุง่ มั่นในการทำงาน 7. รกั ความเป็นไทย 8. มีจติ สาธารณะ กิจกรรมการเรยี นรู้ ผา่ นวธิ กี ารสอนแบบออนไลน์ โดยผ่านแอพพลิเคชั่น Google meet วธิ สี อนโดยใช้กระบวนการสืบเสาะหาความรู้ (Inquiry Cycle หรอื Inquiry Method : 5E) ข้ันท่ี 1 ข้นั กระตุ้นความสนใจ (Engagement) 5 นาที 1.1 ครู : กล่าวทกั ทายนกั เรียน แลว้ เปดิ ภาพการเกดิ หินงอกหนิ ยอ้ ยใหน้ กั เรียนสังเกต ครูถามนักเรียนว่า การเกิดหินงอกหินย้อยเกิดจากอะไร และทำไมจึงเป็นเช่นนี้ (แนวคำตอบ คือภายในถ้ำจะมี หินปนู เป็นองคป์ ระกอบ โดยหินงอกจะเกดิ ไดเ้ มื่อภาวะ pH ของถ้ำเหมาะสมเท่านั้น ตน้ กำเนิดของหินงอกนั้นมา จากการสะสมตัวของแคลเซียมคาร์บอเนตและแร่ธาตุอื่น ๆ ซึ่งตกตะกอนมาจากน้ำแร่ในถ้ำ หินปูนเป็นแหล่ง สำคัญของแคลเซียมคาร์บอเนตซึ่งเมื่อถูกชะล้างโดยน้ำที่มีคาร์บอนไดออกไซด์ ทำให้เกิดเป็นสารละลาย แคลเซียมไบคารบ์ อเนตในถำ้ ดังปฏิกริ ยิ า CaCO3(s) + H2O(l) + CO2(aq) → Ca(HCO3)2(aq)) ขัน้ ท่ี 2 ข้ันสำรวจและคน้ หา (Exploretion) 15 นาที 2.1 ใหน้ ักเรยี นดวู ิดโี อและสงั เกตการเปลย่ี นแปลง ของน้ำแข็งเมอ่ื เวลาผ่านไป https://www.youtube.com/watch?v=QpL3L3zOMF8 นำ้ แข็งในบีกเกอร์เปน็ อย่างไร แล้วเขียนสมการท่ี เกดิ ข้ึน 2.2 ให้นักเรียนดูวิดีโอและสังเกตการเปลี่ยนแปลงของเปลือกไข่ และน้ำส้มสายชู https://www.youtube.com/watch?v=7WvCCuPTVT0 ทำการผสมกันสังเกตสิ่งที่เกิดขึ้น พร้อมทั้งเขียน สมการที่เกิดขึ้น 2.3 อภิปรายผลการเปรียบเทยี บระหวา่ งน้ำแข็งละลาย และเปลือกไข่ที่ผสมกบั น้ำสม้ สายชู ขัน้ ท่ี 3 ข้นั อธิบายและลงข้อสรปุ (Explaination) 15 นาที 3.1 ครูอธิบายเรอ่ื งการเกดิ ปฏิกิรยิ า ในหนงั สือเรยี น ม.5 เลม่ 3
537 3.2 ครูถามคำถามกับนักเรียน จากการทดลองข้างต้นน้ำแข็งเมื่อทิ้งไว้เวลาผ่านไปมีการแปลงแปลงอย่างไร บา้ ง (แนวคำตอบ คอื นำ้ แข็งละลายกลายเปน็ น้ำ ไมเ่ กิดสี กลิ่น ฟอง แต่เปล่ยี นแคส่ ถานะของสาร) 3.3 จากการทดลองข้างต้นเปลือกไข่ที่ผสมกับน้ำส้มสายชูมกี ารเปล่ยี นแปลงเป็นอย่างไร (แนวคำตอบ คือ เกิดฟองแกส๊ ข้นึ เปน็ ฟองแกส๊ ของคาร์บอนไดออกไซด์) 3.4 ครูถามนักเรยี นวา่ จากที่ได้ทดการทดลองระหว่างนำ้ แข็งละลาย และเปลือกไขท่ ่ีผสมกับน้ำส้มสายชู มีความเหมือนหรือต่างกันอย่างไร (แนวคำตอบ คือต่างกัน น้ำแข็งละลายเกิดเพียงการเปลี่ยนสถานะของสาร H2O(s) → H2O(l) แต่เปลือกไข่กับนำ้ ส้มสายชูมีการเกิดฟองแก๊สเกิดขึ้น แสดงว่าจะต้องมกี ารทำปฏิกิริยากัน เกดิ ข้ึนดงั สมการ 2CH3COOH(aq) + CaCO3(s) → Ca(CH3COOH)2(aq) + H2O(aq) + CO2(g)) 3.5 ครูสรุปได้วา่ น้ำแขง็ เมอ่ื เวลาผ่านไปจะเป็นนำ้ ซ่งึ การเปลี่ยนแปลงนี้เป็นปฏิกิริยาทางกายภาพคือไม่มี สารใหมเ่ กิดข้ึนเพยี งเปล่ียนสถานะหรือลักษณะทางกายภาพเท่านั้น แตเ่ ปลือกไขเ่ มื่อผสมกับน้ำส้มสายชูจะเกิด ฟองแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์เปน็ ปฏิกิรยิ าเคมี คือหลงั จากทำปฏกิ ิริยาจะมสี ารใหม่ที่เกดิ ข้ึนท่มี ีองค์ประกอบและ สมบัติทางเคมแี ตกตา่ งจากสารเดมิ ขั้นท่ี 4 ขั้นขยายความรู้ (Elaboration) 10 นาที 4.1 นกั เรียนคิดวา่ ปฏิกิริยาทางกายภาพ และปฏกิ ิริยาเคมใี นชีวติ ประจำวันมีอะไรบ้าง ให้นักเรียนกลุ่ม เดิมช่วยกนั คดิ และตอบคำถาม หากกล่มุ ใดตอบได้เหมาะสมชดั เจนก็จะได้รบั คะแนนสะสมเพิ่ม (แนวคำตอบ คือ การทำความสะอาดห้องน้ำ โดยเม่อื เราเทน้ำยาล้างห้องน้ำทมี่ ีส่วนผสมของกรดไฮโดรคลอริกลงบนพื้น จะพบว่า เกิดฟองแก๊สขึ้น แสดงว่าต้องมีสารที่ทำปฏิกิริยากัน ดังสมการ CaCO3(s) + 2HCl → CaCl2(aq) + CO2(g) + H2O(aq) ซ่ึงสารตงั้ ตน้ ทำปฏิกิรยิ ากนั ไดผ้ ลิตภัณฑ์ทต่ี ่างไปจากเดมิ จึงเป็นปฏกิ ริ ยิ าเคมี) ขน้ั ที่ 5 ขั้นประเมิน (Evaluation) 15 นาที 5.1 ครูให้นักเรยี นทำแบบทดสอบ Quizizz สอื่ วัสดุ อปุ กรณ์ และแหลง่ การเรียนรู้ ส่อื /วสั ด/ุ อปุ กรณ์ แหล่งการเรียนรู้ 1. Powerpoint ประกอบการสอน 1. เอกสารประกอบการเรยี นรายวิชาเคมี ม.5 2. การเปลีย่ นแปลง ของน้ำแขง็ เมอ่ื เวลาผ่านไป 2. ใบกิจกรรมการเรยี นรู้ https://www.youtube.com/watch?v=QpL3L3zOMF8 3. การเปล่ียนแปลงของเปลอื กไข่ และน้ำส้มสายชู 3. อินเตอรเ์ นต็ https://www.youtube.com/watch?v=7WvCCuPTVT0 4. แบบทดสอบ Quizizz การประเมินการเรยี นรู้ การวดั ผลประเมินดา้ น วธิ กี ารวัดผล เครอ่ื งมือทใ่ี ช้วดั ผล เกณฑก์ าร ประเมินผล
1.ดา้ นความรู้ (K) -ทำแบบทดสอบ Quizizz -แบบทดสอบ Quizizz 538 -ร้อยละ 60 ผ่าน เกณฑ์ 2. ดา้ นทักษะ/ - สังเกตพฤตกิ รรมการทำงานกล่มุ - แบบสังเกตพฤตกิ รรม -ระดบั คณุ ภาพ 3 กระบวนการ (P) การทำงานกล่มุ ผา่ นเกณฑ์ 3. ด้านคณุ ลกั ษณะอนั พึง -การสงั เกตพฤติกรรมรายบคุ คล -แบบสงั เกตพฤติกรรม -ระดบั คณุ ภาพ 3 ประสงค์ (A) รายบคุ คล ผา่ นเกณฑ์ การประเมนิ การเรียนรู้ จดุ ประสงค์การเรียนรู้ วธิ กี ารวัดผล เครอื่ งมอื ทใี่ ช้วัดผล เกณฑ์การประเมินผล 1.ดา้ นความรู้ (K) - การใหน้ กั เรียนตอบคำถาม - ใบงานกจิ กรรมท้ายการ ระดับคุณภาพ 3 ผา่ นเกณฑ์ ทดลอง และการตอบ ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์ - อธบิ ายความหมาย จากการทดลองน้ำแขง็ ละลาย คำถาม ของปฏิกริ ยิ าทาง และเปลือกไขบ่ ดละเอียดผสม กายภาพ และ กบั นำ้ ส้มสายชู ปฏิกริ ยิ าเคมไี ด้ (K) - อธบิ ายเก่ยี วกบั สมบตั ิของการ เกดิ ปฏกิ ิรยิ าทาง กายภาพ และการ เกดิ ปฏิกิรยิ าเคมีได้ (K) 2. ดา้ นทักษะ/ - สังเกตจากการทดลองกัน - แบบบนั ทึกกิจกรรมการ ระดบั คุณภาพ 3 ผ่านเกณฑ์ ละลายน้ำแข็ง และการนำ ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์ กระบวนการ (P) ภายในกล่มุ และการสรปุ เปลือกไขผ่ สมกับ น้ำส้มสายชู - นักเรยี นสามารถทำ อภิปรายผล การทดลองและสรุป รายงานผลการทดลอง เก่ียวกับปฏิกิริยาทาง
กายภาพ และ 539 ปฏกิ ริ ิยาเคมไี ด้ (P) -แบบประเมินพฤติกรรม -ระดับคุณภาพ 3 ผ่านเกณฑ์ แบบกลุม่ 3. ดา้ นคณุ ลกั ษณะอัน -การสังเกตพฤติกรรมแบบ -แบบประเมินรายบุคคล พึงประสงค์ (A) กล่มุ -นักเรียนมคี วามมุ่งมั่น -การสังเกตพฤตกิ รรมแบบ ตง้ั ใจในการเรียนรู้ มี รายบคุ คล การชว่ ยเหลือ และ เกือ้ กูลกัน ตลอดจนใช้ วจิ ารณญาณในการ ทำงาน คดิ ตัดสินใจ และมีความรับผิดชอบ
540 แบบบนั ทึกกจิ กรรมการละลายน้ำแข็ง และการนำเปลอื กไข่ผสมกบั นำ้ สม้ สายชู ครง้ั ที่ 1 การละลายน้ำแข็ง (2 คะแนน) รายการทที่ ดสอบ ปฏิกิริยาทเี่ กิดขนึ้ ลักษณะที่เหน็ สรุปผลการทดลอง (3 คะแนน) .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ครง้ั ที่ 2 การนำเปลือกไขผ่ สมกบั น้ำส้มสายชู (2 คะแนน) รายการทีท่ ดสอบ ปฏิกริ ยิ าท่ีเกิดขึน้ ลกั ษณะทีเ่ หน็ สรปุ ผลการทดลอง (3 คะแนน) .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. คำถามท้ายกิจกรรม 1. ปฏิกิรยิ าทางกายภาพหมายถงึ อะไร ยกตัวอยา่ งมา 3 ตัวอยา่ ง โดยไม่ซำ้ กับการทดลองที่ทำ (4 คะแนน) .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. 2. ปฏิกริ ยิ าเคมหี มายถึงอะไร ยกตวั อยา่ งมา 3 ตวั อย่างโดยไมซ่ ำ้ กบั การทดลองท่ที ำ (4 คะแนน) .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. 3. คุณสมบัติใดบ้างท่ีสามารถจำแนกปฏิกิริยาทางกายภาพกับปฏิกิริยาเคมีได้ ตอบมาอย่างน้อย 4 ปัจจัย (2 คะแนน) ................................................................................................................................................................. ..............................................................................................................................................................................
