Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore แผนการเรียนการสอน รายวิชาเคมี ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2564

แผนการเรียนการสอน รายวิชาเคมี ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2564

Published by mind.30, 2021-09-22 15:56:42

Description: แผนการเรียนการสอน รายวิชาเคมี ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2564 นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 และ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5

Search

Read the Text Version

ใบงานที่ 3.6 272 เรอ่ื ง รปู ร่างของโมเลกลุ โคเวเลนต์ เฉลย คำชีแ้ จง : ให้แตล่ ะกลุ่มทำกจิ กรรม เร่ือง รูปรา่ งของโมเลกลุ โคเวเลนต์ พร้อมบันทกึ ผลลงในใบงาน จดุ ประสงค์ 1. บอกรูปทรงเรขาคณติ ที่เกิดจากการมัดลูกโปง่ เข้าด้วยกนั จำนวน 2 3 4 5 และ 6 ลกู ได้ 2. เปรยี บเทียบรูปร่างของลูกโป่งกับรูปร่างโมเลกลุ โคเวเลนต์ได้ วัสดอุ ปุ กรณ์ 1. ลูกโปง่ ขนาดเล็ก 6 ใบ 2. ยางวง 6 เสน้ วธิ ีทำ 1. ลูกโป่งให้พองจนตึงจำนวน 6 ใบ 2. ผกู ขว้ั ลูกโป่ง 2 ใบ ให้ติดกัน สงั เกตรปู ร่าง และบันทกึ ผล 3. ผกู ขวั้ ลูกโปง่ 3 ใบ ให้ตดิ กัน สงั เกตรูปร่าง และบนั ทึกผล 4. ผกู ขัว้ ลูกโปง่ 4 5 และ 6 ใบ ให้ติดกนั ตามลำดบั แลว้ จดั ใหเ้ ป็นรูปทรงเรขาคณิต สงั เกตรปู ร่าง และบันทกึ ผล

273 ตารางบนั ทึกผล รูปร่างลูกโปง่ ขนาดมุมระหว่างลูกโปง่ เปรยี บเทยี บกบั จำนวนลกู โปง่ 180 o ทรงเรขาคณิต 2 เสน้ ตรง 3 120 o สามเหลีย่ มแบนราบบนั ทกึ รูปร่างท่ีสังเกตไดจ้ ากกจิ กรรม 4 109.5 o ทรงสี่หนา้ 5 90 o, 120 o พีระมิดค่ฐู านสามเหลยี่ ม 6 90o ทรงแปดหนา้ คำถามทา้ ยกจิ กรรม 1. จำนวนลกู โป่งเปรียบไดก้ บั สิง่ ใด จำนวนอเิ ลก็ ตรอนคู่รว่ มพนั ธะ 2. เม่ือผกู ลูกโป่งจำนวนต่าง ๆ เขา้ ด้วยกนั เพราะเหตใุ ดรูปทรงของลกู โป่งที่เกิดขึ้นจงึ เปล่ียนแปลงไป เมื่อผูกลูกโป่งเขา้ ด้วยกัน ลูกโป่งจะเบยี ดกันเองจนช้ีไปในทิศทางต่าง ๆ และมีการผลักกัน เพื่อทำให้ลูกโป่ง แตล่ ะลูกอยู่หา่ งกันใหม้ ากทีส่ ุด ซ่งึ จะทำใหล้ กู โปง่ อย่อู ยา่ งเสถียร รปู ทรงของลูกโปง่ ท่เี กิดขึน้ จึงเปล่ยี นแปลงไป 3. แรงที่ลูกโป่งผลักกนั เทียบได้กับส่ิงใดในโมเลกุลโคเวเลนต์ กลุ่มหมอกอเิ ลก็ ตรอนคู่ร่วมพันธะรอบอะตอมกลาง ซ่งึ มีประจุเหมอื นกนั จะผลักกนั เอง ทำใหอ้ ิเลก็ ตรอนแตล่ ะ คูอ่ ยหู่ า่ งกนั มากที่สดุ เพ่ือให้โมเลกุลมีพลังงานต่ำทีส่ ุดและเกดิ เสถียรภาพสงู สุด จึงเกดิ แรงผลักของอเิ ล็กตรอน คู่รว่ มพันธะ และกลุ่มหมอกอเิ ล็กตรอนคู่โดดเดี่ยว

274 ใบงานท่ี 3.7 เรื่อง รปู ร่างและมุมระหว่างพันธะของโมเลกุลโคเวเลนต์ คำช้ีแจง : ให้นักเรียนเติมคำตอบลงในตารางให้ถูกต้อง โมเลกลุ โคเว จำนวนคอู่ ิเล็กตรอน ชอ่ื รปู ร่างของโมเลกุล มมุ ระหว่างพันธะ เลนต์ ในโมเลกลุ ที่สร้างพันธะ โดดเด่ียว …………………..…………………………. HCN ………………….. ………………….. …………………..…………………………. …………………………. COH2 ………………….. ………………….. …………………..…………………………. …………………………. …………………..…………………………. SnCl2 ………………….. ………………….. …………………..…………………………. …………………………. CHCl3 ………………….. ………………….. …………………..…………………………. …………………………. ………………….. ………………….. …………………..…………………………. …………………………. NCl3 ………………….. ………………….. …………………..…………………………. …………………………. SCl2 ………………….. ………………….. …………………..…………………………. …………………………. PF5 ………………….. ………………….. …………………..…………………………. …………………………. ………………….. ………………….. …………………..…………………………. …………………………. TeCl4 ………………….. ………………….. …………………..…………………………. …………………………. BrF3 ………………….. ………………….. …………………..…………………………. …………………………. XeF2 ………………….. ………………….. …………………………. ………………….. ………………….. …………………………. TeF6 BrF5 XeF4

275 ใบงานท่ี 3.7 เฉลย เรอื่ ง รปู ร่างและมุมระหว่างพันธะของโมเลกลุ โคเวเลนต์ คำชี้แจง : ให้นกั เรยี นเตมิ คำตอบลงในตารางใหถ้ กู ต้อง โมเลกลุ โคเวเลนต์ จำนวนคูอ่ เิ ลก็ ตรอน ชือ่ รูปร่างของโมเลกุล มุมระหว่างพนั ธะ ทส่ี ร้างพนั ธะ โดดเดย่ี ว ในโมเลกลุ HCN เส้นตรง COH2 20 สามเหลย่ี มแบนราบ 180๐ SnCl2 30 120๐ CHCl3 21 มมุ งอ NCl3 40 ทรงสี่หนา้ < 120๐ SCl2 พีระมิดฐานสามเหล่ยี ม 109.5๐ PF5 31 TeCl4 22 มุมงอ < 109.5๐ BrF3 50 พรี ะมิดคู่ฐานสามเหลี่ยม < 109.5๐ XeF2 ทรงสี่หนา้ บดิ เบี้ยว หรือม้ากระดก 90๐ และ 120๐ TeF6 41 BrF5 32 ตวั ที 90๐ และ <120๐ XeF4 23 เส้นตรง 90๐ และ 180๐ ทรงแปดหนา้ 60 พีระมดิ ฐานส่ีเหล่ียม 180๐ 51 สี่เหลยี่ มแบนราบ 90๐ 42 90๐ 90๐

แบบสังเกตพฤติกร คำชแี้ จง : ใหผ้ ู้สอนสังเกตพฤตกิ รรมของนักเรยี นในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรยี น แล้ว ลำดบั ท่ี ช่อื –สกลุ การแสดง การยอมรับฟงั คน ของนักเรยี น ความคิดเหน็ 1 2 เดก็ ชายณัฐพร ทับเจริญ 32132 3 เด็กชายธนากร รุ่งฟ้า 4 เด็กชายบญุ ฤทธิ์ เสนมา ✓✓ 5 เด็กหญิงตวงรัตน์ กิจขยัน 6 เด็กหญิงมณมี ัญชุ์ ดว้ งแสง ✓✓ 7 นายกษิดิเ์ ดช ชูภักด์ิ ✓✓ 8 นายชยั วัฒน์ คำแหง 9 นายทรงพล แคนศิลา ✓✓ 10 เดก็ ชายธีรภทั ร เอีย่ มบุญ ✓✓ 11 นายธันวา เนาวศ์ รี 12 นายสุทศั น์ เลไทสงค์ ✓✓ 13 เด็กชายอภชิ าติ ชนะมลู ✓✓ 14 นางสาวนันทิกานต์ ถาวร 15 นางสาวนรมน พลเยยี่ ม ✓✓ 16 นางสาวพชั รินทร์ สวุ รรณพรม ✓✓ 17 นางสาววราพร พิมไพ 18 นางสาววิราภา รวมรัตน์ ✓✓ นางสาววิสา ชนะมลู ✓✓ ✓✓ ✓✓ ✓✓ ✓✓ ✓✓ ✓✓ ✓✓

276 รรมการทำงานกลุม่ วขดี ✓ลงในชอ่ งที่ตรงกับระดบั คะแนน การทำงาน ความมีนำ้ ใจ การมี รวม นอนื่ ตามที่ได้รับ สว่ นร่วมในการ 15 คะแนน มอบหมาย ปรบั ปรงุ ผลงานกลุ่ม 10 1321321 11 321 10 ✓✓ 14 ✓ 15 ✓✓ ✓ 8 ✓✓ 8 ✓ 8 ✓✓ ✓ 9 ✓✓ ✓ 9 ✓ 7 ✓✓ ✓ 9 ✓ ✓✓ ✓ 15 ✓ 10 ✓ ✓✓ ✓ 12 ✓ ✓✓ ✓ 12 ✓ 9 ✓ ✓✓ ✓ 9 ✓ ✓✓ ✓ ✓✓✓ ✓ ✓ ✓✓ ✓✓ ✓ ✓ ✓✓ ✓✓ ✓✓ ✓✓

19 นางสาวอภิญญา ปัทมอมั รนิ ทร์ ✓ ✓ เกณฑก์ ารให้คะแนน ให้ 3 คะแนน ปฏบิ ตั หิ รือแสดงพฤติกรรมอย่างสม่ำเสมอ ให้ 2 คะแนน ปฏบิ ัตหิ รือแสดงพฤตกิ รรมบอ่ ยครงั้ ให้ 1 คะแนน ปฏิบัตหิ รือแสดงพฤติกรรมบางคร้ัง เกณฑก์ ารตดั สิน ช่วงคะแนน 14–15 11–13 8–10 ต่ำกว่า 8

✓✓✓ 277 ลงชื่อ ................................................... ผู้ประเมนิ 15 ............./.................../............... นคุณภาพ ระดับคุณภาพ ดีมาก ดี พอใช้ ปรบั ปรุง

