Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore แผนการเรียนการสอน รายวิชาเคมี ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2564

แผนการเรียนการสอน รายวิชาเคมี ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2564

Published by mind.30, 2021-09-22 15:56:42

Description: แผนการเรียนการสอน รายวิชาเคมี ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2564 นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 และ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5

Search

Read the Text Version

แบบประเมนิ คณุ ลักษ คำชีแ้ จง : ให้ผสู้ อนสงั เกตพฤติกรรมของนกั เรยี นในระหว่างเรียนและนอกเวลาเ ปฏบิ ตั ิตามข้อตกลง กฎเกณฑ์ ระเบยี บ ลำดับที่ ช่ือ–สกุล ข้อบงั คับในช้ันเรียน รจู้ ักใชเ้ วล ของนักเรยี น เป็นประโย มคี วามตรงต่อเวลา ในการปฏบิ ัติกจิ กรรม นำไปป ต่าง ๆ และ รบั ผดิ ชอบในการ ทำงาน 1 เดก็ ชายณัฐพร ทบั เจรญิ 32132 ✓✓ 2 เด็กชายธนากร รงุ่ ฟ้า ✓✓ 3 เด็กชายบุญฤทธ์ิ เสนมา ✓ ✓ 4 เดก็ หญิงตวงรัตน์ กจิ ขยัน ✓ ✓ 5 เด็กหญิงมณมี ัญชุ์ ดว้ งแสง ✓ ✓ 6 นายกษิดเิ์ ดช ชภู ักดิ์ ✓✓ 7 นายชัยวฒั น์ คำแหง ✓✓ 8 นายทรงพล แคนศิลา ✓✓ 9 เด็กชายธรี ภัทร เอ่ียมบญุ ✓ ✓ 10 นายธันวา เนาว์ศรี ✓ 11 นายสุทศั น์ เลไทสงค์ ✓✓ 12 เดก็ ชายอภิชาติ ชนะมลู ✓ ✓ 13 นางสาวนันทิกานต์ ถาวร ✓ ✓ 14 นางสาวนรมน พลเยย่ี ม ✓ ✓ 15 นางสาวพัชรนิ ทร์ สุวรรณพรม ✓ ✓

148 ษณะอันพงึ ประสงค์ เรียน แล้วขีด ✓ลงในช่องที่ตรงกับระดบั คะแนน ลาวา่ งให้ รจู้ ักจัดสรรเวลาให้ ตงั้ ใจเรียน มคี วามต้ังใจและ รวม ยชน์ และ เหมาะสม พยายามในการ 15 ปฏิบตั ไิ ด้ ทำงานที่ไดร้ บั คะแนน มอบหมาย 1321321321 ✓✓ ✓✓ 8 10 ✓✓✓✓ 10 15 ✓✓✓✓ 15 10 ✓✓✓ 10 10 ✓✓✓ 9 8 ✓✓✓✓ 8 8 ✓✓✓✓ 15 10 ✓✓✓✓ 15 ✓✓✓ ✓ ✓✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓✓ ✓ ✓ ✓✓ ✓✓✓ ✓ ✓✓ ✓ ✓✓✓

16 นางสาววราพร พมิ ไพ ✓ ✓ 17 นางสาววริ าภา รวมรัตน์ ✓ ✓ ✓ 18 นางสาววิสา ชนะมลู ✓ ✓ 19 นางสาวอภญิ ญา ปัทมอมั รนิ ทร์ ✓ เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ให้ 3 คะแนน เกณ พฤติกรรมทป่ี ฏิบัตชิ ดั เจนและสมำ่ เสมอ ให้ 2 คะแนน ชว่ งคะแ พฤตกิ รรมที่ปฏิบตั ิชดั เจนและบอ่ ยครงั้ ให้ 1 คะแนน พฤติกรรมทป่ี ฏิบัติบางครั้ง 14-1 11-1 8-10 ตำ่ กวา่

149 ✓✓✓ 15 10 ✓✓✓✓ 10 ✓✓✓✓ 15 ✓✓✓ ลงชื่อ .................................................. ผ้ปู ระเมนิ ............/.................../............ ณฑก์ ารตัดสินคณุ ภาพ แนน ระดับคุณภาพ 15 ดีมาก 13 ดี 0 พอใช้ า 8 ปรับปรงุ

150 บนั ทกึ หลังการจดั การเรียนรู้ 1. ผลการจดั การเรยี นการสอน • ด้านความรู้ - นักเรียนมคี วามรู้ความเขา้ ใจในเนอื้ หา - นกั เรียนสามารถอธบิ ายการเกดิ ธาตกุ มั มนั ตรงั สไี ด้ - นักเรียนสามารถวเิ คราะห์สมบตั ิของรังสีแต่ละชนดิ ได้ • ดา้ นสมรรถนะสำคัญของผ้เู รยี น - นักเรียนมีทักษะและกระบวนการทางวิทยาศาสตรต์ ามเกณฑ์ทคี่ รกู ำหนด • ด้านคุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ - นกั เรยี นทุกคนมีความใฝ่เรยี นรู้ - มคี วามตรงตอ่ เวลาในการเข้าเรียน - นกั เรียนมีความมุ่งมัน่ ตง้ั ใจในการเรยี นรู้ - มวี นิ ยั ในการเรยี น • ดา้ นอนื่ ๆ (พฤติกรรมเด่น หรือพฤติกรรมท่ีมีปัญหาของนักเรียนเป็นรายบุคคล (ถา้ มี)) - 2. ปัญหา / อุปสรรค - มีนักเรียนบางคนไม่สามารถเข้ามาเรยี นออนไลนไ์ ด้ เนือ่ งจากไมม่ คี วามพร้อมในเร่ืองของอุปกรณ์การเรียน 3. ขนั้ เสนอแนะ / แนวทางแกไ้ ข - ลงช่ือ..................................................................ผู้เขียนแผนการจัดการเรยี นรู้ (นางสาวณฐั ธิดา ชากรแกว้ ) ......................./................/.................... ลงชอ่ื ..................................................................ผ้ตู รวจ (นางสาววารุณี อิทธิพัทธ์อเนก) ......................./................/....................

151 แผนการจัดการเรียนรทู้ ี่ 14 กลมุ่ สาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ระดบั ชั้นมัธยมศกึ ษาปีท่ี 4 หน่วยการเรยี นรู้ที่ 2 เร่ือง อะตอมและสมบัติของธาตุ เรื่อง การสลายตวั ของไอโซโทปกัมมันตรงั สี วิชา เคมี 1 รหัส ว31223 เวลาเรียน 1 ช่ัวโมง จำนวน 1.0 หน่วยกติ ครูผสู้ อน นางสาวณัฐธิดา ชากรแก้ว สาระการเรียนรู้ เขา้ ใจโครงสร้างอะตอม การจดั เรยี งธาตใุ นตารางธาตุ สมบตั ิของธาตุ พนั ธะเคมีและสมบัตขิ องสาร แก๊ส และสมบัติของแก๊ส ประเภทและสมบัตขิ องสารประกอบอินทรีย์และพอลิเมอร์ รวมทั้งการนาํ ความรู้ไปใช้ ประโยชน์ ผลการเรียนรู้ อธิบายสมบัตแิ ละคำนวณครงึ่ ชีวติ ของไอโซโทปกมั มนั ตรังสี จุดประสงค์การเรยี นรู้ ดา้ นความรู้ (Knowledge) 1. อธิบายการสลายตัวของไอโซโทปกมั มนั ตรังสีได้ ด้านทกั ษะ (Process) 2. วเิ คราะห์และบอกแนวโนม้ ของการสลายตัวของไอโซโทปกัมมนั ตรังสีได้ ดา้ นคณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ (Affective) 3. ตง้ั ใจในการเรียนรู้ และแสวงหาความรู้ สาระสำคัญหรือความคิดรวบยอด ธาตเุ รพรเี ซนเททฟี ในหมู่เดียวกนั จะมีจำนวนเวเลนซ์อเิ ล็กตรอนเท่ากนั และธาตุทอ่ี ยู่ในคาบเดียวกันจะมี เวเลนซอ์ ิเลก็ ตรอนอยใู่ นระดับพลงั งานหลักเดยี วกนั ทำใหธ้ าตเุ รพรีเซนเททฟี มสี มบัตคิ ลา้ ยคลึงกันตามหมู่และตาม คาบ สมรรถนะสำคัญของผูเ้ รียน ความสามารถในการสื่อสาร ความสามารถในการคิด ความสามารถในการแกป้ ัญหา ความสามารถในการใช้ทกั ษะชีวติ ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ รักชาติ ศาสน์ กษตั รยิ ์ ซื่อสตั ย์ มวี นิ ัย ใฝเ่ รยี นรู้

152 อยู่อย่างพอเพยี ง ม่งุ มั่นในการทำงาน รกั ความเป็นไทย มจี ติ สาธารณะ กจิ กรรมการเรียนรู้ ผ่านวธิ ีการสอนแบบออนไลน์ โดยผ่านแอพพลเิ คชน่ั Google meet วธิ ีสอนโดยใช้กระบวนการสืบเสาะหาความรู้ (Inquiry Cycle หรอื Inquiry Method : 5E) ขน้ั ท่ี 1 ข้ันกระตุ้นความสนใจ (Engagement) 5 นาที 1.1 ครูทบทวนความรูเ้ กยี่ วกับชนิดของอนภุ าคหรอื รังสีทีแ่ ผอ่ อกจากนิวเคลียส จากความรู้น้ี ครูชี้ให้เห็น วา่ นวิ เคลยี สอาจประกอบข้นึ จากอนุภาคแอลฟาและอิเลก็ ตรอน ข้นั ที่ 2 ข้ันสำรวจและคน้ หา (Exploration) 40 นาที 2.1 ครูกล่าวกับนักเรียนวา่ จากการศึกษาไอโซโทปของธาตุหลายชนดิ พบวา่ ไอโซโทปของนิวเคลียสท่ีมี อัตราส่วนระหวา่ งจำนวนนิวตรอนต่อจำนวนโปรตอนไมเ่ หมาะสม คือ นิวเคลียสท่ีมจี ำนวนนิวตรอนแตกต่างจาก จำนวนโปรตอนมากเกนิ ไปจะไม่เสถยี ร จึงเกิดการเปล่ยี นแปลงภายในนิวเคลียส แลว้ เกิดเปน็ นวิ เคลียสของธาตุ ใหมท่ ่เี สถียรกวา่ 2.2 จากข้อเสนอดังกล่าวที่ว่า นิวเคลียสอาจประกอบขึ้นจากอนุภาคแอลฟาและอิเล็กตรอน ครูและ นักเรียนอภปิ รายร่วมกันเพ่ือหาเหตผุ ลสนบั สนุนข้อเสนอดงั กล่าว ซง่ึ จะพบวา่ เป็นไปไม่ได้ เพราะอนุภาคแอลฟามี มวล 4u แต่นิวเคลียสของไฮโดรเจนมีมวลเพียง 1u และนิวเคลียสของธาตุหลายชนิดไม่ได้มีมวลเป็นจำนวนเทา่ ของ 4u 2.3 ครูและนักเรียนร่วมกนั อภิปรายถึงแนวทางทจ่ี ะเปน็ ไปได้ขององค์ประกอบนวิ เคลียสว่า อาจประกอบ ขน้ึ จากนวิ เคลียสของไฮโดรเจนกับอิเล็กตรอนกไ็ ด้ ซ่งึ แนวความคดิ เชน่ นี้ นักวิทยาศาสตรไ์ ดต้ ้ังเป็นสมมติฐานขึ้น เรียกวา่ “สมมตฐิ านโปรตอน-อเิ ล็กตรอน” ซง่ึ สมมตฐิ านนี้ขัดแย้งกับหลักการทางฟิสิกสน์ ิวเคลียร์หลายประการ เช่น หลกั การทางกลศาสตร์ควอนตมั เป็นตน้ 2.4 ครูนำอภิปรายเกี่ยวกับข้อเสนอเรื่องนิวตรอนของรัทเทอร์ฟอร์ด โดยชี้ให้เห็นว่า รัทเทอร์ฟอร์ดได้ เสนอแนวคิดเกี่ยวกับนิวตรอนไว้ แต่เนื่องจากไม่มีแหล่งกำเนิดนิวตรอนในธรรมชาติ และไม่มีเครื่องสำหรับ ตรวจสอบนิวตรอนในขณะนน้ั ข้อเสนอของเขาจึงยังไม่เปน็ ท่ยี อมรับ 2.5 ครูนำอภิปรายเกีย่ วกบั การทดลองทน่ี ำไปสู่การค้นพบนิวตรอน กค็ อื การท่ีนกั วทิ ยาศาสตร์สามารถทำ ให้นิวเคลยี สของธาตุบางชนิดเกิดการเปลยี่ นสภาพนิวเคลียส โดยการยิงอนุภาคบางชนดิ ไปชนนิวเคลียสน้ัน จาก ผลการทดลองดังกลา่ ว ทำให้มกี ารคน้ พบรงั สชี นดิ หนึง่ ทมี่ สี มบัติคล้ายรังสีแกมมา เม่ือได้มีการทดลองและวเิ คราะห์ รงั สีดังกลา่ ว จงึ ทราบว่ารังสนี ั้นไม่ใชร่ งั สแี กมมา 2.6 จากนั้นครใู หค้ วามรู้เกีย่ วกับโครงสรา้ งของนิวเคลียสตามสมมตฐิ านโปรตอน-นิวตรอน ความหมาย ของนวิ คลอี อน เลขมวลและเลขอะตอม จากนัน้ ใหน้ ักเรียนศกึ ษาเกี่ยวกับสญั ลักษณ์ของนวิ เคลยี สของธาตุแล้วครู ถามคำถาม ดงั น้ี 1) จงใช้ตารางธาตุในการเขียนสัญลักษณน์ ิวเคลยี สของธาตุต่อไปนี้ คาร์บอน ทองแดง อะลูมิเนียม ทองคำ และตะกวั่ (แนวตอบ : 126������ 6239������������ 1273������������ 19779������������ 28028������������)