541 เฉลยแบบบันทกึ กจิ กรรมการละลายน้ำแข็ง และการนำเปลอื กไข่ผสมกับน้ำส้มสายชู ครง้ั ท่ี 1 การละลายนำ้ แขง็ (2 คะแนน) รายการท่ีทดสอบ ปฏกิ ริ ยิ าทเี่ กิดขนึ้ ลักษณะที่เหน็ การละลายนำ้ แขง็ H2O(s) → H2O(l) นำ้ แข็งเปล่ียนจาก ของแขง็ เป็นของเหลว สรปุ ผลการทดลอง (3 คะแนน) จากปฏกิ ริ ิยาการละลายนำ้ แขง็ พบวา่ นำ้ แข็งเปลี่ยนสถานะจากของแข็งเปน็ ของเหลว ซึง่ เปน็ การเปลี่ยน สถานะของสารเทา่ นั้น ไมไ่ ดม้ กี ารเกดิ สารใหม่ แสดงว่าเปน็ ปฏกิ ริ ิยาทางกายภาพ ครง้ั ท่ี 2 การนำเปลือกไขผ่ สมกับนำ้ สม้ สายชู (2 คะแนน) รายการที่ทดสอบ ปฏิกิรยิ าทีเ่ กดิ ขึ้น ลกั ษณะทเ่ี หน็ การนำเปลือกไขผ่ สม 2CH3COOH(aq) + CaCO3(s) → Ca(CH3COOH)2(aq) เกิดฟองแกส๊ กบั น้ำส้มสายชู คารบ์ อนไดออกไซด์ + H2O(aq) + CO2(g) สรุปผลการทดลอง (3 คะแนน) จากการทดลองการนำเปลือกไข่มาผสมกับน้ำส้มสายชู พบว่าเกิดฟองแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ ซึ่งมีการ เปลี่ยนแปลงสารไปจากเดมิ โดยหลงั จากทำปฏกิ ริ ยิ ามอี งคป์ ระกอบและสมบตั ิทางเคมแี ตกตา่ งจากสารเดมิ แสดงว่า เปน็ ปฏกิ ิรยิ าเคมี คำถามทา้ ยกิจกรรม 1. ปฏิกริ ยิ าทางกายภาพหมายถงึ อะไร ยกตวั อย่างมา 3 ตัวอยา่ ง โดยไม่ซำ้ กบั การทดลองที่ทำ (4 คะแนน) = สมบตั ิของสารท่สี ามารถสงั เกตได้จากลกั ษณะภายนอกหรือจากการทดลองท่ไี ม่เกยี่ วขอ้ งกบั การเกดิ ปฏิกริ ยิ าเคมี เชน่ การตม้ นำ้ เดอื ด การระเหยแอลกอฮอล์ การระเหดิ ของนำ้ แข็งแห้งเป็นไอของคาร์บอนไดออกไซด์ และอื่น ๆ 2. ปฏกิ ริ ยิ าเคมหี มายถึงอะไร ยกตวั อย่างมา 3 ตัวอย่างโดยไมซ่ ำ้ กับการทดลองที่ทำ (4 คะแนน) = สมบัตทิ ี่เกยี่ วข้องกับการเกดิ ปฏกิ ิริยาเคมแี ละองค์ประกอบทางเคมีของสาร เชน่ การเกดิ สนิม การสะเทนิ กรด - เบส การเผาไหมล้ วดแมกนีเซยี ม และอืน่ ๆ 3. คุณสมบัติใดบ้างท่ีสามารถจำแนกปฏิกิริยาทางกายภาพกับปฏิกิริยาเคมีได้ ตอบมาอย่างน้อย 4 ปัจจัย (2 คะแนน) = การเกิดฟอง การเกิดสารใหม่สารต้ังต้นไปเป็นผลิตภัณฑ์ การเปลี่ยนแปลงค่า pH การผุกร่อน และอื่น ๆ
แบบสังเกตพฤตกิ ร คำช้แี จง : ให้ผู้สอนสังเกตพฤตกิ รรมของนกั เรยี นในระหว่างเรยี นและนอกเวลาเรยี น แล้ว ลำดับท่ี ช่อื –สกลุ การแสดง การยอมรับฟงั คน ของนกั เรยี น ความคดิ เห็น 1 2 นายธนธรณ์ สมจนิ ดา 32132 3 นายวงศธร ประจงการ 4 นายสรเพชญ์ สวา่ งศรี ✓✓ 5 นางสาวกญั ญารัตน์ จับพิมาย 6 นายณัฐพงษ์ สามทอง ✓✓ 7 นายนันฐวัฒน์ ภู่ซอ้ น ✓✓ 8 นายภาณุมาส โลมากลุ 9 นางสาวนัฐรกิ า มังษา ✓✓ 10 นางสาวนิดาวัณย์ แจ้งพงษ์ ✓✓ 11 นางสาวรรินทิพย์ สุขไข 12 นางสาวศศิเพ็ญ วิสทุ ธิอาภรณ์ ✓✓ 13 นางสาวสริ ลิ กั ษณ์ แก้วเสนา ✓✓ 14 นายวรชยั คำเอก นางสาวมลนภา เงนิ เจริญ ✓✓ ✓✓ ✓✓ ✓✓ ✓✓ ✓✓ ✓✓
542 รรมการทำงานกลุ่ม วขีด ✓ลงในชอ่ งที่ตรงกับระดบั คะแนน การทำงาน ความมนี ้ำใจ การมี รวม นอ่นื ตามทไี่ ด้รับ สว่ นรว่ มในการ 15 คะแนน มอบหมาย ปรบั ปรงุ ผลงานกลุ่ม 10 1321321 11 321 11 ✓✓ 14 ✓ 11 ✓✓ ✓ 10 ✓✓ 8 ✓ 12 ✓✓ ✓ 9 ✓✓ ✓ 9 ✓ 14 ✓✓ ✓ 9 ✓ ✓✓ ✓ 10 ✓ 13 ✓✓ ✓ ✓ ✓✓ ✓ ✓ ✓ ✓✓ ✓✓ ✓ ✓ ✓✓✓ ✓✓ ✓✓
เกณฑก์ ารให้คะแนน ให้ 3 คะแนน ปฏบิ ตั หิ รือแสดงพฤตกิ รรมอยา่ งสม่ำเสมอ ให้ 2 คะแนน ปฏิบตั หิ รือแสดงพฤตกิ รรมบ่อยครัง้ ให้ 1 คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมบางคร้ัง เกณฑก์ ารตัดสิน ชว่ งคะแนน 14–15 11–13 8–10 ต่ำกว่า 8
543 ลงชื่อ ................................................... ผปู้ ระเมนิ ............./.................../............... นคณุ ภาพ ระดบั คุณภาพ ดมี าก ดี พอใช้ ปรบั ปรงุ
544 แบบประเมินคณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ คำชแ้ี จง : ให้ผูส้ อนสงั เกตพฤติกรรมของนกั เรียนในระหว่างเรยี นและนอกเวลาเรียน แล้วขีด ✓ลงในชอ่ งที่ตรงกับ ระดบั คะแนน ปฏิบัติตาม ขอ้ ตกลง กฎเกณฑ์ ลำดบั ช่ือ–สกุล ระเบียบ รจู้ กั ใชเ้ วลา รจู้ กั จดั สรร ตัง้ ใจเรียน มีความต้ังใจ รวม ท่ี ของนกั เรียน ขอ้ บังคับในชั้น วา่ งใหเ้ ป็น และพยายามใน 15 เวลาให้ เรียน มีความ ประโยชน์ และ เหมาะสม การทำงานที่ คะแนน ตรงตอ่ เวลาใน นำไปปฏิบัติได้ ไดร้ ับ การปฏิบัติ มอบหมาย กิจกรรมตา่ ง ๆ และรับผดิ ชอบ ในการทำงาน 3 2 13 2 13 2 13 2 1 3 2 1 1 นายธนธรณ์ สมจินดา ✓ ✓ ✓ ✓✓ 9 2 นายวงศธร ประจงการ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ 10 3 นายสรเพชญ์ สวา่ งศรี ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ 10 4 นางสาวกญั ญารตั น์ จบั พิ ✓ ✓ ✓✓ ✓ 13 มาย ✓ 5 นายณฐั พงษ์ สามทอง ✓ ✓ ✓ ✓8 6 นายนนั ฐวัฒน์ ภู่ซอ้ น ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ 10 7 นายภาณมุ าส โลมากุล ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ 10 8 นางสาวนฐั ริกา มงั ษา ✓ ✓✓✓ ✓ 11 9 นางสาวนดิ าวัณย์ แจง้ พงษ์ ✓ ✓ ✓ ✓✓ 11 10 นางสาวรรนิ ทิพย์ สุขไข ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ 10 11 นางสาวศศิเพ็ญ วิสทุ ธิ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ 15 อาภรณ์ 12 นางสาวสริ ลิ ักษณ์ แกว้ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ 10 เสนา 13 นายวรชัย คำเอก ✓✓✓✓ ✓ 10 14 นางสาวมลนภา เงนิ เจรญิ ✓ ✓✓ ✓ ✓ 12 ลงชื่อ .................................................. ผูป้ ระเมิน ............/.................../............
545 เกณฑ์การให้คะแนน ให้ 3 คะแนน เกณฑก์ ารตดั สินคุณภาพ พฤตกิ รรมทป่ี ฏิบตั ิชดั เจนและสม่ำเสมอ ให้ 2 คะแนน พฤตกิ รรมทป่ี ฏิบตั ิชดั เจนและบ่อยครั้ง ให้ 1 คะแนน ชว่ งคะแนน ระดับคุณภาพ พฤตกิ รรมทปี่ ฏิบัตบิ างคร้ัง 14-15 ดมี าก 11-13 ดี 8-10 พอใช้ ตำ่ กวา่ 8 ปรบั ปรุง
546 บนั ทกึ หลงั การจดั การเรยี นรู้ 1. ผลการจดั การเรียนการสอน • ด้านความรู้ - นกั เรียนมีความรู้ความเขา้ ใจในเน้ือหา - นกั เรียนสามารถอธบิ ายความหมายของปฏิกิรยิ าทางกายภาพ และปฏกิ ิรยิ าทางเคมีได้ - นักเรยี นสามารถอธิบายเก่ยี วกบั สมบตั ิของการเกิดปฏิกิรยิ าทางกายภาพ และการเกดิ ปฏกิ ิริยาเคมไี ด้ • ด้านสมรรถนะสำคญั ของผูเ้ รียน - นกั เรยี นมีทักษะและกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ตามเกณฑท์ ีค่ รูกำหนด • ด้านคุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ - นกั เรียนทกุ คนมีความใฝ่เรียนรู้ - นักเรยี นสามารถแก้ปัญหาอาจจะช้าหรือเรว็ ต่างกัน แต่สามารถแกป้ ัญหาได้ - มีวินัยในการเรียน • ด้านอื่น ๆ (พฤติกรรมเดน่ หรือพฤตกิ รรมทีม่ ีปัญหาของนักเรยี นเปน็ รายบคุ คล (ถ้ามี)) - 2. ปญั หา / อปุ สรรค - 3. ขัน้ เสนอแนะ / แนวทางแกไ้ ข - ลงชื่อ..................................................................ผู้เขียนแผนการจดั การเรยี นรู้ (นางสาวณฐั ธดิ า ชากรแก้ว) ......................./................/.................... ลงชือ่ ..................................................................ผตู้ รวจ (นางสาววารณุ ี อิทธิพัทธ์อเนก) ......................./................/....................