278 แบบประเมนิ คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ คำช้ีแจง : ให้ผู้สอนสงั เกตพฤติกรรมของนกั เรียนในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรยี น แล้วขีด ✓ลงในช่องท่ีตรงกับ ระดับคะแนน ปฏบิ ัตติ าม ขอ้ ตกลง กฎเกณฑ์ ลำดบั ชอ่ื –สกุล ระเบียบ ร้จู กั ใช้เวลาว่าง รู้จักจัดสรร ตัง้ ใจเรยี น มีความตั้งใจ รวม ที่ ของนกั เรยี น ขอ้ บังคับในชั้น ใหเ้ ป็น และพยายามใน 15 เวลาให้ เรียน มคี วาม ประโยชน์ และ เหมาะสม การทำงานท่ี คะแนน ตรงตอ่ เวลาใน นำไปปฏิบัติได้ ได้รบั การปฏิบัติ มอบหมาย กิจกรรมต่าง ๆ และรับผิดชอบ ในการทำงาน 321321321321321 1 เด็กชายณัฐพร ทับ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓8 เจรญิ 2 เดก็ ชายธนากร รงุ่ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ 10 ฟ้า 3 เดก็ ชายบญุ ฤทธิ์ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ 10 เสนมา 4 เด็กหญิงตวงรัตน์ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ 15 กจิ ขยัน 5 เด็กหญิงมณีมญั ชุ์ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ 15 ดว้ งแสง 6 นายกษิดเิ์ ดช ชูภกั ดิ์ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ 10 7 นายชัยวฒั น์ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ 10 คำแหง 8 นายทรงพล แคน ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ 10 ศิลา 9 เดก็ ชายธรี ภทั ร ✓ ✓ ✓ ✓ ✓9 เอ่ยี มบญุ 10 นายธันวา เนาวศ์ รี ✓ ✓✓ ✓ ✓ 8 11 นายสุทัศน์ เลไท ✓ ✓ ✓ ✓✓ 8 สงค์ 12 เดก็ ชายอภชิ าติ ✓ ✓ ✓ ✓✓ 8 ชนะมูล

279 13 นางสาวนันทกิ านต์ ✓ ✓ ✓✓ ✓ 15 ถาวร ✓ ✓✓ ✓ 10 15 14 นางสาวนรมน ✓ ✓ ✓✓ ✓ 15 พลเย่ียม ✓ ✓✓ ✓ 10 10 15 นางสาวพัชรนิ ทร์ ✓ ✓ ✓✓ ✓ 15 สุวรรณพรม ✓ ✓✓ ✓ ✓ ✓✓ ✓ 16 นางสาววราพร ✓ พิมไพ 17 นางสาววริ าภา ✓ รวมรตั น์ 18 นางสาววิสา ชนะ ✓ มลู 19 นางสาวอภญิ ญา ✓ ปัทมอมั รินทร์ ลงชอื่ .................................................. ผูป้ ระเมนิ ............/.................../............ เกณฑ์การใหค้ ะแนน ให้ 3 คะแนน เกณฑก์ ารตัดสนิ คณุ ภาพ พฤติกรรมทปี่ ฏิบัติชดั เจนและสมำ่ เสมอ ให้ 2 คะแนน พฤตกิ รรมท่ีปฏิบัติชัดเจนและบอ่ ยครง้ั ให้ 1 คะแนน ชว่ งคะแนน ระดับคุณภาพ พฤติกรรมทีป่ ฏิบัตบิ างคร้ัง 14-15 ดีมาก 11-13 ดี 8-10 พอใช้ ตำ่ กว่า 8 ปรบั ปรุง

280 บนั ทึกหลังการจดั การเรยี นรู้ 1. ผลการจัดการเรยี นการสอน • ด้านความรู้ - นักเรยี นมคี วามรู้ความเขา้ ใจในเนอ้ื หา - นักเรยี นอธิบายเกีย่ วกบั รปู รา่ งและมมุ ระหว่างพันธะของโมเลกุลโคเวเลนตไ์ ด้ • ด้านสมรรถนะสำคญั ของผเู้ รียน - นักเรียนมีทกั ษะและกระบวนการทางวิทยาศาสตรต์ ามเกณฑ์ทคี่ รกู ำหนด • ด้านคณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ - นักเรียนทกุ คนมีความใฝ่เรียนรู้ - นักเรยี นสามารถแก้ปัญหาอาจจะช้าหรอื เรว็ ตา่ งกนั แต่สามารถแก้ปญั หาได้ - มวี นิ ยั ในการเรยี น • ดา้ นอน่ื ๆ (พฤติกรรมเด่น หรือพฤตกิ รรมที่มีปญั หาของนักเรยี นเป็นรายบคุ คล (ถ้าม)ี ) - 2. ปญั หา / อปุ สรรค - 3. ขน้ั เสนอแนะ / แนวทางแก้ไข - ลงช่ือ..................................................................ผู้เขยี นแผนการจดั การเรยี นรู้ (นางสาวณัฐธดิ า ชากรแกว้ ) ......................./................/.................... ลงชอ่ื ..................................................................ผตู้ รวจ (นางสาววารุณี อิทธพิ ัทธ์อเนก) ......................./................/....................

281 แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 26 กลุ่มสาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ระดับชั้นมัธยมศกึ ษาปที ่ี 4 หน่วยการเรียนรู้ท่ี 3 เร่ือง พนั ธะเคมี เรอ่ื ง สภาพข้วั ของโมเลกุลโคเวเลนต์ วิชา เคมี 1 รหสั ว31223 เวลาเรยี น 1 ช่ัวโมง จำนวน 1.0 หน่วยกติ ครูผูส้ อน นางสาวณัฐธิดา ชากรแกว้ สาระการเรยี นรู้ เข้าใจโครงสร้างอะตอม การจดั เรียงธาตุในตารางธาตุ สมบัติของธาตุ พนั ธะเคมีและสมบัตขิ องสาร แกส๊ และสมบตั ิของแกส๊ ประเภทและสมบตั ขิ องสารประกอบอนิ ทรีย์และพอลเิ มอร์ รวมท้ังการนาํ ความรูไ้ ปใช้ ประโยชน์ ผลการเรยี นรู้ คาดคะเนรูปรา่ งโมเลกุลโคเวเลนต์โดยใช้ทฤษฎีการผลกั ระหวา่ งคอู่ ิเลก็ ตรอนในวงเวเลนซ์ และระบุสภาพ ขวั้ ของโมเลกลุ โคเวเลนต์ จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ ดา้ นความรู้ (Knowledge) 1. อธิบายเก่ยี วกบั รูปร่างและมุมระหว่างพนั ธะของโมเลกุลโคเวเลนต์ได้ ดา้ นทกั ษะ (Process) 2. ทำนายรูปร่างของโมเลกุลโคเวเลนต์ เมื่อทราบจำนวนพันธะและจำนวนอิเล็กตรอนคูโ่ ดดเดี่ยวรอบ อะตอมกลางได้ ด้านคณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ (Affective) 3. มคี วามมงุ่ ม่นั ตง้ั ใจในการเรียนรู้ และแสวงหาความรู้ สาระสำคัญหรอื ความคิดรวบยอด สภาพขั้วของโมเลกุลโคเวเลนต์เป็นผลรวมปริมาณเวกเตอร์ ของสภาพขั้วข องแต่ละพันธะตามรูป ร่าง โมเลกุล สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รียน ความสามารถในการสื่อสาร ความสามารถในการคดิ ความสามารถในการแกป้ ัญหา ความสามารถในการใช้ทกั ษะชวี ติ ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี คณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ รักชาติ ศาสน์ กษตั รยิ ์ ซือ่ สัตย์ มีวินัย

282 ใฝเ่ รียนรู้ อย่อู ย่างพอเพียง มุ่งม่ันในการทำงาน รักความเปน็ ไทย มีจติ สาธารณะ กจิ กรรมการเรยี นรู้ ผ่านวิธีการสอนแบบออนไลน์ โดยผา่ นแอพพลิเคชน่ั Google meet วิธีสอนโดยใช้กระบวนการสบื เสาะหาความรู้ (Inquiry Cycle หรอื Inquiry Method : 5E) ขั้นที่ 1 ขนั้ กระตนุ้ ความสนใจ (Engagement) 5 นาที 1.1ครถู ามคำถามกระตุน้ ความสนใจของนกั เรียน ดังนี้ 1) นกั เรยี นคิดว่า สภาพขัว้ ท่พี บในโมเลกลุ โคเวเลนต์แบ่งออกเป็นกลี่ ักษณะ และอะไรบ้าง (แนวตอบ : พจิ ารณาคำตอบของนกั เรยี น โดยอย่ใู นดุลยพนิ จิ ของครูผสู้ อน โดยมีแนวตอบ คือ 2 ลักษณะ คอื สภาพขว้ั ของพันธะ และสภาพขั้วของโมเลกุล) 2) สภาพข้วั ของพันธะและสภาพข้ัวของโมเลกุลแตกต่างกันอยา่ งไร (แนวตอบ : พิจารณาคำตอบของนักเรียน โดยอยู่ในดุลยพินิจของครูผู้สอน โดยมีแนวตอบ คือ สภาพขั้วของพันธะเป็นผลต่างของค่า EN ของธาตุที่มาสร้างพนั ธะกัน ส่วนสภาพข้ัว ของโมเลกลุ เปน็ ผลรวมของสภาพขั้วของพนั ธะ) ขนั้ ท่ี 2 ขัน้ สำรวจและค้นหา (Exploration) 25 นาที 2.1 ครทู บทวนความรู้ พรอ้ มยกตวั อย่างการเกิดพันธะในโมเลกลุ โคเวเลนต์ต่าง ๆ ทม่ี ีการใช้อิเล็กตรอน ร่วมกันเป็นคู่ แล้วนำอภิปรายให้นักเรียนคิดต่อไปวา่ อิเล็กตรอนคู่ร่วมพันธะควรอยูบ่ ริเวณใดระหว่างอะตอม คูส่ ร้างพันธะ เพื่อนำเข้าสเู่ ร่อื ง สภาพขวั้ ของพนั ธะและสภาพขวั้ ของโมเลกุลโคเวเลนต์ 2.2 ครูต้งั คำถามให้นักเรียนร่วมกันอภิปรายเกี่ยวกับความมี่ขั้วในโมเลกลุ ของนำ้ โดยนกั เรียนควรอธิบาย ได้วา่ พันธะ O – H ทงั้ สองเปน็ พนั ธะมีข้วั ทม่ี ีอำนาจไฟฟ้าเทา่ กัน แต่อะตอมของ O มอี เิ ลก็ ตรอนคู่โดดเด่ียว 2 คู่ ทำใหโ้ มเลกลุ ของน้ำมรี ปู รา่ งเป็นมุมงอ ทำใหอ้ ำนาจไฟฟ้าของพันธะหักลา้ งกนั ไมห่ มด น้ำจึงเป็นโมเลกุลโคเวเลนต์ มขี ้วั โดยดา้ น O แสดงอำนาจไฟฟา้ ค่อนข้างลบ สว่ นด้าน H แสดงอำนาจไฟฟ้าค่อนขา้ งบวก 2.3 ครใู ห้นักเรียนศกึ ษาเรอ่ื ง สภาพข้ัวของโมเลกลุ โคเวเลนต์ จากหนงั สอื เรยี นเคมี ม.4 เลม่ 1 ขน้ั ที่ 3 อธบิ ายและลงขอ้ สรปุ (Explanation) 15 นาที 3.1 ครูต้ังคำถามใหน้ กั เรยี นร่วมกันอภปิ รายเรื่อง สภาพข้วั ของโมเลกลุ โคเวเลนต์ เช่น 1) เขยี นสภาพข้ัวของพันธะโดยใช้สัญลักษณ์ ������+ และ ������− แสดงสภาพขว้ั ค่อนข้างเปน็ บวก และสภาพ ขวั้ ค่อนขา้ งเป็นลบ ตามลำดับ ของพนั ธะต่อไปน้ี C–H O–S H–S N–O B – Cl H – Br C – Cl H – Si (แนวตอบ : ������− ������+ ������− ������+ ������+ ������− ������+ ������− C–H O–S H–S N–O ������+ ������− ������+ ������− ������+ ������− ������− ������+ B – Cl H – Br C – Cl H – Si)