153 2.7 ครูให้นักเรียนศึกษาการสลายตัวของธาตุกัมมันตรังสี ขน้ั ที่ 3 อธบิ ายและลงขอ้ สรุป (Explanation) 45 นาที 3.1 ครูอธิบายเกี่ยวกับการสลายตัวของธาตุกัมมันตรังสี โดยสรุปให้ทราบถึงการเปลี่ยนแปลงของ นิวเคลียสหลังการสลายตัวของธาตุกัมมันตรังสี ซึ่งจะมีการแผ่รังสีแต่ละชนิด ดังน้ี • การสลายให้อนภุ าคแอลฟา ซงึ่ อนุภาคแอลฟา คอื นิวเคลยี สของฮเี ลียม มสี ัญลกั ษณ์ 4 He ดังน้ัน 2 นิวเคลียสใหม่จึงมีเลขมวลลดลง 4 หน่วย และเลขอะตอมลดลง 2 หน่วย ถ้าให้ X และ Y เป็น นิวเคลียสเดิม และนวิ เคลยี สใหม่ ตามลำดบั เขยี นสมการได้ ดงั น้ี A X → YA−4 + 24He Z Z −2 • การสลายให้อนุภาคบตี า คอื การที่นวิ เคลยี สเดิมให้อิเล็กตรอนออกมา นวิ เคลยี สของธาตุใหม่จะมี เลขอะตอมเพ่มิ ข้ึน 1 หน่วย เขียนสมการได้ ดงั น้ี A X → Z +A1Y + 0 e Z −1 ครูอธบิ ายเพมิ่ เตมิ ว่า ในระยะตอ่ มา พบวา่ มีอนุภาคบีตา 2 ชนดิ คอื บตี าลบ หรอื อเิ ลก็ ตรอน กับ บีตาบวก หรือโพซติ รอน ซง่ึ เปน็ อนภุ าคที่มีมวลเท่ากับอเิ ล็กตรอน แตไ่ ม่มปี ระจุไฟฟา้ บวก ดังน้ัน กรณีบตี าบวก เขยี นสมการได้ ดงั น้ี A X → Z −A1Y + 0 e Z 1 • การสลายให้รงั สีแกมมา จะไม่เกิดนวิ เคลียสใหม่ เพราะรงั สีแกมมาเกิดจากการที่นิวเคลียสเปล่ียน ระดับพลังงาน และโดยมากนิวเคลียสที่สลายให้อนุภาคแอลฟาหรือบีตาจะให้รังสีแกมมาด้วย ดงั นนั้ การแผ่รังสีแกมมาจึงไม่ทำให้ท้งั เลขอะตอมและเลขมวลเปล่ยี นแปลงไปเลย 3.2 ครูชี้ให้นักเรียนเห็นว่าในการสลายตวั ของธาตุกัมมันตรังสีให้อนุภาคแอลฟาหรือบีตาที่ปรากฏใน ธรรมชาติ เชน่ การสลายของยเู รเนียม-238 หรือตะก่ัว-214 3.3 ครตู ง้ั คำถามใหน้ ักเรียนร่วมกันอภิปรายเรื่องการสลายตวั ของธาตกุ ัมมันตรังสี เช่น 1) อนภุ าคแอลฟาประกอบดว้ ยอนภุ าคใดบ้าง (แนวตอบ : โปรตอน 2 อนุภาค และนวิ ตรอน 2 อนุภาค) 2) ธาตกุ ัมมันตรงั สหี นง่ึ สลายตัวให้อนภุ าคบีตา ธาตุใหมท่ ่ไี ดจ้ ะมเี ลขอะตอมและเลขมวลเปล่ียนไปจาก ธาตุเดิมเทา่ ใด (แนวตอบ : เลขอะตอมเพม่ิ ข้ึน 1 หน่วย และเลขมวลไมเ่ ปลี่ยนแปลง) 3) นิวเคลียสของธาตุชนิดหนึ่งเมื่อสลายให้รังสีแกมมาแล้ว นิวเคลียสของธาตุนั้นจะเปลี่ยนแปลง อย่างไร (แนวตอบ : เป็นนวิ เคลียสของธาตุเดมิ แตร่ ะดบั พลังงานจะลดลง) 4) อนุภาคหรอื รังสีใดมีอำนาจทะลุผ่านสงู ทส่ี ุด (แนวตอบ : รงั สแี กมมา) 3.4 ครูเปดิ โอกาสใหน้ ักเรยี นสอบถามเนื้อหาเรื่อง การสลายตัวของธาตกุ ัมมนั ตรังสี วา่ มีส่วนไหนท่ียังไม่ เข้าใจ และให้ความรเู้ พ่มิ เติมในส่วนนนั้ ขนั้ ท่ี 4 ขน้ั ขยายความรู้ (Elaboration) 10 นาที

154 4.1 ครูและนักเรยี นร่วมกันสรุปความรู้เรือ่ ง การสลายตวั ของไอโซโทปกัมมนั ตรังสี จนนักเรยี นเกิดความ เขา้ ใจทตี่ รงกนั ขน้ั ท่ี 5 ขน้ั ประเมิน (Evaluation) 20 นาที 5.1 ครปู ระเมินผลโดยการให้นักเรียนทำแบบทดสอบ ในรปู แบบ Blooket ส่อื วัสดุ อุปกรณ์ และแหล่งการเรยี นรู้ ส่ือ/วัสด/ุ อุปกรณ์ แหลง่ การเรยี นรู้ 1. PowerPoint เร่อื ง การสลายตวั ของไอโซโทป 1. หนงั สือเรยี นรายวชิ าเพิม่ เตมิ วทิ ยาศาสตร์ เคมี เลม่ กมั มนั ตรงั สี 1 ช้นั มัธยมศกึ ษาปที ี่ 4 2. แบบทดสอบ ในรูปแบบ Blooket เร่ือง การ 2. ใบกจิ กรรมการเรียนรู้ สลายตัวของไอโซโทปกัมมันตรงั สี 3. อนิ เตอร์เน็ต การประเมนิ การเรียนรู้ การวัดผลประเมนิ ด้าน วิธีการวดั ผล เครื่องมือท่ีใช้วัดผล เกณฑก์ าร ประเมนิ ผล 1.ดา้ นความรู้ (K) - แบบทดสอบ ในรปู แบบ Blooket - แบบทดสอบ ในรปู แบบ -รอ้ ยละ 60 ผ่าน เรอ่ื ง การสลายตัวของไอโซโทป Blooket เรอื่ ง การ เกณฑ์ กมั มันตรงั สี สลายตัวของไอโซโทป กัมมนั ตรงั สี 2. ด้านทักษะ/ -แบบทดสอบ ในรูปแบบ Blooket -แบบทดสอบ ในรปู แบบ -ระดับคณุ ภาพ 3 กระบวนการ (P) เรื่อง การสลายตัวของไอโซโทป Blooket เรือ่ ง การ ผา่ นเกณฑ์ กมั มนั ตรงั สี สลายตัวของไอโซโทป กัมมนั ตรงั สี 3. ด้านคณุ ลกั ษณะอันพึง -การสงั เกตพฤตกิ รรมรายบุคคล -แบบสงั เกตพฤติกรรม -ระดบั คุณภาพ 3 ประสงค์ (A) รายบคุ คล ผา่ นเกณฑ์

แบบสังเกตพฤติกร คำชแี้ จง : ใหผ้ ู้สอนสังเกตพฤตกิ รรมของนักเรยี นในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรยี น แล้ว ลำดบั ท่ี ช่อื –สกลุ การแสดง การยอมรับฟงั คน ของนักเรยี น ความคิดเหน็ 1 2 เดก็ ชายณัฐพร ทับเจริญ 32132 3 เด็กชายธนากร รุ่งฟ้า 4 เด็กชายบญุ ฤทธิ์ เสนมา ✓✓ 5 เด็กหญิงตวงรัตน์ กิจขยัน 6 เด็กหญิงมณมี ัญชุ์ ดว้ งแสง ✓✓ 7 นายกษิดิเ์ ดช ชูภักด์ิ ✓✓ 8 นายชยั วัฒน์ คำแหง 9 นายทรงพล แคนศิลา ✓✓ 10 เดก็ ชายธีรภทั ร เอีย่ มบุญ ✓✓ 11 นายธันวา เนาวศ์ รี 12 นายสุทศั น์ เลไทสงค์ ✓✓ 13 เด็กชายอภชิ าติ ชนะมลู ✓✓ 14 นางสาวนันทิกานต์ ถาวร 15 นางสาวนรมน พลเยยี่ ม ✓✓ 16 นางสาวพชั รินทร์ สวุ รรณพรม ✓✓ 17 นางสาววราพร พิมไพ 18 นางสาววิราภา รวมรัตน์ ✓✓ นางสาววิสา ชนะมลู ✓✓ ✓✓ ✓✓ ✓✓ ✓✓ ✓✓ ✓✓ ✓✓

155 รรมการทำงานกลุม่ วขดี ✓ลงในชอ่ งที่ตรงกับระดบั คะแนน การทำงาน ความมีนำ้ ใจ การมี รวม นอนื่ ตามที่ได้รับ สว่ นร่วมในการ 15 คะแนน มอบหมาย ปรบั ปรงุ ผลงานกลุ่ม 10 1321321 11 321 10 ✓✓ 14 ✓ 15 ✓✓ ✓ 8 ✓✓ 8 ✓ 8 ✓✓ ✓ 9 ✓✓ ✓ 9 ✓ 7 ✓✓ ✓ 9 ✓ ✓✓ ✓ 15 ✓ 10 ✓ ✓✓ ✓ 12 ✓ ✓✓ ✓ 12 ✓ 9 ✓ ✓✓ ✓ 9 ✓ ✓✓ ✓ ✓✓✓ ✓ ✓ ✓✓ ✓✓ ✓ ✓ ✓✓ ✓✓ ✓✓ ✓✓

19 นางสาวอภิญญา ปัทมอมั รนิ ทร์ ✓ ✓ เกณฑก์ ารให้คะแนน ให้ 3 คะแนน ปฏบิ ตั หิ รือแสดงพฤติกรรมอย่างสม่ำเสมอ ให้ 2 คะแนน ปฏบิ ัตหิ รือแสดงพฤตกิ รรมบอ่ ยครงั้ ให้ 1 คะแนน ปฏิบัตหิ รือแสดงพฤติกรรมบางคร้ัง เกณฑก์ ารตดั สิน ช่วงคะแนน 14–15 11–13 8–10 ต่ำกว่า 8