547 แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 21 กลมุ่ สาระการเรยี นร้วู ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ระดับช้ันมธั ยมศกึ ษาปที ี่ 5 หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 9 เรือ่ ง สมดุลเคมี เรอื่ ง การเปลีย่ นแปลงทภ่ี าวะสมดุล วิชา เคมี 3 รหสั ว32225 เวลาเรียน 2 ชั่วโมง จำนวน 1.0 หน่วยกิต ครผู ู้สอน นางสาวณฐั ธิดา ชากรแก้ว สาระการเรยี นรู้ เขา้ ใจการเขยี นและการดุลสมการเคมี ปรมิ าณสมั พนั ธใ์ นปฏิกิรยิ าเคมี อตั ราการเกิดปฏิกิริยาเคมี สมดุล ในปฏิกริ ยิ าเคมี สมบัติและปฏกิ ิริยาของกรด-เบส ปฏกิ ริ ยิ ารดี อกซ์และเซลล์เคมไี ฟฟ้า รวมท้ังการนำความรู้ไปใช้ ประโยชน์ ผลการเรยี นรู้ อธิบายการเปลย่ี นแปลงความเขม้ ข้นของสารอัตราการเกิดปฏกิ ิรยิ าไปข้างหนา้ และอตั ราการเกิดปฏิกิริยา ยอ้ นกลบั เมือ่ เร่มิ ปฏกิ ิริยาจนกระทั่งระบบอยู่ในภาวะสมดลุ ดา้ นความรู้ (Knowledge) 1. อธิบายการเกิดสมดลุ ระหวา่ งสถานะ สมดุลในสารละลายอม่ิ ตวั และสมดลุ ในปฏิกริ ยิ าเคมีได้ 2. อธบิ ายกราฟความสมั พันธ์ระหว่างอตั ราการเกดิ ปฏกิ ิรยิ าเคมีกับเวลา และกราฟความสัมพนั ธร์ ะหวา่ ง ความเข้มข้นของสารกบั เวลาได้ ด้านทักษะ (Process) 3. นักเรยี นเขา้ ใจการทดสอบปฏกิ ิรยิ าระหว่างไอร์ออน(III)ไอออน (Fe3+) กบั ไอโอไดดไ์ อออน (I-) พรอ้ มท้ัง เขยี นสมการเคมไี ด้ 4. นักเรยี นเขา้ ใจทดสอบปฏกิ ิริยาระหว่างไอร์ออน(II)ไอออน (Fe2+) กบั ไอโอดนี (I2) พรอ้ มท้ังเขียนสมการ เคมีได้ ดา้ นคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ (Affective) 5. มีความมุ่งม่ันตั้งใจในการเรียนรู้ และแสวงหาความรู้ รับผดิ ชอบตอ่ หน้าทท่ี ี่ได้รับมอบหมาย สาระสำคัญหรือความคิดรวบยอด ปฏิกิริยาเคมีบางชนิด สารตั้งต้นสามารถเกิดปฏิกิริยาเคมีเปลี่ยนเป็นผลิตภัณฑ์ เรียกว่าปฏิกิริยาไป ข้างหนา้ และสารผลติ ภณั ฑ์สามารถเกดิ ปฏิกิริยาเคมีเปล่ียนแปลงไปเป็นสารตงั้ ต้น เรียกวา่ ปฏกิ ิรยิ ายอ้ นกลับ ซ่ึง ปฏกิ ิรยิ าเคมีทีม่ ีทงั้ ปฏิกิริยาไปขา้ งหนา้ และย้อนกลับจะเรียกว่า ปฏกิ ิรยิ าผนั กลับได้ โดยถ้าเมอ่ื เข้าสู่สมดุลสารจะ คงทไ่ี ปเปลยี่ นแปลง สมรรถนะสำคัญของผเู้ รียน 1. ความสามารถในการสอ่ื สาร 2. ความสามารถในการคิด 3. ความสามารถในการแก้ปญั หา 4. ความสามารถในการใชท้ ักษะชีวิต
548 5. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี คณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ 1. รักชาติ ศาสน์ กษตั ริย์ 2. ซอื่ สัตย์ 3. มวี ินัย 4. ใฝ่เรยี นรู้ 5. อยู่อย่างพอเพียง 6. มงุ่ ม่นั ในการทำงาน 7. รกั ความเปน็ ไทย 8. มจี ติ สาธารณะ กจิ กรรมการเรยี นรู้ ผา่ นวิธกี ารสอนแบบออนไลน์ โดยผ่านแอพพลเิ คชัน่ Google meet วธิ สี อนโดยใช้กระบวนการสืบเสาะหาความรู้ (Inquiry Cycle หรอื Inquiry Method : 5E) ขนั้ ท่ี 1 ข้ันกระตุน้ ความสนใจ (Engagement) 5 นาที 1.1 ครู : กลา่ วทกั ทายนักเรียน เปิดภาพตราช่ังให้นกั เรยี นสงั เกตระหวา่ งตราชั่งภาพที่ 1 และตราช่ังภาพ ท่ี 2 ตราชั่งท่ี 1 ตราช่งั ท่ี 2 ครถู ามนกั เรียนวา่ ตราช่ังท่ี 1 และตราชั่งที่ 2 มคี วามเหมือนหรือแตกต่างกันอยา่ งไร (แนวคำตอบ คอื ตา่ งกันในตรา ชั่งที่ 1 มคี วามเทา่ กัน แต่ตราชง่ั ที่ 2 ฝง่ั ทเ่ี ป็นถงั สีเหลืองมนี ำ้ หนกั มากกว่าถังสเี ขยี ว แสดงว่าเกดิ ความไมเ่ ท่ากัน) 1.2 ครถู ามนกั เรยี นวา่ สิ่งทีท่ ำใหส้ องฝง่ั ไม่เท่ากนั เกดิ จากอะไร แลว้ ถา้ ไม่ใช้ตราช่ังในการวัดจะรไู้ ด้อย่างไร ว่าของสองสิ่งเท่ากัน ครูให้นักเรียนแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ 3 คน เพื่อใช้ในการทดลองหาคำตอบด้วยการทดสอบ ปฏกิ ริ ิยาของไอรอ์ อน(III)ไอออน (Fe3+) และไอร์ออน(II)ไอออน (Fe2+) ต่อไป ขนั้ ท่ี 2 ขั้นสำรวจและค้นหา (Exploretion) 50 นาที 2.1 ครใู ห้นักเรยี นจบั คกู่ ับเพอ่ื น โดยใหแ้ ต่ละคู่ศกึ ษาคน้ ควา้ ข้อมูลเกยี่ วกบั เรอื่ ง การเปลี่ยนแปลงที่ภาวะ สมดลุ 2.2 นกั เรยี นนำข้อมูลท่ีได้จากการคน้ คว้าทำเป็นรปู แบบต่าง ๆ ตามความคดิ เห็นของแตล่ ะคู่ เชน่ แผนภาพ แผนผงั เขยี นบรรยาย 2.3 ครตู งั้ คำถามให้นักเรยี นร่วมกนั อภปิ ราย เรื่อง การเปลี่ยนแปลงทภี่ าวะสมดุล เช่น 1) ภาวะสมดลุ คอื อะไร
549 (แนวตอบ : ภาวะสมดุล คอื ภาวะทรี่ ะบบมีสมบัติคงท่ี หรอื ภาวะท่ีสารตั้งตน้ และสารผลิตภัณฑ์ทุก ชนดิ มปี ริมาณหรือความเขม้ ข้นคงที่ หรอื ภาวะท่ีมีอัตราการเปลย่ี นแปลงไปข้างหน้าเท่ากับอัตรา การเปลีย่ นแปลงยอ้ นกลบั ) 2) ปฏกิ ริ ิยาเคมีที่อยใู่ นภาวะสมดุลตอ้ งมีลักษณะอยา่ งไร (แนวตอบ : ปฏิกิริยาต้องเป็นปฏิกิริยาที่เกิดการผันกลับได้ ปฏิกิริยาต้องเกิดในระบบปิดท่ี อณุ หภูมิห้อง และอัตราการเกดิ ปฏิกริ ิยาไปข้างหนา้ และย้อนกลบั ต้องเท่ากนั ) 2.4 ครูแจกใบกจิ กรรมการทดลองผ่าน google doc ให้นกั เรียนศึกษา และอภปิ รายกันในกลุ่มก่อนจะดู วิดโี อการทดลอง https://www.youtube.com/watch?v=WJoaDFEq70w 2.5 นักเรียนแต่ละกลมุ่ ดวู ิดีโอการทดลอง และรว่ มกันอภิปรายผลการทดลองที่ได้จากวดิ โี อ พร้อมสรุปผล ทไ่ี ดจ้ ากการทดลอง ข้นั ที่ 3 ขน้ั อธิบายและลงข้อสรปุ (Explaination) 40 นาที 3.1 ครูให้นักเรียนแต่ละกลุ่มนำเสนอผลการสงั เกตการทดลองแต่ละกลุม่ ว่าเหมือนหรือต่างจากเพ่อื น อยา่ งไร พร้อมตอบคำถามทา้ ยใบกจิ กรรมทีม่ อบหมายให้ 3.2 ครูอธบิ ายจากการทดลองทไี่ ด้ทำไปข้างตน้ โดยใชห้ นังสือเรยี นรายวชิ าเพมิ่ เตมิ วทิ ยาศาสตร์ เคมี เล่ม 3 ช้ันมธั ยมศึกษาปีที่ 5 3.3 ครถู ามนักเรียนว่า จากการทดสอบปฏิกิริยาในตอนท่ี 1 ทำไปเพือ่ อะไรสีที่เกดิ ข้นึ แสดงถึงอะไรบ้าง (แนวคำตอบ คอื เพ่อื ยืนยนั วา่ มีอยู่ของ Fe3+Fe2+ I-และ I2 ใช้ในการทดสอบตอนท่ี 2 และตอนที่ 3 ตอ่ ไป และสีท่ี เกิดขึน้ แสดงให้ทราบว่าเปน็ สารอะไร) 3.4 จากการทดสอบในตอนท่ี 2 และตอนที่ 3 มีความสัมพนั ธ์กับตอนที่ 1 อย่างไรบ้าง (แนวคำตอบ คือ ผลการทดลองในแตล่ ะคอลัมน์เหมอื นกบั การทดสอบในตอนที่ 1 แสดงวา่ สารละลายผสมในตอนท่ี 2 และ 3 มีFe3+ Fe2+ I- และ I2 เป็นองคป์ ระกอบอยู่) 3.5 จากการทดสอบปฏิกิริยาเคมขี องตอนที่ 2 และ 3 มีความสมั พันธก์ ันอยา่ งไร (แนวคำตอบ คอื Fe3+ และ I-ซึ่งเปน็ สารตั้งต้นของปฏกิ ิริยาเคมใี นตอนที่ 2 เป็นผลติ ภณั ฑข์ องปฏิกิริยาเคมีในตอนท่ี 3 และ Fe2+และ I2 ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ของปฏิกิริยาเคมีในตอนที่ 2 เป็นสารตั้งต้นของปฏิกิริยาเคมีในตอนที่ 3 ดังนั้นน่าจะมีสมดลุ เกดิ ขึ้น เพราะหลังการผสมสารเข้าด้วยกัน