283 2) สารโคเวเลนต์ท่กี ำหนดให้ต่อไปนี้ F2 HCl CH4 H2S CH3Cl SF6 CO2 และ NH3 เป็นโมเลกุล มีข้ัวหรือไมม่ ขี ้ัว (แนวตอบ : F2 CH4 SF6 และ CO2 เป็นโมเลกุลไมม่ ีข้ัว HCl H2S CH3Cl และ NH3 เป็นโมเลกลุ มขี ัว้ ) 3.2 ครตู ้ังคำถามใหน้ กั เรียนรว่ มกันอภิปรายเร่ือง มมุ ระหว่างพันธะในโมเลกุลโคเวเลนต์ เช่น 1) NH3 และ PH3 โมเลกุลโคเวเลนต์ใดมีมมุ พันธะใหญ่กว่ากัน (แนวตอบ : NH3 มีมุมพันธะใหญ่กว่า PH3 เนื่องจากทั้งสองโมเลกุลมีรูปร่างเป็นพีระมิดฐาน สามเหลยี่ มทมี่ ี 1 อิเล็กตรอนคูโ่ ดดเดี่ยวท้ังคู่ แต่ N มีคา่ อเิ ลก็ โตรเนกาตวิ ตี ีมากกว่า P ดงั น้ัน N จงึ ดงึ ดดู อเิ ลก็ ตรอนเข้าใกล้อะตอมกลางได้มากกว่า ดงั นน้ั มมุ พนั ธะของ NH3 > PH3) 2) โมเลกลุ CS2 H2S และ CO2 มีรปู ร่างโมเลกลุ เหมอื นกนั และมุมระหว่างพนั ธะเทา่ กนั หรือไม่ เพราะ เหตใุ ด (แนวตอบ : CS2 และ CO2 มีรปู รา่ งเปน็ เส้นตรง และมมี มุ ระหวา่ งพันธะเทา่ กนั คือ 180๐ เนือ่ งจากมี อะตอมกลางเป็นคาร์บอนเหมือนกนั มจี ำนวนอิเลก็ ตรอนคู่ร่วมพนั ธะเท่ากนั และไม่มีอิเล็กตรอนคู่ โดดเด่ยี วเหมอื นกนั ส่วน H2S มรี ปู รา่ งเป็นมุมงอ และมีมุมระหวา่ งพันธะ < 109.5๐ เนอื่ งจากผลของ อเิ ล็กตรอนคโู่ ดดเดี่ยว 2 คู่ ทอี่ ยู่รอบอะตอมกลาง) ขั้นที่ 4 ขนั้ ขยายความรู้ (Elaboration) 10 นาที 4.1 ครใู หน้ กั เรียนทำใบงานท่ี 3.8 เร่ือง สภาพข้ัวของพนั ธะและสภาพขวั้ ของโมเลกุลโคเวเลนต์ ขน้ั ที่ 5 ข้นั ประเมิน (Evaluation) 5 นาที 5.1 ครูประเมินผลโดยการสังเกตการตอบคำถาม และการร่วมกันทำผลงาน 5.2 ครตู รวจสอบผลจากการทำใบงานที่ 3.8 เร่ือง สภาพข้ัวของพนั ธะและสภาพขั้วของโมเลกุลโคเวเลนต์ ส่อื วัสดุ อุปกรณ์ และแหลง่ การเรียนรู้ ส่ือ/วสั ดุ/อุปกรณ์ แหล่งการเรยี นรู้ 1. PowerPoint เร่ือง สภาพขั้วของพนั ธะและสภาพ 1. หนงั สือเรียนรายวชิ าเพมิ่ เติมวิทยาศาสตร์ เคมี เลม่ ขวั้ ของโมเลกุลโคเวเลนต์ 1 ชั้นมัธยมศึกษาปที ่ี 4 2. ใบงานที่ 3.8 เร่อื ง สภาพข้ัวของพันธะและสภาพขัว้ 2. ใบกิจกรรมการเรียนรู้ ของโมเลกลุ โคเวเลนต์ 3. อนิ เตอรเ์ น็ต การประเมินการเรียนรู้ การวดั ผลประเมิน วธิ ีการวดั ผล เครือ่ งมอื ทีใ่ ช้วดั ผล เกณฑ์การ ดา้ น ประเมนิ ผล 1.ด้านความรู้ (K) - การตอบคำถามในชน้ั เรยี น - การตอบคำถามในชนั้ เรียน -ร้อยละ 60 ผ่าน - ตรวจใบงานที่ 3.8 เร่อื ง - ใบงานท่ี 3.8 เรื่อง สภาพขั้ว เกณฑ์ สภาพขว้ั ของพนั ธะและสภาพ ของพันธะและสภาพขั้วของ ขั้วของโมเลกุลโคเวเลนต์ โมเลกลุ โคเวเลนต์

284 2. ด้านทกั ษะ/ - การตอบคำถามในชน้ั เรยี น - การตอบคำถามในชนั้ เรียน -ร้อยละ 60 ผ่าน กระบวนการ (P) - ตรวจใบงานที่ 3.8 เร่ือง - ใบงานท่ี 3.8 เรื่อง สภาพข้ัว เกณฑ์ สภาพขัว้ ของพนั ธะและสภาพ ของพนั ธะและสภาพข้วั ของ 3. ด้านคุณลักษณะอนั ขัว้ ของโมเลกุลโคเวเลนต์ โมเลกลุ โคเวเลนต์ -ระดับคุณภาพ 3 พึงประสงค์ (A) ผ่านเกณฑ์ -การสังเกตพฤติกรรม -แบบสังเกตพฤตกิ รรมรายบุคคล รายบุคคล

285 ใบงานที่ 3.8 เรื่อง สภาพขัว้ ของพันธะและสภาพข้วั ของโมเลกลุ โคเวเลนต์ คำชแ้ี จง : จงระบุสภาพข้วั ของพนั ธะและสภาพขวั้ ของโมเลกลุ ของสารโคเวเลนตต์ อ่ ไปน้ี สารโคเวเลนต์ สภาพขว้ั ของพันธะ สภาพข้วั ของโมเลกลุ H2 ไมม่ ีข้วั มีข้ัว ไมม่ ีขว้ั มีขั้ว HCN BF3 …………………………… …………………………… …………………………… …………………………… Cl2 CCl4 …………………………… …………………………… …………………………… …………………………… SO2 CH3Cl …………………………… …………………………… …………………………… …………………………… C3H8 HCl …………………………… …………………………… …………………………… …………………………… P4 PCl3 …………………………… …………………………… …………………………… …………………………… CS2 BeH2 …………………………… …………………………… …………………………… …………………………… OF2 O3 …………………………… …………………………… …………………………… …………………………… CH2O H2SO4 …………………………… …………………………… …………………………… …………………………… PH5 CH2Cl2 …………………………… …………………………… …………………………… …………………………… N2 …………………………… …………………………… …………………………… …………………………… …………………………… …………………………… …………………………… …………………………… …………………………… …………………………… …………………………… …………………………… …………………………… …………………………… …………………………… …………………………… …………………………… …………………………… …………………………… …………………………… …………………………… …………………………… …………………………… …………………………… …………………………… …………………………… …………………………… …………………………… …………………………… …………………………… …………………………… …………………………… …………………………… …………………………… …………………………… …………………………… …………………………… …………………………… …………………………… …………………………… …………………………… …………………………… …………………………… ……………………………

ใบงานที่ 3.8 286 เรอื่ ง สภาพขั้วของพนั ธะและสภาพข้วั ของโมเลกลุ โคเวเลนต์ เฉลย คำชแ้ี จง : จงระบุสภาพขั้วของพนั ธะและสภาพข้วั ของโมเลกุลของสารโคเวเลนตต์ อ่ ไปนี้ สารโคเวเลนต์ สภาพข้ัวของพนั ธะ สภาพข้วั ของโมเลกุล ไม่มขี ้วั มขี ้ัว ไม่มขี วั้ มขี ว้ั H2 HCN ✓ ✓ BF3 ✓ ✓ Cl2 ✓ CCl4 ✓ SO2 ✓ CH3Cl ✓ ✓ C3H8 ✓ ✓ HCl P4 ✓ ✓ PCl3 ✓ CS2 ✓ BeH2 ✓ ✓ OF2 ✓ O3 ✓ CH2O ✓ ✓ H2SO4 PH5 ✓ ✓ CH2Cl2 ✓ N2 ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓

แบบสังเกตพฤติกร คำชแี้ จง : ใหผ้ ู้สอนสังเกตพฤตกิ รรมของนักเรยี นในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรยี น แล้ว ลำดบั ท่ี ช่อื –สกลุ การแสดง การยอมรับฟงั คน ของนักเรยี น ความคิดเหน็ 1 2 เดก็ ชายณัฐพร ทับเจริญ 32132 3 เด็กชายธนากร รุ่งฟ้า 4 เด็กชายบญุ ฤทธิ์ เสนมา ✓✓ 5 เด็กหญิงตวงรัตน์ กิจขยัน 6 เด็กหญิงมณมี ัญชุ์ ดว้ งแสง ✓✓ 7 นายกษิดิเ์ ดช ชูภักด์ิ ✓✓ 8 นายชยั วัฒน์ คำแหง 9 นายทรงพล แคนศิลา ✓✓ 10 เดก็ ชายธีรภทั ร เอีย่ มบุญ ✓✓ 11 นายธันวา เนาวศ์ รี 12 นายสุทศั น์ เลไทสงค์ ✓✓ 13 เด็กชายอภชิ าติ ชนะมลู ✓✓ 14 นางสาวนันทิกานต์ ถาวร 15 นางสาวนรมน พลเยยี่ ม ✓✓ 16 นางสาวพชั รินทร์ สวุ รรณพรม ✓✓ 17 นางสาววราพร พิมไพ 18 นางสาววิราภา รวมรัตน์ ✓✓ นางสาววิสา ชนะมลู ✓✓ ✓✓ ✓✓ ✓✓ ✓✓ ✓✓ ✓✓ ✓✓

287 รรมการทำงานกลุม่ วขดี ✓ลงในชอ่ งที่ตรงกับระดบั คะแนน การทำงาน ความมีนำ้ ใจ การมี รวม นอนื่ ตามที่ได้รับ สว่ นร่วมในการ 15 คะแนน มอบหมาย ปรบั ปรงุ ผลงานกลุ่ม 10 1321321 11 321 10 ✓✓ 14 ✓ 15 ✓✓ ✓ 8 ✓✓ 8 ✓ 8 ✓✓ ✓ 9 ✓✓ ✓ 9 ✓ 7 ✓✓ ✓ 9 ✓ ✓✓ ✓ 15 ✓ 10 ✓ ✓✓ ✓ 12 ✓ ✓✓ ✓ 12 ✓ 9 ✓ ✓✓ ✓ 9 ✓ ✓✓ ✓ ✓✓✓ ✓ ✓ ✓✓ ✓✓ ✓ ✓ ✓✓ ✓✓ ✓✓ ✓✓

19 นางสาวอภิญญา ปัทมอมั รนิ ทร์ ✓ ✓ เกณฑก์ ารให้คะแนน ให้ 3 คะแนน ปฏบิ ตั หิ รือแสดงพฤติกรรมอย่างสม่ำเสมอ ให้ 2 คะแนน ปฏบิ ัตหิ รือแสดงพฤตกิ รรมบอ่ ยครงั้ ให้ 1 คะแนน ปฏิบัตหิ รือแสดงพฤติกรรมบางคร้ัง เกณฑก์ ารตดั สิน ช่วงคะแนน 14–15 11–13 8–10 ต่ำกว่า 8