✓✓✓ 156 ลงชื่อ ................................................... ผู้ประเมนิ 15 ............./.................../............... นคุณภาพ ระดับคุณภาพ ดีมาก ดี พอใช้ ปรบั ปรุง

แบบประเมนิ คณุ ลักษณะ คำชีแ้ จง : ใหผ้ ู้สอนสังเกตพฤตกิ รรมของนกั เรยี นในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรียน แล้ว ปฏบิ ัตติ ามข้อตกลง กฎเกณฑ์ ระเบยี บ ขอ้ บงั คับในชั้นเรยี น มี รูจ้ กั ใชเ้ วลาวา่ งใ ลำดับท่ี ชอ่ื –สกุล ความตรงต่อเวลาใน ประโยชน์ และ ของนักเรยี น การปฏิบัตกิ จิ กรรมต่าง ปฏิบตั ิได้ ๆ และรับผิดชอบใน การทำงาน 32132 1 เด็กชายณัฐพร ทับเจรญิ ✓ ✓ 2 เด็กชายธนากร รงุ่ ฟ้า ✓✓ 3 เดก็ ชายบญุ ฤทธิ์ เสนมา ✓ ✓ 4 เดก็ หญิงตวงรตั น์ กจิ ขยัน ✓ ✓ 5 เดก็ หญิงมณีมัญช์ุ ด้วงแสง ✓ ✓ 6 นายกษิด์ิเดช ชภู กั ด์ิ ✓✓ 7 นายชยั วฒั น์ คำแหง ✓✓ 8 นายทรงพล แคนศิลา ✓✓ 9 เดก็ ชายธรี ภทั ร เอยี่ มบุญ ✓ ✓ 10 นายธันวา เนาวศ์ รี ✓ 11 นายสทุ ศั น์ เลไทสงค์ ✓✓ 12 เด็กชายอภชิ าติ ชนะมลู ✓ ✓ 13 นางสาวนันทกิ านต์ ถาวร ✓ ✓ 14 นางสาวนรมน พลเยย่ี ม ✓ ✓ 15 นางสาวพชั รนิ ทร์ สวุ รรณพรม ✓ ✓ 16 นางสาววราพร พิมไพ ✓ ✓

157 ะอันพงึ ประสงค์ วขีด ✓ลงในชอ่ งที่ตรงกับระดับคะแนน ใหเ้ ป็น รู้จักจดั สรรเวลาให้ ตงั้ ใจเรียน มคี วามตั้งใจและ รวม ะนำไป เหมาะสม 15 พยายามในการทำงาน คะแนน ทไี่ ดร้ บั มอบหมาย 1321321321 ✓ ✓✓ 8 10 ✓✓✓ 10 15 ✓✓✓ 15 10 ✓✓✓ 10 10 ✓✓✓ 9 8 ✓✓✓ 8 8 ✓✓✓ 15 10 ✓✓✓ 15 15 ✓✓ ✓ ✓✓ ✓ ✓ ✓ ✓✓ ✓ ✓✓ ✓✓✓ ✓✓ ✓ ✓✓✓ ✓✓✓

17 นางสาววิราภา รวมรตั น์ ✓ ✓ 18 นางสาววิสา ชนะมูล ✓ ✓ ✓ 19 นางสาวอภญิ ญา ปัทมอมั รนิ ทร์ ✓ เกณฑ์การให้คะแนน ให้ 3 คะแนน เกณฑ์การต พฤติกรรมทป่ี ฏิบตั ชิ ดั เจนและสมำ่ เสมอ ให้ 2 คะแนน ช่วงคะแนน พฤติกรรมที่ปฏิบัตชิ ัดเจนและบ่อยครั้ง ให้ 1 คะแนน พฤตกิ รรมทปี่ ฏิบัตบิ างคร้ัง 14-15 11-13 8-10 ต่ำกวา่ 8

✓ ✓ ✓ 158 ✓ ✓ ✓ 10 ✓ ✓ ✓ 10 15 ลงชือ่ .................................................. ผ้ปู ระเมนิ ............/.................../............ ตดั สนิ คุณภาพ ระดบั คณุ ภาพ ดีมาก ดี พอใช้ ปรบั ปรุง

159 บนั ทกึ หลังการจัดการเรียนรู้ 1. ผลการจัดการเรียนการสอน • ด้านความรู้ - นักเรยี นมคี วามรู้ความเขา้ ใจในเนอื้ หา - นักเรยี นสามารถอธบิ ายการสลายตัวของไอโซโทปกัมมันตรงั สีได้ • ด้านสมรรถนะสำคญั ของผเู้ รียน - นกั เรยี นมีทกั ษะและกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ตามเกณฑท์ ่ีครกู ำหนด • ดา้ นคุณลักษณะอนั พึงประสงค์ - นกั เรียนทุกคนมีความใฝเ่ รยี นรู้ - มคี วามตรงตอ่ เวลาในการเข้าเรยี น - นักเรยี นมคี วามมุ่งม่ันตงั้ ใจในการเรยี นรู้ - มวี นิ ัยในการเรยี น • ด้านอ่นื ๆ (พฤติกรรมเด่น หรือพฤติกรรมทีม่ ีปญั หาของนักเรยี นเป็นรายบคุ คล (ถ้าม)ี ) - 2. ปญั หา / อปุ สรรค - มนี ักเรียนบางคนไมก่ ล้าแสดงออก 3. ข้นั เสนอแนะ / แนวทางแก้ไข - พดู คยุ เพื่อให้นกั เรียนรู้สกึ ผ่อนคลายและมคี วามกล้ามากย่งิ ขึน้ ลงช่ือ..................................................................ผู้เขยี นแผนการจดั การเรยี นรู้ (นางสาวณฐั ธิดา ชากรแก้ว) ......................./................/.................... ลงช่อื ..................................................................ผตู้ รวจ (นางสาววารุณี อิทธพิ ัทธอ์ เนก) ......................./................/....................

160 แผนการจัดการเรยี นรทู้ ี่ 15 กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ระดบั ช้นั มัธยมศกึ ษาปที ่ี 4 หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 2 เร่ือง อะตอมและสมบตั ิของธาตุ เรอื่ ง คา่ ครึ่งชีวติ ของไอโซโทปกัมมันตรังสี วิชา เคมี 1 รหสั ว31223 เวลาเรียน 1 ชว่ั โมง จำนวน 1.0 หนว่ ยกิต ครผู ้สู อน นางสาวณฐั ธดิ า ชากรแก้ว สาระการเรยี นรู้ เข้าใจโครงสร้างอะตอม การจัดเรียงธาตุในตารางธาตุ สมบัติของธาตุ พนั ธะเคมแี ละสมบัติของสาร แกส๊ และสมบตั ขิ องแก๊ส ประเภทและสมบัตขิ องสารประกอบอนิ ทรีย์และพอลิเมอร์ รวมทั้งการนําความรูไ้ ปใช้ ประโยชน์ ผลการเรยี นรู้ อธิบายสมบัตแิ ละคำนวณครึ่งชวี ติ ของไอโซโทปกัมมันตรงั สี จดุ ประสงค์การเรียนรู้ ด้านความรู้ (Knowledge) 1. อธบิ ายความหมายของครง่ึ ชีวิตของไอโซโทปกัมมันตรังสีได้ ด้านทักษะ (Process) 2. สามารถคำนวณคร่ึงชีวิตของไอโซโทปกมั มนั ตรงั สีไดอ้ ย่างถูกตอ้ งตามขั้นตอน ดา้ นคณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ (Affective) 3. ตงั้ ใจในการเรียนรู้ และแสวงหาความรู้ สาระสำคญั หรือความคิดรวบยอด ครงึ่ ชีวิตของธาตุ (half life) หมายถึง ระยะเวลาทีส่ ารสลายตวั ไปจนเหลือเพียงครง่ึ หน่งึ ของปริมาณเดิมใช้ สญั ลักษณ์เปน็ t1/2 นิวเคลียสของธาตุกัมมันตรังสีทีไ่ มเ่ สถยี ร จะสลายตวั และแผ่รังสีไดเ้ องตลอดเวลาโดยไม่ ข้นึ อยูก่ ับอณุ หภมู ิหรือความดัน อัตราการสลายตัว เป็นสัดส่วนโดยตรงกบั จำนวนอนภุ าคในธาตกุ มั มันตรังสีนั้น ปริมาณการสลายตวั จะบอกเปน็ ครง่ึ ชวี ติ เป็นสมบตั เิ ฉพาะตวั ของแตล่ ะไอโซโทป สมรรถนะสำคญั ของผู้เรียน ความสามารถในการสื่อสาร ความสามารถในการคดิ ความสามารถในการแกป้ ัญหา ความสามารถในการใช้ทกั ษะชวี ติ ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี คุณลักษณะอนั พึงประสงค์ รักชาติ ศาสน์ กษัตรยิ ์ ซ่อื สตั ย์ มีวนิ ยั

161 ใฝ่เรยี นรู้ อย่อู ยา่ งพอเพยี ง มุ่งม่นั ในการทำงาน รักความเปน็ ไทย มจี ติ สาธารณะ กจิ กรรมการเรียนรู้ ผ่านวธิ ีการสอนแบบออนไลน์ โดยผ่านแอพพลิเคชั่น Google meet วิธีสอนโดยใชก้ ระบวนการสืบเสาะหาความรู้ (Inquiry Cycle หรือ Inquiry Method : 5E) ขัน้ ที่ 1 ข้นั กระตนุ้ ความสนใจ (Engagement) 5 นาที 1.1 ครูทบทวนเกยี่ วกบั การสลายตวั ของนวิ เคลยี สให้อนุภาคแอลฟา อนภุ าคบตี า และรังสแี กมมา ขนั้ ที่ 2 ขัน้ สำรวจและค้นหา (Exploration) 15 นาที 2.1 ครูอธิบายเก่ียวกบั การสลายของธาตุ โดยเน้นใหน้ ักเรียนทราบว่า ธาตุกัมมันตรงั สีสามารถเกิดการ สลายตวั ปลดปล่อยรงั สเี องได้ตลอดเวลา แตจ่ ะชา้ หรอื เร็วแตกต่างกนั ไปตามธาตแุ ต่ละชนิด นักเคมีจะบอกปริมาณ การสลายตัวของธาตกุ ัมมันตรังสดี ้วยค่าครง่ึ ชีวติ (half-life) ซึง่ เป็นปรมิ าณครึ่งหน่ึงของปรมิ าณเดมิ 2.2 ครูให้ความร้เู ก่ยี วกับครึ่งชีวติ (half-life) ของไอโซโทปกัมมันตรังสีบางชนิด เช่น Ra-226 C-14 Co- 60 2.3 ครใู หค้ วามรเู้ พิ่มเติมเก่ยี วกับคำว่า คร่งึ ชวี ิต คือ ช่วงเวลาทีน่ ิวเคลยี สของธาตุนนั้ สลายตัวจนจำนวน ลดลงเหลอื ครง่ึ หนง่ึ ของจำนวนเร่มิ ตน้ จากน้นั จงึ ชใ้ี หน้ ักเรยี นเห็นวา่ การทีธ่ าตุแต่ละชนิดมีค่าครง่ึ ชีวิตแตกต่างกัน แสดงวา่ อัตราการสลายของธาตุแต่ละชนิดย่อมแตกต่างกัน เพือ่ นำไปสกู่ ารศึกษาเก่ียวกับกฎการสลายของธาตุ กัมมนั ตรังสีตอ่ ไป ขน้ั ท่ี 3 อธบิ ายและลงขอ้ สรุป (Explanation) 15 นาที 3.1 ครูนำอภปิ รายเก่ียวกับการสลายของธาตุกมั มนั ตรังสี เพอ่ื นำไปสูส่ มการ ดงั นี้ ชว่ งเวลาคร่ึงชีวติ ของ ธาตกุ ัมมันตภาพรังสี คือ ชว่ งเวลาทธี่ าตนุ ัน้ ๆ สลายตวั จนเหลอื นวิ เคลียสเปน็ คร่ึงหนงึ่ ของจำนวนท่ีมีอยกู่ ่อน สลายตัว มีสตู รในการคำนวณ ดังน้ี Nเหลอื = Nเรม่ิ ตน้ 2n n=T t1 2 3.2 ครอู ธบิ ายเพิ่มเตมิ ว่า เม่ือเวลาเพม่ิ ขึ้นปรมิ าณนวิ เคลยี สของธาตุกมั มันตรงั สจี ะลดลงเร่ือย ๆ แต่ ปริมาณนิวเคลียสจะไม่ลดลงเป็นศูนย์ ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปเท่าใดกต็ าม การพูดถึงเวลาทธ่ี าตุกมั มนั ตรงั สีสลายตัว หมดจงึ ไมม่ คี วามหมาย ในทางทฤษฎีจงึ พดู ถึงเวลาทธี่ าตุสลายตัวเหลือเปน็ ครึ่งหนึ่งของปรมิ าณเดิม 3.3 ครูยกตวั อยา่ งจากหนังสือเรียนเคมี ม.4เพื่อเสริมความเขา้ ใจในการใช้สมการที่ใช้คำนวณท่ีเรียนมา 3.4 ครูตง้ั คำถามให้นักเรยี นรว่ มกนั อภปิ รายเร่อื งครง่ึ ชวี ติ ของธาตุกมั มนั ตรังสี เชน่ 1) ชว่ งเวลาครึง่ ชีวติ (half-life) ของธาตกุ มั มันตรงั สหี มายถงึ อะไร (แนวตอบ : ชว่ งเวลาท่ธี าตนุ ั้น ๆ สลายตวั ไปจนเหลือนวิ เคลยี สเปน็ คร่งึ หนึ่งของจำนวนท่ีมีอยูก่ ่อน สลายตัว)