พบว่าสารละลายแต่ละหลอดมีท้ังสารต้ังตน้ และผลิตภัณฑ์ทุกสารอยู่ ดว้ ยกัน และเมอื่ ตง้ั ไว้สีของสารละลายคงทแ่ี สดงว่าความเขม้ ข้นของสารแต่ละชนดิ คงท่ี) 3.6 ครสู รปุ ผลจากการทดลองคือ Fe3+ ทำ ปฏิกริ ยิ ากับ I- ไดผ้ ลติ ภณั ฑ์เปน็ Fe2+ และ I2 ส่วน Fe2+ ทำ ปฏิกิริยากับ I2 ได้ผลิตภัณฑ์เป็น Fe3+ และ I- แสดงว่าปฏิกิริยาทั้งสองมีความสัมพันธ์กัน โดยสารตั้งต้นของ ปฏิกิริยาหนง่ึ จะเป็นผลติ ภณั ฑ์ของอีกปฏิกิรยิ าหนง่ึ ดังนนั้ ปฏกิ ริ ิยาดังกล่าวมสี มดุลเกดิ ขน้ึ 3.7 จากคำถามข้างต้นส่ิงทีท่ ำให้สองฝ่ังไม่เท่ากนั เกดิ จากอะไร แล้วถ้าไมใ่ ชต้ ราช่ังในการวดั จะรไู้ ด้อย่างไร วา่ ของสองส่งิ เท่ากัน (แนวคำตอบ คือส่ิงที่ทำใหส้ องฝ่ังไมเ่ ทา่ กนั คือปรมิ าณสารต้งั ต้น หากสารตัง้ ต้นของปฏิกิริยา เดยี วกนั แต่ไมเ่ ทา่ กันกจ็ ะทำให้สารผลิตภัณฑ์ไม่เท่ากัน สามารถดูการสมดุลได้จากสขี องปฏิกิริยาที่คงท่ี แสดงว่า เข้าสสู่ มดลุ แล้ว) ข้ันท่ี 4 ขั้นขยายความรู้ (Elaboration) 5 นาที 4.1 นักเรียนคดิ ว่าการเกิดปฏิกิรยิ าเคมีที่มที ัง้ สารตั้งตน้ ไปเปน็ ผลติ ภัณฑ์ และสารผลิตภณั ฑ์ไปเป็นสารตั้ง ต้นได้ในชีวิตประจำวันมีอะไรบ้าง ให้นักเรียนกลุ่มเดมิ ช่วยกันคิดและตอบคำถาม หากกลุ่มใดตอบได้เหมาะสม
550 ชัดเจนก็จะได้รับคะแนนสะสมเพ่ิม (แนวคำตอบ คือการผลิตแก๊สแอมโมเนยี ในอุตสาหกรรม จะมีสารตัง้ ต้นคือ ไนโตรเจน และไฮโดรเจนทำปฏกิ ริ ิยากนั ได้แอมโมเนียออกมา แล้วแอมโมเนียกส็ ามารถกลบั ไปเป็นไนโตรเจน และ ไฮโดรเจนได้ ดังสมการ N2(g) + 3H2(g) ↔ 2NH3(g)) ขั้นท่ี 5 ขั้นประเมิน (Evaluation) 20 นาที 5.1. ประเมินจากแบบทดสอบหลังเรยี นในรูปแบบ quizizz 5.2 ครูและนักเรยี นประเมนิ กลุ่มทีอ่ อกมานำเสนอหน้าช้นั เรียน สื่อ วัสดุ อปุ กรณ์ และแหล่งการเรยี นรู้ สอ่ื /วสั ดุ/อปุ กรณ์ แหลง่ การเรียนรู้ 1. Powerpoint ประกอบการสอน 1. เอกสารประกอบการเรียนรายวิชาเคมี ม.5 2. ใบบันทึกกจิ กรรมการทดลอง 2. ใบกิจกรรมการเรยี นรู้ 3. วิดีโอการทดลอง 3. อินเตอรเ์ น็ต https://www.youtube.com/watch?v=WJoaDFEq70w 4.แบบทดสอบหลังเรียนรปู แบบ quizizz การประเมนิ การเรยี นรู้ การวดั ผลประเมนิ ด้าน วิธกี ารวดั ผล เครอื่ งมอื ทใี่ ช้วดั ผล เกณฑ์การ ประเมินผล 1.ดา้ นความรู้ (K) -ตรวจแบบฝกึ หดั ท้ายบท -แบบฝกึ หัด -ร้อยละ 60 ผ่าน เกณฑ์ 2. ด้านทกั ษะ/ - สังเกตพฤติกรรมการทำงานกลุ่ม - แบบสงั เกตพฤติกรรม -ระดบั คณุ ภาพ 3 กระบวนการ (P) การทำงานกลุ่ม ผา่ นเกณฑ์ 3. ดา้ นคณุ ลกั ษณะอนั พงึ -การสังเกตพฤตกิ รรมรายบุคคล -แบบสังเกตพฤติกรรม -ระดับคุณภาพ 3 ประสงค์ (A) รายบุคคล ผ่านเกณฑ์
551 ใบกิจกรรม การทดสอบปฏิกิริยาของไอรอ์ อน(III)ไอออน (Fe3+) และไอร์ออน(II)ไอออน (Fe2+) 1. เตรยี มจานหลุมพลาสตกิ และติดฉลาก ดังรปู 2. หยดสารละลายท่ใี ช้ทดสอบตามท่รี ะบใุ นแต่ละคอลัมนใ์ นทุกแถว หลุมละ 3 หยดดังนี้ คอลัมน์ A B C D นำ้ แป้งสุก สารท่ีเติม (ทุกแถว) NaOH K3Fe(CN)6 AgNO3 ตอนที่ 1 ทอสอบ Fe3+ Fe2+ I- และ I2 1. หยดสารละลายต่อไปน้ี ลงในหลุมของแถวท่ี 1 หลุมละ 2 หยด คนสารละลายให้เข้ากัน คอลัมน์ A B C D I2 สารท่ีเตมิ (ทุกแถว) Fe(NO3)3 (NH4)2Fe(SO4)2 KI 2. บันทกึ การเปลี่ยนแปลงในแต่ละหลมุ และเกบ็ สารไวเ้ พอ่ื เปรียบเทียบผลการทดลองในตอนท่ี 2 และ 3 ตอนที่ 2 การทดสอบสารในปฏกิ ริ ิยาเคมีระหว่าง Fe3+ กบั I- 1. ใส่ Fe(NO3)3 ลงในหลอดทดลอง 10 หยด จากนั้นเติม KI ลงไป 10 หยด เขย่าเบาๆ สังเกตการเปลี่ยนแปลง และบนั ทึกผล 2. นำสารผสมจากข้อ 1 มาหยดในจานหลุม ในแถวที่ 2 หลุมละ 2 หยด คนสารละลายให้เข้ากัน สังเกตการ เปล่ียนแปลง และบันทึกผล 3. เปรยี บเทียบสหี รือตะกอนของสารในแถวที่ 2 กับแถวท่ี 1 ของแตล่ ะคอลมั น์ ตอนท่ี 3 การทดสอบสารในปฏิกริ ยิ าเคมรี ะหวา่ ง Fe2+ กับ I2 1. ใส่ (NH4)2Fe(SO4)2 ลงในหลอดทดลอง 10 หยด จากนั้นเติม I2 ลงไป 10 หยด เขย่าเบาๆ สังเกตการ เปลีย่ นแปลง และบนั ทกึ ผล 2. นำสารผสมจากข้อ 1 มาหยดในจานหลุม ในแถวที่ 3 หลุมละ 2 หยด คนสารละลายให้เข้ากัน สังเกตการ เปลี่ยนแปลง และบันทึกผล 3. เปรียบเทยี บสีหรือตะกอนของสารในแถวท่ี 3 กบั แถวท่ี 1 ของแตล่ ะคอลัมน์
552 ใบงานกิจกรรม การทดสอบปฏิกิริยาของไอรอ์ อน(III)ไอออน (Fe3+) และไอร์ออน(II)ไอออน (Fe2+) ตอนท่ี 1 ทดสอบ Fe3+ Fe2+ I- และ I2 คอลมั น์ A B C D สารที่เติม (ทุกแถว) Fe(NO3)3 (NH4)2Fe(SO4)2 KI I2 สที เ่ี กดิ ข้ึนเปน็ อยา่ งไร 1. การทดสอบตอนท่ี 1 หาอะไรในแตล่ ะหลุม ...................................................................................................... 2. ในตอนที่ 2 สารทไ่ี ดจ้ ากปฏิกริ ยิ าเคมรี ะหว่าง Fe3+ กบั I- มสี ารใดอยู่บา้ ง .............................................................................................................................................................................. 3. สมการไอออนิกสทุ ธขิ องปฏิกิริยาเคมีระหว่าง Fe3+ กบั I- เปน็ อยา่ งไร .............................................................................................................................................................................. 4. ในตอนที่ 3 สารท่ไี ดจ้ ากปฏิกิริยาเคมรี ะหว่าง Fe2+ กบั I2 มสี ารใดอยบู่ า้ ง .............................................................................................................................................................................. 5.สมการไอออนิกสทุ ธขิ องปฏิกิรยิ าเคมีระหว่าง Fe2+ กบั I2 เป็นอย่างไร .............................................................................................................................................................................. 6.ปฏกิ ริ ยิ าเคมตี อนท่ี 2 และ 3 มีความสัมพันธ์กันหรือไมอ่ ยา่ งไร .............................................................................................................................................................................. 7.จากตอนที่ 2 และ 3 น่าจะมีสมดุลระหว่างปฏกิ ริ ิยา Fe3+ กบั Fe2+ เกิดขน้ึ หรือไม่ ทราบไดอ้ ยา่ งไร .............................................................................................................................................................................. สรุปผลการทดลอง .................................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................