✓✓✓ 288 ลงชื่อ ................................................... ผู้ประเมนิ 15 ............./.................../............... นคุณภาพ ระดับคุณภาพ ดีมาก ดี พอใช้ ปรบั ปรุง

289 แบบประเมนิ คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ คำช้ีแจง : ให้ผู้สอนสงั เกตพฤติกรรมของนกั เรียนในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรยี น แล้วขีด ✓ลงในช่องท่ีตรงกับ ระดับคะแนน ปฏบิ ัตติ าม ขอ้ ตกลง กฎเกณฑ์ ลำดบั ชอ่ื –สกุล ระเบียบ ร้จู กั ใช้เวลาว่าง รู้จักจัดสรร ตัง้ ใจเรยี น มีความตั้งใจ รวม ที่ ของนกั เรยี น ขอ้ บังคับในชั้น ใหเ้ ป็น และพยายามใน 15 เวลาให้ เรียน มคี วาม ประโยชน์ และ เหมาะสม การทำงานท่ี คะแนน ตรงตอ่ เวลาใน นำไปปฏิบัติได้ ได้รบั การปฏิบัติ มอบหมาย กิจกรรมต่าง ๆ และรับผิดชอบ ในการทำงาน 321321321321321 1 เด็กชายณัฐพร ทับ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓8 เจรญิ 2 เดก็ ชายธนากร รงุ่ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ 10 ฟ้า 3 เดก็ ชายบญุ ฤทธิ์ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ 10 เสนมา 4 เด็กหญิงตวงรัตน์ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ 15 กจิ ขยัน 5 เด็กหญิงมณีมญั ชุ์ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ 15 ดว้ งแสง 6 นายกษิดเิ์ ดช ชูภกั ดิ์ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ 10 7 นายชัยวฒั น์ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ 10 คำแหง 8 นายทรงพล แคน ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ 10 ศิลา 9 เดก็ ชายธรี ภทั ร ✓ ✓ ✓ ✓ ✓9 เอ่ยี มบญุ 10 นายธันวา เนาวศ์ รี ✓ ✓✓ ✓ ✓ 8 11 นายสุทัศน์ เลไท ✓ ✓ ✓ ✓✓ 8 สงค์ 12 เดก็ ชายอภชิ าติ ✓ ✓ ✓ ✓✓ 8 ชนะมูล

290 13 นางสาวนันทกิ านต์ ✓ ✓ ✓✓ ✓ 15 ถาวร ✓ ✓✓ ✓ 10 15 14 นางสาวนรมน ✓ ✓ ✓✓ ✓ 15 พลเย่ียม ✓ ✓✓ ✓ 10 10 15 นางสาวพัชรนิ ทร์ ✓ ✓ ✓✓ ✓ 15 สุวรรณพรม ✓ ✓✓ ✓ ✓ ✓✓ ✓ 16 นางสาววราพร ✓ พิมไพ 17 นางสาววริ าภา ✓ รวมรตั น์ 18 นางสาววิสา ชนะ ✓ มลู 19 นางสาวอภญิ ญา ✓ ปัทมอมั รินทร์ ลงชอื่ .................................................. ผูป้ ระเมนิ ............/.................../............ เกณฑ์การใหค้ ะแนน ให้ 3 คะแนน เกณฑก์ ารตัดสนิ คณุ ภาพ พฤติกรรมทปี่ ฏิบัติชดั เจนและสมำ่ เสมอ ให้ 2 คะแนน พฤตกิ รรมท่ีปฏิบัติชัดเจนและบอ่ ยครง้ั ให้ 1 คะแนน ชว่ งคะแนน ระดับคุณภาพ พฤติกรรมทีป่ ฏิบัตบิ างคร้ัง 14-15 ดีมาก 11-13 ดี 8-10 พอใช้ ตำ่ กว่า 8 ปรบั ปรุง

291 บนั ทึกหลังการจดั การเรยี นรู้ 1. ผลการจัดการเรยี นการสอน • ด้านความรู้ - นักเรยี นมคี วามรู้ความเขา้ ใจในเนอ้ื หา - นักเรยี นอธิบายเกีย่ วกบั รปู รา่ งและมมุ ระหว่างพันธะของโมเลกุลโคเวเลนตไ์ ด้ • ด้านสมรรถนะสำคญั ของผเู้ รียน - นักเรียนมีทกั ษะและกระบวนการทางวิทยาศาสตรต์ ามเกณฑ์ทคี่ รกู ำหนด • ด้านคณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ - นักเรียนทกุ คนมีความใฝ่เรียนรู้ - นักเรยี นสามารถแก้ปัญหาอาจจะช้าหรอื เรว็ ตา่ งกนั แต่สามารถแก้ปญั หาได้ - มวี นิ ยั ในการเรยี น • ดา้ นอน่ื ๆ (พฤติกรรมเด่น หรือพฤตกิ รรมที่มีปญั หาของนักเรยี นเป็นรายบคุ คล (ถ้าม)ี ) - 2. ปญั หา / อปุ สรรค - 3. ขน้ั เสนอแนะ / แนวทางแก้ไข - ลงช่ือ..................................................................ผู้เขยี นแผนการจดั การเรยี นรู้ (นางสาวณัฐธดิ า ชากรแกว้ ) ......................./................/.................... ลงชอ่ื ..................................................................ผตู้ รวจ (นางสาววารุณี อิทธพิ ัทธ์อเนก) ......................./................/....................

292 แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ 27 กล่มุ สาระการเรยี นร้วู ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ระดับชั้นมธั ยมศกึ ษาปที ี่ 4 หน่วยการเรยี นรู้ที่ 3 เรอื่ ง พนั ธะเคมี เรือ่ ง แรงยดึ เหนยี่ วระหวา่ งโมเลกลุ โคเวเลนต์ วิชา เคมี 1 รหัส ว31223 เวลาเรยี น 1 ชว่ั โมง จำนวน 1.0 หน่วยกติ ครผู สู้ อน นางสาวณัฐธดิ า ชากรแกว้ สาระการเรียนรู้ เขา้ ใจโครงสร้างอะตอม การจัดเรยี งธาตุในตารางธาตุ สมบตั ขิ องธาตุ พนั ธะเคมแี ละสมบัตขิ องสาร แก๊ส และสมบัตขิ องแกส๊ ประเภทและสมบตั ขิ องสารประกอบอนิ ทรีย์และพอลิเมอร์ รวมทั้งการนําความรูไ้ ปใช้ ประโยชน์ ผลการเรยี นรู้ ระบชุ นิดของแรงยดึ เหนี่ยวระหว่างโมเลกุลโคเวเลนต์ และเปรยี บเทียบจดุ หลอมเหลว จดุ เดือด และการ ละลายนำ้ ของสารโคเวเลนต์ จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ ดา้ นความรู้ (Knowledge) 1. อธบิ ายความสัมพันธร์ ะหว่างแรงยึดเหนยี่ วระหว่างโมเลกุลกับจดุ เดือดและจดุ หลอมเหลวของสารได้ ดา้ นทักษะ (Process) 2. ใช้แรงยึดเหน่ียวระหวา่ งโมเลกุลทำนายจดุ เดือดและจดุ หลอมเหลวของสารโคเวเลนต์ได้ ด้านคุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ (Affective) 3. มีความมงุ่ มั่นตง้ั ใจในการเรียนรู้ และแสวงหาความรู้ สาระสำคัญหรอื ความคิดรวบยอด แรงยดึ เหนี่ยวระหว่างโมเลกุลมผี ลต่อจุดหลอมเหลว จดุ เดือด และการละลายน้ำของสาร โดยสาร โคเวเลนตจ์ ะ มีจดุ หลอมเหลวและจุดเดอื ดตำ่ และไมล่ ะลายนำ้ สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รยี น ความสามารถในการส่ือสาร ความสามารถในการคดิ ความสามารถในการแกป้ ัญหา ความสามารถในการใช้ทกั ษะชวี ิต ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ รักชาติ ศาสน์ กษตั ริย์ ซ่ือสัตย์ มีวินัย ใฝ่เรียนรู้

293 อยู่อยา่ งพอเพียง มงุ่ มั่นในการทำงาน รักความเป็นไทย มจี ติ สาธารณะ กจิ กรรมการเรยี นรู้ ผ่านวิธีการสอนแบบออนไลน์ โดยผ่านแอพพลเิ คชั่น Google meet วธิ สี อนโดยใชก้ ระบวนการสืบเสาะหาความรู้ (Inquiry Cycle หรอื Inquiry Method : 5E) ขน้ั ที่ 1 ข้ันกระตนุ้ ความสนใจ (Engagement) 5 นาที 1.1 ครถู ามคำถามกระตนุ้ ความสนใจของนกั เรยี น ดังนี้ 1) นกั เรยี นคดิ วา่ สารโคเวเลนต์แต่ละชนิดจะมีจดุ เดือดและจุดหลอมเหลวต่างกนั หรือไม่ (แนวตอบ : พจิ ารณาคำตอบของนักเรียน โดยอยใู่ นดุลยพนิ จิ ของครผู ู้สอน โดยมแี นวตอบ คอื สาร โคเวเลนตแ์ ต่ละชนดิ จะมีจดุ เดอื ดและจุดหลอมเหลวแตกตา่ งตา่ งกัน) 2) จดุ เดอื ดและจุดหลอมเหลวของสารโคเวเลนตข์ น้ึ อยู่กบั สิ่งใด (แนวตอบ : พิจารณาคำตอบของนักเรยี น โดยอยู่ในดลุ ยพนิ จิ ของครูผสู้ อน โดยมแี นวตอบ คือ แรง ยึดเหนีย่ วระหว่างโมเลกลุ ) ขน้ั ท่ี 2 ข้นั สำรวจและคน้ หา (Exploration) 25 นาที 2.1 ครทู บทวนความรเู้ กีย่ วกบั แรงยดึ เหน่ยี วระหว่างอนุภาคของสารในสถานะต่าง ๆ เพือ่ ใหไ้ ด้แนวคิดว่า จดุ เดือดและจดุ หลอมเหลวเป็นปจั จัยประการหนง่ึ ท่ีแสดงถึงแรงยึดเหน่ียวระหว่างโมเลกุลของสาร 2.2 ครูยกตัวอย่างจุดเดือดและจุดหลอมเหลวของแก๊สเฉื่อยและสารโคเวเลนต์บางชนิด จาก นั้นนำ นักเรยี นอภปิ รายเก่ียวกับแรงยึดเหน่ียวระหว่างโมเลกุล เพอ่ื ใหไ้ ดข้ อ้ สรปุ ดงั นี้ • จดุ เดือดและจุดหลอมเหลวของสารมีความสมั พันธ์โดยตรงกับแรงยดึ เหนี่ยวระหว่างโมเลกลุ • แรงยึดเหนยี่ วระหว่างโมเลกุลมีขั้วจะมคี ่าสงู กว่าแรงยดึ เหน่ยี วระหวา่ งโมเลกุลไม่มขี ั้ว • แรงยึดเหนีย่ วระหว่างโมเลกุลของแก๊สเฉ่อื ยและสารโคเวเลนตไ์ ม่มขี ัว้ จะมีคา่ ต่ำ 2.3 ครูใหน้ ักเรยี นศึกษาเร่อื ง แรงยดึ เหน่ยี วระหวา่ งโมเลกุลโคเวเลนต์ จากหนังสอื เรยี นเคมี ม.4 เลม่ 1 ขนั้ ท่ี 3 อธบิ ายและลงขอ้ สรุป (Explanation) 15 นาที 3.1 ครตู ง้ั คำถามใหน้ กั เรียนร่วมกนั อภปิ รายเร่อื ง แรงยึดเหนีย่ วระหว่างโมเลกุลโคเวเลนต์ เช่น 1) สารโคเวเลนต์ที่กำหนดให้ต่อไปนี้ F2 HCl H2O H2S CO2 และ CH3COOH มีแรงยึดเหนี่ยว ระหวา่ งโมเลกุลเปน็ แรงชนดิ ใด (แนวตอบ : F2 และ CO2 มีแรงยดึ เหน่ียวระหวา่ งโมเลกุลเปน็ แรงลอนดอน HCl และ H2S มแี รงยดึ เหนี่ยวระหว่างโมเลกุลเปน็ แรงดึงดดู ระหว่างขั้ว H2O และ CH3COOH มีแรงยึดเหน่ยี วระหวา่ งโมเลกลุ เป็นพันธะไฮโดรเจน) 2) จงเรยี งลำดับจุดเดือดของสารตอ่ ไปน้ี NH3 CH4 PH3 จากสูงไปตำ่ (แนวตอบ : จดุ เดือดของ NH3 > PH3 > CH4) ขน้ั ท่ี 4 ข้นั ขยายความรู้ (Elaboration) 10 นาที 4.1 ครใู หน้ กั เรียนแบ่งกลุม่ เลอื กหวั ข้อท่จี ะไดศ้ กึ ษา ดังนี้ • แรงลอนดอน