162 2) ความสัมพันธร์ ะหวา่ งคร่ึงชวี ิตกับจำนวนคร้ังในการสลายตวั เป็นอย่างไร (แนวตอบ : n = ������ ) ������1 2 3.5 ครูเปดิ โอกาสใหน้ ักเรียนสอบถามเน้ือหาเร่ือง คร่ึงชวี ติ ของธาตุกมั มนั ตภาพรังสี ว่ามีสว่ นไหนทยี่ งั ไม่ เข้าใจ และใหค้ วามร้เู พม่ิ เติมในสว่ นนั้น ขน้ั ท่ี 4 ขนั้ ขยายความรู้ (Elaboration) 10 นาที 4.1 ครแู ละนักเรียนรว่ มกันสรปุ ความร้เู ร่ือง คร่ึงชีวิตของไอโซโทปกัมมันตรังสี จนนักเรียนเกิดความเข้าใจ ทีต่ รงกัน ขน้ั ท่ี 5 ขน้ั ประเมิน (Evaluation) 15 นาที 5.1 ครปู ระเมนิ ผลโดยใหน้ ักเรยี นทำแบบทดสอบในรูปแบบ vonder go เร่ือง ครึ่งชวี ติ ของไอโซโทป กัมมันตรังสี สอื่ วัสดุ อุปกรณ์ และแหล่งการเรยี นรู้ สอ่ื /วัสดุ/อปุ กรณ์ แหลง่ การเรียนรู้ 1. PowerPoint เรื่อง ครง่ึ ชีวติ ของไอโซโทป 1. หนังสือเรียนรายวชิ าเพ่ิมเติมวทิ ยาศาสตร์ เคมี เล่ม กมั มนั ตรงั สี 1 ชน้ั มัธยมศกึ ษาปีท่ี 4 2. แบบทดสอบในรูปแบบ vonder go เรือ่ ง ครงึ่ ชวี ิต 2. ใบกิจกรรมการเรยี นรู้ ของไอโซโทปกัมมนั ตรังสี 3. อนิ เตอร์เนต็ การประเมนิ การเรยี นรู้ การวดั ผลประเมนิ ด้าน วธิ ีการวัดผล เครื่องมือทใี่ ช้วัดผล เกณฑก์ าร ประเมนิ ผล 1.ด้านความรู้ (K) - แบบทดสอบในรปู แบบ vonder - แบบทดสอบในรปู แบบ -รอ้ ยละ 60 ผ่าน go เรือ่ ง ครง่ึ ชีวติ ของไอโซโทป vonder go เรอ่ื ง คร่งึ เกณฑ์ กมั มันตรงั สี ชีวติ ของไอโซโทป กมั มันตรังสี 2. ด้านทกั ษะ/ -แบบทดสอบในรูปแบบ vonder แบบทดสอบในรปู แบบ -รอ้ ยละ 60 ผ่าน กระบวนการ (P) go เรือ่ ง คร่งึ ชีวิตของไอโซโทป vonder go เรอ่ื ง ครง่ึ เกณฑ์ กมั มันตรังสี ชีวิตของไอโซโทป กัมมนั ตรงั สี 3. ดา้ นคณุ ลักษณะอนั พึง -การสงั เกตพฤติกรรมรายบคุ คล -แบบสงั เกตพฤติกรรม -ระดบั คณุ ภาพ 3 ประสงค์ (A) รายบคุ คล ผา่ นเกณฑ์

แบบสังเกตพฤติกร คำชแี้ จง : ใหผ้ ู้สอนสังเกตพฤตกิ รรมของนักเรยี นในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรยี น แล้ว ลำดบั ท่ี ช่อื –สกลุ การแสดง การยอมรับฟงั คน ของนักเรยี น ความคิดเหน็ 1 2 เดก็ ชายณัฐพร ทับเจริญ 32132 3 เด็กชายธนากร รุ่งฟ้า 4 เด็กชายบญุ ฤทธิ์ เสนมา ✓✓ 5 เด็กหญิงตวงรัตน์ กิจขยัน 6 เด็กหญิงมณมี ัญชุ์ ดว้ งแสง ✓✓ 7 นายกษิดิเ์ ดช ชูภักด์ิ ✓✓ 8 นายชยั วัฒน์ คำแหง 9 นายทรงพล แคนศิลา ✓✓ 10 เดก็ ชายธีรภทั ร เอีย่ มบุญ ✓✓ 11 นายธันวา เนาวศ์ รี 12 นายสุทศั น์ เลไทสงค์ ✓✓ 13 เด็กชายอภชิ าติ ชนะมลู ✓✓ 14 นางสาวนันทิกานต์ ถาวร 15 นางสาวนรมน พลเยยี่ ม ✓✓ 16 นางสาวพชั รินทร์ สวุ รรณพรม ✓✓ 17 นางสาววราพร พิมไพ 18 นางสาววิราภา รวมรัตน์ ✓✓ นางสาววิสา ชนะมลู ✓✓ ✓✓ ✓✓ ✓✓ ✓✓ ✓✓ ✓✓ ✓✓

163 รรมการทำงานกลุม่ วขดี ✓ลงในชอ่ งที่ตรงกับระดบั คะแนน การทำงาน ความมีนำ้ ใจ การมี รวม นอนื่ ตามที่ได้รับ สว่ นร่วมในการ 15 คะแนน มอบหมาย ปรบั ปรงุ ผลงานกลุ่ม 10 1321321 11 321 10 ✓✓ 14 ✓ 15 ✓✓ ✓ 8 ✓✓ 8 ✓ 8 ✓✓ ✓ 9 ✓✓ ✓ 9 ✓ 7 ✓✓ ✓ 9 ✓ ✓✓ ✓ 15 ✓ 10 ✓ ✓✓ ✓ 12 ✓ ✓✓ ✓ 12 ✓ 9 ✓ ✓✓ ✓ 9 ✓ ✓✓ ✓ ✓✓✓ ✓ ✓ ✓✓ ✓✓ ✓ ✓ ✓✓ ✓✓ ✓✓ ✓✓

19 นางสาวอภิญญา ปัทมอมั รนิ ทร์ ✓ ✓ เกณฑก์ ารให้คะแนน ให้ 3 คะแนน ปฏบิ ตั หิ รือแสดงพฤติกรรมอย่างสม่ำเสมอ ให้ 2 คะแนน ปฏบิ ัตหิ รือแสดงพฤตกิ รรมบอ่ ยครงั้ ให้ 1 คะแนน ปฏิบัตหิ รือแสดงพฤติกรรมบางคร้ัง เกณฑก์ ารตดั สิน ช่วงคะแนน 14–15 11–13 8–10 ต่ำกว่า 8

✓✓✓ 164 ลงชื่อ ................................................... ผู้ประเมนิ 15 ............./.................../............... นคุณภาพ ระดับคุณภาพ ดีมาก ดี พอใช้ ปรบั ปรุง

165 แบบประเมนิ คณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ คำชี้แจง : ใหผ้ ้สู อนสังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรยี น แล้วขดี ✓ลงในช่องที่ตรงกับ ระดบั คะแนน ปฏิบัตติ าม ขอ้ ตกลง กฎเกณฑ์ ลำดบั ชื่อ–สกลุ ระเบยี บ รจู้ กั ใช้เวลาวา่ ง รูจ้ ักจัดสรร ตงั้ ใจเรียน มคี วามตั้งใจ รวม ท่ี ของนกั เรยี น ใหเ้ ป็น เวลาให้ ข้อบงั คับในช้ัน และพยายามใน 15 เรียน มคี วาม ประโยชน์ และ เหมาะสม การทำงานท่ี คะแนน ตรงตอ่ เวลาใน นำไปปฏิบตั ไิ ด้ ได้รับ การปฏิบัติ มอบหมาย กจิ กรรมต่าง ๆ และรบั ผิดชอบ ในการทำงาน 321321321321321 1 เดก็ ชายณัฐพร ทบั ✓ ✓ ✓ ✓ ✓8 เจริญ 2 เด็กชายธนากร รุ่ง ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ 10 ฟ้า 3 เด็กชายบุญฤทธิ์ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ 10 เสนมา 4 เด็กหญิงตวงรัตน์ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ 15 กจิ ขยัน 5 เด็กหญิงมณมี ัญชุ์ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ 15 ด้วงแสง 6 นายกษิดเิ์ ดช ชูภักด์ิ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ 10 7 นายชัยวัฒน์ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ 10 คำแหง 8 นายทรงพล แคน ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ 10 ศลิ า 9 เด็กชายธีรภทั ร ✓ ✓ ✓ ✓ ✓9 เอีย่ มบญุ 10 นายธันวา เนาว์ศรี ✓ ✓✓ ✓ ✓ 8 11 นายสทุ ัศน์ เลไท ✓ ✓ ✓ ✓✓ 8 สงค์ 12 เด็กชายอภิชาติ ✓ ✓ ✓ ✓✓ 8 ชนะมลู 13 นางสาวนันทกิ านต์ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ 15 ถาวร

14 นางสาวนรมน ✓ ✓ ✓✓ ✓ 166 พลเยี่ยม ✓ ✓✓ ✓ ✓ ✓✓ ✓ 10 15 นางสาวพัชรินทร์ ✓ 15 สุวรรณพรม ✓ ✓✓ ✓ 15 ✓ ✓✓ ✓ 10 16 นางสาววราพร ✓ ✓ ✓✓ ✓ 10 พมิ ไพ 15 17 นางสาววิราภา ✓ รวมรัตน์ 18 นางสาววสิ า ชนะ ✓ มูล 19 นางสาวอภิญญา ✓ ปทั มอัมรินทร์ ลงชือ่ .................................................. ผู้ประเมนิ ............/.................../............ เกณฑก์ ารให้คะแนน เกณฑ์การตัดสนิ คุณภาพ พฤตกิ รรมท่ีปฏิบัติชัดเจนและสมำ่ เสมอ พฤตกิ รรมที่ปฏิบตั ิชัดเจนและบ่อยครงั้ ให้ 3 คะแนน ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ พฤติกรรมท่ีปฏิบัติบางคร้ัง ให้ 2 คะแนน ให้ 1 คะแนน 14-15 ดมี าก 11-13 ดี 8-10 พอใช้ ตำ่ กว่า 8 ปรับปรุง

167 บนั ทึกหลงั การจัดการเรยี นรู้ 1. ผลการจดั การเรยี นการสอน • ดา้ นความรู้ - นักเรียนมคี วามรู้ความเข้าใจในเนือ้ หา - นกั เรยี นสามารถอธบิ ายความหมายของครงึ่ ชวี ติ ของไอโซโทปกัมมันตรงั สีได้ -นักเรยี นสามารถสามารถคำนวณครง่ึ ชีวิตของไอโซโทปกัมมันตรังสีได้อย่างถูกต้องตามขัน้ ตอน • ดา้ นสมรรถนะสำคญั ของผ้เู รยี น - นักเรยี นมีทักษะและกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ตามเกณฑ์ทค่ี รูกำหนด • ดา้ นคุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ - นักเรยี นทุกคนมคี วามใฝเ่ รยี นรู้ - มคี วามตรงตอ่ เวลาในการเข้าเรียน - นักเรียนมีความมุ่งมัน่ ตง้ั ใจในการเรยี นรู้ - มีวินยั ในการเรียน • ด้านอน่ื ๆ (พฤติกรรมเดน่ หรือพฤตกิ รรมท่มี ีปญั หาของนักเรยี นเป็นรายบุคคล (ถ้ามี)) - 2. ปญั หา / อุปสรรค - มีนักเรียนบางคนไมก่ ลา้ แสดงออก 3. ขั้นเสนอแนะ / แนวทางแก้ไข - พดู คยุ เพือ่ ให้นักเรยี นรู้สกึ ผ่อนคลายและมคี วามกล้ามากย่ิงขึ้น ลงชือ่ ..................................................................ผูเ้ ขยี นแผนการจดั การเรยี นรู้ (นางสาวณฐั ธิดา ชากรแกว้ ) ......................./................/.................... ลงช่ือ..................................................................ผู้ตรวจ (นางสาววารณุ ี อิทธพิ ัทธ์อเนก) ......................./................/....................