553 เฉลยใบงานกิจกรรม การทดสอบปฏิกิริยาของไอรอ์ อน(III)ไอออน (Fe3+) และไอร์ออน(II)ไอออน (Fe2+) ตอนท่ี 1 ทดสอบ Fe3+ Fe2+ I- และ I2 คอลัมน์ A B C D สารที่เติม (ทุกแถว) Fe(NO3)3 (NH4)2Fe(SO4)2 KI I2 สที ่เี กิดขึน้ เป็นอยา่ งไร ตะกอน ตะกอนสนี ำ้ เงนิ ตะกอน สารสีน้ำเงินเข้ม สีน้ำตาลแดง สเี หลอื งอ่อน 1. การทดสอบตอนท่ี 1 หาอะไรในแตล่ ะหลมุ = การมอี ยู่ของ Fe3+Fe2+ I-และ I2 2. ในตอนท่ี 2 สารทไี่ ดจ้ ากปฏิกริ ิยาเคมีระหว่าง Fe3+ กับ I- มีสารใดอยบู่ า้ ง = Fe3+ I- (สารตั้งต้น) Fe2+ I2 (ผลติ ภณั ฑ์) 3. สมการไอออนกิ สทุ ธขิ องปฏิกิรยิ าเคมีระหว่าง Fe3+ กับ I- เปน็ อยา่ งไร = Fe3+(aq) + 2I-(aq) → Fe2+(aq) + I2(aq) 4. ในตอนท่ี 3 สารท่ีได้จากปฏกิ ิริยาเคมีระหวา่ ง Fe2+ กบั I2 มสี ารใดอยู่บา้ ง = Fe3+ I- (ผลติ ภณั ฑ)์ Fe2+ I2 (สารต้งั ต้น) 5.สมการไอออนกิ สทุ ธขิ องปฏิกิรยิ าเคมีระหวา่ ง Fe2+ กบั I2 เปน็ อย่างไร = Fe2+(aq) + I2(aq) → Fe3+(aq) + 2I-(aq) 6.ปฏิกิริยาเคมตี อนท่ี 2 และ 3 มีความสัมพนั ธก์ นั หรอื ไมอ่ ยา่ งไร = Fe3+ I- (สารตงั้ ตน้ ) Fe2+ I2 (ผลติ ภัณฑ์) และFe3+ I- (ผลิตภณั ฑ)์ Fe2+ I2 (สารตัง้ ต้น) 7.จากตอนท่ี 2 และ 3 นา่ จะมสี มดลุ ระหวา่ งปฏิกิริยา Fe3+ กับ Fe2+ เกดิ ข้นึ หรือไม่ ทราบได้อย่างไร = มสี มดลุ เกิดขึน้ เพราะวา่ สารทกุ ตัวมสี ีคงท่ี สรุปผลการทดลอง จากการทดลองคือ Fe3+ ทำ ปฏกิ ริ ิยากับ I- ได้ผลติ ภัณฑเ์ ป็น Fe2+ และ I2 สว่ น Fe2+ ทำ ปฏิกิริยากบั I2 ไดผ้ ลิตภัณฑเ์ ปน็ Fe3+ และ I- แสดงวา่ ปฏกิ ิรยิ าทัง้ สองมีความสมั พันธ์กนั ซึ่งเมอื่ ทำปฏิกิรยิ าไปเร่ือย ๆ จะเหน็ ว่ามี สมดุลเกิดข้ึน เพราะสารทกุ ตวั มีสคี งท่ี
554 แบบทดสอบหลงั เรยี น 1. ปฏิกริ ิยาไปข้างหนา้ คอื การเกิดปฏิกริ ยิ าเคมที ี่เปล่ียนจากอะไรเปน็ อะไร ก. สารตั้งตน้ → ผลิตภณั ฑ์ ข. ผลิตภณั ฑ์ → สารต้ังต้น ค. สารคงที่สมดุล → ผลิตภัณฑ์ ง. ผลิตภณั ฑ์ → สารสมดุลเคมี 2. การทดสอบไอโดดีนใชอ้ ะไรในการทดสอบหา ก. นำ้ มะนาว ข. น้ำแป้งสกุ ค. โซเดียมคารบ์ อเนต ง. นำ้ เกลอื 3. หากทำปฏิกริ ยิ าไปเร่อื ย ๆ จนสีไมเ่ กดิ การเปลย่ี นแปลงแสดงวา่ สารนัน้ เป็นอะไร ก. สารเข้าสู่สภาวะขาดสมดุล ข.สารเข้าสสู่ ภาวะเกินสมดลุ ค. สารเข้าสู่สภาวะอม่ิ ตัว ง. สารเข้าสสู่ ภาวะสมดลุ 4. ขอ้ ใดหมายถึงปฏิกริ ิยาทางกายภาพ ก. สารเปลี่ยนจากสถานะหนง่ึ ไปอีกสถานะหน่ึงในระบบปิด ข. สารเปลย่ี นสถานะโดยมีสารอืน่ ๆ เข้ามาทำปฏกิ ิริยารว่ มดว้ ย ค. สารท่เี ปลี่ยนแปลงนน้ั ยังคงเปน็ สารเดมิ ไม่ไดเ้ ปลย่ี นเปน็ สารใหม่ ง. สารใหม่จะมีสมบัตติ ่างไปจากสารเดมิ และการทำสารใหม่ใหก้ ลับไปเป็นสารเดิมทำได้ยาก 5. นำ้ เปลย่ี นสถานะจากของเหลวกลายเป็นไอน้ำ เป็นปฏิกิริยาแบบใด ก. ปฏกิ ริ ิยาการระเหย ข. ปฏกิ ริ ยิ าการระเหดิ ค. ปฏกิ ริ ิยาทางเคมี ง. ปฏิกริ ิยาทางกายภาพ 6. การเผาแกส๊ ไฮโดรเจนในอากาศ เป็นปฏกิ ิรยิ าแบบใด ก. ปฏกิ ริ ยิ าการระเหย ข. ปฏิกริ ิยาการระเหดิ ค. ปฏกิ ริ ิยาทางเคมี ง. ปฏิกิรยิ าทางกายภาพ 7. ปฏิกริ ยิ ายอ้ นกลบั คือการเกดิ ปฏิกริ ยิ าเคมที เ่ี ปล่ียนจากอะไรเป็นอะไร ก. สารตัง้ ต้น → ผลติ ภณั ฑ์ ข. ผลติ ภัณฑ์ → สารตง้ั ต้น ค. สารคงทส่ี มดลุ → ผลิตภัณฑ์ ง. ผลติ ภณั ฑ์ → สารสมดุลเคมี 8. ปฏกิ ิริยาผันกลบั ไดจ้ ะต้องมีปฏิกิริยาใดบ้างในสมการ ก. ปฏกิ ิริยาทางกายภาพ และปฏิกิริยาทางเคมี ข. ปฏิกริ ิยาไปขา้ งหนา้ และปฏกิ ิรยิ ายอ้ นกลับ ค. ปฏิกริ ยิ าไปข้างหนา้ ปฏิกิริยาสมดุล ง. ปฏิกิรยิ าย้อนกลบั และปฏกิ ิริยาไปแล้วกลับ 9. สมดุลเคมจี ะเกิดไดใ้ นระบบใด ก. ระบบคงท่ี ข. ระบบเปดิ ค. ระบบปดิ ง. ระบบเปดิ และปดิ 10. ขอ้ ใดไม่ใช่สมดลุ เคมี ก. เป็นระบบปดิ ข. ความเขม้ ขน้ ของสารตัง้ ต้นและผลติ ภัณฑ์ไมเ่ ปล่ยี นแปลงตามเวลา
555 ค. อตั ราการเกดิ ปฏิกริ ิยาไปขา้ งหน้าเท่ากับอตั ราการเกดิ ปฏิกิริยาย้อนกลบั ง. เกิดข้ึนเฉพาะปฏิกริ ิยาไปข้างหน้าอยา่ งเดียว และต้องอยใู่ นระบบเปดิ 11. ข้อใดไม่ใช่ความหมายของคำวา่ Dynamic equilibrium ก. สมดุล ข. สมดุลพลวตั ค. สมดลุ สหวตั ง. อตั ราการเกิดปฏิกิรยิ าไปข้างหน้าเทา่ กบั อตั ราการเกิดปฏิกิริยาย้อนกลับ 12. ข้อใดไมไ่ ด้หมายถงึ สารประกอบไอออนิก ก. สารประกอบทปี่ ระกอบด้วยธาตโุ ลหะและธาตอุ โลหะ ข. สารประกอบทีป่ ระกอบด้วยธาตโุ ลหะเพยี งอยา่ งเดียว ค. สารท่ปี ระกอบดว้ ยประจุบวก และประจลุ บ ง. ยดึ กันดว้ ยแรงดึงดูดระหวา่ งประจุไฟฟา้ เรยี กวา่ พนั ธะไอออนิก ใช้คำถามต่อไปน้ตี อบขอ้ 13 – 15กำหนดให้ สารตง้ั ตน้ เป็น N2(g) + 3H2(g) จงเขียนปฏิกริ ยิ าไปขา้ งหน้า ปฏิกิริยายอ้ นกลบั และปฏิกิริยาผันกลบั ได้ ปฏกิ ริ ิยาไปข้างหนา้ = ………………………………………………………………………………………………………………………….. ปฏิกริ ิยาย้อนกลับ = …………………………………………………………………………………………………………………………….. ปฏกิ ิริยาผนั กลบั ได้ = ...........................................................................................................................................
556 เฉลยแบบทดสอบหลงั เรียน 1. ปฏกิ ิรยิ าไปข้างหน้าคือการเกดิ ปฏิกิริยาเคมีทเ่ี ปลี่ยนจากอะไรเป็นอะไร ก. สารตัง้ ต้น → ผลิตภัณฑ์ ข. ผลิตภณั ฑ์ → สารตง้ั ต้น ค. สารคงที่สมดุล → ผลติ ภณั ฑ์ ง. ผลติ ภณั ฑ์ → สารสมดลุ เคมี 2. การทดสอบไอโดดีนใช้อะไรในการทดสอบหา ก. น้ำมะนาว ข. นำ้ แปง้ สกุ ค. โซเดยี มคารบ์ อเนต ง. น้ำเกลอื 3. หากทำปฏกิ ิรยิ าไปเรอ่ื ย ๆ จนสีไมเ่ กิดการเปลีย่ นแปลงแสดงวา่ สารน้นั เปน็ อะไร ก. สารเขา้ ส่สู ภาวะขาดสมดลุ ข.สารเขา้ ส่สู ภาวะเกนิ สมดุล ค. สารเขา้ สสู่ ภาวะอมิ่ ตวั ง. สารเขา้ สสู่ ภาวะสมดลุ 4. ข้อใดหมายถึงปฏิกิริยาทางกายภาพ ก. สารเปล่ยี นจากสถานะหน่ึงไปอีกสถานะหน่ึงในระบบปดิ ข. สารเปลีย่ นสถานะโดยมีสารอน่ื ๆ เข้ามาทำปฏิกริ ิยารว่ มดว้ ย ค. สารทีเ่ ปลยี่ นแปลงนั้นยังคงเปน็ สารเดิมไม่ได้เปลย่ี นเป็นสารใหม่ ง. สารใหม่จะมีสมบตั ิตา่ งไปจากสารเดมิ และการทำสารใหม่ใหก้ ลับไปเปน็ สารเดิมทำไดย้ าก 5. นำ้ เปลย่ี นสถานะจากของเหลวกลายเปน็ ไอนำ้ เป็นปฏกิ ริ ยิ าแบบใด ก. ปฏิกิรยิ าการระเหย ข. ปฏิกริ ิยาการระเหิด ค. ปฏิกริ ยิ าทางเคมี ง. ปฏกิ ริ ิยาทางกายภาพ 6. การเผาแกส๊ ไฮโดรเจนในอากาศ เป็นปฏกิ ริ ิยาแบบใด ก. ปฏิกิริยาการระเหย ข. ปฏกิ ิรยิ าการระเหดิ ค. ปฏกิ ิรยิ าทางเคมี ง. ปฏกิ ิรยิ าทางกายภาพ 7. ปฏิกิริยาย้อนกลับคือการเกิดปฏิกริ ยิ าเคมที เ่ี ปลี่ยนจากอะไรเป็นอะไร ก. สารต้ังต้น → ผลติ ภัณฑ์ ข. ผลิตภณั ฑ์ → สารตั้งต้น ค. สารคงทสี่ มดุล → ผลิตภณั ฑ์ ง. ผลิตภณั ฑ์ → สารสมดลุ เคมี 8. ปฏิกิริยาผันกลับได้จะตอ้ งมปี ฏกิ ิริยาใดบ้างในสมการ ก. ปฏิกิรยิ าทางกายภาพ และปฏกิ ริ ยิ าทางเคมี ข. ปฏิกิริยาไปขา้ งหนา้ และปฏิกิรยิ าย้อนกลับ ค. ปฏกิ ริ ิยาไปข้างหน้า ปฏกิ ิรยิ าสมดลุ ง. ปฏิกิริยาย้อนกลับ และปฏิกิรยิ าไปแลว้ กลับ 9. สมดลุ เคมีจะเกดิ ได้ในระบบใด ก. ระบบคงที่ ข. ระบบเปิด ค. ระบบปดิ ง. ระบบเปิด และปิด 10. ข้อใดไมใ่ ช่สมดลุ เคมี ก. เปน็ ระบบปดิ ข. ความเขม้ ข้นของสารตงั้ ตน้ และผลิตภัณฑ์ไมเ่ ปลยี่ นแปลงตามเวลา