294 • แรงดงึ ดูดระหวา่ งขัว้ • พันธะไฮโดรเจน แลว้ ให้แตล่ ะกลุ่มสรปุ ความรใู้ นเรื่องท่ีเลอื กลงในกระดาษ A4 ในรูปแบบทน่ี ่าสนใจ 4.2 ครูให้นกั เรียนทำใบงานที่ 3.9 เรอ่ื ง แรงยดึ เหนยี่ วระหวา่ งโมเลกุลโคเวเลนต์ ข้ันที่ 5 ขนั้ ประเมนิ (Evaluation) 5 นาที 5.1 ครูประเมนิ ผลโดยการสงั เกตการตอบคำถาม และการร่วมกนั ทำผลงาน 5.2 ครูตรวจสอบผลจากการทำใบงานท่ี 3.9 เร่อื ง แรงยดึ เหนี่ยวระหว่างโมเลกลุ โคเวเลนต์ ส่อื วสั ดุ อปุ กรณ์ และแหลง่ การเรยี นรู้ สื่อ/วสั ดุ/อุปกรณ์ แหลง่ การเรียนรู้ 1. PowerPoint เรอ่ื ง แรงยึดเหนี่ยวระหว่างโมเลกุล 1. หนงั สือเรียนรายวชิ าเพิ่มเติมวทิ ยาศาสตร์ เคมี เล่ม โคเวเลนต์ 1 ชน้ั มัธยมศกึ ษาปีท่ี 4 2. ใบงานที่ 3.9 เรือ่ ง แรงยึดเหนย่ี วระหวา่ งโมเลกุล 2. ใบกิจกรรมการเรยี นรู้ โคเวเลนต์ 3. อินเตอร์เน็ต การประเมินการเรยี นรู้ การวัดผลประเมนิ วิธกี ารวดั ผล เครือ่ งมือทใี่ ช้วัดผล เกณฑก์ าร ดา้ น ประเมนิ ผล 1.ด้านความรู้ (K) - การตอบคำถามในชัน้ เรยี น - การตอบคำถามในชนั้ เรียน -รอ้ ยละ 60 ผ่าน - ตรวจใบงานท่ี 3.9 เรื่อง แรง - ใบงานที่ 3.9 เรื่อง แรงยึด เกณฑ์ ยึดเหนี่ยวระหว่างโมเลกุลโคเว เหน่ยี วระหว่างโมเลกุลโคเวเลนต์ เลนต์ 2. ดา้ นทักษะ/ - การตอบคำถามในช้นั เรยี น - การตอบคำถามในชนั้ เรยี น -ร้อยละ 60 ผ่าน กระบวนการ (P) - ตรวจใบงานท่ี 3.9 เรือ่ ง แรง - ใบงานที่ 3.9 เรื่อง แรงยึด เกณฑ์ ยดึ เหน่ียวระหวา่ งโมเลกุลโคเว เหนย่ี วระหว่างโมเลกุลโคเวเลนต์ เลนต์ 3. ด้านคุณลักษณะอัน -การสงั เกตพฤติกรรม -แบบสังเกตพฤตกิ รรมรายบุคคล -ระดบั คุณภาพ 3 ผา่ นเกณฑ์ พึงประสงค์ (A) รายบุคคล

295 ใบงานท่ี 3.9 เรื่อง แรงยดึ เหน่ียวระหว่างโมเลกุลโคเวเลนต์ คำชแ้ี จง : จงระบุแรงยดึ เหน่ยี วระหว่างโมเลกลุ ของสารโคเวเลนต์ต่อไปนี้ สารโคเวเลนต์ แรงยึดเหนี่ยวระหวา่ งโมเลกลุ C2H4 แรงลอนดอน แรงดงึ ดดู ระหว่างขั้ว พันธะไฮโดรเจน HF HCN …………………………………… …………………………………… …………………………………… CH2Cl2 SiH4 …………………………………… …………………………………… …………………………………… H2SO4 O2 …………………………………… …………………………………… …………………………………… PCl5 OF2 …………………………………… …………………………………… …………………………………… CH2O NH3 …………………………………… …………………………………… …………………………………… NCl3 CHCl3 …………………………………… …………………………………… …………………………………… BF3 N2 …………………………………… …………………………………… …………………………………… …………………………………… …………………………………… …………………………………… …………………………………… …………………………………… …………………………………… …………………………………… …………………………………… …………………………………… …………………………………… …………………………………… …………………………………… …………………………………… …………………………………… …………………………………… …………………………………… …………………………………… …………………………………… …………………………………… …………………………………… …………………………………… …………………………………… …………………………………… ……………………………………

ใบงานท่ี 3.9 296 เรอ่ื ง แรงยดึ เหนี่ยวระหวา่ งโมเลกุลโคเวเลนต์ เฉลย คำชีแ้ จง : จงระบแุ รงยดึ เหนย่ี วระหวา่ งโมเลกลุ ของสารโคเวเลนตต์ อ่ ไปน้ี สารโคเวเลนต์ แรงลอนดอน แรงยดึ เหน่ียวระหวา่ งโมเลกลุ ✓ แรงดึงดดู ระหว่างขั้ว พันธะไฮโดรเจน C2H4 HF ✓ ✓ HCN ✓ ✓ CH2Cl2 ✓ ✓ SiH4 H2SO4 ✓ ✓ O2 ✓ PCl5 ✓ OF2 ✓ CH2O NH3 ✓ NCl3 ✓ CHCl3 ✓ BF3 N2

แบบสังเกตพฤติกร คำชแี้ จง : ใหผ้ ู้สอนสังเกตพฤตกิ รรมของนักเรยี นในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรยี น แล้ว ลำดบั ท่ี ช่อื –สกลุ การแสดง การยอมรับฟงั คน ของนักเรยี น ความคิดเหน็ 1 2 เดก็ ชายณัฐพร ทับเจริญ 32132 3 เด็กชายธนากร รุ่งฟ้า 4 เด็กชายบญุ ฤทธิ์ เสนมา ✓✓ 5 เด็กหญิงตวงรัตน์ กิจขยัน 6 เด็กหญิงมณมี ัญชุ์ ดว้ งแสง ✓✓ 7 นายกษิดิเ์ ดช ชูภักด์ิ ✓✓ 8 นายชยั วัฒน์ คำแหง 9 นายทรงพล แคนศิลา ✓✓ 10 เดก็ ชายธีรภทั ร เอีย่ มบุญ ✓✓ 11 นายธันวา เนาวศ์ รี 12 นายสุทศั น์ เลไทสงค์ ✓✓ 13 เด็กชายอภชิ าติ ชนะมลู ✓✓ 14 นางสาวนันทิกานต์ ถาวร 15 นางสาวนรมน พลเยยี่ ม ✓✓ 16 นางสาวพชั รินทร์ สวุ รรณพรม ✓✓ 17 นางสาววราพร พิมไพ 18 นางสาววิราภา รวมรัตน์ ✓✓ นางสาววิสา ชนะมลู ✓✓ ✓✓ ✓✓ ✓✓ ✓✓ ✓✓ ✓✓ ✓✓

297 รรมการทำงานกลุม่ วขดี ✓ลงในชอ่ งที่ตรงกับระดบั คะแนน การทำงาน ความมีนำ้ ใจ การมี รวม นอนื่ ตามที่ได้รับ สว่ นร่วมในการ 15 คะแนน มอบหมาย ปรบั ปรงุ ผลงานกลุ่ม 10 1321321 11 321 10 ✓✓ 14 ✓ 15 ✓✓ ✓ 8 ✓✓ 8 ✓ 8 ✓✓ ✓ 9 ✓✓ ✓ 9 ✓ 7 ✓✓ ✓ 9 ✓ ✓✓ ✓ 15 ✓ 10 ✓ ✓✓ ✓ 12 ✓ ✓✓ ✓ 12 ✓ 9 ✓ ✓✓ ✓ 9 ✓ ✓✓ ✓ ✓✓✓ ✓ ✓ ✓✓ ✓✓ ✓ ✓ ✓✓ ✓✓ ✓✓ ✓✓

19 นางสาวอภิญญา ปัทมอมั รนิ ทร์ ✓ ✓ เกณฑก์ ารให้คะแนน ให้ 3 คะแนน ปฏบิ ตั หิ รือแสดงพฤติกรรมอย่างสม่ำเสมอ ให้ 2 คะแนน ปฏบิ ัตหิ รือแสดงพฤตกิ รรมบอ่ ยครงั้ ให้ 1 คะแนน ปฏิบัตหิ รือแสดงพฤติกรรมบางคร้ัง เกณฑก์ ารตดั สิน ช่วงคะแนน 14–15 11–13 8–10 ต่ำกว่า 8

✓✓✓ 298 ลงชื่อ ................................................... ผู้ประเมนิ 15 ............./.................../............... นคุณภาพ ระดับคุณภาพ ดีมาก ดี พอใช้ ปรบั ปรุง