168 แผนการจัดการเรยี นรทู้ ี่ 16 กลุม่ สาระการเรยี นรูว้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ระดบั ชัน้ มัธยมศึกษาปที ่ี 4 หนว่ ยการเรียนรูท้ ี่ 2 เรอื่ ง อะตอมและสมบตั ิของธาตุ เรอื่ ง ปฏกิ ิรยิ านวิ เคลยี ร์ วิชา เคมี 1 รหสั ว31223 เวลาเรียน 2 ชวั่ โมง จำนวน 1.0 หนว่ ยกติ ครูผูส้ อน นางสาวณฐั ธดิ า ชากรแกว้ สาระการเรยี นรู้ เขา้ ใจโครงสรา้ งอะตอม การจัดเรียงธาตุในตารางธาตุ สมบตั ิของธาตุ พันธะเคมีและสมบัตขิ องสาร แก๊ส และสมบัติของแก๊ส ประเภทและสมบตั ิของสารประกอบอนิ ทรยี แ์ ละพอลเิ มอร์ รวมท้ังการนําความรไู้ ปใช้ ประโยชน์ ผลการเรยี นรู้ สืบคน้ ขอ้ มลู สมมตฐิ าน การทดลอง หรือ ผลการทดลองทเ่ี ปน็ ประจักษพ์ ยานในการเสนอ แบบจาํ ลอง อะตอมของนกั วิทยาศาสตร์ และอธบิ ายววิ ัฒนาการของแบบจาํ ลองอะตอม จดุ ประสงค์การเรียนรู้ ดา้ นความรู้ (Knowledge) 1. อธิบายการเกิดปฏกิ ิรยานวิ เคลียร์ได้ ดา้ นทักษะ (Process) 2. ระบุความแตกต่างขอปฏิกิริยาฟิวชันและปฏกิ ิรยิ าฟิชชันได้ ดา้ นคุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ (Affective) 3. มคี วามม่งุ มนั่ ต้ังใจในการเรยี นรู้ และแสวงหาความรู้ สาระสำคัญหรอื ความคดิ รวบยอด ปฏิกริ ยิ านิวเคลียรค์ ือปฏกิ ิรยิ าที่นวิ เคลียสของอะตอมชนิดเดยี วกันเกดิ การชนกันเอง หรือนิวเคลียสของ อะตอมหน่ึงตัวเกดิ การชนกันกบั อนภุ าคยอ่ ยของอกี อะตอมหน่ึง เมอื่ เกดิ การชนกันแลว้ ทำให้เกดิ นวิ เคลียสใหม่หน่ึง ตวั หรอื มากกว่าหน่ึงตัว โดยนิวเคลยี สทเ่ี กดิ ใหมต่ อ้ งมจี ำนวนโปรตอน นวิ ตรอนทเ่ี ปลย่ี นแปลงไปจากนิวเคลยี สเดมิ สมรรถนะสำคญั ของผู้เรียน ความสามารถในการสื่อสาร ความสามารถในการคดิ ความสามารถในการแกป้ ัญหา ความสามารถในการใช้ทกั ษะชีวติ ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ รักชาติ ศาสน์ กษตั ริย์ ซื่อสัตย์ มีวินัย

169 ใฝเ่ รยี นรู้ อย่อู ยา่ งพอเพยี ง มุ่งมัน่ ในการทำงาน รักความเปน็ ไทย มจี ติ สาธารณะ กจิ กรรมการเรียนรู้ ผา่ นวิธีการสอนแบบออนไลน์ โดยผา่ นแอพพลเิ คชน่ั Google meet วธิ ีสอนโดยใช้กระบวนการสืบเสาะหาความรู้ (Inquiry Cycle หรือ Inquiry Method : 5E) ขน้ั ท่ี 1 ขนั้ กระตุ้นความสนใจ (Engagement) 10 นาที 1.1 ครูทบทวนความรเู้ ดิมเก่ยี วกับเร่อื ง คร่ึงชวี ติ ของธาตุกมั มนั ตรงั สี 1.2 ครนู ำเข้าส่บู ทเรยี นและกจิ กรรมปฏิกริ ยิ านิวเคลยี ร์ โดยครูถามคำถาม ดังนี้ 1) ปฏิกริ ยิ านวิ เคลยี ร์หมายความวา่ อย่างไร (ทิ้งช่วงใหน้ ักเรียนคดิ ) (แนวตอบ : ปฏิกิรยิ าทีม่ ีการเปล่ียนแปลงในนิวเคลยี สของอะตอมของธาตุ แลว้ ไดน้ ิวเคลียสของธาตุ ใหม่เกิดขึ้น ซึ่งจะแผ่รังสีและให้พลังงานมหาศาล ปฏิกิริยานิวเคลียร์จะเกิดกับ นิวเคลียสของอะตอมของธาตุ โดยนิวเคลยี สที่เป็นเป้าจะถูกยงิ ด้วยอนุภาคท่ีใชเ้ ปน็ กระสุน ซึ่งอาจจะเป็นนิวตรอน แอลฟา หรือไอออนหนัก ผลิตภัณฑ์ที่ได้จะเป็น นิวเคลยี สของธาตใุ หม่ และจะให้พลังงานออกมาอย่างมหาศาล) 2) ปฏิกิรยิ านวิ เคลียร์มีกชี่ นิด (ทง้ิ ช่วงให้นกั เรยี นคดิ ) (แนวตอบ : ปฏิกิริยานิวเคลียร์มี 2 ชนิด คือ ปฏิกิริยาฟิชชัน (Fission reaction) และปฏิกิริยา ฟิวชนั (Fusion reaction)) ขนั้ ที่ 2 ขั้นสำรวจและคน้ หา (Exploration) 50 นาที 2.1 ครูให้นักเรียนแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ 4-5 คน แล้วแจกบัตรข้อความปฏกิ ิริยานวิ เคลียร์ เพื่อให้นักเรียน ร่วมกันอภิปรายลักษณะของปฏิกิรยิ านิวเคลยี ร์แตล่ ะปฏิกริ ยิ า เปรยี บเทยี บ จำแนก และบันทกึ ผล ตัวอย่างของปฏิกริ ยิ านวิ เคลียร์ เช่น 235 U + 01n → 15461Ba + 92 Kr + 301n +E 92 36 21H + 21H → 3 He + 01n + 3.3 MeV 2 2.2 ครใู ช้คำถามต่อไปนี้ เพอื่ เป็นการกระตนุ้ ใหน้ ักเรยี นไดค้ ดิ • นกั เรยี นใช้เกณฑ์ใดในการจำแนกปฏกิ ิรยิ านิวเคลียร์ • ลกั ษณะของปฏิกริ ิยานวิ เคลียรเ์ ปน็ อย่างไร รวมตัวหรอื สลายตวั • หลกั การเกดิ ปฏิกริ ยิ านิวเคลยี รจ์ ะมีการเปลย่ี นแปลงใดท่เี หมอื นกัน 2.3 ครใู ห้นกั เรียนแตก่ ลุ่มศกึ ษาเกีย่ วกบั ปฏิกริ ิยานิวเคลยี ร์จากหนงั สือเรียนเคมี ม.4 เลม่ 1 หรอื จากแหล่ง เรยี นรู้ตา่ ง ๆ หรือจาก PPT 2.4 นักเรียนนำข้อมลู ทไี่ ดจ้ ากการสืบค้นมาวิเคราะห์และเรียบเรียงเนื้อหาเพือ่ ใชส้ ำหรับการนำเสนอโดย แลกเปลีย่ นความคิดเหน็ กันภายในกลมุ่ จากน้ันอธบิ ายซกั ถามกันภายในกลมุ่ จนเขา้ ใจตรงกัน

170 2.5 นักเรยี นนำข้อมูลเกี่ยวกับปฏิกิรยิ านิวเคลียร์มาเปรียบเทียบกันในรูปของแผนภาพ และนำข้อมูลมา วิเคราะหแ์ ลว้ นำเสนอในรูปของแผนผังความคดิ โดยเขียนลงในgoogle form เพ่ือใหค้ นอนื่ เขา้ ถึงได้ 2.6 ครสู มุ่ ตัวแทนนกั เรียนจากกลุม่ ต่าง ๆ ประมาณ 1-2 กล่มุ จากน้ันร่วมกนั อภปิ รายสรุปจนเป็นที่เข้าใจ ตรงกนั โดยนกั เรียนสามารถจำแนกปฏกิ ริ ยิ าฟิชชนั กบั ปฏกิ ิรยิ าฟวิ ชนั ขั้นท่ี 3 อธบิ ายและลงขอ้ สรุป (Explanation) 30 นาที 3.1 ครนู ำนกั เรียนอภิปรายและสรุปเก่ียวกับการเกิดปฏิกิริยาของธาตกุ ัมมันตรังสี โดยครูอธบิ ายแผนภาพ การเกดิ ปฏิกิรยิ านิวเคลยี รค์ วบคู่กับสมการนวิ เคลียร์ เพอื่ ให้นกั เรยี นเห็นภาพรว่ มกันของปฏิกิริยาและแหล่งท่ีมา ของสมการนวิ เคลยี ร์ 3.2 ครูให้ความรู้เพ่ิมเติมเกี่ยวกับปฏิกิริยาฟิชชันกับปฏิกิริยาฟิวชัน โดยใช้ส่ือ PPT และสือ่ animation ประกอบ แลว้ อธบิ าย ดังนี้ ปฏกิ ริ ยิ าฟชิ ชนั เป็นปฏกิ ิริยาแยกตัวของนวิ เคลียส โดยมนี ิวตรอนเปน็ ตัววิ่งเข้าชนนิวเคลียสหนัก ๆ (A > 230) ทำให้เกดิ นิวเคลียสใหม่ 2 นิวเคลยี ส ท่ีมเี ลขมวลปานกลางใกลเ้ คียงกัน และมนี ิวตรอนที่มี ความเรว็ สงู เกิดขึ้นประมาณ 2-3 ตวั พรอ้ มทงั้ มีการคายพลังงานออกมาด้วย ตัวอย่างเช่น ปฏกิ ิริยาการ ยิงนิวตรอนที่มีความเร็วพอประมาณเข้าชนนิวเคลียสของ 235 U ทำให้เกิดนิวเคลียสขนาดกลาง 2 92 นวิ เคลยี ส พรอ้ มท้งั นวิ ตรอนประมาณ 2-3 ตวั และพลังงานออกมาจำนวนหนงึ่ ดงั สมการ 235 U + 01n → 15461Ba + 92 Kr + 301n +E 92 36 จากสมการการเกิดปฏิกิริยาฟิชชัน จะเห็นว่า ในการเกิดปฏิกิริยาทุกครั้งจะมีการปล่อยนิวตรอน ออกมาทุกครั้ง โดยเฉลย่ี ประมาณครั้งละ 2-3 นิวตรอน ซงึ่ นิวตรอนเหล่านี้จะวิ่งไปชนนิวเคลียสของ ยเู รเนียมที่อยู่ใกลเ้ คียง ทำให้เกดิ ปฏกิ ิริยาอย่างเดียวกันตอ่ เนอื่ งกัน เรียกวา่ ปฏกิ ริ ิยาลูกโซ่ ปฏกิ ิริยาฟวิ ชนั เป็นปฏกิ ริ ิยาหลอมรวมตัวของนวิ เคลียส และมพี ลังงานคายออกมาด้วย นิวเคลียสท่ี ใชห้ ลอมจะตอ้ งเป็นนิวเคลียสขนาดเล็ก ๆ (A < 20) หลอมรวมกลายเป็นนิวเคลียสเบาท่ใี หญ่กว่าเดิม โดยตอ้ งทำให้มีอุณหภมู มิ ากเปน็ ล้าน ๆ องศาเซลเซยี ส 3.3 ครูถามนักเรียนว่า เมือ่ เปรียบเทยี บพลังงานระหว่างปฏกิ ิริยาฟิชชันและฟิวชัน นักเรียนมีข้อสังเกต อยา่ งไร (ทง้ิ ชว่ งใหน้ ักเรยี นคิด) 3.4 ครูช้ใี ห้นกั เรยี นเหน็ ว่า ในแต่ละปฏิกริ ิยาของปฏกิ ิรยิ าฟิชชันและฟิวชัน เมือ่ เปรียบเทียบพลังงานกัน แลว้ ในปฏกิ ริ ยิ าฟชิ ชัน 1 ปฏกิ ริ ิยา ขนาดมวลทพ่ี อกันของสารทีท่ ำให้เกดิ ปฏิกิริยาฟิวชนั (เช่น 11H ) กับสารที่ทำ ใหเ้ กดิ ปฏิกิรยิ าฟิชชัน (เช่น U-235) จำนวนปฏกิ ิริยาฟิวชนั จะมากกว่าฟิชชันมาก เป็นผลทำให้พลังงานรวมท่ีได้ จากปฏิกริ ิยาฟิวชนั มากกว่าปฏกิ ริ ิยาฟชิ ชนั 3.5 ครใู หน้ ักเรียนศึกษาความรเู้ พ่ิมเตมิ เกย่ี วกับการใช้ประโยชน์จากปฏกิ ิรยิ าฟิชชนั ในการสร้างโรงไฟฟ้า พลงั งานนวิ เคลียร์ และปฏิกิรยิ าฟวิ ชนั ในดวงอาทิตย์ และแนวทางการนำปฏกิ ริ ิยาฟวิ ชันมาใชป้ ระโยชน์ในทางสนั ติ 3.6 ครใู หน้ ักเรียนเปรียบเทยี บความแตกต่างของปฏิกิริยานวิ เคลียร์ทั้ง 2 ชนิด พร้อมท้ังข้อดีแล้วข้อเสีย ของปฏกิ ริ ิยาดังกล่าว ขนั้ ที่ 4 ข้นั ขยายความรู้ (Elaboration) 10 นาที