557 ค. อัตราการเกดิ ปฏกิ ิริยาไปข้างหนา้ เท่ากับอัตราการเกิดปฏิกริ ยิ ายอ้ นกลบั ง. เกดิ ขน้ึ เฉพาะปฏิกริ ยิ าไปขา้ งหน้าอย่างเดียว และตอ้ งอย่ใู นระบบเปดิ 11. ขอ้ ใดไมใ่ ชค่ วามหมายของคำว่า Dynamic equilibrium ก. สมดุล ข. สมดลุ พลวัต ค. สมดลุ สหวตั ง. อตั ราการเกดิ ปฏิกริ ยิ าไปขา้ งหน้าเท่ากบั อัตราการเกดิ ปฏิกิรยิ าย้อนกลับ 12. ขอ้ ใดไมไ่ ดห้ มายถึงสารประกอบไอออนกิ ก. สารประกอบทปี่ ระกอบดว้ ยธาตโุ ลหะและธาตอุ โลหะ ข. สารประกอบที่ประกอบด้วยธาตุโลหะเพียงอย่างเดยี ว ค. สารท่ีประกอบดว้ ยประจบุ วก และประจลุ บ ง. ยึดกนั ด้วยแรงดงึ ดูดระหวา่ งประจไุ ฟฟ้า เรียกว่า พนั ธะไอออนกิ ใชค้ ำถามต่อไปนตี้ อบขอ้ 13 – 15 กำหนดให้ สารต้ังตน้ เป็น N2(g) + 3H2(g) จงเขียนปฏกิ ิรยิ าไปขา้ งหน้า ปฏกิ ริ ยิ ายอ้ นกลับ และปฏิกิรยิ าผนั กลับได้ ปฏิกริ ยิ าไปขา้ งหน้า = N2(g) + 3H2(g) → 2NH2(g) ปฏิกิริยายอ้ นกลับ = N2(g) + 3H2(g) ← 2NH2(g) ปฏิกิรยิ าผนั กลับได้ = N2(g) + 3H2(g) ↔ 2NH2(g)
แบบสังเกตพฤตกิ ร คำช้แี จง : ให้ผู้สอนสังเกตพฤตกิ รรมของนกั เรยี นในระหว่างเรยี นและนอกเวลาเรยี น แล้ว ลำดับท่ี ช่อื –สกลุ การแสดง การยอมรับฟงั คน ของนกั เรยี น ความคดิ เห็น 1 2 นายธนธรณ์ สมจนิ ดา 32132 3 นายวงศธร ประจงการ 4 นายสรเพชญ์ สวา่ งศรี ✓✓ 5 นางสาวกญั ญารัตน์ จับพิมาย 6 นายณัฐพงษ์ สามทอง ✓✓ 7 นายนันฐวัฒน์ ภู่ซอ้ น ✓✓ 8 นายภาณุมาส โลมากลุ 9 นางสาวนัฐรกิ า มังษา ✓✓ 10 นางสาวนิดาวัณย์ แจ้งพงษ์ ✓✓ 11 นางสาวรรินทิพย์ สุขไข 12 นางสาวศศิเพ็ญ วิสทุ ธิอาภรณ์ ✓✓ 13 นางสาวสริ ลิ กั ษณ์ แก้วเสนา ✓✓ 14 นายวรชยั คำเอก นางสาวมลนภา เงนิ เจริญ ✓✓ ✓✓ ✓✓ ✓✓ ✓✓ ✓✓ ✓✓
558 รรมการทำงานกลุ่ม วขีด ✓ลงในชอ่ งที่ตรงกับระดบั คะแนน การทำงาน ความมนี ้ำใจ การมี รวม นอ่นื ตามทไี่ ด้รับ สว่ นรว่ มในการ 15 คะแนน มอบหมาย ปรบั ปรงุ ผลงานกลุ่ม 10 1321321 11 321 11 ✓✓ 14 ✓ 11 ✓✓ ✓ 10 ✓✓ 8 ✓ 12 ✓✓ ✓ 9 ✓✓ ✓ 9 ✓ 14 ✓✓ ✓ 9 ✓ ✓✓ ✓ 10 ✓ 13 ✓✓ ✓ ✓ ✓✓ ✓ ✓ ✓ ✓✓ ✓✓ ✓ ✓ ✓✓✓ ✓✓ ✓✓
เกณฑก์ ารให้คะแนน ให้ 3 คะแนน ปฏบิ ตั หิ รือแสดงพฤตกิ รรมอยา่ งสม่ำเสมอ ให้ 2 คะแนน ปฏิบตั หิ รือแสดงพฤตกิ รรมบ่อยครัง้ ให้ 1 คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมบางคร้ัง เกณฑก์ ารตัดสิน ชว่ งคะแนน 14–15 11–13 8–10 ต่ำกว่า 8
559 ลงชื่อ ................................................... ผปู้ ระเมนิ ............./.................../............... นคณุ ภาพ ระดบั คุณภาพ ดมี าก ดี พอใช้ ปรบั ปรงุ
560 แบบประเมินคณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ คำชแ้ี จง : ให้ผูส้ อนสงั เกตพฤติกรรมของนกั เรียนในระหว่างเรยี นและนอกเวลาเรียน แล้วขีด ✓ลงในชอ่ งที่ตรงกับ ระดบั คะแนน ปฏิบัติตาม ขอ้ ตกลง กฎเกณฑ์ ลำดบั ช่ือ–สกุล ระเบียบ รจู้ กั ใชเ้ วลา รจู้ กั จดั สรร ตัง้ ใจเรียน มีความต้ังใจ รวม ท่ี ของนกั เรียน ขอ้ บังคับในชั้น วา่ งใหเ้ ป็น และพยายามใน 15 เวลาให้ เรียน มีความ ประโยชน์ และ เหมาะสม การทำงานที่ คะแนน ตรงตอ่ เวลาใน นำไปปฏิบัติได้ ไดร้ ับ การปฏิบัติ มอบหมาย กิจกรรมตา่ ง ๆ และรับผดิ ชอบ ในการทำงาน 3 2 13 2 13 2 13 2 1 3 2 1 1 นายธนธรณ์ สมจินดา ✓ ✓ ✓ ✓✓ 9 2 นายวงศธร ประจงการ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ 10 3 นายสรเพชญ์ สวา่ งศรี ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ 10 4 นางสาวกญั ญารตั น์ จบั พิ ✓ ✓ ✓✓ ✓ 13 มาย ✓ 5 นายณฐั พงษ์ สามทอง ✓ ✓ ✓ ✓8 6 นายนนั ฐวัฒน์ ภู่ซอ้ น ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ 10 7 นายภาณมุ าส โลมากุล ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ 10 8 นางสาวนฐั ริกา มงั ษา ✓ ✓✓✓ ✓ 11 9 นางสาวนดิ าวัณย์ แจง้ พงษ์ ✓ ✓ ✓ ✓✓ 11 10 นางสาวรรนิ ทิพย์ สุขไข ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ 10 11 นางสาวศศิเพ็ญ วิสทุ ธิ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ 15 อาภรณ์ 12 นางสาวสริ ลิ ักษณ์ แกว้ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ 10 เสนา 13 นายวรชัย คำเอก ✓✓✓✓ ✓ 10 14 นางสาวมลนภา เงนิ เจรญิ ✓ ✓✓ ✓ ✓ 12 ลงชื่อ .................................................. ผูป้ ระเมิน ............/.................../............
561 เกณฑ์การให้คะแนน ให้ 3 คะแนน เกณฑก์ ารตดั สินคุณภาพ พฤตกิ รรมทป่ี ฏิบตั ิชดั เจนและสม่ำเสมอ ให้ 2 คะแนน พฤตกิ รรมทป่ี ฏิบตั ิชดั เจนและบ่อยครั้ง ให้ 1 คะแนน ชว่ งคะแนน ระดับคุณภาพ พฤตกิ รรมทปี่ ฏิบัตบิ างคร้ัง 14-15 ดมี าก 11-13 ดี 8-10 พอใช้ ตำ่ กวา่ 8 ปรบั ปรุง
562 บนั ทกึ หลังการจดั การเรียนรู้ 1. ผลการจดั การเรยี นการสอน • ด้านความรู้ - นกั เรยี นมคี วามรู้ความเขา้ ใจในเนื้อหา - นักเรยี นสามารถอธบิ ายการเกิดสมดลุ ระหว่างสถานะ สมดุลในสารละลายอ่มิ ตวั และสมดลุ ในปฏิกิริยาเคมีได้ - นักเรียนสามารถอธิบายกราฟความสัมพันธ์ระหวา่ งอตั ราการเกิดปฏิกิริยาเคมีกบั เวลา และกราฟความสมั พนั ธ์ ระหวา่ งความเขม้ ขน้ ของสารกบั เวลาได้ - นกั เรยี นเขา้ ใจการทดสอบปฏิกิริยาระหว่างไอร์ออน(III)ไอออน (Fe3+) กับไอโอไดดไ์ อออน (I-) พรอ้ มทงั้ เขียน สมการเคมไี ด้ - นักเรียนเข้าใจทดสอบปฏกิ ิริยาระหว่างไอรอ์ อน(II)ไอออน (Fe2+) กับไอโอดนี (I2) พร้อมทง้ั เขียนสมการเคมไี ด้ • ด้านสมรรถนะสำคญั ของผเู้ รียน - นกั เรียนมีทักษะและกระบวนการทางวิทยาศาสตรต์ ามเกณฑท์ ่คี รูกำหนด • ดา้ นคณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ - นักเรียนทุกคนมคี วามใฝ่เรยี นรู้ - นักเรยี นสามารถแก้ปญั หาอาจจะช้าหรือเรว็ ตา่ งกนั แตส่ ามารถแกป้ ญั หาได้ - มีวินัยในการเรียน • ด้านอืน่ ๆ (พฤติกรรมเดน่ หรือพฤตกิ รรมท่มี ีปญั หาของนักเรยี นเปน็ รายบุคคล (ถา้ ม)ี ) - 2. ปัญหา / อปุ สรรค - 3. ขัน้ เสนอแนะ / แนวทางแกไ้ ข - ลงชอ่ื ..................................................................ผเู้ ขยี นแผนการจัดการเรียนรู้ (นางสาวณัฐธดิ า ชากรแกว้ ) ......................./................/.................... ลงชื่อ..................................................................ผตู้ รวจ (นางสาววารณุ ี อิทธิพัทธอ์ เนก) ......................./................/....................