299 แบบประเมนิ คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ คำช้ีแจง : ให้ผู้สอนสงั เกตพฤติกรรมของนกั เรียนในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรยี น แล้วขีด ✓ลงในช่องท่ีตรงกับ ระดับคะแนน ปฏบิ ัตติ าม ขอ้ ตกลง กฎเกณฑ์ ลำดบั ชอ่ื –สกุล ระเบียบ ร้จู กั ใช้เวลาว่าง รู้จักจัดสรร ตัง้ ใจเรยี น มีความตั้งใจ รวม ที่ ของนกั เรยี น ขอ้ บังคับในชั้น ใหเ้ ป็น และพยายามใน 15 เวลาให้ เรียน มคี วาม ประโยชน์ และ เหมาะสม การทำงานท่ี คะแนน ตรงตอ่ เวลาใน นำไปปฏิบัติได้ ได้รบั การปฏิบัติ มอบหมาย กิจกรรมต่าง ๆ และรับผิดชอบ ในการทำงาน 321321321321321 1 เด็กชายณัฐพร ทับ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓8 เจรญิ 2 เดก็ ชายธนากร รงุ่ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ 10 ฟ้า 3 เดก็ ชายบญุ ฤทธิ์ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ 10 เสนมา 4 เด็กหญิงตวงรัตน์ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ 15 กจิ ขยัน 5 เด็กหญิงมณีมญั ชุ์ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ 15 ดว้ งแสง 6 นายกษิดเิ์ ดช ชูภกั ดิ์ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ 10 7 นายชัยวฒั น์ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ 10 คำแหง 8 นายทรงพล แคน ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ 10 ศิลา 9 เดก็ ชายธรี ภทั ร ✓ ✓ ✓ ✓ ✓9 เอ่ยี มบญุ 10 นายธันวา เนาวศ์ รี ✓ ✓✓ ✓ ✓ 8 11 นายสุทัศน์ เลไท ✓ ✓ ✓ ✓✓ 8 สงค์ 12 เดก็ ชายอภชิ าติ ✓ ✓ ✓ ✓✓ 8 ชนะมูล

300 13 นางสาวนันทกิ านต์ ✓ ✓ ✓✓ ✓ 15 ถาวร ✓ ✓✓ ✓ 10 15 14 นางสาวนรมน ✓ ✓ ✓✓ ✓ 15 พลเย่ียม ✓ ✓✓ ✓ 10 10 15 นางสาวพัชรนิ ทร์ ✓ ✓ ✓✓ ✓ 15 สุวรรณพรม ✓ ✓✓ ✓ ✓ ✓✓ ✓ 16 นางสาววราพร ✓ พิมไพ 17 นางสาววริ าภา ✓ รวมรตั น์ 18 นางสาววิสา ชนะ ✓ มลู 19 นางสาวอภญิ ญา ✓ ปัทมอมั รินทร์ ลงชอื่ .................................................. ผูป้ ระเมนิ ............/.................../............ เกณฑ์การใหค้ ะแนน ให้ 3 คะแนน เกณฑก์ ารตัดสนิ คณุ ภาพ พฤติกรรมทปี่ ฏิบัติชดั เจนและสมำ่ เสมอ ให้ 2 คะแนน พฤตกิ รรมท่ีปฏิบัติชัดเจนและบอ่ ยครง้ั ให้ 1 คะแนน ชว่ งคะแนน ระดับคุณภาพ พฤติกรรมทีป่ ฏิบัตบิ างคร้ัง 14-15 ดีมาก 11-13 ดี 8-10 พอใช้ ตำ่ กว่า 8 ปรบั ปรุง

301 บันทึกหลังการจดั การเรียนรู้ 1. ผลการจดั การเรยี นการสอน • ดา้ นความรู้ - นกั เรียนมีความรู้ความเข้าใจในเนื้อหา - นักเรยี นอธิบายความสัมพนั ธ์ระหวา่ งแรงยึดเหน่ียวระหวา่ งโมเลกุลกับจดุ เดอื ดและจุดหลอมเหลวของสารได้ -นกั เรียนสามารถทำนายจดุ เดือดและจดุ หลอมเหลวของสารโคเวเลนตไ์ ด้ • ด้านสมรรถนะสำคัญของผ้เู รียน - นกั เรียนมีทกั ษะและกระบวนการทางวิทยาศาสตรต์ ามเกณฑท์ ี่ครูกำหนด • ดา้ นคุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ - นกั เรียนทกุ คนมีความใฝ่เรยี นรู้ - นักเรียนสามารถแก้ปัญหาอาจจะช้าหรือเร็วตา่ งกัน แต่สามารถแก้ปญั หาได้ - มีวนิ ัยในการเรียน • ด้านอนื่ ๆ (พฤติกรรมเด่น หรือพฤติกรรมท่ีมีปัญหาของนักเรียนเป็นรายบคุ คล (ถา้ มี)) - 2. ปญั หา / อุปสรรค - 3. ขน้ั เสนอแนะ / แนวทางแก้ไข - ลงชอ่ื ..................................................................ผ้เู ขยี นแผนการจดั การเรยี นรู้ (นางสาวณัฐธิดา ชากรแกว้ ) ......................./................/.................... ลงช่ือ..................................................................ผ้ตู รวจ (นางสาววารณุ ี อิทธพิ ัทธอ์ เนก) ......................./................/....................

302 แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 28 กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ระดบั ช้นั มธั ยมศึกษาปที ่ี 4 หนว่ ยการเรยี นร้ทู ี่ 3 เร่ือง พนั ธะเคมี เร่ือง สารโคเวเลนต์โครงผลึกร่างตาข่าย วิชา เคมี 1 รหสั ว31223 เวลาเรยี น 1 ชัว่ โมง จำนวน 1.0 หน่วยกติ ครูผู้สอน นางสาวณฐั ธิดา ชากรแก้ว สาระการเรียนรู้ เขา้ ใจโครงสรา้ งอะตอม การจัดเรยี งธาตุในตารางธาตุ สมบตั ิของธาตุ พันธะเคมแี ละสมบัตขิ องสาร แก๊ส และสมบัติของแกส๊ ประเภทและสมบัติของสารประกอบอนิ ทรียแ์ ละพอลิเมอร์ รวมทั้งการนาํ ความรไู้ ปใช้ ประโยชน์ ผลการเรยี นรู้ สบื ค้นขอ้ มลู และอธิบายสมบัตขิ องสารโคเวเลนตโ์ ครงรา่ งตาขา่ ยชนิดต่าง ๆ จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ ดา้ นความรู้ (Knowledge) 1. อธิบายเหตุผลท่ีทำใหส้ ารโคเวเลนตท์ ่ีมีโครงสร้างแบบโครงผลึกร่างตาข่ายมจี ดุ หลอมเหลวและจุดเดือด สงู กว่าสารโคเวเลนต์ชนิดอ่นื ดา้ นทักษะ (Process) 2. เขยี นโครงสรา้ งของสารโครงผลึกร่างตาขา่ ยต่าง ๆ ได้ ดา้ นคุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ (Affective) 3. มีความมุ่งม่ันตงั้ ใจในการเรียนรู้ และแสวงหาความรู้ สาระสำคญั หรอื ความคดิ รวบยอด สารโคเวเลนตบ์ างชนดิ ทม่ี ีโครงสรา้ งโมเลกลุ ขนาดใหญ่ และมพี นั ธะโคเวเลนต์ตอ่ เน่อื งเปน็ โครงรา่ งตาข่าย จะมี จดุ หลอมเหลวและจุดเดือดสูง สมรรถนะสำคัญของผ้เู รียน ความสามารถในการสื่อสาร ความสามารถในการคิด ความสามารถในการแก้ปัญหา ความสามารถในการใช้ทักษะชวี ติ ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี คุณลักษณะอนั พึงประสงค์ รกั ชาติ ศาสน์ กษตั ริย์ ซอื่ สัตย์ มวี นิ ยั ใฝเ่ รียนรู้

303 อย่อู ย่างพอเพยี ง ม่งุ มนั่ ในการทำงาน รักความเปน็ ไทย มีจติ สาธารณะ กิจกรรมการเรยี นรู้ ผา่ นวิธกี ารสอนแบบออนไลน์ โดยผ่านแอพพลเิ คชนั่ Google meet วิธสี อนโดยใช้กระบวนการสบื เสาะหาความรู้ (Inquiry Cycle หรือ Inquiry Method : 5E) ขน้ั ที่ 1 ข้ันกระตุน้ ความสนใจ (Engagement) 5 นาที 1.1 ครถู ามคำถามกระตุ้นความสนใจของนักเรียน ดงั นี้ 1) จากทีไ่ ดศ้ กึ ษาไปแลว้ สารโคเวเลนต์สว่ นใหญ่จะมจี ุดเดือดและจดุ หลอมเหลวเปน็ อย่างไร (แนวตอบ : สารโคเวเลนตส์ ่วนใหญจ่ ะมจี ุดเดือดและจดุ หลอมเหลวตำ่ ) 2) นักเรียนคดิ ว่า จะมีสารโคเวเลนตช์ นิดใดหรือไม่ทม่ี จี ดุ เดือดและจุดหลอมเหลวสูง ถา้ มเี พราะเหตุใด สารโคเวเลนตช์ นิดนั้นจงึ มีจดุ เดอื ดและจดุ หลอมเหลวสูง (แนวตอบ : พจิ ารณาคำตอบของนักเรียน โดยอยใู่ นดลุ ยพินจิ ของครูผู้สอน โดยมแี นวตอบ คือ มี เนอ่ื งจากสารโคเวเลนตน์ ้นั มีการสร้างพนั ธะเชอ่ื มต่อกันเปน็ โครงสรา้ งขนาดใหญ่ จงึ ทำ ให้มีจดุ เดอื ดและจดุ หลอมเหลวสูง) ขั้นท่ี 2 ข้ันสำรวจและค้นหา (Exploration) 25 นาที 2.1 ครูหารูปหรือแบบจำลองอะตอมของโครงสร้างของเพชร แกรไฟต์ หรือซิลิคอนไดออกไซด์ มาให้ นกั เรียนศึกษา 2.2 ใหน้ กั เรียนศกึ ษาเร่ือง สารโคเวเลนต์โครงผลกึ ร่างตาข่าย จากหนังสือเรยี นเคมี ม.4 เล่ม 1 หรือจาก PPT 2.3 ครูให้นักเรียนร่วมกันสรุปความรูท้ ี่ไดศ้ ึกษา ซึ่งนักเรียนควรสรุปได้ว่า เพชร แกรไฟต์ และซิลิคอน ไดออกไซดเ์ ป็นโมเลกุลโคเวเลนต์ท่มี ีการจัดอะตอมภายในเปน็ ผลึกร่างตาข่าย ทำให้สารกลุ่มนี้มีจุดเดือดและจุด หลอมเหลวสูงกว่าสารโคเวเลนตโ์ ดยทวั่ ไป ข้นั ท่ี 3 อธบิ ายและลงข้อสรุป (Explanation) 15 นาที 3.1 ครตู ง้ั คำถามให้นกั เรียนร่วมกนั อภิปรายเรื่อง สารโคเวเลนตโ์ ครงผลกึ ร่างตาขา่ ย เชน่ 1) เพราะเหตใุ ดเพชรจงึ ไมน่ ำไฟฟา้ แตแ่ กรไฟต์สามารถนำไฟฟา้ ได้ (แนวตอบ : ในโครงสร้างของเพชร คารบ์ อนแตล่ ะอะตอมใช้เวเลนซ์อิเล็กตรอนทง้ั หมดสร้างพันธะ โคเวเลนซ์กับอะตอมอีก 4 อะตอมที่อยู่ล้อมรอบ จึงไม่มีอิเล็กตรอนอิสระเหลืออยู่ เพชรจงึ ไม่นําไฟฟ้า) 2) เพราะเหตใุ ดจึงนยิ มนำแกรไฟต์มาทำไสด้ นิ สอ (แนวตอบ : เน่อื งจากระหวา่ งชัน้ ของแกรไฟต์ยดึ กนั ดว้ ยแรงลอนดอน ซึ่งเปน็ แรงอย่างอ่อน จงึ ทำ ใหโ้ มเลกุลของแกรไฟตล์ นื่ ไถลได้ จงึ นิยมนำมาทำสารหลอ่ ลื่นและไสด้ นิ สอดำ) ขั้นที่ 4 ขน้ั ขยายความรู้ (Elaboration) 10 นาที