171 4.1 ครูและนักเรียนรว่ มกันสรุปความรเู้ ร่ือง ธาตกุ มั มันตรงั สี จนนกั เรียนเกดิ ความเขา้ ใจที่ตรงกนั ข้นั ท่ี 5 ข้ันประเมิน (Evaluation) 20 นาที 5.1 ครปู ระเมนิ ผลโดยการสงั เกตการตอบคำถาม การรว่ มกนั ทำผลงาน และการนำเสนอผลงาน 5.2 ครสู ังเกตความสนใจ ความกระตือรือรน้ ในการเรียนรขู้ องนกั เรียน 5.3 ครูประเมินผลโดยใช้แบบทดสอบ Quizizz เร่ือง ปฏกิ ิรยิ านิวเคลยี ร์ สือ่ วัสดุ อุปกรณ์ และแหลง่ การเรียนรู้ แหล่งการเรียนรู้ ส่ือ/วสั ด/ุ อปุ กรณ์ 1. หนังสือเรยี นรายวชิ าเพิ่มเตมิ วทิ ยาศาสตร์ เคมี เล่ม 1 ชนั้ มธั ยมศึกษาปีที่ 4 1. PowerPoint เร่ือง ปฏิกิรยิ านิวเคลยี ร์ 2. ใบกิจกรรมการเรียนรู้ 2. แบบทดสอบ Quizizz เรื่อง ปฏิกิริยานิวเคลียร์ 3. อินเตอร์เน็ต การประเมินการเรยี นรู้ วิธีการวัดผล เครอ่ื งมือทใ่ี ชว้ ัดผล เกณฑ์การ การวดั ผลประเมินดา้ น ประเมนิ ผล -ร้อยละ 60 ผ่าน 1.ดา้ นความรู้ (K) - การตอบคำถามในชั้นเรียน - การตอบคำถามในชัน้ เกณฑ์ -แบบทดสอบ Quizizz เรือ่ ง เรียน 2. ดา้ นทักษะ/ ปฏกิ ิรยิ านวิ เคลียร์ -แบบทดสอบ Quizizz -รอ้ ยละ 60 ผ่าน กระบวนการ (P) เร่อื ง ปฏิกิริยานิวเคลียร์ เกณฑ์ - แบบทดสอบ Quizizz เร่ือง ปฏิกริ ยิ านวิ เคลยี ร์ -แบบทดสอบ Quizizz เรือ่ ง ปฏิกิริยานวิ เคลยี ร์ 3. ดา้ นคุณลกั ษณะอันพึง -การสงั เกตพฤติกรรมรายบคุ คล -แบบสงั เกตพฤติกรรม -ระดบั คุณภาพ 3 ประสงค์ (A) รายบุคคล ผ่านเกณฑ์

แบบสังเกตพฤติกร คำชแี้ จง : ใหผ้ ู้สอนสังเกตพฤตกิ รรมของนักเรยี นในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรยี น แล้ว ลำดบั ท่ี ช่อื –สกลุ การแสดง การยอมรับฟงั คน ของนักเรยี น ความคิดเหน็ 1 2 เดก็ ชายณัฐพร ทับเจริญ 32132 3 เด็กชายธนากร รุ่งฟ้า 4 เด็กชายบญุ ฤทธิ์ เสนมา ✓✓ 5 เด็กหญิงตวงรัตน์ กิจขยัน 6 เด็กหญิงมณมี ัญชุ์ ดว้ งแสง ✓✓ 7 นายกษิดิเ์ ดช ชูภักด์ิ ✓✓ 8 นายชยั วัฒน์ คำแหง 9 นายทรงพล แคนศิลา ✓✓ 10 เดก็ ชายธีรภทั ร เอีย่ มบุญ ✓✓ 11 นายธันวา เนาวศ์ รี 12 นายสุทศั น์ เลไทสงค์ ✓✓ 13 เด็กชายอภชิ าติ ชนะมลู ✓✓ 14 นางสาวนันทิกานต์ ถาวร 15 นางสาวนรมน พลเยยี่ ม ✓✓ 16 นางสาวพชั รินทร์ สวุ รรณพรม ✓✓ 17 นางสาววราพร พิมไพ 18 นางสาววิราภา รวมรัตน์ ✓✓ นางสาววิสา ชนะมลู ✓✓ ✓✓ ✓✓ ✓✓ ✓✓ ✓✓ ✓✓ ✓✓

172 รรมการทำงานกลุม่ วขดี ✓ลงในชอ่ งที่ตรงกับระดบั คะแนน การทำงาน ความมีนำ้ ใจ การมี รวม นอนื่ ตามที่ได้รับ สว่ นร่วมในการ 15 คะแนน มอบหมาย ปรบั ปรงุ ผลงานกลุ่ม 10 1321321 11 321 10 ✓✓ 14 ✓ 15 ✓✓ ✓ 8 ✓✓ 8 ✓ 8 ✓✓ ✓ 9 ✓✓ ✓ 9 ✓ 7 ✓✓ ✓ 9 ✓ ✓✓ ✓ 15 ✓ 10 ✓ ✓✓ ✓ 12 ✓ ✓✓ ✓ 12 ✓ 9 ✓ ✓✓ ✓ 9 ✓ ✓✓ ✓ ✓✓✓ ✓ ✓ ✓✓ ✓✓ ✓ ✓ ✓✓ ✓✓ ✓✓ ✓✓

19 นางสาวอภิญญา ปัทมอมั รนิ ทร์ ✓ ✓ เกณฑก์ ารให้คะแนน ให้ 3 คะแนน ปฏบิ ตั หิ รือแสดงพฤติกรรมอย่างสม่ำเสมอ ให้ 2 คะแนน ปฏบิ ัตหิ รือแสดงพฤตกิ รรมบอ่ ยครงั้ ให้ 1 คะแนน ปฏิบัตหิ รือแสดงพฤติกรรมบางคร้ัง เกณฑก์ ารตดั สิน ช่วงคะแนน 14–15 11–13 8–10 ต่ำกว่า 8

✓✓✓ 173 ลงชื่อ ................................................... ผู้ประเมนิ 15 ............./.................../............... นคุณภาพ ระดับคุณภาพ ดีมาก ดี พอใช้ ปรบั ปรุง

174 แบบประเมนิ คณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ คำชี้แจง : ใหผ้ ้สู อนสังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรยี น แล้วขดี ✓ลงในช่องที่ตรงกับ ระดบั คะแนน ปฏิบัตติ าม ขอ้ ตกลง กฎเกณฑ์ ลำดบั ชื่อ–สกลุ ระเบยี บ รจู้ กั ใช้เวลาวา่ ง รูจ้ ักจัดสรร ตงั้ ใจเรียน มคี วามตั้งใจ รวม ท่ี ของนกั เรยี น ข้อบงั คับในช้ัน ใหเ้ ป็น และพยายามใน 15 เวลาให้ เรียน มคี วาม ประโยชน์ และ เหมาะสม การทำงานท่ี คะแนน ตรงตอ่ เวลาใน ได้รับ นำไปปฏิบตั ไิ ด้ การปฏิบัติ มอบหมาย กจิ กรรมต่าง ๆ และรบั ผิดชอบ ในการทำงาน 321321321321321 1 เดก็ ชายณัฐพร ทบั ✓ ✓ ✓ ✓ ✓8 เจริญ 2 เด็กชายธนากร รุ่ง ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ 10 ฟ้า 3 เด็กชายบุญฤทธิ์ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ 10 เสนมา 4 เด็กหญิงตวงรัตน์ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ 15 กจิ ขยัน 5 เด็กหญิงมณมี ัญชุ์ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ 15 ด้วงแสง 6 นายกษิดเิ์ ดช ชูภักด์ิ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ 10 7 นายชัยวัฒน์ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ 10 คำแหง 8 นายทรงพล แคน ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ 10 ศลิ า 9 เด็กชายธีรภทั ร ✓ ✓ ✓ ✓ ✓9 เอีย่ มบญุ 10 นายธันวา เนาว์ศรี ✓ ✓✓ ✓ ✓ 8 11 นายสทุ ัศน์ เลไท ✓ ✓ ✓ ✓✓ 8 สงค์ 12 เด็กชายอภิชาติ ✓ ✓ ✓ ✓✓ 8 ชนะมลู 13 นางสาวนันทกิ านต์ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ 15 ถาวร

175 14 นางสาวนรมน ✓ ✓ ✓✓ ✓ 10 พลเยย่ี ม ✓ ✓✓ ✓ 15 ✓ ✓✓ ✓ 15 15 นางสาวพัชรินทร์ ✓ 10 สุวรรณพรม ✓ ✓✓ ✓ 10 ✓ ✓✓ ✓ 15 16 นางสาววราพร ✓ ✓ ✓✓ ✓ พมิ ไพ 17 นางสาววิราภา ✓ รวมรัตน์ 18 นางสาววสิ า ชนะ ✓ มูล 19 นางสาวอภิญญา ✓ ปัทมอมั รินทร์ ลงชอ่ื .................................................. ผปู้ ระเมนิ ............/.................../............ เกณฑก์ ารให้คะแนน ให้ 3 คะแนน เกณฑก์ ารตดั สนิ คุณภาพ พฤตกิ รรมทป่ี ฏิบตั ิชัดเจนและสมำ่ เสมอ ให้ 2 คะแนน พฤตกิ รรมทีป่ ฏิบตั ิชัดเจนและบ่อยครั้ง ให้ 1 คะแนน ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ พฤติกรรมทปี่ ฏิบตั บิ างคร้ัง 14-15 ดีมาก 11-13 ดี 8-10 พอใช้ ตำ่ กวา่ 8 ปรับปรงุ