563 แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 22 กล่มุ สาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ระดับชน้ั มัธยมศกึ ษาปีท่ี 5 หน่วยการเรยี นรู้ที่ 9 เรือ่ ง สมดุลเคมี เร่อื ง ความสัมพันธ์ระหวา่ งความเข้มขน้ ของสารต่างๆ ณ ภาวะสมดลุ วิชา เคมี 3 รหัส ว32225 เวลาเรยี น 2 ช่วั โมง จำนวน 1.0 หนว่ ยกติ ครผู ูส้ อน นางสาวณัฐธดิ า ชากรแก้ว สาระการเรยี นรู้ เข้าใจการเขยี นและการดุลสมการเคมี ปรมิ าณสัมพันธใ์ นปฏิกิริยาเคมี อัตราการเกดิ ปฏิกิรยิ าเคมี สมดุล ในปฏิกริ ิยาเคมี สมบัติและปฏกิ ริ ิยาของกรด-เบส ปฏิกิรยิ ารีดอกซ์และเซลลเ์ คมไี ฟฟ้า รวมท้ังการนำความรู้ไปใช้ ประโยชน์ ผลการเรียนรู้ คาํ นวณความเขม้ ข้นของสารที่ภาวะสมดุล ด้านความรู้ (Knowledge) 1. อธบิ ายความสมั พันธ์ระหวา่ งความเข้มขน้ ของสารตัง้ ต้นและผลติ ภณั ฑใ์ นปฏิกิรยิ าเคมีท่ภี าวะสมดุลได้ 2. แปลความหมายของค่าคงทีส่ มดลุ ได้ ดา้ นทักษะ (Process) 3. คำนวณหาคา่ คงทสี่ มดุลของปฏกิ ิรยิ าและความเข้มข้นของสารในปฏิกริ ยิ าท่ีภาวะสมดุลได้ ดา้ นคุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ (Affective) 4. มคี วามมุ่งม่ันต้ังใจในการเรยี นรู้ และแสวงหาความรู้ รบั ผดิ ชอบตอ่ หนา้ ทีท่ ไี่ ด้รบั มอบหมาย สาระสำคญั หรอื ความคดิ รวบยอด การเปลีย่ นแปลงที่ผนั กลับได้ในระบบปดิ ทสี่ ภาวะสมดลุ มีปริมาณสารในระบบคงท่ี เน่ืองจากมีอัตราการ เปล่ียนแปลงไปขา้ งหน้าเท่ากับอตั ราการเปลี่ยนแปลงยอ้ นกลับเกดิ ขน้ึ ตอ่ เน่ืองกันตลอดเวลา เรยี กวา่ สมดลุ พลวัต สำหรับสมดุลพลวัตของปฏิกิรยิ าเคมที ่ผี ันกลับไดเ้ รียกว่า สมดุลเคมีซึง่ เป็นสภาวะท่คี วามเข้มขน้ ของสารตั้งต้นและ ผลิตภณั ฑ์คงที่ ไม่เปลย่ี นแปลงตามเวลา สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รยี น 1. ความสามารถในการส่อื สาร 2. ความสามารถในการคดิ 3. ความสามารถในการแก้ปัญหา 4. ความสามารถในการใช้ทักษะชวี ติ 5. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ 1. รักชาติ ศาสน์ กษตั ริย์ 2. ซอ่ื สตั ย์ 3. มีวินัย
564 4. ใฝ่เรียนรู้ 5. อย่อู ยา่ งพอเพียง 6. มงุ่ มัน่ ในการทำงาน 7. รักความเปน็ ไทย 8. มีจติ สาธารณะ กจิ กรรมการเรยี นรู้ ผ่านวธิ กี ารสอนแบบออนไลน์ โดยผ่านแอพพลิเคชนั่ Google meet วิธสี อนโดยใชก้ ระบวนการสืบเสาะหาความรู้ (Inquiry Cycle หรอื Inquiry Method : 5E) ข้นั ท่ี 1 ข้ันกระต้นุ ความสนใจ (Engagement) 5 นาที 1.1 ครู : กลา่ วทกั ทายนักเรียน ครูทำการเปิดภาพละลายเหลก็ ทำปฏกิ ิรยิ ากับไทโอไซยาเนตเกิดเปน็ สารละลายสี แดงเลอื ดนก ดงั สมการ Fe3+(aq) + SCN-(aq) ↔ FeSCN2+(aq) สีแดงเลือดนกของเฟอร์ริกไทโอไซยาเนต 1.2 ครูถามนักเรยี นว่า จากปฏิกริ ิยาขา้ งต้นหากทำตอ่ ไปเร่ือย ๆ โดยเพมิ่ ความเขม้ ข้นของสารต้ังต้นจะยังคงได้สี แดงเลอื ดนกหรอื ไม่ ซ่ึงจะพาเข้าสกู่ ารทำกจิ กรรมความเข้มขน้ ของสารเมือ่ ระบบเขา้ สู่สมดลุ ตอ่ ไป ข้นั ท่ี 2 ข้ันสำรวจและคน้ หา (Exploretion) 40 นาที 2.1 ครูให้นักเรียนแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ 5 คน โดยให้แต่ละกลุ่มศึกษาคน้ คว้าข้อมูลเกี่ยวกับความสมั พันธ์ระหว่าง อัตราส่วนระหว่างความเข้มข้นของผลิตภัณฑ์กบั สารตั้งต้น ณ ภาวะสมดุล และค่าคงที่สมดุล ค่าคงที่สมดลุ กับ สมการเคมี 2.2 นักเรียนนำข้อมูลที่ได้จากการค้นคว้าทำเป็นรูปแบบต่าง ๆ ตามความคิดเห็นของแต่ละก ลุ่ม เช่น แผนภาพ แผนผัง เขยี นบรรยาย ขน้ั ที่ 3 ขนั้ อธบิ ายและลงข้อสรุป (Explaination) 40 นาที 3.1 นักเรียนแต่ละกลุ่มส่งตัวแทนมานำเสนอเรือ่ งที่ได้ศึกษาคน้ คว้าขอ้ มูลและผลงานการจัดทำข้อมูลของกลมุ่ ตนเองทลี ะกลุ่มเพอื่ แลกเปล่ียนความคิดเหน็ กนั จนครบทกุ กลุ่ม 3.2 ครใู หค้ วามรู้เกี่ยวกับการหาค่าคงที่สมดุลในปฏิกิริยาที่สารต้ังตน้ และผลติ ภัณฑ์อยู่ในสถานะเดียวกัน และต่างสถานะกนั รวมทงั้ หน่วยของค่าคงท่ีสมดลุ 3.3 ครตู ง้ั คำถามใหน้ ักเรียนร่วมกนั อภปิ รายเก่ยี วกับ ความสัมพนั ธร์ ะหว่างอตั ราส่วนระหว่างความเข้มข้น ของผลิตภัณฑ์กบั สารต้ังตน้ ณ ภาวะสมดลุ และคา่ คงท่ีสมดุล เช่น 1) ปฏกิ ิริยาที่คา่ คงทสี่ มดลุ มีค่ามากและปฏกิ ริ ยิ าทคี่ ่าคงท่ีสมดุลมีค่าน้อยแตกตา่ งกนั อยา่ งไร (แนวตอบ : ปฏกิ ิริยาที่คา่ คงท่ีสมดุลมีค่ามาก แสดงว่า ท่ีสมดลุ ปฏกิ ริ ยิ าน้ันจะมีผลติ ภัณฑ์เกิดข้ึนมาก และมี สารตัง้ ตน้ เหลอื อย่นู ้อย สว่ นปฏกิ ิรยิ าที่ค่าคงที่สมดุลมคี ่านอ้ ย แสดงวา่ ทส่ี มดุลปฏิกริ ิยาน้ันจะมีผลิตภัณฑ์เกิดขึ้น นอ้ ย และมสี ารตง้ั ตน้ เหลืออย่มู าก) 3.4 ครูยกตวั อยา่ งโจทย์เกี่ยวกบั ความสัมพันธ์ระหว่างค่าคงทส่ี มดุลกับความเข้มขน้ ของสาร โดยครูเขียน โจทย์ และให้นกั เรยี นร่วมกนั อภิปรายเพอ่ื หาคำตอบ ดงั น้ี 1) จงเขียนค่าคงทีส่ มดลุ ของปฏิกริ ิยาตอ่ ไปนี้ CO (g) + H2O (l) ⇌ CO2 (g) + H2 (g)
565 (แนวตอบ : K = [������������2][������2]) [������������] 2) จงเขียนคา่ คงที่สมดลุ ของปฏกิ ิรยิ าต่อไปนี้ Pb2+ (aq) + 2I- (aq) ⇌ PbI2 (s) (แนวตอบ : K = [������������2+1][������−]2) 3) จงเขยี นสมการแสดงปฏกิ ริ ยิ าเคมที ่ีมคี ่าคงทส่ี มดุลเท่ากับ [NO2Cl]2 [NO2]2[Cl2] (แนวตอบ : 2NO2 (g) + Cl2 (g) ⇌ 2NO2Cl (g)) 3.5 ครยู กตวั อย่างสมการเคมีหลากหลายรูปแบบ แลว้ ให้นักเรยี นรว่ มกนั อภิปรายเพอื่ ลงขอ้ สรุปเก่ียวกบั คา่ คงทส่ี มดุลกับความสัมพนั ธข์ องสมการเคมใี นประเดน็ ตา่ ง ๆ ดังน้ี • คา่ คงทสี่ มดลุ ของปฏิกริ ยิ าย้อนกลับ • ค่าคงที่สมดลุ ของปฏิกริ ิยาทมี่ เี ลขสมั ประสทิ ธิโ์ ดยโมลตา่ งกัน • ค่าคงทส่ี มดลุ ของปฏิกริ ยิ ารวม 3.6 ครูยกตัวอย่างโจทย์เกี่ยวกับค่าคงที่สมดุลกับสมการเคมี โดยครูเขียนโจทย์ และให้นักเรียนร่วมกนั อภิปรายเพอื่ หาคำตอบ ดงั นี้ 1) ปฏิกิริยา SO2 (g) + 12O2 (g) ⇌ SO3 (g) มีค่าคงที่สมดุลเท่ากับ 20.4 ที่อุณหภูมิ 700 องศา เซลเซียส จงหาค่าคงทส่ี มดลุ ของปฏกิ ริ ิยาตอ่ ไปน้ี • SO3 (g) ⇌ SO2 (g) + 21O2 (g) 1 1= (แนวตอบ : Kใหม่ = ������เดิม = 4.9 × 10-2) 20.4 • 2SO2 (g) + O2 (g) ⇌ 2SO3 (g) (แนวตอบ : Kใหม่ = ������เ2ดิม= 20.42 = 416.16) 2) กำหนดปฏกิ ริ ิยาให้ ดงั น้ี ปฏิกริ ิยา A (g) + 1B (g) ⇌ C (g) ; K1 = 1.8 2 ปฏิกิริยา X (g) ⇌ 1B (g) + Y (g) ; K2= 0.5 2 คา่ คงท่สี มดลุ ของปฏกิ ิรยิ า A (g) + X (g) ⇌ C (g) + Y (g) มคี า่ เทา่ ใด (แนวตอบ : Kใหม่ = K1 × K2 = 1.8 × 0.5 = 0.9) ขั้นที่ 4 ข้ันขยายความรู้ (Elaboration) 25 นาที 4.1 ครูเปิดโอกาสใหน้ ักเรียนซกั ถามข้อสงสยั ในเน้อื หา เรื่อง ความสมั พันธ์ระหว่างความเขม้ ข้นของสารตา่ งๆ ณ ภาวะสมดุล ว่ามสี ่วนไหนท่ยี งั ไม่เข้าใจ และใหค้ วามรเู้ พมิ่ เตมิ ในส่วนนัน้ เพ่ือจะใช้เป็นความรเู้ บื้องต้นสำหรับการ เรียนในเนื้อหาตอ่ ๆ ไป 4.2 นกั เรยี นทำใบงานที่ 9.1 เร่ือง ความสัมพันธ์ระหว่างความเขม้ ข้นของสารตา่ งๆ ณ ภาวะสมดลุ ขั้นที่ 5 ขน้ั ประเมิน (Evaluation) 10 นาที 5.1 ครูตรวจใบงานท่ี 9.1 เรื่อง ความสมั พนั ธ์ระหว่างความเขม้ ข้นของสารตา่ งๆ ณ ภาวะสมดลุ