304 4.1 ครูใหน้ ักเรียนแบ่งกลุ่ม กลุม่ ละ 3 คน แล้วสบื คน้ ขอ้ มูลเพ่ิมเติมเก่ียวกบั สารโคเวเลนต์โครงผลึกร่าง ตาขา่ ย 4.2 ครใู ห้นักเรยี นทำแบบฝึกหัด ในแบบฝกึ หดั เคมี ม.4 เล่ม 1 4.3 ครใู ห้นกั เรยี นทำผังมโนทัศน์สรุปความรู้เร่ือง พันธะโคเวเลนต์ ขนั้ ที่ 5 ขัน้ ประเมิน (Evaluation) 5 นาที 5.1 ครูให้นกั เรียนแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ 3 คน แล้วสืบคน้ ข้อมูลเพ่ิมเติมเกย่ี วกับสารโคเวเลนต์โครงผลึกร่าง ตาข่าย จากนั้นรวบรวมขอ้ มูลมาทำใบความรู้ในรูปแบบท่นี ่าสนใจ และเข้าใจงา่ ย นำไปแปะท่บี อร์ดหน้าห้องเรียน เพื่อให้นักเรียนกลุ่มอ่ืนไดศ้ ึกษา 5.2 ครใู ห้นักเรียนทำแบบฝกึ หัด ในแบบฝึกหัดเคมี ม.4 เล่ม 1 5.3 ครใู หน้ ักเรียนทำผงั มโนทศั นส์ รปุ ความรเู้ ร่ือง พนั ธะโคเวเลนต์ สอ่ื วัสดุ อุปกรณ์ และแหลง่ การเรยี นรู้ ส่อื /วสั ดุ/อุปกรณ์ แหลง่ การเรยี นรู้ 1. PowerPoint เร่ือง สารโคเวเลนตโ์ ครงผลึกรา่ งตา 1. หนังสือเรยี นรายวชิ าเพมิ่ เตมิ วทิ ยาศาสตร์ เคมี เลม่ ข่าย 1 ชั้นมัธยมศึกษาปที ี่ 4 2. แบบฝึกหดั เคมี ม.4 เล่ม 1 หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 3 2. ใบกจิ กรรมการเรียนรู้ พันธะเคมี 3. อนิ เตอรเ์ นต็ การประเมินการเรียนรู้ การวัดผลประเมนิ วิธกี ารวัดผล เครื่องมอื ทีใ่ ชว้ ดั ผล เกณฑก์ าร ด้าน ประเมินผล 1.ด้านความรู้ (K) - การตอบคำถามในชนั้ เรียน - การตอบคำถามในช้ันเรียน -ร้อยละ 60 ผ่าน - ตรวจแบบฝึกหัด - แบบฝกึ หดั เกณฑ์ 2. ด้านทักษะ/ - การตอบคำถามในชนั้ เรียน - การตอบคำถามในช้นั เรียน -ร้อยละ 60 ผ่าน กระบวนการ (P) เกณฑ์ - ตรวจแบบฝึกหดั - แบบฝกึ หัด 3. ดา้ นคณุ ลักษณะอัน -การสังเกตพฤตกิ รรม -แบบสงั เกตพฤติกรรมรายบคุ คล -ระดับคณุ ภาพ 3 ผ่านเกณฑ์ พึงประสงค์ (A) รายบคุ คล

แบบสังเกตพฤติกร คำชแี้ จง : ใหผ้ ู้สอนสังเกตพฤตกิ รรมของนักเรยี นในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรยี น แล้ว ลำดบั ท่ี ช่อื –สกลุ การแสดง การยอมรับฟงั คน ของนักเรยี น ความคิดเหน็ 1 2 เดก็ ชายณัฐพร ทับเจริญ 32132 3 เด็กชายธนากร รุ่งฟ้า 4 เด็กชายบญุ ฤทธิ์ เสนมา ✓✓ 5 เด็กหญิงตวงรัตน์ กิจขยัน 6 เด็กหญิงมณมี ัญชุ์ ดว้ งแสง ✓✓ 7 นายกษิดิเ์ ดช ชูภักด์ิ ✓✓ 8 นายชยั วัฒน์ คำแหง 9 นายทรงพล แคนศิลา ✓✓ 10 เดก็ ชายธีรภทั ร เอีย่ มบุญ ✓✓ 11 นายธันวา เนาวศ์ รี 12 นายสุทศั น์ เลไทสงค์ ✓✓ 13 เด็กชายอภชิ าติ ชนะมลู ✓✓ 14 นางสาวนันทิกานต์ ถาวร 15 นางสาวนรมน พลเยยี่ ม ✓✓ 16 นางสาวพชั รินทร์ สวุ รรณพรม ✓✓ 17 นางสาววราพร พิมไพ 18 นางสาววิราภา รวมรัตน์ ✓✓ นางสาววิสา ชนะมลู ✓✓ ✓✓ ✓✓ ✓✓ ✓✓ ✓✓ ✓✓ ✓✓

305 รรมการทำงานกลุม่ วขดี ✓ลงในชอ่ งที่ตรงกับระดบั คะแนน การทำงาน ความมีนำ้ ใจ การมี รวม นอนื่ ตามที่ได้รับ สว่ นร่วมในการ 15 คะแนน มอบหมาย ปรบั ปรงุ ผลงานกลุ่ม 10 1321321 11 321 10 ✓✓ 14 ✓ 15 ✓✓ ✓ 8 ✓✓ 8 ✓ 8 ✓✓ ✓ 9 ✓✓ ✓ 9 ✓ 7 ✓✓ ✓ 9 ✓ ✓✓ ✓ 15 ✓ 10 ✓ ✓✓ ✓ 12 ✓ ✓✓ ✓ 12 ✓ 9 ✓ ✓✓ ✓ 9 ✓ ✓✓ ✓ ✓✓✓ ✓ ✓ ✓✓ ✓✓ ✓ ✓ ✓✓ ✓✓ ✓✓ ✓✓

19 นางสาวอภิญญา ปัทมอมั รนิ ทร์ ✓ ✓ เกณฑก์ ารให้คะแนน ให้ 3 คะแนน ปฏบิ ตั หิ รือแสดงพฤติกรรมอย่างสม่ำเสมอ ให้ 2 คะแนน ปฏบิ ัตหิ รือแสดงพฤตกิ รรมบอ่ ยครงั้ ให้ 1 คะแนน ปฏิบัตหิ รือแสดงพฤติกรรมบางคร้ัง เกณฑก์ ารตดั สิน ช่วงคะแนน 14–15 11–13 8–10 ต่ำกว่า 8

✓✓✓ 306 ลงชื่อ ................................................... ผู้ประเมนิ 15 ............./.................../............... นคุณภาพ ระดับคุณภาพ ดีมาก ดี พอใช้ ปรบั ปรุง

307 แบบประเมนิ คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ คำช้ีแจง : ให้ผู้สอนสงั เกตพฤติกรรมของนกั เรียนในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรยี น แล้วขีด ✓ลงในช่องท่ีตรงกับ ระดับคะแนน ปฏบิ ัตติ าม ขอ้ ตกลง กฎเกณฑ์ ลำดบั ชอ่ื –สกุล ระเบียบ ร้จู กั ใช้เวลาว่าง รู้จักจัดสรร ตัง้ ใจเรยี น มีความตั้งใจ รวม ที่ ของนกั เรยี น ขอ้ บังคับในชั้น ใหเ้ ป็น และพยายามใน 15 เวลาให้ เรียน มคี วาม ประโยชน์ และ เหมาะสม การทำงานท่ี คะแนน ตรงตอ่ เวลาใน นำไปปฏิบัติได้ ได้รบั การปฏิบัติ มอบหมาย กิจกรรมต่าง ๆ และรับผิดชอบ ในการทำงาน 321321321321321 1 เด็กชายณัฐพร ทับ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓8 เจรญิ 2 เดก็ ชายธนากร รงุ่ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ 10 ฟ้า 3 เดก็ ชายบญุ ฤทธิ์ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ 10 เสนมา 4 เด็กหญิงตวงรัตน์ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ 15 กจิ ขยัน 5 เด็กหญิงมณีมญั ชุ์ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ 15 ดว้ งแสง 6 นายกษิดเิ์ ดช ชูภกั ดิ์ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ 10 7 นายชัยวฒั น์ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ 10 คำแหง 8 นายทรงพล แคน ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ 10 ศิลา 9 เดก็ ชายธรี ภทั ร ✓ ✓ ✓ ✓ ✓9 เอ่ยี มบญุ 10 นายธันวา เนาวศ์ รี ✓ ✓✓ ✓ ✓ 8 11 นายสุทัศน์ เลไท ✓ ✓ ✓ ✓✓ 8 สงค์ 12 เดก็ ชายอภชิ าติ ✓ ✓ ✓ ✓✓ 8 ชนะมูล

308 13 นางสาวนันทกิ านต์ ✓ ✓ ✓✓ ✓ 15 ถาวร ✓ ✓✓ ✓ 10 15 14 นางสาวนรมน ✓ ✓ ✓✓ ✓ 15 พลเย่ียม ✓ ✓✓ ✓ 10 10 15 นางสาวพัชรนิ ทร์ ✓ ✓ ✓✓ ✓ 15 สุวรรณพรม ✓ ✓✓ ✓ ✓ ✓✓ ✓ 16 นางสาววราพร ✓ พิมไพ 17 นางสาววริ าภา ✓ รวมรตั น์ 18 นางสาววิสา ชนะ ✓ มลู 19 นางสาวอภญิ ญา ✓ ปัทมอมั รินทร์ ลงชอื่ .................................................. ผูป้ ระเมนิ ............/.................../............ เกณฑ์การใหค้ ะแนน ให้ 3 คะแนน เกณฑก์ ารตัดสนิ คณุ ภาพ พฤติกรรมทปี่ ฏิบัติชดั เจนและสมำ่ เสมอ ให้ 2 คะแนน พฤตกิ รรมท่ีปฏิบัติชัดเจนและบอ่ ยครง้ั ให้ 1 คะแนน ชว่ งคะแนน ระดับคุณภาพ พฤติกรรมทีป่ ฏิบัตบิ างคร้ัง 14-15 ดีมาก 11-13 ดี 8-10 พอใช้ ตำ่ กว่า 8 ปรบั ปรุง

309 บนั ทึกหลงั การจดั การเรยี นรู้ 1. ผลการจดั การเรียนการสอน • ดา้ นความรู้ - นักเรยี นมีความรู้ความเขา้ ใจในเน้ือหา - นักเรยี นอธบิ ายเหตผุ ลที่ทำให้สารโคเวเลนต์ที่มโี ครงสร้างแบบโครงผลึกร่างตาขา่ ยมีจุดหลอมเหลวและจุดเดือด สูงกวา่ สารโคเวเลนตช์ นดิ อ่นื -นักเรียนสามารถเขยี นโครงสรา้ งของสารโครงผลกึ ร่างตาข่ายต่าง ๆ ได้ • ด้านสมรรถนะสำคญั ของผู้เรยี น - นักเรยี นมีทักษะและกระบวนการทางวิทยาศาสตรต์ ามเกณฑท์ ค่ี รกู ำหนด • ดา้ นคุณลักษณะอันพึงประสงค์ - นกั เรียนทุกคนมีความใฝเ่ รยี นรู้ - นักเรยี นสามารถแก้ปัญหาอาจจะชา้ หรือเรว็ ต่างกนั แตส่ ามารถแก้ปัญหาได้ - มวี ินัยในการเรยี น • ดา้ นอื่น ๆ (พฤตกิ รรมเด่น หรือพฤติกรรมที่มีปัญหาของนักเรยี นเป็นรายบคุ คล (ถา้ ม)ี ) - 2. ปญั หา / อปุ สรรค - 3. ข้ันเสนอแนะ / แนวทางแกไ้ ข - ลงชื่อ..................................................................ผเู้ ขียนแผนการจัดการเรียนรู้ (นางสาวณัฐธดิ า ชากรแกว้ ) ......................./................/.................... ลงชือ่ ..................................................................ผตู้ รวจ (นางสาววารุณี อิทธิพัทธ์อเนก) ......................./................/....................

310 แผนการจัดการเรียนรู้ รายวิชาเคมี ช้ันมัธยมศกึ ษาปีท่ี 5 ภาคเรียนที่ 1

311 คำอธบิ ายรายวชิ า วิชาเคมี3 รหัสวชิ า ว32225 กลมุ่ สาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์และ เทคโนโลยี ช้ันมธั ยมศกึ ษาปที ่ี5 ภาคเรียนที่ 1 จำนวน 40 ชวั่ โมง จำนวน 1 หน่วยกิต ศกึ ษาเกย่ี วกับแกส๊ และสมบัติของแก๊ส ความสมั พนั ธ์ระหว่างปริมาตร ความดัน อุณหภมู ิ และจำนวนโมล กฎแก๊สอุดมคติ และความดนั ย่อย ทฤษฎจี ลน์ และการแพร่ของแกส๊ การประยุกตใ์ ช้ความรเู้ กย่ี วกบั แกส๊ และสมบัติ ของแก๊ส ความหมายและการคำนวณอตั ราการเกิดปฏิกิริยาเคมี แนวคดิ เก่ยี วกบั อตราการเกิดปฏิกิรยิ าเคมี ปจั จัย ที่มีผลต่ออัตราการเกิดปฏิกิริยาเคมี สมดุลเคมี สภาวะสมดลุ ค่าคงที่สมดุล ปัจจัยท่ีมีผลต่อสมดุล สมดุลเคมใี น ส่ิงมีชวี ิต และอุตสาหรกรรม โดยใช้กระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ สืบเสาะหาความรู้ สำรวจ ตรวจสอบ สืบค้น ขอ้ มลู และอภปิ รายเพ่ือให้เกดิ ความรู้ ความคดิ ความเข้าใจ สามารถสื่อสารสง่ิ ที่เรียนรู้มคี วามสามารถในการ ตดั สินใจนำความรไู้ ปใชใ้ นชีวิตประจำวนั มจี ิตวทิ ยาศาสตร์ จรยิ ธรรม คณุ ธรรม และคา่ นิยมทเี่ หมาะสม โดยใชก้ ระบวนการสร้างความคิดรวบยอด กระบวนการทำงาน กระบวนการคดิ วเิ คราะห์ กระบวนการ สืบคน้ กระบวนการปฏิบตั ิ กระบวนการกลมุ่ และกระบวนการแกป้ ญั หา เพื่อใหม้ ีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกบั แก๊สและสมบัติของแกส๊ อตั ราการเกิดปฏิกริ ิยาเคมี สมดุลเคมี สามารถ นำความรูแ้ ละหลักการไปใช้ประโยชน์ เชื่อมโยง อธิบายปรากฏการณห์ รือแก้ปญั หาในชีวติ ประจำวนั สามารถจัด กระทำและวิเคราะห์ข้อมูล สื่อสารสิ่งที่เรียนรู้ มีความสามารถในการตัดสินใจ แก้ปัญหา มีจิตวิทยาศาสตร์ มี จรยิ ธรรม คณุ ธรรมและค่านยิ มทเี่ หมาะสม ผลการเรียนรู้ 1. อธิบายความสมั พันธ์และคำนวณปริมาตรความดัน หรืออุณหภูมิของแก๊สที่ภาวะตา่ ง ๆ ตามกฎของ บอยล์ กฎของชาร์ล กฎของเกย์–ลสู แซก 2. คำนวณปริมาตร ความดัน หรอื อุณหภมู ขิ องแก๊สทีภ่ าวะตา่ ง ๆ ตามกฎรวมแกส๊ 3. คำนวณปริมาตร ความดนั อุณหภมู ิ จำนวนโมล หรือมวลของแกส๊ จากความสมั พนั ธ์ตามกฎของอาโว กาโดร และกฎแก๊สอดุ มคติ 4. คำนวณความดันย่อยหรือจำนวนโมลของแก๊สในแกส๊ ผสม โดยใช้กฎความดนั ย่อยของดอลตัน 5. อธิบายการแพร่ของแกส๊ โดยใช้ทฤษฎจี ลน์ของแกส๊ คำนวณและเปรียบเทียบอัตราการแพร่ของแกส๊ โดยใช้กฎการแพรผ่ ่านของเกรแฮม 6. สบื ค้นขอ้ มลู นำเสนอตัวอยา่ ง และอธบิ ายการประยุกตใ์ ช้ความรูเ้ กี่ยวกับสมบัตแิ ละกฎต่าง ๆ ของแก๊สในการ อธิบายปรากฏการณ์ หรอื แก้ปญั หาในชวี ติ ประจำวนั และในอุตสาหกรรม 7. ทดลอง และเขยี นกราฟการเพม่ิ ขนึ้ หรอื ลดลงของสารที่ทำการวัดในปฏิกิรยิ า 8. คำนวณอตั ราการเกิดปฏกิ ริ ิยาเคมี และเขยี นกราฟการลดลงหรอื เพิ่มขน้ึ ของสารที่ไม่ไดว้ ดั ในปฏกิ ริ ยิ า

312 9. เขียนแผนภาพ และอธิบายทิศทางการชนกันของอนุภาคและพลังงานทสี่ ง่ ผลตอ่ อตั รา การเกิดปฏกิ ิริยา เคมี 10. ทดลอง และอธบิ ายผลของความเข้มข้น พื้นที่ผิวของสารตั้งต้น อุณหภมู ิ และตวั เร่งปฏิกิริยาท่ีมีต่อ อตั ราการเกิดปฏกิ ิริยาเคมี 11. เปรียบเทียบอัตราการเกิดปฏิกิริยาเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงความเข้มข้น พื้นที่ผิวของสารตั้งต้น อุณหภมู ิ และตัวเร่งปฏกิ ริ ยิ า 12. ยกตวั อย่าง และอธิบายปัจจัยทีม่ ผี ลตอ่ อตั ราการเกิดปฏิกิริยาเคมใี นชีวติ ประจำวนั หรืออุตสาหกรรม 13. ทดสอบ และอธิบายความหมายของปฏกิ ิริยาผนั กลับไดแ้ ละภาวะสมดุล 14. อธิบายการเปลี่ยนแปลงความเข้มข้นของสาร อัตราการเกิดปฏิกิริยาไปข้างหน้า และอัตราการ เกิดปฏิกริ ิยาย้อนกลบั เมือ่ เร่ิมปฏิกิรยิ าจนกระท่ังระบบอยใู่ นภาวะสมดลุ 15. คำนวณค่าคงทสี่ มดลุ ของปฏกิ ิรยิ า 16. คำนวณความเขม้ ข้นของสารท่ภี าวะสมดลุ 17. คำนวณค่าคงที่สมดลุ หรือความเข้มข้นของปฏกิ ิริยาหลายข้นั ตอน 18. ระบุปัจจัยที่มีผลต่อภาวะสมดุลและค่าคงที่สมดุลของระบบ รวมทั้งคาดคะเนการเปลี่ยนแปลงที่ เกิดขึ้นเมอื่ ภาวะสมดุลของระบบถูกรบกวน โดยใช้หลกั ของ เลอชาเตอลิเอ 19.ยกตวั อย่าง และอธบิ ายสมดุลเคมีของกระบวนการท่เี กดิ ขน้ึ ในสง่ิ มีชีวิต ปรากฏการณ์ในธรรมชาติและ กระบวนการในอตุ สาหกรรม รวมทั้งหมด 19 ผลการเรียนรู้

313 โครงสรา้ งรายวชิ า วิชาเคมี3 รหสั วชิ า ว32225 กลุ่มสาระการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตรแ์ ละ เทคโนโลยี จำนวน 40 ช่วั โมง จำนวน 1 ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี5 ภาคเรียนที่ 1 หน่วยกิต ลำดบั ชอื่ หน่วย ผลการเรียนรู้ สาระสำคัญ เวลา นำ้ หนัก การเรยี นรู้ (ชม.) คะแนน 1. แกส๊ และ 1. อธิบายความสัมพันธ์และ - พฤติกรรมของแก๊ส และความสัม พันธ์ระหว่าง 9 (100) สมบัติของ คำนวณปริมาตรความ ปริมาตร ความดัน และอุณหภูมิของแก๊ส อธิบายได้ 30 แกส๊ ดัน หรืออุณหภูมิของ ด้วยกฎของบอยล์ กฎของชาร์ล กฎของเกย์–ลูสแซก แก๊สที่ภาวะต่าง ๆ ตาม และกฎรวมแก๊ส ซึ่งสามารถนำมาใช้ในการคำนวณ กฎของบอยล์ กฎของ ปริมาตร ความดัน หรืออุณหภูมิของแก๊สที่ภาวะต่าง ๆ ชาร์ล กฎของเกย์–ลู ได้ สแซก 2. คำนวณปริมาตร ความ - ความสัมพันธ์ระหว่างปริมาตร และจำนวนโมลหรื อมวลของแก๊ส อธิบายความสัมพันธ์ได้ด้วยกฎของอา ดัน หรืออุณหภูมิของ โวกาโดร สำหรับความสัมพันธ์ระหว่างปริมาตร ความ แก๊สที่ภาวะต่าง ๆ ตาม ดัน อุณหภูมิ และจำนวนโมลของแก๊ส อธิบายได้ด้วย กฎรวมแกส๊ กฎแก๊สอุดมคติ ซ่ึงสามารถนำมาใช้ในการคำนวณและ 3. คำนวณปริมาตร ความ การอธิบายการเปลี่ยนแปลงที่เกี่ยวข้องกับจำนวนโม ดนั อุณหภมู ิ จำนวนโมล ลของแก๊สท่ีภาวะ หรือมวลของแก๊ส จาก ความสัมพันธ์ตามกฎ ต่าง ๆ ได้ ของอาโวกาโดร และกฎ - ในธรรมชาติ แก๊สส่วนใหญ่อยู่รวมกันเป็นแก๊สผสม ในกรณีที่แก๊สในแก๊สผสมไม่ทำปฏิกิริยากันความดัน แกส๊ อดุ มคติ ของแก๊สแต่ละชนิดแปรผันตามเศษส่วนโมลของแก๊ส 4. คำนวณความดนั ยอ่ ยหรือ ท่ีมีอยู่ในแก๊สผสมตามกฎความดันย่อยของดอลตัน จำนวนโมลของแก๊สใน แก๊สผสม โดยใช้กฎ - แก๊สสามารถแพร่ได้ การแพร่ของแก๊สอธิบายได้ด้วย ทฤษฎีจลน์ของแก๊ส ท่ีอุณหภูมิเดียวกัน แก๊สจะแพร่ได้