176 บนั ทึกหลงั การจดั การเรยี นรู้ 1. ผลการจัดการเรียนการสอน • ด้านความรู้ - นักเรียนมีความรู้ความเข้าใจในเนื้อหา - นักเรยี นสามารถอธบิ ายการเกิดปฏิกิรยานวิ เคลยี รไ์ ด้ -นกั เรียนสามารถสามารถระบคุ วามแตกต่างขอปฏกิ ิรยิ าฟวิ ชนั และปฏกิ ิริยาฟิชชันได้ • ด้านสมรรถนะสำคญั ของผู้เรยี น - นักเรยี นมีทักษะและกระบวนการทางวิทยาศาสตรต์ ามเกณฑ์ท่ีครูกำหนด • ด้านคณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ - นักเรียนทกุ คนมีความใฝ่เรียนรู้ - มคี วามตรงตอ่ เวลาในการเข้าเรียน - นักเรยี นมีความมงุ่ มน่ั ตง้ั ใจในการเรียนรู้ - มีวินยั ในการเรยี น • ด้านอนื่ ๆ (พฤตกิ รรมเดน่ หรือพฤตกิ รรมทมี่ ีปัญหาของนักเรียนเป็นรายบุคคล (ถ้าม)ี ) - 2. ปัญหา / อปุ สรรค - 3. ข้ันเสนอแนะ / แนวทางแก้ไข - ลงช่อื ..................................................................ผูเ้ ขยี นแผนการจดั การเรยี นรู้ (นางสาวณัฐธดิ า ชากรแกว้ ) ......................./................/.................... ลงช่อื ..................................................................ผู้ตรวจ (นางสาววารุณี อิทธิพัทธ์อเนก) ......................./................/....................

177 แผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี 17 กลุ่มสาระการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ระดับชนั้ มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 4 หน่วยการเรยี นรู้ที่ 2 เรอ่ื ง อะตอมและสมบตั ขิ องธาตุ เรือ่ ง ธาตแุ ละสารประกอบในสง่ิ มีชวี ิตและสิ่งแวดล้อม วิชา เคมี 1 รหัส ว31223 เวลาเรยี น 1 ช่ัวโมง จำนวน 1.0 หน่วยกิต ครูผสู้ อน นางสาวณฐั ธิดา ชากรแก้ว สาระการเรียนรู้ เขา้ ใจโครงสรา้ งอะตอม การจัดเรียงธาตุในตารางธาตุ สมบตั ิของธาตุ พันธะเคมแี ละสมบัตขิ องสาร แกส๊ และสมบตั ขิ องแกส๊ ประเภทและสมบตั ิของสารประกอบอนิ ทรยี ์และพอลิเมอร์ รวมทั้งการนาํ ความรไู้ ปใช้ ประโยชน์ ผลการเรียนรู้ สบื ค้นข้อมลู และยกตัวอย่างการนำธาตมุ าใช้ประโยชน์ รวมทั้งผลกระทบต่อสิ่งมชี วี ิตและสงิ่ แวดล้อม จดุ ประสงค์การเรียนรู้ ดา้ นความรู้ (Knowledge) 1. ยกตัวอย่างการใช้ประโยชน์ของธาตตุ ่าง ๆ และบอกผลกระทบต่อสง่ิ มชี วี ติ และสงิ่ แวดล้อมได้ ด้านทักษะ (Process) 2. เปรียบเทยี บและประเมินประโยชน์และผลกระทบต่อส่ิงมีชวี ติ และสงิ่ แวดล้อมของธาตุได้ ด้านคณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ (Affective) 3. มีความมุ่งม่ันตั้งใจในการเรยี นรู้ และแสวงหาความรู้ สาระสำคญั หรือความคิดรวบยอด สมบตั ิบางประการของธาตุแต่ละชนิด ทำให้สามารถนำธาตไุ ปใชป้ ระโยชนใ์ นด้านต่าง ๆ ได้หลากหลาย สมรรถนะสำคัญของผูเ้ รียน ความสามารถในการสื่อสาร ความสามารถในการคดิ ความสามารถในการแก้ปัญหา ความสามารถในการใช้ทกั ษะชีวติ ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี คณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ซือ่ สัตย์ มีวนิ ัย ใฝเ่ รยี นรู้ อยอู่ ยา่ งพอเพียง มุ่งมนั่ ในการทำงาน

178 รกั ความเป็นไทย มจี ติ สาธารณะ กจิ กรรมการเรยี นรู้ ผ่านวิธีการสอนแบบออนไลน์ โดยผ่านแอพพลิเคชน่ั Google meet วธิ สี อนโดยใชก้ ระบวนการสืบเสาะหาความรู้ (Inquiry Cycle หรือ Inquiry Method : 5E) ขั้นที่ 1 ขน้ั กระตุ้นความสนใจ (Engagement) 10 นาที 1.1 ครทู บทวนเก่ยี วกบั ธาตุและสารประกอบท่ีนักเรยี นไดศ้ กึ ษาผ่านมาแลว้ ดังนี้ • ธาตุ หมายถงึ สารบรสิ ุทธเิ์ นื้อเดียว มีองค์ประกอบเพียงอย่างเดียว มสี มบัติเฉพาะตวั และมีจุดเดือด และจดุ หลอมเหลวคงตวั เช่น Fe Zn Cu He Ne Ar Au เป็นต้น • ธาตุเป็นสารชนดิ เดียวทไ่ี ม่สามารถแยกหรือสลายออกไปเปน็ สารอนื่ ได้ แบ่งออกได้เปน็ 2 กลุม่ ตาม แหล่งที่มา ได้แก่ ธาตุที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ และธาตุที่นักวิทยาศาสตร์สังเคราะห์ขึ้นใน หอ้ งทดลอง • ธาตใุ ดท่ีมสี มบัตสิ ่วนใหญเ่ ป็นโลหะ จดั ใหเ้ ป็นธาตโุ ลหะ และธาตใุ ดมสี มบตั สิ ่วนใหญเ่ ปน็ อโลหะ จัด ใหเ้ ป็นธาตอุ โลหะ สำหรับธาตุทไี่ มส่ ามารถจัดเปน็ ธาตุโลหะหรือธาตุอโลหะได้ ให้จัดธาตุน้ันไว้เป็น ธาตกุ ่งึ โลหะ เชน่ โบรอน ซลิ ิคอน พลวง เป็นตน้ • ธาตุสามารถแบ่งออกได้ 3 ชนิด ไดแ้ ก่ โลหะ อโลหะ และกงึ่ โลหะ • สารประกอบเปน็ สารบริสุทธิ์ท่ีเกิดจากธาตุตั้งแต่ 2 ชนิดขนึ้ ไป รวมตัวกันทางเคมีในอัตราส่วนโดย มวลคงตวั มจี ุดเดือด จุดหลอมเหลวคงตวั และมสี มบตั ติ า่ งจากธาตุองค์ประกอบเดมิ และไม่สามารถ แยกกลบั เป็นสารเดิมไดโ้ ดยง่าย เช่น CO2 H2O KMnO4 HNO3 NaCl เปน็ ต้น 1.2 ครูถามคำถามว่า ธาตแุ ละสารประกอบในธรรมชาตสิ ามารถนำมาใช้ประโยชนไ์ ดเ้ ลยหรือไม่ อยา่ งไร (แนวตอบ : เราสามารถนำธาตุหรือสารประกอบมาใช้ได้ ขึ้นอยู่กับการนำไปใช้ประโยชน์ เช่น น้ำ (H2O) เป็นสารประกอบที่ประกอบด้วยออกซิเจน 1 อะตอมและไฮโดรเจน 2 อะตอม สามารถนำมาใช้อุปโภคบรโิ ภคไดเ้ ลย แต่ถ้าต้องการความสะอาดหรอื ความบริสุทธิ์เพม่ิ มากขนึ้ จะตอ้ งผา่ นกระบวนการกรองก่อนนำไปใช้ประโยชน์) 1.3 นักเรียนช่วยกันตอบคำถาม แสดงความคดิ เหน็ ตามความรู้และประสบการณ์ของนักเรียน โดยครูยัง ไม่เนน้ คำตอบที่ถูกต้อง 1.4 ครูนำเข้าสู่บทเรียน โดยครูสนทนากับนักเรียนและให้นักเรียนร่วมอภิปรายและซักถาม เพื่อสร้าง ความสนใจให้นักเรียน และปรับความรพู้ น้ื ฐานโดยทบทวนเนอ้ื หาเดมิ ที่เรียนมาแลว้ ข้ันที่ 2 ขัน้ สำรวจและคน้ หา (Exploration) 20 นาที 2.1 ครูใหน้ กั เรยี นแบ่งกล่มุ กลมุ่ ละ 2-3 คน 2.2 ครูใหน้ ักเรยี นแตล่ ะกลุ่มไปศึกษา การนำธาตุแตล่ ะชนดิ ทค่ี รูกำหนดให้ไปใชป้ ะโยชน์และผลกระทบ ตอ่ สิ่งมชี วี ติ ข้นั ท่ี 3 อธิบายและลงข้อสรปุ (Explanation) 10 นาที 3.1 ครถู ามคำถาม แล้วใหน้ ักเรยี นชว่ ยกันตอบคำถาม เพ่ือเป็นการอธบิ ายความรใู้ ห้กับนกั เรยี น เชน่ 1) ธาตุอะลูมเิ นียมเตรียมไดโ้ ดยวธิ ีใด (แนวตอบ : แยกดว้ ยกระแสไฟฟา้ )

179 2) ในส่งิ มีชวี ติ สามารถพบธาตุแคลเซยี มได้บรเิ วณใด (แนวตอบ : กระดูกและฟัน) 3) ทองแดงมีความสำคญั กบั ร่างกายอย่างไร (แนวตอบ : ชว่ ยในการสังเคราะห์ไขมันบางชนดิ ) 4) เหล็กกล้าเปน็ ส่วนผสมระหว่างเหล็กกบั ธาตใุ ด (แนวตอบ : ธาตคุ าร์บอน) 5) ทำไมจึงนิยมใชโ้ ครเมียมเคลอื บผวิ โลหะชนดิ อ่นื ๆ (แนวตอบ : ทนต่อการผกุ ร่อนและสารเคมี) 6) ไอโอดีนพบได้ในบรเิ วณใดบา้ ง (แนวตอบ : นำ้ ทะเล สาหรา่ ยทะเลบางชนดิ และพบในสนิ แรใ่ นรูปสารประกอบโซเดียมไอโอเดต (NaIO3)) 7) บรเิ วณใดพบไนโตรเจนมากที่สดุ (แนวตอบ : อากาศ) 8) ธาตชุ นดิ ใดพบอยู่ในรูปของแร่แมกนไี ทต์ (แนวตอบ : เหลก็ ) 3.2 ครอู ธิบายสรปุ เกย่ี วกับเน้ือหา หรือเปดิ โอกาสให้นกั เรยี นได้สอบถาม วา่ มีส่วนไหนทีย่ ังไม่เข้าใจ และ ให้ความร้เู พิ่มเตมิ ในส่วนนน้ั ขนั้ ท่ี 4 ขน้ั ขยายความรู้ (Elaboration) 10 นาที 4.1 นักเรยี นรว่ มกนั นำเสนอและสรปุ เนื้อหาทีไ่ ด้ศึกษาเปน็ ผังมโนทัศน์ โดยครูคอยให้คำแนะนาและรว่ ม อภปิ รายเพม่ิ เติม 4.2 ครูและนักเรียนร่วมกนั สรุปเกีย่ วกับประโยชน์ของธาตุและสารประกอบบางชนิดในสงิ่ มชี วี ติ และใน สิง่ แวดลอ้ มทมี่ คี วามสำคญั ต่อการดำรงชีวติ 4.3 ครูให้นักเรียนทำใบงานที่ 2.11 เร่ือง ธาตแุ ละสารประกอบในส่ิงมชี ีวติ และสงิ่ แวดลอ้ ม ขน้ั ท่ี 5 ขั้นประเมิน (Evaluation) 10 นาที 5.1 ครูประเมนิ ผลโดยการสังเกตการตอบคำถาม และการร่วมกนั ทำผลงาน 5.2 ครูตรวจสอบผลจากการทำใบงานท่ี 2.11 เรื่อง ธาตแุ ละสารประกอบในสิ่งมีชวี ิตและสิง่ แวดลอ้ ม สอื่ วสั ดุ อุปกรณ์ และแหลง่ การเรียนรู้ สอื่ /วสั ด/ุ อุปกรณ์ แหล่งการเรยี นรู้ 1. PowerPoint เรอื่ ง ธาตุและสารประกอบใน 1. หนงั สือเรียนรายวชิ าเพ่มิ เติมวิทยาศาสตร์ เคมี เลม่ สิ่งมชี ีวติ และสงิ่ แวดล้อม 1 ชนั้ มัธยมศกึ ษาปีที่ 4 2. ใบงานท่ี 2.11 เรือ่ ง ธาตแุ ละสารประกอบใน 2. ใบกจิ กรรมการเรียนรู้ สงิ่ มชี ีวิตและส่ิงแวดล้อม 3. อนิ เตอรเ์ น็ต

180 การประเมนิ การเรียนรู้ วิธีการวดั ผล เครอ่ื งมอื ท่ีใชว้ ัดผล เกณฑก์ าร การวัดผลประเมนิ ดา้ น ประเมนิ ผล - การตอบคำถามในช้ัน -รอ้ ยละ 60 ผ่าน 1.ด้านความรู้ (K) - การตอบคำถามในชน้ั เรียน เรยี น เกณฑ์ -ใบงานที่ 2.11 เรอ่ื ง ธาตุและ -ใบงานท่ี 2.11 เรอ่ื ง ธาตุ สารประกอบในสงิ่ มีชวี ติ และ และสารประกอบใน -ร้อยละ 60 ผ่าน ส่งิ แวดลอ้ ม สิ่งมีชวี ติ และสิง่ แวดล้อม เกณฑ์ -ใบงานท่ี 2.11 เรอื่ ง ธาตุ 2. ด้านทักษะ/ -ใบงานที่ 2.11 เรอื่ ง ธาตแุ ละ และสารประกอบใน กระบวนการ (P) สารประกอบในสิ่งมชี ีวติ และ ส่งิ มชี ีวติ และส่งิ แวดล้อม ส่ิงแวดลอ้ ม 3. ดา้ นคณุ ลักษณะอันพงึ -การสงั เกตพฤตกิ รรมรายบคุ คล -แบบสังเกตพฤติกรรม -ระดบั คุณภาพ 3 ประสงค์ (A) รายบุคคล ผา่ นเกณฑ์

181 ใบงานท่ี 2.11 เรือ่ ง ธาตุและสารประกอบในสิ่งมีชวี ติ และสง่ิ แวดลอ้ ม คำชแี้ จง : ใหน้ ักเรยี นยกตัวอย่างการนำธาตแุ ต่ละชนิดไปใช้ประโยชน์ ธาตุ สญั ลกั ษณ์ การนำไปใชป้ ระโยชน์ อะลมู เิ นยี ม ออกซิเจน ซิลิคอน ทองแดง แคลเซยี ม โครเมยี ม สงั กะสี ไนโตรเจน

182 ใบงานท่ี 2.11 เฉลย เรื่อง ธาตแุ ละสารประกอบในส่ิงมชี วี ติ และสง่ิ แวดลอ้ ม คำชแี้ จง : ใหน้ ักเรียนยกตวั อยา่ งการนำธาตแุ ต่ละชนดิ ไปใช้ประโยชน์ ธาตุ สัญลักษณ์ การนำไปใช้ประโยชน์ อะลมู ิเนยี ม ออกซิเจน ใชท้ ำแผน่ อะลมู เิ นยี มฟอยล์ เพือ่ ใช้ห่ออาหารเมอ่ื นำไปเผา หรือให้ความร้อน ซลิ ิคอน Al ใช้ทำสว่ นประกอบของเครื่องบินและสายไฟฟ้าแรงสงู ทองแดง แคลเซียม ใช้ในกระบวนการหายใจของส่ิงมีชีวติ และการสันดาปอาหารในร่างกาย เมือ่ โครเมียม O เราหายใจเข้าไปออกซิเจนจะเคล่อื นตวั ไปยงั ส่วนตา่ ง ๆ ของรา่ งกายโดยเกาะ สังกะสี ไปกับเลือด ซ่งึ จะชว่ ยในการเผาผลาญอาหาร ไนโตรเจน ใช้เป็นสารก่ึงตัวนำสำหรับทำวงจรไฟฟา้ ขนาดเลก็ เพื่อใช้ในอปุ กรณไ์ ฟฟา้ Si เช่น ไมโครคอมพวิ เตอร์ วิทยุ โทรทัศน์ เซลลส์ ุริยะ เปน็ ตน้ เนอื่ งจากเป็นโลหะอ่อน จงึ จดั เป็นรปู รา่ งตา่ ง ๆ ได้งา่ ย นำไฟฟา้ ไดด้ ี Cu ประโยชน์ส่วนใหญ่จงึ ใช้ในแงข่ องงานด้านไฟฟา้ เช่น ทำสายไฟฟ้า อุปกรณ์ และเคร่ืองมือไฟฟ้าต่าง ๆ หม้อน้ำรถยนต์ เปน็ ตน้ Ca CaCO3 จากหินปูนใชท้ ำปูนขาว ดนิ สอพอง ชอล์ก และเครื่องป้นั ดินเผา CaSO4 จากยบิ ซัมใชใ้ นอตุ สาหกรรมแผ่นวัสดุกนั ความร้อน เชน่ ยปิ ซมั บอรด์ ใช้ในอตุ สาหกรรมแก้วและซีเมนต์ ใช้เป็นส่วนประกอบของเหล็กกล้าสำหรับทำตนู้ ริ ภัย เครื่องยนตก์ ลไก เกราะ Cr กันกระสนุ เครอื่ งบินไอพ่น และจรวด เนอ่ื งจากความแข็งแรงทนทาน เหนยี ว ใช้ชบุ เหล็กกลา้ เพ่อื เป็นสังกะสมี งุ หลังคา ทำถังบรรจุน้ำ ซึ่งป้องกันการผุ Zn กร่อนได้ ใชใ้ นอุตสาหกรรมถ่านไฟฉาย โดยทำเปน็ กล่องด้านนอกของ ถา่ นไฟฉาย ซ่ึงจะทำหนา้ ท่ีเป็นขัว้ ลบของเซลล์ ยเู รีย นอกจากจะเปน็ ปยุ๋ แลว้ ยังใช้เปน็ แหล่งอาหารประเภทโปรตนี โดยการ N ผสมกบั อาหารของวัวและควาย ในทางการแพทยใ์ ช้เตรยี มตวั ยาบางชนิด เชน่ ยานอนหลบั ยาขับปัสสาวะ

แบบสังเกตพฤติกร คำชแี้ จง : ใหผ้ ู้สอนสังเกตพฤตกิ รรมของนักเรยี นในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรยี น แล้ว ลำดบั ท่ี ช่อื –สกลุ การแสดง การยอมรับฟงั คน ของนักเรยี น ความคิดเหน็ 1 2 เดก็ ชายณัฐพร ทับเจริญ 32132 3 เด็กชายธนากร รุ่งฟ้า 4 เด็กชายบญุ ฤทธิ์ เสนมา ✓✓ 5 เด็กหญิงตวงรัตน์ กิจขยัน 6 เด็กหญิงมณมี ัญชุ์ ดว้ งแสง ✓✓ 7 นายกษิดิเ์ ดช ชูภักด์ิ ✓✓ 8 นายชยั วัฒน์ คำแหง 9 นายทรงพล แคนศิลา ✓✓ 10 เดก็ ชายธีรภทั ร เอีย่ มบุญ ✓✓ 11 นายธันวา เนาวศ์ รี 12 นายสุทศั น์ เลไทสงค์ ✓✓ 13 เด็กชายอภชิ าติ ชนะมลู ✓✓ 14 นางสาวนันทิกานต์ ถาวร 15 นางสาวนรมน พลเยยี่ ม ✓✓ 16 นางสาวพชั รินทร์ สวุ รรณพรม ✓✓ 17 นางสาววราพร พิมไพ 18 นางสาววิราภา รวมรัตน์ ✓✓ นางสาววิสา ชนะมลู ✓✓ ✓✓ ✓✓ ✓✓ ✓✓ ✓✓ ✓✓ ✓✓

183 รรมการทำงานกลุม่ วขดี ✓ลงในชอ่ งที่ตรงกับระดบั คะแนน การทำงาน ความมีนำ้ ใจ การมี รวม นอนื่ ตามที่ได้รับ สว่ นร่วมในการ 15 คะแนน มอบหมาย ปรบั ปรงุ ผลงานกลุ่ม 10 1321321 11 321 10 ✓✓ 14 ✓ 15 ✓✓ ✓ 8 ✓✓ 8 ✓ 8 ✓✓ ✓ 9 ✓✓ ✓ 9 ✓ 7 ✓✓ ✓ 9 ✓ ✓✓ ✓ 15 ✓ 10 ✓ ✓✓ ✓ 12 ✓ ✓✓ ✓ 12 ✓ 9 ✓ ✓✓ ✓ 9 ✓ ✓✓ ✓ ✓✓✓ ✓ ✓ ✓✓ ✓✓ ✓ ✓ ✓✓ ✓✓ ✓✓ ✓✓

19 นางสาวอภิญญา ปัทมอมั รนิ ทร์ ✓ ✓ เกณฑก์ ารให้คะแนน ให้ 3 คะแนน ปฏบิ ตั หิ รือแสดงพฤติกรรมอย่างสม่ำเสมอ ให้ 2 คะแนน ปฏบิ ัตหิ รือแสดงพฤตกิ รรมบอ่ ยครงั้ ให้ 1 คะแนน ปฏิบัตหิ รือแสดงพฤติกรรมบางคร้ัง เกณฑก์ ารตดั สิน ช่วงคะแนน 14–15 11–13 8–10 ต่ำกว่า 8

✓✓✓ 184 ลงชื่อ ................................................... ผู้ประเมนิ 15 ............./.................../............... นคุณภาพ ระดับคุณภาพ ดีมาก ดี พอใช้ ปรบั ปรุง

185 แบบประเมนิ คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ คำช้ีแจง : ให้ผู้สอนสงั เกตพฤติกรรมของนกั เรียนในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรยี น แล้วขีด ✓ลงในช่องท่ีตรงกับ ระดับคะแนน ปฏบิ ัตติ าม ขอ้ ตกลง กฎเกณฑ์ ลำดบั ชอ่ื –สกุล ระเบียบ ร้จู กั ใช้เวลาว่าง รู้จักจัดสรร ตัง้ ใจเรยี น มีความตั้งใจ รวม ที่ ของนกั เรยี น ขอ้ บังคับในชั้น ใหเ้ ป็น และพยายามใน 15 เวลาให้ เรียน มคี วาม ประโยชน์ และ เหมาะสม การทำงานท่ี คะแนน ตรงตอ่ เวลาใน นำไปปฏิบัติได้ ได้รบั การปฏิบัติ มอบหมาย กิจกรรมต่าง ๆ และรับผิดชอบ ในการทำงาน 321321321321321 1 เด็กชายณัฐพร ทับ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓8 เจรญิ 2 เดก็ ชายธนากร รงุ่ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ 10 ฟ้า 3 เดก็ ชายบญุ ฤทธิ์ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ 10 เสนมา 4 เด็กหญิงตวงรัตน์ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ 15 กจิ ขยัน 5 เด็กหญิงมณีมญั ชุ์ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ 15 ดว้ งแสง 6 นายกษิดเิ์ ดช ชูภกั ดิ์ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ 10 7 นายชัยวฒั น์ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ 10 คำแหง 8 นายทรงพล แคน ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ 10 ศิลา 9 เดก็ ชายธรี ภทั ร ✓ ✓ ✓ ✓ ✓9 เอ่ยี มบญุ 10 นายธันวา เนาวศ์ รี ✓ ✓✓ ✓ ✓ 8 11 นายสุทัศน์ เลไท ✓ ✓ ✓ ✓✓ 8 สงค์ 12 เดก็ ชายอภชิ าติ ✓ ✓ ✓ ✓✓ 8 ชนะมูล