566 5.2 นักเรียนและครรู ่วมกนั สรุปสาระสำคญั ได้ ดังน้ี • ค่าคงทส่ี มดุลเป็นคา่ ท่ีบอกใหท้ ราบถึงทิศทางของการเกิดปฏิกริ ิยา คือ ถ้าคา่ คงท่ีสมดุลมคี ่ามากกว่า 1 แสดง วา่ ณ ภาวะสมดุลเกิดปฏิกิรยิ าไปข้างหน้ามากกว่าปฏิกิรยิ ายอ้ นกลบั แต่ถา้ คา่ คงทีส่ มดลุ มีค่าน้อยกว่า 1 แสดงว่า ณ ภาวะสมดลุ เกดิ ปฏิกริ ยิ ายอ้ นกลับมากกว่าปฏิกริ ยิ าไปข้างหน้า • คา่ คงที่สมดุลของปฏิกิรยิ าย้อนกลับเป็นส่วนกลบั กับค่าคงท่ีสมดุลของปฏิกิรยิ าไปข้างหนา้ • ค่าคงที่สมดุลของปฏิกิรยิ าเดียวกนั ทม่ี ตี ัวเลขทใ่ี ชใ้ นการดุลสมการแตกตา่ งกัน จะคา่ แตกต่างกัน • ค่าคงท่ีสมดลุ ของปฏิกิริยารวมมคี ่าเทา่ กับผลคูณระหว่างค่าคงท่สี มดุลของปฏกิ ิรยิ ายอ่ ยในแต่ละขั้น สอื่ วัสดุ อปุ กรณ์ และแหล่งการเรียนรู้ ส่ือ/วัสด/ุ อปุ กรณ์ แหล่งการเรียนรู้ 1. Powerpoint ประกอบการสอน 1. เอกสารประกอบการเรียนรายวชิ าเคมี ม.5 2. ใบงานที่ 9.1 เร่อื ง ความสัมพนั ธร์ ะหว่างความเขม้ ข้น 2. ใบกจิ กรรมการเรยี นรู้ ของสารต่างๆ ณ ภาวะสมดลุ การประเมนิ การเรียนรู้ การวัดผลประเมินด้าน วิธกี ารวดั ผล เครอื่ งมอื ทใ่ี ช้วัดผล เกณฑก์ าร ประเมินผล 1.ดา้ นความรู้ (K) -ตรวจใบงานที่ 9.1 เรอื่ ง -ใบงานที่ 9.1 เรอ่ื ง -รอ้ ยละ 60 ผ่าน ความสัมพนั ธ์ระหว่างความเขม้ ขน้ ความสมั พนั ธ์ระหวา่ ง เกณฑ์ ของสารตา่ งๆ ณ ภาวะสมดลุ ความเข้มข้นของสาร ตา่ งๆ ณ ภาวะสมดุล 2. ด้านทกั ษะ/ - สงั เกตพฤติกรรมการทำงานกลมุ่ - แบบสงั เกตพฤตกิ รรม -ระดับคุณภาพ 3 กระบวนการ (P) การทำงานกลมุ่ ผา่ นเกณฑ์ 3. ดา้ นคุณลกั ษณะอันพึง -การสังเกตพฤตกิ รรมรายบคุ คล -แบบสงั เกตพฤติกรรม -ระดบั คุณภาพ 3 ประสงค์ (A) รายบคุ คล ผ่านเกณฑ์
567 ใบงานที่ 9.1 เรือ่ ง ความสัมพันธ์ระหว่างความเขม้ ขน้ ของสารต่างๆ ณ ภาวะสมดลุ คำชแ้ี จง : ตอบคำถามเกี่ยวกบั ความสมั พนั ธ์ระหวา่ งความเข้มขน้ ของสารต่างๆ ณ ภาวะสมดลุ 1. จงเขยี นค่าคงที่สมดุลของปฏกิ ิรยิ าต่อไปนี้ 1) Fe2+ (aq) + Ag+ (aq) ⇌ Fe3+ (aq) + Ag (s) 2) CO2 (g) + H2 (g) ⇌ CO (g) + H2O (l) 3) 3Fe (s) + 4H2O (l) ⇌ Fe3O4 (s) + 4H2 (g) 2. ปฏิกิริยา 2NO (g) + O2 (g) ⇌ 2NO (g) มีค่าคงที่สมดุลเท่ากับ 1 × 1014 จงหาค่าคงที่สมดุลของ ปฏกิ ิรยิ า NO (g) + 12O2 (g) ⇌ NO (g) 3. A (g) + 3B (g) ⇌ C (g) K = K1 ………. (1) ………. (2) 2C (g) ⇌ 3D (g) + 2E (g) K = K2 ………. (3) 2A (g) + 6B (g) ⇌ 3D (g) + 2E (g) K = K3 ค่า K3 จะมคี ่าเทา่ ใดในรูป K1 และ K2 4. ถ้าทีภ่ าวะสมดลุ มี PCl5 เข้มขน้ 2.8 โมลาร์ PCl3 เขม้ ข้น 0.17 โมลาร์ และ Cl2 เข้มขน้ 1.17 โมลาร์ จงหา ค่าคงทสี่ มดลุ ของปฏิกิริยาต่อไปนี้
568 ใบงานท่ี 9.1 เฉลย เร่อื ง ความสัมพันธร์ ะหวา่ งความเข้มขน้ ของสารต่างๆ ณ ภาวะสมดุล คำชี้แจง : ตอบคำถามเกยี่ วกับความสมั พนั ธ์ระหวา่ งความเขม้ ขน้ ของสารต่างๆ ณ ภาวะสมดลุ 1. จงเขียนค่าคงทีส่ มดุลของปฏิกริ ิยาต่อไปน้ี 1) Fe2+ (aq) + Ag+ (aq) ⇌ Fe3+ (aq) + Ag (s) 2) CO2 (g) + H2 (g) ⇌ CO (g) + H2O (l) 3) 3Fe (s) + 4H2O (l) ⇌ Fe3O4 (s) + 4H2 (g) 1) K = [Fe3+] [Fe2+][Ag+] 2) K = [CO] [CO2][H2] 3) K = [H2]4 2. ปฏิกิริยา 2NO (g) + O2 (g) ⇌ 2NO (g) มีค่าคงที่สมดุลเท่ากับ 1 × 1014 จงหาค่าคงที่สมดุลของ ปฏิกริ ยิ า NO (g) + 21O2 (g) ⇌ NO (g) 1 K = (1 × = 1 × 107 1014)2 3. A (g) + 3B (g) ⇌ C (g) K = K1 ………. (1) 2C (g) ⇌ 3D (g) + 2E (g) K = K2 ………. (2) 2A (g) + 6B (g) ⇌ 3D (g) + 2E (g) K = K3 ………. (3) ค่า K3 จะมคี า่ เทา่ ใดในรูป K1 และ K2 สมการที่ (1) × 2 2A (g) + 6B (g) ⇌ 2C (g) K = K 2 ………. (4) สมการที่ (2) + สมการท่ี (4) 1 2A (g) + 6B (g) ⇌ 3D (g) + 2E (g) K = K 2 K 2 1 ดังนั้น ค่า K3 = K12K2 4. ถ้าท่ีภาวะสมดลุ มี PCl5 เข้มข้น 2.8 โมลาร์ PCl3 เขม้ ขน้ 0.17 โมลาร์ และ Cl2 เข้มข้น 1.17 โมลาร์ จงหา คา่ คงทีส่ มดลุ ของปฏิกิริยาต่อไปน้ี PCl3 (g) + Cl2 (g) ⇌ PCl5 (g) K = [PCl5] [PCl3][Cl2] = (2.8) (0.17)(1.17) = 14.08
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273
- 274
- 275
- 276
- 277
- 278
- 279
- 280
- 281
- 282
- 283
- 284
- 285
- 286
- 287
- 288
- 289
- 290
- 291
- 292
- 293
- 294
- 295
- 296
- 297
- 298
- 299
- 300
- 301
- 302
- 303
- 304
- 305
- 306
- 307
- 308
- 309
- 310
- 311
- 312
- 313
- 314
- 315
- 316
- 317
- 318
- 319
- 320
- 321
- 322
- 323
- 324
- 325
- 326
- 327
- 328
- 329
- 330
- 331
- 332
- 333
- 334
- 335
- 336
- 337
- 338
- 339
- 340
- 341
- 342
- 343
- 344
- 345
- 346
- 347
- 348
- 349
- 350
- 351
- 352
- 353
- 354
- 355
- 356
- 357
- 358
- 359
- 360
- 361
- 362
- 363
- 364
- 365
- 366
- 367
- 368
- 369
- 370
- 371
- 372
- 373
- 374
- 375
- 376
- 377
- 378
- 379
- 380
- 381
- 382
- 383
- 384
- 385
- 386
- 387
- 388
- 389
- 390
- 391
- 392
- 393
- 394
- 395
- 396
- 397
- 398
- 399
- 400
- 401
- 402
- 403
- 404
- 405
- 406
- 407
- 408
- 409
- 410
- 411
- 412
- 413
- 414
- 415
- 416
- 417
- 418
- 419
- 420
- 421
- 422
- 423
- 424
- 425
- 426
- 427
- 428
- 429
- 430
- 431
- 432
- 433
- 434
- 435
- 436
- 437
- 438
- 439
- 440
- 441
- 442
- 443
- 444
- 445
- 446
- 447
- 448
- 449
- 450
- 451
- 452
- 453
- 454
- 455
- 456
- 457
- 458
- 459
- 460
- 461
- 462
- 463
- 464
- 465
- 466
- 467
- 468
- 469
- 470
- 471
- 472
- 473
- 474
- 475
- 476
- 477
- 478
- 479
- 480
- 481
- 482
- 483
- 484
- 485
- 486
- 487
- 488
- 489
- 490
- 491
- 492
- 493
- 494
- 495
- 496
- 497
- 498
- 499
- 500
- 501
- 502
- 503
- 504
- 505
- 506
- 507
- 508
- 509
- 510
- 511
- 512
- 513
- 514
- 515
- 516
- 517
- 518
- 519
- 520
- 521
- 522
- 523
- 524
- 525
- 526
- 527
- 528
- 529
- 530
- 531
- 532
- 533
- 534
- 535
- 536
- 537
- 538
- 539
- 540
- 541
- 542
- 543
- 544
- 545
- 546
- 547
- 548
- 549
- 550
- 551
- 552
- 553
- 554
- 555
- 556
- 557
- 558
- 559
- 560
- 561
- 562
- 563
- 564
- 565
- 566
- 567
- 568
- 569
- 570
- 571
- 572
- 573
- 574
- 575
- 576
- 577
- 578
- 579
- 580
- 581
- 582
- 583
- 584
- 585
- 586
- 587
- 588
- 589
- 590
- 591
- 592
- 593
- 594
- 595
- 596
- 597
- 598
- 599
- 600
- 601
- 602
- 603
- 604
- 605
- 606
- 607
- 608
- 609
- 610
- 611
- 612
- 613
- 614
- 615
- 616
- 617
- 618
- 619
- 620
- 621
- 622
- 623
- 624
- 625
- 626
- 627
- 628
- 629
- 630
- 631
- 632
- 633
- 634
- 635
- 636
- 637
- 638
- 639
- 640
- 641
- 642
- 643
- 644
- 645
- 646
- 647
- 648
- 649
- 650
- 651
- 652
- 653
- 654
- 655
- 656
- 657
- 658
- 659
- 660
- 661
- 662
- 663
- 664
- 665
- 666
- 667
- 668
- 669
- 670
- 671
- 672
- 673
- 674
- 675
- 676
- 677
- 678
- 679
- 680
- 681
- 682
- 683
- 684
- 685
- 686
- 687
- 688
- 689
- 690
- 691
- 692
- 693
- 694
- 695
- 696
- 697
- 698
- 699
- 700
- 701
- 702
- 703
- 704
- 705
- 706
- 707
- 708
- 709
- 710
- 711
- 712
- 713
- 714
- 715
- 716
- 717
- 718
- 719
- 720
- 721
- 722
- 723
- 724
- 725
- 726
- 727
- 728
- 729
- 730
- 731
- 732
- 733
- 734
- 735
- 736
- 737
- 738
- 739
- 740
- 741
- 742
- 743
- 744
- 745
- 746
- 747
- 748
- 749
- 750
- 751
- 752
- 753
- 754
- 755
- 756
- 757
- 758
- 759
- 760
- 761
- 762
- 763
- 764
- 765
- 766
- 767
- 768
- 769
- 770
- 771
- 772
- 773
- 774
- 775
- 776
- 777
- 778
- 779
- 780
- 781
- 1 - 50
- 51 - 100
- 101 - 150
- 151 - 200
- 201 - 250
- 251 - 300
- 301 - 350
- 351 - 400
- 401 - 450
- 451 - 500
- 501 - 550
- 551 - 600
- 601 - 650
- 651 - 700
- 701 - 750
- 751 - 781
Pages: